Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โครงงานสคูบี้ของคอมบูชา

โครงงานสคูบี้ของคอมบูชา

Description: กระเป๋าสตางค์หนังจากสคูบี้ของคอมบูชา

Keywords: สคูบี้

Search

Read the Text Version

การศึกษาองค์ความรู้เรื่อง สคบู ขี้ องคอมบชู าเพ่ือการทากระเป๋ าสตางค์หนังสัตว์เทียม Kombuchar's Scoby For Making Artificial Leather Wallet คณะผจู้ ดั ทำ นำย ณัฐพฒั น์ อิน่ มกี ุล ช้นั ม.5/1 เลขท่ี 3 นำงสำว นพรดำ ลมิ้ สุวรรณ ช้นั ม.5/1 เลขท่ี 14 นำงสำว ปวีณำ จติ อำรี ช้นั ม.5/1 เลขที่ 16 นำงสำว สุภคั จริ ำ สะสม ช้นั ม.5/1 เลขท่ี 22 นำงสำว ปริยำกร ณ น่ำน ช้นั ม.5/1 เลขท่ี 27 ครูท่ปี รึกษำ ครูดำรงค์ คนั ธะเรศย์ เอกสำรฉบบั น้ีเป็นส่วนหน่ึงของกำรศกึ ษำคน้ ควำ้ และสร้ำงองคค์ วำมรู้ (IS1) โรงเรียนปัว อำเภอปัว จงั หวดั น่ำน สำนกั งำนเขตพ้นื ทกี่ ำรศกึ ษำมธั ยมศึกษำ เขต 37 ภำคเรียนที่ 1 ปี กำรศึกษำ 2563

การศึกษาองค์ความรู้เร่ือง สคบู ขี้ องคอมบชู าเพ่ือการทากระเป๋ าสตางค์หนังสัตว์เทียม Kombuchar's Scoby For Making Artificial Leather Wallet คณะผจู้ ดั ทำ นำย ณัฐพฒั น์ อิน่ มกี ุล ช้นั ม.5/1 เลขท่ี 3 นำงสำว นพรดำ ลมิ้ สุวรรณ ช้นั ม.5/1 เลขท่ี 14 นำงสำว ปวีณำ จติ อำรี ช้นั ม.5/1 เลขที่ 16 นำงสำว สุภคั จริ ำ สะสม ช้นั ม.5/1 เลขท่ี 22 นำงสำว ปริยำกร ณ น่ำน ช้นั ม.5/1 เลขท่ี 27 ครูท่ปี รึกษำ ครูดำรงค์ คนั ธะเรศย์ เอกสำรฉบบั น้ีเป็นส่วนหน่ึงของกำรศกึ ษำคน้ ควำ้ และสรำ้ งองคค์ วำมรู้ (IS1) โรงเรียนปัว อำเภอปัว จงั หวดั น่ำน สำนกั งำนเขตพ้นื ทกี่ ำรศกึ ษำมธั ยมศึกษำ เขต 37 ภำคเรียนที่ 1 ปี กำรศึกษำ 2563

ค ช่ือเร่ือง : กำรศึกษำองคค์ วำมรู้เร่ืองสคบู ้ขี องคอมบชู ำเพ่อื กำรทำกระเป๋ ำสตำงคห์ นงั สตั วเ์ ทียม ผ้จู ัดทา : นำย ณฐั พฒั น์ อิน่ มกี ลุ ช้นั ม.5/1 เลขท่ี 3 นำงสำว นพรดำ ล้มิ สุวรรณ ช้นั ม.5/1 เลขที่ 14 นำงสำว ปวณี ำ จิตอำรี ช้นั ม.5/1 เลขท่ี 16 นำงสำว สุภคั จิรำ สะสม ช้นั ม.5/1 เลขท่ี 22 นำงสำว ปริยำกร ณ น่ำน ช้นั ม.5/1 เลขที่ 27 ที่ปรึกษา : ครูดำรงค์ คนั ธะเรศย์ ปี การศึกษา : 2563 บทคดั ย่อ กำรศึกษำองค์ควำมรู้เร่ืองสคูบ้ีของคอมบูชำเพ่ือกำรทำกระเป๋ ำสตำงค์หนังสัตว์เทียม มีจุดมุ่งหมำย เพื่อเพอ่ื กำรพฒั นำวสั ดหุ นงั เทยี มจำก scoby ของแบคทเี รียในกำรหมกั คอมบูชำ เพือ่ ทดแทนกำรใชห้ นงั สตั ว์ เพ่ือกำรออกแบบกำรทำกระเป๋ ำสตำงคห์ นังเทยี มจำก scoby ของแบคทีเรีย และเพื่อทดสอบคุณสมบตั ิscoby ของแบคทเี รียท่ีนำมำผลิตแผน่ หนงั เทียม โดยกำรหมกั คอมบูชำและทำตวั เน้ือสคบู ้ี กำรทำใหเ้ น้ือสคบู ้แี ห้งเป็น แผน่ กำรทำกระเป๋ ำตงั คห์ นงั สตั วจ์ ำกหนงั เทียม จำกผลกำรดำเนินกำร พบวำ่ กระเป๋ ำสตำงคจ์ ำกหนังเทียมทีไ่ ด้ สำมำรถใชง้ ำนได้ตำมปกติ เช่นเดียวกับกระเป๋ ำสตำงคห์ นังแท้ โดยมีคุณสมบตั ิท่ีแตกต่ำงกบั หนังแทเ้ พียง เลก็ นอ้ ย จึงสำมำรถนำมำใชแ้ ทนกระเป๋ ำสตำงคห์ นงั แทไ้ ด้

ง กิตติกรรมประกาศ โครงงำนเร่ืองน้ีสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ดว้ ยควำมช่วยเหลือของคณุ ครูดำรงค์ คนั ธะเรศย์ คุณครูท่ี ปรึกษำโครงงำน และคุณครูประจำรำยวิชำ ซ่ึงท่ำนได้ให้คำแนะนำและข้อคิดเห็นต่ำง ๆ อันเป็ น ประโยชน์อย่ำงยิ่งในกำรทำวิจยั อีกท้งั ยงั ช่วยแก้ปัญหำต่ำง ๆ ท่ีเกิดข้ึนระหว่ำงกำรดำเนินงำนอีกด้วย ขอขอบคุณผูป้ กครองทุกคนของกลุ่มผูท้ ำโครงงำน ท่ีช่วยให้กำรสนับสนุน และอำนวยควำมสะดวก ใหก้ บั ผทู้ ำโครงงำน นอกจำกน้ียงั ขอขอบคุณเพ่ือนๆ ท่ีชว่ ยเป็นกำลงั ใจ ใหก้ ำรสนบั สนุน แนะนำและติ ชม จนโครงงำนเรื่องน้ีเสร็จสมบูรณ์ นำยณฐั พฒั น์ อน่ิ มีกุล นำงสำวนพรดำ ลิ้มสุวรรณ นำงสำวปวณี ำ จิตอำรี นำงสำวสุภคั จิรำ สะสม นำงสำวปริยำกร ณ น่ำน

สารบัญ จ เร่ือง หน้า บทคัดย่อ ค กติ ตกิ รรมประกาศ ง สารบญั จ สารบญั ตาราง ช สารบัญภาพ ซ บทที่ 1 บทนา 1 1 1.1 ทมี่ าและความสาคัญ 1 1.2 วตั ถุประสงค์ของโครงงาน 2 1.3 ขอบเขตของโครงงาน 2 1.4 ประโยชน์ท่ีได้รับ 2 1.5 นิยามศัพท์ 3 บทท่ี 2 ทฤษฎีท่เี ก่ียวข้อง 3 2.1 คอมบชู า 4 2.2 วตั ถุดิบที่ใช้ในการหมกั คอมบูชา 5 2.3 จุลินทรีย์ทีเ่ กย่ี วข้องในกระบวนการหมกั คอมบูชา 6 2.4 กระบวนการหมักคอมบชู า 7 2.5 ประโยชน์ของคอมบชู า 9 2.6 ความเป็ นพษิ ต่อร่างกายของคอมบูชา 9 2.7 หนงั สัตว์ 11 2.8 แนวโน้มของอตุ สาหกรรมหนงั สัตว์ 12 บทท่ี 3 วธิ ีการศึกษาค้นคว้า 12 3.1 ข้นั ตอนการดาเนินการ 16 3.2 วสั ดแุ ละอุปกรณ์ทใ่ี ช้ในการจัดทาโครงงาน 17 บทที่ 4 ผลการดาเนินงาน 19 บทที่ 5 สรุปผล อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ 19 5.1 สรุปผลการทดลอง 19 5.2 ปัญหาและอุปสรรคในการทดลอง 19 5.3 ข้อเสนอแนะและแนวทางในการพฒั นา

บรรณานุกรม ฉ ช สารบัญตาราง หน้า ตารางที่ 4.1 แสดงคณุ สมบตั ขิ องเน้ือสคูบ้ีท่ีไดจ้ ำกกำรหมกั 17 ตารางท่ี 4.2 แสดงคุณสมบตั ขิ องหนงั เทยี ม(เน้ือสคบู ้ีแห้งท่ไี ดจ้ ำกกำรหมกั คอมบชู ำ) 17

สารบัญภาพ ซ ภาพที่ 3-1 น้ำคอมบชู ำ หน้า ภาพท่ี 3-2 ตม้ น้ำชำ 12 ภาพที่ 3-3 แผน่ วุน้ ที่ข้นึ ใหม่ 12 ภาพท่ี 3-4 แผน่ สคบู ้ี 13 ภาพที่ 3-5 ลกั ษณะเน้ือสคูบ้ี 13 ภาพที่ 3-6 แผ่นสคบู ้ี 13 ภาพท่ี 3-7 นำแผ่นสคบู ้เี ขำ้ เตำอบ 13 ภาพที่ 3-8 แผน่ สคบู ้แี ห้ง 14 ภาพท่ี 3-9 กระเป๋ ำสตำงคจ์ ำกหนงั เทยี ม 14 ภาพท่ี 3-10 ลวดลำยบนกระเป๋ ำสตำงค์ 15 15

1 บทท่1ี บทนา 1. ท่ีมาและความสาคัญ เนื่องจำกในปัจจุบันอุตสำหกรรมเครื่องหนังจำกสัตว์มีอัตรำกำรเติบโตสูงมำก ซ่ึงเป็ นหน่ึงใน อตุ สำหกรรมท่สี ่งผลตอ่ ทรัพยำกรธรรมชำตแิ ละส่ิงแวดลอ้ มท่ีกำลงั เส่ือมโทรมอย่ำงรวดเร็ว เกิดทก่ี ำรขยะ ลน้ เมอื งที่ยงั ไม่กำรบริหำรจัดกำรไม่เป็นระบบมำกนกั ขณะท่ีควำมเสี่ยงท่ีจะกระทบต่อสภำพอำกำศผวน ผนั มีควำมรุนแรงมำกข้ึน แต่ควำมตอ้ งกำรหนงั สัตว์ก็ไม่มีท่ำทีว่ำจะลดลง เนื่องจำกเป็ นอุตสำหกรรมที่ กำลงั เป็นทนี่ ิยมในวงกำรแฟชนั่ ท้งั กำรนำมำทำเคร่ืองนุ่งห่ม กระเป๋ ำ หรือวสั ดุห่อหุ้มต่ำงๆ สโคบี (SCOBY) เป็นส่วนผสมของแบคทีเรียและยีสต์ หลงั จำกหมกั บ่มชำไประยะหน่ึงแลว้ จะทำให้ เกดิ แผน่ วุน้ หยุ่นๆ ลอยอยู่บนน้ำชำ มีรูปร่ำงคลำ้ ยเห็ด ทำให้บำงคนเรียกว่ำชำเห็ด (Mushroom Tea) คอม บชู ำจดั เป็นเครื่องดื่มท่ีมีสรรพคุณทำงยำ โดยมีจุลินทรียโ์ พรไบโอตกิ ส์ ซ่ึงเป็นจลุ ินทรียช์ นิดดีท่รี ่ำงกำยไม่ สำมำรถสร้ำงข้นึ เองได้ มีส่วนช่วยรกั ษำสมดุลของระบบทำงเดินอำหำรและระบบขบั ถ่ำย ซ่ึงภำยในวนุ้ จะ มีแบคทเี รียและยสี ตจ์ ำนวนมำก ทสี่ ำมำรถนำมำใชป้ ระโยชนห์ ลำกหลำย ประเทศไทยถูกจัดว่ำเป็ นประเทศผูส้ ่งออกหนังและเครื่องหนังที่สำคัญประเทศหน่ึงในเอเชีย กำร พฒั นำเคร่ืองหนังเพื่อกำรส่งออกของไทยได้กระทำอย่ำงต่อเน่ืองมำตลอดท่ีผ่ำนมำจนทำให้มูลค่ำกำร ส่งออกขยำยตวั เพม่ิ ข้ึน ปัจจยั ภำยในประเทศทที่ ำใหก้ ำรส่งออกลดลงเพรำะผูผ้ ลติ เคร่ืองหนงั ไม่มีศกั ยภำพ ในกำรพฒั นำกำรผลิตให้ได้ในปริมำณและคณุ ภำพท่ีลูกคำ้ ตอ้ งกำร เนื่องจำกยงั คงมีปัญหำขำดแคลนหนงั ฟอกคณุ ภำพดีในประเทศตอ้ งนำเขำ้ ทำใหตน้ ทุนมรี ำคำสูงข้นึ (กรมส่งเสริมกำรส่งออก, 2547) ซ่ึงบำงชนิดของหนังที่เป็นที่ต้องกำรอย่ำงมำกน้ันเป็ นหนงั ของสัตวท์ ่ีใกลจ้ ะสูญพนั ธ์ุุ และกำรนำ หนังสัตวม์ ำใช้ กลุ่มของเรำจึงเล็งเห็นปัญหำดงั กล่ำว จึงจดั ทำโครงงำนscobyของคอมบูชำ เพ่ือกำรทำ กระเป๋ ำสตำงค์หนังสัตว์เทียม ซ่ึงเป็นกำรใช้แบคทีเรียที่มีกำรรวมตวั กันเป็นกลุ่มมำใชท้ ดแทนหนงั สัตว์ โดยจะออกแบบรูปแบบของกระเป๋ ำสตำงค์ ซ่ึงอำจท่ีจะเป็นวสั ดุทดแทนในอุตสำหกรรมทใ่ี ชห้ นังสัตว์ ซ่ึง เป็นกำรลดหนงั แทล้ งได้ 2. วัตถปุ ระสงค์ของโครงงาน 1.เพอ่ื กำรพฒั นำวสั ดหุ นงั เทยี มจำกscobyของแบคทเี รียในกำรหมกั คอมบชู ำ เพ่ือทดแทนกำรใช้ หนงั สตั ว์ 2.เพื่อกำรออกแบบกำรทำกระเป๋ ำสตำงคห์ นงั เทยี มจำกscobyของแบคทีเรีย 3.เพ่อื ทดลองคณุ สมบตั ิscobyของแบคทีเรียทีน่ ำมำผลติ แผ่นหนงั เทียม

2 3. ขอบเขตของโครงงาน 3.1 สถำนท่ี โรงเรียนปัว อำเภอปัว จงั หวดั น่ำน 3.2 ระยะเวลำ 1 กนั ยำยน 2563 - 8 พฤศจกิ ำยน 2563 3.2 ขอบเขตกำรศึกษำขอ้ มูล 3.2.1 ขอบเขตกำรทดสอบคุณสมบตั ิวตั ถุ ● เคร่ืองหนงั มีควำมคงทน ทนตอ่ กำรฉีดขำด ● เคร่ืองหนงั มีควำมสำมำรถป้องกนั น้ำ ● เคร่ืองหนงั มีควำมทนและควำมช้ืน ● เครื่องหนงั มกี ล่ินสำบส่งผลต่อกำรใชง้ ำน 3.2.2 ขอบเขตกำรออกแบบ ● ออกแบบกระเป๋ ำตงั หนงั สตั วต์ ำมรูปแบบกระเป๋ ำตงั ตำมมำตรฐำนทว่ั ไป 4. ประโยชน์ท่ีได้รับ 1.หนงั เทียมท่ไี ดจ้ ำกscobyของแบคทเี รีย จำกกำรหมกั คอมบชู ำสำมำรถใชแ้ ทนหนงั สตั วไ์ ด้ 2.สำมำรถออกแบบและผลิตกระเป๋ ำสตำงคห์ นงั เทยี มจำกscobyของแบคทีเรียได้ 3.หนงั เทยี มจำกscobyของแบคทีเรียมคี ณุ สมบตั ใิ กลเ้ คียงกบั หนงั สัตว์ 4.เกดิ ควำมสำมคั คีภำยในกล่มุ 5.ไดท้ กั ษะกำรทำงำนร่วมกนั ภำยในกลุ่ม 5.นิยามศัพท์ คอมบูชา (Kombucha) คือ ชำหมกั ทเ่ี กิดจำกกำรเอำน้ำหวั เช้ือและแผ่น Scoby (Symbiotic culture of bacteria and yeast) ทีม่ แี บคทเี รียและยีสต(์ ตวั ทม่ี สี รรพคุณดตี ่อร่ำงกำยมนุษย)์ ไปหมกั ไวก้ บั น้ำชำและน้ำตำล นำน 7 - 30 วนั จนกลำยเป็นน้ำทมี่ ีรสชำติเปร้ียวหวำนสดช่ืน ถำ้ หำกนำไปปิ ดไวใ้ นขวดทป่ี ิ ดสนิดจะเกิดก๊ำซ Carbon Dioxide และมีควำมซ่ำ รสชำติจะคลำ้ ยกบั Apple cider สโคบี้ หรือ สะคูบี้ (Scoby) คอื แบคทีเรียและยีสต์ทีม่ ำเกำะเกย่ี วกนั อำศยั ร่วมกนั เพื่อกำรอยู่รอด และ สร้ำงผนงั เซลลใ์ ห้หนำข้ึนทเ่ี รียกวำ่ เซลลูโลส จลุ ินทรียจ์ ำนวนมำก ยงั คงอยู่ในตวั น้ำชำหมกั ไมไ่ ดข้ ้ึนมำเกำะ เก่ยี วเป็น scoby ไปเสียท้งั หมด น้ำชำ kombucha เกำ่ จึงเป็น starter ทดี่ ี ที่ตอ้ งใชร้ ่วมกบั scoby จลุ ินทรียท์ ี่อยู่ ใน kombucha ประกอบไปด้วยยสี ตแ์ ละแบคทเี รีย ท่ีอำศยั พ่ึงพำกนั แบคทีเรียจะช่วยยอ่ ยน้ำตำลใหเ้ ป็นกลโู คส

เพ่ือเป็นอำหำรให้กบั ยีสต์ ในขณะที่แบคทีเรียก็จะได้กรดอะมิโน วิตำมินเกลือแร่มำจำกยีสต์เพื่อใชใ้ นกำร เจริญเตบิ โต สำยพนั ธุข์ องยสี ตท์ ี่พบมกั จะเป็นกลุ่มสำยพนั ธุ์ 3 บทท่ี 2 ทฤษฎีท่ีเกี่ยวข้อง ในกำรดำเนินโครงกำรน้ี ผูจ้ ดั ทำไดศ้ กึ ษำคน้ ควำ้ เอกสำรและงำนวจิ ยั ท่ีเกยี่ วขอ้ ง เพอื่ ให้สำมำรถจดั ทำ โครงกำรไดอ้ ยำ่ งมีประสิทธิภำพและเป็นไปไดด้ ว้ ยดี โดยทำกำรศึกษำคน้ ควำ้ เอกสำรและทฤษฏที ่ีเก่ียวขอ้ งดงั หัวขอ้ ต่อไปน้ี 2.1 คอมบูชา (Kombucha) คอมบชู ำ คือเคร่ืองดมื่ ชำหมกั เพื่อสุขภำพที่มีควำมหวำนและควำมเปร้ียว ดื่มแลว้ ให้ควำมสดช่ืนแก่ ร่ำงกำย โดยใช้ชำและน้ำตำลเป็ นวตั ถุดิบในกำรหมกั ซ่ึงกระบวนกำรหมักจะเกิดข้ึนในสภำวะท่ีมีกำรใช้ ออกซิเจนโดยอำศยั เช้ือจุลินทรียทท์ ีท่ ำงำนร่วมกนั ในสองชนิดประกอบด้วย แบคทีเรียกรดอะซิติกและยีสต์ (Dufresneand Farnmorth, 2000) อุณหภูมิท่ีเหมำะสมในกระบวนกำรหมกั ที่ 18-30 องศำเซลเซียส เม่ือสิ้นสุด กระบวนกำรหมกั จะได้ผลิตภณั ฑ์ 2ส่วนประกอบดว้ ยแผ่นวุน้ หรือเซลลูโลส(cellulosic pellicle layer) ใน ส่วนน้ีไม่นิยมบริโภค เพรำะมีควำมเปร้ียวและควำมเหนียวแข็งของแผ่นวุน้ ในส่วนที่สองคือน้ำชำหมัก (fermented tea broth)ในส่วนน้ีจะใชใ้ นกำรดมื่ บริโภค มีองค์ประกอบตำ่ งๆ อำทเิ ช่น acetic acid, glucuronic acid, gluconic acid, succinic acid, citric acid, amino acid, vitamin C, B1, B12, glucose และ D-saccharic acid-1,4-lactone หรือสำร DSL คอมบูชำจะมีช่ือเรียกที่แตกต่ำงกนั ซ่ึงข้ึนอยู่กับแต่ละท้องถิ่นภูมิประเทศเช่นประเทศไตห้ วนั เรียก Haipo หรือ Tea Fungus ประเทศญป่ี ่ นุ เรียกวำ่ Kocha Kinoko ประเทศรสั เซีย เรียกวำ่ Mo-Gu ประเทศในแถบ ยุโรป เรียกว่ำ Heldenpilz หรือ Kombuchaschwamm นอกจำกน้ีในบำงประเทศรู้จกั ในชื่อของ Kombucha Kargaksok Tea และ Manchurin Mushroom เป็ นต้น กำรบริโภคเครื่องดื่มชมหมักพบว่ำ เร่ิมมีกำรบริโภค ต้งั แตป่ ี ค.ศ.220 ในสมยั รำชวงศฉ์ ินของประเทศจีน ใชใ้ นกำรบริโภคเป็น เคร่ืองดื่มชูกำลงั ใหแ้ ก่กองทพั ทหำร และลำ้ งสำรพิษ ในปี ค.ศ.414 แพทยช์ ำวเกำหลี มีชื่อว่ำ “คอมบ”ู ได้นำชำหมกั จำกประเทศจนี ไปยงั ประเทศ บำ้ นเกิดของเขำ และถวำยกำรรักษำโรคกระเพำะอำหำร ให้แกจ่ กั รพรรดิดว้ ยคอมบูชำ ซ่ึงใหผ้ ลกำรรกั ษำที่ดี ดงั น้นั ชำหมกั จึงถูกรู้จัก ในนำม “คอมบูชำ” ตำมชื่อของแพทยช์ำวเกำหลี จำกน้ันกำรด่ืมชำหมกั คอมบูชำจึง ไดแ้ พร่หลำยขยำยเขำ้ ไปในเกือบทุกทวีป ของโลกท้งั ยุโรป รัสเซียและสหรัฐอเมริกำ โดยผูบ้ ริโภคที่ไดด้ ่ืม คอมบูชำตำ่ งให้กำรยอมรับว่ำมรี สชำตหิ วำน มีควำมเปร้ียวและมคี วำมซ่ำ คลำ้ ยคลงึ กบั แอปเปิ้ลไซเดอร์ มผี ลดี ตอ่ สุขภำพและช่วยรักษำโรคตำ่ งๆได้เชน่ มีสำรตำุ้นอนุมลู อสิ ระท่ีสูงเพ่ิมภูมิตำ้ นทำนและป้องกนั โรคช่วยให้ ระบบย่อยอำหำรทำงำนไดด้ ีข้ึน ช่วยลดกำรเกิดโรคมะเร็ง ป้องกันกำรเกิดโรคไขขอ้ อกั เสบ ช่วยในกำรลำ้ ง สำรพิษในเลือดและระบบย่อยอำหำร ส่งเสริมกำรทำงำนของตบั (Roche, 1998) รวมท้งั ช่วยลดระดับคลอ เรสเตอรอลในเลอื ดไดอ้ กี ดว้ ย (Yang et al., 2009)

4 2.2 วัตถุดบิ ท่ีใช้ในการหมักคอมบูชา ประกอบดว้ ยชำและน้ำตำลซูโครส 2.2.1 ชำ (tea) ชำเป็นพชื ยืนตน้ หรือไมพ้ ุ่มในวงศ์ Theaceae จดั อยใู่ นจนี ัส Camellia มมี ำกกวำ่ 300ชนิด สำหรับชำที่ นิยมใชใ้ นกำรบริโภคสำมำรถจดั แบ่งเป็น 2สำยพนั ธุ์คือ ชำจีน(Camelliasinensisvar. sinensis)เป็นสำยพนั ธุ์ที่ นำเขำ้ จำกประเทศไตหวนั และจีนมลี กั ษณะของใบท่ีเล็กและแคบทนทำนต่อสภำพอำกำศหนำวเย็น ได้แก่ชำอู่ หลงเบอร์17 อหู่ ลงกำ้ นอ่อนนิยมปลกู ตำมแถบจงั หวดั เชียงใหม่ เชียงรำย แม่ฮ่องสอนสำหรบั อกี สำยพนั ธุ์คือ ชำอสั สัมหรือชำอินเดียเป็ นสำยพนั ธุ์ท่ีมีต้นกำเนิดในประเทศอินเดียและจัดเป็ นสำยพันธุ์ด้ังเดิมของไทย (Camelliasinensisvar.assamica) มีลกั ษณะใบท่ีใหญเ่ จริญไดด้ ใี นป่ ำเขตร้อนช้ืน ชอบร่มเงำนิยม ปลูกตำมแถบ จงั หวดั เชียงใหม่ เชียงรำย แพร่ น่ำน และลำปำง(ธีรพงษ์, 2555) สำหรับวิธีกำรเก็บเกย่ี วชำน้นั จะทำกำรเก็บ ยอดอ่อนของใบชำและนำเขำ้ กระบวนกำรต่ำงๆ ทีใ่ ห้เกดิ กำรหมกั ซ่ึงหำกแบ่งตำมกระบวนกำรแปรรูปชำดว้ ย กระบวนกำรหมกั สำมำรถจดั แบ่งได้ 3 ประเภทคอื ชำเขียว (green tea) ชำอู่หลง (oolong tea) และชำดำ (black tea) เนื่องจำกในกำรผลิตชำท้งั สำมน้นั มีระดับกำรหมกั ท่ีแตกต่ำงกนั จึงทำให้ชำมีควำมแตกต่ำงของกล่ิน สี รสชำติและองคป์ ระกอบทำงเคมี(ธีรพงษ,์ 2556) 2.2.1.1ประเภทของชำแบง่ ตำมกระบวนกำรผลิตท่ีมรี ะดบั กำรหมกั ใบชำทแ่ี ตกต่ำง กนั ซ่ึงจดั แบง่ ได้ ดงั น้ี คือ ชำเขยี ว(greentea)เป็นชำทกี่ ระบวนกำรผลติ ไม่ผำ่ นกำรหมกั (non-fermentedtea) สำหรับประเทศไทย นิยมผลิตชำเขียวจำกชำสำยพนั ธุอ์ สั สมั และอู่หลงเบอร์12(ธีรพงษ,์ 2556) โดยกำรเกบ็ ยอดอ่อนของตน้ ชำแตถ่ ำ้ หำกพบว่ำที่ใบชำมีควำมช้ืนจะต้องทำกำรผ่ึงเพ่ือเป็นกำรไลค่ วำมช้ืน จำกน้นั นำไปอบดว้ ยไอน้ำเพอ่ื หยุดกำร ทำงำนของเอนไซม์ polyphenoloxidase ซ่ีงทำใหไ้ ม่เกดิ กระบวนกำรหมกั จำกน้นั นำใบชำไปนวด(rolling)ให้ เป็ นเส้นและนำไปอบแหง้ (drying) ตำมด้วยกำรคดั เกรดและบรรจุ สำหรับองค์ประกอบที่สำคญั ท่ีพบในชำเขียวคือ polyphenol มีอยู่ ประมำณ 38- 42% โดยน้ำหนกั แหง้ สำรประกอบpolyphenolส่วนใหญ่เป็นสำรประกอบในกลมุ่ flavonoids เป็นชำทผี่ ำ่ นกระบวนกำรผลิตอย่ำงพิถพี ิถนั ทกุ ข้นั ตอน ดว้ ยกรรมวิธีกำรผลิตแบบก่ึงหมกั ทำให้เกิด กลิ่นหอมช่ืนใจและรสชำติชำที่กลมกล่อมหอมนุ่ม ชุ่มคอ จำกธรรมชำติของยอดชำอู่หลง ซ่ึงชำที่ผ่ำน กระบวนกำรก่งึ หมกั น้นั จะทำให้เกดิ สำร Oolong Tea polymerized-polyphenols หรือ OTPPs เป็นกลุ่มสำรโพ ลีฟี นอลท่ีเกิดกำรเปล่ียนแปลงจำกสำรกลุ่มคำทิชินส์อนั เน่ืองมำจำกกระบวนกำรก่ึงหมกั ของใบชำ โดยมี เอนไซม์โพลีฟี นอลออกซิเดสและควำมร้อนจำกกระบวนกำรผลิตชำเป็ นตัวเร่งปฏิ กิริยำ สำรกลุ่มน้ีมี ควำมสำคญั ต่อกำรลดและควบคุมปริมำณไขมนั ในร่ำงกำย รวมท้งั ส่งผลตอ่ สี กล่นิ และรสชำติเฉพำะตวั ของ

ชำอ่หู ลง โดยปริมำณสำรจะแตกต่ำงกนั ตำมระดบั ของกระบวนกำรหมกั มกั พบอยใู่ นชว่ ง 8-85% ตวั อย่ำงสำร ในกลุ่มน้ีไดแ้ ก่ไดเมอร์ริกคำเทชินส์ เช่น Oolonghomobisflavan A และ B สำรกลุม่ ทีเอฟลำวิน (Theaflavins) 5 และ ทีอะรูบิจิน (Thearubigins) ชำดำ (Black tea) คือ ชำที่ผ่ำนกำรแปรรูป ซ่ึงได้มำจำกกำรเก็บใบชำอ่อน (ใบชำสำยพนั ธุ์ Camellia sinensis) นำมำทำให้แหง้ เพ่ือลดปริมำณของน้ำลงบำงส่วน แลว้ นำใบชำก่งึ แหง้ น้นั ไปคลึงหรือบดดว้ ยลกู กล้ิง เพ่ือให้ใบชำช้ำ ซ่ึงเซลล์ในใบชำจะแตกช้ำโดยใบไม่ขำด และเอนไซม์ในเซลล์จะย่อยสลำยสำรเกิดเป็ น กระบวนกำรหมกั ทำใหเ้ กิดกลิน่ และรส จนใบชำเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีทองแดง เม่ือทิ้งไวร้ ะยะหน่ึงกอ่ นใชค้ วำม ร้อนเป่ ำไปทใ่ี บชำ (หรืออำจนำใบชำไปองั ไฟ หรือรมดว้ ยไอน้ำ) เอนไซมจ์ ะหมดฤทธ์ิ ใบชำเริ่มเปลี่ยนเป็นสี ดำ เมื่อนำไปตำกหรืออบให้แหง้ จำกน้นั ก็บดหรือห่ันตำมแตช่ นิดของชำ ซ่ึงชำที่ไดม้ ำน้ีจะเรียกวำ่ ชำดำ จำกกำรแปรรูปจะเห็นได้ว่ำ ชำดำเป็นชำที่ผ่ำนกำรหมักอย่ำงสมบูรณ์ ซ่ึงจะแตกต่ำงจำกชำอู่หลง ตรงท่ีชำอู่หลงน้นั ใชก้ ระบวนกำรหมกั แบบออกซิเดชนั่ แต่ชำดำจะใชก้ ระบวนกำรหมกั โดยแบคทีเรียเหมือน กำรเพำะบ่มไวน์ ซ่ึงกระบวนกำรหมกั น้ีจะทำใหส้ ำมำรถหมกั ชำไดอ้ ยำ่ งเต็มท่ี ย่งิ บม่ นำนกย็ งิ่ ไดร้ สชำตทิ ีด่ ี ซ่ึง ชำดำทเ่ี ป็นท่ีรูจ้ กั มำกและเป็นทนี่ ิยมสูงกค็ อื ชำผู่เอ๋อร์ (Pu-erh) และ ชำอสั สัม (Assam) 2.2.2 น้ำตำลทรำยหรือน้ำตำลซูโครส (เรืองลกั ขณำ, 2541) น้ำตำลมีควำมสำคญั ต่อกำรดำรงชีวติ ของ สิ่งมีชีวติ ท้งั มนุษยพ์ ืช สัตวร์ วมท้งั จลุ ินทรียโ์ ดย จัดเป็นคำร์โบไฮเดรตชนิดหน่ึงที่ให้ควำมหวำน หรือทรี่ ู้จกั กนั ทวั่ ไปว่ำ น้ำตำลทรำยหรือน้ำตำลซูโครส (sucrose) น้ำตำลซูโครสสำมำรถพบได้ในพืชหลำกหลำยชนิด สำหรับพืชท่ีนิยมนำมำผลิต เป็ นน้ำตำลซูโครสหรือผลิตเพ่ือกำรค้ำ ได้แก่ออ้ ยและหัวบีท น้ำตำลซูโครส ประกอบดว้ ยธำตุ คำร์บอน ไฮโดรเจน และออกซิเจน จดั เป็นสำรให้ควำมหวำนประเภทไดแซก็ คำร์ไรด์หรือ น้ำตำล โมเลกุลคู่ (disaccharide) ท่ีสำมำรถละลำยน้ำ ได้ซ่ึงมีสูตรโมเลกุลเป็ น C12H22O11 โดยสูตร โครงสร้ำง โมเลกุลจะประกอบด้วย โมโนแซ็กคำไรด์ 2 โมเลกุล จะประกอบข้ึนจำก α-glucose และ β- Dfructose หรือกลูโคสและฟรุกโตส (ภำพ 2.1)โดยพนั ธะระหว่ำงกลูโคสและฟรุกโตสอยู่ในรูปไกลโคไซด์ ถำ้ ทำกำรไฮโดรไลซ์ซูโครสดว้ ยกรดหรือเอนไซมจ์ ะทำให้ไดน้ำตำลอินเวริ ์ต (invert sugar) ซ่ึงเป็นสำรผสม ของกลูโคสและฟรุกโตสท่ีมีจำนวนโมลำร์ที่เท่ำกัน น้ำตำลอินเวิร์ตในธรรมชำติจะพบ มำกในน้ำผ้ึงโดย น้ำตำลอินเวิร์ตจะให้ควำมหวำนใกลเุ้คียงกับน้ำตำลซูโครส เนื่องจำกน้ำตำลกลูโคส จะไม่ค่อยหวำนแต่ น้ำตำลฟรุกโตสจะหวำนกว่ำน้ำตำลซูโครส ในกระบวนกำรหมักคอมบูชำน้ำตำลซูโครสจัดเป็ นแหล่ง คำร์บอนช้ันดีให้แก่จุลินทรีย์ โดยเฉพำะแบคทีเรียกรดอะซิติก ซ่ึงกำรใช้น้ำตำลชนิดอื่นเป็นวตั ถุดิบสำหรับ หมกั จะมผี ลทำให้ แบคทีเรียกรดอะซิติกมีกำรเจริญเติบโตไดน้ อ้ ย Malbasaetal (2008) ศึกษำกระบวนกำรหมกั คอมบูชำ โดยใชน้ ้ำตำลโมลำสเป็นแหล่งคำร์บอน พบแบคทีเรียกรดอะซิติกมีอตั รำกำรเจริญท่ีน้อยมำกเม่ือ เปรียบเทยี บกบกั ำรใชน้ำตำลซูโครส 2.3 จลุ นิ ทรีย์ท่ีเกี่ยวข้องในกระบวนการหมักคอมบชู า

เช้ือจุลนิ ทรียท์ ี่เก่ยี วขอ้ งกบั กระบวนกำรหมกั คอมบชู ำอำศยั กิจกรรมกำรหมกั ร่วมกนั หรือแบบพ่งึ พำ อำศยั ซ่ึงกนั และกัน (symbiotic) จึงทำให้ไมม่ กี ำรปนเป้ื อนหรือเจริญของจลุ นิ ทรีย์ ชนิดอ่นื ที่กอ่ โรค โดย 6 สำมำรถตรวจพบจุลนิ ทรียใ์ ห้ชำหมกั คอมบูชำไดเ้ ป็น 2 กลุ่มหลกั ประกอบดว้ ย กลมุ่ แบคทเี รียกรดอะ ซิติก (acetic acid bacteria) และกล่มุ ยสี ต(์ yeast) สำหรับกิจกรรมในกระบวนกำรหมกั ของจุลินทรียท์ ้งั สองกลุ่ม คือในระยะเร่ิมต้นของกำรหมกั ยีสต์ ทำหนำ้ ที่เปลย่ี นน้ำตำลโมเลกลุ คู่ใหเ้ ป็นน้ำตำลโมเลกุลเดยี่ วจำกน้นั ยีสตก์ ็จะเขำ้ ไปเปล่ยี นน้ำตำลโมเลกุลเดีย่ ว ให้เป็นแอลกอฮอลแ์ ละกรดอนิ ทรียบ์ ำงชนิด เม่ือในสภำวะท่ีมแี อลกอฮอลแ์ ละนำ้ ตำลโมเลกลุ เดยี่ วจงึ มีควำม เหมำะสมต่อกำร เจริญเติบโตของแบคทีเรียกรดอะซิติก โดยแบคทีเรียกรดอะซิติกสำมำรถท่ีจะเป ล่ียน แอลกอฮอลใ์ ห้ เป็นกรดอะซิตกิ และกรดอินทรียห์ รือสำรประกอบต่ำงๆ ไดย้ ีสต์และแบคทีเรียกรดอะซิติกมี กิจกรรม กำรหมกั ร่วมกันหรือที่เรียกว่ำ tea fungus สำหรับคำว่ำ “tea fungus” น้ันไม่ได้หมำยถึงเห็ดรำ แต่ หมำยถึงกลุม่ ของแบคทีเรียท่ีสำมำรถสังเครำะห์แผ่น เซลลูโลสหรือแผ่นวุน้ บริเวณผิวหน้ำของชำหมกั คอม บชู ำ ซ่ึงมีลกั ษณะท่คี ลำ้ ยคลึงกบั รำ (Dufresne andFarnmorth, 2000; Teoh, et al2004; Jayabalan et al., 2014) 2.3.1แบคทีเรียกรดอะซิตกิ 2.3.2 ยสี ต(์ yeast) 2.4 กระบวนการหมักคอมบูชา กำรหมกั เป็นกระบวนทำงชีวเคมีภำยในเซลล์ เพื่อสร้ำงพลงั งำนจำกกำรย่อยสลำยสำรอินทรีย์ หรือ กำรเปลี่ยนแปลงทำงเคมีของสำรประกอบอินทรียด์ ้วยเอนไซม์ โดยมีสำรอินทรียเ์ ป็ นท้งั ตวั ให้และตวั รับ อเิ ลก็ ตรอน ซ่ึงตำ่ งจำกกำรหำยใจแบบใชอ้ อกซิเจนที่ใชอ้ อกซิเจนทเ่ี ป็นสำรอนินทรียเ์ ป็นตวั รับอเิ ล็กตรอนตวั สุดท้ำย ในคร้ังแรกคำว่ำกำรหมกั ใช้อธิบำยลกั ษณะที่เกิดจำกกำรทำงำนของยีสตใ์ นน้ำผลไม้ เพรำะยีสต์ย่อย สลำยน้ำตำลในสภำวะทไ่ี ร้ออกซิเจน จงึ เกดิ ฟองแก๊สคำร์บอนไดออกไซดผ์ ุดข้ึนมำเหมือนน้ำเดือด เร่ิมใชค้ ร้ัง แรกเม่ือรำวปลำยคริสต์ศตวรรษท่ี 14 ในหนังสือ alchemy แต่เร่ิมใช้ในควำมหมำยปัจจุบันเม่ือรำว คริสตศ์ ตวรรษท่ี 16 โดยมวี ธิ ีกำรดงั นี 1. ตม้ น้ำ 3 ถว้ ยให้เดือด ใส่ใบชำลงไป ตม้ ดว้ ยไฟอ่อนๆ แชท่ ้งิ ไว้ 20 นำที (หมน่ั คนใบชำทกุ 5 นำที) แลว้ กรองเอำใบชำออก 2. ใส่น้ำตำลทรำย คนใหล้ ะลำย แลว้ เตมิ น้ำกรอง 5 ถว้ ย ลงไป ทิ้งไวใ้ หเ้ ยน็ 3. เทส่วนผสมท้งั หมดลงในโหลแกว้ ท่ีเตรียมไว้ 4. เตมิ น้ำชำคอมบชู ำ และ SCOBY ลงไป คนเบำๆ ใหส้ ่วนผสมท้งั หมดเขำ้ กนั ดี 5. ปิ ดฝำขวดโหลดว้ ยผำ้ และรัดยำงท่ีปำกโหล หรือหำกโหลแกว้ มีฝำครอบให้ปิ ดหลวมๆ โดยให้ อำกำศผ่ำนเขำ้ ออกไดด้ ี

6. ต้งั หมกั ท้ิงไวป้ ระมำณ 10-14 วนั ในอณุ หภูมิ 23 C- 30 C เก็บใหพ้ น้ จำกแสงแดด หรือเก็บในห้อง ทมี่ ีแสงนอ้ ย ไมอ่ บั ช้ืน และไมม่ แี มลงรบกวน 7 2.5ประโยชน์ของคอมบชู า กระบวนกำรหมกั Kombucha น้นั ก่อให้เกดิ จลุ ินทรียแ์ ละยีสตส์ ำยพนั ธุ์ดีหรือโพรไบโอตกิ ส์ปริมำณ มำก ซ่ึงดตี ่อระบบย่อยอำหำรของร่ำงกำย เพรำะโพรไบโอตกิ ส์จะไปทดแทนจลุ นิ ทรียส์ ำยพนั ธุด์ ีในระบบยอ่ ย อำหำรท่สี ูญเสียไปจำกหลำยสำเหตุ อยำ่ งกำรกินอำหำรไมส่ ะอำดหรือกำรใชย้ ำบำงชนิด อีกท้งั ยงั มีงำนวจิ ยั ที่ พบว่ำโพรไบโอติกส์อำจช่วยรักษำและป้องกันโรคทำงเดนิ อำหำรบำงชนิดไดด้ ว้ ย ได้แก่ อำกำรทอ้ งเสียจำก กำรติดเช้ือหรือท้องเสียจำกยำปฏชิ ีวนะ ลำไส้อกั เสบ ลำไส้แปรปรวน โรคติดเช้ือเอชไพโลไร และโรคตดิ เช้ือ คลอสไทรเดยี มดฟิ ิซำยล์ โดยระหว่ำงที่หมกั Kombucha เช้ือแบคทเี รียและยีสตจ์ ะแบง่ ตวั จนเห็นเป็นแผน่ ฟิลม์ ลกั ษณะคลำ้ ยกลุ่มเห็ดเคลือบอยู่บนผิวของของเหลว ดว้ ยเหตุน้ี บำงคนจงึ เรียกเคร่ืองดื่มชนิดน้ีว่ำชำเห็ด หรือ อำจเรียกกลุ่มแบคทีเรียและยีสตท์ ม่ี ีชีวิตน้ีว่ำ SCOBY ซ่ึงสำมำรถนำไปใชเ้ ป็นหัวเช้ือสำหรบั หมกั Kombucha คร้งั ตอ่ ไปได้ นอกจำกน้ัน โพรไบโอติกส์ยงั ช่วยเสริมกำรทำงำนของระบบภูมิคุม้ กนั เพรำะกำรเสียสมดุลระหว่ำง จลุ ินทรียส์ ำยพนั ธุด์ ีและสำยพนั ธุท์ ี่เป็นอนั ตรำยตอ่ ร่ำงกำยทำให้ระบบตำ่ ง ๆ ในร่ำงกำยทำงำนผดิ ปกติและติด เช้ือไดง้ ่ำยข้ึน ซ่ึงกอ่ ให้เกดิ โรคต่ำง ๆ ตำมมำมำกมำย โดยมีงำนวิจยั หน่ึงท่ีพบวำ่ โพรไบโอติกส์ช่วยให้เดก็ และ ผใู้ หญ่ที่มอี ำกำรหวดั หำยเป็นปกติไดเ้ ร็วข้ึน อยำ่ งไรกต็ ำม โพรไบโอติกสน์ ้นั มีหลำยสำยพนั ธุ์ ซ่ึงจะส่งผลต่อร่ำงกำยแตกตำ่ งกนั ไปตำมสำยพนั ธุ์ และปัจจยั ทำงร่ำงกำยของแต่ละคน ดังน้ัน จึงควรมีงำนวิจยั สนุบสนุนเพิ่มเติม เพ่ือยืนยนั ประสิทธิภำพของ โพรไบโอติกสใ์ หแ้ น่ชดั ยง่ิ ข้ึน และผบู้ ริโภคควรหลีกเลยี่ งกำรกนิ หรือดืม่ ผลิตภณั ฑโ์ พรไบโอตกิ ส์ทย่ี งั ไม่ผ่ำน กำรรับรองมำตรฐำนของสำนกั งำนคณะกรรมกำรอำหำรและยำ อุดมไปดว้ ยสำรตำ้ นอนุมูลอสิ ระ Kombucha ทีห่ มกั จำกชำเขยี วน้นั อุดมไปดว้ ยสำรตำ้ นอนุมูลอิสระหลำยชนิดทชี่ ่วยป้องกันหรือยบั ย้งั ควำมเสียหำยของเซลลท์ ่ีเกิดข้นึ จำกอนุมลู อิสระอยำ่ งสำรโพลีฟีนอล (Polyphenol) โดยในปัจจุบนั มงี ำนวิจยั ท่ี ศึกษำคณุ สมบตั ิของ Kombucha ในดำ้ นน้ีกบั หนูที่ไดร้ ับสำรละลำยตะกว่ั ตดิ ตอ่ กนั 45 วนั โดยแบ่งหนูทดลอง ออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่กิน Kombucha ควบคู่กบั ได้รับสำรตะกั่ว กบั กลุ่มท่ีไม่ไดก้ ิน Kombucha พบว่ำ เซลลท์ ่ถี ูกทำลำยจำกสำรตะกวั่ ของหนูกลุ่มแรกน้นั มจี ำนวนลดลง ดงั น้นั เคร่ืองดืม่ ชนิดน้ีจึงอำจช่วยลดควำม เป็นพิษของตบั จำกกำรไดร้ ับสำรเคมีทเี่ ป็นพษิ ได้ อย่ำงไรก็ตำม งำนวจิ ยั ดงั กล่ำวเป็นเพียงกำรทดลองในสตั วเ์ ท่ำน้นั ผลลพั ธ์ทเี่ กิดข้นึ จงึ อำจแตกต่ำงกบั กำรทดลองในคน ซ่ึงปัจจุบนั ยงั ไมม่ ีงำนวิจยั ใดท่ศี ึกษำคณุ สมบตั ิของ Kombucha ในดำ้ นกำรตำ้ นอนุมูลอิสระ กบั คนโดยตรง จงึ จำเป็นตอ้ งรองำนวจิ ยั สนบั สนุนเพิม่ เติมทช่ี ดั เจนในอนำคตต่อไป

8 ออกฤทธ์ชิ ่วยยับย้งั การตดิ เชื้อแบคทีเรีย Kombucha มกี รดน้ำสม้ หรือกรดอะซิตกิ เป็นส่วนประกอบหลกั ซ่ึงมีคุณสมบตั ิช่วยกำจดั เช้ือจุลนิ ทรีย์ ท่ีเป็นอนั ตรำยต่อร่ำงกำย จึงมีงำนวิจยั ที่ศึกษำประสิทธิภำพของ Kombucha ในกำรต้ำนเช้ือแบคทีเรียแลว้ พบวำ่ Kombucha ท่ีหมกั จำกชำดำและชำเขียวอำจมฤี ทธ์ิช่วยยบั ย้งั กำรตดิ เช้ือแบคทเี รีย รวมถงึ เช้ือแคนดิดำซ่ึง เป็นยสี ตช์ นิดหน่ึงที่เป็นอนั ตรำยต่อคน นอกจำกน้นั คณุ สมบตั ิในดำ้ นน้ีของ Kombucha จะส่งผลต่อจุลินทรีย์ ทีเ่ ป็นอนั ตรำยต่อร่ำงกำยเท่ำน้นั จึงไม่ทำใหจ้ ำนวนโพรไบโอติกส์หรือจุลนิ ทรียส์ ำยพนั ธุ์ดีลดนอ้ ยลงไปดว้ ย อย่ำงไรก็ตำม งำนวิจัยถึงประสิทธิภำพของ Kombucha ในกำรต้ำนเช้ือแบคทีเรียยงั มีอยู่ไม่มำกนัก จึง จำเป็นตอ้ งรองำนวจิ ยั สนนั สนุนเพิ่มเตมิ เพือ่ ยืนยนั ประสิทธิภำพในดำ้ นน้ีให้แน่ชดั ลดความเสี่ยงโรคหวั ใจและหลอดเลอื ด ภำวะคอเลสเตอรอลในเลือดสูงเป็ น 1 ในปัจจัยเส่ียงต่อกำรเกิดโรคหัวใจ ซ่ึงโดยปกติแล้ว คอเลสเตอรอลแบง่ ออกเป็น 2 ประเภทหลกั คือ คอเลสเตอรอลชนิดดี (High Density Lipoprotein: HDL) ซ่ึง ทำหน้ำที่กำจดั ไขมนั อนั ตรำยในกระแสเลือด และยบั ยง้ั กำรสะสมของไขมนั และคอเลสเตอรอลส่วนเกิน กบั คอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (Low Density Lipoprotein: LDL) หำกมีไขมนั ในปริมำณมำกเกินไปจะทำใหเ้ กดิ กำร สะสมอยูต่ ำมผนงั หลอดเลอื ด ซ่ึงอำจกอ่ ใหเ้ กิดโรคหัวใจและหลอดเลอื ดตำมมำได้ ท้งั น้ีมีงำนวิจัยหน่ึงศึกษำประสิทธิภำพของ Kombucha ในกำรลดระดบั คอเลสเตอรอล โดยให้หนูท่ี ถูกป้อนอำหำรที่มีคอเลสเตอรอลสูงเป็ นประจำกิน Kombucha ติดต่อกัน 16 สัปดำห์ หลังจำกน้ันจึง เปรียบเทียบปริมำณ HDL และ LDL ก่อนและหลงั กิน พบว่ำ LDL มีปริมำณลดลง แต่ HDL กลบั มีปริมำณ เพ่ิมข้ึน ดงั น้นั Kombucha จึงอำจช่วยลดระดบั คอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีได้ และอำจช่วยลดควำมเส่ียงในกำร เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดดว้ ย แต่งำนวิจัยขำ้ งต้นเป็นเพียงกำรทดลองกบั สัตว์ จึงจำเป็นตอ้ งรองำนวิจยั สนบั สนุนที่ทดลองกบั คนในอนำคตตอ่ ไป ลดระดับน้าตาลในเลือด มีงำนคน้ ควำ้ ที่ศึกษำประสิทธิภำพของ Kombucha ในกำรช่วยลดระดับน้ำตำลในเลือด โดยใหห้ นูทม่ี ีระดับ น้ำตำลในเลือดสูงกิน Kombucha ติดต่อกนั 30 วนั พบว่ำร่ำงกำยของหนูใช้เวลำในกำรย่อยอำหำรจำพวก คำร์โบไฮเดรตชำ้ ลง ทำใหร้ ะดบั น้ำตำลในเลือดลดลงตำมไปดว้ ย ดงั น้นั กำรด่มื Kombucha จึงอำจส่งผลดีต่อ ผปู้ ่ วยโรคเบำหวำน ซ่ึงเป็นภำวะท่ีร่ำงกำยมีระดับน้ำตำลในเลือดสูงกว่ำปกติ อย่ำงไรก็ตำม งำนวิจยั ขำ้ งต้น เป็นเพียงกำรศึกษำในหนูทดลอง ซ่ึงผลลพั ธ์ทไี่ ดจ้ ำกสตั วก์ บั ผลลพั ธท์ ี่ไดจ้ ำกคนอำจแตกตำ่ งกนั จึงจำเป็นตอ้ ง รองำนวิจัยสนับสนุนท่ีศึกษำกับคนในอนำคต เพื่อยืนยนั ประสิทธิภำพของ Kombucha ในด้ำนน้ีให้แน่ชัด นอกจำกน้นั กำรเติมน้ำตำลเพื่อเพ่ิมรสชำติก่อนด่ืม Kombucha น้นั อำจทำให้ประสิทธิภำพในกำรลดระดับ

น้ำตำลในเลือดไม่เป็ นผล เพรำะกำรเติมน้ำตำลเขำ้ ไปในชำหมกั หลังจำกหมกั เสร็จแลว้ จะย่ิงทำให้ระดับ น้ำตำลในเลอื ดเพ่มิ สูงข้นึ 9 ลดความเส่ียงโรคมะเร็ง มะเร็งเกิดจำกกำรกลำยพนั ธุ์ของเซลลใ์ นร่ำงกำย และเซลลด์ ังกล่ำวอำจเพ่ิมจำนวนข้ึนโดยที่ร่ำงกำย ไมส่ ำมำรถควบคุมได้ ซ่ึงนับเป็นโรคที่ร้ำยแรงและตอ้ งได้รบั กำรรักษำอย่ำงเหมำะสม ท้งั น้ี ปัจจุบนั มงี ำนวิจยั ในห้องปฏิบัติกำรท่ีพบว่ำ สำรตำ้ นอนุมูลอิสระหลำยชนิดที่อยู่ในชำอันเป็ นส่วนผสมหลกั ของ Kombucha อำจมีส่วนช่วยป้องกันกำรเกิดเซลล์มะเร็ง รวมถึงยบั ย้งั กำรแพร่กระจำยของเซลล์มะเร็งได้ อย่ำงไรก็ตำม งำนวิจยั ถึงประสิทธิภำพของ Kombucha ในกำรตำ้ นมะเร็งน้ันเป็นเพียงกำรทดลองทำงหอ้ งปฏิบตั กิ ำรเท่ำน้ัน จงึ จำเป็นตอ้ งรองำนวจิ ยั ทศ่ี กึ ษำกบั คนจนไดผ้ ลลพั ธ์ที่ชดั เจนในอนำคต 2.6 ความเป็ นพษิ ต่อร่างกายของคอมบชู า ไดม้ ีรำยงำนควำมเป็นพิษของคอมบูชำต่อร่ำงกำย ภำยหลงั กำรบริโภคในบำงบุคคลอำจพบอำกำร คลื่นไส้ อำเจียน วิงเวียนศีรษะ ในปี ค.ศ.1998 ศูนยป์ ้องกนั และควบคุมโรค ห้ำมหญิงมีครรภแ์ ละให้นมบุตร บริโภคคอมบูชำ กำรตรวจพบสำรตะกัว่ เน่ืองจำกกำรใช้ภำชนะเซรำมิกในกำรผลิตและมีควำมเป็นพิษต่อ ระบบทำงเดินอำหำร ต่อมำมีกำรพบโรคแอนแทรกซจ์ ำกแบคทีเรียบำซิลสั ในเคร่ืองดื่มคอมบชู ำ สำเหตกุ ำร เกิดโรคมำจำกกำรหมกั ท่ีมีสภำพที่ไม่ถูกสุขลกั ษณะ และยงั มีรำยงำนควำมเสี่ยงในกำรบริโภคของคนท่ีเป็น โรคภูมิคมุ้ กนั บกพร่อง(HIV) แต่ยงั ไม่มีรำยงำนที่แน่ชดั (Jayabalan et al., as cited in sadjadi, 1998 Gamundi and Valdivia, 1995 Srinivasan et al., 1997 Phan et al., 1998 Sabouraud et al.,2009) 2.7 หนังสัตว์ แบง่ ออกเป็น 2 ประเภทใหญๆ่ คือ 1. หนังแท้ หมำยถงึ หนงั ที่ได้จำกสัตว์ต่ำงๆ เช่น หนงั ววั หนงั จระเข้ หนงั หมู หนังปลำกระเบน หรือ จำกสัตวป์ ่ ำอนื่ ๆ อีกมำกมำย กำรนำหนงั มำใชป้ ระโยชน์ แบ่งออกเป็น 2 พวก ไดแ้ ก่ 1.1 หนงั ดิบ ไดจ้ ำกหนงั สัตวท์ ่ตี ำยแลว้ สำมำรถนำมำใชป้ ระโยชนไ์ ดโ้ ดยตรง เช่น ทำหนงั กลอง หนงั ตะลงุ เป็นตน้ 1.2 หนงั ฟอก เป็นหนงั ดิบทผ่ี ่ำนกำรฟอกแบบต่ำงๆ เพื่อไม่ให้หนงั เน่ำเปื่ อย มลี กั ษณะอ่อนนุ่ม เรียบ สม่ำเสมอ สีสันสวยงำม มคี วำมหนำตำมตอ้ งกำร ซ่ึงกรรมวิธีกำรฟอกหนัง ก็จะแตกต่ำงกนั ตำมชนิดของสตั ว์ แต่ละชนิด – หนงั สัตวท์ ี่มลี วดลำยสวยงำม เช่น หนงั จระเข้ งู เสือ มำ้ ลำย – หนงั สัตวท์ ี่มขี นสวยงำม เช่น หมี สุนขั จงิ้ จอก – หนงั สัตวท์ ว่ั ๆ ไป เช่น หนงั ววั จะมสี ีผิวไม่สวยงำม ตอ้ งนำมำตกแต่งและยอ้ มสี

10 หนงั แท้จะมลี กั ษณะพ้ืนฐำนที่สงั เกตไดง้ ่ำย เช่น มีกล่ินหนัง ผิวมีรูขุมขน ด้ำนหลงั เป็นขนสักหลำด ซึมซับน้ำ หำกอำกำศเยน็ เมื่อสัมผสั จะรูส้ ึกอุ่น ขณะท่ีอำกำศรอ้ น เม่ือสัมผสั จะรู้สึกเยน็ ดแู ลทำควำมสะอำด คอ่ นขำ้ งยำก ลำยบนผิวเป็นธรรมชำติ ไมม่ รี อยตอ่ ลำย (Emboss repeat) กำรพฒั นำด้ำนต่ำงๆ ในอตุ สำหกรรม กำรฟอกหนงั และกำรตกแตง่ (Finishing) เป็นปัจจยั ทีท่ ำให้ลกั ษณะพ้ืนฐำนของหนงั เปลยี่ นไปจนไม่อำจจะใช้ เป็นตวั พิจำรณำเพื่อบ่งบอกควำมเป็นหนังแท้ได้อีกต่อไป ซ่ึงกำรฟอกยอ้ มในปัจจุบนั มคี วำมพยำยำมที่จะลด กลิ่นหรือให้เจือจำงที่สุด ดงั น้นั หนังแท้ที่ดจี ึงมกั ไมม่ ีกล่ิน มีกำรใช้ Water Repel lance เพ่อื ป้องกนั ไม่ให้น้ำ เกำะ หนงั ท่ีมฉี นวนและถ่ำยเทอำกำศไดน้ ้นั จะเป็นเฉพำะหนงั ประเภท Full grain หรือ Corrected grain ท่ผี ่ำน กำร Top coating หรือ Finishing บำงๆ เท่ำน้นั หนงั แทส้ ่วนใหญ่มีผวิ ลำย หรือมีรอยยน่ ของผวิ (Grain Break) โดยปกติจะมีลกั ษณะเป็นธรรมชำตเิ หมือนผิวหนงั ของคน แต่หนังแทบ้ ำงชนิดทีเ่ น้ือแน่นหรือแขง็ ที่เป็นหนงั คุณภำพดกี จ็ ะไมม่ ีรอยยน่ ของ ผิวเหมอื นหนงั ปกตทิ ว่ั ไป หนงั แท้จะมีขนำด (Shape/Size) แต่ละชิน้ ไมแ่ น่นอน เพรำะเป็นของธรรมชำติ และหนงั แทจ้ ะไมต่ ิดไฟหรือถำ้ ตดิ ก็จะดบั ไดเ้ อง เรำสำมำรถแบ่งประเภทของหนงั แทอ้ อกเป็น 4 ประเภท ไดด้ งั น้ี 1.1 Full grain เป็นหนงั ช้ันแรกที่มีลวดลำยของหนงั สัตวธ์ รรมชำติอยู่ หลงั จำกผ่ำนกระบวนกำรฟอกหนังแล้วจะ นำมำทำกำรตกแตง่ โดยกำรพ่นเงำเนน้ ลวดลำยของตวั หนงั ข้ึนมำเอง หนังประเภทน้ีเหมำะสำหรับนำไปผลิต เป็นหนงั หนำ้ ของผลติ ภณั ฑเ์ คร่ืองหนงั ตำ่ งๆ 1.2 Split เป็นหนงั ที่อยชู่ ้นั กลำง ซ่ึงโครงสร้ำงของเน้ือหนงั ยงั คงมีโครงสร้ำงท่ีดี จึงนำไปผลิตเป็นหนงั Nubuck หรือ Suede และยงั สำมำรถนำไปโค๊ตพียเู พ่ือสร้ำงลวดลำยเทียมได้ หนงั ประเภทน้ีเหมำะสำหรบั นำไปใชเ้ ป็น หนงั หนำ้ ในกำรผลติ เคร่ืองหนงั 1.3 Lining เป็นหนงั ช้นั สุดทำ้ ย ซ่ึงมีโครงสรำ้ งไม่เหมำะสำหรับนำไปทำหนังหนำ้ ส่วนใหญ่จะถูกนำไปทำซับ ในในผลติ ภณั ฑเ์ คร่ืองหนงั 1.4 Bonded leather เป็นเศษหนังที่ถูกกกั ไวใ้ นข้นั ตอนกำรตดั หนัง Full grain, Split และ Lining นำไปผสมกับกำวและ นำมำทำเป็นมว้ นหรือแผ่น หลงั จำกน้นั กผ็ ่ำนกำรโค๊ตดว้ ยพียู หนงั ประเภทน้ีสำมำรถนำไปใชไ้ ดท้ ุกส่วนของ ผลิตภณั ฑเ์ คร่ืองหนงั 2. หนงั เทียม หมำยถงึ สำรสงั เครำะหท์ น่ี ำมำทำใหม้ ลี กั ษณะคลำ้ ยหนงั แท้ ซ่ึงแบง่ ออกเป็น 2 ชนิดคือ

2.1 หนังเทียมประเภทเลียนแบบหนังแท้ หมำยถึง หนังเทียมท่ีผลิตข้ึนมำเพื่อใช้ในลกั ษณะงำน เช่นเดียวกันกบั หนังแท้ ซ่ึงส่วนมำกจะพบในผลิตภณั ฑต์ ่ำงๆ เช่น กระเป๋ ำ เข็มขดั ฯลฯ ถำ้ เป็ นหนังแท้จะมี รำคำแพงมำก จงึ จำเป็นตอ้ งทำดว้ ยหนงั เทยี มเพือ่ ใหไ้ ดร้ ำคำทถี่ กู กว่ำ 11 2.2 หนงั เทยี มประเภททดแทนหนงั แท้ หมำยถึงหนงั เทียมทีผ่ ลติ ข้ึนมำเพอื่ ใชก้ บั งำน ซ่ึงถำ้ ใชห้ นงั แท้ จะตอ้ งสิ้นเปลอื งมำก หรือปริมำณของหนงั แทไ้ ม่เพียงพอกบั ควำมตอ้ งกำรของทอ้ งตลำด (เกรทเทสท,์ 2002) 2.8 แนวโน้มของอตุ สาหกรรมหนงั สัตว์ ภำวะอตุ สำหกรรมเคร่ืองหนงั อตุ สำหกรรมเคร่ืองหนงั เป็นอตุ สำหกรรมกำรเกษตรประเภทหน่ึง ท่ีมีควำมสำคญั ต่อระบบเศรษฐกิจ ของประเทศ โดยเป็นอุตสำหกรรมทีส่ รำ้ งมลู ค่ำเพม่ิ ให้กบั หนงั สัตวใ์ มว่ ่ำจะเป็นอุตสำหกรรมทผ่ี ลติ เพ่ือขำยใน ประเทศ หรือเพ่ือส่งออก สำมำรถนำเงนิ ตรำตำ่ งประเทศเขำ้ มำปี ละเกอื บ 80,000 ลำ้ นบำท รวมท้งั ก่อให้เกิดอตุ สำหกรรมตอ่ เนื่องที่ชว่ ยสรำ้ งงำนให้แก่แรงงำนฝีมอื จำนวนไม่นอ้ ยกว่ำ 500,000 คน ซ่ึงอยใู่ นภำคอตุ สำหกรรมน้ี แต่ในสถำนกำรณ์ปัจจุบนั กำรส่งออกหนังและเคร่ืองหนงั ของไทย ตอ้ งเผชิญกำรแข่งขนั ทรี่ ุนแรงใน ตลำดโลก โดยเฉพำะประเทศคู่แข่งที่สำคญั คือ จีน รวมท้งั ควำมจำเป็นที่ต้องพ่ึงพำวตั ถุดิบจำกต่ำงประเทศ เนื่องจำกวัตถุดิบในประเทศไม่เพียงพอ คุณภำพไม่สม่ำเสมอ และต่ำกว่ำมำตรฐำนท่ี ต่ำงประเทศ

12 บทที่ 3 วธิ กี ารศึกษาค้นคว้า ข้นั ตอนกำรดำเนินกำรในกำรจดั ทำโครงงำนซ่ึงผศู้ ึกษำไดล้ ำดบั ข้นั ตอนกำรดำเนิน 3.1 ข้นั ตอนการดาเนินการ ตอนท1่ี กำรหมกั คอมบชู ำและทำตวั เน้ือสคบู ้ี 1.กำรหมกั คอมบชู ำ 1.1 นำน้ำดื่มสะอำด 1.3 ลิตร มำตม้ จนเดอื ดใส่ถุงชำลงไปแช่ท้งิ ไวป้ ระมำณ 5-15 นำที 1.2 ตกั ถุงชำออก เติมน้ำตำล ½ ถว้ ยคนใหล้ ะลำย 1.3 ต้งั ทง้ิ ไวจ้ นเยน็ สนิท หำ้ มอนุ่ หรือรอ้ นเดด็ ขำด 1.4 เม่ือน้ำชำทต่ี ม้ เยน็ แลว้ เทสคบู ้แี ละน้ำต้งั ตน้ ลงไปให้หมด ใชท้ พั พีพลำสตกิ คนให้เขำ้ กนั 1.5 ปิ ดผำดว้ ยผำ้ ขำวบำง ต้งั ท้งิ ไวไ้ ม่ให้โดนแสงแดดโดยตรง อำกำศถำ่ ยเท ไมอ่ บั ช้ืน และห้ำมขยบั หรือเปิ ด ออกดเู ป็นเวลำ 7-30 วนั จำกน้นั ตวั สคูบ้ีจะเร่ิมข้นึ แผ่นใหม่บนหนำ้ น้ำ 1.6 หลงั จำก7-30วนั จะเห็นวุน้ เร่ิมข้นึ เป็นแผ่นใสๆ ภาพท่ี 3-1 น้าคอมบชู า ภาพท่ี 3-2 ต้มน้าชา

13 ภาพที่ 3-3 แผ่นว้นุ ท่ขี นึ้ ใหม่ ภาพที่ 3-4 แผ่นสคูบี้ ภาพที่ 3-5 ลกั ษณะเนื้อสคบู ี้ ภาพท่ี 3-6 แผ่นสคูบี้

14 ตอนที่ 2 กำรทำใหเ้ น้ือสคูบ้แี ห้งเป็นแผน่ 2.1 นำตวั วนุ้ ของสคูบ้มี ำวำงบนตะแกรง วำงตำกแดดไว1้ วนั และพลกิ อีกดำ้ นและตำกทง้ิ ไวอ้ ีก1วนั 2.2 นำตวั แผ่นทไี่ ดจ้ ำกกำรตำกมำเอำในเตำอบอกี 15นำที ภาพที่ 3-7 นาเเผ่นสคบู เี้ ข้าเตาอบ 15 นาที ภาพท่ี 3-8 แผ่นสคบู แี้ ห้ง

15 ตอนท่ี 3 กำรทำกระเป๋ ำสตำงคจ์ ำกหนงั เทียม 3.1 นำแผ่นสคบู ้ที ไี่ ดม้ ำวำงทบั แนบและวำดตำม template 3.2 ตดั ตวั หนงั สัตวเ์ ทยี มใหข้ นำดใกลเ้ คียงกบั templateท่ีทำไว้ 3.3 พบั ตำมรอยต่อและเกบ็ ส่วนทเ่ี กนิ ออกมำ เยบ็ ติดใหป้ ระสำนกัน ภาพท่ี 3-9 กระเป๋ าสตางค์จากหนงั เทยี ม ภาพที่ 3-10 ลวดลายบนกระเป๋ าสตางค์ 16

3.2 วัสดแุ ละอุปกรณ์ท่ใี ช้ในการจดั ทาโครงงาน ส่วนผสมของน้ำคอมบชู ำ 1.หวั เช้ือของ SCOBY 2.ชำคอมบชู ำหมกั สำหรบั นำมำเป็นตวั เร่ิมหมกั 200 มิลลลิ ิตร 3.น้ำตำลทรำยขำว 200 กรมั 4. น้ำบริสุทธ์ิทไี่ ม่ปนเป้ื อนคลอไรด์ 2 ลติ ร 5. ชำ 2 ถุง 6.สีสำหรบั ยอ้ มน้ำคอมบชู ำ (อำจใชผ้ ลไม)้ 7.โหลท่ีให้ในกำรหมกั

17 บทท่ี 4 ผลการดาเนินงาน จำกกำรดำเนินกำรหมกั คอมบูชำ ทำตวั เน้ือสคูบ้ี และกำรออกแบบกระเป๋ ำสตำงค์ มีผลกำรดำเนินกำร ดงั น้ี ตอนที่ 1 กำรหมกั คอมบชู ำและทำตวั เน้ือสคูบ้ี ตำรำงท่ี 4.1 แสดงคณุ สมบตั ขิ องเน้ือสคบู ้ที ี่ไดจ้ ำกกำรหมกั คณุ สมบตั ิ ผลทไ่ี ด้ สี สีขำวขนุ่ ควำมแข็ง-นุ่ม มีควำมนุ่ม คลำ้ ยวนุ้ ควำมเหนียว มีควำมเหนียว ยำกต่อกำรฉีกขำด กำรข้ึนรูป สำมำรถข้ึนรูปเป็นลกั ษณะแผ่นกลมๆ ตอนท่ี2 กำรทำให้เน้ือสคูบ้ีแห้งเป็นแผน่ ตำรำงท่ี 4.2 แสดงคุณสมบตั ขิ องหนงั เทยี ม(เน้ือสคบู ้แี หง้ ที่ไดจ้ ำกกำรหมกั คอมบชู ำ) คณุ สมบตั ิ ผลท่ีได(้ เมอ่ื เทียบกบั หนงั แท)้ ควำมคงทน มคี วำมคงทนตอ่ กำรฉีกขำดไดน้ อ้ ยกว่ำ ควำมสำมำรถในกำรป้องกนั น้ำ สำมำรถป้องกนั น้ำไดน้ ้อยกวำ่ หนงั แท้ ควำมช้ืน สำมำรถป้องกันควำมช้ืนไดน้ อ้ ยกวำ่ หนงั แท้ กลน่ิ สำบ มกี ลน่ิ ของคอมบูชำเล็กนอ้ ย ลวดลำย มคี วำมเป็นธรรมชำติ ของลวดลำย อยำ่ งเหน็ ไดช้ ดั มี ควำมดิบ และมเี อกลกั ษณ์เฉพำะตวั ผวิ สัมผสั ผิวสมั ผสั บนเคร่ืองหนงั สมั ผสั ไดช้ ดั เจน กำรใชง้ ำน มคี วำมแตกต่ำงจำกหนงั เทยี มชนิดอ่ืนอยำ่ งชดั เจน ลวดลำย (หลงั จำกผ่ำนกำรใชง้ ำน) ลวดลำยคงสภำพเดิม

18 ตอนที่ 3 กำรทำกระเป๋ ำสตำงคจ์ ำกหนงั เทียม กระเป๋ ำสตำงคจ์ ำกหนงั เทียมท่ไี ด้ สำมำรถใชง้ ำนไดต้ ำมปกติ เชน่ เดยี วกบั กระเป๋ ำสตำงคห์ นงั แท้ โดย มคี ณุ สมบตั ทิ ี่แตกต่ำงกบั หนงั แทเ้ พียงเลก็ นอ้ ย จงึ สำมำรถนำมำใชแ้ ทนกระเป๋ ำสตำงคห์ นงั แทไ้ ด้

19 บทที่ 5 สรุปผลและข้อเสนอแนะ 5.1 สรุปผลการทดลอง สคบู ้ที ีไ่ ดน้ ้นั น้ันมีควำมเหนียว ยำกต่อกำรฉีกขำด กระเป๋ ำสตำงคจ์ ำกหนงั เทยี มทไี่ ด้ สำมำรถใชง้ ำน ไดต้ ำมปกติ มีควำมเป็นธรรมชำตขิ องลวดลำยอย่ำงเหน็ ไดช้ ดั มีควำมดบิ และมเี อกลกั ษณ์เฉพำะตวั เชน่ เดยี วกบั กระเป๋ ำสตำงคห์ นงั แท้ โดยมีคณุ สมบตั ิทีแ่ ตกตำ่ งกบั หนงั แทเ้ พยี งเลก็ น้อย จงึ สำมำรถนำมำใช้ แทนกระเป๋ ำสตำงคห์ นงั แทไ้ ด้ 5.2 ปัญหาและอุปสรรคในการทดลอง - สคูบ้มี ีควำมคงทนต่อกำรฉีกขำดไดน้ อ้ ยกวำ่ หนงั แท้ - สำมำรถป้องกันน้ำไดน้ อ้ ยกว่ำหนงั แท้ - มีกล่นิ ของคอมบชู ำ - ตอ้ งใชเ้ วลำนำนในกำรดำเนินกำรหมกั 5.3 ข้อเสนอแนะและแนวทางในการพัฒนา สำมำรถนำไปต่อยอดไดค้ ือนำสคบู ้ีของคอมบชู ำน้ีไปบรู ณำกำรทำเป็นเคร่ืองหนงั ชนิดอ่ืนๆ ยกตวั อย่ำงได้ เช่น - กระเป๋ ำหนงั แฟชน่ั - เส้ือหนงั - รองเทำ้ หนงั - เขม็ ขดั - โซฟำ

ฉ บรรณานกุ รม นฤพล บารุงเรือน. (2558). ความมชี ีวิตในผลติ ภัณฑ์เคร่ืองหนัง. สืบค้นเมื่อ 3 สิงหาคม 2563 จาก http://www.sure.su.ac.th/xmlui/bitstream /handle/123456789/4747/p22558004pdf? sequence=1&isAllowed=y ประกายทพิ ย์ ทองเหลอื . (2561). การพัฒนาวัสดหุ นงั เทียมทแี่ ปรรูปจากผักตบชวา เพอ่ื การออกแบบกระเป๋ าหนังไร้รอยต่อ. สืบค้นเม่ือ 3 สิงหาคม 2563, จาก http://ithesis-ir.su.ac.th/dspace/bitstream/123456789/1867/1/57155311.pdf ภิเษก โพพศิ และคณะ. (2555). การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมฟอกหนัง. คณะเศรษฐศาสตร์. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สนธริ ักษ์ เจริญรักษ์. (2559). การผลิตเคร่ืองดื่มชาหมักคอมบชู าโดยเชื้อบริสุทธ์. วิทยาศาสตร บัณฑติ . มหาวิทยาลยั เชียงใหม่ chatpon. (2019). ความรู้เก่ียวกับหนงั แท้และหนังเทียม. สืบค้นเม่ือ 5 สิงหาคม 2563, จาก https://greatesthigh.co.th Jayabalan et al., as cited in sadjadi. (1998). Threats from Kombucha. Retrieved 24 October 2020, from https://vitals.lifehacker.com/the-health-risks-of-brewing- kombucha-and-how-to-do-it The thought Emporium. (2017). How to Grow Leather-Like Material Using Bacteria. Retrieved 29 October 2020, from https://www.youtube.com/watch?v=Ds8ZFzOwGeI


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook