Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ระเบียบวัดผล โรงเรียนวัดพรหมเทพาวาส

ระเบียบวัดผล โรงเรียนวัดพรหมเทพาวาส

Published by Rawat Yukerd, 2021-06-23 16:27:01

Description: ระเบียบวัดผล

Search

Read the Text Version

๑ ระเบยี บโรงเรยี นวัดพรหมเทพาวาส ว่าด้วยการวัดผลและประเมินผลการเรียน พุทธศกั ราช 256๔ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ------------------------------------------------------------------- ตามที่โรงเรียนวัดพรหมเทพาวาส ได้ประกาศใช้หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดพรหมเทพาวาส (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๔) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 ตามคำส่ัง กระทรวงศึกษาธิการ ท่ี สพฐ 1239/2560 ลงวนั ที่ 8 เดอื น สิงหาคม พ.ศ. 2560 เรอ่ื งให้ใช้หลกั สูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) จึงเป็นการสมควรที่กำหนดระเบียบ โรงเรียนวดั พรหมเทพาวาส ว่าด้วยการวัดผลและประเมินผลการเรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 เพอ่ื ให้สามารถดำเนินการไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ และสอดคล้องกับคำส่งั ดังกล่าว ฉะนั้นอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 39 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการ กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 และกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการ คณะกรรมการบริหารหลักสูตร และงานวิชาการสถานศึกษาขั้นพนื้ ฐานโดยความเห็นขอบของคระกรรมการสถานศึกษาข้ันพ้นื ฐาน จึงวางระเบยี บ ไวด้ งั ตอ่ ไปนี้ ข้อ 1 ระเบียบน้เี รยี กว่า “ระเบยี บโรงเรยี นวัดพรหมเทพาวาส วา่ ดว้ ยการวัดและประเมินผลการเรยี น พุทธศกั ราช ๒๕๖๔ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551” ข้อ 2 ระเบยี บนใ้ี หใ้ ชบ้ งั คบั ตัง้ แต่ปีการศกึ ษา 256๔ เป็นต้นไป ขอ้ 3 ให้ยกเลกิ ระเบียบ ข้อบังคับ ที่ขัดแย้งกบั ระเบียบน้ี ให้ใชร้ ะเบียบนแี้ ทน ขอ้ 4 ให้ใชร้ ะเบียบนค้ี วบคู่กับหลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นวดั พรหมเทพาวาส (ฉบบั ปรบั ปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๔) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 ข้อ 5 ให้ผ้บู ริหารสถานศึกษารักษาการให้เปน็ ไปตามระเบยี บนี้

๒ หมวด 1 หลกั การในการวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ข้อ 5 หลกั การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ การวัดผลและและประเมินผลการเรียนรู้ของโรงเรียนวัดพรหมเทพาวาส พุทธศักราช 25๖๔ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 เป็นกระบวนการเก็บรวบรวม ตรวจสอบ ตีความผลการเรยี นรู้ และพัฒนาการด้านตา่ งๆ ของผู้เรียนตามมาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวัดของ หลักสูตร นำผลไปปรับปรุงพัฒนาการจัดการเรียนรู้และใช้เป็นข้อมูลสำหรับการตัดสินผลการเรียน สถานศึกษาจึงมีกระบวนการจัดการที่เป็นระบบ เพื่อให้การดำเนินการวัดและประเมินผลการเรียนรู้เป็นไป อยา่ งมคี ุณภาพและประสิทธภิ าพ ผลการประเมินตรงตามสภาพการเรยี นรู้ ความสามารถทแ่ี ท้จรงิ ของผู้เรียน ถกู ตอ้ งตามหลกั การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ รวมท้งั สามารถรองรับการประเมินภายในและการประเมิน ภายนอก ตามระบบประกันคุณภาพการศึกษาได้ สถานศึกษาจึงกำหนดหลักการวัดและประเมินผลการ เรยี นรู้ เพือ่ เป็นแนวทางในการตัดสินใจเก่ียวกับการวัดและประเมินผลการเรยี นรขู้ องสถานศกึ ษา ดงั นี้ 5.1 การประเมนิ ผลการเรียนรูข้ องผเู้ รยี น เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายท่ีเกยี่ วขอ้ งมสี ่วนร่วม 5.2 การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ต้องสอดคล้องและครอบคลุมมาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชวี้ ดั ตามกล่มุ สาระการเรียนรทู้ ีก่ ำหนดในหลกั สตู ร และจดั ใหม้ ีการประเมนิ การอ่าน คิดวเิ คราะห์และเขียน คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ตลอดจนกจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น 5.3 การประเมินผู้เรียนพิจารณาจากพัฒนาการของผู้เรียน ความประพฤติ การสังเกต พฤติกรรมการเรียนรู้ การร่วมกิจกรรมและการทดสอบควบคู่ไปในกระบวนการเรียนการสอนตามความ เหมาะสมของแตล่ ะระดบั 5.4 การวัดและประเมินผลการเรียนรูเ้ ป็นส่วนหนึง่ ของกระบวนการจัดการเรียนการสอน ต้องดำเนินการด้วยเทคนิควิธีการที่หลากหลาย เพื่อให้สามารถวัดและประเมินผลผู้เรียนได้อย่างรอบด้าน ทั้งด้านความรู้ ความคิด กระบวนการ พฤติกรรมและเจตคติ เหมาะสมกับสิ่งที่ต้องการวัด ธรรมชาติวชิ า และระดับชนั้ ของผเู้ รียนโดยต้ังอยู่บนพืน้ ฐานความเทย่ี งตรง ยตุ ธิ รรม และเช่ือถือได้ 5.5 การประเมินผลการเรยี นรู้ มีจดุ มงุ่ หมายเพ่อื ปรบั ปรงุ พัฒนาผูเ้ รียน พฒั นาการจดั การ เรียนรู้และตัดสนิ ผลการเรียน 5.6 เปิดโอกาสใหผ้ ูเ้ รียนและผมู้ สี ว่ นเก่ียวขอ้ งตรวจสอบผลการประเมนิ ผลการเรียนรู้ 5.7 มีการเทียบโอนผลการเรยี นระหว่างสถานศกึ ษาและรูปแบบการศกึ ษาตา่ ง ๆ 5.8 จัดทำเอกสารหลักฐานการศึกษา เพอื่ เปน็ หลกั ฐานการประเมนิ ผลการเรยี นรู้ รายงาน ผลการเรยี น แสดงวฒุ กิ ารศึกษาและรับรองผลการเรียนของผ้เู รยี น

๓ หมวด 2 องค์ประกอบของการวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ขอ้ 6 การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดพรหมเทพาวาส (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 256๔) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กำหนดจุดหมาย สมรรถนะสำคัญของ ผู้เรียน และมาตรฐาน การเรียนรู้เป็นเปา้ หมายและกรอบทิศทางในการพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี มีปัญญา มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีระดับโลก กำหนดให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ตาม มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วัดท่ีกำหนดในกลมุ่ สาระการเรียนรู้ 8 กลุม่ สาระ มคี วามสามารถดา้ นการอา่ น คดิ วิเคราะห์และเขียน มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์และเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน และการวัดและ ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ มอี งค์ประกอบดงั นี้ 6.1 การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรตู้ ามรายกลุ่มสาระการเรียนรู้ ผูส้ อนทำการวัดและ ประเมินผลการเรียนรู้ผู้เรียนเป็นรายวิชาตามตัวชี้วัดที่กำหนดในหน่วยการเรียนรู้ด้วยวิธีการที่หลากหลาย ให้ได้ผลการประเมนิ ตามความสามารถทแี่ ท้จริงของผู้เรียน โดยทำการวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ไปพร้อม กบั การจดั การเรยี นการสอน ได้แก่ การสงั เกตพัฒนาการและความประพฤติของผเู้ รยี น การสงั เกตพฤติกรรม การเรียน การร่วมกิจกรรมและการทดสอบ ซึ่งผู้สอนต้องนำนวัตกรรมการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ที่ หลากหลาย เช่น การประเมินสภาพจริง การประเมินการปฏิบัติงาน การประเมินจากโครงงานและการ ประเมินจากแฟ้มสะสมผลงาน ไปใช้ในการประเมินผลการเรียนรู้ควบคู่ไปกับการใช้แบบทดสอบแบบต่าง ๆ และให้ความสำคัญกบั การประเมินระหว่างปมี ากกวา่ การประเมินปลายปี 6.2 การประเมนิ การอา่ น คิดวิเคราะหแ์ ละเขยี น เปน็ การประเมนิ ศักยภาพของผู้เรียนใน การอ่าน การฟัง การดูและการรับรู้ จากหนังสือ เอกสารและสื่อต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง แล้วนำมาคิด วิเคราะห์เนื้อหาสาระท่ีนำไปสู่การแสดงความคิดเห็น การสังเคราะห์สร้างสรรค์ในเรื่องต่าง ๆ และถ่ายทอด ความคิดนั้นด้วยการเขียนซึ่งสะท้อนถึงสติปัญญา ความรู้ ความเข้าใจ ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ แกป้ ญั หา และสร้างสรรคจ์ นิ ตนาการอย่างเหมาะสมและมีคุณค่าแก่ตนเอง สงั คม และประเทศชาติ พร้อม ด้วยประสบการณ์และทักษะในการเขียนที่มีสำนวนภาษาถกู ต้อง มีเหตุผลและลำดับขั้นตอนในการนำเสนอ สามารถสร้างความเข้าใจแก่ผู้อ่านได้อย่างชดั เจนตามระดับความสามารถในแต่ละระดบั ช้ัน การประเมินการ อา่ น คดิ วิเคราะห์และเขยี น สรุปผลเปน็ รายปี เพือ่ วินจิ ฉัยและใช้เปน็ ขอ้ มูลเพอื่ ประเมินการเล่ือนช้ันเรียน และการจบการศกึ ษา 6.3 การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 เป็นการประเมนิ รายคุณลกั ษณะ แลว้ รวบรวมผลการประเมินจากผูป้ ระเมนิ ทุกฝา่ ยนำมา พจิ ารณาสรปุ ผลเปน็ รายปี เพอ่ื ใช้เป็นข้อมูลประเมนิ การเลอื่ นช้ันเรยี นและการจบการศกึ ษา 6.4 การประเมนิ กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน เป็นการประเมนิ การปฏบิ ตั กิ ิจกรรมตามจดุ ประสงค์ และเวลาในการเข้ารว่ มกิจกรรมตามเกณฑ์ท่ีกำหนดไวใ้ นแต่ละกิจกรรมและใชเ้ ปน็ ข้อมูลประเมนิ การเล่ือนช้ัน เรยี นและการจบการศึกษา

๔ หมวด 3 วธิ ีการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ขอ้ 7 การประเมินผลเพื่อปรบั ปรุงพฒั นาการเรยี นรู้ 7.1 การจัดการเรียนรู้ 7.1.1 กล่มุ สาระการเรียนรู้ ครผู ้สู อนแจ้งใหน้ กั เรยี นทราบดังน้ี 1) มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วดั ชน้ั ปี 2) คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 3) การอา่ น คดิ วิเคราะห์ และเขียน 4) วิธกี ารวดั และประเมินผล ขอ้ 1) , 2) และ 3) 5) เกณฑ์การผา่ นขอ้ 1), 2) และ 3) และการผ่านกล่มุ สาระการเรยี นรู้ 7.1.2 การจดั การเรยี นรู้กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี นครูผู้สอนแจ้งให้นกั เรียนทราบดังนี้ 1) จุดประสงค์การเรียนรู้ 2) คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 3) วิธีการวดั และประเมนิ ผลขอ้ 1) และ 2) 4) เกณฑ์การผ่าน ข้อ 1) และ 2) และการผ่านกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน 7.2 ก่อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ผู้สอนต้องประเมินผลก่อนเรียนเพื่อตรวจสอบ ความรู้พื้นฐานและทักษะเบอ้ื งตน้ ของนักเรยี น 7.3 ระหวา่ งเรียน ผสู้ อนประเมนิ ผลการเรยี นรขู้ องนกั เรียนเป็นระยะ ๆ ดงั นี้ 7.3.1 ประเมินผลตามตัวชี้วัดชั้นปีของรายวิชาเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน และเพือ่ การผา่ นตัวชี้วดั ช้ันปี 7.3.2 ประเมินผลตามมาตรฐานการอ่าน คิดวเิ คราะห์ และเขียน เพ่ือพัฒนาการ เรยี นรูแ้ ละการผา่ นการประเมินการอา่ น คดิ วิเคราะห์ และเขยี น 7.3.3 ประเมินผลตามตัวบ่งชี้แต่ละคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อประเมิน วนิ จิ ฉยั และปรบั เปลีย่ นคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ และการผ่านการประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 7.3.4 ประเมินผลตามจุดประสงค์การเรียนรู้ของกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเพ่ือ พัฒนาการเรยี นรูข้ องผูเ้ รยี นและเพือ่ ผา่ นจุดประสงค์การเรียนร้ขู องกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น 7.4 ปลายปี เมือ่ จบกระบวนการเรียนรู้ มกี ารประเมนิ ผลการเรียนรู้ปลายปี โดยเลือก ประเมินเฉพาะตัวชี้วัดชั้นปีที่สำคัญให้ครอบคลุมทั้ง ความรู้ ทักษะกระบวนการ และการอ่านคิดวิเคราะห์ และเขยี น คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ เพื่อตรวจสอบคณุ ภาพตามท่ีกำหนดไวใ้ นหลกั สตู ร ข้อ 8 การประเมนิ ผลเพอ่ื ปรบั ปรุงการเรยี นรู้ ตามข้อ 7.2 ก่อนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้อ 7.3 ระหว่างเรียน และข้อ 7.4 ปลายปี ถ้านักเรียนมีความรู้ความสามารถต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ใหผ้ ู้สอนสอนซ่อมเสริมใหส้ อดคลอ้ งกบั ลักษณะการเรียนรูข้ องนกั เรยี น ขอ้ 9 ใหใ้ ช้ผลการประเมินตามข้อ 7 ในการตัดสนิ ผลดงั นี้ 9.1 ตามข้อ 7.3.1 ตัดสนิ ผลการผ่านตวั ช้ีวดั ชั้นปขี องรายวชิ าเพื่อพัฒนาการเรยี นรขู้ อง ผูเ้ รียนเพ่ือผา่ นตัวชว้ี ัดชน้ั ปี ใช้ตดั สนิ ผลการผา่ นตัวชี้วัดชั้นปี

๕ 9.2 ตามข้อ 7.3.1 การประเมินผลตวั ช้ีวัดชัน้ ปีของรายวชิ าเพือ่ พัฒนาการเรียนรู้ของ ผูเ้ รียนและเพ่อื ผ่านตัวชีว้ ดั ชนั้ ปี กบั 7.4 การประเมินผลปลายปี เม่อื จบกระบวนการเรียนรู้ ใชต้ ัดสนิ ผลการ ผ่านกลมุ่ สาระการเรียนรู้ 9.3 ตามขอ้ 7.3.2 การประเมินผลตามมาตรฐานการอ่าน คิดวเิ คราะห์ และเขียน กับ การประเมนิ ผลปลายปี ใช้ตดั สินผลการผา่ นการประเมนิ การอ่าน คดิ วเิ คราะห์และเขียน 9.4 ตามข้อ 7.3.3 ตดั สนิ ผลการผ่านคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 9.5 ตามข้อ 7.3.4 ตัดสินผลการผา่ นกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น หมวด 4 เกณฑก์ ารวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ข้อ 10 การตดั สินผลการเรียน หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ได้กำหนดโครงสร้าง เวลาเรียน มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์และ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ที่สถานศึกษาต้องจัดให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ มีคุณภาพเต็มตามศักยภาพ สถานศึกษาจึงกำหนดเกณฑ์การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ เพ่ือตดั สินผลการเรยี นของผู้เรยี น ดงั น้ี 10.1 ผู้เรยี นตอ้ งมเี วลาเรียนไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ 80 ของเวลาเรยี นทง้ั หมด 10.2 ผเู้ รียนตอ้ งไดร้ บั การประเมนิ ทกุ ตวั ชว้ี ัดชน้ั ปี และผ่านร้อยละ 100 ของตัวชว้ี ัดชั้น ปีรายวิชา 10.3 ผู้เรียนตอ้ งไดร้ ับการตดั สนิ ผลการเรียนทุกรายวิชา 10.4 ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินและมีผลการประเมินผ่านตามเกณฑ์ที่กำหนดใน การอ่าน คิดวเิ คราะห์และเขยี น คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ข้อ 11 การกำหนดคะแนนระหว่างเรียนและปลายปี เพ่อื ใช้ตดั สินผลการเรียน กำหนดดังนี้ 11.1 รายวชิ าของกล่มุ สาระการเรียนรู้ ให้นำคะแนนระหวา่ งเรียนรวมกบั ปลายภาคเรียน แลว้ นำมาตดั สนิ ผลการเรยี น ดงั น้ี 11.1.1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย, คณิตศาสตร์, วิทยาศาสตร์ , สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม และภาษาตา่ งประเทศ กำหนดดังน้ี คะแนนระหว่างปี / ภาค 70 คะแนน คะแนนปลายปี / ภาค 30 คะแนน รวม 100 คะแนน 11.1.2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ และการงานอาชีพ และเทคโนโลยี กำหนดดังน้ี คะแนนระหวา่ งปี / ภาค 80 คะแนน คะแนนปลายปี / ภาค 20 คะแนน รวม 100 คะแนน

๖ 11.2 การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน เพื่อการเลื่อนระดับชั้นและจบ การศึกษา กำหนดเกณฑก์ ารตดั สินเปน็ 4 ระดับ และความหมายของแต่ละระดบั ดงั น้ี ดีเยย่ี ม หมายถงึ มผี ลงานท่แี สดงถงึ ความสามารถในการอ่าน คิดวเิ คราะหแ์ ละเขยี นท่ีมี คณุ ภาพทีด่ เี ลศิ อย่เู สมอ ดี หมายถึง มผี ลงานท่แี สดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะหแ์ ละเขยี นที่มี คุณภาพเป็นที่ยอมรับ ผ่าน หมายถงึ มีผลงานท่ีแสดงถึงความสามารถในการอา่ น คดิ วิเคราะหแ์ ละเขยี นท่ีมี คุณภาพเปน็ ที่ยอมรบั แต่ยงั มขี ้อบกพร่องบางประการ ไมผ่ า่ น หมายถึง ไม่มผี ลงานท่ีแสดงถงึ ความสามารถในการอ่าน คดิ วิเคราะห์และเขยี น หรือถ้ามผี ลงาน ผลงานนนั้ ยังมขี อ้ บกพรอ่ งทต่ี อ้ งได้รบั การปรับปรงุ แก้ไขหลายประการ 11.3 การสรุปผลประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์รวมทกุ คณุ ลกั ษณะ เพือ่ การเลอื่ นระดับช้ัน และจบการศกึ ษา กำหนดเกณฑก์ ารตัดสินเป็น 4 ระดบั และความหมายของแต่ละระดบั ดงั น้ี ดเี ยย่ี ม หมายถงึ นักเรียนปฏิบัตติ ามคุณลักษณะจนเป็นนสิ ัยและนำไปใช้ใน ชวี ติ ประจำวนั เพื่อประโยชน์สุขของตนเองและสงั คมโดยพจิ ารณาจาก ผลการประเมนิ ระดบั ดเี ย่ยี ม จำนวน 5 -๘ คณุ ลักษณะ และไม่มี คณุ ลกั ษณะใดได้ผลการประเมินต่ำกวา่ ระดบั ดี ดี หมายถงึ นกั เรียนมคี ณุ ลกั ษณะในการปฏบิ ัติตามเกณฑ์ เพื่อให้เป็นการยอมรับ ของสงั คมโดยพิจารณาจาก (1) ได้ผลการประเมินระดบั ดีเยี่ยมจำนวน 1-4 คุณลักษณะและไม่มี คุณลักษณะใดท่ไี ดผ้ ลการการประเมินต่ำกวา่ ระดบั ดีหรอื (2) ได้ผลการประเมินระดับดีเยี่ยมจำนวน 4 คุณลักษณะและไม่มี คณุ ลกั ษณะใดทไ่ี ดผ้ ลการการประเมินตำ่ กว่าระดบั ดีหรือ (3) ได้ผลการประเมินระดับดีเยี่ยมจำนวน 5-8 คุณลักษณะและไม่มี คณุ ลักษณะใดที่ไดผ้ ลการการประเมนิ ต่ำกวา่ ระดบั ดี ผา่ น หมายถึง นกั เรียนรบั รู้และปฏิบัติตามกฎเกณฑแ์ ละเง่ือนไขทีโ่ รงเรียนกำหนดโดย พิจารณาจาก (1) ได้ผลการประเมินระดับผ่านจำนวน 5-8 คุณลักษณะและไม่มี คุณลักษณะใดท่ีได้ผลการการประเมนิ ตำ่ กวา่ ระดับผา่ นหรอื (2) ได้ผลการประเมินระดับดีจำนวน 4 คุณลักษณะและไม่มี คุณลักษณะใดที่ได้ผลการการประเมนิ ต่ำกว่าระดับผา่ น ไม่ผา่ น หมายถึง นกั เรยี นรับรู้และปฏิบตั ิได้ไมค่ รบตามกฎเกณฑ์และเงอ่ื นไขที่โรงเรียน กำหนด โดยพิจารณาจากมีผลการประเมินระดับไม่ผ่าน ตั้งแต่1 คุณลักษณะ

๗ 11.4 การประเมนิ กิจกรรมพฒั นาผู้เรียน จะต้องพิจารณาทงั้ เวลาการเขา้ ร่วมกจิ กรรมอยา่ งน้อยรอ้ ย ละ80 การปฏิบัตกิ จิ กรรม และผลงานของนกั เรียน ต้องผ่านรอ้ ยละ 70 และใหผ้ ลการประเมินเป็นผา่ นและไม่ ผา่ น โดยใหใ้ ช้ตวั อักษรแสดงผลการประเมินดังนี้ “ผ” หมายถงึ นกั เรียนมเี วลาการร่วมกจิ กรรม การปฏบิ ัติกิจกรรม และมผี ลงานผ่านเกณฑ์ “มผ” หมายถึง นักเรียนมีเวลาการเข้าร่วมกิจกรรม การปฏิบัติกิจกรรม และมีผลงานไม่ผ่าน เกณฑ์ ในกรณี ทน่ี กั เรียนไดผ้ ลการเรยี น “มผ” ให้ครผู ูส้ อนจักซอ่ มเสรมิ ใหน้ กั เรียนทำกิจกรรมในส่วนที่ นักเรียนไม่ได้เข้าร่วม หรือไม่ไดทำจนครบถ้วน แล้วจึงเปลี่ยนผลการเรียนจากๆไม่ผ่านเป็นผ่าน ทั้งนี้ต้อง ดำเนนิ การให้เสรจ็ สนิ้ ภายในปีการศกึ ษานน้ั ข้อ 12 การประเมนิ ผลการเรยี นรู้และใหร้ ะดับผลการเรยี น สถานศึกษากำหนดเกณฑ์การตัดสินผลการเรียน ซึ่งสามารถอธิบายผลการเรียนว่าผู้เรียนต้องมี ความรู้ ทักษะและคุณลกั ษณะโดยรวม ดังนี้ 12.1 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ กำหนดผลการเรียนเป็น 8 ระดบั คอื ระดับผลการเรียน ความหมาย ชว่ งคะแนนรอ้ ยละ 4 ผลการเรยี นดเี ยยี่ ม 80 - 100 3.5 ผลการเรียนดีมาก 75 - 79 3 ผลการเรียนดี 70 - 74 2.5 ผลการเรยี นคอ่ นข้างดี 65 - 69 2 ผลการเรียนปานกลาง 60 - 64 1.5 ผลการเรียนพอใช้ 55 - 59 1 ผลการเรยี นผ่านเกณฑ์ข้ันต่ำ 50 - 54 0 ผลการเรียนต่ำกวา่ เกณฑ์ 0 - 49 12.2 การประเมินผลการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขยี น กำหนดผลจาก การประเมิน ดังน้ี ช่วงคะแนน 86-100 หมายถึง ผลการประเมินอยู่ในระดบั ดเี ยย่ี ม ช่วงคะแนน 70-85 หมายถงึ ผลการประเมินอย่ใู นระดับดี ชว่ งคะแนน 50-69 หมายถึง ผลการประเมนิ อยูใ่ นระดับผา่ น ช่วงคะแนน 0-49 หมายถึง ผลการประเมนิ อยูใ่ นระดบั ไมผ่ า่ น และแยกให้คะแนนเป็นขอ้ ๆ ดังนี้ 1. การอ่าน 35 คะแนน 2. การคิด 30 คะแนน 3. การเขียน 35 คะแนน รวมคะแนนการประเมนิ ผลการอา่ น คดิ วิเคราะห์ และเขยี น เปน็ 100 คะแนน

๘ 12.3 การประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ทำผลการประเมินเปน็ 4 ระดับ คือ โดยพจิ ารณาผลการประเมนิ ดงั นี้ ระดับ ๓ หมายถึง ผลการประเมินอยู่ในระดบั ดเี ยีย่ ม ระดับ ๓ หมายถึง ผลการประเมินอยู่ในระดับดี ระดบั ๓ หมายถึง ผลการประเมินอยู่ในระดบั ผ่าน ระดับ ๓ หมายถึง ผลการประเมนิ อยู่ในระดับไม่ผา่ น และแยกใหค้ ะแนนเปน็ ข้อ ๆ ดังน้ี คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ๘ ประการ ได้แก่ - รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ตวั ชว้ี ดั เปน็ พลเมืองดีของชาติ ธำรงไวซ้ ง่ึ ความเปน็ ชาติไทย ศรทั ธา ยึดมน่ั และปฏิบตั ิตนตามหลกั ศาสนา เคารพเทดิ ทนู สถาบันพระมหากษตั ริย์ - ซือ่ สัตยส์ จุ ริต ประพฤติตรงตามความเป็นจรงิ ต่อตนเองทงั้ ทางกาย วาจา ใจ ประพฤติตรงตามความเปน็ จริงต่อผูอ้ นื่ ทงั้ ทางกาย วาจา ใจ - มวี นิ ัย ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บังคับของครอบครัว โรงเรียน และสังคม - ใฝเ่ รยี นรู้ ตั้งใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและเข้าร่วมกจิ กรรมการเรยี นรู้ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรยี นร้ตู า่ งๆ ท้ังภายในและภายนอกโรงเรียนดว้ ยการเลอื กใช้ส่อื อย่างเหมาะสม สรปุ เป็นองค์ความรู้ และสามารถนำไปใช้ในชีวติ ประจำวันได้ - อยอู่ ยา่ งพอเพียง ดำเนนิ ชีวติ อยา่ งพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม มีภูมิคุ้มกันในตวั ท่ีดี และปรับตัวเพอ่ื อยูใ่ นสงั คมไดอ้ ย่างมคี วามสุข - ม่งุ มั่นในการทำงาน ตัง้ ใจและรบั ผิดชอบในหน้าท่ีการงาน ทำงานดว้ ยความเพยี รพยายามและอดทนเพอื่ ให้งานสำเร็จตามเป้าหมาย - รักความเปน็ ไทย ภาคภมู ิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรมไทยและมีความกตญั ญู กตเวที เห็นคุณค่าและใชภ้ าษาไทยในการสอ่ื สารได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม อนุรกั ษ์ และสืบทอดภูมิปัญญาไทย - มจี ิตสาธารณะ ช่วยเหลอื ผูอ้ ื่นดว้ ยความเต็มใจโดยไมห่ วงั สิง่ ตอบแทน เข้าร่วมกจิ กรรมที่เป็นประโยชน์ตอ่ โรงเรียน ชมุ ชนและสงั คม

๙ 12.4 การประเมนิ การเข้าร่วมกิจกรรมของผเู้ รยี น กำหนดการประเมินเป็น 2 ระดับ ดงั นีค้ ือ ผา่ น หมายถึง ผา่ นเกณฑ์ ไมผ่ ่าน หมายถงึ ไม่ผา่ นเกณฑ์ ข้อ 13 การเล่อื นช้นั สถานศึกษากำหนดกฎเกณฑ์การเลื่อนชั้น โดยพิจารณาให้สอดคลอ้ งกับเกณฑ์การตัดสินผล การเรียน ตลอดจนกำหนดเกณฑ์เก่ยี วกบั การผ่านตัวช้ีวัดทช่ี ดั เจนและประกาศให้ทราบทว่ั กัน ดังนี้ 13.1 ผู้เรียนต้องมีเวลาเรียนตลอดปีการศึกษาไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของเวลาเรียน ท้ังหมด 13.2 ผเู้ รียนตอ้ งไดร้ ับการประเมนิ ทกุ ตัวชวี้ ดั และต้องผา่ นทุกตัวชี้วัดของแต่ละรายวิชา 13.3 ผู้เรียนต้องได้รับการตัดสินผลการเรียน และผ่านทุกรายวิชาของกลุ่มสาระการ เรียนรู้ โดยมีเกณฑก์ ารผา่ น ดงั น้ี 13.3.1 เวลาเรียนในแต่ละรายวิชาของกลุ่มสาระการเรียนรู้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของเวลาเรยี นทงั้ หมด 13.3.2 ต้องได้รับการประเมนิ ทกุ ตวั ชวี้ ัด และผา่ นตวั ชีว้ ัดชนั้ ปีไม่น้อยกว่าร้อยละ 100 ของตวั ชีว้ ดั ในรายวิชา 13.3.3 ระดับผลการเรียนตั้งแต่ระดับ 1 ขนึ้ ไป 13.2 การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ผู้เรียนต้องได้ระดับผลการเรียน ต้งั แตร่ ะดบั ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ขึน้ ไป 13.4 การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ผู้เรียนต้องได้ผลการประเมินระดับผ่าน เกณฑก์ ารประเมนิ ขน้ึ ไป 13.5 การประเมิน การเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ผู้เรียนต้องได้ผลการประเมิน ระดับผ่าน โดยมีเกณฑก์ ารผา่ น ดงั น้ี 13.5.1 ผ้เู รียนตอ้ งมีเวลาเข้ารว่ มกิจกรรมแต่ละปีไมน่ ้อยกว่ารอ้ ยละ 80 ของเวลา เรยี น 13.5.2 ผู้เรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรูไ้ มน่ อ้ ยกว่าร้อยละ 100 ของจุดประสงค์ การเรียนรใู้ นกจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รียน 13.5.3 ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์ตามเวลา ทก่ี ำหนดไว้ในโครงสรา้ งของหลักสตู ร ดังนี้ 1) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 10 ชว่ั โมง 2) ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 10 ชั่วโมง 3) ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 10 ชว่ั โมง 4) ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 4 จำนวน 10 ชว่ั โมง 5) ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 จำนวน 10 ชัว่ โมง 6) ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 10 ชั่วโมง การพิจารณาเลื่อนชั้น ถ้าผู้เรียนมีข้อบกพร่องเพียงบางตัวชี้วัด ซึ่งพิจารณาเห็นว่าสามารถ พฒั นาและสอนซ่อมเสรมิ ได้ กใ็ ห้อย่ใู นดลุ ยพนิ จิ ของคณะกรรมการทจ่ี ะผอ่ นผันให้เลอื่ นชน้ั ได้ ในกรณีที่ผู้เรียนมีสติปัญญาและความสามารถดีเลิศ สามารถเรียนรู้ได้เร็วเป็นพิเศษ สถานศึกษาจะให้โอกาสผู้เรียนเลื่อนชั้นระหว่างปีการศึกษา โดยสถานศึกษาแต่งตั้งคณะกรรมการ

๑๐ ประกอบด้วยคณะกรรมการบริหารหลักสูตรและวิชาการและผู้แทนของเขตพื้นที่การศึกษาอย่างน้อย 1 คน เมอ่ื ผูเ้ รียนมีคุณสมบัตคิ รบถ้วนตามเงอ่ื นไขท้ัง 3 ประการ ต่อไปนี้ 1) มผี ลการเรียนปกี ารศึกษาท่ีผา่ นมาและมีผลการเรียนระหว่างปีอยใู่ นเกณฑ์ดเี ย่ียม 2) มวี ฒุ ภิ าวะเหมาะสมทจ่ี ะเรยี นในชนั้ ท่สี ูงขึ้น 3) ผ่านการประเมินผลความรู้ความสามารถตามตัวชี้วัดรายปีทั้งหมดในภาคเรียนที่ 2 ปี ปจั จุบันและภาคเรียนท่ี 1 ของปกี ารศึกษาถดั ไป การอนุมัติให้เลื่อนไปเรียนชั้นสูงได้ 1 ระดับชั้นนี้ ต้องได้รับการยินยอมจากนักเรียนและ ผู้ปกครองและดำเนินการให้เสรจ็ ส้ินภายในวันท่ี 1 กันยายนของปกี ารศึกษานนั้ สำหรบั ในกรณีทพ่ี บวา่ มผี ้เู รียนกล่มุ พเิ ศษประเภทต่าง ๆ ทีม่ ีปญั หาในการเรยี นร้สู ถานศึกษาจะ ดำเนนิ งานร่วมกับสำนักงานเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษาหาแนวทางการแกไ้ ขและพัฒนา ขอ้ 14 การเรยี นซำ้ ชน้ั หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กำหนดว่า หากผูเ้ รยี นไมผ่ ่าน รายวิชาจำนวนมากและมีแนวโน้มว่าจะเป็นปัญหาต่อการเรียนในระดับชั้นที่สูงขึ้น สถา นศึกษาอาจตั้ง คณะกรรมการพิจารณาให้เรียนซ้ำชั้นได้ ทั้งนี้ให้คำนึงถึงวุฒิภาวะและความรู้ความสามารถของนักเรยี นเป็น สำคญั ผเู้ รยี นท่ไี ม่มคี ณุ สมบตั ติ ามเกณฑ์การอนมุ ตั เิ ลอ่ื นชน้ั เรียน จะตอ้ งจดั ให้เรยี นซ้ำชนั้ ในกรณีที่ผู้เรียนขาดคุณสมบัติข้อใดข้อหนึ่ง คณะกรรมการอาจใช้ดุลพินิจให้เลื่อนชั้นได้ หากพิจารณาเหน็ ว่า 1) ผ้เู รียนมเี วลาเรียนไมถ่ ึงร้อยละ 80 อนั เน่อื งจากสาเหตุจำเปน็ หรอื เหตุสุดวิสัย แต่มี คณุ สมบัตติ ามข้ออ่นื ๆ ครบถ้วน 2) ผู้เรียนผ่านมาตรฐานและตัวชี้วัดไม่ถึงเกณฑ์ตามที่กำหนดในแต่ละรายวิชา และเห็น ว่าสามารถสอนซอ่ มเสริมได้ในปกี ารศึกษาถดั ไปและมคี ณุ สมบตั ขิ อ้ อืน่ ๆ ครบถ้วน 3) ผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 มีผลการประเมินกลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย และคณิตศาสตร์ อยู่ในเกณฑ์พอใช้ และผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 มีผลการประเมินกลุ่มสาระการ เรียนรู้ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรมอยใู่ นเกณฑผ์ ่าน ข้อ 15 การสอนซอ่ มเสริม การสอนซ่อมเสริม เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการจัดการเรียนรู้และเป็นการให้โอกาสแก่ ผู้เรียนไดม้ เี วลาเรียนรู้สิ่งต่างๆ เพิ่มขึ้น จนสามารถบรรลตุ ามมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวัดที่กำหนดไว้ การ สอนซ่อมเสริมเป็นการสอนกรณีพิเศษนอกเหนือไปจากการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้ปกติ เพื่อแก้ไข ขอ้ บกพร่องท่ีพบในผู้เรียน โดยจดั กระบวนการเรียนรู้ท่ีหลากหลายและคำนงึ ถงึ ความแตกต่างระหว่างบุคคล ของผูเ้ รยี น การสอนซอ่ มเสรมิ สามารถดำเนนิ การได้ในกรณีดังต่อไปน้ี 15.1 ผู้เรียนมีความรู้/ทักษะพื้นฐานไม่เพียงพอที่จะศึกษาในแต่ละรายวิชานั้น จะ จัดการสอนซอ่ มเสรมิ ปรบั ความรู้/ทักษะพ้นื ฐาน 15.2 การประเมินระหว่างเรียน ผู้เรียนไม่สามารถแสดงความรู้ ทักษะกระบวนการ หรือเจตคติ/คณุ ลกั ษณะ ทีก่ ำหนดไว้ตามมาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชีว้ ัด 15.3 ผลการเรยี นไมถ่ ึงเกณฑ์และ/หรอื ตำ่ กว่าเกณฑ์การประเมิน ตอ้ งจดั การสอนซ่อม เสริมกอ่ นจะใหผ้ ้เู รยี นสอบแก้ตวั

๑๑ ขอ้ 16 เกณฑก์ ารจบระดบั ประถมศึกษา 16.1 ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐาน ไม่น้อยกว่า จำนวน 5,040 ชั่วโมง และรายวิชา เพิ่มเติม/กิจกรรมเพิ่มเติม ไม่น้อยกว่า จำนวน 120 ชั่วโมง และมีผลการประเมินรายวิชาพ้ืนฐานผ่านทุก รายวชิ า 16.2 ผู้เรยี นตอ้ งมีผลการประเมนิ การอ่าน คิดวเิ คราะห์ และเขียน ระดับ “ผา่ น” ขนึ้ ไป 16.3 ผู้เรยี นตอ้ งมีผลการประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ระดบั “ผา่ น” ข้ึนไป 16.4 ผู้เรียนตอ้ งเขา้ ร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น และไดร้ บั การตดั สินผลการเรียน ”ผ่าน” ทุกกิจกรรม หมวด 5 การเทยี บโอนผลการเรียน ข้อ 1๗ การเทียบโอนผลการเรียนของนักเรียนที่เรียนรู้กรณีย้ายสถานศึกษา การเปลี่ยน รูปแบบการศึกษา การย้ายหลักสูตร การละทิ้งการศึกษาและขอกลับเข้ารับการศึกษาต่อ การศึกษาจาก ต่างประเทศและขอเข้าศกึ ษาต่อในประเทศ เทยี บโอนความรู้ ทกั ษะ ประสบการณ์จากแหลง่ การเรียนรู้อ่ืน ๆ เช่น สถานประกอบการ สถาบันทางศาสนา สถาบันการฝึกอบรมอาชีพ การศึกษาโดยครอบครัว การ เทียบโอนผลการเรยี นดำเนินการในช่วงก่อนเปิดภาคเรียนแรกของโรงเรียน นกั เรียนทไี่ ดร้ ับการเทียบโอนผล การเรียนตอ้ งศกึ ษาต่อเน่ือง ในสถานศกึ ษาน้ีอย่างนอ้ ย 1 ภาคเรยี น โดยสถานศกึ ษากำหนดรายวิชา จำนวน หน่วยกติ ที่จะรบั เทียบโอนตามความเหมาะสม การพจิ ารณาการเทียบโอน ดำเนินการดงั น้ี 1๗.1 พิจารณาจากหลักฐานการศกึ ษา 1๗.2 พจิ ารณาจากความรู้ ประสบการณต์ รงจากการปฏบิ ัติจรงิ การทดสอบ การสมั ภาษณ์ เป็นต้น 1๗.3 พิจารณาจากความสามารถและการปฏิบตั ิจรงิ 1๗.4 ในกรณีมีเหตุผลจำเปน็ ระหวา่ งเรียน นักเรยี นสามารถแจ้งความจำนงขอไปศกึ ษา บางรายวิชาในสถานศึกษา/สถานประกอบการอื่น แล้วนำมาเทียบโอนได้ โดยความเห็นชอบของ คณะกรรมการบริหารหลกั สูตรและวชิ าการของสถานศึกษา 1๗.5 การเทียบโอนผลการเรียนให้ดำเนินการในรูปของคณะกรรมการ การเทียบโอน จำนวน 3 – 5 คน 1๗.6 การเทียบโอนดำเนนิ การดังน้ี 1๗.6.1 กรณีผู้ขอเทียบโอนมีผลการเรียนมาจากหลักสูตรอื่น นำรายวิชาที่มี ตัวชี้วัด/มาตรฐานการเรียนรู้/ผลการเรียนรูท้ ี่คาดหวัง/จุดประสงค์/เนื้อหาท่ีสอดคล้องกันไม่น้อยกวา่ ร้อยละ 60 มาเทียบโอนผลการเรียนและพจิ ารณาใหร้ ะดับผลการเรียนให้สอดคลอ้ งกับหลกั สตู รสถานศึกษา 1๗.6.2 กรณกี ารเทียบโอนความรู้ ทักษะและประสบการณ์ พิจารณาจากเอกสาร หลักฐาน (ถ้ามี) โดยให้มีการประเมินด้วยเครื่องมือที่หลากหลายและให้ระดับผลให้สอดคล้องกับหลักสูตร สถานศกึ ษา 1๗.6.3 กรณีการเทียบโอนที่นักเรียนเข้าโครงการแลกเปลี่ยนต่างประเทศ ดำเนินการตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการเรื่องหลักการและแนวปฏิบัติการเทียบชั้นการศึกษาสำหรับ นักเรียนที่เข้ารว่ มโครงการแลกเปลยี่ น

๑๒ ทง้ั นวี้ ิธกี ารเทียบโอนผลการเรยี นให้เปน็ ไปตามประกาศของกระทรวงศึกษาธิการและ แนวปฏิบัตทิ ่เี กย่ี วข้อง แนวปฏบิ ตั ิการเทยี บโอนผลการเรยี นร้เู ขา้ สูก่ ารศึกษาในระบบระดับการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน การเทียบโอน จากการ การเทียบ จัดการศึกษา การเทียบโอน โอน โดยศนู ย์การ การเทียบโอน จาก จากการจัด เรยี นการศึกษา จากการศึกษา การศกึ ษา แนวทาง การเทียบโอน นอกระบบ การศึกษา ตามหลกั สูตร ตามหลกั สตู ร การพิจารณา จากการศกึ ษา ในระบบเข้าสู่การศกึ ษาในระบบ เข้าสู่ โดย ระยะสน้ั ตา่ งประเทศ วิธปี ฏิบัติใน การศึกษา การจัดเขา้ ชนั้ ๑.เทียบโอนรายวชิ า/สาระกิจกรรมที่ ในระบบ ครอบครวั หลกั สตู รเฉพาะ เข้าสู่ เรยี น ผา่ นการตดั สนิ ผลการเรียนจาก สถานศกึ ษาเดิมไดท้ ั้งหมดและจดั เข้า เทียบโอน เข้าสู่ ประสบการณ์ การศึกษา ช้ันเรียนต่อเน่อื งจากทเ่ี ข้าเรยี นอยู่เดมิ หมวดวชิ า เชน่ จบ ป.๑ จดั เขา้ เรยี น ป.๒สถาน สาระกิจกรรม การศึกษา การทำงานการ ในระบบ ศึกษาอาจประเมิน ที่ผา่ นการ บางรายวชิ าท่ี ตัดสินผลการ ในระบบ ฝึกอาชีพเขา้ สู่ จำเป็นเพ่อื การตรวจสอบความรู้ เรียนจาก พืน้ ฐาน สถานศึกษา การศึกษาใน เดมิ ระบบ ๑. เรยี น ผ่านอย่างนอ้ ย ๑.ใหน้ ำผล พิจารณา ๑. สำเร็จการ ๓ หมวดวิชา จดั ให้เรยี นปที ่ี การวดั และ ความรู้ ทกั ษะ ศกึ ษาภาค ๒ ของ ระดบั ช้นั และ ประเมินเขต ประสบการณท์ ี่ เรยี นใดช้ันปีใด ลงทะเบยี น เรยี นต่อไป พื้นที่ ขอเทียบโอนว่า ให้พจิ ารณา ตามปกติ การศกึ ษามา ตรงกับรายวิชา/ เทียบโอนภาค ๒. เรียน ผ่านอย่างนอ้ ย ประกอบการ สาระ/กจิ กรรม เรยี นต่อภาค พิจารณา ใด จงึ ทำการ เรยี นปีตอ่ ปี ๒.ให้ ประเมนิ หาก โดยนำพื้น สถานศึกษา ปรากฏวา่ ชือ่ ไม่ ความรูส้ ามัญ ประเมนิ ตรงกับท่ปี รากฏ เดมิ มา ความรู้ ในโครงสรา้ ง ประกอบ ทกั ษะ หลกั สตู รให้ การพิจารณา ประสบการ กำหนดและ หรอื อาจ ณเ์ พ่ือการ บรรจชุ อ่ื นนั้ ไว้ ประเมิน จดั เข้าชน้ั ในหลกั สตู ร เพ่ิมเตมิ เพื่อ เรยี น ตรวจสอบ ความรู้พน้ื ฐาน

๑๓ แนวทาง การเทยี บโอน การเทียบ การเทยี บโอน การพจิ ารณา จากการศกึ ษา การเทยี บโอน โอน จากการ ในระบบเขา้ สูก่ ารศึกษาในระบบ จาก จากการจัด จดั การศึกษา ๒.รายวชิ า/สาระ/กิจกรรมทย่ี งั ไมไ่ ด้ การศึกษา การศึกษา โดยศูนย์การ การเทยี บโอน ตัดสนิ ผลการเรยี นให้ประเมินตาม นอกระบบ โดย เรียนการศกึ ษา จากการศึกษา เกณฑ์ ตามหลัก สูตร ตามหลักสูตร ท่สี ถานศึกษากำหนดหากไม่ผ่านตาม เขา้ สู่ ครอบครัว การศึกษา เขา้ สู่ ระยะส้ัน ตา่ งประเทศ เกณฑ์ให้ลงะเบียนเรียนเพิม่ เติม ในระบบ การศกึ ษา หลักสตู รเฉพาะ เข้าสู่ ประสบการณ์ การศกึ ษา ในระบบ การทำงานการ ในระบบ ฝกึ อาชีพเขา้ สู่ ๖ หมวดวิชา การศึกษาใน จดั ให้เรียนปีท่ี ๓ ของ ระบบ ระดบั ชน้ั และ ลงทะเบยี น จำนวน/หนว่ ย พจิ ารณาแล้ว เรียนต่อใน การเรียน/หนว่ ย เห็นวา่ เทียบ รายวิชาท่ี นำ้ หนัก โอนผลการ จำเป็น ตอ้ ง เรยี นใหค้ รบ เรยี นได้จำนวน ตามเกณฑก์ าร หน่วยใหเ้ ปน็ ไป จบระดบั ชัน้ ตามโครง ตามหลักสตู ร ของ สถานศกึ ษา ใหม่ที่รับเข้า เรียน จำนวน/หน่วย พิจารณาแล้วเหน็ ว่าเทียบโอนผลการ การเรียน/ เรยี นไดจ้ ำนวนหนว่ ยให้เป็นไปตาม หนว่ ยน้ำหนกั โครง

๑๔ แนวทาง การเทียบโอน การเทยี บ การเทียบโอน การพจิ ารณา จากการศึกษา การเทยี บโอน โอน จากการ ในระบบเขา้ สู่การศึกษาในระบบ ผลการเรยี น/ จาก จากการจัด จัดการศึกษา ผลการ ยอมรับผลการเรยี นของสถาน การศกึ ษา การศึกษา โดยศูนยก์ าร การเทยี บโอน ประเมิน ศึกษาเดมิ นอกระบบ โดย เรยี นการศึกษา จากการศกึ ษา การบันทึกผล ๑. ไม่ต้องนำรายวชิ าและผลการ เขา้ สู่ ครอบครัว ตามหลกั สตู ร ตามหลักสตู ร การเรียนใน เรียนเดมิ กรอกในใบแสดงผลการเรยี น การศกึ ษา เขา้ สู่ ระยะส้ัน ต่างประเทศ แสดงผลการ ของสถานศกึ ษาใหม่ แต่ใหแ้ นบ ในระบบ การศกึ ษา เรยี น แสดงผลการเรียนเดมิ ไวก้ บั ใบแสดงผล หลกั สูตรเฉพาะ เข้าสู่ การเรียนใหมแ่ ละบนั ทึกจำนวน ในระบบ ประสบการณ์ การศกึ ษา การทำงานการ ในระบบ ไม่ต้องใหผ้ ล ยอมรบั ผล ฝกึ อาชพี เข้าสู่ การเรยี นใน การประเมิน การศึกษาใน รายวชิ า/ ของเขต สาระ/ พนื้ ที่ มา ระบบ กจิ กรรมทไ่ี ด้ เป็น จากการเทยี บ ส่วนประกอ ผลการ ผลการ โอน บในการ ประเมินความรู้ ประเมนิ เพมิ่ ทักษะ เตมิ ให้เปน็ ไป พจิ ารณา ประสบการณใ์ ห้ ตามทส่ี ถาน ไม่ต้องนำ ไม่ต้องนำ หมวดวิชาและ รายวิชาผล เปน็ ไปตามที่ ศึกษาท่ีรับเข้า ผลการเรยี น การเรียน/ สถานศกึ ษาใหม่ เรียนกำหนด เดิมกรอกใน ผลการวดั กำหนด ใบแสดงผล และประเมนิ การเรยี นของ เดิมของเขต นำผลการ ๑. ใหก้ รอร สถาน พืน้ ทีก่ รอก ประเมนิ ความรู้ รายชื่อและ ศึกษาใหม่ ในใบ แต่ใหแ้ นบใบ แสดงผลการ ทักษะ จำนวนหน่วย แสดงผลการ เรยี นของ ประสบการณ์ ตามรายวิชา เรยี นเดมิ ไว้กบั สถานศกึ ษา แสดงผลการ ใหม่ แต่ให้ กรอกในใบ ของ เรยี นใหมแ่ ละ แนบเอกสาร แสดงผลการ สถานศึกษาที่ บันทกึ เดมิ ไวก้ บั ใบ เรยี น รบั เข้าเรียนใน ใบแสดงผลการ เรยี นของสถาน ศึกษาท่รี บั เข้า เรียน

๑๕ แนวทาง การเทยี บโอน การเทียบ การเทียบโอน การพิจารณา จากการศกึ ษา การเทยี บโอน โอน จากการ ในระบบเข้าส่กู ารศกึ ษาในระบบ จาก จากการจัด จดั การศึกษา หนว่ ยทไี่ ด้รับ จำนวนหน่วยที่ได้รับการเทียบโอนตาม การศกึ ษา การศกึ ษา นอกระบบ โดย โดยศนู ย์การ การเทียบโอน การเทียบโอน โครงสรา้ งหลักสูตรใหมไ่ ว้ในช่องหมาย เรยี นการศึกษา จากการศึกษา ตามโครงสร้าง เหตุ เข้าสู่ ครอบครัว หลักสตู รของ การศึกษา เขา้ สู่ ตามหลัก สตู ร ตามหลกั สูตร ในระบบ การศกึ ษา ระยะสน้ั ตา่ งประเทศ สถานศึกษา เดมิ ไวใ้ นชอ่ ง ในระบบ หลักสูตรเฉพาะ เขา้ สู่ หมายเหตุ แสดงผลการ ประสบการณ์ การศกึ ษา ๒. รายวิชา/ เรยี นใหม่ การทำงานการ ในระบบ สาระ/กิจกรรม และบันทึก ข้อมลู และ ฝกึ อาชีพเข้าสู่ ท่ียงั ไม่ได้ จำนวนหน่วย การศกึ ษาใน ตดั สนิ ผลการ ทไ่ี ด้รบั การ เทยี บโอนไว้ใน ระบบ เรยี นและได้รบั ช่อง การประเมนิ ให้ หมายเหตุ โดยไม่ตอ้ ง นำผลการ กรอกผลการ ประเมินกรอก เรียนและแนบ ในช่องหมาย ใบแสดงผลการ เหตุ เรยี นจาก สถานศกึ ษาเดมิ และสถานศึกษา ท่ีรบั เขา้ เรยี นไว้ ด้วยกัน และ บันทกึ ผลการ เทียบโอนไวใ้ น ชอ่ งหมายเหตุ ๒. รายวิชาที่ ยงั ไม่ได้ตัดสิน ผลการเรียน และสถานศกึ ษา ทร่ี บั เขา้ เรยี นได้ ประเมนิ ผลการ เรยี นแลว้ ให้นำ ผลการประเมิน กรอกไวใ้ นชอ่ ง หมายเหตุ

๑๖ การเทยี บโอน จากการ การเทยี บ จดั การศึกษา การเทียบโอน โอน โดยศนู ยก์ าร การเทยี บโอน จาก จากการจัด เรียนการศกึ ษา จากการศึกษา การศกึ ษา แนวทาง การเทียบโอน นอกระบบ การศกึ ษา ตามหลกั สูตร ตามหลกั สูตร การพจิ ารณา จากการศึกษา ในระบบเขา้ สกู่ ารศึกษาในระบบ เข้าสู่ โดย ระยะสั้น ตา่ งประเทศ การคิดผล การศึกษา การเรยี นเฉลีย่ การคดิ ผลการเรยี นเฉลย่ี ให้นำผลการ ในระบบ ครอบครัว หลกั สูตรเฉพาะ เขา้ สู่ เรียนและจำนวนหนว่ ยจาก สถานศึกษาเดมิ มาคิดรวมกับผลการ การคิดผล เขา้ สู่ ประสบการณ์ การศึกษา เรียนและจำนวนหนว่ ยท่ีไดจ้ ากการ การเรยี นเฉล่ีย เรียนในสถานศกึ ษาใหม่และคิดผล ให้คดิ จาก การศึกษา การทำงานการ ในระบบ เรยี นเฉลย่ี รวมตลอดระดบั ชั้น รายวชิ าท่มี ี จำนวนหน่วย ในระบบ ฝกึ อาชีพเขา้ สู่ และระดับผล การเรียนท่ีได้ การศกึ ษาใน เรียนใน สถานศึกษา ระบบ ใหม่ การคิดผล การคิดผลการ ไดต้ ัดสนิ ผล การเรียน เรียนเฉล่ียให้คิด การเรยี นจาก เฉลีย่ ให้คดิ จากรายวชิ าท่ไี ด้ หลักสตู ร จากรายวชิ า จากการเรียนใน ต่างประเทศท่ี ท่ไี ด้จาก สถานศึกษาใหม่ สถานศึกษาที่ เรยี นใน โดยไม่ต้องนำ รบั เขา้ เรยี นได้ สถานศกึ ษา ผลการประเมนิ ประเมนิ แล้ว ใหม่ โดยนำ ความรู้ ทักษะ และได้ระดบั ผลการ ประสบการณ์ ผลการเรียน ประเมินของ มาคดิ รวม ใหน้ ำมาคดิ ผล เขตพน้ื ทท่ี ่ีมี การเรยี นเฉลย่ี ระดับผลการ รวมกับผลการ เรียนมาคดิ เรยี นทไี่ ดจ้ าก รวม การเรยี นใน สถานศกึ ษาที่ รับเข้าเรียน ตลอดระดบั ชั้น

๑๗ หมวด 6 การรายงานผลการเรยี น การรายงานผลการเรียน เปน็ การแจง้ ผลการเรยี นรแู้ ละพฒั นาการในด้านตา่ ง ๆ ซง่ึ เป็นความก้าว หน้าของผู้เรียนใหผ้ ู้เรียนและผู้ที่เกี่ยวข้องรับทราบอย่างน้อยภาคเรียนละ 1 ครั้ง เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการ ปรับปรุงแก้ไขและส่งเสริมพัฒนาการของผู้เรียนให้ประสบความสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งใช้เป็น ข้อมูลสำหรับออกเอกสารหลักฐานการศึกษา การตรวจสอบ ยืนยัน การรับรองผลการเรียนและวุฒิ การศึกษาของผเู้ รียน ขอ้ 1๘ จุดมุ่งหมายการรายงานผลการเรยี น 1๘.1 เพอ่ื แจง้ ให้ผเู้ รยี น ผูเ้ กีย่ วข้องทราบความก้าวหน้าของผเู้ รียน 1๘.2 เพื่อให้ผู้เรียน ผู้เกี่ยวข้องใช้เป็นข้อมูลในการปรับปรุงแก้ไข ส่งเสริมและ พฒั นาการเรยี นของผ้เู รยี น 1๘.3 เพ่อื ให้ผเู้ รียน ผเู้ กี่ยวข้องใช้เปน็ ข้อมลู ในการวางแผนการเรียน กำหนดแนวทางา การศกึ ษาและการเลอื กอาชีพ 1๘.4 เพื่อเป็นข้อมูลให้ผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง ใช้ดำเนินการออกเอกสารหลักฐาน การศกึ ษาตรวจสอบและรับรองผลการเรยี น หรอื วฒุ ทิ างการศึกษาของผู้เรียน 1๘.5 เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับสถานศึกษา เขตพื้นที่การศึกษาและหน่วยงานต้นสังกัดใช้ ประกอบในการกำหนดนโยบาย วางแผนในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ข้อ ๑๙ ขอ้ มลู ในการรายงานผลการเรยี น ๑๙.1 ข้อมูลระดับชั้นเรียน ประกอบด้วย ผลการประเมินความรู้ ความสามารถ พฤติกรรมการเรียน ความประพฤติและผลงานในการเรียนของผู้เรียน เป็นข้อมูลสำหรับรายงานให้ผู้มีสว่ น เก่ียวขอ้ ง ได้แก่ ผูเ้ รียน ผสู้ อนและผู้ปกครอง ได้รับทราบความก้าวหน้า ความสำเรจ็ ในการเรยี นของผเู้ รียน เพ่ือนำไปใชใ้ นการวางแผนกำหนดเป้าหมายและวิธกี ารในการพฒั นาผเู้ รยี น ๑๙.2 ข้อมูลระดับสถานศึกษา ประกอบด้วย ผลการประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น กลุ่มสาระการเรียนรู้ 8 กลุ่มสาระ ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ผลการประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนรายปี/รายภาค ผลการประเมิน ความก้าวหน้าในการเรยี นรู้รายปี/รายภาคโดยรวมของสถานศึกษา เพื่อใช้เป็นข้อมูลและสารสนเทศในการ พัฒนาการเรียนการสอนและคุณภาพของผู้เรียน ให้เป็นไปตามมาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชี้วดั การตัดสินการ เลื่อนชั้นและการซ่อมเสริมผู้เรียนที่มีข้อบกพร่องให้ผ่านระดับชั้นและเป็นข้อมูลในการออกเอกสารหลักฐาน การศกึ ษา ๑๙.3 ข้อมูลการประเมินคุณภาพระดับเขตพื้นที่การศึกษา ได้แก่ ผลการประเมิน คุณภาพของผู้เรียนด้วยแบบประเมินที่สำนักงานเขตพื้นทีก่ ารศึกษาจัดทำข้ึนในกลุม่ สาระการเรียนรู้สำคัญใน ระดับชั้นที่นอกเหนือจากการประเมินคุณภาพระดับชาติ เป็นข้อมูลที่ผู้เกี่ยวข้องใช้วางแผนและดำเนินการ พัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศกึ ษาเพ่ือให้เกิดการยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการศกึ ษาของผูเ้ รยี น และสถานศึกษา

๑๘ ๑๙.4 ข้อมูลผลการประเมินคุณภาพระดับชาติ ได้แก่ ผลการประเมินคุณภาพของ ผู้เรียนด้วยแบบประเมินที่เป็นมาตรฐานระดับชาติในกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่สำคัญในประถมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งดำเนินการโดยหน่วยงานระดับชาติ เป็นข้อมูลที่ผู้เกี่ยวข้องใช้วางแผนและดำเนินการพัฒนาคุณภาพ การศกึ ษาในสว่ นทเี่ กี่ยวข้อง เพือ่ ให้เกดิ การยกระดับคณุ ภาพและมาตรฐานการศึกษาของผ้เู รียน สถานศึกษา และนำไปรายงานในเอกสารหลักฐานการศกึ ษาของผเู้ รยี น ๑๙.5 ข้อมูลพัฒนาการของผู้เรียนด้านอื่น ๆ ประกอบดว้ ย ขอ้ มูลเกยี่ วกับพัฒนาการ ทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคมและพฤติกรรมต่าง ๆ เป็นข้อมูลส่วนหนึ่งของการแนะแนวและ จัดระบบการดแู ลช่วยเหลือเพื่อแจ้งให้ผู้เรียน ผู้สอน ผู้ปกครอง และผู้เกี่ยวข้องได้รับทราบข้อมลู โดยผู้มี หน้าที่รับผิดชอบแต่ละฝ่ายนำไปใช้ปรบั ปรงุ แก้ไขและพัฒนาผู้เรียนใหเ้ กิดพฒั นาการอย่างถูกตอ้ ง เหมาะสม รวมทง้ั นำไปจดั ทำเอกสารหลักฐานแสดงพฒั นาการของผู้เรยี น ข้อ 2๐ ลกั ษณะขอ้ มลู สำหรับการรายงาน การรายงานผลการเรยี น สถานศกึ ษารายงานผลการเรียนดังนี้ 2๐.1 ผลการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้รายงานเป็นระดับผลการเรียน “0 – 4” ( 8 ระดับ) 2๐.2 ผลการประเมินการอ่านคิดวิเคราะห์และเขียน รายงานผลการประเมินคุณภาพ เป็น ดเี ย่ียม ดี ผา่ น และไมผ่ ่าน 2๐.3 ผลการประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงคร์ ายงานผลการประเมนิ คุณภาพเปน็ ดี เย่ยี ม ดี ผ่าน และไม่ผ่าน 2๐.4 ผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนรายงานผลการประเมินคุณภาพเป็น ผ่าน และ ไมผ่ ่าน ขอ้ 2๑ เปา้ หมายการรายงาน การดำเนินการจัดการศึกษา ประกอบด้วยบุคลากรหลายฝ่ายร่วมมือประสานงานกัน พัฒนาผู้เรียนทั้งทางตรงและทางอ้อม ให้ความรู้ความสามารถ คุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมอันพึง ประสงค์ โดยมีผู้มีส่วนเกี่ยวข้องควรได้รับการรายงานผลการประเมินของผู้เรียนเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการ ดำเนินงานดังนี้ กลมุ่ เปา้ หมาย การใชข้ อ้ มูล ผู้เรียน - ปรับปรุง แก้ไขและพฒั นาการเรยี น รวมท้ังพัฒนาร่างกาย อารมณ์ ผูส้ อน สังคมและพฤตกิ รรมตา่ งๆ ของคน ครูวัดผล นายทะเบยี น - วางแผนการเรียน การเลือกแนวทางการศึกษา และอาชพี ในอนาคต ครูแนะแนว - แสดงผลการเรียน ความรู้ ความสามารถ และวฒุ ิการศึกษาของตน - วางแผนและดำเนนิ การปรับปรุง แกไ้ ขและพัฒนาผ้เู รียน - ปรับปรุง แก้ไขและพฒั นาการจดั การเรยี นการสอน - ตรวจสอบความถูกต้องในการประเมนิ ผลของผสู้ อน/ผเู้ รยี น - พฒั นาระบบ ระเบยี บและแนวทางการประเมินผลการเรยี น - จดั ทำเอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา - ใหค้ ำแนะนำผเู้ รียนในดา้ นตา่ ง ๆ

๑๙ กลมุ่ เป้าหมาย การใชข้ ้อมลู คณะกรรมการบรหิ าร - พิจารณาใหค้ วามเหน็ ชอบผลการเรียนของผู้เรยี น หลักสตู รและวชิ าการของ - พัฒนาแนวทางการจดั การศกึ ษาของสถานศึกษา สถานศกึ ษา ผบู้ รหิ ารสถานศึกษา - พิจารณาตัดสิน และอนุมัตผิ ลการเรยี นของผู้เรียน - พัฒนากระบวนการจดั การเรยี นของสถานศึกษา - วางแผนการบริหารจดั การศกึ ษาด้านต่าง ๆ ผู้ปกครอง - รับทราบผลการเรียนและพัฒนาการของผ้เู รียน - ปรบั ปรุง แก้ไขและพฒั นาการเรียนของผู้เรยี น รวมท้งั การดูแล สุขภาพอนามัย ร่างกาย จติ ใจ อารมณ์ สังคมและพฤติกรรมตา่ ง ๆ ของผเู้ รียน - พิจารณาวางแผนและสง่ เสรมการเรียน การเลอื กแนวทางการศกึ ษา และอาชีพในอนาคตของผู้เรยี น ฝา่ ย/หน่วยงานทม่ี ีหนา้ ที่ - ตรวจสอบ และรับรองผลการเรยี นและวฒุ กิ ารศกึ ษาของผเู้ รยี น ตรวจสอบรบั รองความรู้ - เทยี บระดับ/วุฒกิ ารศกึ ษาของผู้เรยี น และวฒุ กิ ารศกึ ษา/ - เทยี บโอนผลการเรยี น สถานศกึ ษา สำนกั งานเขตพืน้ ที่ - ยกระดับและพฒั นาการศกึ ษาของสถานศึกษาในเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษา การศกึ ษา/หน่วยงานต้น - นเิ ทศ ติดตาม และให้ความชว่ ยเหลือการพฒั นาคณุ ภาพการศึกษา สังกดั ของสถานศกึ ษาทมี่ ผี ลการประเมนิ ต่ำกวา่ คา่ เฉล่ียของสำนักงานเขต พื้นทก่ี ารศึกษา ขอ้ 2๒ วิธีการรายงาน การรายงานผลการเรียนให้ผูเ้ กยี่ วขอ้ งรบั ทราบ ดำเนนิ การดงั นี้ 2๒.1 การรายงานผลการเรยี นในเอกสารหลักฐานการศกึ ษา ไดแ้ ก่ 2๒.1.1 ระเบยี บแสดงผลการเรียน (ปพ.1) 2๒.1.2 แบบรายงานผูส้ ำเร็จการศกึ ษา (ปพ.3) 2๒.1.3 แบบรายงานผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนรายบุคคล 2๒.1.4 แบบบันทึกผลการเรียนประจำรายวชิ า 2๒.1.5 ระเบยี นสะสม 2๒.1.6 ใบรับรองผลการเรยี น 2๒.1.7 แบบบันทึกผลการประเมินมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดชั้นปี / ผลการเรียนรู้ / จุดประสงค์การเรียนรู้ 2๒.2 การรายงานคณุ ภาพการศึกษาใหผ้ ้เู กี่ยวข้องทราบ รายงานหลายวิธี เชน่ 2๒2๒.2.1 รายงานคุณภาพการศึกษาประจำปี 2๒.2.2 วารสาร/จุลสารของสถานศึกษา 2๒.2.3 จดหมายส่วนตัว 2๒.2.4 การใหค้ ำปรกึ ษาหารอื เปน็ รายบคุ คล 2๒.2.5 การให้พบครทู ีป่ รึกษาหรือการประชุมผูป้ กครอง

๒๐ ข้อ 2๓ การกำหนดระยะเวลาในการรายงาน ดังนี้ 2๓.1 ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนกลุ่มสาระการเรยี นรู้ 8 กล่มุ สาระ ผลการประเมนิ การอ่าน คดิ วเิ คราะห์และเขยี น ผลการประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ผลการประเมินกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน จะรายงานหลังจากประเมินผลปลายปแี ล้วเสร็จภายใน 15 วนั 2๓.2 ผลการประเมนิ คณุ ภาพระดบั เขตพ้ืนทกี่ ารศึกษา จะรายงานผลหลังจากได้ รับทราบผลภายใน 7 วนั 2๓.3 ผลการประเมินคณุ ภาพระดบั ชาติ จะรายงานผลหลังจากไดร้ บั ทราบภายใน 7 วนั 2๓.4 ข้อมลู พัฒนาการของนกั เรยี นประกอบด้วย ขอ้ มลู เกยี่ วกบั พัฒนาการทางด้าน รา่ งกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และพฤตกิ รรมต่าง ๆ จะรายงานใหท้ ราบพรอ้ มกบั การรายงานผลในขอ้ 1 หมวด 7 เอกสารหลกั ฐานการศึกษา หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กำหนดให้มีเอกสารหลักฐานทาง การศกึ ษา 2 ประเภท คอื เอกสารหลกั ฐานการศึกษาที่กระทรวงศกึ ษาธกิ ารกำหนด และเอกสารหลักฐาน การศกึ ษาทีส่ ถานศกึ ษากำหนด รายละเอียด ดงั น้ี ข้อ 2๔ เอกสารหลักฐานการศึกษาที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดเป็นเอกสารควบคุมและบังคับ แบบ เรียกว่า แบบประเมินผลตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน (ปพ.) จัดทำขึ้นเพื่อตัดสิน รับรองผลการเรียน ของผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ที่ใช้เป็น หลกั ฐานสำหรบั การตรวจสอบ ยนื ยัน และรบั รองคณุ สมบัตทิ างการศึกษาของผู้เรยี นได้ตลอดไป สถานศกึ ษา ต้องใช้แบบพิมพแ์ ละดำเนินการจัดทำตามที่กระทรวงศกึ ษาธกิ ารกำหนดไวเ้ ปน็ มาตรฐานเดยี วกัน ดังน้ี 2๕.1 เอกสารหลกั ฐานการศึกษาควบคุมและบงั คบั แบบ มีดงั นี้ 2๕.1.1 ระเบยี นแสดงผลการเรียน (ปพ.1) เป็นหลักฐานเพอ่ื แสดงผลการเรียนและ รับรองผลการเรยี นของผู้เรียนตามรายวิชา ผลการประเมินการอ่าน คิดวเิ คราะห์และเขยี น ผลการประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของสถานศึกษา และผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน สถานศึกษาจะต้อง บันทึกข้อมูล และออกเอกสารนี้ให้ผู้เรียนเป็นรายบุคคล เมื่อผู้เรียนจบการศึกษาระดับประถมศึกษา (ช้ัน ประถมศกึ ษาปีท่ี 6) หรอื เมอ่ื ลาออกจากสถานศึกษาในทุกกรณี ระเบยี นแสดงผลการเรียน (ปพ.1) นำไปใชป้ ระโยชน์ ดังน้ี - แสดงผลการเรยี นของผ้เู รียนตามโครงสร้างหลกั สตู รของสถานศกึ ษา - รบั รองผลการเรียนของผูเ้ รียนตามขอ้ มลู ที่บันทึกในเอกสาร - ตรวจสอบผลการเรียนและวฒุ กิ ารศึกษาของผู้เรียน - ใช้เป็นหลักฐานการศึกษาเพื่อสมัครเข้าศึกษาต่อ สมัครงานหรือขอรับ สทิ ธปิ ระโยชน์อ่นื ใดท่ีพึงมไี ดต้ ามวุฒกิ ารศึกษานัน้ 2๕.1.2 แบบรายงานผู้สำเร็จการศกึ ษา (ปพ. 3) เป็นเอกสารอนมุ ัติการจบหลักสูตร โดยบันทกึ รายชื่อและข้อมูลของผจู้ บการศกึ ษาระดบั ประถมศกึ ษา (ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 6)

๒๑ แบบรายงานผูส้ ำเร็จการศึกษา (ปพ.3) นำไปใช้ประโยชน์ ดังนี้ - ใช้ตดั สนิ และอนมุ ตั ิผลการเรยี นของผู้เรียน - แสดงรายชื่อผู้จบหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน แต่ละระดับ การศึกษาทไ่ี ด้รบั การรบั รองวุฒิจากกระทรวงศกึ ษาธกิ าร - ใช้สำหรับตรวจสอบ ค้นหา พิสูจน์ ยืนยันและรับรองวุฒิหรือผล การศึกษาของผู้จบหลักสตู รการศกึ ษา 2๕.2 เอกสารหลกั ฐานการศึกษาทีส่ ถานศึกษาดำเนินการเอง เอกสารหลักฐานการศึกษาที่สถานศึกษากำหนด เป็นเอกสารที่จัดทำขึ้นเพ่ือ บนั ทกึ พฒั นาการผลการเรยี นรู้ และขอ้ มลู สำคัญเกีย่ วกบั ผูเ้ รยี น เช่น แบบบนั ทึกผลการเรียนประจำรายวิชา แบบรายงานประจำตัวนักเรียน ระเบียนสะสม ใบรับรองผลการเรยี น และเอกสารอืน่ ๆ ตามวัตถุประสงค์ ของการนำเอกสารไปใช้ 2๕.2.1 แบบรายงานผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนรายบุคคล เป็นเอกสารที่สถานศึกษา จัดทำขึ้นเพื่อบันทึกข้อมูลผลการเรียนรายวิชา และพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของผู้เรียนแต่ละคน ตามเกณฑ์ การตดั สินผ่านระดบั ช้นั ของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน รวมทั้งข้อมูลดา้ นอน่ื ๆ ของผู้เรียนที่บ้าน และสถานศึกษา โดยจัดทำเป็นเอกสารรายบุคคล เพื่อใช้สำหรับสื่อสารให้ผู้ปกครองของผู้เรียนแต่ละคนได้ รบั ทราบผลการเรยี นและพัฒนาการดา้ นตา่ ง ๆ ของผ้เู รยี นอยา่ งต่อเน่ือง แบบรายงานประจำตวั นกั เรียน นำไปใชป้ ระโยชน์ ดังน้ี - รายงานผลการเรียน ความประพฤติ และพฒั นาการของผ้เู รยี นใหผ้ ู้แกครองได้รบั ทราบ - ใชเ้ ปน็ เอกสารสอ่ื สาร ประสานงาน เพอ่ื ความรว่ มมือในการพฒั นาและปรบั ปรงุ แกไ้ ข ผู้เรียน - เป็นเอกสารสำหรับตรวจสอบ ยืนยัน และรับรองผลการเรียนและพัฒนาการต่าง ๆ ของ ผู้เรียน 2๕.2.2 แบบบันทึกผลการเรียนประจำรายวิชา เป็นเอกสารที่สถานศึกษาจัด ทำขน้ึ เพอ่ื ใหค้ รผู ้สู อนใชบ้ ันทึกพัฒนาการ ผลการเรยี นรู้ กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ และการอา่ น คดิ วิเคราะห์ และเขยี น สำหรับการพจิ ารณาตัดสินผลการเรยี นแตล่ ะรายวิชาเป็นรายห้องเรยี น เอกสารบันทกึ ผลการเรยี นรายวชิ า นำไปใช้ประโยชน์ ดงั น้ี - ใช้บันทึกพัฒนาการผลการเรียนรู้ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ การอ่าน คิด วิเคราะห์ และเขยี น และผลการประเมนิ กจิ กรรมพัฒนาผ้เู รยี นของผเุ้ รียนแตล่ ะรายวชิ า - ใช้เป็นหลักฐานสำหรับตรวจสอบ รายงาน และรับรองข้อมูลเกี่ยวกับ พฒั นาการ และผลการเรียนรูข้ องผเู้ รียน เอกสารบันทึกผลการเรยี นรายวิชา นำไปใชป้ ระโยชน์ ดังนี้ - ใช้บันทึกพัฒนาการผลการเรียนรู้ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ การอ่าน คิด วเิ คราะห์ และเขยี น และผลการประเมนิ กิจกรรมพฒั นาผู้เรียนของผู้เรยี นแต่ละรายวิชา - ใช้เป็นหลักฐานสำหรับตรวจสอบ รายงาน และรับรองข้อมูลเกี่ยวกับ พัฒนาการ และผลการเรียนรู้ของผ้เู รียน 2๕.2.3 ระเบียนสะสม เป็นเอกสารที่สถานศึกษาจัดทำขึ้น เพื่อบันทึกข้อมูล เกี่ยวกับพัฒนาการของผู้เรียนในด้านต่างๆ เป็นรายบุคคล โดยจะบันทึกข้อมูลของผู้เรียนอย่างต่อเนื่อง ตลอดชว่ งระยะเวลาการศึกษาตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน 12 ปี

๒๒ ระเบียนสะสม นำไปใช้ประโยชน์ ดังนี้ - ใช้เป็นข้อมลู ในการแนะแนวทางการศึกษาและการประกอบอาชีพของผู้เรียน - ใชเ้ ปน็ ข้อมลู ในการพัฒนาปรบั ปรุงบุคลกิ ภาพ ผลการเรยี น และการปรบั ตัว ของผเู้ รยี น - ใช้ติดต่อสื่อสาร รายงานพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนระหว่างสถานศึกษากบั ผ้ปู กครอง - ใช้เปน็ หลกั ฐานสำหรับตรวจสอบ รับรอง และยืนยนั คณุ สมบัตขิ องผ้เู รยี น 2๕.2.4 ใบรับรองผลการเรียน เป็นเอกสารที่สถานศึกษาจัดทำขึ้นเพื่อใช้เป็น เอกสารสำหรบั รับรองความเป็นนกั เรยี นของผ้เู รียนเปน็ การช่วั คราวตามทผ่ี ู้เรียนร้องขอ ทั้งกรณีทผ่ี ูเ้ รยี นกำลัง ศึกษาอย่ใู นสถานศึกษาและเมื่อจบการศกึ ษาไปแลว้ ใบรับรองผลการเรยี น นำไปใช้ประโยชน์ ดงั นี้ - รบั รองความเป็นนกั เรยี นของสถานศกึ ษาที่เรยี นหรือท่เี คยเรยี น - รบั รองและแสดงความรู้ วฒุ ิการศกึ ษาของผเู้ รียน - ใช้เป็นหลักฐานแสดงคุณสมบัติของผู้เรียนในการสมัครเข้าศึกษาต่อ สมัครเข้าทำงาน หรือมีกรณีอื่นใดท่ีผูเ้ รยี นแสดงคุณสมบตั ิเกี่ยวกับวุฒิ ความรู้ หรอื สถานการณเ์ ป็นผ้เู รียนของตน - เป็นหลักฐานสำหรับตรวจสอบ รับรอง ยืนยันการใช้สิทธิ์ความเป็น ผเู้ รยี น หรือการไดร้ บั การรบั รองจากสถานศึกษา 2๕.2.5 แบบบันทึกผลการประเมินมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดชั้นปี /ผลการ เรียนรู้ / จุดประสงค์การเรียนรู้ เป็นเอกสารที่สถานศึกษาจัดทำขึ้น เพื่อใช้เป็นเอกสารหลักฐานสำหรับ แสดงผลการเรียนตามมาตรฐาน/ตัวชี้วัดชั้นปี โดยแสดงผลการประเมินมาตรฐาน/ตัวชี้วัดชั้นปี ที่ผู้เรียนได้ ประเมินไปแล้วในระดับชั้นที่ผู้เรียนกำลังศึกษาอยู่ สถานศึกษาจะออกเอกสารหลักฐานแบบบันทึกผลการ ประเมินมาตรฐาน/ตัวชว้ี ดั ชัน้ ปี เมื่อผูเ้ รยี นย้ายทเี่ รยี นไปยังสถานศึกษาอน่ื ในขณะทยี่ ังไมไ่ ด้รับการประเมินผล ปลายปกี ารศึกษานนั้

๒๓ หมวด 8 การยา้ ยที่เรยี น ข้อ 2๖ นักเรียนคนใดจำเป็นต้องย้ายที่เรียน โรงเรียนจัดทำเอกสารหลักฐานการเรียนของ นกั เรียนไปใหโ้ รงเรียนใหม่ ดงั นี้ คือ 2๖.1 ระเบียนแสดงผลการเรียน (ปพ.1) 2๖.2 แบบรายงานผลการพัฒนาคุณภาพผเู้ รยี นรายบคุ คล 2๖.3 ระเบยี นสะสม 2๖.4 แบบบันทกึ ผลการประเมนิ มาตรฐานการเรียนรู้ /ตัวชวี้ ัด / ผลการเรยี นรู้ / จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ประกาศ ณ วนั ท่ี ๓๑ เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 256๔ (นายอนนั ต์ ทองประทปี ) (นางสาวอมรา โพธ์ทิ อง) ประธานคณะกรรมการสถานศกึ ษาขั้นพื้นฐาน ผ้อู ำนวยการโรงเรยี นวัดพรหมเทพาวาส โรงเรยี นวดั พรหมเทพาวาส

๒๔ ภาคผนวก

๒๕ ภาคผนวก ก คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ตามหลกั สตู รแกนกลาง การศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551

๒๖ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ตามหลักสตู รแกนกลาง การศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 คุณลักษณะอนั พึงประสงคท์ งั้ 8 ประการ ไดแ้ ก่ 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2) ซอื่ สตั ยส์ ุจริต 3) มีวนิ ยั 4) ใฝ่เรียนรู้ 5) อย่อู ยา่ งพอเพยี ง 6) มุง่ มัน่ ในการทำงาน 7) รกั ความเป็นไทย 8) มจี ติ สาธารณะ การนำคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงคท์ ้ัง 8 ประการดงั กลา่ ว ไปพฒั นาผเู้ รยี นให้มีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธผิ ลนั้น สถานศกึ ษาตอ้ งมคี วามเข้าใจเกย่ี วกับคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงคอ์ ย่างชัดเจนโดย พจิ ารณาจาก นยิ าม ตัวชวี้ ัดพฤติกรรมบ่งชี้ และเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนของคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ซง่ึ มี รายละเอยี ด ดังนี้ ข้อที่ 1 รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ นิยาม รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ หมายถึง คุณลักษณะที่แสดงออกถึงการเป็นพลเมืองดีของชาติ ธำรงไว้ซ่ึง ความเปน็ ชาตไิ ทย ศรัทธา ยดึ มนั่ ในศาสนา และเคารพเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตรยิ ์ ผู้ที่รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ คือ ผู้ที่มีลักษณะซึ่งแสดงออกถึงการเป็นพลเมืองดีของชาติ มคี วามสามคั คีปรองดอง ภมู ใิ จ เชดิ ชูความเป็นชาตไิ ทย ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ศาสนาทต่ี นนับถือ และแสดงความจงรักภกั ดตี ่อสถาบนั พระมหากษัตริย์ ตัวชวี้ ัด 1.1 เปน็ พลเมืองดีของชาติ 1.2 ธำรงไวซ้ งึ่ ความเป็นชาตไิ ทย 1.3 ศรทั ธา ยดึ มน่ั และปฏิบัติตนตามหลกั ศาสนา 1.4 เคารพเทิดทูนสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ ตวั ชี้วัดและพฤติกรรมบ่งชี้ พฤติกรรมบง่ ช้ี ตวั ชีว้ ัด 1.1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ รอ้ งเพลงชาติ และอธิบายความหมาย 1.1 เป็นพลเมอื งดีของชาติ ของเพลงชาตไิ ด้ถูกต้อง 1.1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธิ และหนา้ ท่พี ลเมอื งดขี องชาติ 1.2 ธำรงไวซ้ ึง่ ความเปน็ 1.1.3 มคี วามสามัคคี ปรองดอง ชาตไิ ทย 1.2.1 เข้ารว่ ม สง่ เสริม สนับสนนุ กิจกรรมท่สี ร้างความสามัคคี ปรองดอง ทเ่ี ปน็ ประโยชนต์ ่อโรงเรยี น ชุมชนและสงั คม 1.2.2 หวงแหน ปกปอ้ ง ยกยอ่ งความเป็นชาตไิ ทย

๒๗ ตัวชว้ี ัด พฤติกรรมบง่ ช้ี 1.3 ศรัทธา ยดึ มนั่ และปฏบิ ตั ติ น 1.3.1 เข้ารว่ มกจิ กรรมทางศาสนาท่ีตนนับถือ ตามหลักของศาสนา 1.3.2 ปฏิบัติตนตามหลกั ของศาสนาทีต่ นนับถือ 1.3.3 เป็นแบบอย่างทีด่ ีของศาสนิกชน 1.4 เคารพเทดิ ทนู สถาบนั 1.4.1 เข้าร่วมและมีส่วนร่วมในการจัดกจิ กรรมที่เก่ยี วกบั สถาบัน พระมหากษัตรยิ ์ พระมหากษตั รยิ ์ 1.4.2 แสดงความสำนกึ ในพระมหากรณุ าธิคณุ ของพระมหากษัตรยิ ์ 1.4.3 แสดงออกซงึ่ ความจงรกั ภักดตี อ่ สถาบันพระมหากษัตริย์ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ระดับประถมศึกษา ตัวช้วี ัดท่ี 1.1 เปน็ พลเมอื งดีของชาติ พฤตกิ รรมบ่งช้ี ไมผ่ า่ น (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดีเยี่ยม(3) 1.1.1 ยนื ตรง ไมย่ นื ตรงเคารพ ยืนตรงเมอ่ื ไดย้ นิ ยืนตรงเม่ือไดย้ นิ ยนื ตรงเมื่อไดย้ นิ เคารพธงชาติ รอ้ ง ธงชาติ เพลงชาติ และ เพลงชาติ ร้องเพลง เพลงชาติ รอ้ งเพลง เพลงชาติ รอ้ งเพลง อธบิ ายความหมาย ของเพลงชาติ ชาติ และอธิบาย ชาติ และอธิบาย ชาติ และอธิบาย ไดถ้ กู ต้อง 1.1.2 ปฏบิ ตั ิ ความหมายของ ความหมายของ ความหมายของ ตนตามสทิ ธิ หนา้ ที่ พลเมืองดีของชาติ เพลงชาติไดถ้ ูกต้อง เพลงชาตไิ ด้ถูกต้อง เพลงชาติได้ถกู ต้อง 1.1.3 มีความ สามคั คีปรองดอง ปฏิบัตติ นตามสทิ ธิ ปฏบิ ตั ิตนตามสิทธิ ปฏิบัติตนตามสทิ ธิ และหนา้ ทขี่ อง และหนา้ ท่ขี อง และหนา้ ทีข่ อง นกั เรียน และให้ นกั เรยี นและให้ พลเมืองดี และให้ ความรว่ มมือรว่ มใจ ความร่วมมือร่วมใจ ความร่วมมอื ร่วมใจ ในการทำกจิ กรรม ในการทำกิจกรรม ในการทำกิจกรรม กบั สมาชกิ ในชนั้ กับสมาชิกใน กบั สมาชกิ ใน เรยี น โรงเรียน โรงเรียนและชมุ ชน ตัวช้ีวัดท่ี 1.2 ธำรงไว้ซึ่งความเป็นชาตไิ ทย พฤตกิ รรมบ่งชี้ ไม่ผ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดเี ยี่ยม(3) 1.2.1 เขา้ ร่วม ไม่เข้าร่วม เขา้ รว่ มกจิ กรรมท่ี เข้ารว่ มกจิ กรรม เข้ารว่ มกิจกรรม ส่งเสรมิ สนับสนุน กิจกรรมท่ีสรา้ ง สร้างความสามัคคี และมสี ว่ นรว่ มใน และมสี ่วนร่วมใน กิจกรรมทสี่ รา้ ง ความสามัคคี ปรองดอง และเปน็ การจัดกิจกรรมที่ การจัดกิจกรรมที่ ความสามัคคี ประโยชน์ตอ่ สรา้ งความสามัคคี สรา้ งความสามัคคี ปรองดอง โรงเรียนและชุมชน ปรองดองและเป็น ปรองดองและเปน็ ท่ีเป็นประโยชน์ ประโยชนต์ ่อ ประโยชนต์ อ่ ตอ่ โรงเรียน โรงเรยี น และชุมชน โรงเรยี น ชุมชน ชมุ ชนและสังคม 1.2.2 หวงแหน และสังคม ช่นื ชมใน ปกปอ้ ง ยกย่อง ความเปน็ ชาตไิ ทย ความเป็นชาติไทย

๒๘ ตัวชวี้ ัดที่ 1.3 ศรัทธา ยดึ มน่ั และปฏิบัติตนตามหลกั ของศาสนา พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไม่ผา่ น (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดเี ยย่ี ม(3) 1.3.1 เข้าร่วม ไม่เข้ารว่ ม เข้าร่วมกิจกรรม เขา้ รว่ มกิจกรรม เข้าร่วมกิจกรรม กิจกรรมทางศาสนา กิจกรรมทาง ทางศาสนาท่ตี นนับ ทางศาสนาทต่ี นนับ ทางศาสนา ทตี่ นนบั ถือ ศาสนาท่ีตน ถือและปฏิบตั ติ น ถือและปฏิบัติตน ทต่ี นนับถือปฏิบัติ 1.3.2 ปฏิบตั ติ น นบั ถอื ตามหลกั ของ ตามหลกั ของ ตนตามหลกั ตามหลกั ของศาสนา ศาสนาตามโอกาส ศาสนาอย่าง ของศาสนาอยา่ ง ท่ีตนนับถอื สม่ำเสมอ สม่ำเสมอ 1.3.3 เปน็ และเปน็ แบบอย่าง แบบอยา่ งทดี่ ขี อง ทีด่ ขี องศาสนกิ ชน ศาสนิกชน ตัวชวี้ ัดท่ี 1.4 เคารพเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ พฤติกรรมบ่งชี้ ไม่ผ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดีเยี่ยม(3) 1.4.1 เขา้ ร่วม ไมเ่ ข้าร่วม เขา้ รว่ มกจิ กรรมที่ เขา้ รว่ มกิจกรรม เข้าร่วมกจิ กรรม และมีสว่ นรว่ ม กิจกรรมท่ี เก่ียวกับสถาบัน และมีสว่ นร่วมใน และมีสว่ นร่วมใน การจัดกิจกรรมท่ี การจดั กิจกรรมที่ ในการจัดกิจกรรมท่ี เกย่ี วกบั สถาบัน พระมหากษตั ริย์ เกี่ยวกับสถาบัน เก่ียวกับสถาบนั เก่ียวกับสถาบนั พระมหากษตั ริย์ ตามทโี่ รงเรียนและ พระมหากษตั ริย์ พระมหากษัตรยิ ์ พระมหากษัตรยิ ์ ชมุ ชนจดั ขน้ึ ตามทโ่ี รงเรียนและ ตามทโี่ รงเรียนและ ชุมชนจดั ข้นึ ชุมชนจดั ขึน้ ชื่นชม 1.4.2 แสดง ในพระราชกรณยี ความสำนึกใน กจิ พระปรชี า สามารถของ พระมหากรุณาธคิ ุณ พระมหากษตั รยิ ์ ขอพระมหากษัตริย์ และพระราชวงศ์ 1.4.3 แสดงออกซ่งึ ความจงรกั ภักดีต่อ สถาบนั พระมหา กษตั รยิ ์ ขอ้ ท่ี 2 ซอ่ื สตั ยส์ ุจรติ นิยาม ซ่อื สัตยส์ ุจรติ หมายถึง คณุ ลกั ษณะท่แี สดงออกถงึ การยึดมัน่ ในความถกู ต้องประพฤติตรงตามความ เปน็ จริงตอ่ ตนเองและผอู้ ่นื ทง้ั ทางกาย วาจา ใจผู้ท่ีมีความซื่อสตั ย์สจุ ริต คือ ผู้ท่ีประพฤติตรงตามความเป็นจริง ทัง้ ทางกาย วาจา ใจ และยดึ หลักความจริง ความถูกตอ้ งในการดำเนินชีวิตมคี วามละอายและเกรงกลวั ตอ่ การ กระทำผิด ตัวชี้วัด 2.1 ประพฤตติ รงตามความเปน็ จรงิ ต่อตนเองทั้งทางกาย วาจา ใจ 2.2 ประพฤติตรงตามความเปน็ จรงิ ต่อผ้อู ืน่ ทงั้ ทางกาย วาจา ใจ

๒๙ ตวั ชีว้ ัดและพฤตกิ รรมบง่ ช้ี พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ตวั ชว้ี ัด 2.1.1 ให้ข้อมลู ที่ถูกตอ้ งและเป็นจริง 2.1 ประพฤติตรงตาม 2.1.2 ปฏิบตั ติ นโดยคำนงึ ถึงความถกู ตอ้ งละอายและเกรงกลวั ความเป็นจริงตอ่ ตนเองทัง้ ทาง ตอ่ การกระทำผิด กาย วาจา ใจ 2.1.3 ปฏบิ ัตติ ามคำม่นั สญั ญา 2.2 ประพฤตติ รงตาม 2.2.1 ไมถ่ อื เอาส่งิ ของหรอื ผลงานของผู้อ่นื มาเป็นของตนเอง ความเป็นจริงตอ่ ผ้อู ่นื ทัง้ ทาง 2.2.2 ปฏิบตั ติ นตอ่ ผอู้ ่นื ดว้ ยความซอ่ื ตรง กาย วาจา ใจ 2.2.3 ไมห่ าประโยชน์ในทางทีไ่ ม่ถกู ต้อง เกณฑ์การใหค้ ะแนน ระดับประถมศึกษา ตวั ชี้วัดที่ 2.1 ประพฤติตรงตามความเปน็ จริงตอ่ ตนเองทงั้ ทางกาย วาจา ใจ พฤติกรรมบ่งชี้ ไมผ่ ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดเี ยี่ยม(3) 2.1.1 ให้ข้อมูลท่ี ไม่ใหข้ อ้ มูลท่ี ใหข้ ้อมูลท่ถี กู ตอ้ ง ให้ข้อมลู ทีถ่ ูกต้อง ให้ขอ้ มลู ที่ถูกต้อง ถกู ต้องและเป็นจริง ถูกตอ้ งและเปน็ จรงิ และเปน็ จรงิ 2.1.2 ปฏิบตั ิตน ปฏบิ ัตใิ นสงิ่ ที่ และเป็นจริง ปฏบิ ัติ และเปน็ จรงิ ปฏิบัติ โดยคำนึงถึง ถกู ต้อง ทำตาม ความถกู ตอ้ ง สัญญาท่ีตนให้ไว้ ในส่งิ ทีถ่ กู ตอ้ ง ในสิ่งทถ่ี ูกตอ้ ง ละอายและ กบั เพ่ือน เกรงกลัว พอ่ แม่ หรอื ทำตามสัญญาท่ีตน ทำตามสญั ญาทีต่ นให้ ตอ่ การกระทำผิด ผู้ปกครอง 2.1.3 ปฏบิ ตั ิตาม และครู ละอาย ใหไ้ วก้ บั เพอื่ นพ่อแม่ ไว้กับเพ่อื น คำม่ันสัญญา และเกรงกลวั ทจี่ ะทำความผดิ หรอื ผู้ปกครอง และ พ่อแม่ หรือ ครู ละอายและเกรง ผปู้ กครอง และครู กลัวท่จี ะทำ ละอายและ ความผิด เกรงกลวั ทีจ่ ะทำ ความผิดเป็น แบบอย่างทีด่ ีด้าน ความซอื่ สตั ย์ ตวั ชวี้ ัดที่ 2.2 ประพฤตติ รงตามความเป็นจริงต่อผูอ้ ่ืนทงั้ ทางกาย วาจา ใจ พฤติกรรมบ่งชี้ ไมผ่ า่ น (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดเี ย่ียม(3) 2.2.1 ไม่ถือเอาสิ่งของ นำส่ิงของของ ไมน่ ำส่งิ ของ และ ไมน่ ำสง่ิ ของ และ ไมน่ ำสงิ่ ของ และ หรอื ผลงานของผู้อ่นื คนอ่นื มาเป็น ผลงานของผ้อู ืน่ มา มาเปน็ ของตนเอง ของตนเอง ผลงานของผู้อ่นื ผลงานของผ้อู ื่นมา เป็นของตนเองปฏบิ ัติ 2.2.2 ปฏบิ ตั ติ นต่อ ตนตอ่ ผู้อนื่ ดว้ ยความ ผอู้ ่นื ดว้ ยความซ่ือตรง มาเป็นของตนเอง เปน็ ของตนเอง ซ่อื ตรง 2.2.3 ไมห่ าประโยชน์ ปฏิบตั ิตนต่อผู้อืน่ ปฏิบัติตนตอ่ ผอู้ ื่น ด้วยความซื่อตรง ด้วยความซ่อื ตรง ไม่หา

๓๐ ข้อที่ 3 มวี ินยั นยิ าม มีวนิ ัย หมายถึง คุณลกั ษณะทแี่ สดงออกถึงการยดึ มั่นในข้อตกลง กฎเกณฑ์ และระเบียบ ข้อบงั คบั ของครอบครัว โรงเรียน และสังคม ผู้ที่มีวนิ ัย คือ ผู้ที่ปฏบิ ตั ิตนตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คบั ของครอบครัว โรงเรยี น และสงั คมเป็นปกตวิ สิ ยั ไม่ละเมิดสิทธขิ องผูอ้ ืน่ ตวั ชวี้ ัด 3.1 ปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบขอ้ บังคับของครอบครวั โรงเรียน และสังคม ตัวชวี้ ัดและพฤติกรรมบ่งชี้ ตวั ชว้ี ัด พฤติกรรมบง่ ช้ี 3.1 ปฏบิ ัตติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ 3.1.1 ปฏิบัติตน ตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คบั ระเบียบ ขอ้ บงั คบั ของ ของครอบครวั โรงเรยี นและสงั คม ไม่ละเมิดสิทธิของผอู้ ื่น ครอบครวั โรงเรยี น และสงั คม 3.1.2 ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมต่าง ๆ ในชีวติ ประจำวัน และ รบั ผิดชอบในการทำงาน เกณฑ์การให้คะแนน ระดับประถมศึกษา ตัวช้ีวัดท่ี 3.1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบงั คับของครอบครัว โรงเรียนและสังคม พฤติกรรมบ่งช้ี ไมผ่ ่าน (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดีเยย่ี ม(3) 3.1.1 ปฏบิ ัติตนตาม ไม่ปฏิบัติตนตาม ปฏิบัตติ ามข้อตกลง ปฏบิ ัตติ ามข้อตกลง ปฏิบตั ิตาม กฎเกณฑ์ ระเบียบ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ ตกลงกฎเกณฑ์ ขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ข้อตกลง กฎเกณฑ์ ขอ้ บงั คบั ของ ข้อบังคบั ของ ระเบยี บ ขอ้ บังคับ ครอบครวั และ ครอบครวั และ ของครอบครัว ระเบียบข้อบงั คับของ ระเบยี บ ข้อบังคบั โรงเรียน ตรงตอ่ โรงเรยี น ตรงตอ่ โรงเรยี นและ เวลาในการปฏบิ ตั ิ เวลาในการปฏบิ ัติ สังคม ไมล่ ะเมิด ครอบครัว โรงเรียน ของครอบครัวและ กิจกรรมต่าง ๆ กจิ กรรมตา่ งๆ ใน สทิ ธิของผู้อืน่ ในชีวิต ชวี ติ ประจำวนั และ ตรงตอ่ เวลา และสังคม ไม่ละเมิด โรงเรยี น ประจำวนั รับผิดชอบในการ ในการปฏิบัติ ทำงาน กจิ กรรมตา่ งๆ สทิ ธขิ องผู้อ่นื ในชวี ติ ประจำวนั 3.1.2 ตรงตอ่ เวลา และรับผดิ ชอบใน การทำงาน ในการปฏิบตั ิ กจิ กรรมตา่ งๆ ใน ชีวติ ประจำวนั และ รับผิดชอบในการ ทำงาน

๓๑ ข้อที่ 4 ใฝเ่ รียนรู้ นยิ าม ใฝ่เรยี นรู้ หมายถงึ คุณลกั ษณะที่แสดงออกถึงความตั้งใจ เพียรพยายามในการเรยี น แสวงหาความรจู้ ากแหล่งเรียนรูท้ ้งั ภายในและภายนอกโรงเรยี น ผู้ท่ใี ฝเ่ รยี นรู้ คอื ผู้ที่มีลกั ษณะซึง่ แสดงออกถงึ ความต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและเขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรียนรู้ แสวงหาความร้จู ากแหล่งเรียนรู้ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรยี นอยา่ งสม่ำเสมอ ด้วย การเลอื กใช้ส่ืออย่างเหมาะสม บันทึกความรู้ วิเคราะห์ สรปุ เปน็ องค์ความรู้ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถา่ ยทอด เผยแพร่ และนำไปใช้ในชวี ติ ประจำวันได้ ตัวชว้ี ัด 4.1 ตัง้ ใจ เพียรพยายามในการเรยี นและเข้ารว่ มกจิ กรรมการเรียนรู้ 4.2 แสวงหาความรู้จากแหล่งเรยี นรู้ ต่างๆ ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรยี น ด้วยการเลือกใช้ส่ืออย่างเหมาะสม สรปุ เป็นองค์ความรู้ และสามารถนำไปใช้ในชวี ิตประจำวันได้ ตวั ชวี้ ัดและพฤติกรรมบ่งชี้ ตวั ชว้ี ัด พฤติกรรมบ่งชี้ 4.1 ตัง้ ใจ เพยี รพยายาม 4.1.1 ต้งั ใจเรยี น ในการเรยี นและเข้าร่วมกิจกรรม 4.1.2 เอาใจใส่และมคี วามเพียรพยายามในการเรียนรู้ การเรยี นรู้ 4.1.3 สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรยี นรูต้ า่ ง ๆ 4.2 แสวงหาความรจู้ าก 4.2.1 ศกึ ษาค้นคว้าหาความรู้จากหนงั สอื เอกสาร ส่งิ พมิ พ์ สื่อ แหล่งเรยี นรู้ ต่างๆ ทงั้ ภายในและ เทคโนโลยตี ่างๆ แหล่งเรียนรูท้ ง้ั ภายในและภายนอกโรงเรียน และ ภายนอกโรงเรียน ด้วยการ เลอื กใช้ส่อื ไดอ้ ย่างเหมาะสม เลือกใช้สอื่ อย่างเหมาะสม สรปุ 4.2.2 บันทกึ ความรู้ วิเคราะห์ตรวจสอบ จากสง่ิ ท่ีเรียนรู้ สรุปเป็นองค์ เปน็ องคค์ วามรู้ และ ความรู้ สามารถนำไปใช้ใน 4.2.3 แลกเปล่ียนความรู้ ด้วยวิธีการต่างๆ และนำไปใชใ้ น ชีวติ ประจำวนั ได้ ชีวิตประจำวัน เกณฑ์การให้คะแนน ระดบั ประถมศึกษา ตวั ชวี้ ัดที่ 4.1 ต้ังใจ เพยี รพยายาม ในการเรียนและเขา้ รว่ ม กจิ กรรม พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไม่ผา่ น (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดเี ย่ยี ม(3) 4.1.1 ตัง้ ใจเรยี น ไมต่ งั้ ใจเรียน เข้าเรียนตรงเวลา เขา้ เรียนตรงเวลา เขา้ เรยี นตรงเวลา 4.1.2 เอาใจใสแ่ ละมี ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่ ต้ังใจเรียน เอาใจ ตง้ั ใจเรยี น เอาใจใส่ ความเพยี รพยายามใน ในการเรยี น มสี ว่ น ใส่ และมีความ และมคี วามเพียร การเรียนรู้ รว่ มในการเรียนรู้ เพียรพยายามใน พยายามใน 4.1.3 เข้าร่วมกจิ กรรม และเข้าร่วมกิจกรรม การเรยี นรู้ มสี ว่ น การเรยี นรู้ การเรยี นรตู้ ่างๆ การเรียนรู้ ตา่ งๆ ร่วมในการเรยี นรู้ มสี ว่ นร่วมในการ เป็นบางครงั้ และเขา้ รว่ ม เรียนรู้และเข้าร่วม กิจกรรมการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ต่างๆ บ่อยครัง้ ตา่ ง ๆ ทัง้ ภายใน และภายนอก โรงเรยี นเปน็ ประจำ

๓๒ ตัวช้วี ัดท่ี 4.2 แสวงหาความรจู้ ากแหล่งเรียนรู้ ต่าง ๆ ทงั้ ภายในและภายนอกโรงเรียน ด้วยการเลอื กใชส้ ่ือ อย่างเหมาะสม สรุปเป็นองคค์ วามรู้ สามารถนำไปใชใ้ นชีวิตประจำวนั ได้ พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดีเยยี่ ม(3) 4.2.1 ศกึ ษาคน้ ควา้ ไม่ศกึ ษาคน้ คว้า ศึกษาคน้ ควา้ ความรู้ ศึกษาค้นควา้ หา ศกึ ษาค้นคว้าหา หาความรู้จากหนงั สือ หาความรู้ เอกสาร ส่ิงพมิ พ์ สื่อ จากหนงั สอื เอกสาร ความรูจ้ ากหนงั สือ ความรู้จากหนังสือ เทคโนโลยตี ่าง ๆ แหลง่ เรยี นรทู้ ้งั ภายในและ สิง่ พิมพ์ สอื่ เอกสาร สิง่ พิมพ์ เอกสาร สิ่งพิมพ์ สือ่ ภายนอกโรงเรียน และ เลอื กใช้สอ่ื ไดอ้ ย่าง เทคโนโลยี สือ่ เทคโนโลยีและ เทคโนโลยี และ เหมาะสม 4.2.2 บันทกึ ความรู้ แหล่งเรียนรู้ สารสนเทศ แหล่ง สารสนเทศ แหลง่ วเิ คราะห์ขอ้ มูล จากส่ิงท่ี เรียนรู้ สรุปเป็นองค์ ท้ังภายในและ เรียนรู้ ทงั้ ภายใน เรียนรูท้ ้งั ภายใน ความรู้ 4.2.3 แลกเปล่ียนเรียนรู้ ภายนอกโรงเรยี น และภายนอก และภายนอก ดว้ ยวิธีการต่างๆ และ นำไปใช้ใน เลอื กใช้ส่อื โรงเรยี น และ โรงเรียน เลือกใช้ ชีวติ ประจำวนั ได้อยา่ งเหมาะสม เลอื กใช้ส่อื ได้ สือ่ ไดอ้ ย่างเหมาะสม และมกี าร อยา่ งเหมาะสม มกี ารบันทกึ ความรู้ บนั ทึกความรู้ มีการบนั ทกึ วเิ คราะหข์ อ้ มูล ความรู้ วิเคราะห์ สรปุ เปน็ องค์ความรู้ ข้อมลู สรปุ เปน็ และแลกเปลย่ี น องค์ความรู้ และ เรยี นรู้ ด้วยวธิ กี าร แลกเปลีย่ นเรียนรู้ ที่หลากหลาย และ กับผูอ้ น่ื ได้ นำไปใช้ใน ชีวติ ประจำวนั ขอ้ ท่ี 5 อยอู่ ย่างพอเพยี ง นิยาม อยอู่ ย่างพอเพยี ง หมายถึง คุณลกั ษณะทแ่ี สดงออกถึงการดำเนินชีวิตอย่างพอประมาณ มเี หตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม มีภมู ิคมุ้ กนั ในตวั ท่ดี ี และปรบั ตัวเพื่ออยใู่ นสังคมไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข ผทู้ อี่ ย่อู ย่างพอเพยี ง คือ ผู้ที่ดำเนินชวี ิตอย่างประมาณตน มีเหตุผล รอบคอบ ระมดั ระวงั อยู่รว่ มกับผู้อนื่ ดว้ ยความรับผิดชอบ ไมเ่ บียดเบยี นผู้อื่น เห็นคณุ คา่ ของทรพั ยากรตา่ งๆ มีการวางแผนป้องกนั ความเสีย่ งและพร้อมรับการเปลย่ี นแปลง ตวั ชวี้ ัด 5.1. ดำเนนิ ชวี ติ อย่างพอประมาณ มเี หตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม 5.2 มีภูมิคมุ้ กนั ในตวั ทีด่ ี ปรับตวั เพือ่ อยู่ในสังคมได้อยา่ งมคี วามสุข

๓๓ ตวั ชีว้ ัดและพฤติกรรมบ่งชี้ พฤติกรรมบง่ ชี้ ตัวชีว้ ัด 5.1.1ใชท้ รัพยส์ นิ ของตนเอง เชน่ เงิน ส่ิงของ เคร่อื งใช้ ฯลฯ 5.1 ดำเนินชวี ิตอยา่ ง อยา่ งประหยดั คุ้มคา่ และเก็บรักษาดแู ลอย่างดีรวมทั้งการใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม พอประมาณ มเี หตุผล 5.1.2 ใชท้ รพั ยากรของส่วนรวมอยา่ งประหยัดคมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดูแลอยา่ งดี รอบคอบ มีคณุ ธรรม 5.1.3 ปฏิบตั ติ นและตัดสินใจด้วยความรอบคอบ มีเหตผุ ล 5.1.4ไม่เอาเปรียบผอู้ ืน่ และไม่ทำให้ผูอ้ ่นื เดอื ดร้อน พรอ้ มใหอ้ ภยั 5.2 มภี มู คิ ุ้มกนั ในตัวทีด่ ี เม่อื ผ้อู น่ื กระทำผดิ พลาด ปรับตวั เพื่ออยูใ่ น สงั คมได้อย่างมีความสขุ 5.2.1วางแผนการเรียน การทำงานและการใชช้ ีวิตประจำวันบนพนื้ ฐานของ ความรู้ ข้อมูล ขา่ วสาร 5.2.2 รูเ้ ท่าทันการเปลย่ี นแปลงของสงั คมและสภาพแวดลอ้ ม ยอมรับและปรับตัวเพือ่ อย่รู ว่ มกบั ผู้อ่ืนได้อย่างมีความสขุ เกณฑ์การให้คะแนน ระดบั ประถมศึกษา ตัวช้ีวัดท่ี 5.1 ดำเนินชีวิตอยา่ งพอประมาณ มีเหตผุ ล รอบคอบ มีคุณธรรม พฤติกรรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดีเยยี่ ม(3) 5.1.1ใช้ทรัพยส์ นิ ของ ใช้เงนิ และของ ใช้ทรัพย์สิน ใชท้ รพั ยส์ ิน ใช้ทรพั ยส์ ิน ตนเอง เชน่ เงนิ ส่ิงของ ใชส้ ่วนตวั ของตนเองและ ของตนเองและ ของตนเองและ เครือ่ งใช้ ฯลฯ อย่าง ประหยัด คมุ้ ค่าและเก็บ อย่างไม่ ทรัพยากรของ ทรัพยากรของ ทรัพยากรของ รักษาดแู ลอย่างดี รวมทั้งการ ใช้เวลาอยา่ งเหมาะสม ประหยัด ส่วนรวมอยา่ ง ส่วนรวม ส่วนรวม อยา่ ง 5.1.2 ใช้ทรัพยากรของ ส่วนรวมอย่างประหยัด ประหยัด อย่างประหยดั ประหยดั คุ้มค่าและเก็บรกั ษาดแู ล อย่างดี คุม้ ค่า คมุ้ คา่ คมุ้ คา่ 5.1.3 ปฏิบัตติ นและ ตดั สินใจดว้ ยความ เกบ็ รกั ษาดูแล เกบ็ รักษาดูแล เกบ็ รกั ษาดแู ล รอบคอบ มีเหตุผล อยา่ งดี อย่างดี อย่างดี 5.1.4 ไม่เอาเปรยี บผอู้ ่ืน และไมท่ ำใหผ้ ้อู น่ื เดือดรอ้ น รอบคอบ รอบคอบ มี รอบคอบ พรอ้ มใหอ้ ภัย เมื่อผอู้ ื่น กระทำผดิ พลาด มเี หตผุ ล เหตุผล มีเหตุผล ไมเ่ อาเปรียบ ไมเ่ อาเปรยี บ ผูอ้ น่ื และไม่ทำ ผูอ้ ื่น ไม่ทำให้ ใหผ้ ูอ้ ืน่ ผูอ้ นื่ เดือดรอ้ น เดือดรอ้ น และให้อภยั เมือ่ ผ้อู ่ืน กระทำ ผดิ พลาด

๓๔ ตัวช้ีวัดที่ 5.2 มภี ูมิคุ้มกนั ในตวั ที่ดี ปรบั ตัวเพื่ออยใู่ นสงั คมได้อยา่ งมคี วามสุข พฤติกรรมบง่ ช้ี ไมผ่ ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดเี ยยี่ ม(3) 5.2.1 วางแผนการเรยี น ไม่วางแผนการ ใช้ ความรู้ ใช้ ความรู้ ใช้ ความรู้ ข้อมูล การทำงานและการใช้ เรยี นและ ข้อมูล ขา่ วสาร ขอ้ มูล ขา่ วสาร ขา่ วสารในการวาง ชวี ิตประจำวนั บน การใช้ ในการวาง ในการวาง แผนการเรียน พืน้ ฐานของ ความรู้ ชีวิตประจำวนั แผนการเรยี น แผนการเรยี น การทำงานและใช้ ข้อมลู ข่าวสาร การทำงานและ การทำงานและ ในชวี ติ ประจำวนั 5.2.2 รูเ้ ทา่ ทันการ ใช้ ใน ใช้ใน ยอมรบั การ เปลย่ี นแปลงของสังคม ชีวติ ประจำวัน ชวี ติ ประจำวัน เปลยี่ นแปลงของ และสภาพแวดล้อม รบั รู้การ ยอมรบั การ ครอบครัว ชมุ ชน ยอมรับ และปรับตัวอยู่ เปลีย่ นแปลง เปล่ียนแปลงของ สงั คม รว่ มกบั ผอู้ น่ื ไดอ้ ยา่ งมี ของครอบครัว ครอบครัว สภาพแวดล้อม ความสุข ชุมชนและ ชุมชนสังคม และปรบั ตวั อยู่ สภาพแวดล้อม และ ร่วมกับผ้อู ่ืน สภาพแวดล้อม ไดอ้ ย่างมคี วามสุข ขอ้ ท่ี 6 มุ่งมัน่ ในการทำงาน นยิ าม มุง่ มั่นในการทำงาน หมายถงึ คุณลักษณะท่ีแสดงออกถึงความตงั้ ใจและรับผิดชอบในการ ทำหนา้ ทก่ี ารงาน ดว้ ยความเพยี รพยายาม อดทน เพ่ือใหง้ านสำเร็จตามเป้าหมาย ผู้ทีม่ งุ่ มน่ั ในการทำงาน คอื ผ้ทู ีม่ ลี กั ษณะซึง่ แสดงออกถงึ ความต้ังใจปฏิบัติหน้าท่ีท่ีไดร้ ับ มอบหมายด้วยความเพยี รพยายาม ทุ่มเทกำลงั กาย กำลังใจ ในการปฏิบตั ิกิจกรรมตา่ ง ๆ ใหส้ ำเร็จลุลว่ ง ตามเปา้ หมายที่กำหนดด้วยความรับผิดชอบ และมคี วามภาคภมู ิใจในผลงาน ตวั ช้ีวัด 6 .1 ต้ังใจและรับผิดชอบในหน้าท่กี ารงาน 6 .2 ทำงานดว้ ย ความเพียรพยายาม และ อดทนเพอ่ื ใหง้ านสำเรจ็ ตามเป้าหมาย ตวั ชีว้ ัดและพฤตกิ รรมบง่ ช้ี พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ตวั ช้ีวัด 6 .1.1 เอาใจใส่ต่อการปฏิบัติหนา้ ท่ีท่ีไดร้ ับมอบหมาย 6 .1.2 ตงั้ ใจและรบั ผิดชอบในการทำงานใหส้ ำเร็จ 6 .1 ต้ังใจและรับผิดชอบ 6 .1.3 ปรับปรงุ และพัฒนาการทำงานด้วยตนเอง ในการปฏบิ ัติหน้าที่ การงาน 6 .2.1 ทุ่มเททำงาน อดทน ไม่ยอ่ ทอ้ ตอ่ ปัญหาและอุปสรรคในการทำงาน 6 .2.2 พยายามแกป้ ัญหาและอุปสรรคในการทำงานให้สำเร็จ 6 .2 ทำงานดว้ ย ความ 6 .2.3 ชื่นชมผลงานดว้ ยความภาคภูมิใจ เพียร พยายาม และ อดทนเพ่ือให้งานสำเรจ็ ตามเปา้ หมาย

๓๕ เกณฑก์ ารให้คะแนน ระดบั ประถมศึกษา ตวั ชีว้ ัดท่ี 6 .1 ต้งั ใจและรับผิดชอบในการปฏบิ ตั ิหน้าทีก่ ารงาน พฤติกรรมบ่งชี้ ไม่ผ่าน (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดเี ยย่ี ม(3) 6.1.1 เอาใจใส่ ไมต่ งั้ ใจปฏบิ ัติ ตั้งใจและ ตงั้ ใจและรบั ผิดชอบ ตั้งใจและ ตอ่ การปฏิบัติ หน้าที่การงาน หน้าที่ที่ไดร้ บั รับผิดชอบในการ ในการปฏบิ ตั หิ นา้ ทท่ี ่ี รบั ผิดชอบในการ มอบหมาย 6.1.2 ต้ังใจและ ปฏิบัตหิ นา้ ที่ทไี่ ดร้ ับ ได้รบั มอบหมายให้ ปฏิบัตหิ นา้ ท่ีทไ่ี ดร้ ับ รบั ผิดชอบใน การทำงานให้ มอบหมายให้สำเรจ็ สำเร็จ มีการปรับปรุง มอบหมายให้สำเร็จ สำเร็จ 6.1.3 ปรบั ปรงุ มกี ารปรับปรุงการ และพฒั นาการ มกี ารปรับปรงุ และ และพฒั นาการ ทำงานดว้ ยตนเอง ทำงานให้ดีข้ึน ทำงานใหด้ ีข้ึน พัฒนาการทำงาน ให้ดขี ้นึ ดว้ ยตนเอง ตัวช้ีวัดท่ี 6 .2 ทำงานด้วย ความเพียรพยายาม และ อดทนเพอื่ ให้งานสำเร็จตามเปา้ หมาย พฤตกิ รรมบ่งช้ี ไมผ่ า่ น (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดีเยีย่ ม(3) 6.2.1 ทมุ่ เท ไมข่ ยัน อดทน ทำงานด้วยความ ทำงานด้วยความขยนั ทำงานด้วยความ ทำงานอดทนไม่ ในการทำงาน ขยนั อดทน และ อดทน และพยายาม ขยันอดทน และ ย่อท้อตอ่ ปญั หา พยายามให้งาน ใหง้ านสำเรจ็ ตาม พยายามให้งาน และอปุ สรรค สำเรจ็ ตาม เปา้ หมาย ไม่ย่อท้อ สำเร็จตาเปา้ หมาย ในการทำงาน เป้าหมาย และช่นื ตอ่ ปัญหาในการ ภายในเวลาท่ี 6.2.2 พยายาม ชมผลงานดว้ ย ทำงาน และชนื่ ชม กำหนด ไม่ยอ่ ท้อ แก้ปญั หาและ ความภาคภูมิใจ ผลงานดว้ ยความ ตอ่ ปญั หาแกป้ ญั หา อปุ สรรคในการ ภาคภูมิใจ ทำงานให้สำเร็จ 6.2.3 ชื่นชม ผลงานดว้ ยความ ภาคภูมิใจ

๓๖ ขอ้ ท่ี 7 รกั ความเป็นไทย นยิ าม รกั ความเป็นไทย หมายถึง คุณลักษณะทแี่ สดงออกถงึ ความภาคภูมใิ จ เห็นคุณคา่ ร่วม อนุรักษ์ สืบทอดภมู ปิ ัญญาไทย ขนบธรรมเนยี มประเพณี ศิลปะและวัฒนธรรม ใชภ้ าษาไทยในการสื่อสารได้ อยา่ ถกู ต้องและเหมาะสม ผู้ท่ีรักความเป็นไทย คือ ผทู้ ีม่ ีความภาคภูมใิ จ เห็นคณุ ค่า ชื่นชม มีส่วนรว่ มในการอนรุ กั ษ์ สบื ทอด เผยแพรภ่ ูมปิ ญั ญาไทย ขนบธรรมเนียมประเพณี ศลิ ปะและวัฒนธรรมไทย มคี วามกตญั ญกู ตเวที ใช้ภาษาไทยในการส่อื สารอยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม ตวั ชีว้ ัด 7.1 ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนยี มประเพณี ศลิ ปะ วฒั นธรรมไทย และมีความกตัญญกู ตเวที 7.2 เห็นคณุ ค่าและใชภ้ าษาไทยในการส่ือสารไดอ้ ยา่ งถกู ต้องเหมาะสม 7.3 อนุรักษ์ และสบื ทอดภูมปิ ญั ญาไทย ตวั ช้ีวัด ตัวช้วี ัดและพฤตกิ รรมบง่ ช้ี 7.1 ภาคภมู ิใจใน พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ขนบธรรมเนียมประเพณี ศลิ ปะ วฒั นธรรมไทย 7.1.1 แตง่ กายและมมี ารยาทงดงามแบบไทย มีสัมมาคารวะ กตญั ญู และมีความกตัญญูกตเวที กตเวทีตอ่ ผมู้ ีพระคุณ 7.1.2 ร่วมกจิ กรรมทเ่ี กีย่ วขอ้ งกบั ประเพณี ศลิ ปะและวฒั นธรรมไทย 7.2 เห็นคณุ ค่าและ 7.1.3 ชักชวน แนะนำให้ผอู้ ืน่ ปฏิบัตติ ามขนบธรรมเนยี มประเพณี ใชภ้ าษาไทย ในการสื่อสารได้ ศิลปะและวฒั นธรรมไทย อยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม 7.2.1 ใชภ้ าษาไทยและเลขไทยในการส่อื สารไดอ้ ย่างถกู ต้องเหมาะสม 7.3 อนุรกั ษ์ สืบทอด 7.2.2 ชกั ชวน แนะนำ ใหผ้ อู้ ่นื เหน็ คุณค่าของการใชภ้ าษาไทยท่ถี ูกต้อง ภูมปิ ญั ญาไทย 7.3.1 นำภูมิปัญญาไทยมาใช้ใหเ้ หมาะสมในวถิ ีชีวติ 7.3.2 รว่ มกิจกรรมท่เี ก่ียวข้องกับภูมิปญั ญาไทย

๓๗ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ระดบั ประถมศึกษา ตัวชว้ี ัดท่ี 7.1 ภาคภูมใิ จในขนบธรรมเนยี มประเพณี ศิลปะ วฒั นธรรมไทย และมคี วามกตัญญูกตเวที พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ไมผ่ า่ น (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดีเยย่ี ม(3) 7.1.1 แตง่ กายและมี ไมม่ สี ัมมาคารวะ ปฏิบัตติ นเป็นผมู้ ี ปฏบิ ตั ิตนเป็นผมู้ ี ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผู้มี มารยาทงดงามแบบไทย ตอ่ ผู้ใหญ่ มารยาทแบบไทย มารยาทแบบไทย มารยาทแบบไทย มีสมั มาคารวะ มสี มั มาคารวะ กตัญญู มีสัมมาคารวะ มสี ัมมาคารวะ กตัญญูกตเวทีต่อ ผู้มพี ระคณุ แต่ง กตเวทีตอ่ ผูม้ ีพระคณุ กตัญญูกตเวทีตอ่ ผู้ กตญั ญกู ตเวทตี อ่ กายแบบไทยด้วย ความภาคภูมิใจ 7.1.2 รว่ มกิจกรรมท่ี มีพระคณุ และแตง่ ผูม้ ีพระคณุ และ เขา้ รว่ มหรอื มสี ว่ น ร่วมในการจดั เกี่ยวข้องกับประเพณี กายแบบไทย เขา้ แต่งกายแบบไทย กิจกรรมท่ี เก่ียวข้องกับ ศลิ ปะและวัฒนธรรมไทย รว่ มหรอื มีสว่ นร่วม ดว้ ยความ ประเพณี ศิลปะ และวัฒนธรรม 7.1.3 ชักชวน แนะนำ ในกิจกรรมท่ี ภาคภมู ใิ จ เข้า ไทย ชกั ชวน ให้ผ้อู ่ืนปฏิบตั ิตาม เกยี่ วข้องกบั รว่ ม หรือมีสว่ น แนะนำเพื่อนและ คนอน่ื ปฏบิ ตั ิตาม ขนบธรรมเนียมประเพณี ประเพณี รว่ มในกิจกรรมท่ี ขนบธรรมเนียม ประเพณี ศลิ ปะและวัฒนธรรมไทย ศลิ ปะและ เกีย่ วข้องกบั ศลิ ปะและ วัฒนธรรมไทย วัฒนธรรมไทย ประเพณี ศลิ ปะ และวฒั นธรรม ไทย ตวั ชี้วัดท่ี 7.2 เหน็ คุณค่าและใชภ้ าษาไทยในการส่อื สารไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งเหมาะสม พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ไมผ่ า่ น (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดีเย่ียม(3) 7.2.1ใชภ้ าษาไทยและ ไม่สนใจใช้ ใชภ้ าษาไทย ใชภ้ าษาไทย ใช้ภาษาไทย เลขไทยในการส่อื สารได้ ภาษาไทย เลขไทยในการ เลขไทย ในการ เลขไทย ในการ ส่ือสารได้ถกู ต้อ เหมาะสม และ อยา่ งถกู ต้องเหมาะสม อยา่ งถูกตอ้ ง ส่อื สารได้ถูกตอ้ ง สอ่ื สารได้ถกู ต้อง แนะนำ ชกั ชวน 7.2.2 ชกั ชวน แนะนำ เหมาะสม และ เหมาะสม และ ให้ผอู้ ่ืนใช้ ให้ผู้อื่นเหน็ คุณคา่ ของ แนะนำใหผ้ ูอ้ น่ื ใช้ แนะนำ ชกั ชวน ภาษาไทยท่ี ถูกตอ้ งเป็น การใช้ภาษาไทยท่ี ภาษาไทย ใหผ้ อู้ ่นื ใช้ ประจำเป็นแบบ ถกู ตอ้ ง ทถ่ี กู ต้อง ภาษาไทยท่ี อย่างท่ีดดี า้ นการ ใชภ้ าษาไทย ถกู ต้อง

๓๘ ตัวชี้วัดท่ี 7.3 อนรุ กั ษ์ สบื ทอด ภมู ปิ ญั ญาไทย พฤตกิ รรมบ่งช้ี ไมผ่ า่ น (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดเี ยี่ยม(3) 7.3.1 นำภูมิปญั ญาไทย ไมส่ นใจภูมิ สบื ค้นภมู ิปญั ญา สบื คน้ ภมู ิปญั ญา สบื ค้น มาใชใ้ ห้เหมาะสมในวิถี ปัญญาไทย ชวี ิต ไทยทใี่ ชใ้ นทอ้ งถิ่น ไทยท่ีมอี ยใู่ น ภมู ิปญั ญาไทย 7.3.2 รว่ มกจิ กรรมที่ เกีย่ วข้องกบั ภมู ปิ ญั ญา เข้าร่วม และ ทอ้ งถนิ่ เขา้ รว่ ม เข้าร่วมและ ไทย 7.3.3 แนะนำ ชักชวนคนใน และชกั ชวนคนใน ชกั ชวนคน มสี ่วนรว่ ม ในการ สืบทอดภูมิปัญญาไทย ครอบครัวหรอื ครอบครัว เพอ่ื น ในครอบครวั เพ่ือนเข้ารว่ ม และผอู้ น่ื เข้ารว่ ม เพือ่ น และผูอ้ ืน่ กจิ กรรมที่เกยี่ วขอ้ ง กจิ กรรมท่เี กยี่ วขอ้ ง เข้ารว่ มกจิ กรรมที่ กับภมู ปิ ญั ญาไทย กับภูมิปัญญาไทย เก่ยี วข้องกับภูมิ ปัญญาไทย ใช้ และแนะนำ ให้เพ่อื นใช้ ข้อท่ี 8 มีจติ สาธารณะ นิยาม มจี ติ สาธารณะ หมายถึง คุณลักษณะท่แี สดงออกถึงการมสี ว่ นร่วมในกิจกรรมหรอื สถานการณ์ที่ ก่อให้เกิดประโยชนแ์ กผ่ ู้อ่ืน ชุมชน และสงั คม ด้วยความเตม็ ใจ กระตอื รือรน้ โดยไมห่ วังผลตอบแทน ผูท้ ีม่ ีจติ สาธารณะ คอื ผู้ท่มี ีลกั ษณะเป็นผใู้ หแ้ ละชว่ ยเหลอื ผูอ้ นื่ แบง่ ปันความสขุ ส่วนตนเพื่อทำ ประโยชนแ์ ก่สว่ นรวม เขา้ ใจ เห็นใจผู้ทมี่ คี วามเดือดรอ้ น อาสาชว่ ยเหลือสงั คม อนุรกั ษส์ ง่ิ แวดล้อม ด้วย แรงกาย สตปิ ญั ญา ลงมอื ปฏบิ ตั เิ พ่อื แก้ปัญหา หรอื ร่วมสรา้ งสรรค์สงิ่ ทด่ี ีงามให้เกดิ ในชุมชน โดยไม่หวังสิ่ง ตอบแทน ตัวชว้ี ัด 8.1 ช่วยเหลอื ผ้อู นื่ ดว้ ยความเตม็ ใจโดยไมห่ วังผลตอบแทน 8.2 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทเ่ี ปน็ ประโยชนต์ อ่ โรงเรียน ชมุ ชน และสงั คม ตวั ช้วี ัดและพฤตกิ รรมบง่ ช้ี ตัวชีว้ ัด พฤตกิ รรมบง่ ชี้ 8.1 ช่วยเหลอื ผ้อู ่ืนด้วย 8.1.1 ช่วยพอ่ แม่ ผู้ปกครอง ครทู ำงานด้วยความเต็มใจ ความเตม็ ใจโดย ไม่หวัง 8.1.2 อาสาทำงานใหผ้ ้อู น่ื ด้วยกำลงั กาย กำลังใจ และกำลังสติปญั ญาโดยไม่ ผลตอบแทน หวงั ผลตอบแทน 8.1.3 แบ่งปนั ส่ิงของ ทรพั ย์สนิ และอนื่ ๆ และชว่ ยแก้ปัญหาหรือ สร้างความสุขให้กบั ผอู้ ื่น 8.2 เข้าร่วมกิจกรรมทเ่ี ปน็ 8.2.1 ดแู ล รกั ษาสาธารณสมบตั ิและสิง่ แวดล้อมดว้ ยความเต็มใจ ประโยชน์ต่อโรงเรยี น 8.2.2 เข้ารว่ มกิจกรรมทเ่ี ปน็ ประโยชน์ต่อโรงเรยี น ชมุ ชนและสังคม ชุมชน และสงั คม 8.2.3 เขา้ รว่ มกจิ กรรมเพื่อแก้ปัญหาหรือร่วมสรา้ งสงิ่ ที่ดงี ามของส่วนรวม ตาม สถานการณ์ที่เกดิ ขึ้นดว้ ยความกระตือรือรน้

๓๙ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ระดับประถมศึกษา ตัวชีว้ ัดที่ 8.1 ชว่ ยเหลือผู้อน่ื ดว้ ยความเตม็ ใจและพงึ พอใจ พฤติกรรมบ่งช้ี ไม่ผา่ น (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดเี ยยี่ ม(3) 8.1.1 ช่วยพ่อแม่ ไมช่ ่วยเหลอื ช่วยพ่อแม่ ชว่ ยพอ่ แมผ่ ปู้ กครอง ช่วยพ่อแม่ และครทู ำงาน ผปู้ กครองและครู ผู้ปกครองและครู พ่อแม่ ผู้ปกครอง ผปู้ กครองและครู อาสาทำงาน ช่วย ทำงาน อาสา คดิ ช่วยทำ และ ทำงาน ช่วยคดิ ทำงานด้วย และครู ทำงาน อาสา แบง่ ปนั สงิ่ ของให้ ช่วยทำ แบง่ ปัน ผอู้ ื่นดว้ ยความ สง่ิ ของ ความเตม็ ใจ ทำงานและแบ่งปนั เต็มใจ และชว่ ยแก้ปัญหา 8.1.2 อาสาทำงานให้ สงิ่ ของให้ผู้อ่นื ด้วย ให้ผู้อนื่ ดว้ ยความ เต็มใจ ผู้อื่นดว้ ยกำลังกาย ความ กำลงั ใจ และกำลงั เตม็ ใจ สติปญั ญา ดว้ ยความ สมัครใจ 8.1.3 แบ่งปันสง่ิ ของ ทรัพย์สินและอ่ืนๆ และช่วยแก้ปญั หา หรือสร้างความสุข ให้กับผูอ้ ืน่ ตัวช้วี ัดท่ี 8.2 เข้ารว่ มกจิ กรรมทเี่ ป็นประโยชน์ตอ่ โรงเรยี น ชุมชน และสังคม พฤติกรรมบง่ ช้ี ไมผ่ ่าน (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดเี ยี่ยม(3) 8.2.1 ดแู ล รกั ษา ไมส่ นใจดแู ล ดแู ล รกั ษาทรัพย์ ดูแล รกั ษาทรัพย์ ดูแล รักษาทรัพย์ สาธารณสมบัติ และ รักษา สมบตั ิ ส่ิงแวดลอ้ ม สมบตั ิ ส่ิงแวดลอ้ ม สมบัติ ส่งิ แวดลอ้ ม สิง่ แวดล้อม ทรพั ยส์ มบัติและ ของห้องเรียน ของหอ้ งเรยี น ของห้องเรยี น ด้วยความเตม็ ใจ สิง่ แวดลอ้ มของ โรงเรยี น และเขา้ โรงเรียน ชมุ ชน โรงเรียน ชมุ ชน 8.2.2 เขา้ รว่ ม โรงเรยี น รว่ มกิจกรรมเพ่อื และเขา้ ร่วม และเขา้ รว่ ม กจิ กรรมท่ีเปน็ สงั คมและ กจิ กรรมเพ่อื กิจกรรมเพ่อื ประโยชนต์ ่อ สาธารณประโยชน์ สังคมและ สังคมและ โรงเรียน ชมุ ชนและ ของโรงเรยี นด้วย สาธารณประโยชน์ สาธารณประโยชน์ สงั คม ความเต็มใจ ของโรงเรยี นด้วย ของโรงเรียนและ 8.2.3 เขา้ รว่ ม ความเตม็ ใจ ชุมชนด้วย กิจกรรม เพ่ือ ความเต็มใจ แกป้ ญั หา หรือ รว่ ม สรา้ งส่ิงท่ีดงี ามของ สว่ นรวม ตาม สถานการณท์ ่ีเกดิ ขนึ้ ด้วยความ กระตอื รือร้น

๔๐ ภาคผนวก ข คำสัง่ /เอกสารทีเ่ ก่ียวขอ้ ง

๔๑ คำสัง่ โรงเรียนวัดพรหมเทพาวาส ท่ี ๒๗/๒๕๖๔ เร่ือง แต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำระเบยี บโรงเรียนวัดพรหมเทพาวาส วา่ ด้วยการวัดผลและประเมนิ ผลการเรียน พทุ ธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ .................................................................................................................................. โรงเรียนวัดพรหมเทพาวาสได้จัดทำและพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดพรหมเทพาวาส (ฉบับปรับปรงุ ๒๕๖๔) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ เพื่อให้สอดคลอ้ ง กบั แผนพัฒนาคุณภาพการศกึ ษาโรงเรียนวัดพรหมเทพาวาส พ.ศ.๒๕๖๔ - ๒๕๖๖ และมาตรฐานการศึกษา ตามประกาศของกระทรวงศึกษาธิการเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามหลักสูตรสถานศึกษาจึง ตอ้ งจัดทำระเบียบโรงเรียนวัดพรหมเทพาวาส วา่ ด้วยการวัดผลและประเมินผลการเรียน พุทธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ดงั น้ันทางโรงเรยี นจึงแตง่ ตงั้ คณะกรรมการจดั ทำระเบียบโรงเรียนวดั พรหมเทพาวาส ว่าด้วยการวดั ผล และประเมินผลการเรียน พุทธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ เพื่อประกาศใช้ในปีการศึกษา ๒๕๖๔ ดังมรี ายนามคณะกรรมการตอ่ ไปน้ี ๑. นางสาวอมรา โพธิท์ อง ประธานกรรมการ ๒. นายธรี พงษ์ เหมอื นพงษ์ กรรมการ ๓. นางสาววารุณี มีภกั ดี กรรมการ ๔. นางสาวพรรณทพิ า ปทั มอารกั ษ์ กรรมการ ๕. นางสาวรัตนา โหน่งสรุ นิ ทร์ กรรมการ ๖. นางทศั นีย์ หมอกโคกสงู กรรมการ ๗. นายเอกลักษณ์ แกว้ อาสา กรรมการและเลขนกุ าร ให้คณะกรรมการจดั ทำระเบยี บโรงเรียนวดั พรหมเทพาวาส ว่าด้วยการวดั ผลและประเมนิ ผลการเรียน พุทธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ดำเนินงานตาม บทบาทหนา้ ทีด่ ังกลา่ วขา้ งตน้ ให้มีประสิทธภิ าพ สง่ั ณ วันที่ ๓ เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ (นางสาวอมรา โพธิ์ทอง) ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นวดั พรหมเทพาวาส

๔๒ คำสงั่ โรงเรียนวัดพรหมเทพาวาส ท่ี ๒๘/๒๕๖๔ เรอื่ ง แตง่ ตั้งคณะกรรมการพัฒนาและประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตามหลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นวัดพรหมเทพาวาส (ฉบับปรบั ปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๔) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ .................................................................................................................................. เพื่อให้การวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้ในส่วนของการวัดและประเมินคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนวัดพรหมเทพาวาส สอดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียน วัดพรหมเทพาวาส (ฉบบั ปรับปรงุ ๒๕๖๔) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ และระเบียบโรงเรยี นวัดพรหมเทพาวาส ว่าด้วยการวัดผลและประเมินผลการเรยี น พุทธศักราช ๒๕๖๔ ตาม หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ จึงแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาและประเมิน คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงคข์ องสถานศึกษา ดงั นี้ ๑. นางสาวอมรา โพธทิ์ อง ประธานกรรมการ ๒. นายธีรพงษ์ เหมือนพงษ์ กรรมการ ๓. นางสาววารุณี มภี กั ดี กรรมการ ๔. นางสาวพรรณทิพา ปทั มอารักษ์ กรรมการ ๕. นางสาวรตั นา โหนง่ สุรินทร์ กรรมการ ๖. นางทศั นีย์ หมอกโคกสูง กรรมการ ๗. นายเอกลกั ษณ์ แกว้ อาสา กรรมการและเลขนุการ มหี นา้ ที่ ๑. กำหนดเกณฑ์แนวทางการพัฒนา แนวทางการประเมิน เกณฑ์การประเมินและแนวทาง การปรับปรงุ แกไ้ ขคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๒. พิจารณาตดั สนิ การประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ปลายปี ปลายภาค และการผ่านระดับชั้น ของผู้เรยี น ๓. จัดระบบการปรับปรุง แก้ไขคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้วยวิธีการ อันเหมาะสม และส่งต่อ ข้อ วินจิ ฉัยเพ่ือการพัฒนาอย่างต่อเน่ือง ให้คณะกรรมการทีไ่ ด้รบั การแตง่ ตัง้ ตามคำสงั่ น้ีปฏิบตั ิหนา้ ท่ีทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ให้ดำเนินการไปด้วย ความเรียบรอ้ ยและเอาใจใส่ อยา่ ใหเ้ กดิ ความเสียหายตอ่ ทางราชการได้ สง่ั ณ วนั ที่ ๓ เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ (นางสาวอมรา โพธทิ์ อง) ผู้อำนวยการโรงเรยี นวดั พรหมเทพาวาส

๔๓ คำสง่ั โรงเรียนวัดพรหมเทพาวาส ท่ี ๒๙/๒๕๖๔ เรื่อง แตง่ ตั้งคณะกรรมการดำเนนิ การประเมินการอา่ น คิดวิเคราะหแ์ ละเขียน ตามหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดพรหมเทพาวาส (ฉบับปรับปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๔) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ .................................................................................................................................. เพอื่ ใหก้ ารวดั ผลและประเมินผลการเรียนรู้ในส่วนของการวดั และประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และ เขียนสื่อความของนักเรียนโรงเรียนวัดพรหมเทพาวาส สอดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียน วดั พรหมเทพาวาส (ฉบับปรบั ปรุง ๒๕๖๔) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ และระเบียบโรงเรียนวัดพรหมเทพาวาส ว่าด้วยการวัดผลและประเมินผลการเรยี น พุทธศักราช ๒๕๖๔ ตาม หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ จงึ แต่งตงั้ คณะกรรมการพัฒนาและประเมินการ อ่าน คดิ วิเคราะห์ และเขียนส่อื ความของสถานศึกษา ดังนี้ ๑. นางสาวอมรา โพธิ์ทอง ประธานกรรมการ ๒. นายธีรพงษ์ เหมอื นพงษ์ กรรมการ ๓. นางสาววารณุ ี มภี กั ดี กรรมการ ๔. นางสาวพรรณทพิ า ปัทมอารักษ์ กรรมการ ๕. นางสาวรตั นา โหนง่ สุรินทร์ กรรมการ ๖. นางทัศนีย์ หมอกโคกสงู กรรมการ ๗. นายเอกลักษณ์ แก้วอาสา กรรมการและเลขนุการ มีหนา้ ที่ ๑. กำหนดแนวทางในการพัฒนาและการประเมนิ ความสามารถการอ่าน คิดวเิ คราะหแ์ ละเขยี น ๒. ดำเนินการพฒั นาและประเมนิ ความสามารถ การอ่าน คดิ วเิ คราะห์และเขียน ๓. ตัดสินผลการพัฒนาความสามารถ การอ่าน คิด วิเคราะห์ และเขียน ของผู้เรียน และการผ่าน ระดับช้ัน ใหค้ ณะกรรมการท่ีได้รบั การแตง่ ตัง้ ตามคำสั่งนี้ปฏิบตั ิหน้าท่ีท่ไี ด้รับมอบหมาย ให้ดำเนินการไปด้วย ความเรียบร้อยและเอาใจใส่ อย่าใหเ้ กดิ ความเสียหายต่อทางราชการได้ ส่งั ณ วนั ท่ี ๓ เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ (นางสาวอมรา โพธ์ทิ อง) ผู้อำนวยการโรงเรียนวดั พรหมเทพาวาส

๔๔ คำส่งั โรงเรียนวัดพรหมเทพาวาส ท่ี ๓๐/๒๕๖๔ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ปีการศึกษา ๒๕๖๔ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ .................................................................................................................................. หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ไดกําหนดใหสมรรถนะสาํ คัญของผูเรียน เปนเปาหมายในการพัฒนาผูเรียนใหเปนคนดีมีปญญา มีคุณภาพชีวิตที่ดีนอกเหนือจากคุณภาพผูเรียนตาม มาตรฐานและตัวชี้วดั และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงคดังน้นั การประเมนิ สมรรถนะสําคัญของผูเรยี นจึงเปนกลไก สาํ คญั อันหนึง่ ท่ีสะทอนใหเหน็ ถึงความสําเรจ็ ในการจัดการศึกษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ โดยในหลกั สูตรฯ ไดกาํ หนดสมรรถนะสาํ คญั ท่ีจาํ เปนสําหรับผูเรียนไว๕ สมรรถนะ ไดแก ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแกปญหา ความสามารถในการใช ทักษะชีวิต และความสามารถในการใชเทคโนโลยีซึ่งมีรูปแบบการประเมินที่หลากหลายวิธีการ โดยใหทุก ฝายไดมสี วนรวมในการประเมนิ สมรรถนะสําคญั ของผูเรียน เพื่อใหการดําเนินการประเมินผล มีประสิทธิภาพ เปนไปดวยความเรียบรอย เกิดประสิทธิภาพและ ประสิทธิผลตามวัตถุประสงค อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๓๙ แหงพระราชบัญญัติระเบียบบริหาร ราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๖ และมาตรา ๒๗ แหงพระราชบัญญัติระเบียบขาราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.๒๕๔๗ จึงมอบหมายหนาทีใ่ หขาราชการครูปฏิบัตหิ นาทีค่ ณะกรรมการประเมิน สมรรถนะสําคัญของผูเรียน ปการศึกษา ๒๕๖๔ ดังตอไปนี้ ๑. นางสาวอมรา โพธิท์ อง ประธานกรรมการ ๒. นายธรี พงษ์ เหมอื นพงษ์ กรรมการ ๓. นางสาววารณุ ี มภี ักดี กรรมการ ๔. นางสาวพรรณทพิ า ปัทมอารักษ์ กรรมการ ๕. นางสาวรัตนา โหนง่ สุรนิ ทร์ กรรมการ ๖. นางทศั นยี ์ หมอกโคกสงู กรรมการ ๗. นายเอกลกั ษณ์ แก้วอาสา กรรมการและเลขนกุ าร มหี นา้ ท่ี ๑. กำหนดแนวทางในการพัฒนาและการประเมนิ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น ๒. ดำเนนิ การประเมนิ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น และรายงานผลการประเมินใหผ้ ทู้ เี่ กย่ี วข้องทราบ ให้คณะกรรมการทไี่ ด้รับการแตง่ ตั้งตามคำส่งั น้ีปฏบิ ัติหน้าท่ที ไ่ี ด้รับมอบหมาย ให้ดำเนินการไปด้วย ความเรียบรอ้ ยและเอาใจใส่ อยา่ ใหเ้ กิดความเสียหายตอ่ ทางราชการได้ สั่ง ณ วันที่ ๓ เดือน พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ (นางสาวอมรา โพธท์ิ อง) ผ้อู ำนวยการโรงเรยี นวัดพรหมเทพาวาส

๔๕ คำส่งั โรงเรียนวัดพรหมเทพาวาส ท่ี ๓๑/๒๕๖๔ เรื่อง แตง่ ตัง้ คณะกรรมการเทียบโอนผลการเรียน ตามหลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นวัดพรหมเทพาวาส (ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๔) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ .................................................................................................................................. เพื่อให้แนวทางการจัดการศึกษาของโรงเรยี น ในส่วนของการจัดนกั เรียนเข้าเรียนในสถานศกึ ษาขั้น พ้นื ฐานใหส้ อดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ซง่ึ ต้องดำเนินการเทียบ โอนผลการเรียนให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการเทียบโอนผลการเรียน หลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ทางโรงเรียนจึงแต่งตั้งคณะกรรมการเทียบโอนผล การเรยี นของสถานศึกษา ดงั นี้ ๑. นางสาวอมรา โพธ์ทิ อง ประธานกรรมการ ๒. นายธรี พงษ์ เหมือนพงษ์ กรรมการ ๓. นางสาวรตั นา โหน่งสุรินทร์ กรรมการ ๔. นางทัศนยี ์ หมอกโคกสงู กรรมการ ๕. นายเอกลกั ษณ์ แก้วอาสา กรรมการและเลขนุการ มหี นา้ ท่ี ๑. จัดทำสาระฯ เครื่องมือและวิธีการเทียบโอนผลการเรียนของรายวิชาและกลุ่มสาระการเรียนรู้ ต่างๆ ๒. ดำเนินการเทียบโอนผลการเรียนให้กบั ผู้เรียนที่รอ้ งขอ ๓. ประมวลผลและตัดสินการเทยี บโอน ๔. เสนอผลการเทียบโอนต่อคณะกรรมการบริหารหลักสูตรและงานวิชาการของโรงเรียนให้ ความเห็นชอบและเสนอผู้บรหิ ารโรงเรยี น ตัดสนิ อนมุ ัตผิ ลการเทยี บโอนผลการเรียน ให้คณะกรรมการท่ีไดร้ ับการแตง่ ตัง้ ตามคำสั่งนี้ปฏิบัติหน้าท่ีทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย ให้ดำเนินการไปด้วย ความเรียบรอ้ ยและเอาใจใส่ อย่าใหเ้ กดิ ความเสยี หายตอ่ ทางราชการได้ สง่ั ณ วันท่ี ๓ เดือน พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ (นางสาวอมรา โพธท์ิ อง) ผู้อำนวยการโรงเรยี นวดั พรหมเทพาวาส

๔๖ แผนภูมิสรุปการวดั และประเมินผลระดบั ประถมศกึ ษา การตดั สินผลการเรียน การเลื่อนช้ันเรียน เกณฑก์ ารจบ ระดับประถมศึกษา นกั เรียนไดร้ บั การตดั สนิ ผา่ นรายวชิ า นักเรียนมีคุณสมบัตติ ามเกณฑ์ นักเรียนมีคุณสมบตั ิตามเกณฑ์ เมอ่ื สนิ้ ปกี ารศึกษา การเลือ่ นช้นั การจบระดบั ประถมศึกษา • เข้าเรียนในรายวชิ าน้ันๆ (ซงึ่ • มเี วลาเรยี นตลอดปกี ารศกึ ษาไม่นอ้ ยกว่า • มีเวลาเรียนครบตามท่ี พิจารณาร่วมกับการมีเวลาเรยี น ร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรยี นตลอดปี หลักสูตรสถานศกึ ษากำหนด ตลอดปกี ารศึกษา การศึกษา และสอดคล้องกบั หลกั สูตร แกนกลาง • มคี ะแนนในรายวิชาน้นั ผ่านรอ้ ยละ ๕๐ • มผี ลการเรยี นรายวิชาพื้นฐานผา่ นทกุ (ทงั้ น้ีนักเรียนต้องไดร้ บั การพฒั นาและ รายวชิ า รายวชิ าเพม่ิ เติมตามที่ •ทกุ รายวชิ าพ้ืนฐานมผี ลการ ผ่านเกณฑ์ตัวชี้วัดทุกตวั ในระหว่าง สถานศกึ ษากำหนด ประเมนิ ผ่าน สำหรับรายวิชา กระบวนการพฒั นา) เพิ่มเติมเป็นไปตามที่ • มผี ลการประเมนิ การอา่ น คดิ วิเคราะห์ และเขยี นผา่ นตามเกณฑ์ที่สถานศึกษา • ให้ผลการเรยี นไดห้ ลายลักษณะดังน้ี กำหนด สถานศึกษากำหนด - ระบบตัวเลข - ระบบตวั อักษร • มผี ลการประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึง •มีผลการประเมนิ การอ่าน - ระบบร้อยละ - ระบบที่ใชค้ ำ สะทอ้ น ประสงค์ผา่ นตามเกณฑ์ท่ีสถานศกึ ษา คิดวิเคราะห์ และเขียน ในระดับ มาตรฐาน กำหนด ผ่าน • มผี ลการประเมินกิจกรรมพฒั นาผู้เรียน ปี •มีผลการประเมินคุณลกั ษณะ การตัดสินผลการอา่ น คดิ วิเคราะห์ ละ ๔ กิจกรรม อนั พงึ ประสงค์ ในระดบั ผา่ น และเขียน ๑. กจิ กรรมแนะแนว •มีผลการประเมนิ กิจกรรม ๒. กจิ กรรมนักเรียน ๒.๑ กิจกรรมในเครื่องแบบ พฒั นาผู้เรยี น ในระดบั ผ่าน • ใหผ้ ลการเรยี นเปน็ ไม่ผา่ น ผ่าน ดี และ ๒.๒ กิจกรรมชมุ นมุ ชมรม ทุกกจิ กรรม และปฏิบัติ ดีเยย่ี ม ๓. กิจกรรมเพอื่ สังคมและ กจิ กรรมเพอื่ สงั คมและ สาธารณประโยชน์(มีช่วั โมงเข้ารว่ มตามท่ี สาธารณประโยชน์ ๖๐ ชัว่ โมง • ตัดสนิ เมื่อสิน้ ปกี ารศกึ ษา สถานศึกษากำหนด)ตามเกณฑ์ท่ี • เกณฑ์แต่ละระดบั อาจให้ความหมาย สถานศึกษากำหนด เป็นคำอธิบายระดับคุณภาพ การตัดสินผลคุณลกั ษณะอันพงึ เอกสารหลักฐานการศกึ ษา ประสงค์ • ใหผ้ ลการเรยี นเป็นไม่ผ่านผ่านดี และดี การเรียนซ้ำช้นั มคี ณะกรรมการพิจารณา •โรงเรยี นออก ปพ.๑ : ป ให้ เยีย่ ม เม่อื ไมเ่ ปน็ ไปตามเกณฑ์ขา้ งตน้ แต่อาจ นกั เรียนเมื่อ พิจารณา ให้เลอื่ นช้นั ได้ กรณีเหน็ วา่ - จบ ป.๖ • ตดั สินเม่ือสิ้นปีการศึกษา - แม้เวลาเรยี นไมค่ รบ แตข่ อ้ อื่นๆ เป็นไปตาม - ลาออกศึกษาต่อทีอ่ น่ื • เกณฑก์ ารใหผ้ ลการเรยี นแต่ละระดบั เกณฑ์การเลือ่ นชน้ั ทก่ี ำหนด - มผี ลการประเมนิ ผา่ นมาตรฐานการเรยี นรู้ •โรงเรียนจัดทำ ปพ.๓ : ป อาจให้ความหมาย เปน็ คำอธบิ าย และตวั ชวี้ ดั เปน็ หลักฐานวา่ นกั เรียนจบ คณุ ภาพ ไมถ่ ึงเกณฑใ์ นแต่ละรายวิชา แต่สถานศึกษา การศกึ ษา และเพื่อตรวจสอบ สามารถสอนซ่อมเสรมิ ไดแ้ ละมคี ณุ สมบัตใิ น วุฒิ การตัดสินกิจกรรมพฒั นาผู้เรียน ข้ออื่นครบตามเกณฑ์การเลอื่ นช้ัน - เก็บไว้ท่โี รงเรียน ๑ ชดุ •• กใตก--หาดัาผ้รรสผลผเกสินวา่กา้เู อลรเนรมาายีนปรื่อกนไซเฏสรมา่อรยีิบ้ิน่ผเมนปา่ขัตเนเ้ากี ิปกสราริพ็นจว่ รมิ กมจิศผรากึกร่ารจิ ษมนณกาแารลไจรมะมาผ่ผกล่านงานของ - มีผลการประเมินผ่านในกลุ่มสาระภาษาไทย - สง่ ให้ สพท. ๑ ชุด • คณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ สงั คมศึกษาฯ การเลื่อนช้ันกลางปี มคี ณะกรรมการพิจารณา -๑. ผลการเรียนในปีที่ผา่ นมา/ระหว่างปีที่ มุ่งทใหันผ้ทู้เ่วรงียทนี พัฒนาเตม็ ศกั ยภาพ ศึกษาอยใู่ นเกณฑ์ดีเย่ยี ม ๒. มีวฒุ ภิ าวะทจ่ี ะเรียนในชัน้ ทีส่ งู ข้นึ ๓. ผา่ นการประเมนิ ทกุ รายวชิ าของช้นั ที่เรียน ปจั จบุ นั /ในภาคเรียนแรกของช้นั ท่จี ะเลื่อนชั้น


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook