องคป์ ระกอบการจัดการฟารม์ ประกอบด้วย 1. ทดี่ ิน 2. ทุน 3. แรงงาน 4. การจดั การการใชท้ ดี่ นิ เพื่อการผลิต ท่ดี ิน (Land) ท่ีดนิ เปน็ ปัจจัยสาคัญอยา่ งหนง่ึ ไมว่ า่ จะผลิตทางดา้ นการเกษตร หรอื อตุ สาหกรรม อยา่ งไรก็ตาม ในด้านการเกษตรนั้นทดี่ นิ ถือว่ามีความสาคัญพเิ ศษ โดยปกติแลว้ ทด่ี ินมคี ุณลกั ษณะที่แตกตา่ งกันออกไปแตล่ ะพน้ื ที่ เช่น ความอดุ มสมบูรณ์ ความลาดชนั ทีร่ าบ ท่ีลมุ่ ท่ีดอน ดงั นนั้ ดินเปน็ ปจั จัยหนง่ึ ในการกาหนดกิจกรรมตา่ ง ๆ ภายในฟาร์ม 1. ท่ดี ินเปน็ ปจั จยั สาคญั ท่ีกาหนดว่า ควรจะผลิตชนิดพชื และสัตว์อะไร 2. ท่ีดินสามารถจะกาหนดระยะเวลาการปลกู ระบบการปลกู พชื และรูปแบบการผลติ ทางการเกษตรเช่น ที่ดนิ ทรี่ าบลุ่มและมคี วามชนื้ อยู่บ้าง สามารถกาหนดระยะเวลาการปลกู ของพืชแต่ละชนดิ การปลกู พืชหมุนเวยี น การปลกู พืชแซม การปลกู พืชเหลื่อมฤดู และรปู แบบการผลิต แบบไรน่ าสวนผสมและการเกษตรแบบผสมผสาน 3. ชนดิ ของดินกม็ สี ่วนในการกาหนดกิจกรรม เชน่ ดนิ เหนยี วปนดนิ รว่ น อาจจะเหมาะสมตอ่ การทานา ดินร่วนปนทราย อาจจะเหมาะต่อการทาพืชไรบ่ างชนิด ดินเหนียวหรือดินทราย ก็ยงั สามารถปลกู พืชและทาบอ่ ปลาได้แตถ่ ้าหากดนิ ทัว่ ไปไมม่ คี วามอุดมสมบรู ณม์ ากนักอาจจะใช้ เลยี้ งสัตว์ เป็นตน้
18 4. สภาพพืน้ ทแี่ ตล่ ะแหง่ เช่น ทรี่ าบและที่ลุ่ม อาจจะเหมาะสมต่อการทานา พืชผัก ไม้ดอกไม้ประดบัไมผ้ ลและไม้ยืนตน้ บางชนดิ หากสภาพพ้ืนท่ีลุ่มมาก อาจจะทาบ่อปลา นาบวั นาผักกระเฉด เปน็ ต้น ส่วนสภาพพ้ืนที่ดอน อาจจะปลูกพืชไร่ ไมผ้ ลและไมย้ ืนต้นบางชนดิ ตลอดจนการเลีย้ งสัตว์ 5. ลกั ษณะและคุณสมบัตอิ น่ื ๆ เชน่ ความเปน็ กรดเป็นดา่ ง ปริมาณอนิ ทรยี วัตถุในดนิ ดินเปร้ยี ว ดนิเคม็ ความลึกของหน้าดิน ดินช้ันตา่ ง ๆ เปน็ ตน้ สง่ิ เหลา่ นี้มผี ลตอ่ การกาหนดกิจกรรม วิธกี ารผลิต ทัง้ ปรมิ าณและคณุ ภาพ อย่างไรกต็ ามทด่ี นิ มไิ ดม้ องเฉพาะเน้ือดิน ชนดิ ของดิน ลักษณะดนิ และสภาพต่าง ๆ ทางเคมีหรือทางกายภาพท่ีกล่าวมาแลว้ เท่านัน้ ดินยงั หมายถงึ สภาพพื้นดนิ ทีม่ ีนา้ ใตด้ นิ น้าบนดนิ ความชน้ื ของดิน ความอดุ มสมบรูณข์ องดิน ปรมิ าณอินทรียวัตถุ พืชพรรณไม้นานาชนิดทป่ี รากฏให้เหน็ บนพนื้ ทเ่ี หลา่ นัน้ สงิ่ มีชวี ิตสตั ว์บกเล็ก ๆ บนพื้นดิน ตลอดเกี่ยวพันถงึ ดินฟ้าอากาศ นา้ ฝน อุณหภมู ิ ความชื้นสมั พัทธ์ ดงั นั้น ดนิ จึงเป็นปจั จัยสาคญั ปัจจยั หน่ึงทจ่ี ะกาหนดกิจกรรมการเกษตรได้ ทง้ั นี้ ขน้ึ อยกู่ ับความสามารถของเจ้าของฟารม์ จะจัดการกับที่ดนิ ให้เกิดประโยชนส์ ูงสดุ ได้อย่างไร แตถ่ า้ มองในแงเ่ ศรษฐศาสตร์ ผลตอบแทนทด่ี นิ คอื ค่าเช่าทด่ี นิการใช้ทนุ เพ่ือการผลติ ทนุ (Capital) ทนุ ในความหมายทางเศรษฐศาสตรน์ ้ัน หมายถึงเคร่ืองจกั ร เครอื่ งมอื และอุปกรณ์ท่ชี ่วยในการผลิตและรวมถึงปัจจยั การผลิตพวกปุ๋ย สารเคมี และอาหารสตั ว์ (Capital Goods) สว่ นทุนในรูปของเงินสด(Money) กถ็ อื ว่า เป็นเงินทุนชนิดหน่ึงเชน่ กนั ซง่ึ จะต้องมีการเปล่ียนรูปจากทุนที่เป็นเงินสดมาอยใู่ นรูปของทุนเพ่อื
19ทาการผลิต ปัจจุบันทนุ มีความสาคญั มาก นอกจากนีท้ ุนยงั มคี วามสัมพนั ธก์ บั แรงงาน ถ้าการใชท้ ุนมากการใช้แรงงานกน็ ้อยลง ถา้ ใช้ทุนนอ้ ยการ ใช้แรงงานกม็ ากขึ้น โดยลักษณะงานหรือสาขาท่ีเก่ยี วข้องกับวิทยาการสมัยใหมห่ รือการเกษตรแบบธุรกิจนั้นจาเปน็ ตอ้ งอาศัยทนุ ทนุ นั้นได้มาจากไหน จานวนเท่าไร จะแบ่งใช้ทุนอย่างไรจึงจะมีประสทิ ธิภาพ สาหรบั แหล่งเงินทนุ น้ันอาจจะไดท้ รัพยส์ ินทม่ี ีอยู่ ไดจ้ ากกิจกรรมทใ่ี ห้ผลตอบแทนหลงั จากดาเนนิ งานเสรจ็ และการออมทรพั ย์ ทุนอาจจะได้จากการกู้เงนิ หรือมีเครดิตกับสถาบนัการเงนิ หรือกบั เพอ่ื นบ้าน กลา่ วไดว้ ่าการใช้ทุนให้มปี ระสทิ ธิภาพมีข้อพิจารณาสรุปได้ คือ 1. ในกรณกี ารลงทุนในระบบทางการเงนิ การธนาคาร แบง่ ทุน 2 ลักษณะ 1.1 ทนุ ดาเนินการเตรียมการหรือคา่ ลงทุน (Investment Cost) ซง่ึ ทนุ นจี้ ะดาเนนิ การ ใช้ได้หลายปแี ละยาวนานถงึ แม้วา่ บางครงั้ อาจจะมีการซอ่ มแซมหรือต่อเติม ความจาเป็นและระยะ เวลาท่ีใช้ เชน่ทนุ ในการปรบั สภาพพื้นทีจ่ ากพนื้ ราบเป็นแบบยกร่อง คันลอ้ ม ขั้นบนั ได ขดุ บ่อ โรงเรอื นและอาคาร ระบบคลองและระบบสง่ นา้ เคร่ืองมือ เครอื่ งจักร และอปุ กรณ์การเกษตรที่ คงทนถาวร ตลอดจนค่าซอื้ ทีด่ นิ เปน็ ตน้ 1.2 ทุนดาเนินการในการผลติ (Operation Cost) หรือเงนิ ทุนหมนุ เวยี น (Working Capital)สว่ นใหญ่เปน็ ทนุ ทางด้านการผลิตผันแปร เช่น พันธพ์ุ ืช พนั ธ์สุ ัตว์ ปุ๋ยและสารเคมี อาหาร สัตว์ น้ามนั เชอื้ เพลงิอปุ กรณ์การเกษตรช่ัวคราวที่ใชใ้ นฤดูกาลผลิตเท่าน้นั เชน่ เชอื ก ถงุ พลาสตกิ เป็นตน้ ตลอดจนคา่ จ้างแรงงาน 2. ขนาดของทุนท่ใี ช้ในแตล่ ะกจิ กรรมหรือท้งั ฟารม์ ขนาดของทุนมากก็สามารถมีโอกาสขยายกจิ กรรมไดม้ าก มีทุนนอ้ ยก็ขยายกิจกรรมไดน้ อ้ ย 2.1 ขนาดของทนุ จะสัมพันธก์ ับชนดิ ของกจิ กรรม โดยเฉพาะทุนขนาดใหญห่ รือทุนมากมกั จะเปน็ ด้านการปศุสัตว์ การประมง และไม้ผลไม้ยืนต้นเปน็ แหล่งใหญ่ นอกจากนี้อาจจะเป็นฟารม์ ลักษณะประณตี (Intensive Farming) เชน่ ไม้ดอกไม้ประดบั พชื ผักเมอื งหนาว หรือกจิ กรรมตา่ ง ๆ ทตี่ อ้ งการใช้เทคโนโลยีคอ่ นข้างสงู 2.2 ขนาดของทุนจะสมั พนั ธก์ บั ระยะเวลาการลงทุนหรือระบบสินเชื่อจากแหล่งต่าง ๆ พบว่าขนาดของทุนมากท่ีจะลงทุน สว่ นใหญ่จะเปน็ กจิ กรรมระยะยาว เช่น ไม้ผล ไม้ยนื ต้น และปศุสัตว์ ท่ีเลย้ี งมีโรงเรอื นและอาคาร หากจะเปรยี บเทยี บกับระบบสินเชื่อแลว้ มักจะเป็นการลงทนุ ท่ตี ้องคืนเงินทนุ สนิ เชอื่ เกิน3 ปี หากทุนนอ้ ยหรือขนาดทนุ เลก็ จะเปน็ ระยะเวลาส้ันในกจิ กรรมระยะสั้นภายใน 1 ปี เช่น การทานา ทาไร่พืชผกั และสัตว์บางชนิด เป็นตน้ 3. การใชท้ ุนกับระยะเวลาการลงทุนและผลตอบแทนกลับคืนจากการลงทุน เวลาเปน็ ตัวสาคัญมากในการตดั สินใจในการเลือกดาเนินกิจกรรม หากมีทุนนอ้ ยแล้วเลอื กกิจกรรมท่ใี หญ่หรือมรี ะยะเวลาการลงทนุ นานกจ็ ะทาให้สูญเสียโอกาสของการลงทุน ในบางคร้ังหากมีการกยู้ ืมจากเพ่อื นบา้ นหรอื สถาบนั การเงนิ กจ็ ะทาให้ดอกเบ้ยี สูงการชาระหน้ีลาบาก ซึ่งมีตัวอยา่ งมากมายในด้านการเกษตรอุตสาหกรรม และธุรกิจ ดงั น้ันหากเป็นฟาร์มขนาดเล็กก็ควร
20เลือกกจิ กรรมทม่ี กี ารลงทนุ น้อย และใช้ระยะเวลาสน้ั ในการให้ผลตอบแทนนอกจากนีแ้ ลว้ จานวนที่ผลตอบแทนได้รับกม็ คี วามหมาย ในการเลือกกิจกรรมเช่นกัน หากผลตอบแทนคมุ้ กบั การลงทุนไมวา่ ระยะยาวหรือสน้ั หลังจากไตร่ตรองคิดคานวณ แล้วก็สามารถจะทาการผลตไิ ด้ จากที่กลา่ วมาแล้วน้ี ระยะ เวลาจานวนผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนกุ ็มบี ทบาทสาคัญ เมอ่ื จะวัดประสิทธิภาพหรือผลตอบแทนการใช้ทุน หากทุนอยู่ในรปู เงินสด (Money) ผลตอบแทนคอื ดอกเบย้ี หากทุนอยใู่ นรูปของเคร่ืองจักร เครื่องมือ อปุ กรณก์ ารเกษตร ปจั จัยการผลิต ผลตอบแทน คอืคา่ เช่าเคร่อื งจกั ร ค่าปยุ๋ คา่ เมลด็ พันธ์ุการใชแ้ รงงานเพือ่ การผลิต แรงงาน (Labor) แรงงานเปน็ ปัจจยั สาคัญอกี อยา่ งหน่ึง ในทนี่ ี้หมายถงึ ลักษณะท้งั กายภาพและจิตใจ สุขภาพในด้านกายภาพนน้ั เก่ยี วกบั เรื่องสุขภาพและอนามัยความแขง็ แรงสมบูรณใ์ นการทางาน สว่ นดา้ นจติ ใจน้ัน รวมถงึทศั นคติ อดุ มการณ์ ความขยัน หมน่ั เพยี ร ความรูส้ ึกรับผิดชอบในการผลิต ลักษณะของแรงงานแยกเป็น 3 ประเภท คือ 1. แรงงานคน 2. แรงงานสัตว์ 3. แรงงานเคร่ืองจักรกลการเกษตร การใชแ้ รงงานแต่ละประเภทขึน้ อยู่กบั จุดมงุ่ หมาย ขน้ั ตอนการทางาน ค่าใช้จ่ายและรวมถึงเวลาอย่างไรก็ตาม แรงงานแต่ละประเภทก็อาจจะสามารถใช้รวมกันได้ ข้ึนอยู่กับกิจกรรมท่ีกลา่ วมาแลว้ สาหรับแรงงานในลักษณะฟาร์มขนาดเล็กมคี วามสาคัญมาก ต้องรจู้ กั ใช้แรงงานให้มีประสิทธภิ าพ ลกั ษณะของแรงงานคน จาแนกตามภาวะปจั จบุ นั นไ้ี ด้ คอื แรงงานในครอบครัว แรงงานจ้างและการแลกเปล่ียนแรงงาน(การลงแขก, การเอาแรง) ในแงข่ องเกษตรกรพยายามสง่ เสรมิ ให้เกษตรกรใช้แรงงานครอบครวั ใหม้ ากท่ีสุด ไม่ควรปล่อยใหแ้ รงงานวา่ งโดยเปล่าประโยชน์ การใชแ้ รงงานใหม้ ีประสิทธิภาพดังนี้ 1. การใช้แรงงานทเี่ หมาะสมกับชนดิ ของงาน เชน่ กจิ กรรมด้านพชื และสัตว์ 2. การใชแ้ รงงานหรือจดั ระบบการกระจายของแรงงานให้เหมาะสม เช่น กิจกรรมที่มหี ลายอย่างในเวลาเดยี วกันหรือเวลาท่ีใกล้เคยี งกนั หรือเวลาที่ต่อเนอ่ื งกัน ไดแ้ ก่ การปลกู พชื และเลีย้ งสัตว์ การปลูกพืชหมนุ เวียน การปลูกพชื แซม เป็นตน้ 3. การใชแ้ รงงานให้เหมาะสมกับวทิ ยาการแผนใหม่และพ้ืนบ้าน เชน่ วทิ ยาการการเตรียมดนิ การปลกู การใสป่ ุ๋ย การกาจัดศัตรูพชื และการเก็บเก่ียว ซ่งึ บางคร้งั วิทยาการสมยั ใหม่อาจจะมีความยงุ่ ยากหรือมีข้นั ตอนมาก ทาให้เกษตรกรแบ่งเวลาหรือแบ่งงานไมถ่ กู ต้อง
21 4. การใชแ้ รงงานแบ่งตามเพศและอายุ กับขนั้ ตอนของแรงงานหรอื ชนิดของงาน เช่น การเตรียมดินควรจะเปน็ เพศชายทีแ่ ข็งแรง การปลูกอาจจะเป็นทง้ั เพศชายและหญิง เชน่ เดียวกบั การเกบ็ เกย่ี ว งานหัตถกรรมพื้นบ้าน อาจจะเหมาะสมกบั เพศหญงิ ทงั้ คนแกแ่ ละหนมุ่ สาวแรงงานเดก็ อาจจะชว่ ยใหอ้ าหารปลาอาหารสัตว์ 5. การใชแ้ รงงานผสมผสานหรอื ทดแทนแรงงาน คน สัตว์ และเคร่ืองจักรกลการเกษตร อย่างไรจึงกอ่ ใหเ้ กิดประสทิ ธิภาพ ลดตน้ ทุนการผลติ และประหยดั เวลา การจดั การเร่อื งแรงงานเป็นเรือ่ งท่ีจาเป็นอย่างยงิ่ โดยเฉพาะแรงงานในครอบครวั เกษตรกร ควรจัดการใหม้ ีการกระจายการใช้แรงงานได้ตลอดปี มีกจิ กรรมการเกษตรอย่างตอ่ เนื่อง เพ่ือใหม้ ีการใช้แรงงานอยา่ งสม่าเสมอทุกเดอื น ก่อใหเ้ กิดรายได้เพมิ่ ขึ้นและลดการจา้ งแรงงานท่ไี ม่จาเป็น เพ่ือลดตน้ ทุนการผลิตสาหรับผลตอบแทนของแรงงาน ก็คอื คา่ จา้ งแรงงานนั่นเองการจดั การในการผลิตการจดั การ (Management) การจัดการในทน่ี ี้ หมายถงึ การจดั สรรหรอื การดาเนินการทรัพยากรในการผลิต (ทีด่ ิน ทนุ และแรงงาน) เพื่อทาการผลติ ใหไ้ ดต้ ามวตั ถุประสงค์และเปา้ หมายของผู้จดั การฟาร์ม ดงั นัน้ การจดั การของผจู้ ัดการฟารม์ ในแต่ละสภาพพ้ืนท่ี แตล่ ะฟารม์ ไมเ่ หมอื นกัน ในการตดั สินใจว่าจะเลือก ผลิตกิจกรรมอะไรและอย่างไร ในสภาพขดี จากัดด้านทรัพยากร และภายใต้ความเสี่ยงความไม่แน่นอนของการผลิตและการตลาด อย่างไรก็ตามเกณฑใ์ นการพจิ ารณาโดยท่ัวไปสรุปได้ ดังนี้ 1. จะผลิตอะไร 2. จะผลติ ท่ีไหน 3. จะผลติ เม่อื ไร 4. จะผลติ เท่าไร และอยา่ งไร 5. จะผลติ และขายกับใคร บทบาทสาคัญในการจัดการของผจู้ ัดการฟารม์ ทพี่ ิจารณาจากเกณฑท์ ไี่ ดก้ ล่าวมาแล้วเปน็ หลกั ยงัจะต้องพิจารณารายละเอียด ดงั นี้ 1. จะทาการผลิตพืชหรือสัตว์ชนิดอะไร เช่นปลูกข้าวไมผ้ ล พชื ไร่ พชื ผกั ทาปศุสตั วแ์ ละ ประมง เปน็ต้น และจะต้องพจิ ารณาตอ่ ไปวา่ จะผลิตไม้ผล ควรเป็นผลไม้ชนดิ อะไร เช่น มะมว่ ง ส้มโอ มะขามหวานทเุ รียน เงาะ ลาไย ลน้ิ จี่ เปน็ ต้น 2. จานวนและชนดิ ของปัจจยั การผลติ ท่ใี ชว้ า่ เหมาะสมกบั แรงงานในครอบครัวหรอื ไม่ หากไมเ่ พียงพอจะจ้างจานวนเทา่ ไร แรงงานจ้างได้มาจากไหน และระยะเวลาในการจา้ ง
22 3. วิธีการผลตแิ ละเทคนิควชิ าการ ตลอดจนการจัดการและบริหารฟาร์มจะดาเนินการอย่างไร จะเริ่มตน้ ณ จุดใดก่อน มีการตรวจสอบและปรับปรุงแกไ้ ขอย่างไร และประการสุดทา้ ยมีความสัมพันธ์กับกจิ กรรมต่าง ๆ ภายในฟาร์มหรือไม่ 4. ชนิดของโรงเรือนและอาคารมีความจาเปน็ หรือเหมาะสมเพียงใด เพื่อความสะดวกในการจดั การตลอดจนเครื่องไมเ้ ครื่องมือ 5. การวางแผนและงบประมาณฟารม์ การจดบันทึกและบัญชฟี าร์มจะดาเนนิ การอยา่ งไร เพอื จะให้ทราบทิศทางการทางานและผลการดาเนินงานโดยเฉพาะรายได้ รายจ่ายและกาไร ตลอดจนปญั หาและอปุ สรรคในการทางาน ซึ่งสามารถนามาเป็นข้อมูลในการปรับปรุงแก้ไขและวางแผนในปีต่อไป 6. จะซ้อื ปัจจยั การผลติ และขายผลผลติ ทีไ่ หน กับใคร และอยา่ งไร เชน่ พอ่ คา้ ท้องถิน่ พอ่ คา้ คนกลางกลุม่ เกษตรกร หรือสหกรณ์การเกษตร เปน็ ต้น นอกจากน้ี ประสิทธิภาพและความเหมาะสมในดา้ นการจดั การยังขนึ้ อยกู่ ับหลายองค์ประกอบ เช่นความรู้ความสามารถ ความชานาญความรอบรู้และประสบการณ์ การบริหารงานดา้ นแรงงาน ความเขา้ ใจสภาพการผลิตการตลาด ความคล่องตวั และการแสวงหาความรู้ใหม่ ความขยันหมั่นเพียร การดูแลเอาใจใส่ตลอดจนความสานกึ และรับผิดชอบในการทางาน เปน็ ต้น เม่ือเข้าใจพ้นื ฐานของปจั จยั สาคญั ๆ ต่อการผลิตในการจัดการ มคี วามสาคัญอย่างไร จงึ ควรทเี่ ร่ิมรวบรวมขอ้ มลู วิเคราะห์ และวางแผนงบประมาณฟาร์ม ให้ไดผ้ ลตอบแทนสูงสุด
23
24ส่งิ ทผี่ ้จู ัดการฟารม์ ควรจะร้แู ละปฏิบตั ิ ผจู้ ดั การฟาร์มมีความจาเปน็ อยา่ งยิ่งจะตอ้ งมีความรูแ้ ละรอบรูอ้ ยา่ งถกู ต้อง และทนั ตอ่ เหตุการณ์ สง่ิสาคัญสง่ิ หน่ึงซ่ึผจู้ ัดการฟาร์มจะต้องทาความเขา้ ใจ คือ สภาพแวดล้อมและระบบนิเวศนเ์ กษตรของฟาร์มให้ถอ่ งแท้ เช่น ดิน น้า ลม และไฟ ในที่นี้หมายถึง สภาพพืน้ ที่ ชนดิ ดินความอดุ มสมบรู ณ์ของดิน แสงแดดอุณหภูมิความชืน้ และส่ิงมีชีวิตท่ีเออื้ อานวยต่อการประกอบการผลิต นอกจากน้ียงั ต้องมีความร้ดู า้ นปจั จยัภายนอก เชน่ วทิ ยาการผลิตสมัยใหม่ ระบบการตลาด การซ้ือและขายปัจจัยการผลิต ระบบเศรษฐกิจและสินเชื่อ กฎเกณฑ์และกฎหมายของสังคม นโยบายของรัฐบาลและระบบเศรษฐกจิ ของภูมภิ าค กลา่ วโดยสรปุควรจะมคี วามรู้ 1. ความรู้ทางการเกษตร (วชิ าการเกษตรและสภาพพน้ื ที่) 2. ความรทู้ างดา้ นการเงินและสินเชอื่ 3. ความรู้ทางด้านการวางแผนและงบประมาณฟารม์ 4. ความรู้ทางด้านการจดบันทกึ และบัญชีฟาร์ม 5. ความรู้ทางด้านการตลาด 6. ความรทู้ างดา้ นการจัดการและบรหิ ารฟาร์ม 7. ความรู้ทางดา้ นสังคม (ในภาคเกษตรและนอกภาคเกษตร) 8. ความรู้ทางด้านกฎหมายและอ่ืนๆ ตามความจาเปน็ เห็นได้วา่ ผ้จู ดั การฟาร์ม จะต้องเป็นผู้รอบรู้และปฏิบตั ิหน้าท่ีหลาย ๆ ดา้ นในเวลาเดียวกัน ทงั้ นเี้ พราะผ้จู ัดการฟาร์ม มใิ ช่ทาหนา้ ท่กี ารผลิตเทา่ นนั้ แต่ยังทาหน้าท่แี ละบทบาทหลายด้าน
25ผ้จู ัดการฟารม์ จะทาอะไรบ้าง วางเปา้ หมายและวตั ถปุ ระสงค์ ทาความเข้าใจและวเิ คราะห์ปัญหา ดาเนินการแก้ปัญหาเมือ่ มีปัญหาเกดิ ขนึ้ ทันที คน้ หาศึกษาและใช้ขอ้ มูลขา่ วสารทถี่ ูกตอ้ งในการแกป้ ญั หา พิจารณาและวเิ คราะห์ทางเลอื ก ตดั สนิ ใจและดาเนนิ การทนั ที ยอมรบั ผลกระทบจากการตดั สินใจ ประเมินผลงานจากการตดั สินใจ เพ่ิมพูนความรู้แก่คนในครัวเรอื นและผรู้ ่วมงาน แลกเปลี่ยนความคดิ เหน็ เพอ่ื การตัดสินใจ ควบคุมสถานการณ์การเงนิ ในการดาเนนิ การผลติ กาหนดระยะเวลาในการดาเนนิ การผลิต ติดตามและตรวจสอบการดาเนนิ การผลติ
26
Search
Read the Text Version
- 1 - 10
Pages: