Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยการเรียนรู้รายวิชาชีววิทยา 2 (ว30252)

หน่วยการเรียนรู้รายวิชาชีววิทยา 2 (ว30252)

Published by Rawat Yukerd, 2021-08-01 19:06:05

Description: หน่วยการเรียนรู้รายวิชาชีววิทยา 2 (ว30252) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสรรพยาวิทยา จัดทำโดย นายเรวัตร อยู่เกิด

Search

Read the Text Version

ก สารบญั หน้า สารบัญ.............................................................................................................................................................. ก หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรื่อง การถ่ายทอดทางพนั ธุกรรม....................................................................................1 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ .................................................................................................................1 2. ผลการเรียนรู้ ...........................................................................................................................................1 3. สาระสำคัญ ..............................................................................................................................................1 4. สมรรถนะของผูเ้ รยี น................................................................................................................................2 5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์.......................................................................................................................2 6. ชิ้นงาน/ภาระงาน.....................................................................................................................................2 7. สอ่ื การเรียนร/ู้ แหลง่ เรียนร.ู้ ......................................................................................................................2 8. การประเมนิ ผลการเรียนรู้........................................................................................................................3 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 เร่ือง ยีน และโครโมโซม...............................................................................................11 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ ..............................................................................................................11 2. ผลการเรยี นรู้ ........................................................................................................................................11 3. สาระสำคัญ ...........................................................................................................................................11 4. สมรรถนะของผู้เรยี น.............................................................................................................................12 5. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์....................................................................................................................12 6. ชน้ิ งาน/ภาระงาน..................................................................................................................................12 7. สื่อการเรยี นร/ู้ แหลง่ เรียนร.ู้ ...................................................................................................................12 8. การประเมินผลการเรยี นรู้.....................................................................................................................13 หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 3 เรือ่ ง พันธุศาสตร์โมเลกลุ และเทคโนโลยี DNA............................................................21 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ ..............................................................................................................21 2. ผลการเรียนรู้ ........................................................................................................................................21 3. สาระสำคญั ...........................................................................................................................................21 4. สมรรถนะของผ้เู รยี น.............................................................................................................................22 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์....................................................................................................................22 6. ช้นิ งาน/ภาระงาน..................................................................................................................................22 7. สื่อการเรยี นรู้/แหลง่ เรียนร.ู้ ...................................................................................................................22 8. การประเมินผลการเรียนรู้.....................................................................................................................22

ข หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 4 เร่อื ง ววิ ัฒนาการ..........................................................................................................31 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ ..............................................................................................................31 2. ผลการเรียนรู้ ........................................................................................................................................31 3. สาระสำคญั ...........................................................................................................................................31 4. สมรรถนะของผ้เู รยี น.............................................................................................................................32 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์....................................................................................................................32 6. ชนิ้ งาน/ภาระงาน..................................................................................................................................32 7. ส่ือการเรียนรู้/แหลง่ เรยี นร.ู้ ...................................................................................................................32 8. การประเมินผลการเรียนรู้.....................................................................................................................32

1 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 เรือ่ ง การถา่ ยทอดทางพนั ธกุ รรม รหสั วชิ า ว30252 ชวี วทิ ยา 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เวลาเรียน 600 นาที (12 คาบ) ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 4 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระชวี วิทยา ขอ้ ที่ 2 เข้าใจการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม การถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม สมบัติ และหน้าที่ของสาร พันธุกรรม การเกิดมิวเทชัน เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ หลักฐานข้อมูล และแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของ สิ่งมชี วี ติ ภาวะสมดุลของฮาร์ดี-ไวน์เบริ ์ก การเกิด สปชี สี ใ์ หม่ ความหลากหลายทางชวี ภาพ กำเนดิ ของส่งิ มีชวี ิต ความหลากหลายของส่ิงมีชวี ิต และอนกุ รมวธิ าน รวมท้ังนำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ 2. ผลการเรียนรู้ ม. 4/1 สืบค้นข้อมูล อธิบาย และสรปุ ผลการทดลองของเมนเดล ม. 4/2 อธิบาย และสรปุ กฎแหง่ การแยก และกฎแหง่ การรวมกล่มุ กนั อย่างอิสระ และนำกฎของเมนเดลนี้ ไปอธบิ ายการถา่ ยทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรม และในใช้ในการคำนวณโอกาสในการเกิดฟโี นไทป์ และจโี นไทป์ แบบตา่ ง ๆ ของรนุ่ F1 และ F2 ม. 4/3 สบื ค้นข้อมูล วเิ คราะห์ อธบิ าย และสรุปเกี่ยวกบั การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม ทีเ่ ป็นสว่ น ขยายของพันธุศาสตรเ์ มนเดล ม. 4/4 สบื คน้ ขอ้ มลู วิเคราะห์ และเปรยี บเทียบลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม ทีม่ กี ารแปรผนั ไม่ต่อเนือ่ ง และ ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมทมี่ ีการแปรผันต่อเนอ่ื ง ม. 4/5 อธบิ ายการถา่ ยทอดยนี บนโครโมโซม และยกตัวอยา่ งลกั ษณะทางพันธุกรรมทถี่ ูกควบคุมด้วยยีน บนออโตโซม และยนี บนโครโมโซมเพศ 3. สาระสำคัญ ส่งิ มีชีวิตแต่ละชนดิ จะมีลกั ษณะเฉพาะซงึ่ สามารถถ่ายทอดจากรนุ่ หน่ึงไปยงั อกี รนุ่ หนง่ึ ได้เมนเดลศึกษาการ ถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมโดยการผสมพันธุ์ถัว่ ลนั เตา จนสรุปเป็นกฎการแยกและกฎการรวมกลุ่มอยา่ ง อสิ ระ กฎการแยกมใี จความวา่ แอลลลี ทอ่ี ยเู่ ปน็ คู่จะแยกออกจากกนั ในระหวา่ งการสรา้ งเซลลส์ ืบพนั ธ์ุ โดยเซลล์ สืบพันธแ์ุ ตล่ ะเซลล์จะมีเพียงแอลลลี ใดแอลลีลหน่งึ กฎการรวมกลมุ่ อย่างอสิ ระมีใจความวา่ หลงั จากคู่ของแอล ลลี แยกออกจากกนั แต่ละแอลลีลจะจัดกลมุ่ อย่างอิสระกับแอลลีลอ่นื ๆ ท่แี ยกออกจากคู่เช่นกันในการเข้าไป อยู่ในเซลล์สบื พันธุ์ การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรมบางลักษณะใหอ้ ัตราส่วนท่ีแตกต่างจากผลการศกึ ษาของเมนเดล เรียก ลักษณะเหล่านี้ว่า ลักษณะทางพันธุกรรมที่เป็นส่วนขยายของพันธุศาสตร์เมนเดล เช่นความเด่นไม่สมบูรณ์ ความเดน่ รว่ ม มลั ติเพิลแอลลลี ลกั ษณะควบคุมดว้ ยยนี หลายคู่ การถ่ายทอดยนี บนโครโมโซมเพศ ลักษณะทางพนั ธุกรรมบางลักษณะมีความแตกตา่ งกันชดั เจน เช่น การมีติ่งหูหรือไม่มีต่ิงหูซึ่งเป็นลักษณะ ทางพันธุกรรมที่มีการแปรผันไม่ต่อเนื่อง แต่บางลักษณะมีความแตกต่างกันเล็กน้อยและลดหลั่นกันไป เช่น ความสูงและสผี วิ ของมนษุ ย์ถกู ควบคุมโดยยนี หลายคู่ ซงึ่ เปน็ ลักษณะทางพนั ธกุ รรมท่มี ีการแปรผันต่อเนือ่ งและ สงิ่ แวดลอ้ มอาจมผี ลตอ่ การแสดงลักษณะน้นั

2 โครโมโซมภายในเซลล์ร่างกายแบ่งเปน็ ออโตโซมและโครโมโซมเพศ ยีนบนโครโมโซมจะถา่ ยทอดสู่รุ่นถัดไป ผ่านเซลล์สืบพันธุ์ ลักษณะทางพันธุกรรมส่วนใหญ่ถูกควบคุมด้วยยีนบนออโตโซมซึ่งยีนที่ควบคุมลักษณะ ต่าง ๆ จะอยู่กนั เป็นคู่ บางลักษณะถูกควบคมุ ดว้ ยยีนบนโครโมโซมเพศ ซึง่ ทำให้โอกาสในการแสดงลักษณะใน เพศชายและเพศหญิงแตกต่างกัน เมื่อมีการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ ยีนบนโครโมโซมเดียวกันท่ีอยู่ใกลก้ ันมักจะถูกถ่ายทอดไปด้วยกันแตก่ ารเกิด ครอสซิงโอเวอร์ในการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิสอาจทำให้ยีนบนโครโมโซมเดียวกันแยกจากกันได้ ส่งผลให้ รูปแบบของเซลล์สืบพนั ธุ์ทีไ่ ดแ้ ตกต่างไปจากกรณีที่ไม่เกิดครอสซิงโอเวอร์ 4. สมรรถนะของผู้เรยี น 1) ความสามารถในการในการสอ่ื สาร 2) ความสามารถในการคิด 3) ความสามารถในการแก้ปญั หา 4) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1) ทกั ษะกระบวนการทำงานเป็นกลมุ่ 2) ทกั ษะความมุ่งมั่นในการทำงาน 6. ช้ินงาน/ภาระงาน 1) แบบบันทกึ กิจกรรมเรอื่ งจดหมายจาก เมนเดล (Mendel’s letter) 2) ใบงาน เร่อื ง กฎของความน่าจะเปน็ (คำถามจำนวน 12 ข้อ) 3) แบบบนั ทกึ กิจกรรม เร่อื ง กฎของเมนเดล 4) ใบงาน เรื่อง การผสมเพ่ือทดสอบและการผสมกลบั 5) ใบงาน เรื่อง การแก้โจทย์ปญั หาลักษณะทางพันธกุ รรมทีเ่ ป็นส่วนขยายของเมนเดล 7. สอื่ การเรียนรู้/แหล่งเรยี นรู้ 1) สื่อพาวเวอรพ์ ้อย เรอ่ื ง การศกึ ษาพนั ธุศาสตรข์ องเมนเดล 2) เอกสารบทความจดหมายของเมนเดล 7 ฉบับ 3) สอ่ื พาวเวอรพ์ ้อย เร่อื ง กฎของความน่าจะเปน็ 4) สื่อพาวเวอร์พ้อย เรอื่ ง กฎแหง่ การแยกและกฎแห่งการรวมกลุม่ อยา่ งอิสระ 5) สอ่ื พาวเวอรพ์ ้อย เร่อื ง การผสมเพือ่ ทดสอบ 6) ส่ือพาวเวอร์พ้อย เรอ่ื ง ลกั ษณะทางพันธกุ รรมทเี่ ปน็ สว่ นขยายของเมนเดล

3 8. การประเมินผลการเรียนรู้ วธิ ีการ เคร่อื งมือ เกณฑก์ ารผ่าน 1. ประเมนิ ใบงาน/แบบบนั ทกึ กจิ กรรม แบบประเมินใบงาน/แบบบนั ทึก ผา่ นเกณฑ์ระดบั พอใช้ข้ึนไป 2. ประเมนิ ทักษะการทำงานเป็นกลมุ่ กจิ กรรม แบบประเมนิ ทกั ษะการทำงานเป็นกลุม่ ผ่านเกณฑ์ระดบั พอใช้ขึน้ ไป 3. ประเมนิ ทักษะความมงุ่ มั่นในการ แบบประเมินความม่งุ มัน่ ในการทำงาน ผา่ นเกณฑร์ ะดับพอใช้ขึน้ ไป ทำงาน 4. ประเมินการสรุปบทเรียน แบบประเมินการสรุปบทเรยี น ผ่านเกณฑ์ระดับพอใช้ขน้ึ ไป

แบบประเมนิ ใบงาน/แบบบนั ทึกกิจกรรม 4 ชอื่ -สกลุ ความถกู ตอ้ ง ความเรียบร้อย ความตรงต่อเวลา รวม ของเนอื้ หา ของผลงาน 9 คะแนน 332 121321 เกณฑ์การประเมิน ระดับคุณภาพ ดี 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถงึ พอใช้ พอใช้ 1 หมายถงึ ปรบั ปรุง ปรบั ปรงุ เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ ชว่ งคะแนน 9-7 6-4 3-1 ลงช่อื .................................................................ผปู้ ระเมิน (นายเรวัตร อย่เู กดิ ) ........../…......./….......

5 เกณฑ์การประเมนิ ใบงาน/แบบบันทกึ กิจกรรม โดยใชเ้ กณฑก์ ารประเมนิ แบบรูบริคส์ การประเมิน ระดบั คุณภาพ/คะแนน 1. ความถูกตอ้ งของ เนอ้ื หา ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1) ตอบคำถามในใบงานได้ 2. ความเรียบรอ้ ยของ อยา่ งถูกต้อง ครบถว้ น ตอบคำถามในใบงานได้ ตอบคำถามในใบงานได้ ผลงาน สมบูรณ์ อย่างถูกต้องเปน็ ส่วนมาก อย่างถูกต้องบางส่วน แต่ 3. ความตรงต่อเวลา มากกวา่ รอ้ ยละ 80 ไม่ครบถว้ น มากกว่ารอ้ ย ทำงานสะอาดเรียบร้อย มคี วามสวยงาม ละ 50 ทำเสร็จครบถว้ น และส่งภายในเวลาที่ ทำงานสะอาดเรียบร้อย ทำงานไมส่ ะอาด กำหนด เรียบรอ้ ย ทำเสร็จครบถว้ น แต่ส่ง ทำไมค่ รบถว้ น ส่งล่าช้า ลา่ ชา้ กวา่ กำหนด 1 - 2 กวา่ กำหนดมากกว่า 2 วนั วัน

6 แบบประเมนิ ทกั ษะการทำงานเปน็ กลุ่ม ชอ่ื -สกลุ บทบาท การมีส่วน ความ การรบั ฟัง ผลสำเร็จ รวม หนา้ ที่ รว่ ม รบั ผิดชอบ ความ ของงาน 15 คะแนน คดิ เหน็ 321321321321321 เกณฑ์การประเมิน ระดับคณุ ภาพ ดี 3 หมายถึง ดี 2 หมายถงึ พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรับปรุง ปรับปรุง เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน 11 - 15 6 - 10 1-5 ลงชอ่ื .................................................................ผูป้ ระเมนิ (นายเรวตั ร อยเู่ กิด) ........../…......./….......

7 เกณฑป์ ระเมินทกั ษะการทำงานเป็นกลุ่ม โดยใช้เกณฑก์ ารประเมนิ แบบรูบรคิ ส์ รายการประเมิน 3 คะแนน พฤติกรรมบ่งชี้ 1 คะแนน 1. บทบาทหน้าท่ี 2 คะแนน ไม่มีการกำหนดบทบาท 2. การมีส่วนรว่ ม มกี ารกำหนดบทบาท หน้าทีข่ องสมาชกิ หน้าที่สมาชิกไว้ชดั เจน มีการกำหนดบทบาท สมาชกิ กลมุ่ สว่ นใหญไ่ ม่ 3. ความรับผดิ ชอบ หน้าท่สี มาชิกไม่ครบ มีสว่ นรว่ มในการ สมาชกิ กลมุ่ ทุกคนมีส่วน สมาชิกกลมุ่ สว่ นใหญม่ ี ปฏบิ ตั งิ านหรือมีน้อย 4. การรบั ฟังความ ร่วมในการปฏบิ ตั ิงาน สว่ นรว่ มในการ สมาชิกสว่ นใหญไ่ ม่ คิดเหน็ กลุ่ม ปฏิบตั ิงาน ทำงานตามหนา้ ทท่ี ่ไี ด้รับ 5. ผลสำเรจ็ ของงาน สมาชกิ สว่ นใหญ่ทำงาน มอบหมาย หลกี เลยี่ ง สมาชิกทกุ คนทำงาน ตามหนา้ ท่ีทไี่ ดร้ บั งาน และงานเสร็จชา้ ตามหน้าที่ที่ไดร้ ับ มอบหมาย ไม่หลีกเลี่ยง กวา่ กำหนด มอบหมาย ไม่หลกี เล่ยี ง งาน งานเสรจ็ ทันตาม งาน งานเสรจ็ ทันตาม กำหนด สมาชิกส่วนใหญไ่ มร่ บั ฟงั กำหนด ความคดิ เห็นของผูอ้ ่ืน สมาชกิ สว่ นใหญ่รับฟงั สมาชิกทุกคนรบั ฟัง ความคดิ เหน็ ของผูอ้ ืน่ เกิดจากความร่วมมอื ความคิดเห็นของผู้อนื่ อยา่ งมีเหตุผล ของสมาชกิ ส่วนน้อยใน อยา่ งมีเหตุผล เกดิ จากความรว่ มมอื กลุ่ม ของสมาชิกส่วนใหญใ่ น เกดิ จากความรว่ มมือ กลุม่ ของสมาชกิ ทกุ คนใน กลุ่ม

แบบประเมนิ ความมุ่งมั่นในการทำงาน 8 ชอื่ -สกลุ ความตัง้ ใจและ รู้จักแก้ปญั หาใน การปรบั ปรุงและ รวม เอาใจใส่ การทำงาน แก้ไขการทำงาน 9 คะแนน 332 121 321 เกณฑก์ ารประเมนิ ระดบั คุณภาพ ดี 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถงึ พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรบั ปรุง ปรบั ปรงุ เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน 9-7 6-4 3-1 ลงช่ือ.................................................................ผู้ประเมนิ (นายเรวตั ร อยู่เกิด) ........../…......./….......

9 เกณฑก์ ารประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ด้านความมงุ่ ม่นั ในการทำงาน โดยใชเ้ กณฑ์การประเมนิ แบบรูบรคิ ส์ รายการประเมิน พฤติกรรมบง่ ช้ี 1. ความตงั้ ใจและเอา 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน ใจใสต่ อ่ ภาระงานที่ ขณะทำงานที่ไดร้ ับ ได้รับมอบหมาย โดยมี มอบหมาย นกั เรยี นไม่ ขณะทำงานทไ่ี ด้รับ ขณะทำงานท่ีไดร้ บั พฤตกิ รรมบ่งชี้ ดังน้ี แสดงพฤติกรรมบง่ ชที้ งั้ - เลน่ โทรศัพท์มอื ถือ 3 พฤติกรรม หรอื แสดง มอบหมาย นกั เรียนแสดง มอบหมาย นกั เรยี น ระหวา่ งทำงาน พฤตกิ รรมบ่งชี้ 1 ใน 3 - นำงานในรายวิชา พฤตกิ รรม พฤตกิ รรมบง่ ช้ี 2 ใน 3 แสดงพฤติกรรมบง่ ช้ที ั้ง อนื่ ข้ึนมาทำ - ฟบุ หลับ แกป้ ัญหาได้ดว้ ยตัวเอง พฤติกรรม 3 พฤตกิ รรม 2. รจู้ กั แก้ปัญหาใน ทงั้ หมด การทำงานเมอ่ื มี แก้ปญั หาดว้ ยตวั เอง แกป้ ญั หาดว้ ยตัวเองน้อย อปุ สรรค มีความพยายามที่จะ 3. การปรับปรุงและ ปรับปรุงแก้ไขการทำงาน มากกวา่ รอ้ ยละ 80 กวา่ รอ้ ยละ 80 ของ แก้ไขการทำงานของ ของตนให้มผี ลงานทดี่ ี ตนใหด้ ีย่งิ ขน้ึ และคุณภาพอยู่เสมอ ของงานท้งั หมด งานทั้งหมด มีความพยายามท่ีจะ มีความพยายามท่ีจะ ปรับปรงุ แกไ้ ขการทำงาน ปรบั ปรงุ แก้ไขการทำงาน ของตนใหม้ ผี ลงานทด่ี ี ของตนใหม้ ผี ลงานทดี่ ี และคณุ ภาพ และคุณภาพเปน็ บางครงั้

10 แบบประเมนิ การสรุปบทเรียน ชอ่ื -สกุล การสรุป ความถกู ต้อง ความ ความถูกต้อง รวม ประเดน็ ของเน้อื หา ครบถ้วนของ ของการใช้คำ 12 คะแนน สำคญั 321 เนอ้ื หา และการ 321 สะกดคำ 321 321 เกณฑ์การประเมนิ ระดบั คุณภาพ ดี 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรบั ปรงุ ปรบั ปรงุ เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน 9 - 12 8-5 4-1 ลงชอื่ .................................................................ผู้ประเมนิ (นายเรวัตร อยเู่ กิด) ........../…......./….......

11 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 เรื่อง ยนี และโครโมโซม รหัสวชิ า ว30252 ชีววทิ ยา 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี เวลาเรียน 600 นาที (12 คาบ) ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระชวี วทิ ยา ขอ้ ที่ 2 เข้าใจการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม การถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม สมบัติ และหน้าที่ของสาร พันธุกรรม การเกิดมิวเทชัน เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ หลักฐานข้อมูล และแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของ สิ่งมชี วี ิต ภาวะสมดลุ ของฮาร์ดี-ไวนเ์ บิร์ก การเกิด สปีชสี ์ใหม่ ความหลากหลายทางชวี ภาพ กำเนดิ ของสง่ิ มีชีวิต ความหลากหลายของสิ่งมชี วี ิต และอนุกรมวธิ าน รวมทัง้ นำความรไู้ ปใช้ประโยชน์ 2. ผลการเรยี นรู้ ม. 4/6 สืบค้นข้อมูล อธิบายสมบัติ และหนา้ ท่ีของสารพนั ธกุ รรม โครงสร้าง และองค์ประกอบทางเคมีของ DNA และสรุปการจำลองDNA ม. 4/7 อธิบาย และระบุขั้นตอนในกระบวนการสังเคราะห์โปรตนี และหน้าที่ของ DNA และRNA แต่ละ ชนิดในกระบวนการสงั เคราะห์โปรตีน ม. 4/8 สรุปความสมั พนั ธ์ระหว่างสารพนั ธุกรรม แอลลีล โปรตีน ลักษณะทางพันธกุ รรม และเช่ือมโยงกับ ความรทู้ างพนั ธุศาสตร์เมนเดล ม. 4/9 สืบค้นข้อมูล และอธิบายการเกดิ มิวเทชัน ระดับยีน และระดับโครโมโซม สาเหตุการเกดิ มิวเทชัน รวมท้งั ยกตวั อย่างโรค และกล่มุ อาการที่เป็นผลของการเกิดมวิ เทชัน 3. สาระสำคัญ โครโมโซมของส่ิงมชี วี ติ แต่ละสปีชีส์มจี ำนวนคงท่ี โครโมโซมประกอบดว้ ย DNA และโปรตีนนกั วิทยาศาสตร์ ใช้วิธีการทางวทิ ยาศาสตร์ค้นพบว่า DNA เป็นสารพันธุกรรม ส่วนของ DNA ที่ควบคุมลักษณะทางพนั ธกุ รรม ของส่ิงมีชวี ิตเรียกวา่ ยีน และสารพนั ธุกรรมทงั้ หมดทอ่ี ยูใ่ นส่ิงมีชีวิต เรยี กว่าจโี นม DNA เป็นพอลินิวคลีโอไทด์ 2 สายบิดเป็นเกลียวเวียนขวา แต่ละสายเกิดจากนิวคลีโอไทด์ต่อกันเป็นสายยาว นิวคลีโอไทด์ประกอบด้วย นำ้ ตาลดีออกซไี รโบส หมู่ฟอสเฟต และไนโตรจีนสั เบสซง่ึ DNA แต่ละโมเลกุลมีจำนวนและลำดับของนิวคลีโอ ไทด์ท่แี ตกต่างกนั DNA สามารถจำลองตวั เองขึ้นได้ใหม่ โดยมีโครงสร้างทางเคมแี ละลำดับของนิวคลีโอไทดเ์ หมือนเดิม DNA ควบคุมการสังเคราะห์โปรตีน โดยถ่ายทอดรหสั พันธุกรรมให้แก่ mRNA เพื่อกำหนดลำดับของกรดแอมิโนใน โมเลกลุ ของโปรตีน โปรตนี เก่ียวข้องกบั การแสดงลักษณะทางพันธุกรรม เช่น เอนไซมท์ ่ีทำงานในกระบวนการ เมแทบอลซิ มึ ท่เี กีย่ วขอ้ งกบั การดำรงชวี ิต มิวเทชันเป็นการเปลี่ยนแปลงของลำดับหรือจำนวนนิวคลีโอไทด์ใน DNA ซึ่งอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง โครงสร้างและการทำงานของโปรตีนซึ่งเกิดได้ทั้งในระดับยีนและระดับโครโมโซมมิวเทชันสามารถเกิดได้ทงั้ เซลล์ร่างกายและเซลล์สืบพันธุ์ ซึ่งมิวเทชันที่เกิดในเซลล์สืบพันธุ์สามารถถ่ายทอดไปยังรุ่นต่อไปได้ จึงอาจ ก่อใหเ้ กดิ ลักษณะใหมใ่ นส่ิงมชี ีวิตรุ่นต่อไป มนุษยป์ ระยกุ ตใ์ ชก้ ารเกิดมิวเทชันในการชกั นำให้สงิ่ มีชวี ิตมีลักษณะ ที่แตกตา่ งไปจากเดิมโดยการใชร้ ังสแี ละสารเคมีต่าง ๆ

12 4. สมรรถนะของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1) ทักษะกระบวนการทำงานเปน็ กลุ่ม 2) ทักษะความม่งุ ม่นั ในการทำงาน 6. ช้ินงาน/ภาระงาน 1) แบบบันทึกกจิ กรรม เรอื่ ง การคน้ พบสารพนั ธกุ รรม 2) แบบบนั ทึกกจิ กรรม เรื่อง โครโมโซม 3) แบบบันทึกกจิ กรรม เรอ่ื ง องคป์ ระกอบทางเคมแี ละโครงสร้างของ DNA 4) แบบบันทกึ กิจกรรม เรอื่ ง การสังเคราะห์ DNA 5) แบบบนั ทึกกิจกรรมเรือ่ ง การสังเคราะห์โปรตีน 6) ใบงาน เรือ่ ง มวิ เทชัน 7. ส่อื การเรียนรู้/แหล่งเรียนรู้ 1) สื่อพาวเวอร์พอ้ ย เร่ือง การถ่ายทอดยนี และโครโมโซม 2) สอ่ื พาวเวอรพ์ อ้ ย เรื่อง โครโมโซม 3) สอื่ พาวเวอร์พ้อย เรอื่ ง องค์ประกอบและโครงสรา้ งของ DNA 4) สื่อพาวเวอร์พอ้ ย เรอ่ื ง การสงั เคราะห์ DNA 5) สอ่ื พาวเวอรพ์ ้อย เรอ่ื ง การสังเคราะหโ์ ปรตีน 6) วีดีทัศน์ เรื่อง “mRNA synthesis” 7) สอื่ พาวเวอร์พ้อย เรอื่ ง มวิ เทชัน

13 8. การประเมินผลการเรียนรู้ วธิ ีการ เครื่องมือ เกณฑ์การผา่ น 1. ประเมนิ ใบงาน/แบบบนั ทึกกิจกรรม แบบประเมนิ ใบงาน/แบบบันทกึ ผา่ นเกณฑ์ระดบั พอใช้ขน้ึ ไป 2. ประเมินทกั ษะการทำงานเปน็ กลุ่ม กจิ กรรม แบบประเมินทกั ษะการทำงานเปน็ กล่มุ ผา่ นเกณฑร์ ะดบั พอใช้ขึ้นไป 3. ประเมนิ ทักษะความมงุ่ ม่นั ในการ แบบประเมินความมุง่ ม่นั ในการทำงาน ผา่ นเกณฑ์ระดับพอใช้ข้ึนไป ทำงาน 4. ประเมนิ การสรุปบทเรียน แบบประเมินการสรปุ บทเรยี น ผ่านเกณฑร์ ะดับพอใช้ข้ึนไป

แบบประเมนิ ใบงาน/แบบบนั ทกึ กจิ กรรม 14 ช่อื -สกุล ความถูกต้อง ความเรยี บร้อย ความตรงต่อเวลา รวม ของเนื้อหา ของผลงาน 9 คะแนน 332 121321 เกณฑ์การประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ ดี 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถงึ ปรบั ปรงุ ปรบั ปรุง เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน 9-7 6-4 3-1 ลงช่อื .................................................................ผปู้ ระเมิน (นายเรวตั ร อยเู่ กิด) ........../…......./….......

15 เกณฑก์ ารประเมินใบงาน/แบบบันทกึ กิจกรรม โดยใชเ้ กณฑ์การประเมนิ แบบรูบริคส์ การประเมิน ระดบั คุณภาพ/คะแนน 1. ความถกู ต้องของ เน้อื หา ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1) ตอบคำถามในใบงานได้ 2. ความเรียบร้อยของ อยา่ งถูกต้อง ครบถ้วน ตอบคำถามในใบงานได้ ตอบคำถามในใบงานได้ ผลงาน สมบรู ณ์ อยา่ งถูกตอ้ งเป็นสว่ นมาก อย่างถกู ต้องบางสว่ น แต่ 3. ความตรงตอ่ เวลา มากกวา่ รอ้ ยละ 80 ไม่ครบถว้ น มากกว่ารอ้ ย ทำงานสะอาดเรยี บร้อย มคี วามสวยงาม ละ 50 ทำเสร็จครบถ้วน และสง่ ภายในเวลาท่ี ทำงานสะอาดเรยี บรอ้ ย ทำงานไมส่ ะอาด กำหนด เรียบรอ้ ย ทำเสร็จครบถ้วน แต่ส่ง ทำไมค่ รบถ้วน สง่ ลา่ ช้า ล่าชา้ กว่ากำหนด 1 - 2 กวา่ กำหนดมากกว่า 2 วัน วัน

16 แบบประเมินทกั ษะการทำงานเปน็ กล่มุ ชอ่ื -สกุล บทบาท การมสี ่วน ความ การรับฟงั ผลสำเร็จ รวม หนา้ ท่ี รว่ ม รับผดิ ชอบ ความ ของงาน 15 คะแนน คิดเหน็ 321321321321321 เกณฑ์การประเมิน ระดบั คณุ ภาพ ดี 3 หมายถึง ดี 2 หมายถงึ พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรับปรงุ ปรับปรุง เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน 11 - 15 6 - 10 1-5 ลงชื่อ.................................................................ผูป้ ระเมนิ (นายเรวตั ร อย่เู กดิ ) ........../…......./….......

17 เกณฑ์ประเมินทกั ษะการทำงานเปน็ กลุ่ม โดยใช้เกณฑ์การประเมินแบบรบู รคิ ส์ รายการประเมิน 3 คะแนน พฤติกรรมบง่ ชี้ 1 คะแนน 1. บทบาทหนา้ ท่ี 2 คะแนน ไมม่ กี ารกำหนดบทบาท 2. การมีสว่ นรว่ ม มีการกำหนดบทบาท หนา้ ท่ขี องสมาชกิ หนา้ ท่ีสมาชิกไว้ชัดเจน มกี ารกำหนดบทบาท สมาชิกกลุม่ สว่ นใหญ่ไม่ 3. ความรบั ผิดชอบ หน้าทส่ี มาชิกไมค่ รบ มสี ว่ นรว่ มในการ สมาชิกกลมุ่ ทุกคนมสี ่วน สมาชกิ กลุ่มส่วนใหญ่มี ปฏิบตั งิ านหรือมนี อ้ ย 4. การรบั ฟงั ความ รว่ มในการปฏบิ ัตงิ าน ส่วนร่วมในการ สมาชกิ สว่ นใหญไ่ ม่ คิดเหน็ กล่มุ ปฏบิ ตั งิ าน ทำงานตามหนา้ ทที่ ีไ่ ดร้ ับ 5. ผลสำเร็จของงาน สมาชกิ ส่วนใหญท่ ำงาน มอบหมาย หลกี เล่ียง สมาชกิ ทกุ คนทำงาน ตามหน้าท่ีท่ไี ดร้ ับ งาน และงานเสรจ็ ชา้ ตามหนา้ ที่ทไ่ี ดร้ ับ มอบหมาย ไม่หลีกเลยี่ ง กวา่ กำหนด มอบหมาย ไมห่ ลกี เล่ยี ง งาน งานเสร็จทนั ตาม งาน งานเสรจ็ ทนั ตาม กำหนด สมาชกิ สว่ นใหญไ่ มร่ บั ฟัง กำหนด ความคิดเหน็ ของผูอ้ ื่น สมาชกิ สว่ นใหญร่ ับฟัง สมาชกิ ทกุ คนรับฟงั ความคิดเหน็ ของผอู้ ืน่ เกดิ จากความร่วมมอื ความคดิ เห็นของผูอ้ ื่น อย่างมีเหตุผล ของสมาชกิ สว่ นนอ้ ยใน อย่างมีเหตุผล เกิดจากความรว่ มมือ กลมุ่ ของสมาชกิ สว่ นใหญ่ใน เกิดจากความร่วมมอื กล่มุ ของสมาชกิ ทุกคนใน กลุ่ม

แบบประเมนิ ความม่งุ ม่นั ในการทำงาน 18 ชอื่ -สกลุ ความตง้ั ใจและ รู้จักแก้ปัญหาใน การปรับปรุงและ รวม เอาใจใส่ การทำงาน แก้ไขการทำงาน 9 คะแนน 332 121 321 เกณฑก์ ารประเมิน ระดบั คณุ ภาพ ดี 3 หมายถึง ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรบั ปรุง ปรับปรงุ เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน 9-7 6-4 3-1 ลงช่อื .................................................................ผปู้ ระเมนิ (นายเรวัตร อยู่เกิด) ........../…......./….......

19 เกณฑก์ ารประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ด้านความมุ่งมน่ั ในการทำงาน โดยใช้เกณฑ์การประเมนิ แบบรบู รคิ ส์ รายการประเมนิ พฤตกิ รรมบ่งช้ี 1. ความตง้ั ใจและเอา 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน ใจใสต่ อ่ ภาระงานที่ ขณะทำงานที่ไดร้ บั ได้รบั มอบหมาย โดยมี มอบหมาย นักเรียนไม่ ขณะทำงานที่ได้รับ ขณะทำงานท่ีได้รบั พฤติกรรมบง่ ชี้ ดงั น้ี แสดงพฤติกรรมบ่งชีท้ ้งั - เลน่ โทรศัพท์มือถือ 3 พฤติกรรม หรอื แสดง มอบหมาย นกั เรียนแสดง มอบหมาย นกั เรียน ระหวา่ งทำงาน พฤติกรรมบ่งชี้ 1 ใน 3 - นำงานในรายวชิ า พฤติกรรม พฤตกิ รรมบง่ ช้ี 2 ใน 3 แสดงพฤติกรรมบง่ ช้ีทั้ง อ่นื ขึ้นมาทำ - ฟบุ หลบั แก้ปญั หาได้ดว้ ยตัวเอง พฤติกรรม 3 พฤตกิ รรม 2. รู้จกั แก้ปญั หาใน ทัง้ หมด การทำงานเม่ือมี แก้ปัญหาดว้ ยตวั เอง แกป้ ญั หาด้วยตัวเองนอ้ ย อปุ สรรค มคี วามพยายามท่ีจะ 3. การปรบั ปรุงและ ปรบั ปรงุ แก้ไขการทำงาน มากกว่าร้อยละ 80 กว่าร้อยละ 80 ของ แก้ไขการทำงานของ ของตนใหม้ ผี ลงานที่ดี ตนใหด้ ีย่งิ ข้นึ และคณุ ภาพอยู่เสมอ ของงานทงั้ หมด งานทัง้ หมด มคี วามพยายามท่ีจะ มคี วามพยายามท่ีจะ ปรบั ปรงุ แกไ้ ขการทำงาน ปรบั ปรงุ แก้ไขการทำงาน ของตนให้มผี ลงานทด่ี ี ของตนใหม้ ผี ลงานที่ดี และคุณภาพ และคณุ ภาพเป็นบางครง้ั

20 แบบประเมนิ การสรุปบทเรียน ชอ่ื -สกุล การสรุป ความถกู ต้อง ความ ความถูกต้อง รวม ประเดน็ ของเน้อื หา ครบถ้วนของ ของการใช้คำ 12 คะแนน สำคญั 321 เนอ้ื หา และการ 321 สะกดคำ 321 321 เกณฑ์การประเมนิ ระดบั คุณภาพ ดี 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรบั ปรงุ ปรบั ปรงุ เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน 9 - 12 8-5 4-1 ลงชอื่ .................................................................ผู้ประเมนิ (นายเรวัตร อยเู่ กิด) ........../…......./….......

21 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 3 เรื่อง พนั ธุศาสตร์โมเลกลุ และเทคโนโลยี DNA รหสั วชิ า ว30252 ชวี วิทยา 2 กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เวลาเรยี น 250 นาที (5 คาบ) ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระชวี วทิ ยา ขอ้ ท่ี 2 เข้าใจการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม การถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม สมบัติ และหน้าที่ของสาร พันธุกรรม การเกิดมิวเทชัน เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ หลักฐานข้อมูล และแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของ สง่ิ มชี วี ิต ภาวะสมดุลของฮาร์ดี-ไวนเ์ บิร์ก การเกิด สปีชีส์ใหม่ ความหลากหลายทางชวี ภาพ กำเนิดของสิง่ มีชวี ิต ความหลากหลายของส่ิงมชี ีวติ และอนกุ รมวธิ าน รวมท้งั นำความรไู้ ปใช้ประโยชน์ 2. ผลการเรยี นรู้ ม. 4/10 อธบิ ายหลักการสร้างสิง่ มีชวี ิตดดั แปรพนั ธกุ รรมโดยใชด้ เี อ็นเอรคี อมบิแนนท์ ม. 4/11 สืบค้นข้อมูล ยกตัวอย่าง และอภิปรายการนำเทคโนโลยีดีเอ็นเอไปประยุกต์ใช้ทั้งในด้าน สิ่งแวดล้อม นิติวิทยาศาสตร์ การแพทย์ การเกษตร และอุตสาหกรรม และข้อควรคำนึงถึงทางด้าน ชวี จรยิ ธรรม 3. สาระสำคัญ ในปัจจุบันมีการใช้เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอในด้านต่าง ๆ เช่น ใช้เทคนิคพันธุวิศวกรรมตัดตอ่ และถ่ายยีนท่ี ต้องการจากสง่ิ มชี ีวิตหนึ่งไปยังสิ่งมชี ีวติ อีกชนดิ หน่งึ ได้เป็นส่ิงมีชวี ิตดัดแปรพันธุกรรมการสร้างสง่ิ มชี ีวิตดดั แปร พนั ธกุ รรมสามารถทำได้ทง้ั ในจุลนิ ทรีย์ พชื และสัตว์ การเพ่ิมจำนวนของ DNA ท่ีเหมือน ๆ กนั นั้นเรียกว่า การโคลนดเี อน็ เอและถ้า DNA บริเวณดังกลา่ วเป็นยีน เรียกว่า การโคลนยีน การเพิ่มจำนวน DNA อาจทำได้โดยใช้พลาสมิดของแบคทีเรียและเทคนิคพอลิเมอเรส เชนรแี อกชนั หรือ PCR การโคลนยีนโดยใช้พลาสมิดของแบคทีเรียเพื่อสร้างดีเอ็นเอรีคอมบิแนนท์ อาจทำได้โดยใช้เอนไซม์ตัด จำเพาะตัดสาย DNA ที่มียีนที่ต้องการและตัดพลาสมิดที่จุดตัดจำเพาะ เมื่อตัดสาย DNAต่างโมเลกุลกันด้วย เอนไซมต์ ดั จำเพาะชนดิ เดียวกนั ปลายสาย DNA จะมลี ำดับเบสทเ่ี ข้าคู่กันได้ และเช่อื มต่อกนั ได้ด้วยเอนไซม์ดี เอ็นเอไลเกสทำให้ได้เปน็ ดีเอน็ เอรีคอมบิแนนท์ จากนั้นถ่ายดีเอ็นเอรีคอมบิแนนท์เขา้ สู่เซลล์เจา้ บ้านเพื่อเพิ่ม จำนวน การเพิ่มจำนวน DNA ด้วยเทคนิค PCR สามารถเพิ่มปริมาณของ DNA บริเวณที่ต้องการจากดเี อ็นเอ แมแ่ บบทมี่ ีปรมิ าณนอ้ ยผา่ นกระบวนการจำลองดีเอ็นเอซ้ำกนั หลาย ๆ รอบในหลอดทดลอง ผลิตภณั ฑ์ DNA ท่ไี ด้จาก PCR สามารถตรวจสอบผลการเพิม่ ปรมิ าณ DNA และหาขนาดของโมเลกลุ DNA ด้วยวิธีเจลอิเล็กโทรฟอรีซิส ซึ่งเป็นเทคนิคการแยกโมเลกุล DNA ที่มีขนาดแตกต่างกันในสนามไฟฟ้าผ่าน ตัวกลางที่เป็นวุ้นแล้วเปรียบเทียบกับการเคลื่อนที่ของโมเลกุลดีเอ็นเอมาตรฐานที่ทราบขนาด และสามารถ วิเคราะหห์ าลำดับ นวิ คลีโอไทด์ดว้ ยเครื่องหาลำดับนวิ คลีโอไทดแ์ บบอัตโนมัติเทคโนโลยที างดเี อ็นเอ สามารถ นำไปประยุกต์ใชใ้ นดา้ นการแพทย์ในการวินจั ฉัยโรคและใช้ในการสรา้ งผลิตภัณฑ์ทางเภสัชกรรม การประยุกต์ ในด้านการเกษตรในการสร้างพชื หรือสัตวท์ ี่มีสมบัติตามต้องการ รวมทั้งประยุกต์ใช้ในด้านอุตสาหกรรมและ

22 ส่ิงแวดล้อม ในดา้ นนติ วิ ทิ ยาศาสตร์สามารถใช้ลายพิมพ์ดเี อน็ เอในการพิสูจน์ตวั บุคคลและหาความสัมพันธ์ทาง สายเลอื ด อยา่ งไรกต็ ามการใชเ้ ทคโนโลยีทางดีเอ็นเอตอ้ งคำนึงถึงความปลอดภัยทางชีวภาพและชวี จริยธรรม 4. สมรรถนะของผูเ้ รียน 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1) ทกั ษะกระบวนการทำงานเปน็ กลุ่ม 2) ทักษะความมุ่งมน่ั ในการทำงาน 6. ชน้ิ งาน/ภาระงาน 1) แบบบนั ทึกกจิ กรรม เร่ือง พนั ธวุ ิศวกรรม 2) แบบบนั ทกึ กิจกรรม เรื่อง การสร้าง DNA รคี อมบแิ นนท์ 3) แบบบันทกึ กิจกรรม เรอ่ื ง การประยกุ ต์ใชเ้ ทคโนโลยีทาง DNA 4) แบบบันทกึ กิจกรรม เรอ่ื ง หลักฐานทางวิวฒั นาการ 5) แบบบันทึกกจิ กรรม เรอ่ื ง พันธศุ าสตรป์ ระชากร I (ความถข่ี องแอลลีลในประชากรและทฤษฎีของฮารด์ ี ไวน์เบริ ก์ ) 7. ส่ือการเรยี นร้/ู แหลง่ เรยี นรู้ 1) สื่อพาวเวอรพ์ อ้ ย เรอ่ื ง พนั ธวุ ิศวกรรม 2) ใบความรู้ เรอื่ ง พนั ธวุ ศิ วกรรม 3) วีดที ัศน์ เรือ่ ง การเรอื งแสงของแมงกะพรนุ เรอื งแสง (Bioluminescence of jellyfish) 4) วดี ที ศั น์ เรอ่ื ง การเรอื งแสงของแบคทีเรยี ในหลอดทดลอง 5) สอ่ื พาวเวอรพ์ อ้ ย เร่ือง การประยุกตใ์ ชเ้ ทคโนโลยีทาง DNA 6) ใบความร้ตู ามศูนย์การเรียนรู้ เรอ่ื ง การประยกุ ต์ใชเ้ ทคโนโลยีทาง DNA 7) สอื่ พาวเวอรพ์ ้อย เรื่อง หลกั ฐานทางวิวฒั นาการ 8) ใบความรู้ เร่ือง หลักฐานทางววิ ฒั นาการ 9) สอ่ื พาวเวอรพ์ ้อย เร่ือง พันธศุ าสตร์ประชากร (ความถขี่ องแอลลแี ละทฤษฎีของของฮารด์ ีไวน์เบริ ก์ ) 10) สือ่ พาวเวอรพ์ อ้ ย เรอื่ ง ปจั จยั ท่ีทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความถ่ขี องแอลลีล 8. การประเมินผลการเรยี นรู้ วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน 1. ประเมนิ ใบงาน/แบบบนั ทึกกิจกรรม แบบประเมินใบงาน/แบบบนั ทกึ ผ่านเกณฑร์ ะดับพอใช้ข้นึ ไป 2. ประเมนิ ทกั ษะการทำงานเป็นกลมุ่ กิจกรรม แบบประเมนิ ทักษะการทำงานเป็นกลุ่ม ผ่านเกณฑ์ระดบั พอใช้ข้นึ ไป

3. ประเมินทักษะความมุ่งม่ันในการ 23 ทำงาน 4. ประเมนิ การสรปุ บทเรียน แบบประเมินความมงุ่ ม่นั ในการทำงาน ผ่านเกณฑ์ระดบั พอใช้ขึน้ ไป แบบประเมนิ การสรุปบทเรยี น ผ่านเกณฑร์ ะดับพอใช้ขึน้ ไป แบบประเมินใบงาน/แบบบนั ทึกกจิ กรรม ชอื่ -สกุล ความถกู ต้อง ความเรยี บร้อย ความตรงตอ่ เวลา รวม ของเน้ือหา ของผลงาน 9 คะแนน 332 121321 เกณฑ์การประเมิน ระดบั คุณภาพ ดี 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรับปรงุ ปรับปรงุ เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน 9-7 6-4 3-1 ลงชอื่ .................................................................ผปู้ ระเมนิ (นายเรวัตร อยูเ่ กดิ ) ........../…......./….......

24

25 เกณฑก์ ารประเมินใบงาน/แบบบันทกึ กิจกรรม โดยใชเ้ กณฑ์การประเมนิ แบบรูบริคส์ การประเมิน ระดบั คุณภาพ/คะแนน 1. ความถกู ต้องของ เน้อื หา ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1) ตอบคำถามในใบงานได้ 2. ความเรียบร้อยของ อยา่ งถูกต้อง ครบถ้วน ตอบคำถามในใบงานได้ ตอบคำถามในใบงานได้ ผลงาน สมบรู ณ์ อยา่ งถูกตอ้ งเป็นสว่ นมาก อย่างถกู ต้องบางสว่ น แต่ 3. ความตรงตอ่ เวลา มากกวา่ รอ้ ยละ 80 ไม่ครบถว้ น มากกว่ารอ้ ย ทำงานสะอาดเรยี บร้อย มคี วามสวยงาม ละ 50 ทำเสร็จครบถ้วน และสง่ ภายในเวลาท่ี ทำงานสะอาดเรยี บรอ้ ย ทำงานไมส่ ะอาด กำหนด เรียบรอ้ ย ทำเสร็จครบถ้วน แต่ส่ง ทำไมค่ รบถ้วน สง่ ลา่ ช้า ล่าชา้ กว่ากำหนด 1 - 2 กวา่ กำหนดมากกว่า 2 วัน วัน

26 แบบประเมินทกั ษะการทำงานเปน็ กล่มุ ชอ่ื -สกุล บทบาท การมสี ่วน ความ การรับฟงั ผลสำเร็จ รวม หนา้ ท่ี รว่ ม รับผดิ ชอบ ความ ของงาน 15 คะแนน คิดเหน็ 321321321321321 เกณฑ์การประเมิน ระดบั คณุ ภาพ ดี 3 หมายถึง ดี 2 หมายถงึ พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรับปรงุ ปรับปรุง เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน 11 - 15 6 - 10 1-5 ลงชื่อ.................................................................ผูป้ ระเมนิ (นายเรวตั ร อย่เู กดิ ) ........../…......./….......

27 เกณฑ์ประเมินทกั ษะการทำงานเปน็ กลุ่ม โดยใช้เกณฑ์การประเมินแบบรบู รคิ ส์ รายการประเมิน 3 คะแนน พฤติกรรมบง่ ชี้ 1 คะแนน 1. บทบาทหนา้ ท่ี 2 คะแนน ไมม่ กี ารกำหนดบทบาท 2. การมีสว่ นรว่ ม มีการกำหนดบทบาท หนา้ ท่ขี องสมาชกิ หนา้ ท่ีสมาชิกไวช้ ัดเจน มกี ารกำหนดบทบาท สมาชิกกลุม่ สว่ นใหญ่ไม่ 3. ความรบั ผิดชอบ หน้าทส่ี มาชิกไมค่ รบ มสี ว่ นรว่ มในการ สมาชิกกลมุ่ ทุกคนมสี ่วน สมาชกิ กลุ่มส่วนใหญ่มี ปฏิบตั งิ านหรือมนี อ้ ย 4. การรบั ฟงั ความ รว่ มในการปฏบิ ัติงาน ส่วนร่วมในการ สมาชกิ สว่ นใหญไ่ ม่ คิดเหน็ กล่มุ ปฏบิ ตั งิ าน ทำงานตามหนา้ ทที่ ีไ่ ดร้ ับ 5. ผลสำเร็จของงาน สมาชกิ ส่วนใหญท่ ำงาน มอบหมาย หลกี เล่ียง สมาชกิ ทกุ คนทำงาน ตามหน้าท่ีท่ไี ดร้ ับ งาน และงานเสรจ็ ชา้ ตามหนา้ ที่ทไ่ี ดร้ ับ มอบหมาย ไม่หลีกเลยี่ ง กวา่ กำหนด มอบหมาย ไมห่ ลีกเล่ยี ง งาน งานเสร็จทนั ตาม งาน งานเสรจ็ ทนั ตาม กำหนด สมาชกิ สว่ นใหญไ่ มร่ บั ฟัง กำหนด ความคิดเหน็ ของผูอ้ ื่น สมาชกิ สว่ นใหญร่ ับฟัง สมาชกิ ทกุ คนรบั ฟัง ความคิดเหน็ ของผอู้ ืน่ เกดิ จากความร่วมมอื ความคดิ เห็นของผู้อ่นื อย่างมีเหตุผล ของสมาชกิ สว่ นนอ้ ยใน อย่างมีเหตุผล เกิดจากความรว่ มมือ กลมุ่ ของสมาชกิ สว่ นใหญ่ใน เกิดจากความร่วมมือ กล่มุ ของสมาชกิ ทุกคนใน กลุ่ม

แบบประเมนิ ความม่งุ ม่นั ในการทำงาน 28 ชอื่ -สกลุ ความตง้ั ใจและ รู้จักแก้ปัญหาใน การปรับปรุงและ รวม เอาใจใส่ การทำงาน แก้ไขการทำงาน 9 คะแนน 332 121 321 เกณฑก์ ารประเมิน ระดบั คณุ ภาพ ดี 3 หมายถึง ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรบั ปรุง ปรับปรงุ เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน 9-7 6-4 3-1 ลงช่อื .................................................................ผปู้ ระเมนิ (นายเรวัตร อยู่เกิด) ........../…......./….......

29 เกณฑก์ ารประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ด้านความมุ่งมน่ั ในการทำงาน โดยใช้เกณฑ์การประเมนิ แบบรบู รคิ ส์ รายการประเมนิ พฤตกิ รรมบ่งช้ี 1. ความตง้ั ใจและเอา 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน ใจใสต่ อ่ ภาระงานที่ ขณะทำงานที่ไดร้ บั ได้รบั มอบหมาย โดยมี มอบหมาย นักเรียนไม่ ขณะทำงานที่ได้รับ ขณะทำงานท่ีได้รบั พฤติกรรมบง่ ชี้ ดงั น้ี แสดงพฤติกรรมบ่งชีท้ ้งั - เลน่ โทรศัพท์มือถือ 3 พฤติกรรม หรอื แสดง มอบหมาย นกั เรียนแสดง มอบหมาย นกั เรียน ระหวา่ งทำงาน พฤติกรรมบ่งชี้ 1 ใน 3 - นำงานในรายวชิ า พฤติกรรม พฤตกิ รรมบง่ ช้ี 2 ใน 3 แสดงพฤติกรรมบง่ ช้ีทั้ง อ่นื ขึ้นมาทำ - ฟบุ หลบั แก้ปญั หาได้ดว้ ยตัวเอง พฤติกรรม 3 พฤตกิ รรม 2. รู้จกั แก้ปญั หาใน ทัง้ หมด การทำงานเม่ือมี แก้ปัญหาดว้ ยตวั เอง แกป้ ญั หาด้วยตัวเองนอ้ ย อปุ สรรค มคี วามพยายามท่ีจะ 3. การปรบั ปรุงและ ปรบั ปรงุ แก้ไขการทำงาน มากกว่าร้อยละ 80 กว่าร้อยละ 80 ของ แก้ไขการทำงานของ ของตนใหม้ ผี ลงานที่ดี ตนใหด้ ีย่งิ ข้นึ และคณุ ภาพอยู่เสมอ ของงานทงั้ หมด งานทัง้ หมด มคี วามพยายามท่ีจะ มคี วามพยายามท่ีจะ ปรบั ปรงุ แกไ้ ขการทำงาน ปรบั ปรงุ แก้ไขการทำงาน ของตนให้มผี ลงานทด่ี ี ของตนใหม้ ผี ลงานที่ดี และคุณภาพ และคณุ ภาพเป็นบางครง้ั

30 แบบประเมนิ การสรุปบทเรียน ชอ่ื -สกุล การสรุป ความถกู ต้อง ความ ความถูกต้อง รวม ประเดน็ ของเน้อื หา ครบถ้วนของ ของการใช้คำ 12 คะแนน สำคญั 321 เนอ้ื หา และการ 321 สะกดคำ 321 321 เกณฑ์การประเมนิ ระดบั คุณภาพ ดี 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรบั ปรงุ ปรบั ปรงุ เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน 9 - 12 8-5 4-1 ลงชอื่ .................................................................ผู้ประเมนิ (นายเรวัตร อยเู่ กิด) ........../…......./….......

31 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 เร่อื ง ววิ ัฒนาการ รหสั วชิ า ว30252 ชีววิทยา 2 กล่มุ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี เวลาเรยี น 450 นาที (9 คาบ) ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระชีววิทยา ข้อท่ี 2 เข้าใจการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม การถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม สมบัติ และหน้าที่ของสาร พันธุกรรม การเกิดมิวเทชัน เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ หลักฐานข้อมูล และแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของ สงิ่ มีชวี ิต ภาวะสมดุลของฮารด์ ี-ไวนเ์ บิรก์ การเกดิ สปีชสี ์ใหม่ ความหลากหลายทางชวี ภาพ กำเนิดของสิ่งมชี ีวติ ความหลากหลายของส่ิงมีชีวติ และอนกุ รมวิธาน รวมทัง้ นำความรไู้ ปใช้ประโยชน์ 2. ผลการเรียนรู้ ม. 4/12 สืบคน้ ขอ้ มลู และอธิบายเกยี่ วกับหลักฐานที่สนบั สนนุ และข้อมูลทใี่ ช้อธิบายการเกิดวิวัฒนาการ ของสิ่งมีชวี ิต ม. 4/13 อธิบาย และเปรียบเทียบแนวคิดเกี่ยวกับวิวฒั นาการของส่ิงมีชวี ิตของฌอง ลามาร์ก และทฤษฎี เกยี่ วกบั ววิ ฒั นาการของสิ่งมขี วี ติ ของชาลส์ ดาร์วิน ม. 4/14 ระบุสาระสำคัญ และอธิบายเงื่อนไขของภาวะสมดุลของฮาร์ดี-ไวน์เบิร์ก ปัจจัยที่ทำให้เกิดการ เปลี่ยนแปลงความถี่ของ แอลลีลในประชากร พร้อมทั้งคำนวณหาความถี่ของแอลลีล และจีโนไทป์ของ ประชากรโดยใชห้ ลกั ของฮารด์ ี-ไวนเ์ บริ ก์ ม. 4/15 สบื ค้นขอ้ มลู อภปิ ราย และอธิบายกระบวนการเกดิ สปชี สี ์ใหม่ของส่ิงมีชีวิต 3. สาระสำคัญ ส่งิ มชี วี ิตในปจั จบุ นั เป็นลกู หลานท่มี ีลักษณะทแ่ี ตกต่างจากบรรพบุรุษในอดีต โดยผา่ นการเปล่ียนแปลงทาง พันธุกรรมทีละเล็กทีละน้อย มีการสะสมลักษณะที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในขณะนั้น ๆ เป็นเวลานาน หลายชวั่ รุ่น การเปลี่ยนแปลงของสงิ่ มชี วี ิตจากอดีตจนถึงปัจจุบนั เรยี กว่า ววิ ฒั นาการของส่งิ มชี ีวติ หลักฐานที่บ่งบอกว่าสิ่งมีชีวิตมีวิวัฒนาการศึกษาได้จาก ซากดึกดำบรรพ์ กายวิภาคเปรียบเทียบวิทยา เอ็มบริโอ ชีววิทยาโมเลกุล และการแพร่กระจายของสิ่งมีชีวิตทางภูมิศาสตร์ เป็นต้นแนวคิดเกี่ยวกับ ววิ ฒั นาการของสง่ิ มีชวี ติ ทสี่ ำคญั ได้แก่ แนวคดิ ของชอง ลามาร์ก และชาลส์ ดารว์ ิน โดยลามารก์ เสนอ แนวคดิ เก่ียวกบั ววิ ัฒนาการโดยอาศยั กฎการใชแ้ ละไม่ใช้ และกฎการถา่ ยทอดลักษณะท่เี กดิ ขน้ึ มาใหม่ ส่วน ดารว์ นิ เสนอแนวคิดเกยี่ วกับทฤษฎีการคดั เลอื กโดยธรรมชาติ ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ได้ใช้ความรู้ทางพันธุศาสตร์ประชากรในการอธิบายการเกิดวิวัฒนาการของ สิ่งมีชีวิตและปัจจยั ท่ีทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความถ่ีแอลลีลในประชากร ได้แก่ เจเนติกดริฟท์แบบสุ่ม การ ถ่ายเทยีน การผสมแบบไม่สุ่ม มิวเทชัน และการคัดเลือกโดยธรรมชาติ โดยปัจจัยดังกล่าวทำให้ยีนพูลใน ประชากรเปลีย่ นแปลงหรอื เกิดววิ ฒั นาการและทำให้เกิดสิ่งมชี วี ิตสปชี ีส์ใหม่ขน้ึ สิ่งมีชีวิตต่างสปีชีส์กนั จะมีกลไก ในการป้องกันการผสมพันธุ์ต่างสปีชีส์ สิ่งมีชีวิตสปีชีส์ใหม่เป็นผลมาจากการแยกกันทางการสืบพันธุ์ ซึ่งมี 2 แนวทาง คอื กำเนดิ สปีชีส์แบบแอลโลพาทรกิ และกำเนิดสปชี ีสแ์ บบซิมพาทรกิ

32 4. สมรรถนะของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1) ทกั ษะกระบวนการทำงานเป็นกลมุ่ 2) ทักษะความมุง่ มัน่ ในการทำงาน 6. ชน้ิ งาน/ภาระงาน 1) แบบบนั ทกึ กจิ กรรม เรอื่ ง หลักฐานทางววิ ฒั นาการ 2) แบบบันทกึ กิจกรรม เรอ่ื ง พันธศุ าสตรป์ ระชากร 7. สือ่ การเรียนร/ู้ แหล่งเรยี นรู้ 1) สอื่ พาวเวอร์พ้อย เรอื่ ง หลกั ฐานทางววิ ฒั นาการ 2) ใบความรู้ เร่ือง หลักฐานทางววิ ฒั นาการ 3) ส่ือพาวเวอรพ์ อ้ ย เรื่อง พนั ธุศาสตร์ประชากร 8. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ วธิ ีการ เคร่อื งมอื เกณฑก์ ารผา่ น 1. ประเมินใบงาน/แบบบนั ทกึ กจิ กรรม แบบประเมนิ ใบงาน/แบบบนั ทกึ ผา่ นเกณฑร์ ะดับพอใช้ขน้ึ ไป 2. ประเมนิ ทกั ษะการทำงานเปน็ กลมุ่ กจิ กรรม แบบประเมินทกั ษะการทำงานเปน็ กลมุ่ ผา่ นเกณฑ์ระดบั พอใช้ขึ้นไป 3. ประเมนิ ทกั ษะความมุ่งม่ันในการ แบบประเมินความม่งุ ม่นั ในการทำงาน ผา่ นเกณฑ์ระดับพอใช้ขึ้นไป ทำงาน 4. ประเมนิ การสรุปบทเรยี น แบบประเมินการสรปุ บทเรียน ผ่านเกณฑร์ ะดบั พอใช้ข้ึนไป

แบบประเมนิ ใบงาน/แบบบนั ทกึ กจิ กรรม 33 ช่อื -สกุล ความถูกต้อง ความเรยี บร้อย ความตรงต่อเวลา รวม ของเนื้อหา ของผลงาน 9 คะแนน 332 121321 เกณฑ์การประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ ดี 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถงึ ปรบั ปรงุ ปรบั ปรุง เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน 9-7 6-4 3-1 ลงช่อื .................................................................ผปู้ ระเมิน (นายเรวตั ร อยเู่ กิด) ........../…......./….......

34 เกณฑก์ ารประเมินใบงาน/แบบบันทกึ กิจกรรม โดยใชเ้ กณฑ์การประเมนิ แบบรูบริคส์ การประเมิน ระดบั คุณภาพ/คะแนน 1. ความถกู ต้องของ เน้อื หา ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1) ตอบคำถามในใบงานได้ 2. ความเรียบร้อยของ อยา่ งถูกต้อง ครบถ้วน ตอบคำถามในใบงานได้ ตอบคำถามในใบงานได้ ผลงาน สมบรู ณ์ อยา่ งถูกตอ้ งเป็นสว่ นมาก อย่างถกู ต้องบางสว่ น แต่ 3. ความตรงตอ่ เวลา มากกวา่ รอ้ ยละ 80 ไม่ครบถว้ น มากกว่ารอ้ ย ทำงานสะอาดเรยี บร้อย มคี วามสวยงาม ละ 50 ทำเสร็จครบถ้วน และสง่ ภายในเวลาท่ี ทำงานสะอาดเรยี บรอ้ ย ทำงานไมส่ ะอาด กำหนด เรียบรอ้ ย ทำเสร็จครบถ้วน แต่ส่ง ทำไมค่ รบถ้วน สง่ ลา่ ช้า ล่าชา้ กว่ากำหนด 1 - 2 กวา่ กำหนดมากกว่า 2 วัน วัน

35 แบบประเมินทกั ษะการทำงานเปน็ กล่มุ ชอ่ื -สกุล บทบาท การมสี ่วน ความ การรับฟงั ผลสำเร็จ รวม หนา้ ท่ี รว่ ม รับผดิ ชอบ ความ ของงาน 15 คะแนน คิดเหน็ 321321321321321 เกณฑ์การประเมิน ระดบั คณุ ภาพ ดี 3 หมายถึง ดี 2 หมายถงึ พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรับปรงุ ปรับปรุง เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน 11 - 15 6 - 10 1-5 ลงชื่อ.................................................................ผูป้ ระเมนิ (นายเรวตั ร อย่เู กดิ ) ........../…......./….......

36 เกณฑ์ประเมินทกั ษะการทำงานเปน็ กลุ่ม โดยใช้เกณฑ์การประเมินแบบรบู รคิ ส์ รายการประเมิน 3 คะแนน พฤติกรรมบง่ ชี้ 1 คะแนน 1. บทบาทหนา้ ท่ี 2 คะแนน ไมม่ กี ารกำหนดบทบาท 2. การมีสว่ นรว่ ม มีการกำหนดบทบาท หนา้ ท่ขี องสมาชกิ หนา้ ท่ีสมาชิกไวช้ ัดเจน มกี ารกำหนดบทบาท สมาชิกกลุม่ สว่ นใหญ่ไม่ 3. ความรบั ผิดชอบ หน้าทส่ี มาชิกไมค่ รบ มสี ว่ นรว่ มในการ สมาชิกกลมุ่ ทุกคนมสี ่วน สมาชกิ กลุ่มส่วนใหญ่มี ปฏิบตั งิ านหรือมนี อ้ ย 4. การรบั ฟงั ความ รว่ มในการปฏบิ ัติงาน ส่วนร่วมในการ สมาชกิ สว่ นใหญไ่ ม่ คิดเหน็ กล่มุ ปฏบิ ตั งิ าน ทำงานตามหนา้ ทที่ ีไ่ ดร้ ับ 5. ผลสำเร็จของงาน สมาชกิ ส่วนใหญท่ ำงาน มอบหมาย หลกี เล่ียง สมาชกิ ทกุ คนทำงาน ตามหน้าท่ีท่ไี ดร้ ับ งาน และงานเสรจ็ ชา้ ตามหนา้ ที่ทไ่ี ดร้ ับ มอบหมาย ไม่หลีกเลยี่ ง กวา่ กำหนด มอบหมาย ไมห่ ลีกเล่ยี ง งาน งานเสร็จทนั ตาม งาน งานเสรจ็ ทนั ตาม กำหนด สมาชกิ สว่ นใหญไ่ มร่ บั ฟัง กำหนด ความคิดเหน็ ของผูอ้ ื่น สมาชกิ สว่ นใหญร่ ับฟัง สมาชกิ ทกุ คนรบั ฟัง ความคิดเหน็ ของผอู้ ืน่ เกดิ จากความร่วมมอื ความคดิ เห็นของผู้อ่นื อย่างมีเหตุผล ของสมาชกิ สว่ นนอ้ ยใน อย่างมีเหตุผล เกิดจากความรว่ มมือ กลมุ่ ของสมาชกิ สว่ นใหญ่ใน เกิดจากความร่วมมือ กล่มุ ของสมาชกิ ทุกคนใน กลุ่ม

แบบประเมนิ ความม่งุ ม่นั ในการทำงาน 37 ชอื่ -สกลุ ความตง้ั ใจและ รู้จักแก้ปัญหาใน การปรับปรุงและ รวม เอาใจใส่ การทำงาน แก้ไขการทำงาน 9 คะแนน 332 121 321 เกณฑก์ ารประเมิน ระดบั คณุ ภาพ ดี 3 หมายถึง ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรบั ปรุง ปรับปรงุ เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน 9-7 6-4 3-1 ลงช่อื .................................................................ผปู้ ระเมนิ (นายเรวัตร อยู่เกิด) ........../…......./….......

38 เกณฑก์ ารประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ด้านความมุ่งมน่ั ในการทำงาน โดยใช้เกณฑ์การประเมนิ แบบรบู รคิ ส์ รายการประเมนิ พฤตกิ รรมบ่งช้ี 1. ความตง้ั ใจและเอา 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน ใจใสต่ อ่ ภาระงานที่ ขณะทำงานที่ไดร้ บั ได้รบั มอบหมาย โดยมี มอบหมาย นักเรียนไม่ ขณะทำงานที่ได้รับ ขณะทำงานท่ีได้รบั พฤติกรรมบง่ ชี้ ดงั น้ี แสดงพฤติกรรมบ่งชีท้ ้งั - เลน่ โทรศัพท์มือถือ 3 พฤติกรรม หรอื แสดง มอบหมาย นกั เรียนแสดง มอบหมาย นกั เรียน ระหวา่ งทำงาน พฤติกรรมบ่งชี้ 1 ใน 3 - นำงานในรายวชิ า พฤติกรรม พฤตกิ รรมบง่ ช้ี 2 ใน 3 แสดงพฤติกรรมบง่ ช้ีทั้ง อ่นื ขึ้นมาทำ - ฟบุ หลบั แก้ปญั หาได้ดว้ ยตัวเอง พฤติกรรม 3 พฤตกิ รรม 2. รู้จกั แก้ปญั หาใน ทัง้ หมด การทำงานเม่ือมี แก้ปัญหาดว้ ยตวั เอง แกป้ ญั หาด้วยตัวเองนอ้ ย อปุ สรรค มคี วามพยายามท่ีจะ 3. การปรบั ปรุงและ ปรบั ปรงุ แก้ไขการทำงาน มากกว่าร้อยละ 80 กว่าร้อยละ 80 ของ แก้ไขการทำงานของ ของตนใหม้ ผี ลงานที่ดี ตนใหด้ ีย่งิ ข้นึ และคณุ ภาพอยู่เสมอ ของงานทงั้ หมด งานทัง้ หมด มคี วามพยายามท่ีจะ มคี วามพยายามท่ีจะ ปรบั ปรงุ แกไ้ ขการทำงาน ปรบั ปรงุ แก้ไขการทำงาน ของตนให้มผี ลงานทด่ี ี ของตนใหม้ ผี ลงานที่ดี และคุณภาพ และคณุ ภาพเป็นบางครง้ั

39 แบบประเมนิ การสรุปบทเรียน ชอ่ื -สกุล การสรุป ความถกู ต้อง ความ ความถูกต้อง รวม ประเดน็ ของเน้อื หา ครบถ้วนของ ของการใช้คำ 12 คะแนน สำคญั 321 เนอ้ื หา และการ 321 สะกดคำ 321 321 เกณฑ์การประเมนิ ระดบั คุณภาพ ดี 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรบั ปรงุ ปรบั ปรงุ เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน 9 - 12 8-5 4-1 ลงชอื่ .................................................................ผู้ประเมนิ (นายเรวัตร อยเู่ กิด) ........../…......./….......


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook