Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงนการวิเคราะห์ข้อสอบ ปี ๖๒

รายงนการวิเคราะห์ข้อสอบ ปี ๖๒

Published by puttan.somsri, 2021-09-02 06:49:32

Description: รายงนการวิเคราะห์ข้อสอบ ปี ๖๒

Search

Read the Text Version

สารบัญ ๑ ๒ ความเปน็ มาและความสาคญั ของปัญหา ๒ วตั ถปุ ระสงค์ ๖ วธิ ดี าเนนิ การ ๗ ประโยชน์ทค่ี าดว่าจะไดร้ ับ ๘ ผลการวเิ คราะหข์ ้อสอบ อภปิ รายผล ๙ หนงั สอื อ้างองิ ภาคผนวก ก ขอ้ สอบวชิ า ท๒๑๑๐๒ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๑ หอ้ ง ๔,๕,๖,๗ ข ผลการวเิ คราะหข์ ้อสอบวชิ า ภาษาไทยเพม่ิ เตมิ (นิทานพนื้ บา้ น)

๑ ๑. ความเปน็ มาและความสาคัญของปญั หา หลกั สูตรการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔ ไดก้ าหนดแนวทางการประเมินผลการเรยี นตาม หลักสตู รในฐานะเป็นกลไกนาไปสู่การพัฒนาคณุ ภาพการศึกษา ได้กาหนดให้มีการวดั และประเมินผลในระดบั ต่าง ๆ คือ การวัดและประเมนิ ผลระดบั ช้นั เรียน มีจดุ มงุ่ หมายเพื่อดูความก้าวหนา้ ของผู้เรียนรายบคุ คลใน ดา้ นความรู้ ทักษะ พัฒนาการ และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์เพ่ือทราบปัญหาและอุปสรรคในการเรียนรู้ของ ผเู้ รยี นท่จี ะเป็นประโยชนต์ ่อการแก้ปญั หา และช่วยเหลอื ผ้เู รียน การประเมินระดับสถานศกึ ษา มีจุดมงุ่ หมาย เพื่อสรุปผลการเรียนรู้ของผเู้ รียน วา่ มผี ลการเรียนร้ตู ามที่คาดหวงั หรอื ไม่ หรอื มผี ลสัมฤทธิร์ ะดับใด เมอื่ สิน้ ภาคเรียน/สิ้นปกี ารศึกษา หรอื เม่ือจบชว่ งชน้ั เพ่ือการตัดสนิ ผลการเรียน และตดั สนิ การเลือ่ นชว่ งชั้น การ ประเมนิ คุณภาพการศึกษาระดับชาติ มจี ุดม่งุ หมายเพ่ือได้ข้อมลู ซ่งึ เปน็ ตัวบง่ ชี้คุณภาพการศึกษาของชาติใน ภาพรวม ซ่งึ จะเปน็ ประโยชนใ์ นการวางแผนพัฒนาคุณภาพการศกึ ษา และใชเ้ ป็นขอ้ มูลประกอบการตดั สินใจ เก่ยี วกับนโยบาย ดงั นน้ั จดุ มุ่งหมายของการจัดการศึกษา คือพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามความคาดหวัง กระบวนการ จัดการเรียนรู้จึงมุ่งที่จะส่งเสริมให้ผู้เรียนแต่ละคนได้พัฒนาอย่างเต็มตามศักยภาพ การประเมินการเรียนรู้ที่ สามารถสนองตอบเป้าประสงค์ดังกล่าวก็คือการประเมินในระดับช้ันเรียนและเพ่ือให้การประเมินในชั้นเรียนมี ประสิทธิภาพ ผู้ทาหน้าท่ีประเมินจะต้องคานึงถึงเคร่ืองมือวัดผลการเรียนรู้ที่วัดได้เท่ียงตรง(Validity)มีความ ยากง่ายปานกลาง มีอานาจจาแนกสูง และมีความเช่ือมั่น(Reliability)สูง เพ่ือให้การวัดและประเมินผลการ เรียนรู้ตอบสนองต่อเป้าประสงค์ของหลักสูตร ในอันท่ีจะพัฒนาผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้อย่างเต็ม ศกั ยภาพ การวเิ คราะห์ข้อสอบจงึ เป็นวธิ ีทจ่ี ะตรวจสอบคุณภาพเคร่ืองมือวัดผลการเรียนรู้หรือข้อสอบ ให้ได้ มาตรฐาน การวิเคราะห์ข้อสอบ (Item Analysis) คือกระบวนการตรวจสอบคุณภาพของข้อสอบแต่ละข้อ ซึ่ง พิจารณาถึงระดับความยาก ง่าย ระดับอานาจจาแนก ตลอดจนประสิทธิภาพตัวลวง (ในกรณีที่เป็นข้อสอบ แบบเลือกตอบ)แล้วจึงคัดเลือกข้อสอบที่มีคุณภาพตามที่ต้องการเพื่อใช้ทดสอบต่อไป(บุญเรียง ขจรศิลป์. ๒๕๒๗:๘๑) ในด้านการเรียนการสอน ใช้ผลการวิเคราะห์ข้อสอบรายข้อ ในการตรวจสอบคุณภาพของ ขอ้ สอบ ผลการวิเคราะห์ข้อสอบรายข้อ ทาให้มีประโยชน์ต่อการเรียนการสอนคือทาให้รู้คุณภาพของข้อสอบ และสามารถปรับแก้ไข ข้อสอบได้ตรงเพื่อให้ได้ข้อสอบที่มีคุณภาพเช่น ข้อสอบท่ียากไป ข้อสอบมีอานาจ จาแนกหรือไม่ ใช้ภาษาถูกต้องหรือไม่ ตัวลวงบางตัวเลือกมีประสิทธิภาพหรือไม่ เป็นต้น ซ่ึงคุณภาพของ ข้อสอบดูจากคา่ ความยากงา่ ย (p) คา่ อานาจจาแนก (r) และดจู ากประสิทธิภาพตัวลวง และจากค่าความยาก ง่าย (p) ค่าอานาจจาแนก (r) และประสิทธิภาพตัวลวง ทาให้ครูต้องปรับข้อสอบแต่ละข้อให้ดีข้ึน ช่วยให้ครู เขยี นข้อสอบได้ดขี ึน้ และสามารถนาข้อสอบมาใช้ได้อีก เมื่อมีการวิเคราะห์ข้อสอบ ผลการวิเคราะห์ข้อสอบท่ี เกบ็ ไว้ สามารถนาข้อสอบมาใช้ได้อกี และนาขอ้ สอบมาใช้เหมาะสมกับกลุ่มนกั เรียนทเี่ ข้าสอบ เชน่

๒ ออกข้อสอบเพอ่ื สอบปกติ ก็คัดเลือกข้อสอบท่ีความยากง่ายปานกลาง คา่ อานาจจาแนกสูง ,ออกข้อสอบเพ่ือ สอบเรียนต่อ ก็คดั เลือกข้อสอบท่มี ีความยากงา่ ยเป็น ยากหรอื ค่อนข้างยาก,ออกข้อสอบเพ่ือสอบซอ่ ม ก็ คัดเลือกขอ้ สอบที่มีความยากงา่ ยเปน็ งา่ ยหรือคอ่ นข้างง่ายเปน็ ต้น ผ้รู ายงานจึงไดด้ าเนนิ การวเิ คราะหข์ ้อสอบ โดยใช้สอบวดั ผลชนิดเลอื กตอบ ตัวเลอื กวชิ า ภาษาไทย เพม่ิ เติม ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๖ จานวน ๑๐ ข้อ โดยใชก้ ระดาษคาตอบของนักเรยี นชน้ั ม.๖ จานวน ๑ หอ้ ง เพื่อตรวจสอบคุณภาพของขอ้ สอบซงึ่ จะนาไปสู่การปรบั ปรุงและพฒั นาข้อสอบที่มีคุณภาพที่มคี วาม เท่ียงตรง(Validity)มคี วามยากง่ายปานกลาง มอี านาจจาแนกสงู และมีความเชือ่ มนั่ (Reliability)สูง และดู ประสิทธิภาพตัวลวง ๒. วตั ถุประสงค์ ๑. เพอ่ื วิเคราะห์ขอ้ สอบวัดผลกลางภาคเรียนที่ ๒/๒๕๖๓ วชิ า ภาษาไทยพน้ื ฐาน ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ ๑ ๒. เพอ่ื รายงานผลการวิเคราะห์ขอ้ สอบกลางภาคเรียนที่ ๒/๒๕๖๓ วิชา ภาษาไทยพื้นฐาน ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ ๑ ๓. วิธีดาเนนิ การ ๓.๑ กล่มุ เปา้ หมาย ทใี่ ช้ในการศึกษาในคร้นั น้ี ได้แก่ นักเรยี นชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๖ โรงเรียนรามวิทยา รชั มคั ลาภิเษก อาเภอเมืองสรุ ินทร์ จงั หวัดสรุ นิ ทร์ ภาคเรียนท่ี ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ จานวน ๑๗๕ คน กลุ่มตัวอย่างเป็นการสุ่มตวั อยา่ ง อยา่ งงา่ ย ได้แกน่ ักเรยี นชั้น ม ๑ จานวน ๑๗๕ คน ๓.๒ ข้อมูลทีเ่ กบ็ รวบรวม การดาเนนิ การครัง้ นี้ ม่งุ วิเคราะห์ข้อสอบท่ีใชส้ อบกลางภาค จงึ ใช้กระดาษคาตอบของนักเรียนชนิดเลอื กตอบ เพอื่ ตรวจสอบคุณภาพของขอ้ สอบมคี วามเที่ยงตรง (Validity) และมีความเชอ่ื มนั่ (Reliability) ความยากง่าย(p ) คา่ อานาจจาแนก(r) และดจู ากประสิทธิภาพตวั ลวง ๓.๓ เครื่องมือทีใ่ ช้ ���กระดาษคาตอบของนักเรยี นชน้ั ม.๑ จานวน ๔ ห้อง ท่ีสอบวดั ผลกลางภาค วชิ า ภาษาไทยเพ่ิมเตมิ (นิทานพ้นื บา้ น) จานวน ๔๐ ขอ้

๓ ๓.๔ การวิเคราะห์และการแปลความหมาย วิธีการวเิ คราะหข์ ้อสอบ วิธีการวเิ คราะหข์ ้อสอบ สามารถทาได้ ๒ วิธี ได้แก่ ๑) วิเคราะหข์ ้อสอบแบบองิ กลมุ่ เป็นการวิเคราะห์ขอ้ สอบโดยตรวจกระดาษคาตอบแลว้ เรียงคะแนนจากสงู ไปหาต่า แบง่ กระดาษออกเป็นกลมุ่ สงู กลมุ่ กลาง และกลุ่มต่า นากระดาษคาตอบของกลุ่ม สูงและกล่มุ ต่ามาตรวจนบั (Tally) การตอบแตล่ ะตัวเลือก หาค่าสถติ ิ ๒) วิเคราะห์ขอ้ สอบอิงเกณฑ์ เปน็ การวเิ คราะหข์ ้อสอบโดยตรวจกระดาษคาตอบใหค้ ะแนน วิเคราะห์ทีละจุดประสงค์ โดยแตล่ ะจดุ ประสงค์ นกั เรยี นท่ีสอบผา่ นเป็น “กลุ่มรอบรู้” นักเรียนทีส่ อบไม่ผา่ น เป็น “กลมุ่ ไม่รอบรู้” ทาการตรวจนบั (Tally) การตอบแต่ละตัวเลือก หาค่าสถิติ การวิเคราะหข์ อ้ สอบแบบอิงกลุม่ ดว้ ย“โปรแกรมวเิ คราะห์ข้อสอบ”วิเคราะหไ์ ด้จากการคยี ์ คาตอบจากกระดาษคาตอบของนักเรียน โดย การเรยี งคะแนนจากสงู ไปหาต่า แลว้ แบง่ กลุม่ ดังนี้ ๑. หากจานวนกระดาษคาตอบอยู่ในช่วง ๑ ถึง ๔๐ ใชเ้ ทคนิคการแบง่ กลุ่มรอ้ ย ละ ๕๐ มี ๒ กรณี ���กรณจี านวนกระดาษคาตอบเป็นเลขคู่ ไมม่ ีกลุ่มกลาง เช่น กระดาษคาตอบ ๖ แผ่น แบ่งเปน็ กล่มุ สงู ๓ แผน่ และกลมุ่ ต่า ๓ แผ่น เป็นต้น ���กรณีจานวนกระดาษคาตอบเป็นเลขค่ี มีกลุ่มกลาง ๑ แผ่น(ตัดทิ้งไม่นามาวเิ คราะห์- ขอ้ สอบ) เช่น กระดาษคาตอบ ๗ แผ่น แบ่งเปน็ กลมุ่ สงู ๓ แผน่ กลุ่มตา่ ๓ แผ่น และกลมุ่ กลาง ๑ แผ่น เปน็ ต้น ๒. หากจานวนกระดาษคาตอบอยู่ในชว่ ง ๔๑ ถึง ๑๕๐ ใช้เทคนคิ การแบ่งกลุม่ ร้อยละ ๓๓.๓๓ จะมี ๓ กลุ่ม ไดแ้ ก่ กลมุ่ สูง กลุม่ ตา่ และกลุม่ กลาง(ตัดทง้ิ ไมน่ ามาวิเคราะห์ ขอ้ สอบ) เช่น กระดาษคาตอบ ๔๑ แผ่น แบง่ ได้กล่มุ สูง ๑๓ แผ่น กลมุ่ ตา่ ๑๓ แผ่น กระดาษคาตอบที่ เหลือเป็นกล่มุ กลาง ๑๕ แผ่น เปน็ ต้น ๓. หากจานวนกระดาษคาตอบมากกวา่ ๑๕๐ ข้ึนไป ใช้เทคนิคการแบง่ กลุ่มร้อยละ ๒๗ จะมี ๓ กลุ่ม ไดแ้ ก่ กลุ่มสูง กล่มุ ตา่ และกลุม่ กลาง (ตัดท้ิงไมน่ ามาวเิ คราะห์ข้อสอบ) เชน่ กระดาษคาตอบ ๑๕๑ แผน่ แบ่งไดก้ ลมุ่ สูง ๔๐ แผ่น กลุ่มต่า ๔๐ แผน่ กระดาษคาตอบที่เหลือเปน็ กลุ่มกลาง ๗๑ แผน่ เปน็ ตน้ ๔. ตอ่ จากนน้ั โปรแกรมฯ จะตรวจนบั (Tally) ตัวเลอื กใน แตล่ ะขอ้ ท้ังกลุม่ สูงและกลุ่มตา่ แล้วหาคา่ ความยากง่าย(p) คา่ อานาจจาแนก(r) ประสทิ ธิภาพตวั ลวง และผลสรปุ ขอ้ สอบรายข้อ ๕. ตอ่ จากน้นั โปรแกรมฯ จะหา สถติ พิ ้นื ฐานขอ้ สอบท้งั ฉบบั ไดแ้ ก่ คะแนน ต่าสุด คะแนนสงู สดุ คะแนนเฉล่ีย สว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าความเชอ่ื มน่ั สมั ประสิทธิก์ ารแปร ผนั คา่ เฉลย่ี ความยากง่าย และค่าเฉลีย่ อานาจจาแนก หมายเหตุ ๑) กระบวนการตามขอ้ ๔. เป็นกระบวนการวิเคราะห์ข้อสอบรายขอ้ ผลทไี่ ดส้ ามารถนาไปพฒั นา ปรับปรุงขอ้ สอบใหม้ ีคุณภาพ นาไปส่กู ารสรา้ งข้อสอบมาตรฐาน และนาไปสู่การสร้างธนาคารข้อสอบ ๒) กระบวนการตามข้อ ๕. เป็นกระบวนการหาคา่ สถิติ ขอ้ สอบทั้งฉบับ ผลที่ได้สามารถนาไปใช้ ในการวจิ ัย เพือ่ สรปุ ว่าเคร่ืองมือทสี่ รา้ งมคี ุณภาพเพยี งใดโดยดูจากคา่ สถิตทิ ่ีได้ ถ้าเครื่องมือยงั ไมม่ ี

๔ คณุ ภาพ สามารถปรบั ข้อสอบรายข้อ ตามผลทไ่ี ด้จากกระบวนการข้อ ๕. แลว้ ทดลองวิเคราะห์ข้อสอบใหม่ เพอ่ื ให้ได้เครอ่ื งมือมีคุณภาพดีย่งิ ขึ้น และ สามารถนาไปใชเ้ ป็นเคร่ืองมือในการวิจัยตอ่ ไป วิเคราะห์ข้อสอบแบบอิงเกณฑ์ การวเิ คราะห์ขอ้ สอบแบบอิงเกณฑ์มีหลายวิธี สาหรบั โปรแกรมวิเคราะห์ข้อสอบนี้ เปน็ การวิเคราะห์ข้อสอบโดยตรวจกระดาษคาตอบใหค้ ะแนน แยกจุดประสงค์ ให้คะแนนรวม คะแนน เฉลย่ี แล้ววเิ คราะหท์ ีละจดุ ประสงค์ โดยแตล่ ะจุดประสงค์ นักเรยี นทส่ี อบผ่านเปน็ “กลุม่ รอบรู้” นกั เรยี น ท่ีสอบไม่ผา่ นเป็น “กลมุ่ ไม่รอบรู้” ทาการตรวจนับ (Tally) การตอบแต่ละตวั เลือก หาคา่ สถติ ิหากมีข้อมลู จากการตรวจกระดาษให้คะแนนตั้งแต่ ๕ คนขนึ้ ไป สามารถวิเคราะห์ข้อสอบแบบอิงเกณฑ์ได้ทันที ตาม ขั้นตอนต่างๆ ดังน้ี ๑. กาหนดเกณฑ์ผา่ น (จุดตัด) ของแตล่ ะจดุ ประสงค์ ซ่ึงกาหนด ได้ ๒ แบบ ได้แก่ กาหนดตามแนวคิดของ Sheehand and Davis และกาหนดเป็นร้อยละ ๒. วเิ คราะห์ข้อสอบแบบองิ เกณฑจ์ ุดประสงค์ใด ก็เรยี งคะแนนรวมในจุดประสงคน์ นั้ จากสงู ไปหาตา่ แลว้ แบ่งกล่มุ เป็น ๒ กลมุ่ โดยที่หากคะแนนมากกวา่ หรอื เท่ากับเกณฑผ์ า่ น (จดุ ตัด) เป็น “กลมุ่ รอบ รู้” หากคะแนนน้อยกว่าเกณฑ์ผ่าน (จุดตดั ) เป็น “กลุ่มไมร่ อบรู้” ต่อจากน้นั โปรแกรม จะตรวจนับ (Tally) ขอ้ สอบรายข้อท้งั กล่มุ รอบรู้และกลุ่มไม่รอบรู้ แล้วหาค่าความยากงา่ ย(p) คา่ อานาจจาแนก B-index (B) ประสทิ ธิภาพตวั ลวง และผลสรปุ ข้อสอบรายขอ้ จนครบทุกจุดประสงค์ ๓. การหาสถติ พิ ้ืนฐานข้อสอบทัง้ ฉบบั ไดแ้ ก่ คะแนนต่าสดุ คะแนนสูงสดุ คะแนน เฉลี่ย ส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐาน คา่ ความเช่ือมั่น สัมประสิทธ์ิการแปรผนั ค่าเฉลยี่ ความยากงา่ ย และค่าเฉลย่ี อานาจจาแนก หมายเหตุ ๑) เมอื่ กาหนดเกณฑ์ผา่ น (จุดตัด) เปลี่ยนไป ผลการวิเคราะห์ ขอ้ สอบจะเปล่ยี นตามไป ด้วย การกาหนดเกณฑ์ผ่าน(จุดตัด)มากไป หรอื น้อยไปอาจทาใหไ้ ม่มี “กลมุ่ รอบรู้” หรอื ไม่มี “กลุ่มไมร่ อบ รู้” ซงึ่ จะทาให้ ไม่มผี ลการวเิ คราะห์ข้อสอบ ๒) กระบวนการตามข้อ ๒. เป็นกระบวนการวิเคราะห์ข้อสอบรายข้อ ผลท่ีได้สามารถนาไป พฒั นาปรับปรุงข้อสอบให้มคี ุณภาพนาไปสกู่ ารสร้างข้อสอบมาตรฐานและนาไปสูก่ ารสร้างธนาคารข้อสอบ ๓) กระบวนการตามข้อ ๓. เปน็ กระบวนการหาคา่ สถิติ ขอ้ สอบท้ังฉบบั ผลทีไ่ ด้สามารถ นาไปใช้ในการวิจยั เพ่ือสรุปวา่ เครอื่ งมอื ท่ีสร้างมคี ุณภาพเพยี งใด โดยดจู ากค่าสถิตทิ ี่ได้ ถ้าเครื่องมือยังไม่มี คณุ ภาพ สามารถปรบั ข้อสอบรายขอ้ ตามผลที่ไดจ้ ากกระบวนการข้อ ๒. แล้วทดลองวเิ คราะห์ข้อสอบใหม่ เพอ่ื ใหไ้ ดเ้ ครอื่ งมอื มีคุณภาพดียงิ่ ขึน้ และสามารถนาไปใชเ้ ป็นเครอ่ื งมือในการวิจยั ตอ่ ไป ข้อสงั เกต การวิเคราะหข์ ้อสอบแบบอิงกลมุ่ กบั การวิเคราะห์ข้อสอบแบบ อิงเกณฑ์ ไม่สามารถนา ผลการวิเคราะห์ข้อสอบมาเปรียบเทียบกนั ได้ เพราะเปน็ คนละทฤษฎี และสูตรในการหาคา่ สถิตกิ ็คนละสตู ร ๓.๕ สถิติทีใ่ ช้ การพจิ ารณาประสิทธิภาพตวั ลวง และเกณฑก์ ารเลือกข้อสอบท่ีมคี ุณภาพ ดังน้ี

๕ ความยากง่าย (Difficulty) หมายถงึ ค่าทแ่ี สดงว่าเครอ่ื งมอื นัน้ หรอื แบบทดสอบนั้นมีความ ยากหรอื ความง่ายเพียงใด แบบทดสอบที่ดี ควรมีค่าความยากงา่ ยปานกลาง การพจิ ารณาความยากง่ายของ - แบบทดสอบรายขอ้ หาได้จากสูตรดังนี้ เมอื่ p แทน ความยากง่ายของขอ้ สอบ H แทน จานวนคนทตี่ อบถกู ในกลมุ่ สูง L แทน จานวนคนทต่ี อบถกู ในกลุม่ ต่า N แทน จานวนคนในกลมุ่ สงู และกล่มุ ต่ารวมกนั คา่ ความยากง่ายจะมีคา่ อยรู่ ะหว่าง ๐.๐๐ ถงึ ๑.๐๐ โดยท่ี ถ้า ๐.๐๐ <= p < ๐.๒๐ แสดงวา่ ขอ้ สอบยากมาก ถ้า ๐.๒๐ <= p <๐.๔๐ แสดงว่า ข้อสอบคอ่ นข้างยาก ถา้ ๐.๔๐ <= p <= ๐.๖๐ แสดงวา่ ขอ้ สอบยากงา่ ยปานกลาง ถา้ ๐.๖๐ < p <= ๐.๘๐ แสดงว่า ขอ้ สอบคอ่ นขา้ งงา่ ย ถา้ ๐.๘๐ < p <= ๑.๐๐ แสดงว่า ขอ้ สอบงา่ ยมาก อานาจจาแนก (Discrimination) หมายถงึ ค่าท่แี สดงว่าเคร่ืองมือ หรอื แบบประเมินสามารถแยก นกั เรยี นเก่งและออ่ นได้ โดยคนเกง่ จะตอบถูก ส่วนคนอ่อนจะตอบผิด การพจิ ารณาอานาจจาแนกของ แบบทดสอบเป็น รายขอ้ แต่ละข้อหาได้จากสตู รดังนี้ เม่อื r แทน อานาจจาแนกของขอ้ สอบ H แทน จานวนคนทีต่ อบถกู ในกล่มุ สูง L แทน จานวนคนทีต่ อบถูกในกลุม่ ต่า N แทน จานวนคนในกลมุ่ สงู และกล่มุ ต่ารวมกัน คา่ อานาจจาแนกจะมคี ่าอยรู่ ะหว่าง –๑.๐๐ ถงึ ๑.๐๐ โดยทถี่ า้ ขอ้ สอบมีอานาจจาแนกเปน็ บวก แสดง วา่ ขอ้ สอบข้อนั้นจาแนกไดถ้ ้าข้อสอบมีอานาจจาแนกเป็น ลบ แสดงว่า ขอ้ สอบข้อนน้ั จาแนกตรงกันข้าม ถา้ ข้อสอบมีอานาจจาแนกเป็น ศูนย์ แสดงว่า ข้อสอบข้อนั้นไมม่ ีอานาจจาแนก หรือจานวนนักเรยี นตอบถูกใน กลุ่มสงู และจานวนนักเรียนตอบถูกในกลุ่มต่ามีจานวนเทา่ กนั ข้อสอบท่ีมีอานาจจาแนก ไดแ้ ก่ ข้อสอบท่ีมีคา่ อานาจจาแนกมากกว่าหรอื เท่ากับ ๐.๒๐ ประสทิ ธภิ าพตวั ลวง ตวั ลวง หมายถึง ตัวเลอื กที่ผิด ตวั ลวงทีด่ ีควรมลี กั ษณะดังน้ี ๑) มีคนเลือกอย่างน้อยร้อยละ ๕ ๒) จานวนคนในกล่มุ สูงเลอื กนอ้ ยกว่ากล่มุ ต่า เกณฑ์การเลอื กข้อสอบท่มี ีคุณภาพ พิจารณาจากสิ่ง ตอ่ ไปนี้ ๑) ความยากงา่ ย ควรมคี ่าอย่รู ะหวา่ ง ๐.๒๐ – ๐.๘๐

๖ ๒) อานาจจาแนก ควรมคี า่ ต้ังแต่ ๐.๒๐ ขนึ้ ไป การพจิ ารณาด้วยรปู ก จะทาใหพ้ จิ ารณาไดช้ ดั เจนขน้ึ r 1 0.2 0.4 0.6 0.8 แทน ขอ้ สอบ ใชไ้ ด้ แทน ข้อสอบ พอใชไ้ ด้ แทน ขอ้ สอบ ใช้ไมไ่ ด้ ๔. ประโยชน์ที่คาดวา่ จะไดร้ ับ ๑) ทาใหร้ ูค้ ณุ ภาพของข้อสอบ และสามารถปรบั แก้ไข ข้อสอบได้ตรงเพื่อใหไ้ ดข้ ้อสอบที่มคี ณุ ภาพ เช่น ขอ้ สอบที่ยากไป ขอ้ สอบมอี านาจจาแนกหรือไม่ ใช้ภาษาถูกต้องหรือไม่ ตวั ลวงบางตวั เลือกมี- ประสทิ ธิภาพหรือไม่ เปน็ ตน้ ซึ่งคณุ ภาพของขอ้ สอบดจู ากค่าความยากงา่ ย (p) ค่าอานาจจาแนก (r) และดู จากประสิทธิภาพตวั ลวง ๒) จากคา่ ความยากง่าย (p) คา่ อานาจจาแนก (r) และประสทิ ธภิ าพตัวลวง ทาใหค้ รูต้องปรบั - ขอ้ สอบแตล่ ะข้อให้ดีขน้ึ ช่วยใหค้ รเู ขียนข้อสอบไดด้ ขี นึ้ ๓) สามารถนาข้อสอบมาใชไ้ ด้อีก เมื่อมีการวิเคราะหข์ ้อสอบ ผลการวิเคราะห์ขอ้ สอบท่ีเก็บไว้ สามารถนาข้อสอบมาใช้ได้อีก และนาข้อสอบมาใช้เหมาะสมกับกลมุ่ นักเรยี นทเี่ ขา้ สอบ เช่น ออกข้อสอบเพื่อ สอบปกติ ก็คัดเลือกข้อสอบที่ความยากงา่ ยปานกลาง คา่ อานาจจาแนกสูง ,ออกข้อสอบเพ่อื สอบเรยี นตอ่ ก็ คดั เลอื กข้อสอบท่ีมคี วามยากง่ายเปน็ ยากหรอื ค่อนขา้ งยาก,ออกข้อสอบเพ่ือสอบซ่อม ก็คัดเลือกขอ้ สอบที่มี ความยากง่ายเป็นงา่ ยหรือคอ่ นข้างง่ายเป็นตน้ ข้อเสนอแนะ ๑. ควรกาหนดใหค้ รดู าเนินการวเิ คราะห์ข้อสอบทั้งระดบั ชั้นเนอื่ งจากใช้ข้อสอบฉบับเดยี วกัน ทงั้ ระดบั มผี ลตอ่ ค่าสถิติ

๗ ๒. ก่อนสอบ ๑ เดอื นไมค่ วรมีกิจกรรมหนัก เพราะจะมผี ลตอ่ ประสิทธิภาพผ้เู รียน ทาให้ไมม่ ีสมาธใิ น การเตรียมความพร้อม หรืออ่านหนงั สอื

เอกสารอา้ งอิง การศกึ ษาทางไกล, สถาบนั , ชุดการเรยี นทางไกล หลักสูตรการวิจัยเพ่อื การพฒั นาการเรยี นร.ู้ กรุงเทพมหานคร : คุรสุ ภาลาดพร้าว,๒๕๔๙ บญุ เรียง ขจรศิลป์. หลักการวัดและประเมนิ ผลการศกึ ษา. กรงุ เทพมหานคร : ภาควชิ าการศกึ ษา คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์,๒๕๒๗. เพลนิ พศิ สุพพัตกลุ .รายงานการวิเคราะห์ข้อสอบกลางภาคเรยี น ท๔๑๑๐๑. เอกสารสาเนา,๒๕๕๑ เพลนิ พศิ สุพพตั กุล .รายงานการวิเคราะหข์ ้อสอบปลายภาคเรยี น ท๔๑๑๐๑. เอกสารสาเนา,๒๕๕๑ ธีรวฒั น์ สพุ พัตกุล, เพลินพิศ สพุ พัตกลุ . การวิจัยในชน้ั เรยี น. กรงุ เทพมหานคร : อกั ษราพพิ ัฒน์, ๒๕๔๖ ธีรวฒั น์ สพุ พตั กลุ . วเิ คราะห์ข้อสอบ.กรงุ เทพมหานคร : อักษราพิพฒั น์,๒๕๕๑ สมศักด์ิ ภวู่ ิภาคดาวรรธน.์ การยึดผเู้ รียนเปน็ ศนู ย์กลางและการประเมินตามสภาพจริง. เชยี งใหม่ : THE KNORLEDGE CENTER, ๒๕๔๕ เอกรนิ ทร์ ส่ีมหาศาล, สดุ ปรารถนา ยุกตะนนั ทน์. การออกแบบเครอ่ื งมอื วดั และประเมินผล- ตามสภาพจรงิ . นนทบรุ ี : ไทยรม่ เกลา้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook