PA1/ส แบบข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA) สาหรับข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการพเิ ศษ โรงเรยี นบา้ นติม(พันธพ์ ิทยาคม) สานักงานพ้ืนทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาศรสี ะเกษ เขต 3 ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ระหวา่ งวนั ที่ 1 เดอื นตลุ าคม พ.ศ. 2564 ถึงวันท่ี 30 เดือนกันยายน พ.ศ. 2565 ผจู้ ัดทาขอ้ ตกลง ช่อื นางกนกอร นามสกุล อะนอุ นั ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการพิเศษ สถานศึกษา โรงเรียนบ้านติม (พันธ์พทิ ยาคม) สงั กดั สานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 3 รับเงนิ เดอื นในอนั ดับ คศ. 3 อตั ราเงนิ เดือน 45,100 บาท ประเภทห้องเรียนที่จัดการเรียนรู้ (สามารถระบุได้มากกว่า 1 ประเภทห้องเรียน ตามสภาพการจัดการ เรยี นรูจ้ รงิ ) หอ้ งเรียนวชิ าสามัญหรอื วิชาพนื้ ฐาน ห้องเรียนปฐมวยั หอ้ งเรียนการศึกษาพิเศษ หอ้ งเรยี นสายวชิ าชีพ หอ้ งเรียนการศึกษานอกระบบ / ตามอัธยาศยั ข้าพเจ้าขอแสดงเจตจานงในการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน ตาแหน่งครู วิทยฐานะครูชานาญการ พเิ ศษ ซงึ่ เป็นตาแหน่งท่ีดารงอย่ใู นปัจจบุ ันกับผอู้ านวยการสถานศึกษา ไวด้ งั ต่อไปนี้ ส่วนที่ 1 ขอ้ ตกลงในการพัฒนางานตามมาตรฐานตาแหน่ง 1. ภาระงาน จะมภี าระงานเปน็ ไปตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564 1.1 ชวั่ โมงสอนตามตารางสอน รวมจานวน 17 ชั่วโมง 20 นาท/ี สปั ดาหด์ ังน้ี - กจิ กรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ จานวน 1 ชั่วโมง 15 นาท/ี สปั ดาห์ - กิจกรรมสรา้ งสรรค์ จานวน 5 ชว่ั โมง /สัปดาห์ - กจิ กรรมเสรี/เลน่ ตามมุม จานวน 5 ชว่ั โมง/สัปดาห์ - กจิ กรรมเสริมประสบการณ์ จานวน 1 ชัว่ โมง 40 นาท/ี สัปดาห์ - กิจกรรมกลางแจ้ง จานวน 2 ชั่วโมง 30 นาท/ี สัปดาห์ - กจิ กรรมเกมการศึกษา จานวน 2 ชั่วโมง 35 นาท/ี สปั ดาห์ 1.2 งานสง่ เสรมิ และสนบั สนุนการจดั การเรียนรู้ จานวน 2 ชัว่ โมง/สปั ดาห์
- กิจกรรมโฮมรูมและตรวจสขุ ภาพนกั เรยี น จานวน 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ - การมีส่วนร่วมในชมุ ชนแห่งการเรียนรู้ จานวน 1 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ 1.3 งานพฒั นาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จานวน 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ - งานพัสดุประจาสายชนั้ จานวน 1 ช่ัวโมง/สัปดาห์ 1.4 งานตอบสนองนโยบายและจดุ เน้น จานวน 18 ชั่วโมง/ภาคเรยี น - โครงการทักษะชีวิตและสงั คมเด็กปฐมวยั จานวน 6 ชว่ั โมง - โครงการส่งเสรมิ ทกั ษะวชิ าการปฐมวัย จานวน 6 ชั่วโมง 2. งานท่ีจะปฏิบัติตามมาตรฐานตาแหน่งครู(ให้ระบุรายละเอียดของงานที่จะปฏิบัติในแต่ละด้าน วา่ จะดาเนินการอยา่ งไร โดยอาจระบรุ ะยะเวลาท่ีใช้ในการดาเนนิ การด้วยกไ็ ด้) ลักษณะงานท่ีปฏบิ ัติ งาน (Tasks) ผลลัพธ์ ตัวช้ีวัด (Indicators) ตามมาตรฐานตาแหน่ง ที่จะดาเนินการพัฒนา (Outcomes) ท่จี ะเกิดขน้ึ กบั ผู้เรยี น ตามข้อตกลง ใน 1 รอบ ของงานตาม ท่แี สดงใหเ้ หน็ ถึงการ การประเมนิ ขอ้ ตกลง เปลยี่ นแปลงไปในทาง (โปรดระบุ) ท่คี าดหวงั ให้ ท่ีดขี ึ้นหรือมกี าร 1. ดา้ นการจัดการเรยี นรู้ 1. การสรา้ งและพัฒนาหลักสูตร และ เกิดข้ึน พัฒนา กับผู้เรยี น มากข้นึ หรอื ลักษณะงานท่ีเสนอใหค้ รอบคลุมถึง การออกแบบการจดั การเรียนรู้ (โปรดระบุ) ผลสมั ฤทธิ์ การสรา้ งและหรือพัฒนาหลักสูตร - จัดทาหลกั สตู รปฐมวยั โดยมกี าร สูงขึ้น (โปรดระบ)ุ 1. จานวนผู้เรยี นไม่ 1.นกั เรยี นเรียนไม่น้อย การออกแบบการจดั การเรยี นรู้ วิเคราะหม์ าตรฐานการเรียนรู้และ น้อยกว่ารอ้ ยละ 75 กวา่ รอ้ ยละ 75 มผี ล มผี ลการพฒั นา การพัฒนาคุณภาพ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ตัวช้วี ัด โครงสร้างหน่วยการเรยี นรู้ คณุ ภาพเป็นไปตาม เปน็ ไปตามค่า ค่าเปา้ หมายที่ เป้าหมายท่ีสถานศึกษา การสร้างและหรือพฒั นาสื่อ เลือกหน่วยการเรยี นรู้ท่ีเหมาะสมกับ สถานศกึ ษากาหนด กาหนด 2. จานวนนกั เรียน 2. นักเรยี นรอ้ ยละ 80 นวตั กรรม เทคโนโลยี และแหลง่ บรบิ ทของสถานศึกษา ผ้เู รียน ท้องถ่นิ รอ้ ยละ 80 มีผล มผี ลประเมิน ประเมนิ พฒั นาการ พัฒนาการอยู่ใน เรียนรู้ การวดั และประเมินผลการ และสามารถนาไปปฏบิ ัติจริงได้ ใน อยู่ในระดบั ดี ทกุ ระดบั ดี ทุกดา้ น ดา้ น จัดการเรียนรู้ การศึกษา วเิ คราะห์ รปู แบบแผนการจดั ประสบการณ์การ 3. จานวนนักเรยี น 3. นกั เรยี นรอ้ ยละ รอ้ ยละ 100 ไดร้ บั 100 ไดร้ ับการสง่ เสริม สงั เคราะห์ เพือ่ แก้ปัญหาหรือ เรียนรู้ พฒั นาการเรยี นรู้ การจัด 2. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ บรรยากาศทสี่ ง่ เสริมและพัฒนา ตามแนวทาง active learning เน้นให้ นกั เรยี นเรยี นรู้โดยการปฏิบตั ิจริงใช้ส่อื
ลกั ษณะงานท่ีปฏิบตั ิ งาน (Tasks) ผลลพั ธ์ ตัวชว้ี ัด (Indicators) ตามมาตรฐานตาแหน่ง ท่ีจะดาเนนิ การพัฒนา (Outcomes) ท่ีจะเกิดขน้ึ กับผ้เู รยี น ตามข้อตกลง ใน 1 รอบ ของงานตาม ท่แี สดงใหเ้ หน็ ถงึ การ ผู้เรียน และการอบรมและพัฒนา เปลี่ยนแปลงไปในทาง คุณลักษณะท่ีดขี องผ้เู รียน การประเมนิ ข้อตกลง (โปรดระบุ) ท่คี าดหวงั ให้ ทดี่ ีข้ึนหรือมกี าร พฒั นา เกดิ ขนึ้ กับผู้เรียน มากขน้ึ หรือ (โปรดระบ)ุ ผลสมั ฤทธ์ิ สงู ข้ึน (โปรดระบุ) ใกล้ตวั ทอี่ ยา่ งหลากหลาย โดยการมสี ว่ น การส่งเสริมทักษะ ทกั ษะทางสมอง Executive Function รว่ มกบั ผู้ปกครองทบ่ี ้านแบบใช้ ทางสมอง (EF) สถานการณ์เปน็ ฐาน ในรูปแบบ การจัด Executive ประสบการณ์การเรียนร้รู ปู แบบ A2C Function (EF) โดยใช้สถานการณเ์ ป็นฐานประกอบสื่อท่ี หลากหลายเพื่อส่งเสริมทักษะทางสมอง Executive Function (EF) ระดับชั้น อนบุ าลปที ี่ 3 โรงเรยี นบ้านติม (พนั ธ์ พิทยาคม)” 3. ดาเนนิ กิจกรรมตามโครงการปฐมวยั ที่ ตอบสนองนโยบายและจดุ เน้นอันสง่ ผล ตอ่ พฒั นาการทั้ง 4 ด้านของนักเรยี น 4. การสร้างสอื่ พัฒนาคลปิ การสอนตาม หนว่ ยการเรียนร้ใู นรูปแบบออนไลน์โดย ใชก้ ารเรียนรู้ แบบ On Hand, On Line และ On demad ผ่านแอฟพลิเคชนั่ ตา่ งๆ เพ่ือใชใ้ นการจดั การเรียนการสอน ในช่วงสถานการณ์การระบาดด้วยโรค ตดิ เชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 5.การวัดและประเมนิ ผลการจัดการ เรียนรู้โดยพฒั นาเครื่องมือประเมนิ ผลที่ หลากหลาย เหมาะสม และสอดคล้อง กบั มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชวี้ ดั โดยการ
ลกั ษณะงานที่ปฏิบัติ งาน (Tasks) ผลลพั ธ์ (Outcomes) ตัวชีว้ ดั (Indicators) ตามมาตรฐานตาแหนง่ ท่ีจะดาเนนิ การพฒั นา ของงานตามข้อตกลง ทีจ่ ะเกดิ ขึน้ กับผู้เรียน ตามขอ้ ตกลง ใน 1 รอบ ทคี่ าดหวังให้เกดิ ขึน้ ทแ่ี สดงใหเ้ ห็นถงึ การ 2. ด้านการส่งเสรมิ และสนับสนุน เปลี่ยนแปลงไปในทาง ลักษณะงานที่เสนอให้ครอบคลุมถึง การประเมนิ กบั ผเู้ รียน ท่ีดขี ึ้นหรอื มีการพฒั นา การจัดทาข้อมูลสารสนเทศของ (โปรดระบุ) (โปรดระบ)ุ มากขึ้นหรือผลสมั ฤทธิ์ ผู้เรียนและรายวิชา การดาเนินการ สูงข้นึ (โปรดระบ)ุ ตามระบบดูแลช่วยเหลือผู้เรียน ประเมนิ ตามสภาพจรงิ เชน่ 1.นักเรียนได้รับการดแู ล การปฏิบัติงานวิชาการ และงานอ่ืน ตรวจประเมนิ ผลงาน, สอบถาม ช่วยเหลือตามข้อมลู 1.ผเู้ รียนร้อยละ 100 ๆ ข อ ง ส ถ า น ศึ ก ษ า แ ล ะ ก า ร สัมภาษณ,์ และประเมนิ ผลโดยใช้ สารสนเทศได้อยา่ ง ไดร้ บั การดูแลชว่ ยเหลอื ประสานความรว่ มมือกับผูป้ กครอง เทคโนโลยี ด้วย Wordwall รวดเร็ว ตามข้อมลู สารสนเทศที่ สร้างแบบทดสอบเกมการศึกษา 2.นักเรยี นมีแหลง่ ครูจดั ทาขนึ้ สาหรับเด็กปฐมวัย สารสนเทศรายวชิ า 2.ผ้เู รยี นร้อยละ 100 มี 6.การจัดบรรยากาศในการเรียนรู้ 3.นักเรยี นไดร้ บั การ ข้อมูลสารสนเทศสามรถ แบบ OnLinec โดยการสร้าง จดั การเรียนการสอน นาข้อมูลมาใชต้ าม สถานการณ์ทบี่ ้านใหน้ ักเรยี นได้ สถานการณจ์ ริงได้ ปฏบิ ัติจรงิ มที ักษะชวี ิตและ ทักษะการทางานและเป็นการบม่ นสิ ัยให้นกั เรียนเรียนมีความ กตญั ญมู ีคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยมที่ดีงาม และมคี วามมั่นใจ ในการพัฒนาตนเองเต็มตาม ศักยภาพ 1.จดั ทาข้อมูลสารสนเทศของ นกั เรียนเรยี นเป็นรายบคุ คล ตาม โครงการระบบดูแลช่วยเหลอื นักเรยี น ใชเ้ ทคนิควิธกี าร - กจิ กรรม Google Form - กจิ กรรม “เปดิ ประตบู ้านผา่ น ออนไลน์”เป็นการส่อื สารระหวา่ ง ครูและผู้ปกครอง และนาข้อมูล
งาน (Tasks) ผลลพั ธ์ (Outcomes) ตวั ชีว้ ัด (Indicators) ท่จี ะดาเนนิ การพฒั นา ของงานตามข้อตกลง ทีจ่ ะเกิดขน้ึ กับผเู้ รียน ลักษณะงานที่ปฏิบตั ิ ตามขอ้ ตกลง ใน 1 รอบ ท่ีคาดหวังใหเ้ กิดขึ้น ที่แสดงให้เห็นถึงการ ตามมาตรฐานตาแหน่ง การประเมนิ (โปรดระบุ) กับผเู้ รยี น (โปรดระบุ) เปลีย่ นแปลงไปในทางท่ี ดีขึ้นหรือมีการพัฒนา มากขึ้นหรือผลสัมฤทธ์ิ สูงขึ้น (โปรดระบ)ุ ภาคเี ครอื ขา่ ย และหรือสถาน มาจัดทาเป็นเอกสาร แบบเนน้ ผเู้ รียนเป็น 3.ผู้เรยี นรอ้ ยละ 100 ประกอบการ อเิ ล็กทรอนกิ ส์ มีขอ้ มูลและ สาคัญ ไดร้ ับการจัดการเรียน รายละเอยี ดของนกั เรียนท่ี 4. นักเรียนมีแหล่งการ การสอนแบบเน้นผู้เรยี น ครอบคลุมสามารถนาข้อมลู มา เรยี นร้ทู เี่ กดิ จากการ เป็นสาคญั ใช้ไดต้ ามสถานการณ์ เชน่ ขอ้ มูล ประสานความร่วมมือ 4. ผเู้ รียนรอ้ ยละ 80 ครอบครัว, ข้อมูลการเจรญิ เติบโต เพม่ิ ขน้ึ สามารถเข้าถึงแหลง่ ,สถิตกิ ารเขา้ เรยี น และรายงาน เรยี นร้ทู เ่ี กิดจากการ ผลประเมินพัฒนาการทุกดา้ น ประสานความร่วมมือ ของนักเรยี น 2.การปฏบิ ัติงานวิชาการ และ งานอ่ืน ๆ ของสถานศกึ ษาเป็น ผู้นาในการปฏิบตั ิงานด้าน วชิ าการ และประสานความ ร่วมมือกบั กลุม่ บรหิ ารงาน วิชาการสายชัน้ ปฐมวัย กาหนด โครงการกจิ กรรมต่างๆทชี่ ดั เจน โดยเน้นจดั การเรยี นรู้แบบเน้น ผเู้ รียนเปน็ สาคัญ 3. ด้านการพัฒนาตนเองและ 1.การพัฒนาตนเองอยา่ งเปน็ 1.ผเู้ รยี นมคี วามพงึ พอใจ ผู้เรยี นมีความพึงพอใจใน วิชาชพี ระบบและต่อเนื่อง ในการได้รบั การบริการ การจัดการเรยี นการรู้ ลกั ษณะงานท่ีเสนอให้ครอบคลุมถึง -เขา้ รว่ มการประชุม/อบรม/ ด้านความรู้และดา้ นอนื่ ๆ ของครูโดยรวม ผา่ น การพัฒนาตนเองอย่างเป็นระบบ สมั มนา ในสว่ นทเี่ กยี่ วข้องกบั ในรปู แบบทที่ ันสมัยข้นึ กจิ กรรม “การประเมนิ และต่อเนื่อง การมีส่วนร่วมในการ ภาระหนา้ ท่แี ละความรับผดิ ชอบ 2.ผเู้ รียนมคี วามพึงพอใจ คุณภาพการจดั การเรยี น แลกเปล่ียนเรียนรู้ทางวิชาชีพเพ่ือ และรายงานผลการประชมุ / ในการไดร้ ับบรรยากาศ การสอนของครตู าม พฒั นาการจัดการเรยี นรู้ และการ อบรม/สัมมนา อย่างเปน็ ระบบ และประสบการณ์ใหมๆ่ ความคิดเหน็ ของ
ลกั ษณะงานท่ีปฏิบัติ งาน (Tasks) ผลลพั ธ์ (Outcomes) ตัวช้ีวดั (Indicators) ตามมาตรฐานตาแหนง่ ทีจ่ ะดาเนินการพฒั นา ของงานตามข้อตกลง ทจ่ี ะเกิดขน้ึ กับผ้เู รียน ตามข้อตกลง ใน 1 รอบ ทค่ี าดหวงั ให้เกดิ ขึน้ ที่แสดงใหเ้ ห็นถงึ การ นาความรู้ความสามารถ ทักษะที่ได้ การประเมนิ (โปรดระบุ) กับผเู้ รียน (โปรดระบ)ุ เปล่ยี นแปลงไปในทางที่ จากการพฒั นาตนเองและวชิ าชีพ ดขี น้ึ หรอื มีการพัฒนา ม า ใ ช้ ใ น ก า ร พั ฒ น า ก า ร จั ด ก า ร ไมน่ อ้ ยกว่า 20 ชั่วโมง และ ทีเ่ กิดขนึ้ จากกิจกรรม มากขึน้ หรอื ผลสัมฤทธ์ิ เรียนรู้ การพัฒนาคุณภาพผู้เรียน เผยแพร่ความรู้ท่ีไดจ้ ากการ นเิ ทศการสอน สูงขึ้น (โปรดระบุ) แ ล ะ ก า ร พั ฒ น า น วั ต ก ร ร ม ก า ร ประชุม/อบรม/สมั มนา ไปยงั ครทู ี่ 3.ผเู้ รียนมคี วามพึงพอใจ ผู้บรหิ ารและผนู้ ิเทศ” จัดการเรยี นรู มสี ่วนเกี่ยวขอ้ ง ในการไดร้ บั การจัด อยู่ในระดับ มาก ข้ึนไป 2.การมีส่วนรว่ มในการ ประสบการณ์การเรยี นรู้ แลกเปลี่ยนเรยี นรทู้ างวชิ าชพี เพ่อื ใหม่ๆ ดว้ ยนวัตกรรมที่ พัฒนาการจดั การเรยี นรู้ ครูสร้างขน้ึ -เขา้ รว่ มกิจกรรมนิเทศการสอน ในบทบาทของผ้รู ับการนิเทศและ ผู้นเิ ทศรวมกนั ไม่น้อยกว่า 5 คร้งั 3. การนาความรู้ความสามารถ ทักษะที่ไดจ้ ากการพัฒนาตนเอง และวชิ าชพี มาใช้ในการ พัฒนาการจดั การเรยี นรู้ การ พัฒนาคุณภาพผ้เู รยี น และการ พฒั นานวตั กรรมการจดั การ เรยี นรู้ -จัดทานวตั กรรมเพื่อการเรียนรู้ จากการเข้ารว่ มประชุม/อบรม/ สมั มนา อยา่ งน้อย 2 รายการ และเผยแพรต่ วั อย่างผลงานท่ีได้ จากการพฒั นาให้ครูในกลุ่มสาระ การเรียนร้ไู ดน้ าไปเปน็ แนวทาง
หมายเหตุ 1. รูปแบบการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน.ตามแบบ.PA.1.ให้เป็นไปตามบริบทและสภาพการจัดการ เรียนรู้ของแต่ละสถานศึกษา โดยความเห็นชอบร่วมกันระหว่างผู้อานวยการสถานศึกษาและข้าราชการครูผู้จัดทา ขอ้ ตกลง 2. งาน (Tasks) ที่เสนอเป็นข้อตกลงในการพัฒนางาน ต้องเป็นงานในหน้าที่ความรับผิดชอบหลักท่ีส่งผล โดยตรงต่อผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน และให้นาเสนอรายวิชาหลักท่ีทาการสอน โดยเสนอในภาพรวมของ รายวชิ าหลกั ท่ีทาการสอนทุกระดับชัน้ ในกรณที สี่ อนหลายรายวชิ า สามารถเลอื กรายวิชาใดวิชาหน่ึงได้ โดยจะต้อง แสดงให้เห็นถึงการปฏิบัติงานตามมาตรฐานตาแหน่ง และคณะกรรมการประเมินผลการพัฒนางานตามข้อตกลง สามารถประเมินได้ตามแบบการประเมนิ PA 2 3. การพัฒนางานตามข้อตกลง ตามแบบ PA 1 ให้ความสาคัญกับผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน (Outcomes)และตัวชี้วัด (Indicators) ท่ีเป็นรูปธรรม และการประเมินของคณะกรรมการประเมินผลการพัฒนา งานตามข้อตกลง ให้คณะกรรมการดาเนินการประเมิน ตามแบบ PA 2 จากการปฏิบัติงานจริงสภาพการจัดการ เรียนรู้ในบริบทของแต่ละสถานศึกษา และผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนท่ีเกิดจากการพัฒนางานตามข้อตกลงเป็น สาคญั โดยไมเ่ นน้ การประเมนิ จากเอกสาร ส่วนท่ี 2 ขอ้ ตกลงในการพฒั นางานท่เี ป็นประเด็นท้าทายในการพัฒนาผลลัพธก์ ารเรยี นรู้ของผู้เรยี น ประเดน็ ทีท่ ้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรยี นของผูจ้ ดั ทาข้อตกลง ซง่ึ ปัจจุบัน ดารงตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการพเิ ศษ ตอ้ งแสดงใหเ้ ห็นถงึ ระดับการปฏบิ ัติท่ีคาดหวงั ของวิทยฐานะครู ชานาญการพิเศษ คือ การริเร่ิม พัฒนา การจัดการเรยี นรู้และการพัฒนาคณุ ภาพการเรยี นรู้ของผู้เรียน ให้เกดิ การ เปลย่ี นแปลงไปในทางท่ดี ีข้นึ หรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทง้ั นี้ ประเดน็ ท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบตั ิ ท่คี าดหวังในวทิ ยฐานะที่สูงกว่าได)้ ประเดน็ ทา้ ทาย เรือ่ ง “การจดั ประสบการณ์การเรียนรู้รปู แบบ A2C โดยใชส้ ถานการณ์เป็นฐาน ประกอบส่ือที่หลากหลายเพ่ือส่งเสริมทักษะทางสมอง Executive Function (EF) ระดบั ชั้นอนุบาลปที ี่ 3 โรงเรยี น บ้านติม(พนั ธพ์ ิทยาคม)” เป็นการจัดกจิ กรรมการเรียนรตู้ ามแนวทาง active learning เนน้ ใหน้ ักเรยี นเรียนรโู้ ดย การปฏิบตั ิจริงจากสถานการณท์ ีก่ าหนดข้นึ ในแตล่ ะหน่วยการเรียนรู้ประกอบกับการใช้ส่ือทหี่ ลากหลาย เน้นสอื่ หา ง่าย ใกลต้ ัวโดยการมสี ่วนรว่ มชองผู้ปกครองทบ่ี ้านเพื่อใหน้ ักเรียนเกดิ ทักษะทางสมองอันส่งผลต่อพัฒนาการท้งั 4 ด้านของเดก็ ปฐมวยั 1. สภาพปญั หาการจัดการเรยี นรู้และคณุ ภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน เน่อื งดว้ ยผ้จู ัดทาข้อตกลงได้รับผดิ ชอบการจดั การเรียนการสอนในระดับช้ันอนบุ าลปีท่ี 3 ไดเ้ ลง็ เห็นถงึ ความสาคัญของทกั ษะการทางานทางสมองด้านการบริหารจดั การ (Executive Function: EF) เพราะเป็น กระบวนการทางานของสมองในหลายๆ สว่ นเชื่อมโยงกันในการจดั กระบวนการทางการรู้คิดเก่ยี วของกับการ
ทางานของสมอง เป็นการทางานของสมองส่วนหน้าและการทางานประสานกันของสมองในส่วนต่าง ๆ เป็นบริเวณ ของสมองที่ทาหน้าที่สาคัญที่สดุ ซงึ่ เก่ยี วข้องกบั กระบวนการคดิ ความรสู้ กึ การกระทาตา่ ง ๆ เชน่ การคดิ ไตรต่ รอง การมคี วามจาท่ีดกี ารคิดยืดหยุ่น การวางแผน มีเปา้ หมาย มคี วามมุ่งมั่นทจ่ี ะทาให้สาเร็จอดทนและรู้จักแก้ปัญหา ความสามารถในการควบคมุ ความคิดตนเองการมสี มาธิ ความสามารถในการปรบั เปลีย่ นความคิดและความสนใจ ตามสถานการณ์รวมถึงการทางานทีซ่ บั ซ้อนจนสาเรจ็ ซึง่ กระบวนการน้ีสามรถพัฒนาไดผ้ ่านกิจกรรมที่ต้องใช้ทักษะ ด้านสงั คม อารมณ์และร่างกายเพือ่ ช่วยส่งเสริมหนา้ ท่บี ริหารจัดการของสมองใหด้ ีขน้ึ ฉะนัน้ เด็กปฐมวัยเป็นวัยทม่ี ีความสาคัญอยา่ งย่งิ เพราะในช่วงปฐมวยั เปน็ ชว่ ง สาคญั ของการสรา้ งรากฐาน ของชวี ติ การอบรม เล้ยี งดูในระยะตน้ ของชวี ติ ควรมีพืน้ ฐาน ในการ ใหค้ วามรักและความอบอนุ่ เปน็ สาคัญและเม่ือ เดก็ โตขึ้นเขาจาเปน็ ทจ่ี ะต้องได้รบั สง่ิ แวดล้อมท่ีจะสร้างเสริมพัฒนาการของเขาให้กว้างขวางออกไปซ่ึงสภาพท่ี แวดลอ้ มเดก็ และทศั นคติของพ่อแม่ จะเข้ามามอี ิทธิพลตอ่ เด็กโดยเฉพาะแบบแผนของครอบครัวและวธิ กี ารอบรม เลย้ี งดรู วมท้งั พฤตกิ รรมท่ีพ่อแมป่ ฏบิ ัติตอ่ เด็กมีสว่ นเกย่ี วข้อง กับพัฒนาการของเด็กโดยตรงทั้งสน้ิ และมีงานวิจัยว่า เด็กในชว่ งวยั 3-6 ปี จะเปน็ ชว่ งเวลาทองของชวี ติ ในการพัฒนาทกั ษะ EF ใหก้ บั เด็ก เพราะสมองจะมกี ารพัฒนา ทักษะการทางานทางสมองด้านการบริหารจัดการ (Executive Function: EF)ได้ดี ทีส่ ุด หากพน้ จากช่วงเวลานไี้ ป ถงึ วัยเรยี น วยั รนุ่ หรือ วัยผู้ใหญต่ อนตน้ แม้จะยงั พัฒนาได้ แตก่ ็จะไม่ไดด้ เี ท่ากบั ชว่ งปฐมวยั เมือ่ เด็กได้รับโอกาส พัฒนาทักษะการทางานทางสมองด้านการบรหิ ารจดั การ (Executive Function: EF) เดก็ จะไดร้ ับการพฒั นาตาม กลุม่ ทกั ษะดังน้ี กลุ่มทักษะพืน้ ฐาน 1. Working memory = ความจาทีน่ ามาใช้งาน หรือ ความสามารถในการเก็บประมวล และดงึ ข้อมลู ท่ี เก็บในคลังสมองออกมาใชต้ ามสถานการณ์ที่ต้องการ 2. Inhibitory Control = ความสามารถในการยั้งคิดไตร่ตรองควบคุมแรงอยาก หยดุ คิดก่อนที่จะทาหรือพูด 3. Shiftingหรอื Cognitive Flexibility = ความสามารถในการยืดหยุ่น พลกิ แพลง ปรับตวั เป็นจดุ ตง้ั ตน้ ของการคดิ นอกกรอบ คดิ สรา้ งสรรค์ กล่มุ ทกั ษะกากับตนเอง 4. Focus Attention = ความสามารถในการใสใ่ จจดจ่ออยู่กับส่ิงที่ทาอยา่ งต่อเน่ืองในช่วงเวลาหน่งึ ๆ โดย ไม่วอกแวก 5. Emotional Control = ความสามารถในการควบคุมอารมณใ์ ห้อยู่ในระดับที่เหมาะสม จัดการกับ อารมณ์ไม่ให้รบกวนผูอ้ นื่ ไมโ่ กรธเกร้ียวฉุนเฉียว ขี้หงุดหงิดงา่ ย จดั การกับความเครียดความเหงาได้ มีอารมณม์ นั่ คง และแสดงออกแบบทไี่ ม่รบกวนผูอ้ น่ื 6. Self-Monitoring = คอื การประเมินตนเองรวมถึงสะท้อนผลการทางาน เพื่อหาจดุ บกพร่อง แล้วแก้ไข พัฒนาใหด้ ีข้นึ การวางแผนและการจดั ระบบดาเนินการ เรม่ิ ตงั้ แต่การตง้ั เปา้ หมาย การเห็นภาพรวม จดั ลาดับ ความสาคัญ จดั ระบบโครงสร้าง จนถงึ การแตกเปา้ หมาย ใหเ้ ป็นขนั้ ตอน รวมถึงรู้ตวั วา่ กาลงั ทาอะไร ได้ผลอย่างไร
กลุม่ ทักษะปฏบิ ตั ิ 7. Initiating = ความสามารถในการริเร่ิมและลงมือทา กล้าคิดกลา้ ทา ไมผ่ ัดวันประกนั พรงุ่ 8. Planning and Organizing = การวางแผนและดาเนินการตัง้ แต่ต้ังเปา้ หมาย เหน็ ภาพรวม จดั ลาดับ ความสาคัญ จดั ระบบ จนถึงการดาเนินการ และประเมินผล 9. Goal- Directed Persistence = ความพากเพียรให้บรรลุเปา้ หมายม่งุ ม่ัน ฝา่ ฟนั อปุ สรรคและลม้ แล้ว ลกุ ได้ เมื่อตัง้ ใจและลงมือทาแลว้ มีความมงุ่ มั่นบากบนั่ ไม่วา่ จะมีอุปสรรคใดๆ กพ็ ร้อมฝา่ ฟันจนถึงความสาเร็จ ทักษะเหล่านต้ี ้องได้รับการฝึกฝนอย่างตอ่ เนื่องสม่าเสมอในชวี ติ ประจาวัน ทั้งที่บา้ นและทโี่ รงเรยี น เพื่อให้ เกิดการ “ฝงั ชปิ ” เปน็ โครงสรา้ งในสมองของเด็ก โดยเฉพาะในวัย 3-6 ปี ซึง่ เม่ือฝงั ตวั แล้วกจ็ ะคงอยเู่ ป็นนิสัยหรือ คณุ สมบตั ิของบุคคลไปตลอดชวี ิต กลา่ วไดว้ า่ เด็กที่มี EF ดี จะมีความพร้อมทางการเรียนมากกว่าเดก็ ที่ EF ไม่ดี และประสบความสาเร็จ ได้ในการเรยี นทกุ ระดบั ตง้ั แตอ่ นุบาล ประถม มัธยม ไปถงึ มหาวทิ ยาลัย จนกระทัง่ ในการทางาน เด็กทีห่ ยุดได้ ไตร่ตรองเปน็ ไมห่ ุนหนั พลนั แล่น มเี ป้าหมาย และทาตามเป้าหมายให้สาเรจ็ นีแ่ หละจะทาใหเ้ ขาประสบ ความสาเร็จเม่ือโตข้นึ 2. วธิ ีการดาเนนิ การใหบ้ รรลุผล “การจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้รูปแบบ A2C โดยใช้สถานการณ์เปน็ ฐานประกอบส่ือที่หลากหลายเพื่อ สง่ เสริมทักษะทางสมอง Executive Function (EF) ระดับชนั้ อนบุ าลปีที่ 3 โรงเรยี นบ้านติม (พันธพ์ ิทยาคม)” เป็นการจดั กิจกรรมการเรยี นรตู้ ามแนวทาง active learning เนน้ ให้นักเรยี นเรียนร้โู ดยการปฏิบัตจิ ริงจาก สถานการณ์ที่กาหนดขนึ้ ในแต่ละหน่วยการเรียนรปู้ ระกอบกับการใช้สือ่ ท่ีหลากหลาย เน้นสอ่ื หาง่าย ใกล้ตัวโดยการ มสี ่วนร่วมชองผูป้ กครองทบ่ี ้านเพอ่ื ใหน้ กั เรยี นเกดิ ทกั ษะทางสมองอนั ส่งผลต่อพัฒนาการทง้ั 4 ดา้ นของเด็กปฐมวยั 3. ผลลพั ธ์การพฒั นาท่ีคาดหวัง 3.1 เชิงปริมาณ - นักเรียนชัน้ อนุบาลปีที่ 3 ร้อยละ 100 ได้รบั การส่งเสริมทักษะทางสมอง Executive Function (EF) 3.2 เชิงคุณภาพ - นกั เรียนช้นั อนบุ าลปที ่ี 3 มีพัฒนาการด้านร่างกาย, ด้านอารมณ์ - จิตใจ, ด้านสังคม ดา้ นสตปิ ัญญา อยูใ่ นระดับดี - มชี ดุ การสอนการจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้รูปแบบ A2C โดยใช้สถานการณเ์ ป็นฐานประกอบ สอื่ ท่ีหลากหลายเพ่ือส่งเสริมทักษะทางสมอง Executive Function (EF) ระดับช้นั อนบุ าลปีที่ 3 โรงเรียนบ้าน ตมิ (พันธ์พิทยาคม)” ซึ่งเปน็ ชุดกจิ กรรมทีส่ ามารถใช้สอนได้ทงั้ แบบ On site On line และ On hand
ลงชือ่ ........................................................................ (นางกนกอร อะนอุ ัน) ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการพิเศษ ผ้จู ัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน 1 / ตลุ าคม / 2564 ความเห็นของผ้อู านวยการสถานศกึ ษา ( ) เหน็ ชอบใหเ้ ปน็ ขอ้ ตกลงในการพัฒนางาน ( ) ไมเ่ ห็นชอบใหเ้ ป็นขอ้ ตกลงในการพฒั นางาน โดยมขี ้อเสนอแนะเพอ่ื นาไปแก้ไข และเสนอเพื่อพจิ ารณา อีกคร้งั ดังน้ี ....................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื .................................................................... (นายอนุสรณ์ จัตตเุ รศ) ตาแหน่ง ผู้อานวยการโรงเรียนบา้ นติม (พนั ธ์พทิ ยาคม) 1 / ตลุ าคม / 2564
Search
Read the Text Version
- 1 - 11
Pages: