หนา้ ท่ีพลเมืองและศีลธรรม วลิ าวลั ย์ จนิ ะ
แผนการจัดการเรยี นรู้ ม่งุ เนน้ สมรรถนะอาชพี และบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง รหสั วิชา 2000 - 1503 ช่ือวิชา ภูมศิ าสตร์และประวัตศิ าสตร์ไทย สาขาวิชา สังคมศกึ ษา ช่ือครูผูส้ อน นางสาววลิ าวัลย์ จินะ คณุ วฒุ ิ ศษ.บ. สังคมศึกษา แผนกวิชา สามัญสมั พันธ์ (สังคมศึกษา) วทิ ยาลัยเทคนิคลพบรุ ี สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
แผนการจดั การเรยี นรู้ ม่งุ เนน้ สมรรถนะอาชีพ และบรู ณาการปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ในการเรยี นการสอนอาชวี ศึกษา หน่วยกิต(ชวั่ โมง) รหัสวชิ า 2000 -1503 ชื่อวชิ า ภูมิศาตรแ์ ละประวตั ิศาสตรไ์ ทย 2(2) ระดับชน้ั ปวช. 1,2 สาขา สาขา งานการบัญชี , งานการตลาด, งานคอมพวิ เตอร์ ทฤษฎี 2 ชัว่ โมง ช่างไฟฟา้ กาลงั , ชา่ งกลโรงงาน ปฏบิ ัติ - ชว่ั โมง ชื่อครูผู้สอน นางสาววลิ าวัลย์ จินะ ตาแหนง่ ครูพิเศษสอน แผนกวชิ าสามัญสัมพนั ธ์ กลุม่ วชิ าสงั คมศกึ ษา วิทยาลยั เทคนคิ ลพบุรี อาชวี ศึกษาจงั หวัดลพบรุ ี สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา
จดั การเรยี นร้แู บบเน้นแผนการสมรรถนะ รหสั วิชา 2000-1503 ช่ือวิชา ภูมิศาสตรแ์ ละประวตั ศิ าสตรไ์ ทย จานวน 2 หนว่ ยกิต 2 ชัว่ โมง/สัปดาห์ จดุ ประสงคร์ ายวชิ า 1. เพ่ือให้มีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับภูมิศาสตร์ประเทศไทย ระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ วิธีการศึกษา ประวัตศิ าสตรแ์ ละประวัติศาสตรช์ าติไทย 2. เพื่อให้สามารถประยุกตใ์ ชค้ วามรเู้ รอ่ื งภมู ศิ าสตรแ์ ละประวตั ิศาตรใ์ นงานอาชพี และการดารงชีวิต 3. เพื่อให้ตระหนักในความสาคัญของประวัติศาสตร์ชาติไทย เพ่ือธารงไว้ซ่ึงสถาบันชาติ ศาสนา และ พระมหากษตั รยิ ์ สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรูเ้ ก่ียวกับภูมศิ าสตร์ประเทศไทย ระบบสารสนเทศทางภมู ิศาสตร์ วิธีการศึกษาประวตั ิศาสตร์และ ประวัตศิ าสตร์ชาติไทย 2. รวบรวมสารสนเทศทางภมู ศิ าสตรแ์ ละประวัติศาสตร์ตามหลกั การและกระบวนการ 3. นาความรู้ทางภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์ไปประยุกต์ใช้ เพ่ือการดารงตนในงานอาชีพและธารงความเป็น ไทยอย่างยงั่ ยืน คาอธบิ ายรายวชิ า ศึกษาเกี่ยวกับภูมิศาสตร์เศรษฐกิจไทย ระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ วิธีการศึกษาประวัติศาสตร์ ประวตั ศิ าสตร์ชาติไทย และสถาบนั สาคัญของชาติ เพอื่ ธารงความเปน็ ไทยอยา่ งยั่งยืน ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… สาระการเรียนรู้ 1. ภมู ิศาสตรก์ ายภาพประเทศไทย 2. ภมู ิศาสตรเ์ ศรษฐกจิ ประเทศไทย 3. ระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตรแ์ ละภยั พบิ ัตทิ างธรรมชาติ 4. ประชาคมอาเซยี น 5. ภูมิหลังทางประวตั ิศาสตร์ของชาติไทย 6. ประวัติศาสตรส์ มยั สโุ ขทัย 7. ประวตั ิศาสตร์สมยั กรงุ ศรอี ยุธยา 8. ประวตั ศิ าสตรก์ รงุ ธนบุรี 9. ประวตั ศิ าสตรส์ มัยกรุงรัตนโกสินทร์ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 50 : 20 : 30 1. สอบกลางภาค 30 คะแนน 2. โครงงาน , รายงาน 10 คะแนน
3. แบบฝึกหัด , ใบงาน 10 คะแนน 4. สอบปลายภาค 30 คะแนน 5. จิตพสิ ยั 20 คะแนน การวิเคราะห์หนว่ ยการเรยี นรแู้ ละสมรรถนะรายวิชา รหสั วชิ า 2000-1503 ชื่อวชิ า ภูมศิ าสตรแ์ ละประวัตศิ าสตร์ไทย จานวน 2 หน่วยกจิ 2 ช่วั โมง/สปั ดาห์ หน่วยที่ ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ สมรรถนะรายวิชา 1 ภมู ิศาสตรก์ ายภาพประเทศไทย 1. แสด งคว าม รู้ ค ว าม เข้าใจเก่ี ยว กั บ ภูมศิ าสตรก์ ายภาพประเทศไทย 2. นาความรู้ ความเข้าใจทางภูมิศาสตร์ กายภาพประเทศไทยไปประยุกต์ใช้ เพื่อ ก ารดารงต น ใน งาน อ าชีพ และ ก าร ดารงชวี ติ 2 ภูมศิ าสตร์เศรษฐกจิ ประเทศไทย 1. แสด งคว าม รู้ ค วาม เข้าใจเก่ี ยว กั บ ภมู ศิ าสตรเ์ ศรษฐกจิ ประเทศไทย 2. นาความรู้ ความเข้าใจทางภูมิศาสตร์ เศรษฐกิจประเทศไทยไปประยุกต์ใช้ เพื่อ ก ารดารงต น ใน งาน อ าชีพ และ ก าร ดารงชีวิต 3 ระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์และภัยพิบัติทาง 1. รวบรวมระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ ธรรมชาติ และภยั พิบัติทางธรรมชาติ 2. นาความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบ สารสนเทศทางภูมิศาสตร์และภัยพิบัติ ทางธรรมชาตไิ ปประยุกตใ์ ช้ เพ่ือการดารง ตนในงานอาชีพและการดารงชีวติ 4 ประชาคมอาเซียน 1. รว บ ร ว ม ค ว าม รู้ ค ว าม เข้ าใจ เรื่อ ง ประชาคมอาเซยี น 2. นาความรู้ ความเข้าใจเร่ืองประชาคม อาเซียนไปประยุกต์ใช้ เพื่อการดารงตน ในงานอาชีพและการดารงชวี ิต 5 ภูมหิ ลงั ทางประวตั ศิ าสตร์ของชนชาตไิ ทย 1. แ ส ด ง ค ว าม รู้ ค ว าม เข้ าใจ เร่ือ ง วิ ธี การศึกษาประวัติศาสตร์ตามหลักการและ กระบวนการทางประวัตศิ าสตร์ 2. น าค วาม รู้ คว าม เข้ าใจเกี่ ยว กั บ วิ ธี การศึกษาประวัตศิ าสตร์ตามหลักการและ กระบวนการทางประวตั ศิ าสตร์ รวมถงึ -3-
6 ประวตั ิศาสตร์สมัยกรุงสุโขทยั ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย 7 ประวตั ศิ าสตร์สมยั กรุงศรีอยุธยา ไปประยุกต์ใช้ เพ่ือการดารงตนในงาน 8 ประวตั ศิ าสตรส์ มยั กรุงธนบุรี อาชีพและธารงความเป็นไทยอยา่ งยั่งยนื 9 ประวตั ศิ าสตรส์ มยั กรุงรตั นโกสนิ ทร์ 1. แสด งคว าม รู้ ค วาม เข้าใจเกี่ ยว กั บ ประวตั ศิ าสตร์ชาตไิ ทยสมัยกรุงสโุ ขทัย 2. น า ค ว า ม รู้ ค ว า ม เข้ า ใจ เกี่ ย ว กั บ ประวตั ิศาสตร์ชาตไิ ทยไปประยุกต์ใช้ เพื่อ การดารงตนในงานอาชีพและธารงความ เปน็ ไทยอย่างยงั่ ยืน 3. แสดงความตระหนักในความสาคัญของ ประวัติศาสตร์ชาติไทยสมัยกรุงสุโขทัย เพ่ือธารงไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา และ พระมหากษตั รยิ ์ 1. แสด งคว าม รู้ ค วาม เข้าใจเก่ี ยว กั บ ประวัตศิ าสตร์ชาตไิ ทยสมยั กรงุ ศรอี ยธุ ยา 2. น า ค ว า ม รู้ ค ว า ม เข้ า ใจ เกี่ ย ว กั บ ประวตั ิศาสตร์ชาติไทยไปประยุกต์ใช้ เพ่ือ การดารงตนในงานอาชีพและธารงความ เปน็ ไทยอยา่ งยัง่ ยืน 3. แสดงความตระหนักในความสาคัญของ ประวัติศาสตร์ชาติไทยสมัยกรุงศรีอยุธยา เพื่อธารงไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา และ พระมหากษตั รยิ ์ 1. แสด งคว าม รู้ ค วาม เข้าใจเก่ี ยว กั บ ประวตั ศิ าสตรช์ าตไิ ทยสมยั กรงุ ธนบรุ ี 2. น า ค ว า ม รู้ ค ว า ม เข้ า ใจ เก่ี บ ว กั บ ประวัติศาสตร์ชาติไทยสมัยกรุงธนบุรีไป ประยุกต์ใช้ เพื่อการดารงตนในงาน อาชีพและธารงความเปน็ ไทยอยา่ งยั่งยืน 3. แสดงความตระหนักในความสาคัญของ ประวัติศาสตรช์ าตไิ ทยสมัยกรุงธนบรุ ี เพ่ือ ธารงไว้ซึ่งสถบั น ชาติ ศาสน า และ พระมหากษัตรยิ ์ 1. แสด งคว าม รู้ ค วาม เข้าใจเก่ี ยว กั บ ป ร ะ วั ติ ศ าส ต ร์ ช า ติ ไท ย ส มั ย ก นุ ง
รัตนโกสนิ ทร์ 2. น า ค ว า ม รู้ ค ว า ม เข้ า ใจ เกี่ ย ว กั บ ป ร ะ วั ติ ศ า ส ต ร์ ช า ติ ไ ท ย ส มั ย ก รุ ง รัตนโกสินทร์ไปประยุกต์ใช้ เพ่ือการดารง ตนในงานอาชีพ และธารงความเป็นไทย อย่างยัง่ ยืน 3. แสดงความตระหนักในความสาคัญของ ป ร ะ วั ติ ศ า ส ต ร์ ช า ติ ไ ท ย ส มั ย ก รุ ง รัตนโกสินทร์ เพ่ือธารงไว้ซ่ึงสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตรยิ ์
ตารางวเิ คราะหห์ ล รหัสวิชา 2000-1503 ชอ่ื สชิ า ภูมศิ าสตร์และประวัตศิ หนว่ ย ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ ระดบั พฤติกรรมที่พ ที่ พุทธพิ สิ ัย 123456 1 ภมู ศิ าสตร์กายภาพประเทศไทย 2 ภมู ิศาสตร์เศรษฐกิจประเทศไทย 3 ระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์และภัยพิบัติทาง ธรรมชาติ 4 ประชาคมอาเซยี น 5 ภูมิหลงั ทางประวัติศาสตร์ของชนชาตไิ ทย 6 ประวตั ศิ าสตร์สมัยกรงุ สุโขทัย 7 ประวัตศิ าสตรส์ มยั กรงุ ศรีอยุธยา 8 ประวตั ศิ าสตร์สมยั กรุงธนบรุ ี 9 ประวตั ศิ าสตร์สมยั กรุงรัตนโกสินทร์ ทดสอบปลายภาคเรียน ความสาคัญ/สดั ส่วนคะแนน (รอ้ ยละ) หมายเหตุ ระดบั พทุ ธิพิสยั 1 = ความจา 2 = ความเข้าใจ 4 = วเิ คราะห์ 5 = สังเคราะห์
ลกั สตู รรายวชิ า ศาสตรไ์ ทย จานวน 2 หนว่ ยกิต 2 ช่ัวโมง/สัปดาห์ พึงประสงค์ การบูรณาการปรชั ญาของเศรฐกิจพอเพียง ทกั ษะ จติ พอ มเี หตุผล มี เงือ่ นไข เงื่อนไจ (เวลา) 6 พสิ ัย พิสยั ประมาณ ภมู คิ ุ้มกนั ความรู้ คณุ ธรรม ช่ัวโมง 4 4 4 4 4 4 4 2 4 2 20 20 36 3 = การนาปใช้ 6 = ประเมินคา่
ตารางวเิ คราะห์หนว่ ยการเรียนรแู้ ละเวลาท่ีใชใ้ นการจัดการเรยี นรู้ รหัสวิชา 2000-1503 ชอื่ วชิ า ภูมิศาสตร์และประวตั ิศาสตรไ์ ทย จานวน 2 หนว่ ยกิต 2 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ หนว่ ยที่ ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้หรอื รายการสอน สัปดาห์ท่ี ช่ัวโมงที่ 1 ภมู ิศาสตร์กายภาพประเทศไทย 1-2 1-4 2 ภูมศิ าสตร์เศรษฐกจิ ประเทศไทย 3-4 5-8 3 ระบบสารสนเทศทางภมู ิศาสตรแ์ ละภัยพบิ ตั ทิ างธรรมชาติ 5-6 9-12 4 ประชาคมอาเซยี น 7-8 13-16 5 ภมู หิ ลงั ทางประวตั ศิ าสตรข์ องชนชาติไทย 9-10 17-20 ทดสอบกลางภาคเรยี น 6 ประวตั ิศาสตรส์ มยั กรงุ สุโขทยั 11-12 21-24 7 ประวัติศาสตร์สมัยกรุงศรอี ยธุ ยา 13-14 25-28 8 ประวตั ศิ าสตร์สมยั กรงุ ธนบรุ ี 15 29-30 9 ประวตั ศิ าสตรส์ มัยกรงุ รัตนโกสินทร์ 16-17 31-34 ทบทวน ทดสอบปลายภาคเรยี น 18 35-36 รวม 18 36
แผนการจดั การเรียนรู้แบบเน้นสมรรถนะ หนว่ ยท่ี 1 วิชา ภูมิศาสตร์และประวตั ิศาสตร์ไทย (2000-1503) สอนครั้งที่ 1 - 4 ชอื่ หนว่ ย : ภมู ศิ าสตรก์ ายภาพประเทศไทย เวลา 4 ชั่วโมง 1. สาระสาคญั ภูมิศาสตรก์ ายภาพประเทศไทย ประกอบด้วย ท่ีต้ังตามพิกัดภูมิศาสตร์ ที่ต้ังสัมพทั ธ์ ซึ่งส่งผลตอ่ ลักษณะภูมิ ประเทศ ลักษณะภูมิอากาศ ทรพั ยากรธรรมชาติ ประชากร สัมคมและวฒั นธรรมของแต่ละภมู ิภาคใหแ้ ตกต่างกัน ใน ปจั จุบันประเทศไทยกาลังใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี 11 (พ.ศ.2555-พ.ศ.2559) โดยอัญเชิญ หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวางในการบริหารประเทศ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอ ยู่หัวทรงริเริ่ม โครงการอันเนือ่ งมาจากพระราชดานิและโครงการหลวงมากกว่า 4,000 โครงการ เพื่อพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ ของคนไทย ฉะน้ันนักเรยี นจงึ ควรศึกษาเร่ืองดงั กลา่ ว เพือ่ นาไปประยกุ ตใ์ ช้ในงานอาชีพและดารงชวี ิต 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 จุดประสงคท์ วั่ ไป เพ่อื ใหน้ กั เรียนมคี วามรู้ ทกั ษะ เจตคติทดี่ ตี ่อภูมิศาสตรก์ ายภาพประเทศไทย 2.2 จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม/บูรณาการเศรษฐกิจพอเพยี ง พทุ ธพิ สิ ยั 1) บอกขนาดและรูปรา่ งของประเทศไทยได้ 2) จาแนกภมู ิภาคทางภมู ศิ าสตร์ของประเทศไทยได้ 3) สรุปลักษณะภูมปิ ระเทศของประเทศไทยได้ 4) ระบลุ กั ษณะภมู ิอากาศของประเทศไทยได้ 5) สรปุ ชนิดของทรพั ยากรธรรมชาติของประเทศไทยได้ 6) จาแนกลกั ษณะสาคญั ของประชากรในกระเทศไทยได้ 7) บอกลักษณะทางสงั คมและวฒั นธรรมของประเทศไทยได้ 8) สรุปแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ ฉบบั ท่ี 11 ได้ ทกั ษะพิสัย 1) ชที้ ่ีต้งั ของประเทศสมาชิกประชาคมอาเซียนทั้ง 9 ประเทศท่ีเป้นประเทศเพ่ือนบา้ นของไทยบน แผนทีไ่ ด้ 2) ชอี้ าณาเขตและแนวพรมแดนของประเทศไทยได้ 3) เขียนแผนภมู หิ ลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอพยี งได้ 4) จัดทาโครงการเศรษฐกจิ พอเพียงได้ 5) ศึกษาค้นควา้ ข้อมูลเร่ืองแผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาติ ฉบับท่ี 11 ได้ 6) จดั ทาแผ่นพับแนะนาโครงการอนั เน่ืองมาจากพระราชดาริและโครงการหลวงได้ จติ พสิ ัย 1) มีเจตคติที่ดีต่อกรศกึ ษาภมู ิศาสตรก์ ายภาพของประเทศไทย 2) ตระหนักถงึ ความสาคญั ของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งช่าติ ฉบบั ที่ 11
3) มีเจตคติที่ดตี ่อหลักการเศรษฐกิจพอเพียง ทฤษฎีใหม่ โครงการอันเน่ืองมาจากพระราชดาริและ โครงการหลวง สามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตจรงิ เพอื่ พฒั นาคณุ ภาพชวี ิตตน ชมุ ชนและสงั คม 3. สมรรถนะ 3.1 แสดงความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับภูมศิ าสตรก์ ายภาพประเทศไทย 3.2 นาความรู้ ความเข้าใจทางภูมิศาสตร์กายภาพประเทศไทยไปประยุกต์ใช้ เพื่อการดารงตนในงานอาชีพ และการดารงชวี ติ 3.3 แสดง 3.4 แสดงความรู้ทางภูมิศาสตร์กายภาพประเทศไทย เพื่อการศึกษาและพัฒนาเศรษฐกจิ สังคม ส่ิงแวดล้อม ของไทย 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 ทีต่ ั้ง อาณาเขต ขนาด รูปร่าง และแนวพรมแดนของประเทศไทย 4.2 ภูมิภาคทางภูมิศาสตรข์ องประเทศไทย 4.3 ลกั ษณะภมู ิประเทศของประเทศไทย 4.4 ลกั ษณะภมู ิอากาศของประเทศไทย 4.5 ทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไทย 4.6 ประชากรของประเทศไทย 4.7 ลกั ษณะทางสงั คมและวฒั นธรรมของประเทศไทย 4.8 เศรษฐกิจพอเพียง 4.9 ทฤษฎีใหม่ 4.10 โครงการอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดารแิ ละโครงการหลวง 4.11 แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ ฉบบั ที่ 11 5. กิจกรรมการเรียนรู้ 5.1 ข้ันนาเขา้ ส่บู ทเรยี น 1) ครูนาแผนท่ีเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาแขวนบนกระดาน และให้นักเรียนแข่งขันกันชี้ที่ต้ังของ ประเทศสมาชกิ ประชาคมอาเซยี นท้ัง 9 ประเทศทีเ่ ปน็ ประเทศเพอ่ื นบา้ นของประเทศไทย 2) ครใู ห้นักเรียนทีส่ มัครใจออกมาชที้ ่ีต้งั ของประเทศไทย 3) ครูแจง้ ผลการเรียนรู้ที่คาดหวังของหน่วยท่ี 1 ใหน้ กั เรยี นทราบ 4) ครใู ห้นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยที่ 1 5.2 ข้ันสอน 1) ครูนาแผนท่ีรัฐกิจประเทศไทยมาแขวนบนกระดาน และให้นักเรียนบอกทีต่ ง้ั ตามพิกดั ภูมิศาสตรแ์ ละ ท่ีต้ังสัมพัทธข์ องประเทศไทย 2) ครูให้นักเรียนที่สมัครใจออกมาชีอ้ าณาเขตและแนวพรมแดนของประเทศไทย พร้อมทั้งบอกขนาด และรูปรา่ งของประเทศไทย 3) ครูให้นักเรียนวิเคราะห์ข้อดีแบะข้อเสียของตาแหน่งท่ีตั้งของประเทศไทยตามท่ีเป็นอยู่ในปัจจุบัน และครสู รปุ เพมิ่ เตมิ 4) ครูซักถามนกั เรยี นถงึ จานวนภูมิภาคของประเทศไทยและบอกชอ่ื แตล่ ะภมู ภิ าค
5) ครูนาแผนที่ประเทศไทยลักษณะภูมิประเทศมาแขวนบนกระดาน และให้นักเรียนแข่งขันกันช้ีที่ตั้ง ของแต่ละภูมภิ าคทง้ั 6 ภูมภิ าค พรอ้ มท้งั บอกลักษณะภูมปิ ระเทศทเี่ ดน่ ชดั ของแตล่ ะภูมิภาค 6) ครูให้นักเรียนคนหนึ่งท่ีครูมอบหมายให้ไปหาข่าวพยากรณ์อากาศประจาวันนี้ มาอ่านให้เพื่อนฟัง หนา้ ชั้นเรยี น และให้เพอื่ นสรุปขา่ วดงั กล่าวอกี ครงั้ หนึง่ 7) ครูอธิบายประกอบการใชแ้ ผนที่ประเทศไทย แสดงการเปรยี บเทียบลักษณะภูมิอากาศท้ัง 6 ภูมิภาค ของประเทศไทยใหน้ ักเรยี นฟัง 8) ครใู ห้นักเรยี นแบ่งกลมุ่ ๆ ละ 4-5 คน ศึกษาและสบื ค้นขอ้ มูลหัวข้อตอ่ ไปนี้ และรายงานหน้าช้นั เรียน 8.1) ทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไทย 8.2) ประชากรของประเทศไทย 8.3) สงั คมและวฒั นธรรมประเทศไทย 8.4) เศรษฐกิจพอเพยี ง 8.5) ทฤษฎใี หม่ 8.6) โครงการอันเน่ืองมาจากพระราชดาริและโครงการหลวง 8.7) แผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ ฉบับท่ี 11 9) ครใู ห้นักเรียนเขยี นและอธบิ ายแผนภมู ิหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงใหเ้ พอื่ นฟงั 10) ครูให้นักเรียนชมวิดีทัศน์เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง โครงการอันเน่ืองมาจากพระราชดาริและโครงการ หลวง แลว้ อภิปรายรว่ มกนั 11) ครใู ห้นักเรียนแบ่งกลุ่ม ๆ ละ 8-10 คน จัดโครงการเศรษฐกจิ พอเพียง 12) ครใู หน้ กั เรียนศึกษาคน้ ควา้ เก่ยี วกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ ฉบับท่ี 11 13) ครูให้นกั เรียนแบ่งกลุม่ ๆ ละ 2-3 คน จดั ทาแผ่นพับแนะนาโครงการอนั เนท่องมาจากพระราชดาริ โครงการหลวง กลุม่ ละ 1 โครงการ สง่ ครูตามกาหนดเวลา 14) ครูให้นักเรียนประกวดร้องเพลงเทิดพระเกียรติองค์ราชันย์ เช่น เพลงอยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ภมู แิ ผน่ ดิน รปู ที่มที ุกบา้ น ฯลฯ 5.3 ข้นั สรปุ 1) ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรปุ บทเรียน หน่วยที่ 1 2) นักเรียนสรุปบทเรยี นจากแผนผังความคิด หน่วยท่ี 1 6. สื่อการเรยี นรแู้ ละแหล่งการเรยี นรู้ 1) แผนที่เอเชียตะวันออกเฉยี งใต้ จานวน 1 ระวาง 2) แผนทรี่ ฐั กจิ ประเทศไทย จานวน 1 ระวาง 3) แผนที่ประเทศไทยลักษณะภูมิประเทศ จานวน 1 ระวาง 4) วีดที ศั นเ์ ร่ืองเศรษฐกจิ พอเพยี ง จานวน 1 มว้ น 5) วดี ที ัศนเ์ ร่อื งโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดารแิ ละโครงการหลวง จานวน 2 มว้ น 6) หนงั สอื เศรษฐกิจพเิ พยี งคอื อะไร จานวน 1 เลม่ 7) หนงั สอื ภมู ิเศรษฐศาสตร์ จานวน 1 เล่ม 8) หนังสอื แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบบั ที่ 11 จานวน 1 เลม่ 9) แผ่นซีดีเพลงอยอู่ ยา่ งจงรกั ตายอยา่ งภกั ดี เพลงภูมิแผ่นดิน เพลงรปู ที่มีทกุ บ้าน ฯลฯ
10) เว็บไซต์ ตามหนา้ 28 ของหนงั สอื เรยี น 7. การบูรณาการเชื่อมโยง 1) สาระการเรียนรู้ ภูมิศาสตรก์ ายภาพประเทศไทยกบั ประชาคมอาเซียน 2) การบูรณาการ - ภูมิศาสตร์กายภาพประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้านในประชาคมอาเซียนท้ัง 9 ประเทศว่าด้วย ลกั ษณะภูมศิ าสตร์กายภาพคล้ายคลึงหรือแตกต่างกบั ประเทศไทยอยา่ งไร - เศรษฐกิจพอเพียงของหนว่ ยที่ 1 กับเร่ืองเศรษฐกิจพอเพยี ง ของหนงั สือภูมเิ ศรษฐศาสตร์ 3) กิจกรรม แลกเปลยี่ นความคดิ เห็น - ครูกบั นักเรียนแลกเปล่ยี นความคิดเห็นในการจดั การเรยี นรู้ - นักเรียนกบั นักเรยี นแลกเปล่ียนความคิดเห็นในการจดั กจิ กรรมกลมุ่ การทางานเป็นกลุ่ม - รายงานหน้าช้ันเรยี น - จัดทาโครงการเศรษฐกิจพอเพยี ง - จดั ทาแผ่นพับแนะนาโครงการพระราชดารแิ ละโครงการหลวง 8. การบรู ณาการเช่อื มโยง 1) แบบทดสอบกอ่ นเรยี น-หลงั เรยี นและครูเฉลยหลังเรยี นจบ 2) การตอบคาถามของนักเรียนในระหว่างเรียน 3) ผลการรายงานกล่มุ 4) ผลจากการจัดทาโครงการและแผน่ พับ 5) ผลจากการตอบใบงานท่ี 1-2 6) การตอบคาถามท้ายหน่วยที่ 1 ตอนท่ี 1-3 7) ผลจากการประกวดรอ้ งเพลงเทดิ พระเกียรตอิ งคร์ าชันย์ 8) พฤตกิ รรมความตงั้ ใจ ความสนใจและความคดิ ริเรมิ่ สร้างสรรค์ 9. บนั ทกึ ผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1) ผลการจัดการเรียนร้ขู องหนว่ ยที่ 1 เป็นที่น่าพอใจ นกั เรียนมคี วามรู้ ทักษะ และเจตคตทิ ี่ดีต่อบทเรียนทา ใหบ้ รรลตุ ามผลการเรยี นร้ทู คี่ าดหวังอย่างดเี ย่ยี ม 2) นักเรียนได้ฝึกการทางานร่วมกนั และมีความสุขกบั กิจกรรมการเรียนรตู้ ่าง ๆ เปน็ อย่างดยี ่ิง และสามารถ นาไปประยุกตใื ช้ไดเ้ ป็นอย่างดี 10. ขอ้ เสนแนะเพิม่ เตมิ 1) ควรพานักเรียนไปทัศนศึกษาโครงการันเน่ืองมาจากพระราชดาริหรือโครงการหลวงในภูมิภาคท่ี สถานศึกษาต้งั อยู่ จะไดรับความรู้ ประสบการณแ์ ละภาคภูมใิ จในภูมลิ าเนาของตน 2) นักเรียนควรศึกษาคน้ คว้าและสืบค้นขอ้ มูลเกีย่ วกับภูมิศาสตร์กายภาพประเทศไทยจากแหล่งเรียนรตู้ ่าง ๆ จากเวบ็ ไซต์หนา้ 28 เพิม่ เติม
บันทึกหลังการสอน ผลการใช้แผนการสอน จดุ ประสงค์การสอน ������ มากเกินไป ������ นอ้ ยเกินไป เหมาะสม จานวนชั่วโมง ������ มากเกินไป ������ น้อยเกินไป เหมาะสม เนื้อหาสาระ/งาน สอดคล้องกับจุดประสงค์ ������ ไม่สอดคลอ้ งกบั จุดประสงค์ กิจกรรมการเรียนการสอน ������ ปฏิบัตได้ครบทกุ กิจกรรม ������ ปฏบิ ตั ดิ ไ้ ม่ครบทุกกิจกรรม กิจกรรมเหมาะสมกบั เนอื้ หา ������ กิจกรรมบางส่วนไมเ่ หมาะสม ส่อื การสอน/อปุ กรณ์การสอน เหมาะสม ������ บางส่วนไม่เหมาะสม ปัญหา/แนวทางแกไ้ ข…………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ความสนใจ/ต้งั ใจเรียน มาก ������ ปานกลาง ������ นอ้ ย การซกั ถาม/ตอบคาถาม ������ มาก ปานกลาง ������ นอ้ ย การทากจิ กรรมเสรจ็ ตามเวลา มาก ������ ปานกลาง ������ น้อย การทาแบบทดสอบก่อนเรยี นไดค้ ะแนนเฉลย่ี ������ มาก ปานกลาง ������ นอ้ ย การทาแบบทดสอบหลังเรยี นได้คะแนนเฉล่ยี มาก ������ ปานกลาง ������ นอ้ ย ปญั หา/แนวทางแก้ไข…………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ผลการสอนของครู เนอื้ หาทส่ี อน ครบ ������ ไม่ครบถว้ น เวลาที่ใช้ในการสอน ������ มากเกินไป ตามเวลาที่กาหนด ������ น้อยเกนิ ไป ปญั หา/แนวทางแกไ้ ข…………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื ………………………………………………ผสู้ อน (นางสาววลิ าวัลย์ จินะ) ครพู ิเศษสอน
แผนการจดั การเรียนรู้แบบเนน้ สมรรถนะ หนว่ ยท่ี 2 วชิ า ภมู ศิ าสตร์และประวัตศิ าสตรไ์ ทย (2000-1503) สอนครง้ั ที่ 5-8 ช่ือหน่วย : ภูมิศาสตรเ์ ศรษฐกจิ ประเทศไทย เวลา 4 ชว่ั โมง 1. สาระสาคญั กระบวนการทางเศรษฐกิจ มี 4 ประการคือ การผลิต การบริโภค การแลกเปลยี่ น และการกระจาย ประเทศ ไทยแบง่ ออกเป็น 6 ภูมิภาค ซ่งึ มีลักษณะทางกายภาพทีเ่ ปน็ อัตลักษณ์ สง่ ผลให้กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ แต่ละภมู ิภาคมี ความหลากหลาย แต่เศรษฐกิจหลักจากภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรมและพาณิชยกรรม ซ่ึงทาให้เศรษฐกิจโดย ภาพรวมของประเทศพัฒนารุดหน้าไปมาก แต่ยงั มีปัญหาเศรษฐกิจท้ังภายในประเทศและภายนอกประเทศท่ีทุกภาค สว่ นต้องชว่ ยกันแกไ้ ข เพือ่ ใหเ้ ศรษฐกจิ ไทยพฒั นาอยา่ งยงั่ ยืน 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 จุดประสงคท์ ่วั ไป เพือ่ ใหน้ ักเรยี นมีความรู้ ทักษะ เจตคตทิ ด่ี ีตอ่ ภมู ศิ าสตร์เศรษฐกิจประเทศไทย 2.2 จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม/บูรณาการเศรษฐกิจพอเพยี ง พุทธพิ ิสัย 1) อธบิ ายความหมายของภมู ิศาสตรเ์ ศรษฐกจิ ได้ 2) ระบุเศรษฐกิจของภาคเหนือได้ 3) จาแนกเศรษฐกจิ ของภาคกลางได้ 4) สรุปเศรษฐกจิ ของภาคตะวันออกเฉียงเหนอื ได้ 5) อธบิ ายเศรษฐกจิ ของภาคตะวนั ตกได้ 6) ยกตัวอยา่ งกิจกรรมทางเศรษฐกิจของภาคตะวนั ออกได้ 7) จาแนกเศรษฐกิจของภาคใตไ้ ด้ 8) ยกตัวอยา่ งปญั หาเศรษฐกจิ ของประเทศไทยได้ 9) เสนอแนวทางการแกไ้ ขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศไทยได้ ทักษะพิสยั 1) ชี้ท่ตี ัง้ ท้งั 6 ภมู ภิ าคจากแผนท่รี ฐั กจิ ประเทศไทยได้ 2) สรุปความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะทางกายภาพกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจไทยจากตารางท่ี กาหนดใหใ้ นหนา้ 62 ได้ 3) ชี้แหล่งพืชเศรษฐกจิ และอุตสาหกรรมที่กาหนดใหล้ งบนจังหวดั ทแี่ ผนทร่ี ฐั กจิ ประเทศไทยได้ 4) จดั ทาปา้ ยนเิ ทศหวั ขอ้ “เศรษฐกจิ ไทยก้าวไกล ไปสเู่ ศรษฐกจิ ประชาคมอาเซียน” ได้ 5) จดั โตว้ าทีในญัตติ “ภาค...ดกี ว่าภาค...” ได้ จติ พิสยั 1) มีเจตคคตทิ ด่ี ีต่อการศกึ ษาภูมศิ าสตร์เศรษฐกิจประเทศไทย 2) ตระหนักถึงความสัมคัญของกิจกรรมทางเศรษฐกิจแต่ละภูมิภาค ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยโดย ภาพรวม 3) รณรงค์การกนิ ของไทย ใชข้ องไทย เทีย่ วเมืองไทย เศรษฐกจิ ไทยเจริญ
3. สมรรถนะ 1) แสดงความรู้ ความเขา้ ใจเกีย่ วกับภูมิศาสตรเ์ ศรษฐกจิ ประเทศไทย 2) นาความรู้ ความเข้าใจทางภูมิศาสตรเ์ ศรษฐกิจประเทศไทยไปประยุกต์ใช้ เพ่ือการดารงตนในงานอาชีพ และการดารงชวี ติ 3) แสดงความรู้ทางภูมิศาสตร์เศรษบกจิ ประเทศไทย เพ่อื การศึกษาและพัฒนาเศรษฐกจิ สงั คม สิ่งแวดลอ้ ม ของไทย 4. สาระการเรยี นรู้ 1) ภูมศิ าสตร์เศรษฐกิจ 2) เศรษฐกิจของภาคเหนอื 3) เศรษฐกจิ ของภาคกลาง 4) เศรษฐกจิ ของภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ 5) เศรษฐกจิ ของภาคตะวันตก 6) เศรษฐกิจของภาคตะวนั ออก 7) เศรษฐกิจของภาคใต้ 8) ความสมั พันธร์ ะหว่างลกั ษณะทางกายภาพกบั กจิ กรรมทางเศรษฐกิจไทย 9) ลักษณะกายภาพทม่ี ีผลตอ่ พชื เศรษฐกจิ ของประเทศไทย 10) ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศไทย 11) แนวทางการแกไ้ ขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศไทย 5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 5.1 ขน้ั นาเข้าสู่บทเรยี น 1) ครูนาภาพผลไม้ชนิดต่าง ๆ มาให้นักเรียนชมและเล่นเกมทายใจจากผลไม้ โดยให้นักเรียนบอกช่ือ ผลไม้ท่ตี นชอบมาคนละ 2 ชนดิ แลว้ ครูอา่ นเฉลยให้นกั เรยี นฟงั 2) ครูซักถามนักเรียนถึงภาคและสถานท่ีทอ่ งเท่ียวในประเทศไทย พร้อมจังหวดั ที่ตั้ง ที่นักเรียนเคยไป เทย่ี ว และครูนาสถานทท่ี ่องเท่ยี วของทง้ั 6 ภูมภิ าค ๆ ละ 2-3 แห่งมาให้นกั เรียนทาย 3) ครแู จง้ ผลการเรียนรูท้ ค่ี าดหวงั ของหน่วยท่ี 2 ให้นักเรยี นทราบ 4) ครใู ห้นักเรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยที่ 2 5.2 ขัน้ สอน 1) ครฉู ายวดี ที ัศนเ์ ร่อื งเสนห่ ์เมืองไทยให้นกั เรยี นชม ซ่ึงแสดงถึงวถิ ชี ีวติ ของคนไทย อาหารไทย การแต่ง กาย มารยาท ประเพณี การประกอบอาชพี ภูมปิ ัญญาไทย กีฬาไทยและสถานทีท่ อ่ งเที่ยวสาคัญของ ประเทศไทย และให้นักเรยี นบอกความรู้และความประทับใจจากการชมวีดที ศั น์นั้น 2) ครูนาแผนท่ีแสดงลักษณะภูมิประเทศแขวนบนกระดาน และทบทวนบทเรียน โดยให้นักเรียน เปรียบเทยี บลักษณะภมู ิประเทศทโ่ี ดดเด่นของท้งั 6 ภมู ิภาคของประเทศไทย 3) ครใู ห้นักเรยี นบอกชื่อจังหวัดและภาคทเ่ี ปน็ ภูมิลาเนาเดิมของนักเรียน บอกลกั ษณะภมู กิ ายภาพของ ภาคนน้ั ๆ และบอกคาขวัญ การประกอบอาชีพและแหลง่ ท่องเทยี่ วสาคัญของจงั หวัดนนั้ ๆ 4) ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม ๆ ละ 4-5 คน ส่งผู้แทนมาจับฉลากหัวข้อ แล้วช่วยกันศึกษาค้นคว้าและ จัดทา Power Point นาเสนอหนา้ ชั้นเรียนตามเวลาท่กี าหนดให้
4.1) เศรษฐกิจของภาคเหนือ 4.2) เศรษฐกจิ ของภาคกลาง 4.3) เศรษฐกจิ ของภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื 4.4) เศรษฐกิจของภาคตะวันตก 4.5) เศรษฐกจิ ของภาคตะวนั ออก 4.6) เศรษฐกจิ ของภาคใต้ 5) ครูให้นักเรียน 2 กลุ่ม ๆ ละ 2-3 คน แข่งขันการเขียนปัญหาเศรษฐกิจของไทยบนกระดาน โดย แบ่งเป็น 2 หัวข้อ คือ ปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศกับปัญหาเศรษฐกิจภายนอกประเทศ กลุม่ ใด เขียนได้มากและมเี หตผุ ลดีจะเปน็ ฝา่ ยชนะ 6) ครูให้นักเรียน 2 กลุ่ม ๆ ละ 2-3 คน แข่งขันกันเขียนแนวทางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ภายในประเทศและภายนอกประเทศ กล่มุ ใดเขียนได้มากและมีเหตผุ ลนา่ เชอ่ื ถือจะเป็นฝ่ายชนะ 7) ครูให้นักเรยีนสรุปความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะทางกายภาพกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจไทยจาก ตารางในหน้า 62 8) ครูให้นักเรียนช้ีแหล่งพืชเศรษฐกิจและแหล่งอุตสาหกรรมของแต่ละภูมิภาคลงบนแผนท่ีรัฐกิจ ประเทศไทย 9) ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม ๆ ละ 4-5 คน จัดทาป้ายนิเทศในหัวข้อ “เศรษฐกิจไทยก้าวไกล ไปสู่ เศรษฐกิจประชาคมอาเซยี น” 10) ครูให้นักเรียนวิเคราะห์เปรียบเทียบความแตกต่างของกิจกรรมทางเศรษฐกิจของไทยในแต่ละ ภูมภิ าคกับกลุ่มประชาคมอาเซียน 11) ครูให้นกั เรียนแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ๆ ละ 5 คน จัดโต้วาทีญัตติ “ภาค...ดีกว่าภาค... ” และให้เพื่อน วจิ ารณพ์ รอ้ มให้คะแนน 5.3 ขัน้ สรปุ 1) ครูนาภาพสถานที่ท่องเที่ยวท้ัง 6 ภูมิภาค ๆ ละ 5-10 ภาพ มาให้นักเรียนชม และตอบชื่อสถานท่ี รวมถงึ ชือ่ จังหวัดที่ต้งั ดว้ ย 2) ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสรุปบทเรยี น 6. ส่อื การเรียนรแู้ ละแหลง่ การเรียนรู้ 1) ภาพผลไม้ชนดิ ตา่ ง ๆ และเฉลยทายใจจากผลไม้ จานวน 10 ชนิด 2) ภาพสถานทีท่ อ่ งเที่ยวของท้ัง 6 ภมู ิภาค ๆ ละ 5-10 ภาพ 3) วีดีทัศนเ์ รื่องเสน่หเ์ มอื งไทย จานวน 1 แผน่ 4) แผนท่ปี ระเทศไทยลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ จานวน 1 ระวาง 5) แผนท่ีรัฐกจิ ประเทศไทย จานวน 1 ระวาง 6) หนังสอื ภมู ิลักษณ์ประเทศไทย จานวน 1 เล่ม 7) หนังสือภมู ิเศรษฐศาสตร์ จานวน 1 เลม่ 8) หนังสอื ไทยแลบนด์แอตลาส จานวน 1 เลม่ 9) เว็บไซตห์ นงั 68 ของหนงั สอื เรยี น
7. การบูรณาการเชอ่ื มโยง 1) สาระการเรยี นรู้ ภมู ศิ าสตร์เศรษฐกจิ ประเทศไทยกับหลกั ทฤษฎใี หม่และเศรษฐกิจพอเพยี ง รวมถึงภูมิปญั ญาไทย 2) การบูรณาการ - การปลูกพืชเศรษฐกิจโดยใชห้ ลกั ทฤษฎีใหม่และเศรษฐกิจพอเพียง ตามหนว่ ยท่ี 1 - เศรษฐกิจของประเทศไทยบูรณาการกับภูมิปัญญาไทย ในด้านปัจจัย 4 คือ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ยา รักษาโรค (สมุนไพร) ทอี่ ยู่อาศยั ของแต่ลัภูมิภาคว่าเหมือนหรือแตกตา่ งกันอย่างไร 3) กิจกรรม แลกเปลี่ยนความคิดเหน็ - ครกู บั นกั เรยี นแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกนั และกนั - นกั เรยี นกับนกั เรียนแลกเปล่ยี นความคิดเห็นในการทากจิ กรรมกลุ่ม การทางานกลมุ่ - นกั เรยี นจัดทา Power Point ตามหัวขอ้ ทจ่ี บั ฉลากได้ 6 หัวขอ้ - นกั เรยี นจัดทา Mind Mapping หนว่ ยที่ 2 - นักเรียนแต่ละคนเลือกจังหวัดที่ตนสนใจ คนละ 1 จังหวัด จัดทาแผ่นพับแนะนาจังหวัดประกอบด้วย แผนท่ีจังหวัด ตรา คาขวัญ ดอกไม้ ลักษณะทางกายภาพ อาชีพ อาหารพนื้ บ้านและสถานท่ีสาคัญสง่ ครู ตามเวลาทก่ี าหนด - นักเรียนจัดทาป้ายนิเทศและจัดโตว้ าที 8. การบูรณาการเชอ่ื มโยง 1) แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน และครูเฉลยหลงั เรยี นจบ 2) การตอบคาถามของนักเรียนในระหวา่ งเรียน 3) ผลงานจาก Power Point 4) ผลงานจากการทาปา้ ยนเิ ทศ 5) ผลงานจากการโต้วาที 6) ผลงานจากการตอบใบงานที่ 1-2 7) การตอบคาถามท้ายหน่วยที่ 2 ตอนท่ี 1-3 9. บนั ทึกผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ 1) ผลการจัดการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 2 เป็นที่นา่ พอใจ บรรลผุ ลการเรียนรู้ท่ีคาดหวงั ทุกประการ 2) นกั เรียนเรียนรู้อย่างมีความสุข ชว่ ยกันคิด ช่วยกันทา สร้างสรรค์กิจกรรมทน่ี ่าสนใจและได้รบั ประโยชน์ อยา่ งยง่ิ ส่งเสรมิ พัฒนาการท้ังพุทธิพสิ ัย ทักษะพสิ ยั และจติ พสิ ัยเปน็ อยา่ งดียิง่ 10. ข้อเสนอแนะเพ่ิมเตมิ 1) ควรพานักเรียนไปทัศนศึกษา โดยไปชมการทาเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมของภูมิภาคที่สถานศึกษา ตง้ั อยู่ เพอ่ื ให้มีความรู้ ประสบการณ์ และรักบา้ นเกดิ ของตน 2) ควรจัดนกั เรียนไปเป็นมัคคุเทศนน์ ้อยตามสถานที่ท่องเท่ียวของจังหวัดของตน เพ่ือประชาสัมพันธ์จงั หวัด สร้างมนษุ ยสัมพันธแ์ ละฝึกความอดทน ขยันหมน่ั เพยี ร 3) นกั เรียนควรศึกษาคน้ ควา้ จากแหลง่ เรยี นรู้ต่าง ๆ และจากเวบ็ ไซตห์ น้า 68 เพิ่มเติม
บันทกึ หลงั การสอน ผลการใช้แผนการสอน จดุ ประสงค์การสอน ������ มากเกินไป ������ นอ้ ยเกินไป เหมาะสม จานวนชั่วโมง ������ มากเกนิ ไป ������ น้อยเกินไป เหมาะสม เนื้อหาสาระ/งาน สอดคลอ้ งกบั จุดประสงค์ ������ ไม่สอดคล้องกบั จุดประสงค์ กิจกรรมการเรียนการสอน ������ ปฏิบัตไดค้ รบทุกกิจกรรม ������ ปฏบิ ตั ดิ ้ไม่ครบทกุ กิจกรรม กิจกรรมเหมาะสมกบั เน้อื หา ������ กิจกรรมบางส่วนไม่เหมาะสม ส่อื การสอน/อปุ กรณ์การสอน เหมาะสม ������ บางส่วนไม่เหมาะสม ปัญหา/แนวทางแก้ไข…………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ความสนใจ/ต้งั ใจเรียน มาก ������ ปานกลาง ������ นอ้ ย การซกั ถาม/ตอบคาถาม ������ มาก ปานกลาง ������ นอ้ ย การทากจิ กรรมเสรจ็ ตามเวลา มาก ������ ปานกลาง ������ น้อย การทาแบบทดสอบก่อนเรยี นไดค้ ะแนนเฉลย่ี ������ มาก ปานกลาง ������ นอ้ ย การทาแบบทดสอบหลังเรยี นได้คะแนนเฉล่ยี มาก ������ ปานกลาง ������ นอ้ ย ปญั หา/แนวทางแก้ไข…………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ผลการสอนของครู เนอื้ หาทส่ี อน ครบ ������ ไม่ครบถว้ น เวลาที่ใช้ในการสอน ������ มากเกินไป ตามเวลาทก่ี าหนด ������ น้อยเกนิ ไป ปญั หา/แนวทางแกไ้ ข…………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ ………………………………………………ผสู้ อน (นางสาววลิ าวัลย์ จินะ) ครูพเิ ศษสอน
แผนการจัดการเรียนรู้แบบเน้นสมรรถนะ หน่วยท่ี 3 วชิ า ภูมศิ าสตร์และประวัตศิ าสตรไ์ ทย (2000-1503) สอนครงั้ ท่ี 9-12 ชือ่ หนว่ ย : ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์และภยั พบิ ตั ทิ างธรรมชาติ เวลา 4 ชว่ั โมง 1. สาระสาคัญ ปัจจุบันเป็นยุคดิจิตอล นักภูมิศาสตร์จึงคิดค้นระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ท่ีก้าวล้านายุกต์ เช่น ระบบ สารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) ระบบกาหนดตาแหน่งบนพ้ืนโลก (GPS) การสารวจข้อมูลระยะทางไกล (Remote Sensing) และดาวเทียวดวงใหม่ ๆ เพ่ือนามาใช้ในการสารวจข้อมูลที่จะช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติทาง ธรรมชาติท่ีนับว่าจะทวีความรุนแรงและเกิดบ่อยข้ึน เช่น แผ่นดินไหว คลื่นยักษ์สึนามิ อุทกภัยและไฟป่า เป็นต้น นกั เรยี นควรมีความรู้เพ่อื รับมอื เกี่ยวกับภยั เหลา่ นัน้ อยา่ งถกู วิธแี ละมสี ติ 2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 จดุ ประสงค์ท่วั ไป เพื่อให้นกั เรียนมีความรู้ ทักษะ เจตคติท่ีดีตอ่ ระบบสารสนเทศทางภมู ศิ าสตร์และภยั พบิ ตั ิทางธรรมชาติ 2.2 จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม/บรู ณาการเศรษฐกิจพอเพียง พทุ ธิพสิ ัย 1) อธิบายความหมายของระบบสารสนเทศภูมศิ าสตรไ์ ด้ 2) บอกองค์ประกอบสาคัญของระบบสารสนเทศภมู ิศาสตร์ได้ 3) สรปุ ประโยชน์ของระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ได้ 4) บอกความหมายของระบบกาหนดตาแหน่งบนพนื้ โลกได้ 5) อธิบายปัจจยั ท่ีมผี ลตอ่ ความถูกต้องของตาแหน่งบนพื้นโลกได้ 6) ระบุประโยชน์ของระบบกาหนดตาแหน่งบนพ้นื โลกได้ 7) อธิบายความหมายของการสารวจข้อมลู ระยะโลก 8) จาแนกหลกั การของรโี มทเซนซง่ิ ได้ 9) สรุปดาวเทยี มดวงสาคญั ขอลโลกและของไทยได้ 10) สรปุ ลกั ษณะและประโยชนข์ องดาวเทียมของไทยได้ 11) สรปุ วิธีเอาตัวรอดจากภยั พิบตั ทิ างธรรมชาตไิ ด้ ทกั ษะพสิ ยั 1) จัดทาโครงการฝกึ ซอ้ มวิธรี ับมือเม่ือเกดิ ภยั พิบัตทิ างธรรมชาติได้ 2) ศกึ ษาค้นควา้ เกีย่ วกบั ระบบสารสนเทศทางภูมศิ าสตร์ท่ที นั สมัยของไทยได้ 3) ระดมสมองและจัดทาแผนผงั ความคดิ วา่ กอ่ นเกิด/ขณะเกดิ /หลงั เกดิ ภัยธรรมชาตแิ ต่ละประเภท ควรปฏิบตั ติ นอย่างไรได้ จิตพสิ ัย 1) มีเจตคติท่ีดตี อ่ ระบบสารสนเทศทางภูมศิ าสตรแ์ ละภยั พบิ ตั ทิ างธรรมชาติ 2) ตระหนักถึงความสาคัญของความจาเป็นที่จะต้องเรียนรู้เร่ืองภัยพิบัติทางธรรมชาติและวิธี ปอ้ งกนั และแกไ้ ขภัยพบิ ัติทางธรรมชาตหิ ลา่ นน้ั อยา่ งฉลาดและมีสติ 3) ใหถ้ อื หลัก “กนั ไวด้ กี วา่ แก้ แยแ่ ลว้ จะแกไ้ มท่ นั ” และ “ปอ้ งกนั ดีกว่าแก้ไข”
3. สมรรถนะ 1) รวบรวมระบบสารสนเทศทางภมู ศิ าสตรแ์ ละภัยพิบตั ิทางธรรมชาติ 2) นาความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตรแ์ ละภัยพิบัติทางธรรมชาติไปประยุกต์ใช้ เพอื่ การดารงตนในงานอาชีพและการดารงชวี ิต 4. สาระการเรยี นรู้ 1) ระบบสารสนเทศภมู ิศาสตร์ 2) ระบบกาหนดตาแหน่งบนพน้ื โลก 3) การสารสจขอ้ มลู ระยะไกล 4) ดาวเทยี ม 5) ภยั พบิ ัติทางธรรมชาติ-แผน่ ดินไหว คล่นื ยักษส์ ึนามิ อุทกภัย วาตภยั และไฟปา่ ฯลฯ 5. กจิ กรรมการเรียนรู้ 5.1 ข้ันนาเข้าสบู่ ทเรียน 1) ครสู นทนากบั นกั เรียนถงึ ระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตรใ์ นอดีต เปรียบเทยี บกบั ปจั จบุ ัน 2) ครูให้นักเรียนบอกช่ือดาวเทียมของโลก ดาวเทียมของไทยท่ีนักเรียนรู้จัก พร้อมประโยชน์ของ ดาวเทียม 3) ครูแจ้งผลการเรียนร้ทู ค่ี าดหวังของหน่วยที่ 3 ให้นักเรียนทราบ 4) ครใู ห้นักเรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยท่ี 3 5.2 ขั้นสอน 1) ครูให้นักเรียนแบ่งกล่มุ ๆ ละ 2-3 คน ศึกษาค้นคว้าขอ้ มูลกลุ่มละ 1 เรื่องตามความสนใจ และจัดทา ป้ายนเิ ทศหน้าชนั้ เรยี น ตามหัวขอ้ ตอ่ ไปนี้ 1.1)ระบบสารสนเทศภูมศิ าสตร์ 1.2)ระบบกาหนดตาแหน่งบนพื้นโลก 1.3)การสารวจข้อมูลระยะไกล 1.4)ดาวเทยี ม 1.5)ภัยพิบัตทิ างธรรมชาติ 2) ครูให้นักเรียนชมวีดีทัศน์เร่ืองระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์และเร่ืองภัยพิบัติทางธรรมชาติและ อภปิ รายรว่ มกนั 3) ครูใหน้ ักเรียนแบ่งกลุม่ ๆ ละ 7-10 คน จัดทาโครงการฝึกซอ้ มวิธกี ารปฏิบตั ิตนเพื่อรบั มือกบั ภัยพิบัติ ทางธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว คล่ืนยักษ์สึนามิ อุกภัย วาตภัย ไฟป่าและอื่น ๆ โดยแสดงบทบาท สมมตุ ิ สาธิตและปฏบิ ัตติ าม 4) ครูให้นักเรียนช่วยกันระดมสมองและจดั ทาแผนผังความคิด ว่าก่อนเกิด/ขณะเกิด/หลังเกดิ ภัยพิบัติ แต่ละประเทภควรปฏิบัตอิ ย่างไร โดยเขยี นแผนผังความคดิ บนกระดานหรอื บนกระดาษของตน แล้ว ส่งครูผสู้ อนตามกาหนดเวลา 5.3 ขัน้ สรุป 1) ครูให้นักเรยี นรว่ มร้องเพลงสามคั คีชุมนุม เพราะความสามัคคที าผ่านพน้ วิกฤติจากภัยธรรมชาตติ ่าง ๆ ได้
2) ครูและนักเรียนรวมกันสรปุ บทเรียน หน่วยที่ 3 6. สื่อการเรียนร้แู ละแหล่งการเรยี นรู้ 1) วีดีทศั นเ์ รอื่ งระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ จานวน 1 มว้ น 2) อุปกรณ์ทีใ่ ช้การแสดงบทบาทสมมุติ จานวน 10 ชิ้น 3) ภาพอุปกรณ์สาคัญของระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ ระบบกาหนดตาแหน่งบนพื้นโลก การสารวจข้อมูล ระยะไกล ดาวเทียม จานวน 8 ภาพ 4) วดี ที ัศน์เกี่ยวกบั ภยั พิบตั ิทางธรรมชาติ การป้องกันและแก้ไขภยั พิบตั ปิ ระเภทต่าง ๆ จานวน 1 ม้วน 5) หนงั สอื เร่ืองการสารวจระยะไกลในด้านการใช้ประโยชนท์ ่ีดิน จานวน 1 เล่ม 6) หนงั สือเรื่องภยั พิบัติถลม่ ไทย หายนะกาลังจะมาเยอื น...จานวน 1 เล่ม 7) เว็บไซต์ตามหนา้ 87 จากหนังสือเรยี น 7. การบรู ณาการเช่อื มโยง 1) สาระการเรยี นรู้ ภัยพบิ ัติทางธรรมชาตกิ ับเศรษฐกจิ พอเพียง 2) การบรู ณาการ - การบูรณาการ 3 ห่วง 2 เง่ือนไขตามปรัชญาของเศรษฐกิจอเพียงในการจัดโครงการฝึกซ้อมการรับมือ กบั ภัยพิบตั ิตามธรรมชาตปิ ระเภทตา่ ง ๆ 3) กิจกรรม แลกเปล่ยี นความคิดเหน็ - สมาชิกที่จะจัดทาป้ายนิเทศต่าง ๆ ต้องแลกเปล่ียนความคิดเห็นกัน เพื่องลงมติในเร่ืองต่าง ๆ เช่น ข้อมลู แหล่งขอ้ มลู เน้อื หา ภาพประกอบและรปู แบบการจดั ให้นา่ สนใจ - ครูกับนักเรียนแลกเปล่ียนความคิดเห็นกัน เช่น นักเรียนาขอคาปรึกษาในเรื่องของแหล่งข้อมูลและ รูปแบบการจดั ปา้ ยนิเทศ การทางานเปน็ กลมุ่ - นกั เรียนจดั ทาปา้ ยนเิ ทศตามหวั ข้อทก่ี ลมุ่ สนใจ - นกั เรียนแสดงบทบาทสมมตุ ิตามโครงการฝกึ ซอ้ มเพอ่ื รบั มือกับภัยพิบัติทางธรรมชาตปิ ระเภทตา่ ง ๆ - นักเรยี นจดั ทาแผนผังความคดิ - นักเรยี นรว่ มกันรอ้ งเพลงสามัคคีชุมนมุ 8. การวดั และการประเมินผล 1) แบบทดสอบกอ่ นเรียน-หลงั เรยี น แล้วครูเฉลยหลังเรียนจบ 2) การตอบคาถามของนกั เรียนในระหว่างเรยี น 3) ผลงานการจัดป้ายนเิ ทศหน้าชน้ั เรยี น 4) ผลจากการจดั ทาโครงการฝึกซอ้ มเพอ่ื รับมือกบั ภัยพิบัตทิ างธรรมชาติ 5) ผลงานการจดั ทาแผนผงั ความคิด 6) ผลการรว่ มรอ้ งเพลงสามคั คีชุมนุม 7) ผลจากการตอบใบงานท่ี 1-2 8) การตอบคาถามทา้ ยหนว่ ยที่ 3 ตอนที่ 1-3
9) พฤตกิ รรมความเอาใจใสแ่ ละความกระตือรอื ร้น 9. บันทกึ ผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ 1) ผลการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยท่ี 3 เปน็ ท่นี ่าพอใจ บรรลผุ ลการเรียนรู้ท่คี าดหวังทุกประการ 2) นักเรียนได้ความรู้ ความเข้าใจในเรื่องระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ ซ่ึงเป็นเร่ืองที่เข้าใจยากไม่เคย เรียนรู้มาก่อน และได้มีการฝึกทักษะการรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดยจาลองสถานการณ์และให้ นักเรียนได้แสดงบทบาทสมมุติ ทาให้นักเรียนสนุก ให้ความสนใจ ให้ความร่วมมือ และสามารถนาไป ประยุกต์ใชไ้ ดจ้ รงิ 10. ข้อเสนอแนะเพ่มิ เตมิ 1) ควรพานักเรยี นไปศกึ ษาดูงานท่สี านักงานพฒั นาเทคโนโลยีอวกาศและภมู สิ นเทศ 2) ครูควรพานักเรียนไปทัศนศึกษาพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ จังหวัดปทุมธานี และท้องฟ้าจาลอง กรงุ เทพมหานคร ฯลฯ 3) นักเรียนควรศึกษาและสืบค้นข้อมูลสาระน่ารู้เก่ียวกบั ระบบสารนิเทศทางภมู ิศาสตร์จากแหลง่ เรียนรู้ต่าง ๆ เพิ่มเตมิ
บันทึกหลังการสอน ผลการใช้แผนการสอน จดุ ประสงค์การสอน ������ มากเกินไป ������ นอ้ ยเกินไป เหมาะสม จานวนชั่วโมง ������ มากเกินไป ������ น้อยเกินไป เหมาะสม เนื้อหาสาระ/งาน สอดคล้องกับจุดประสงค์ ������ ไม่สอดคลอ้ งกบั จุดประสงค์ กิจกรรมการเรียนการสอน ������ ปฏิบัตได้ครบทกุ กิจกรรม ������ ปฏบิ ตั ดิ ไ้ ม่ครบทุกกิจกรรม กิจกรรมเหมาะสมกบั เนอื้ หา ������ กิจกรรมบางส่วนไมเ่ หมาะสม ส่อื การสอน/อปุ กรณ์การสอน เหมาะสม ������ บางส่วนไม่เหมาะสม ปัญหา/แนวทางแกไ้ ข…………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ความสนใจ/ต้งั ใจเรียน มาก ������ ปานกลาง ������ นอ้ ย การซกั ถาม/ตอบคาถาม ������ มาก ปานกลาง ������ นอ้ ย การทากจิ กรรมเสรจ็ ตามเวลา มาก ������ ปานกลาง ������ น้อย การทาแบบทดสอบก่อนเรยี นไดค้ ะแนนเฉลย่ี ������ มาก ปานกลาง ������ นอ้ ย การทาแบบทดสอบหลังเรยี นได้คะแนนเฉล่ยี มาก ������ ปานกลาง ������ นอ้ ย ปญั หา/แนวทางแก้ไข…………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ผลการสอนของครู เนอื้ หาทส่ี อน ครบ ������ ไม่ครบถว้ น เวลาที่ใช้ในการสอน ������ มากเกินไป ตามเวลาที่กาหนด ������ น้อยเกนิ ไป ปญั หา/แนวทางแกไ้ ข…………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื ………………………………………………ผสู้ อน (นางสาววลิ าวัลย์ จินะ) ครพู ิเศษสอน
แผนการจดั การเรียนรู้แบบเนน้ สมรรถนะ หน่วยท่ี 4 วิชา ภูมศิ าสตรแ์ ละประวัติศาสตรไ์ ทย (2000-1503) สอนครัง้ ท่ี 13-16 ชอื่ หน่วย : ประชาคมอาเซียน เวลา 4 ชัว่ โมง 1. สาระสาคัญ ประชาคมอาเซียนพัฒนาจากอาเซียน ก่อตั้งขึ้นโดยปฏิญญากรุงเทพหรือปฏิญญาอาเซียน เม่ือวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2510 มีสานักงานใหญ่อยู่ที่กรุงจาร์กาตา ประเทศอินโดนีเซีย มีประเทศสมาชิกในภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ 10 ประเทศ สัญลกั ษณ์เป็นรูปรวงข้าวสีเหลืองบนพื้นสีแดง ล้อมรอบด้วยวงกลมสีขาวและสีนา้ เงิน การรวกลุ่มเป็นประชาคมอาเซยี นนับเป็นการเปลี่ยนแปลงคร้ังสาคญั เพราะมี 3 เสาหลักคอื ประชาคมการเมืองและ ความมัน่ คงอาเซียน (APSC) ประชาคมเศรษฐกจิ อาเซียน (AEC) และประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน (ASCC) ประชากรรวมกนั 10 ประเทศมปี ระมาณ 575 ล้านคน หรอื 1 ใน 10 ของประชากรโลก จงึ มีศักยภาพทง้ั ในแง่ผูผ้ ลิต และผบู้ ริโภคท่ีมีอานาจการผลติ และการซื้อสูง จงึ มบี ทบาทสาคัญตอ่ เศรษฐกจิ ของทวปี เอเชียและของโลก 2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 จดุ ประสงค์ทว่ั ไป เพ่ือให้นกั เรียนมคี วามรู้ ทกั ษะ เจตคตทิ ่ีดตี ่อประชาคมอาเซียน 2.2 จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม/บรู ณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง พุทธพิ ิสัย 1) อธิบายกาเนิดของอาเซียนได้ 2) จาแนกวัตถปุ ระสงค์ของอาเซยี นได้ 3) บอกสัญลักษณข์ องประชาคมอาเซยี นได้ 4) วิเคราะห์สาเหตกุ ารเข้าสูก่ ารเป็นประชาคมอาเซียนได้ 5) อธบิ ายความหมายของประชาคมอาเซียนได้ 6) ระบสุ ามเสาหลักของประชาคมอาเซียนได้ 7) สรปุ ลักษณะเดน่ ของประเทศสมาชกิ ของประชาคมอาเซียนได้ ทกั ษะพิสยั 1) จดั ทาแผ่นพบั เรือ่ งน่าร้.ู ..ประชาคมอาเซียนได้ 2) จดั ทาแฟ้มแสดงสกุลตา่ ง ๆ ของประเทศสมาชกิ ประชาคมอาเซียนได้ 3) สาธิตการแต่งกาย การพูด อาหารและจัดแสดงสินคา้ ของประเทศสมาชกิ ประชาคมอาเซียนได้ 4) ช้ีท่ีตงั้ ของประเทศสมาชิกประชาคมอาเซยี นบนแผนที่เอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้ 5) แขง่ ขนั กันทายธงประจาชาตขิ องประเทศสมาชกิ ประชาคมอาเซียนได้ 6) วเิ คราะหว์ า่ ประเทศไทยจะไดร้ บั ประโยชน์จากการเข้าเป็นประชาคมอาเซียนอย่างไรได้ 7) บอกขอ้ ดแี ละข้อเสียของประเทศไทยท่ีเป็นประเทศสมาชิกประชาคมอาเซียนได้ จติ พิสัย 1) มเี จตคติที่ดีตอ่ ประเทศสมาชกิ ประชาคมอาเซยี น ทงั้ 10 ประเทศ 2) ตระหนักถงึ ความสาคัญและจาเป็นท่ตี ้องรวมกลมุ่ เป็นประชาคมอาเซียน
3. สมรรถนะ 1) แสดงความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกบั ประชาคมอาเซียน 2) นาความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับประชาคมอาเซียนไปประยุกต์ใช้ เพื่อการดารงตนในงานอาชีพและการ ดารงชีวติ 3) แสดงความรู้และวิเคราะห์บทบาทและความสาคัญของความร่วมมือทางเศรษฐกิจในกลุ่มประชาคม เศรษฐกจิ อาเซยี น 4. สาระการเรียนรู้ 1) กาเนดิ อาเซยี น 2) วัตถุประสงคข์ องอาเซยี น 3) สัญลกั ษณ์ของประชาคมอาเซยี น 4) การเข้าสู่การเปน็ ประชาคมอาเซียน 5) ประชาคมอาเซียนคืออะไร 6) สามเสาหลกั ของประชาคมอาเซียน 7) ประเทศสมาชกิ ของประชาคมอาเซยี น 10 ประเทศ 5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 5.1 ขั้นนาเขา้ สู่บทเรยี น 1) ครูนาแผนทเี่ อเชียตะวนั ออกเฉียงใต้แขวนบนกระดาน แล้วให้นักเรียนแข่งขันกนั ช้ที ี่ต้ังของประเทศ สมาชกิ ประชาคมอาเซยี น ท้ัง 10 ประเทศ 2) ครูใหน้ ักเรียนแข่งขันกัยบอกช่ือและทต่ี ัง้ ของเมืองหลวงในประเทศสมาชิกประชาคมอาเซยี นบนแผน ที่ 3) ครแู จ้งผลการเรียนรทู้ ่ีคาดหวังของหนว่ ยท่ี 4 ให้นกั เรียนทราบ 4) ครูใหน้ กั เรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยที่ 4 5.2 ข้นั สอน 1) ครูนาแผนท่ีแสดงประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาแขวนบนกระดาน แล้วให้นักเรียนมาช้ีท่ีตั้ง ของประเทศไทย 2) ครูสนทนากับนักเรยี นว่าในปี พ.ศ. 2558 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมีการเปลี่ยนแปลง ครั้งสาคัญอยา่ งไร (พฒั นาจากอาเซียนเปน็ ประชาคมอาเซยี น) 3) ครูซักถามนักเรียนถึงกาเนิดของอาเซียน ปฏิญญาอาเซียน สานักงานใหญ่ ประเทศก่อต้ัง และ ประเทศสมาชิกอาเซียนถึงปัจจุบันมีก่ีประเทศและประเทศอะไรบ้าง ให้นักเรียนไปชี้ที่ตั้งของ ประเทศเหล่านั้นบนแผนที่ 4) ครูนาหนังสือเรอ่ื งน่าร.ู้ ..ประชาคมอาเซยี น กับ 100 คาถามประชาคมอาเซียนมาให้นักเรียนชม และ ถามถงึ วัตถปุ ระสงคข์ องอาเซยี น 5) ครูนาตราสัญลักษณ์ของอาเซียนติดบนกระดาน และให้นักเรียนออกมาดูและบอกถึงรูปร่าง สีและ ความหมายของสญั ลักษณน์ ั้น
6) ครูซักถามนักเรียนถึงสาเหตุที่อาเซียนต้องเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน และให้นักเรียนบอกถึง ความสาคญั ของประชาคมอาเซียนที่มีประชากร 1 ใน 10 ของโลกต่อเศรษฐกิจของทวีปเอเชียและ เศรษฐกจิ โกล 7) ครูให้นกั เรยี นแขง่ ขนั กนั เขยี นคาขวัญของประชาคมอาเซยี นบนกระดาน พร้อมทัง้ บอกความหมาย 8) ครใู ห้นกั เรียนเขยี นสามเสาหลักของประชาคมอาเซยี นบนแผนผงั ที่กาหนดให้ 9) ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม ๆ ละ 2-3 คน จับฉลากชื่อประเทศสมาชิกประชาคมอาเซียนกลุ่มละ 1 ประเทศ และให้ศกึ ษาค้นควา้ และสืบค้นข้อมูล จัดทาแผ่นพับ “เรื่องน่ารู้...ประชาคมอาเซยี น” ส่งครู ตามกาหนดเวลา 10) ครูให้นักเรียน 2 กลุม่ ๆ ละ 2-3 คน จัดทาแฟ้มแสดงเงินสกุลตา่ ง ๆ ของประเทศสมาชิกประชาคม อาเซยี น ทงั้ 10 ประเทศ ส่งครตู ามกาหนดเวลา 11) ครูให้นกั เรียนแบ่งกลุ่ม ๆ ละ 4-5 คน จับฉลากชือ่ ประเทศสมาชิกประชาคมอาเซียน และสาธิตการ แตง่ กาย ภาษา อาหารและจดั แสดงสินคา้ ของแต่ละประเทศ 12) ครูใหน้ กั เรยี นแข่งขันกันนารปู ธงไปตดิ ตรงทีต่ ง้ั ประเทศประชาคทอาเซียนบนแผนท่ี 13) ครูให้นักเรียนจัดทาแผ่นพับประเทศสมาชิกประชาคมอาเซียนท้ัง 10 ประเทศ จัดนิทรรศการ นาเสนอในหัวข้อ “เรือ่ งน่าร.ู้ ..ประชาคมอาเซยี น” ในห้องสังคมศึกษา ตามหัวข้อตอ่ ไปน้ี 13.1) แผนท่ปี ระเทศ 13.2) ขนาด 13.3) เมอื งหลวง 13.4) ธงชาติ 13.5) วนั ชาติ 13.6) วนั ท่เี ป็นสมาชกิ อาเซยี น 13.7) ประชากร 13.8) ภาษา 13.9) ดอกไม้ 13.10) ศาสนา 13.11) ระบอบการปกครอง 13.12) เศรษฐกจิ -เกษตรกรรม อุตสาหกรรม สินค้าสง่ ออก-นาเข้า สกลุ เงนิ 13.13) สังคมและวฒั นธรรม-อาหาร เครือ่ งแต่งกาย ที่อยู่อาศยั และยารักษาโรค 13.14) ประเพณี 13.15) ศลิ ปกรรม 13.16) สถานท่ีท่องเทีย่ วสาคัญ 13.17) ความสัมพนั ธ์กบั ประเทศไทย 14) ครูใหน้ กั เรยี นบอกถึงความสาคญั และจาเปน็ ต้องรวมกลุม่ เป็นประชาคมอาเซียน 15) ครูใหน้ กั เรยี นวิเคราะหว์ า่ ประเทศไทยจะไดร้ บั ประโยชนจ์ ากการเข้าเป็นประชาคมอาเซียนอย่างไร 16) ครูให้นักเรียนแข่งขันเขียนบนกระดานถึงข้อดีและข้อเสียของประเทศไทยที่เป็นประเทศสมาชิก ประชาคมอาเซียน
17) ครูให้นักเรียนวิเคราะห์บทบาทและความสาคัญของการร่วมมือทางเศรษฐกิจในกลุ่มประชาคม เศรษฐกจิ อาเซยี น 5.3 ข้นั สรุป 1) ครูแจกเน้อื เพลงประชาคมอาเซยี นให้นักเรยี นรอ้ งรว่ มกนั 2) ครูให้นกั เรยี นชมวดี ที ัศน์เรอื่ งประชาคมอาเซยี นสรุปรว่ มกนั 6. สอ่ื การเรยี นรูแ้ ละแหลง่ การเรยี นรู้ 1) แผนท่ีเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ จานวน 1 ระวาง 2) ตราสญั ลกั ษณป์ ระชาคมอาเซียน จานวน 1 แผ่น 3) สมุดภาพเงินสกุลตา่ ง ๆ ของประเทศสมาชกิ ประชาคมอาเซียน ทัง้ 10 ประเทศ จานวน 1 กล่มุ 4) ภาพธงประจาประเทศสมาชิกประชาคมอาเซียน ทั้ง 10 ประเทศ จานวน 1 แผ่น 5) วีดที ศั นเ์ รื่องประชาคมอาเซยี น จานวน 1 ม้วน 6) หนงั สือ 500 เรอื่ งน่าร้ปู ระชาคมอาเซียน จานวน 1 เลม่ 7) หนังสือเนการา บรูไน ดารุสซาราม, มาเลเซีย, ราชอาณาจักรกัมพูชา, สหภาพเมียนมาร์, สาธารณรัฐ ประชาธิปไตยประชาชนลาว, สาธารณรัฐฟิลิปปินส์, สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม, สาธารณรัฐ อนิ โดนเี ซีย จานวน 10 เลม่ 7. การบรู ณาการเชอ่ื มโยง 1) สาระการเรยี นรู้ ประชาคมอาเซยี น 2) การบรู ณาการ - การบรู ณาการประชาคมอาเซียนกบั เนอ้ื หาวิชาอาเซยี นศกึ ษา 3) กจิ กรรม แลกเปลย่ี นความคดิ เห็น - นักเรียนจัดทากิจกรรมสร้างสรรค์ กิจกรรมกลุ่มต้องแลกเปล่ียนความคิดเห็นกัน เพ่ือให้ผลงานมาจาก มตขิ องกลมุ่ และผลงานมคี ุณภาพ - ครกู บั นักเรียนแลกเปลีย่ นความคิดเหน็ กนั หรือนักเรยี นขอคาปรึกษาจากครใู นการจัดกิจกรรมกล่มุ การทางานเปน็ กลุ่ม - นกั เรียนจัดทาแผ่นพับ การสาธติ และการจัดนทิ รรศการ - นกั เรยี นแขง่ ขนั กนั ทากจิ กรรมการเรียนรู้ การวิเคราะห์ขอ้ มลู - นกั เรยี นร่วมกันร้องเพลงประชาคมอาเซียน 8. การบรู ณาการเชอ่ื มโยง 1) แบบทดสอบก่อนเรยี น-หลงั เรยี น และครูเฉลยหลงั เรียนจบ 2) การตอบคาถามมองนักเรียนในระหวา่ งเรียน 3) คณุ ภาพของแผ่นพับ 4) ผลงานการสาธิต 5) ผลงานการจดั นทิ รรศการ 6) ผลการแขง่ ขนั ทากิจกรรมตา่ ง ๆ และวิเคราะหข์ ้อมูล
7) การใหค้ วามร่วมมอื ในการร้องเพลงและทากิจกรรมการเรยี นรู้ต่าง ๆ 8) พฤตกิ รรมความตัง้ ใจ ความสนใจ ความคดิ รเิ ร่มิ สร้างสรรค์ 9) ผลจากการตอบใบงานท่ี 1-2 10) การตอบคาถามทา้ ยหน่วยท่ี 4 ตอนท่ี 1-3 9. การบันทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ 1) ผลการจัดการเรียนรู้ หน่วยท่ี 4 เป็นท่ีน่าพอใจอย่างยิ่ง โดยบรรลุผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวังไวอ้ ย่างดีเกิน คาด 2) นักเรยี นไดร้ ับความรู้ ความเข้าใจเร่ืองประชาคมอาเซยี น เพราะเป็นเร่ืองใหม่ที่ทุกคนควรรู้ และย่ิงไดจ้ ัด กิจกรรมหลากหลายและถือนักเรียนเป็นศูนย์กลาง ย่ิงทาให้นักเรียนได้เรียนรู้อย่างมีความสุข เล็งเห็น คณุ คา่ ของบทเรยี น และสามารถนาความรู้ ความเขา้ ใจทีไ่ ดร้ ับไปเผยแพรแ่ กผ่ อู้ ่ืนได้ 10. ข้อเสนอแนะเพิ่มเตมิ 1) สถานศึกษาควรจัดห้องประชาคมอาเซียน โดยมีหนังสือ เอกสาร สื่อโสตทัศน์เกี่ยวกับเร่ืองประชาคม อาเซยี น เพ่อื ให้นักเรียน นักศึกษาค้นควา้ เพ่ิมเตมิ 2) นักเรยี นควรศกึ ษาและสืบคน้ ขอ้ มลู จากแหล่งเรียนร้ตู า่ ง ๆ และจากเว็บไซต์หนา้ 112 เพ่ิมเติม
บันทึกหลังการสอน ผลการใช้แผนการสอน จดุ ประสงค์การสอน ������ มากเกินไป ������ นอ้ ยเกินไป เหมาะสม จานวนชั่วโมง ������ มากเกินไป ������ น้อยเกินไป เหมาะสม เนื้อหาสาระ/งาน สอดคลอ้ งกับจุดประสงค์ ������ ไม่สอดคล้องกับจุดประสงค์ กิจกรรมการเรียนการสอน ������ ปฏิบัตไดค้ รบทุกกิจกรรม ������ ปฏบิ ตั ดิ ไ้ ม่ครบทกุ กิจกรรม กิจกรรมเหมาะสมกบั เน้อื หา ������ กิจกรรมบางส่วนไมเ่ หมาะสม ส่อื การสอน/อปุ กรณก์ ารสอน เหมาะสม ������ บางส่วนไม่เหมาะสม ปัญหา/แนวทางแก้ไข…………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ความสนใจ/ต้งั ใจเรียน มาก ������ ปานกลาง ������ นอ้ ย การซกั ถาม/ตอบคาถาม ������ มาก ปานกลาง ������ นอ้ ย การทากจิ กรรมเสรจ็ ตามเวลา มาก ������ ปานกลาง ������ น้อย การทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี นไดค้ ะแนนเฉล่ยี ������ มาก ปานกลาง ������ น้อย การทาแบบทดสอบหลังเรียนไดค้ ะแนนเฉล่ยี มาก ������ ปานกลาง ������ นอ้ ย ปญั หา/แนวทางแกไ้ ข…………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ผลการสอนของครู เนอื้ หาทส่ี อน ครบ ������ ไม่ครบถว้ น เวลาที่ใช้ในการสอน ������ มากเกินไป ตามเวลาท่กี าหนด ������ น้อยเกนิ ไป ปญั หา/แนวทางแกไ้ ข…………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื ………………………………………………ผสู้ อน (นางสาววิลาวัลย์ จินะ) ครูพเิ ศษสอน
แผนการจดั การเรยี นรู้แบบเนน้ สมรรถนะ หน่วยท่ี 5 วชิ า ภมู ิศาสตรแ์ ละประวตั ิศาสตร์ไทย (2000-1503) สอนครั้งท่ี 17-20 ชอื่ หนว่ ย : ภูมิหลังทางประวตั ิศาสตรข์ องชนชาตไิ ทย เวลา 4 ชวั่ โมง 1. สาระสาคญั เราศึกษาประวัติศาสตร์ไทยกันทาไม? ก็เพื่อให้รู้ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย โดยอาศัย หลักฐานข้อเท็จจริงตา่ ง ๆ จากเอกสารทางประวัติศาสตรแ์ ละใชว้ ิธีการทางประวัติศาตร์ มีคนจานวนไม่น้อยทส่ี งสัยว่า คนไทยมาจากไหน จึงมีผู้ศึกษาถึงถ่ินกาเนิดของชนชาติไทย การพัฒนาชุมชนโบราณสมัยก่อนประวัติศาสตร์ใน ประเทศไทย อาณาจกั รโบราณในดินแดนประเทศไทย ตลอดจนการพัฒนาแคว้นโบราณในประเทศไทย ฉะน้นั คนไทย รุ่นใหม่จึงควรเรยี นรู้ เพ่ือให้ทราบองค์ความรู้เหล่านั้นและเชื่อมโยงถึงปจั จุบัน จะไดเ้ กิดความภาคภูมิใจท่ีมีสายเลือด ไทย ซงึ่ เปน็ ชนชาตทิ ี่เจริญมาชา้ นานแล้ว 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 จุดประสงคท์ ่ัวไป เพื่อใหน้ ักเรียนมคี วามรู้ ทกั ษะ เจตคติทด่ี ตี ่อภูมิหลงั ทางประวตั ิศาสตร์ของชนชาตไิ ทย 2.2 จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพียง พุทธพิ ิสยั 1) บอกทีม่ าของคาวา่ ประวัตศิ าสตรไ์ ด้ 2) อธบิ ายความหมายของประวัติศาสตรไ์ ด้ 3) ระบเุ อกสารทางประวัติศาสตรไ์ ด้ 4) จาแนกสาขาของวชิ าประวตั ิศาสตร์ได้ 5) อธบิ ายความสาคญั ของประวตั ศิ าสตร์ 6) ระบุวธิ กี ารทางประวตั ศิ าสตรไ์ ด้ 7) จาแนกแนวคดิ เกย่ี วกบั ถ่ินกาเนดิ ของชนชาตไิ ด้ 8) อธิบายการพฒั นาชุมชนโบราณสมัยก่อนประวัติศาสตรใ์ นประเทศไทยได้ 9) สรปุ อาณาจักรโบราณในดินแดนประเทศไทยได้ 10) วเิ คราะหก์ ารพฒั นาแควน้ โบราณในประเทศไทยได้ ทกั ษะพสิ ัย 1) ศึกษาค้นคว้าวิธกี ารทางประวตั ศิ าสตร์และจัดทารายงานได้ 2) วเิ คราะห์แนวคดิ เกี่ยวกบั ถน่ิ กาเนดิ ของชนชาตไิ ทยและอภิปรายร่วมกนั ได้ 3) จัดทาแผนผังความคิดในหัวข้อ “อาณาจักรโบราณในดินแดนประเทศไทย” และ “การพัฒนาแคว้น โบราณในประเทศไทย” และนาเสนอหนา้ ชน้ั เรยี นได้ จิตพสิ ัย 1) มีเจตคติที่ดีต่อการศกึ ษาเรื่องภมู หิ ลงั ทางประวัติศาสตรข์ องชนชาติไทย 2) ตระหนกั ถงึ ความสาคญั ของวธิ ีการศึกษาประวัติศาสตร์ ตามหลกั การและกระบวนการ 3) แสดงออกถงึ ความรกั และหวงแหนผืนแผ่นดนิ ไทย
3. สมรรถนะ 1) แสดงความรู้ ความเข้าใจเร่ืองวิธีการศึกษาประวัติศาสตร์ ตามหลักการ และกระบวนการทาง ประวตั ศิ าสตร์ 2) นาความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับวิธีการศึกษาประวัติศาสตร์ ตามหลักการและกระบวนการทาง ประวัติศาสตร์ รวมถึงภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ของชนชาติไทยไปประยุกต์ใช้ เพ่ือการธารงความเป็น ไทยอย่างย่งั ยนื 3) แสดงความรู้และวธิ ีทางประวตั ศิ าสตร์ในการศึกษาการเมอื งการปกครอง และความเปน็ มาของชาติไทย 4. สาระการเรียนรู้ 1) ที่มาของคาว่าประวัติศาสตร์ 2) ความหมายของประวัติศาสตร์ 3) เอกสารทางประวตั ิศาสตร์ 4) สาขาวชิ าประวตั ิศาสตร์ 5) ความสาคัญของประวตั ิศาสตร์ 6) วธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ 7) แนวคดิ เกย่ี วกับถ่นิ กาเนิดของชนชาติไทย 8) การพฒั นาชุมชนโบราณสมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์ในประเทศไทย 9) อาณาจักรโบราณในดนิ แดนประเทศไทย 10) การพฒั นาแควน้ โบราณในประเทศไทย 5. กิจกรรมการเรยี นรู้ 5.1 ขน้ั นาเข้าสู่บทเรยี น 1) ครูสนทนากับนักเรียนถึงเจตคติที่มีต่อการศึกษาประวัติศาสตร์ไทยสมัยโบราณระดับมัธยมศึกษา ตอนตน้ 2) ครแู จง้ ผลการเรียนรู้ที่คาดหวังของหนว่ ยที่ 5 ให้นกั เรียนทราบ 3) ครูให้นกั เรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยท่ี 5 5.2 ขน้ั สอน 1) ครทู บทวนการเรยี นประวตั ิศาสตร์สมยั ระดับมัธยมศกึ ษาตอนตน้ ของนกั เรยี น และให้นกั เรียนแข่งขัน กันเขยี นชอ่ื ชนเผ่าไทยทนี่ กั เรียนรู้จักบนกระดาน 2) ครูสอนนักเรยี นโดยวิธอี ธิบายประกอบการยกตวั อย่างและถามคาถามนกั เรยี น โดยนักเรียนตอบทลี ะ คน เกยี่ วกบั หัวข้อประวัตศิ าสตร์ ดงั น้ี 2.1 ทม่ี าของคาวา่ ประวัติศาสตร์ 2.2 ความหมายของประวัติศาสตร์ 2.3 เอกสารทางประวตั ศิ าสตร์ 2.4 สาขาของวชิ าประวตั ิศาสตร์ 2.5 ความสาคัญของประวตั ิศาสตร์ 3) ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม ๆ ละ 4-5 คน จานวน 2 กลุ่ม ศึกษาค้นค้นวิธีการทางประวัติศาสตร์ตาม หลักการและกระบวนการ และจดั ทารายงานสง่ ครตู ามเวลาท่ีกาหนด
4) ครใู หน้ กั เรียนวิเคราะหแ์ นวคิดเกี่ยวกับถิ่นกาเนดิ ของชนชาติไทยและอภิปรายร่วมกัน 5) ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม ๆ ละ 4-5 คน จานวน 2 กลุ่ม จับฉลากหัวข้อและจัดทาแผนผังหัวข้อ “อาณาจักรโบราณในดินแดนประเทศไทย “กับ” การพัฒนาแคว้นโบราณในประเทศไทย” และ นาเสนอหนา้ ชัน้ เรียน 5.3 ขนั้ สรปุ 1) ครใู ห้นกั เรียนชว่ ยกันสรปุ บทเรยี น หน่วยท่ี 4 2) ครใู หน้ ักเรยี นร่วมกนั รอ้ งเพลง “ชนเผา่ ไทย” 6. สอ่ื การเรียนร้แู ละแหล่งการเรยี นรู้ 1) ภาพสมเด็จพระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดารงราชานุภาพ จานวน 1 ภาพ 2) ภาพเครอ่ื งมอื เครอื่ งใช้ของคนยุคหิน ยุคสารดิ และยคุ เหลก็ จานวน 4 ภาพ 3) ภาพอุทยานประวตั ิศาสตรส์ ุโขทัย พระธาตหุ รภิ ณุ ชัย เมอื งศรีเทพ จานวน 3 ภาพ 4) ภาพพระปรางค์สามยอด พระโพธิสัตวอ์ วโลกเิ ตศวร วดั พระธาตวุ รมหาวหิ าร จานวน 3 ภาพ 5) วทิ ยแุ ละเทปเพลง “ชนเผ่าไทย” จานวน 1 ชุด 6) หนงั สือพืน้ ฐานอารยธรรมไทย จานวน 1 เล่ม 7) หนงั สอื สยามอยยู่ ่งั ยนื ยง จานวน 1 เล่ม 7. การบรู ณาการเช่อื มโยง 1) สาระการเรยี นรู้ ภูมิหลังทางประวตั ิศาสตรข์ องชนชาติไทย 2) การบูรณาการ - วธิ ีการทางประวัตศิ าสตรบ์ ูรณาการกบั เศรษฐกิจพอเพยี ง 3 ห่วง 2 เงอ่ื นไข - ภมู หิ ลงั ทางประวตั ิศาสตร์ของชนชาติไทยกับเรอ่ื ง 3) กิจกรรม แลกเปลย่ี นความคดิ เห็น - ครูกับนักเรยี นแลกเปลีย่ นความคดิ เหน็ ในการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ - นักเรยี นกับนักเรยี นแลกเปลี่ยนความคิดเหน็ ในการจัดกจิ กรรมกลมุ่ การทางานเปน็ กล่มุ - การจัดทารายงาน การอภปิ รายกลมุ่ และการทาแผนผังความคดิ - การร้องเพลง “ชนเผ่าไทย” ร่วมกนั 8. การบรู ณาการเชอ่ื มโยง 1) แบบทดสอบก่อนเรยี น-หลงั เรยี น และครเู ฉลยหลังเรยี นจบ 2) การตอบคาถามของนกั เรียนในระหวา่ งเรียน 3) ผลการจดั ทารายงาน 4) ผลการอภิปราย 5) คณุ ภาพของแผนผงั ความคิด 6) การนาเสนอแผนผงั ความคิด 7) ผลจากการตอบใบงานที่ 1-2
8) การตอบคาถามทา้ ยหน่วยท่ี 5 ตอนที่ 1-3 9) การใหค้ วามรว่ มมือในการรอ้ งเพลง “ชนเผา่ ไทย” 10) พฤตกิ รรมความสนใจ ความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ 9. บันทกึ ผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1) ผลการจัดการเรียนรู้ของหน่วยท่ี 5 เรียบรอ้ ยดี เป็นที่น่าพึงพอใจ บรรลุผลตามผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวัง เป็นอย่างดี 2) นกั เรยี นมีพัฒนาการทง้ั ในดา้ นพุทธิพิสัย ทักษะพิสยั และจิตพิสัยไปพร้อม ๆ กัน ทาให้นักเรียนได้พัฒนา ดา้ นร่างกาย อารมณ์ สังคมและสติปญั ญา 10. ขอ้ เสนอแนะเพิม่ เตมิ 1) แหล่งวทิ ยาการจัดการควรเพมิ่ หนงั สอื และส่อื อิเลก็ ทรอนกิ ส์ทางด้านประวัตศิ าสตร์เพิ่มข้ึน 2) ครูควรปลกู ผงั ใหน้ กั เรยี นศกึ ษาวิธกี ารทางประวตั ศิ าสตรแ์ ละศึกษาประวตั ิศาสตร์ไทยให้เพ่ิมข้ึน
บันทึกหลังการสอน ผลการใช้แผนการสอน จดุ ประสงค์การสอน ������ มากเกินไป ������ นอ้ ยเกินไป เหมาะสม จานวนชั่วโมง ������ มากเกินไป ������ น้อยเกินไป เหมาะสม เนื้อหาสาระ/งาน สอดคลอ้ งกับจุดประสงค์ ������ ไม่สอดคล้องกบั จุดประสงค์ กิจกรรมการเรียนการสอน ������ ปฏิบัตได้ครบทกุ กิจกรรม ������ ปฏบิ ตั ดิ ไ้ มค่ รบทกุ กจิ กรรม กิจกรรมเหมาะสมกบั เนอื้ หา ������ กิจกรรมบางสว่ นไมเ่ หมาะสม ส่อื การสอน/อปุ กรณ์การสอน เหมาะสม ������ บางส่วนไมเ่ หมาะสม ปัญหา/แนวทางแก้ไข…………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ความสนใจ/ต้งั ใจเรียน มาก ������ ปานกลาง ������ นอ้ ย การซกั ถาม/ตอบคาถาม ������ มาก ปานกลาง ������ นอ้ ย การทากจิ กรรมเสรจ็ ตามเวลา มาก ������ ปานกลาง ������ น้อย การทาแบบทดสอบก่อนเรยี นไดค้ ะแนนเฉลย่ี ������ มาก ปานกลาง ������ นอ้ ย การทาแบบทดสอบหลังเรยี นได้คะแนนเฉล่ยี มาก ������ ปานกลาง ������ นอ้ ย ปญั หา/แนวทางแก้ไข…………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ผลการสอนของครู เนอื้ หาทส่ี อน ครบ ������ ไม่ครบถว้ น เวลาที่ใช้ในการสอน ������ มากเกินไป ตามเวลาท่กี าหนด ������ น้อยเกนิ ไป ปญั หา/แนวทางแกไ้ ข…………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื ………………………………………………ผู้สอน (นางสาววลิ าวัลย์ จินะ) ครพู ิเศษสอน
แผนการจัดการเรียนรู้แบบเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 6 วิชา ภูมศิ าสตรแ์ ละประวัตศิ าสตร์ไทย (2000-1503) สอนครง้ั ที่ 21-24 ชื่อหน่วย : ประวตั ิศาสตร์สมยั กรุงสโุ ขทยั เวลา 4 ชว่ั โมง 1. สาระสาคัญ สุโขทัย แปลว่า อรุณรุ่งแห่งความสุข มีพ่อขุนศรีอินทราทิตย์เป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์พระร่วง มี พระมหากษัตริย์รวม 9 พระองค์ แต่ละพระองค์นาความเจริญรุ่งเรืองมาสู่กรุงสุโขทัย แต่สมัยพ่อขุนรามคาแหง มหาราชทาให้อาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาลที่สุด สมัยกรงุ สุโขทัยปกครองแบบพ่อปกครองลูก เศรษฐกิจดี มีการค้าแบบ เสรี ไม่มีการเก็บภาษี ใช้เงินพดด้วง ประเทศคู่ค้าท่ีสาคัญ ได้แก่ จีน ญ่ีปุ่น อินเดีย เปอร์เซีย มลายูและอินโดนีเซีย ด้านสงั คมมชี นชั้น 6 ประเภท ด้านวัฒนธรรม มีเรื่องไตรภูมพิ ระรว่ ง มีประเพณีลอยกระทง เผาเทียนเล่นไฟเป็นคร้ัง แรก เริ่มมีอักษรไทยใช้ สมัยกรงุ สุโขทัยมีความสัมพันธ์กับอาณาจักรล้านนา มอญ ลังกาและจีน ด้านภูมิปัญญาไทย รเิ ร่ิมระบบชลประทาน ทานบพระรว่ ง ถนนพระรว่ งและตระพัง ทาเคร่อื งสงั คโลกเปน็ คร้ังแรก ต่อมากรงุ สุโขทัยเสอ่ื ม ทสี่ ุดสมัยพระมหาธรรมราชาท่ี 4 (บรมปาล) จึงถกู ผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกรุงศรีอยุธยา กรงุ สุโขทัยเป็นราชธานี รวม 189 ปี 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 จุดประสงคท์ ่วั ไป เพอื่ ให้นักเรยี นมคี วามรู้ ทักษะและเจตคติทีด่ ตี อ่ ประวตั ิศาสตรส์ มยั กรุงสุโขทัย 2.2 จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพียง พทุ ธพิ สิ ัย 1) อธิบายการสถาปนาอาณาจกั รกรุงสุโขทัยได้ 2) บอกปจั จัยที่เออื้ ตอ่ การสถาปนาอาณาจักรกรุงสุโขทัยได้ 3) ระบพุ ระนามของพระมหากษตั ริยข์ องอาณาจักรกรุงสโุ ขทยั ได้ 4) บอกลักษณะการเมืองการปกครองสมยั กรงุ สุโขทัยได้ 5) ระบุเศรษฐกิจสมยั กรุงสโุ ขทัยได้ 6) จาแนกสงั คมและวฒั นธรรมสมัยกรงุ สุโขทยั ได้ 7) บอกความสัมพันธก์ ับตา่ งประเทศสมัยกรงุ สโุ ขทยั ได้ 8) สรุปภูมปิ ัญญาไทยสมยั กรงุ สุโขทัยได้ 9) วเิ คราะหส์ าเหตกุ ารเส่ือมอานาจของสมยั กรงุ สุโขทยั ได้ ทักษะพสิ ัย 1) จัดทาส่อื อเิ ล็กทรอนกิ ส์ในหัวข้อ “สมัยกรุงสุโขทัยมอี ะไรดี” ได้ 2) ชแ้ี ละอธิบายแผนภมู แิ สดงการปกครองสมัยกรุงสุโขทัยได้ 3) ชปี้ ระกอบการอธบิ ายแผนที่แสดงอาณาจกั รกรุงสโุ ขทยั สมยั พ่อขนุ รามคาแหงมหาราชได้ จติ พสิ ัย 1) มเี จตคตทิ ี่ดตี อ่ ประวตั ิศาสตรส์ มยั กรงุ สโุ ขทัย 2) ตระหนกั ถึงพระปรีชาสามารถ ความกลา้ หาญและความเสียสละของพระมหากษตั ริยส์ มัยกรุงสโุ ขทัย ทีท่ รงสถาปนาอาณาจกั รกรุงสโุ ขทยั และสรา้ งความเจรญิ ใหก้ รงุ สุโขทัย
3) เกิดความภาคภมู ใิ จในบุรพกษตั ริยไ์ ทย ทีส่ ร้างชาตใิ หเ้ ปน็ ปึกแผน่ จนถงึ ปัจจุบนั นี้ 3. สมรรถนะ 1) แสดงความรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกับประวัติศาสตรส์ มัยกรุงสโุ ขทยั 2) นาความรู้ทางภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์สมยั กรุงสุโขทัยไปประยกุ ต์ใช้ เพื่อการดารงตนในงานอาชีพ และธารงความเปน็ ไทยอยา่ งย่งั ยืน 3) ธารงซ่ึงความเปน็ เอกลกั ษณข์ องชาตไิ ทย 4) แสดงความรแู้ ละประยุกต์ใช้ หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งในการดารงชวี ติ 4. สาระการเรียนรู้ 1) การสถาปนาอาณาจกั รกรุงสุโขทยั 2) ปจั จยั ที่เอือ้ ต่อการสถาปนาอาณาจักรกรงุ สโุ ขทยั 3) พระมหากษัตรยิ ข์ องอาณาจักรกรงุ สุโขทยั 4) การเมอื งการปกครองสมัยกรุงสโุ ขทัย 5) เศรษฐกิจสมัยกรงุ สุโขทัย 6) สังคมและวฒั นธรรมสมัยกรงุ สุโขทัย 7) ความสมั พันธก์ ับตา่ งประเทศสมยั กรุงสโุ ขทยั 8) ภมู ปิ ญั ญาไทยสมยั กรุงสโุ ขทยั 9) การเสื่อมอานาจของสมัยกรุงสุโขทยั 5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 5.1 ขนั้ นาเข้าสบู่ ทเรียน 1) ครูนาภาพประเพณกี ารลอยกระทงมาใหน้ ักเรยี นชม และถามถึงสมัยและพระมหากษัตริย์ไทยท่ีทรง ริเริม่ ประเพณดี ังกล่าว แลว้ ให้นักเรียนร้องเพลงลอยกระทงพร้อมกนั 2) ครแู จง้ ผลการเรยี นรทู้ คี่ าดหวังของหนว่ ยท่ี 6 ใหน้ กั เรียนทราบ 3) ครใู หน้ กั เรียนทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยที่ 6 5.2 ขน้ั สอน 1) ครูให้นักเรียนร่วมกนั ร้องเพลง “ในน้ามีปลา ในนามีข้าว” และให้นักเรียนสรปุ ภาพลักษณ์ที่ได้จาก เน้อื เพลง แลว้ ใหบ้ อกชื่อเมืองหลวงแห่งแรกของประเทศไทย 2) ครูอธิบายประกอบภาพพ่อขุนผาเมือง พ่อขุนศรอี ินทราทิตย์ ในหัวข้อ “การสถาปนาอาณาจักรกรุง สุโขทัย” 3) ครูให้นกั เรยี นบอกปัจจยั ท่เี อือ้ ต่อการสถาปนาอาณาจกั รกรุงสุโขทยั คนละ 1 ข้อ และสรุปร่วมกัน 4) ครูใหน้ ักเรียนศกึ ษาคน้ ควา้ พระนามของพระมหากษตั รยิ ส์ มัยกรุงสุโขทัย และพระราชประวตั ขิ องพ่อ ขนุ ศรีอนิ ทราทิตย์ และพอ่ ขนุ รามคาแหงมหาราช และจัดทาป้ายนเิ ทศหนา้ ชัน้ เรียน 5) ครูแจกแบบทดสอบและให้นักเรียนชมดีวีดีเรื่องประวัติศาสตร์สมัยกรุงสุโขทัย โดยให้นักเรียนหา คาตอบจากเรื่องที่ชม แลว้ ทาแบบทดสอบส่งครูท้ายชัว่ โมงเรียน 6) ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มๆละ 3-4 คน จานวน 2 กลมุ่ ศกึ ษาหาข้อมลู จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ แล้วจัดทา สือ่ อเิ ล็กทรอนิกสใ์ นหวั ข้อ “สมยั สโุ ขทยั มีอะไรดี” โดยกลุม่ ที่ 1 จัดทาหวั ขอ้ ต่อไปน้ี
6.1 การเมืองการปกครองสมยั กรงุ สุโขทัย 6.2 เศรษฐกิจสมยั กรงุ สุโขทัย 6.3 สงั คมและวฒั นธรรมสมัยกรงุ สุโขทยั ส่วนกลุ่มที่ 2 จัดทาหัวข้อตอ่ ไปนี้ 6.4 ความสมั พันธก์ ับตา่ งประเทศสมัยกรุงสุโขทยั 6.5 ภูมิปญั ญาไทยสมยั กรงุ สโุ ขทยั 6.6 การเสือ่ มอานาจของสมยั กรุงสโุ ขทัย 7) ครูให้นกั เรียน 1 คนช้แี ละอธิบายแผนภมู ิแสดงการปกครองสมยั กรุงสโุ ขทัย 8) ครใู ห้นกั เรยี น 1 คนชี้ประกอบการอธิบายแผนท่ีแสดงอาณาจกั รกรุงสโุ ขทัยสมัยพอ่ ขุนรามคาแหง มหาราช 9) ครใู หน้ ักเรยี นจัดทาแผนผังความคดิ หน่วยท่ี 6 10)ครูให้นักเรยี นแสดงความรู้สกึ ทีม่ ตี อ่ การปกครองสมยั กรงุ สโุ ขทยั แบบบดิ าปกครองบตุ ร ราษฎร ผ้ใู ดเดอื ดร้อน ก็ใหม้ าเคาะกระดิ่งหน้าประตวู ัง และการค้าแบบเสรีท่ีว่า “ใครใคร่คา้ ช้างค้า ใครใคร่ คา้ ม้าค้า คา้ เงอื นค้าทองคา้ พอ่ เมืองบ่เอาจกอบ...” 11)ครใู หน้ ักเรยี นบอกถงึ พฤติกรรมทแี่ สดงออกวา่ รักชาตไิ ทย และวธิ ตี อบแทนคุณของแผน่ ดนิ คน ละ 1 ข้อ 5.3 ขนั้ สรปุ 1) ครูให้นกั เรียนสรปุ บทเรียนจากแผนผงั ความคดิ 2) ครใู ห้นักเรยี นอา่ นบทสรุปจากหนังสือเรยี น หน้า 147 พร้อมกนั 6. สอ่ื การเรียนรู้และแหลง่ การเรยี นรู้ 1) ภาพประเพณกี ารลอยกระทง จานวน 1 ภาพ 2) ภาพพระมหากษัตริยอ์ งคส์ าคญั สมัยกรงุ สโุ ขทยั จานวน 3 ภาพ 3) แผนภูมิแสดงการปกครองสมยั กรงุ สโุ ขทัย จานวน 1 แผ่น 4) แผนท่ีแสดงอาณาจกั รกรุงสุโขทยั สมัยพอ่ ขุนรามคาแหงมหาราช จานวน 1 แผน่ 5) หนังสอื ประวตั ิศาสตรส์ มยั กรงุ สโุ ขทยั 6) หนังสอื หลกั ไทย ของขุนวิจิตรมาตรา (สงา่ กาญจนาคพันธ)ุ์ จานวน 1 เล่ม 7) ดีวีดีเรื่องประวตั ิศาสตร์สมัยกรงุ สโุ ขทัย จานวน 1 มว้ น 8) เพลงในนา้ มปี ลา ในนามขี ้าว จานวน 1 เพลง 9) สมัยกรุงสุโขทยั - allknowledges.tripod.com/sukhothai.html 10) ประวตั ิพ่อขนุ รามคาแหงมหาราช-http://www.info.ru.ac.th 11) ประวตั ิศาสตรก์ ารปกครองของไทยสมยั สุโขทัย-สมัยรตั นโกสนิ ทร์ -www.dapa.go.th/history/nolith.htm 7. การบูรณาการเชื่อมโยง 1) สาระการเรียนรู้ เศรษฐกิจสมยั กรุงสุโขทยั 2) การบูรณาการ
เศรษฐกิจสมัยกรุงสุโขทัย สมัยพ่อขุนรามคาแหงมหาราชทรงริเร่ิมระบบชลประทาน ทานบพระร่วง ตระพัง ถนนพระร่วงและการวางผังเมือง ซ่ึงเป็นรากฐานสาคัญของระบบชลประทาน การสร้างเขื่อน ฝายก้ันน้า เส้นทางคมนาคมและการวางผังเมืองอย่างเป็นระบบในปัจจุบัน และทรงริเริ่มการทาเคร่ือง สังคโลก ซ่ึงวิวฒั นาการเป็นเคร่ืองป้ันดินเผาและเคร่ืองเซรามิกในปัจจุบัน นอกจากน้ี ในด้านเศรษฐกิจ สมัยกรงุ สุโขทัยเปน็ แบบยังชพี ตามหลักเศรษฐกจิ พอเพยี งในปัจจุบัน 3) กิจกรรม แลกเปลย่ี นความคิดเห็น - นักเรียนแลกเปลีย่ นความคดิ เห็นในกลมุ่ เพ่ือทากิจกรรมกลุ่ม - ครูกบั นักเรียนแลกเปล่ียนความคดิ เหน็ กนั หรอื นกั เรยี นขอคาปรึกษาจากครู เพ่ือทากิจกรรมสร้างสรรค์ การทางานเป็นกลุม่ - นักเรียนร้องเพลงลอยกระทง และเพลงในนา้ มปี ลา ในนามีข้าว - นกั เรียนจัดทาสอ่ื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ - นกั เรียนจัดทาแผนผังความคดิ 8. การวัดและการประเมินผล 1) แบบทดสอบก่อนเรยี น-หลงั เรียน และครูเฉลยหลงั เรยี นจบ 2) การตอบคาถามของนกั เรยี นในระหวา่ งเรียน 3) ใหค้ วามร่วมมอื ในการร้องเพลงตา่ งๆ 4) ผลงานการจัดทาสื่ออิเลก็ ทรอนิกส์ 5) คุณภาพของแผนผงั ความคดิ 6) การตอบใบงานท่ี 1-2 7) การตอบคาถามท้ายหนว่ ยที่ 6 ตอนท่ี 1-3 8) พฤติกรรมความเอาใจใส่ การตรงตอ่ เวลาและความรบั ผิดชอบ 9. บนั ทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1) ผลการจัดการเรียนรู้ของหน่วยที่ 6 ได้ผลดีเกินคาดและบรรลุผลตามผลการเรียนรู้ที่คาดหวังไว้ทุก ประการ 2) นักเรียนมีความรู้ ทักษะและเจตคติท่ีดีต่อประวัติศาสตร์สมัยกรุงสโุ ขทัย และภาคภูมิใจท่ีเกิดมาเป็นคน ไทย เพราะมีพระมหากษตั ริยท์ รี่ กั และเสยี สละเพ่อื พสกนิกรของพระองค์ 10. ขอ้ เสนอแนะเพมิ่ เตมิ 1) ควรนานักเรียนไปทศั นศึกษาอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย มรดกโลก เมืองศรีสชั นาลัย พพิ ิธภณั ฑสถาน สโุ ขทัย และชมสนิ ค้าหน่งึ ตาบลหนง่ึ ผลติ ภณั ฑ์ของจังหวัดสโุ ขทยั 2) ควรให้นักเรียนศึกษาและสืบค้นข้อมูลสาระน่ารู้ เด็กควรรู้เก่ียวกับประวัติศาสตร์สมัยกรุงสุโขทัย และ จังหวดั สุโขทยั จากแหล่งการเรียนรตู้ ่างๆเพม่ิ เตมิ
บันทึกหลังการสอน ผลการใช้แผนการสอน จุดประสงค์การสอน ������ มากเกินไป ������ นอ้ ยเกินไป เหมาะสม จานวนช่ัวโมง ������ มากเกินไป ������ น้อยเกินไป เหมาะสม เนื้อหาสาระ/งาน สอดคลอ้ งกับจุดประสงค์ ������ ไม่สอดคล้องกบั จุดประสงค์ กิจกรรมการเรียนการสอน ������ ปฏิบัตได้ครบทกุ กิจกรรม ������ ปฏบิ ตั ดิ ไ้ มค่ รบทกุ กจิ กรรม กิจกรรมเหมาะสมกบั เนอื้ หา ������ กิจกรรมบางสว่ นไมเ่ หมาะสม สอ่ื การสอน/อุปกรณ์การสอน เหมาะสม ������ บางส่วนไมเ่ หมาะสม ปัญหา/แนวทางแก้ไข…………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ความสนใจ/ตัง้ ใจเรียน มาก ������ ปานกลาง ������ นอ้ ย การซกั ถาม/ตอบคาถาม ������ มาก ปานกลาง ������ นอ้ ย การทากจิ กรรมเสรจ็ ตามเวลา มาก ������ ปานกลาง ������ น้อย การทาแบบทดสอบก่อนเรยี นไดค้ ะแนนเฉลย่ี ������ มาก ปานกลาง ������ นอ้ ย การทาแบบทดสอบหลังเรยี นได้คะแนนเฉล่ยี มาก ������ ปานกลาง ������ นอ้ ย ปญั หา/แนวทางแก้ไข…………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ผลการสอนของครู เนอื้ หาท่ีสอน ครบ ������ ไม่ครบถว้ น เวลาที่ใชใ้ นการสอน ������ มากเกินไป ตามเวลาท่กี าหนด ������ น้อยเกนิ ไป ปญั หา/แนวทางแกไ้ ข…………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื ………………………………………………ผู้สอน (นางสาววลิ าวัลย์ จินะ) ครพู ิเศษสอน
แผนการจดั การเรียนรู้แบบเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 7 วิชา ภมู ศิ าสตรแ์ ละประวตั ิศาสตร์ไทย (2000-1503) สอนครง้ั ท่ี 25-28 ชื่อหนว่ ย : ประวตั ศิ าสตร์สมยั กรงุ ศรีอยธุ ยา เวลา 4 ชวั่ โมง 1. สาระสาคัญ สมัยกรุงศรีอยุธยา มีสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 หรือพระเจ้าอู่ทองเป็นปฐมกษัตริย์ มีพระมหากษัตริย์ 5 ราชวงศ์ รวม 34 พระองค์ ทุกพระองค์นาความเจริญมาสู่ประเทศนานถึง 417 ปี สมัยกรุงศรีอยุธยาปกครองแบบ จตุสดมภ์ ด้านเศรษฐกิจ อาชพี หลักคอื เกษตรกรรม อุตสาหกรรมพน้ื บา้ น และพาณิชยกรรม ประเทศคคู่ ้าหลกั คอื จีน ญี่ปุ่น โปรตุเกส สเปน ฮอลันดา และอังกฤษ ด้านสังคมใช้ระบบศักดินา ศิลปวัฒนธรรมมีหลากหลาย ด้าน ความสมั พันธ์กับต่างประเทศ ส่วนใหญ่ทาศึกกับพม่าและเขมร มีการเปิดการค้ากับชาติตะวันตก ซ่ึงชาติตะวันตกมุ่ง เข้ามาเพ่ือการค้า และการเผยแผ่ศาสนาคริสต์ สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ประเทศฝร่ังเศสส่งราชทูตมาเฝ้าฯ และพระองคไ์ ด้ส่งพระวิสูตรสนุ ทรไปเจรญิ สัมพันธไมตรี เม่ือกรุงศรอี ยุธยาเจริญมาถึงปี พ.ศ. 2112 สมยั สมเด็จพระ มหนิ ทราธิราชก็ต้องเสยี กรงุ ศรีอยุธยา ครั้งที่ 1 แก่พม่า แต่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงกอบกเู้ อกราชไวไ้ ด้ จนในปี พ.ศ. 2310 ต้องเสียกรุงศรอี ยุธยา ครั้งท่ี 2 แก่พม่า สมยั พระเจา้ เอกทศั น์ แตส่ มเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชก็ทรงกู้ไว้ ได้ 2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 จดุ ประสงคท์ ั่วไป เพื่อให้นกั เรียนมีความรู้ ทกั ษะ เจตคติที่ดีตอ่ ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์สมัยกรุงศรีอยธุ ยา 2.2 จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง พทุ ธิพสิ ัย 1) อธิบายการสถาปนาอาณาจักรกรงุ ศรีอยุธยาได้ 2) สรุปปจั จัยท่ีเอือ้ ตอ่ การสถาปนาอาณาจกั รกรงุ ศรีอยธุ ยาได้ 3) เลา่ พระราชประวัตแิ ละพระราชกรณียกิจ ของพระมหากษตั รยิ อ์ งค์สาคัญสมัยกรงุ ศรีอยธุ ยาได้ 4) อธบิ ายลกั ษณะการเมืองการปกครองสมัยกรงุ ศรอี ยุธยาได้ 5) จาแนกเศรษฐกิจสมัยกรุงศรอี ยุธยาได้ 6) สรปุ ลักษณะสังคมและวฒั นธรรมสมัยกรงุ ศรีอยุธยาได้ 7) จาแนกความสมั พนั ธก์ ับตา่ งประเทศสมยั กรุงศรีอยธุ ยาได้ 8) ระบภุ มู ิปัญญาไทยสมยั กรุงศรอี ยธุ ยาได้ 9) สรุปสาเหตขุ องความเส่ือมอานาจสมัยกรงุ ศรอี ยธุ ยาได้ ทักษะพิสัย 1) จัดทาแผน่ พับได้ 2) อภิปรายหลังจากชมวดี ที ศั น์ได้ 3) จดั ทาป้ายนิเทศตามหัวขอ้ ท่กี าหนดได้ 4) ชีอ้ าณาเขตและทตี่ ้ังเมอื งหลวง สมัยกรงุ ศรีอยธุ ยาบนแผนทีท่ ่กี าหนดให้ได้ จิตพิสัย 1) มเี จตคตทิ ี่ดีต่อประวตั ิศาสตร์สมัยกรุงศรอี ยธุ ยา
2) ตระหนักถึงพระปรีชาสามารถของพระมหากษัตริย์ และความรักชาติ เสียสละของบรรพชนสมยั กรุง ศรีอยุธยาทปี่ ้องกันประเทศ ให้เปน็ เอกราชตราบจนทกุ วันนไี้ ด้ 3) สานึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ และสานึกในพระคุณของบรรพชนสมัยกรุงศรี อยุธยาท่รี ักษาบา้ นเมืองไวไ้ ด้ และตอบแทนคณุ ด้วยการเป็นคนดี 3. สมรรถนะ 1) แสดงความรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั ประวัติศาสตร์สมัยกรงุ ศรอี ยธุ ยา 2) นาความรู้ทางภูมิศาสตร์ และประวัติศาสตร์สมัยกรงุ ศรีอยุธยา เพื่อการดารงตนในงานอาชีพ และธารง ความเปน็ ไทยอยา่ งย่งั ยนื 3) ธารงซงึ่ ความเป็นเอกลักษณ์ของชาติไทย 4) แสดงความรแู้ ละประยกุ ต์ใช้ หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งในการดารงชีวิต 4. สาระการเรยี นรู้ 1) การสถาปนาอาณาจักรกรุงศรีอยุธยา 2) ปัจจัยท่ีเออื้ ต่อการสถาปนาอาณาจักรกรงุ ศรีอยุธยา 3) พระมหากษตั รยิ ์สมยั กรงุ ศรีอยธุ ยา 4) พระมหากษตั ริย์องค์สาคัญแหง่ กรงุ ศรอี ยุธยา 5) การเมืองการปกครองสมัยกรุงศรีอยธุ ยา 6) เศรษฐกจิ สมยั กรุงศรอี ยุธยา 7) สังคมและวฒั นธรรมสมัยกรงุ ศรีอยุธยา 8) ความสัมพนั ธ์กับตา่ งประเทศสมัยกรุงศรอี ยธุ ยา 9) ภมู ปิ ญั ญาไทยสมัยกรุงศรอี ยุธยา 10) ความเส่ือมอานาจของสมัยกรงุ ศรอี ยุธยา 5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 5.1 ขั้นนาเขา้ สบู่ ทเรียน 1) ครูสอบถามนักเรียนวา่ ใครเคยไปเท่ยี วจงั หวดั พระนครศรอี ยุธยาบ้าง ถ้าเคยๆไปเท่ยี วทใี่ ดบา้ ง 2) ครูนาภาพสถานที่ท่องเที่ยวสาคัญ ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยามาให้นักเรียนชม และให้นักเรียน แข่งขันกนั ทายชื่อสถานทส่ี าคญั เหลา่ นน้ั 3) ครูแจง้ ผลการเรยี นรู้ท่ีคาดหวงั ของหน่วยท่ี 7 ใหน้ กั เรยี นทราบ 4) ครูใหน้ กั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยท่ี 7 5.2 ขน้ั สอน 1) ครูใหน้ ักเรียนรว่ มกันรอ้ งเพลง “อยธุ ยาเมอื งเก่า” และใหน้ ักเรียนบอกอัตลักษณ์ของอยธุ ยาทไ่ี ด้จาก เนือ้ เพลงนั้น 2) ครูอธิบายประกอบการซักถามนักเรยี น ถึงท่ีมาของอาณาจกั รกรุงศรีอยธุ ยา และการสถาปนากรุงศรี อยธุ ยา 3) ครใู หน้ ักเรียนช่วยกนั ระดมสมอง บอกปัจจยั ท่ีเอือ้ ต่อการสถาปนาอาณาจกั รกรงุ ศรอี ยธุ ยา คนละ 1 ขอ้ และสรปุ บนกระดาน
4) ครูให้นักเรียนบอกชื่อราชวงศ์ และพระนามของพระมหากษัตริย์สมัยกรุงศรีอยุธยา และครูอธิบาย หน้า 157-158 5) ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มๆละ 2 คน ศึกษาและสืบค้นข้อมูลจากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ เก่ียวกับพระ ราชประวัติ และพระราชกรณียกิจที่สาคัญ กลุม่ ละ 2 พระองค์และจัดทาแผ่นพับ เสนอครูตามเวลา ที่กาหนด 6) ครูให้นักเรียนชมวีดีทัศน์ เร่ืองสมเด็จพระนเรศวรมหาราชกระทายุทธหัตถีกับพระมหาอุปราช กับ เรอ่ื งพระศรสี ุริโยทยั แลว้ อภปิ รายรว่ มกัน 7) ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม ๆ ละ 4-5 คน จับฉลากหัวข้อและให้ไปสืบค้นข้อมูลจากแหล่งการเรียนรู้ ตา่ งๆ แล้วจัดทาปา้ ยนิเทศ ประกอบด้วย เน้อื หา ภาพประกอบ และแผนท่ี ดงั หวั ข้อตอ่ ไปนี้ 7.1 การเมอื งการปกครองสมัยกรงุ ศรีอยุธยา 7.2 เศรษฐกจิ สมัยกรงุ ศรีอยธุ ยา 7.3 สงั คมและวฒั นธรรมสมยั กรงุ ศรีอยธุ ยา 7.4 ความสมั พนั ธก์ บั ตา่ งประเทศสมัยกรงุ ศรอี ยุธยา 7.5 ภมู ิปญั ญาไทยสมัยกรุงศรอี ยธุ ยา 7.6 ความเสื่อมอานาจของสมัยกรงุ ศรีอยุธยา 8) ครูให้นักเรยี นเปรยี บเทียบขนาดของอาณาเขต ระบบเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม ความสัมพันธ์ กับตา่ งประเทศ และภมู ิปญั ญาไทยสมยั กรุงศรีอยธุ ยากับสมยั ปจั จุบัน 9) ครูให้นักเรียนบอกความรู้สึกที่มีต่อบุรพกษัตริย์ และชาวไทยที่สละชีวิตเพื่อรักษาผืนแผ่นดินไทย พร้อมท้ังให้บอกวิธีตอบแทนพระคุณคนละ 1 อย่าง 10) ครูให้นักเรียนบอกชื่อประเทศ ที่เคยมคี วามสัมพนั ธ์กันมาตงั้ แต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และปจั จุบันเป็น ประเทศสมาชิกประชาคมอาเซยี น คนละ 1 ประเทศ 11) ครใู ห้นักเรียนวเิ คราะหส์ าเหตุ ของความเส่ือมอานาจสมยั กรุงศรอี ยุธยาบนกระดาน และบอกสาเหตุ ที่ไทยสามารถกอบกเู้ อกราชได้ จากการเสียกรงุ ศรีอยธุ ยาทงั้ 2 คร้งั 12) ครูให้นักเรียนบอกถึงเอกลักษณ์ของไทย และวิธีการรักษาเอกลักษณ์น้ัน คนละ 1 ข้อ และสรุป ร่วมกัน 5.3 ขน้ั สรปุ 1) ครใู ห้นกั เรยี นอา่ นบทสรุปจากหนงั สือเรียน หน้า 184 พรอ้ มกนั 2) ครูให้นกั เรียนสลบั กนั ถาม-ตอบกับเพอ่ื น ใครตอบถกู ได้ 1 คะแนน 6. ส่ือการเรียนรแู้ ละแหล่งการเรียนรู้ 1) ภาพ สาทิสลักษณ์ ของพระมหากษัตริย์สมัยกรุงศรีอยุธยา และสถานที่สาคัญ ของจังหวัด พระนครศรอี ยธุ ยา จานวน 10 ภาพ 2) เพลงอยุธยาเมืองเก่า จานวน 1 แผน่ 3) หนงั สอื ท่องเท่ยี วภาคกลาง ของการท่องเทย่ี วแหง่ ประเทศไทย จานวน 1 เลม่ 4) หนงั สือประวตั ศิ าสตร์สมยั กรงุ ศรอี ยธุ ยา จานวน 1 เลม่ 5) หนงั สือหลกั ไทย ของขนุ วจิ ิตรมาตรา (สงา่ กาญจนาคพนั ธ)์ุ จานวน 1 เล่ม 6) วดี ีทัศน์ เรือ่ งสมเดจ็ พระนเรศวรมหาราชทรงทายทุ ธหัตถกี ับพระมหาอปุ ราช และเรอ่ื งพระศรสี รุ ิโยทยั
7) สมัยกรงุ ศรีอยธุ ยา- allknowledges.tripod.com/ayutthaya.html 8) รอบรเู้ ร่ืองกรงุ ศรอี ยุธยา-www.geocities.com/issarety 7. การบูรณาการเชื่อมโยง 1) สาระการเรยี นรู้ ความสัมพันธก์ บั ต่างประเทศสมยั กรงุ ศรอี ยธุ ยา 2) การบรู ณาการ ความสมั พันธ์กับตา่ งประเทศสมัยกรุงศรีอยุธยา ส่วนใหญ่ทาศกึ ระหว่างไทย-พม่า ไทย-เขมร ปัจจุบนั เป็น ประเทศสมาชกิ ประชาคมอาเซียน และเปล่ยี นสนามรบเป็นสนามการค้า ส่วนความสัมพันธ์กับประเทศ ในเอเชีย เช่น จีนและญี่ปุ่น ปัจจุบันกระชับความสัมพันธ์ยิ่งข้ึน ส่วนประเทศในยุโรป เช่น โปรตุเกส สเปน และฮอลนั ดา ความสมั พนั ธท์ างการทูตแนน่ แฟน้ เพิม่ ขึ้น และหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ก็ เป็นท่ียอมรับของนานาประเทศ 3) กจิ กรรม แลกเปลีย่ นความคดิ เห็น - นักเรยี นแลกเปล่ยี นความคิดเหน็ กนั ในกลุม่ และระหวา่ งกล่มุ - ครกู ับนกั เรยี นแลกเปลี่ยนความคดิ เหน็ กนั ในการจดั การเรยี นรู้ และการทากจิ กรรมกลุม่ การทางานเป็นกล่มุ - การรอ้ งเพลงรว่ มกัน - การอภปิ ราย - การจัดทาปา้ ยนเิ ทศ 8. การวดั และการประเมินผล 1) แบบทดสอบกอ่ นเรียน-หลงั เรยี น และครูเฉลยหลงั เรยี นจบ 2) การตอบคาถามของนกั เรยี นระหวา่ งเรยี น 3) การให้ความร่วมมอื ในการร้องเพลง และจัดทากจิ กรรมกลมุ่ 4) ผลการอภปิ ราย 5) คุณภาพของการจดั ปา้ ยนเิ ทศ 6) การตอบใบงานที่ 1-2 7) การตอบคาถามท้ายหน่วยที่ 7 ตอนท่ี 1-3 8) พฤตกิ รรมความขยนั ความอดทน และความคิดริเริม่ สรา้ งสรรค์ 9. บนั ทกึ ผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ 1) ผลการจดั การเรยี นรู้ของหน่วยท่ี 7 เรียบรอ้ ยดี และบรรลผุ ลการเรยี นรู้ทีค่ าดหวังไว้ทุกประการ 2) นกั เรียนมีความรู้ ทกั ษะและเจตคติที่ดตี อ่ การเรียนรู้ เร่ืองประวตั ศิ าสตร์สมัยกรงุ ศรอี ยุธยา และสานึกใน พระมหากรณุ าธคิ ณุ ของพระมหากษตั รยิ ส์ มยั กรุงศรีอยธุ ยาทกุ พระองค์ ท่ีรักษาผืนแผน่ ดินไว้ให้ลูกหลาน และจะรักษาสืบไป 10. ขอ้ เสนอแนะเพมิ่ เติม 1) ควรนานักเรียนไปทัศนศึกษาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพ่ือชมสถานท่ีสาคัญ เช่น ศูนย์ศึกษา ประวัติศาสตร์อยุธยา พระราชนุสาวรยี ์สมเด็จพระศรีสุริโยทัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา
พระราชวังบางปะอนิ ศูนย์ศลิ ปาชีพบางไทร วัดใหญ่ไชยมงคล วัดมงคลบพิตร และซ้อื สินค้าโอท็อปของ จงั หวดั แลว้ กลับมาสรปุ ความรู้และความประทับใจในช้นั เรยี น 2) นกั เรียนควรศึกษาคน้ ควา้ และสืบค้นข้อมลู สาระนา่ รู้ เด็กควรรูเ้ กี่ยวกับประวัตศิ าสตร์สมัยกรุงศรอี ยธุ ยา และจงั หวัดพระนครศรีอยธุ ยา จากแหล่งการเรยี นรตู้ ่างๆเพ่มิ เติม เพือ่ จะนามาเผยแพร่
บันทึกหลังการสอน ผลการใช้แผนการสอน จดุ ประสงค์การสอน ������ มากเกินไป ������ นอ้ ยเกินไป เหมาะสม จานวนชั่วโมง ������ มากเกินไป ������ น้อยเกินไป เหมาะสม เนื้อหาสาระ/งาน สอดคลอ้ งกับจุดประสงค์ ������ ไม่สอดคลอ้ งกบั จุดประสงค์ กิจกรรมการเรียนการสอน ������ ปฏิบัตได้ครบทกุ กิจกรรม ������ ปฏบิ ตั ดิ ้ไม่ครบทกุ กจิ กรรม กิจกรรมเหมาะสมกบั เนอื้ หา ������ กิจกรรมบางสว่ นไมเ่ หมาะสม ส่อื การสอน/อุปกรณก์ ารสอน เหมาะสม ������ บางส่วนไม่เหมาะสม ปัญหา/แนวทางแกไ้ ข…………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ความสนใจ/ต้งั ใจเรียน มาก ������ ปานกลาง ������ นอ้ ย การซกั ถาม/ตอบคาถาม ������ มาก ปานกลาง ������ นอ้ ย การทากจิ กรรมเสร็จตามเวลา มาก ������ ปานกลาง ������ น้อย การทาแบบทดสอบก่อนเรียนไดค้ ะแนนเฉลย่ี ������ มาก ปานกลาง ������ นอ้ ย การทาแบบทดสอบหลังเรยี นได้คะแนนเฉล่ยี มาก ������ ปานกลาง ������ นอ้ ย ปญั หา/แนวทางแกไ้ ข…………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ผลการสอนของครู เนอื้ หาทส่ี อน ครบ ������ ไม่ครบถว้ น เวลาที่ใช้ในการสอน ������ มากเกินไป ตามเวลาท่กี าหนด ������ น้อยเกนิ ไป ปญั หา/แนวทางแก้ไข…………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื ………………………………………………ผูส้ อน (นางสาววลิ าวัลย์ จินะ) ครพู ิเศษสอน
แผนการจดั การเรยี นรู้แบบเน้นสมรรถนะ หน่วยท่ี 8 วิชา ภมู ิศาสตร์และประวตั ิศาสตรไ์ ทย (2000-1503) สอนครง้ั ที่ 29-30 ชื่อหน่วย : ประวัตศิ าสตร์สมยั กรงุ ธนบรุ ี เวลา 2 ชั่วโมง 1. สาระสาคญั สมเด็จพระเจ้าตากสนิ มหาราชทรงกอบกู้อสิ รภาพ จากการเสียกรงุ ศรีอยุธยา ครง้ั ท่ี 2 และปราบดาภิเษกข้ึน เป็นกษัตริย์ สร้างกรงุ ธนบุรีเป็นราชธานี ทรงฟ้ืนฟูประเทศจากสงคราม ทรงปกครองเหมือนสมัยกรุงศรีอยุธยา โดย แบ่งออกเป็นการปกครองส่วนกลาง และการปกครองส่วนท้องถ่ิน ด้านเศรษฐกิจทรงแก้ปัญหาเศรษฐกิจตกต่าอย่าง รุนแรง ส่วนด้านสังคม มีชนชั้น 3 กลุ่ม คือ ชนชั้นปกครอง ชนชั้นถูกปกครอง และชนชั้นพเิ ศษใชร้ ะบบศักดนิ า ด้าน วัฒนธรรมทรงปฏิสังขรณ์วัดอรณุ ราชวราราม และทรงพระราชนิพนธ์รามเกียรต์ิ 4 ตอน ส่วนด้านความสัมพันธ์กับ ต่างประเทศ ทาสงครามกับพมา่ ถึง 10 ครัง้ และเจรญิ สัมพันธไมตรีกบั ฮอลนั ดา อังกฤษ และโปรตเุ กส ด้านภูมิปญั ญา ไทยมีไม่มากนัก เพราะบ้านเมืองไม่สงบ ความเสื่อมอานาจของสมัยกรุงธนบุรี เกิดจากกบฏพระยาสรรค์ จนสมเด็จ พระยามหากษตั รยิ ศ์ ึกทรงปราบดาภเิ ษก เป็นพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราช ต้นราชวงศ์จกั รี 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 จุดประสงค์ท่ัวไป เพื่อให้นกั เรียนมีความรู้ ทกั ษะ เจตคตทิ ่ีดีตอ่ ประวัติศาสตร์สมยั กรุงธนบุรี 2.2 จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม/บรู ณาการเศรษฐกจิ พอเพียง พทุ ธิพิสัย 1) อธิบายการสถาปนาอาณาจักรกรงุ ธนบุรีได้ 2) เล่าพระราชประวตั ิและพระราชกรณยี กจิ ของสมเด็จพระเจา้ ตากสนิ มหาราชได้ 3) อธิบายลกั ษณะการเมืองการปกครองสมัยกรุงธนบุรีได้ 4) จาแนกเศรษฐกิจสมยั กรงุ ธนบรุ ีได้ 5) สรปุ ลกั ษณะสังคมและวัฒนธรรมสมัยกรงุ ธนบุรีได้ 6) จาแนกความสัมพนั ธ์กับตา่ งประเทศสมยั กรุงธนบุรีได้ 7) ระบภุ มู ปิ ญั ญาไทยสมัยกรงุ ธนบุรีได้ 8) วิเคราะหส์ าเหตุของความเสื่อมอานาจสมัยกรุงธนบุรีได้ ทกั ษะพสิ ยั 1) จัดทาแผนผังความคดิ ได้ 2) ไปทศั นศกึ ษากรงุ ธนบุรี ชมสถานที่สาคญั สมัยกรุงธนบุรีได้ 3) แขง่ ขนั กันเล่าพระราชประวัตแิ ละพระราชกรณยี กิจ ของสมเดจ็ พระเจา้ ตากสินมหาราชได้ 4) ทาแบบทดสอบหลังชมวดี ีทัศน์เร่ืองสมเดจ็ พระเจ้าตากสินมหาราช 5) นาหลกั เศรษฐกิจพอเพียงไปใชใ้ นชีวิตประจาวันได้ จติ พิสัย 1) มีเจตคติทดี่ ตี อ่ ประวตั ศิ าสตร์สมยั กรงุ ธนบุรี 2) ตระหนักถึงความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว และความรักชาติ ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และ ความเสียสละของบรรพชนทีต่ อ่ สู้กับอรริ าชศัตรู ทาใหม้ แี ผน่ ดินอยจู่ นถงึ ปัจจุบนั
3. สมรรถนะ 1) แสดงความรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกบั ประวัติศาสตร์สมัยกรงุ ธนบุรี 2) นาความรู้ทางภมู ิศาสตร์ และประวัติศาสตร์สมยั กรุงธนบรุ ี เพือ่ การดารงตนในงานอาชีพ และธารงความ เปน็ ไทยอยา่ งยั่งยืน 3) ธารงซ่งึ ความเป็นเอกลักษณ์ของชาตไิ ทย 4) แสดงความรแู้ ละประยกุ ตใ์ ช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการดารงชวี ิต 4. สาระการเรียนรู้ 1) การสถาปนาอาณาจกั รกรงุ ธนบรุ ี 2) พระมหากษตั รยิ ส์ มัยกรุงธนบรุ ี 3) การเมอื งการปกครองสมยั กรงุ ธนบุรี 4) เศรษฐกจิ สมัยกรุงธนบุรี 5) สงั คมและวัฒนธรรมสมยั กรงุ ธนบุรี 6) ความสมั พนั ธ์ระหว่างประเทศสมัยกรุงธนบรุ ี 7) ภมู ปิ ญั ญาไทยสมัยกรงุ ธนบรุ ี 8) ความเส่อื มอานาจของสมยั กรงุ ธนบรุ ี 5. กิจกรรมการเรยี นรู้ 5.1 ข้ันนาเขา้ ส่บู ทเรยี น 1) ครูนาภาพพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วัดอรุณราชวราราม และวัด ระฆงั โฆษิตารามมาใหน้ ักเรียนชม และให้บอกชือ่ สถานทน่ี ้ันๆ 2) ครแู จง้ ผลการเรยี นรทู้ ี่คาดหวังของหนว่ ยท่ี 8 ให้นกั เรยี นทราบ 3) ครใู หน้ ักเรียนทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยที่ 8 5.2 ขนั้ สอน 1) ครใู หน้ กั เรยี นอธบิ ายสาเหตุของการสถาปนาอาณาจกั รกรงุ ธนบรุ ี 2) ครใู หน้ ักเรยี นระดมถงึ สาเหตทุ ่ี สมเด็จพระเจา้ ตากสินมหาราชทรงย้ายเมอื งหลวง จากกรุงศรีอยธุ ยา มาอยู่ที่กรุงธนบรุ ี แล้วเขียนสรุปเปน็ ขอ้ ๆบนกระดาน 3) ครูใหน้ ักเรยี นสรุปสาเหตุท่ีสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงเลือกกรุงธนบุรีเป็นเมืองหลวง คนละ 1 ข้อ 4) ครูอธิบายประกอบการซักถามนักเรียน เร่ืองการรวบรวมอาณาจักรในสมัยกรุงธนบุรี การปราบ ชมุ นุมต่างๆ และอาณาเขตการปกครองสมัยกรุงธนบรุ ี 5) ครูมอบแบบทดสอบให้นกั เรยี น และเปิดเว็บไซตเ์ กี่ยวกับพระราชประวัติ และพระราชกรณียกจิ ของ สมเด็จพระเจา้ ตากสินมหาราชใหน้ กั เรยี นชม และหาคาตอบจากการชมเว็บไซต์มาตอบแบบทดสอบ แลว้ สง่ ครหู ลังหมดชัว่ โมง 6) ครใู ห้นักเรียน 1 กลุ่มมี 4-5 คน ศึกษาและสืบค้นข้อมูลเก่ียวกับประวัติศาสตร์สมัยกรุงธนบุรี และ ออกมารายงาน โดยใชแ้ ผนทแ่ี ละภาพประกอบ ตามหวั ขอ้ ตอ่ ไปนี้ 6.1 การเมืองการปกครองสมัยกรุงธนบรุ ี 6.2 เศรษฐกจิ สมัยกรุงธนบรุ ี
6.3 สงั คมและวัฒนธรรมสมัยกรงุ ธนบรุ ี 6.4 ความสัมพันธ์กบั ตา่ งประเทศสมัยกรุงธนบรุ ี 6.5 ภมู ิปัญญาไทยสมัยกรุงธนบุรี 6.6 สาเหตขุ องความเส่ือมอานาจของสมัยกรุงธนบุรี 7) ครูนานักเรียนไปทัศนศึกษากรุงธนบุรีเก่า วัดอรุณราชวราราม วัดระฆังโฆษิตาราม และกลับมา อภปิ ราย 8) ครูให้นักเรียนเปรียบเทียบพระราชกรณียกิจ ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช กับสมเด็จพระ นเรศวรมหาราช และให้บอกประโยชนท์ ี่ชาตไิ ทยได้รบั จากพระราชกรณียกจิ ดงั กล่าว 9) ครใู ห้นักเรียนเปรียบเทียบการปกครองสมัยกรุงธนบุรี กับสมยั กรุงรตั นโกสินทร์ โดยแข่งขันกันเขียน บนกระดาน 10) ครูให้นักเรียนศึกษาค้นคว้าเก่ียวกับความสัมพันธ์ทางการทูต ระหว่างประเทศไทยกับประเทศ ฮอลันดา อังกฤษ โปรตเุ กส จนี และญี่ปุ่นในรชั กาลปัจจบุ ัน โดยเปรยี บเทียบกบั สมัยกรงุ ธนบรุ ี 11) ครใู ห้นกั เรียนแสดงความรสู้ ึก ทม่ี ีตอ่ พระอัจฉรยิ ภาพของสมเด็จพระเจา้ ตากสนิ มหาราช และให้บอก วธิ ีตอบแทนพระมหากรณุ าธิคุณแด่พระองคท์ า่ น 5.3 ขัน้ สรปุ 1) ครใู ห้นกั เรยี นจดั ทาแผนผังความคิดหน่วยที่ 8 2) ครใู ห้นกั เรยี นสรปุ หนว่ ยการเรียนรว่ มกนั 6. ส่ือการเรียนรูแ้ ละแหล่งการเรยี นรู้ 1) ภาพสาทิสลกั ษณ์ของสมเดจ็ พระเจา้ ตากสินมหาราช และพระราชกรณยี กจิ จานวน 5 แผน่ 2) หนงั สอื ประวัติศาสตรส์ มยั กรุงธนบรุ ี จานวน 1 เล่ม 3) หนังสอื หลักไทย ของขนุ วจิ ิตรมาตรา (สงา่ กาญจนาคพันธ์ุ) จานวน 1 เล่ม 4) หนังสอื ท่องเทย่ี วภาคกลาง ของการท่องเทีย่ วแห่งประเทศไทย จานวน 1 เลม่ 5) สมยั กรงุ ธนบุรี - allknowledges.tripod.com/thonburi.html 6) ประวัติของสมเด็จพระเจา้ ตากสนิ มหาราช 7) ประวัติวดั อรุณราชวราราม 8) ประวตั วิ ัดอนิ ทาราม 7. การบูรณาการเช่ือมโยง 1) สาระการเรียนรู้ เศรษฐกิจสมัยกรงุ ธนบุรี 2) การบูรณาการ เศรษฐกิจสมัยกรงุ ธนบุรตี กต่ามาก เป็นยุคข้าวยากหมากแพง สมเดจ็ พระเจ้าตากสินมหาราชต้องใชห้ ลัก เศรษฐกจิ พอเพียง มาแกป้ ัญหาทางเศรษฐกจิ ของประเทศ จงึ รอดพน้ วิกฤตเศรษฐกจิ ไปได้ดว้ ยดี 3) กจิ กรรม แลกเปลี่ยนความคิดเห็น - นักเรียนแลกเปลยี่ นความคดิ เห็นกบั เพ่ือนในกลมุ่ และเพื่อนต่างกลุม่ - ครูและนักเรยี นแลกเปลี่ยนความคดิ เหน็ กัน ในการจัดการเรยี นรู้ และการทากิจกรรมกลุ่ม
Search