ด้านที่ องค์ประกอบที่ ๑ ดา้ นการปฏบิ ัตติ น ด้านท่ี ๓ จรรยาบรรณวชิ าชพี ๓.๑๐ การใชค้ วามรู้ ความสามารถ ทมี่ อี ยใู่ หเ้ กดิ การเปลยี่ นแปลง ในทางพัฒนาใหก้ บั ผเู้ รยี น โรงเรียน หรือชุมชน ในด้านใดดา้ นหนงึ่ (ดา้ นการอนรุ กั ษศ์ ลิ ปวฒั นธรรม ภูมิปัญญา และสงิ่ แวดลอ้ ม) ข้าพเจา้ ตั้งใจปฏิบัตหิ น้าทใี่ นการทายทอดความรูท้ ักษะท่ีตนเองมี ให้กับนักเรยี นโดยไมไ่ ดป้ ิดบงั พยายามศึกษาคน้ คว้าหาความรู้ เพิ่มเตมิ เพ่ือพัฒนาตนเอง ติดตามข่าวสารและเข้าอบรมเทคนคิ ใหม่ๆ นามาชว่ ยพัฒนาการเรียนการสอน ทม่ี ีความรู้ ทักษะและทนั ต่อ เหตกุ ารณ์ สามารถนาความร้ไู ปพัฒนาชมุ ชนและท้องถ่ิน
ดา้ นที่ องคป์ ระกอบท่ี ๑ ดา้ นการปฏบิ ัติตน ดา้ นที่ ๓ จรรยาบรรณวชิ าชพี ๓.๑๑ การยดึ มนั่ ในการปกครองระบบประชาธปิ ไตย อันมพี ระมหากษตั รยิ ท์ รงเป็นประมขุ ขา้ พเจ้ามีความจงรกั ภักดตี อ่ สถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษตั รยิ ์ ยดึ ม่นั ในการปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยมพี ระมหากษตั ริย์ทรงเป็น ประมขุ ประพฤติตนให้เป็นสมาชิกทด่ี ขี องสังคมและมีจิตสาธารณะมคี วาม รับผิดชอบต่อสงั คม โดยช่วยเหลอื เพ่ือนรว่ มงานโดยไม่หวังผลประโยชน์ และสง่ิ ตอบแทนใด ๆ ทง้ั ส้ิน
ด้านที่ องคป์ ระกอบที่ ๑ ด้านการปฏบิ ัตติ น ด้านท่ี ๓ จรรยาบรรณวชิ าชพี ๓.๑๑ การยดึ มน่ั ในการปกครองระบบประชาธปิ ไตย อนั มพี ระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมขุ กิจกรรมวนั เฉลิมพระชนมพรรษา พระวชิรเกล้าเจ้าอยูห่ ัว วนั ท่ี ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๕
ด้านที่ องคป์ ระกอบที่ ๑ ดา้ นการปฏบิ ตั ติ น ดา้ นท่ี ๔ การดารงชวี ติ ตามหลกั ปรชั ญา ของเศรษฐกจิ พอเพียง ๔.๑ มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ข้าพเจ้าตระหนักถงึ คุณคา่ ของการดาเนนิ ชวี ติ ตามหลกั เศรษฐกจิ พอเพียง และพยายามนอ้ มนาหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาใช้ ในชีวติ ประจาวนั เพื่อความผาสุกของตนเองในปัจจบุ นั และอนาคต
ด้านที่ องค์ประกอบที่ ๑ ดา้ นการปฏิบัติตน ดา้ นที่ ๔ การดารงชวี ติ ตามหลกั ปรชั ญา ของเศรษฐกจิ พอเพียง ๔.๒ มกี ารนาเอาหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ เพียง นาไปประยกุ ตใ์ ชก้ บั การจดั การเรียนรใู้ นหอ้ งเรยี น ขา้ พเจ้านาหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงมาสอดแทรกในใบงาน ของนกั เรยี น พบว่านกั เรียนมีความรู้ความเขา้ ใจในหลกั ปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพียง สามารถนาหลกั ของความพอเพียง คอื พอประมาณ มเี หตผุ ล มีภูมคิ ้มุ กนั ท่ีดีในตวั บนเง่ือนไขของความรู้ คคู่ ณุ ธรรม นักเรียนนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันได้
ดา้ นที่ องคป์ ระกอบที่ ๑ ด้านการปฏบิ ตั ติ น ดา้ นท่ี ๔ การดารงชวี ติ ตามหลกั ปรชั ญา ของเศรษฐกจิ พอเพียง ๔.๓ มกี ารนาเอาหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ เพียง นาไปประยกุ ตใ์ ชก้ บั ภารกจิ ทไี่ ดร้ บั มอบหมายอน่ื ขา้ พเจ้านาหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงมาประยกุ ตใ์ ช้ กบั ภารกิจท่ีไดร้ ับมอบหมาย ใชท้ รัพยากรทมี่ ีอย่อู ย่างจากัดใหเ้ กิด ประสทิ ธิภาพสงู สุด บรหิ ารจัดการภารกจิ ใหป้ ระสบความสาเรจ็ โดยใชท้ รัพยากรอย่างคุ้มคา่ มกี ารวางแผนในการดาเนินงานใน การปอ้ งกัน แก้ไขและพัฒนาอยา่ งย่ังยืน
ดา้ นที่ องคป์ ระกอบที่ ๑ ดา้ นการปฏิบตั ิตน ดา้ นที่ ๔ การดารงชวี ติ ตามหลกั ปรชั ญา ของเศรษฐกจิ พอเพียง ๔.๓ มกี ารนาเอาหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ เพียง นาไปประยกุ ตใ์ ชก้ บั ภารกจิ ทไี่ ดร้ บั มอบหมายอน่ื
ดา้ นที่ องค์ประกอบท่ี ๑ ด้านการปฏบิ ัติตน ด้านที่ ๔ การดารงชวี ติ ตามหลกั ปรชั ญา ของเศรษฐกจิ พอเพียง ๔.๔ มีการนาเอาหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ เพียง นาไปประยกุ ตใ์ ชก้ บั การดารงชวี ติ ของตนเอง ขา้ พเจา้ ปฏบิ ัติตนตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง โดยยึดหลัก ความพอเพียง ความพอประมาณ ความมเี หตุผลและมีภมู ิคมุ้ กนั ทดี่ ใี นชีวติ ๔.๕ เป็นแบบอยา่ งในการนาหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ไปปรบั ประยกุ ตใ์ ชก้ บั ภารกจิ ตา่ งๆหรอื ดารงชวี ติ ของตน ข้าพเจา้ ปฏบิ ัติตนเป็นแบบอย่างทด่ี ีกับลูกศิษย์ ใชช้ วี ติ บนทางสายกลาง ยึดมนั่ ในหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดาเนนิ ชวี ิต โดยใฝร่ ูใ้ ฝ่ เรยี นและใฝพ่ ัฒนาตนเองอยา่ งต่อเน่ือง ประยุกต์ใชห้ ลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงกบั งานด้านตา่ ง ๆ ที่ตนไดร้ บั มอบหมาย เพ่ือใหง้ านมีประสทิ ธภิ าพ และบรรลตุ ามวตั ถปุ ระสงคท์ ีต่ ง้ั ไว้
ดา้ นที่ องคป์ ระกอบที่ ๑ ดา้ นการปฏบิ ัติตน ดา้ นที่ ๕ จติ วญิ ญาณความเป็นครู ๕.๑ การเขา้ สอนตรงเวลา และเตม็ เวลา ข้าพเจ้าปฏิบตั ิหน้าทท่ี ไ่ี ด้รับมอบหมายอย่างเตม็ ความสามารถ เต็ม เวลา เอาใจใส่ตอ่ การปฏบิ ัติหน้าทอ่ี ยา่ งสม่าเสมอ โดยมีการวางแผนการ สอนลว่ งหน้าจัดทา และจัดหาสอ่ื จดั กิจกรรมโดยเนน้ ผูเ้ รียนเป็นสาคัญ ไมล่ ะท้งิ การสอนกลางคนั มีการปรบั ปรงุ พัฒนางานการสอนอยเู่ สมอ
ด้านที่ องคป์ ระกอบที่ ๑ ด้านการปฏบิ ัติตน ด้านที่ ๕ จติ วญิ ญาณความเป็นครู ๕.๒ การตะหนกั ในความรแู้ ละทกั ษะทถ่ี กู ตอ้ ง รวมถงึ สงิ่ ทด่ี ีดใี ห้กบั ผเู้ รยี น
ดา้ นที่ องคป์ ระกอบท่ี ๑ ดา้ นการปฏิบตั ิตน ดา้ นท่ี ๕ จติ วญิ ญาณความเป็นครู ๕.๓ การสรา้ งความเสมอภาคเป็นธรรมกบั ผเู้ รยี นทกุ คน ขา้ พเจ้าจัดการศึกษาและจดั กระบวนการเรียนรู้ ใหก้ ับผู้เรียน ทกุ คนดว้ ยความเป็นธรรม โดยลดช่องวา่ งและความแตกตา่ งระหว่าง บุคคล ของผู้เรยี นเพ่ือให้ผเู้ รียนทกุ คนสามารถเรยี นร้แู ละเข้าถงึ การศึกษาดว้ ยความเสมอภาคและเท่าเทียม
ดา้ นที่ องค์ประกอบท่ี ๑ ด้านการปฏิบัติตน ดา้ นที่ ๕ จิตวญิ ญาณความเป็นครู ๕.๔ การรูจ้ กั ให้อภยั ปราศจากอคติ ช่วยเหลอื สง่ เสรมิ สนบั สนนุ ใหผ้ เู้ รยี นประสบความสาเรจ็ ตามศกั ยภาพความสนใจหรือความตง้ั ใจ ข้าพเจ้าปฏบิ ัติหนา้ ท่ีในการช่วยเหลอื ส่งเสริมและสนับสนนุ ผ้เู รยี นใหป้ ระสบความสาเร็จตามศักยภาพของตนเอง ให้อภัยหากผเู้ รยี น ทาความผิด โดยใชก้ ารวา่ กล่าวตักเตอื น เสรมิ แรงและลงโทษอย่าง เหมาะสม โดยปราศจากอคติ
ดา้ นที่ องค์ประกอบที่ ๑ ด้านการปฏบิ ัตติ น ดา้ นที่ ๕ จติ วญิ ญาณความเป็นครู ๕.๔ การรู้จกั ใหอ้ ภยั ปราศจากอคติ ช่วยเหลือสง่ เสรมิ สนบั สนนุ ใหผ้ ู้เรยี นประสบความสาเรจ็ ตามศกั ยภาพความสนใจหรอื ความตงั้ ใจ การเสรมิ แรงทางบวกโดยการให้รางวลั สาหรบั นักเรียนท่ีมผี ลสอบ สูงสุดเพ่ือเป็นขวญั กาลงั ใจในการเรียนตอ่ ไป และเป็นตัวอยา่ งใหเ้ พื่อน ๆ
ดา้ นที่ องค์ประกอบท่ี ๑ ดา้ นการปฏบิ ัติตน ดา้ นท่ี ๕ จติ วญิ ญาณความเป็นครู ๕.๔ การรจู้ กั ใหอ้ ภยั ปราศจากอคติ ชว่ ยเหลอื สง่ เสรมิ สนบั สนนุ ใหผ้ เู้ รยี นประสบความสาเรจ็ ตามศกั ยภาพความสนใจหรอื ความตง้ั ใจ การเสริมแรงทางบวกโดยการชว่ ยเหลอื นกั เรยี นทีท่ างาน บางอยา่ งไม่ได้ และชี้แนะทางท่ีถกู ตอ้ งให้นกั เรียน
ดา้ นที่ องค์ประกอบท่ี ๑ ดา้ นการปฏบิ ัตติ น ด้านที่ ๕ จติ วญิ ญาณความเป็นครู ๕.๕ การเป็นทพี่ ึ่งใหก้ บั ผเู้ รยี นไดต้ ลอดเวลา ขา้ พเจา้ เสียสละเวลาตนเองมีความมงุ่ มานะคอยช่วยเหลอื เป็นทปี่ รกึ ษา เกี่ยวกบั ปัญหาของนกั เรยี นในด้านตา่ งๆ เป็นกาลงั ใจและใหค้ าแนะนาเสมอมา ๕.๖ การจดั กจิ กรรมการสง่ เสรมิ การใฝร่ ู้คน้ หาสรา้ งสรรค์ ถ่ายทอดปลกู ฝังและเป็นแบบอยา่ งทด่ี ใี หแ้ กผ่ เู้ รยี น ขา้ พเจ้าไดป้ ฏบิ ตั หิ นา้ ที่ดว้ ยจิตวญิ ญาณความเป็นครู ยดึ ม่นั ในอุดมการณท์ างวชิ าชีพและปฏบิ ตั ติ น เป็นแบบอย่างท่ดี ขี องผเู้ รยี น จัดกจิ กรรมสง่ เสรมิ การใฝร่ ู้ ใฝเ่ รียน คน้ หา สรา้ งสรรคท์ ง้ั ภายในและนอก หอ้ งเรยี น เพื่อสง่ เสริมทกั ษะการคดิ วิเคราะหแ์ ละการใฝเ่ รียนรู้ตลอดชีวติ ใหก้ บั ผเู้ รยี น
ด้านที่ องคป์ ระกอบท่ี ๑ ด้านการปฏบิ ตั ิตน ดา้ นที่ ๕ จิตวญิ ญาณความเป็นครู ๕.๗ การทมุ่ เทเสยี สละให้กบั การเรียนรใู้ หก้ บั นกั เรียน ขา้ พเจ้าอทุ ิศเวลาให้กับทางราชการในการปฏบิ ัตหิ นา้ ที่ งานสอน ท้งั ในเวลาและนอกเวลาราชการ เพื่อพัฒนา ให้ผู้เรยี นมคี วามรูค้ วามสามารถ เสยี สละเวลาและทนุ ทรัพย์สว่ นตนในการจดั ทาสื่อการเรยี นรู้ เพื่อใหผ้ ้เู รียน ไดร้ ับความรู้ เต็มตามศกั ยภาพของตนเอง
ดา้ นที่ องคป์ ระกอบที่ ๑ ดา้ นการปฏิบตั ิตน ดา้ นที่ ๖ จติ สานกึ ความรบั ผดิ ชอบในวชิ าชพี ครู ๖.๑ การมเี จตคตเิ ชงิ บวกในวชิ าชพี ครู ขา้ พเจ้ามีความรัก ความศรัทธาในวิชาชีพครูโดยกระทาตน และปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างทีด่ ีต่อศษิ ย์ท้งั ทางตรงและทางอ้อม มุ่งมน่ั ในการปฏบิ ตั หิ นา้ ที่และใหบ้ รกิ ารผเู้ รียนผปู้ กครองและผรู้ ่วมวชิ าชพี ใน ฐานะผรู้ บั บรกิ ารอย่างเท่าเทยี ม ตลอดจนไม่สรา้ งความเส่ือมเสียใหก้ บั ทางราชการ พัฒนาตนเองและพัฒนาวิชาชีพ เพื่อเป็นกาลงั สาคญั ใน การพัฒนาและขับเคล่อื นประเทศตอ่ ไป
ดา้ นที่ องคป์ ระกอบท่ี ๑ ด้านการปฏบิ ตั ติ น ดา้ นท่ี ๖ จติ สานกึ ความรบั ผดิ ชอบในวชิ าชพี ครู ๖.๑ การมเี จตคตเิ ชงิ บวกในวชิ าชพี ครู
ดา้ นที่ องค์ประกอบท่ี ๑ ดา้ นการปฏิบตั ิตน ดา้ นที่ ๖ จติ สานกึ ความรบั ผดิ ชอบในวชิ าชพี ครู ๖.๒ การมงุ่ มน่ั ทมุ่ เทในการสรา้ งสรรคน์ วตั กรรมใหม่ เพื่อให้เกดิ การพัฒนาวชิ าชพี และใหส้ ังคมยอมรบั ขา้ พเจา้ พยายามศกึ ษาหาความรู้เพิ่มเตมิ อย่เู สมอ จากแหล่ง เรยี นรตู้ ่างๆ เช่น หนงั สือ สอ่ื สงิ่ พิมพ์ โทรทัศน์ อินเทอร์เน็ต เป็นตน้ เพ่ือนาความร้มู าผลิตส่ือการสอนและนามาพัฒนาวชิ าชีพตอ่ ไป
ด้านที่ องค์ประกอบท่ี ๑ ดา้ นการปฏิบัตติ น ดา้ นที่ ๖ จิตสานกึ ความรบั ผดิ ชอบในวชิ าชีพครู ๖.๓ การประพฤตปิ ฏบิ ตั ใิ นการรกั ษาภาพรกั ในวชิ าชพี ขา้ พเจ้าประพฤติ ปฏบิ ัตติ นให้เป็นสมาชกิ ทดี่ ขี องสังคม และ องค์กรวชิ าชพี มีจิตสาธารณะ มคี วามรับผิดชอบต่อสงั คมและต่อ วชิ าชีพโดยไม่หวังผลประโยชนส์ ว่ นตัวและสงิ่ ตอบแทนอนื่ ใด ยึดหลัก คุณธรรมและจรรยาบรรณวชิ าชีพ เพ่ือยึดเหนี่ยวจิตใจในการ ปฏบิ ัตงิ านและปฏิบตั ติ น ๖.๔ การปกปอ้ งปอ้ งกนั มใี หผ้ รู้ ว่ มวชิ าชพี ประพฤตปิ ฏบิ ตั ิ ในทางทจี่ ะเกดิ ภาพลกั ษณเ์ ชงิ ลบตอ่ วชิ าชพี ขา้ พเจ้าคอยให้คาปรกึ ษาแนะนาผูร้ ว่ มวิชาชพี ใหป้ ระพฤตปิ ฏบิ ตั ิ ตนเป็นแบบอยา่ งทด่ี ีและยึดมั่นปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณวชิ าชพี อยา่ งเครง่ ครดั
ดา้ นที่ องคป์ ระกอบท่ี ๑ ด้านการปฏบิ ตั ติ น ด้านท่ี ๖ จติ สานกึ ความรบั ผดิ ชอบในวชิ าชพี ครู ๖.๕ การจดั กจิ กรรมการสง่ เสรมิ การใฝร่ ู้คน้ หาถา่ ยทอดปลกู ฝัง และเป็นแบบอยา่ งทด่ี ขี องเพื่อนรว่ มงานและสงั คม ขา้ พเจ้าปฏิบัติหนา้ ท่ีดว้ ยใจซ่ึงทาใหเ้ กดิ ความรกั ศรัทธาและ ยึดมน่ั ในอุดมการณแ์ หง่ วชิ าชีพ มงุ่ มน่ั ทมุ่ เทในการทางาน ประพฤติตน เป็นแบบอย่างท่ีดี ยอมรับฟงั ความคิดเหน็ ของเพ่ือนรว่ มงาน และปรบั ปรุงในสว่ นทีต่ นบกพร่องใหด้ มี ากกวา่ เดมิ
Search
