บทอาขยาน ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาตอนต้น
ในโลกน้ีมีอะไรเป็ นไทยแท้ วฒั นธรรม ซ่ึงผลิดอกออกผลแต่ตน้ มา อน่ึงศิลป์ งามเด่นเป็นของชาติ ผู้แต่ง: หม่อมหลวงป่ิ น มาลากลุ อีกดนตรีราร่ายลวดลายไทย บทอาขยานบทเลือก ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ และอยา่ ลืมจิตใจแบบไทยแท้ คดั เลือกโดย คณะกรรมการคดั เลือกอาขยานภาษาไทยสาหรับนกั เรียน กาเนิดธรรมจริ ยาเป็ นอาภรณ์ ในคาสง่ั กระทรวงศึกษาธิการ ที่ วก ๓๗๒/ ๒๕๔๒ แลว้ ยงั มีประเพณีมีระเบียบ เป็นของร่วมรวมไทยใหค้ งไทย ของไทยแน่น้นั หรือคือภาษา ไดร้ ู้เช่นเห็นชดั สมบตั ิชาติ รวมเรียกวา่ วรรณคดีไทย ลว้ นไทยแทไ้ ทยแน่ไทยเรามี เช่นปราสาทปรางคท์ องอนั ผอ่ งใส อวดโลกไดไ้ ทยแทอ้ ยา่ งแน่นอน เช่ือพอ่ แมฟ่ ังธรรมคาสง่ั สอน ประชากรโลกเห็นเราเป็ นไทย ซ่ึงไม่มีท่ีเปรียบในชาติไหน นี่แหละประโยชนใ์ นประเพณี เหลือประหลาดลว้ นเห็นเป็นศกั ด์ิศรี ส่ิงเหล่าน้ีคือวฒั นธรรม ที่มา วฒั นธรรม หม่อมหลวงปิ่ น มาลากลุ ในหนงั สือเรียนภาษาไทย ชุด ทกั ษสัมพนั ธ์ ม.2 เล่ม 2 หนา้ 144
บทเสภาสามคั คีเสวก ตอนวศิ วกรรมา อนั ชาติใดไร้ศานติสุขสงบ ตอ้ งมวั รบราญรอนหาผอ่ นไม่ ณ ชาติน้นั นรชนไม่สนใจ ในศิลปะวไิ ลละวาดงาม แต่ชาติใดรุ่งเรืองเมืองสงบ วา่ งการรบอริพลอนั ลน้ หลาม ยอ่ มจานงศิลปาสงา่ งาม เพือ่ อร่ามเรืองระยบั ประดบั ประดา อนั ชาติใดไร้ช่างชานาญศิลป์ เหมือนนารินไร้โฉมบรรโลมสง่า ใครใครเห็นไม่เป็นท่ีจาเริญตา เขาจะพากนั เยย้ ใหอ้ บั อาย ศิลปกรรมนาใจใหส้ ร่างโศก ช่วยบรรเทาทุกขใ์ นโลกใหเ้ หือดหาย จาเริญตาพาใจใหส้ บาย อีกร่างกายกจ็ ะพลอยสุขสราญ แมผ้ ใู้ ดไม่นิยมชมส่ิงงาม เม่ือถึงยามเศร้าอุราน่าสงสาร เพราะขาดเคร่ืองระงบั ดบั ราคาญ โอสถใดจะสมานซ่ึงดวงใจ เพราะการช่างน้ีสาคญั อนั วเิ ศษ ทุกประเทศนานาท้งั นอ้ ยใหญ่ จึงยกยอ่ งศิลปกรรมน์ ้นั ทว่ั ไป ศรีวไิ ลวลิ าศดีเป็นศรีเมือง
อศิ รญาณภาษติ นา้ พงึ่ เรือเสือพงึ่ ป่ าอชั ณาสัย ชายข้าวเปลอื กหญงิ ข้าวสารโบราณว่า รักกนั ไว้ดกี ว่าชังระวงั การ เรากจ็ ติ คดิ ดูเล่าเขาก้ใจ ผู้ใดผดิ ผ่อนพกั อย่าหักหาญ ผู้ใดดดี ตี ่ออน่าก่อกจิ เป็ นชายชาญอย่าเพ่อคาดประมาณ สิบดกี ้ไม่ถึงกบั กง่ึ พาล รักยาวน้ันอย่าให้เยน่ิ เกนิ กฎหมาย รักส้ันน้ันให้รู่อยู่เพยี งส้ัน แหงนดูฟ้ าอย่าให้อายแก่เทวดา มใิ ช่ตายแต่เขาเราตาย นา้ ตาลย้อยมากเมอื่ ไร ได้หนักหนา อย่าดูถูกบุญกรรมว่าทาน้อย ส่องดูหน้าทหี น่ึงแล้วจึงนอน อย่านอนเปล่าเอากระจกยกออกมา นเจ้าอ
พระสุริโยทยั ขาดคอชา้ ง ๏ บงั อรอคั เรศผู้ พิสมยั ท่านนา นามพระสุริโยทยั ออกอา้ ง ทรงเคร่ืองยทุ ธพไิ ชย เช่นอุป-ราชแฮ เถลิงคชาธารควา้ ง ควบเขา้ ขบวนไคล ๏ พลไกรกองน่าเร้า โรมรัน กนั เฮย ชา้ งพระเจา้ แปรประจญั คชไท้ สารทรงซวดเซผนั หลงั แล่น เตลิดแฮ เตลงขบั คชไล่ใกล้ หวดิ ทา้ ยคชาธาร ๏ นงคราญองคเ์ อกแกว้ กระษตั รีย์ มานมนสั กตั เวที ยงิ่ ล้า เกรงพระราชสามี มลายพระ-ชนมเ์ ฮย ขบั คเชนทรเข่นค้า สะอึกสูด้ สั กร ๏ ขนุ มอญร่อนงา้ วฟาด ฉาดฉะ ขาดแล่งตราบอุระ หรุบดิ้น โอรสรีบกนั พระ ศพสู่ นครแฮ สูญชีพไป่ สูญสิ้น พจนผ์ สู้ รรเสริญ
บุพการี อังคาร กลั ยาณพงศ์ ใครแทนพอ่ แม่ได้ ไป่ มีเลยท่าน สวา่ งหลา้ คือคู่จนั ทร์สุรียศ์ รี มืดหม่น นิ่งน้าตาไหล ฯ สิ้นท่านทวั่ ปฐพี บนสวรรค์ หมองม่ิงขวญั ซ่อนหนา้ กราบไหว้ อบร่า หอมฤา พอ่ แม่เสมอพระเจา้ ท่านใหห้ มดเสมอ ฯ ไฉนสนอง ลกู น่ิงนอ้ มม่ิงขวญั สงั่ ฟ้ า น้าตาต่างรสสุคนั ธ์ ดูดดื่ม หอมค่าน้าใจไซร้ ก่ีหลา้ ฤาสลาย ฯ เหยยี บลงใดแล ถึงตายเกิดใหม่ซ้า ค่าไร้ คุณพอ่ แม่ท้งั สอง คลคู่ ใจนา น้านมท่ีลูกรอง เพือ่ ใหข้ วญั ขลงั ฯ หวานใหม่ในชาติหนา้ รอยเทา้ พอ่ แม่ได้ เพยี งแค่ฝ่นุ ธุลีผง กราบรอยท่านมิ่งมง กายสิทธ์ิใส่เกลา้ ไว้
โคลงโลกนิติ ๏ พระสมุทรสุดลึกลน้ คณนา สายดิ่งทิ้งทอดมา หยง่ั ได้ เขาสูงอาจวดั วา กาหนด จิตมนุษยน์ ้ีไซร้ ยากแทห้ ยง่ั ถึง๚ ๏กา้ นบวั บอกลึกต้ืน ชลธาร มารยาทส่อสนั ดาน ชาติเช้ือ โฉดฉลาดเพราะคาขาน ควรทราบ หยอ่ มหญา้ เห่ียวแหง้ เร้ือ บอกร้ายแสลงดิน ๏ โคควายวายชีพได้ เขาหนงั เป็นส่ิงเป็นอนั ยงั อยไู่ ซร้ คนเดด็ ดบั สูญสัง ขารร่าง เป็ นชื่อเป็ นเสียงได้ แต่ร้ายกบั ดี๚ ๏ เพอ่ื นกิน สิ้นทรัพยแ์ ลว้ แหนงหนี หาง่าย หลายหม่ืนมี มากได้ เพอ่ื นตาย ถ่ายแทนชี- วาอาตม์ หากยาก ฝากผีไข้ ยากแทจ้ กั หา
บทอาขยาน ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาตอนปลาย
อิเหนา ตอน ศึกกะหมงั กหุ นิง วา่ พลางทางชมคณานก โผนผกจบั ไมอ้ ึงม่ี เบญจวรรณจบั วลั ยช์ าลี เหมือนวนั พไี่ กลสามสุดามา นางนวลจบั นางนวลนอน เหมือนพ่ีแนบนวลสมรจินตะหรา จากพรากจบั จากจานรรจา เหมือนจากนางสการะวาตี แขกเตา้ จบั เต่าร้างร้อง เหมือนร้างทอ้ งมาหยารัศมี นกแกว้ จบั แกว้ พาที เหมือนแกว้ พ่ีท้งั สามสงั่ ความมา ตระเวนไพรร่อนร้องตระเวนไพร เหมือนเวรใดใหน้ ิราศเสน่หา เคา้ โมงจบั โมงอยเู่ อกา เหมือนพนี่ บั โมงมาเม่ือไกลนาง คบั แคจบั แคสนั โดษเด่ียว เหมือนเปล่าเปลี่ยวคบั ใจในไพรกวา้ ง ชมวหิ คนกไมไ้ ปตามทาง คะนึงนางพลางรีบโยธี
ลิลิตตะเลงพา่ ย ตอนยทุ ธหตั ถี เบ้ืองน้นั นฤนาถผู้ สยามมินทร์ เบ่ียงพระมาลาผนิ ห่อนพอ้ ง ศสั ตราวธุ อรินทร์ ฤๅถกู องคเ์ อย เพราะพระหตั ถห์ ากป้ อง ปัดดว้ ยขอทรง บดั มงคลพา่ ห์ไท้ ทวารัติ แวง้ เหวย่ี งเบี่ยงเศียรสะบดั ตกใต้ อุกคลุกพลุกเงยงดั คอคช เศิกแฮ เบนบ่ายหงายแหงนให้ ท่วงทอ้ ทีถอย พลอยพล้าเพลียกถา้ ท่าน ในรณ บดั ราชฟาดแสงพล- พา่ ยฟ้ อน พระเดชพระแสดงดล เผดจ็ คู่ เขญ็ แฮ ถนดั พระองั สางขอ้ น ขาดดา้ วโดยขวา อุรารานร้าวแยก ยลสยบ เอนพระองคล์ งทบ ท่าวดิ้น เหนือคอคชซอนซบ สงั เวช วายชิวาตมส์ ิ้นสุด สู่ฟ้ าเสวยสวรรค์
สามัคคเี ภทคาฉันท์ พึงมรรยาทยดึ สุประพฤติสงวนพรรค์ ร้ือริษยาอนั อุปเฉทไมตรี ดงั่ น้นั ณ หมู่ใด ผิ บ ไร้สมคั รมี พร้อมเพรียงนิพทั ธ์นี รวิวาทระแวงกนั หวงั เทอญมิตอ้ งสง สยคงประสบพลนั ซ่ึงสุขเกษมสนั ต์ หิตะกอบทวิการ ใครเล่าจะสามารถ มนอาจระรานหาญ หกั ลา้ ง บ แหลกลาญ กเ็ พราะพร้อมเพราะเพรียงกนั ป่ วยกล่าวอะไรฝงู นรสูงประเสริฐครัน ฤๅสรรพสตั วอ์ นั เฉพาะมีชีวคี รอง แมม้ ากผกิ ่ิงไม้ ผวิ ใครจะใคร่ลอง มดั กากระน้นั ปอง พลหกั กเ็ ตม็ เหล่าไหนผไิ มตรี สละล้ี ณ หม่ตู น กิจใดจะขวายขวน บ มิพร้อมมิเพรียงกนั อยา่ ปรารถนาหวงั สุขท้งั เจริญอนั มวลมาอุบตั ิบรร ลุไฉน บ ไดม้ ี ปวงทุกขพ์ ิบตั ิสรร พภยนั ตรายกลี แมป้ ราศนิยมปรี ติประสงคก์ ค็ งสม ควรชนประชุมเช่น คณะเป็นสมาคม สามคั คิปรารม ภนิพทั ธราพึง ไป่ มีกใ็ หม้ ี ผวิ มีกค็ านึง เน่ืองเพื่อภิยโยจึง จะประสบสุขาลยั ฯ ชิต บรุ ทัต
นิราศพระบาท พ้ืนผนงั หลงั บวั ที่ฐานปัทม์ เป็นครุฑอดั ยนื เหยยี บภุชงคข์ ยา หยกิ ขยมุ้ กมุ วาสุกรีกา กินนรรารายเทพประนมกร ใบระกาหนา้ บนั บนช้นั มุข สุวรรณสุกเล่ือมแกว้ ประภสั สร ดูยอดเยย่ี มเทียมยอดยคุ ุนธร กระจงั ซอ้ นแซมใบระกาบงั นาคสะดุง้ รุงรังกระดึงหอ้ ย ใบโพธ์ิร้อยระเรงอยเู่ หง่งหงงั่ เสียงประสานกงั สดาลกระดึงดงั วเิ วกวงั เวงในหวั ใจครันฯ บานทวารลานแลลว้ นลายมุก น่าสนุกในกระหนกดูผกผนั เป็นนาคครุฑยดุ เหนี่ยวในเครือวลั ย์ รูปยกั ษย์ นั ยนื กอดกระบองกมุ สิงโตอดั กดั กา้ นกระหนกเก่ียว เทพเหน่ียวเครือกระหวดั หตั ถข์ ยมุ้ ชมพพู านกอดกา้ นกระหนกรุม สุครีพกมุ ขรรคเ์ ง้ือในเครือวง รูปนารายณ์ทรงขี่ครุฑาเหิน พรหมเจริญเสดจ็ ยงั บลั ลงั กห์ งส์ รูปอมรกรกาพระธามรงค์ เสดจ็ ทรงคชสารในบานบงั ผนงั ในกฎุ ีท้งั ส่ีดา้ น โอฬาร์ฬารทองทาฝาผนงั จาเพาะมีสี่ดา้ นทวารบงั ท่ีพ้ืนนงั่ ดาดดว้ ยแผน่ เงินงาม มณฑปนอ้ ยสรวมรอยพระบาทน้นั ลว้ นสุวรรณแจ่มแจง้ แสงอร่าม เพดานดาดลาดลว้ นกระจกงาม พระเพลิงพลามพร่างพร่างสวา่ งพราย ตาขา่ ยแกว้ ปักกรองเป็นกรวยหอ้ ย ระยา้ ยอ้ ยแวววามอร่ามฉาย หอมควนั ธูปเทียนตลบอยอู่ บอาย ฟ้ ุงกระจายรื่นร่ืนท้งั หอ้ งทองฯ สุนทรโวหาร (ภ่)ู
มหาเวสสันดรชาดก กณั ฑ์กมุ าร โส โพธิสตฺโต ปางน้นั สมเดจ็ พระบรมโพธิสตั ว์ ตรัสไดท้ รงฟังพระลกู นอ้ ย ทรงกนั แสงทูล ละหอ้ ยวนั น้นั กล้นั พระโศกมิไดล้ ะอายพระทยั แก่เทพดา ปณฺณสาล ปวสิ ิตฺวา เสดจ็ เขา้ สู่ภายใน พระบรรณศาลา ซบพระพกั ตราทรงพระกนั แสงสะอ้ืนไห้ วา่ โอเ้ จา้ เพ่ือนเขญ็ ใจของพ่อเอ่ย เจา้ เคย กระทากรรมไวเ้ ป็นไฉน จ่ึงมาตกเขญ็ ใจไร้ยากอนาถา ใหพ้ ราหมณ์ชราร่างร้ายกาจ ตะแกมาทาสี หนาทโพยโบยตี โอเวลาปานฉะน้ีกส็ ายณั ห์ คนท้งั หลายเขาเรียกกนั กินอาหาร บา้ งกเ็ ลา้ โลม ลกู หลานใหอ้ าบน้าแลว้ หลบั นอน แต่สองบงั อรของพอ่ น้ี ใครจะปรานีใหน้ มน้า กจ็ ะตรากตรา ลาบากใจ ท่ีไหนจะเดินไดด้ ว้ ยพระบาทเปล่า ท้งั ไอแดดจะแผดเผาใหพ้ ุพอง จะชอกช้าคล้าเป็น หนองลงลามไหล สองสุริยวงศต์ ้งั แต่วา่ จะทรงกนั แสงไห้ สุดอาลยั ของพ่อแลว้ ท่ีจะติดตาม จะบ่าย หนา้ ไปหาพราหมณ์เมื่อยามเยน็ เฒ่าจญั ไรไหนเลยจะเห็นดว้ ยสองเจา้ มีแต่จะรุกเร้าคารามตี ธชี เอ่ยกระไรเลยไม่เกรงขามเราบา้ งเม่ือยามจน จะคิดดูบา้ งเป็นไรวา่ ลกู ท้งั สองคนคชู่ ีวาตม์ ยงั ตดั ใจ ใหข้ าดมิใหเ้ สียประโยชน์ แต่ก่อนโสดขา้ สินไถ่สืบมาถึงสี่ชวั่ ผอู้ ื่นรู้กเ็ กรงกลวั ไม่ทาไดเ้ หมือน พราหมณ์ผนู้ ้ี วาริชสฺเสว เม สโต เสมือนหน่ึงพรานเบด็ มาตีปลาท่ีหนา้ ไซ บรรดาปลาจะเขา้ ไปให้ แตกฉาน ตวั เราผทู้ าทานเหมือนตวั ปลา พระโพธิญาณในภายหนา้ น้นั คือไซ ปรารถนาจะเขา้ ไปจ่ึง ยกพระลกู ใหเ้ ป็นทานบารมี พระลูกรักท้งั สองศรีดง่ั กระแสสินธุ์ พราหมณ์ประมาทหม่ินมาด่าตี เสมือนกระทุ่มวารีใหป้ ลาตื่น นาพระทยั ทา้ วเธอถอยคืนจากอุเบกษา บงั เกิดอวชิ ชามาห่อหุม้ พระ ปัญญาน้นั กลดั กลุม้ ไปดว้ ยโมโหใหล้ ุ่มหลง โทโสเขา้ ซ้าส่งใหบ้ งั เกิดวหิ ิงสาข้ึนทนั ที วา่ อุเหม่! อุเหม่! พราหมณ์ผนู้ ้ีน่ีอาจองทะนงหนอ มาตีลกู ต่อหนา้ พ่อไม่เกรงใจ ธชีเอ่ยกมู าอยปู่ ่ าเปล่าเมื่อไร ท้งั พระขรรคศ์ ิลป์ ชยั กถ็ ือมา ธนุจาป คเหตฺวา กท็ รงพระแสงธนูศรกระสนั มน่ั กบั มือ ฆ่าพราหมณ์ ผนู้ ้ีเสียเถิดหรือ เธอกฮ็ ึดห้ืออยแู่ ต่ในพระทยั ภายหลงั จ่ึงต้งั จิตพิจารณาในพระอริยประเพณีหน่อพุทธางกรู กร็ ู้วา่ อาตมะน่ีเพิ่มพนู มหาปุตตบริจาคเจียวสิ หวา่ เม่ือพระปัญญาบงั เกิดมี พระบรมราชฤษีเธอจ่ึงตรัสสอนพระองคเ์ องวา่ โภ เวสฺสนฺตร ดูกร มหาเวสสนั ดร อยา่ อาวรณ์โวเ้ วท้ าเนาเขา ขา้ กบั เจา้ เขาจะตีกนั ไม่ตอ้ งการ ใหล้ กู เป็นทานแลว้ ยงั มา สอดแคลว้ เม่ือภายหลงั ทา้ วเธอจ่ึงต้งั พระสมาธิระงบั ดบั พระวโิ ยค กล้นั พระโศกสงบแลว้ พระ พกั ตร์กผ็ อ่ งแผว้ แจ่มใส ดุจทองอุไรท้งั แทง่ อนั บุคคลจะแกลง้ หล่อแลว้ มาวางไวใ้ นพระอาศรม ต้งั แต่จะเชยชมพระปิ ยบุตรทานบารมี แห่งหน่อพระชินศรีเจา้ น้นั แล
นิราศนรินทร์ อยธุ ยายศล่มแลว้ ลอยสวรรค์ ลงฤๅ สิงหาสนป์ รางคร์ ัตนบ์ รร- เจิดหลา้ บุญเพรงพระหากสรรค์ ศาสน์รุ่ง เรืองแฮ บงั อบายเบิกฟ้ า ฝึกฟ้ื นใจเมือง เรืองเรืองไตรรัตนพ์ น้ พนั แสง รินรสพระธรรมแสดง ค่าเชา้ เจดียร์ ะดะแซง เสียดยอด ยลยง่ิ แสงแกว้ เกา้ แก่นหลา้ หลากสวรรค์ โฉมควรจกั ฝากฟ้ า ฤๅดิน ดีฤๅ เกรงเทพไทธ้ รณินทร์ ลอบกล้า ฝากลมเล่ือนโฉมบิน บนเล่า นะแม่ ลมจะชายชกั ช้า ชอกเน้ือเรียมสงวน จากมามาลิ่วล้า ลาบาง พ่ีพร้อง บางยเี่ รือราพลาง เรือแผงช่วยพานาง เมียงม่าน มานา บางบ่รับคาคลอ้ ง คล่าวน้าตาคลอ เอียงอกเทออกอา้ ง อวดองค์ อรเอย เมรุชุบสมุทรดินลง เลขแตม้ อากาศจกั จานผจง จารึก พอฤๅ โฉมแม่หยาดฟ้ าแยม้ อยรู่ ้อนฤๅเห็น นายนรินทรธิเบศร์ (อิน)
Search
Read the Text Version
- 1 - 14
Pages: