เอกสารประการเรียนรายวิชา วชิ า ศลิ ปะการเขียนพกู่ ันจนี 《中国书法》 นางสาวโชติกา สนิ เปียง ตำแหน่งครผู ชู้ ่วย โรงเรียนสบปราบพทิ ยาคม 2654
เอกสารประการเรียนรายวิชา วิชา ศลิ ปะการเขยี นพ่กู นั จนี 《中国书法》 นางสาวโชติกา สินเปียง ปรญิ ญาตรีสาขาการสอนภาษาจีน โรงเรยี นสบปราบพทิ ยาคม 2654
คำนำ เอกสารประกอบการเรียนรายวิชาศิลปะการเขียนพู่กันจีน《中国书法》รหัสวิชา 20201 (วิชา เพิ่มเติม) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศจัดทำขึ้นเพื่อใช้ประกอบการเรียนการสอนสำหรับนักเรียน ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษา โดยเอกสารประกอบการเรียนรายวิชาศิลปะการเขียนพู่กันจีน《中国书法》ประกอบด้วย 4 บทเรียน เนอ้ื หาของเอกสารประกอบการเรยี นรายวชิ าศลิ ปะการเขยี นพ่กู ันจีน《中国书法》ประกอบด้วย บทที่ 1 ประวัติและความเป็นมาของศิลปะการเขียนพู่กันจีน บทที่ 2 อุปกรณ์ที่ใช้ในการเขียนพู่กันจีน บทที่ 3 แบบอักษรท่ใี ชเ้ ขยี นพู่กนั จนี บทที่ 4 วธิ กี ารเขียนอกั ษรจีนโดยใชพ้ ่กู นั จีน ผ้จู ัดทำหวงั วา่ เอกสารประกอบการเรียนเลม่ นจ้ี ะเป็นประโยชน์แกน่ ักเรียน นักศกึ ษา ท่ีศกึ ษาขอ้ มูลเร่ืองน้ี อยู่ หากมีข้อแนะนำหรือข้อผิดพลาดประการใด ผู้จัดทำขอน้อมรับไว้ในข้อชี้แนะและจะนำไปแก้ไขและพัฒนาให้ ถูกต้องสมบูรณ์ตอ่ ไป ครูโชติกา สินเปยี ง (4/ก.ค./2564) 1
สารบญั 1 2 คำนำ 3 สารบัญ 1 สารบญั ภาพ 2 บทท่ี 1 เรอื่ งประวัติและความเปน็ มาของศลิ ปะการเขียนพู่กันจนี 3 4 คำศพั ท์ 5 บทสรปุ 6 แบบฝึกหดั ทา้ ยบท 7 บทท่ี 2 เรื่องอุปกรณท์ ี่ใช้ในการเขียนพู่กันจีน 8 คำศัพท์ 9-10 บทสรปุ 11 แบบฝึกหัดทา้ ยบท 12 บทท่ี 3 เร่ืองแบบอักษรที่ใช้เขยี นพกู่ ันจนี 13 คำศัพท์ 14-16 บทสรปุ 17 แบบฝกึ หัดทา้ ยบท 18 บทที่ 4 เร่ืองข้ันตอน/วธิ ีการเขียนอกั ษรจีนโดยใช้พู่กันจีน 19 บทสรุป 20-21 แบบฝึกหัดท้ายบท บรรณานกุ รม ภาคผนวก 2
สารบญั ภาพ หนา้ 1 ภาพ 1.1 ผูค้ ดิ คน้ ตัวอักษรจนี 仓颉 Cāngjié ชางเจย๋ี 1 ภาพ 1.2 วิวัฒนาการตวั อักษรจีน ภาพ 1.3 การเขียนพกู่ นั จีน 2 ภาพ 1.4 การบรรเลงเครื่องสาย 2 ภาพ 1.5 การเล่นหมากล้อมจีน 2 ภาพ 1.6 การวาดภาพ 2 ภาพ 1.7 การเขยี นพ่กู ันจีน 3 ภาพ 1.8 อปุ กรณก์ ารเขยี นพู่กันจนี 3 ภาพ 2.1 พกู่ ันสำหรบั เขียนอักษรจีน 6 ภาพ 2.2 หมึกแท่ง 6 ภาพ 2.3 กระดาษ 6 ภาพ 2.4 แท่นฝนหมกึ 6 ภาพ 3.1 อักษรจ้วนซู 篆 (zhuàn) 10 ภาพ 3.2 อกั ษรลซี่ ู 隶(lì) ภาพ 3.3 อักษรเฉา่ ซู 草 (cǎo) 10 ภาพ 3.4 อักษรสิงซู 行 (xíng) ภาพ 3.5 อักษรขา่ ยซู 楷 (kǎi) 11 ภาพ 4.1 ท่านั่งในการเขยี นพู่กนั จีน ภาพ 4.2 ท่ายนื ในการเขยี นพู่กนั จีน 11 ภาพ 4.3 การจบั พู่กันท่ีถกู ต้อง ภาพ 4.4 การฝนหมึกแบบโบราณ 11 ภาพ 4.5 หมึกแบบสำเร็จรูป 14 3 14 15 15 15
บทที่ 1 ประวตั แิ ละความเปน็ มาของศิลปะการเขียนพู่กันจนี จุดประสงค์ 1.เพอื่ ให้ผเู้ รียนรู้ถงึ ประวตั แิ ละความเปน็ มาของศิลปะการเขยี นพู่กันจีน 2.เพ่ือใหผ้ เู้ รียนเกดิ ความสนใจและสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ ประวัตแิ ละความเป็นมา ประวตั ิและความเป็นมาการเขยี นพู่กันจนี มปี ระวตั ิความเปน็ มายาวนานคู่กัประเทศจีน ถือเป็นศลิ ปะขัน้ สูง หนง่ึ ในส่ีอย่างของชนชาติจีน คอื การเขยี นพู่กันจีน การวาดภาพ การบรรเลงเครื่องสาย และการเล่นหมากล้อมจีน ไมเ่ พยี งส่อื สารความคิดของผู้เขยี น ยงั แสดงถึงลักษณะเส้นสายท่ีมีจังหวะการเขยี นและองค์ประกอบของตัวหนังสือ ทงี่ ดงาม บง่ บอกถงึ ลักษณะนสิ ัยของเจ้าของลายมือ และเปน็ การฝึกสมาธทิ ดี่ อี ย่างหนงึ่ อีกดว้ ย การเขียนพูก่ ันจนี เป็นศิลปะอันงดงามท่ีสืบทอดมาแตโ่ บราณของจนี ศิลปะการเขยี นลายเส้นชนิดนี้ใช้พู่กัน เป็นอุปกรณ์ในการเขียนออกมาเป็นตัวอักษรจีน มีกำเนิดในสมัยราชวงศ์ซางเมื่อ 3,000 ปีมาแล้ว ศิลปะชนิดนี้ไม่ เพียงแต่มีคุณค่าด้านการใช้งานที่กว้างขวาง ขณะเดียวกันยังมีคุณค่าด้านความงามที่ไม่ด้อยไปกว่าศิลปะแขนงอ่นื ศิลปะการเขียนพู่กนั จนี มลี ายเส้นและเค้าโครงที่เรยี บงา่ ย 1.2 ววิ ัฒนาการตวั อกั ษรจนี https://chinesexpert.net/ 1.1 ผ้คู ิดคน้ ตวั อักษรจีน 仓颉 Cāngjié ชางเจ๋ีย https://kknews.cc/other/gybmep9.html 1
汉字 คำศัพท์ คำไทย 书 画 Pinyin การเขยี นพกู่ นั จนี 琴 การวาดภาพ 棋 shū การบรรเลงเครอ่ื งสาย huà การเลน่ หมากลอ้ มจนี qín qí 1.3 การเขยี นพ่กู นั จนี 1.4 การบรรเลงเคร่ืองสาย http://www.tueetor.com/blog/th/self-development https://www.kaidee.com/product-337030270 1.5 การเล่นหมากล้อมจนี 1.6 การวาดภาพ https://www.thaigo.org / https://xn--v3cdwa6co.com / 2
บทสรปุ ประวัติและความเป็นมาการเขียนพู่กนั จนี มปี ระวัติความเป็นมายาวนานคู่กัประเทศจีน การเขียนพู่กันจนี ไม่เพียงส่ือสารความคิดของผู้เขยี น ยงั แสดงถงึ ลกั ษณะเส้นสายทมี่ จี ังหวะการเขยี นและองคป์ ระกอบของตัวหนังสือ ทงี่ ดงาม การเขยี นพ่กู นั จีนเป็นศลิ ปะอนั งดงามทีส่ ืบทอดมาแตโ่ บราณของจีน ศลิ ปะการเขียนลายเส้นชนดิ นใ้ี ช้พู่กัน เปน็ อุปกรณใ์ นการเขยี นออกมาเปน็ ตัวอักษรจีน มกี ำเนิดในสมัยราชวงศซ์ างเมื่อ 3,000 ปมี าแล้ว การเขยี นพู่กันจีน ยังมคี ณุ คา่ ดา้ นความงามทีไ่ ม่ด้อยไปกว่าศลิ ปะแขนงอ่นื ศลิ ปะการเขียนพ่กู นั จนี มลี ายเส้นและเค้าโครงทเี่ รียบง่าย 1.7 การเขยี นพ่กู นั จนี https://www.fun-japan.jp/th/articles/11026 1.8 อุปกรณ์การเขียนพู่กนั จนี http://thai.cri.cn/app/ 3
แบบฝกึ หดั ทา้ ยบท ให้นักเรียนตอบคำถามดงั ต่อไปนี้ 1.สีศ่ ลิ ปะขน้ั สงู ของจนี มีอะไรบา้ ง ? ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ 2.อุปกรณ์ในการเขยี นพู่กันจีนกำเนดิ ในราชวงศ์ใด ? ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ 3. 书 มีความหมายวา่ อะไร ? ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ 4. 画 มคี วามหมายวา่ อะไร ? ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ 5. 琴 มีความหมายวา่ อะไร ? ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ 4
บทท่ี 2 อปุ กรณท์ ่ีใช้ในการเขยี นพ่กู นั จีน จุดประสงค์ 1.เพื่อใหผ้ ้เู รยี นสามารถอธิบายถงึ อุปกรณ์การเขยี นพู่กนั จีนไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง 2.เพื่อใหผ้ เู้ รียนสามารถบอกช่ืออปุ กรณ์เปน็ ภาษาจนี ได้ อุปกรณ์ทใ่ี ชใ้ นการเขยี นพูก่ ันจนี “เหวินฝางซ่อื ป่าว” หรือรัตนะท้ังสีใ่ นห้องหนังสือเป็นมรดกทางวฒั นธรรมซ่ึงเปน็ ที่ภาคภมู ิใจของชาวจนี \" เหวินฝาง\" กค็ ือ\"ซูฝาง\" หรอื ห้องหนงั สือ ชาวจีนสมัยโบราณเรยี กอุปกรณ์เคร่ืองเขยี นที่ใชใ้ นหอ้ งหนังสือสีช่ นิด ได้แก่ พู่กนั หมึก กระดาษและท่ฝี นหมกึ ว่า “เหวนิ ฝางซ่ือป่าว” 1. 笔 (bǐ) “ปี”่ กค็ ือ 毛笔 (máobǐ) “เหมาป่ี” (พู่กัน) เป็นเครื่องเขยี นที่มเี อกลักษณ์เฉพาะของจีน พู่กันมี ขนาดตา่ ง ๆ ส่วนมากดา้ มใชไ้ ม้ไผ่ ถ้าจะประดิษฐ์เป็นของศิลปะกใ็ ชห้ นิ ใชห้ ยก สว่ นท่ีสำคัญคือสว่ นพู่ของพู่กนั นยิ มใช้ขนต่าง ๆ กนั แล้วแต่ความสะดวก ขนาดต่าง ๆ กัน มขี นแกะ ขนกระต่าย ขนของอีเห็น ขนสุนัขป่า พ่กู นั ท่ี ราคาแพงเขยี นไดล้ ะเอียด ทำด้วยขนในหูสุนขั ปา่ ปัจจุบนั อาจใช้วัสดุสังเคราะห์ เน่ืองจากทำจากขนสัตวต์ า่ ง ๆ จงึ เรยี กเครอ่ื งเขียนชนิดน้ีวา่ \"เหมาป่\"ี หรอื เครื่องเขียนท่ที ำจากขนสตั ว์ ในสมยั ชนุ ชวิ ก็มกี ารประดิษฐ์ \"เหมาป\"ี่ ขน้ึ ใช้ แลว้ 2. 墨 (mò) “ม่อ” หมายถงึ หมกึ สดี ำท่ใี ช้ในการเขียนหนังสอื หรือวาดภาพ สว่ นใหญ่ทำจากเขม่าควันทเี่ กิดจากการ เผาไมส้ น และนำ้ มนั ผสมปนั้ ใหม้ ลี ักษณะเปน็ กอ้ นเป็นแทง่ สำหรับฝนกบั ท่ีฝนหมึก โดยเหยาะนำ้ ใสใ่ นแท่นฝนหมึก ปจั จุบันคนชอบใชห้ มึกใสข่ วดพลาสติกนำมาเทใสแ่ ท่นฝนหมึก ไม่ต้องเสยี เวลามานั่งฝนหมกึ 3. 纸 (zhǐ) “จอื่ ” หรือกระดาษ กระดาษเปน็ หนึง่ ในสส่ี ่ิงประดิษฐส์ ำคัญของจีนโบราณ ภายหลังสมัยราชวงศ์ถัง และซ่ง ไดม้ กี ารผลิต “เซวยี นจ่ือ” ซง่ึ เป็นกระดาษท่ีมคี ุณภาพสงู ขึน้ มีคุณสมบตั ิพิเศษคอื สกี ระดาษขาวสะอาด เน้ือกระดาษละเอียด นุ่มและเบา กระจายน้ำหมกึ ได้สม่ำเสมอและชัดเจน ไม่เปื่อยย่ยุ ง่าย กระดาษก็มีหลาย ลักษณะ สว่ นมากทำดว้ ยเยอ่ื ของพืชต่าง ๆ ข้อสำคญั ไม่ใช่กระดาษแบบทเ่ี ราใช้ เขยี นท่ัวไป 4. 砚 (yàn) “เยี่ยน” หรอื แท่นฝนหมึกมีความเป็นมายาวนานถึง 5,000 ปี พบคร้งั แรกในสมัยราชวงศ์ฮ่นั จากน้นั ก็ค่อยๆ เขา้ มามบี ทบาทในศิลปะการเขยี นตัวอักษรจนี และการวาดภาพแบบโบราณ มกั จะใช้หนิ เนอื้ ละเอยี ดในการทำแท่นฝนหมึก นยิ มแกะเป็นลวดลายทีส่ วยงามต่าง ๆ หรือประดิษฐเ์ ป็นรูปร่าง แต่งนิดหนอ่ ย เหมือนเป็นศลิ ปะของมันเอง ทมี่ ชี ่ือเสยี งมากแหลง่ หนง่ึ อยู่แถวเมืองกวางต้งุ (กวางโจว) 5
汉字 คำศพั ท์ คำไทย 笔 Pinyin ปากกา 毛笔 พกู่ ัน bǐ หมกึ 墨 máobǐ กระดาษ 纸 แทน่ ฝนหมกึ 砚 mò zhǐ yàn 2.1 พูก่ ันสำหรบั เขยี นอกั ษรจีน 2.2 หมึกแทง่ https://www.xiewenyin.com/449.html https://shopee.tw/ 2.3 กระดาษ 2.4 แทน่ ฝนหมกึ https://shopee.co.th https://m.sohu.com/n/485143809/ 6
บทสรปุ “เหวินฝางซื่อป่าว” หรอื รตั นะท้ังส่ีในห้องหนังสือเปน็ มรดกทางวัฒนธรรมซ่ึงเป็นที่ภาคภูมิใจของชาวจีน\" เหวินฝาง\" ก็คือ\"ซูฝาง\" หรือห้องหนังสือ ชาวจีนสมัยโบราณเรียกอุปกรณ์เครื่องเขียนที่ใช้ในห้องหนังสือสี่ชนิด ได้แก่ พู่กัน หมึก กระดาษและที่ฝนหมกึ วา่ “เหวินฝางซื่อป่าว” 笔 (bǐ) “ปี่” ก็คือ 毛笔 (máobǐ) “เหมาป่ี” (พู่กัน) เป็นเครื่องเขียนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของจีน พู่กันมีขนาดต่าง ๆ ส่วนมากด้ามใช้ไม้ไผ่ 墨 (mò) “ม่อ” หมายถึงหมึกสีดำที่ใช้ในการเขียนหนังสือหรือวาดภาพ 纸 (zhǐ) “จื่อ” หรือกระดาษ กระดาษเป็นหนึ่งในสี่ สิง่ ประดิษฐส์ ำคญั ของจนี โบราณ 砚(yàn) “เยี่ยน” หรือแท่นฝนหมกึ มคี วามเป็นมายาวนานถงึ 5,000 ปี พบคร้ัง แรกในสมัยราชวงศ์ฮั่น จากนั้น ก็ค่อยๆ เข้ามามีบทบาทในศิลปะการเขียนตัวอักษรจีนและการวาดภาพแบบ โบราณ 7
แบบฝึกหดั ท้ายบท ให้นกั เรยี นตอบคำถามดงั ต่อไปน้ี 1. อุปกรณ์กรเขียนพ่กู ันจีนมีก่ชี นิด และมีอะไรบ้าง ? ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ 2. ปี่ ด้ามพกู่ ัน และพู่ของพู่กันสามารถทำมาจากอะไรได้บ้าง ? ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ 3. ส่วนผสมของหมกึ สีดำ มีอะไรบา้ ง ? ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ 4.คุณสมบัติพิเศษของกระดาษคืออะไร ? ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ 5.แท่นฝนหมึกม่ีชื่อเสยี งมากในเมืองอะไร ? ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ 8
บทท่ี 3 แบบอักษรท่ีใชเ้ ขยี นพู่กันจนี จดุ ประสงค์ 1.เพือ่ ใหผ้ เู้ รียนเขยี นแบบอักษรโดยใช้พู่กนั จีนได้ถูกต้องตามหลักตวั อกั ษร 2.เพื่อให้ผู้เรยี นได้รูเ้ ก่ียวกับการเขยี นอักษรแต่ละแบบ แบบตวั อักษรทีใ่ ชเ้ ขียนพู่กันจนี แบบตวั อกั ษรทใ่ี ชเ้ ขยี นพกู่ นั จนี มี 5 แบบคอื 1.篆 (zhuàn) จว้ นซู กำหนดรปู แบบขนึ้ มาในสมัยราชวงศเ์ ฉิน เปน็ แบบท่เี กา่ ทีส่ ุดเป็นอักษรทเี่ น้นความสวยงาม และยงั ใชฝ้ กึ เขียนจนทุกวันนี้ ตราประทบั มกั แกะสลกั ดว้ ยตัวหนังสือประเภทนี้ จากสมยั ชุนชวิ จัน้ กว๋อจนถึงยุคการ ก่อตั้งราชวงศ์ฉิน (770 – 202 ปีก่อนคริสตศักราช) โครงสร้างของตัวอักษรจีนโดยมากยังคงรักษารูปแบบเดมิ จาก ราชวงศ์โจวตะวันตก ซึ่งนอกจากอักษรโลหะแล้ว ยังมีอักษรรูปแบบต่าง ๆที่เหมาะกับการบันทึกลงในวัสดุแต่ละ ชนิด เชน่ อกั ษรท่ีใช้ในการลงนามสตั ยาบนั รว่ มระหว่างแวน่ แควน้ ที่สลักลงบนแผน่ หยกก็ เรียกวา่ หนงั สือพันธมติ ร หากสลักลงบนไม้ก็เรียกสาส์นไม้ หากสลักลงบนหินก็เรียก ตัวหนังสือกลองหิน ฯลฯ นอกจากนี้ ก่อนการรวม ประเทศจีนบรรดาเจ้านครรัฐหรือแว่นแคว้นต่างก็มีตัวอักษรที่ใช้แตก ต่างกันไป ซ่ึงส่วนหน่ึงไดแ้ ก่อักษรจว้ นใหญ่ หรอื ตา้ จว้ น(大篆)ซ่ึ งเป็นตน้ แบบของเสย่ี วจว้ นในเวลาต่อมา 2.隶(lì) ลซ่ี ู นยิ มเขยี นกนั มากในสมัยราชวงศ์ฮั่นตัวหนงั สือจะออกแปน้ ๆ การเขยี นเน้นที่การลากหางเป็นเส้น หนา ปัจจุบันใช้ในเรื่องที่เป็นราชการ งานตกแต่งหรืองานศิลปะอักษรลี่ซูทำให้อักษรจีนก้าวเข้าสู่ขอบเขตของ อักษรสัญลักษณ์อยา่ งเต็มรปู แบบ อาจกล่าวไดว้ ่า เป็นกระบวนการของการเปล่ียนรปู จากอักษรโบราณท่ียังมีความ เป็นอักษรภาพสู่ อักษรจีนที่ใช้ในปัจจุบัน สำหรับที่มาของอักษรลี่ซูนั้น กล่าวกันว่าสมัยฉินมีทาสที่เรียกว่าเฉิง เหมี่ยวผู้หนึ่ง เนื่องจากกระทำความผิด จึงถูกสั่งจำคุก เฉิงเหมี่ยวที่อยู่ในคุกคุมขังจึงคิดปรับปรุงตัวอักษรจ้วนให้ เขียนง่ายขึน้ จากโครงสร้างกลมเปลี่ยนเป็นส่ีเหลย่ี มกลายเป็นอักษรรูปแบบใหม่ จนิ๋ ซฮี อ่ งเตท้ อดพระเนตรเห็นแล้ว ทรงโปรดอยา่ งมาก จึงทรงแตง่ ตั้งให้เฉิงเหม่ียวทำหนา้ ที่อารกั ษ์ในวังหลวง ต่อมาตวั หนังสือชนิดนแี้ พร่หลายออกไป จงึ มกี ารเรยี กช่ือตวั หนังสอื ชนดิ นว้ี ่า อกั ษรลซ่ี ูหรืออักษรทาส (คำว่า ‘ล่ี’ ในภาษาจนี หมายถงึ ทาส) 3. 草 (cǎo) เฉ่าซู ลักษณะตัวหนังสือแบบหวัด คำว่า เฉ่า มีหลายความหมาย แปลว่า หญ้า รีบร้อน เร่งด่วน ลวก ๆ เราจะเขียนเป็นศิลปะเรียกว่า ตัวหวัด อักษรเฉ่าซูหรืออักษรหวัดคืออักษรที่เขียนด้วยความรวดเร็วและ หวัดพบในช่วงราชวงศฮ์ น่ั (汉 202 ปีก่อนครสิ ตศักราช-ค.ศ. 220) โดยพฒั นามาจากการเขยี นอกั ษรลีซ่ ู (隶书) แบบหวดั ซึง่ ในปจั จุบนั ไม่ว่าอกั ษรประเภทใดขอเพยี งแคเ่ ขียนหวดั ก็สามารถจดั เป็นอักษรเลา่ ซไู ด้เนื่องจากเปน็ 9
อักษรที่มีการเขียนง่าย แต่อ่านค่อนข้างยากอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดในการสื่อสารจึงไม่มีการนำมากำหนดให้ เปน็ รปู แบบอกั ษรทใี่ ช้กันทวั่ ไป 4. 行 (xíng) สงิ ซู ลักษณะตวั หนังสอื หวดั แกมบรรจง อักษรสิงซเู ปน็ อกี หน่ึงรปู แบบอักษรที่พฒั นามาจากอักษร ล่ซี ู (隶书) เปน็ รูปแบบท่ีอยรู่ ะหว่างอักษรข่ายซู (楷书) และอักษรเฉา่ ซู (草书) โดยจะอา่ นได้ง่ายกว่า อักษรเลา่ ซู แต่ก็เขียนออกมาได้รวดเร็วกว่าอักษรขา่ ยซเู ช่นกนั อักษรสิงซสู ามารถแบง่ ไดส้ องประเภทตามลกั ษณะ ของการเขยี นหากเขยี นไดบ้ รรจงและประณตี หน่อยจะเรียกวา่ “สงิ ข่าย” (行楷) แต่ถา้ หากเขยี นแลว้ มีความ หวัดมากกว่าจะเรียกว่า “สงิ่ เฉา่ ” (行草) 5. 楷 (kǎi) ข่ายซู ลักษณะตวั หนงั สือเป็นลายมือมาตรฐานธรรมดาเรียกวา่ ตวั บรรจง อกั ษรขา่ ยซูคอ่ ยๆพฒั นา โดยเป็นการย่อแบบมาจากอักษรลีซ่ ู (隶书) อกี ทซี งึ่ อักษรรูปแบบน้ีมีการพฒั นามาแลว้ หลายต่อหลายสมัยตง้ั แต่ สมัยราชวงศฮ์ นั่ (汉 202 ปีกอ่ นคริสตศกั ราช-ค.ศ. 220) จนถงึ ราชวงศช์ งิ (清 ค.ศ. 1636 1912) ยังคงมกี าร เปลย่ี นแปลงอยา่ งต่อเน่ืองอักษรขา่ ยซูจะมีลกั ษณะเป็นทรงตรงเหลีย่ มตัวอักษรมคี วามสมดุลเป็นระเบียบบรรจง สวยงามจึงถือเป็นมาตรฐานในการเขยี นอกั ษรจีนจนถงึ ปัจจุบัน 3.2 อักษรลซ่ี ู 隶 (lì) https://m.6z6z.com/az/jc/29895.html 3.1 อกั ษรจ้วนซู 篆 (zhuàn) https://www.baike.com/wiki/ 10
汉字 คำศพั ท์ คำไทย 篆 隶 Pinyin อกั ษรจว้ นซู 草 อกั ษรลซ่ี ู 行 zhuàn อกั ษรเฉ่าซู 楷 อกั ษรสงิ ซู lì อกั ษรขา่ ยซู cǎo xíng kǎi 3.3 อักษรเฉ่าซู 草 (cǎo) https://www.blockdit.com/posts/ 3.4 อักษรสงิ ซู 行 (xíng) https://sites.google.com/site/ 3.5 อกั ษรข่ายซู 楷 (kǎi) https://www.arsomsiam.com/evolution- of-chinese-characters/ 11
บทสรุป แบบตวั อกั ษรทใ่ี ชเ้ ขยี นพกู่ นั จนี มี 5 แบบคอื 1.篆 (zhuàn) จว้ นซู กาหนดรูปแบบขน้ึ มาในสมยั ราชวงศเ์ ฉิน เป็นแบบทเ่ี ก่าทส่ี ดุ เป็นอกั ษรทเ่ี น้นความ สวยงามและยงั ใชฝ้ ึกเขยี นจนทุกวนั น้ี ตราประทบั มกั แกะสลกั ดว้ ยตวั หนงั สอื ประเภทน้ี 2.隶(lì) ลซ่ี ู นิยมเขยี นกนั มากในสมยั ราชวงศฮ์ นั่ ตวั หนงั สอื จะออกแป้น ๆ การเขยี นเน้นทก่ี ารลากหาง เป็นเสน้ หนา ปัจจุบนั ใชใ้ นเรอ่ื งทเ่ี ป็นราชการ งานตกแตง่ หรอื งานศลิ ปะ 3. 草 (cǎo) เฉ่าซู ลกั ษณะตวั หนงั สอื แบบหวดั คาวา่ เฉ่า มหี ลายความหมาย แปลว่า หญา้ รบี รอ้ น เรง่ ดว่ น ลวก ๆ เราจะเขยี นเป็นศลิ ปะเรยี กว่า ตวั หวดั 4. 行 (xíng) สงิ ซู ลกั ษณะตวั หนงั สอื หวดั แกมบรรจง 5. 楷 (kǎi) ขา่ ยซู ลกั ษณะตวั หนงั สอื เป็นลายมอื มาตรฐานธรรมดาเรยี กว่า ตวั บรรจง 12
แบบฝกึ หดั ทา้ ยบท ให้นักเรยี นเขยี นอักษรตามท่ีโจทย์กำหนดให้ลงในตาราง 13
บทท่ี 4 ขนั้ ตอน/วธิ กี ารเขียนอกั ษรจนี โดยใชพ้ ู่กันจีน จุดประสงค์ 1.เพ่อื ให้ผเู้ รียนไดร้ ้หู ลักเกณฑ์การเขยี นตวั อักษรจนี ดว้ ยพู่กันจนี 2. เพ่ือให้ผ้เู รยี นไดฝ้ กึ ฝนการเขยี นพู่กันจีน ขนั้ ตอน/วธิ กี ารเขยี นพู่กันจีน ข้ันตอน/วธิ ีการเขียนพู่กันจนี การเขยี นพ่กู ันจีนเป็นศิลปะอันงดงามทีส่ บื ทอดมาแตโ่ บราณ มกี ฎเกณฑ์พืน้ ฐาน และวิธีการ ดงั นี้ 1.ลกั ษณะการนง่ั และยืนท่ีถูกตอ้ ง ทว่ งท่าทนี่ ่ังและยืนต้องอย่ใู นลกั ษณะหลงั ตรง ไหล่กางอย่างสงา่ ผ่าเผย 4.1 ทา่ น่งั ในการเขียนพ่กู นั จนี https://www.bloggang.com/m/viewdiary 4.2 ท่ายนื ในการเขียนพู่กนั จีน https://www.bloggang.com/m/viewdiary 14
2.วธิ กี ารจบั พู่กัน การจับพู่กันจีน ต้องเรียนรู้การจับอย่างถูกต้อง ให้จับด้ามพู่กันให้แน่นโดยวางนิว้ หัวแมม่ ือของคุณไปทางด้านซ้าย ของพู่กันจีน นิ้วชี้และนิ้วกลางอยู่ทางด้านขวา การทำเช่นนี้ทำให้จับพู่กันได้มั่นคงโดยสามนิ้วนี้เป็ นนิ้วหลักส่วน น้ิวนางและนิ้วก้อยอยู่ด้านล่าง ชว่ ยในการประคองพู่กัน การจบั พู่กนั จับช่วงกลางด้าม ทำให้ด้ามพู่กันอยู่ในแนวตั้ง กับกระดาษ 4.3 การจบั พู่กันที่ถูกต้อง https://www.bloggang.com/m/viewdiary 3.วธิ ีการฝนหมกึ โดยหยดนำ้ เปลา่ ใสล่ งในถาดฝนหมึก และใช้แทง่ หมึกฝนจนมีความเข้มข้นเป็นนำ้ หมึกสีดำ ไม่ควร ใสน่ ำ้ มากเพราะนำ้ หมกึ จะใสไม่ดำสนทิ (ปัจจุบันมีการใชห้ มึกแบบขวดสำเรจ็ รูป) 4.4 การฝนหมกึ แบบโบราณ 4.5 หมึกแบบสำเร็จรูป https://www.bloggang.com/m/viewdiary.php?id=haiku https://www.lazada.co.th/products/ 15
4.การเขียนตัวอักษรจนี การฝึกเขยี น ควรไดเ้ ตรยี มการตามขน้ั ตอนท่ี 1 - 3 และเริม่ การฝึกเขียนโดยใชก้ ระดาษที่มี ตาราง จะสามารถกำหนดระยะใหต้ วั หนงั สอื อยตู่ รงกลางของช่องไดง้ า่ ย กฎพ้ืนฐานของการเขียนอักษรจีนตามลำดับมี 5 ขัน้ ตอน ดังนี้ 1.เขยี นจากบนลงลา่ ง https://saynihao.net/important-of-chinese-stroke-order/ 2. เขียนจากซ้ายไปขวา https://saynihao.net/important-of-chinese-stroke-order/ 3. เขยี นจากตรงกลาง แล้วซ้ายจากน้ันขวา สำหรบั อักษรจีนทแ่ี บง่ 3 สว่ น มกั เขียนตรงกลางก่อน แล้วเขยี นฝ่งั ซ้าย กอ่ น และฝ่ังขวา https://saynihao.net/important-of-chinese-stroke-order/ 4. เขียนเส้นขวางก่อนเสน้ ตั้ง https://saynihao.net/important-of-chinese-stroke-order/ 5. ตกี รอบนอก เขยี นขา้ งในใหค้ รบ แล้วค่อยปดิ กรอบ อักษรที่มกี รอบให้เขียนกรอบขึ้นมาก่อน แลว้ เตมิ ข้างในให้ เสรจ็ จากน้นั ก็จะปดิ กรอบ https://saynihao.net/important-of-chinese-stroke-order/ 16
แบบฝกึ หัดทา้ ยบท ใหน้ กั เรยี นตอบคำถามดงั ต่อไปนี้ 1.ลักษณะการน่ังและยืนท่ีถกู ต้องเปน็ อยา่ งไร ? ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ 2.การวางนิว้ จบั พกู่ นั ต้องมีลักษณะอย่างไร ? ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ 3.การจบั พู่กันต้องจับบรเิ วณไหนของพู่กัน ? ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ 4.วธิ ีฝนหมกึ ทำอยา่ งไร ? ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ 5.ลำดบั การเขียนอกั ษรทีถ่ ูกต้องมีก่ขี ้นั ตอน อะไรบา้ ง ? ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ 17
บทสรุป การเขียนพู่กันจีนเป็นศิลปะอันงดงามที่สืบทอดมาแต่โบราณ มีกฎเกณฑ์พื้นฐาน และวิธีการ โดยเริ่มจาก ลักษณะการนั่งและยืนที่ถูกต้อง ท่วงท่าที่นั่งและยืนต้องอยู่ในลักษณะหลังตรง ไหล่กางอย่ างสง่าผ่าเผย การจับ พกู่ นั จนี ตอ้ งเรยี นรู้การจบั อย่างถูกตอ้ ง ใหจ้ บั ด้ามพกู่ นั ให้แนน่ โดยวางนว้ิ หวั แม่มือของคุณไปทางด้านซา้ ยของพู่กัน จีน นิ้วชี้และนิ้วกลางอยู่ทางด้านขวา การฝนหมึก โดยหยดน้ำเปล่าใส่ลงในถาดฝนหมึก และใช้แท่งหมึกฝนจนมี ความเข้มข้นเป็นน้ำหมึกสีดำ ไม่ควรใส่น้ำมากเพราะน้ำหมึกจะใสไม่ดำสนิท (ปัจจุบันมีการใช้หมึกแบบขวด สำเร็จรปู ) และลำดบั การเขยี นอกั ษรจนี นั้นต้องเขียนให้ถูกต้องตามหลักของการเขยี น 18
บรรณานุกรม อา้ งอิงจากเว็ปไซต์ 1.อภสิ ิทธ์ิ ศาลปิ ระเสรฐิ โชค. (2556, ม.ป.ป) http://field2604.blogspot.com/p/blog-page_2501.html 2.อรพมิ ล อนิ ทจกั ร์. (2559, 29 ธันวาคม). https://sites.google.com/site/chinesebrushwriting/chinesebrushwriting 19
ภาคผนวก เฉลยแบบฝึกหดั บทท่ี 1 1.ตอบ การเขยี นพู่กนั จีน การวาดภาพ การบรรเลงเคร่ืองสาย และการเลน่ หมากล้อมจนี 2.ตอบ กำเนดิ ในสมัยราชวงศ์ซาง 3.ตอบ การเขียนพู่กนั จนี 4.ตอบ การวาดภาพ 5.ตอบ การบรรเลงเครือ่ งสาย บทที่ 2 1.ตอบ 4 ชนิด 笔(bǐ) พกู่ ัน,墨(mò) หมึกสดี ำ,纸(zhǐ)กระดาษ, 砚(yàn)แทน่ ฝนหมกึ 2.ตอบ ด้ามใช้ไมไ้ ผ่ ถ้าจะประดษิ ฐเ์ ปน็ ของศลิ ปะกใ็ ชห้ ิน ใชห้ ยก พู่ของพู่กนั ใช้ขนแกะ ขนกระตา่ ย ขนของอเี ห็น ขนสนุ ัขปา่ 3.ตอบ จากเขมา่ ควนั ทีเ่ กดิ จากการเผาไม้สน และน้ำมันผสมปัน้ ให้มีลกั ษณะเป็นก้อนเป็นแทง่ 4.ตอบ สีกระดาษขาวสะอาด เนอ้ื กระดาษละเอยี ด นมุ่ และเบา กระจายน้ำหมกึ ไดส้ มำ่ เสมอและชดั เจน ไม่เป่ือย ย่ยุ งา่ ย 5.ตอบ เมอื งกวางตุ้ง (กวางโจว) บทที่ 3 -แบบฝกึ หดั การฝึกเขียนอักษรจีนในแต่ละแบบตัวอักษร บทที่ 4 1.ตอบ ทา่ ทน่ี ัง่ และยืนต้องอยู่ในลกั ษณะหลงั ตรง ไหลก่ างอย่างสง่าผ่าเผย 2.ตอบ วางนว้ิ หัวแมม่ อื ของคุณไปทางด้านซ้ายของพู่กันจีน นิว้ ชแ้ี ละน้ิวกลางอยู่ทางด้านขวา การทำเชน่ นี้ทำให้จับ พกู่ นั ไดม้ น่ั คงโดยสามน้วิ นเ้ี ป็นนว้ิ หลกั สว่ นนวิ้ นางและนว้ิ กอ้ ยอยู่ด้านล่าง ชว่ ยในการประคองพู่กัน 3.ตอบ การจบั พู่กันจับชว่ งกลางด้าม ทำใหด้ า้ มพกู่ ันอยู่ในแนวตง้ั กบั กระดาษ 20
4.ตอบ โดยหยดนำ้ เปล่าใสล่ งในถาดฝนหมกึ และใชแ้ ท่งหมึกฝนจนมคี วามเขม้ ขน้ เปน็ น้ำหมึกสีดำ ไม่ควรใสน่ ำ้ มาก เพราะนำ้ หมึกจะใสไมด่ ำสนทิ 5.ตอบ 5 ขนั้ ตอน 1.เขยี นจากบนลงล่าง 2. เขยี นจากซ้ายไปขวา 3. เขียนจากตรงกลาง แล้วซา้ ยจากนนั้ ขวา 4. เขยี นเส้นขวางก่อนเส้นตงั้ 5. ตกี รอบนอก เขยี นข้างในให้ครบ แลว้ คอ่ ยปดิ กรอบ 21
Search
Read the Text Version
- 1 - 26
Pages: