Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore unit4

unit4

Published by vanichb, 2018-05-22 11:32:27

Description: unit4

Search

Read the Text Version

บทที่ 4กจิ กรรมระบบคณุ ภาพและเพิ่มผลผลิต

TQMและการปรับ รางวลั คุณภาพ CRM วัฒนธรรม แห่งชาติ Six Sigma องค์การ กจิ กรรมระบบคณุ ภาพ QSME และเพิม่ ผลผลติระบบทันเวลาพอดี : ISO 9000:2000 JIT

4.1 TQM และการปรบั วัฒนธรรมองคก์ าร1. ความหมายของ TQM การบรหิ ารคณุ ภาพทว่ั ทั้งองค์การ TQM (Total Quality Management) หรอื ท่ีเรียกว่า การบรหิ ารคุณภาพที่ทกุ คนมสี ว่ น ร่วม หรอื การบริหารคณุ ภาพโดยองคร์ วม การบรหิ ารคุณภาพทั่วทงั้ องคก์ าร คือ วธิ ีหรอื แนวทางในการบรหิ าร องคก์ ารนน้ั อย่างมีส่วนร่วมและมุ่งหมายทผี่ ลกาไรในระยะยาวด้วย การสรา้ งความพงึ พอใจใหแ้ กล่ กู ค้า รวมท้ังการสรา้ งผลประโยชนแ์ ก หมู่สมาชกิ ขององค์การและแกส่ งั คมด้วย

4.1 TQM และการปรบั วฒั นธรรมองค์การ2. หลักการสาคัญของ TQM มหี ลักการ 3 ประการต่อไปน้ี 2.1 การมุ่งเน้นทล่ี กู คา้ (Customer Focus) ดว้ ยการยดึ เอาการสรา้ งความพอใจให้แก่ลูกค้าหรือการสนองตอบความต้องการของลูกคา้ ใหไ้ ด้เป็นศนู ย์กลางของจดั การองค์การ 2.2 การบรหิ ารกระบวนการ (Process Management) ด้วยการมุ่งเนน้ ที่การบรหิ ารจดั การหรอื การปรับปรุงกระบวนการ (ProcessImprovement) เพือ่ ผลิตสนิ คา้ หรอื ให้บริการทม่ี ีคุณภาพด้วยราคาท่ีเหมาะสมแกล่ กู ค้า

4.1 TQM และการปรับวัฒนธรรมองค์การ 2.3 การใหท้ ุกคนมสี ่วนร่วม (Total Involvement) ดว้ ยการม่งุ เน้นให้ผูบ้ รหิ าร พนกั งาน และผูเ้ ก่ียวข้องทง้ั หมดทุกคน มีสว่ นร่วมในการปรบั ปรุงงานหรือปรับปรุงกระบวนการ เพือ่ ให้ทุกคนเปน็ ส่วนหน่ึงของผลสาเร็จในการสรา้ งคุณภาพท่ีสามารถสรา้ งความพอใจใหแ้ กล่ ูกคา้ได้ สิง่ ท่ีจะทาใหอ้ งค์การสามารถบรรลุผลจนเป็น “องค์การTQM” จงึ ต้องเรม่ิ ต้นดว้ ยความสามารถของผูบ้ รหิ ารระดบั สงู ในการสร้างการเปลี่ยนแปลงใหเ้ กิดข้ึนดว้ ยการปรบั เปลย่ี นวฒั นธรรมองค์การ

4.1 TQM และการปรับวัฒนธรรมองค์การ3. วัฒนธรรมร่วมขององคก์ ารTQM ประกอบด้วย 3.1 จิตสานกึ แหง่ คณุ ภาพทุกหยอ่ มหญา 3.2 การเปดิ โอกาสให้ทุกคนมีสว่ นร่วม 3.3 การรับรู้ “ต้นทุนแห่งคุณภาพ” อย่างกว้างขวาง 3.4 การมองให้เป็นกระบวนการหรือมองให้เหน็ ภาพรวม 3.5 การมีจิตสานึกของ JIT 3.6 การสรา้ งผลลัพธ์ใหเ้ ป็นรปู ธรรม

4.1 TQM และการปรบั วัฒนธรรมองคก์ าร 3.7 ผบู้ รหิ ารมีความมงุ่ ม่ันจริงจงั 3.8 การมเี ปา้ หมายทีช่ ัดแจ้ง 3.9 การมุ่งเน้นในขอ้ มูลและสิง่ ที่ได้ผล 3.10 การคิดให้เปน็ และทาให้ได้ 3.11 ทรพั ยากรมีความพร้อม 3.12 การบรหิ ารเพื่อการเปล่ยี นแปลงสสู่ ่ิงทีด่ ีขนึ้ 3.13 การมีผ้รู ับผิดชอบในการทา TQM อยา่ งชดั เจน

4.1 TQM และการปรับวัฒนธรรมองคก์ าร 3.14 การคงรักษาไวซ้ ่ึงสถานภาพเดมิ 3.15 การใช้ “ระบบขอ้ เสนอแนะ” ในการทา TQM 3.16 อย่าประโคมข่าวให้ดงั จนเกินควร 3.17 การให้อานาจแก่ผปู้ ฏบิ ตั ิงาน 3.18 การประสานงานอยา่ งต่อเน่ืองระหว่างหน่วยงาน 3.19 การกาจดั ความสูญเปล่า 3.20 การมุง่ เนน้ ทกี่ ารวดั ผล

4.2 รางวัลคณุ ภาพแหง่ ชาติ (NATIONALQUALITY AWARD)1. ความหมายของรางวลั คณุ ภาพแหง่ ชาติ คอื รางวัลท่ีมอบใหแ้ ก่องค์การทกุ ประเภท ทกุ ขนาด ทัง้ ภาครัฐและเอกชน ทมี่ ีการบริหารจัดการเปน็ เลศิ เทียบเทา่ ระดบั มาตรฐานโลก รางวัลนใี้ ชว้ ธิ ีการประเมินจากหลกั เกณฑ์ 7 หัวขอ้ โดยองค์การทไี่ ด้รบั รางวัลต้องไดค้ ะแนนประเมนิ 650 คะแนนข้ึนไป จากคะแนนเตม็1000 คะแนน รางวัลนถ้ี ือไดว้ า่ เปน็ รางวลั ระดับมาตรฐานโลกเพราะใช้พน้ื ฐานดา้ นเทคนคิ และกระบวนการตัดสินเหมอื นรางวลั คุณภาพแห่งชาติของสหรัฐอเมรกิ า

4.2 รางวัลคุณภาพแหง่ ชาติ (NATIONALQUALITY AWARD)2. หลกั เกณฑ์ 7 ข้อของ TQA คะแนน 80 หวั ขอ้ 80 1. การวางแผนเชงิ กลยุทธ์ 100 2. การวเิ คราะหแ์ ละการจัดการสารสนเทศ 110 3. การมุ่งเน้นทรพั ยากรมนุษย์ 110 4. การมงุ่ เนน้ ลกู ค้าและตลาด 120 5. การจดั การกระบวนการ 400 6. ภาวะผู้นา 1000 7. ผลลัพธท์ างธรุ กจิ

4.2 รางวลั คณุ ภาพแห่งชาติ (NATIONALQUALITY AWARD)2. หลักเกณฑ์ 7 ข้อของ TQA (Thailand Quality Award forPerformance Excellence) จากตาราง รายละเอยี ดแตล่ ะหวั ขอ้ มีดังนี้ 2.1 การวางแผนเชิงกลยทุ ธ์ (Strategic Planning) หัวขอ้ นี้แบง่ เปน็ 2 ส่วน คือ การพัฒนากลยุทธ์ กบั การนากลยทุ ธ์ไปปฏิบัติจรงิ 2.2 การวเิ คราะหแ์ ละการจดั การสารสนเทศ - องคก์ ารมีการเลือก รวบรวม วิเคราะห์ จดั การ และปรับปรุงขอ้ มูลสารสนเทศและสนิ ทรพั ยท์ างความรอู้ ยา่ งไร

4.2 รางวัลคุณภาพแห่งชาติ (NATIONALQUALITY AWARD) 2.3 การมุง่ เน้นทรพั ยากรมนษุ ย์ – องคก์ ารมีการใส่ใจดแู ลพนักงานได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ 2.4 การมุง่ เนน้ ลกู คา้ และตลาด – องคก์ ารดาเนินการเพ่อื สร้างความสัมพันธ์ที่ดแี ละมน่ั คงกับลูกคา้ อย่างไร และมีการกาหนดปัจจัยสาคัญทท่ี าใหล้ กู คา้ พงึ พอใจ รกั ษาลกู คา้ และทาให้ธุรกจิ ขยายตัวอยา่ งไร 2.5 การจัดกระบวนการ – พจิ ารณาท้ังระบบและหน่วยงานทัง้ หมดขององค์การ ไมว่ า่ จะเปน็ ผลติ ภณั ฑ์ บรกิ าร และกระบวนการทางธุรกจิ ทช่ี ่วยสร้างคุณคา่ ใหล้ ูกคา้ และให้กบั องค์การรวมท้ังกระบวนการสนบั สนุนที่สาคญั อ่นืๆ

4.2 รางวัลคณุ ภาพแห่งชาติ (NATIONALQUALITY AWARD) 2.6 ภาวะผู้นา (Leadership) – เปน็ การประเมินผนู้ าระดับสูงขององคก์ ารวา่ ไดด้ าเนนิ การอยา่ งไรในเร่ืองคา่ นิยม (Value) ทิศทางขององค์การท้ังในระยะสั้นและระยะยาว การสร้างคุณคา่ ตอ่ ลกู ค้าและผมู้ ีสว่ นได้เสยี การให้อานาจตัดสินใจแก่พนักงาน การสรา้ งนวัตกรรม การสรา้ งการเรยี นรู้ในองคก์ าร รวมทัง้ ตรวจประเมินวา่ องค์การนัน้ มีความรบั ผดิ ชอบแต่สาธารณะอย่างไร

4.2 รางวัลคุณภาพแหง่ ชาติ (NATIONALQUALITY AWARD) 2.7 ผลลัพธท์ างธรุ กจิ – เป็นการสรุปผลการบริหารจดั การ ทง้ัผลการดาเนนิ การขององคก์ ารและการปรับปรุงทางธรุ กจิ ทส่ี าคญั 6ด้านด้วยกัน คอื 1) ผลลพั ธด์ ้านการม่งุ เน้นลูกค้า 2) ผลลพั ธ์ด้านผลิตภณั ฑแ์ ละบริการ 3) ผลลพั ธด์ ้านการเงินและการตลาด 4) ผลลพั ธด์ า้ นทรัพยากรบคุ คล

4.2 รางวัลคุณภาพแหง่ ชาติ (NATIONALQUALITY AWARD) 5) ผลลพั ธ์ด้านประสทิ ธิภาพขององคก์ าร 6) ผลลพั ธด์ า้ นธรรมาภิบาลและความรับผดิ ชอบตอ่สังคม การสรปุ ผลแต่ละข้อ องคก์ ารต้องแสดงข้อมูลเปรยี บเทยี บที่เหมาะสมมาดว้ ย หากองคก์ ารใดสามารถผา่ นเกณฑ์ การประเมินทั้ง 7หมวด กน็ ับเป็นองค์การทีม่ คี วามเป็นเลิศเหมาะสมกบั รางวลั ทสี่ ุด

4.3 การสร้างความพงึ พอใจ/จงรกั ภักดีตอ่องค์การ1. ความหมายของ CRM CRM คือ กลยุทธก์ ารบริหารจัดการอย่างหนงึ่ ซ่ึงถูกออกแบบมาเพอ่ื ช่วยองคก์ ารให้สามารถจดั การกระบวนการต่าง ๆ ภายใน ให้ดาเนินการไดอ้ ย่างสอดคล้องและตอบสนองต่อความต้องการของลกู ค้าเพื่อให้ลกู คา้ เกดิ ความพอใจสงู สุด นามาซ่งึ ความจงรกั ภักดีของลูกค้ารายได้ท่เี พิ่มขน้ึ และการทากาไรระยะยาว

4.3 การสร้างความพึงพอใจ/จงรกั ภักดีตอ่องค์การ2. การวางแผนเพื่อนา CRM มาใช้ในองค์การ มี 8 ขน้ั ตอน 2.1 ตั้งทมี งานท่ีประกอบด้วยบุคลากรจากทกุ หนว่ ยงานในองค์การมาเป็นผู้รับผิดชอบโครงการ CRM 2.2 ให้ทมี งานรว่ มกนั กาหนดวิสยั ทศั น์ CRM (CRM Vision)ทชี่ ดั เจน 2.3 วิเคราะห์ CRM ของคู่แข่ง 2.4 วิเคราะห์องคก์ ารของตนว่ามีความสามารถในการสง่ มอบสง่ิท่ีดที ส่ี ุดแกล่ ูกค้าได้มากน้อยแคไ่ หนและอยา่ งไร

4.3 การสร้างความพงึ พอใจ/จงรกั ภักดตี อ่องคก์ าร2. การวางแผนเพ่อื นา CRM มาใชใ้ นองค์การ มี 8 ข้นั ตอน 2.5 ร่วมกนั กาหนดกลยุทธ์ วัตถุประสงค์ และตวั ชว้ี ัดเพ่ือการติดตามประเมนิ ผลโครงการ CRM 2.6 ทบทวนและวางแผนวา่ องค์การจะต้องเปลี่ยนแปลงกระบวนการทางาตนของบุคลากรและเทคโนโลยอี ยา่ งไรบ้าง 2.7 เริม่ ดาเนนิ การตามแผนที่ได้กาหนดไว้ 2.8 ติดตามความก้าวหน้าของโครงการ CRM อย่างสมา่ เสมอโดยพจิ ารณาจากตวั ช้วี ัดท่ีกาหนดไว้เพือ่ การทบทวนความเหมาะสมของแผนกลยุทธ์CRM ทีต่ ้องมกี ารปรบั ปรงุ ตามสถานการณ์

4.3 การสรา้ งความพงึ พอใจ/จงรกั ภักดตี อ่องค์การ3. กลยทุ ธ์ CRM ที่ต้องมกี ารปรับปรุงตามสถานการณ์ CRM คอื กลยทุ ธ์การสรา้ งความพงึ พอใจแความจงรกั กักดตี ่อองคก์ ารระยะยาว ดงั น้นั องคป์ ระกอบหนึ่งทีม่ ผี ลต่อการสร้าง CRM กค็ อืประสบการณข์ องลกู คา้ ที่ไดจ้ ากการติดตอ่ ดับองค์การ ซึ่งจะเปน็ ปัจจัยท่ีช่วยกาหนดมุมมองของลกู คา้ ท่ีมีตอ่ องค์การ4. กลยุทธ์สาคัญขอ้ หนึ่งของ CRM คอื ฐานข้อมลู ลกู ค้า องคก์ ารจะพบกับความสาเร็จในการสรา้ ง CRM ได้ จาเป็นต้องบริหารขอ้ มูลลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเปน็ เร่อื งการเก็บรวบรวมขอ้ มูล วเิ คราะห์ขอ้ มลู และการส่งผ่านหรอื การกระจายขอ้ มูลไปยงั ส่วนต่าง ๆ

4.4 ซิกซ์ ซกิ มา่ (SIX SIGMA)1. กระบวนการของ ซกิ ซ์ ซกิ ม่า Six Sigma คือ กระบวนการเพอ่ื ลดความผิดพลาด(Defect) ท่เี กิดขึน้ ในกระบวนการตางๆ โดยมุงเนนใหเกดิ ความ ผดิพลาดนอยทส่ี ดุ และมคี วามสญู เสียไดไมเกนิ 3.4 หนวยในลานหนวยหรอื เรยี กอีกอยางวา ความสญู เสียโอกาสลงใหเหลอื เพยี งแค 3.4 หนวยนนั่ เอง เทคนคิ การเพิ่มผลผลิตโดยใช้ Six Sigma พบวา่ ในปัจจุบันมีองคก์ ารธุรกิจขนาดใหญน่ าไปใชก้ ันมากจนประสบความสาเร็จ เพ่มิคณุ ภาพสินคา้ ลดขอ้ บกพรอ่ งในกระบวนการทางานและเพ่ิมกาไรใหก้ บัองคก์ าร หลกั ของ Six Sigma ประกอบดว้ ยกระบวนการ 5 ขั้นตอน

4.4 ซกิ ซ์ ซิกมา่ (SIX SIGMA) 1.1 การกาหนดเปา้ หมายการดาเนนิ งาน ทง้ั ในดา้ นการผลติ และการให้บรกิ ารลกู ค้า 1.2 การวัดผลการปฏิบัตงิ าน 1.3 การวิเคราะหข์ ้อผิดพลาด 1.4 การปรับปรงุ พัฒนาโดยดูจากขอ้ บกพร่องทีเ่ กิดขึ้น 1.5 การควบคมุ ดแู ลระบบบรหิ ารจดั การ ต้องวางระบบการกากับดูแลการบริหารจดั การใหเ้ ป็นไปตามแผน โครงการ และเป้าหมายท่ีวางไว้

4.4 ซิกซ์ ซกิ มา่ (SIX SIGMA)2. ข้ันตอน/กระบวนการนา Six Sigma มาวางแผนกลยทุ ธ์ขององค์การ ตัวอย่างแผน (Road Map) การทาSix Sigma มดี งั นี้ 2.1 ขัน้ เตรยี มการ (เดือนที่ 0-6) 1) ทบทวนแผนกลยุทธข์ ององค์การ ระบุส่งิ ทีเ่ ปน็ ปัญหาเร่งดว่ นขององค์การ และนาปญั หาเหลา่ นั้นมากาหนดเป็นหวั ข้อโครงการ 2) จัดตงั้ ทมี งานเพ่อื รบั ผดิ ชอบเกีย่ วกบั กจิ กรรมทัง้ หมด 3) วางแผนการปฏบิ ตั ิ ตลอดจนทรัพยากรที่จาเปน็ 4) จดั ทาแผนการประชาสมั พันธ์เก่ียวกบั ซกิ ซ์ซกิ มา่ ใหท้ ุกระดบัในองคก์ ารรบั ทราบ

4.4 ซิกซ์ ซิกมา่ (SIX SIGMA) 5) กาหนดคุณสมบตั ิของผูท้ ่จี ะมาเป็นผรู้ บั ผดิ ชอบสูงสดุ ตอ่ผลสาเรจ็ ต่อชิน้ งานใดชน้ิ งานหน่งึ (Champion), ผ้ฝู กึ สอนหรอื ผู้ให้คาปรึกษา (Black Belt) และ Green Belt ซ่งึ เปนผูชวยของ BlackBelt ในการทาโปรเจ็ค แตจะทางานแบบไมเตม็ ตวั หรือ พารทไทม โดยจะเปนผูทอ่ี ยูในสายงานท่ีเกีย่ วของกับโปรเจค็ Six Sigma นั้นๆ พรอ้ มท้ังคดั เลอื กหาผทู้ เ่ี หมาะสม 6) กาหนดหน้าทร่ี บั ผดิ ชอบและวิธปี ระเมนิ ผลงานของผทู้ ่จี ะมาทาโครงการ Six Sigma ให้ชัดเจน 7) จัดเตรยี มระบบฐานข้อมลู สาหรบั จัดเกบ็ โครงการท่ที าสาเร็จแลว้ (Knowledge Manangement)

4.4 ซกิ ซ์ ซิกมา่ (SIX SIGMA) 2.2 ขั้นเร่มิ ปฏิบตั ิ (เดอื นที่ 6-12) 1) เร่ิมทาการอบรม Champion, Black Belt, Green Beltโดยสิง่ สาคัญจะต้องเร่มิ ทีผ่ บู้ ริหารก่อน 2) กาหนดวิธกี าร รูปแบบ ทเ่ี ป็นมาตรฐานในการรายงานความคืบหน้าของการทาโครงการ Six Sigma ซี่งควรมกี ารทบทวนโดยChampion เดอื นละ 1 คร้งั 3) เลือกทาโครงการในรอบแรกในส่วนงานทมี่ คี วามพรอ้ มก่อน 4) เนน้ การทาโครงการทีจ่ ะช่วยสร้างความพึงพอใจใหล้ กู ค้าอยา่ งไรกด็ ี ไม่ควรละเลยโครงการทจี่ ะชว่ ยลดตน้ ทนุ ใหอ้ งคก์ ารด้วย

4.4 ซกิ ซ์ ซกิ มา่ (SIX SIGMA) 5) มกี ารประชาสัมพนั ธค์ วามเคล่อื นไหวของกจิ กรรม SixSigma และผลสาเร็จของโครงการให้ทกุ ส่วนในองค์การได้รบั ทราบ 6) ทุกโปรเจค็ จะตอง ดาเนนิ การผานข้ันตอนของ Six sigma ท่ีเรียกวา DMAIC (Define , Measure , Analyze , Improve และControl) 2.3 ขั้นขยายผล (เดือนท่ี 12-24) 1) ทาโครงการ Six Sigma ในสว่ นงานอนื่ ๆ ทง้ั ทง้ั องคก์ าร 2) เร่มิ ขยายขอบเขตการทา Six Sigma ไปยงั ผสู้ ง่ มอบ(Suppliers) รายหลกั ๆ

4.4 ซิกซ์ ซิกม่า (SIX SIGMA) 3) จัดใหม้ ีการนาเสนอผลการทาโครงการตอ่ ผบู้ รหิ ารระดบั สงู เปน็รายไตรมาส 4) มีการมอบประกาศนียบตั รหรือประกาศเกยี รตคิ ุณเพอ่ื เปน็กาลังใจตอ่ Black Belt ตลอดจนทมี งานทมี่ สี ว่ นรว่ มในความสาเร็จของโครงการ Six Sigma 5) กาหนดเป้าหมายการทา Six Sigma ขององคก์ ารสาหรบั ปีตอ่ ไป 6) ทาการอบรม Black Belt รนุ่ ตอ่ ไป

4.4 ซิกซ์ ซิกม่า (SIX SIGMA) 2.4 ขั้นปรับปรงุ และคงอยอู่ ย่างยง่ั ยืน (หลงั จาก 24 เดอื น) 1) ปรบั ปรงุ วธิ กี ารกาหนดหวั ข้อโครงการและข้นั ตอนการทาโครงการใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพยงิ่ ขึน้ 2) เรมิ่ ขยายขอบเขตการทา Six Sigma ไปยังการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ (สาหรับหน่วยงานทมี่ กี ารออกแบบเอง) 3) Black Belt รนุ่ แรกหมดวาระลง หรือเล่ือนขน้ั ขึน้ มาเป็นMaster Black Belt เพ่อื ทาหน้าทีโ่ ค้ชใหก้ ับ Black Belt รุ่นต่อมา 4) องค์การสามารถทา Six Sigma ดว้ ยตวั เอง โดยไม่ต้องใช้บรกิ ารท่ปี รกึ ษาจากภายนอกต่อไป

4.4 ซกิ ซ์ ซิกม่า (SIX SIGMA) 5) เกิดวฒั นธรรม ข้นึ ในองค์การ น่ันคือ การแก้ปัญหาแบบDMAIC โดยอ้างองิ ขอ้ มูลเปน็ สาคญั การทา Six Sigma ใหป้ ระสบผลสาเร็จนน้ั คงไม่ใช่การอบรม Black Belt ข้ึนมาแล้วก็จบ ยงั มีอกี หลายอย่างที่ต้องเตรยี มการใหพ้ รอ้ มเพือ่ การทา Six Sigma ไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพซ่งึ เม่อื มกี ารเตรียมการที่พร้อมสรรพแล้ว ผลสาเรจ็ จากการทาโครงการ Six Sigma คงอยู่ไม่ไกลเกินเออื้ มแนน่ อน

4.5 QSME1. ความหมายของ QSME QSME คือ ระบบคณุ ภาพข้ันพน้ื ฐานสาหรบั วสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ่ ม (Quality System for Small and MediumEnterprises : QSME) มจี ุดประสงคเ์ พื่อพัฒนาระบบคุณภาพของวิสาหกิจขนาดกลางและยอ่ ม ให้มพี ื้นฐานระบบคณุ ภาพเบือ้ งต้น และมีความพร้อมท่ีจะพฒั นาสมู่ าตรฐานสากลต่าง ๆ เช่น ISO 9000, QS9000, TQM ต่อไป

4.5 QSME2. ขอ้ กาหนดหลักสาหรบั SMEs สถาบนั เพ่มิ ผลผลิตแห่งชาติ จดั ทาข้อกาหนดสาหรบั SMEsโดยใชแ้ นวทาง ISO 9001 ปี 2000 โดยมขี ้อกาหนดหลกั 4 ขอ้ ท่ีองค์การจะตอ้ งจัดทา ดังน้ี 1. ความรับผดิ ชอบด้านบรหิ าร 2. การบริหารทรพั ยากร 3. การบริหารกระบวนการ 4. การวัดและการปรบั ปรุง

4.5 QSME3. ประโยชน์ทไี่ ด้รบั ในการพฒั นาระบบคุณภาพตามมาตรฐานQSME 1. องคก์ ารมีระบบบริหารคณุ ภาพท่มี คี วามเหมาะสมกับองคก์ าร 2. ชว่ ยปรับปรงุ ระบบการบริหารจัดการ เพือ่ ยกระดบั คุณภาพสินคา้ และบรกิ ารใหด้ ียิ่งขน้ึ ทาใหล้ ูกคา้ ม่ันใจและมคี วามพึงพอใจมากข้นึ 3. มีระบบเอกสารท่ดี ี 4. ลดค่าใชจ้ า่ ยในการดาเนนิ การพฒั นาระบบคณุ ภาพ 5. มคี วามพรอ้ มท่จี ะขอการรับรองระบบคุณภาพข้นั พนื้ ฐานจากสถาบันรับรองมาตรฐาน ISO

4.5 QSME4. ขั้นตอนการให้คาแนะนาของสถาบนั เพมิ่ ผลผลิตแห่งชาติ 1. การสารวจระบบเบอ้ื งต้น 2. การฝกึ อบรม 3. การจัดเตรยี มเอกสารในระบบคุณภาพ 4. การตรวจสอบการทางานเทียบกบั เอกสาร 5. การประเมนิ ระบบคุณภาพท้ังระบบ 6. การปฏิบตั ิการแก้ไข

4.6 ระบบทันเวลาพอดี JIT (JUST IN TIME)1. ความหมายของระบบทันเวลาพอดี JIT คอื ระบบการผลติ ซง่ึ ตง้ั อยบู่ นพน้ื ฐานของการขจัดความสญู เปลา่ ต่าง ๆ ทัง้ หมด ปจั จยั การผลติ ต่าง ๆ จะต้องถูกนามาใช้แบบทนั เวลาพอดี คือ ปจั จัยท่ีตอ้ งการในเวลาที่ต้องการ และในปริมาณท่ีตอ้ งการเทา่ นนั้

4.6 ระบบทนั เวลาพอดี JIT (JUST IN TIME)2. หลกั พนื้ ฐานของ JIT หลกั พื้นฐานของ JIT ในการผลิตเพือ่ ใหไ้ ด้ระบบตามอุดมคติที่ปราศจากความสูญเปล่า เม่ือพบวา่ มสี ่ิงผดิ ปกติเกดิ ขึ้นพนกั งานจะต้องหยดุ การทางานทุกส่งิ ทุกอยา่ งทนั ที และทาการสอบสวนคน้ หาสาเหตุทันทีซ่งึ เป็นระบบที่เรียกว่า ระบบอตั โนมัติดว้ ยสมั ผสั มนษุ ย์ (Automationwith Human Touch) พนื้ ฐานของการผลิตท่ีดีทสี่ ดุ คอื การผลิตด้วยความสมดลุ แบบปรบั เรยี บการผลิต (Load Smoothing Production) มีองคป์ ระกอบพืน้ ฐาน 2 อย่าง คอื

4.6 ระบบทันเวลาพอดี JIT (JUST IN TIME) 2.1 การผลติ แบบทนั เวลาพอดี 2.2 ระบบอตั โนมตั ิดว้ ยสมั ผัสมนุษย์3. คุณลักษณะของ JIT 3.1 เป็นการนาเครื่องมือและเทคนิคของวิศวกรรมอตุ สาหกรรม(Industrial Engineering: IE) มาใชเ้ พ่อื ปรบั ปรงุ การผลติ โดยทาให้การผลิตราบรื่น ลดขนาดใหเ้ ลก็ ที่สดุ และต้งั ใจที่จะผลติ เฉพาะสง่ิ ที่ตอ้ งการ ในเวลาและจานวนทีต่ ้องการเท่านนั้ 3.2 ค้นหาสาเหตขุ องปญั หาท่แี ท้จริงโดยตรวจสอบจากทีเ่ กดิ เหตุจริง ๆ แล้วทาการแก้ไขและกาหนดมาตรการปอ้ งกนั มิให้เกิดซ้าขน้ึ อีก

4.6 ระบบทนั เวลาพอดี JIT (JUST IN TIME) 3.3 ลดเวลาของข้นั ตอนการทางานต่าง ๆ ลง โดยการปรบั ปรงุข้นั ตอนการทางานใหม้ ีลกั ษณะใกลเ้ คียงกับการทางานด้วยเครอ่ื งจักรอัตโนมัติ 3.4 ลดจานวนคนในแต่ขนั้ ตอนลง โดยการปรบั ปรงุ งาน จะสามารถลดจานวนคนลงโดยผลผลิตคงเดิมหรอื มากขึน้ ได้ 3.5 ใชห้ ลกั การประหยดั ในทกุ วถิ ทึ างและดดู ึงผลการประหยดั ในภาพรวมด้วย กอ่ นตดั สินใจปรบั ปรุงงาน ถ้าพนกั งานมเี วลาว่างให้ฝกึ การทางานให้ไดม้ าตรฐาน เช่น การฝกึ การเปลีย่ นแมพ่ มิ พ์ 3.6 พร้อมท่ีจะปรับเปล่ียนได้อยา่ งทนั ทที ันใด มรี ะบบท่สี ามารถปรับตัวตอ่ การเปลี่ยนแปลงไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว ทั้งภายในและภายนอกองค์การ

4.6 ระบบทันเวลาพอดี JIT (JUST IN TIME) 3.7 ทากจิ กรรมลดตน้ ทนุ อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา โดยถือวา่กจิ กรรมลดตน้ ทนุ เปน็ กจิ กรรมทต่ี ้องกระทาอยู่ตลอดเวลา 3.8 ลดสินค้าคงคลังให้เหลือน้อยทส่ี ดุ ต้ังเป้าหมายท้าทายให้เปน็ศูนย์ การนาระบบคุณภาพและการเพิ่มผลผลิตมาประยกุ ต์ใช้ในองค์การเพ่อื การพัฒนางานมีเทคนคิ มากมาย ซึ่งผบู้ ริหารสามารถเลอื กนามาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับประเภท ชนิด และขนาดขององคก์ ารได้ ประการสาคัญคือ ผบู้ ริหารองคก์ ารตอ้ งเปน็ ผู้มวี สิ ยั ทศั น์กว้างไกล เปดิ กวา้ ง ยอมรบั การเปลย่ี นแปลงตลอดเวลา มีความมุ่งม่นัจรงิ ใจ และสามารถรวมใจของบคุ ลากรในองค์การได้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook