ชดุ กิจกรรมหนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๕ เร่ือง ราชาธิราช ครูผสู้ อน คณุ ครูพุดตาล สมศรี ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๑ โรงเรียนรามวิทยา รชั มคั ลาภิเษก
ชดุ กจิ กรรมสาหรบั การสอนระหวา่ วนั ท่ี ๔-๘ มกราคม ๒๕๖๔ ใบงานที่ ๕.๑ เรื่องการอ่านจบั ใจความสาคัญ คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นสรุปใจความสาคัญให้ถกู ต้อง ลกู แกะหลงฝงู กบั หมาป่ า ลกู แกะตวั หน่งึ หลงฝงู วง่ิ เตลดิ ไปพบกบั หมาป่า ขณะกาลงั จะถกู จบั กนิ ลกู แกะเหน็ จวนตวั ไมม่ ี ทางหนีพน้ จงึ แขง็ ใจยนื เผชญิ หน้า พรอ้ มออกอบุ ายวา่ “ไหนๆ ขา้ กจ็ ะตอ้ งกลายเป็นอาหารของท่านอย่างไมม่ ที างหลกี เลย่ี งไดแ้ ลว้ กอ่ นตายขา้ อยาก ฟังเสยี งป่ี และเตน้ ราเป็นครงั้ สดุ ทา้ ย ขอท่านชว่ ยอนุเคราะหด์ ว้ ยเถดิ ”หมาป่านึกสนุกจงึ เป่าป่ีดว้ ยทานองเรา้ ใจ หมาเฝ้าฝงู แกะตวั หน่งึ วงิ่ มาตามเสยี ง ครนั้ เหน็ ลกู แกะกาลงั ตกอย่ใู นอนั ตรายจงึ เห่าเรยี กพรรคพวกของมนั ดว้ ย เหตุน้หี มาป่าตอ้ งรบี ทง้ิ ป่ีวง่ิ หนไี ปดว้ ยความเสยี ดาย ที่มา http://www.nitarn.com/index.php/นิทานอสี ป-12.html เพื่อนกนิ ส้นิ ทรพั ยแ์ ลว้ แหนงหนี หาง่าย เพื่อนตาย หลายหม่นื มี มากได้ หายาก ถา่ ยแทนชี- วาอาตม์ ฝากผีไข้ ยากแท้จักหา (โคลงโลกนติ ิ : กรมพระยาเดชาดิศร)
เอกสารใบงาน ที่ ๕.๒ ตวั อยา่ งบตั รคา อาสา อุปราช ร้องป่าว พระนคร ทัว่ ทหาร ไมม่ ี ผใู้ ด เป็น เสนาบดี ประโยค ทหารร้องปา่ วท่ัวพระนคร ไม่มผี ใู้ ดอาสาเป็นอุปราช ความหมายของประโยค ทหารประกาศไปทว่ั เมืองแลว้ แตไ่ มม่ ีใครอาสามาเปน็ อปุ ราช คือ ผู้ทม่ี สี ิทธ์ิ ในราชสมบตั ิ
ใบงานท่ี ๕.๒ การสรปุ เนือ้ หา ตอน สมงิ พระรามอาสา คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นสรุปวรรณคดเี รื่อง ราชาธริ าช ตอน สมิงพระรามอาสา ตอนทีก่ ล่มุ รับผดิ ชอบ แลว้ ปฏบิ ัตกิ จิ กรรมตามทีก่ าหนด ๑. สรปุ เร่อื งย่อตอนท่ีอ่าน ๒. สรุปความรแู้ ละความคิดจากตอนที่อ่าน ๓. อธบิ ายตวั ละครท่ีมีพฤตกิ รรมท่ีนา่ ตาหนมิ ากท่ีสุดในตอนท่ีอา่ น ๔. อธบิ ายตวั ละครที่มีพฤตกิ รรมทน่ี า่ ยกย่องมากที่สุดในตอนที่อา่ น ๕. บอกวิธปี ฏบิ ตั ิในการศกึ ษาเนื้อเรอ่ื งตอนที่อา่ นเพ่ือใหไ้ ด้ผลดที ี่สุด
ใบงานที่ ๕.๓ การวิเคราะหแ์ ละอธิบายคณุ คา่ ตอน สมงิ พระรามอาสา คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นอ่านวรรณคดเี รื่อง ราชาธิราช ตอน สมิงพระรามอาสา แล้ววิเคราะหแ์ ละอธบิ าย คณุ ค่า ๑. วิเคราะหร์ ูปแบบ เนื้อหา และลักษณะการประพันธ์ของเร่ือง ๒. อธบิ ายคุณคา่ ของเร่ืองตอนที่นา่ ประทับใจและมีคณุ คา่ ๓. อธิบายคุณคา่ ดา้ นวรรณศิลป์
๔. อธิบายคุณค่าดา้ นสงั คม ๕. มคี วามคาดหวังอย่างไรต่อการศึกษาวรรณคดเี รอื่ ง ราชาธิราช ตอน สมงิ พระรามอาสา และไดผ้ ล ตามความคาดหวังหรอื ไม่ เพราะเหตุใด
ใบความรปู้ ระกอบแผนการสอยท่ี ๕.๕ การอา่ นเชิงวิเคราะห์ การอา่ นเชิงวเิ คราะหเ์ ป็นการอา่ นหนังสอื แต่ละเล่มอย่างละเอียดให้ได้ความครบถ้วน แล้วจึง แยกแยะใหไ้ ดว้ า่ ส่วนต่างๆ นั้นมีความหมายและความสาคัญอย่างไรบา้ ง แตล่ ะดา้ นสัมพันธก์ บั สว่ นอนื่ ๆ อยา่ งไร วธิ ีอ่านแบบวิเคราะห์น้ี อาจใชว้ เิ คราะหอ์ งคป์ ระกอบของคาและวลี การใชค้ าในประโยค วิเคราะห์ สานวนภาษา จุดประสงค์ของผ้แู ตง่ ไปจนถึงการวิเคราะห์นัย หรอื เบ้ืองหลังการจดั ทาหนังสือหรอื เอกสารนัน้ การวิเคราะห์เรื่องที่อ่านทกุ ชนดิ ส่ิงทจ่ี ะละเลยไม่ได้ คือ การพจิ ารณาถงึ การใช้ถอ้ ยคา สานวนภาษาวา่ มี ความเหมาะสมกับระดบั และประเภทของงานเขียนหรือไม่ เชน่ ในบทสนทนาก็ไม่ควรใช้ภาษาท่เี ป็นแบบแผน ควรใช้สานวน ให้เหมาะสมกับสภาพจรงิ หรือเหมาะแก่กาลสมยั ทเ่ี หตุการณ์ในหนงั สือน้นั เกดิ ขนึ้ เปน็ ต้น ดงั นนั้ การอ่านวิเคราะห์จึงต้อง ใชเ้ วลาอา่ นมาก และยิง่ มีเวลาอ่านมากก็ยิง่ มีโอกาสวิเคราะห์ไดด้ ีมากข้ึน การอา่ นในระดบั นตี้ ้องรู้จักตง้ั คาถามและจดั ระเบียบเร่ืองราวทอ่ี ่านเพ่ือจะไดเ้ ขา้ ใจเร่ืองและความคิดที่ผเู้ ขยี น ต้องการ กระบวนการวเิ คราะห์การอ่าน ๑. พจิ ารณารปู แบบของงานประพนั ธว์ า่ ใช้รปู แบบใด อาจเป็นนิทาน บทละคร นวนยิ าย เรอ่ื งสั้น บทร้อยกรอง หรอื บทความจากหนังสอื พิมพ์ ๒. แยกเน้ือเรอ่ื งออกเป็นส่วนๆ ใหเ้ ห็นวา่ ใครทาอะไร ทไ่ี หน อย่างไร เมื่อไร ๓. แยกพิจารณาแตล่ ะส่วนให้ละเอยี ดลงไปวา่ ประกอบกนั อยา่ งไร หรอื ประกอบดว้ ยอะไรบา้ ง ๔. พจิ ารณาใหเ้ ห็นวา่ ผู้เขยี นใหก้ ลวธิ เี สนอเรื่องอย่างไร ขน้ั ตอนการอ่านเชิงวเิ คราะห์ ๑. การอา่ นวเิ คราะห์คา การอา่ นวเิ คราะห์คา เปน็ การอา่ นเพ่ือใหผ้ ู้อา่ นแยกแยะถอ้ ยคาในวลี ประโยคหรือข้อความต่างๆ โดยสามารถบอกได้วา่ คาใดใชอ้ ยา่ งไร ใชผ้ ิดความหมาย ผดิ หนา้ ทีไ่ มเ่ หมาะสม ไมช่ ัดเจนอยา่ งไร ควรจะต้อง หาทางแก้ไขปรบั ปรุงอย่างไร เชน่ - อย่าเอาไปใช้ทบั กระดาษ - ทนี่ ร่ี ับอดั พระ - เขาท่องเท่ียวไปทว่ั พิภพ - เจ้าอาวาสวดั น้ีมรณกรรมเสียแล้ว ๒. การอ่านวเิ คราะห์ประโยค การอา่ นวิเคราะห์ประโยค เป็นการอา่ นเพ่ือแยกแยะประโยคต่างๆ วา่ เปน็ ประโยคที่ถูกต้อง ชัดเจนหรอื ไม่ใชป้ ระโยคผิดไปจากแบบแผนของภาษาอยา่ งไร เป็นประโยคที่ถกู ต้องสมบูรณ์เพยี งใดหรอื ไม่ มี หน่วยความคิดในประโยคขาดเกินหรือไม่ เรียงลาดบั ความในประโยคท่ใี ชไ้ ด้ถกู ต้องชัดเจนหรือไม่ ใช้ฟมุ่ เฟอื ย โดยไม่จาเป็นหรอื ใชร้ ูปประโยคทส่ี อ่ื ความหมายไม่ชดั เจนหรอื ไม่ เมอื่ พบข้อบกพร่องตา่ งๆ แลว้ กส็ ามารถแกไ้ ข ให้ถูกต้องได้ เชน่
- สุขภาพของคนไทยไม่ดีสว่ นใหญ่ - การแก้ปัญหาจราจรในกรุงเทพฯ เกิดการจลาจล - ทกุ คนย่อมประสบความสาเรจ็ ทา่ มกลางความขยันหม่นั เพยี ร - เขามกั จะเป็นหวัดในทกุ คร้ังทีฝ่ นเรม่ิ ตก 3. การอ่านวิเคราะหท์ ัศนะของผแู้ ตง่ ผูอ้ า่ นต้องพิจารณาไตรต่ รองใหร้ อบคอบวา่ ผเู้ ขียนเสนอทัศนะมีน้าหนกั เหตุผลประกอบ ขอ้ เทจ็ จริงน่าเชื่อถือ เพียงใด เปน็ คนมองโลกในแง่ใด เป็นตน้ 4. การอ่านวิเคราะห์รส การอา่ นวิเคราะหร์ ส หมายถึง การอ่านอยา่ งพิจารณาถึงความซาบซึ้งประทบั ใจท่ีไดจ้ ากการอ่าน วธิ ีการที่จะ ทาใหเ้ ขา้ ถงึ รสอย่างลึกซึ้ง คอื การวเิ คราะห์รสของเสยี งและรสของภาพ ๔.๑ ดา้ นรสของเสียง ผอู้ ่านจะรสู้ กึ ได้ชัดจากการอ่านออกเสยี งดังๆ ไม่วา่ จะเป็นการอ่านอย่าง ปกติหรอื การอ่านทานองเสนาะ จึงจะช่วยให้รูส้ ึกถงึ ความไพเราะของจงั หวะและความเคลื่อนไหวซง่ึ แฝงอยใู่ น เสียง ทาใหเ้ กิดความร้สู ึกไปตามทว่ งทานองของเสยี งสูงต่าจากเนอ้ื เร่ืองท่ีอา่ น ๔.๒ ดา้ นรสของภาพ เม่ือผู้อา่ นอา่ นแลว้ เกดิ ความเขา้ ใจเรือ่ ง ในขณะเดยี วกนั ทาใหเ้ หน็ ภาพดว้ ย เปน็ การสร้างเสริมใหผ้ ู้อา่ นได้เขา้ ใจความหมาย การเขยี นบรรยายความดว้ ยถอ้ ยคาไพเราะท้งั ร้อยแกว้ และรอ้ ย กรอง ก่อใหเ้ กดิ ภาพขึ้นในใจผู้อ่าน ทาใหเ้ กิดความเพลดิ เพลินและเข้าใจความหมายของเร่ืองได้ดยี งิ่ ข้ึน ๕. การอ่านเพือ่ วเิ คราะห์ขอบเขตของปัญหาและการตีความเน้อื หาของขอ้ ความ การอ่านเชิงวิเคราะห์ ยงั มสี ิ่งที่ตอ้ งพจิ ารณา คือ การวเิ คราะห์ขอบเขตของปัญหา และการ ตีความเนือ้ หาของหนังสือ มีรายละเอียดดังน้ี ๕.๑ การวเิ คราะห์ขอบเขตของปัญหา มีหลกั ปฏิบตั ดิ ังน้ี ๑) จดั ประเภทหนงั สอื ตามชนิดและเน้ือหา หนังสอื แตล่ ะประเภทมีวธิ อี ่านต่างกัน ก่อนอ่าน ต้องวิเคราะห์ให้รู้วา่ หนงั สอื เล่มน้ันอยู่ในประเภทใด การแบ่งประเภทจะดูแตช่ ือ่ เร่ืองหรือลักษณะภายนอก เพียงอย่างเดียวไม่ไดต้ ้องสารวจเน้ือหาดว้ ย อย่างไรก็ตาม ช่อื เรื่องเป็นส่งิ แรกท่ีใชเ้ ป็นแนวทางได้ เพราะผเู้ ขียน ยอ่ มต้องพยายามตัง้ ช่ือเร่อื งใหต้ รงแนวเขยี นหรอื จุดม่งุ หมายในการเขียนของตนใหม้ ากท่ีสดุ ๒) สรุปใหส้ น้ั ทสี่ ดุ ว่า หนงั สือนน้ั กลา่ วถึงอะไร หนงั สือท่ีดีทุกเล่มต้องมีเอกภาพ มีการจัดองค์ประกอบ ของส่วนย่อยอยา่ งมีระเบียบ ผู้อ่านต้องพยายามสรปุ ภาพดังกลา่ วออกมาเพียง ๑-๒ ประโยคว่า หนังสือเล่มนนั้ มีอะไรเป็นจดุ สาคัญหรอื เปน็ แก่นเร่ือง แล้วจึงหาความสัมพนั ธก์ บั ส่วนสาคัญต่อไป ๓) กาหนดโครงสังเขปของหนังสือ เมื่ออ่านต้องตง้ั ประเดน็ ด้วยวา่ จากเอกภาพของหนงั สือเล่มนัน้ มี สว่ นประกอบสาคญั อะไรบา้ ง ส่วนทสี่ าคัญๆ สัมพนั ธก์ ันโดยตลอดหรือไม่ และแต่ละส่วนกม็ ีหน้าที่ของตน สนับสนุนซึง่ กนั และกนั หรือไม่ ๔) กาหนดปัญหาทผ่ี ู้เขียนตอ้ งการแก้ ผู้อ่านควรพยายามอ่านและค้นพบวา่ ผู้เขยี นเสนอปญั หาอะไร อยา่ งไร มีปัญหาย่อยอะไร และใหค้ าตอบไวต้ รงๆ หรอื ไม่ การตัง้ ปญั หาเปน็ วธิ ีการหน่ึงทจี่ ะ ทาใหเ้ ขา้ ใจเร่อื งแจม่ แจ้ง ยิง่ ตั้งปัญหา ได้กวา้ งขวางลึกซึ้งเพียงใด ยิง่ เข้าใจไดเ้ พ่มิ ข้นึ เพยี งนน้ั ๕.๒ การตีความเนื้อหาของหนงั สอื การตีความเป็นสิ่งทผ่ี ู้อ่านทาความเขา้ ใจความคิดของ
ผู้เขียน พจิ ารณาวตั ถุประสงค์ของผ้เู ขียน ซง่ึ บางคร้งั ผู้เขียนไมไ่ ด้บอกความหมายหรือนัยของข้อความท่เี ขยี น ออกมาตรงๆ แต่ผอู้ า่ นตอ้ งอาศัยความรูค้ วามเข้าใจบรบิ ทของเร่อื งเปน็ อยา่ งดี จึงจะตีความได้ถกู ต้อง การทา ความเขา้ ใจความคดิ ของผเู้ ขียนน้ัน ไม่วา่ ความคิดจะถกู ตอ้ งหรอื ไม่ เราจะเห็นด้วยหรือไม่กต็ าม แตก่ าร พยายามเขา้ ใจเชน่ นัน้ ทาใหเ้ ราไม่วจิ ารณผ์ เู้ ขยี น อย่างไมย่ ุตธิ รรมแต่จะพิจารณาท้ังข้อดี ข้อบกพร่องของงาน เขียนนัน้ อย่างแจ่มแจ้ง การตีความเน้ือหาของหนังสอื มีรายละเอียดต่างๆ ดงั นี้ ๑) ตคี วามหมายของคาสาคญั และค้นหาประโยคสาคัญทสี่ ุด ผ้อู ่านต้องพยายามเขา้ ใจคา สาคญั และเข้าใจประเดน็ ทีส่ าคญั ทผี่ เู้ ขียนเสนอ เพ่อื เข้าใจความคดิ ของผเู้ ขียน ๒) สรุปความคิดสาคัญของผูเ้ ขียน โดยพิจารณาวา่ ประโยคใดเป็นเหตุ ประโยคใดเปน็ ผล ประโยคใดเปน็ ขอ้ สรุป ซึ่งบางครง้ั ผูเ้ ขียนไม่ได้สรุปความคดิ ออกมาให้เหน็ ชัดเจนแต่ผู้อา่ นตอ้ งพยายามสรุป ออกมาให้ได้ ๓) ตดั สินวา่ อะไร คอื การแกป้ ัญหาของผเู้ ขียน เม่ือผู้อ่านตีความสาคญั ใหต้ รงกบั ผเู้ ขยี น เขา้ ใจความคิดสาคัญของผู้เขียน และสรุปความคดิ ของผู้เขียนไดแ้ ล้ว ผู้อา่ นกจ็ ะวเิ คราะหห์ รอื ตัดสินได้วา่ จาก เรื่องราวหรอื เหตุผลต่างๆ ที่ผู้เขยี นนามาเสนอน้นั มคี วามสมเหตสุ มผลหนกั แนน่ นา่ เชือ่ ถือไดห้ รือไม่เพียงใด เพ่ือนาไปสูก่ ารวิจารณห์ นังสอื เร่ืองนัน้ ๆ ต่อไป การพจิ ารณาหนงั สอื การพจิ ารณาหนังสอื เป็นการประเมนิ คุณคา่ หนังสือดา้ นต่างๆ ถา้ ผู้อา่ นรูห้ ลักการประเมินจะทาให้ การอา่ นหนงั สือ มคี ุณคา่ และความหมายมากย่งิ ขนึ้ เมอื่ อา่ นแล้วสามารถแสดงความคดิ เหน็ เชิงประเมินคุณค่า ของหนังสือได้อยา่ งมหี ลกั เกณฑ์ ผู้อา่ นจะเข้าใจหนงั สือนั้นไดอ้ ย่างลกึ ซง้ึ และการพจิ ารณาหนังสือของตนจะมี ประโยชนแ์ ก่ผอู้ น่ื ดว้ ย หนงั สือมีหลายประเภทให้เลอื กอา่ น แตล่ ะประเภทก็มีรายละเอียดหรอื โครงสรา้ ง แตกตา่ งกันไปตามลักษณะของหนังสือประเภทน้นั ๆ ในทนี่ ี้จะนาเสนอการพิจารณาหรอื ประเมนิ คุณคา่ ของ หนงั สือ บทความหรือเรอื่ งราวตา่ งๆ ทผี่ เู้ รยี นจะต้องเรยี นหรอื อ่าน ในชวี ติ ประจาวนั ดงั น้ี ๑. การอ่านพจิ ารณาคอลัมน์ตา่ งๆ จากหนังสือพิมพ์ หนังสือพมิ พเ์ ปน็ หนังสือท่ีคนจานวนมากอ่านเป็นประจาทุกวัน มีคอลมั น์หลากหลาย การอ่าน หนงั สือพิมพ์มีแนวการพิจารณาประเด็นต่างๆ ดังนี้ ๑.๑ การพาดหัวข่าว เปน็ การต้ังชื่อขา่ วใหก้ ะทัดรดั และพมิ พด์ ว้ ยตวั อกั ษรใหญ่เป็นพิเศษ เพ่อื ดึงดูดความสนใจ การพาดหวั ข่าวทด่ี มี ีลกั ษณะดงั น้ี ๑) หัวขา่ วตรงกับสาระของข่าว ผู้เขียนขา่ วไม่ควรพาดหัวขา่ วไมต่ รงกบั เนื้อหาสาระของ ข่าวเพอื่ เรยี กร้องความสนใจ ๒) หัวข่าวใช้ภาษาทก่ี ะทดั รัด เข้าใจงา่ ย ไม่ควรใช้ภาษาที่ก่อใหเ้ กิดความเข้าใจผิด และ ใชค้ าผดิ ความหมายเพียงเพ่ือผลประโยชนท์ างการขาย โดยไมค่ านึงถึงคณุ ค่าทางภาษา เชน่ - ทพั กีฬาพิการหวงั ๓๐ ทอง - เปิดตัวกนิ ปุ๋ยวดั ใจนายก - ห่นื รมุ สงั ฆกรรมสาวรุ่น ๑.๒ เนอื้ หาของข่าว มีแนวพิจารณาดังน้ี ๑) เน้ือหาข่าวทีด่ ี ต้องเป็นข่าวจรงิ ตามเหตกุ ารณ์ทเ่ี กิดขน้ึ ไม่ควรมีความคดิ เหน็ หรือเพม่ิ เนอื้ หาตามใจผเู้ ขียนเพอื่ ใหผ้ ู้ฟังชน่ื ชอบ ขา่ วทีด่ ตี ้องเป็นข่าวทสี่ ง่ ผลกระทบต่อคนหมู่มากหรือสว่ นรวม เช่น
ขา่ วการเมือง การเลือกตั้ง ขา่ วการปกครอง ข่าวสังคม ข่าวเศรษฐกจิ ขา่ วการประกอบอาชพี หรือข่าวเกยี่ วกับ การอนามยั เปน็ ต้น ไม่ควรเป็นข่าวของคนใดคนหน่งึ เพ่ือยกยอ่ งเชดิ ชู โดยมุง่ หวังประโยชนส์ ว่ นตนเปน็ ทีต่ ง้ั และต้องเปน็ ข่าวท่ีไม่ทาลายความมน่ั คงของชาติ ความสงบสขุ ของประชาชนและศลี ธรรมอันดีงาม ๒) ภาษาทใ่ี ชค้ วรเปน็ ภาษาสุภาพ ไม่ควรใช้ภาษาหยาบคาย ๓) การเลา่ เหตุการณใ์ นขา่ วควรเลา่ ตามลาดบั ตัง้ แต่ต้นจนจบ ไมป่ ิดบงั อาพรางมเี งื่อนงา สลบั ซบั ซ้อน ๔) การเลา่ เหตุการณ์ทกุ ตอนตอ้ งอ้างอิงหลักฐานท่ีมา สถานทเี่ วลา รวมถงึ บุคคลทเี่ กย่ี วขอ้ ง เพ่อื ใหผ้ อู้ ่านทราบรายละเอียดและมีความเช่ือถือในข่าว การปกปดิ สถานที่ ชอ่ื หรือนามของบุคคล ควรเป็นไป เพอ่ื ความบริสทุ ธใ์ิ จท่ีปกปอ้ งผบู้ ริสทุ ธิ์ ผูเ้ ยาว์หรอื เป็นจรรยาบรรณของหนงั สอื พิมพ์ ๑.๓ การพจิ ารณาบทความในวารสารหนังสือพิมพ์ มดี งั น้ี บทความในวารสารและหนงั สือพิมพ์ สว่ นใหญเ่ ก่ยี วข้องกับคนหมูม่ ากและ แสดงความคดิ เห็นของผู้เขียนอย่างเต็มท่ี บทความที่ดีควรมีลกั ษณะดังนี้ ๑) ผเู้ ขยี นบทความต้องเปน็ ผู้ท่รี ู้เรื่องทเี่ ขียนอย่างถ่องแท้ มีข้อมูลสามารถอ้างอิงได้ ๒) ผู้เขยี นบทความต้องแสดงความคดิ เหน็ โดยอาศัยข้อเทจ็ จริงและเหตุผลอ่นื ๆ ประกอบ อย่างกวา้ งขวาง การแสดงความคิดเห็นเป็นไปอย่างบริสุทธ์ิใจ ไม่ใช้ความรสู้ ึกของตนเองเป็นตัวกาหนดเพียง อย่างเดยี ว การแสดงความคดิ เห็นนน้ั ควรเปน็ ไปในทางสรา้ งสรรค์และไมอ่ คตลิ าเอยี ง ๓) การวจิ ารณ์ของผเู้ ขียนบทความ ตอ้ งตั้งอย่บู นหลักการ การตาหนิไมค่ วรเน้นท่ตี ัวบคุ คล แต่เนน้ ที่วธิ ีการหรอื หลักการ ควรช้ใี ห้เหน็ ปญั หาและเสนอแนวทางแกป้ ัญหาอยา่ งถูกตอ้ ง นอกจากนร้ี ปู แบบ การเขียนและการใชภ้ าษา ควรมีความถูกต้องเข้าใจงา่ ย ไม่ใช้ถอ้ ยคาทสี่ ่อเสียดหยาบคาย ๑.๔ การพจิ ารณาคอลัมน์อื่นๆ มวี ิธกี ารพิจารณาดังน้ี นอกจากข่าวและบทความแล้ว วารสารหรือหนังสือพมิ พย์ งั มอี ีกหลายคอลัมน์ เชน่ บันเทิงคดี ประกาศ โฆษณา ความรตู้ ่างๆ การพิจารณาคณุ ค่าในแตล่ ะคอลมั น์ ควรพิจารณาเรื่องการใช้ ภาษาการเขียน และคุณค่าทไ่ี ด้รบั จากการอา่ น เปน็ ต้น ๒. การพิจารณาหนังสือประเภทสารคดี สารคดี ไดแ้ ก่ หนังสอื ที่ให้แนวความรู้ตา่ งๆ เชน่ ด้านปรัชญา ตรรกวิทยา การศกึ ษา ควรพจิ ารณาในด้าน ตา่ งดงั นี้ ๒.๑ เน้ือหาสาระ มคี วามถูกต้องสมบรู ณ์ตามหลกั วิชาหรอื ไม่ เรื่องนามาเขียนมี สาระประโยชน์เพียงใด เหมาะสาหรับผอู้ า่ นระดับใด ๒.๒ วธิ เี สนอหนงั สอื อาจเสนอเป็นความเรยี งวชิ าการ มีการคน้ ควา้ หาความรู้อ้างอิงประกอบ หรือเสนอเปน็ บันทึกของผ้เู ขียน เล่าประสบการณ์ของตนหรือเสนอเป็นจดหมายใหโ้ ต้ตอบ ควรพิจารณา วา่ ผ้เู ขียนมีวิธีเขียนทีช่ วนอา่ น เขา้ ใจง่ายหรือไม่ สานวน ภาษาสื่อความหมายได้แจม่ แจ้งหรอื ไม่ เหมาะแก่ ระดับของผู้อ่านตามความต้งั ใจของผู้เขยี นหรือไม่ เพยี งใด ๒.๓ การวางเคา้ โครงเรือ่ ง เค้าโครงเรอ่ื งทเ่ี ขียนจะตอ้ งมีการจัดลาดับอย่างมรี ะเบียบ จึงควร พิจารณาว่าผเู้ ขยี นสามารถทาให้ความสาคญั ๆ เช่อื มโยงต่อเน่ืองกนั ได้ดีเพียงใด มีการเรยี งลาดบั ความ
ยากงา่ ยเพ่ือช่วยความเขา้ ใจของ ผ้อู า่ นหรือไม่ ๒.๔ สว่ นประกอบของหนงั สือ ส่วนประกอบต่างๆ ของหนังสือได้แก่ คานา สารบัญดัชนี บรรณานกุ รม อภิธานศัพท์ สามารถชว่ ยใหผ้ ้อู า่ นเขา้ ใจความสาคัญของหนังสือได้รวดเร็ว ควรพจิ ารณาวา่ หนังสือน้ันๆ มีส่วนประกอบอานวยประโยชนด์ งั กลา่ วหรอื ไม่ ๒.๕ วฒุ ิและประสบการณ์ของผเู้ ขียน หนังสือสารคดีบางเล่มจะมปี ระวตั ิยอ่ วุฒิและ ประสบการณ์ของ ผู้เขียนบอกไวด้ า้ นหลัง รายละเอียดดังกล่าวจะชว่ ยให้ผู้อา่ นสามารถวินจิ ฉยั ไดด้ ีย่งิ ขึ้น วา่ เรอื่ งนั้นๆ มคี ุณคา่ น่าเชือ่ ถือหรอื ไม่ ๒.๖ คณุ ภาพการพมิ พ์และการออกแบบรูปเลม่ สิง่ ทชี่ ใี้ หเ้ หน็ คณุ ภาพของหนังสอื เช่น การจัด หวั เรอ่ื งทาให้ สื่อความไดช้ ัดเจน การพิสูจน์อกั ษรถกู ต้อง การออกแบบรูปเล่มเหมาะสมน่าอา่ น ๓. การพจิ ารณาหนงั สือประเภทบันเทงิ คดี หนังสือประเภทบนั เทิงคดี อาจมีวิธีการพิจารณาในด้านต่างๆ ดังน้ี ๓.๑ แก่นของเร่ืองหรือแนวเร่ือง หมายถึง แนวคดิ สาคัญของผเู้ ขียน ซึ่งเปน็ หัวใจของเรื่อง ๓.๒ การวางโครงเร่ือง หมายถงึ การผกู เร่ืองให้มตี ัวละครและเหตุการณ์เชือ่ มโยงสมั พนั ธก์ นั ตั้งแตต่ น้ จนจบเร่อื ง ซงึ่ จะต้องสอดคล้องกบั แกนของเร่ืองท่ีผแู้ ตง่ วางแนวไว้และต้องดาเนินไปอยา่ ง สมเหตุสมผล ๓.๓ ตวั ละคร ตวั ละครอาจมนี อ้ ยหรอื มากแล้วแตค่ วามประสงค์ของผแู้ ต่ง การเสนอตวั ละคร ท่นี า่ สนใจตอ้ งเป็นตัวละครท่ีมลี ักษณะนิสัยและพฤตกิ รรมที่มีความสมจริง คอื เป็นบุคคลท่อี าจหาไดใ้ นชวี ิต จริง มใิ ช่ดหี รือเลวจนผิดมนษุ ย์ธรรมดา นอกจากนน้ั พฤติกรรมตา่ งๆ ของตัวละคร ควรสะท้อนภาพชวี ิตจรงิ ของสงั คมตามความเปน็ จริงด้วย ๓.๔ ฉาก เป็นส่วนท่ชี ่วยทาให้บรรยากาศของเร่อื งเปน็ ไปอยา่ งสมจรงิ ซ่ึงผูเ้ ขยี นจะต้อง บรรยายให้ตรงกับความเปน็ จริงหรอื อยู่ในวิสัยท่เี ปน็ จริงได้ 3.5 สานวนภาษาและลลี าในการเขยี น นักเขยี นจะมีสานวนหรือลลี าการเขยี นเปน็ แบบฉบับ ของตน ดงั นน้ั ผู้วจิ ารณ์จะต้องพิจารณาใหถ้ ่องแท้วา่ ผ้เู ขียนมีลีลาการเขียนอยา่ งไร ๓.๖ สารจากผ้เู ขียน สารทผ่ี ู้เขียนให้ หมายถงึ ขอ้ คดิ หรอื บางส่ิงบางอย่างที่ผู้เขียนฝากไว้ให้ ซึง่ ผอู้ ่านอาจไดร้ บั แตกต่างกนั ไปตามแต่ประสบการณ์ของผู้อา่ น ควรฝกึ ทักษะให้ไว ต่อการรับสารของผเู้ ขยี น และตีความเขา้ ใจ เพอื่ ให้การอา่ นเรื่องบนั เทิงคดมี ีรสชาตมิ ากยิง่ ขน้ึ 4. การพจิ ารณาหนงั สอื ประเภทร้อยกรองหรือกวนี พิ นธ์ หนังสือประเภทร้อยกรองหรอื กวนี ิพนธ์ มวี ธิ ีการพิจารณาดังนี้ ๔.๑ รูปแบบของฉันทลักษณ์ คือ ลกั ษณะบังคบั ของบทรอ้ ยกรองแต่ละประเภทซ่งึ ตา่ งกัน ควรพิจารณาความถูกต้องของรูปแบบฉนั ทลักษณน์ ้นั ๆ เป็นเกณฑ์ ๔.๒ ความคดิ เหน็ และเน้ือหาสาระในบทกวี บทกวที ี่ดจี ะต้องมีเนื้อหาสาระท่แี สดงความนกึ คดิ อนั มคี ุณค่าแก่ชีวติ บทกวบี างบทใหค้ วามรู้สึกสะเทือนอารมณ์ในดา้ นต่างๆ เช่น อารมณ์รัก อารมณ์เศรา้ อารมณ์โกรธ ฯลฯ บางบท ให้คตเิ ตอื นใจ ให้ความรเู้ รื่องตา่ งๆ เป็นต้น จงึ ควรพิจารณาให้ถี่ถว้ นวา่ กวใี ห้ ความคิดอะไรแกผ่ ู้อา่ นบ้างและมเี นื้อหาสาระอยา่ งไร
๔.๓ กลวธิ ีการแต่งหรอื วรรณศลิ ป์ กลวิธีในการแต่งหรือวรรณศิลปน์ ี้อาจพิจารณาไดจ้ ากการ เลือกคามาใช้ให้เหมาะสมกับความ การเล่นเสยี งดว้ ยสมั ผสั สระ พยัญชนะ การใช้โวหารแบบตา่ งๆ การใช้ สญั ลกั ษณ์ ซึง่ กวแี ต่ละคนจะมกี ลวิธแี ต่งแตกตา่ งกันไปเปน็ เฉพาะตน ๔.๔ รสของบทร้อยกรอง หมายถงึ ความรสู้ ึกที่เกิดขนึ้ แกผ่ ู้อา่ น เมื่อถ้อยคาสานวน หรือ เรอื่ งราวในบทร้อยกรองนนั้ ๆ มากระทบอารมณผ์ ู้อา่ น อาจใหค้ วามรสู้ ึกทางด้านความรัก ความเศรา้ ความ ตน่ื เต้น ฯลฯ แล้วแตล่ ักษณะของบทร้อยกรองและอารมณ์ของผู้อ่านขณะน้ัน ๔.๕ สารจากบทร้อยกรอง บทรอ้ ยกรองก็มีสารของผูแ้ ตง่ ฝากไว้เชน่ กัน ดังน้ันจงึ ควรพจิ ารณา ใหถ้ ีถ่ ้วน เพ่ือรบั สารจากผู้เขียนไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ การประเมนิ คุณคา่ ของหนงั สือไมว่ ่าประเภทใด ผู้ประเมนิ ควรอา่ นหนังสอื นน้ั ๆ อยา่ งละเอียดและ พิจารณาทั้งจดุ ดแี ละจดุ ดอ้ ยของหนังสือด้วยใจเปน็ ธรรม ปราศจากอคติ ซึ่งเมอ่ื ได้อา่ นหนังสอื มากๆ และฝกึ การวิเคราะห์ตลอดจน มีการประเมินคุณคา่ ของหนังสอื อยู่เสมอแลว้ กจ็ ะชว่ ยให้มีวญิ ญาณในการอ่านหนังสือ และอ่านหนังสอื อย่างมีอรรถรสยิง่ ข้ึน ท่มี า กรมวชิ าการ. การจัดสาระการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ตามหลักสูตรการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๔๔ พ.ศ.๒๕๔๖
ตัวอย่าง การวิเคราะห์วจิ ารณ์หนังสอื นวนยิ าย “เขาช่อื กานต์” ผแู้ ต่ง สุวรรณี สคุ นธา (นามปากกา) นามจริง สวุ รรณี สุคนธเ์ ที่ยง ขนาด ๔๔ ตอนจบ ตีพิมพโ์ ฆษณาเผยแพรเ่ ป็นครั้งแรกในนิตยสาร “สตรีสาร” รายสปั ดาห์ พ.ศ. ๒๕๑๓ โครงเร่ือง ตัวละครเอกของเรื่องน้คี ือ กานต์ เป็นผูท้ ่จี รงิ จงั ต่อชวี ติ ถืออดุ มคตทิ ี่จะทาตนให้เป็นประโยชน์ตอ่ ผู้อ่ืน โดยเฉพาะชาวบา้ นที่ขาดแคลนด้านฐานะหรอื ด้านการศึกษา กานต์มาจากครอบครวั ที่ยากจนมพี นื้ เพเดิมอยู่ที่ จังหวัดห่างไกลแห่งหนึ่ง แตไ่ ด้พยายามจนเลา่ เรยี นสาเร็จเป็นนายแพทย์ ขณะทเ่ี รียนอยู่น้นั กานต์บงั เอิญได้ พบเจอกบั หฤทยั ในวนั ฝนตกวันหนึ่ง เขารสู้ กึ ประทบั ใจในเธอมาก แต่ไม่มีโอกาสได้ทาความรูจ้ กั กนั ตอ่ มาเมอ่ื กานต์เรยี นสาเรจ็ และเปน็ นายแพทย์ฝกึ หัดอยู่ท่ีโรงพยาบาลแหง่ หนง่ึ หมอกานต์ได้มโี อกาสพบหฤทัยอีกครัง้ หน่ึง เธอมารบั การรักษาพยาบาล เขาจาเธอได้ทันที และไดเ้ อาใจใส่เธอระหว่างเจ็บป่วยเปน็ อย่างดี ทาให้เขา ทงั้ สองรู้จักสนิทสนมกันมากขึ้น สว่ นหฤทยั นน้ั กาพรา้ บดิ าและฐานะไมร่ า่ รวย แตก่ ไ็ ม่ไดร้ บั ความลาบากเปน็ อย่างไร เพราะมารดาทา รา้ นขายอาหาร มีรายไดส้ ่งเสียเพียงพอใหเ้ ธอได้รบั การศึกษาชน้ั อดุ มศึกษาได้ ขณะท่ีหฤทัยเรียนอยใู่ น มหาวทิ ยาลยั นนั้ เธอมีความสัมพันธ์อยู่กับเพื่อนชายร่วมสถาบันคนหนึง่ ช่อื โตมร เปน็ ผูม้ ีฐานะทางครอบครัว เขา้ ขั้นเศรษฐี โดดเดน่ ในหมเู่ พ่ือนฝูงและมีความปราดเปรยี วสนุกสนาน ไม่จริงจงั ต่อชวี ิต ใชช้ วี ิตอย่างบคุ คล เจา้ สาราญ แมห้ ฤทยั กับโตมรจะสนิทสนมคุ้นเคยกันมาก แต่อปุ นิสยั และการปฏบิ ตั ติ นของโตมรทาให้หฤทยั ไม่ ม่ันใจนักวา่ โตมรมคี วามรสู้ กึ จรงิ จังตอ่ เธอเพียงไร ครนั้ เมื่อหมอกานตผ์ ู้มอี ุปนิสยั ทุกอย่างตรงขา้ มกบั โตมรขอ แต่งงานกบั เธอ เธอจึงตดั สินใจแตง่ งานกับเขาในขณะทโ่ี ตมรท่องเทีย่ วสาราญอยู่ในต่างประเทศ ภายหลงั ทแี่ ต่งงานแลว้ หมอกานตไ์ ดพ้ าเจ้าสาวของเขาคือ หฤทัย ไปอยู่อาเภอ ซ่ึงทรุ กนั ดารหา่ งไกลความ เจริญแห่งหนึ่ง และได้ใช้วชิ าความรรู้ ักษาพยาบาลประชาชนในอาเภอน้นั ตามอุดมคติของเขา แตน่ ายอาเภอผเู้ ป็น เจา้ หน้าทชี่ ั้นผใู้ หญ่ของอาเภอนนั้ เปน็ ผู้ท่ีเหน็ แกป่ ระโยชน์ส่วนตวั มกั ใช้อิทธิพลในทางมิจฉาทฐิ ิ ให้อภสิ ทิ ธิ์แก่คน บางกลุ่มและให้ความไม่เป็นธรรมกับบุคคลสว่ นใหญ่ ขา้ ราชการทกุ คนในอาเภอตอ้ งยอมอยู่ใต้อทิ ธิพลของ เขา ไมเ่ ช่นนั้นจะไม่มีโอกาสมีชวี ติ ปรกตสิ ุขอยไู่ ด้ หมอกานตจ์ ึงถูกเพ่งเลง็ วา่ “แขง็ ” กับตน แต่ในขณะเดยี วกัน ผลงานของเขากป็ ระจกั ษ์แก่ประชาชนพอ่ ค้าและเพ่ือนขา้ ราชการ ทาใหเ้ ขาเป็นทีน่ บั ถือของคนเหล่าน้นั พอสมควร หฤทัยอยู่กบั หมอกานต์ชั่วระยะหนง่ึ ก็ขอกลับไปเย่ยี มมารดาทีก่ รงุ เทพฯ ในระหวา่ งทห่ี ฤทัยมาเย่ียม มารดานน้ั ได้กลบั ไปมีความสัมพนั ธ์เที่ยวเตร่กับโตมรอีกคร้ังหนึ่งและไดร้ บั อบุ ัตเิ หตเุ น่ืองจากรถยนต์ชนขณะ ไปเทีย่ วกับโตมรจนสมองไดร้ ับการกระทบกระเทือนมาก ทาใหค้ วามจาเสื่อมไปช่ัวระยะหน่ึง ส่วนหมอกานต์ นนั้ เขาตอ้ งเดินทางไปมาระหว่างอาเภอทเ่ี ขาทางานกับกรุงเทพฯ เพือ่ มาเยย่ี มหฤทยั ทป่ี ่วยอยูท่ โี่ รงพยาบาล ขณะเดยี วกนั นั้นกานตไ์ ดร้ บั ความย่งุ ยากในการทางาน เนอื่ งจากการท่ีเขาเปน็ คนตรงและเชดิ ชูอุดมคตไิ มย่ อม อ่อนน้อมต่อนายอาเภออิทธิพลผู้นน้ั ในทางท่ีตนเหน็ วา่ ไม่สมควร ประจวบกบั ขณะน้นั หมอกานต์ได้รบั คาสัง่ ยา้ ย จึงทาให้นายอาเภอเข้าใจผิดวา่ ทกุ อย่างท่ีเกดิ ข้ึนนัน้ เป็นเพราะหมอกานตเ์ ข้ากรุงเทพบ่อยๆ คงจะนาเรือ่ ง ของตนเสนอเจา้ สงั กัด จงึ ไดว้ างแผนที่จะจากดั หมอกานตเ์ สยี ขณะน้นั โตมรกม็ ีแผนการทจี่ ะแยกหฤทยั จาก หมอกานต์โดยพยายามใหห้ มอกานต์ได้รับทนุ ไปดูงานตา่ งประเทศเสยี ระหว่างท่ีหมอกานต์ยังตัดสนิ ไม่ได้ว่าจะ รบั ทุนดหี รอื จะลาออกจากราชการน้นั หฤทยั ได้แสดงความจานงท่จี ะกลบั ไปอยู่กบั เขาท่ีบา้ นตา่ งจงั หวัดอย่าง เดิม แตห่ มอกานต์กโ็ ดนลอบยิงตายขณะเดินทางกลบั ไปยังอาเภอทเ่ี ขาทางานอยูน่ ัน่ เอง
คณุ ค่าของเรอื่ ง (ประมวลจากความเหน็ ของคณะกรรมการ) “เขาช่ือกานต์” มีลักษณะเป็นนวนยิ ายสมจริงทีม่ ีเอกภาพเน้นสารัตถะสาคัญของเรื่อง คือ ความ เขม้ แข็งทจี่ ะรกั ษาอดุ มการณ์ในการปฏบิ ตั ิงานและการเสยี สละความสขุ สว่ นตนของนายแพทยช์ นบทผู้หนึง่ มี ตัวละครไม่สู้มากนักแตล่ ้วนเป็นตัวแทนของกลมุ่ ชนหลายประเภททม่ี ีตวั จริงอยใู่ นสงั คมกรุงเทพฯ และใน ชนบทขณะนี้ เคา้ โครงเป็นเร่ืองการกล่าวถึงสภาพชีวิตตัวละครเหลา่ นัน้ ทกุ คนทง้ั เป็นผมู้ ีการศึกษาและฐานะ พนื้ เพ มีอาชีพและมีทัศนะแตกตา่ งกัน แตต่ า่ งมีบทบาทความสมั พนั ธเ์ กี่ยวเนื่องกนั เรอื่ งจบลงดว้ ยการเสยี ชวี ติ ของนายแพทยท์ ีม่ ีช่ือว่า “กานต์” ผนู้ ัน้ จุดสะเทอื นใจในตอนจบเปน็ เคร่ืองแสดงวา่ อุดมคตยิ ังใช้ไดอ้ ยู่ สถานที่ ในเนอื้ เรื่องมที ้ังในกรุงเทพมหานครและในชนบทห่างไกลความเจริญ เป็นการแสดงภาพทานองชวี ติ ในการ เทยี บเคียงอย่างชัดเจน บทสนทนาเปน็ ไปอยา่ งเหมาะสมแกฐ่ านะ และพน้ื ฐานนสิ ยั ใจคอของแต่ละบุคคลใน เร่ือง จงึ มลี ักษณะสมจริงและมีชีวติ ชีวาจึงอาจกล่าวไดว้ ่า นวนิยายเรอื่ งน้เี ปน็ นวนิยายท่ดี ีเย่ียมในด้าน องคป์ ระกอบต่างๆ ของเนอื้ เรื่อง นวนิยายเรื่องนี้มีคุณคา่ สมบูรณ์ดา้ นวรรณกรรม คอื วิธแี สดงเร่ืองตาม ซง่ึ ประกอบไปด้วยกลวิธแี ตง่ และสานวนโวหารอันเปน็ สานวนเฉพาะในการแตง่ ผูเ้ ขยี นมคี วามสามารถเดน่ ย่ิงในการนาเสนอนวนิยายเรอื่ งน้ี โดยอาศยั กลวธิ ีแตง่ หลายแบบผสมผสาน กนั อยา่ งแนบเนียน วางสว่ นสดั ตรงกับเนอื้ เร่อื งอยา่ งสมดลุ กะทดั รัด ไม่ยดื เยอื้ เหตุการณ์ต่างๆ ในเรือ่ งดาเนินเขา้ สู่ จดุ ของเร่ือง เปน็ การรกั ษาเอกภาพของเน้ือเร่อื งไว้ได้เป็นอยา่ งดี เปน็ การเปลีย่ นฉากสนับสนนุ เน้ือเรือ่ งและ แทรกบทสนทนาตามที่เหมาะสม ทาใหม้ ีความแปลกเปลีย่ นอยู่ตลอดเวลา และจากบทสนทนาน้ีเองทาให้ ผู้อ่านรจู้ ักตัวละครอีกดว้ ย ตัวละครมีไมม่ ากนกั ผู้แต่งมกี ลวิธีปล่อยตวั อย่างรดั กุมไมท่ าให้เกดิ ความสับสน แต่ ทาใหบ้ ทบาทและบุคลิกภาพของตวั ละคร กระจา่ งชัดข้นึ โดยท่ีผู้แต่งไมต่ ้องอธบิ ายอยา่ งตรงไปตรงมาแตอ่ าศยั วิธกี าร ละเมียดละไมแนะใหเ้ หน็ ภาพบุคคลในเร่ืองในจินตนาการของผอู้ า่ น ตัวละครแต่ละตวั เปน็ คนในชีวติ จริง มีทง้ั คนโลภ-ทจุ รติ คนหนุ่มเจา้ สาราญ พอ่ คา้ ผมู้ ผี ลประโยชนเ์ ป็นท่ีตง้ั คุณนายหวั เมืองกบั ขวดน้าดม่ื จุกหุม้ ผา้ ดอกสี เลอะเทอะ ชาวบ้านทยี่ ากจนไรก้ ารศกึ ษาแต่มีน้าใจ ซ่อื และเอื้อเฟื้อเหล่านีแ้ สดงลกั ษณะตวั ละครหลาย ประเภทและหลายด้านหลายมุม โดยเฉพาะหมอกานตผ์ ู้มีปณธิ านวา่ จะรกั ษาความสจุ รติ และอุทศิ ตนเพื่อ ประโยชนส์ ขุ ของเพ่ือนมนุษย์ และหฤทัยภรรยาหมอกานต์ ซง่ึ เป็นแบบอย่างของหญิงไทยรุ่นใหม่ท่มี ีการศึกษา สูง มีความคดิ ความฉลาดในการตดั สนิ ใจ และมีความสามารถในการปรับตวั ใหเ้ ข้ากับสถานการณ์ตา่ งๆ ใน สถานการณ์ของตนไดเ้ ป็นอย่างดี ท้งั ทดี่ ผู ิวเผินแลว้ ดรู าวกับเปน็ คนสารวยรักความสุขความสบาย แต่เมื่อถงึ คราวทีต่ ้องตดั สนิ ใจเลือกเอาระหวา่ งความสบายอยา่ งฉาบฉวยกับความมัน่ คงและความถูกต้องแลว้ หฤทยั ก็ เลือกอยู่ข้างหมอกานตผ์ ู้ยากจน แตม่ อี ดุ มคติแนว่ แนเ่ สมอทุกครง้ั ภาพตวั ละครเหล่านป้ี รากฏในบทสนทนา และความนึกคิดของตวั ละครเอง ค่อยๆ ประจักษช์ ดั เจนเป็นบุคลกิ ของตัวละครแต่ละบุคคล ใหค้ วามเขา้ ใจแก่ ผูอ้ ่านอยา่ งซมึ ซาบ ผู้ประพันธม์ ีกลวิธีในการเปิดโปงเร่ือง โดยสรา้ งความแตกต่างอย่างตรงกนั ขา้ ม คือการเปิดเรอื่ งด้วย งานร่นื เริงฉลองการแต่งงานระหว่างหมอกานต์กบั หฤทัย และจบลงอยา่ งเศร้าหมองดว้ ยความตายของหมอ กานต์ ทุกคนร้องไห้เสียดายหมอท่ีชื่อ กานต์ ในขณะ “ฝนตกพร่างพรรู าวกับว่าฟ้ารอ้ งไห้อาลารา่ งที่ปราศจาก ชวี ิตของเขา” สุวรรณี สคุ นธา ยงั ไดใ้ หก้ ลวิธีในการเขยี นนวนยิ ายเร่ืองนอ้ี ีกหลายแบบ เปน็ ตน้ วา่ การกลา่ วถึง เรอ่ื งราวแบบยอ้ นหลงั การพรรณนาความแบบจิตประหวัดไดอ้ ยา่ งแนบเนียนและเปิดโอกาสให้ผู้อ่านได้ใช้ วิจารณญาณและจินตนาการร่วมดว้ ย โดยใช้วธิ แี นะดงั ได้กล่าวแลว้ เหลา่ นเี้ ปน็ กลวธิ กี ารแตง่ ดเี ดน่ ควรแก่การ ยกยอ่ ง
สว่ นสานวนโวหารอันเป็นแบบเฉพาะตัวของผ้ปู ระพนั ธ์นน้ั ในการเขยี นนวนิยายเร่ืองนี้ สุวรรณี สคุ นธา ได้ แสดงคุณสมบัตพิ ิเศษในฐานะทเี่ ป็นนกั เขยี นอย่างแท้จริง มีลกั ษณะทเ่ี ป็นแบบเฉพาะตัวในการเลือกใช้ถ้อยคาที่ มคี วามหมายตรง กระชบั สั้นและรัดกุม แตท่ าใหผ้ ู้อา่ นเกดิ ความเขา้ ใจและความรู้สึกอย่างลึกซงึ้ สานวนที่ว่า “อ่านไดร้ ะหวา่ งบรรทัด” อีกด้วย และแม้เร่อื งจะจบลงเสมือนว่าหมอกานตส์ น้ิ ชวี ติ ลงอย่างเปลา่ ดายไรร้ างวลั ตอบแทนใดๆ ทัง้ สิ้น แตผ่ ูแ้ ตง่ กไ็ ด้กล่าวแนะโดยนยั ถึงเหตุการณ์ท่แี สดงปัญหาดา้ นครอบครัวและความรักของ หมอกานตน์ ั้นเรียบรอ้ ยลงแล้ว เพราะหฤทัยแสดงความต้ังใจทจ่ี ะกลับไปอยู่กับหมอกานตท์ ีบ่ า้ นในชนบทต่อไป ความเศรา้ โศกอาลยั ของบุคคลท่ีเห็นหมอกานต์ตาย เป็นรางวลั ของชวี ิตอยา่ งหนึ่งทีเ่ ป็นประจักษ์พยานยืนยนั ความคดิ ของทกุ คนว่า “ความดไี ม่สูญเปล่า” ชวี ิตทมี่ แี คค่ วรแก่การอาลัยนน้ั คือชีวิตท่ซี อื่ ตรงและเปน็ ประโยชน์ตอ่ เพื่อนมนุษย์ และบคุ คลอยา่ งเขาท่ีชอ่ื กานต์น้ีแหละ่ คือผู้เชิดชูอุดมคติให้ยืนยงมน่ั คงอยู่ในความนึก คิดของมนุษยชาติตลอดไป จึงนบั วา่ ผู้ประพันธ์ได้ใช้ โวหารง่ายๆ ตรงไปตรงมาแตส่ ร้างความรสู้ กึ ตระหนักใน คุณค่าของอดุ มคติและการเสียสละไดอ้ ย่างแนบแน่นลึกซ้งึ โดยสรุปแลว้ นวนยิ ายเรื่องนี้ มีความดเี ด่นหลายประการ ได้แก่ เน้ือเร่ือง กลวิธกี ารแต่งและสานวน โวหารการใชถ้ ้อยคา จึงเป็นเรอื่ งที่มีคณุ ค่าสอดคล้องกบั สภาพชวี ติ ในปจั จบุ นั ซง่ึ ตอ้ งการสรา้ งเสริมและ กาลงั ใจสนับสนุนในดา้ นอุดมคติ ความจรงิ จงั ต่อชวี ติ ความซอื่ สตั ย์สุจริต และการเสยี สละเปน็ อยา่ งยง่ิ ท่ีมา http://www.thaigoodview.com/library/contest2552/type2/.../comment_3.html-
ใบความรทู้ ี่ ๕.๕ การวเิ คราะหค์ ุณคา่ หนงั สือตามความสนใจ คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรยี นอ่านหนังสือตามความสนใจ แล้วนาเรื่องท่ีอ่านมาวิเคราะห์คุณคา่ ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................................... ........... ........................................................................................................................ ...................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ........................................................................................................................................................ ...................... ............................................................................................................. ................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................. ................................. .................................................................................................. ............................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................
เอกสารประกอบการสอน แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ ๕.๖ ตวั อยา่ ง การเขียนเรียงความเชิงพรรณนาตามความรสู้ กึ วันท่ี ๒ มกราคม ๒๕๕๑ เป็นวันแห่งการสูญเสยี ใหญห่ ลวงของปวงชนชาวไทย สมเดจ็ พระเจา้ พ่ี นางเธอ เจา้ ฟา้ กัลยาณิวฒั นา กรมหลวงนราธวิ าสราชนครินทร์ สน้ิ พระชนม์เม่ือเวลา ๒ นาฬกิ า ๕๔ นาที ตามแถลงการณส์ านักพระราชวัง ยงั ความวปิ โยคโศกเศร้าอาลัยอยา่ งสุดซึ้งบังเกดิ แก่พสกนิกรทว่ั ไป ทง้ั ภายในและนอกประเทศ พอรุ่งสางขา่ วได้แพร่สะพัดไปอย่างเร็ว แม้จะเปน็ ทค่ี าดหมายกันลว่ งหนา้ จากทต่ี ิดตามแถลงการณ์ สานักพระราชวงั โดยตลอดก็ตาม ไม่นานนักบรเิ วณโรงพยาบาลศริ ริ าชก็คลาคล่าไปด้วยฝูงชนทท่ี ยอยกัน ไปเพื่อรอถวายความเคารพพระศพ สดี าของเส้ือผ้าท่ผี ู้คนสวมใส่ ใบหนา้ ท่ีหมองคลา้ นยั นต์ าท่หี ลอ่ ร้นื ไป ด้วยหยาดนา้ ตาบอกใหร้ ้วู ่าทุกดวงใจในท่นี ั้นหมองเศรา้ เพียงใด นบั เป็นอีกคร้งั หน่งึ ทีช่ าวไทยรู้สกึ สูญเสีย แตใ่ นความสญู เสยี น้นั เราไดเ้ หน็ พลงั และความจงรักภกั ดีท่ีคนไทย มีต่อสถาบันพระมหากษตั รยิ ์ ทุกคน อยากจะแบง่ เบาความโทมนัสพระทยั จากพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู ัวและอยากถวายกาลังใจแด่ พระองค์ การส้ินพระชนม์ของสมเด็จพระเจา้ พ่นี างเธอ เจา้ ฟา้ กัลยาณวิ ฒั นา กรมหลวงนราธวิ าสราช นครนิ ทรค์ รงั้ น้ี ถือเป็นความสญู เสยี อยา่ งใหญ่หลวงของพสกนกิ รชาวไทย ดังท่ีมผี ถู้ ่ายทอดความรสู้ ึกถึง พระองค์ไว้วา่ อาลัยพระเสดจ็ ด้าว แดนสวรรค์ ปวงประชาโศกศลั ย์ ทั่วหล้า ตะวนั ลบั ดับคงผนั คนื รงุ่ อรณุ แฮ สูญพระองค์ลบั ฟา้ ลับแล้วลาไกล หฤทัยปลงเปยี่ มเศร้า โศกสลด หมองหม่นพน้ พากย์พจน์ เทียบแท้ วรกายมิปรากฏ แกเ่ นตร นรานา พระเกียรตพิ ระคุณแล้ อย่ยู ั้งยนื นิรนั ดร์ (สโมสรสมานมิตร : คณุ หญงิ กุลทรัพย์ เกษแมน่ กิจ, นติ ยสารสกลุ ไทย)
ใบงานที่ ๕.๖.๑ เรอื่ ง การเขยี นเรยี งความเชิงพรรณนาตามความร้สู ึก คาช้ีแจง ใหน้ ักเรียนเขียนเรียงความเชิงพรรณนาตามความร้สู กึ ในเรอ่ื งที่ตนเองสนใจ ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ...................................................................................................................................................................... ........ ........................................................................................................................... ................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................ .................. ................................................................................................................. ............................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................................................................................. ............................ ....................................................................................................... ....................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ........................................................................................................................................ ...................................... ............................................................................................. ................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................. ................................................ .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. .............................................
ใบงานที่ ๕.๖.๒ เรื่องการเขียนเรยี งความเชงิ พรรณนาตามเร่ืองท่กี าหนด คาชแี้ จง ใหน้ กั เรียนเขยี นเรียงความเชงิ พรรณนาตามความรู้สกึ ในเรอ่ื งทตี่ นเองสนใจ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................................................................................................... .......... ......................................................................................................................... ..................................................... ............................................................................................................................. ................................................. .......................................................................................................................................................... .................... ............................................................................................................... ............................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................... ............................... .................................................................................................... .......................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ..................................................................................................................................... ......................................... .......................................................................................... .................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. .................................................
ใบงานที่ ๕.๗.๑ เรอ่ื งการสร้างคาในภาษาไทย เราๆ แมวมอง กาตม้ นา้ ลูกไก่ นกั มวย นา้ แขง็ ใส หมูเหด็ เป็ดไก่ เดก็ ๆ มองๆ เร่ือยๆ แรน้ แค้น แปดเปื้อน ขจดั ปดั เป่า จะจะ กล้วยๆ โทรศพั ท์มือถอื นมเปร้ียว ตากลอ้ ง เกอื บๆ เพิ่มเติม ราดหน้า หักใจ ละเอียดลออ เลก็ ใหญ่ อา้ งวา้ ง ท่านๆ รูปร่าง พดู คุย คาประสม คาซ้อน .............. .................................................. ................................ ................................ ................................................................ ................................................................ ................................................................ ................................................................ ................................................................ ................................................................ ................................................................ ................................................................ ................................................................ ................................................................ ................................................................ ................................................................ ................................................................ ................................................................ ................................................................ ................................................................ ................................................................ ................................................................ ................................................................ ................................................................ ................................................................ ................................................................ ................................................................ ................................................................ ................................................................ ................................................................ ................................................................ ................................................................ คาซ้า ........................................................................................ ........................................................................................ ........................................................................................ ........................................................................................ ........................................................................................ ........................................................................................ ........................................................................................
ใบงานที่ ๕.๗.๒ เรือ่ งคาพอ้ งและความหมาย คาชีแ้ จง ให้นักเรยี นนาคาที่กาหนดมาเติมลงในชอ่ งวา่ งให้ตรงกับความหมาย โจทก์ เยา ภาสน์ พาส จนั ทน์ เยาว์ กานท์ ภาส ชาติ โจษ ชาด กาน จนั ทร์ โจทย์ พาทย์ พาธ จัน กานต์ กาฬ ขนั ขันธ์ สารท สาสน์ สาด ๑. ผกู้ ลา่ วหา, ผฟู้ อ้ งความในศาล ๒. ประเทศ, การเกดิ , รส ๓. การพูด, พดู ๔. ดวงเดอื น ๕. พรรณไมท้ มี่ กี ลิ่นหอม, ใชท้ ายาและปรุงเคร่อื งหอม ๖. วัตถทุ ี่มสี แี ดงสด ใชท้ ายาไทยหรือประสมกับนา้ มนั สาหรับประทับตราหรือทาส่งิ ของ ๗. อาการทท่ี องไม่แลน่ ติดต่อกนั โดยตลอดในการหล่อ ๘. ออ่ นวยั , รุน่ หนมุ่ รุน่ สาว ๙. พูดกันเซง็ แซ่, ล่าลอื อื้อองึ ๑๐. คาถามในวิชาคณิตศาสตร์ ๑๑. บทกลอน, กลอน ๑๒. แสงสวา่ ง, สวา่ ง, แจ้ง
คาชีแ้ จง แบบทดสอบก่อนเรยี น/หลังเรยี น แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ ๕.๗ ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบท่ีถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว ๑. พยญั ชนะมีก่ีรปู และกเี่ สยี ง ก. ๔๔ รปู ๑๘ เสยี ง ข. ๔๔ รูป ๒๑ เสียง ค. ๔๔ รปู ๒๔ เสยี ง ง. ๔๔ รูป ๔๔ เสยี ง ๒. ขอ้ ใดกล่าวถึงพยัญชนะไทยถูกต้องท่ีสุด ก. เสียงพยญั ชนะไทยมี ๒๑ เสยี ง ข. เสียงพยญั ชนะเกดิ จากลมที่ถูกขับออกมาจากชอ่ งท้อง ค. ฐานกรณ์ คือ จุดเรม่ิ ตน้ ในการออกเสยี งพยัญชนะตน้ เสียง ง. ร ล ว เปน็ พยัญชนะเสียงเบาขณะท่ีออกเสียงไม่มกี ลุ่มลมพุ่งตามมา ๓. สระมีกี่รูปและกี่เสยี ง ก. ๑๘ รูป ๒๔ เสียง ข. ๒๑ รปู ๑๘ เสียง ค. ๒๑ รูป ๒๔ เสียง ง. ๒๔ รปู ๒๑ เสียง ๔. สระแท้มีกเี่ สียง ก. ๖ เสียง ข. ๙ เสยี ง ค. ๑๘ เสยี ง ง. ๒๑ เสยี ง ๕. เพราะเหตุใด รปู อา ไอ ใอ เอา จงึ ไม่นับเป็นเสียงสระ ก. เพราะมเี สียงสระแท้ ข. เพราะมเี สยี งพยัญชนะ ค. เพราะใชร้ ปู แทนเสียงสระ ง. เพราะเป็นเสยี งสระประสม ๖. อวัยวะในข้อใดที่ชว่ ยในการออกเสียงสระ ก. ลนิ้ กบั ฟนั ข. ปากกบั จมูก ค. ล้ินกบั เพดาน ง. ล้นิ กับริมฝปี าก ๗. ขอ้ ใดกล่าวถึงวรรณยุกต์ไม่ถกู ต้อง ก. วรรณยกุ ตม์ ี ๕ รปู ๕ เสียง ข. วรรณยุกต์เป็นเคร่ืองหมายแสดงระดับเสยี งสูงต่าในภาษา ค. ราม บาท พูด นก หนี เปน็ คาท่ีมีเสียงวรรณยกุ ต์ครบทุกเสียง
ง. เมอ่ื มีการออกเสียงคาไทยทุกคาจะปรากฏเสียงวรรณยกุ ตก์ ากบั ดว้ ยเสมอ ๘. ขอ้ ใดเปน็ คาซ้อนเพ่ือเสียงทกุ คา ก. ซุบซิบ แนะนา ได้เสีย ข. ท้อแท้ รวบรวม อา้ งวา้ ง ค. จ้ิมลม้ิ คัดเลอื ก เกรงกลัว ง. เสือ่ สาด ราบคาบ มาดหมาย ๙. คาใดท่มี วี ิธีการสรา้ งคาเหมือนกนั ทกุ คา ก. ดชี ัว่ หมอฟัน ตกใจ ข. เรียงเบอร์ ขา้ วต้ม ที่นอน ค. เสือ่ สาด บา้ นเรอื น ห่างไกล ง. จิตแพทย์ ราชการ วาทศิลป์ ๑๐. คาประสมในข้อใดไม่มีความหมายเปรยี บเทยี บ ก. หัวสงู ลกู ช้าง ข. หมาวัด ไข่แดง ค. กันสาด เปน็ ตอ่ ง. มือสะอาด ตนี กา
อยา่ ลืมทาแบบทดสอบหลงั เรียน นะคะเด็ก ๆ ขอใหท้ ุกคนโชคดี
Search
Read the Text Version
- 1 - 24
Pages: