1
ก สารบญั หน้า สารบญั .................................................................................................................................................................. ก หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 เรือ่ ง การลำเลียงสาร และการรักษาดุลยภาพของร่างกายมนุษย์.....................................1 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ ....................................................................................................................1 2. ตวั ช้ีวดั .........................................................................................................................................................1 3. สาระสำคญั ..................................................................................................................................................1 4. สมรรถนะของผูเ้ รียน...................................................................................................................................2 5. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์..........................................................................................................................2 6. ชิน้ งาน/ภาระงาน........................................................................................................................................2 7. ส่อื การเรยี นร/ู้ แหล่งเรยี นรู้..........................................................................................................................2 8. การประเมินผลการเรยี นรู้ ...........................................................................................................................3 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 เร่อื ง การดำรงชวี ิตของพชื ..............................................................................................13 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ .................................................................................................................13 2. ตวั ชี้วัด......................................................................................................................................................13 3. สาระสำคัญ...............................................................................................................................................13 4. สมรรถนะของผเู้ รียน................................................................................................................................14 5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์.......................................................................................................................14 6. ชน้ิ งาน/ภาระงาน.....................................................................................................................................14 7. สอ่ื การเรียนรู/้ แหล่งเรยี นรู้.......................................................................................................................14 8. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ........................................................................................................................14 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง พนั ธกุ รรมและวิวัฒนาการ.....................................................................................21 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ .................................................................................................................21 2. ตัวชว้ี ดั ......................................................................................................................................................21 3. สาระสำคัญ...............................................................................................................................................21 4. สมรรถนะของผเู้ รยี น................................................................................................................................22 5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์.......................................................................................................................22 6. ชิน้ งาน/ภาระงาน.....................................................................................................................................22 7. สอ่ื การเรยี นรู้/แหลง่ เรียนรู้.......................................................................................................................22 8. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ........................................................................................................................22
ข สารบัญ หน้า หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรือ่ ง ชีวติ ในสงิ่ แวดล้อม..................................................................................................29 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ .................................................................................................................29 2. ตัวชว้ี ัด......................................................................................................................................................29 3. สาระสำคัญ...............................................................................................................................................29 4. สมรรถนะของผู้เรียน................................................................................................................................30 5. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์.......................................................................................................................30 6. ชน้ิ งาน/ภาระงาน.....................................................................................................................................30 7. ส่อื การเรยี นรู้/แหล่งเรยี นรู้.......................................................................................................................30 8. การประเมินผลการเรยี นรู้ ........................................................................................................................30
1 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เร่ือง การลำเลยี งสาร และการรักษาดลุ ยภาพของรา่ งกายมนุษย์ รหสั วชิ า ว30107 วทิ ยาศาสตรช์ วี ภาพ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี เวลาเรียน 800 นาที (16 คาบ) ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระวทิ ยาศาสตร์ชวี ภาพ มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัตขิ องสิ่งมีชีวติ หน่วยพื้นฐานของส่ิงมีชวี ิต การลำเลยี งสารเข้า และออกจาก เซลล์ ความสัมพนั ธ์ของโครงสร้าง และหน้าทีข่ องอวยั วะตา่ ง ๆ ของพืชที่ทำงานสัมพันธ์กนั รวมทั้งนำความรู้ ไปใชป้ ระโยชน์ 2. ตัวชว้ี ดั ม. 4/1 อธิบายโครงสร้างและสมบตั ขิ องเย่อื หมุ้ เซลล์ทส่ี ัมพนั ธก์ ับการลำเลยี งสาร และเปรยี บเทียบการ ลำเลียงสารผ่านเย่อื หุ้มเซลล์แบบตา่ ง ๆ ม. 4/2 อธบิ ายการควบคมุ ดลุ ยภาพของนำ้ และสารในเลอื ดโดยการทำงานของไต ม. 4/3 อธิบายการควบคุมดุลยภาพของกรด-เบสของเลือดโดยการทำงานของไตและปอด ม. 4/4 อธบิ ายการควบคมุ ดุลยภาพของอุณหภมู ิภายในรา่ งกายโดยระบบหมนุ เวียนเลือด ผวิ หนัง และ กล้ามเนื้อโครงร่าง ม. 4/5 อธิบาย และเขยี นแผนผงั เกีย่ วกับการตอบสนองของรา่ งกายแบบไม่จำเพาะ และแบบจำเพาะตอ่ สิ่งแปลกปลอมของร่างกาย ม. 4/6 สืบค้นขอ้ มลู อธบิ าย และยกตัวอยา่ งโรคหรอื อาการที่เกิดจากความผิดปกตขิ องระบบภูมคิ ุ้มกัน ม. 4/7 อธิบายภาวะภูมิคมุ้ กนั บกพร่องทม่ี ีสาเหตมุ าจากการติดเชอื้ HIV 3. สาระสำคญั เซลล์มีการลำเลียงสารเข้าและออกจากเซลล์ โดยมีการควบคุมทั้งชนิดและปริมาณสารที่ผ่านเข้าออก กระบวนการนี้ทำให้เซลล์รักษาดุลยภาพไว้ได้และเซลล์สามารถทำงานได้ตามปกติ ซึ่งส่งผลให้สิ่งมีชีวิต ดำรงชวี ติ อยู่ไดเ้ ย่ือหมุ้ เซลล์ทำหน้าที่เป็นเย่ือเลือกผ่านในการลำเลียงสาร โดยโครงสรา้ งและสมบัติของเย่ือหุ้ม เซลลม์ คี วามสมั พันธก์ ับการลำเลียงสารซ่ึงมหี ลายวธิ ี เชน่ การแพร่แบบธรรมดา ออสโมซสิ การแพร่แบบฟาซิลิ เทต แอกทีฟทรานสปอรต์ เอนโดไซโทซสิ และเอกโซไซโทซิส มนุษย์จะดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างปกติจะต้องรักษาดุลยภาพในร่างกาย การรักษาดุลยภาพขอ งร่างกายไดแ้ ก่ การรักษาดุลยภาพของนำ้ และสารในเลอื ดโดยการทำงานของไต การรักษาดลุ ยภาพของกรด-เบสของเลอื ดโดย การทำงานของไตและปอด การรักษาดุลยภาพของอุณหภูมิในร่างกายโดยการทำงานร่วมกันของระบบ หมุนเวียนเลอื ด ตอ่ มเหงอ่ื เส้นขนทผี่ วิ หนัง กลา้ มเนือ้ โครงร่าง และระบบประสาท เมื่อร่างกายได้รับเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมทำให้ไม่สามารถรักษาดุลยภาพได้ ร่างกายจะมีกลไกการ ตอ่ ตา้ นหรอื ทำลายโดยการทำงานของระบบภมู ิค้มุ กัน ซึ่งแบง่ ไดเ้ ปน็ 2 แบบคอื กลไกการต่อต้านหรือทำลาย สิ่งแปลกปลอมแบบไม่จำเพาะ โดยเป็นการป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่เนื้อเย่ือในร่างกายหรือกำจัดส่ิง แปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกายโดยกระบวนการต่าง ๆ สำหรับกลไกการต่อต้านหรือทำลายสิ่งแปลกปลอมแบบ
2 จำเพาะเป็นการทำงานโดยเซลลเ์ ม็ดเลอื ดขาวลิมโฟไซต์ คือ เซลลบ์ ี และเซลลท์ ี ขณะเดียวกันมนษุ ยย์ ังสามารถ เสริมสรา้ งภมู คิ มุ้ กันให้กบั ร่างกายได้ สามารถแบง่ ได้เปน็ 2 แบบคอื ภูมิคมุ้ กนั รบั มาและภูมคิ มุ้ กนั ก่อเอง บางครั้งอาจเกิดความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน เช่น โรคภูมิแพ้ ที่เกิดจากภูมิคุ้มกันตอบสนองต่อ แอนติเจนบางชนิดรุนแรงเกินไป โรคลูปัสหรือโรคเอสแอลอีที่เกิดจากภูมิคุ้มกันของร่างกายมีปฏิกิริยา ตอบสนองต่อเน้อื เยอ่ื หรอื เซลลข์ องตนเอง และโรคเอดส์ทเ่ี กดิ จากภมู คิ ้มุ กันบกพรอ่ งจากการตดิ เช้ือ HIV 4. สมรรถนะของผเู้ รยี น 1) ความสามารถในการในการสอ่ื สาร 2) ความสามารถในการคิด 3) ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 4) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1) ทักษะกระบวนการทำงานเป็นกลมุ่ 2) ทกั ษะความมุ่งม่ันในการทำงาน 6. ชน้ิ งาน/ภาระงาน 1) ใบงาน เร่อื ง โครงสรา้ งพน้ื ฐานของเซลล์และสว่ นห่อหุ้มเซลล์ 2) ใบงาน เรอ่ื ง การลำเลยี งสารผ่านเย่อื หมุ้ เซลล์ 3) ใบงาน เรื่อง กลไกการควบคมุ สมดลุ น้ำ และแรธ่ าตุของมนษุ ย์ 4) แบบบันทึกกจิ กรรม เรอื่ ง ภมู คิ มุ้ กันก่อเอง และภูมคิ มุ้ กันรบั มา 7. สอ่ื การเรยี นร้/ู แหล่งเรยี นรู้ 1) ส่ือพาวเวอร์พอ้ ย เรอ่ื ง โครงสรา้ งพน้ื ฐานของเซลลแ์ ละส่วนหอ่ หมุ้ เซลล์ 2) วีดิทัศน์ เรอ่ื ง Osmosis demonstration with the raw egg 3) วดี ิทศั น์ เร่อื ง Diffusion, Facilitated Diffusion & Active Transport- Movement across the Cell Membrane 4) สือ่ พาวเวอร์พอ้ ย เร่อื ง การลำเลยี งสารเขา้ ออกเซลล์ 5) วดี ิทัศน์ เรอื่ ง ไต : หนว่ ยไต และการผลติ ปสั สาวะ 6) สอ่ื พาวเวอร์พอ้ ย เรอื่ ง หน่วยไต และการผลิตปัสสาวะ 7) วดี ทิ ัศน์ เร่อื ง การรกั ษาสมดุลน้ำและเกลอื แรใ่ นสัตว์ 8) สื่อพาวเวอรพ์ ้อย เรอ่ื ง การรกั ษาสมดลุ นำ้ และเกลอื แรใ่ นสัตว์ 9) ส่อื พาวเวอรพ์ อ้ ย เรอื่ ง การรักษาดุลยภาพกรด – เบสของเลือด 10) สื่อพาวเวอร์พ้อย เรื่อง การรักษาดลุ ยภาพอณุ หภูมภิ ายในรา่ งกาย 11) สอ่ื พาวเวอรพ์ อ้ ย เร่ือง โครงสร้างระบบภมู ิคุม้ กัน และกลไกการต่อต้านสงิ่ แปลกปลอม 12) ใบความรู้ เรื่อง ประเภทของภมู คิ มุ้ กัน 13) บทความ เร่อื ง อิมมูน-ภูมิคุ้มกัน (อีกคร้งั ) 14) ส่ือพาวเวอรพ์ อ้ ย เร่ือง ภูมคิ ้มุ กันแบบก่อเองและภมู ิคุ้มกันแบบรับมา
3 8. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ วิธีการ เครื่องมือ เกณฑก์ ารผา่ น 1. ประเมนิ ใบงาน/แบบบันทกึ กจิ กรรม แบบประเมนิ ใบงาน/แบบบันทกึ ผ่านเกณฑร์ ะดบั ดีขึ้นไป กจิ กรรม 2. ประเมินทกั ษะการทำงานเปน็ กล่มุ แบบประเมินทกั ษะการทำงานเป็นกลุ่ม ผ่านเกณฑร์ ะดับดขี น้ึ ไป 3. ประเมนิ ทกั ษะความมงุ่ มน่ั ในการ แบบประเมนิ ความมงุ่ มัน่ ในการทำงาน ผา่ นเกณฑร์ ะดับดีขน้ึ ไป ทำงาน แบบประเมินการสรา้ งผังกราฟฟกิ ผา่ นเกณฑ์ระดบั ดีขึ้นไป 4. ประเมนิ การสรา้ งผังกราฟฟกิ
4 แบบประเมนิ ใบงาน/แบบบนั ทกึ กิจกรรม ชอ่ื -สกุล ความถกู ตอ้ ง ความเรียบรอ้ ย ความตรงตอ่ เวลา รวม ของเนื้อหา ของผลงาน 9 คะแนน 321 332 121 เกณฑ์การประเมนิ ระดับคณุ ภาพ ดี 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถงึ ปรับปรุง ปรับปรุง เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน 9-7 6-4 3-1 ลงชื่อ.................................................................ผู้ประเมนิ (นายเรวัตร อย่เู กิด) ........../…......./….......
5 เกณฑ์การประเมินใบงาน/แบบบันทกึ กิจกรรม โดยใช้เกณฑก์ ารประเมนิ แบบรูบรคิ ส์ การประเมิน ระดบั คุณภาพ/คะแนน 1. ความถูกตอ้ งของ เนอ้ื หา ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1) ตอบคำถามในใบงานได้ 2. ความเรียบรอ้ ยของ อยา่ งถูกต้อง ครบถว้ น ตอบคำถามในใบงานได้ ตอบคำถามในใบงานได้ ผลงาน สมบูรณ์ อยา่ งถูกตอ้ งเปน็ ส่วนมาก อย่างถูกต้องบางส่วน แต่ 3. ความตรงต่อเวลา มากกวา่ รอ้ ยละ 80 ไม่ครบถ้วน มากกว่ารอ้ ย ทำงานสะอาดเรียบร้อย มคี วามสวยงาม ละ 50 ทำเสร็จครบถ้วน และส่งภายในเวลาที่ ทำงานสะอาดเรียบร้อย ทำงานไมส่ ะอาด กำหนด เรียบรอ้ ย ทำเสรจ็ ครบถ้วน แตส่ ่ง ทำไมค่ รบถ้วน สง่ ลา่ ช้า ลา่ ช้ากว่ากำหนด 1 - 2 กวา่ กำหนดมากกว่า 2 วัน วัน
6 แบบประเมินทกั ษะกระบวนการกลุ่ม ช่ือ-สกลุ บทบาท การมีสว่ น ความ การรบั ฟัง ผลสำเร็จ รวม หนา้ ที่ รว่ ม รบั ผดิ ชอบ ความ ของงาน 15 คะแนน คดิ เห็น 321 321 321 321 321 เกณฑ์การประเมนิ ระดบั คุณภาพ ดี 3 หมายถึง ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรับปรงุ ปรับปรงุ เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ ช่วงคะแนน 11 - 15 6 - 10 1-5 ลงชื่อ.................................................................ผู้ประเมนิ (นายเรวตั ร อยเู่ กดิ ) ........../…......./….......
7 เกณฑป์ ระเมินทกั ษะการทำงานเป็นกล่มุ โดยใชเ้ กณฑก์ ารประเมินแบบรูบรคิ ส์ รายการประเมนิ 3 คะแนน พฤตกิ รรมบง่ ช้ี 1 คะแนน 1. บทบาทหน้าท่ี 2 คะแนน ไม่มีการกำหนดบทบาท 2. การมีส่วนร่วม มีการกำหนดบทบาท หน้าทข่ี องสมาชกิ หนา้ ที่สมาชกิ ไวช้ ัดเจน มีการกำหนดบทบาท สมาชิกกลมุ่ สว่ นใหญไ่ ม่ 3. ความรับผิดชอบ หนา้ ท่สี มาชิกไม่ครบ มสี ว่ นร่วมในการ สมาชิกกลมุ่ ทุกคนมีส่วน สมาชิกกลมุ่ สว่ นใหญม่ ี ปฏบิ ัตงิ านหรอื มีนอ้ ย 4. การรับฟงั ความ รว่ มในการปฏบิ ตั งิ าน ส่วนรว่ มในการ สมาชกิ สว่ นใหญ่ไม่ คดิ เห็น กล่มุ ปฏบิ ัติงาน ทำงานตามหน้าท่ที ่ไี ดร้ ับ 5. ผลสำเรจ็ ของงาน มอบหมาย หลกี เลย่ี ง สมาชิกทกุ คนทำงาน สมาชิกส่วนใหญท่ ำงาน งาน และงานเสรจ็ ช้า ตามหน้าท่ีทีไ่ ด้รับ ตามหนา้ ที่ที่ได้รบั กว่ากำหนด มอบหมาย ไมห่ ลกี เลย่ี ง มอบหมาย ไม่หลกี เล่ียง งาน งานเสร็จทันตาม งาน งานเสร็จทนั ตาม สมาชิกสว่ นใหญไ่ ม่รับฟงั กำหนด กำหนด ความคิดเห็นของผู้อน่ื สมาชิกทุกคนรบั ฟงั สมาชกิ ส่วนใหญร่ บั ฟงั เกิดจากความร่วมมอื ความคดิ เห็นของผูอ้ นื่ ความคิดเห็นของผอู้ ื่น ของสมาชกิ สว่ นนอ้ ยใน อย่างมีเหตผุ ล อยา่ งมเี หตุผล กลมุ่ เกิดจากความร่วมมอื เกิดจากความร่วมมอื ของสมาชกิ สว่ นใหญใ่ น ของสมาชกิ ทกุ คนใน กลมุ่ กลมุ่
แบบประเมนิ ความมงุ่ ม่ันในการทำงาน 8 ความต้งั ใจและ ร้จู ักแก้ปัญหาใน การปรับปรุงและ รวม 9 คะแนน ชอ่ื -สกลุ เอาใจใส่ การทำงาน แกไ้ ขการทำงาน 332121321 เกณฑก์ ารประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ ดี 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถงึ พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรบั ปรุง ปรับปรงุ เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน 9-7 6-4 3-1 ลงชื่อ.................................................................ผู้ประเมนิ (นายเรวตั ร อยู่เกดิ ) ........../…......./….......
9 เกณฑ์การประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านความมุ่งมน่ั ในการทำงาน โดยใชเ้ กณฑ์การประเมินแบบรูบรคิ ส์ รายการประเมนิ พฤติกรรมบ่งช้ี 1. ความต้ังใจและเอา 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน ใจใสต่ อ่ ภาระงานท่ี ขณะทำงานทไ่ี ด้รับ ได้รบั มอบหมาย โดยมี มอบหมาย นกั เรียนไม่ ขณะทำงานทไ่ี ดร้ ับ ขณะทำงานท่ีได้รับ พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ดงั นี้ แสดงพฤตกิ รรมบ่งช้ีท้งั - เลน่ โทรศัพทม์ ือถือ 3 พฤตกิ รรม หรอื แสดง มอบหมาย นักเรยี นแสดง มอบหมาย นกั เรยี น ระหว่างทำงาน พฤตกิ รรมบ่งชี้ 1 ใน 3 - นำงานในรายวชิ า พฤติกรรม พฤติกรรมบง่ ช้ี 2 ใน 3 แสดงพฤติกรรมบง่ ช้ที ั้ง อ่ืนขนึ้ มาทำ - ฟบุ หลบั แก้ปญั หาได้ด้วยตวั เอง พฤตกิ รรม 3 พฤติกรรม 2. รจู้ ักแกป้ ัญหาใน ทง้ั หมด การทำงานเม่ือมี แก้ปญั หาด้วยตัวเอง แก้ปัญหาดว้ ยตัวเองน้อย อุปสรรค มีความพยายามทีจ่ ะ 3. การปรบั ปรงุ และ ปรบั ปรุงแก้ไขการทำงาน มากกวา่ ร้อยละ 80 กวา่ รอ้ ยละ 80 ของ แก้ไขการทำงานของ ของตนใหม้ ผี ลงานท่ีดี ตนให้ดีย่ิงขึ้น และคุณภาพอยู่เสมอ ของงานทั้งหมด งานทงั้ หมด มีความพยายามท่ีจะ มีความพยายามท่ีจะ ปรบั ปรงุ แกไ้ ขการทำงาน ปรับปรุงแกไ้ ขการทำงาน ของตนใหม้ ผี ลงานทีด่ ี ของตนใหม้ ีผลงานทด่ี ี และคุณภาพ และคณุ ภาพเปน็ บางครงั้
10 แบบประเมินการสรา้ งผงั กราฟฟิก ช่ือ-สกลุ การจดั เรยี ง การ เนอ้ื หา การ รวม มโนทศั น์ เชื่อมโยง 321 ออกแบบ 12 คะแนน ระหว่าง 321 ข้อมลู 321 321 เกณฑ์การประเมิน ระดับคณุ ภาพ ดี 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถงึ พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรับปรุง ปรับปรุง เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ช่วงคะแนน 9 - 12 5-8 1-4 ลงช่ือ.................................................................ผู้ประเมนิ (นายเรวัตร อยู่เกิด) ........../…......./….......
11 เกณฑป์ ระเมนิ ทกั ษะการสรา้ งผังกราฟกิ โดยใช้เกณฑ์การประเมินแบบรูบรคิ ส์ รายการประเมนิ พฤติกรรมบ่งช้ี 1. การจดั เรยี งมโน ทศั น์ 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน 2. การเช่อื มโยง แสดงมโนทัศน์หลกั ได้ แสดงมโนทัศน์หลักได้ แสดงมโนทัศน์หลักได้ ระหวา่ งขอ้ มูล ชดั เจน แยกมโนทศั น์ยอ่ ย ชัดเจน แยกมโนทศั น์ย่อย ชัดเจน แต่ไม่แยกมโน 3. เนอ้ื หา 4. การออกแบบ ออกมาจากมโนทัศนห์ ลัก ออกมาจากมโนทศั นห์ ลัก ทัศน์ย่อยออกมาจากมโน จัดวางมโนทัศน์ที่อยู่ใน แต่ไมไ่ ดจ้ ัดวางมโนทัศน์ที่ ทัศน์หลัก และไม่ได้จัด ระดับเดียวกันให้อยู่ใน อยใู่ นระดับเดียวกันให้อยู่ วางมโนทัศน์ที่อยู่ใน ระนาบเดียวกัน และ ในระนาบเดียวกัน หรือ ระดับเดียวกันให้อยู่ใน ข้อมูลที่อยู่ในมโนทัศน์ ข้อมูลที่อยู่ในมโนทัศน์ ระนาบเดียวกัน รวมถึง รองเป็นประเด็นย่อยที่ รองไม่ได้เป็นประเด็น ข้อมูลที่อยู่ในมโนทัศน์ แยกออกมาจากมโนทัศน์ ย่อยที่แยกออกมาจาก รองไม่ได้เป็นประเด็น หลกั มโนทัศนห์ ลกั ย่อยที่แยกออกมาจาก มโนทัศน์หลกั มีการลากเส้นเชื่อมแสดง มกี ารลากเส้นเชือ่ มแสดง มีการลากเส้นเชอื่ มแสดง ความสมั พันธ์ไดอ้ ยา่ ง ความสัมพันธ์ได้อย่าง ความสัมพันธ์แต่ไม่ระบุ ถกู ตอ้ งทง้ั หมด มกี ารใช้ ถูกต้อง มีการใช้คำเชื่อม คำเชื่อมเพื่ออธิบาย คำเช่ือมเพื่ออธบิ าย เพื่ออธิบายความสัมพันธ์ ความสัมพันธ์ของแต่ละ ความสัมพนั ธข์ องระหวา่ ง ระหว่างมโนทัศน์แต่ มโนทศั น์ มโนทศั นไ์ ด้ถูกตอ้ ง เลอื กใชค้ ำเช่ือมผดิ แสดงข้อมูลสำคัญ ได้ แสดงข้อมูลสำคัญได้ แสดงข้อมูลสำคัญได้ ครบถ้วน ข้อมูลมีความ ครบถ้วน ข้อมูลมีความ ครบถ้วน แต่ข้อมูลและ ถูกต้อง และเขียนสะกด ถกู ตอ้ ง แตเ่ ขยี นสะกดคำ เขียนสะกดคำไม่ถกู ตอ้ ง คำไดถ้ ูกตอ้ งทงั้ หมด ไม่ถกู ต้อง ผังกราฟิกเป็นระเบียบ ผังกราฟิกเป็นระเบียบ ผังกราฟิกไม่เปน็ ระเบียบ ง่ายต่อการอ่านมีความ ง่ายต่อการอ่าน มีความ ไม่น่าสนใจ แต่ไม่มีการ น่าสนใจ มีการแบ่งพื้นที่ น่าสนใจ แต่ไม่มีการแบ่ง แบ่งพืน้ ท่ีหน้ากระดาษให้ หน้ากระดาษให้แต่ละม พื้นที่หน้ากระดาษให้แต่ แต่ละมโมทัศน์เท่า ๆ กัน โมทัศน์เท่า ๆ กัน และมี ละมโมทัศน์เท่า ๆ กัน และไม่มีการใช้สีสันท่ี การใช้สีสันที่แตกต่างกัน หรือไม่มีการใช้สีสันท่ี แตกต่างกันเพื่อเน้นย้ำ เพื่อเน้นย้ำความสำคัญ แตกตา่ งกันเพือ่ เนน้ ย้ำ ความสำคัญของเนอื้ หา ของ
12 รายการประเมิน พฤติกรรมบ่งช้ี 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน เนื้อหาหรือแสดงลำดับ ความสำคัญของเนื้อหา หรือแสดงลำดับของมโน ข อ ง ม โ น ท ั ศ น ์ ห ลั ก หรือแสดงลำดับของมโน ทัศนห์ ลักมโนทัศน์รอง มโนทัศน์รอง ทัศน์หลักมโนทัศนร์ อง
13 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 2 เร่ือง การดำรงชวี ิตของพชื รหสั วชิ า ว30107 วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เวลาเรยี น 500 นาที (10 คาบ) ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระวทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบตั ขิ องสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลำเลยี งสารเข้า และออกจาก เซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าทีข่ องอวยั วะตา่ ง ๆ ของพืชท่ีทำงานสมั พันธ์กัน รวมทั้งนำความรู้ ไปใชป้ ระโยชน์ 2. ตวั ชว้ี ดั ม. 4/8 ทดสอบ และบอกชนิดของสารอาหารที่พืชสังเคราะหไ์ ด้ ม. 4/9 สืบค้นข้อมูล อภปิ ราย และยกตวั อยา่ งเกีย่ วกบั การใชป้ ระโยชน์จากสารต่าง ๆ ที่พืชบางชนิดสร้าง ขึ้น ม. 4/10 ออกแบบการทดลอง ทดลอง และอธิบายเกี่ยวกับปัจจัยภายนอกที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของ พืช ม. 4/11 สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับสารควบคุมการเจริญเตบิ โตของพืชที่มนุษย์สังเคราะห์ขึ้นและยกตัวอย่าง การนำมาประยุกตใ์ ชท้ างด้านการเกษตรของพชื ม. 4/12 สงั เกต และอธิบายการตอบสนองของพืชตอ่ ส่งิ เรา้ ในรปู แบบตา่ ง ๆ ที่มีผลต่อการดำรงชวี ติ 3. สาระสำคัญ พืชสร้างน้ำตาลจากการสังเคราะห์ด้วยแสง โดยน้ำตาลท่ีสร้างขึ้นนี้ถูกนำไปใช้ในการหายใจระดับเซลล์ เพื่อให้ได้พลังงานสำหรับใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ และเป็นแหล่งคาร์บอนสำหรับกระบวนการสังเคราะห์ สารอินทรียแ์ ละการเจรญิ เตบิ โต สารอินทรีย์ที่พืชสร้างขึ้นมีทั้งที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืชโดยตรงซึ่งพบได้ในพืชทุกชนิดเช่ น คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ลิพิด กรดนิวคลิอิก กรดแอมิโน วิตามิน คลอโรฟิลล์ ฮอร์โมนพืช และสารอินทรีย์ที่ไม่ จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืชโดยตรงซึ่งพบได้ในพืชบางชนิดเพื่อช่วยให้พืชเหล่านั้นมีชีวิตรอดและ แพร่กระจายพันธุ์ได้ โดยปจั จุบันมนษุ ย์นำสารอนิ ทรยี ์ในกลุ่มนี้ไปใช้ประโยชน์ไดอ้ ย่างหลากหลาย เช่น การใช้ ประโยชน์จากยางพารา สารออกฤทธ์ทิ างชวี ภาพท่ีใชเ้ ปน็ ยา เป็นต้น การเจริญเติบโตของพืชถูกควบคุมด้วยปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายใน ปัจจัยภายนอกที่มีผลต่อการ เจรญิ เติบโต เชน่ แสงคาร์บอนไดออกไซด์ น้ำ อณุ หภมู ิ ธาตุอาหาร ออกซิเจน และศัตรพู ชื สว่ นปัจจัยภายใน ได้แก่ ฮอร์โมนพืช ซึ่งพืชสังเคราะห์ขึ้นเพื่อควบคุมการเจริญเติบโตในแต่ละช่วงชีวิตมนุษย์สังเคราะห์สาร ควบคุมการเจรญิ เติบโตของพืชโดยเลียนแบบฮอร์โมนพชื เพ่ือนำมาใช้ควบคุมการเจริญเติบโต และเพ่ิมผลผลิต ของพืช
14 การตอบสนองของพืชมีความสำคญั ต่อการดำรงชวี ิตของพชื โดยพืชสามารถตอบสนองตอ่ สงิ่ เร้าในรูปแบบ ของการเคลื่อนไหวได้ ซึ่งอาจแบ่งไดเ้ ป็น 2 รูปแบบ ไดแ้ ก่ การตอบสนองทีม่ ีทิศทางสัมพันธ์กับทิศทางของสิ่ง เร้า และการตอบสนองท่ีมที ศิ ทางไมส่ มั พันธก์ ับทิศทางของส่งิ เร้า 4. สมรรถนะของผ้เู รยี น 1) ความสามารถในการในการส่อื สาร 2) ความสามารถในการคดิ 3) ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต 4) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1) ทักษะกระบวนการทำงานเป็นกลุม่ 2) ทักษะความมุ่งมนั่ ในการทำงาน 6. ชนิ้ งาน/ภาระงาน 1) ใบงาน เร่อื ง ปจั จยั ภายนอกทม่ี ผี ลตอ่ การเจริญเตบิ โตของพชื 2) ใบงาน เร่อื ง ฮอร์โมนพืช 3) แบบบนั ทึกกิจกรรม เร่ือง การเคลือ่ นไหวของพชื 7. สอื่ การเรียนร/ู้ แหลง่ เรียนรู้ 1) สอื่ พาวเวอรพ์ อ้ ย เรื่อง ปัจจัยภายนอกทม่ี ีผลตอ่ การเจรญิ เติบโตของพืช 2) สอ่ื พาวเวอรพ์ ้อย เร่อื ง ฮอรโ์ มนพชื 3) สื่อพาวเวอรพ์ ้อย เรอื่ ง การตอบสนองต่อสง่ิ เรา้ ของพชื 8. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ วธิ ีการ เครอ่ื งมอื เกณฑ์การผ่าน 1. ประเมนิ ใบงาน/แบบบันทกึ กิจกรรม แบบประเมินใบงาน/แบบบันทกึ ผ่านเกณฑ์ระดับดขี ึ้นไป กิจกรรม 2. ประเมินทักษะการทำงานเป็นกลมุ่ แบบประเมนิ ทกั ษะการทำงานเป็นกลุ่ม ผา่ นเกณฑร์ ะดบั ดีขน้ึ ไป 3. ประเมนิ ทกั ษะความมุง่ มน่ั ในการ แบบประเมินความมุ่งมัน่ ในการทำงาน ผา่ นเกณฑ์ระดับดขี ้ึนไป ทำงาน
15 แบบประเมนิ ใบงาน/แบบบนั ทกึ กจิ กรรม ชอ่ื -สกุล ความถูกต้อง ความเรยี บร้อย ความตรงต่อเวลา รวม ของเน้ือหา ของผลงาน 9 คะแนน 321 332 121 เกณฑ์การประเมนิ ระดับคณุ ภาพ ดี 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถงึ ปรบั ปรุง ปรับปรุง เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน 9-7 6-4 3-1 ลงช่อื .................................................................ผู้ประเมนิ (นายเรวตั ร อยเู่ กดิ ) ........../…......./….......
16 เกณฑ์การประเมนิ ใบงาน/แบบบันทกึ กิจกรรม โดยใชเ้ กณฑ์การประเมนิ แบบรูบริคส์ การประเมิน ระดับคุณภาพ/คะแนน 1. ความถกู ต้องของ เน้อื หา ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1) ตอบคำถามในใบงานได้ 2. ความเรียบร้อยของ อยา่ งถูกต้อง ครบถ้วน ตอบคำถามในใบงานได้ ตอบคำถามในใบงานได้ ผลงาน สมบรู ณ์ อยา่ งถูกตอ้ งเป็นสว่ นมาก อยา่ งถกู ต้องบางส่วน แต่ 3. ความตรงตอ่ เวลา มากกวา่ รอ้ ยละ 80 ไม่ครบถ้วน มากกวา่ ร้อย ทำงานสะอาดเรยี บร้อย มคี วามสวยงาม ละ 50 ทำเสร็จครบถ้วน และสง่ ภายในเวลาที่ ทำงานสะอาดเรยี บร้อย ทำงานไม่สะอาด กำหนด เรียบรอ้ ย ทำเสรจ็ ครบถ้วน แตส่ ่ง ทำไมค่ รบถว้ น ส่งล่าชา้ ลา่ ชา้ กว่ากำหนด 1 - 2 กวา่ กำหนดมากกว่า 2 วัน วัน
17 แบบประเมนิ ทักษะกระบวนการกลุ่ม ชือ่ -สกลุ บทบาท การมีสว่ น ความ การรับฟงั ผลสำเร็จ รวม หนา้ ที่ ร่วม รับผิดชอบ ความ ของงาน 15 คะแนน คดิ เห็น 321 321 321 321 321 เกณฑ์การประเมนิ ระดับคุณภาพ ดี 3 หมายถึง ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรับปรงุ ปรับปรงุ เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน 11 - 15 6 - 10 1-5 ลงชื่อ.................................................................ผู้ประเมนิ (นายเรวตั ร อย่เู กิด) ........../…......./….......
18 เกณฑ์ประเมินทักษะการทำงานเปน็ กลุ่ม โดยใช้เกณฑก์ ารประเมินแบบรบู รคิ ส์ รายการประเมิน 3 คะแนน พฤตกิ รรมบง่ ชี้ 1 คะแนน 1. บทบาทหนา้ ท่ี 2 คะแนน ไมม่ กี ารกำหนดบทบาท 2. การมีสว่ นร่วม มีการกำหนดบทบาท หนา้ ท่ขี องสมาชกิ หน้าท่ีสมาชิกไว้ชัดเจน มีการกำหนดบทบาท สมาชิกกล่มุ สว่ นใหญ่ไม่ 3. ความรบั ผิดชอบ หนา้ ทส่ี มาชกิ ไมค่ รบ มสี ่วนร่วมในการ สมาชิกกลุ่มทุกคนมสี ว่ น สมาชกิ กลมุ่ ส่วนใหญ่มี ปฏบิ ตั งิ านหรือมนี อ้ ย 4. การรบั ฟงั ความ รว่ มในการปฏิบัตงิ าน สว่ นร่วมในการ สมาชกิ สว่ นใหญ่ไม่ คิดเหน็ กล่มุ ปฏิบตั ิงาน ทำงานตามหน้าทที่ ีไ่ ดร้ ับ 5. ผลสำเร็จของงาน มอบหมาย หลกี เล่ียง สมาชิกทุกคนทำงาน สมาชิกส่วนใหญท่ ำงาน งาน และงานเสรจ็ ชา้ ตามหนา้ ท่ีทไ่ี ด้รับ ตามหนา้ ทีท่ ่ไี ดร้ บั กวา่ กำหนด มอบหมาย ไมห่ ลีกเล่ยี ง มอบหมาย ไมห่ ลกี เลย่ี ง งาน งานเสรจ็ ทันตาม งาน งานเสรจ็ ทันตาม สมาชกิ สว่ นใหญไ่ มร่ บั ฟัง กำหนด กำหนด ความคิดเหน็ ของผูอ้ ื่น สมาชกิ ทุกคนรบั ฟงั สมาชกิ ส่วนใหญร่ บั ฟัง เกดิ จากความร่วมมอื ความคิดเหน็ ของผ้อู ่นื ความคดิ เห็นของผู้อน่ื ของสมาชิกสว่ นนอ้ ยใน อยา่ งมีเหตุผล อยา่ งมีเหตผุ ล กลมุ่ เกิดจากความรว่ มมอื เกิดจากความร่วมมอื ของสมาชิกส่วนใหญใ่ น ของสมาชกิ ทุกคนใน กลุม่ กลมุ่
แบบประเมนิ ความมงุ่ ม่นั ในการทำงาน 19 ความตง้ั ใจและ ร้จู ักแกป้ ญั หาใน การปรับปรุงและ รวม 9 คะแนน ชอ่ื -สกลุ เอาใจใส่ การทำงาน แก้ไขการทำงาน 332121321 เกณฑก์ ารประเมิน ระดบั คุณภาพ ดี 3 หมายถึง ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรบั ปรุง ปรับปรงุ เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน 9-7 6-4 3-1 ลงชือ่ .................................................................ผู้ประเมนิ (นายเรวตั ร อยู่เกดิ ) ........../…......./….......
20 เกณฑก์ ารประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ดา้ นความม่งุ ม่นั ในการทำงาน โดยใช้เกณฑ์การประเมนิ แบบรูบริคส์ รายการประเมนิ พฤติกรรมบง่ ช้ี 1. ความตง้ั ใจและเอา 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน ใจใส่ตอ่ ภาระงานท่ี ขณะทำงานที่ไดร้ ับ ไดร้ ับมอบหมาย โดยมี มอบหมาย นักเรียนไม่ ขณะทำงานทไ่ี ด้รับ ขณะทำงานท่ีได้รับ พฤติกรรมบง่ ช้ี ดงั น้ี แสดงพฤตกิ รรมบ่งชที้ งั้ - เล่นโทรศพั ทม์ อื ถอื 3 พฤติกรรม หรือแสดง มอบหมาย นักเรียนแสดง มอบหมาย นักเรียน ระหวา่ งทำงาน พฤติกรรมบง่ ช้ี 1 ใน 3 - นำงานในรายวิชา พฤตกิ รรม พฤตกิ รรมบง่ ช้ี 2 ใน 3 แสดงพฤติกรรมบง่ ช้ีทั้ง อน่ื ขึ้นมาทำ - ฟุบหลับ แก้ปญั หาไดด้ ว้ ยตัวเอง พฤติกรรม 3 พฤตกิ รรม 2. ร้จู กั แกป้ ญั หาใน ท้งั หมด การทำงานเมื่อมี แกป้ ญั หาด้วยตัวเอง แกป้ ัญหาดว้ ยตัวเองนอ้ ย อปุ สรรค มีความพยายามทีจ่ ะ 3. การปรับปรงุ และ ปรับปรุงแกไ้ ขการทำงาน มากกวา่ ร้อยละ 80 กว่ารอ้ ยละ 80 ของ แกไ้ ขการทำงานของ ของตนใหม้ ผี ลงานที่ดี ตนให้ดยี ิ่งขึ้น และคณุ ภาพอย่เู สมอ ของงานทงั้ หมด งานทง้ั หมด มีความพยายามท่ีจะ มีความพยายามท่จี ะ ปรบั ปรงุ แก้ไขการทำงาน ปรบั ปรุงแกไ้ ขการทำงาน ของตนให้มีผลงานท่ดี ี ของตนใหม้ ีผลงานท่ดี ี และคุณภาพ และคุณภาพเปน็ บางครง้ั
21 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 เรือ่ ง พนั ธุกรรมและววิ ัฒนาการ รหัสวชิ า ว30107 วิทยาศาสตรช์ วี ภาพ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี เวลาเรียน 800 นาที (16 คาบ) ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระวิทยาศาสตร์ชวี ภาพ มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจกระบวนการ และความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สารพันธุกรรม การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมที่มีผลต่อสิ่งมีชีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพ และ ววิ ฒั นาการของสิ่งมชี ีวิต รวมท้ังนำความรูไ้ ปใช้ประโยชน์ 2. ตวั ช้ีวัด ม. 4/1 อธิบายความสมั พันธร์ ะหว่างยีน การสังเคราะหโ์ ปรตีน และลักษณะทางพันธกุ รรม ม.4/2 อธิบายหลักการถ่ายทอดลกั ษณะทีถ่ กู ควบคมุ ดว้ ยยนี ทอ่ี ยบู่ นโครโมโซมเพศและมัลติเปลิ แอลลลี ม. 4/3 อธิบายผลที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงลำดับนิวคลีโอไทด์ในดีเอ็นเอต่อการแสดงลั กษณะของ ส่งิ มีชวี ิต ม. 4/4 สบื คน้ ขอ้ มูล และยกตวั อยา่ งการนำ มิวเทชนั ไปใช้ประโยชน์ ม.4/5 สืบค้นขอ้ มลู และอภปิ รายผลของเทคโนโลยีทางดเี อน็ เอท่มี ีต่อมนุษย์และส่งิ แวดลอ้ ม ม. 4/6 สืบคน้ ข้อมลู อธิบาย และยกตัวอยา่ งความหลากหลายของสิง่ มชี ีวติ ซ่ึงเปน็ ผลมาจากวิวฒั นาการ 3. สาระสำคัญ ลกั ษณะทางพันธกุ รรมเป็นลักษณะท่สี ามารถถ่ายทอดจากพอ่ แมไ่ ปสู่ลูกและรุ่นตอ่ ๆ ไปได้ ซ่ึงการถ่ายทอด ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมมีรูปแบบท่หี ลากหลาย บางกรณมี รี ปู แบบที่แตกตา่ งจากกรณีที่เมนเดลศึกษา เนอื่ งจาก มีจำนวนรปู แบบแอลลลี ของยนี ท่ีแตกตา่ งไป หรอื เปน็ ยนี ทอ่ี ย่บู นโครโมโซมเพศ เปน็ ตน้ การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรมเกิดผา่ นยีนซง่ึ เป็นชว่ งของ DNA ทอ่ี ยบู่ นโครโมโซม โดยลำดับนิวคลีโอ ไทด์ของยนี กำหนดลกั ษณะโปรตีนที่สังเคราะห์ขนึ้ แอลลลี รปู แบบตา่ งกนั จะมีลำดับนิวคลีโอไทด์ต่างกัน ทำให้ ไดโ้ ปรตนี ทีม่ ีสมบตั ติ ่างกัน การเปล่ยี นแปลงของลำดับนิวคลีโอไทด์จัดเป็นมิวเทชัน ซึง่ อาจเกิดในระดบั ยีนหรอื ในระดับโครโมโซม มิว เทชันอาจก่อให้เกดิ ผลเสีย ผลดี หรอื ไม่สง่ ผลใด ๆ ต่อส่ิงมีชวี ติ ขนึ้ อยกู่ ับวา่ การเปลย่ี นแปลงดังกล่าวส่งผลให้ โปรตนี ท่สี งั เคราะหข์ ้ึนเปลยี่ นแปลงหรือไม่และอย่างไร มนษุ ยป์ ระยุกตใ์ ชห้ ลกั การของการเกิดมิวเทชันในการ ชกั นำใหไ้ ด้ส่ิงมชี ีวิตทม่ี ลี ักษณะท่ีแตกต่างจากเดมิ โดยการใช้รงั สีและสารเคมี มนุษย์นำความรู้เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอมาประยกุ ตใ์ ช้ในหลายด้าน ทั้งด้านการแพทยแ์ ละเภสัชกรร มดา้ น การเกษตร ด้านนิติวิทยาศาสตร์ และด้านอุตสาหกรรม ซึ่งการใช้เทคโนโลยที างดีเอ็นเอดังกล่าวต้องคำนึงถึง ความปลอดภยั ทางชีวภาพ ชวี จรยิ ธรรม และผลกระทบทางด้านสังคมด้วย
22 มิวเทชันและการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศทำให้เกิดความหลากหลายทางพันธุกรรมของประชากรสิ่งมีชีวติ หนึ่ง ๆ โดยธรรมชาติจะมีการคดั เลือกสมาชกิ ในประชากรท่ีมีลกั ษณะท่เี หมาะสมกับสภาพแวดล้อมในขณะนั้น ทำให้ลักษณะดังกล่าวสามารถถ่ายทอดไปยังรุ่นต่อ ๆ ไปได้ การคัดเลือกโดยธรรมชาติดังกล่าวนี้ เกิดข้ึน ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานหลายชั่วรุ่น จนนำไปสู่ความแตกต่างกันของประชากรในปัจจุบันกับในรุ่นบรรพ บรุ ุษ และนำไปส่คู วามหลากหลายของส่งิ มีชีวติ ในปจั จุบัน 4. สมรรถนะของผ้เู รียน 1) ความสามารถในการในการสอื่ สาร 2) ความสามารถในการคิด 3) ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต 4) ความสามารถในการแก้ปญั หา 5. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1) ทกั ษะกระบวนการทำงานเปน็ กลมุ่ 2) ทักษะความมุ่งมนั่ ในการทำงาน 6. ช้นิ งาน/ภาระงาน 1) ใบงาน ปริศนาอกั ษรไขว้ 2) ใบงาน เรื่อง การผสมพจิ ารณาลกั ษณะเดียว 3) ใบงาน เรอ่ื ง การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพันธุกรรมนอกเหนือกฎของเมนเดล 7. สอ่ื การเรียนรู/้ แหลง่ เรยี นรู้ 1) สอื่ พาวเวอรพ์ ้อย เรอ่ื ง โครโมโซม ยนี แอลลีล จีโนไทป์ และฟีโนไทป์ 2) สอื่ พาวเวอรพ์ ้อย เรอ่ื ง กฎของความนา่ จะเป็น และการถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธกุ รรมของเมนเดล 3) สื่อพาวเวอร์พอ้ ย เร่อื ง การถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธุกรรมนอกเหนือกฎเมนเดล 4) วดี ิทศั น์การศกึ ษาพันธศุ าสตร์ของเมนเดล 8. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ วธิ กี าร เคร่อื งมือ เกณฑก์ ารผา่ น 1. ประเมินใบงาน/แบบบันทกึ กจิ กรรม แบบประเมนิ ใบงาน/แบบบันทึก ผา่ นเกณฑร์ ะดับดขี น้ึ ไป กจิ กรรม 2. ประเมนิ ทักษะการทำงานเปน็ กลุ่ม แบบประเมินทักษะการทำงานเป็นกลมุ่ ผ่านเกณฑ์ระดบั ดีขึน้ ไป 3. ประเมินทกั ษะความมุง่ มั่นในการ แบบประเมินความม่งุ ม่ันในการทำงาน ผ่านเกณฑร์ ะดับดีข้ึนไป ทำงาน
23 แบบประเมนิ ใบงาน/แบบบนั ทกึ กจิ กรรม ชอ่ื -สกุล ความถูกต้อง ความเรยี บร้อย ความตรงต่อเวลา รวม ของเน้ือหา ของผลงาน 9 คะแนน 321 332 121 เกณฑ์การประเมนิ ระดับคณุ ภาพ ดี 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถงึ ปรบั ปรุง ปรับปรุง เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน 9-7 6-4 3-1 ลงช่อื .................................................................ผู้ประเมนิ (นายเรวตั ร อยเู่ กดิ ) ........../…......./….......
24 เกณฑ์การประเมนิ ใบงาน/แบบบันทกึ กิจกรรม โดยใชเ้ กณฑ์การประเมนิ แบบรูบริคส์ การประเมิน ระดับคุณภาพ/คะแนน 1. ความถกู ต้องของ เน้อื หา ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1) ตอบคำถามในใบงานได้ 2. ความเรียบร้อยของ อยา่ งถูกต้อง ครบถ้วน ตอบคำถามในใบงานได้ ตอบคำถามในใบงานได้ ผลงาน สมบรู ณ์ อยา่ งถูกตอ้ งเป็นสว่ นมาก อยา่ งถกู ต้องบางส่วน แต่ 3. ความตรงตอ่ เวลา มากกวา่ รอ้ ยละ 80 ไม่ครบถ้วน มากกวา่ ร้อย ทำงานสะอาดเรยี บร้อย มคี วามสวยงาม ละ 50 ทำเสร็จครบถ้วน และสง่ ภายในเวลาที่ ทำงานสะอาดเรยี บร้อย ทำงานไม่สะอาด กำหนด เรียบรอ้ ย ทำเสรจ็ ครบถ้วน แตส่ ่ง ทำไมค่ รบถว้ น ส่งล่าชา้ ลา่ ชา้ กว่ากำหนด 1 - 2 กวา่ กำหนดมากกว่า 2 วัน วัน
25 แบบประเมนิ ทักษะกระบวนการกลุ่ม ชือ่ -สกลุ บทบาท การมีสว่ น ความ การรับฟงั ผลสำเร็จ รวม หนา้ ที่ ร่วม รับผิดชอบ ความ ของงาน 15 คะแนน คดิ เห็น 321 321 321 321 321 เกณฑ์การประเมนิ ระดับคุณภาพ ดี 3 หมายถึง ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรับปรงุ ปรับปรงุ เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน 11 - 15 6 - 10 1-5 ลงชื่อ.................................................................ผู้ประเมนิ (นายเรวตั ร อย่เู กิด) ........../…......./….......
26 เกณฑ์ประเมินทักษะการทำงานเปน็ กลุ่ม โดยใช้เกณฑก์ ารประเมินแบบรบู รคิ ส์ รายการประเมิน 3 คะแนน พฤตกิ รรมบง่ ชี้ 1 คะแนน 1. บทบาทหนา้ ท่ี 2 คะแนน ไมม่ กี ารกำหนดบทบาท 2. การมีสว่ นร่วม มีการกำหนดบทบาท หนา้ ท่ขี องสมาชกิ หน้าท่ีสมาชิกไว้ชัดเจน มีการกำหนดบทบาท สมาชิกกล่มุ สว่ นใหญ่ไม่ 3. ความรบั ผิดชอบ หนา้ ทส่ี มาชกิ ไมค่ รบ มสี ่วนร่วมในการ สมาชิกกลุ่มทุกคนมสี ว่ น สมาชกิ กลมุ่ ส่วนใหญ่มี ปฏบิ ตั งิ านหรือมนี อ้ ย 4. การรบั ฟงั ความ รว่ มในการปฏิบัตงิ าน สว่ นร่วมในการ สมาชกิ สว่ นใหญ่ไม่ คิดเหน็ กล่มุ ปฏิบตั ิงาน ทำงานตามหน้าทที่ ีไ่ ดร้ ับ 5. ผลสำเร็จของงาน มอบหมาย หลกี เล่ียง สมาชิกทุกคนทำงาน สมาชิกส่วนใหญท่ ำงาน งาน และงานเสรจ็ ชา้ ตามหนา้ ท่ีทไ่ี ด้รับ ตามหนา้ ทีท่ ่ไี ดร้ บั กวา่ กำหนด มอบหมาย ไมห่ ลีกเล่ยี ง มอบหมาย ไมห่ ลกี เลย่ี ง งาน งานเสรจ็ ทันตาม งาน งานเสรจ็ ทันตาม สมาชกิ สว่ นใหญไ่ มร่ บั ฟัง กำหนด กำหนด ความคิดเหน็ ของผูอ้ ื่น สมาชกิ ทุกคนรบั ฟงั สมาชกิ ส่วนใหญร่ บั ฟัง เกดิ จากความร่วมมอื ความคิดเหน็ ของผ้อู ่นื ความคดิ เห็นของผู้อน่ื ของสมาชิกสว่ นนอ้ ยใน อยา่ งมีเหตุผล อยา่ งมีเหตผุ ล กลมุ่ เกิดจากความรว่ มมอื เกิดจากความร่วมมอื ของสมาชิกส่วนใหญใ่ น ของสมาชกิ ทุกคนใน กลุม่ กลมุ่
แบบประเมนิ ความมงุ่ ม่นั ในการทำงาน 27 ความตง้ั ใจและ ร้จู ักแกป้ ญั หาใน การปรับปรุงและ รวม 9 คะแนน ชอ่ื -สกลุ เอาใจใส่ การทำงาน แก้ไขการทำงาน 332121321 เกณฑก์ ารประเมิน ระดบั คุณภาพ ดี 3 หมายถึง ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรบั ปรุง ปรับปรงุ เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน 9-7 6-4 3-1 ลงชือ่ .................................................................ผู้ประเมนิ (นายเรวตั ร อยู่เกดิ ) ........../…......./….......
28 เกณฑก์ ารประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ดา้ นความม่งุ ม่นั ในการทำงาน โดยใช้เกณฑ์การประเมนิ แบบรูบริคส์ รายการประเมนิ พฤติกรรมบง่ ช้ี 1. ความตง้ั ใจและเอา 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน ใจใส่ตอ่ ภาระงานท่ี ขณะทำงานที่ไดร้ ับ ไดร้ ับมอบหมาย โดยมี มอบหมาย นักเรียนไม่ ขณะทำงานทไ่ี ด้รับ ขณะทำงานท่ีได้รับ พฤติกรรมบง่ ช้ี ดงั น้ี แสดงพฤตกิ รรมบ่งชที้ งั้ - เล่นโทรศพั ทม์ อื ถอื 3 พฤติกรรม หรือแสดง มอบหมาย นักเรียนแสดง มอบหมาย นักเรียน ระหวา่ งทำงาน พฤติกรรมบง่ ช้ี 1 ใน 3 - นำงานในรายวิชา พฤตกิ รรม พฤตกิ รรมบง่ ช้ี 2 ใน 3 แสดงพฤติกรรมบง่ ช้ีทั้ง อน่ื ขึ้นมาทำ - ฟุบหลับ แก้ปญั หาไดด้ ว้ ยตัวเอง พฤติกรรม 3 พฤตกิ รรม 2. ร้จู กั แกป้ ญั หาใน ท้งั หมด การทำงานเมื่อมี แกป้ ญั หาด้วยตัวเอง แกป้ ัญหาดว้ ยตัวเองนอ้ ย อปุ สรรค มีความพยายามทีจ่ ะ 3. การปรับปรงุ และ ปรับปรุงแกไ้ ขการทำงาน มากกวา่ ร้อยละ 80 กว่ารอ้ ยละ 80 ของ แกไ้ ขการทำงานของ ของตนใหม้ ผี ลงานที่ดี ตนให้ดยี ิ่งขึ้น และคณุ ภาพอย่เู สมอ ของงานทงั้ หมด งานทง้ั หมด มีความพยายามท่ีจะ มีความพยายามท่จี ะ ปรบั ปรงุ แก้ไขการทำงาน ปรบั ปรุงแกไ้ ขการทำงาน ของตนให้มีผลงานท่ดี ี ของตนใหม้ ีผลงานท่ดี ี และคุณภาพ และคุณภาพเปน็ บางครง้ั
29 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 เรื่อง ชีวิตในส่ิงแวดลอ้ ม รหสั วชิ า ว30107 วทิ ยาศาสตร์ชวี ภาพ กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เวลาเรียน 800 นาที (16 คาบ) ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระวิทยาศาสตรช์ วี ภาพ มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งไม่มีชีวิตกับสิ่งมีชีวิต และความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมชี ีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอดพลงั งาน การเปลี่ยนแปลง แทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายของประชากร ปัญหา และผลกระทบที่มีต่อทรัพยากรธรรมชาติ และการ แกไ้ ขปัญหาส่งิ แวดลอ้ ม รวมทง้ั นำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ 2. ตวั ชี้วัด ม. 4/1 สบื คน้ ขอ้ มลู และอธบิ ายความสัมพันธ์ของสภาพทางภูมศิ าสตรบ์ นโลกกับความหลากหลายของไบ โอม และยกตัวอย่างไบโอมชนิดต่าง ๆ ม. 4/2 สืบคน้ ข้อมลู อภิปรายสาเหตุ และยกตัวอยา่ งการเปลี่ยนแปลงแทนทีข่ องระบบนเิ วศ ม. 4/3 สืบค้นข้อมลู อธิบายและยกตัวอย่างเกี่ยวกับการเปล่ียนแปลงขององค์ประกอบทางกายภาพและ ทางชวี ภาพทีม่ ีผลต่อการเปลยี่ นแปลงขนาดของประชากรส่งิ มชี ีวติ ในระบบนเิ วศ ม. 4/4 สืบค้นขอ้ มูลและอภิปรายเกย่ี วกบั ปญั หาและผลกระทบท่ีมตี อ่ ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม พร้อมทงั้ นำเสนอแนวทางในการอนุรักษ์ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละการแก้ไขปญั หาสง่ิ แวดล้อม 3. สาระสำคญั โลกแตล่ ะบริเวณมสี ภาพทางภมู ิศาสตร์ท่แี ตกตา่ งกนั แบ่งออกไดเ้ ป็นหลายเขตตามสภาพภูมอิ ากาศทำให้มี ระบบนเิ วศท่หี ลากหลาย และเกดิ เปน็ ความหลากหลายของไบโอม การเปลย่ี นแปลงของระบบนิเวศเกิดข้นึ ได้ตลอดเวลาทง้ั การเปลีย่ นแปลงทเี่ กดิ ขน้ึ เองตามธรรมชาตแิ ละเกิด จากการกระทำของมนุษย์ การเปลี่ยนแปลงแทนที่เป็นการเปลี่ยนแปลงของกลุ่มสิ่งมีชีวิตที่เกิดขึ้นอย่างช้า ๆ เป็นเวลานาน ซงึ่ เปน็ ผลจากปฏิสมั พันธ์ระหวา่ งองคป์ ระกอบทางกายภาพและองค์ประกอบทางชีวภาพ ส่งผล ใหร้ ะบบนิเวศเปลย่ี นแปลงไปสูส่ มดลุ จนเกดิ สังคมสมบูรณ์ได้ การเปลย่ี นแปลงขององค์ประกอบในระบบนเิ วศท้ังองค์ประกอบทางกายภาพและองค์ประกอบทางชีวภาพ มผี ลตอ่ การเปลย่ี นแปลงขนาดของประชากร ประชากรมนษุ ยม์ ีการเพ่ิมขนึ้ อยา่ งรวดเรว็ มีการใชท้ รัพยากรธรรมชาตโิ ดยปราศจากความระมัดระวังและมี การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ซ่ึงอาจส่งผลใหเ้ กดิ ปัญหาตอ่ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม ปญั หาท่ีเกิดกับ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บางปัญหาส่งผลกระทบในระดับท้องถิ่น ระดับประเทศ หรือระดับโลก การลดปริมาณการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ การกำจัดของเสียที่เป็นสาเหตุของปัญหาสิ่งแวดล้อม และการ วางแผนจัดการทรัพยากรธรรมชาติที่ดี เป็นแนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และลดปัญหา สง่ิ แวดลอ้ ม เพอ่ื ใหเ้ กิดการใชป้ ระโยชน์ที่ยั่งยนื
30 4. สมรรถนะของผูเ้ รยี น 1) ความสามารถในการในการสอ่ื สาร 2) ความสามารถในการคิด 3) ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ 4) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1) ทกั ษะกระบวนการทำงานเปน็ กลุ่ม 2) ทักษะความมุ่งมั่นในการทำงาน 6. ชิ้นงาน/ภาระงาน 1) แบบบนั ทึกกจิ กรรม เร่อื ง ไบโอมบนบก 2) แบบบันทกึ กจิ กรรม เรอ่ื ง การเปล่ยี นแปลงแทนที่ของระบบนิเวศ 7. สอ่ื การเรยี นรู้/แหลง่ เรยี นรู้ 1) วดี ทิ ัศน์ เรอื่ ง ไบโอมในน้ำ 2) สอ่ื พาวเวอรพ์ อ้ ย เรื่อง ไบโอม 3) ส่ือพาวเวอร์พอ้ ย เร่อื ง ความสัมพันธ์ระหว่างสงิ่ มีชวี ิตกับสิ่งมีชวี ิต 4) ส่ือพาวเวอรพ์ อ้ ย เรอ่ื ง โซ่อาหารและสายใยอาหาร 5) ส่ือพาวเวอรพ์ อ้ ย เร่ือง พรี ะมิดทางนเิ วศวทิ ยา 6) ส่อื พาวเวอร์พอ้ ย เรือ่ ง การเปลีย่ นแปลงแทนทข่ี องระบบนเิ วศ 7) ใบความรู้ เรื่อง การเปล่ยี นแปลงแทนท่ขี องระบบนิเวศ 8) วีดิทัศน์ เร่อื ง ไฟปา่ 9) สื่อพาวเวอร์พ้อย เร่ือง ทรัพยากรธรรมชาติ 8. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ วธิ กี าร เครื่องมอื เกณฑ์การผา่ น 1. ประเมนิ ใบงาน/แบบบันทกึ กิจกรรม แบบประเมนิ ใบงาน/แบบบันทกึ ผ่านเกณฑร์ ะดบั ดขี น้ึ ไป กิจกรรม 2. ประเมินทกั ษะการทำงานเป็นกลุ่ม แบบประเมินทกั ษะการทำงานเป็นกลมุ่ ผ่านเกณฑร์ ะดบั ดีข้นึ ไป 3. ประเมินทักษะความม่งุ ม่นั ในการ แบบประเมนิ ความมุ่งมัน่ ในการทำงาน ผ่านเกณฑร์ ะดับดีขนึ้ ไป ทำงาน
31 แบบประเมนิ ใบงาน/แบบบนั ทกึ กจิ กรรม ชอ่ื -สกุล ความถูกต้อง ความเรยี บร้อย ความตรงต่อเวลา รวม ของเน้ือหา ของผลงาน 9 คะแนน 321 332 121 เกณฑ์การประเมนิ ระดับคณุ ภาพ ดี 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถงึ ปรบั ปรุง ปรับปรุง เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน 9-7 6-4 3-1 ลงช่อื .................................................................ผู้ประเมนิ (นายเรวตั ร อยเู่ กดิ ) ........../…......./….......
32 เกณฑ์การประเมนิ ใบงาน/แบบบันทกึ กิจกรรม โดยใชเ้ กณฑ์การประเมนิ แบบรูบริคส์ การประเมิน ระดับคุณภาพ/คะแนน 1. ความถกู ต้องของ เน้อื หา ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1) ตอบคำถามในใบงานได้ 2. ความเรียบร้อยของ อยา่ งถูกต้อง ครบถ้วน ตอบคำถามในใบงานได้ ตอบคำถามในใบงานได้ ผลงาน สมบรู ณ์ อยา่ งถูกตอ้ งเป็นสว่ นมาก อยา่ งถกู ต้องบางส่วน แต่ 3. ความตรงตอ่ เวลา มากกวา่ รอ้ ยละ 80 ไม่ครบถ้วน มากกวา่ ร้อย ทำงานสะอาดเรยี บร้อย มคี วามสวยงาม ละ 50 ทำเสร็จครบถ้วน และสง่ ภายในเวลาที่ ทำงานสะอาดเรยี บร้อย ทำงานไม่สะอาด กำหนด เรียบรอ้ ย ทำเสรจ็ ครบถ้วน แตส่ ่ง ทำไมค่ รบถว้ น ส่งล่าชา้ ลา่ ชา้ กว่ากำหนด 1 - 2 กวา่ กำหนดมากกว่า 2 วัน วัน
33 แบบประเมนิ ทักษะกระบวนการกลุ่ม ชือ่ -สกลุ บทบาท การมีสว่ น ความ การรับฟงั ผลสำเร็จ รวม หนา้ ที่ ร่วม รับผิดชอบ ความ ของงาน 15 คะแนน คดิ เห็น 321 321 321 321 321 เกณฑ์การประเมนิ ระดับคุณภาพ ดี 3 หมายถึง ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรับปรงุ ปรับปรงุ เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน 11 - 15 6 - 10 1-5 ลงชื่อ.................................................................ผู้ประเมนิ (นายเรวตั ร อย่เู กิด) ........../…......./….......
34 เกณฑ์ประเมินทักษะการทำงานเปน็ กลุ่ม โดยใช้เกณฑก์ ารประเมินแบบรบู รคิ ส์ รายการประเมิน 3 คะแนน พฤตกิ รรมบง่ ชี้ 1 คะแนน 1. บทบาทหนา้ ท่ี 2 คะแนน ไมม่ กี ารกำหนดบทบาท 2. การมีสว่ นร่วม มีการกำหนดบทบาท หนา้ ท่ขี องสมาชกิ หน้าท่ีสมาชิกไว้ชัดเจน มีการกำหนดบทบาท สมาชิกกล่มุ สว่ นใหญ่ไม่ 3. ความรบั ผิดชอบ หนา้ ทส่ี มาชกิ ไมค่ รบ มสี ่วนร่วมในการ สมาชิกกลุ่มทุกคนมสี ว่ น สมาชกิ กลมุ่ ส่วนใหญ่มี ปฏบิ ตั งิ านหรือมนี อ้ ย 4. การรบั ฟงั ความ รว่ มในการปฏิบัตงิ าน สว่ นร่วมในการ สมาชกิ สว่ นใหญ่ไม่ คิดเหน็ กล่มุ ปฏิบตั ิงาน ทำงานตามหน้าทที่ ีไ่ ดร้ ับ 5. ผลสำเร็จของงาน มอบหมาย หลกี เล่ียง สมาชิกทุกคนทำงาน สมาชิกส่วนใหญท่ ำงาน งาน และงานเสรจ็ ชา้ ตามหนา้ ท่ีทไ่ี ด้รับ ตามหนา้ ทีท่ ่ไี ดร้ บั กวา่ กำหนด มอบหมาย ไมห่ ลีกเล่ยี ง มอบหมาย ไมห่ ลกี เลย่ี ง งาน งานเสรจ็ ทันตาม งาน งานเสรจ็ ทันตาม สมาชกิ สว่ นใหญไ่ มร่ บั ฟัง กำหนด กำหนด ความคิดเหน็ ของผูอ้ ื่น สมาชกิ ทุกคนรบั ฟงั สมาชกิ ส่วนใหญร่ บั ฟัง เกดิ จากความร่วมมอื ความคิดเหน็ ของผ้อู ่นื ความคดิ เห็นของผู้อน่ื ของสมาชิกสว่ นนอ้ ยใน อยา่ งมีเหตุผล อยา่ งมีเหตผุ ล กลมุ่ เกิดจากความรว่ มมอื เกิดจากความร่วมมอื ของสมาชิกส่วนใหญใ่ น ของสมาชกิ ทุกคนใน กลุม่ กลมุ่
แบบประเมนิ ความมงุ่ ม่นั ในการทำงาน 35 ความตง้ั ใจและ ร้จู ักแกป้ ญั หาใน การปรับปรุงและ รวม 9 คะแนน ชอ่ื -สกลุ เอาใจใส่ การทำงาน แก้ไขการทำงาน 332121321 เกณฑก์ ารประเมิน ระดบั คุณภาพ ดี 3 หมายถึง ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรบั ปรุง ปรับปรงุ เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน 9-7 6-4 3-1 ลงชือ่ .................................................................ผู้ประเมนิ (นายเรวตั ร อยู่เกดิ ) ........../…......./….......
36 เกณฑก์ ารประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ดา้ นความม่งุ ม่นั ในการทำงาน โดยใช้เกณฑ์การประเมนิ แบบรูบริคส์ รายการประเมนิ พฤติกรรมบง่ ช้ี 1. ความตง้ั ใจและเอา 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน ใจใส่ตอ่ ภาระงานท่ี ขณะทำงานที่ไดร้ ับ ไดร้ ับมอบหมาย โดยมี มอบหมาย นักเรียนไม่ ขณะทำงานทไ่ี ด้รับ ขณะทำงานท่ีได้รับ พฤติกรรมบง่ ช้ี ดงั น้ี แสดงพฤตกิ รรมบ่งชที้ งั้ - เล่นโทรศพั ทม์ อื ถอื 3 พฤติกรรม หรือแสดง มอบหมาย นักเรียนแสดง มอบหมาย นักเรียน ระหวา่ งทำงาน พฤติกรรมบง่ ช้ี 1 ใน 3 - นำงานในรายวิชา พฤตกิ รรม พฤตกิ รรมบง่ ช้ี 2 ใน 3 แสดงพฤติกรรมบง่ ช้ีทั้ง อน่ื ขึ้นมาทำ - ฟุบหลับ แก้ปญั หาไดด้ ว้ ยตัวเอง พฤติกรรม 3 พฤตกิ รรม 2. ร้จู กั แกป้ ญั หาใน ท้งั หมด การทำงานเมื่อมี แกป้ ญั หาด้วยตัวเอง แกป้ ัญหาดว้ ยตัวเองนอ้ ย อปุ สรรค มีความพยายามทีจ่ ะ 3. การปรับปรงุ และ ปรับปรุงแกไ้ ขการทำงาน มากกวา่ ร้อยละ 80 กว่ารอ้ ยละ 80 ของ แกไ้ ขการทำงานของ ของตนใหม้ ผี ลงานที่ดี ตนให้ดยี ิ่งขึ้น และคณุ ภาพอย่เู สมอ ของงานทงั้ หมด งานทง้ั หมด มีความพยายามท่ีจะ มีความพยายามท่จี ะ ปรบั ปรงุ แก้ไขการทำงาน ปรบั ปรุงแกไ้ ขการทำงาน ของตนให้มีผลงานท่ดี ี ของตนใหม้ ีผลงานท่ดี ี และคุณภาพ และคุณภาพเปน็ บางครง้ั
Search
Read the Text Version
- 1 - 39
Pages: