สาระสาคัญของร่างพระราชบัญญัติการเลือกตงั้ สมาชกิ สภาท้องถิน่ หรอื ผู้บรหิ ารท้องถน่ิ พ.ศ. ๒๕๖๒ เร่ือง สาระสาคัญ (๑) หน้าทีแ่ ละ กำหนดให้คณะกรรมกำรกำรเลอื กตั้งมีหน้ำที่และอำนำจในกำรจัดกำรเลือกตั้งสมำชกิ สภำ อานาจ ท้องถน่ิ หรอื ผบู้ รหิ ำรท้องถนิ่ ซ่ึงคณะกรรมกำรกำรเลอื กต้ัง การจดั การ มอี ำนำจมอบหมำยใหอ้ งคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่นิ เป็นผู้รับผิดชอบในกำรจดั กำรเลอื กตั้ง หรอื เลือกตั้ง จดั กำรเลอื กตัง้ เอง หรือมอบหมำยให้หน่วยงำนอื่นของรัฐซึ่งมใิ ชอ่ งคก์ ำรปกครองสว่ นท้องถิน่ ดำเนนิ กำรแทน (มำตรำ ๕) (๒) กาหนด กำหนดให้จัดกำรเลือกต้งั สมำชิกสภำท้องถ่นิ หรือผู้บริหำรทอ้ งถิ่น ภำยใน ๔๕ วัน นับแต่ วันทส่ี มำชิกสภำท้องถิ่นหรือผ้บู รหิ ำรท้องถ่นิ ดำรงตำแหนง่ ครบวำระหรือภำยใน ๖๐ วนั นบั ระยะเวลา แตว่ ันท่สี มำชกิ สภำท้องถ่ินหรอื ผูบ้ รหิ ำรท้องถิ่นพน้ จำกตำแหนง่ เพรำะเหตุอนื่ นอกจำกครบวำระ การจัดการ เว้นแต่กรณสี มำชิกสภำทอ้ งถิน่ เลือกตั้ง มวี ำระดำรงตำแหนง่ เหลืออย่ไู ม่ถงึ ๑๘๐ วนั จะไมจ่ ัดใหม้ ีกำรเลอื กตัง้ กไ็ ด้ ทั้งน้ี กรณีมคี วำม จำเป็นเม่ือมพี ฤติกำรณพ์ เิ ศษ คณะกรรมกำรกำรเลอื กตง้ั จะมีคำสง่ั ใหย้ ่นหรอื ขยำยระยะเวลำ ให้ มกี ำรเลือกตั้งโดยต้องระบเุ หตุผลไวด้ ้วย (มำตรำ ๑๑) (๓) การประกาศ เม่ือมีกรณที ่ีต้องมกี ำรเลือกต้งั ให้ผู้อำนวยกำรเลอื กต้งั ประจำองคก์ รปกครองส่วนท้องถนิ่ โดย ให้มี ควำมเห็นชอบของผูอ้ ำนวยกำรกำรเลอื กตง้ั ประจำจังหวัด ประกำศให้มกี ำรเลือกตั้ง กำรประกำศ การเลือกต้งั อยำ่ งน้อยตอ้ งมเี ร่อื ง ดงั ตอ่ ไปนี้ (มำตรำ ๑๒) ๑) วันเลือกต้ัง ๒) วนั รับสมคั รเลอื กต้ัง ซง่ึ ให้มีกำรเรมิ่ รับสมัครไม่เกิน ๑๐ วันนับแตป่ ระกำศให้มกี ำร เลือกต้งั และต้องกำหนดวันรับสมัครไมน่ ้อยกวำ่ ๕ วัน ๓) สถำนที่รับสมัครเลอื กตงั้ ๔) จำนวนสมำชิกสภำท้องถิ่นที่จะมกี ำรเลอื กตัง้ ในแตล่ ะเขตเลอื กตั้ง หรือผูบ้ ริหำรทอ้ งถิ่นใน เขตเลอื กต้ัง ๕) จำนวนเขตเลอื กตั้ง ซ่ึงต้องมรี ำยละเอียดเกีย่ วกับอำเภอหรือตำบลหรอื เขตท้องที่ทอี่ ย่ภู ำยในเขตเลือกตัง้ ๖) หลกั ฐำนกำรสมัครรับเลอื กต้ัง
-2 - เรอ่ื ง สาระสาคญั (๔) การ (๑) ผดู้ าเนนิ การเลอื กต้ัง กำหนดใหห้ วั หนำ้ พนกั งำนสว่ นทอ้ งถิ่นเป็นผู้อำนวยกำรกำร ดาเนนิ การ เลือกตง้ั ประจำองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ นัน้ โดยมีหน้ำท่ี เลือกตงั้ และอำนำจดังต่อไปนี้ (มำตรำ ๒๕) ๑) รับสมคั รเลอื กตง้ั ๒) กำหนดหนว่ ยเลอื กตั้งและที่เลือกต้ัง ๓) แตง่ ตัง้ และจดั อบรมเจำ้ พนกั งำนผูด้ ำเนินกำรเลือกต้ัง ๔) ตรวจสอบบัญชรี ำยชื่อผู้มีสทิ ธิเลือกตั้งและดำเนินกำรเพม่ิ ชื่อหรือถอนชอื่ ของผ้มู ีสิทธิ เลอื กตั้ง ๕) ดำเนนิ กำรเกย่ี วกับกำรลงคะแนนเลือกตั้ง กำรนบั คะแนน กำรประกำศผลคะแนน เลือกตั้ง ๖) ดำเนนิ กำรอืน่ อนั จำเป็นเก่ียวกบั กำรเลือกตัง้ (๒) คณะกรรมการท่ีเกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าทีร่ กั ษาความปลอดภยั ดังน้ี ๒.๑) คณะกรรมการการเลอื กตง้ั ประจาองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ ซึง่ ได้รับกำรแตง่ ตงั้ จำกขำ้ รำชกำรและเจำ้ หน้ำทอ่ี ื่นของรัฐในเขตจงั หวดั หรอื เขตอำเภอหรือแต่งต้งั จำกผ้มู ีสิทธิเลือกตงั้ โดยมิให้แตง่ ตง้ั ข้ำรำชกำร พนักงำนหรอื ลกู จำ้ งของ องคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่นิ เว้นแต่แต่งต้ังเพ่ือทำหน้ำท่ีเลขำนุกำรและผู้ช่วยเลขำนุกำร (มำตรำ ๒๖) มีหน้ำทเ่ี สนอแนะและให้ควำมเห็นชอบในกำรกำหนดหน่วยเลือกต้ังและทเ่ี ลือกตัง้ และกำร แต่งตง้ั เจ้ำพนักงำนผดู้ ำเนินกำรเลอื กตง้ั เป็นต้น (มำตรำ ๒๗) ๒.๒) คณะกรรมการประจาหน่วยเลือกต้ัง ไมน่ อ้ ยกวำ่ ๕ คน ซึ่งไดร้ ับ กำรแตง่ ตงั้ จำกผอู้ ำนวยกำรเลือกตง้ั ประจำองค์กำรปกครองส่วนท้องถนิ่ โดยควำมเหน็ ชอบของคณะกรรมกำรกำรเลือกต้ังประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน มหี น้ำท่ี ดำเนนิ กำรเก่ียวกบั กำรออกเสียงลงคะแนนและกำรนบั คะแนนของ หน่วยเลือกตงั้ (มำตรำ ๒๘ (๑)) ๒.๓) เจ้าหนา้ ทร่ี กั ษาความปลอดภัย อยำ่ งน้อย ๒ คน มีหนำ้ ทีร่ ักษำ ควำม ปลอดภยั และสนบั สนุนกำรปฏบิ ัตหิ นำ้ ท่ีของคณะกรรมกำรกำรเลือกต้ังประจำหน่วยเลือกตั้ง (มำตรำ ๒๘ (๒)) (๓) เขตเลอื กตั้ง หนว่ ยเลือกตัง้ และทเ่ี ลอื กตัง้ ๓.๑) เขตเลอื กต้งั สำหรบั สมำชิกสภำท้องถ่ิน กรณกี รุงเทพมหำนคร ถอื เขตเป็นเขตเลอื กต้งั กรณอี งคก์ ำรบริหำรสว่ นจังหวดั ถอื เขตอำเภอเปน็ เขตเลือกตัง้ กรณี เทศบำลตำบลแบง่ เปน็ ๒ เขต กรณีเทศบำลเมืองแบง่ เป็น ๓ เขต กรณีเทศบำลนครหรือเมืองพทั ยำ แบง่ เปน็ ๔ เขต กรณอี งค์กำรบริหำรสว่ นตำบลถอื เขต หมูบ่ ้ำนเปน็ เขตเลือกตง้ั (มำตรำ ๑๙) สำหรับกำรเลือกตง้ั ผู้บริหำรท้องถ่นิ ให้ใชเ้ ขตขององค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่ินเปน็ เขตเลอื กตั้ง (มำตรำ ๒๒) ๓.๒) หน่วยเลอื กต้ังและที่เลอื กตัง้ กำหนดใหผ้ ูอ้ ำนวยกำรกำรเลือกตั้งประจำองคก์ ร
-3 - เร่ือง สาระสาคญั ปกครองส่วนทอ้ งถ่ินกำหนดหนว่ ยเลือกตง้ั และทเ่ี ลือกตั้ง ก่อนวันเลอื กตั้งไมน่ อ้ ยกว่ำ ๒๕ วนั และกำรเปลีย่ นแปลงเขตของหนว่ ยเลอื กตั้งและ ท่ีเลอื กต้ังให้กระทำก่อนวนั เลือกต้งั ไมน่ อ้ ยกวำ่ ๑๐ วนั (มำตรำ ๒๓) ๓.๓) การเปลีย่ นแปลงเขตของหนว่ ยเลอื กต้ังหรือทเี่ ลอื กตั้ง กรณเี กดิ จลาจล อทุ กภยั อัคคีภัย เหตุสุดวิสยั หรือเหตุจาเป็นอย่างอนื่ จะประกำศเปลย่ี นแปลงก่อนวนั เลือกตั้งนอ้ ยกว่ำ ๑๐ วนั ก็ได้ (มำตรำ ๒๓ วรรคสำม) (๔) การรบั สมัครเลอื กตัง้ ๔.๑) ใหผ้ ู้สมัครรบั เลือกตง้ั ยื่นตอ่ ผอู้ ำนวยกำรกำรเลอื กตงั้ ประจำองคก์ รปกครองสว่ น ทอ้ งถ่ิน พร้อมหลกั ฐำนกำรสมัครและค่ำธรรมเนียมกำรสมัครตำมทีค่ ณะกรรมกำรกำรเลือกตัง้ กำหนด และให้ดำเนินกำรตรวจสอบควำมถกู ตอ้ ง ของกำรสมัครและสทิ ธิกำรสมคั รรับเลือกตัง้ คุณสมบตั แิ ละลักษณะต้องหำ้ ม รวมทง้ั ใหป้ ระกำศ จัดทำบญั ชีรำยชอ่ื ผู้สมคั รรับเลือกตง้ั ภำยใน ๗ วนั นับแตว่ นั ปดิ รับสมัคร (มำตรำ ๕๒) ท้งั นี้ หลักฐำนกำรสมัครรบั เลอื กตง้ั ผู้สมคั รต้องย่นื หลกั ฐำนแสดงกำรเสยี ภำษเี งินได้บคุ คลธรรมดำ เปน็ เวลำติดตอ่ กนั ๓ ปี นบั ถงึ ปีที่สมัครรับเลอื กตง้ั ของผู้สมคั ร เว้นแต่เป็นผู้ไมไ่ ด้เสยี ภำษีเงนิ ได้ ใหท้ ำ หนงั สือยนื ยันกำรไมไ่ ดเ้ สยี ภำษพี รอ้ มท้งั สำเหตุของกำรไมไ่ ดเ้ สยี ภำษี (มำตรำ ๕๑) ๔.๒) กำหนดหำ้ มผู้สมัครรบั เลือกต้ังที่สมัครรับเลือกตั้งแลว้ จะถอน กำรสมัครมิได้ (มำตรำ ๕๓) ๔.๓) ใหก้ ำหนดหมำยเลขประจำตัวผู้สมคั รเรยี งตำมลำดับกอ่ นหลัง ในกำรมำยืน่ ใบสมคั ร ถำ้ มผี ู้สมคั รมำพรอ้ มกนั หลำยคนและไมอ่ ำจตกลงกันได้ ใหใ้ ช้วธิ ีจับสลำก กำรกำหนดหมำยเลขประจำตัวผู้สมัครและกำรจบั สลำกใหเ้ ป็นไปตำมหลกั เกณฑ์ และวิธกี ำรทคี่ ณะกรรมกำรกำรเลอื กตัง้ กำหนด (มำตรำ ๕๗) (๕) การจัดทาบญั ชรี ายชื่อผมู้ ีสทิ ธิเลือกต้ัง ๕.๑) ใหผ้ อู้ ำนวยกำรทะเบียนกลำงมีหนำ้ ท่ีจัดทำบัญชีรำยชื่อผมู้ ีสิทธิเลือกต้งั ของแต่ละหนว่ ย เลือกตัง้ จำกทะเบียนรำยชื่อผ้มู สี ิทธิเลือกตง้ั ให้ถกู ต้องตำมควำมจริง (มำตรำ ๑๓) ๕.๒) ใหผ้ ้อู ำนวยกำรกำรเลือกตงั้ ประจำองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ ตรวจสอบบัญชีรำยชือ่ ผู้ มสี ิทธิเลือกต้ังของแต่ละหนว่ ยเลอื กตั้งท่ผี ู้อำนวยกำรทะเบียนกลำงจดั ทำขนึ้ และประกำศบัญชี รำยชื่อผูม้ ีสิทธิเลือกต้งั กอ่ นวนั เลอื กต้งั ไม่น้อยกว่ำ ๒๕ วัน และแจง้ รำยช่อื ใหเ้ จ้ำบ้ำนทรำบก่อน วันเลือกตั้งไม่น้อยกว่ำ ๑๕ วัน (มำตรำ ๔๓) ๕.๓) บัญชีรำยชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งท่ีประกำศโดยเปิดเผย มิให้ระบุ เลขประจำตวั บัตร ประชำชนของผมู้ ีสิทธเิ ลอื กต้ัง สำหรบั บญั ชีรำยช่ือผู้มีสิทธิเลือกตัง้ ที่จัดทำข้ึนเพื่อประโยชน์ของ เจ้ำหน้ำที่ในกำรตรวจสอบผู้มำใช้สิทธิเลือกตั้ง ใหร้ ะบุเลขบัตรประจำตัวประชำชนของผมู้ สี ิทธิ เลือกตั้งดว้ ย (มำตรำ ๔๓ วรรคสำม)
-4 - เร่ือง สาระสาคญั (๖) คุณสมบตั ิและลกั ษณะตอ้ งห้ามของผู้สมัครรบั เลอื กต้งั ๖.๑) คุณสมบัติของผสู้ มคั รรบั เลือกตง้ั (มาตรา ๔๙) (๑) มีสญั ชำตไิ ทยโดยกำรเกดิ (๒) ผู้มีสิทธสิ มัครรบั เลือกตงั้ เปน็ สมำชิกสภำท้องถ่ินตอ้ งมีอำยุ ไมต่ ่ำกวำ่ ยี่สบิ หำ้ ปีนบั ถึงวันเลือกตงั้ สำหรับผมู้ ีสิทธิสมคั รรับเลือกตัง้ เป็นผบู้ รหิ ำรท้องถ่นิ ใหม้ ีอำยตุ ำมที่ กฎหมำยว่ำด้วยกำรจดั ต้ังองค์กรปกครองสว่ นท้องถน่ิ กำหนด (๓) มชี อ่ื อยูใ่ นทะเบยี นบ้ำนในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่สมัครรบั เลอื กตง้ั ในวันสมคั รรับเลอื กตง้ั เปน็ เวลำติดต่อกันไม่น้อยกว่ำหนง่ึ ปี นับถงึ วันสมคั รรบั เลือกตง้ั (๔) คุณสมบตั ิอ่ืนตำมทกี่ ฎหมำยวำ่ ด้วยกำรจัดตั้งองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ กำหนด ๖.๒) ลกั ษณะตอ้ งห้ามของผสู้ มัครรับเลอื กตงั้ (มาตรา ๕๐) (๑) ตดิ ยำเสพติดใหโ้ ทษ (๒) เปน็ บคุ คลลม้ ละลำยหรอื เคยเปน็ บคุ คลล้มละลำย (๓) เป็นเจ้ำของหรอื ผถู้ ือหนุ้ ในกิจกำรหนงั สอื พิมพ์หรือส่ือมวลชนใด ๆ (๔) เปน็ บุคคลผมู้ ลี ักษณะต้องห้ำมมใิ ห้ใช้สิทธิเลือกตง้ั ตำมมำตรำ ๓๙ (๑) (๒) หรอื (๔) ซง่ึ ได้แก่ (ก) เปน็ ภิกษุ สำมเณร นกั พรตหรือนักบวช (ข) อยู่ในระหว่ำงถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตัง้ ไมว่ ่ำคดนี ั้นจะถึงทสี่ ุดแล้วหรือไม่ (ค) วกิ ลจรติ หรือจิตฟั่นเฟอื นไม่สมประกอบ (๕) อย่รู ะหว่ำงถกู ระงบั กำรใช้สิทธิสมัครรบั เลอื กตั้งเป็นกำรชวั่ ครำวหรอื ถกู เพกิ ถอน สิทธสิ มัครรับเลือกตั้ง (๖) ต้องคำพพิ ำกษำใหจ้ ำคกุ และถกู คมุ ขงั อยู่โดยหมำยศำล (๗) เคยไดร้ ับโทษจำคุกโดยได้พน้ โทษมำยังไม่ถึงห้ำปีนับถึงวนั เลือกตง้ั เว้นแตใ่ น ควำมผดิ อนั ได้กระทำโดยประมำทหรือควำมผดิ ลหุโทษ (๘) เคยถกู สง่ั ใหพ้ ้นจำกรำชกำร หนว่ ยงำนของรฐั หรือรฐั วิสำหกิจเพรำะทจุ ริตต่อ หนำ้ ทห่ี รือถอื วำ่ กระทำกำรทจุ รติ หรือประพฤตมิ ชิ อบในวงรำชกำร (๙) เคยต้องคำพพิ ำกษำหรอื คำสั่งของศำลอันถึงที่สุดให้ทรัพย์สนิ ตกเป็นของ แผ่นดินเพรำะรำ่ รวยผิดปกติ หรอื เคยตอ้ งคำพพิ ำกษำอนั ถึงท่ีสุด ใหล้ งโทษจำคกุ เพรำะ กระทำควำมผดิ ตำมกฎหมำยวำ่ ด้วยกำรป้องกนั และปรำบปรำมกำรทุจรติ (๑๐) เคยตอ้ งคำ พพิ ำกษำอนั ถงึ ที่สุดว่ำกระทำควำมผิด ต่อตำแหน่งหนำ้ ทร่ี ำชกำรหรอื ตำแหน่งหนำ้ ทใ่ี น กำรยุตธิ รรม หรือกระทำควำมผิดตำมกฎหมำยว่ำด้วยควำมผิดของพนกั งำนในองคก์ ำรหรือ หนว่ ยงำนของรฐั หรอื ควำมผิดเก่ยี วกบั ทรพั ยท์ กี่ ระทำโดยทจุ ริตตำมประมวลกฎหมำยอำญำ ควำมผดิ ตำมกฎหมำยวำ่ ดว้ ยกำรกยู้ ืมเงนิ ทีเ่ ป็นกำรฉอ้ โกงประชำชน กฎหมำยว่ำดว้ ย ยำเสพติดในควำมผิดฐำนเป็นผู้ผลิต นำเข้ำ ส่งออก หรอื ผ้คู ำ้ กฎหมำยวำ่ ด้วย กำรพนนั ใน ควำมผดิ ฐำนเปน็ เจ้ำมือหรือเจำ้ สำนกั กฎหมำยว่ำดว้ ยกำรป้องกัน และปรำบปรำมกำรค้ำมนษุ ย์
-5 - เร่ือง สาระสาคญั หรือกฎหมำยวำ่ ดว้ ยกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรฟอกเงินในควำมผดิ ฐำนฟอกเงนิ (๑๑) เคยตอ้ งคำพิพำกษำอันถึงทสี่ ดุ ว่ำกระทำกำรอนั เปน็ กำรทจุ ริตในกำรเลือกตัง้ (๑๒) เปน็ ข้ำรำชกำรซึง่ มตี ำแหนง่ หรอื เงนิ เดอื นประจำ (๑๓) เปน็ สมำชิกสภำผู้แทนรำษฎร สมำชิกวุฒสิ ภำ สมำชิกสภำท้องถิ่นหรอื ผูบ้ ริหำร ท้องถิ่น (๑๔) เปน็ พนกั งำนหรอื ลกู จำ้ งของหนว่ ยรำชกำร หน่วยงำนของรัฐ รัฐวิสำหกิจ หรือรำชกำรส่วนท้องถิ่น หรอื เปน็ เจำ้ หน้ำที่อนื่ ของรฐั (๑๕) เปน็ ตลุ ำกำรศำลรฐั ธรรมนญู หรอื ผดู้ ำรงตำแหน่งในองคก์ รอิสระ (๑๖) อยูใ่ นระหวำ่ งต้องห้ำมมิใหด้ ำรงตำแหน่งทำงกำรเมือง (๑๗) เคยพ้นจำกตำแหน่งเพรำะศำลฎีกำหรอื ศำลฎกี ำแผนกคดีอำญำของผู้ดำรง ตำแหนง่ ทำงกำรเมืองมีคำพพิ ำกษำวำ่ เปน็ ผ้มู ีพฤติกำรณร์ ่ำรวยผดิ ปกติ หรือกระทำควำมผิดฐำน ทจุ ริตตอ่ หน้ำที่หรอื จงใจปฏิบัติหนำ้ ที่ หรือใชอ้ ำนำจขัดตอ่ บทบญั ญัติแหง่ รัฐธรรมนญู หรอื ฝ่ำฝนื หรือไม่ปฏิบัติตำมมำตรฐำนทำงจรยิ ธรรมอย่ำงร้ำยแรง (๑๘) ต้องคำพิพำกษำถึงที่สุดว่ำกระทำควำมผดิ ตำมพระรำชบญั ญตั ิน้ี ไม่ว่ำจะไดร้ บั โทษหรอื ไม่ โดยไดพ้ ้นโทษหรอื ต้องคำพิพำกษำมำยงั ไม่ถงึ ห้ำปีนบั ถึงวนั เลอื กต้งั แลว้ แต่กรณี (๑๙) เคยถูกถอดถอนออกจำกตำแหนง่ สมำชิกสภำผู้แทนรำษฎร สมำชกิ วุฒิสภำ สมำชกิ สภำท้องถิ่นหรือผูบ้ ริหำรท้องถ่ิน ตำมบทบัญญัตขิ องรฐั ธรรมนูญแหง่ รำชอำณำจักรไทย หรือกฎหมำยว่ำดว้ ยกำรลงคะแนนเสยี ง เพอื่ ถอดถอนสมำชิกสภำทอ้ งถ่ินหรือผูบ้ รหิ ำร ท้องถนิ่ แลว้ แต่กรณี มำยังไมถ่ ึง หำ้ ปีนับถึงวันเลอื กตั้ง (๒๐) อยู่ในระหว่ำงถูกจำกดั สิทธิสมัครรบั เลอื กตั้งเป็นสมำชิก สภำ ท้องถิ่นหรือผ้บู รหิ ำรท้องถิน่ ตำมมำตรำ ๔๒ หรือตำมกฎหมำยประกอบรัฐธรรมนญู วำ่ ดว้ ยกำร เลอื กต้งั สมำชิกสภำผ้แู ทนรำษฎร (๒๑) เคยถูกเพกิ ถอนสทิ ธเิ ลอื กตงั้ และยงั ไมพ่ น้ ห้ำปีนับแตว่ นั ทพ่ี ้นจำกกำรถกู เพกิ ถอนสิทธิเลอื กต้ังจนถึงวันเลือกตั้ง (๒๒) เป็นผู้สมคั รรบั เลือกตัง้ เป็นสมำชิกสภำผู้แทนรำษฎรหรือ รบั เลือกตัง้ เปน็ สมำชกิ วฒุ ิสภำ หรอื เป็นผู้สมคั รรบั เลือกตงั้ เปน็ สมำชิกสภำท้องถิน่ หรือผูบ้ ริหำร ทอ้ งถิ่นขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถน่ิ เดียวกนั หรอื องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ินอน่ื (๒๓) เคยพน้ จำกตำแหน่งใด ๆ ในองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ เพรำะเหตุมสี ว่ นได้ เสยี โดยทำงตรงหรือทำงออ้ มในสญั ญำหรือกิจกำรทก่ี ระทำ หรอื จะกระทำหรือให้แก่องค์กร ปกครองส่วนท้องถ่นิ นั้น หรอื มีสว่ นได้เสียไมว่ ่ำโดยทำงตรงหรอื ทำงออ้ มในสญั ญำหรือกจิ กำรท่ี กระทำหรอื จะกระทำหรือให้แก่องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ อ่นื โดยมพี ฤติกำรณ์แสดงให้เห็นวำ่ เปน็ กำรตำ่ งตอบแทนหรือเออ้ื ประโยชนส์ ่วนตนระหว่ำงกัน และยงั ไมพ่ น้ ห้ำปีนบั แตว่ นั ทพ่ี ้นจำกตำแหนง่ จนถงึ วนั เลือกตง้ั (๒๔) เคยถูกสัง่ ให้พ้นจำกตำแหนง่ ใด ๆ ในองคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่นิ เพรำะจงใจไม่ ปฏบิ ัติตำมกฎหมำย กฎ ระเบียบของทำงรำชกำร หรอื มติคณะรัฐมนตรี อนั เป็นเหตุใหเ้ สียหำยแก่ รำชกำรอยำ่ งร้ำยแรงและยงั ไมพ่ น้ ห้ำปี นบั แตว่ นั ท่ีพน้ จำกตำแหน่งจนถงึ วันเลือกต้ัง
-6 - เร่ือง สาระสาคัญ (๒๕) เคยถูกส่งั ใหพ้ ้นจำกตำแหนง่ ใด ๆ ในองคก์ รปกครองส่วนท้องถ่ิน เพรำะทอดทิ้ง หรอื ละเลยไม่ปฏิบัติกำรตำมหน้ำท่ีและอำนำจ หรือปฏิบตั ิกำรไม่ชอบดว้ ยหน้ำท่ีและอำนำจ หรอื ประพฤติตนฝ่ำฝนื ต่อควำมสงบเรยี บร้อยหรือสวัสดิภำพของประชำชนหรือมีควำมประพฤติในทำงที่ จะนำมำซึ่งควำมเสอื่ มเสียแก่ศกั ดต์ิ ำแหนง่ หรอื แก่องคก์ รปกครองสว่ นท้องถนิ่ หรือรำชกำร และยัง ไมพ่ ้นห้ำปนี บั แตว่ ันที่พน้ จำกตำแหน่งจนถึงวนั เลอื กต้ัง (๒๖) ลักษณะอน่ื ตำมท่ีกฎหมำยว่ำด้วยกำรจดั ตั้งองคก์ รปกครองสว่ นท้องถิ่น กำหนด (๗) ค่าใช้จ่ายในการเลอื กตัง้ ของผูส้ มคั รรับเลือกตงั้ ๗.๑) ให้ผอู้ ำนวยกำรกำรเลือกต้ังประจำจังหวัดประกำศกำหนดจำนวนเงนิ คำ่ ใชจ้ ่ำยในกำร เลือกตั้งของผู้สมัครรับเลอื กต้ังตำมหลักเกณฑ์ วธิ กี ำรและระยะเวลำทีค่ ณะกรรมกำรกำรเลอื กตัง้ กำหนด รวมทง้ั กำหนดให้ผู้สมัครตอ้ งจัดทำบญั ชีรำยรับและรำยจ่ำยใหถ้ กู ตอ้ ง ครบถ้วนตำม ควำมเปน็ จริง และยนื่ ต่อผูอ้ ำนวยกำรกำรเลอื กต้งั ประจำจงั หวัด พร้อมหลกั ฐำนที่เก่ยี วข้อง (มำตรำ ๖๐) ๗.๒) กำหนดขนำดและจำนวนของกำรปดิ ประกำศหรือติดแผน่ ปำ้ ยเกย่ี วกบั กำรหำเสยี ง เลือกตัง้ ไม่เกินทคี่ ณะกรรมกำรกำรเลอื กตงั้ หรือผู้ซึง่ คณะกรรมกำรกำรเลอื กต้งั มอบหมำย กำหนด (มำตรำ ๗๑) (๘) การออกเสียงลงคะแนน ๘.๑) กำหนดให้กำรลงคะแนนเสยี งเลอื กตัง้ โดยใชบ้ ัตรเลือกต้ัง หรอื กำรลงคะแนนโดยใช้ วิธีกำรอ่นื ทมี่ ีใชก่ ำรใชบ้ ัตรเลือกตง้ั (มำตรำ ๗๖) ๘.๒) กรณีคณะกรรมกำรกำรเลอื กตัง้ กำหนดให้มกี ำรออกเสยี งลงคะแนนโดยวธิ อี ืน่ ซึง่ มใิ ช่ กำรใช้บัตรเลอื กตงั้ ค่ำใชจ้ ่ำยในกำรจัดหำหรือจัดใหม้ อี ปุ กรณห์ รือเครอ่ื งมอื ในกำรออกเสยี ง ลงคะแนนให้อยูใ่ นควำมรบั ผิดชอบของคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้ง โดยคณะกรรมกำรกำรเลอื กตั้ง จะกำหนดคำ่ ใชอ้ ปุ กรณ์หรอื เครือ่ งมอื จำกองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ทน่ี ำไปใช้ตำมอตั รำท่ี กำหนดดว้ ยก็ได้ (มำตรำ ๗๕) ๘.๓) กรณีกำรออกเสียงลงคะแนนโดยวิธีอ่ืนซงึ่ มใิ ชก่ ำรใช้บตั รเลือกต้งั ให้เป็นไปตำมหลักเกณฑ์ วิธกี ำร และเงอ่ื นไขที่คณะกรรมกำรกำรเลือกตงั้ กำหนด โดยวธิ นี น้ั สำมำรถป้องกนั กำรทุจรติ ในกำรเลือกตัง้ ได้อย่ำงมีประสทิ ธภิ ำพ สะดวก มคี ำ่ ใช้จ่ำยคุม้ ค่ำ และประชำชนเข้ำถึงไดโ้ ดยสะดวก (มำตรำ ๗๖ วรรคสอง) (๙) ค่าใชจ้ ่ายในการจดั การเลือกตง้ั กำหนดใหอ้ งคก์ รปกครองส่วนท้องถ่ินรับผิดชอบ ค่ำใช้จำ่ ยในกำรเลือกตัง้ ทั้งหมด เว้นแต่ค่ำใช้จำ่ ยของคณะกรรมกำรกำรเลือกต้ังและผูอ้ ำนวยกำร กำรเลือกต้ังประจำจังหวดั ในกรณีท่ีองค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่นใดมรี ำยไดไ้ ม่เพียงพอสำหรบั ค่ำใช้จ่ำยในกำรเลอื กตั้งใหค้ ณะรฐั มนตรีจัดสรรเงนิ อดุ หนุนให้องค์กรปกครองสว่ นท้องถน่ิ น้ันตำม ควำมจำเป็น (มำตรำ ๑๔)
-7 - เร่ือง สาระสาคญั (๑๐) ระยะเวลาการออกเสยี งลงคะแนนและการไปลงคะแนน ๑๐.๑) ใหเ้ ปิดกำรออกเสยี งลงคะแนนต้งั แต่เวลำ ๐๘.๐๐ น. ถึงเวลำ ๑๗.๐๐ น. แต่ใน กรณีท่ีเหน็ สมควรเพื่อประโยชน์ในกำรจดั กำรเลือกต้ังให้เรียบรอ้ ย คณะกรรมกำรกำรเลอื กต้งั จะ กำหนดเวลำกำรออกเสียงลงคะแนนสำหรับองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ใดเปน็ อยำ่ งอื่นกไ็ ด้ แต่ ตอ้ งมเี วลำกำรออกเสยี งลงคะแนน ไมน่ อ้ ยกว่ำ ๗ ช่ัวโมง (มำตรำ ๗๘) ๑๐.๒) บตั รประจำตวั ประชำชน บัตรหรือหลักฐำนอ่ืนใดของทำงรำชกำรหรอื หน่วยงำน ของรัฐท่มี ีรูปถำ่ ยและเลขประจำตัวประชำชนสำมำรถใชแ้ สดงตนได้ กรณบี ตั รประจำตัวประชำชน แมห้ มดอำยแุ ลว้ ก็ให้สำมำรถใช้แสดงตนเพ่ือออกเสียงลงคะแนนได้ (มำตรำ ๘๐) ๑๐.๓) กำหนดไม่ให้นำบทบญั ญตั เิ กยี่ วกับกำรจดั ยำนพำหนะนำผู้มีสิทธเิ ลอื กตง้ั ไปยังที่ เลือกต้ังเพอ่ื กำรเลือกตัง้ หรอื นำกลบั จำกท่เี ลือกต้ัง มำใช้บงั คบั กบั กำรทห่ี น่วยงำนของรัฐจดั ยำนพำหนะเพื่ออำนวยควำมสะดวกแกผ่ มู้ สี ทิ ธิเลือกตงั้ (มำตรำ ๖๗) ๑๐.๔) กรณีกำรอำนวยควำมสะดวกแก่คนพกิ ำรหรอื ทุพพลภำพ หรือผ้สู งู อำยุ โดยจดั ให้มกี ำรอำนวยควำมสะดวกในกำรออกเสียงลงคะแนนของบุคคลดังกล่ำวไว้เปน็ พิเศษในกำรออก เสยี งลงคะแนน และในกำรให้ควำมชว่ ยเหลือดงั กล่ำวต้องใหบ้ ุคคลนน้ั ได้ออกเสียงลงคะแนนได้ ด้วยตนเองตำมเจตนำรมณ์ ของบุคคลนั้น เว้นแตล่ ักษณะทำงกำยภำพทำใหค้ นพกิ ำรหรอื ทุพพลภำพ หรอื ผู้สงู อำยุไม่ สำมำรถทำเครอื่ งหมำย ลงในบัตรเลือกตงั้ ได้ ใหบ้ คุ คลอนื่ หรอื กรรมกำรประจำหน่วยเลอื กตง้ั เป็น ผกู้ ระทำกำรแทน โดยควำมยินยอมและเป็นไปตำมเจตนำรมณ์ของคนพกิ ำรหรือทุพพลภำพ หรือ ผสู้ งู อำยนุ นั้ ท้ังน้ี ใหถ้ ือเปน็ กำรลงคะแนนโดยตรงและลบั รวมท้ังคณะกรรมกำรกำรเลอื กต้ังอำจจัด สถำนท่ีใหบ้ ุคคลดังกล่ำวลงทะเบียนเพือ่ ขอใช้สิทธิ ณ สถำนทที่ ่ีกำหนด เมอ่ื ลงทะเบียนแลว้ ให้หมดสิทธิเลือกตงั้ ในหนว่ ยท่ีตนมีชื่ออยู่ในทะเบยี นบ้ำน (มำตรำ ๘๒) (๑๑) การเสียสทิ ธเิ นอ่ื งจากการไมไ่ ปใชส้ ิทธเิ ลอื กตั้งและมิได้แจง้ เหตุที่ ไม่อาจไปใชส้ ิทธเิ ลอื กตง้ั ๑๑.๑) กำหนดใหผ้ ูม้ ีสิทธเิ ลือกตัง้ ทไ่ี มไ่ ปใช้สิทธิเลือกต้งั และมไิ ดแ้ จ้งเหตทุ ีไ่ ม่อำจไปใช้ สิทธเิ ลือกตัง้ หรือแจง้ เหตแุ ลว้ แต่เหตนุ ั้นมใิ ช่เหตุอันสมควร ผนู้ ้นั ถกู จำกดั สิทธิ ดงั น้ี (มำตรำ ๔๒) (๑) สมคั รรบั เลอื กต้ังเปน็ สมำชกิ สภำผแู้ ทนรำษฎร หรอื สมำชิกสภำท้องถิ่นและ ผู้บริหำรท้องถิน่ หรือสมคั รรบั เลือกเปน็ สมำชกิ วุฒิสภำ (๒) สมัครรับเลอื กเป็นกำนนั และผู้ใหญ่บ้ำน (๓) เข้ำชอ่ื ร้องขอใหถ้ อดถอนสมำชกิ สภำท้องถนิ่ หรือผบู้ ริหำรท้องถิน่ (๔) ดำรงตำแหนง่ ขำ้ รำชกำรกำรเมืองฯ และขำ้ รำชกำรรฐั สภำฝ่ำยกำรเมืองฯ (๕) ดำรงตำแหนง่ รองผูบ้ ริหำรทอ้ งถ่นิ เลขำนุกำรผ้บู รหิ ำรทอ้ งถน่ิ ผชู้ ว่ ยเลขำนุกำรผู้บรหิ ำรท้องถ่นิ ประธำนทปี่ รึกษำหรอื ท่ปี รกึ ษำหรือคณะ ทป่ี รกึ ษำผบู้ ริหำรท้องถนิ่ (๖) เลขำนุกำรประธำนสภำท้องถ่ิน ผู้ช่วยเลขำนกุ ำรประธำนสภำท้องถนิ่ และเลขำนุกำร
-8 - เร่ือง สาระสาคัญ รองประธำนสภำท้องถิน่ กำรจำกดั สิทธิใหม้ กี ำหนดเวลำครัง้ ละ ๒ ปี นับแต่วันเลือกตงั้ ทไี่ ม่ไปใช้สทิ ธิเลือกตั้ง (มำตรำ ๔๒ วรรคสอง) ๑๑.๒) ผู้มสี ิทธเิ ลือกต้งั ที่เสยี สิทธเิ นือ่ งจำกไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตัง้ ตำมพระรำชบัญญัติกำรเลือกต้งั สมำชกิ สภำท้องถ่นิ หรอื ผู้บริหำรทอ้ งถิน่ พ.ศ. ๒๕๔๕ กอ่ นวันท่พี ระรำชบัญญตั ินใี้ ชบ้ ังคับ ใหก้ ำรเสียสิทธขิ องผ้นู ั้นเป็นอันสน้ิ สดุ ลง นบั แตพ่ ระรำชบัญญัตนิ ใ้ี ช้บงั คับ (๑๒) การนบั คะแนนเลอื กต้ังและการประกาศผลการเลือกตง้ั ๑๒.๑) การนบั คะแนน ใหน้ บั คะแนนเมื่อเสร็จส้นิ กำรลงคะแนนเลือกตง้ั แล้วโดยเปิดเผย ณ ทเี่ ลือกต้งั ของแต่ละหน่วยเลอื กต้งั หำ้ มมิใหเ้ ลอื่ นหรอื ประวงิ เวลำนบั คะแนน (มำตรำ ๙๗) และเม่ือ รวมผลกำรนับคะแนน ณ ที่เลือกตัง้ เสร็จสิน้ แล้วให้คณะกรรมกำรประจำหน่วยเลือกตงั้ ประกำศผล กำรนับคะแนนเลือกตัง้ ของหน่วยเลือกตง้ั นั้น และรำยงำนต่อคณะกรรมกำรกำร เลอื กตั้งประจำองคก์ รปกครองส่วนท้องถิน่ โดยทนั ที เพือ่ รวบรวมผลกำรนบั คะแนนของทุกหน่วย เลือกต้งั และประกำศผลกำรนับคะแนนเลอื กตั้งและรำยงำนแสดงผลกำรนับคะแนนเลือกตงั้ ต่อ ผู้อำนวยกำรกำรเลือกตง้ั ประจำจงั หวดั โดยเร็ว (มำตรำ ๑๐๒) ๑๒.๒) การประกาศผลการเลือกตั้ง เม่ือผู้อำนวยกำรกำรเลือกต้งั ประจำจังหวัดเห็นว่ำ กำรเลือกต้ังและกำรนับคะแนนเลอื กต้ังเป็นไปโดยสจุ ริต และเท่ียงธรรมให้รำยงำนผลกำรนับ คะแนนเลือกตง้ั ตอ่ คณะกรรมกำรกำรเลอื กต้งั เพ่อื ประกำศผลกำรเลอื กตั้ง (มำตรำ ๑๐๖) และ เม่อื คณะกรรมกำรกำรเลอื กตง้ั ตรวจสอบเบือ้ งตน้ แล้วมีเหตอุ นั ควรเชอ่ื วำ่ ผลกำรเลือกต้งั เปน็ ไป โดยสจุ ริต และเท่ยี งธรรม ให้ประกำศผลกำรเลือกต้ังภำยใน ๓๐ วัน นบั แต่วนั เลือกต้ัง (มำตรำ ๑๗) ๑๒.๓) กาหนดใหบ้ ัตรปลอมถอื เปน็ บตั รเสีย (มำตรำ ๑๐๐) กรณพี บบัตรปลอม ให้ คณะกรรมกำรประจำหน่วยเลือกตัง้ แยกบตั รปลอมไวต้ ำ่ งหำก และใหร้ ำยงำนตอ่ ผูอ้ ำนวยกำรกำรเลอื กต้งั ประจำองคก์ รปกครองส่วนท้องถิน่ ผ้อู ำนวยกำรกำรเลอื กตั้งประจำ จังหวดั และคณะกรรมกำรกำรเลือกตั้งพจิ ำรณำดำเนนิ กำรต่อไป เมอื่ คณะกรรมกำรกำรเลอื กตัง้ ได้รับรำยงำนใหม้ ีกำรไตส่ วนตรวจสอบโดยพลัน กรณีเห็นสมควรอำจตรวจสอบบัตรเลือกต้ังของ ทุกหน่วย หรือบำงหนว่ ย และสั่งเปิดหีบบตั รเพือ่ ตรวจสอบได้ กรณีตรวจสอบแล้วไมม่ ี กำรทจุ ริตหรือไมม่ ีกรณีไม่เท่ยี งธรรมใหป้ ระกำศผลกำรนบั คะแนนเลอื กตั้งต่อไป (มำตรำ ๑๐๔)
-9 - เรื่อง สาระสาคัญ (๕) การ ๑) ผ้มู ีสิทธเิ ลอื กตง้ั หรือผู้สมัคร มสี ิทธิย่ืนคัดค้ำนต่อคณะกรรมกำรกำรเลอื กตงั้ ว่ำกำรเลือกตัง้ ตรวจสอบการ เลอื กตง้ั และการ ในเขตเลอื กตั้งท่ตี นมีสทิ ธเิ ลอื กตง้ั หรือทต่ี นสมัครรบั เลือกตงั้ แล้วแต่กรณี มิไดเ้ ป็นไปโดยสุจริต ฟอ้ งคดี หรือเท่ยี งธรรม หรือไม่ชอบด้วยกฎหมำย ผมู้ ีสทิ ธยิ ่ืนคัดค้ำนกำรเลอื กตง้ั ดังกล่ำวอำจ ยื่นคดั ค้ำนไดต้ ้ังแตว่ นั ทีป่ ระกำศ ให้มีกำรเลอื กต้งั จนถึง ๓๐ วัน นับแต่วนั ประกำศผล กำรเลอื กตง้ั (มำตรำ ๑๑๓) กรณีปรำกฏวำ่ กำรเลือกตง้ั มไิ ดเ้ ป็นไปโดยสุจริตหรือเทยี่ งธรรม ให้ คณะกรรมกำรกำรเลือกตงั้ ยื่นคำร้องต่อศำลอุทธรณ์หรอื ศำลอทุ ธรณภ์ ำค เพอื่ พจิ ำรณำ (มำตรำ ๑๐๘) ๒) คณะกรรมการการเลอื กตั้งพจิ ารณาแลว้ มีเหตุอนั ควรเช่อื ว่า การเลอื กตง้ั มไิ ดเ้ ป็นไปโดย สุจริตหรือเที่ยงธรรม ใหค้ ณะกรรมการการเลอื กตั้งดาเนนิ การสืบสวนหรือไตส่ วนใหแ้ ลว้ เสรจ็ และประกาศผลการเลือกต้ัง หรอื จดั ใหม้ ีการเลือกตั้งใหม่ หรือดาเนนิ การอ่นื ตามท่ีจาเป็นโดยเรว็ กาหนดเวลาดาเนนิ การ ต้องไม่ชา้ กวา่ ๖๐ วนั นับแต่วนั เลอื กตั้ง (มำตรำ ๑๗ วรรค สอง) ๓) กำรพิจำรณำและคำวินิจฉัยของศำลอุทธรณ์และศำลอุทธรณ์ภำคเก่ียวกับกำรเลือกตงั้ ทอ้ งถ่นิ ใหเ้ ป็นไปตำมระเบียบของท่ปี ระชุมใหญศ่ ำลฎกี ำฯ และให้กำรปฏิบัตหิ นำ้ ท่ขี องศำลอทุ ธรณ์ และศำลอุทธรณ์ภำคมีสทิ ธิไดร้ บั เบีย้ ประชมุ หรือคำ่ ตอบแทนตำมระเบียบท่ีคณะกรรมกำร บริหำรศำล ยตุ ธิ รรมฯ กำหนด (มำตรำ ๘) ๔) กำหนดให้ผสู้ มัครหรือผใู้ ด สมำชิกสภำทอ้ งถิ่นหรอื ผบู้ รหิ ำรท้องถิ่น หรือปลดั องค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น ซงึ่ กระทำควำมผดิ ตำมมำตรำ ๖๕ (๑) จัดทำ ให้ เสนอให้ สญั ญำวำ่ จะให้ หรือจัดเตรยี มเพอ่ื จะให้ทรัพย์สนิ หรอื ผลประโยชน์อ่นื ใดอัน อำจคำนวณเป็นเงินไดแ้ ก่ผใู้ ด มำตรำ ๖๕ (๒) ให้ เสนอให้ สญั ญำว่ำจะให้เงนิ ทรัพยส์ ิน หรือ ประโยชน์อื่นใด ไม่ว่ำทำงตรงหรือทำงออ้ ม แก่ชุมชน สมำคม มูลนธิ ิ วดั หรือศำสนสถำนอื่น สถำนศกึ ษำ สถำนสงเครำะห์ หรอื สถำบันอนื่ ใด ใหถ้ อื เป็นควำมผิดมูลฐำนตำมกฎหมำยว่ำดว้ ยกำรปอ้ งกนั และปรำบปรำมกำรฟอกเงนิ และคณะกรรมกำรกำรเลอื กตง้ั มีอำนำจสง่ เรื่องใหส้ ำนักงำนปอ้ งกัน และปรำบปรำมกำรฟอกเงินดำเนนิ กำรตำมหนำ้ ท่ีและอำนำจได้ (มำตรำ ๖๕ วรรคหำ้ ) ๕) พระรำชบัญญัตินี้ไม่มีผลกระทบต่อกำรดำเนินคดีทำงแพง่ ต่อบคุ คลใด ท่ีมีควำมรับ ผิดตำมพระรำชบญั ญัติกำรเลือกต้งั สมำชิกสภำทอ้ งถิ่นหรอื ผ้บู ริหำรท้องถ่นิ พ.ศ. ๒๕๔๕ และเพือ่ ประโยชน์แห่งกำรน้ี ใหถ้ อื วำ่ พระรำชบัญญัตกิ ำรเลือกตงั้ สมำชิกสภำท้องถิน่ หรอื ผ้บู ริหำรท้องถิน่ พ.ศ. ๒๕๔๕ ยังมผี ลใช้บังคับอยู่ กำรกระทำใด ๆ อนั เปน็ ควำมผิดตำมพระรำชบัญญัติกำรเลือกตง้ั สมำชกิ สภำทอ้ งถ่ินหรอื ผู้บรหิ ำร ทอ้ งถ่ิน พ.ศ. ๒๕๔๕ ถ้ำกำรกระทำนัน้ เป็นควำมผิดตำมพระรำชบัญญัตนิ ้ี พนกั งำนสอบสวน พนักงำน อยั กำร คณะกรรมกำรกำรเลอื กต้ัง และศำล มีอำนำจดำเนนิ กำรตอ่ ไปตำมพระรำชบัญญตั กิ ำร เลอื กตั้งสมำชกิ สภำทอ้ งถิน่ หรือผู้บริหำรท้องถนิ่ พ.ศ. ๒๕๔๕ โดยถือว่ำพระรำชบัญญตั ิกำรเลือกต้ัง สมำชิกสภำทอ้ งถนิ่ หรอื ผู้บริหำรท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๕ ยังมผี ลใช้บงั คับอยู่ (มำตรำ ๑๔๔)
- 10 - เรอื่ ง สาระสาคญั (๖) บทกาหนดโทษ ๖.๑) ความผิดฐานขดั ขวาง หนว่ งเหน่ียว ไมใ่ หค้ วามสะดวกในการไปใช้สทิ ธิเลอื กต้งั ทีม่ ีการแกไ้ ขใหม่ - ผู้บงั คบั บญั ชำหรือนำยจ้ำงผู้ใดขัดขวำง หนว่ งเหน่ียว ไม่ให้ควำมสะดวก โดยไมม่ ีเหตอุ นั ให้สอดคล้องกับ สมควร ในกำรไปใช้สิทธเิ ลอื กตั้งของผ้มู ีสิทธเิ ลือกตงั้ ต้องระวำงโทษจำคุก ๒ ปี หรือปรับไม่เกิน บทกาหนดโทษ ๔๐,๐๐๐ บำท หรอื ทง้ั จำทั้งปรับ (มำตรำ ๑๑๗) ในการเลือกต้ัง สมาชิกสภา ๖.๒) ความผดิ ฐานรู้ว่าตนเองขาดคุณสมบตั หิ รือมีลักษณะต้องห้าม ในการ ผแู้ ทนราษฎร สมัครรบั เลอื กตัง้ - ผ้ใู ดลงสมัครรับเลือกตั้งโดยร้อู ย่แู ลว้ วำ่ ตนเป็น ผู้ขำดคุณสมบัติ หรอื มีลักษณะตอ้ งห้ำมในกำรสมัครรบั เลอื กตั้ง ต้องระวำงโทษจำคกุ ตงั้ แต่ ๑ ปี ถงึ ๑๐ ปี และ ปรบั ตั้งแต่ ๒๐,๐๐๐ บำท ถงึ ๒๐๐,๐๐๐ บำท และใหศ้ ำลสั่ง เพิกถอนสิทธิเลือกตัง้ ของ ผนู้ ั้นมกี ำหนด ๒๐ ปี (มำตรำ ๑๒๐) ๖.๓) ความผิดฐานกรรมการประจาหนว่ ยเลือกตั้งจงใจนับบัตรเลือกตัง้ อ่านบตั รเลอื กตั้ง นบั คะแนนเลือกตั้ง รวมคะแนนเลอื กตั้ง ให้ผดิ จากความเปน็ จริง หรือกระทาการใด ใหบ้ ัตร เลอื กตงั้ ชารุดเสียหาย หรือใหเ้ ป็นบตั รเสยี หรือกระทาให้บตั รเสียเปน็ บตั รท่ใี ช้ได้ หรือทา รายงาน การเลอื กตั้งผิดจากความเป็นจรงิ - ห้ำมมใิ หก้ รรมกำรประจำหนว่ ยเลอื กต้ังจงใจนบั บัตรเลือกตง้ั อ่ำนบัตร เลือกตง้ั นับคะแนนเลอื กต้ัง รวมคะแนนเลือกตง้ั ใหผ้ ิดจำกควำมเป็นจรงิ หรอื กระทำกำรใด ให้ บัตรเลอื กตั้งชำรุดเสยี หำย หรอื ใหเ้ ป็นบัตรเสีย หรือกระทำใหบ้ ัตรเสยี เป็นบตั รทใ่ี ช้ได้ หรือทำ รำยงำน กำรเลือกต้ังผดิ จำกควำมเปน็ จรงิ (มำตรำ ๑๐๑) ต้องระวำงโทษจำคุกตง้ั แต่ ๑ ปี ถงึ ๑๐ ปี หรือปรบั ต้งั แต่ ๒๐,๐๐๐ บำท ถงึ ๒๐๐,๐๐๐ บำท หรอื ท้งั จำท้ังปรบั และให้ศำลสงั่ เพิกถอนสทิ ธิ เลอื กตง้ั มกี ำหนด ๒๐ ปี (มำตรำ ๑๒๖) ๖.๔) ความผิดฐานเจา้ หน้าที่ของรฐั ใชต้ าแหนง่ หนา้ ทก่ี ระทาการใด ๆ อนั เปน็ คณุ หรอื เป็นโทษแกผ่ สู้ มัคร - หำ้ มมิให้เจ้ำหนำ้ ที่ของรัฐใชต้ ำแหนง่ หน้ำทก่ี ระทำกำรใด ๆ อันเป็นคุณหรอื เปน็ โทษแก่ ผสู้ มัคร เวน้ แต่เปน็ กำรกระทำตำมหน้ำที่และอำนำจ (มำตรำ ๖๙) ต้องระวำงโทษจำคกุ ตั้งแต่ ๑ ปี ถึง ๑๐ ปี หรอื ปรบั ตัง้ แต่ ๒๐,๐๐๐ บำท ถงึ ๒๐๐,๐๐๐ บำท หรอื ทงั้ จำทั้งปรบั และใหศ้ ำลสัง่ เพกิ ถอนสิทธิเลือกตงั้
- 11 - เร่อื ง สาระสาคญั มกี ำหนด ๒๐ ปี (มำตรำ ๑๒๖ วรรคสอง) ๖.๕) ความผิดฐานผูส้ มัครไมย่ น่ื บัญชีรายรบั และรายจา่ ยต่อคณะกรรมการการเลอื กตงั้ ภายในระยะเวลาท่ีกาหนด หรือจงใจยน่ื เอกสารหรอื หลกั ฐานไมถ่ ูกตอ้ งครบถ้วน - ผู้สมัครผู้ใดไมย่ ื่นบญั ชรี ำยรบั และรำยจ่ำยต่อคณะกรรมกำรกำรเลือกตัง้ ภำยใน ๙๐ วนั หรือจงใจยื่นเอกสำรหรอื หลักฐำนไม่ถูกต้องครบถว้ น ตำมมำตรำ ๖๒ ตอ้ งระวำงโทษจำคกุ ไมเ่ กนิ ๒ ปี หรือปรับไม่เกิน ๔๐,๐๐๐ บำทหรอื ทง้ั จำทั้งปรบั และให้ศำลสั่งเพกิ ถอนสทิ ธเิ ลอื กต้งั ของผ้นู นั้ มกี ำหนด ๕ ปี (มำตรำ ๑๒๘) ๖.๖) ความผิดฐานจ่าย แจก หรอื ใหเ้ งิน ทรพั ยส์ ิน หรอื ประโยชน์อ่นื ใดแกผ่ ้มู ีสิทธิ เลือกต้งั - ห้ำมมใิ ห้ผใู้ ดจ่ำย แจก หรือให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อืน่ ใด แกผ่ มู้ สี ิทธิ เลอื กตัง้ เพือ่ จูงใจมิใหไ้ ปออกเสียงลงคะแนน หรอื กระทำกำรใด ๆ เพือ่ มิให้ผ้มู ีสิทธิเลือกต้งั ไป ออกเสียงลงคะแนน (มำตรำ ๙๑) ต้องระวำงโทษจำคกุ ไม่เกิน ๑๐ ปี หรือปรับไม่เกิน ๒๐๐,๐๐๐ บำท หรอื ทง้ั จำทง้ั ปรบั และให้ศำลสัง่ เพิกถอนสทิ ธิเลอื กตัง้ ของผนู้ ้ันมีกำหนด ๑๐ ปี (มำตรำ ๑๓๖) กองการเลอื กตง้ั ท้องถ่นิ กรมส่งเสริมการปกครองทอ้ งถิ่น วันท่ี ๑๘ มนี าคม ๒๕๖๒
Search
Read the Text Version
- 1 - 11
Pages: