Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เติมรักเติมใจ-กับวบุญข้าวจี่วาเลนไทน์-วิถีใหม่-New-normal

เติมรักเติมใจ-กับวบุญข้าวจี่วาเลนไทน์-วิถีใหม่-New-normal

Published by phudindanchanathip, 2022-01-25 09:13:25

Description: เติมรักเติมใจ-กับวบุญข้าวจี่วาเลนไทน์-วิถีใหม่-New-normal

Keywords: เติมรักเติมใจ-กับวบุญข้าวจี่วาเลนไทน์-วิถีใหม่-New-norma

Search

Read the Text Version

“ เตมิ รกั เตมิ ใจ กบั บญุ ขา้ วจีว่ าเลนไทน์ วิถีใหม่ New normal ” นางสาวศริ ินภา ดอนโหนง่ ชา1 บทคัดยอ่ บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพ่ือศึกษาข้อมูลวัฒนธรรมและประเพณี บุญข้าว จ่ีวาเลนไทน์และ เพ่ือสืบสาน อนุรักษ์วัฒนธรรมและประเพณีไทยในช่วงโควิด-19โดยศึกษาข้อมูลจากเอกสารและงานวิจัย ท่ีเกี่ยวข้อง เพื่อให้เห็นถึงความสาคัญของวัฒนธรรมและประเพณีไทย อีกท้ังยังเป็นการอนุรักษ์ สืบสาน วฒั นธรรมและประเพณไี ทย ใหค้ งอยคู่ ูแ่ ผน่ ดนิ ไทยสบื ไป การสืบสาน อนุรักษ์วัฒนธรรมและประเพณีไทยมีความสาคัญเป็นอย่างมาก ซ่ึงเป็นวิถีชีวิตของชาว พุทธที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน บุญข้าวจ่ีวาเลนไทน์ก็ถือว่าเป็นอีกหน่ึงประเพณีไทยที่ชาวอีสานให้ ความสาคัญเป็นอย่างมาก เน่ืองจากการบุญข้าวจี่ เป็นตัวอย่างหน่ึงท่ีสะท้อนให้เห็นถึงความเหล่ือมใสศรัทธา ของบรรดาชาวพุทธในดินแดนอีสานท่ีนาผลผลิตมาแปรรูปเป็นอาหารเพ่ือถวายแด่พระสงฆ์ เพราะมีความเชื่อ ตามตานานว่าการถวายขา้ วจ่ีนั้น เม่อื เสียชวี ิตไปจะได้ข้นึ สวรรค์ คาสาคญั : เติมรกั เติมใจ บุญข้าวจ่ี วาเลนไทน์ New Normal 1 นกั ศึกษาฝกึ ประสบการณว์ ชิ าชีพ หลกั สตู รศลิ ปศาสตรบณั ฑติ สาขาวชิ าภาษาไทยเพอื่ การสื่อสาร คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละ สังคมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั อดุ รธานี

บทนา วัฒนธรรมและประเพณีไทย มีเอกลักษณ์ท่ีโดดเด่นในด้านศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม มีขนบธรรมเนียมประเพณีท่ีดีงาม สืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณ และการจัดกิจกรรมทางประเพณีในเทศกาล ต่าง ๆ มักจะมีประชาชนเข้าร่วมเป็นจานวนมากแต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 (COVID-19) และมาตรการต่าง ๆ ของรฐั บาลในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคดังกลา่ ว ทาให้มผี ลกระทบ ตอ่ กิจกรรมทางศาสนาและประเพณีต่าง ๆ อย่างมากมาย แต่เพ่อื ไมใ่ หเ้ ราหลงลมื วัฒนธรรมทเ่ี คยมีมาและการ จัดงานก็เป็นไปตามมาตรการที่รัฐบาลกาหนดให้ และร่วมกันปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อให้งานออกมา ได้อย่างสมบูรณ์ เพราะการให้ความสาคัญกับบุญประเพณีบุญข้าวจี่วาเลนไทน์ ก็มีความสาคัญมากเช่นกัน พร้อมทั้งยังเป็นการส่งเสริมด้านศาสนาและประเพณี ให้สามารถดาเนินไปได้ในสถานการณ์ท่ียังไม่ปกติ ไดด้ าเนนิ การจัดงานสืบสานประเพณีให้อย่างถูกต้องตามหลักศาสนา และเหมาะสมตามประเพณีดั้งเดิมได้โดย ใช้ฐานวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) สามารถประกอบพิธีกรรมทางศาสนาและเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่าง ปลอดภยั ชาวอีสานถือปฏิบัติ ฮีต 12 คอง 14 มาตั้งแต่สมัยโบราณ ในเดือน 3 ซึ่งเรียกว่า \"บุญข้าวจ่ี\" คือบุญท่ีถูกจัดขึ้นในเดือนสามของทุก ๆ ปี บุญข้าวจ่ีเป็นบุญประเพณีสาคัญที่มีกาหนดอยู่ในฮีตสิบสอง ดังรู้จักกันโดยท่ัวไปว่า เดือนสามคล้อยถั่วหัวป่ันข้าวจี่ เดือนสี่คล้อยจัวน้อยเทศน์มะที (มัทรี) นิยมจัดขึ้น ในราวกลางเดือนหรือปลายเดือนสาม คือ ภายหลังการทาบุญวันมาฆบูชา (เดือนสามข้ึน 14 ค่า) และหากกล่าวถึงกิจกรรมในเดือนเดียวกันน้ีทางศาสนาคริสต์ ซึ่งตรงกับวันแห่งความรัก หรือวันวาเลนไทน์ วันของคนท่ีมีคู่รักได้แสดงออกซึ่งความรักระหว่างกัน ถ้าหากเปรียบความรักเป็นเหมือนป้ันข้าวจ่ีที่มีความ เหนียวแน่นเป็นอันหน่ึงอันเดียว เสกเช่นความรักที่มีความเป็นหน่ึงเดียว วันนี้จึงเป็นวันท่ีสามารถทาร่วมกันได้ เพราะถอื ได้ว่า เป็นประเพณสี ากลท่ีประชาชนในโลกให้ความสาคัญเช่นเดยี วกัน ดงั น้ันสองประเพณนี ้ีจงึ ถูกยก มาเป็นประเพณที ี่ผสมผสานร่วมกันไดอ้ ย่างสมบูรณแ์ บบ2 2เดอื นสามบุญขา้ วจ่ีอสี านรอ้ ยแปด 2553. คน้ เม่ือ 2 มกราคม 2565, จาก www.esarn108.com

ภาพที่ 1 : จากเพจศนู ย์ศิลปวัฒนธรรมมหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น “ถ้าหากย้อนกลับไปตามตานาน บุญข้าวจี่” มีเรื่องเล่าในพระธรรมบทว่า มีหญิงคนหน่ึง ชือ่ นางปุณณะทาสี เปน็ คนยากจนตอ้ งไปเปน็ ทาสรี ับใช้ของเศรษฐคี นหน่ึงในกรงุ ราชคฤห์ วนั หนึ่งเศรษฐใี หน้ าง ไปซ้อมข้าวนางซ้อมตลอดทั้งวันก็ไม่หมด ตกตอนเย็นนางก็จุดไฟซ้อมต่อไป จึงได้รับความเหน็ดเหนื่อยเป็น อันมาก พอถึงตอนเช้ามานางก็เอาราทาเป็นแป้งจี่ เผาไฟให้สุกแล้วใส่ไว้ในผ้าของตนเดินไปตักน้าปรารถนา จะบริโภคด้วยตนเอง ครั้นถึงกลางทางได้พบพระศาสดาเกิดความเล่ือมใส คิดว่าเราเป็นคนยากจนในชาตินี้ กเ็ พราะมไิ ดท้ าบุญไว้แต่ปางก่อนและชาตนิ ีเ้ รากย็ ังไม่เคยทาบญุ เลย เมอื่ คดิ เช่นนน้ั แล้วนางก็น้อมเอาข้าวแป้งจ่ี น้ันเข้าไปถวายแค่พระศาสดา พระองค์ทรงรับแล้วและนางคิดอีกว่าพระศาสดาคงไม่เสวยเพราะอาหาร เศร้าหมอง เม่ือพระศาสดาทรทราบวารจิตของนางเช่นน้ัน พระองค์จึงประทับเสวยต่อหน้าของนาง ครั้นเสวย เสร็จแล้วก็ตรัสอนุโมทนาปราฐกถาโปรดนางจนสาเร็จโสดาปัตติผลเป็นอริยบุคคลในพระพุทธศาสนา กาล กตุวา ครั้นนางทากาลกิริยาแล้วก็ได้ไปเกิดบนดาวดึงส์สวรรค์เสวยทิพย์สมบัติอยู่ในวิมานทองอันผุดผ่อง โสภา มีนางฟ้าแวดล้อมเป็นยศบริวาร ดังนั้น ชาวนาเมื่อเก็บเก่ียวแล้วจึงพากันทาบุญข้าวจ่ี เพราะถือว่า การถวายข้าวจี่มีอานิสงฆ์มาก เน่ืองจากในเดือนสามอากาศของภูมิภาคอีสานกาลังอยู่ในฤดูหนาว ในตอนเช้า ผู้คนจะใช้ฟืนก่อไฟผิงแก้หนาวเม่ือฟืนถูกไฟเผาเป็นถ่าน ชาวบ้านจะเอาข้าวเหนียวมาป้ันเป็นก้อนกลม โรยเกลอื วางไว้บนเตาไฟ เราเรยี กว่า \"ขา้ วข\"่ี ดงั น้นั บญุ ขา้ วจ่ี เป็นงานบญุ ประเพณีของขาวอสี าน ทก่ี ระทากัน ในเดอื นสามจนเรียกวา่ บญุ เดือนสาม บญุ ข้าวจ่ีเป็นบุญประเพณสี าคญั ทม่ี กี าหนดอยู่ในฮีตสิบสอง3 3 ประวัติวนั วาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ VALENTINE'S DAY 2654. คน้ เม่ือ 3 มกราคม 2565, จาก www.SANOOK.com

วันวานเลนไทน์หมายถึง เทศกาลวาเลนไทน์ (Valentine's Day) เร่ิมมีขึ้นตั้งแต่ยุคที่จักรวรรดิโรมัน เรืองอานาจ ในยุคนั้น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปี ถูกจัดให้เป็นวันหยุดเพ่ือเป็นเกียรติแต่เทพเจ้าจูโน ผู้เป็น จักรพรรดิราชินีแห่งเทพเจ้าโรมัน นอกจากน้ีแล้วพระองค์ยังทรงเป็นเทพเจ้าแห่งอิสตรีเพศและการแต่งงาน และในวันท่ี 15 กุมภาพันธ์ เป็นวันเร่ิมต้นเทศกาลเฉลิมฉลองแห่งลเู พอร์คาร์เลีย การดาเนินชีวิตของหนุ่มสาว จะถูกตัดขาดออกจากกันอย่างส้ินเชิง ในรัชสมัยของจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 (Emperor Claudius II) แห่งกรุงโรม พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่มีใจคอดุร้าย และทรงนิยมการทาสงครามนองเลือด ได้ทรงตระหนักวา่ เหตุที่ชายหนุ่มส่วนมากไม่ประสงค์จะเข้าร่วมในกองทัพ เน่ืองจากไม่อยากจากคู่รักและครอบครัวไป จึงทรงมี พระราชโองการสั่งห้ามมิให้มีการจัดพิธีหมั้นและแต่งงานกันในโรมโดยเด็ดขาด ทาให้ประชาชนทุกข์ใจเป็น อย่างย่ิง และขณะน้ันมีนักบุญรูปหน่ึงนามว่า เซนต์วาเลนไทน์ หรือวาเลนตินัส ซึ่งอาศัยอยู่ในโรมได้ร่วมมือ กับเซนต์มาริอัส จัดพิธีแต่งงานให้กับชาวคริสต์หลายคู่ และด้วยความปรารถนาดีน้ีเองจึงทาให้วาเลนไทน์ ถกู จับและระหวา่ งนั้นเขากย็ ังคงส่งคาอวยพรวาเลนไทน์ของเขาเองขณะที่เขาเป็นนักโทษ เช่ือกันวา่ วาเลนไทน์ ได้ตกหลุมรักหญิงสาวที่เป็นลูกสาวของผู้คุมท่ีช่ือจูเลีย ซ่ึงได้มาเย่ียมเขาระหว่างที่ถูกคุมขัง ในคืนก่อนท่ี วาเลนไทน์จะส้ินชีวิตโดยการถูกตัดศีรษะ เขาได้ส่งจดหมายฉบับสุดท้ายถึงจูเลีย โดยลงท้ายว่า \"From Your Valentine\"หลังจากน้ันศพของเขาได้ถูกเก็บไว้ที่โบสถ์พราซีเดส (Praxedes) ณ กรุงโรม จูเลีย ได้ปลูกต้นอามันต์ หรืออัลมอลต์สีชมพู ไว้ใกล้หลุมศพของวาเลนตินัสผู้เป็นที่รักของเธอ โดยในทุกวันนี้ ต้นอามันต์สีชมพูได้เป็นตัวแทนแห่งรักนิรันดรและมิตรภาพอันสวยงาม ถึงแม้ว่าเบื้องหลังความเป็นจริงของ วาเลนไทนจ์ ะเป็นตานานทีม่ ืดมัว แตย่ งั คงแสดงให้เหน็ ถึงความรสู้ ึกสงสาร ความกลา้ หาญและทส่ี าคัญทสี่ ุดเป็น เครื่องหมายของความโรแมนติก จึงไม่น่าประหลาดใจเลยว่าในช่วงยุคกลาง วาเลนไทน์นับเป็นนักบุญที่มี ชื่อเสียงมากท่ีสุดในอังกฤษและฝรั่งเศสต่อมานักบวชในนิกายโรมันคาทอลิกจึงเลือกให้ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันเฉลิมฉลองเทศกาลวันแห่งความรัก และดูเหมือนว่ายังคงเป็นธรรมเนียมที่ชายหนุ่มจะเลือกหญิงสาวที่ ตนเองพึงใจในวนั วาเลนไทน์ (Valentine's Day) สบื ต่อกันมาจนถึงทุกวนั นี้4 4 ศูนยศ์ ิลปวฒั นธรรม มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ . (2563) ม่วนซืน่ ผสาน 2 วิถวี ฒั นธรรมกับ บญุ ขา้ วจวี่ าเลนไทน์. คน้ เม่ือ 2 มกราคม 2565, จาก https://cac.kku.ac.th

ภาพท่ี 2 : จากเพจศนู ยศ์ ลิ ปวัฒนธรรมมหาวิทยาลยั ขอนแกน่ ภาพท่ี 3 : จากเพจศนู ย์ศลิ ปวัฒนธรรมมหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ เติมรักเติมใจ กับบุญข้าวจี่วาเลนไทน์ วิถีใหม่ New normal “ ซ่ึงถือได้ว่าเป็นการผสมผสาน ความหมายของสองอย่างนี้ให้ไปด้วยกันได้ ซ่ึงวันวาเลนไทน์เป็นวันแห่งความรัก และการป้ันข้าวจี่ให้ เหนียวแน่นน้ันก็เป็นการส่ือความรักท่ีมีต่อกัน โดยการส่ือผ่านข้าวจี่ที่มีความเหนียวแน่นเป็นอันหน่ึงอันเดียว เหมือนความรัก เป็นการเปิดโอกาสให้แสดงถึงความรัก ไม่ว่าจะเป็นคู่รัก เพ่ือน ครอบครัว และอีกทั้งยังเป็น บุญเดือนสามที่ทาสืบทอดต่อกันมาและตรงกับเดือนแห่งความรักคือวันวานเลน์ไทน์ ซ่ึงถือเป็นโอกาศดีท่ีจะ ผสมผสานสองอย่างน้ีเข้าด้วยกัน งานบุญข้าวจ่ีวาเลนไทน์เป็นการเน้นให้อนุรักษ์และฟื้นฟูประเพณีได้อย่าง สร้างสรรค์ และช่วยให้ประเพณีอันงดงามกลับมามีชีวิตอีกครั้ง สู่การประยุกต์ให้เหมาะสมกับยุคสมัย และยัง เปน็ การผสมผสานแนวคิดร่วมสมัยในวันวาเลนไลน์ ซึง่ ตรงกับวนั แห่งความรัก เพอื่ ใหส้ อดครองกับแนวคิดและ ตีความหมายของความรักให้กว้างขึ้น อีกท้ังยังมีกิจกรรมต่าง ๆ ในงาน เช่น งานแสดงคนตรี ซึ่งได้รับความ ร่วมมือจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ เภสัชศาสตร์ และชมรมนักศึกษาลาว หนังกลางแปลง จี่ข้าวจี่อีสาน และมีการวางจาหน่ายสินค้า Hand made จากนักศึกษา พร้อมกิจกรรมอีกมากมายที่ให้ นักศกึ ษามสี ่วนร่วมกับกจิ กรรมน้ีมากที่สุด ไมเ่ พียงแตจ่ ะเขา้ ใจความหมายของบญุ ข้าวจีใ่ นรปู แบบของตวั อักษร ท่ีให้ความรู้เท่าน้ันแต่กิจกรรมนี้เป็นการเข้าใจถึงแก่นวัฒนธรรมท่ีแท้จริงและรวมถึงกิจกรรมลงมือปฏิบัติคือ เปน็ องค์ความร้ทู ่หี าไดย้ ากในสังคมน้ี โดยกิจกรรมงานฮีตเดือนสาม คือ บุญข้าวจี่ ทางฝ่ายศิลปวัฒนธรรมและชุมชนสัมพันธ์ได้มีการเรยี นรู้ ประเพณีที่เปน็ รากเหง้าวัฒนธรรมร่วมกับชุมชนท่ีถือเป็นประเพณีทีส่ บื ทอดกนั มาของชมุ ชนคือ \"ชุมชนสาวะถี\" ซ่ึงเป็นชุมชนต้นแบบทางวัฒนธรรมและแหล่งเรียนรู้ มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้ลงพ้ืนที่ชุมชนเพ่ือเรียนรู้กับครู ปราชญ์ชาวบ้าน เพ่ือร่วมสืบสานประเพณีศิลปวัฒนธรรมอันดีงามของชาวอีสาน ทั้งเป็นการเปิดโอกาส ให้นักศกึ ษารนุ่ ใหมแ่ ละประชาชนมสี ว่ นร่วมในการขับเคลื่อนกลไกภายใต้ทนุ ทางวฒั นธรรมโดยนับถือประเพณี บุญข้าวจ่ีเป็นจารีตและยังมีการรับเอากิจกรรมวันแห่งความรักแบบสากลโดยท่ีไม่ละทิ้งความเป็นอีสาน แบบดัง้ เดมิ และไดน้ าบุญขา้ วจีป่ ระเพณีอีสานมาผสมผสานกับกิจกรรมวนั แหง่ ความรักไว้อย่างดี

กิจกรรมเหล่านี้ฝ่ายศิลปวัฒนธรรมและชุมชนสัมพันธ์ และสานักวัฒนธรรมร่วมกับเครือข่ายด้าน ศิลปวัฒนธรรม ได้ร่วมสืบสานวัฒนธรรมประเพณีอีสานตามรอย 12 คอง 14 ในงานฮีตบุญเดือน 3 จึงได้ ร่วมกันจัดทาโครงการ บุญข้าวจี่ วาเลนไทน์ ประจาปี เพ่ือผลักดันกลไกการขับเคล่ือนศักยภาพทางวัฒนธรรม ทีม่ ีอย่ใู นท้องถ่นิ ให้ปรากฎเปน็ รูปธรรม เพอ่ื รกั ษาประเพณีอสี านให้คงอยู่คู่ท้องถ่นิ อีสานท่ีรว่ มกนั จีข่ ้าวเพื่อเป็น การถวายพระสงฆ์ ล้วนแต่เป็นประเพณีที่ส่งเสริมให้คนในชุมชนได้มาทากิจกรรมร่วมกัน สร้างความรักความ สามคั คีท้งั สองประเพณีแบบผสมผสานกนั ได้อย่างลงตวั กจิ กรรมบญุ ขา้ วจวี่ าเลนไทน์นอกจากจะเป็นกิจกรรมท่ีแสดงความรกั ความสามัคคแี ล้วยังเป็นกิจกรรม ทท่ี กุ คนให้ความสนใจเป็นอย่างมากสาหรับกลุ่มนกั ศึกษาและคนในชุมชนไดม้ สี ว่ นร่วมประเพณีทดี่ งี ามของชาว อีสาน ไม่ว่าจะเป็นการจี่ข้าวซึ่งทุกคนก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีทาให้ผู้จัดงานมีกาลังใจที่จะสร้างสรรค์ กิจกรรมสบื สานประเพณีนี้ในปีต่อ ๆ ไป แตอ่ ยา่ งไรก็ตามการเขา้ ร่วมการเข้าร่วมงานประเพณีอันดีงามที่ทามา ต้ังแต่โบราณ เพียงแต่เพ่ิมในเรื่องของการป้องกันโรคโควิด -19 (COVID-19) โดยการทาตามมาตรการการ ป้องกันอย่างเคร่งครัด สวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือบ่อย ๆ เว้นระยะห่าง 1 – 2 เมตร เพ่ือสร้างความ ปลอดภยั ให้เพ่อื ตนเองและคนรอบขา้ ง

บรรณานุกรม เดือนสามบุญข้าวจี่อีสานรอ้ ยแปด 2553. ค้นเม่อื 2 มกราคม 2565, จาก www.esarn108.com ประวตั ิวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพนั ธ์ VALENTINE'S DAY 2654. คน้ เม่ือ 3 มกราคม 2565, จาก www.SANOOK.com ศนู ย์ศิลปวฒั นธรรม มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น. (2563) ม่วนซื่นผสาน 2 วถิ ีวัฒนธรรมกบั บุญข้าวจ่ีวาเลนไทน์. ค้นเมือ่ 2 มกราคม 2565, จาก https://cac.kku.ac.th