ชุดฝึ กกจิ กรรม รายวชิ าภาษาไทยพืน้ ฐาน เรื่องโคลงโลกนิติ ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๑ นางสาวพุดตาล สมศรี ตาแหน่ง ครู ชานาญการ โรงเรียนรามวทิ ยา รัชมคั ลาภิเษก
เอกสารประกอบการสอน ใบงานท่ี ๒.๑ แบบบนั ทึกการอ่านหนังสือ ช่ือหนังสือพมิ พ์.................................................................เรื่องที่อ่าน.............................................................. ผู้เขยี น ..........................................วนั ทพ่ี มิ พ์ ......................ปี ทพี่ มิ พ์ .......................หน้าท.ี่ ........................... บันทกึ วนั ท.่ี .........เดือน..............................พ.ศ. ...............กล่มุ สาระการเรียนรู้............................................... สาระสาคัญของเร่ือง ……………………………………………………………………………………………………....……… ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… วเิ คราะห์ข้อคดิ /ประโยชน์ทไี่ ด้จากเรื่องทอี่ ่าน ……………………………………………………………………………………………………….……… ………………………………………………………………………………………………..............……………… ………………………………………………………………………………….................…………………………… ………………………………………………………………………………..…………………………………… สิ่งทส่ี ามารถนาไปประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจาวนั ……………………………………………………………………………………………………….……… ………………………………………………………………………………………………..............……………… …………………………………………………………………………………….................………………………… ผลการประเมิน ๑. ลายมือสวยงามถูกต้อง (๑๐) ........................... ๒. ทางานสะอาดเรียบร้อย (๑๐) ............................. ๓. สรุปสาระสาคญั ชัดเจน (๑๐) ............................ รวมคะแนน (๓๐) ............................................ รับทราบ O .......................................... O ………………………… คุณครู ผ้ปู กครอง ช่ือผ้บู ันทกึ ..........................................................................................................................................
ขอ้ สอบ ตามแผนการสอนท่ี ๒.๑ คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว ๑. กำรใช้เสียงในกำรอ่ำนออกเสียงบทร้อยแก้วข้อใดไม่ ๖. กำรอ่ำนออกเสยี งบทร้อยกรองมจี ุดมุ่งหมำยในกำร ถกู ต้อง อำ่ นอยำ่ งไร ก. ออกเสียงดังเพื่อเรยี กรอ้ งควำมสนใจ ก. ม่งุ ใหเ้ กดิ จินตภำพ ข. ออกเสียงให้เป็นเสยี งพูดอยำ่ งเปน็ ธรรมชำติ ข. มงุ่ ให้เกิดอรรถรสในกำรอ่ำน ค. เนน้ เสยี งตำมนำหนกั ควำมสำคญั ของใจควำม ค. มุง่ ใหเ้ กิดควำมงำมทำงภำษำ ง. ออกเสียงให้เหมำะสมกบั ประเภทของเร่อื งที่อ่ำน ง. มงุ่ ใหเ้ กดิ ควำมซำบซงึ ในรสของบทประพันธ์ ๒. กำรอ่ำนท่ตี ้องกำรเนน้ หรือเพ่ิมนำหนกั ของเสยี งควรใช้ ๗. กำรอ่ำนบทรอ้ ยกรองประเภทใดทม่ี ีกำรแบ่งวรรค เคร่ืองหมำยใดกำกบั ตอนแตกต่ำงจำกข้ออ่ืน ก. เคร่อื งหมำย / ข. เครื่องหมำย // ก. กลอนหก ข. กลอนสกั วำ ค. เคร่อื งหมำย _ ง. เคร่อื งหมำย /_ ค. โคลงกระทู้ ง. กลอนสภุ ำพ ๓. ขอ้ ใดเปน็ ลักษณะเดน่ ของกำรอำ่ นแบบบรรยำย ๘. กำรอ่ำนดว้ ยนำเสียงหนักแน่น สนั กระชบั เหมำะกบั ก. กำรอำ่ นท่เี น้นนำหนกั ของเสียง กำรอำ่ นเนือควำมในลกั ษณะใด ข. กำรอ่ำนทีล่ ำกเสียงชำ้ ๆ และไว้หำงเสยี ง ก. เนอื ควำมประเภทส่ังสอน ค. กำรอำ่ นที่ทำใหผ้ ู้ฟังเกดิ อำรมณ์คล้อยตำม ข. เนอื ควำมประเภทตัดพ้อต่อวำ่ ง. กำรอ่ำนทท่ี ำใหเ้ กดิ เสยี งโศกเศรำ้ แล้วกลับเปน็ ค. เนือควำมประเภทแสดงอำรมณ์กลวั เสยี งปกติ ง. เนอื ควำมประเภทแสดงอำรมณโ์ กรธ ๔. กำรอ่ำนให้เกดิ จินตภำพควรปฏิบตั อิ ย่ำงไร ๙. กำรอ่ำนคำประพนั ธป์ ระเภทใด ฝกึ อำ่ นไดง้ ่ำยที่สดุ ก. อ่ำนให้ถกู ตอ้ งตำมอกั ขรวิธีในภำษำไทย ก. อำ่ นบทเจรจำ ข. อำ่ นบทรอ้ ยแก้ว ข. อำ่ นจำกพจนำนุกรม ฉบับรำชบณั ฑิตยสถำน ค. อ่ำนบทกลอนสวด ง. อำ่ นแบบทำนอง ค. อำ่ นออกเสยี งใหด้ ังกงั วำนจนผู้ฟังเกิดจินตภำพ เสนำะ ง. อ่ำนเน้นคำสำคญั และคำทีต่ ้องกำรใหเ้ กิดจินต ๑๐.กำรอำ่ นโคลงกระทู้มหี ลักในกำรอำ่ นอย่ำงไร ภำพ ก. อ่ำนเหมือนโคลงสสี่ ุภำพ คอื อ่ำนตำมแนวนอน ๕. กำรอ่ำนคำให้เออื สัมผัสในเพอื่ เพ่มิ ควำมไพเรำะ เป็น ข. ไม่มีกฎเกณฑ์ตำยตวั แล้วแต่ผู้อำ่ นจะพิจำรณำ กำรอ่ำนในข้อใด ค. อ่ำนตำมแนวนอนก่อนแล้วย้อนไปอ่ำนกระทู้ ก. ไม่มกี ษตั ริย์ครองปฐพี อ่ำนว่ำ ปะ-ถะ-พี เรยี งตำมแนวตัง ข. ข้ำอตุ สำ่ หม์ ำเคำรพอภิวนั ท์ อำ่ นวำ่ อะ-พิ-วัน ง. อ่ำนกระทู้เรียงตำมแนวตงั กอ่ น แล้วย้อนไปอ่ำน ค. บญุ บนั ดำลดลจิตพระธดิ า อำ่ นว่ำ พระ-ทิ-ดำ ตำมแนวนอน ง. คิดถึงบำทบพิตรอดิศร อ่ำนว่ำ อะ-ดดิ -สอน
ใบงานท่ี ๒.๒ เร่อื งการอ่านตคี วามเอกสารทางวชิ าการ คาช้แี จง ให้นกั เรียนอำ่ นบทควำมทำงวิชำกำรแลว้ คน้ หำควำมหมำยของคำศัพท์ยำก โดยใชพ้ จนำนุกรม ฉบบั รำชบัณฑติ ยสถำน พ.ศ. ๒๕๔๒ คำ่ นิยมเกยี่ วกับผูท้ บ่ี วชเรยี นมสี ูงมำก สงั คมถือวำ่ ผ้บู วชเรียนแล้วเป็นบัณฑิต ออกเสยี งวำ่ บันดดิ หรอื เป็นคนสุกแลว้ พ่อแม่ส่วนมำกจะไมย่ อมยกบุตรสำวใหแ้ ตง่ งำนกบั คนท่ยี งั ไม่ผำ่ นกำรเป็นบัณฑิตหรือเป็นคนสกุ เป็นอนั ขำด ต่อมำคำว่ำบณั หำยไปเหลอื แตฑ่ ติ ต่อมำกเ็ ขยี นเปน็ ทิดแทน จนบัดนใี ครท่ีไมร่ ู้ควำมเปน็ มำกย็ ำกจะ โยงได้ว่ำ บัณฑติ กบั ฑดิ -ทดิ เปน็ คำเดียวกนั กำรเข้ำพรรษำเป็นพิธกี รรมสำหรับพระภิกษเุ ท่ำนนั สำมเณรมสี ่วนบ้ำงเฉพำะวนั เข้ำพรรษำ แตไ่ มม่ ีวัน ออกพรรษำ คฤหัสถ์อย่ำงเรำไม่นำ่ เก่ียวข้องดว้ ย ท่ีจริงจะว่ำเกย่ี วก็เกีย่ ว ไม่เกีย่ วกไ็ มเ่ กย่ี ว ขนึ อยู่กบั คำว่ำเกีย่ วนันหมำยเอำเกี่ยวในระดับใด ถ้ำเป็นกำร เลอื ก ที่มุงที่บังอันมิดชดิ ปลอดภัย ถึงวนั เขำ้ พรรษำแล้วตังสจั อธษิ ฐำนวำ่ “เรำจะอยูจ่ ำพรรษำ ณ อำวำสแหง่ นี ตลอดสำมเดือนใน ฤดฝู นแล้วก็อยู่ ณ ที่นนั โดยไม่ไปคำ้ งคนื ท่ไี หนตลอดสำมเดอื น นอกจำกมกี จิ ธรุ ะจำเป็น ตำมที่บญั ญัตไิ ว้ในพระวินัย ถ้ำอยำ่ งนีคฤหัสถ์ไมเ่ ก่ยี วเปน็ พิธีกรรมสำหรบั พระภิกษุเทำ่ นัน แต่ถ้ำคดิ วำ่ ชำวบำ้ นทังชำยและหญงิ เปน็ พทุ ธศำสนิกชนมหี น้ำที่อปุ ถัมภ์บำรุงพระสงฆ์ วัดวำอำรำม และ พระพุทธศำสนำโดยรวม ชำวบำ้ นอยำ่ งเรำก็ย่อมเก่ยี วข้องด้วยอยำ่ งเลยี่ งไมไ่ ด้ คือชำวบ้ำนไดม้ โี อกำสถวำย จตุปัจจัยไทยทำน ทำบุญตักบำตร ถวำยผ้ำอำบนำฝน เขำ้ วัดฟงั ธรรมในช่วงเข้ำพรรษำนับว่ำไดท้ ำประโยชน์ทังแก่ ตนเองและแก่พระพุทธศำสนำ ที่มา มำเขำ้ พรรษำกันเถอะ ของ เสฐียรพงษ์ วรรณปก จำกหนังสือพิมพ์มตชิ น ฉบับวันอำทิตย์ท่ี ๑๗ กรกฎำคม พทุ ธศักรำช ๒๕๕๔
เอกสารประกอการสอนแผนการสอนที่ ๒.๓ ตวั อย่างการเขยี นส่ือสารท่ีดี พูดถึงกล้วยทอดแล้ว คนไทยเรียกว่ำกล้วยแขก ควำมจริงแล้วก็คือกล้วยชุบแป้งทอดนันเอง กล้วยทำ อะไร ได้หลำยอย่ำงนอกจำกกินเปล่ำๆ หรือกินกับเนยแข็ง เช่น กล้วยไข่กินกับกระยำสำรท กล้วยป้ิง กล้วย เผำ กล้วยทบั กล้วยตำก กล้วยแช่นำผึง กลว้ ยเช่ือมรำดหัวกะทิ กลว้ ยดบิ ตม้ ยำทำแกงกะทิเปน็ กับข้ำวก็ได้ ต้นกลว้ ยปลกู ทำแนวรวั ได้ สับให้หมูกินได้ หัวปลีใช้ยำหรือกินดิบๆ กับก๋วยเตี๋ยวผัดไทยก็อร่อย ทำต้ม หัวปลีกับปลำช่อนก็เจริญอำหำรดีนักแล ใบกล้วยหรือใบตองก็มีประโยชน์ สมัยก่อนยังไม่มีถุงพลำสติกก็ได้ ใบตองนีแหละ เป็นภำชนะห่อขนมและกับข้ำว ใช้ปูรองน่ังรองนอนก็ได้ มุงหลังคำก็ได้ ทำบำยศรีของสูงก็ได้ คนไทยเป็นหนีกล้วยจริงๆ แต่พออะไรที่เป็นของง่ำยของตำยกลับประชดประชันดันแดกเสียอีกว่ำ “ของ กล้วยๆ” “ง่ำยเหมอื นปอกกล้วย เขำ้ ปำก” ท่มี า เดนิ ดินกินขำ้ วแกง โดย วษิ ณุ เครืองำม
ใบงานแผนการสอนที่ ๒.๓ เร่อื งการใช้ถ้อยคาในการเขยี นส่ือสาร คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรียนตอบคำถำมท่ีกำหนดให้ถกู ต้อง ๑. กำรเลือกใช้คำให้ถูกต้องตำมควำมหมำยมวี ิธกี ำรอยำ่ งไร ๒. กำรใช้คำให้ถกู ต้องตำมระเบยี บภำษำมวี ธิ กี ำรอยำ่ งไร ๓. มำรยำทในกำรเขยี นมีหลักปฏบิ ัติอย่ำงไร
ขอ้ สอบแผนการสอนท่ี ๒.๓ คาช้ีแจง ใหน้ กั เรยี นเลือกคำตอบท่ีถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว ๑. กำรคัดลำยมือมีจุดประสงค์ตรงกบั ข้อใด อา่ นข้อความต่อไปน้ี แล้วตอบคาถาม ข้ ๖-๗ ก. เพ่ือประกวดกำรคัดลำยมือ ข. เพือ่ ฝึกสมำธใิ นกำรเขียนตัวอกั ษรไทย “ คอื เธอผเู้ ป็นสดุ ทร่ี กั ยงิ่ ชวี ติ ค. เพื่อฝกึ กำรใชเ้ วลำวำ่ งใหเ้ กิดประโยชน์ คอื เธอผซู้ ง่ึ เป็นทกุ สง่ิ ในชวี ติ ฉนั เป็นผทู้ น่ี ำทำง ง. เพื่อให้มีควำมคดิ สร้ำงสรรคใ์ นกำรประดษิ ฐ์อักษรไทย ผทู้ ช่ี ท้ี ำง ผซู้ ง่ึ ลขิ ติ ชวี ติ และโชคชะตำ คอื เธอผเู้ ป็นดงั่ สรอ้ ยถนมิ พมิ พำภรณ์ เป็นดงั่ ๒. ข้อใดเป็นข้อควรปฏบิ ัตใิ นกำรคดั ลำยมอื ท่ีถูกต้อง เครอ่ื งประดบั กำยและใจใหล้ ้ำเลศิ วไิ ลตลอดมำ ก. วำงกระดำษให้หำ่ งจำกสำยตำประมำณ ๑๒ นิว คอื เธอผเู้ ป็นสงิ่ ทค่ี ำดหวงั ของฉนั อยำ่ ทง้ิ ฉนั ไป ข. ใชไ้ ม้บรรทัดวัดระยะช่องไฟให้มีควำมสมำ่ เสมอ วนั ใดทไ่ี รเ้ ธอ ฉนั คงตอ้ งถงึ แกก่ ำรตำย” ค. จับดนิ สอให้แน่นเพ่ือกำรลงนำหนกั ตวั อักษรท่ีชัดเจน ง. น่งั โน้มตวั ไปด้ำนหน้ำเพ่อื ถ่ำยนำหนกั ลงท่ีดินสอ ๖. ขอ้ ควำมนีมีจดุ ด้อยอย่ำงไร หรือปำกกำ ก. ใช้คำฟมุ่ เฟือย ๓. ข้อใดไม่มีควำมจำเป็นในกำรฝึกคัดลำยมือ ก. วำงสระและวรรณยกุ ต์ให้ถกู ท่ี ข. ใชค้ ำเชอื่ มไมถ่ กู ตอ้ ง ข. เร่มิ คดั ตวั อักษรจำกหัวไปหำง โดยไมย่ กดนิ สอ ค. เวน้ ระยะช่องไฟระหว่ำงตวั อกั ษรให้ห่ำงเสมอกนั ค. ใช้สำนวนภำษำตำ่ งประเทศ ง. คัดตัวอกั ษรใหเ้ สมอแนวเดียวกัน และใหโ้ ย้ไปขำ้ งหน้ำ ง. ใช้คำไม่ถูกต้องตำมชนดิ และหน้ำท่ขี อง เลก็ นอ้ ย ๔. ข้อใดกลำ่ วถึงจุดประสงค์ของกำรคดั ลำยมอื ไดถ้ ูกตอ้ งท่ีสุด คำ ก. ชว่ ยให้ผู้คดั ลำยมือมสี มำธิในกำรทำงำน ๗. ข้อควำมใดใช้อำกำรนำมไม่ถูกต้อง ข. เปน็ เครื่องมือในกำรถำ่ ยทอดควำมรู้ควำมคดิ ค. ช่วยให้รักกำรเขียนภำษำไทยซึง่ เปน็ ภำษำประจำชำติ ก. คือเธอผู้เปน็ สุดท่ีรักยง่ิ ชีวติ ง. ชว่ ยใหเ้ ขยี นตัวอักษรไทยได้ถกู ต้องตำมหลกั วิธกี ำร ข. ผทู้ ชี่ ีทำง ผู้ซึง่ ลิขติ ชีวติ และโชคชะตำ ต่ำงๆ ๕. ขอ้ พึงปฏบิ ัติก่อนกำรคัดลำยมอื ข้อใดสำคัญทสี่ ุด ค. เปน็ ดงั่ เคร่อื งประดับกำยและใจใหล้ ำ ก. เตรียมอปุ กรณใ์ นกำรคัดลำยมอื เลศิ วิไล ข. น่ังใหถ้ ูกต้องตำมหลักกำรน่ังคดั ลำยมือ ค. อำ่ นทำควำมเข้ำใจข้อควำมทจ่ี ะคัดลำยมือใหจ้ บ ง. อย่ำทิงฉันไป วันใดท่ีไร้เธอฉันคงต้องถึง ก่อนลงมอื คัด แกก่ ำรตำย ง. เลอื กรูปแบบกำรคัดลำยมือตำมควำมพอใจ แลว้ เลือก ๘. กำรกระทำทเี่ อำใจจดจ่ออยกู่ ับสิ่งใดส่ิงหนง่ึ ขอ้ ควำมทจ่ี ะคัด ควรใชค้ ำใด จงึ จะถูกต้องตำม ควำมหมำยท่ีแทจ้ ริง ก. ม่ัวสมุ ข. หมกมนุ่ ค. ขะมกั เขมน้ ง. อดตำหลับขับตำนอน
๙. ขอ้ ใดใชค้ ำถูกตอ้ งตำมฐำนะของบุคคล ๑๐. ขอ้ ใดใช้ลักษณนำมไมถ่ ูกต้อง ก. ประธำนนักเรยี นเข้ำหำผู้อำนวยกำรสถำนศกึ ษำ ก. เธอสวมแหวน ๒ วง ข. ประธำนนกั เรยี นเข้ำพบผู้อำนวยกำรสถำนศึกษำ ข. หนำ้ ฝนนเี รำตอ้ งเตรียมร่มไว้หลำยคนั ค. ประธำนนักเรยี นเข้ำเย่ยี มผู้อำนวยกำรสถำนศกึ ษำ ค. ชำ่ งไม้ทก่ี ำลังซ่อมบำ้ นของเรำไปซือเล่อื ยมำหลำย ง. ประธำนนกั เรียนเข้ำคำรวะผู้อำนวยกำร คนั สถำนศกึ ษำ ง. ชำวประมงกำลงั หำซือเรือลำใหมม่ ำใช้แทนลำเก่ำที่ เอำ ขึนคำน
แบบทดสอบ ๒.๔ ๑. ข้อใดคือจุดประสงคข์ องกำรพูดแสดงควำมคิดเหน็ ๖. “กำรปรกึ ษำหำรือกนั ในเรอื่ งใดเร่ืองหนึง่ เพยี งเรื่อง เชิงสร้ำงสรรค์ เดยี วในวงกวำ้ ง” ข้อควำมนีกลำ่ วถึงกำรพดู เชงิ วชิ ำกำร ก. ต้องกำรให้มีกำรเปลี่ยนแปลงไปในทำงที่ดี ประเภทใด ข. ตอ้ งกำรให้มคี วำมคิดคล้อยตำมกับผู้พูด ก. กำรพดู รำยงำน ข. กำรอภปิ รำย ค. ตอ้ งกำรให้มีกำรยอมรบั ในขอ้ ผิดพลำด ค. กำรสัมมนำ ง. กำรประชุม ง. ต้องกำรใหเ้ กดิ ควำมเชื่อถือ ๑ ๗.ภำษำท่ใี ชใ้ นกำรพดู รำยงำนมีลักษณะอยำ่ งไร ๒. กำรพูดประเภทใดทใี่ ช้อุปกรณป์ ระกอบกำรพดู ก. ใช้ภำษำท่เี ขำ้ ใจง่ำย มีควำมหมำยตรงตวั ก. พูดสรุปใจควำมสำคัญของเรื่อง ข. ใชภ้ ำษำพดู ท่ีกระชับ เขำ้ ใจง่ำย สภุ ำพ ข. พูดรำยงำนทำงวชิ ำกำร ค. ใช้ถอ้ ยคำตำมข้อมลู ที่ค้นคว้ำมำ ค. พูดแสดงควำมคดิ เห็น ง. ใชศ้ ัพทว์ ชิ ำกำร ง. พดู เลำ่ เรื่อง ๘. ถำ้ นักเรยี นต้องกำรเลำ่ เร่ืองใหเ้ ด็กนักเรียนระดบั ชัน ๓. “เป็นกำรพดู ทีม่ ีพลงั ใหค้ ติเตือนใจ สอนใจทคี่ วรนำมำ ประถมศึกษำปที ี่ ๔ ฟังโดยมีจุดมงุ่ หมำยเพื่อสัง่ สอน เป็นแงค่ ิดในกำรสรำ้ งสรรคใ์ ห้ชีวติ ดีขนึ ” ข้อควำมนี อบรมให้มีควำมสำมัคคีกนั ควรเลอื กเลำ่ เรอ่ื งประเภทใด กลำ่ วถึงกำรพูดประเภทใด ก. สำรคดีส่งเสริมกำรท่องเที่ยว ก. กำรพดู แสดงควำมคิดเหน็ ข. บทควำมเชิงวิชำกำร ข. กำรพดู ให้กำลังใจ ค. นทิ ำนคุณธรรม ค. กำรพูดรำยงำน ง. เร่อื งสัน ง. กำรพูดติชม ๙. กำรจบั ใจควำมสำคญั ของส่ิงทีฟ่ ังและดู ควรปฏบิ ัตสิ ง่ิ ๔. ข้อใดเป็นกำรพูดแสดงควำมคิดเหน็ เฉพำะตัว ใดเปน็ อนั ดับแรก ก. อนั แก้วดมี ีคำ่ รำคำย่ิง สง่ ใหล้ ิงจะร้คู ่ำรำคำหรอื ก. พิจำรณำถงึ ประโยชนท์ ่จี ะได้จำกกำรฟังและดู ข. รักเมืองไทย ชชู ำติไทย ทะนุบำรุงให้รุ่งเรือง ข. เลือกฟงั และดสู ื่อท่ดี ีมีคณุ ภำพ ค. หน้ำรอ้ นฉนั ชอบไปเทย่ี วจังหวดั ท่ีมีชำยทะเล ค. มมี ำรยำทในกำรฟงั และดู ง. ปีหนำ้ อำจจะมีนำท่วมใหญ่อีกครงั ง. ฟงั และดสู ่ือให้ตลอดเร่ือง ๕. บุคคลในข้อใดเปน็ นกั เลำ่ เร่อื ง ๑๐.กำรเรียบเรยี งจับใจควำมสำคัญของเรื่องที่ฟังและดู ก. นำยบูมพูดเสนอแนะแนวทำงในกำรแกป้ ัญหำ เพ่ือนำมำพูดควรใช้ภำษำท่ีมีลกั ษณะอย่ำงไร ควำม แตกแยกในสงั คม ก. ภำษำพดู ทเี่ ข้ำใจง่ำย ข. นำยบอสแสดงควำมคิดเห็นต่อพฤตกิ รรมของผูท้ ่ี ข. ภำษำที่สวยงำมสละสลวย ตนสนใจ ค. ภำษำทม่ี ีควำมลึกซึงกินใจ ค. นำยบอยถำ่ ยทอดประสบกำรณข์ องตนให้ผู้อื่นฟัง ง. ภำษำท่เี ป็นทำงกำรหรอื กึง่ ทำงกำร ง. นำยเบสพูดแต่ประเดน็ สำคัญของเรื่องท่ีอยำกพูด
ใบความรู้ ท่ี ๒.๕ เพลงชนดิ ของคา ทานองเพลง ลามะลิลา (สร้อย) คาเอ้ยคา ขนึ้ ตน้ อะไรก็ได้ แตต่ อ้ งลงทา้ ยด้วย สระอา หญงิ คำนำมนนั คืออะไร (ซำ) ขอเชิญขำนไข อย่ำงได้เก็บงำ ชาย คำนำม เรยี กคนสัตว์ส่ิงของ (ซำ) ขอเชิญนวลนอ้ ง จงหมัน่ จดจำ หญงิ คำสรรพนำมนันคืออะไร (ซำ) บอกหน่อยได้ไหม อย่ำได้ใจดำ ชาย สรรพนำม ใช้แทนนำมทงั หลำย (ซำ) หญงิ คำกรยิ ำ นันคืออะไร (ซำ) มีอยู่มำกมำย พ่ีไมไ่ ด้อำ ชาย กริยำ ใชแ้ สดงอำกำร (ซำ) ฉนั ยงั สงสยั โปรดไดช้ ีนำ หญงิ คำวเิ ศษณ์ละคะคุณพี่ (ซำ) นงั่ นอน กนิ อำ่ น ตัก และตำ ชาย วเิ ศษณค์ ือคำขยำย (ซำ) หญิง นอกจำกนยี ังมีอะไรอีก (ซำ) ช่วยบอกอีกที น้องจะไดจ้ ำ ชาย ยงั มีอทุ ำน สนั ธำน บพุ บท (ซำ) เพ่ือชว่ ยบรรยำยเนอื หำของคำ (สรอ้ ย) คาเอ้ยคา ขน้ึ ต้นอะไรก็ได้ พี่อยำ่ หลบหลกี จะใจระกำ พ่ีบอกนอ้ งหมดเจ็ดชนดิ ของคำ แต่ต้องลงท้ายด้วย สระอา ที่มา http://www.sahavicha.com
ใบงานที่ ๒.๕ เรอ่ื งชนิดของคา คาช้ีแจง ให้นกั เรยี นจำแนกชนดิ ของคำทกี่ ำหนดให้ถกู ต้อง ใกล้ กบั ว้ำย ทุง่ นำ โทรทศั น์ อุ๊ยตำย บ้ำง เพรำะวำ่ แห่ง คุณพี่ มำกมำย หนงั สอื เนือ่ งจำก หรือ ข้ำพเจ้ำ ทำกำรบำ้ น เปรียว ตน้ ไม้ แก่ เหลอื เกนิ กระผม เตยี บน เธอ หัวเรำะ กล้วยแขก ว่งิ ดฉิ นั เหม็น ดว้ ย โอ้ย จบั ปลำ นอนหลบั อย่ำงไรก็ตำม เพรำะฉะนัน สนำมหลวง โทรศัพทม์ อื ถอื คณุ พระชว่ ย คำนำม คำสรรพนำม คำกริยำ คำวิเศษณ์ คำสนั ธำน คำบพุ บท คำอทุ ำน
ข้อสอบตามแผนการสอนที่ ๒.๕ เรือ่ งชนิดของคา คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นเลือกคำตอบท่ีถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว ๑. ข้อใดกล่ำวถูกต้อง ๖. คำนำมข้อใดมหี นำ้ ที่ตำ่ งจำกข้ออน่ื ก. คำท่ีประสมแล้วมคี วำมหมำยเรยี กว่ำ “พยำงค์” ก. มำนีชอบดลู ะครตอนเย็น ข. คำเกิดจำกกำรนำเสียงพยัญชนะและเสยี งสระประสม ข. คณุ ปู่ชอบเลำ่ นิทำนพนื บ้ำน กัน ค. แม่ให้ตุ๊กตำหมีแก่น้องในวันเกิด ค. คำหน่งึ คำมีพยำงคเ์ ดยี วหรอื มีหลำยพยำงค์ และอำจ ง. นำยกรัฐมนตรีประชมุ ทท่ี ำเนียบรฐั บำล ไม่มีควำมหมำยกไ็ ด้ ๗. ข้อใดมีคำวเิ ศษณ์บอกควำมชเี ฉพำะ ง. กลมุ่ คำเกิดจำกกำรนำคำหลำยๆ คำมำเรยี งกนั ก. นกั เรยี นคนนีตงั ใจเรียนมำก แตย่ งั มีควำมหมำยไม่บรบิ รู ณ์ ข. ฉนั ชอบภำพล้อเลียนภำพนี ๒. คำท่ีช่วยขยำยคำอืน่ ในประโยค เรียกคำชนดิ ใด ค. คุณยำ่ ขำ หนูอยำกกนิ นำพริกค่ะ ก. คำกรยิ ำ ง. วันๆ ไม่ทำอะไรเลยเอำแตเ่ ล่นเกม ข. คำอุทำน ๘. คำสนั ธำนในข้อใดตำ่ งจำกข้ออน่ื ค. คำสันธำน ก. นกเป็นคนกนิ เกง่ แตไ่ มอ่ ว้ น ง. คำวิเศษณ์ ข. ฉนั กับเพื่อนจะไปเลน่ ฟตุ บอล ๓. คำใดท่ีมสี ่วนสำคัญในประโยคมำกท่สี ดุ ค. หนจู ะซอื กำร์ตูนหรือแผ่นซดี ี ก. คำนำม ง. แมท่ ำงำนเหน่ือยทังวนั แต่แม่ก็ไม่บน่ ข. คำกรยิ ำ ๙. ประโยคในข้อใดใช้คำอุทำนได้เหมำะสม ค. คำสนั ธำน ก. นี่ๆ เสือตวั นสี วยจงั ! ง. คำสรรพนำม ข. อุ๊ย! รีบทำกำรบำ้ นเขำ้ สิ ๔. คำใดเปน็ คำนำม ค. ตำยจรงิ ! ฉนั ลืมเอำกำรบ้ำนมำ ก. เปรียว ข. ทำบุญ ง. พทุ โธ่! ทำงำนมำทังวัน เหน่ือยจังเลย! ค. สวยงำม ง. ควำมคิด ๑๐. ประโยคในข้อใดเปน็ ประโยคควำมรวม ๕. คำในข้อใดทใี่ ช้ลักษณนำมเหมือนกันทกุ คำ ก. ขนมทฉ่ี นั ชอบกนิ มำกคือฝอยทอง ก. ปิ่น เบด็ สำก ข. วันหยดุ ฉนั กับพีจ่ ะไปขำยของทีต่ ลำด ข. เกวยี น พำย ดำบ ค. เขำชอบดูกำร์ตูนเร่ืองรำพนั เซลมำก ค. เณร ชี พระพุทธรปู ง. แม่ของฉนั ไปตลำดกบั คุณป้ำข้ำงบำ้ น ง. อทุ ยำน นำตก สะพำน
ใบงานท่ี ๒.๖ เรอ่ื งการสรปุ เน้อื หาโคลงโลกนติ ิ คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นอำ่ นวรรณคดีเร่ือง โคลงโลกนติ ิ แล้วสรปุ เนอื หำ เฉลย
ใบงานท่ี ๒.๗ เร่ืองการวิเคราะหค์ ุณค่าโคลงโลกนิติ คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรียนอำ่ นวรรณคดีเรื่อง โคลงโลกนิติ แล้ววิเครำะหแ์ ละอธบิ ำยตำมประเด็นที่กำหนด ๑. สภำพสังคมทปี่ รำกฏในวรรณคดีเร่อื ง โคลงโลกนติ ิ ๒. สอนทปี่ รำกฏในวรรณคดีเรอื่ ง โคลงโลกนิติ ๓. ค่ำนิยมที่ปรำกฏในวรรณคดีเรื่อง โคลงโลกนติ ิ
ใบงานท่ี ๒.๘ เร่อื ง สรปุ ข้อคิด คาชแ้ี จง ให้นกั เรียนเขียนนิทำนเทยี บโคลงโลกนติ ิ ๑ เร่ือง โดยนำเร่ืองท่ีพบเห็นในชีวติ ประจำวนั มำเปน็ เคำ้ โครงใน กำรเขยี นและเลอื กโคลงโลกนิติทเ่ี หมำะสมกับเนือหำ ๑ บท มำประกอบกำรเขียน นิทำนเทยี บโคลงโลกนติ ิ เรอ่ื ง
ใบงานที่ ๒.๘ ความรแู้ ละข้อคิดโคลงโลกนิติ คาช้ีแจง ใหน้ กั เรยี นอำ่ นบทประพันธ์ท่กี ำหนด แล้วตอบคำถำม คณุ แม่หนำหนักเพยี ง พสธุ ำ ๑. คณุ บดิ รดจุ อำ- กำศกวำ้ ง คณุ พพ่ี ำ่ งศิขรำ เมรมุ ำศ คณุ พระอำจำรยอ์ ำ้ ง อำจสสู้ ำคร บทประพนั ธ์มคี ณุ คำ่ ด้ำนวรรณศิลป์อยำ่ งไร นักเรยี นเหน็ ด้วยกับบทประพันธ์ขำ้ งตน้ หรอื ไม่ อยำ่ งไร ควำมร้ดู ยู ง่ิ ลำ สินทรพั ย์ ๒. คดิ ค่ำควรเมอื งนบั ย่ิงไซร้ กำยอำต- มำนำ เพรำะเหตจุ ักอยูก่ ับ เร่งรเู้ รยี นเอำ โจรจักเบียนบ่ได้ บทประพันธ์นใี หข้ อ้ คิดอยำ่ งไรกบั ผอู้ ่ำน นกั เรียนเห็นด้วยกับบทประพนั ธ์ข้ำงตน้ หรือไม่ อย่ำงไร
แบบทดสอบหลงั เรียน คาชแี้ จง ใหน้ ักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว ๑. โคลงโลกนิติ มีควำมเปน็ มำอย่ำงไร อ่านโคลงโลกนติ ิท่ีกาหนด แล้วตอบคาถาม ข้อ ๖-๘ ก. กรมพระยำเดชำดิศรแต่งขึน ข. เป็นของเก่ำท่ีแปลมำจำกภำษำบำลี คณุ แม่หนำหนักเพียง พสุธำ ค. พระบำทสมเดจ็ พระน่ังเกลำ้ เจ้ำอยหู่ ัวทรง คณุ บิดรดจุ อำ- กำศกวำ้ ง คุณพ่ีพำ่ งศขิ รำ เมรมุ ำศ ค้นพบ คุณพระอำจำรยอ์ ำ้ ง อำจสสู้ ำคร ง. กรมพระยำเดชำดิศรรวบรวมงำนเก่ำมำชำระ ๖. โคลงบทนมี งุ่ สอนเร่ืองใดเปน็ สำคัญ แล้ว นำขึนถวำย ร.๓ ก. ควำมกตัญญู ๒. ข้อใดไมจ่ ัดเปน็ ผลงำนประพันธข์ องกรมพระยำ ข. ควำมดี ควำมชั่ว เดชำดศิ ร ค. กำรลำดับผทู้ ีม่ ีพระคุณ ก. กำพยด์ ษุ ฎีสงั เวย ง. กำรอปุ ถมั ภ์คำชูผ้มู ีพระคุณ ข. โคลงปรำบดำภิเษก ค. คำฉันท์กล่อมพระเศวต ๗. คำศัพท์ในขอ้ ใดมีควำมหมำยเหมือนกัน ง. นริ ำศไปทัพเมืองเวยี งจนั ทน์ ก. สำคร – พสุธำ ๓. ขอ้ ใดจดั เป็นคุณค่ำทส่ี ำคญั สงู สดุ ของโคลงโลกนิติ ข. พสุธำ – เมรุมำศ ก. ควำมงำมและซำบซึงในรสวรรณคดี ค. เพยี ง – ดุจ – พำ่ ง ข. เข้ำใจกำรนำเสนอและกำรใช้ถอ้ ยคำ ง. ศขิ รำ – อำกำศ – เมรมุ ำศ ค. เหน็ ภำพสะท้อนสงั คมในอดตี ชัดเจนมำกขึน ง. นำคติที่ไดไ้ ปประยุกตใ์ ช้ในกำรดำเนินชวี ติ ๘. ข้อใดกล่ำวเปรยี บเทยี บไม่ถูกต้อง ๔. จุดประสงค์สำคัญในกำรแตง่ โคลงโลกนติ ติ รงกับขอ้ ก. พระคุณพอ่ เปรยี บกบั ควำมลึกมหำสมทุ ร ข. พระคุณครูบำอำจำรยเ์ ปรยี บกับมหำสมุทร ใด ค. พระคุณพ่ีเปรียบกับขนุ เขำสงู ใหญ่ ก. ใชเ้ ป็นสุภำษติ สอนใจประชำชน ง. พระคุณแม่เปรียบกับผนื แผน่ ดิน ข. ใชป้ ระดับตกแตง่ พระอำรำมในวดั โพธิ์ ค. มุ่งใหเ้ ป็นวรรณคดีมรดกชนั สูงของชำติ ๙. พระบำทสมเดจ็ พระน่ังเกลำ้ เจำ้ อยู่หัว โปรดเกล้ำฯ ง. เป็นสรรพวิชำทค่ี รอบคลุมศำสตร์ทกุ แขนง ใหน้ ำโคลงโลกนติ ิท่ีชำระแลว้ ไปจำรึกท่ใี ด ก. วัดอรุณรำชวรำรำม ๕. โคลงโลกนติ ิ จดั อยู่ในวรรณคดีหมวดใด ข. วดั พระศรีรตั นศำสดำรำม ก. บนั เทงิ คดี ค. วดั พระเชตพุ นวมิ ลมังคลำรำม ข. นิทำนพนื บ้ำน ง. วัดรำชบพิตรสถติ มหำสีมำรำม ค. สภุ ำษติ คำสอน ง. บันทึกกำรเดนิ ทำง
๑๐. เหตใุ ดจึงยกย่องโคลงโลกนติ ิใหเ้ ปน็ ๑ ในหนงั สอื ดี ๑๐๐ เล่ม ท่คี นไทยควรอำ่ น ก. เพรำะเปน็ สภุ ำษิตคำสอน ข. เพรำะใช้ถ้อยคำที่มีควำมไพเรำะ ค. เพรำะให้ควำมรคู้ วำมคดิ ในกำรปฏบิ ัตติ น ง. เพรำะมคี วำมเหมำะสมทงั รูปแบบเนอื หำ และคณุ คำ่ วรรณกรรม
แบบฝกึ หัดเพิ่มเติม ชดุ ท่ี ๑ เร่อื ง กลอนสุภาพ ๑. ใช้นำหอม ยอ้ มกำย ให้ชำย………… ไม่ชำ้ คง จำงหำย จำกกำย………..…. ใชค้ วำมดี ผกู พัน นันยืนยำว จะ………………. ใจชำย ตรำบวำยชนม์ ๒. สขุ เพรำะแสงแห่งธรรมนำ……….… (นิม่ นวล หำญณรงค)์ สขุ เพรำะใจปล่อยวำงวำ่ งสบำย คิดถงึ ธรรมนำใจใสสว่ำง สุขเพรำะจติ สงบพบ……………………..…….. คดิ ตรีกตรองพอใจในสิ่งมี สุข……………….……กับชีวติ ถำ้ คิดดี …..……..ส่มู รรคผล………………………..……. ………………..……….ควำมชว่ั กลัวบำปกรรม
แบบฝึกเพ่ิมเติม ชดุ ท่ี ๒ ๑.คำว่ำ \"โคลงโลกนติ \"ิ อำ่ นออกเสยี งวำ่ อย่ำงไร ๑.โคลง-โลก-กะ-นิ-ติ ๒.โคลง-โลก-กะ-นดิ ๓.โคลง-โลก-นิ-ติ ๒.กวีทำ่ นใดเปน็ ผแู้ ตง่ โคลงโลกนติ ิ ๑.สมเด็จพระเจ้ำบรมวงศ์เธอ กรมพระยำเดชำดิศร ๒.สุนทรภู่ ๓.พระบำทสมเด็จ พระน่ังเกลำ้ เจ้ำอยหู่ ัว (รชั กำลที่ 3) ๓.สมเด็จฯ กรมพระยำเดชำดิศร ทรงชำระโคลงโลกนติ ิสำนวนเกำ่ แลว้ จำรึกไวท้ ีว่ ดั ใด ๑.วดั พระศรรี ตั นศำสดำรำมฯ (วัดพระแกว้ ) ๒.วัดอรุณรำชวรำรำมฯ (วัดแจง้ ) ๓.วัดพระเชตุพนฯ (วัดโพธ์ิ) ๔.โคลงโลกนติ ฉิ บบั ท่ีสมเดจ็ ฯ กรมพระยำเดชำดิศร ทรงชำระนีมีทงี หมดกี่บท ๑.385 บท ๒.483 บท ๓.593 บท ๕.โคลงโลกนิติ ใชค้ ำประพันธ์ประเภทใด ๑.กำพย์ยำนี ๑๑ ๒.โคลงส่ีสุภำพ ๓.กลอน ๘ ๖.โคลงโลกนติ ิ แตง่ ในปี พ.ศ. ใด ๑.พ.ศ.๒๑๒๓ ๒.พ.ศ.๒๓๒๕ ๓.พ.ศ.๒๓๗๔ ๗.\"ไปเ่ หน็ ชเลไกล\" คำวำ่ ชเล แปลว่ำอะไร ๑.ทะเล ๒.ภูเขำ ๓.สำยนำ ๘.\"คุณแมห่ นำหนักเพยี ง พสุธำ\" ในทีน่ ีเปรียบพระคุณแม่กับส่ิงใด ๑.ยอดเขำ
๒.แผ่นดนิ ๓.จกั รวำล ๙.\"พระคณุ พ่ีพำ่ งศิขรำ เมรมุ ำศ\" ในทีน่ เี ปรียบพระคุณพ่ีกับส่งิ ใด ๑.ยอดเขำสูง ๒.ยอดเขำ ๓.แผน่ ดนิ ๑๐.โคลงโลกนติ ิสอนให้คนเรำปฏบิ ตั ิตนอย่ำงไร ๑.สอนใหท้ ำควำมดี ๒.สอนใหม้ ีควำมกตญั ญู ๓.ถกู ทุกข้อ
“อปุ สรรคขวากหนามในชีวิตจรงิ ยอ่ มมหี นทางเอาชนะ มีเพยี งส่ิง ทอี่ ยูใ่ นจนิ ตนาการเทา่ นน้ั ท่ไี มอ่ าจเอาชนะได้” จงเรียนอยา่ งมีความสุข สวสั ดี
Search
Read the Text Version
- 1 - 23
Pages: