Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สรุป 5 บท สมารทรนเนอร์พร้อม

สรุป 5 บท สมารทรนเนอร์พร้อม

Published by จันทกานต์ ทําเนาว์, 2020-09-09 03:03:00

Description: สรุป 5 บท สมารทรนเนอร์พร้อม

Search

Read the Text Version

สรปุ ผลการจดั กิจกรรมการศกึ ษาเพือ่ พฒั นาพ้นื ทภ่ี าคตะวันออก ปีงบประมาณ 2563 (ไตรมาส3-4) โครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ตาบลไรห่ ลกั ทอง ระหว่างวนั ท่ี 14-15 กรกฎาคม 2563 ณ ศูนยเ์ รยี นรเู้ ศรษฐกจิ พอเพยี ง หมู่ 6 ตาบลไร่หลกั ทอง อาเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี กศน.ตาบลไร่หลักทอง ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอพนัสนคิ ม สานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั จงั หวดั ชลบุรี

คานา กศน.ตาบลไรห่ ลกั ทอง สังกัด ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอพนสั นิคม ได้จัดทาโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ตาบลไร่หลักทอง โดยมีวัตถุประสงคเ์ พื่อให้ประชาชนในตาบล หนองขยาดสามารถพฒั นาศักยภาพดา้ นเกษตรของตน ใหม้ ีการบริหารจัดการเปน็ เกษตรเชงิ ทอ่ งเทีย่ วให้เพ่ิมขน้ึ และเป็น เกษตรกรต้นแบบ (Master Trainer) ขยายผลให้เปน็ เกษตรกรปราดเปร่อื ง Smart Farmer แกช่ มุ ชนได้ ซึ่งมีการสรุปผลการจัด กิจกรรมโครงการดงั กล่าวเพ่ือต้องการทราบว่าการดาเนนิ โครงการบรรลุตามวัตถุประสงค์ทก่ี าหนดไวห้ รือไม่ บรรลใุ นระดับ ใดและไดจ้ ดั ทาเอกสารสรุปผลการจัดกิจกรรมโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ตาบลไรห่ ลักทอง เสนอ ตอ่ ผู้บรหิ าร ผู้เกี่ยวข้องเพ่ือนาข้อมูลไปใชใ้ นการปรบั ปรงุ และพฒั นาการดาเนินโครงการใหด้ ยี ิ่งข้ึน คณะผู้จดั ทา ขอขอบคุณผู้อานวยการศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอพนสั นิคม ท่ีให้คาแนะนา คาปรกึ ษา ในการจดั ทาสรุปผลการจัดกจิ กรรมโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ตาบลไร่ หลกั ทอง ในครั้งน้ี หวงั เปน็ อย่างย่งิ ว่าเอกสารสรุปผลการจัดกจิ กรรมโครงการขยายผลเกษตรกรตน้ แบบ Master Trainer ตาบลไรห่ ลกั ทอง ฉบบั น้ี จะเป็นประโยชนต์ ่อผปู้ ฏิบัติงานโครงการและหนว่ ยงานท่เี กี่ยวขอ้ งในการนาไปใช้ในการจดั กิจกรรม การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั ตอ่ ไป นางสาวจนั ทกานต์ ทาเนาว์ ครู กศน.ตาบลทองไร่ทอง กรกฎาคม 2563

สารบัญ หนา้ ก หัวเรอื่ ง ข คานา ค สารบญั สารบัญตาราง 1 บทท่ี 1 บทนา 2 2 หลักการและเหตผุ ล 2 วัตถปุ ระสงค์ 2 เปูาหมายการดาเนนิ งาน ผลลพั ธ์ 3 ตวั ชว้ี ัดผลสาเรจ็ ของโครงการ 17 บทท่ี 2 เอกสารการศึกษาและงานวิจัยที่เก่ยี วข้อง 20 เอกสาร/งานที่เก่ียวข้อง 25 บทที่ 3 วิธดี าเนนิ งาน บทท่ี 4 ผลการวเิ คราะห์ข้อมลู บทที่ 5 อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ บรรณานกุ รม ภาคผนวก คณะผูจ้ ัดทา

สารบัญตาราง หนา้ ตารางที่ 20 20 1. ผเู้ ข้าร่วมโครงการท่ีตอบแบบสอบถามไดน้ ามาจาแนกตามเพศ 21 2. ผู้เข้ารว่ มโครงการท่ีตอบแบบสอบถามไดน้ ามาจาแนกตามอายุ 21 3. ผู้เขา้ ร่วมโครงการท่ตี อบแบบสอบถามได้นามาจาแนกตามอาชพี 21 4. ผเู้ ข้าร่วมโครงการที่ตอบแบบสอบถามไดน้ ามาจาแนกตามระดบั การศึกษา 22 5. แสดงคา่ ร้อยละเฉลี่ยความสาเรจ็ ของตวั ชวี้ ัด ผลผลติ ประชาชนทว่ั ไป 22 6. ค่าเฉลย่ี และสว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐานความพึงพอใจฯ โครงการ ในภาพรวม 23 7. ค่าเฉล่ียและส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐานความพงึ พอใจฯ โครงการ ดา้ นบริหารจดั การ 23 8. คา่ เฉลี่ยและสว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐานความพงึ พอใจฯ โครงการ ด้านการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 9. คา่ เฉลย่ี และสว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐานความพงึ พอใจฯ โครงการ ด้านประโยชนท์ ่ีได้รับ

1 บทที่ 1 บทนา หลกั การและเหตุผล ตามที่พลเอก ประยทุ ธ์ จันทร์โอชา นายกรฐั มนตรี มนี โยบายชว่ ยเหลอื เกษตรกร โดยช้นี าเกษตรกรไทยต้องเปน็ Smart Farmer คือ ตอ้ งนาความรู้ หลกั วิชาการ และเทคโนโลยีสมยั ใหม่ เข้ามาชว่ ยในการทาการเกษตร โดยต้องทาให้ นอ้ ยลง ไดผ้ ลผลติ มากขน้ึ ใช้พ้ืนท่ใี ห้น้อยลง ใช้นา้ ใหน้ อ้ ยลง ผลผลติ เพม่ิ ข้ึน ในปีงบประมาณ 2563 สานักงาน กศน.จงั หวัดชลบุรี ได้รับงบประมาณในการพฒั นาศกั ยภาพการผลติ ภาค การเกษตร การสร้างองค์ความรู้แก่กลุ่มเปาู หมายให้มคี วามรู้ ความชานาญอย่างตอ่ เน่ืองสามารถขยายผลแก่ผอู้ นื่ ได้ เป็น ความจาเปน็ ที่จะต้องดาเนินการให้สอดคล้องกับยุทธศาสตรช์ าติ มุง่ เน้นการสร้างสมดลุ ระหว่างการพฒั นาความมัน่ คง สงั คม และสิ่งแวดลอ้ ม โดยการมสี ว่ นร่วมของทุกภาคสว่ นในรูปแบบ “ประชารฐั ” โดยยุทธศาสตร์ชาติดา้ นการสร้างความสามารถ ในการแข่งขนั มีเปูาหมายการพัฒนาทม่ี ุ่งเนน้ การยกระดับศักยภาพของประเทศในหลากหลายมิติ บนพน้ื ฐานแนวคดิ 3 ประการ ได้แก่ (1) “ต่อยอดอดตี ” โดยมองกลับไปทรี่ ากเหงา้ ทางเศรษฐกจิ อัตลักษณ์ วัฒนธรรม ประเพณี วถิ ชี ีวติ และ จุดเดน่ ทาทรัพยากรธรรมชาติท่หี ลากหลาย รวมทงั้ ความได้เปรียบเชิงเปรยี บเทียบของประเทศในด้านอน่ื ๆ นามาประยกุ ต์ ผสมผสานกบั เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพ่ือใหส้ อดกับบรบิ ทของเศรษฐกิจและสังคมโลกสมยั ใหม่ (2) “ปรับปจั จุบัน” เพือ่ ปู ทางสอู่ นาคตผา่ นการพัฒนาโครงสรา้ งพนื้ ฐานของประเทศในมติ ิต่าง ๆ ทั้งโครงข่ายระบบคมนาคม และการขนสง่ โครงสรา้ ง พ้นื ฐานวทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยีและดจิ ิทัล และปรับสภาพแวดล้อมใหเ้ อ้ือต่อการพฒั นาอุตสาหกรรมและบริการอนาคต และ (3) “สร้างคุณค่าใหม่ในอนาคต” ด้วยการเพิ่มศักยภาพของผปู้ ระกอบการ พฒั นาคนรุน่ ใหมร่ วมถงึ ปรบั รูปแบบธรุ กิจเพ่ือ ตอบสองความต้องการของตลาด ผสมผสานกับยทุ ธศาสตร์ที่รองรับอนาคต บนพ้นื ฐานของการต่อยอดอดตี และปรบั ปัจจุบนั พร้อมทั้งการส่งเสริมและสนบั สนุนจากภาครัฐใหป้ ระเทศไทยสามารถสรา้ งฐานรายได้และการจา้ งงานใหม่ ขยายโอกาสทาง การค้าและการลงทนุ ในเวทโี ลก ควบค่กู ับการยกระดบั รายได้และการกนิ ดีอยู่ดี รวมถงึ การเพม่ิ ขึ้นของคนชนั้ กลาง และลด ความเหลือ่ มลา้ ของคนในประเทศในคราวเดยี วกนั ในปีงบประมาณ 2561 ได้ดาเนินการจัดอบรมประชาชนในตาบล จานวน 92 แห่ง มปี ระชาชนทผ่ี ่านการอบรมเร่ือง เกษตรกรปราดเปร่อื ง Smart Farmer จานวน 1,380 คน และเพื่อการพัฒนาต่อเนื่องให้เกษตรกรผผู้ ่านการอบรมสามารถ ไปขยายผลกบั เกษตรกรอื่น ๆ ใหส้ ามารถประกอบอาชีพดา้ นการเกษตรได้อย่างมีประสิทธภิ าพ สร้างรายได้ให้แกต่ นเองและ ครอบครัว มีความมั่นคงในอาชีพดา้ นการเกษตร มีความภูมิใจในการเป็นเกษตรกร รวมท้ังเป็นแบบอย่างใหก้ ับคนรนุ่ หลัง ให้ เกดิ ความรัก หวงแหนในอาชีพดา้ นการเกษตร จงึ ได้กาหนดใหม้ ีโครงการ Smart ONIE เพ่อื สรา้ ง Smart Farmer ปงี บประมาณ 2562 เพ่ือจัดอบรมต่อยอดการพฒั นาให้เป็นเกษตรกรตน้ แบบ (Master Trainer) ปงี บประมาณ 2563 เกษตรกรตน้ แบบ (Master Trainer) ที่ผา่ นการอบรมในปีงบประมาณ 2562 ได้ไปขยายผลการอบรมประชาชนใหเ้ ป็น เกษตรกรปราดเปร่อื ง Smart Farmer ตอ่ ไป จากเหตผุ ลดงั กลา่ ว กศน.ตาบลไร่หลักทอง จงึ ไดจ้ ดั โครงการขยายผลเกษตรกรตน้ แบบ Master Trainer ตาบล ไรห่ ลักทอง เพ่ือเปน็ การพฒั นาอย่างต่อเนือ่ งให้เกษตรกรผูผ้ ่านการอบรมสามารถไปขยายผลกับเกษตรกรอ่ืน ๆ ให้สามารถ ประกอบอาชีพดา้ นการเกษตรไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ สรา้ งรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว มคี วามม่ันคงในอาชพี ด้าน การเกษตร มคี วามภูมิใจในการเปน็ เกษตรกร รวมท้ังเปน็ แบบอยา่ งให้กับคนรุน่ หลงั ให้เกิดความรัก หวงแหนในอาชีพด้าน การเกษตรตอ่ ไป

2 วัตถุประสงค์ 1. เพื่อพัฒนาศักยภาพเกษตรกรให้มอี งคค์ วามรู้ด้านการบรหิ ารจัดการงานเกษตรและการเกษตรเชิงท่องเท่ยี ว เพม่ิ ข้ึน 2. เพ่ือให้เกษตรกรตน้ แบบ (Master Trainer) ได้ไปขยายผลการอบรมประชาชนให้เปน็ เกษตรกรปราดเปร่ือง Smart Farmer เป้าหมาย (Outputs) เชงิ ปรมิ าณ - เกษตรกรตาบลไรห่ ลกั ทอง จานวน 15 คน เชิงคุณภาพ - ร้อยละ 80 ของประชาชนท่ไี ดร้ บั การอบรมมีความรู้เพ่ิมมากขน้ึ และสามารถเป็นเกษตรกรปราดเปรื่อง Smart Farmer ได้ ผลลัพธ์ - ผเู้ ข้าร่วมสามารถพัฒนาศกั ยภาพดา้ นเกษตรของตน ใหม้ ีการบริหารจัดการเป็นเกษตรเชิงทอ่ งเทย่ี วใหเ้ พ่มิ ขึ้น และเป็นเกษตรกรตน้ แบบ (Master Trainer) ขยายผลให้เป็นเกษตรกรปราดเปรอื่ ง Smart Farmer แกช่ ุมชนได้ ดชั นีชี้วดั ผลสาเร็จของโครงการ ตัวชี้วดั ผลผลติ - ร้อยละ 80 ผเู้ ขา้ รบั การอบรมมกี ารพฒั นาศักยภาพเกษตรกรใหม้ ีองค์ความรู้ด้านการบรหิ ารจดั การงาน เกษตรและการเกษตรเชงิ ทอ่ งเทยี่ วเพม่ิ ขนึ้ ตัวช้ีวดั ผลลพั ธ์ - รอ้ ยละ 80 ผู้เขา้ รบั การอบรมเกษตรกรตน้ แบบ (Master Trainer) ได้ไปขยายผลการอบรมประชาชนให้ เป็นเกษตรกรปราดเปรื่อง Smart Farmer

3 บทท่ี 2 เอกสารการศกึ ษาและรายงานท่ีเก่ยี วขอ้ ง การเกษตรกบั การดารงชวี ติ ความหมาย ความสาคัญของการเกษตร การเกษตร หมายถงึ การปฏิบัตเิ พ่อื ให้เกิดผลผลิตจากการปลูกพืช เลยี้ งสตั ว์ การประมงและการจดั การท่ีดิน ความสาคัญของการเกษตร การเกษตรมีความสาคญั ตอ่ การดารงชวี ิตของมนุษยท์ ัง้ ในชวี ิตประจาวัน การพัฒนาประเทศและสิ่งแวดล้อม ได้แก่ 1. ปจั จัย 4 คือ อาหาร เคร่ืองนุง่ หม่ ยารกั ษาโรค และทอ่ี ยู่อาศัย ซ่ึงเป็นผลผลิตมาจากการเกษตร 2. สรา้ งรายได้ให้คนไทยและประเทศไทย จากการจาหนา่ ยผลผลิตทงั้ ภายในประเทศและต่างประเทศ 3. สรา้ งสง่ิ แวดลอ้ มท่ดี ี ใหค้ วามรม่ รืน่ สวยงามและลดภาวะโลกร้อน อาชพี เกษตรกรรม ความสาคัญของอาชีพ 1. อาชพี ทที่ าให้เกดิ รายได้ 2. อาชพี ชว่ ยใหป้ ระเทศมคี วามมน่ั คง 3. อาชีพสรา้ งความสัมพันธอ์ ันดรี ะหวา่ งประเทศ 4. อาชพี ชว่ ยแกป้ ญั หาทางสงั คม ประเภทของอาชีพ 1. อาชพี อิสระ หมายถงึ การประกอบอาชีพทีบ่ ุคคลหรอื กลมุ่ บคุ คลนั้นเป็นเจา้ ของกิจการ ไม่มนี ายจ้าง มีอิสระ ในการทางาน เชน่ อาชีพค้าขาย อาชพี เกษตรกรรม เสรมิ สวย ซอ่ มรถ 2. อาชพี รับจา้ ง หมายถึง อาชีพท่ีมีรายได้จากคา่ จ้างแรงงานแตไ่ ม่ได้เปน็ เจา้ ของกจิ การ เชน่ ขา้ ราชการ พนกั งานบริษทั แพทย์ พยาบาล การประกอบอาชีพเกษตรกรรมให้สาเร็จ 1. การรจู้ กั ตนเอง ต้องสารวจความถนดั ความชอบและมีความสนใจในอาชีพนเ้ี พ่อื เป็นข้อมลู ในการตดั สนิ ใจ หรือ ค้นหาข้อบกพร่องของตนเองแลว้ นาไปปรบั ปรงุ 2. ศกึ ษานโยบายสง่ เสริมจากภาครัฐบาล รฐั บาลได้มีนโยบายสง่ เสริมสนบั สนนุ กจิ การตา่ งๆในการประกอบอาชพี เกษตรกรรม มแี หล่งสง่ เสรมิ การค้า แหลง่ เงนิ ทุน แหลง่ ความรู้ เชน่ กระทรวงเกษตรฯ สถาบันการศกึ ษา 3. การตลาด การตลาดเป็นส่ิงสาคญั และจาเป็นสาหรบั อาชพี เกษตร ควรต้องร้ขู อ้ มลู เกย่ี วกบั การตลาด ตลอดจน วิเคราะหป์ ัญหาและอุปสรรคของการตลาดได้ 4. รสู้ ภาพแขง่ ขนั ทางการค้า ต้องร้จู กั คูแ่ ข่ง เพื่อเปน็ ขอ้ มลู ในการพฒั นาปรับปรงุ สนิ ค้าและบริการใหเ้ ปน็ ที่นิยมของ ผบู้ ริโภค 5. การบริหารงานอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ 6. การทาบัญชี 7. การรปู้ ัญหาทางการเงนิ 8. การเลอื กบุคลากรมาร่วมงาน

9. พัฒนาวธิ กี ารขายสินคา้ และบริการ 4 ปญั หาในการประกอบอาชพี เกษตรกรรม 1. สภาพดนิ ฟูาอากาศ 2. โรคพชื และโรคสตั ว์ 3. ผลผลิตล้นตลาดและราคาผลผลิตตกตา่ การเกษตรทฤษฎีใหม่ การเกษตรทฤษฎใี หม่ เปน็ แนวพระราชดาริของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัวในเร่ืองของการบรหิ ารจดั การนา้ และ ทีด่ ิน เพ่ือการจัดการเกษตร มี 3 ขน้ั ตอนดังนี้ ขั้นท่ี 1 ทฤษฎใี หม่ข้ันต้น การทาทฤษฎใี หมข่ ้ันท่ี 1 มีวตั ถปุ ระสงค์เพื่อศักยภาพของการผลติ ให้มีอาหารประจาวัน พ่งึ ตวั เองมากขน้ึ มีความ เป็นอยอู่ ยา่ งพอเพียง จดั สรรพืน้ ที่ทากนิ และท่ีอยูอ่ าศยั แบ่งเปน็ 4 ส่วน ตามอตั ราส่วน 30:30:30:10 ขนั้ ที่ 2 ทฤษฎีใหมข่ ้ันกลาง เม่อื เกษตรกรมีความเข้าใจในหลกั การเกษตรถูกต้องตามแนวเกษตรทฤษฎีใหม่ สามารถอยู่อยา่ งพอเพยี ง มกี าร พัฒนาอยู่ในระดับ \"พออยพู่ อกนิ \" แลว้ กด็ าเนินไปสู่ขนั้ \"พอมอี ันจะกิน\"และเพื่อให้ความม่ันคงของรายได้ใหเ้ ริม่ เขา้ สู่ทฤษฎี ใหม่ ขัน้ ที่ 2 หรอื ทฤษฎีใหมข่ ้ันกลาง คอื การรวมพลงั สรา้ งความสามัคคีในรปู ของกลมุ่ สหกรณ์ ดงั นี้ 1. การผลิต เกษตรกรตอ้ งรว่ มมือกนั ในการผลติ 2. การตลาด ศึกษาการตลาด รวมกันขายผลผลติ ในราคากลางทยี่ ตุ ธิ รรม 3. ความเป็นอยู่ เกาตรกรต้องมีความเป็นอยทู่ ด่ี ี 4. สวัสดิการ แต่ละชุมชนมสี วัสดกิ ารและความเป็นอยทู่ ี่ดี 5. การศกึ ษา โรงเรียนและสถานศึกษาในชมุ ชนมบี ทบาทสาคญั เพอ่ื เปน็ แหลง่ เรยี นรู้ 6. สังคมและศาสนา มีคุณธรรมในการประกอบอาชีพ มีการพฒั นาจิตใจ ข้ันที่ 3 ทฤษฎใี หม่ขั้นกา้ วหน้า ผ่านข้นั ที่ 1 ข้นั ที่ 2 มาแล้วมีฐานะมน่ั คง มีรายได้มากขึน้ จากการจาหน่ายผลผลิต เกษตรกรควรรวมกลุม่ การพัฒนา ไปสขู่ นั้ 3 ตอ่ ไป มีการตดิ ต่อประสานงานเพอ่ื หาแหล่งเงินทุนจากสถาบันการเงิน เช่น ธนาคาร บริษทั เอกชน เศรษฐกจิ พอเพียง ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง เปน็ ปรชั ญาทช่ี ถ้ี งึ แนวทางการดารงอย่แู ละปฏิบัติตนของประชาชนทุกระดับ ตงั้ แต่ ครอบครวั ชมุ ชน รฐั ทงั้ ในการพฒั นาและการบริหารประเทศให้ดาเนนิ ในทางสายกลาง ความพอเพยี ง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล มีภมู ิคมุ้ กันที่ดี อนั เกิดอันเกดิ จากการเปลย่ี นแปลงท้งั ภายในและภายนอก ความพอเพยี งประกอบด้วยคุณลกั ษณะ 3 ประการ 1. ความพอประมาณ หมายถึง การกระทาของบุคคลในลักษณะไม่น้อย ไม่มากเกนิ ไป โดยไม่เบยี ดเบยี นตนเองหรอื ผอู้ ืน่ 2. ความมีเหตผุ ล หมายถงึ การทีบ่ ุคคลได้พิจารณาอย่างรอบคอบดว้ ยวิธกี ารตา่ งๆ ทัง้ เหตผุ ลตามหลักวิชา เหตุผล ในการดาเนินชวี ิต

5 3. การมีภมู คิ ุ้มกนั ทีด่ ใี นตัว หมายถงึ ความสามารถท่จี ะปรบั ตัวให้พร้อมรบั การเปลี่ยนแปลงพร้อมรบั ผลกระทบท้งั ที่ ดีและไม่ดีในอนาคต การวางแผนจัดการในการผลติ พชื การวางแผนจัดการในการผลิตพืช 2.1 การศึกษาข้อมูลผลติ พืช เปน็ การเริ่มดาเนินงานแสวงหาความรู้เกย่ี วกบั พชื ทีจ่ ะปลูก ท้งั นเ้ี พื่อจะไดเ้ รียนรใู้ ห้ ประชากรปลูกพืชได้ตามความต้องการและสนใจ ซง่ึ มีแนวทางการศึกษาหลายด้านดังน้ีหนังสอื ตารา เอกสาร วารสาร และ ส่งิ พิมพ์ต่างๆ ข่าวจากอินเตอรเ์ นต็ โดยศึกษาจากเว็บไซต์ต่างๆ ทง้ั ของราชการและเอกชน แหล่งวิชาการเกษตรในทอ้ งถิ่น 2.2 การวางแผนการผลติ พืช เปน็ การกาหนดการปฏบิ ตั งิ านปลกู พืชพร้อมระยะเวลา และผู้รบั ผิดชอบไว้ลว่ งหน้า เพ่อื การปฏิบัตงิ านดาเนินไปด้วยความรวดเร็ว และเรยี บรอ้ ย การวางแผนการปฏบิ ัตงิ านประกอบด้วย 1. ช่ือพชื ท่จี ะปลูก 2. จุดประสงค์ 3. แผนการปฏิบตั ิงานระยะเวลา และผรู้ ับผดิ ชอบ การจัดการศตั รพู ชื โดยวธิ ีผสมผสาน การจัดการศัตรูพชื โดยวธิ ีผสมผสาน (Integrated Pest Management : IPM) หมายถงึ การเลือกใช้วิธคี วบคมุ ศตั รูพชื ทมี่ ีอยู่อย่างรอบคอบ แล้วนามาผสมผสานกนั อยา่ งเหมาะสม เพ่อื ลดปริมาณศัตรูพืชและคงไว้ซึ่งระดับการใชส้ าร กาจดั ศัตรูพชื หรอื การใช้ส่ิงแปลกปลอมอนื่ ๆ อย่างคุ้มคา่ และลดหรอื หลีกเลย่ี งอนั ตรายที่อาจเกิดกับมนุษย์และสง่ิ แวดลอ้ ม IPM เน้นการปลูกพืชให้แขง็ แรง ให้มกี ารกระทาท่อี าจรบกวนระบบนิเวศเกษตรนอ้ ยทีส่ ุด และสนับสนุนกลไกการใช้ศัตรู ธรรมชาตคิ วบคุมศัตรูพืช การควบคุมแมลงศัตรพู ชื โดยชวี วิธี หมายถงึ การใช้ส่ิงมชี วี ติ ในการควบคุมแมลงศตั รูพชื ให้อยภู่ ายใตร้ ะดับความ เสียหายทางเศรษฐกิจทก่ี าหนด เชน่ ไส้เดือนฝอย ฉีดพ่นไสเ้ ดือนฝอยใหส้ ัมผสั ตวั แมลง โดยเฉพาะในระยะไขและระยะตัวหนอน ไส้เดือนฝอยจะเข้าไป ตามชอ่ งเปิดของลาตัวแมลง แล้วเข้าไปอยู่ในกระแสเลอื ดของแมลง จากนน้ั แบคทเี รียซ่งึ อย่ใู นทางเดนิ อาหารของไส้เดือน ฝอยเริ่มขยายพนั ธ์ุ เพม่ิ ปริมาณ และเคล่ือนตัวออกทางทวารของไส้เดือนฝอย เข้าไปอยู่ในชอ่ งว่างลาตัวแมลง เขา้ ทาลาย ของเหลวภายในตวั แมลงทาใหเ้ ลอื ดเปน็ พิษ และตายภายใน 3-4 วัน ลกั ษณะอาการของตวั หนอนท่ีถูกทาลายมสี ีครีม นา้ ตาล อ่อน ลาตวั เหนยี ว ไมเ่ ละ ไสเ้ ดอื นฝอยสามารถเคล่ือนทเ่ี ข้าหาเหยือ่ ได้ ในระยะใกล้ ๆ ได้ เชอื้ แบคทีเรีย พน่ เชอ้ื แบคทีเรยี ให้จบั อยทู่ ใ่ี บพืช เม่ือตวั หนอนกินใบพชื เชอ้ื แบคทีเรียทจ่ี ับตามใบพชื จะเขา้ สู่ ร่างกาย ไปรบกวนการย่อยอาหารของตวั หนอน ทาให้ตัวหนอนไม่สามารถกนิ อาหารไดต้ ามปกติ และตายในทสี่ ุด ตัวหนอน ได้รับแบคทเี รยี ทางปาก การตายจะช้าหรือเร็วข้ึนอยกู่ ับชนิดของแบคทเี รีย สภาพแวดลอ้ ม อาหารหนอน ความเปน็ กรด-ดา่ ง ในลาไส้ แบคทเี รียไม่มีอันตรายตอ่ คน สตั ว์เลอื ดอุ่น ตัวห้า ตวั เบียน

6 เชอื้ รา จะทาลายโดยการทาลายเนื้อเยอ่ื เส้นใยจะเจริญอย่ใู นลาตัวทาให้แมลงแห้งตาย ไวรสั มีความเฉพาะเจาะจงกับแมลงอาศยั เช่น NPV ของหนอนกระทู้หอม จะเกิดกบั หนอนกระทู้หอมเท่านน้ั เมอื่ ตวั หนอนกินกนิ ไวรัสที่ปะปนอยบู่ นพชื อาหาร ไวรัสจะไปเพม่ิ จานวนอยู่ในนิวเคลยี สของเยื่อหุม้ ต่าง ๆ ของหนอน เช่น เม็ด เลอื ด ไขมนั ทางเดนิ อาหาร ทอ่ หายใจ และผนังลาตัวหนอนจะเปน็ โรค และตายภายใน 2-7 วัน ขึน้ อยู่กับขนาดตวั หนอน ตัวหา้ หมายถงึ สง่ิ มชี ีวิตดารงชวี ติ โดยการกินแมลงศตั รูพืชเป็นอาหารเพื่อการเจริญเตบิ โตจนครบวงจรชวี ิต ตวั ห้ามี ทง้ั สัตว์มีกระดกู สนั หลัง เชน่ นก งู ก้งิ ก่า กบ และสตั ว์ไม่มีกระดูกสนั หลังหรอื แมลง ต่าง ๆ เช่น มวนพิฆาต มานเพชฌฆาต ดว้ งเต่าลาย แมงมุม ตัวเบยี น หมายถึง แมลงซึ่งอาศยั กินและเบียนแมลงอนื่ ๆ แมลงเบียนมีขนาดตวั เลก็ กว่าเหยื่อ และมีความ เฉพาะเจาะจงกับชนิดของเหยื่อ ไข่ของแมลงเบียนบางชนิดมคี วามสามารถในการแบ่งตัว เพื่อเพ่มิ ปริมาณให้มากข้ึนได้ การ ทาลายเหย่ือของแมลงเบียนมีลกั ษณะค่อยเป็นค่อยไป แมลงเบยี นจะเขา้ ทาลายในระยะต่าง ๆ ของการเจริญเตบิ โต เช่น ไข่ ตัวออ่ น ดักแด้ และตวั เต็มวัย ทาให้เหย่อื ค่อย ๆ ตายไปในที่สุด การควบคมุ แมลงศัตรพู ชื โดยวิธีเขตกรรม หมายถึง การดแู ลและปรับปรงุ สภาพแวดล้อมของต้นพชื ใหม้ ีความอดุ ม สมบรู ณ์ เช่น การตัดแตง่ ก่ิง การกาจัดวชั พชื การไถพรวนดิน การปรับสภาพดนิ ให้มีความเหมาะสม นอกจากจะเปน็ การ ทาลายแหล่งอาศัยของศัตรพู ืชแล้ว พชื จะเจริญเติบโตได้ดี แข็งแรงสามารถทนตอ่ การเข้าทาลายของแมลงได้ดว้ ย การปรับสภาพดิน เชน่ การเตรียมดินให้มีระดับ pH ทเี่ หมาะสม มีแร่ธาตุอาหารสมบรู ณ์ มีความสมา่ เสมอของหน้า ดนิ การไถพรวน เป็นการกลบั หน้าดนิ ข้ึนเพ่ือทาลายไข่และตวั อ่อนของแมลงท่อี ยู่ในดิน และกาจัดวชั พชื ได้อีกทางหนง่ึ ดว้ ย การกาจัดวัชพชื เพ่ือจากัดแหล่งทอ่ี ยู่อาศัยของแมลง และเปน็ การลดการแก่งแย่งอาหาร ทาให้พชื ที่ปลูกดูดซมึ น้า แร่ธาตุ อาหารได้อย่างเต็มท่ี การตดั แตง่ กิ่ง เพ่ือจากดั ท่ีอยู่อาศัยของแมลง ทาใหแ้ สงแดดสอ่ งผา่ นได้มากย่ิงขึน้ การสังเคราะห์แสงของพชื ทาได้ เตม็ ท่ี การจดั การกับต้นพชื และแมลงก็ทาไดส้ ะดวกขึ้น การปลกู พืชหมุนเวยี น คือ การหลกี เลี่ยงไม่ให้มีแหล่งอาหารและที่อยู่อาศัยของแมลงนัน้ ๆ เปน็ เวลานาน เพ่อื ควบคุม แมลงท่ีมีการเคลือ่ นท่ไี ม่ไกล แมลงท่ีมีชนิดอาหารจากัด และมีการผสมพนั ธ์ุชา้ การปลูกพชื แบบผสมผสาน เพอื่ จากัดแหลง่ อาหารของศัตรพู ชื การควบคุมแมลงศัตรูพืชโดยวิธีกล คอื เมอ่ื พบวา่ มีศัตรูพืชเขา้ ทาลาย ถ้าพบจานวนนอ้ ยสามารถจะใชม้ อื หรือวสั ดุ ช่วยในการทาลาย หรอื การใชก้ ับดักชนดิ ต่าง ๆ ในการควบคุม การจับทาลายใชม้ ือ ในการทาลายเมื่อพบแมลงศัตรู การปูองกันกาจัดแบบง่าย ๆ คือการจบั แมลงด้วยมอื หรือเขยา่ ตน้ ไม้ หรือการเก็บดักแด้ของหนอนกนิ ใบสักที่อยตู่ ามเศษใบไม้แห้งบนพ้ืนดิน การใชต้ าขา่ ยคลุมแปลง เพื่อปูองกนั แมลงจากภายนอกแปลงเข้ามาทาลายภายในแปลงได้ เชน่ การทาผกั กางมงุ้ การใช้เครอ่ื งยนต์ เช่น เคร่ืองจบั ตั๊กแตน หรอื เครอื่ งดดู แมลง การควบคมุ แมลงศัตรูพืชโดยสารสกัดจากธรรมชาติ คือ การนาสารทส่ี กดั ไดจ้ ากธรรมชาตมิ าใชใ้ นการควบคมุ แมลง ศตั รูพืช เช่น สารสกดั จากสะเดา ตะไคร้หอม พลูปาุ หางไหล เปน็ ต้น การควบคมุ แมลงศัตรูพชื โดยการใชส้ ารเคมี คือ การใชส้ ารเคมีในการปอู งกันและกาจัดศัตรูพืช เช่น การใช้สารเคมี กาจัดแมลง การใชเ้ หย่ือพษิ การใชส้ ารล่อ เป็นต้น การเลอื กใช้สารเคมีที่มคี วามเฉพาะในการปูองกนั กาจัด ควรเลือกสารเคมที ีก่ าจัดเฉพาะแมลงศัตรูพชื ปาุ ไม้เท่านน้ั เพื่อปูองกนั ศตั รูธรรมชาตขิ องแมลงที่เปน็ ตวั รักษาสมดุลธรรมชาติ

7 การใช้สารลอ่ โดยการสงั เคราะห์สารฟีโรโมนเพศของแมลงทพี่ บวา่ มีการระบาด แล้วสร้างกับดกั นาฟีโรโมนมาเป็น สารลอ่ แมลงท่มี าติดกับดักจะเป็นแมลงเพศเดียวกนั เป็นการชว่ ยลดการผสมพนั ธ์ุ และลดจานวนประชากรของแมลง การใช้เหยื่อพิษ ทาใหอ้ าหารของแมลงศตั รูพืชเป็นพิษ โดยจะใหผ้ ลเม่ือศัตรพู ืชมากินเหยื่อ การควบคมุ แมลงศัตรูพชื โดยทางฟิสิกส์ คือ การนาเอาวิธีทางฟิสกิ สเ์ ข้ามาใช้ เช่น การใช้รงั สี ทาใหแ้ มลงวนั ผลไม้ เปน็ หมันหรือการใช้กบั ดักแสงไฟเพ่ือควบคมุ ปริมาณผเี ส้ือกลางคนื เปน็ ต้น การใช้รังสีในการปราบแมลง เช่น การฉายรังสที าใหแ้ มลงวนั ผลไมเ้ ปน็ หมัน การใชเ้ ครอ่ื งทาเสียง เพือ่ ไลแ่ มลง การใชค้ วามร้อน เชน่ การนาดนิ มาผ่านความร้อนเพื่อกาจัดแมลงศัตรูพืชในดนิ การควบคุมแมลงศัตรูพืชโดยการสารวจศตั รูพืช คือ การศึกษาสารวจ และสารวจแมลงศัตรู เชน่ การสมุ่ สารวจนับ แมลงศัตรูพชื หรือการศกึ ษาระดบั เศรษฐกจิ ของแมลงศตั รูพชื การยึดระดับเศรษฐกจิ คอื การศึกษาการระบาดของแมลงระดับความเสียหายของพืชวา่ อยู่ในระดบั ใดทีค่ วรจะมีการ ปอู งกันกาจดั เพือ่ ให้เกิดความคุ้มค่าทางเศรษฐกจิ ถ้าหากมีความเสียหายยงั ไมม่ ากก็ยังไม่ตอ้ งทาการปูองกนั กาจดั เนือ่ งจาก ไม่คุ้มคา่ การนบั ศตั รูพืช สารวจการระบาดของศัตรูพชื ชนดิ ต่าง ๆ ว่ามีมากน้อยเพียงใด สมุ่ สารวจ 10 จุด เพอ่ื นับเปอรเ์ ซ็นตก์ ารระบาดของแมลง การควบคุมแมลงศัตรูพชื โดยการใชก้ ฎหมาย มีกฎหมายสาหรับปูองกนั และกาจัดแมลง เชน่ มีพระราชบัญญัตกิ ักกนั พืช มีกฎหมายปราบศตั รพู ืช การคัดเลือกสายพนั ธ์ุ ทาการคัดเลอื กสายพนั ธุ์ หรอื แม่ไม้ท่ดี ี มคี วามต้านทานสูงท้ังทางดา้ นโรคและแมลงได้ดี คดั เลอื กเมลด็ จากแม่ไม้ท่ีมคี ุณภาพ มีความแขง็ แรง ปลอดภยั จากโรคและแมลง คัดเลือกสายพนั ธ์ุ เลอื กจากสายพนั ธท์ุ ม่ี ีความตา้ นทาน คัดเลือกพื้นที่ทีม่ ีความเหมาะสม พืน้ ทที่ ี่ทาการปลูกควรเป็นแหล่งที่เคยมีไมช้ นิดน้ันข้นึ ในธรรมชาติได้ดีมาก่อน

8 การแพรร่ ะบาดของโรคพชื โรคพืชไร่ โรคพชื หนา้ หนาว โรคพชื ที่เกิดจากเช้ือราช้ันสงู วงจรการเกดิ โรคพืช โรคพืชท่วั ไป การแพรร่ ะบาดของโรคพืช กม็ ปี จั จัยเกีย่ วข้องหลายอย่างแต่เน่อื งจากโรคพชื เกดิ จากหลายสาเหตุเช่นโรคทเี่ กดิ จากเชื้อแบคทีเรยี เช้ือราเชอ้ื ไวรัส ฯลฯดงั นั้นการแพรร่ ะบาดก็ขึ้นกับประเภทของโรคพืชด้วยดงั รายละเอียดดงั ต่อไปน้ี 1. การแพร่ระบาดของโรคพืชท่ีเกดิ จากแบคทเี รีย 1.1 โดยการใชเ้ ครื่องมอื ทางการเกษตรที่ไม่สะอาดเช่นการใช้มีดหรอื กรรไกรตดั แตง่ กิ่งก้านของตน้ ท่ีเป็นโรค ซึง่ สมั ผสั กับของเหลวหรือน้าเมือก(slime mass)จากเน้ือเยื่อพืชจากต้นทีเ่ ป็นโรคเม่ือนาไปตัดแต่งก่ิงตน้ พชื อนื่ ก็ทาใหต้ ้นพชื อนื่ เปน็ โรคได้ 1.2 เมล็ดหรือส่วนขยายพันธุ์ของต้นพืชท่ีเป็นโรคถูกนาไปโดยแมลงสัตว์วัชพืชและโดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ มนุษย์ เป็นตวั การทาใหโ้ รคพืชเพื่อระบาดยังท่ีปลกู ที่ไกลออกไป 1.3 การขนถา่ ยผลผลติ การเกษตรท่ีปนเป้ือนด้วยเชือ้ โรคพืชไปยงั ท่ีตา่ งๆท่อี ย่หู ่างไกล 1.4 การกระจายไปพรอ้ มกับนา้ ฝนการทน่ี า้ เมือกหรือของเหลวจากแผลทีม่ ีเชื้อสาเหตโุ รคพชื กระเดน็ ไปถูก ตน้ อนื่ ๆและเข้าทาลายพชื ต้นใหม่ เมือ่ เชอื้ แบคทีเรียเข้าไปในพชื แล้วจะไปเจรญิ เติบโตอยู่ในบริเวณ intercellular space หรือ vascular bundle ทา ให้พชื แสดงลกั ษณะอาการแตกตา่ งกันไปเชน่ แบคทเี รียบางชนดิ สรา้ งเอนไซม์ protopectinase ยอ่ ยสาร pectin หรือสารที่ เช่ือมเซลลแ์ ละผนังเซลล์ของพชื ทาให้เซลล์เหล่านัน้ แตกหลุดออกจากกันหรอื แบคทีเรียบางชนิดสามารถสร้างสารพิษทาให้ เซลลข์ องพชื ตายได้

9 2 การแพร่ระบาดของโรคพชื ท่เี กดิ จากเชอื้ ราการขยายพนั ธขุ์ องเชือ้ รามี 2 แบบคือการขยายพันธแุ์ บบไม่ใช้เพศ (asexual reproduction) ได้แก่ conidia สว่ นการขยายพันธุแ์ บบใช้เพศ(sexual reproduction) ไดแ้ ก่ oospores, teliospores, ascospores และ basidiospore สว่ นท่ใี ชใ้ นการแพร่พนั ธ์ไุ ด้แก่สปอร(์ spore) และเสน้ ใย(hypha) ซงึ่ จะมี ลักษณะตา่ งกันไปตามชนิดของเชื้อราสปอรข์ องราส่วนใหญ่สามารถทนต่อสภาพแวดล้อมท่ไี ม่เหมาะสมได้โดยเช้อื ราจะสรา้ ง สปอร์ที่มผี นงั หนาพิเศษเช่น clamydospores, sclerotia และ oospores วธิ ีการแพร่ระบาดของเชื้อราโรคพืชเกดิ โดย 2.1 ลมพัดพาสปอร์ของโรคพืชกระจายไปยังที่ต่างเช่นสปอร์หรอื เส้นใยของเชอ้ื ราตกลงบนพืชและเข้าตาม รอยแผล(wound)ของพืชท่ีอาจเกดิ จากการตดั แต่งกิ่งเน้ือเยอื่ ฉีกขาดของพชื ที่เกิดข้ึนโดยลมหรือการกระทาของคนหรอื สตั ว์ นอกจากนนั้ แลว้ เช้ือรายังเข้าสพู่ ชื ทางช่องเปดิ ธรรมชาติ(natural opening) เชน่ ปากใบ(stomata) ช่องคายนา้ (hydrathode) ต่อมนา้ หวาน(nectary gland) หรอื ชอ่ งเปิดตามก่งิ หรือลาต้น(lenticels) อกี ทง้ั ยงั พบวา่ เช้ือราสามารถเข้า ทาลายโดยตรงทางควิ ตเิ คิล(cuticle) และอพิ ิเดอร์มสิ (epidermis) เชอื้ ราสามารถสร้างเอ็นไซม(์ enzyme) ยอ่ ยสลายสิ่งปก คลุมมผี ลกระทบกระเทือนโดยทางตรงหรอื ทางอ้อมกบั เซลลพ์ ืชแลว้ งอกเสน้ ใยเข้าสูภ่ ายในเนื้อเยือ่ พชื เพื่อดดู อาหารและแร่ ธาตมุ าใช้เพื่อการเจรญิ เตบิ โตและใชใ้ นการขยายพนั ธุข์ องเชื้อโรค 2.2 เชื้อราตดิ ไปกับเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการเกษตรทไ่ี มส่ ะอาด 2.3 การขนถา่ ยผลผลติ การเกษตรทปี่ นเปื้อนด้วยเชื้อโรคพืชไปยงั ทต่ี า่ งๆท่ีอยหู่ ่างไกล 3. การแพร่กระจายโรคพชื ท่เี กดิ จากเชอ้ื ไวรสั เนือ่ งจากไวรัสเปน็ สิ่งมีชีวิตทส่ี ามารถเพ่ิมจานวนได้เฉพาะเมอื่ อยูใ่ น เซลล์ที่มีชีวติ ของเหย่ือเท่าน้ันไวรัสจงึ จัดวา่ เปน็ ปรสติ ท่แี ท้จรงิ (obligatory intercellular parasite) การแพรก่ ระจายเช้ือ ไวรัสจากต้นพืชทเ่ี ปน็ โรคไปยังพืชปกติสามารถแพรก่ ระจายไดด้ ังนี้ 3.1 การแพร่กระจายเช้ือไวรัสต้องมีพาหะหรือส่งิ ที่จะนาพาไปซึง่ ได้แก่ 3.2 แมลงปากดูดเชน่ แมลงหวขี่ าวเพล้ยี อ่อนเพลีย้ จกั จ่ันเพลย้ี แปงู เพลยี้ ไฟ 3.3 เชอื้ รา 3.4วชั พืชเช่นฝอยทอง 3.5 สตั วอ์ ่ืนๆเชน่ ไรและไส้เดือนฝอยโดยการทาลายหรอื ดูดกินจากต้นหน่งึ ไปยังตน้ หน่ึงแลว้ จงึ ถ่ายเชื้อไวรัส ไปยังต้นพืชใหม่ได้ 3.6 นา้ คั้นจากต้นทเ่ี ป็นโรคไวรสั เม่อื สมั ผสั กับตน้ ปกติหรือเสียดสกี ันจนเกิดบาดแผลก็จะทาใหเ้ ป็นโรคได้ 3.7 ตดิ ไปกบั สว่ นของพชื เช่นท่อนพันธเ์ุ มลด็ พนั ธ์ุและอุปกรณ์เครอ่ื งมือทใ่ี ช้ในการปฏบิ ตั งิ านทไี่ ม่มกี ารทา ความสะอาดโดยอาจตัดแต่งกิ่งตน้ ทเี่ ป็นโรคและนามาใช้กับตน้ ปกติกจ็ ะทาให้พืชต้นใหม่เปน็ โรคได้

10 4 การแพร่กระจายของโรคพืชท่ีเกดิ จากเช้ือไมโครพลาสมาไมโครพลาสมาเป็นสง่ิ มีชีวติ ท่ีเปน็ สาเหตุของโรคในท้ังคน สัตว์และพชื ดังนนั้ ไมโครพลาสมาท่ีเป็นสาเหตุโรคพชื อาจเรียกอีกอย่างหนึ่งวา่ ไฟโตพลาสมา(phytoplasma) รูปรา่ งลกั ษณะ ของเชื้อไฟโตพลาสมาภายในเซลล์ของของเชื้อไฟโตพลาสมาประกอบไปด้วย DNA และ RNA เช่นเดยี วกนั กับแบคทเี รียแตไ่ ม่ มีผนังเซลลจ์ ะมเี พยี งแต่เยื่อหุ้มเซลล์ซ่งึ เป็นสารพวก phospholipids ล้อมรอบเซลล์ไว้จึงทาใหเ้ ชอ้ื ไฟโตพลาสมามีรูปรา่ งและ ขนาดไมแ่ นน่ อนเรยี กว่า polymorphic หรือ pleomorphic ซงึ่ คลา้ ยกับเซลลแ์ บคทเี รยี ขนาดเลก็ นอกจากนแ้ี ล้วเชื้อไฟโต พลาสมาสามารถเพาะเลย้ี งบนอาหารเลีย้ งเช้ือไดเ้ ม่ือมีการใช้สารปฏิชีวนะ tetracycline กบั ตน้ ท่ีเปน็ โรคพบว่าอาการเปน็ โรคจะหายไปช่วั คราวเช้ือไฟโตพลาสมามีความตา้ นทานตอ่ penicillin และสารปฏชิ วี นะอยา่ งอืน่ แต่ไมต่ ้านทานตอ่ ความรอ้ น การแพรร่ ะบาดของไฟโตพลาสมาเกดิ ขึ้นไดด้ งั น้ี 4.1 ตอ้ งมีพาหะหรือสง่ิ ที่จะนาพาไปซง่ึ ไดแ้ ก่แมลงปากดดู เช่นเพลย้ี อ่อนแมลงหว่ีขาวเพล้ียจกั จ่ันเพลี้ยแปงู เพล้ียไฟเช้อื ราโดยการทาลายหรือดดู กนิ นา้ เลีย้ งของต้นพชื ทเี่ ปน็ โรคไปยังต้นปกติ 4.2 ตดิ ไปกบั ส่วนของพืชเช่นท่อนพันธุแ์ ละเมล็ดพันธ์ุ 4.3 ตดิ ไปกบั อุปกรณ์หรือเครื่องมือการเกษตรที่ไมม่ กี ารทาความสะอาดในการปฏิบตั งิ านเชน่ การติดตาทาบ ก่งิ ตอน 5. การแพรก่ ระจายของโรคพืชทเ่ี กิดจากไสเ้ ดอื นฝอยไส้เดือนฝอยเป็นสิ่งมชี ีวติ ขนาดเลก็ ลาตวั กลมคลา้ ยเสน้ ด้ายผิว เกลี้ยงไม่มปี ลอ้ งไม่มขี าหรือรยางคใ์ นสว่ นอ่ืนๆมีขนาด 300 - 1,000 ไมครอนแต่กพ็ บว่าไสเ้ ดอื นฝอยบางชนิดตวั เมยี เมื่อเปน็ ตวั เตม็ วยั จะมีลาตวั ขยายตวั พองโตกลมรีตัวอย่างเช่นไส้เดือนฝอย Heterodera glycines ทีท่ าใหเ้ กดิ โรครากปมถ่วั เหลอื ง (soybean cyst nematode)

11 การทาลายพืชของไสเ้ ดือนฝอยพบว่าไสเ้ ดือนฝอยเขา้ ทาลายพชื โดยแทงสว่ นปากท่ีมีเข็มแหลม(stylet) เข้าสเู่ น้ือเยือ่ ของพชื และปล่อยนา้ ลายออกมาทาให้ผนังเซลล์พืชสลายตวั แล้วดูดกนิ สว่ นต่างๆของพชื ทาใหเ้ ซลลพ์ ืชเปน็ แผลบวมโปงุ หรือ เปน็ ปมเช่นรากพืชไม่สามารถดูดน้าดดู อาหารไดต้ ามปกติทาให้พืชเกิดการขาดอาหารแสดงอาการผดิ ปกติของส่วนท่ีอยู่เหนอื พ้ืนดินอีกทง้ั แผลท่เี กดิ ขน้ึ ทาให้เชอ้ื จุลินทรยี ช์ นดิ อ่นื เขา้ ทาลายพชื ได้งา่ ยยิ่งขน้ึ ทาใหก้ ารเกิดโรคมีความรุนแรงเพ่ิมขน้ึ นอกจากนย้ี งั พบว่าไสเ้ ดือนฝอยบางชนิดยังเปน็ พาหะนาเชอื้ ไวรสั เข้าส่พู ืชได้อีกด้วย ไสเ้ ดอื นฝอยมกั อาศัยในดนิ หรือในรากและลาต้นพชื เราจึงพบไสเ้ ดอื นฝอยส่วนใหญท่ ีบ่ รเิ วณความลกึ 0-15 เซนตเิ มตรไสเ้ ดือนฝอยบางชนิดอาจพบอยทู่ ี่ความลึก 35-150 เซนติเมตรขึ้นกับชนิดพชื ไส้เดือนฝอยจะแพร่ระบาดทางดินไป ได้อยา่ งชา้ ๆ 2-3 ฟุตต่อปีแต่อาจจะแพร่กระจายไปได้ไกลๆโดยติดไปกับดินกบั ล้อรถไถนา้ ชลประทานพายุนา้ ฝนฯลฯ 6 วงจรของโรคพชื (plant disease cycle) โรคพชื ทเี่ กดิ จากเชื้อสาเหตุโรคพชื น้ันมีวงจรของโรคพืชแบ่งได้เปน็ 2 ระยะคอื 6.1 ระยะทเี่ ช้ือเข้าทาลายพชื (pathogenic phase) ทาให้พืชแสดงอาการเป็นโรคเช้อื สาเหตุโรคพืชจะอยู่ ในเน้ือเยื่อของพืช 6.2 ระยะท่เี ชื้อโรคพักตัว(independent phase) เช้อื สาเหตุโรคพืชอาจพกั ตัวในดินหรือเกาะติดอยู่กับเศษ พชื ทีร่ ว่ งหลน่ อยตู่ ามพืน้ ดนิ ในรูปของสปอรห์ รอื เส้นใยหรืออยู่การแพร่ระบาดของศัตรูพชื ตามตอซังของพืชอาศัยอยกู่ ับวชั พืช หรือพืชอ่ืนๆที่เปน็ พืชอาศัยในบริเวณใกล้เคียงพอถงึ ฤดกู าลเพาะปลูกใหม่จงึ เขา้ ทาลายพชื หลกั อีก 7. ปัจจัยท่เี กีย่ วข้องกับการเกิดโรคการท่ีพชื เปน็ โรคไดจ้ ะต้องมีปัจจยั ต่างๆมาเก่ียวขอ้ งดังนี้พืชเจา้ บ้าน(host plant) เชอื้ สาเหตโุ รคพชื (pathogens) สภาพแวดลอ้ ม(environment) และช่วงระยะเวลา(time) โดยท่ีปัจจยั ที่กล่าวถึงเหล่าน้ี จะต้องมาเกี่ยวข้องกนั อย่างเหมาะสมเช่นสายพนั ธ์ุพืชอ่อนแอต่อการเกดิ โรค(susceptible host) เชื้อสาเหตุมคี วามรุนแรงใน การทาให้เกดิ โรค(virulent pathogen) ปรมิ าณเชอื้ โรคที่มีมากพอท่ีจะเกดิ โรคได้สภาพแวดล้อมท่เี หมาะสม(favorable

environment) เช่นสภาพแวดล้อมมีความชนื้ สงู หรืออุณหภูมเิ หมาะสมและมีชว่ งเวลาที่เหมาะสมต่อการเปน็ โรคเข้ามา 12 เกีย่ วข้องด้วยซ่ึงถ้าปัจจัยเหล่าน้เี กิดขึน้ อยา่ งพอเหมาะกจ็ ะทาให้พชื แสดงอาการเป็นโรคไดเ้ รารวมเรยี กปัจจัยเหลา่ นว้ี า่ สามเหลยี่ มโรคพชื (disease pyramid) ความหมายการท่องเที่ยวเชิงเกษตร การท่องเทยี่ วเชิงเกษตร หมายถงึ การท่องเทีย่ วท่มี ุ่งเน้นทางดา้ นการเรียนรู้วิถีเกษตร กรรมของชาวชนบท โดยเนน้ การมสี ว่ นร่วมของนกั ท่องเทยี่ วในการดาเนนิ กิจกรรมใหเ้ กิดการเรยี นรู้ด้านการเกษตรและวถิ ีการดารงชีวิต วัฒนธรรม ประเพณี และเปน็ การนาเอาทรพั ยากรท่ีมีอย่ใู หเ้ กิดการเรียนรู้มาทาใหเ้ กิดประโยชน์ก่อให้เกิดรายไดต้ อ่ ชุมชน และตัว เกษตรกร การท่องเที่ยวเชิงเกษตร จะเปน็ การอนรุ ักษ์ควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวเพือ่ ไมใ่ หเ้ กดิ ผลกระทบต่อชุมชนและผล กระทบตอ่ สภาพสง่ิ แวดล้อม การท่องเที่ยวเชงิ เกษตรเปน็ การเดินทางท่องเท่ยี วไปยงั พื้นที่เกษตรกรรม สวนเกษตร วนเกษตร สวน สมนุ ไพร ฟาร์มปศสุ ัตวแ์ ละสัตว์เลีย้ ง เพื่อช่นื ชมความสวยงาม ความสาเรจ็ และเพลิดเพลนิ ในสวนเกษตร ไดค้ วามรู้ ได้ ประสบการณ์ใหม่ บนพื้นฐานความรบั ผดิ ชอบ มจี ติ สานกึ ต่อการรักษาสภาพแวดลอ้ มของสถานทีแ่ ห่งนั้น ในแหล่งท่องเท่ียวเชงิ เกษตรแตล่ ะแห่งจะมีกิจกรรมทีจ่ ะให้บริการนกั ทอ่ งเท่ียวหลาย ๆ กจิ กรรม แลว้ แต่ สภาพจุดท่องเทยี่ วเชิงเกษตรแตล่ ะแหง่ ได้แก่ 1.) ประเภทนกั ทอ่ งเที่ยวรว่ มกจิ กรรมระยะสั้น ไดแ้ ก่ การเข้าชมสวนเกษตร โดยนักทอ่ งเที่ยวอาจเก็บ ผลผลิตในสวนหรือซือ้ ผลผลติ โดยเลือกเกบ็ ได้ และทากจิ กรรมพน้ื บ้านระยะสนั้ รว่ มกับชาวบ้าน เช่น ข่ีควาย น่ังเกวยี น และอ่นื ๆ 2.) ประเภทให้นกั ท่องเทยี่ วพักแรมในหมู่บา้ น การใหน้ ักท่องเท่ยี วพักแรมในหม่บู า้ นเพื่อศกึ ษา และสัมผสั กบั ชวี ิตของชาวชนบทเกษตรโดยนักท่องเที่ยวจะไดร้ ับบริการที่อบอนุ่ ปลอดภยั สะดวกและสะอาด 3.) ประเภทอบรมให้ความรูเ้ กษตรแผนใหมแ่ ละความร้ทู เ่ี ป็นภมู ิปญั ญาชาวบ้าน การทาการเกษตรแผนใหม่ เชน่ การปลูกและการดแู ลรักษา การแปรรปู ผลผลิตทางการเกษตร อาจมีการใหใ้ บประกาศนยี บัตรด้วย การเรยี นรูภ้ ูมิปัญญา ชาวบ้าน เช่น การศึกษาแมลงที่มปี ระโยชน์ พืชผักพื้นเมืองที่กนิ ได้ การทาน้าตาลมะพรา้ วและนา้ ตาลโตนด ฯลฯ 4.) ประเภทจาหนา่ ยสนิ คา้ และผลิตภณั ฑ์เกษตรสินคา้ หัตถกรรมพ้ืนบา้ นของเกษตร กร ของใชแ้ ละของท่ี ระลึกต่าง ๆ ผลไม้สด ดอกไม้สด เมล็ดพนั ธพ์ุ ืชทน่ี า่ สนใจให้นกั ทอ่ งเท่ียวซอ้ื ไปปลกู 5.) ประเภทให้ล่ทู างธุรกจิ ช่วงที่ธุรกจิ อื่น ๆ ประสบปญั หาจากธรุ กจิ ตกตา่ ให้นักท่องเท่ียวสว่ นหน่ึงเดินทาง มาทอ่ งเที่ยวเพื่อหาลู่ทางในการทาธรุ กิจเกยี่ วกบั การเกษตร เพราะเป็นธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนเรว็ การท่องเทีย่ วในลกั ษณะนี้ นอกจากจะช่วยเอ้ือประโยชน์ให้แกเ่ กษตรกรแลว้ ยงั เป็นหนทางทช่ี ว่ ยภาคเอกชนที่รบั ผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกจิ ใน ปัจจบุ นั อีกด้วย

13 รปู แบบการทอ่ งเทย่ี วเชงิ เกษตร สามารถแบ่งได้ 3 ประเภทดังนี้ 1.) แบบกจิ กรรมรายบุคคล ได้แก่ การนาเที่ยวชมสวนของเกษตรกรรายบคุ คลทีป่ ระสบความสาเร็จในการ ประกอบอาชีพ เช่น สวนทุเรยี น มังคุด สวนไม้ดอกไมป้ ระดับ หรือแมแ้ ต่ฟาร์มเลีย้ งสัตว์ ท้งั น้ผี ู้เย่ียมชมจะได้รบั ความรดู้ า้ น เทคโนโลยีการผลติ การจดั การ การตลาดแลว้ ยงั สามารถซื้อผลผลิตตา่ ง ๆ ที่ทางสวนจัดขนึ้ อีกด้วย 2.) กิจกรรมการทอ่ งเท่ียวตามฤดกู าลหรือเทศกาล เช่น การจัดงานวันทุเรียนโลก งานวนั เงาะโรงเรยี นทงุ่ ทานตะวนั บาน ท่งุ ดอกปทุมมา ซงึ่ การท่องเทยี่ วแบบนีจ้ ะมีขน้ึ เฉพาะในช่วงที่มกี ารจดั นิทรรศการเก่ยี วกับการเกษตรเท่านน้ั 3.) กจิ กรรมการท่องเท่ียวตามชมุ ชนหรือหม่บู ้านเกษตรกร ซง่ึ เกษตรกรในชุมชน รว่ มกนั จดั ต้ัง บริหาร และ จัดการท่องเทย่ี ว โดยกรมส่งเสริมการเกษตรใหค้ วามรว่ มมือสนับสนนุ ในการจัดทาโครงสร้างทางกายภาพ การจดั ภูมิทัศน์ การให้แนวความคดิ ในการพัฒนาแหล่งท่องเทย่ี วใหเ้ หมาะสมกับพื้นทแ่ี ละความสามารถของเกษตรกรในชมุ ชน อุปกรณท์ าสบู่ ท่ีตอ้ งเตรยี ม มดี งั ตอ่ ไปน้ี ? 1. แม่พิมพท์ าสบู่ 2. กลเี ซอรนี หรือ เกลด็ สบู่ 3. น้ามันหอมระเหย 4. แอลกอฮลเ์ ชด็ แผล 5. ขวดสเปรย์ 6. หมอ้ สองชั้นทนความร้อน 7. สใี สส่ บู่ TIPS : การหาซ้อื อุปกรณท์ าสบู่สามารถหาซื้อไดต้ ามร้านขายงานหัตถกรรมได้ ถ้าอยากใหส้ บู่มีสีสันลวดลายเพ่ิมขึ้นตอ้ ง เลือกสที สี่ ดใสกนั ด้วยนะ วิธที าสบู่ก้อน เร่มิ ตน้ ทาได้ง่าย ๆ ไม่ต้องเตรยี มของเยอะ ?  เร่ิมจากการละลายกลเี ซอรีนในหม้อสองชั้น เป็นจดุ ที่สาคัญในวิธที าสบกู่ อ้ น ให้ต้มน้าให้เดือดในหม้อใบแรก ตัด ชนิ้ ส่วนกลเี ซอรีนหรอื เกล็ดสบู่ใส่ในหม้อเล็กอีกใบ และนาไปละลายโดยที่ให้หม้อใบเลก็ ลอยอย่ใู นน้าเดือด หรอื สามารถใช้ ละลายในไมโครเวฟแทนก็ได้เช่นกนั

14 TIP : วธิ ที าสบกู่ ้อนแบบใสให้ใช้กลีเซอรีนเปน็ สารตัง้ ตน้ หากตอ้ งการให้ข่นุ ใหใ้ ชเ้ กล็ดสบู่เป็นสารต้ังตน้ เม่ือสารต้ังต้นละลายแล้วใหเ้ ติม  น้ามนั หอมระเหยและสลี งไปเพยี ง 2 – 3 หยด เลือกสแี ละกล่ินตามที่ชอบได้เลย เชน่ กลนิ่ ส้ม กลนิ่ ลาเวนเดอร์ กล่นิ กุหลาบ ฯลฯ คนใหล้ ะลายเป็นเนือ้ เดยี วกนั ควรผสมตอนที่ยังตง้ั อยู่ในน้ารอ้ นเพือ่ คงความหอมและสที ี่ไม่เพีย้ น  เมอ่ื ผสมสารตง้ั ต้นกบั กลนิ่ และสีทต่ี อ้ งการแล้ว ใหเ้ ทลงในแม่พมิ พท์ าสบู่ โดยต้องนาขวดสเปรย์ใส่แอลกอฮอล์เช็ด แผล มาฉดี ให้ทั่วแม่พมิ พ์ เพ่ือปอู งกนั ไมใ่ ห้เกดิ ฟองอากาศท่ีอาจเกดิ ขึน้ ในสบู่  การรนิ สบ่ลู งในแม่พมิ พ์อย่าเทเรว็ มากเกนิ ไป มิเชน่ นนั้ อาจทาให้รปู ร่างสบอู่ อกมาไม่สวยได้  จากนั้นใหฉ้ ดี แอลกอฮอล์อีกรอบหลงั จากเทสบู่ลงไปในแม่พิมพแ์ ล้ว (ใหเ้ ทตอนสบู่เปน็ ของเหลวอยู่) TIP 1 : อยากเล่นสีสบ่ใู หเ้ ป็นเลเยอร์สวย ๆ ต้องแบ่งนา้ สบู่แตล่ ะสีทต่ี ้องการแยกใส่ถ้วย แล้วหยดลงไปบนแม่พิมพ์ทลี ะ ช้ัน ต้องรอให้แต่ละช้นั เซตตัวจงึ ค่อย ๆ เทสีอ่ืน ๆ ลงไป Tip 2 : สามารถใส่ของตกแตง่ ลงไปในสบไู่ ด้ เชน่ ดอกไมแ้ ห้ง ตกุ๊ ตาพลาสติกตัวเลก็ ๆ กากเพชรวิ้งวับ เปน็ การเพ่มิ ลกู เลน่ ใหส้ บู่กอ้ น DIY ของคณุ ใหน้ า่ รักมากย่ิงขึ้น  รอให้สบ่ใู นแม่พมิ พเ์ ซตตัวประมาณ 2 – 3 ชวั่ โมง จากนน้ั ใหแ้ กะสบู่ออกมาจากแม่พิมพ์ หากแกะสบูไ่ ม่ออกใหต้ บ ด้านหลงั แม่พิมพเ์ บา ๆ เม่อื ทาเสรจ็ แล้วควรเกบ็ ไวใ้ นท่ที ีล่ มเขา้ ไม่ถึง การทาสบูส่ มุนไพรด้วยตวั เอง ยงั ปลอดภัยชัวร์! ? หลาย ๆ คนรู้จักวิธีการทาสบู่กอ้ นไปแล้ว ทีน้เี รามาดูวิธกี าร ทาสบู่สมนุ ไพรกนั ดีกว่า ซึ่งวิธีทาสบู่สมุนไพร นน้ั คล้ายกับ วิธีขา้ งตน้ ท่ีเรานาเสนอมา แต่จะมสี ่วนผสมทแ่ี ตกต่างไปสัก เลก็ นอ้ ย อุปกรณ์และวัตถดุ บิ ทีจ่ ะนามาทาเป็นสบู่ขัดผวิ ขาว ใสดว้ ยสมนุ ไพรไทยจะมีอะไรบา้ ง ต้องตดิ ตาม… อปุ กรณ์การทาสบูส่ มนุ ไพรน้ันเหมอื นกับวธิ ที าสบู่ก้อนท่ัวไป แต่เราจะเพ่มิ สมนุ ไพรลงไปด้วย ยกตวั อย่างเช่น  ใบบัวบก + แตงกวา ชว่ ยใหผ้ ิวเต่งตงึ กระจ่างใส  ขม้ิน + นา้ นมขา้ ว ใหผ้ ิวนุ่มชุม่ ชืน่ น่าสัมผสั  มะขามเปยี ก + น้าผ้งึ กาจดั ฝูา เพ่อื หนา้ ขาวใส  มะเขือเทศ + แตงกวา ชว่ ยลดสวิ เสี้ยนอยา่ งหมดจด  ว่านหางจระเข้ + น้ามนั มะพร้าว รักษาสิวอกั เสบ จดุ ด่างดา โดย วธิ ีทาสบู่สมุนไพรทีย่ กตัวอย่างมานี้ใหน้ ามาปนั่ เป็นน้า เพื่อง่ายต่อการผสมกับสารตั้งต้น จะเอาเทใสล่ งในแม่พิมพ์หรือใย รงั ไหมก็ได้ ซ่งึ สมนุ ไพรที่นามาทาสบ่สู มนุ ไพรน้นั มีอย่หู ลากหลายชนดิ เช่น ขม้นิ ชนั มะละกอ อะโวคาโด สม้ ดอกกุหลาบ ฯลฯ จึงเลือกทาได้งา่ ยมาก

15 ประโยชนข์ องการทาสบู่สมุนไพรใช้เอง ไมง่ ้อสารเคมี ?  มสี บูก่ อ้ น สบ่กู ลเี ซอรีน ทาเองไวใ้ ช้  มน่ั ใจว่าปลอดภัย ไม่มสี ารเคมี  สามารถสรา้ งเปน็ รายไดเ้ สริมได้  ช่วยบารุงผวิ พรรณใหด้ ูเต่งตึง ตามสรรพคุณของสมนุ ไพร คาเตอื น : หากเด็ก ๆ ทาสบเู่ องนั้นควรอยภู่ ายใต้ความดูแลของ ผูใ้ หญ่ เน่อื งจากการละลายสารต้ังตน้ น้ันมคี วามร้อนสูง จงึ ควรระวังเปน็ พเิ ศษ ไอเดียสบู่ก้อนแฮนดเ์ มด งานศลิ ปะบนก้อนสบ่สู ดุ ควิ ท์ ? เอาล่ะ จากนีเ้ ราจะมาดูไอเดยี ทาสบู่กอ้ นกันบ้างดีกว่า ว่าจะมีแบบไหนท่ีน่ารักโดนใจเปน็ เอกลกั ษณ์ นอกจากวธิ ที าสบู่ สมนุ ไพรง่าย ๆ แล้วทีม่ ีหลากสสี ันแลว้ สบูก่ ลีเซอรีนแบบใสกน็ ่ารกั ไม่เบา หากทาขาย ลกู คา้ มองแวบเดยี วกร็ ู้ไดเ้ ลยวา่ น่แี หละ เป็นร้านของคณุ เอา้ า ไปดกู ันเลย

16 บทท่ี 3 วธิ ีดาเนนิ งาน การดาเนินโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ตาบลไรห่ ลกั ทอง ไดด้ าเนนิ การตามขั้นตอนต่างๆ ดงั น้ี 1. ข้ันเตรียมการ  การศึกษาเอกสารทเ่ี กี่ยวข้องกับโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ตาบลไรห่ ลกั ทอง ผรู้ บั ผิดชอบโครงการได้ศกึ ษาคน้ ควา้ เอกสารท่ีเกยี่ วข้องเพื่อเป็นข้อมูลและแนวทางในการดาเนนิ การโครงการขยาย ผลเกษตรกรตน้ แบบ Master Trainer ตาบลไรห่ ลักทอง ดังน้ี 1. ศึกษาเอกสาร / คมู่ ือ ข้อมูลจากหนังสือ เก่ียวกบั การบริหารจัดการงานเกษตร การนาปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั การบรหิ ารจัดการพ้นื ที่เกษตรกรรม การปลกู ขยายพนั ธพ์ุ ชื ด้วยเทคนิคต่าง ๆ ขอ้ พจิ ารณาใหก้ าร ปลกู พชื เพื่อสร้างรายได้เพ่ือเปน็ แนวทางเกี่ยวกับการจดั โครงการขยายผลเกษตรกรตน้ แบบ Master Trainer ตาบล หนองขยาด 2. ศึกษาขนั้ ตอนการดาเนินโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ตาบลไรห่ ลกั ทอง เพอื่ เปน็ แนวทาง ในการจัดเตรียมงาน วัสดอุ ุปกรณ์ และบุคลากรใหเ้ หมาะสม  การสารวจความต้องการของประชาชนในพื้นที่ (ตามนโยบายของรัฐบาล) กลมุ่ ภารกจิ การจัดการศึกษานอกระบบ มอบหมายให้ ครู กศน.ตาบล สารวจความตอ้ งการของ กลุม่ เปูาหมายเพ่ือทราบความต้องการท่ีแทจ้ รงิ ของประชาชนในตาบล และมีขอ้ มูลในการจดั กจิ กรรมที่ตรงกบั ความต้องการ ของชมุ ชน  การประสานงานผนู้ าชุมชน / ประชาชน /วิทยากร 1. ครู กศน.ตาบล ได้ประสานงานกับหัวหนา้ /ผูน้ าชุมชนและประชาชนในตาบลเพ่อื ร่วมกันปรกึ ษาหารือใน กลุม่ เกย่ี วกบั การดาเนนิ การจัดโครงการให้ตรงกับความตอ้ งการของชมุ ชน 2. ครู กศน.ตาบล ได้ประสานงานกบั หน่วยงานทเี่ ก่ียวขอ้ งเพ่อื จดั หาวิทยากร  การประชาสัมพนั ธ์โครงการฯ ครู กศน.ตาบล ได้ดาเนินการประชาสัมพันธก์ ารจดั โครงการขยายผลเกษตรกรตน้ แบบ Master Trainer ตาบลไรห่ ลักทอง เพื่อให้ประชาชนทราบข้อมลู การจัดกิจกรรมดังกล่าวผ่านผู้นาชมุ ชน  ประชมุ เตรยี มการ / วางแผน 1) ประชุมปรึกษาหารือผู้ท่ีเก่ียวขอ้ ง 2) เขยี นโครงการ วางแผนมอบหมายงานให้ฝุายตา่ งๆ เตรยี มดาเนินการ 3) มอบหมายหน้าที่ แตง่ ต้ังคณะทางาน  การรับสมคั รผเู้ ข้าร่วมโครงการฯ ครู กศน.ตาบล ได้รับสมัครผู้เข้ารว่ มโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ตาบล หนองขยาด โดยให้ประชาชนทวั่ ไปท่ีอาศัยอยู่ในพื้นที่ตาบลไรห่ ลกั ทอง เข้าร่วม เปูาหมายจานวน 15 คน

17  การกาหนดสถานที่และระยะเวลาดาเนนิ การ ครู กศน.ตาบล ได้กาหนดสถานท่ใี นการจดั อบรมคือ ศูนยเ์ รียนรเู้ ศรษฐกิจพอเพยี ง หมู่ 6 ตาบลไร่หลักทอง อาเภอพนัสนคิ ม จงั หวดั ชลบรุ ี ระหว่างวันที่ 14-15 กรกฎาคม 2563 จานวน 2 วัน เวลา 08.30-16.30 น. 2. ขั้นดาเนนิ งาน  กลุ่มเป้าหมาย กลมุ่ เปูาหมายของโครงการขยายผลเกษตรกรตน้ แบบ Master Trainer ตาบลไร่หลักทอง - เกษตรกรตาบลไร่หลักทอง จานวน 15 คน  สถานทีด่ าเนินงาน ครู กศน.ตาบลไรห่ ลกั ทองจัดกจิ กรรมโครงการขยายผลเกษตรกรตน้ แบบ Master Trainer ตาบล ไร่หลักทอง ณ ศูนยเ์ รียนรูเ้ ศรษฐกจิ พอเพียง หมู่ 6 ตาบลไรห่ ลักทอง อาเภอพนัสนิคม จังหวดั ชลบุรี  การขออนมุ ัตแิ ผนการจัดกจิ กรรมการศึกษาเพอ่ื พัฒนาพื้นท่ภี าคตะวนั ออก กศน.ตาบลไร่หลกั ทองไดด้ าเนินการขออนมุ ัติแผนการจัดกิจกรรม โครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ตาบลไรห่ ลักทอง ตอ่ สานักงาน กศน.จงั หวัดชลบุรี เพอื่ ให้ตน้ สงั กดั อนุมัตแิ ผนการจัดกิจกรรมโครงการ ขยายผลเกษตรกรตน้ แบบ Master Trainer ตาบลไรห่ ลกั ทอง  การจัดทาเครือ่ งมือการวัดความพงึ พอใจของผู้ร่วมกิจกรรม เคร่ืองมอื ท่ีใชใ้ นการติดตามประเมินผลโครงการ ไดแ้ ก่ แบบประเมนิ ความพึงพอใจ  ข้นั ดาเนินการ / ปฏบิ ตั ิ 1. เสนอโครงการเพ่อื ขอความเหน็ ชอบ/อนุมัตจิ ากตน้ สงั กดั 2. วางแผนการจัดกิจกรรมในโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ตาบลไร่หลกั ทอง โดยกาหนดตารางกิจกรรมที่กาหนดการ 3. มอบหมายงานให้แก่ผรู้ ับผิดชอบฝาุ ยตา่ งๆ 4. แตง่ ต้ังคณะกรมการดาเนินงาน 5. ประชาสัมพันธ์โครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ตาบลไร่หลักทอง 6. จัดกิจกรรมโครงการขยายผลเกษตรกรตน้ แบบ Master Trainer ตาบลไรห่ ลกั ทอง ตามตารางกิจกรรมท่ี กาหนดการ 7. ติดตามและประเมนิ ผลโครงการขยายผลเกษตรกรตน้ แบบ Master Trainer ตาบลไร่หลักทอง 3. การประเมนิ ผล  วิเคราะหข์ ้อมูล 1. บันทึกผลการสังเกตจากผู้เข้ารว่ มกิจกรรม 2. วเิ คราะห์ผลจากการประเมินในแบบประเมินความพึงพอใจ 3. รายงานผลการปฏิบัติงานรวบรวมสรปุ ผลการปฏิบัติงานของโครงการนาเสนอตอ่ ผู้บริหารนาปญั หา ขอ้ บกพร่องไปแก้ไขครง้ั ตอ่ ไป

18  คา่ สถิตทิ ่ใี ช้ การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้ค่าสถิติร้อยละในการประมวลผลข้อมูลส่วนตัวและตัวช้ีวัดความสาเร็จของโครงการ ตามแบบสอบถามคดิ เป็นรายข้อ โดยแปลความหมายค่าสถิติรอ้ ยละออกมาไดด้ ังน้ี คา่ สถิตริ ้อยละ 90 ขน้ึ ไป ดีมาก คา่ สถติ ิร้อยละ 75 – 89.99 ดี ค่าสถิตริ ้อยละ 60 – 74.99 พอใช้ คา่ สถติ ริ อ้ ยละ 50 – 59.99 ปรับปรงุ ค่าสถิติรอ้ ยละ 0 – 49.99 ปรับปรุงเรง่ ด่วน ส่วนการวิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถามความคิดเห็นรายข้อซึง่ มลี ักษณะเปน็ คา่ นา้ หนักคะแนน และ นามาเปรยี บเทียบ ไดร้ ะดับคุณภาพตามเกณฑ์การประเมนิ ดงั น้ี เกณฑ์การประเมนิ (X) คา่ น้าหนักคะแนน 4.50 – 5.00 ระดบั คณุ ภาพ คอื ดมี าก คา่ นา้ หนักคะแนน 3.75 – 4.49 ระดบั คุณภาพ คอื ดี ค่าน้าหนักคะแนน 3.00 – 3.74 ระดับคุณภาพ คือ พอใช้ ค่านา้ หนักคะแนน 2.50 – 2.99 ระดับคณุ ภาพ คอื ต้องปรบั ปรงุ คา่ น้าหนกั คะแนน 0.00 – 2.49 ระดับคุณภาพ คอื ต้องปรบั ปรงุ เร่งดว่ น

19 บทท่ี 4 ผลการดาเนินงานและการวิเคราะห์ขอ้ มูล ตอนที่ 1 รายงานผลการจัดกิจกรรมโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ตาบลไร่หลกั ทอง การจัดกิจกรรมโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ตาบลไรห่ ลกั ทอง สรุปรายงานผลการ จดั กจิ กรรมได้ดงั น้ี ในการจัดกจิ กรรมอบรมให้ความรตู้ ามโครงการขยายผลเกษตรกรตน้ แบบ Master Trainer ตาบล หนองขยาด เป็นการอบรมให้ความรู้ โดยมี นายสธุ น ลบแทน่ เป็นวิทยากรในการบรรยายใหค้ วามรู้ เรอื่ ง การบริหาร จัดการงานเกษตร การนาปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งไปใช้ในชีวติ ประจาวนั การบรหิ ารจัดการพื้นทีเ่ กษตรกรรม การปลูก ขยายพนั ธพ์ุ ชื ดว้ ยเทคนิคตา่ ง ๆ ข้อพจิ ารณาให้การปลูกพืชเพอ่ื สร้างรายได้ หลังจากเสร็จสน้ิ กจิ กรรมดงั กล่าวแล้ว ผ้เู ขา้ อบรมสามารถพฒั นาศกั ยภาพด้านเกษตรของตน ให้มกี ารบริหารจัดการเปน็ เกษตรเชงิ ทอ่ งเทยี่ วใหเ้ พ่ิมข้นึ และเป็นเกษตรกรต้นแบบ (Master Trainer) ขยายผลใหเ้ ป็นเกษตรกรปราดเปร่อื ง Smart Farmer แก่ชุมชนได้ ตอนที่ 2 รายงานผลความพึงพอใจของโครงการขยายผลเกษตรกรตน้ แบบ Master Trainer ตาบลไรห่ ลกั ทอง การจัดกิจกรรมโครงการขยายผลเกษตรกรตน้ แบบ Master Trainer ตาบลไร่หลกั ทอง ซ่ึงสรปุ รายงานผลจาก แบบสอบถามความคิดเห็น ข้อมูลท่ีได้สามารถวเิ คราะห์และแสดงค่าสถติ ิ ดังน้ี ตารางที่ 1 ผูเ้ ขา้ รว่ มโครงการท่ตี อบแบบสอบถามไดน้ ามาจาแนกตามเพศ รายละเอียด เพศ หญงิ ชาย 15 100.00 จานวน (คน) - รอ้ ยละ - จากตารางท่ี 1 พบว่าผูต้ อบแบบสอบถามท่ีเขา้ ร่วมกิจกรรมการศึกษาเพ่ือพฒั นาพ้ืนที่ภาคตะวันออก โครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ตาบลไรห่ ลกั ทอง เป็นหญงิ จานวน 15 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 100 ตารางท่ี 2 ผเู้ ข้าร่วมโครงการท่ตี อบแบบสอบถามไดน้ ามาจาแนกตามอายุ รายละเอยี ด อายุ (ปี) อายุ 15-29 30 - 39 40 - 49 50-59 60 ขน้ึ ไป 2 11 จานวน (คน) 2 - - 73.34 13.33 ร้อยละ 13.33 - - จากตารางที่ 2 พบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามทเี่ ขา้ รว่ มกจิ กรรมการศึกษาเพ่ือพัฒนาพ้นื ท่ีภาคตะวนั ออก โครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ตาบลไรห่ ลักทอง มอี ายุ 15-29 ปี จานวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 13.33 มอี ายุ 50 – 59 ปี จานวน 2 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 13.33 และมีอายุ 60 ปีข้ึนไป จานวน 11 คน คิดเป็นร้อยละ 73.34

20 ตารางท่ี 3 ผูเ้ ข้าร่วมโครงการที่ตอบแบบสอบถามไดน้ ามาจาแนกตามอาชีพ รายละเอยี ด เกษตรกรรม รับจ้าง อาชพี ค้าขาย อน่ื ๆ รบั ราชการ/รฐั วิสาหกิจ - - - - จานวน (คน) 15 - - รอ้ ยละ 100.00 - - จากตารางที่ 3 พบวา่ ผ้ตู อบแบบสอบถามท่ีเขา้ รว่ มกจิ กรรมการศึกษาเพื่อพฒั นาพนื้ ท่ภี าคตะวันออก โครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ตาบลไรห่ ลักทอง มอี าชีพเกษตรกรรม จานวน 15 คน คิดเป็นร้อยละ 100.00 ตารางท่ี 4 ผเู้ ข้ารว่ มโครงการท่ตี อบแบบสอบถามไดน้ ามาจาแนกตามระดบั การศึกษา รายละเอยี ด ระดับการศกึ ษา การศึกษา ประถม ม.ต้น ม.ปลาย/ปวช. ปวส./ป.ตรีขึ้นไป - จานวน (คน) 13 2 - - ร้อยละ 86.67 13.33 - จากตารางที่ 4 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามทีเ่ ขา้ รว่ มกิจกรรมการศึกษาเพ่ือพัฒนาพ้นื ทภ่ี าคตะวันออก โครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ตาบลไร่หลักทอง มรี ะดับประถมศึกษา จานวน 13 คน คิดเปน็ ร้อยละ 86.67 มรี ะดับมัธยมศึกษาตอนตน้ จานวน 2 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 13.33 ตารางที่ 5 แสดงคา่ ร้อยละเฉล่ยี ความสาเรจ็ ของตวั ช้ีวัด ผลผลิต ประชาชนทว่ั ไป เขา้ ร่วมโครงการจานวน 15 คน เป้าหมาย(คน) ผลสาเรจ็ ของโครงการ คดิ เปน็ ร้อยละ 15 ผูเ้ ข้ารว่ มโครงการ(คน) 100 15 จากตารางที่ 5 พบวา่ ผลสาเรจ็ ของตวั ช้ีวดั ผลผลิตกิจกรรมการศกึ ษาเพือ่ พฒั นาพ้นื ทีภ่ าคตะวันออก โครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ตาบลไรห่ ลักทอง มผี ู้เข้ารว่ มโครงการ จานวน 15 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 100 ซึ่งบรรลุเปูาหมายด้านตัวช้วี ัด ผลผลติ

21 ตารางที่ 6 ค่าเฉล่ียและส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐานความพงึ พอใจของผ้เู ข้ารว่ มกิจกรรมที่มคี วามพงึ พอใจต่อโครงการขยายผล เกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ตาบลไร่หลักทอง ในภาพรวม รายการ คา่ เฉลย่ี ส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐาน ระดับ ความพึงพอใจ ด้านบรหิ ารจดั การ () () ด้านการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 4.50 0.63 ดีมาก ด้านประโยชน์ทีไ่ ดร้ บั 4.51 0.53 ดมี าก รวมทุกด้าน 4.66 0.48 ดมี าก 4.56 0.55 ดมี าก จากตารางท่ี 6 พบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีความพึงพอใจตอ่ โครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ตาบลไรห่ ลกั ทอง ในภาพรวมอยู่ในระดับดมี าก (=4.50) เม่ือพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านประโยชน์ทไี่ ดร้ บั อยูใ่ นระดับมากที่สุด มคี ่าเฉลี่ย (= 4.66) รองลงมาคือ ด้านการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ มีอยู่ในระดับดีมาก มคี ่าเฉลี่ย (= 4.51) และดา้ นบริหารจัดการ อยใู่ นระดับดีมาก มีค่าเฉล่ยี (= 4.50) ตามลาดับ โดยมีสว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน () อยรู่ ะหวา่ ง 0.50 - 0.59 แสดงวา่ ผเู้ ข้ารว่ มกิจกรรมมีความพึงพอใจสอดคล้องกนั ตารางท่ี 7 ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่มีความพึงพอใจต่อโครงการขยายผล เกษตรกรตน้ แบบ Master Trainer ตาบลไรห่ ลกั ทอง ด้านบรหิ ารจัดการ รายการ ค่าเฉลย่ี ส่วนเบีย่ งเบน ระดับ ความพึงพอใจ 1. อาคารสถานที่ () มาตรฐาน () 2. ส่งิ อานวยความสะดวก 4.77 0.42 ดีมาก 3. กาหนดการและระยะเวลาในการดาเนนิ โครงการ 4.45 0.58 ดี 4. เอกสารการอบรม 4.27 0.45 ดี 5. วิทยากรผใู้ ห้การอบรม 4.59 0.72 4.41 0.78 ดมี าก รวม 4.50 0.59 ดี ดีมาก จากตารางที่ 7 พบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีความพึงพอใจต่อโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ตาบลไร่หลักทอง ด้านบริหารจัดการ ในภาพรวมอยใู่ นระดบั ดีมาก มีค่าเฉลีย่ (= 4.50) เมือ่ พิจารณาเปน็ รายข้อ พบวา่ อาคารสถานท่ี มีค่าเฉล่ีย (= 4.77) รองลงมา คือ เอกสารการอบรม มคี า่ เฉลี่ย (= 4.59) สงิ่ อานวยความสะดวก มีคา่ เฉลย่ี (= 4.45) วทิ ยากรผูใ้ ห้การอบรม มีคา่ เฉลี่ย (= 4.41) กาหนดการและระยะเวลาในการดาเนินโครงการ มี คา่ เฉล่ยี (= 4.27) ตามลาดับ โดยมสี ่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน () อย่รู ะหวา่ ง 0.42 - 0.78 แสดงว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมี ความคดิ เหน็ ไปในทิศทางเดียวกนั

22 ตารางท่ี 8 คา่ เฉล่ียและสว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐานความพงึ พอใจของผู้เขา้ ร่วมกจิ กรรมที่มคี วามพึงพอใจต่อโครงการขยายผล เกษตรกรตน้ แบบ Master Trainer ตาบลไรห่ ลกั ทอง ด้านการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ รายการ ค่าเฉลยี่ ส่วนเบ่ียงเบน ระดับ () มาตรฐาน () ความพงึ พอใจ 6. การจดั กิจกรรมโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ตาบลไร่หลักทอง 4.41 0.49 ดี 7. การให้ความรเู้ ร่ืองปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 8. การตอบข้อซักถามของวทิ ยากร 4.50 0.50 ดีมาก 4.86 0.34 ดีมาก 9. การแลกเปลยี่ นเรยี นรูข้ องผเู้ ข้ารบั การอบรม 10. การสรุปองค์ความรู้ร่วมกัน 4.32 0.47 ดี 11. การวดั ผล ประเมนิ ผล การฝกึ อบรม 4.55 0.66 ดมี าก 4.41 0.49 รวม 4.51 0.49 ดี ดีมาก จากตารางท่ี 8 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมคี วามพงึ พอใจต่อโครงการขยายผลเกษตรกรตน้ แบบ Master Trainer ตาบลไรห่ ลักทอง ด้านการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ในภาพรวมอยู่ในระดบั ดีมาก มคี า่ เฉล่ยี (= 4.51) เมื่อ พจิ ารณาเป็นรายข้อ พบวา่ การตอบขอ้ ซักถามของวิทยากร มีค่าเฉลย่ี (= 4.86) รองลงมาคือ การสรุปองค์ความรู้ร่วมกัน มีค่าเฉลยี่ (= 4.55 ) การให้ความรู้เร่อื งปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีค่าเฉลย่ี (= 4.50 ) การจัดกจิ กรรมโครงการ ขยายผลเกษตรกรตน้ แบบ Master Trainer ตาบลไรห่ ลกั ทอง มีคา่ เฉล่ยี (=4.41) การวดั ผล ประเมินผล การฝกึ อบรม มี ค่าเฉล่ีย (= 4.41) และการแลกเปลีย่ นเรียนร้ขู องผู้เข้ารับการอบรม ( = 4.32) ตามลาดับ โดยมีส่วนเบ่ียงเบน มาตรฐาน () อยู่ระหว่าง 0.34 - 0.66 แสดงว่า ผตู้ อบแบบสอบถามมีความคิดเหน็ สอดคล้องกัน ตารางท่ี 9 ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานความพึงพอใจของผเู้ ขา้ รว่ มกจิ กรรมท่ีมีความพึงพอใจตอ่ โครงการขยายผล เกษตรกรตน้ แบบ Master Trainer ตาบลไรห่ ลักทอง ดา้ นประโยชนท์ ่ไี ดร้ บั รายการ ค่าเฉลยี่ สว่ นเบยี่ งเบน ระดับความ () มาตรฐาน () พงึ พอใจ 12. ได้เรยี นรู้และฝึกตนเอง เก่ยี วกบั การพัฒนา 4.73 ดีมาก ศกั ยภาพด้านเกษตรของตน ใหม้ ีการบรหิ ารจดั การเปน็ 0.45 เกษตรเชงิ ท่องเท่ียวให้เพิ่มขน้ึ และเป็นเกษตรกร 4.59 ดมี าก ต้นแบบ (Master Trainer) 4.66 0.49 ดีมาก 13. นาความรูท้ ไี่ ดร้ บั มาปรบั ใชใ้ นชวี ิตประจาวนั 0.47 รวม

23 จากตารางท่ี 9 พบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจต่อโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ตาบลไร่หลกั ทอง ดา้ นประโยชน์ทไี่ ดร้ ับ ในภาพรวมอยใู่ นระดบั ดีมาก มคี า่ เฉลี่ย (= 4.66) เมือ่ พจิ ารณาเป็นรายขอ้ พบว่า ได้เรียนรู้และฝกึ ตนเอง เกีย่ วกบั กฎหมายในชีวิตประจาวนั มีคา่ เฉลี่ย (= 4.73) รองลงมา นาความรูท้ ่ีไดร้ ับมา ปรับใช้ในชวี ิตประจาวนั มคี า่ เฉลี่ย (= 4.59) โดยมีสว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐาน () อยู่ระหวา่ ง 0.45 - 0.49 แสดงวา่ ผตู้ อบ แบบสอบถามมีความคิดเหน็ ไปในทศิ ทางเดียวกนั สรุปในภาพรวมของกิจกรรมคิดเปน็ ร้อยละ 90.56 มคี ่าน้าหนกั คะแนน 4.53 ถอื ว่าผู้รับบรกิ าร มีความพึงพอใจทางดา้ นตา่ งๆ อยู่ในระดับดีมาก โดยเรียงลาดบั ดงั น้ี  อนั ดบั แรก ดา้ นดา้ นประโยชนท์ ไี่ ดร้ ับ คิดเป็นรอ้ ยละ 93.18 มีค่านา้ หนักคะแนน 4.66 อยใู่ นระดบั คุณภาพ ดีมาก  อนั ดบั สอง ด้านการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ คิดเป็นร้อยละ 90.15 มคี า่ น้าหนกั คะแนน 4.51 อยใู่ นระดับ คณุ ภาพดี  อันดับสาม ด้านบรหิ ารจัดการ คิดเป็นร้อยละ 90.00 มีค่านา้ หนกั คะแนน 4.50 อยู่ในระดบั คณุ ภาพดี

บทที่ 5 24 อภปิ รายและข้อเสนอแนะ ผลการจดั กิจกรรมโครงการขยายผลเกษตรกรตน้ แบบ Master Trainer ตาบลไร่หลักทอง ได้ผลสรปุ ดงั น้ี วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพื่อพัฒนาศักยภาพเกษตรกรใหม้ ีองคค์ วามรดู้ ้านการบรหิ ารจดั การงานเกษตรและการเกษตรเชิงท่องเทย่ี ว เพมิ่ ขน้ึ 2. เพอ่ื ให้เกษตรกรต้นแบบ (Master Trainer) ไดไ้ ปขยายผลการอบรมประชาชนใหเ้ ปน็ เกษตรกรปราดเปรื่อง Smart Farmer เป้าหมาย (Outputs) เปา้ หมายเชิงปรมิ าณ - เกษตรกรตาบลไรห่ ลกั ทอง จานวน 15 คน เป้าหมายเชิงคุณภาพ - รอ้ ยละ 80 ของประชาชนทไี่ ดร้ บั การอบรมมีความรู้เพ่มิ มากขึน้ และสามารถเปน็ เกษตรกรปราดเปร่อื ง Smart Farmer ได้ เครือ่ งมอื ท่ีใชใ้ นการเกบ็ รวบรวมข้อมูล เคร่อื งมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมขอ้ มลู ในครัง้ น้ี คือ แบบประเมนิ ความพงึ พอใจ การเกบ็ รวบรวมข้อมูล ในการเกบ็ รวบรวมข้อมลู ไดม้ อบหมายให้ ครู กศน.ตาบลไร่หลักทองทร่ี ับผดิ ชอบกจิ กรรมแจกแบบสอบถามความ พงึ พอใจให้กบั ผ้รู ่วมกิจกรรม โดยให้ผู้เข้ารว่ มกจิ กรรมประเมนิ ผลการจัดกจิ กรรมตา่ งๆ ตามโครงการขยายผลเกษตรกร ตน้ แบบ Master Trainer ตาบลไร่หลกั ทอง สรุปผลการดาเนนิ งาน กศน.ตาบลไร่หลกั ทองไดด้ าเนนิ การจดั กจิ กรรมตาม โครงการขยายผลเกษตรกรตน้ แบบ Master Trainer ตาบลไร่ หลกั ทองโดยดาเนนิ การเสร็จส้ินลงแลว้ และสรุปรายงานผลการดาเนินงานไดด้ ังน้ี 1. ผรู้ ่วมกิจกรรมจานวน 15 คน สามารถพัฒนาศักยภาพด้านเกษตรของตน ให้มีการบริหารจดั การเปน็ เกษตรเชงิ ท่องเทีย่ วให้เพ่มิ ขึน้ และเป็นเกษตรกรต้นแบบ (Master Trainer) ขยายผลใหเ้ ปน็ เกษตรกรปราดเปรื่อง Smart Farmer แก่ ชุมชนได้ 2. ผรู้ ว่ มกจิ กรรมร้อยละ 93.18 นาความร้ทู ี่ได้รบั มาปรบั ใช้ในชีวิตประจาวนั 3. จากการดาเนนิ กจิ กรรมตามโครงการดงั กลา่ ว สรปุ โดยภาพรวมพบวา่ ผูเ้ ขา้ ร่วมกิจกรรมสว่ นใหญ่มีความพึงพอใจ ตอ่ โครงการ อย่ใู นระดับ “ดมี าก ” และบรรลุความสาเรจ็ ตามเปาู หมายตวั ชว้ี ัดผลลัพธ์ทตี่ งั้ ไว้ โดยมีคา่ เฉลย่ี ร้อยละภาพรวม ของกจิ กรรม 90.56 และคา่ การบรรลุเปูาหมายคา่ เฉลย่ี 4.53 ข้อเสนอแนะ - อยากใหม้ ีการจัดกจิ กรรมอีก จะไดน้ าความรู้ไปใชใ้ นการดาเนินชีวิตตอ่ ไป

บรรณานุกรม ทม่ี า กรมการศกึ ษานอกโรงเรยี น (2546) บญุ ชม ศรสี ะอาด และ บญุ ส่ง นิลแกว้ (2535 หน้า 22-25) กระทรวงศกึ ษาธิการ . (2543). https://cooking.kapook.com/view70045.html https://www.thairath.co.th/content/344944 https://www.posttoday.com/politic/report/465067

ภาคผนวก

รายงานผลการจดั กิจกรรม โครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ตาบลไร่หลกั ทอง ระหวา่ งวนั ที่ 14-15 กรกฎาคม 2563 ณ ศูนยเ์ รียนรเู้ ศรษฐกจิ พอเพียง หมู่ 6 ตำบลไร่หลกั ทอง อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี วนั ที่ 14 กรกฎาคม 2563 วทิ ยากรใหค้ วามรูโ้ ดย นายสมรกั คาวงษ์ เรอื่ ง การบริหารจดั การงานเกษตร การนาปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งไปใช้ในชวี ิตประจาวัน

วันท่ี 15 กรกฏาคม 2563 วิทยากรให้ความร้โู ดย นายสันติ หมวกสปี าน เรอ่ื งทักษะความเป็นเกษตรกรมอื อาชพี การใชเ้ ทคโนโลยีเกษตรทฤษฎใี หม่ เพ่อื สร้างรายได้ และการแปรรูปสมนุ ไพร อญั ชนั และฝักข้าว

แบบสอบถามความพึงพอใจ โครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ตาบลไรห่ ลกั ทอง กศน.ตาบลไร่หลักทอง อาเภอพนัสนคิ ม จังหวดั ชลบุรี คาชแ้ี จง 1. แบบสอบถามฉบบั นีม้ ีวตั ถุประสงค์ เพือ่ ใช้ในการสอบถามความพึงพอใจต่อโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ตาบลไร่ หลกั ทอง 2. แบบสอบถามมี 3 ตอนดงั นี้ ตอนที่ 1 ถามขอ้ มลู เกี่ยวกบั ผตู้ อบแบบสอบถามจานวน 4 ขอ้ ให้ทาเครื่องหมาย  ลงในช่องให้ตรงกับสภาพจริง ตอนท่ี 2 ความพึงพอใจต่อโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ตาบลไรห่ ลักทอง จานวน 13 ข้อ ซ่งึ มรี ะดบั ความ พึงพอใจ 5 ระดบั ดงั น้ี 5 มากทส่ี ดุ หมายถึง มคี วามพึงพอใจมากท่สี ดุ 4 มาก หมายถงึ มคี วามพึงพอใจมาก 3 ปานกลางหมายถงึ มีความพงึ พอใจปานกลาง 2 น้อย หมายถงึ มคี วามพงึ พอใจน้อย 1 นอ้ ยที่สดุ หมายถึง มีความพึงพอใจน้อยท่สี ดุ ตอนที่ 3 ขอ้ คดิ เหน็ และข้อเสนอแนะตอ่ โครงการขยายผลเกษตรกรตน้ แบบ Master Trainer ตาบลไร่หลักทอง ตอนที่ 1 ขอ้ มูลทั่วไปของผตู้ อบแบบสอบถาม หญงิ 40 ปี – 49 ปี เพศ 30 ปี – 39 ปี ชาย 60 ปีขึ้นไป อายุ 15 ปี – 29 ปี 50 ปี – 59 ปี การศกึ ษา ตา่ กว่า ป.4 ป.4 ประถม ม.ต้น ม.ปลาย ประกอบอาชพี อนุปรญิ ญา ปริญญาตรี สงู กว่าปรญิ ญาตรี รบั จ้าง ค้าขาย เกษตรกร ลูกจา้ ง/ขา้ ราชการหน่วยงานภาครฐั หรือเอกชน อนื่ ๆ ………………………………….

ตอนท่ี 2 ความพึงพอใจเกีย่ วกับโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ตาบลไรห่ ลักทอง ขอ้ ที่ รายการ ระดบั ความคดิ เหน็ 5 432 1 ด้านบรหิ ารจดั การ 1. อาคารและสถานที่ 2. ส่งิ อานวยความสะดวก 3. กาหนดการและระยะเวลาในการดาเนินโครงการ 4. เอกสารการอบรม 5. วิทยากรผู้ใหก้ ารอบรม ด้านการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 6. การจัดกิจกรรมโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ตาบลไร่หลักทอง 7. การให้ความรู้เร่ืองการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trainer ตาบลไรห่ ลักทอง 8. การตอบขอ้ ซักถามของวทิ ยากร 9. การแลกเปลยี่ นเรียนรู้ของผูเ้ ข้ารับการอบรม 10. การสรปุ องคค์ วามรรู้ ว่ มกนั 11. การวดั ผล ประเมนิ ผล การฝึกอบรม ด้านประโยชนท์ ่ไี ดร้ บั 12 ได้เรยี นรู้และฝึกตนเอง เกี่ยวกบั การแปรรปู สมุนไพรอญั ชนั มะนาว 13 นาความรู้ทไี่ ด้รับมาปรบั ใช้ในชีวิตประจาวนั ตอนที่ 3 ขอ้ คิดเหน็ และข้อเสนอแนะ ข้อคดิ เหน็ .............................................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอแนะ ........................................................................................................................................................................ ขอบขอบคุณท่ใี ห้ความรว่ มมือ กศน. อาเภอพนสั นคิ ม จังหวดั ชลบุรี

คณะผจู้ ดั ทา ทป่ี รกึ ษา หมื่นสา ผอู้ านวยการ กศน.อาเภอพนัสนิคม การงานดี ครู 1. นางณัชธกญั ศรีเทพ บรรณารกั ษ์ปฏบิ ัติการ 2. นางสาวมทุ ิกา คลงั สนิ ธ์ ครู อาสาสมคั ร กศน. 3. นางปล้มื จติ ร 4. นางสาวเฟือ่ งฟาู ครู กศน.ตาบลไร่หลกั ทอง คณะทางาน ทาเนาว์ ครู กศน.ตาบลไรห่ ลกั ทอง - นางสาวจนั ทกานต์ บรรณาธกิ าร ทาเนาว์ - นางสาวจนั ทกานต์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook