แบบเรียนวิชาเพิม- เติม ๑ ท31210 ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ กลุม่ สาระการเรียนร้วู ิชาภาษาไทย ๘ ระดบั มธั ยมศกึ ษาปีที-๔ หนว่ ยการเรียนรทู้ -ี ๕ เรอ-ื ง รอ้ ยกรองไทยปจั จบุ นั
คาํ นํา สารบญั ๑ หนังสอื อเี ลก็ ทรอนิกส์เลม่ นKจี ัดท ําขนึK เพือ- ประกอบการเรียน บทที,๑ รอ้ ยกรองไทยปจั จุบ นั ๒ วิชาเพิม- เติม เรอื- ง ท่องโลกวรรณกรรม(ท31201) วชิ า บทที,๒ พฒั นาการรอ้ ยกรองไทย ๓ ภาษาไทย หนว่ ยที- ๕ เรื-อง ร้อยกรองไทยปัจจบุ นั มเี นอKื หา บทที,๓ ลักษณะของรอ้ ยกรองไทยปัจจบุ นั ๔ เกี-ยวก บั งานประพันธ์ประเภท รอ้ ยกรองในปจั จุบ ัน ลกั ษณะ บทที,๔ ประเภทของรอ้ ยกรองปจั จุบ นั ๕ ววิ ฒั นาการ ประเภท กลวธิ กี ารแตง่ รวมถงึ แนวการอา่ นและการ บทที,๕ กลวธิ รการแตง่ รอ้ ยกรองไทยในปัจจุบ นั ๖ ประเมินคา่ ร้อยกรอง ตอนท ้ายบทเรียนจะเปน็ สว่ นของกิจกรรม บทที,๖ แนวการอ่านและพิจารณาประเมินคุณค่า กแลับะกใาบรงเรายีนนทรีผ-ู้จูาจ้ กัดกทจิ ไํากดร้จรเดัมนทกาืาํ,อรขเหนึรK ียเาพนวื-อหชิมนางุ่ เหพ้าวิม- ๑ังเตใหมิ ้นนKเีกัปเน็ รียสนําคสนัญกุ ไป รอ้ ยกรเอนงปือ, จั จหุบานั หน ้า๒ ผู จ้ ดั ท าํ บทที,๗ ใบงาน นางสาวเมธาวี วงคก์ ันหา บทที,๘ แบบทดสอบ ๗ ๘
บทที,๑ ร้อยแก้ว ๑ ร้อยกรองไทยปัจจบุ นั ๒ วรรณกรรมอาจแบง่ ตามลกั ษณะของการประพันธ์ ร้อยกรอง ๓ ได้ ๒ แบบ คอื รอ้ ยแก ้วและรอ้ ยกรอง รอ้ ยแก ว้ หมายถงึ ความ เนื,อหา หน า้ ๒ ๔ เรียงท ั -วไปที-มคี วามประณตี ในการใชถ้ ้อยค ําใหส้ ละสลวย แต่ไม่มี ๕ กฎเกณฑ์ข ้อบ ังค บั ในการแตง่ สว่ นรอ้ ยกรอง หมายถงึ ค าํ ๖ ประพันธท์ ีเ- รยี บเรยี งถอ้ ยค าํ อยา่ งเป็นระเบยี บตามบ ัญญ ัติแห่ง ๗ ฉ นั ทลักษณท์ กี- าํ หนดกฎเเนกณื,อฑหไ์ วา้แหนน่นอน้าส๑ําหรบั การแตง่ ค ํา ๘ ประพันธแ์ ตล่ ะประเภท เชน่ ก ําหนดจํานวนค าํ ก าํ หนดตําแหนง่ สง่ รบั สมั ผ ัสของค ํา เปน็ ต้น เร-อื งราวเกีย- วก บั การแต่งค ําประพนั ธ์ไทยอยา่ งรอ้ ย กรองนKันเป็นเร-ืองทีม- ีเนืKอหาลกึ ซึKงกว้างขวาง ในทีน- Kจี ะเป็น การศึกษาวรรณกรรมร้อยกรองปัจจบุ ันเพือ- ให้เข ้าใจความงามและ เหน็ คุณค่า
บทที,๒ ๑ พฒั นาการรอ้ ยกรองไทย รอ้ ยกรองไทยมีพฒั นาการท ัKงดา้ นรปู แบบ ศิลปะ เมื-อถงึ ชว่ งสงครามโลกครKงั ท๒ี- วรรณกรรมรอ้ ยกรอง ๒ การประพนั ธ์ และเนอKื หามาตังK แต่ครัKงกรุงสุโขท ัยเปน็ ราชธานี ซ-ึง ซบเซาไปบ า้ ง ครKันผ่านยุคสงครามไปแล้ว วรรณกรรม ๓ โดยมากจะมีลกั ษณะโครงสร้างของเนือK หาที-เปน็ แบบแผนและมงุ่ ร้อยกรองก็เรม-ิ เจรญิ ขKนึ อกี ครKังหนง-ึ โดยมีแนวเนอKื หา ๔ สร้างอารมณ์สะเทือนใจแก่ผู อ้ า่ น รอ้ ยกรองไทยเร-มิ เข ้าส่ยู คุ ใหม่ ท ัKงที-เป็นแนวพาฝันและแนวเพือ- ชีวิต ๕ เมอ-ื มกี ารเปลย-ี นแปลงโครงสร้างของเนอKื หาจากเดมิ มาเป็นเนKอื หา ๖ ทีม- ุ่งสร้างแนวคิดใหม่ มีการเสนอปญั หาสังคมมากขึนK เนอKื หา ครันK ถงึ ชว่ ง พ.ศ. ๒๕๐๑-๒๕๐๖ ๗ ดังกลา่ วนKเี ริ-มปรากฏขึKนตัKงแต่ครัKงสุนทรภู่แต่งเร-ืองกาพย์พระไชย วรรณกรรมร้อยกรองแนวเพื-อชีวติ ซบเซาลงไป สรุ ิยาและนริ าศสพุ รรณ แตย่ งั ไม่ชดั เจนนกั เนื-องจากเหตุผลทางการเมอื ง ท าํ ให้นกั แต่งบทรอ้ ย เนืKอหาแนวใหม่ของรอ้ ยกรองที-เสนอปญั หาสงั คม กรองแนวเพื-อชวี ิตไม่อาจผลิตผลงานของตนออกมาได้ ปรากฏขึKนครัKงแรกในสเมนยั รือ, ัชกหาลาทห๓ี- นเมื-อ้าพ๓ระมหามนตรี รมอ้ากยขกรKึนอนงแกั นเขวยีแนสบดเทงนอราื้ออ, รยมหกณราอร์ งหักใแนนลระะ้าเพย๔ะอ้ นฝKสี ันว่ จนงึ มปารกาเกปฏ็น (ทรพั ย)์ เขียนเพลงยาวกระทบพระมหาเทพ (ทองปาน) สว่ นร้อย นสิ ติ นกั ศึกษาในมหาวิทยาลยั รอ้ ยกรองที-ไดร้ บั ความ กรองในปลายรัชสมยั พระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกลา้ เจ้าอยู่หวั นยิ มมาก ได้แก่ กลอนสุภาพ และในรัชสมยั ตอ่ ๆ มา มีลักษณะทีไ- มม่ โี ครงสรา้ งทางเนืKอหา แต่ กม็ ปี ระเด็นที-นาํ เสนอแนวคิดเกี-ยวก บั ปญั หา และขนาดของรอ้ ย ในชว่ ง พ.ศ. ๒๕๑๖-๒๕๑๙ เนอืK หาของ กรองสัKนลง เร-มิ เปลยี- นแนวการเขียนจากเดมิ ทเีข- ียนร้อยกรอง เพือ- ร้อยกรองมุ่งไปในทางชีKแนวปัญหาของสงั คม เรียกร้อง “สือ- อารมณ”์ มาเปน็ เขยี นร้อยกรองเพือ- สอื- “ความคิด” แทน ผู ท้ ี- ใหผ้ ไู ้ ด้เปรียบในสงั คมคืนความไดเ้ ปรียบให้ผู ย้ ากไร้ เปน็ ผู ้นําของการเขียนรอ้ ยกรองเพื-อมุง่ เสนอปญั หาของสังคม หรือดอ้ ยโอกาส และเม-อื พน้ ช่วงดงั กลา่ วแลว้ รอ้ ยกรอง ตลอดจนมีการปรบั รปู แบบค ําประพนั ธ์ ไดแ้ ก่ เจ้าพระยาธรรม ไทยก็มเี นืKอหาหลากหลายขนKึ ดงั ปรากฏอยูใ่ นปจั จบุ นั ศักด`มิ นตรี (สนั-น เทพหสั ดนิ ณ อยธุ ยา) ซ-ึงใช้นามปากกว่า “ครูเทพ” ๘
บทที,๓ ตวั อย่างฉันทลักษณร์ อ้ ยกรอง ๑ ลักษณะของรอ้ ยกรองไทยปัจจบุ ัน มีลกั ษณะเดน่ ที-ควรกล่าวถงึ ๔ ประการ ๑. รูปแบบ รอ้ ยกรองไทยปัจจุบ ันมรี ูปแบบแตกต่างไปจาก รอ้ ยกรองไทยในอดตี หลายประการ ที-เห็นได้ชัด ได้แก่ ๒ ๑.๑ ขนาด รอ้ ยกรองไทยปจั จุบ นั มีขนาดสKันลง แมว้ ่ารอ้ ยกรองขนาดยาวจะย งั พอมเี ขียนอยู่บ ้าง แต่ก็นับไดว้ ่ามี น้อยมากหากเทยี บก บั รอ้ ยกรองท ังK หมดในปจั จุบ ัน ๓ ๑.๒ ฉนั ทลกั ษณ์รอ้ ยกรองไทยแต่เดิมจะเนน้ ความถกู ต้องของฉ ันทลกั ษณ์ ตลอดจนความไพเราะสละสลวย ของถอ้ ยค ําที-ใช ้ แตร่ อ้ ยเกนรอื,องไหทายปหจั นจุบา้ นั๕มฉี นั ลักษณต์ า่ งไปจาก ๓) นิยมสรา้ งฉ ันลักษณ์ขึKนใหม่ โดยยดึ ๔ เดมิ ดังนKี หลกั ความเรียบง่ายเชนัดือ,เจนหแาลหะมนกี รา้ ๖อบเพียงเล็กนอ้ ย ๕ ๑) นยิ มใชร้ ูปแบบฉ นั ทลกั ษณ์ทีก- วีโบราณบ ัญญ ตั ิ เพราะต้องการสอ-ื ความคิดมากกวา่ ความไพเราะ ๖ ไวน้ ้อยกวา่ รอ้ ยกรองในอดตี กลา่ วคอื นยิ มแต่งเป็นกลอนแปด ๗ มากทีส- ดุ เพราะแต่งง่ายกวา่ ฉ นั ทลกั ษณอ์ นื- ๆ รองลงมาแต่งเป็น ๔) นยิ มแตง่ กลอนเปล่าก นั มากขึKน ๘ กาพยย์ านีและโคลงสี-สุภาพ สว่ นฉ นั ทลักษณท์ ีน- ยิ มแต่งก นั นอ้ ย เพราะผู ้แต่งสามารถแสดงความคดิ เหน็ ไดส้ ะดวกและ ที-สดุ คือ ฉ นั ท์ ท ัKงนเKี ป็นเพราะแตง่ ยาก และถา้ จะแต่งให้ไพเราะก็ แสดงอารมณไ์ ด้ลกึ ซงึK เนอ-ื งจากกลอนเปลา่ ไมม่ ี ยิง- เพิม- ความยากขึKนไปอกี ข อ้ บ งั ค ับใดๆ ท ังK สนิK ไม่วา่ จะเปน็ จาํ นวนค าํ ในแต่ละ ๒) ไมเ่ ครง่ ครัดในฉ ันทลักษณต์ ามแบบแผนนกั วรรค แตล่ ะบาท หรือแต่ละบท การสง่ สมั ผ ัส ถงึ กลา่ วคอื จํานวนค าํ ในแตล่ ะวรรคอาจน้อยกวา่ หรือมากกวา่ ที- กระนKนั กต็ าม กลอนเปล่ากไ็ ม่ใชค่ วามเรยี งติดต่อก ันไป ก ําหนดไว้ การสง่ สมั ผ ัสอาจคลาดเคล-อื นไปจากทีเ- คยนิยม หรือ อยา่ งร้อยแก ว้ เพราะผู ้อา่ นสามารถแบ่งข อ้ ความ การลงสมั ผ สั ด้วยค าํ ชุดเดยี วก ัน ออกเปน็ ช่วงเป็นวรรคใหไ้ ดจ้ งั หวะได้ แตจ่ ะสันK หรอื จะ ยาวอย่างไรนKนั ตอ้ งแลว้ แตเ่ นือK ความในแตล่ ะบทไป เชน่
เดก็ ๑ แม่จา๋ ... คนนKนั ๒ หนหู นาวเหลอื เกิน มองสายฝน ๓ ท ําไมเราไม่มเี สือK ก ันหนาวเหมือนคนอน-ื ภายนอกหนา้ ตา่ ง ๔ หยาดนKาํ ฝนจากฟา้ ๕ แม่จ๋า ... หลัง- มาเปน็ สาย ๖ หนหู วิ เหลือเกนิ ดู ซิ จ๊ะ ๗ ท าํ ไมเราไมม่ ีข า้ วกินเหมอื นคนอน-ื เขา นKาํ ฝน ๘ ............................. ใส สาว กเ็ รามันจนนี-ลกู ... คนนKนั แมต่ อบ... มองเนสKอื ายหฝานหนา้ ๖ นาKํ ตาแมห่ ลั-งไหล ... อาบแก ม้ ภายในหัวใจ ........................... เนือK หาหน้า๕ หยาดนาKํ ฝนจากใจ หลัง- มาเปน็ สาย แม่จ๋า... ดู ซิ จะ๊ แมอ่ ยา่ ร้องไห้ นKาํ ฝน หนไู มห่ นาว หนไู มห่ วิ แลว้ ขุ่น (หยาดฝน : ผกาดิน) หน ี ๕) นิยมเขยี นบทร้อยกรองแบบรปู ธรรม(Concrete ไล่ ไล่ ไล่ ไล่ ไล่ ไล่ ไล่ ไล่ ไล่ ไล่ ไล่ ไล่ ไล่ ไล่ ไล่ poetry) หรือวรรณรปู มากขKนึ เพราะผู ้แต่งยคุ ปจั จบุ ันไมไ่ ด้ ตามเวลาไม่ท ัน ต้องการสอ-ื ความคดิ ไวใ้ นบทร้อยกรองแต่เพยี งอยา่ งเดยี วเท่านนัK หนี หนี หนี หนี หนี หนี หนี หนี หนี หนี หนี หนี หนี หากแตต่ อ้ งการใชบ้ ทรอ้ ยกรองนKันเป็นเครอ-ื งมอื ในการ“สอ-ื หนี หนีความตายไมพ่ ้น (จา่ ง แซต่ ังK ) ภาพ” ให้แกผ่ ู ้อา่ นด้วย เชน่ หยาดฝน
๒. แนวคดิ รอ้ ยกรองไทยแบบดงัK เดิมนัKนจะเป็นแนวคิดแบบ ออกได้เป็น ๒ แนว คือ แนวพาฝันและแนวเพื-อชีวิต ๑ อดุ มคตินยิ มและจินตนิยมเป็นสว่ นใหญ่ ส่วนแนวคิดที-ปรากฏใน ๓.๑ บทรอ้ ยกรองแนวพาฝนั คือ บทรอ้ ยกรองทีผ- ู ้ ๒ ร้อยกรองไทยปจั จุบ นั ส่วนหน-งึ จะเปน็ แนวคิดแบบอดุ มคตนิ ิยม ๓ และจินตนยิ มเหมอื นแนวคิดของรอ้ ยกรองไทยเดมิ โดยแนวคดิ แตง่ ม่งุ แสดงความรูส้ กึ สว่ นตัวออกมาให้ผู ้อ่านได้รับรู้ ๔ เชิงอดุ มคติทีป- รากฏในบทรอ้ ยกรองประเภทเรื-องสมมตุ ิจะ แบ่งย่อยออกไดเ้ ป็น ๕ สะท ้อนให้เหน็ เรอ-ื งความเป็นเลศิ ของตัวละครเอกท ังK ในด้านความ งามและความประพฤติ หรือเสนอความนึกคดิ ของผู ้แต่งที-ผู ้แต่ง ๑) เนอืK หาสะท อ้ นอารมณส์ ่วนตัวของผู ้ มงุ่ หวัง(คอื เป็นสงิ- ทีด- ที ีส- ุด งามทีส- ดุ สมบรู ณท์ ี-ส)ุดสว่ นแนวคดิ แต่ง (รัก โลภ โกรธ หลง แต่มกั จะเปน็ อารมณ์รกั ท ัKงสขุ แบบจินตนิยมเปน็ แนวคิดทีม- ุ่งแสดง “จิตสาํ นกึ ของผู ้แตง่ ” ที-มตี ่อ และเศรา้ ) เนอKื หาลักษณะจะมมี ากและทุกสมยั เพราะ สง-ิ ตา่ งๆ หรอื เน้นอารมณ์ ความรู้สกึ ประเทืองอารมณ์มากกวา่ เป็นประสบการณใ์ นชว่ งชีวิตของคนทกุ คน ประทอื งปัญญา ขณะเดยี วก ัน ร้อยกรองไทยปจั จุบ นั อกี ส่วนหนง-ึ ก็เรมิ- มีแนวคิดที-แปลกไปจากเนใอืKนหอาดหตี นเ้าพ๕ราะ ๒) เนอืK หาสะท อ้ นจินตนาการของผู ้แต่ง ผู ้แต่งรบั อิทธพิ ลแนวความคิดจากวรรณกรรมตะวนั ตกมาใช้ก บั หมายถงึ การสะท ้อนความนกึ ฝันอันบรสิ ุทธ`ขิ อง ร้อยกรองไทยปัจจุบ นั มากขKนึ เชน่ ผู ้แตง่ ทีม- ีต่อธรรมชาติและสง-ิ ตา่ งๆ รอบตัว - แนวคดิ แบบสัจนยิ ม (มุ่งสะท อ้ นความเป็นจรงิ ๓) เนKือหเนาKือสหะาทห้อนนา้ เ๖ร-ืองราวตา่ งๆ เนื-อง ในชีวิตของสังคมมนษุ ยท์ ังK ในด้านดแี ละรา้ )ย ในโอกาสวันสาํ ค ญั ของชาตแิ ละศาสนา เช่น บทสดดุ ี - แนวคิดแบบธรรมชาตนิ ิยม (กล่าวถึงชีวติ มนษุ ย์ ๖ ทางด้านเลวรา้ ยวา่ มีสาเหตมุ าจากพันธุกรรมหรือจากภาวะ สง-ิ แวดลอ้ ม) ๗ ๘ - แนวคิดแบบสงั คมนยิ ม(มุง่ สะท ้อนปญั หาของ ส่วนรวมมากกวา่ เรอ-ื งราวสว่ นบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ-งปัญหา การตอ่ สูข้ องชนชันK กรรมาชีพ) เปน็ ต้น ๓. เนือR หา เนอKื หาของร้อยกรองไทยปจั จบุ นั แบ่งอย่ากงว้างๆ
๓.๒ บทร้อยกรองแนวเพอ,ื ชีวติ คอื บทร้อยกรองที-ผู ้แตง่ ๕) เนอืK หาแสดงการค ดั ค า้ นคา่ นยิ มเก่า ๑ มุ่งสะท อ้ นเรื-องราวของสงั คมมากกว่าเรื-องราวสว่ นบุคคล เพราะ เช่น การเสนอว่า “การศึกษา” มไิ ด้มเี ฉพาะใน ๒ ต้องการให้เนอKื หาของบทร้อยกรองเปน็ ประโยชนต์ อ่ คนส่วน สถานศึกษาเท่านัKน ฉะนัKน“ใบปริญญา” จึงไมใ่ ช่ ๓ ใหญใ่ นสังคมเป็นสําค ัญ ร้อยกรองแนวเพือ- ชวี ิตจงึ มีเนืKอหา เครอ-ื งหมายแสดงคุณค่าของคนเพียงอย่างเดียว หลากหลาย เช่น ตัวอยา่ งเพลง ยาใจคนจน ของไมค์ พริ มยพ์ ร ๑) เนKือหากลา่ วถงึ ปญั หาของชาวนา ชาวไร่ กรรมกร คนจน และผู ใ้ ช้แรงงาน พร้อมท ัKงมุ่งชแKี นะแนว เนือK หาหน้า๖ ๔ ทางแก ไ้ ขปญั หาไว้ด้วย ตัวอยา่ งเพลง ปริญญาใจ ของศริ ิพร อาํ ไพพงษ์ ๕ ๖ ๒) เนอKื หากลา่ วถึงคณุ คา่ และพลังของประชาชน ในการต่อสู้เพือ- ใหไ้ ด้มาซึ-งความเป็นธรรมในสังคม โดยมี ๗ เป้าหมายสําค ัญอยูท่ ี-ประชาธปิ ไตย และพรอ้ มก ันนKกี ็จะแสดง ๘ สํานึกในการอยู่เคยี งข ้างปรเะนชอKื าหชานหดนว้ ้าย๕ ๓) เนอKื หาสะท อ้ นสภาพทางสงั คมและการเมอื ง เช่น การรับอิทธพิ ลทางวฒั นธรรมจากตะวันตก จนมีผลให้ เยาวชนไทยมคี ่านยิ มเกีย- วก ับการประพฤตผิ ดิ แผกไปจากคา่ นิยม เดิม ๔) เนืKอหากลา่ วถงึ สถานภาพใหม่และบทบาทของ สตรที ี-มตี อ่ สังคม โดยในระยะแรกรอ้ ยกรองปัจจุบ นั จะเริ-ม กระตุ ้นใหส้ ตรไี ดฉ้ กุ ใจคิดถึงสทิ ธิและหน้าที-ของตนที-มีตอ่ สงั คม ขณะเดียวก ันกเ็ ริม- ชแีK นะให้บุรษุ มองเหน็ คุณคา่ ทีแ- ท จ้ รงิ ของสตรี ว่าสามารถท ําประโยชนใ์ ห้แกส่ ังคมได้เช่นเดียวก นั ต่อจากนนัK สตรกี ็จะขานรบั ค ําปลุกเร้าด้วยการสะท อ้ นจิตสํานกึ ของสตรีไว้ ในฐานะทีเ- ปน็ หนว่ ยหนงี- ของสงั คม
บทที,๔ ๑.๒.๓ ร้อยกรองประเภทวรรณรปู ได้แก่ ๑ ประเภทของรอ้ ยกรองปจั จบุ ัน รอ้ ยกรองที-มปี ระสานศลิ ปะการวาดภาพเข ้าก ับศลิ ปะ ๒ การประพันธ์ วรรณรปู เกดิ จากค ําวา่ “วรรณ” ซ -งึ ๓ การแบง่ ประเภทบทร้อยกรองปัจจบุ ันสามารถท าํ แปลว่า ค ํา และค าํ ว่า“รูป” ซงึ- แปลว่า สิ-งที-รับรู้ ๔ ไดห้ ลายแบบขKึนอยู่ก ับเกณฑ์ โดยท ั -วไปนิยมแบง่ ประเภทรอ้ ย ด้วยสายตาจากการมองดู สรปุ แลว้ “วรรณรูป” ๕ กรองโดยใชเ้ กณฑต์ ่างๆ ดงั นKี หมายถึง ค าํ ที-ท าํ ใหเ้ กดิ รปู หรือรปู ที-เกดิ จากค าํ หรอื การนําค าํ มาสรา้ งให้เกดิ เป็นรปู ภาพซ-ึงต้องอาศยั ๑. เกณฑ์ลลี าการแตง่ บทร้อยกรอง แบง่ ออกได้ ความคดิ สรา้ งสรรคท์ างภาษาไทยผนวกก ับ เปน็ สองแนวใหญๆ่ คอื แนวฉ นั ทลกั ษณ์เดมิ ก ับ ความสามารถทางศิลปะเพื-อใหผ้ ลงานที-ออกมาสะดดุ แนวเสรี ตา อ่านแลว้ รู้สึกประท ับใจมีคุณคา่ น่าตดิ ตาม เช่น งานของ จ่าง แซต่ ัKง หนา้ ๘ ๑.๑ แนวฉันทลกั ษณเ์ ดมิ คือ บทร้อยกรองทีผ- ู ้ แตง่ ยึดรปู แบบและลักษณะบ ังค บั ของบทร้อยกรองประเภทตา่ งๆ ๖ อย่างเคร่งครดั และนิยมแต่งเป็นเร-ืองเลา่ ขนาดยาว ๗ ๑.๒ แนวเสรี คหอื นบา้ ๗ทร้อยกรองที-ผู ้แตง่ นยิ ม ๘ แหวกออกไปจากแนววงลอ้ มของฉ ันทลักษณ์เดมิ หรอื อาจมีแนว ของฉ ันทลกั ษณเ์ ดิมอยูบ่ ้าง แตด่ ดั แปลงให้มีรูปแบบทีน- า่ สนใจ เพื-อให้บทร้อยกรองนันK ๆ สามารถเป็นเครอื- งมือในการถ่ายทอด ความรู้สึกนกึ คดิ ของผู แ้ ตง่ ไดอ้ ยา่ เงสรี ๑.๒.๑ รอ้ ยกรองประเภทประยกุ ต์ฉ ันทลกั ษณ์ ไดแ้ ก่ บทรอ้ ย กรองทีไ- ม่มีแบบแผนทาง ฉ ันทลกั ษณ์ที-แนน่ อน โดยผู ้แต่งอาจคิดเปล-ียนแปลงจํานวนค ําใน แต่ละวรรค จํานวนวรรค แบบแผนสัมผ สั หรอื นําเพลงพืนK บ ้านมา ประยุกตใ์ ช้ เปน็ ต้น ๑.๒.๒ ร้อยกรองประเภทกลอนเปล่า ได้แก่ รอ้ ยกรองที- ผสมผสานระหวา่ ลกั ษณะของร้อยแก ว้ เข า้ ก บั ร้อกยรอง
๒. เกณฑ์เนือR หา แบ่งออกไดส้ องแนวใหญ่ๆ คือ แนวพาฝนั ก บั ๒.๒ แนวพาฝัน คือ บทรอ้ ยกรองที- ๑ แนวเพือ- ชวี ิต มีเนอKื หาเรื-องเกีย- วก บั ความรูส้ ึกส่วนตัวของผู แ้ ต่ง อาจ ๒ เปน็ ความรกั ความงามของธรรมชาติ หรอื บทสดุดีก็ ๒.๑ แนวเพ,ือชีวิต คือ บทร้อยกรองทีม- ีเนอKื หา ได้ เป็นประโยชนต์ อ่ คนสว่ นใหญใ่ นสงั คม ไมใ่ ช่ประโยชนส์ ว่ นตวั บคุ คล มักจะท ําหน้าที-สะท อ้ นภาพของสังคม หรอื ชกั ชวนผู อ้ ่าน ๓ ให้เข า้ มามสี ว่ นร่วมในการเปลีย- นแปลงสงั คมให้ดีขKนึ กว่าเดมิ หน้า๘ ๔ หนา้ ๗ บทกวเี พลงชาติ โดย รศ. นภาลยั สวุ รรณธาดา ๕ ๖ ๗ ๘
บทที-๕ ๑ กลวิธกี ารแต่งของร้อยกรองไทยปัจจุบนั สว่ นการแตง่ รอ้ ยกรองแนวเพื-อชีวิต มกั นิยมใชค้ าํ งา่ ย ๒ ผู ้แต่งรอ้ ยกรองปจั จุบ ันมวี ิธีการท าํ ให้บทรอ้ ย สนัK มคี วามหมายกระชบั โดยไม่ค ํานึงถึงความไพเราะ ๓ กรองของตนมคี ุณค่าน่าอ่าน นา่ สนใจ หลายวธิ ดี ังนKี อย่างแนวพาฝนั จะไม่มกี ารประดษิ ฐ์แต่งถอ้ ยค าํ ให้ ๔ ไพเราะพเิ ศษ แตม่ ักใช้ถอ้ ยค ําในชวี ิตประจําวนั ๕ ๑. การใช้คํา ในการแต่งรอ้ ยกรองแนวพาฝัน ผู แ้ ต่ง เพื-อใหผ้ ู อ้ า่ นเข า้ ใจได้ง่าย สือ- ความหมายได้ตรงเป้า ๖ จะนิยมเลอื กใชค้ าํ ทีม- เี สียงเสนาะ มคี วามหมายลกึ ซงKึ สะเทอื น ไรนุม่ตแร้องงหแปยาลบอคกี าทยอหดรหอื นค-งึ ําหบสนาแง้าล๑คง๐รกKงั ม็ อีาเพจจื-อะใใหช้เ้ถห้อน็ ยอคาํารทมณี- ์ ๗ อารมณ์หรอื สูงส่ง มีสง่าดว้ ยรูปและเสยี งเปน็ พเิ ศษ เช่น เสยี ง และความคิดที-รนุ แรงของผู แ้ ตง่ เช่น สัมผ สั คลอ้ งจอง มลี ีลาจงั หวะ เพราะม่งุ ให้ถอ้ ยค าํ สํานวนในบท มึงใหก้ ูฟุง้ เฟ้อเห่อเหิม ฉ ้อฉลเพิม- เตมิ ความสาไถย ร้อยกรองเปน็ เคร-อื งมอื ในการแสดงออกซ-งึ ความนกึ คิดและ เดีmยวนกKี ูเหยKี แล้วเปน็ ไง มึงโทษกจู ัญไรในท นั ที อารมณข์ องผู แ้ ต่ง ตลอดจนความไพเราะของถอ้ ยค ําภาษาที-ใช้ หรอื มักเลอื กใชค้ ําที-แสดงอากาหรนแ้าส๙ดงภาพ ค ําเลียนเสยี ง (ก็มันสอนกูอยา่ งนKี: สจุ ิตต์ วงษเ์ ทศ) ธรรมชาติ และค าํ ทีม- ีอาํ นาจในการเรา้ อารมณผ์ ู อ้ า่ นใหเ้ กดิ ความรูส้ กึ สะเทอื นอารมณ์ เชน่ กุ ง้ ฝอยชกั ฝงู กรดี ฟองฟอ่ งฝอย ดีดตัวขนึK หยอ็ ย สดุ แรงร่วงผลอ็ ย เคล-อื นฝงู ฟ่องฟ้อนย อ้ นนาKํ พรา่ งพรายประกายทอง เรืองรองเป็นวงรุ้ง ฟฟู ่องละอองฟุ้ง ไหนฝอยนKาํ ไหนฝอยกุ ง้ เคลอ-ื นฝูงคล้อยคุ ง้ ครึกครKืน (มือนันK สีขาว : ศักด`สิ ริ ิ มีสมสืบ) ๘
๒. การใช้โวหาร ผู ้แตง่ รอ้ ยกรองปจั จบุ ันนิยมใช้โวหารต่างๆ ๓) อตพิ จน์ คือ การกลา่ วเกนิ จรงิ เพือ- ผลในการ ๑ หลายชนดิ เข า้ ด้วยก ัน เพราะมีจดุ มุ่งหมายสาํ ค ญั คือต้องการจะให้ โน้มนา้ วใหเ้ กดิ ความรู้สึกและจินตนาการเชน่ ๒ โวหารนันK ๆ เปน็ ส-ือในการถ่ายทอดอารมณ์ ความรูส้ กึ ความคดิ ๓ ความฝนั หรอื ความรู้ของผู ้แต่งไปย ังผู อ้ า่ น หรอื เป็นเครือ- งชว่ ย เสยี งฟา้ กรีดหวีดไหวตอนใกลค้ ํา- ๔ ขยายเนอKื ความให้ชัดเจนยิง- ขนึK หรอื ชว่ ยท ําใหผ้ ู ้อ่านเกดิ มโนภาพ เสยี งคนร-ําร้องไหแ้ ขง่ สายฝน ๕ คล้อยตาม การใช้โวหารนKมี กั มุ่งเอาความรู้สกึ ด้านอารมณเ์ ป็น นาKํ ตาฟา้ ท่วมโลกเพราะโศกดล ๖ สาํ ค ญั กว่าข อ้ เท็จจรงิ นาKํ ตาคนท่วมฟ้าเพราะอาลัย ๗ ๒.๑ ภาพพจน์ (Figure of Speech) ๔) บุคคลวัต คอื การนาํ เอาคุณลักษณะของมนษุ ย์ ๘ ได้แก่ วิธีการใชถ้ อ้ ยค าํ เพือ- ใหเ้ กิดเป็นภาพขึKนมา เช่น ไปใหแ้ ก่สิ-งทีม- ิใช่มนษุ ย์ เพื-อใหส้ ิ-งนนัK รู้สึกนึกคดิ หรือ ๑) อปุ มา คือ การเปรียบเทยี บสงิ- หนง-ึ ว่าเหมือนก บั อกี สิง- หนง-ึ มีพฤตกิ รรมอย่างมนษุ ย์ เชน่ มกั มีค ําวา่ เหมือน คลา้ ย ราวก บั ดจุ กล เพKยี ง ประหน-งึ ดงั ฯลฯ พระเเสสยีKอื งเมรอ้ืองงเไมหลิ ร้ มหํ-าอนหงา้าแ๑เหล๐มว้ อืรน้องฟไ้ารหอ้ ้ ง เปน็ ค าํ เชื-อมเชน่ หนา้ ๙ พระธรณตี อี กด้วยตกใจ โลกบาลถอนฤท ัยไมอ่ าจมอง เพียงมีนางข ้างเรยี งอยูเ่ คียงชดิ กระท่อมพิศเพยี งปราสาทผงาดเผลอ (อยธุ ยาวสาน : จินตนา ป-นิ เฉลยี ว) แรงเทียนรบิ ระยบิ หร-ีย งั ปรดี เ`ปิ รอ ๕) สัญลักษณ์ หมายถงึ ประกายเพอ้ เพยี งดาวสกาวดวง (ม-ิงมิตรยามยาก : อชุ เชน)ี การใช้สงิ- หน-งึ แทนอีกสงิ- หน-งึ ซ-ึงอาจใชส้ ิง- ทีเ- ป็น รปู ธรรมแทนสง-ิ ทีเ- ปน็ นามธรรม หรอื สิ-งที-เป็น ๒) อุปลักษณ์ คอื การเปรยี บเทียบสงิ- หนง-ึ เปน็ อกี ส-งิ หนง-ึ มกั รปู ธรรมเชน่ เดยี วก นั เช่น นกพิราบ หมายถงึ ใชค้ าํ ว่า เปน็ คือ ในการเปรยี บเช่น สันติภาพ ดอกไม้ หมายถึง ผู ้หญิงหรือความปรารถนา สอยดอกสนดน้ รอ้ ยเปน็ สร้อยป่า แซมผกากาพยก์ ลอนซ อ้ นไสว ดี หงส์ หมายถงึ คนสงู ศักด`ิ คือก ํานลั กลัน- ฝากจากดวงใจ เส้นทางไกลไม่อาจก ัKนสมั พ นั ธ์เรา (ใบไมท้ ี-หายไป: จิระนันท์ พติ รปรีชา)
๖) การกลา่ วถึงความข ัดก นั เข า้ คู่ก นั คือ การกลา่ วถึงข ้อความ ๗) สทั พจน์ คอื การเลียนเสยี งธรรมชาติ เช่น ๑ ที-มีความหมายข ดั ก นั เพือ- ให้เป็นเครื-องดงึ ความสนใจของผู อ้ า่ น แกรบเกรยี บเมื-อเหยียบใบไมก้ รอบ ๒ เพราะความตรงข า้ มดงั กลา่ วนKี อาจจะดเู หมอื นว่าไมน่ ่าเปน็ ไปได้ ๓ แตก่ เ็ ปน็ ไปแล้ว ท ํานอง“นKาํ รอ้ นปลาเปน็ นาKํ เยน็ ปลาตาย” เชน่ แล้งไล้รมุ รอบทุกกรอบกรา้ น กระจ่างฟา้ กวา้ งกวา้ งก็ว่างงาน กาลเวลาฆ่า จิตร ภมู ิศกั ด`ิ แรงรอ้ นตะวนั ฉานอยู่ฉาดโชน กาลเวลากต็ ระหนกั ประจกั ษค์ ่า กาลเวลาฆา่ คนดีทกุ ที-มา (แลง้ ที-รว่ งราย: แรค ํา ประโดยค ํา) แตเ่ วลาก็ทูนเทดิ เชดิ คนดี ๔ (หใบนไา้ ม๙ป้ า่ : เนาวรตั น์ พงษไ์ พบูลย)์ หน้า๑๐ ๕ ๖ ๗ ๘
๒.๒ จนิ ตภาพ (Image) คือ ภาพทีเ- หน็ ด้วยใจ หกโมงแลว้ แก ว้ โต ตืน- , ตื-นเดีmยวน..ิ . ๑ คิด ดว้ ยความรู้สกึ ประสบการณด์ งั กล่าวนไKี มจ่ ําก ัดเฉพาะการเหน็ ดซู ิ บิดขเKี กียจ เหมือนลกู หมา ๒ เท่านนKั ประสบการณ์ทางประสาทสมั ผ สั อนื- เช่น การไดย้ นิ การ พ่อก็เหมือนก นั แหม...นอนเปน็ พระยา ๓ ลKมิ รส การไดก้ ลิน- ถือเป็น ตื-นเถอะคา่ ...บอกให้ตื-น เฮอ้ ! พูดยากจัง ๔ จินตภาพได้ท ัKงสิKนในวงการรอ้ ยกรองถือว่าวิธีสรา้ งภาพในจิตมี ๕ คุณค่าตอ่ ความรู้สกึ และความเข ้าใจของผู อ้ า่ นอย่างยิง- ฯลฯ ๖ ดนู าฬกิ าอกี ทซี ..ิ .เจ็ดโมง ๗ สาหร่ายชูดอกกะจิรดิ แมลงนอ้ ยนดิ ไรเ้ ดียงสา หนโู ต้งมิรูต้ ื-น ฮ!ึ ย ังนอนเขลง เกาะดอกหญ ้าบนค นั นา แมลงมุมตัKงท่าตะครบุ กิน เดถู๊มอไิ ะดใร้ สดี ย่ทบั ัKงโเสทอKืงเททัKงงกชา่างงเกหหงวันมา้ ๑นั ๐ หน(้าท๙ุง่ ข ้าว: องั คาร ก ลั ยาณพงศ)์ ฯลฯ ๓. การใช้เครอ,ื งหมายไวยากรณเ์ ปน็ สญั ลักษณ์สอ,ื งานทกุ อย่างกองสุมบนอกแม่ อารมณ์และนํ าR เสยี งของผแู้ ต่งเชน่ ใช้เครื-องหมายจุลภาค( , ) แล้วจะมิใหแ้ กย่ งั ไงไหว...(โอด) แบ่งข ้อความ ใชเ้ ครื-องหมายปรัศนีย(์ ? ) แสดงค ําถาม อะไรอีกละ่ พอ่ ...ขอยืมใบแดงอกี ใบ.๊..? เครอื- งหมาย ( ! ) แสดงความรู้สกึ ตกใจหรอื ประหลาดใจ หรอื ใช้ โอ๊ยย...น-สี ักเมือ- ไหรจ่ ะสบาย...(ครวญ) เส้นประจุด (...) เพือ- ทิงK ท า้ ยใหผ้ ู อ้ า่ นคดิ ตอ่ หรอื เนน้ ค าํ ให้เด่นขนKึ ตวั อยา่ งเชน่ (“วันหนกั ” ใน ปKนั มาก ับมือ : เตอื นใจ บ ัวคล)-ี ๘
บทที,๖ ๕. การวิเคราะหเ์ ร,อื ง คือ วิเคราะห์สาระของบทรอ้ ย ๑ แนวการอ่านและพจิ ารณาประเมินคา่ รอ้ ยกรองปัจจุบัน กรองหรอื ส-ิงทีผ- ู ้แตง่ ต้องการเสนอสู่ผู ้อา่ น อาจเปน็ ๒ ๑. ผู้แต่ง คอื การพิจารณาว่าชีวติ ผู ้แต่งมีอทิ ธพิ ลตอ่ บทร้อยกรอง ข อ้ เทจ็ จริง ความรู้ ความคดิ (ทรรศนะกว)ี หรือ ๓ นนัK ๆ อยา่ งไร และบทร้อยกรองนนKั ๆ สะท ้อนให้เห็นชวี ติ ของผู ้ ความรู้สึกกไ็ ด้ แล้วพจิ ารณาต่อไปวา่ สาระนKันๆ ๔ แต่งมากน้อยเพียงใด เพราะผู แ้ ตง่ ย่อมสอดแทรกความรู้ ความนึก แปลก ใหม่ นา่ สนใจหรอื ไม่ สรา้ งสรรค์จรรโลงใจ ๕ คดิ ประสบการณต์ ลอดจนเร-ืองราวในชวี ิตส่วนตวั ลงไปใน หรือช่วยยกระดับจติ ใจผู อ้ า่ นใหส้ ูงขึนK ไดห้ รือไม่ และ ๖ ผลงานเสมอ มีประโยชนต์ ่อใครบ ้าง เพราะเหตุใด ๒. ช่วงเวลาที,แตง่ เป็นส-ิงทีค- วรค าํ นึงเพราะแต่ละ ๖. วเิ คราะห์กลวิธกี ารแตง่ คอื ช่วงเวลายอ่ มมีความนยิ มและธรรมเนียมในการแต่งบทร้อยกรอง การพิจารณาเรื-องกลวิธีตา่ งๆ ทีผ- ู แ้ ตง่ นาํ มาใชใ้ นการ ที-แตกตา่ งก นั แแตละ่งคบวทารมอ้ หยรกอื รกอวงโี ไวดหแ้ ากรต่ หค่านวงาๆา้ ม๑ไ๒ตพลเอรดาะจทนวังK ิธจาีกการการใชค้ าํ ตอ้ งการใหผ้ ู ้อ่า๓น.ไจดุดอ้ มะุ่งไหรจมาากยขใหนอ้ นกเขา้า๑ยีร๑นแต่งหคากวรผพู อ้ จิ่านารจณบั าจวดุ า่ มผุ่งู ้แหตม่งาย นําเสนอ (เชน่ เสนออย่างตรงไปตรงมา ตคี วามจาก ไดจ้ ะช่วยให้เข า้ ใจเนอKื หาของบทรอ้ ยกรองไดร้ วดเรว็ ขKนึ เพราะ สัญลักษณ์ แสดงใหเ้ ห็นภาพ เป็นต้น) จดุ มุง่ หมายเปรยี บเสมอื นเข็มทิศทีช- ว่ ยชKที ศิ ทางของบทรอ้ ยกรอง ใหแ้ กผ่ ู ้อา่ น ๗. วเิ คราะหค์ ุณค่าของบท รอ้ ยกรอง เชน่ คณุ ค่าทางภาษา คณุ คา่ ทางสังคม ๔. รปู แบบของการประพนั ธ์ พิจารณาทีค- วาม คุณคา่ ดา้ นการใช้ชวี ิต เป็นตน้ ถกู ต้องของฉ ันทลกั ษณข์ องค ําประพันธใ์ นกรณีทีบ- ทร้อยกรองใช้ ค าํ ประพนั ธแ์ บบดัKงเดิม แต่ถ้าเปน็ แบบประยุกต์ฉ ันทลักษณใ์ หม่ ๗ กลอนเปลา่ วรรณรปู ใหผ้ ู ้อา่ นพิจารณาว่าใชร้ ปู แบบการประพันธ์ ใด ตอ้ งการสอ-ื ภาพอะไร แล้วเลือกใช้ไดเ้ หมาะสมก ับเนKือความ หรือไม่ อย่างไร
ใบงานที,๑ เพลงชาติ ๑ ใบงาน “พนิ จิ รอ้ ยกรอง” ธงชาตไิ ทยไกวกวัดสะบดั พลิKว ๒ คาํ ชแีR จง จงอา่ นบทร้อยกรองทีก- ําหนดให้แล้วเลือกค าํ ตอบที- ๓ ถกู ต้องทีส- ดุ แลรวKิ รวKิ สลบั งามเปน็ สามสี ๔ ตอนที- ๑ ผา้ ผนื นอ้ ยบางเบาเพียงเทา่ นีK ๕ ตวั อย่างวีดโิ อ บทกวีเพลงชาติ โดย รศ.นภาลัย สุวรรณธาดา แตเ่ ป็นทีร- วมชวี ติ และจติ ใจ ๖ ชนรุ่นเยาวย์ ืนเรียบระเบยี บแถว ๗ ดวงตาแนว่ นิง- ตรงธงไสว ๘ “ประเทศไทยรวมเลือดเนือK ชาติเชื อK ไท”ย ฟังคราวใดเลอื ดซา่ นพลา่ นทัKงทรวง ผนื แผน่ ดินถิ-นนีKทีพ- าํ นัก เราแสนรกั และแสนจะแหนหวง แผ่นดินไทยไทยต้องครองทKังปวง ชีพไม่ลว่ งอย่าล ํKามายํา- ยี เธอรอ้ งเพลงชาติไทยมนั- ใจเหลือ พลชี ีพเพื-อชาติที-รกั ทรศงกั ด`ศิ รี เพลงกระหม-ึ ก อ้ งฟา้ ก อ้ งธาตรี แม้ไพรไี ดฟ้ งั ยงั ถอนใจ แตส่ ิง- หน-ึงซึ-งไทยใจร้าวเหลอื ค ือเลือดเนืKอเป็นหนอนคอยบ่อนไส้ บา้ งหาก ินบนน ํKาตาประชาไทย บ้างฝักใฝ่ลัทธชิ ั ว- นา่ กลัวเกรง ทุกวนั นีศK กึ ไกลยังไมห่ ว่ ง แตห่ ว-นั ทรวงศกึ ใกล้ไลข่ ่มเหง ถา้ คนไทยหันมาฆ่าก นั เอง จะรอ้ งเพลงชาตไิ ทยให้ใครฟงั (นภาลัย สุวรรณธาดา, ๒๕๑๐)
๑. สง-ิ ใดท าํ ใหข้ ้อความนมKี ีลักษณะเปน็ ร้อยกรองเด่นชัดทีส- ดุ ตอนที- ๒ ๑ ก. การใชจ้ ํานวนค าํ เท่าก ันทวุกรรค ข. การใชส้ มั ผ ัสคล้องจอง เสยี งปนื ทีด- งั ลั-น ตัวแม่นัKนตอ้ งสนKิ ใจ ๒ ค. การใชค้ าํ ไพเราะสละสลวย ง. การใช้ค าํ และข ้อความที- ๓ ลูกนอ้ ยทีก- อดไว้ กระดอนไปเพราะแรงปนื ๔ สะเทอื นใจ ฝืนใจเข า้ กอดแม่ หวังแก ้ให้แม่ฟนKื ๕ ๒. ใจความสําค ญั ทีส- ดุ ของบทร้อยกรองนKคี ืออะไร แมจ่ า๋ เพราะเสียงปนื จึงไม่คืนชีวิตมา ๖ โทษใดจึงประหาร ศาลไหนพิพากษา ก. เพลงชาติ ถ้าลกู ท่านเปน็ สตั วป์ า่ ใครเข่นฆ่าท่านยอมไหม ข. แผ่นดนิ ไทยไทยตอ้ งครองท ังKปวง ชีวิตใครใครกร็ กั ทา่ นประจักษบ์ ้างหรอื ไม่ โปรดเถดิ จงเห็นใจ สตั วป์ า่ ไซรก้ เ็ หมือนก ัน ชีพไมล่ ว่ งอย่าลKาํ มาย ํ-ายี ค. แตส่ ิ-งหน-งึ ซ-งึ ไทยใจร้าวเหลอื (สบื นาคะเสถยี ร) ตวั อย่างวีดิโอ สิKนเสียงปืน แต่งโดยสืบนาคะเสถยี ร คอื เลือดเนอืK เปน็ หนอนคอยบอ่ นไส้ ง. ถา้ คนไทยหนั มาฆา่ ก นั เอง จะร้องเพลงชาตไิ ทยใหใ้ ครฟงั ๓. ผู ้แต่งต้องการจะบอกอะไรแก่ผู ้อา่ นมากที-สุด ก. เมืองไทยมีเพลงชาติและธงชาตขิ องตัวเอง ข. เมืองไทยมีหนอนบ่อนไส้ ค. คนไทยต้องรกั และหวงแหนแผ่นดนิ ไทย ง. คนไทยต้องรักและสามคั คตี ่อก ัน ๗ ๔. นาKํ เสียงหรือหางเสยี งของผู แ้ ตง่ เป็นอย่างไร ๘ ก. ภาคภมู ใิ จข. แค น้ ใจ ค. หว่ งใย ง. เสียดสีประชดประชัน
๕. รอ้ ยกรองตอนที-๒ นKเี ป็นคนละชนิดก ับบทรอ้ ยกรองตอนที- ๑ ตอนที- ๓ ๑ (เพลงชาต)ิ จงพิจารณาว่าแตกตา่ งก ันเด่นชดั ที-สดุ ตรงจุดใด ๒ ๓ ก. การใชจ้ าํ นวนค ําในแต่ละวรรค กลว้ ยหาย ๔ ข. การมีสัมผ สั คล้องจอง บ า้ นฉ นั อยู่ซอย ชือ- ซอยต้นกล้วย ๕ ค. การก ําหนดลักษณะไพเราะ ข า้ งบ ้านมลี งิ ลงิ ชอบกินกลว้ ย ๖ ง. การสร้างอารมณส์ ะเทอื นใจ ลิงอยูใ่ นสวน สวนไมม่ ีกลว้ ย ๗ ๖. จากรอ้ ยกรองบทนKี ใจความสาํ ค ัญที-สุดทีผ- ู ้แตง่ ต้องการบอก กอ่ นนอนทุกวัน ฉ นั ชอบกินกล้วย ๘ ผู อ้ า่ นคืออะไร ฉ ันมีเงินใช้ ฉ ันใชซ้ ืKอกลว้ ย ซืKอมาหวใี หญ่ แขวนไวก้ นิ กลว้ ย ก. เสยี งปืนทีด- งั ลั-น ตัวแม่นนKั ตอ้ งสนKิ ใจ เช้าออกท ํางาน ท าํ งานแลกกลว้ ย ข. ถ้าลกู ทา่ นเป็นสัตวป์ ่า ใครเข่นฆา่ ทา่ นยอมไหม ตาลายท อ้ งหิว ฉ นั หวิ หากลว้ ย ค. ชวี ติ ใครใครกร็ กั ท่านประจักษ์บ ้างหรือไม่ ค น้ หาเหน็ ลงิ ลิงถอื หวีกลว้ ย ง. โปรดเถิดจงเหน็ ใจ สัตวป์ า่ ไซรก้ เ็ หมอื นก ัน ฉ ันโมโหลิง เตะลงิ แย่งกล้วย โมโหเสียแย่ มีแต่เปลือกกล้วย ฉ นั รู้ความจรงิ ลงิ เปล่ากินกลว้ ย เพือ- นบ า้ นหลายคน เห็นคนลักกลว้ ย เป็นคนขุดดนิ ไม่ชอบกนิ กลว้ ย ลกู เล็กของเขา กินข ้าวบดกลว้ ย เขาเปน็ คนจน จนไม่มกี ลว้ ย ลกู เลก็ หิวนกั เขาจึงลักกลว้ ย
๗. ใจความสาํ ค ญั ที-สดุ ของข ้อความนKคี ืออะไร ๑ ก. กล้วยหาย ๒ ข. บ ้านฉ นั อยูซ่ อย ชือ- ซอยต้นกล้วย ๓ ข า้ งบ ้านมลี ิง ลงิ ชอบกนิ กลว้ ย ๔ ค. เพือ- นบ ้านหลายคน เหน็ คนลกั กล้วย ๕ เปน็ คนขุดดนิ ไม่ชอบกินกลว้ ย ๖ ง. เขาเปน็ คนจน จนไม่มกี ล้วย ๗ ลูกเลก็ หิวนกั เขาจงึ ลักกลว้ ย ๘ ๘. นาKํ เสียงหรือหางเสียงของผู แ้ ต่งอยา่ งไร ก. เศร้าใจ ข. แค น้ ใจ ค. สงสารและเข า้ ใจ ง. พึงพอใจ
ตอนที- ๔ ๙. ร้อยกรองนตKี ่างจากร้อยกรองท ังK ๒ บทกอ่ นหน้านKี ๑ คน ในเร-ืองใดเดน่ ชัดที-สดุ ๒ ๓ คน คน คน คน คน คน คน คน คน คน คน คน คน ก. ความคดิ รเิ รม-ิ สรา้ งสรรค์ ๔ คน คน คน ข. การใชค้ ําสัมผ ัสคลอ้ งจอง ๕ คน คน คน คน คน คน คน คน คน คน คน คน คน ค. การใชค้ าํ ไพเราะสละสลวย ๖ คน คน คน ง. การสร้างอารมณ์สะเทือนใจ คน คน คน คน คน คน คน คน คน คน คน คน คน ๑๐. ใจความสาํ ค ญั ทีส- ุดของข ้อความนKคี ืออะไร คน คน คน ก. คน คน คน คน คน คน คน คน คน คน คน คน คน คน ข. คนคอยรถเมล์โดยสารประจําทาง คน คน คน ค. คนจํานวนมากทีก- รงุ เทพฯ คน คน คน คน คน คน คน คน คน คน คน คน คน ง. คนจํานวนมากคอยรถเมลโ์ ดยสารประจาํ ทางที- คน คน คน กรงุ เทพฯ คน คน คน คน คน คน คน คน คน คน คน คน คน คน คน คน ๗ คน คน คน คน คน คน คน คน คน คน คน คน คน ๘ คน คน คน คน คน คน คน คน คน คน คน คน คน คน คน คน คน คน คน คอยรถเมลโ์ ดยสารประจําทาง.............................ทีก- รุงเทพฯ (จา่ ง แซต่ ัKง, ๒๕๑๐)
ตอนที- ๔ ๑ ตัKงแต่ ข อ้ ๑๑ – ๑๕ ให้นักเรียนอ่านบทรอ้ ยกรอง “ไหมแท ท้ ีแ- ม่ ทอ” แลว้ ตอบค าํ ถาม ไหมแท้ทแ,ี ม่ทอ แมป่ ลูกหม่อนเลKยี งไหมต ังK ใจนกั เร-ียวแรงรักแมใ่ ช เ้ พือ- ใฝ่ฝนั ๑๑. สาระสาํ ค ญั ของบทรอ้ ยกรองนกKี ลา่ วถึงสิง- ใด ๒ อกี สาวไหมดว้ ยมอื ซื -อสัตย์นัKนท ัKงทอม ันละเมียดละไมใช เ้ วลา ก. อาชีพของแม่ ข. ฝีมอื ทอผ า้ ของแม่ ๓ สือ- วญิ ญาณผา่ นมอื สูเ่ ส้นไหม แตล่ ะใยแตล่ ะเส้นเปน็ เนอืK ผ า้ ๔ ตีนที-ใช ก้ ระตกุ กีค- ือชวี า มือทีค- ว า้ กระสวยวาดคอื ชีวติ ค. ความรักลกู ของแม่ ง. ความลาํ บากของแม่ ๕ ๑๒. แมต่ อ้ งการใหล้ กู ตระหนกั ในคุณคา่ ของสิ-งใด ๖ ผ า้ ขาวม า้ผนื ใหม่แมใ่ หล้ ูก รักพ ันผูกทกุ ใยไหมวจิ ิตร ก. การประกอบอาชพี ดา้ นการเกษตร ๗ ใยไหมโยงใจแมเ่ นรมิต ไหมอุทศิ แม่ก็ทอต่อต าํ นาน ๘ ลูกกถ็ อื ผ า้ ทอทีแ- ม่ให้ เป็นเยือ- ใยไหมและแมท่ ีก- ลา้ หาญ ข. การรู้จักประกอบอาชีพที-สุจริต ค. การรักษาวฒั นธรรมถ้องถน-ิ ผ า้ ท ัKงผืนมีชีวิตจิตวญิ ญาณ ถักประสานสอดสร้างอยา่ งแยบยล ง. ก ารแสดงออกซงึ- ความรกั และความมนี าKํ ใจต่อแม่ มอื นอ้ ยนอ้ ยของแม่ดูแคน่ Kี เคยเฆ ี -ยนตีลูกบ า้ งในบางหน แตม่ อื เดียวก ันนแKี หละสู ท้ น ประคองลูกให้พ ้นภย ันตราย ๑๓. “ไหมแท ท้ ีแ- ม่ทอ” ห มายถึงอะไร ก. ผ ้าขาวม้าผืนใหม่ ข. ผ า้ ทอลวดลายใหม่ แหละมอื นทKี ี-บ นั ดาลงานชีวติ มเิ คยคิดค่าแรงแขง่ ซื อK ขาย ค. ชีวติ ของแม่ ง. อ นาคตของลูก ย งั ถกั ทอทรมาน์ย ังท ้าทาย ย งั ม ั น- หมายผ ้าไหมผืนใหม่มา พร้อมท ังK สอนลกู สาวเจา้ ศรเี รอื นอยเู่ป็นเพือ- นแม่ทอปรารถนา ๑๔. รสของบทรอ้ ยกรองนKไี ด้แก่รสใด ก. รสแหง่ ความเศร้า ข. รสแห่งความรัก เพื-อสบื ทอดแรงงานกาลเวลา ก่อนมอื แม่จะอ่อนล้าต อ้ งลาพ กั ค. รสแหง่ ความกลา้ หาญ ง.รสแหง่ ความหดหู่ท อ้ แท ้ และสอนเจา้ ลูกชายใหท้ ระนง รักแม่ก็ขอจงท าํ งานหนกั ด้วยละเอยี ดอ่อนในเยื-อใยรัก พลีชีวติ เพือ- ถกั และทอไท ๑๕. บ ทรอ้ ยกรอง “ไหมแท ้ที-แมท่ อ” ม คี ุณคา่ ดา้ นใด สักว นั หนง-ึ ถงึ ไมม่ ีชีวติ แม่ ลกู ทีแ- ท ้ก็คงทอสืบตอ่ ได้ ก. คณุ คา่ ด้านอารมณ์ แมก่ ท็ อลกู ก็ทอตอ่ เสน้ ใย ผ ้าชีวติ ผนื ใหม่จะต ้องงาม ข. คณุ ค่าทางปญั ญา ไพวรินทร์ ขาวงาม ค. คุณค่าทางด้านจิตนาการ ง. ค ณุ คา่ ทางด้านคุณธรรม
ใบงานที,๒ ๑. จากบทประพันธข์ า้ งต้นผู ้แต่งกลา่ วถงึ อาชีพใดบ า้ ง ๑ ใบงาน “มอี ะไรใน...ร้อยกรอง” และแตล่ ะอาชีพมลี กั ษณะอยา่ งไร จงอธิบาย ๒ คาํ ส,ัง จงอ่านบทรอ้ ยกรองทีก- าํ หนดใหแ้ ล้วเลอื กค ําตอบทีถ- ูกตอ้ ง ........................................................ ๓ ที-สุด ........................................................ ๔ ๒. จากบทประพนั ธ์ “จดหมายถงึ บ ัณฑติ ”ผู ้แตง่ ๕ จดหมายถึงบณั ฑิต ตอ้ งการสง่ สารนKใี ห้ใคร เพราะอะไร ๖ ........................................................ ๗ บัณฑิต ผลผลติ แห่งสถานการศึกษา ........................................................ ๘ หลายปกี ่อนมอื เปลา่ เธอก า้ วมา ถงึ เวลาก า้ วไปรับใช้คน ๓. บ ณั ฑติ เอย๋ บ ณั ฑิตใหม่จงไดค้ ดิ ศกึ ษาศาสตรบัณฑิตค ดิ ให้มาก งานเธอยากแตย่ ิง- ใหญ ่ได้ก ุศล อยา่ ยดึ ตดิ แกก่ ระดาษขาดเหตุผล ตาด าํ ด าํ ท าํ เธอสขุ และทกุ ขท์ น ถ้ากลวั จนแล้วอย่ามาเปน็ ครู ชวี ิตจรงิ ยิ-งต้องเข ม้ ต้องเต็มคน นติ ิศาสตรบัณฑิตค ดิ ไหมว่า โชคชะตาคนทัKงสองเธอครองอยู่ พร้อมผจญปลดครุยลงลยุ โคลน พทิ ักษ์สทิ ธ`พิ ิชิตโศกให้โลกรู้ เชดิ ตราชยู ุตธิ รรม์จนวันตาย วทิ ยาการจดั การงานผลิต ธรุ ก จิ สูงสุดใช่จุดหมาย จากข ้อความตอนท า้ ยบทประพันธ์ ผู ้แต่ง ต้องสรา้ งสรรค ์งานประชาทีท- า้ ทาย รบั แล้วจา่ ยค ืนก าํ ไรใหส้ งั คม ตอ้ งการส-อื อะไร แพทยศาสตร์พยาบาลงานเธอหนกั ใชห่ นทางดารานา่ พิสมยั ........................................................ เธอจงเป็นนกพริ าบตามใบไม้ ส-อื หัวใจสสู่ อนแห่งมวลชน ........................................................ บัณฑิตเอ๋ยบณั ฑิตใหมจ่ งไดค้ ดิ อยา่ ยึดตดิ แก ก่ ระดาษขาดเหตผุ ล ๔. นกั เรยี นได้ข ้อคิดอะไรจากการอ่านบทประพันธ์ ชีวิตจริงยิง- ต้องเข้มต้องเตม็ คน พร้อมผจญปลดครุยลงลยุ โคลน “จดหมายถึงบ ณั ฑติ ” ........................................................ รวมบทกวีนพิ นธ์ สร้อยเม็ดทราย: นภาลยั สวุ รรรณธาดา ........................................................
ใบงานที,๓ ๑. ผู ป้ ระพนั ธ์ได้กลา่ วถึงชวี ิตการเรียนในมหาวิทยาลัย ๑ ใบงาน “มหาลัยชวี ิต พินิจร้อยกรอง” ไวว้ า่ อยา่ งไรบ า้ ง ๒ ค ําชKีแจงใหน้ กั เรียนอ่านบทร้อยกรอง มหาวทิ ยาลยั ชีวติ แลว้ ตอบ ........................................................ ๓ ค าํ ถาม ....................................................... ๔ มหาวทิ ยาลยั ชีวิต ๒. ผู ป้ ระพนั ธ์ไดแ้ สดงทรรศนะเกี-ยวก ับผู ส้ อบเข ้า ๕ การเรียนรู้มใิ ชเ่ พยี งได้เรยี น การอา่ นเขียนมิใชเ่ พียงได้ผา่ น มหาวิทยาลยั ไวว้ า่ อย่างไรบ า้ ง ๖ มคี วามรู้มากมายใหจ้ ดจาร เพยี ง”รกั อา่ นรักเขียนรกั เรยี นร”ู้ ........................................................ ๗ ยนิ ดกี บั ผู ้ผา่ นการสอบเข า้ ย ังต้องเฝ้าต้องรอต้องตอ่ สู้ ........................................................ ๘ มสี ง-ิ ใหม่ให้ต้องลองท ําดู ลว้ นเปน็ ครูด้านกลบั ให้ปรบั ตน ๓. ผู ้ประพนั ธ์ได้แสดงทรรศนะเกี-ยวก ับการเรยี นรูใ้ น ผูไ้ มผ่ า่ นก็ไมใ่ ชไ่ ร้โอกาส ความสามารถนนKั มอิ าจจะวดั ผล ปัจจบุ นั ไว้ว่าอย่างไรบ ้าง เมือ- กล้าก า้ วกลา้ นําไมจ่ ํานน ย่อมบ ันดลทางชยั ในชวี ติ ........................................................ มหาวิทยาลยั ในตวั เรา จะสอบเข ้าไม่เข ้าเรามีสทิ ธ`ิ ........................................................ เสมอก นั ทุกข ัKนตอนพรพิชิต คือ “รักคิด อา่ นเขียน รักเรียนร”ู้ ๔ . จากการอ่านบทรอ้ ยกรอง “มหาวิทยาลยั ชวี ติ ” นกั เรียนสามารถนาํ เอาข อ้ คิดทีไ- ดไ้ ปปรบั ใชใ้ นชวี ติ เนาวรัตน์ พงษไ์ พบูลย์ ไดอ้ ยา่ งไรบ า้ ง ........................................................ ........................................................ ๕. น ักเรียนเห็นด้วยก บั ทรรศนะทีผ- ู ้ประพนั ธ์ไดก้ ลา่ ว ไวห้ รอื ไม่ อย่างไร ........................................................ ........................................................
ใบงานที,๔ ๑. บทประพนั ธต์ อ่ ไปนKใี ช้โวหารภาพพจนใ์ ด ๑ แบบทดสอบ โวหารภาพพจน์ในร้อยกรองไทยปัจจุบัน “ คือนาKํ ผงKึ คอื นKาํ ตาคอื ยาพษิ ๒ คอื หยาดนาKํ อมฤตอันชืน- ชุม่ ๓ คอื เกสรดอกไม้คอื ไฟรุม ๔ ตอนที,๑ จงเลอื กคําตอบขอ้ ที,ถกู ทีส, ดุ เพยี งข้อเดียว คือความกลุ้มคอื ความฝนั …..นั-นแหละรกั ” ๕ ๖ ๓. บทรอ้ ยกรองข า้ งต้นนใKี ช้โวหารภาพพจนเ์ ดน่ ที-สดุ คือข ้อใด ก. อปุ มา ข.อปุ ลักษณ์ ๗ ค.อติพจน์ ง.ถูกทกุ ข อ้ ๘ “แม้มไิ ดเ้ ปน็ ดอกกหุ ลาบหอม กจ็ งยอมเป็นเพยี งลดาขาว ๒. บทประพันธ์ตอ่ ไปนใKี ชโ้ วหารภาพพจนใ์ ด แม้มไิ ด้เป็นจนั ทรอ์ นั สกาว จงเป็นดาวดวงแจม่ แอร่มตา ไผ่ซออ้อเอยี ดเบยี ดออด ลมลอดไล่เลKยี วเรยี วไผ่ แม้มไิ ด้เปน็ หงสท์ ะนงศกั ด`ิ กจ็ งรกั เป็นโนรที ีห- รรษา ออดแอดแอดออดยอดไกว แพใบไล้นKาํ ลาํ คลอง แม้มไิ ดเ้ ป็นนKาํ แมค่ งคา จงเป็นธาราใสที-ไหลเย็น แมม้ ไิ ด้เป็นมหาหิมาลยั จงพอใจจอมปลอกที-แลเหน็ ก. สทั พจน์ ข.ปฏ ิพากย ์ แม้มิได้เปน็ วันพระจนั ทรเ์ พ็ญ กจ็ งเป็นวันแรมทีแ- จ่มจาง ค.บคุ คลวัต ง.ถกู ทกุ ข อ้ แม้มไิ ด้เป็นต้นสนระหง จงเป็นพงอ้อสะบ ัดไมข่ ัดขวาง ๔. บทประพนั ธข์ ้างต้นไม่ปรากฏลกั ษณะการแต่ง แม้มไิ ด้เป็นนุชสุดสะอาง จงเป็นนางที-มีใชไ่ รค้ วามดี แบบใด อนั จะเป็นส-ิงใดไม่ประหลาด ก าํ เนิดชาตดิ ีทรามตามวิถี “คนเห็นคนเปน็ คนนัน- แหละคน ถอื สนั โดษบ ําเพญ็ ให้เด่นดี ในสง-ิ ทีเ- ราเป็นเชน่ นKันเทอญ” คนเหน็ คนใชค่ นใช่คนไม่ เกดิ เป็นคนต้องเป็นคนทุกคนไป ฐะปะนีย์ นาครทรรพ จนหรือมีผู ด้ ีไพร่ไม่พน้ คน” ก. อุปมา ข. อปุ ลักษณ์ ค. บุคคลวัต ง. ส ญั ลักษณ์ ก. การเล่นค าํ ซ Kาํ ข. การเลน่ ค าํ พอ้ ง ค. การใช้อปุ ลักษณ์ ง. การใชป้ ฏพิ ากย์
ตอนที,๒ ใหน้ กั เรียนวิเคราะห์บทประพนั ธ์ต่อไปนี R วา่ มกี ารใช้ ๑ โวหารภาพพจน์อะไรบ้าง อธบิ ายพรอ้ มยกตัวอยา่ งประกอบ ๒ ตัวอยา่ ง …………………………………………………… ๓ ใหค้ ดิ ถึงเพยี งใดใจจะขาด กม็ ิอาจไปตามความคดิ ถึง …………………………………………………… ๔ หา้ มมาหาแต่อยา่ ห้ามความคะนึง จะดKือดึงโดยถอ้ ยรอ้ ยรําพนั …………………………………………………… ๕ ตอบ - อติพจน์คือการกลา่ วเกนิ จรงิ เหน็ ได้จากการกล่าวถึง …………………………………………………… ๖ ความคดิ ถึงที-มากกมายจนจะท ําใหห้ ัวใจจะขาดได้ ดงั บท …………………………………………………… ๗ ประพันธท์ ี-ว่า“ให้คดิ ถึงเพียงใดใจจะขาด” …………………………………………………… ๘ ๑. …………………………………………………… ชีวติ เราถา้ เหมือนเรอื …………………………………………………… ชวี ติ เรา ถ้าเหมือนเรอื เมอ-ื ออกท่า ไมร่ ู้ว่า ค ํ า- นีK นอนที-ไหน …………………………………………………... จะลอยล่ม จมน ําK คว-ําล าํ ไป หรือสมใจ จอดฝง-ั ..ก ็ยังแคลง …………………………………………………… ไดแ้ ต่ดืม- น ํKาตา เม-อื ฟ้าร-าํ ยิง- ยามยํ-า สายัณห์ ยิ-งกรรแสง …………………………………………………… ถกู ลมหวน หอบขม่ ระดมแรง จงึ รู้แลง้ หมดแล้ว น ําK แก ว้ ตา …………………………………………………… เพราะหากมวั มาร-ํา ก าํ สรวลอยู่ ไหนจะรู้ ทรงเรอื บา่ ยเมื-อหนา้ …………………………………………………… ตอ้ งตกั พาย หมายขืน ฝนื ลมฟา้ ไรเ้ วลา อาดรู พอกพนู ใจ …………………………………………………… สตติ รง ตาแน่ว ดูแนวน ํKา ไมล่ อยล าํ ขวางเรือ เมอื- น ําK ไหล …………………………………………………… ถ้าไม่ล่อง ก ท็ ่องทวน สวนทนั ใด เรอื จ-งึ ได้ แนวดิ-ง ไม่ทิงK ทาง …………………………………………………… ในโลกนีK มีสงิ- ต้องวงิ- แขง่ ถา้ หย่อนแรง ราข้อ ตอ่ เขา้ บา้ ง …………………………………………………… กจ็ ะแพ้ แยย่ ับ ถงึ อปั ปาง อย่าหมายร่าง เราจะอยู่ สหู้ นา้ ใคร ………………………………………………….. ชวี ิตเรา ถา้ เหมอื นเรือ เมอ-ื ออกทา่ ต้องรู้วา่ ค ํ -านีK นอนทีไ- หน ตอ่ รงุ่ เชา้ ก ้าวอีกขนKั มรรคลาัย กว่าวันชัย สมประสงค ์ ถือธงช..ู ประยอม ซองทอง
๒. นมของหนู ขาอ่อนหนู รู้ใชไ่ หม …………………………………………………… ๑ เรอื นรา่ งใช่ยืมใครจะได้อา้ ง …………………………………………………… ๒ หนูเปน็ สาวสะพรั-งสวยสาํ อาง …………………………………………………… ๓ เปลอื ยร่างถา่ งขา กน็ า่ มอง …………………………………………………… ๔ ถา่ ยรปู ครงKั เดยี วดังเงนิ ต ัลKง้าน …………………………………………………… ๕ ใครหนา้ ไหนไม่ต ้องการเงินคล่องคล่อง …………………………………………………… ๖ หนแู ก ้ผ ้าทาสี เป็นเงนิ เป็นทอง …………………………………………………… ๗ ผู ช้ ายจ้องนKาํ ลายไหลไม่วางตา …………………………………………………… ๘ “ หนเู อย๋ “ ดัง” นนKั ไม่ไกลจาก“ ด้าน ” …………………………………………………... จบหน-งึ งาน ดังก็หายไรค้ ุณคา่ …………………………………………………… ความดา้ นลอ่ ให้เพลินก บั เงนิ ตรา …………………………………………………… หนูกลายเป็นสินค า้ ราคาดี …………………………………………………… กระตุ ้นอารมณห์ น-ื และกระหาย …………………………………………………… เหล่าชายต ณั หาแรงทกุ แหล่งที- …………………………………………………… เป็นว ตั ถุทางเพศให้ย ํ-ายี …………………………………………………… เหมือนมใิ ช่สตรเี พศมารดา …………………………………………………… ดูความรู้ หนูก็ช ันK ปัญญาชน …………………………………………………… ไมน่ ่าจะอบั จนจนมดื หน้า ………………………………………………….. เสียแรงเรียนจนได ้ใบปริญญา ไยไม่สร้างคุณคา่ แกส่ งั คม เอาความรู้ทีค- รูให้ มาใช ้คิด หายางอายสักนดิ มาผสม เพือ- ไมส่ ร้างราคาคา่ นยิ ม ว่ามีนมแทนสมอง เปน็ ของดี ”แฟนคอลัมน์เจา้ เกา่ ”
ใบงานที,๕ …………………………………………………… ๑ ใบกิจกรรม “ร้อยกรองสะทอ้ นสงั คม” …………………………………………………… ๒ ค าํ ชKแี จง ให้นกั เรียนแบง่ กลุม่ กลมุ่ ละ๒ – ๓ คน เลือกรปู ภาพ …………………………………………………… ๓ ตามความสนใจ พร้อมแตง่ รอ้ ยกรองชนิดใดก็ได้ จํานวน๓ บท …………………………………………………… ๔ ขKึนไป พร้อมตังK ชื-อรอ้ ยกรองนันK ใหส้ อดคล้องก ับร(ูปสะท อ้ น …………………………………………………… ๕ สงั คม เสนอแนวทางแก ไ้ ข หรือแสดงความรูส้ กึ ) …………………………………………………… ๖ …………………………………………………… ๗ …………………………………………………… ๘ …………………………………………………... …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………..
ใบงานที,๕ …………………………………………………… ๑ ใบกิจกรรม “ร้อยกรองสะท้อนสงั คม” …………………………………………………… ๒ ค าํ ชีKแจง ให้นักเรยี นแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ๒ – ๓ คน เลือกรูปภาพ …………………………………………………… ๓ ตามความสนใจ พรอ้ มแต่งรอ้ ยกรองชนดิ ใดก็ได้ จาํ นวน๓ บท …………………………………………………… ๔ ขึนK ไป พร้อมตัKงชื-อร้อยกรองนนัK ให้สอดคลอ้ งก ับร(ปู สะท อ้ น …………………………………………………… ๕ สงั คม เสนอแนวทางแก ้ไข หรือแสดงความรู้สึก) …………………………………………………… ๖ …………………………………………………… ๗ …………………………………………………… ๘ …………………………………………………... …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… ………………………………………………….. สมาชกิ ๑. …………………………………………………… ชันK ……………….เลขท…ี- …………… ๒. …………………………………………………… ชันK ……………….เลขท…ี- ……………
ใบงานที,๕ …………………………………………………… ๑ ใบกิจกรรม “ร้อยกรองสะท้อนสงั คม” …………………………………………………… ๒ ค าํ ชีKแจง ให้นักเรยี นแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ๒ – ๓ คน เลือกรูปภาพ …………………………………………………… ๓ ตามความสนใจ พรอ้ มแต่งรอ้ ยกรองชนดิ ใดก็ได้ จาํ นวน๓ บท …………………………………………………… ๔ ขึนK ไป พร้อมตัKงชื-อร้อยกรองนนัK ให้สอดคลอ้ งก ับร(ปู สะท อ้ น …………………………………………………… ๕ สงั คม เสนอแนวทางแก ้ไข หรือแสดงความรู้สึก) …………………………………………………… ๖ …………………………………………………… ๗ …………………………………………………… ๘ …………………………………………………... …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… ………………………………………………….. สมาชกิ ๑. …………………………………………………… ชันK ……………….เลขท…ี- …………… ๒. …………………………………………………… ชันK ……………….เลขท…ี- ……………
ใบงานที,๕ …………………………………………………… ๑ ใบกิจกรรม “ร้อยกรองสะท้อนสงั คม” …………………………………………………… ๒ ค าํ ชีKแจง ให้นักเรยี นแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ๒ – ๓ คน เลือกรูปภาพ …………………………………………………… ๓ ตามความสนใจ พรอ้ มแต่งรอ้ ยกรองชนดิ ใดก็ได้ จาํ นวน๓ บท …………………………………………………… ๔ ขึนK ไป พร้อมตัKงชื-อร้อยกรองนนัK ให้สอดคลอ้ งก ับร(ปู สะท อ้ น …………………………………………………… ๕ สงั คม เสนอแนวทางแก ้ไข หรือแสดงความรู้สึก) …………………………………………………… ๖ …………………………………………………… ๗ …………………………………………………… ๘ …………………………………………………... …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… ………………………………………………….. สมาชกิ ๑. …………………………………………………… ชันK ……………….เลขท…ี- …………… ๒. …………………………………………………… ชันK ……………….เลขท…ี- ……………
ใบงานที,๕ …………………………………………………… ๑ ใบกิจกรรม “ร้อยกรองสะท้อนสงั คม” …………………………………………………… ๒ ค าํ ชีKแจง ให้นักเรยี นแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ๒ – ๓ คน เลือกรูปภาพ …………………………………………………… ๓ ตามความสนใจ พรอ้ มแต่งรอ้ ยกรองชนดิ ใดก็ได้ จาํ นวน๓ บท …………………………………………………… ๔ ขึนK ไป พร้อมตัKงชื-อร้อยกรองนนัK ให้สอดคลอ้ งก ับร(ปู สะท อ้ น …………………………………………………… ๕ สงั คม เสนอแนวทางแก ้ไข หรือแสดงความรู้สึก) …………………………………………………… ๖ …………………………………………………… ๗ …………………………………………………… ๘ …………………………………………………... …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… ………………………………………………….. สมาชกิ ๑. …………………………………………………… ชันK ……………….เลขท…ี- …………… ๒. …………………………………………………… ชันK ……………….เลขท…ี- ……………
ใบงานที,๕ …………………………………………………… ๑ ใบกิจกรรม “ร้อยกรองสะท้อนสงั คม” …………………………………………………… ๒ ค าํ ชีKแจง ให้นักเรยี นแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ๒ – ๓ คน เลือกรูปภาพ …………………………………………………… ๓ ตามความสนใจ พรอ้ มแต่งรอ้ ยกรองชนดิ ใดก็ได้ จาํ นวน๓ บท …………………………………………………… ๔ ขึนK ไป พร้อมตัKงชื-อร้อยกรองนนัK ให้สอดคลอ้ งก ับร(ปู สะท อ้ น …………………………………………………… ๕ สงั คม เสนอแนวทางแก ้ไข หรือแสดงความรู้สึก) …………………………………………………… ๖ …………………………………………………… ๗ …………………………………………………… ๘ …………………………………………………... …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… ………………………………………………….. สมาชกิ ๑. …………………………………………………… ชันK ……………….เลขท…ี- …………… ๒. …………………………………………………… ชันK ……………….เลขท…ี- ……………
ใบงานที,๕ …………………………………………………… ๑ ใบกิจกรรม “ร้อยกรองสะท้อนสงั คม” …………………………………………………… ๒ ค าํ ชีKแจง ให้นักเรยี นแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ๒ – ๓ คน เลือกรูปภาพ …………………………………………………… ๓ ตามความสนใจ พรอ้ มแต่งรอ้ ยกรองชนดิ ใดก็ได้ จาํ นวน๓ บท …………………………………………………… ๔ ขึนK ไป พร้อมตัKงชื-อร้อยกรองนนัK ให้สอดคลอ้ งก ับร(ปู สะท อ้ น …………………………………………………… ๕ สงั คม เสนอแนวทางแก ้ไข หรือแสดงความรู้สึก) …………………………………………………… ๖ …………………………………………………… ๗ …………………………………………………… ๘ …………………………………………………... …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… ………………………………………………….. สมาชกิ ๑. …………………………………………………… ชันK ……………….เลขท…ี- …………… ๒. …………………………………………………… ชันK ……………….เลขท…ี- ……………
ใบงานที,๕ …………………………………………………… ๑ ใบกิจกรรม “ร้อยกรองสะท้อนสงั คม” …………………………………………………… ๒ ค าํ ชีKแจง ให้นักเรยี นแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ๒ – ๓ คน เลือกรูปภาพ …………………………………………………… ๓ ตามความสนใจ พรอ้ มแต่งรอ้ ยกรองชนดิ ใดก็ได้ จาํ นวน๓ บท …………………………………………………… ๔ ขึนK ไป พร้อมตัKงชื-อร้อยกรองนนัK ให้สอดคลอ้ งก ับร(ปู สะท อ้ น …………………………………………………… ๕ สงั คม เสนอแนวทางแก ้ไข หรือแสดงความรู้สึก) …………………………………………………… ๖ …………………………………………………… ๗ …………………………………………………… ๘ …………………………………………………... …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… ………………………………………………….. สมาชกิ ๑. …………………………………………………… ชันK ……………….เลขท…ี- …………… ๒. …………………………………………………… ชันK ……………….เลขท…ี- ……………
ใบงานที,๕ …………………………………………………… ๑ ใบกิจกรรม “ร้อยกรองสะท้อนสงั คม” …………………………………………………… ๒ ค าํ ชีKแจง ให้นักเรยี นแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ๒ – ๓ คน เลือกรูปภาพ …………………………………………………… ๓ ตามความสนใจ พรอ้ มแต่งรอ้ ยกรองชนดิ ใดก็ได้ จาํ นวน๓ บท …………………………………………………… ๔ ขึนK ไป พร้อมตัKงชื-อร้อยกรองนนัK ให้สอดคลอ้ งก ับร(ปู สะท อ้ น …………………………………………………… ๕ สงั คม เสนอแนวทางแก ้ไข หรือแสดงความรู้สึก) …………………………………………………… ๖ …………………………………………………… ๗ …………………………………………………… ๘ …………………………………………………... …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… ………………………………………………….. สมาชกิ ๑. …………………………………………………… ชันK ……………….เลขท…ี- …………… ๒. …………………………………………………… ชันK ……………….เลขท…ี- ……………
ใบงานที,๕ …………………………………………………… ๑ ใบกิจกรรม “ร้อยกรองสะท้อนสงั คม” …………………………………………………… ๒ ค าํ ชีKแจง ให้นักเรยี นแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ๒ – ๓ คน เลือกรูปภาพ …………………………………………………… ๓ ตามความสนใจ พรอ้ มแต่งรอ้ ยกรองชนดิ ใดก็ได้ จาํ นวน๓ บท …………………………………………………… ๔ ขึนK ไป พร้อมตัKงชื-อร้อยกรองนนัK ให้สอดคลอ้ งก ับร(ปู สะท อ้ น …………………………………………………… ๕ สงั คม เสนอแนวทางแก ้ไข หรือแสดงความรู้สึก) …………………………………………………… ๖ …………………………………………………… ๗ …………………………………………………… ๘ …………………………………………………... …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… ………………………………………………….. สมาชกิ ๑. …………………………………………………… ชันK ……………….เลขท…ี- …………… ๒. …………………………………………………… ชันK ……………….เลขท…ี- ……………
ใบงานที,๕ …………………………………………………… ๑ ใบกิจกรรม “ร้อยกรองสะท้อนสงั คม” …………………………………………………… ๒ ค าํ ชีKแจง ให้นักเรยี นแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ๒ – ๓ คน เลือกรูปภาพ …………………………………………………… ๓ ตามความสนใจ พรอ้ มแต่งรอ้ ยกรองชนดิ ใดก็ได้ จาํ นวน๓ บท …………………………………………………… ๔ ขึนK ไป พร้อมตัKงชื-อร้อยกรองนนัK ให้สอดคลอ้ งก ับร(ปู สะท อ้ น …………………………………………………… ๕ สงั คม เสนอแนวทางแก ้ไข หรือแสดงความรู้สึก) …………………………………………………… ๖ …………………………………………………… ๗ …………………………………………………… ๘ …………………………………………………... …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… ………………………………………………….. สมาชกิ ๑. …………………………………………………… ชันK ……………….เลขท…ี- …………… ๒. …………………………………………………… ชันK ……………….เลขท…ี- ……………
ใบงานที,๕ …………………………………………………… ๑ ใบกิจกรรม “ร้อยกรองสะท้อนสงั คม” …………………………………………………… ๒ ค าํ ชีKแจง ให้นักเรยี นแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ๒ – ๓ คน เลือกรูปภาพ …………………………………………………… ๓ ตามความสนใจ พรอ้ มแต่งรอ้ ยกรองชนดิ ใดก็ได้ จาํ นวน๓ บท …………………………………………………… ๔ ขึนK ไป พร้อมตัKงชื-อร้อยกรองนนัK ให้สอดคลอ้ งก ับร(ปู สะท อ้ น …………………………………………………… ๕ สงั คม เสนอแนวทางแก ้ไข หรือแสดงความรู้สึก) …………………………………………………… ๖ …………………………………………………… ๗ …………………………………………………… ๘ …………………………………………………... …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… ………………………………………………….. สมาชกิ ๑. …………………………………………………… ชันK ……………….เลขท…ี- …………… ๒. …………………………………………………… ชันK ……………….เลขท…ี- ……………
ใบงานที,๕ …………………………………………………… ๑ ใบกิจกรรม “ร้อยกรองสะท้อนสงั คม” …………………………………………………… ๒ ค าํ ชีKแจง ให้นักเรยี นแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ๒ – ๓ คน เลือกรูปภาพ …………………………………………………… ๓ ตามความสนใจ พรอ้ มแต่งรอ้ ยกรองชนดิ ใดก็ได้ จาํ นวน๓ บท …………………………………………………… ๔ ขึนK ไป พร้อมตัKงชื-อร้อยกรองนนัK ให้สอดคลอ้ งก ับร(ปู สะท อ้ น …………………………………………………… ๕ สงั คม เสนอแนวทางแก ้ไข หรือแสดงความรู้สึก) …………………………………………………… ๖ …………………………………………………… ๗ …………………………………………………… ๘ …………………………………………………... …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… ………………………………………………….. สมาชกิ ๑. …………………………………………………… ชันK ……………….เลขท…ี- …………… ๒. …………………………………………………… ชันK ……………….เลขท…ี- ……………
ใบงานที,๕ …………………………………………………… ๑ ใบกิจกรรม “ร้อยกรองสะท้อนสงั คม” …………………………………………………… ๒ ค าํ ชีKแจง ให้นักเรยี นแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ๒ – ๓ คน เลือกรูปภาพ …………………………………………………… ๓ ตามความสนใจ พรอ้ มแต่งรอ้ ยกรองชนดิ ใดก็ได้ จาํ นวน๓ บท …………………………………………………… ๔ ขึนK ไป พร้อมตัKงชื-อร้อยกรองนนัK ให้สอดคลอ้ งก ับร(ปู สะท อ้ น …………………………………………………… ๕ สงั คม เสนอแนวทางแก ้ไข หรือแสดงความรู้สึก) …………………………………………………… ๖ …………………………………………………… ๗ …………………………………………………… ๘ …………………………………………………... …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… ………………………………………………….. สมาชกิ ๑. …………………………………………………… ชันK ……………….เลขท…ี- …………… ๒. …………………………………………………… ชันK ……………….เลขท…ี- ……………
ใบงานที,๕ …………………………………………………… ๑ ใบกิจกรรม “ร้อยกรองสะท้อนสงั คม” …………………………………………………… ๒ ค าํ ชีKแจง ให้นักเรยี นแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ๒ – ๓ คน เลือกรูปภาพ …………………………………………………… ๓ ตามความสนใจ พรอ้ มแต่งรอ้ ยกรองชนดิ ใดก็ได้ จาํ นวน๓ บท …………………………………………………… ๔ ขึนK ไป พร้อมตัKงชื-อร้อยกรองนนัK ให้สอดคลอ้ งก ับร(ปู สะท อ้ น …………………………………………………… ๕ สงั คม เสนอแนวทางแก ้ไข หรือแสดงความรู้สึก) …………………………………………………… ๖ …………………………………………………… ๗ …………………………………………………… ๘ …………………………………………………... …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… ………………………………………………….. สมาชกิ ๑. …………………………………………………… ชันK ……………….เลขท…ี- …………… ๒. …………………………………………………… ชันK ……………….เลขท…ี- ……………
ใบงานที,๕ …………………………………………………… ๑ ใบกิจกรรม “ร้อยกรองสะท้อนสงั คม” …………………………………………………… ๒ ค าํ ชีKแจง ให้นักเรยี นแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ๒ – ๓ คน เลือกรูปภาพ …………………………………………………… ๓ ตามความสนใจ พรอ้ มแต่งรอ้ ยกรองชนดิ ใดก็ได้ จาํ นวน๓ บท …………………………………………………… ๔ ขึนK ไป พร้อมตัKงชื-อร้อยกรองนนัK ให้สอดคลอ้ งก ับร(ปู สะท อ้ น …………………………………………………… ๕ สงั คม เสนอแนวทางแก ้ไข หรือแสดงความรู้สึก) …………………………………………………… ๖ …………………………………………………… ๗ …………………………………………………… ๘ …………………………………………………... …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… ………………………………………………….. สมาชกิ ๑. …………………………………………………… ชันK ……………….เลขท…ี- …………… ๒. …………………………………………………… ชันK ……………….เลขท…ี- ……………
ใบงานที,๕ …………………………………………………… ๑ ใบกิจกรรม “ร้อยกรองสะท้อนสงั คม” …………………………………………………… ๒ ค าํ ชีKแจง ให้นักเรยี นแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ๒ – ๓ คน เลือกรูปภาพ …………………………………………………… ๓ ตามความสนใจ พรอ้ มแต่งรอ้ ยกรองชนดิ ใดก็ได้ จาํ นวน๓ บท …………………………………………………… ๔ ขึนK ไป พร้อมตัKงชื-อร้อยกรองนนัK ให้สอดคลอ้ งก ับร(ปู สะท อ้ น …………………………………………………… ๕ สงั คม เสนอแนวทางแก ้ไข หรือแสดงความรู้สึก) …………………………………………………… ๖ …………………………………………………… ๗ …………………………………………………… ๘ …………………………………………………... …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… ………………………………………………….. สมาชกิ ๑. …………………………………………………… ชันK ……………….เลขท…ี- …………… ๒. …………………………………………………… ชันK ……………….เลขท…ี- ……………
ใบงานที,๕ …………………………………………………… ๑ ใบกิจกรรม “ร้อยกรองสะท้อนสงั คม” …………………………………………………… ๒ ค าํ ชีKแจง ให้นักเรยี นแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ๒ – ๓ คน เลือกรูปภาพ …………………………………………………… ๓ ตามความสนใจ พรอ้ มแต่งรอ้ ยกรองชนดิ ใดก็ได้ จาํ นวน๓ บท …………………………………………………… ๔ ขึนK ไป พร้อมตัKงชื-อร้อยกรองนนัK ให้สอดคลอ้ งก ับร(ปู สะท อ้ น …………………………………………………… ๕ สงั คม เสนอแนวทางแก ้ไข หรือแสดงความรู้สึก) …………………………………………………… ๖ …………………………………………………… ๗ …………………………………………………… ๘ …………………………………………………... …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… ………………………………………………….. สมาชกิ ๑. …………………………………………………… ชันK ……………….เลขท…ี- …………… ๒. …………………………………………………… ชันK ……………….เลขท…ี- ……………
ใบงานที,๕ …………………………………………………… ๑ ใบกิจกรรม “ร้อยกรองสะท้อนสงั คม” …………………………………………………… ๒ ค าํ ชีKแจง ให้นักเรยี นแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ๒ – ๓ คน เลือกรูปภาพ …………………………………………………… ๓ ตามความสนใจ พรอ้ มแต่งรอ้ ยกรองชนดิ ใดก็ได้ จาํ นวน๓ บท …………………………………………………… ๔ ขึนK ไป พร้อมตัKงชื-อร้อยกรองนนัK ให้สอดคลอ้ งก ับร(ปู สะท อ้ น …………………………………………………… ๕ สงั คม เสนอแนวทางแก ้ไข หรือแสดงความรู้สึก) …………………………………………………… ๖ …………………………………………………… ๗ …………………………………………………… ๘ …………………………………………………... …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… ………………………………………………….. สมาชกิ ๑. …………………………………………………… ชันK ……………….เลขท…ี- …………… ๒. …………………………………………………… ชันK ……………….เลขท…ี- ……………
ใบงานที,๕ …………………………………………………… ๑ ใบกิจกรรม “ร้อยกรองสะท้อนสงั คม” …………………………………………………… ๒ ค าํ ชีKแจง ให้นักเรยี นแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ๒ – ๓ คน เลือกรูปภาพ …………………………………………………… ๓ ตามความสนใจ พรอ้ มแต่งรอ้ ยกรองชนดิ ใดก็ได้ จาํ นวน๓ บท …………………………………………………… ๔ ขึนK ไป พร้อมตัKงชื-อร้อยกรองนนัK ให้สอดคลอ้ งก ับร(ปู สะท อ้ น …………………………………………………… ๕ สงั คม เสนอแนวทางแก ้ไข หรือแสดงความรู้สึก) …………………………………………………… ๖ …………………………………………………… ๗ …………………………………………………… ๘ …………………………………………………... …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… ………………………………………………….. สมาชกิ ๑. …………………………………………………… ชันK ……………….เลขท…ี- …………… ๒. …………………………………………………… ชันK ……………….เลขท…ี- ……………
แบบทดสอบก่อน – หลงั เรียน จงใชต้ ัวเลือกต่อไปนKใี นการตอบค าํ ถามข ้อ๔-๕ ๑ รายวชิ าท่องโลกวรรณกรรมปัจจบุ นั (ท31201) 1. รูท้ ัKงรู้ว่ารกั จักใหท้กุ ข์ ๒ ๑.) จากข ้อความตอ่ ไปนKี จงพิจารณาวา่ ข ้อใดเป็นลักษณะเด่นของ ๓ รอ้ ยกรองไทยปจั จบุ นั ใจย งั รกุ เรา้ หลอกใหบ้ อกเขา ๔ ก. นยิ มเขยี นใหม้ ีขนาดยาว ชา่ งไมเ่ ขด็ หรอื ไรนะใจเรา ๕ ข. มีฉ ันทลกั ษณค์ รบถว้ นถกู ตอ้ งตามที-มกี ารบ ญั ญ ัติไว้ เขามีเจา้ ของแลว้ ในแววตา ๖ ค. มกี ารดัดแปลงฉ นั ทลกั ษณ์ ๗ ง. มีแนวคดิ ในการแตง่ ที-แปลกใหมแ่ ละหลากหลาย 2. แล้วสอยดาวสาวเดือนทีเ- กลื-อนฟ้า ๘ เช่น สัจนิยม ธรรมชาตินยิ ม มาท าํ อาหารให้คนสิKน จ. นิยมแตง่ ตามแนวคิดอุดมคตนิ ิยมและจินตนยิ ม ฟันนภาทีเ- หน็ ออกเปน็ ชินK 1. ก ข 2. ข ค 3. ค ง 4. ง จ เอาสินเยบ็ เปน็ เสอืK เผื-อคนจน ๒.) เจ้าพระยาธรรมศกั ด`มิ นตรี หรอื ผู ้ใช้นามปากกาวา่ ครเู ทพ มี บทบาทสําค ญั ตอ่ วงการร้อยกรองไทยอยา่ งไร 3. ควายเคKียวเอKอื งนอนหนอง 1. เปน็ ผู อ้ นรุ ักษ์การเขียนร้อยกรองแนวสอื- อารมณ์ แววตาหมน่ หมองไมส่ Kนิ 2. เปน็ ผู น้ าํ การเขยี นรอ้ ยกรองเพื-อเสนอปัญหาของสงั คม เหลอื บรินK วนเวยี นบนิ 3. เปน็ ผู ส้ ร้างร้อยกรองแบบรูปธรรม เกาะกนิ เลอื ดล้นพุงกลวง 4. ไม่มีข ้อใดถกู ต้อง ๓.) ประเดน็ ใดตอ่ ไปนทKี ไี- ม่จดั เปน็ รอ้ ยกรองปัจจบุ ันที-มเี นอืK หา 4. โอโ้ อช๋ าวนาไทย แนวเพือ- ชีวติ ข ดั สนไปทุกโมงยาม 1. การเทดิ พระเกียรตพิ ระมหากษตั รยิ ์ นายทุนเขาหยาบหยาม 2. การเรยี กร้องสิทธใิ ห้ชาวนา สิก็เหยียบกย็ ยํา- ี 3. ชาวชนบทอพยพมาท าํ งานในเมืองหลวง ๔.) บทประพนั ธ์ในข ้อใดที-มุ่งเสนออารมณค์ วามรู้สกึ 4. สถานภาพของสตรีในสังคม ของผู ้แต่งเปน็ สําค ัญ ๕.) บทประพนั ธใ์ นข ้อใดที-มุง่ เสนอแนวคดิ แบบ สังคมนิยม คอื การสะท ้อนปัญหาเกี-ยวก บั ชนชัKนใน สงั คม
๖.) “ค าํ ทีท- ําใหเ้ กดิ รูป หรือรปู ทีเ- กิดจากค ํา หรือการนําค ํามา ๙. ข อ้ ใดตีความไดต้ รงก บั ข อ้ ความต่อไปนKี ๑ สรา้ งใหเ้ กดิ เปน็ รูปภาพซ-ึงตอ้ งอาศัยความคดิ สรา้ งสรรคท์ าง “ลาภยศถาบรรดาดีทีม- อี ยู่ ๒ ภาษาไทยผนวกก บั ความสามารถทางศิลปะ” หมายถึงอะไร ๓ 1. วรรณรูป 2. กลอนเปล่า 3. ไฮกุ 4. แคนโต้ รวยเลศิ หรูอยู่เรอื นทองสองลา้ นสาม ๔ ๗.) จงพจิ ารณาวา่ ข ้อความทีย- กมานKี เปน็ ลักษณะค ําประพนั ธ์ สมบ ัตมิ ากลากไมไ่ หวใครจะปราม ๕ ประเภทใด สดุ ท า้ ยหามแตร่ า่ งเนา่ เทา่ นัKนเอง” ๖ “สิ-งทีส- วยทีส- ดุ ในโลกนKมี ีอยู่ดาษดา 1. บางคนโชคดีได้ลาภยศและเงินทองโดยไม่มใี คร ทว่าส-งิ ที-สถาพรนัKนหาไดย้ าก ขวางได้ ความสวยสดุ ในวันนมKี ิได้หมายความถงึ ความสวยสดุ ของวันรงุ่ ขนKึ ...” 2.คนเราไม่ควรโลภมากเอาแตต่ กั ตวงความรํ-ารวย ในที-สุดก็แบกไมไ่ หว 1. ร้อยแก ้ว 2. กลอนเปล่า 3. สมบ ตั ทิ ังK หลายไม่ใชส่ -งิ จีรงั ย ั ง- ยืนคมวี าม 3. รา่ ยสุภาพ 4. วรรณรปู เปล-ียนแปลงอยูเ่ สมอ 4. คนเราเมอ-ื ถึงคราวตายก็เอาเกียรตยิ ศและ ๘.) จากข อ้ ความข ้อใดคือความสําค ัญตามเนือK ความต่อไปนKี ทรพั ย์สินติดตวั ไปไม่ได้ “ดรณุ สยามมคิ รา้ มอตุ ส่าห์ หท ยั จะหาวิชาประสงค์ ประเทศจะงามสยามจะยง จะมั-นจะคงเพราะเหตวุ ิชา” ๗ ๘ 1. เด็กฉลาด ชาติเจรญิ 2. เ ด็กขย นั สรรพวชิ าการ 3. ความอตุ สาหะของเดก็ ความมัน- คงของชาติ 4.การศึกษาของเด็ก ความเจรญิ ของประเทศ
๑๐.) ๑๑.) ข อ้ คิดสําค ญั ของบทประพนั ธ์ต่อไปนKคี อื ข อ้ ใด ๑ “ครคู ือใคร ท าํ ไม ใครฆ่าครูกระสุนพรูพุ่งทะลกั กระอกั กลKงิ “กจ็ ริงอยูผ่ ู ้หญงิ ใช่ดอกไม้ และกใ็ ชผ่ ู ช้ ายใชผ่ าหิน ๒ ชอลก์ ในมือหรือจะสู้ผู ร้ า้ ยยิงกระชากชงิ วญิ ญาณครผู ู ้อารี ตา่ งกค็ ือสิ-งทีม- ชี วี นิ อยบู่ นผนื แผ่นดินถิ-นเดียวก นั ” ๓ แสงเรอื งเรอื งริบหรที- ี-ภาคใต้ ศิษย์อยูไ่ หนครกู ็อยู่สูไ้ ม่หนี ๔ เงอKื มมอื มารฮกึ เหมิ เพิ-มทุกที ดบั แสงสพี ฒั นาปญั ญาชน 1. ผู ห้ ญงิ และผู ้ชายตา่ งกม็ ีชีวติ มธี รรมชาตทิ ี- เช้าวนั นไKี มม่ ีครูอยูห่ น้าหอ้ ง เสยี งกึกก ้องสดุดที วีผล ต่างก ัน ครูตายแตไ่ มต่ ายตามตัวตน ก ้องสากลอุดมการณ์ วญิ ญาณครู ธงชาติคลมุ ศพครผู ู ้หาญกล้า การศึกษาคืออะไรทีเ- หลอื อยู่ 2. ผู ้หญงิ และผู ช้ ายต่างก็มศี กั ด`ศิ รีของความเป็น รา่ งครูสอนความหมายตายให้ดู สอนใหร้ ู้รกั หวงแหนแผน่ ดินไทย มนุษย์เสมอก นั สดุดีวีรกรรมธรรมสถติ ครูคือก ัลยาณมิตรผู ้ยิ-งใหญ่ ครูคอื ผู เ้ สียสละชนะชยั ครูคอื แบบอยา่ งให้“หวั ใจคร”ู 3. ผู ห้ ญงิ และผู ้ชายต่างมีความเทา่ เทยี มก นั และตอ้ ง จากข ้อความข ้างต้น เมอ-ื ย่อความแลว้ จะไดข้ ้อความที-เปน็ พึง- พาอาศยั ก นั ใจความสําค ัญตามข อ้ ใด 4. ผู ้หญิงและผู ช้ ายมคี วามแขง็ แกร่งเทา่ เทยี มก นั 1.ครูคือวิชาชพี ที-สําค ญั ของสงั คมทีค- วรส่งเสริมและให้ขวญั ในฐานะสง-ิ มชี วี ิต ก าํ ลังใจ โดยเฉพาะครทู ีป- ฏบิ ัติหนา้ ที-ในจงั หวดั ชายแดน ๑๒.)บทประพันธ์ต่อไปนKสี ะท ้อนสง-ิ ใดในสงั คม ๕ 2.ครทู ี-ปฏิบ ตั หิ น้าที-ในจงั หวดั ชายแดนภาคใตเ้ สยี ชีวิตเปน็ จาํ นวนมากเพราะผู ก้ ่อการรา้ ย จนท ําใหเ้ กิดปญั หาขาดแคลนครู “สกั วนั หนง-ึ ดอกไม้งามจะบานพรั-ง ๖ สักวันหน-งึ คนจริงจงั จะหลากหลาย ๗ 3.ครทู ีเ- สยี ชีวติ ในเหตุการณ์ภาคใต้คอื ผู ้ยิ-งใหญ่ทีแ- ม้ตัวจะจาก สกั วนั หน-งึ คนดีดที ัKงหญงิ ชาย ๘ ไป แต่ก็ย งั เป็นบทเรยี นใหค้ นรนุ่ ตอ่ ไปไดร้ ู้รกั ประเทศไทย จะมีมามากมายในแผน่ ดิน” 4.ครูในจังหวดั ชายแดนภาคใต ้ ก ําลังหวั น- วิตกก ับ 1.การคาดหวังของสงั คม สถานการณท์ ีเ- กิดขนKึ แต่ก็จะย งั ท าํ หนา้ ทีต- อ่ ไปด้วยอดุ มการณ์ 2. การมคี นดเี พิม- ขึKนในสังคม ความเปน็ ครู 3. การเปลี-ยนแปลงของสงั คม 4. การขาดแคลนคนดีในสังคม
๑๓.) ค ําประพันธ์ในข ้อใดมงุ่ เสนอข อ้ เท็จจรงิ ไม่ใชก่ ารแสดง ใช้ค าํ ประพนั ธต์ อ่ ไปนตKี อบค ําถาขมอ้ ๑๖-๑๗ ๑ ความคดิ เหน็ ๒ หกโมงแล้ว แก ้ว โต ตืน- , ตืน- เดีmยวน.ิ.. ๓ 1. อันชาตใิ ดไรศ้ านตสิ ุขสงบ ตอ้ งมวั รบราญรอนหาผ่อนไม่ ดซู ิ บดิ ขเีK กียจ เหมือนลูกหมา ๔ 2. แมผ้ ู ใ้ ดไมน่ ยิ มชมสง-ิ งาม เมอ-ื ถงึ ยามเศร้าอุราน่าสงสาร พ่อกเ็ หมือนก นั แหม...นอนเปน็ พระยา ๕ 3. ใครดถู กู ผู ้ชํานาญในการชา่ งความคดิ ขวางเฉไฉไมเ่ ข ้าเร-อื ง ตื-นเถอะคา่ ...บอกใหต้ ื-น เฮ้อ! พูดยากจัง ๖ 4. ควรไทยเราชว่ ยบ ํารงุ วิชาช่าง เครือ- งสาํ อางแบบไทยสโมสร ๗ ฯลฯ ๘ “เขาหรอื เธอถนดั งานการขดุ ค น้ ยอมสูท้ นฝนและแดดทีแ- ผดเผา ๑๖.) ครอื- งหมาย “...” ในบทร้อยกรองทีค- ัดมานKี เพื-อเรียนรู้ส-ิงต่าง ๆ บ ้านเมืองเรา สามารถสอื- ความหมายได้วา่ อย่างไร ครKังก่อนเกา่ เรื-องเหล่านัKนเป็นฉ ันใด” 1. ใหผ้ ู อ้ ่านแบง่ ข ้อความที-จะอ่านต่อไป ๑๔.) บทกลอนนKกี ล่าวถึงอาชีพใด 2. ทิKงท า้ ยใหผ้ ู อ้ ่านคดิ ต่อ 1. วิศวกร 2. เกษตรกร 3. นกั โบราณคดี 4. นกั พฒั นาชุมชน 3. ชว่ ยเนน้ ข ้อความให้เด่นชดั ขKึน 4. ละข ้อความไวอ้ กี มากมาย “จากก ําเนิดตัวเปลา่ เท่าก ันหมดมาสูย่ ศศกั ดศ`ิ รีที-แตกตา่ ง จากความรวยจนชั ว- ดีท ั -วทาง มาสู่ข ้างหลุมเศรา้ เนา่ เหมือนก ัน ๑๗.) คร-ืองหมาย “ฯลฯ” ในบทร้อยกรองทีค- ดั มานKี มนษุ ยเ์ ท่าก นั ได้เมื-อตาย-เกิด ความดีเลศิ ชั ว- ช้าคอื ตรามั-น สามารถสื-อความหมายได้ว่าอยา่ งไร ไม่มสี ตั ว์โลกอื-นนบั หมน-ื พัน ครองชวี นั วนเศรา้ เทา่ นรชน 1. ใหผ้ ู ้อา่ นแบ่งข ้อความที-จะอ่านตอ่ ไป มนษุ ยร์ ู้จกั โลกโชคชวี ติ รูจ้ กั ผดิ ชอบชั ว- ดีท ั ว- ถล 2. ทิKงท ้ายให้ผู ้อา่ นคดิ ตอ่ ประหลาดเหลอื เมอ-ื รวู่ ่าชวี าวน ไยทกุ คนไมร่ ูท้ ําแตก่ รรมด”ี 3. ชว่ ยเน้นข ้อความใหเ้ ดน่ ชดั ขึKน 4. ละข อ้ ความไวอ้ กี มากมาย ๑๕.) กวนี พิ นธ์ข า้ งต้นมีคณุ คา่ ดา้ นใดเด่นชัดที-สดุ 1. คุณคา่ ทางภาษา 2. คณุ คา่ ทางสงั คม 3. คณุ คา่ ทางคตธิ รรม 3. คณุ ค่าทางการแพทย์
Search