Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยการเรียนรู้รายวิชาชีววิทยา 1 (ว30251)

หน่วยการเรียนรู้รายวิชาชีววิทยา 1 (ว30251)

Published by Rawat Yukerd, 2021-08-01 19:05:37

Description: หน่วยการเรียนรู้รายวิชาชีววิทยา 1 (ว30251) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสรรพยาวิทยา จัดทำโดย นายเรวัตร อยู่เกิด

Search

Read the Text Version

1

ก สารบญั หน้า สารบัญ.................................................................................................................................................................. ก หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 เรือ่ ง ธรรมชาตขิ องสิ่งมชี ีวิต และการศึกษาชีววทิ ยา ........................................................1 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ ....................................................................................................................1 2. ผลการเรยี นรู้...............................................................................................................................................1 4. สมรรถนะของผเู้ รียน...................................................................................................................................1 5. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์..........................................................................................................................2 6. ชิ้นงาน/ภาระงาน........................................................................................................................................2 7. สอ่ื การเรียนรู/้ แหล่งเรียนรู้..........................................................................................................................2 8. การประเมินผลการเรียนรู้ ...........................................................................................................................2 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 เร่อื ง เคมที เ่ี ปน็ พื้นฐานของส่งิ มชี วี ติ ..................................................................................7 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ ....................................................................................................................7 2. ผลการเรียนรู้...............................................................................................................................................7 4. สมรรถนะของผูเ้ รยี น...................................................................................................................................8 5. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์..........................................................................................................................8 6. ชน้ิ งาน/ภาระงาน........................................................................................................................................8 7. สื่อการเรียนร้/ู แหลง่ เรยี นรู้..........................................................................................................................8 8. การประเมินผลการเรยี นรู้ ...........................................................................................................................9 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 เรอ่ื ง เซลล์ของส่ิงมีชวี ติ ..................................................................................................16 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ .................................................................................................................16 2. ผลการเรียนรู้............................................................................................................................................16 4. สมรรถนะของผู้เรยี น................................................................................................................................17 5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์.......................................................................................................................17 6. ชิ้นงาน/ภาระงาน.....................................................................................................................................17 7. ส่อื การเรยี นร้/ู แหลง่ เรียนรู้.......................................................................................................................17 8. การประเมินผลการเรยี นรู้ ........................................................................................................................18

1 หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 1 เรือ่ ง ธรรมชาติของส่ิงมชี ีวติ และการศึกษาชีววทิ ยา รหสั วิชา ว30251 ชวี วิทยา 1 กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เวลาเรยี น 400 นาที (8 คาบ) ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระชวี วิทยา 1. เข้าใจธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต การศึกษาชีววิทยา และวิธีการทางวิทยาศาสตร์ สารที่เป็นองค์ประกอบ ของสิ่งมีชีวติ ปฏิกิริยาเคมีในเซลล์ของสิง่ มีชีวติ กล้องจุลทรรศน์ โครงสร้าง และหน้าที่ของเซลล์ การลำเลียง สารเข้า และออกจากเซลล์ การแบง่ เซลล์ และการหายใจระดับเซลล์ 2. ผลการเรยี นรู้ ม. 4/1 อธิบาย และสรุปสมบตั ิที่สำคญั ของสิง่ มีชวี ิต และความสมั พันธข์ องการจดั ระบบในส่ิงมีชีวิตทีท่ ำให้ ส่ิงมชี ีวติ สามารถดำรงอยู่ได้ 3. สาระสำคญั สงิ่ มีชีวิตมกี ารสืบพันธุเ์ พอื่ เพิม่ จำนวนและดำรงเผ่าพันธุ์ ตอ้ งการสารอาหารและพลังงานเพื่อการดำรงชีวิต และการเจริญเติบโต สิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดมีอายุขัยและขนาดแตกต่างกัน และมีลักษณะจำเพาะ สามารถ ตอบสนองต่อสง่ิ เร้าได้ มีกลไกในการรกั ษาดลุ ยภาพภายในของร่างกายใหเ้ หมาะสมตอ่ การดำรงชวี ิต และมกี าร จัดระบบตงั้ แต่ระดับเซลล์ไปจนถึงระดบั กลมุ่ สิ่งมชี ีวิตการศึกษาเกี่ยวกบั สิ่งมีชีวิตก่อให้เกดิ วิชาเฉพาะด้านของ สาขาชีววิทยา ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตมนุษย์และสิ่งแวดล้อม การศึกษาและการใช้ ประโยชนเ์ กี่ยวกับสิง่ มีชีวิตตอ้ งคำนงึ ถงึ ชีวจริยธรรม การสังเกตเป็นทักษะสำคัญที่นำไปสู่การตั้งปัญหาและรวบรวมข้อมูล ความเป็นคนช่างสังเกตของ นกั วทิ ยาศาสตรท์ ำให้เกดิ การค้นพบความรู้ตา่ ง ๆ มากมาย รวมทั้งการคิดคน้ ส่งิ ประดิษฐต์ า่ ง ๆ ทอ่ี ำนวยความ สะดวกให้แก่มนษุ ย์ นักชวี วทิ ยาใชว้ ธิ ีการทางวิทยาศาสตร์ในการศกึ ษาชวี วิทยา ซ่งึ ประกอบด้วยการตั้งปญั หา การตง้ั สมมติฐาน การตรวจสอบสมมติฐาน การเก็บรวบรวมขอ้ มูล การวิเคราะห์ข้อมูล และการสรุปผลการทดลอง ความรู้ทาง ชีววทิ ยาอาจไดจ้ ากการสำรวจและการศึกษาภายในและภายนอกหอ้ งปฏบิ ัติการ ความรทู้ ่ีไดจ้ ากการศึกษาบาง เรือ่ งสามารถนำไปตง้ั เปน็ กฎและทฤษฎีสำหรับใชอ้ ้างอิงได้ ดังนนั้ ชีววิทยาจึงประกอบด้วยส่วนท่ีสำคญั 2 ส่วน คือ สว่ นทีเ่ ป็นความรู้และส่วนที่เปน็ กระบวนการ ความรู้ทางวทิ ยาศาสตรอ์ าจมกี ารเปล่ยี นแปลงได้ เม่อื มขี อ้ มลู หรือประจักษ์พยานใหมเ่ พ่มิ เตมิ หรือโตแ้ ย้งจากเดิม ซ่ึงทา้ ทายให้มีการตรวจสอบอย่างระมัดระวงั อนั จะนำมาสู่ การยอมรับเป็นความรู้ใหม่ 4. สมรรถนะของผเู้ รยี น 1) ความสามารถในการในการสอ่ื สาร 2) ความสามารถในการคดิ 3) ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ 4) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

2 5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1) ทักษะกระบวนการทำงานเปน็ กลุ่ม 6. ช้นิ งาน/ภาระงาน 1) สมุดจดบนั ทึก รายวชิ าชีววิทยา 1 7. ส่อื การเรยี นรู้/แหล่งเรียนรู้ 1) ส่อื พาวเวอร์พอ้ ย เรอื่ ง คณุ สมบัติของสงิ่ มชี ีวิต 8. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ วิธกี าร เคร่ืองมือ เกณฑก์ ารผา่ น ผา่ นเกณฑ์ระดับดขี น้ึ ไป 1. ประเมนิ ใบงาน/แบบบันทึกกิจกรรม/ แบบประเมินใบงาน/แบบบันทกึ ผา่ นเกณฑ์ระดบั ดขี ้ึนไป สมุดจดบนั ทึก กิจกรรม 2. ประเมินทักษะการทำงานเปน็ กล่มุ แบบประเมินทกั ษะการทำงานเป็นกลุ่ม

3 แบบประเมนิ ใบงาน/แบบบนั ทกึ กิจกรรม ชอ่ื -สกุล ความถกู ตอ้ ง ความเรียบรอ้ ย ความตรงตอ่ เวลา รวม ของเนื้อหา ของผลงาน 9 คะแนน 321 332 121 เกณฑ์การประเมนิ ระดับคณุ ภาพ ดี 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถงึ ปรับปรุง ปรับปรุง เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน 9-7 6-4 3-1 ลงชื่อ.................................................................ผู้ประเมนิ (นายเรวัตร อย่เู กิด) ........../…......./….......

4 เกณฑ์การประเมินใบงาน/แบบบันทกึ กิจกรรม โดยใช้เกณฑก์ ารประเมนิ แบบรูบรคิ ส์ การประเมิน ระดบั คุณภาพ/คะแนน 1. ความถูกตอ้ งของ เนอ้ื หา ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1) ตอบคำถามในใบงานได้ 2. ความเรียบรอ้ ยของ อยา่ งถูกต้อง ครบถว้ น ตอบคำถามในใบงานได้ ตอบคำถามในใบงานได้ ผลงาน สมบูรณ์ อยา่ งถูกตอ้ งเปน็ ส่วนมาก อย่างถูกต้องบางส่วน แต่ 3. ความตรงต่อเวลา มากกวา่ รอ้ ยละ 80 ไม่ครบถ้วน มากกว่ารอ้ ย ทำงานสะอาดเรียบร้อย มคี วามสวยงาม ละ 50 ทำเสร็จครบถ้วน และส่งภายในเวลาที่ ทำงานสะอาดเรียบร้อย ทำงานไมส่ ะอาด กำหนด เรียบรอ้ ย ทำเสรจ็ ครบถ้วน แตส่ ่ง ทำไมค่ รบถ้วน สง่ ลา่ ช้า ลา่ ช้ากว่ากำหนด 1 - 2 กวา่ กำหนดมากกว่า 2 วัน วัน

5 แบบประเมินทกั ษะกระบวนการกลุ่ม ช่ือ-สกลุ บทบาท การมีสว่ น ความ การรบั ฟัง ผลสำเร็จ รวม หนา้ ที่ รว่ ม รบั ผดิ ชอบ ความ ของงาน 15 คะแนน คดิ เห็น 321 321 321 321 321 เกณฑ์การประเมนิ ระดบั คุณภาพ ดี 3 หมายถึง ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรับปรงุ ปรับปรงุ เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ ช่วงคะแนน 11 - 15 6 - 10 1-5 ลงชื่อ.................................................................ผู้ประเมนิ (นายเรวตั ร อยเู่ กดิ ) ........../…......./….......

6 เกณฑป์ ระเมินทกั ษะการทำงานเป็นกล่มุ โดยใชเ้ กณฑก์ ารประเมินแบบรูบรคิ ส์ รายการประเมนิ 3 คะแนน พฤตกิ รรมบง่ ช้ี 1 คะแนน 1. บทบาทหน้าท่ี 2 คะแนน ไม่มีการกำหนดบทบาท 2. การมีส่วนร่วม มีการกำหนดบทบาท หน้าทข่ี องสมาชกิ หนา้ ที่สมาชกิ ไวช้ ัดเจน มีการกำหนดบทบาท สมาชิกกลมุ่ สว่ นใหญไ่ ม่ 3. ความรับผิดชอบ หนา้ ท่สี มาชิกไม่ครบ มสี ว่ นร่วมในการ สมาชิกกลมุ่ ทุกคนมีส่วน สมาชิกกลมุ่ สว่ นใหญม่ ี ปฏบิ ัตงิ านหรอื มีนอ้ ย 4. การรับฟงั ความ รว่ มในการปฏบิ ตั งิ าน ส่วนรว่ มในการ สมาชกิ สว่ นใหญ่ไม่ คดิ เห็น กล่มุ ปฏบิ ัติงาน ทำงานตามหน้าท่ที ่ไี ดร้ ับ 5. ผลสำเรจ็ ของงาน มอบหมาย หลกี เลย่ี ง สมาชิกทกุ คนทำงาน สมาชิกส่วนใหญท่ ำงาน งาน และงานเสรจ็ ช้า ตามหน้าท่ีทีไ่ ด้รับ ตามหนา้ ที่ที่ได้รบั กว่ากำหนด มอบหมาย ไมห่ ลกี เลย่ี ง มอบหมาย ไม่หลกี เล่ียง งาน งานเสร็จทันตาม งาน งานเสร็จทนั ตาม สมาชิกสว่ นใหญไ่ ม่รับฟงั กำหนด กำหนด ความคิดเห็นของผู้อน่ื สมาชิกทุกคนรบั ฟงั สมาชกิ ส่วนใหญร่ บั ฟงั เกิดจากความร่วมมอื ความคดิ เห็นของผูอ้ นื่ ความคิดเห็นของผอู้ ื่น ของสมาชกิ สว่ นนอ้ ยใน อย่างมีเหตผุ ล อยา่ งมเี หตุผล กลมุ่ เกิดจากความร่วมมอื เกิดจากความร่วมมอื ของสมาชกิ สว่ นใหญใ่ น ของสมาชกิ ทกุ คนใน กลมุ่ กลมุ่

7 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรอ่ื ง เคมที ่เี ป็นพนื้ ฐานของสง่ิ มชี ีวติ รหสั วชิ า ว30251 ชวี วทิ ยา 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เวลาเรียน 500 นาที (10 คาบ) ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระชวี วิทยา 1. เข้าใจธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต การศึกษาชีววิทยา และวิธีการทางวิทยาศาสตร์ สารที่เป็นองค์ประกอบ ของสิ่งมีชีวิต ปฏิกิริยาเคมใี นเซลล์ของสิง่ มีชีวติ กล้องจุลทรรศน์ โครงสร้าง และหน้าที่ของเซลล์ การลำเลียง สารเขา้ และออกจากเซลล์ การแบ่งเซลล์ และการหายใจระดับเซลล์ 2. ผลการเรียนรู้ ม. 4/3 สบื คน้ ขอ้ มูล อธิบายเกย่ี วกบั สมบตั ขิ องนำ้ และบอกความสำคัญของน้ำทม่ี ีต่อสิง่ มชี วี ติ และ ยกตัวอย่างธาตุชนดิ ตา่ ง ๆ ท่มี คี วามสำคญั ต่อรา่ งกายส่งิ มีชวี ติ ม.4/4 สบื ค้นขอ้ มลู อธิบายโครงสรา้ งของคาร์โบไฮเดรต ระบุกลุม่ ของคารโ์ บไฮเดรต รวมทงั้ ความสำคัญ ของคาร์โบไฮเดรตที่มตี อ่ สิง่ มชี ีวิต ม.4/5 สบื ค้นขอ้ มลู อธิบายโครงสร้างของโปรตีน และความสำคัญของโปรตีนทมี่ ีตอ่ ส่งิ มชี ีวิต ม.4/6 สบื ค้นข้อมลู อธิบายโครงสรา้ งของลพิ ดิ และความสำคัญของลิพดิ ทม่ี ตี ่อสงิ่ มชี วี ติ ม.4/7 อธิบายโครงสรา้ งของกรดนวิ คลีอิก และระบชุ นิดของกรดนิวคลอี กิ และความสำคัญของกรด นวิ คลอี กิ ที่มีต่อสง่ิ มชี วี ติ ม.4/8 สืบคน้ ขอ้ มลู และอธิบายปฏกิ ิรยิ าเคมีท่ีเกดิ ขึ้นในสง่ิ มชี วี ิต ม.4/9 อธบิ ายการทำงานของเอนไซมใ์ นการเรง่ ปฏกิ ิรยิ าเคมใี นส่ิงมีชวี ติ และระบุปัจจัยทม่ี ีผลต่อการ ทำงานของเอนไซม์ 3. สาระสำคญั นำ้ เปน็ สารประกอบที่พบมากท่ีสุดในสง่ิ มีชวี ิต น้ำมบี ทบาทสำคัญในการรักษาดลุ ยภาพของรา่ งกาย เชน่ น้ำ เป็นตัวทำละลายที่ดี เป็นตัวกลางของการเกิดปฏิกิริยาเคมีของกระบวนการเมแทบอลิซึมในร่างกาย การ ลำเลียงสาร การย่อยอาหาร การหมุนเวียนเลือด การขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย รวมถึงการรักษาดุลย ภาพของอณุ หภมู ิ และความเป็นกรด-เบส ของเลอื ดและของเหลวต่าง ๆ ในร่างกาย สิ่งมีชีวิตมีธาตุคาร์บอน ไฮโดรเจน และออกซิเจน เป็นองค์ประกอบหลัก ส่วนธาตุอื่น ๆ มีปริมาณท่ี แตกต่างกัน สว่ นใหญอ่ ยู่ในรูปของไอออน เช่น แคลเซยี มไอออน (Ca2+) ถึงแมส้ ิง่ มชี ีวิตตอ้ งการธาตุบางชนิด ในปริมาณเลก็ นอ้ ย แต่ถ้าได้รับปริมาณไม่เพียงพอหรือมกี ารสูญเสียไปอาจทำใหก้ ารทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ผิดปกตไิ ด้ สารที่พบในสิ่งมีชีวิตมีหลายประเภท เช่น คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ลิพิด กรดนิวคลิอิก ซึ่งเป็นสารที่มี คาร์บอนและไฮโดรเจนเปน็ องค์ประกอบหลกั และอาจมีธาตุอืน่ ๆ เช่น ออกซิเจน ไนโตรเจน ฟอสฟอรสั และ กำมะถันเปน็ องค์ประกอบอย่ดู ้วย สารเหลา่ นี้เปน็ องค์ประกอบของเซลล์ ชว่ ยใหร้ า่ งกาย

8 เจริญเตบิ โต เป็นสารที่ใหพ้ ลังงาน กรดนิวคลินิกมี 2 ชนิดคือ DNA และ RNA ทำหน้าที่เก็บและถ่ายทอด ขอ้ มูลทางพันธกุ รรม รวมท้งั ทำหนา้ ทค่ี วบคมุ การสงั เคราะห์โปรตนี เมแทบอลิซึมเป็นปฏกิ ิริยาเคมีทั้งหมดที่เกิดขึ้นในสิ่งมีชีวติ ประกอบด้วยปฏิกิรยิ าดูดพลังงานและปฏิกิรยิ า คายพลังงาน ปฏิกิริยาเคมีเหล่านี้จะดำเนินไปได้อย่างรวดเร็วจำเป็นต้องอาศัยเอนไซม์ช่วยเร่งปฏิกิริยา โดย ปฏิกิริยาเคมีต่าง ๆ ในสิ่งมีชีวิตทั้งปฏิกิริยาสลายสารอินทรีย์และสังเคราะห์สารอินทรีย์ มักประกอบด้วย ปฏกิ ริ ิยาเคมหี ลายขนั้ ตอนเกดิ ต่อเนอ่ื งกันอย่างเปน็ ลำดบั และสามารถควบคุมได้ เอนไซม์ส่วนใหญ่เป็นสารประเภทโปรตีน ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีโดยในขณะเกิดปฏิกิริยาเคมีในเซลล์ สารตั้งต้นจะเข้าไปจับกับเอนไซม์ที่บริเวณเร่งอย่างจำเพาะ และจะถูกเปลี่ยนเป็นสารผลิตภัณฑ์ อุณหภูมิ ความเป็นกรด-เบส รวมทั้งความเข้มข้นของสารตั้งต้น และความเข้มข้นของเอนไซม์มีผลต่อปฏิกิริยาต่าง ๆ ในเซลล์ ปฏิกริ ยิ าอาจชะงกั หรือหยุดไป ถ้ามสี ารทีม่ สี มบัติยับยั้งการทำงานของเอนไซมเ์ ข้ารวมกบั เอนไซม์หรือ สารตั้งตน้ 4. สมรรถนะของผ้เู รยี น 1) ความสามารถในการในการส่ือสาร 2) ความสามารถในการคิด 3) ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ 4) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1) ทักษะกระบวนการทำงานเป็นกล่มุ 6. ช้ินงาน/ภาระงาน 1) สมุดจดบนั ทึก รายวชิ าชีววทิ ยา 1 2) ใบงาน เรือ่ ง สารชีวโมเลกลุ 7. สื่อการเรียนรู/้ แหล่งเรยี นรู้ 1) สอื่ พาวเวอรพ์ ้อยเรื่อง อะตอม ธาตุ และสารประกอบ 2) สื่อพาวเวอรพ์ ้อยเรือ่ ง นำ้ 3) สอ่ื พาวเวอร์พ้อย เรอื่ ง คารโ์ บไฮเดรต 4) สือ่ พาวเวอรพ์ ้อย เร่ือง โปรตีน 5) สื่อพาวเวอร์พ้อยเรื่อง ลิพิด 6) ส่ือ PowerPoint เรอ่ื ง สารประกอบคารบ์ อนในสิ่งมชี ีวิต – กรดนิวคลอิ ิก

9 8. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ วธิ ีการ เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน ผา่ นเกณฑ์ระดบั ดขี ึ้นไป 1. ประเมนิ ใบงาน/แบบบันทกึ กิจกรรม/ แบบประเมินใบงาน/แบบบันทึก ผ่านเกณฑร์ ะดับดขี น้ึ ไป สมดุ จดบนั ทึก กจิ กรรม 2. ประเมินทักษะการทำงานเป็นกลมุ่ แบบประเมินทักษะการทำงานเป็นกล่มุ 3. ประเมินทกั ษะความม่งุ ม่นั ในการ แบบประเมนิ ความมุ่งมัน่ ในการทำงาน ผา่ นเกณฑร์ ะดับดขี ้นึ ไป ทำงาน

10 แบบประเมนิ ใบงาน/แบบบนั ทกึ กจิ กรรม ชอ่ื -สกุล ความถูกต้อง ความเรยี บร้อย ความตรงต่อเวลา รวม ของเน้ือหา ของผลงาน 9 คะแนน 321 332 121 เกณฑ์การประเมนิ ระดับคณุ ภาพ ดี 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถงึ ปรบั ปรุง ปรับปรุง เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน 9-7 6-4 3-1 ลงช่อื .................................................................ผู้ประเมนิ (นายเรวตั ร อยเู่ กดิ ) ........../…......./….......

11 เกณฑ์การประเมนิ ใบงาน/แบบบันทกึ กิจกรรม โดยใชเ้ กณฑ์การประเมนิ แบบรูบริคส์ การประเมิน ระดับคุณภาพ/คะแนน 1. ความถกู ต้องของ เน้อื หา ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1) ตอบคำถามในใบงานได้ 2. ความเรียบร้อยของ อยา่ งถูกต้อง ครบถ้วน ตอบคำถามในใบงานได้ ตอบคำถามในใบงานได้ ผลงาน สมบรู ณ์ อยา่ งถูกตอ้ งเป็นสว่ นมาก อยา่ งถกู ต้องบางส่วน แต่ 3. ความตรงตอ่ เวลา มากกวา่ รอ้ ยละ 80 ไม่ครบถ้วน มากกวา่ ร้อย ทำงานสะอาดเรยี บร้อย มคี วามสวยงาม ละ 50 ทำเสร็จครบถ้วน และสง่ ภายในเวลาที่ ทำงานสะอาดเรยี บร้อย ทำงานไม่สะอาด กำหนด เรียบรอ้ ย ทำเสรจ็ ครบถ้วน แตส่ ่ง ทำไมค่ รบถว้ น ส่งล่าชา้ ลา่ ชา้ กว่ากำหนด 1 - 2 กวา่ กำหนดมากกว่า 2 วัน วัน

12 แบบประเมนิ ทักษะกระบวนการกลุ่ม ชือ่ -สกลุ บทบาท การมีสว่ น ความ การรับฟงั ผลสำเร็จ รวม หนา้ ที่ ร่วม รับผิดชอบ ความ ของงาน 15 คะแนน คดิ เห็น 321 321 321 321 321 เกณฑ์การประเมนิ ระดับคุณภาพ ดี 3 หมายถึง ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรับปรงุ ปรับปรงุ เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน 11 - 15 6 - 10 1-5 ลงชื่อ.................................................................ผู้ประเมนิ (นายเรวตั ร อย่เู กิด) ........../…......./….......

13 เกณฑ์ประเมินทักษะการทำงานเปน็ กลุ่ม โดยใช้เกณฑก์ ารประเมินแบบรบู รคิ ส์ รายการประเมิน 3 คะแนน พฤตกิ รรมบง่ ชี้ 1 คะแนน 1. บทบาทหนา้ ท่ี 2 คะแนน ไมม่ กี ารกำหนดบทบาท 2. การมีสว่ นร่วม มีการกำหนดบทบาท หนา้ ท่ขี องสมาชกิ หน้าท่ีสมาชิกไว้ชัดเจน มีการกำหนดบทบาท สมาชิกกล่มุ สว่ นใหญ่ไม่ 3. ความรบั ผิดชอบ หนา้ ทส่ี มาชกิ ไมค่ รบ มสี ่วนร่วมในการ สมาชิกกลุ่มทุกคนมสี ว่ น สมาชกิ กลมุ่ ส่วนใหญ่มี ปฏบิ ตั งิ านหรือมนี อ้ ย 4. การรบั ฟงั ความ รว่ มในการปฏิบัตงิ าน สว่ นร่วมในการ สมาชกิ สว่ นใหญ่ไม่ คิดเหน็ กล่มุ ปฏิบตั ิงาน ทำงานตามหน้าทที่ ีไ่ ดร้ ับ 5. ผลสำเร็จของงาน มอบหมาย หลกี เล่ียง สมาชิกทุกคนทำงาน สมาชิกส่วนใหญท่ ำงาน งาน และงานเสรจ็ ชา้ ตามหนา้ ท่ีทไ่ี ด้รับ ตามหนา้ ทีท่ ่ไี ดร้ บั กวา่ กำหนด มอบหมาย ไมห่ ลีกเล่ยี ง มอบหมาย ไมห่ ลกี เลย่ี ง งาน งานเสรจ็ ทันตาม งาน งานเสรจ็ ทันตาม สมาชกิ สว่ นใหญไ่ มร่ บั ฟัง กำหนด กำหนด ความคิดเหน็ ของผูอ้ ื่น สมาชกิ ทุกคนรับฟงั สมาชกิ ส่วนใหญร่ บั ฟัง เกดิ จากความร่วมมอื ความคิดเหน็ ของผ้อู ่นื ความคดิ เห็นของผู้อน่ื ของสมาชิกสว่ นนอ้ ยใน อยา่ งมีเหตุผล อยา่ งมีเหตผุ ล กลมุ่ เกิดจากความรว่ มมอื เกิดจากความร่วมมอื ของสมาชิกส่วนใหญใ่ น ของสมาชกิ ทุกคนใน กลุม่ กลมุ่

แบบประเมนิ ความมงุ่ ม่นั ในการทำงาน 14 ความตง้ั ใจและ ร้จู ักแกป้ ญั หาใน การปรับปรุงและ รวม 9 คะแนน ชอ่ื -สกลุ เอาใจใส่ การทำงาน แก้ไขการทำงาน 332121321 เกณฑก์ ารประเมิน ระดบั คุณภาพ ดี 3 หมายถึง ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรบั ปรุง ปรับปรงุ เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน 9-7 6-4 3-1 ลงชือ่ .................................................................ผู้ประเมนิ (นายเรวตั ร อยู่เกดิ ) ........../…......./….......

15 เกณฑก์ ารประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ดา้ นความมุ่งม่นั ในการทำงาน โดยใช้เกณฑ์การประเมนิ แบบรูบรคิ ส์ รายการประเมนิ พฤติกรรมบ่งช้ี 1. ความตง้ั ใจและเอา 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน ใจใส่ตอ่ ภาระงานท่ี ขณะทำงานที่ไดร้ ับ ไดร้ ับมอบหมาย โดยมี มอบหมาย นักเรียนไม่ ขณะทำงานทไ่ี ด้รบั ขณะทำงานท่ีได้รับ พฤติกรรมบง่ ช้ี ดงั น้ี แสดงพฤตกิ รรมบ่งชที้ งั้ - เล่นโทรศพั ทม์ อื ถอื 3 พฤติกรรม หรือแสดง มอบหมาย นักเรียนแสดง มอบหมาย นักเรียน ระหวา่ งทำงาน พฤติกรรมบง่ ช้ี 1 ใน 3 - นำงานในรายวิชา พฤตกิ รรม พฤตกิ รรมบง่ ชี้ 2 ใน 3 แสดงพฤติกรรมบง่ ช้ีทั้ง อน่ื ขึ้นมาทำ - ฟุบหลับ แก้ปญั หาไดด้ ว้ ยตัวเอง พฤติกรรม 3 พฤตกิ รรม 2. ร้จู กั แกป้ ญั หาใน ท้งั หมด การทำงานเมื่อมี แกป้ ญั หาด้วยตัวเอง แกป้ ัญหาดว้ ยตัวเองนอ้ ย อปุ สรรค มีความพยายามทีจ่ ะ 3. การปรับปรงุ และ ปรับปรุงแกไ้ ขการทำงาน มากกวา่ ร้อยละ 80 กว่ารอ้ ยละ 80 ของ แกไ้ ขการทำงานของ ของตนใหม้ ผี ลงานที่ดี ตนให้ดยี ิ่งขึ้น และคณุ ภาพอย่เู สมอ ของงานทงั้ หมด งานทง้ั หมด มีความพยายามทจี่ ะ มีความพยายามท่จี ะ ปรบั ปรงุ แก้ไขการทำงาน ปรบั ปรุงแกไ้ ขการทำงาน ของตนให้มีผลงานท่ดี ี ของตนใหม้ ีผลงานท่ดี ี และคุณภาพ และคุณภาพเปน็ บางครง้ั

16 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 เรือ่ ง เซลล์ของสง่ิ มชี ีวติ รหสั วิชา ว30251 ชีววทิ ยา 1 กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี เวลาเรียน 1000 นาที (20 คาบ) ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระชีววทิ ยา 1. เข้าใจธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต การศึกษาชีววิทยา และวิธีการทางวิทยาศาสตร์ สารที่เป็นองค์ประกอบ ของสิ่งมีชีวติ ปฏิกิริยาเคมใี นเซลล์ของสิง่ มีชีวติ กล้องจุลทรรศน์ โครงสร้าง และหน้าที่ของเซลล์ การลำเลียง สารเขา้ และออกจากเซลล์ การแบง่ เซลล์ และการหายใจระดบั เซลล์ 2. ผลการเรยี นรู้ ม.4/10 บอกวิธกี าร และเตรยี มตัวอยา่ งส่งิ มชี วี ติ เพ่ือศกึ ษาภายใตก้ ล้องจุลทรรศนใ์ ช้แสง วัดขนาด โดยประมาณ และวาดภาพที่ปรากฎภายใต้กล้อง บอกวิธกี ารใช้ และการดูแลรักษากลอ้ งจลุ ทรรศนใ์ ช้แสงท่ี ถกู ต้อง ม.4/11 อธบิ ายโครงสร้างและหนา้ ที่ของส่วนที่หอ่ หมุ้ เซลลพ์ ืช และเซลลส์ ัตว์ ม.4/12 สืบคน้ ข้อมลู อธบิ าย และระบุชนดิ และหนา้ ทีข่ องออรแ์ กเนลล์ ม.4/13 อธบิ ายโครงสรา้ งและหน้าทข่ี องนิวเคลียส ม.4/14 อธิบาย และเปรียบเทียบการแพร่ ออสโมซิส การแพร่แบบฟาซิลิเทต และแอกทฟี ทรานสปอรต์ ม.4/15 สืบค้นขอ้ มูล อธิบาย และเขยี นแผนภาพการลำเลียงสารโมเลกลุ ใหญอ่ อกจากเซลล์ด้วย กระบวนการเอกโซไซโทซสิ และการลำเลยี งสารโมเลกุลใหญเ่ ขา้ สู่เซลลด์ ว้ ยกระบวนการเอนโตไซโทซิส ม.4/16 สงั เกตการแบง่ นิวเคลยี สแบบไมโทซิส และแบบไมโอซสิ จากตวั อย่างภายใตก้ ล้องจลุ ทรรศน์ พร้อมทง้ั อธิบาย และเปรยี บเทียบการแบง่ นวิ เคลียสแบบไมโทซิส และไมโอซิส ม.4/17 อธบิ าย เปรียบเทียบ และสรุปขน้ั ตอนการหายใจระดับเซลล์ในภาวะที่มีออกซิเจนเพียงพอ และ ภาวะที่ออกซเิ จนไมเ่ พยี งพอ 3. สาระสำคัญ กล้องจุลทรรศน์เป็นเคร่ืองมอื ทชี่ ่วยในการขยายภาพ ทำใหส้ ามารถมองเห็นส่ิงมชี ีวิตขนาดเลก็ ๆได้ กล้อง จุลทรรศน์มีทั้งแบบที่ใช้แสงและแบบอิเล็กตรอน การศึกษาเซลล์ด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนจะเห็น รายละเอียดของโครงสรา้ งของเซลล์ท่ีศกึ ษามากกว่ากล้องจลุ ทรรศน์ใชแ้ สงเซลล์เป็นหน่วยพ้ืนฐานทีเ่ ล็กทีส่ ุด ของสิ่งมีชีวิต โครงสร้างพื้นฐานของเซลล์ประกอบด้วยส่วนที่ห่อหุ้มเซลล์ ไซโทพลาซึมและนิวเคลียส เซลล์ ทว่ั ไปมขี นาดและรูปร่างตา่ งกนั ส่วนมากมขี นาดเลก็ มากมองไมเ่ หน็ ด้วยตาเปลา่ จึงต้องอาศยั กล้องจุลทรรศน์ ชว่ ยในการศกึ ษารายละเอยี ดต่าง ๆ ของโครงสรา้ งของเซลล์ท่ีทำหนา้ ทแี่ ตกต่างกนั เซลล์มีการลำเลยี งสารเขา้ และออกจากเซลล์ โดยมีการควบคุมทัง้ ชนิดและปริมาณสารทีผ่ า่ นเข้าออก เยอ่ื หุ้มเซลลท์ ำหน้าทเ่ี ปน็ เยอ่ื เลือกผา่ นในการลำเลียงสารดังกลา่ ว โดยสมบตั ิของสารและสมบัติของโครงสร้างต่าง ๆ ของเย่ือหมุ้ เซลลม์ ีความสัมพนั ธ์กับวธิ ีการลำเลยี งสาร เชน่ การแพรแ่ บบธรรมดา ออสโมซสิ การแพร่แบบฟา ซิลิเทต แอกทีฟทรานสปอร์ต เอกโซไซโทซิส เอนโดไซโทซิสเซลล์ต้องการพลังงานเพื่อนำไปใช้ในกิจกรรม

17 ต่าง ๆ ซึ่งพลังงานที่เซลล์ต้องการนำไปใช้นี้อยู่ในรูปของสารพลังงานสูงที่ได้จากการสลายอาหารผ่าน กระบวนการหายใจระดับเซลล์ เซลล์ของสิ่งมีชีวิตมีการแบ่งนิวเคลียสเกิดขึ้นใน 2 ลักษณะคือ การแบ่งนิวเคลียสแบบไมโทซิส ซึ่งเป็น วิธีการแบ่งที่ทำให้จำนวนโครโมโซมภายในนิวเคลียสเท่าเดิมมักเป็นการแบ่งของเซลล์ร่างกายและการแบ่ง นิวเคลียสแบบไมโอซิสซ่งึ เป็นการแบง่ ท่ีลดจำนวนโครโมโซมลงครงึ่ หนง่ึ เพ่อื สร้างเซลลส์ ืบพันธ์ุใช้ในการสืบพันธ์ุ แบบอาศยั เพศ การแบ่งนวิ เคลียสแบบไมโทซสิ กอ่ ให้เกดิ วัฏจกั รเซลล์ 4. สมรรถนะของผูเ้ รียน 1) ความสามารถในการในการส่ือสาร 2) ความสามารถในการคดิ 3) ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 4) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1) ทกั ษะกระบวนการทำงานเปน็ กลมุ่ 2) ทักษะความมงุ่ ม่นั ในการทำงาน 6. ชนิ้ งาน/ภาระงาน 1) สมุดจดบนั ทกึ รายวิชาชวี วิทยา 1 2) แบบบันทกึ กจิ กรรม เรือ่ ง ออร์แกเนลล์ท่ไี มม่ ีเยื่อหุ้ม 3) แบบบนั ทกึ กิจกรรม เรอ่ื ง ออร์แกเนลล์ท่ีมีเยอ่ื หมุ้ ช้นั เดยี ว 4) แบบบันทกึ กิจกรรม เร่อื ง ออรแ์ กเนลล์ท่มี ีเยอ่ื หุ้มสองช้ันและนิวเคลยี ส 5) ใบงาน เรอ่ื ง กลอ้ งจุลทรรศน์ 6) ใบงาน เรอ่ื ง การลำเลยี งสารผา่ นเย่ือหุ้มเซลล์ 7) ใบงาน เรอ่ื ง การลำเลยี งสารผา่ นเขา้ ออกเซลล์ 8) ใบงาน เร่ือง การแบง่ เซลล์ 9) แบบบนั ทึกกจิ กรรม เรื่อง การแบ่งเซลลแ์ บบไมโทซสิ 10) แบบบันทึกกจิ กรรมเรอื่ งการแบ่งเซลล์แบบ ไมโอซิส 7. สือ่ การเรยี นร/ู้ แหล่งเรียนรู้ 1) สื่อพาวเวอรพ์ อ้ ย เรอ่ื ง ออร์แกเนลล์ที่ไมม่ ีเยอ่ื หุ้ม 2) ใบความรู้ เรือ่ ง ออรแ์ กเนลล์ไม่มเี ยื่อหุ้ม 3) สอ่ื พาวเวอร์พ้อย เร่อื ง ออรแ์ กเนลลท์ ีม่ เี ย่ือหุม้ ชั้นเดียว 4) ใบความรู้ เรอ่ื ง ออร์แกเนลลท์ ่ีมเี ยอื่ ห้มุ ชัน้ เดียว 5) สอ่ื พาวเวอรพ์ อ้ ย เรอ่ื ง ออร์แกเนลล์ทมี่ ีเยื่อหมุ้ สองชัน้ และนิวเคลยี ส 6) ใบความรู้ เร่ือง ออร์แกเนลลท์ ม่ี เี ยอื่ หุ้มสองชนั้ และนิวเคลียส 7) สอ่ื พาวเวอรพ์ อ้ ย เร่อื ง กล้องจลุ ทรรศน์ 8) วดี ทิ ศั น์ เรือ่ ง Osmosis demonstration with the raw egg

18 9) วดี ิทัศน์ เรอื่ ง Diffusion, Facilitated Diffusion & Active Transport- Movement across the Cell Membrane 10) ใบความรู้ เร่ือง การลำเลียงสารโดยการสร้างถงุ จากเยือ่ หุ้มเซลล์ 11) สื่อพาวเวอรพ์ อ้ ย เรอ่ื ง การลำเลียงสารโดยการสรา้ งถงุ จากเยอ่ื หมุ้ เซลล์ 12) สอ่ื พาวเวอรพ์ อ้ ย เร่ือง การออสโมซสิ 13) ส่อื พาวเวอร์พอ้ ย เรื่อง การหายใจระดบั เซลล์ 14) สือ่ พาวเวอรพ์ ้อย เรอ่ื ง การหายใจระดบั เซลลแ์ บบไมใ่ ชอ้ อกซิเจน 15) สือ่ พาวเวอร์พอ้ ยเรอ่ื ง การแบ่งเซลล์ 16) วีดทิ ัศน์ เรอ่ื ง Leopard Gecko Time Lapse Tail 17) วีดิทัศน์ เร่อื ง How the cell cycle works 18) สอ่ื พาวเวอร์พอ้ ย เรื่อง การแบง่ เซลลแ์ บบไมโทซสิ 19) สื่อวีดิทัศน์ เร่อื ง Meiosis-Plants and Animals 20) สือ่ พาวเวอร์พ้อย เร่อื ง การแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส 8. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ วธิ กี าร เครอื่ งมอื เกณฑก์ ารผา่ น 1. ประเมนิ ใบงาน/แบบบันทกึ กิจกรรม แบบประเมนิ ใบงาน/แบบบันทกึ ผ่านเกณฑร์ ะดับดขี น้ึ ไป กิจกรรม 2. ประเมินทกั ษะการทำงานเปน็ กลุ่ม แบบประเมนิ ทกั ษะการทำงานเป็นกลมุ่ ผา่ นเกณฑร์ ะดบั ดขี น้ึ ไป 3. ประเมินทกั ษะความมงุ่ มั่นในการ แบบประเมนิ ความม่งุ ม่ันในการทำงาน ผ่านเกณฑ์ระดับดขี น้ึ ไป ทำงาน แบบประเมินการสรา้ งผังกราฟฟิก ผ่านเกณฑร์ ะดับดีขน้ึ ไป 4. ประเมินการสร้างผังกราฟฟิก

19 แบบประเมนิ ใบงาน/แบบบนั ทกึ กจิ กรรม ชอ่ื -สกุล ความถูกต้อง ความเรยี บร้อย ความตรงต่อเวลา รวม ของเน้ือหา ของผลงาน 9 คะแนน 321 332 121 เกณฑ์การประเมนิ ระดับคณุ ภาพ ดี 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถงึ ปรบั ปรุง ปรับปรุง เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน 9-7 6-4 3-1 ลงช่อื .................................................................ผู้ประเมนิ (นายเรวตั ร อยเู่ กดิ ) ........../…......./….......

20 เกณฑ์การประเมนิ ใบงาน/แบบบันทกึ กิจกรรม โดยใชเ้ กณฑ์การประเมนิ แบบรูบริคส์ การประเมิน ระดับคุณภาพ/คะแนน 1. ความถกู ต้องของ เน้อื หา ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1) ตอบคำถามในใบงานได้ 2. ความเรียบร้อยของ อยา่ งถูกต้อง ครบถ้วน ตอบคำถามในใบงานได้ ตอบคำถามในใบงานได้ ผลงาน สมบรู ณ์ อยา่ งถูกตอ้ งเป็นสว่ นมาก อยา่ งถกู ต้องบางส่วน แต่ 3. ความตรงตอ่ เวลา มากกวา่ รอ้ ยละ 80 ไม่ครบถ้วน มากกวา่ ร้อย ทำงานสะอาดเรยี บร้อย มคี วามสวยงาม ละ 50 ทำเสร็จครบถ้วน และสง่ ภายในเวลาที่ ทำงานสะอาดเรยี บร้อย ทำงานไม่สะอาด กำหนด เรียบรอ้ ย ทำเสรจ็ ครบถ้วน แตส่ ่ง ทำไมค่ รบถว้ น ส่งล่าชา้ ลา่ ชา้ กว่ากำหนด 1 - 2 กวา่ กำหนดมากกว่า 2 วัน วัน

21 แบบประเมนิ ทักษะกระบวนการกลุ่ม ชือ่ -สกลุ บทบาท การมีสว่ น ความ การรับฟงั ผลสำเร็จ รวม หนา้ ที่ ร่วม รับผิดชอบ ความ ของงาน 15 คะแนน คดิ เห็น 321 321 321 321 321 เกณฑ์การประเมนิ ระดับคุณภาพ ดี 3 หมายถึง ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรับปรงุ ปรับปรงุ เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน 11 - 15 6 - 10 1-5 ลงชื่อ.................................................................ผู้ประเมนิ (นายเรวตั ร อย่เู กิด) ........../…......./….......

22 เกณฑ์ประเมินทักษะการทำงานเปน็ กลุ่ม โดยใช้เกณฑก์ ารประเมินแบบรบู รคิ ส์ รายการประเมิน 3 คะแนน พฤตกิ รรมบง่ ชี้ 1 คะแนน 1. บทบาทหนา้ ท่ี 2 คะแนน ไมม่ กี ารกำหนดบทบาท 2. การมีสว่ นร่วม มีการกำหนดบทบาท หนา้ ท่ขี องสมาชกิ หน้าท่ีสมาชิกไว้ชัดเจน มีการกำหนดบทบาท สมาชิกกล่มุ สว่ นใหญ่ไม่ 3. ความรบั ผิดชอบ หนา้ ทส่ี มาชกิ ไมค่ รบ มสี ่วนร่วมในการ สมาชิกกลุ่มทุกคนมสี ว่ น สมาชกิ กลมุ่ ส่วนใหญ่มี ปฏบิ ตั งิ านหรือมนี อ้ ย 4. การรบั ฟงั ความ รว่ มในการปฏิบัตงิ าน สว่ นร่วมในการ สมาชกิ สว่ นใหญ่ไม่ คิดเหน็ กล่มุ ปฏิบตั ิงาน ทำงานตามหน้าทที่ ีไ่ ดร้ ับ 5. ผลสำเร็จของงาน มอบหมาย หลกี เล่ียง สมาชิกทุกคนทำงาน สมาชิกส่วนใหญท่ ำงาน งาน และงานเสรจ็ ชา้ ตามหนา้ ท่ีทไ่ี ด้รับ ตามหนา้ ทีท่ ่ไี ดร้ บั กวา่ กำหนด มอบหมาย ไมห่ ลีกเล่ยี ง มอบหมาย ไมห่ ลกี เลย่ี ง งาน งานเสรจ็ ทันตาม งาน งานเสรจ็ ทันตาม สมาชกิ สว่ นใหญไ่ มร่ บั ฟัง กำหนด กำหนด ความคิดเหน็ ของผูอ้ ื่น สมาชกิ ทุกคนรบั ฟงั สมาชกิ ส่วนใหญร่ บั ฟัง เกดิ จากความร่วมมอื ความคิดเหน็ ของผ้อู ่นื ความคดิ เห็นของผู้อน่ื ของสมาชิกสว่ นนอ้ ยใน อยา่ งมีเหตุผล อยา่ งมีเหตผุ ล กลมุ่ เกิดจากความรว่ มมอื เกิดจากความร่วมมอื ของสมาชิกส่วนใหญใ่ น ของสมาชกิ ทุกคนใน กลุม่ กลมุ่

แบบประเมนิ ความมงุ่ ม่นั ในการทำงาน 23 ความตง้ั ใจและ ร้จู ักแกป้ ญั หาใน การปรับปรุงและ รวม 9 คะแนน ชอ่ื -สกลุ เอาใจใส่ การทำงาน แก้ไขการทำงาน 332121321 เกณฑก์ ารประเมิน ระดบั คุณภาพ ดี 3 หมายถึง ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรบั ปรุง ปรับปรงุ เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน 9-7 6-4 3-1 ลงชือ่ .................................................................ผู้ประเมนิ (นายเรวตั ร อยู่เกดิ ) ........../…......./….......

24 เกณฑก์ ารประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ดา้ นความม่งุ ม่นั ในการทำงาน โดยใช้เกณฑ์การประเมนิ แบบรูบริคส์ รายการประเมนิ พฤติกรรมบง่ ช้ี 1. ความตง้ั ใจและเอา 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน ใจใส่ตอ่ ภาระงานท่ี ขณะทำงานที่ไดร้ ับ ไดร้ ับมอบหมาย โดยมี มอบหมาย นักเรียนไม่ ขณะทำงานทไ่ี ด้รับ ขณะทำงานท่ีได้รับ พฤติกรรมบง่ ช้ี ดงั น้ี แสดงพฤตกิ รรมบ่งชที้ งั้ - เล่นโทรศพั ทม์ อื ถอื 3 พฤติกรรม หรือแสดง มอบหมาย นักเรียนแสดง มอบหมาย นักเรียน ระหวา่ งทำงาน พฤติกรรมบง่ ช้ี 1 ใน 3 - นำงานในรายวิชา พฤตกิ รรม พฤตกิ รรมบง่ ช้ี 2 ใน 3 แสดงพฤติกรรมบง่ ช้ีทั้ง อน่ื ขึ้นมาทำ - ฟุบหลับ แก้ปญั หาไดด้ ว้ ยตัวเอง พฤติกรรม 3 พฤตกิ รรม 2. ร้จู กั แกป้ ญั หาใน ท้งั หมด การทำงานเมื่อมี แกป้ ญั หาด้วยตัวเอง แกป้ ัญหาดว้ ยตัวเองนอ้ ย อปุ สรรค มีความพยายามทีจ่ ะ 3. การปรับปรงุ และ ปรับปรุงแกไ้ ขการทำงาน มากกวา่ ร้อยละ 80 กว่ารอ้ ยละ 80 ของ แกไ้ ขการทำงานของ ของตนใหม้ ผี ลงานที่ดี ตนให้ดยี ิ่งขึ้น และคณุ ภาพอย่เู สมอ ของงานทงั้ หมด งานทง้ั หมด มีความพยายามท่ีจะ มีความพยายามท่จี ะ ปรบั ปรงุ แก้ไขการทำงาน ปรบั ปรุงแกไ้ ขการทำงาน ของตนให้มีผลงานท่ดี ี ของตนใหม้ ีผลงานท่ดี ี และคุณภาพ และคุณภาพเปน็ บางครง้ั

25 แบบประเมินการสรา้ งผงั กราฟฟิก ช่ือ-สกลุ การจดั เรยี ง การ เนอ้ื หา การ รวม มโนทศั น์ เชื่อมโยง 321 ออกแบบ 12 คะแนน ระหว่าง 321 ข้อมลู 321 321 เกณฑ์การประเมิน ระดับคณุ ภาพ ดี 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถงึ พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรับปรุง ปรับปรุง เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ช่วงคะแนน 9 - 12 5-8 1-4 ลงช่ือ.................................................................ผู้ประเมนิ (นายเรวัตร อยู่เกิด) ........../…......./….......

26 เกณฑป์ ระเมนิ ทกั ษะการสรา้ งผังกราฟกิ โดยใช้เกณฑ์การประเมินแบบรูบรคิ ส์ รายการประเมนิ พฤติกรรมบ่งช้ี 1. การจดั เรยี งมโน ทศั น์ 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน 2. การเช่อื มโยง แสดงมโนทัศน์หลกั ได้ แสดงมโนทัศน์หลักได้ แสดงมโนทัศน์หลักได้ ระหวา่ งขอ้ มูล ชดั เจน แยกมโนทศั น์ยอ่ ย ชัดเจน แยกมโนทศั น์ย่อย ชัดเจน แต่ไม่แยกมโน 3. เนอ้ื หา 4. การออกแบบ ออกมาจากมโนทัศนห์ ลัก ออกมาจากมโนทศั นห์ ลัก ทัศน์ย่อยออกมาจากมโน จัดวางมโนทัศน์ที่อยู่ใน แต่ไมไ่ ดจ้ ัดวางมโนทัศน์ที่ ทัศน์หลัก และไม่ได้จัด ระดับเดียวกันให้อยู่ใน อยใู่ นระดับเดียวกันให้อยู่ วางมโนทัศน์ที่อยู่ใน ระนาบเดียวกัน และ ในระนาบเดียวกัน หรือ ระดับเดียวกันให้อยู่ใน ข้อมูลที่อยู่ในมโนทัศน์ ข้อมูลที่อยู่ในมโนทัศน์ ระนาบเดียวกัน รวมถึง รองเป็นประเด็นย่อยที่ รองไม่ได้เป็นประเด็น ข้อมูลที่อยู่ในมโนทัศน์ แยกออกมาจากมโนทัศน์ ย่อยที่แยกออกมาจาก รองไม่ได้เป็นประเด็น หลกั มโนทัศนห์ ลกั ย่อยที่แยกออกมาจาก มโนทัศน์หลกั มีการลากเส้นเชื่อมแสดง มกี ารลากเส้นเชือ่ มแสดง มีการลากเส้นเชอื่ มแสดง ความสมั พันธ์ไดอ้ ยา่ ง ความสัมพันธ์ได้อย่าง ความสัมพันธ์แต่ไม่ระบุ ถกู ตอ้ งทง้ั หมด มกี ารใช้ ถูกต้อง มีการใช้คำเชื่อม คำเชื่อมเพื่ออธิบาย คำเช่ือมเพื่ออธบิ าย เพื่ออธิบายความสัมพันธ์ ความสัมพันธ์ของแต่ละ ความสัมพนั ธข์ องระหวา่ ง ระหว่างมโนทัศน์แต่ มโนทศั น์ มโนทศั นไ์ ด้ถูกตอ้ ง เลอื กใชค้ ำเช่ือมผดิ แสดงข้อมูลสำคัญ ได้ แสดงข้อมูลสำคัญได้ แสดงข้อมูลสำคัญได้ ครบถ้วน ข้อมูลมีความ ครบถ้วน ข้อมูลมีความ ครบถ้วน แต่ข้อมูลและ ถูกต้อง และเขียนสะกด ถกู ตอ้ ง แตเ่ ขยี นสะกดคำ เขียนสะกดคำไม่ถกู ตอ้ ง คำไดถ้ ูกตอ้ งทงั้ หมด ไม่ถกู ต้อง ผังกราฟิกเป็นระเบียบ ผังกราฟิกเป็นระเบียบ ผังกราฟิกไม่เปน็ ระเบียบ ง่ายต่อการอ่านมีความ ง่ายต่อการอ่าน มีความ ไม่น่าสนใจ แต่ไม่มีการ น่าสนใจ มีการแบ่งพื้นที่ น่าสนใจ แต่ไม่มีการแบ่ง แบ่งพืน้ ท่ีหน้ากระดาษให้ หน้ากระดาษให้แต่ละม พื้นที่หน้ากระดาษให้แต่ แต่ละมโมทัศน์เท่า ๆ กัน โมทัศน์เท่า ๆ กัน และมี ละมโมทัศน์เท่า ๆ กัน และไม่มีการใช้สีสันท่ี การใช้สีสันที่แตกต่างกัน หรือไม่มีการใช้สีสันท่ี แตกต่างกันเพื่อเน้นย้ำ เพื่อเน้นย้ำความสำคัญ แตกตา่ งกันเพือ่ เนน้ ย้ำ ความสำคัญของเนอื้ หา ของ

27 รายการประเมิน พฤติกรรมบ่งช้ี 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน เนื้อหาหรือแสดงลำดับ ความสำคัญของเนื้อหา หรือแสดงลำดับของมโน ข อ ง ม โ น ท ั ศ น ์ ห ลั ก หรือแสดงลำดับของมโน ทัศนห์ ลักมโนทัศน์รอง มโนทัศน์รอง ทัศน์หลักมโนทัศนร์ อง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook