เอกสารประกอบการสอน รายวิชา เคมี 1 (เพมิ่ เติม) นางสาวจิตสุโข รวยร่งุ ครผู ู้สอน โรงเรยี นห้วยทรายประชาสรรค์ อาเภอชะอา จังหวดั เพชรบรุ ี สั งกัด สานักงานเขตพืน้ ทีก่ ารศึกษามธั ยมศึกษาเพชรบรุ ี
คำนำ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เล่มนี้ จัดทําขึ้นเพื่อประกอบการเรียนรายวิชาเคมี เพิ่มเติม 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4 จัดทําตามสาระและมาตรฐานการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สําหรับนักเรียนที่เน้นวิทยาศาสตร์ โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับ แบบจํำลองอะตอม ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาความรู้ ทักษะการคิด เจตคติทางวิทยาศาสตร์ และการ สบื เสาะหาความรทู้ างวทิ ยาศาสตร์ของผูเ้ รียนได้เปน็ อยา่ งดี ผู้จัดทําหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เล่มนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อการจัด กิจกรรมการเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ และสามารถยกระดบั ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นของ ผูเ้ รยี นให้มปี ระสทิ ธภิ าพมากยิง่ ขึ้น จติ สุโข รวยรุ่ง
สารบญั เรือ่ ง หนา้ คํานํา................................................................................................................ ก สารบัญ ........................................................ ข คําแนะนาํ ในการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ (สําหรับครู) ........................................... ค คาํ แนะนาํ ในการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ (สําหรับนักเรียน)..................................... ง ผลการเรียนรู้และจุดประสงค์การเรียนรู้......................................................................... จ แบบทดสอบกอ่ นเรียน.............................................................................................. 1 ใบความรทู้ ี่ 1 แบบจําลองอะตอมของจอห์นดอลตนั …………..………..................... 3 ใบความรทู้ ี่ 2 แบบจําลองอะตอมของทอมสัน………………………..…………….…...… 4 ใบความรู้ที่ 3 แบบจําลองอะตอมของรทั เทอร์ฟอรด์ ………………..…….………..…... 6 ใบความรู้ท่ี 4 แบบจําลองอะตอมของนลี สโ์ บร์.................................................................... 8 ใบความรูท้ ี่ 5 แบบจําลองอะตอมแบบกลุม่ หมอก.................................................................10 ใบงานแบบจําลองอะตอม. ........................................................................................ 11 แบบทดสอบหลังเรยี น.............................................................................................15 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน – หลงั เรียน ........................................................................ 17 เฉลยใบงานแบบจําลองอะตอม ................................................................................18 บรรณานกุ รม .......................................................................................................22 ก่อนอ่ืนเรามาดูคำแนะนำใน การใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ก่อนนะคะ
แบบจำลองอะตอม คํำแนะนํำในการใช้ชดุ กจิ กรรมการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ (สํำหรับครู) 1. ศกึ ษาชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ เร่อื ง อะตอมและตารางธาตุ ชุดที่ 1 แบบจํำลองอะตอม ใหเ้ ขา้ ใจกอ่ นทาํ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 2. ศกึ ษาแผนการจัดการเรียนรแู้ บบสบื เสาะหาความรู้ (7Es) ท่ี 1 อยา่ งละเอียด เพื่อให้ เข้าใจขั้นตอนในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 3. นกั เรยี นทําแบบทดสอบกอ่ นเรียน เพื่อวดั ความร้พู ื้นฐานของนักเรียน 4. แจง้ จุดประสงค์การเรียนรูใ้ ห้นักเรียนทราบ 5. ดาํ เนินการจัดกิจกรรมการเรยี นรตู้ ามแผนการจัดการเรยี นรู้ 6. นกั เรียนทาํ แบบทดสอบหลังเรียน เพอื่ ประเมินความก้าวหน้าของนักเรียน 7. หลังจากนักเรยี นทาํ กจิ กรรมในชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตรเ์ สรจ็ แลว้ นกั เรียน และครคู วรช่วยกันสรุปคะแนนหากมนี ักเรียนไมผ่ ่านเกณฑ์ ควรใหไ้ ปศึกษาเพิม่ เติมนอก เวลาเรียน
แบบจำลองอะตอม คํำแนะนำํ ในการใชช้ ดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ (สำํ หรับนักเรยี น) 1. อ่านคาํ แนะนาํ ในการใช้ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สําหรับนักเรียนใหเ้ ข้าใจ กอ่ น 2. ทาํ แบบทดสอบก่อนเรยี น จํานวน 10 ข้อ ใชเ้ วลา 10 นาที เพ่ือวัดพนื้ ฐาน ความรู้ ของนักเรียน 3. ศกึ ษา ชดุ กิจกรรมการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ตามข้ันตอนทีละหน้าทุกกิจกรรม 4. ทาํ แบบทดสอบหลงั เรียน จาํ นวน 10 ข้อ ใช้เวลา 10 นาที เพ่ือดูความกา้ วหน้า ของตนเอง 5. การทํากิจกรรมในชุดกจิ กรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ขอใหน้ กั เรียนทาํ ดว้ ยความต้ังใจ มคี วามซ่ือสัตย์ต่อตนเอง ไมด่ เู ฉลยก่อน จนกว่าจะทาํ ใบงานเสร็จ ถ้ามีข้อสงสยั ให้ กลับไปดูเนื้อหาและตวั อย่างอีกครั้ง 6. นกั เรียนที่มีคะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ หรอื ยงั ไม่เขา้ ใจเน้ือหาในชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ สามารถไปศึกษาเพมิ่ เติมนอกเวลาเรียน เพอ่ื ให้เขา้ ใจมากย่งิ ขนึ้
แบบจำลองอะตอม ผลการเรยี นรู้ เปรยี บเทยี บและอธบิ ายแบบจาํ ลองอะตอมของดอลตนั ทอมสัน รัทเทอรฟ์ อรด์ โบร์ และแบบกลุ่มหมอกได้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธิบายลักษณะของแบบจาํ ลองอะตอมของดอลตนั ทอมสัน รทั เทอรฟ์ อร์ด โบร์ และแบบกลมุ่ หมอกได้ 2. บอกสาเหตทุ ีท่ ําให้แบบจาํ ลองอะตอมสามารถเปล่ียนแปลงไปได้ 3. บอกความแตกตา่ งของแบบจําลองอะตอมของดอลตัน ทอมสนั รทั เทอรฟ์ อรด์ โบร์ และแบบจําลองอะตอมแบบกลุ่มหมอกได้ ทำให้ได้ตามจุดประสงค์ ที่ต้ังไว้นะครับ
แบบจำลองอะตอม 1 แบบทดสอบก่อนเรียน คํำชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนเลือกคำํ ตอบที่ถกู ตอ้ งท่ีสุด 1. ขอ้ ใดไม่ถกู ตอ้ งเก่ียวกับแบบจําลองอะตอมทน่ี ักวิทยาศาสตร์เสนอขึน้ ก. แบบจาํ ลองอะตอมเสนอขึ้นจากข้อมูลของการทดลอง ข. แบบจาํ ลองอะตอมทเ่ี สนอขึน้ ไม่สามารถเปลย่ี นแปลงได้ ค. นักวิทยาศาสตรเ์ สนอแบบจาํ ลองอะตอมข้ึนเพื่อใช้อธบิ ายผลการทดลอง ง. แบบจาํ ลองอะตอมสรา้ งขึ้นตามจินตนาการของนักวิทยาศาสตร์ 2. ขอ้ ความใดตอ่ ไปน้ถี ูกต้อง ก. แบบจาํ ลองอะตอมของทอมสนั คือ อะตอมทม่ี นี ิวคลียสมีโปรตอนรวมกนั อยตู่ รงกลางและ มี อเิ ลก็ ตรอนวง่ิ รอบนิวเคลียสเป็นบรเิ วณกว้าง ข. แบบจําลองอะตอมของดอลตัน คือ อะตอมมีลักษณะเปน็ วงกลม มอี ิเล็กตรอนและโปรตอนกระจาย อยทู่ ั่วไปในทรงกลมนน้ั ค. แบบจําลองอะตอมของโบว์ คืออิเลก็ ตรอนท่ีอยรู่ อบนวิ เคลยี สจะโคจรอยู่เป็นชั้นเหมอื นดาวเคราะห์ ในสุริยจักรวาล ง. แบบจําลองอะตอมของรัทเทอร์ฟอรด์ คอื อะตอมมีลักษณะเปน็ ลุกทรงกลมขนาดเลก็ มาก และไม่ สามารถแบง่ แยกต่อไปได้อีก 3. จากการทดลองของทอมสัน ขอ้ ใดถูกต้อง ก. รงั สีแคโทดเป็นกระแสอิเลก็ ตรอนที่มาจากขวั้ แคโทดเทา่ น้ัน ข. รังสีบวกทม่ี ากระทบฉากเรอื งแสง คือไอออนบวกของแกส๊ ไฮโดรเจน ค. อะตอมประกอบดว้ ยอนภุ าคโปรตอนทม่ี ปี ระจบุ วกมารวมกนั อยู่ท่ีแกนกลางและอนภุ าคอิเลก็ ตรอน ที่มปี ระจุลบกระจายอยู่โดยรอบทว่ั ไป ง. อนุภาคลบทรี่ วมกนั เป็นรงั สีมากระทบฉากเรืองแสงดา้ นแอโนด ควรเปน็ อนุภาคของส่วนประกอบทุก ธาตุเพราะมคี า่ ประจตุ ่อมวล คงที่ 4. รังสีแคโทดคอื ข้อใด ก. อเิ ล็กตรอนท่ีเคลื่อนที่ ข. รังสีทเี่ คลื่อนท่ีไปยงั แคโทด ค. แสงสีเขยี วที่พบใกล้แคโทด ง. ประจบุ วกและประจลุ บท่ีเคลื่อนที่
แบบจำลองอะตอม 2 5. “มวลสว่ นใหญ่ของอะตอมอยใู่ นนวิ เคลยี สทมี่ ีขนาดเลก็ ”ขอ้ สรุปน้ไี ดจ้ ากข้อมลู ในข้อใด ก. ข้อมูลเก่ียวกบั รังสีแคโทด ข. ขอ้ มลู ของแกส๊ ท่ีสามารถบบี อดั ได้ ค. การศึกษาการผ่านแสงไปยังปริซมึ ง. การศึกษาอนุภาคแอลฟาผา่ นแผ่นโลหะบาง 6. ข้อใดถูกตอ้ งเก่ียวกับแบบจําลองอะตอมของรทั เทอร์ฟอรด์ ก. โปรตอนและอิเลก็ ตรอนรวมกนั เป็นนวิ เคลยี สของอะตอม ข. นวิ เคลียสมีขนาดเลก็ และมวลน้อย ภายในประกอบด้วยอนภุ าคโปรตอน ค. นิวเคลยี สเป็นกลางทางไฟฟ้าเพราะประจุของโปรตอนกับของอเิ ล็กตรอนเท่ากนั ง. อะตอมของธาตปุ ระกอบดว้ ยอนุภาคโปรตอนและอเิ ล็กตรอนกระจัดกระจายอยภู่ ายในดว้ ยจาํ นวน เท่ากนั 7. ขอ้ ใดถูกตอ้ งเกี่ยวกบั แบบจาํ ลองอะตอมของนลี ส์ โบว์ ก. อิเล็กตรอนไม่เคลอ่ื นท่ี แตอ่ ยเู่ ฉพาะท่ี ข. อิเลก็ ตรอนในระดับพลังงานที่ 1 จะมีพลังงานมากที่สุด ค. อิเล็กตรอนเคลือ่ นทรี่ อบนิวเคลียส ในระดบั พลงั งานทมี่ ีค่าเฉพาะตวั ง. อเิ ลก็ ตรอนทอ่ี ย่ใู นระดับพลงั งานใกล้นวิ เคลียสท่ีสดุ จะมพี ลงั งานสงู สดุ 8. ขอ้ ใดไม่ถูกต้องเก่ยี วกับแบบจําลองอะตอมแบบกลมุ่ หมอก ก. อิเล็กตรอนเคลื่อนท่ีรอบนวิ เคลียสตลอดเวลา ข. อะตอมประกอบด้วยโปรตอน อเิ ล็กตรอน และนวิ ตรอน ค. อเิ ลก็ ตรอนเคลือ่ นทร่ี อบนวิ เคลยี สโดยมีทิศทางทีแ่ น่นอน ง. ไมส่ ามารถบอกตาํ แหน่งทแี่ นน่ อนของอเิ ลก็ ตรอนในอะตอมได้ 9. ข้อมูลใดสนบั สนนุ แบบจาํ ลองอะตอมของรัทเทอร์ฟอรด์ ไดจ้ าก ก. การศึกษาเส้นสเปกตรัมของธาตุ ข. การยิงอนุภาคแอลฟาผ่านแผ่นทองคําเปลว ค. การคน้ พบว่าอะตอมมีค่าพลงั งานไอออนไนเซซันตา่ งกัน ง. การค้นพบอนุภาคโปรตรอน และอนุภาคของอิเล็กตรอน 10. แบบจาํ ลองอะตอมของดอลตนั และแบบจาํ ลองอะตอมของทอมสนั ต่างกันอย่างไร ก. องค์ประกอบภายในอะตอม ข. ตําแหนง่ ของอนภุ าคภายในอะตอม ค. ชนิดของอนุภาคภายในอะตอม ง. ขนาดอนุภาคภายในอะตอม
แบบจำลองอะตอม ใบความรู้ท่ี 1 เรือ่ ง แบบจํำลองอะตอมของดอลตัน แบบจำํ ลองอะตอม เนือ่ งจากอะตอมมีขนาดเลก็ มาก อกี ทัง้ ไม่มใี ครเคยมองเห็นอะตอมมาก่อน การศึกษาเรือ่ งราว เก่ียวกับอะตอมจงึ เป็นการแปลผลจากข้อมลู ที่ได้จากการทดลองและนํามาสร้างเป็นนโมภาพหรือ แบบจําลอง แบบจำํ ลองอะตอมของดอลตนั ในปี พ.ศ.2346 จอห์น ดอลตัน นักวทิ ยาศาสตร์ชาวองั กฤษไดเ้ สนอทฤษฎีอะตอมเพือ่ ใช้อธบิ าย เก่ยี วกบั การเปลี่ยนแปลงมวลของสารกอ่ นและหลงั ทําปฏิกริ ิยา รวมทัง้ อัตราส่วนโดยมวลของธาตุท่รี วมกัน เปน็ สารประกอบหนงึ่ ๆ ซ่งึ มสี าระสาํ คัญดังนี้ 1. ธาตุประกอบด้วยอนภุ าคเล็ก ๆ หลายอนุภาคอนภุ าคเหลา่ น้ีเรียกวา่ อะตอม ซง่ึ แบง่ แยกและทาํ ให้สญู หายไม่ได้ 2. อะตอมของธาตชุ นิดเดียวกันมสี มบตั เิ หมือนกนั เช่น มมี วลเทา่ กัน แตจ่ ะมสี มบัตแิ ตกตา่ งจาก อะตอมของธาตอุ ่ืน 3. สารประกอบเกิดจากอะตอมของธาตมุ ากกว่าหนง่ึ ชนดิ ทําปฏิกริ ยิ าเคมีกันในอัตราสว่ นที่เปน็ เลขลงตัวน้อยๆ ทฤษฎีอะตอมของดอลตันชว่ ยให้นักวทิ ยาศาสตร์ในสมยั นั้นสามารถอธิบายลักษณะและสมบตั ิของ อะตอมได้เพียงระดบั หนง่ึ ต่อมาได้มีการศึกษาเก่ียวกบั อะตอมเพมิ่ ขึน้ และคน้ พบข้อมูลบางประการท่ีไม่ สอดคล้องกบั แนวคดิ ของดอลตนั เชน่ พบวา่ อะตอมของธาตชุ นดิ เดียวกนั อาจมีมวลแตกต่างกันได้ อะตอม สามารถแบง่ แยกได้นักวิทยาศาสตร์รุ่นต่อมาจงึ ได้ศึกษาเพิ่มเตมิ แลว้ สร้างแบบจําลองอะตอมข้ึนใหม่ นกั เรียนจะได้ศึกษาต่อไปวา่ นักวิทยาศาสตรพ์ ฒั นาแบบจาํ ลองอะตอมโดยมผี ลการทดลองหรือข้อมูลใดชว่ ย สนบั สนุนแนวคิดเหล่าน้นั จากทฤษฎีอะตอมของดาลตัน แบบจําลองอะตอมมีลักษณะดงั รูป รูป 1.1 ลกั ษณะแบบจําลองอะตอมของดอลตัน ทม่ี า : http://www.vcharkarn.com/lesson/1168
แบบจำลองอะตอม 4 ใบความรู้ท่ี 2 เรื่อง แบบจํำลองอะตอมของทอมสัน ในปี พ.ศ. 2540 เซอรโ์ จเซฟ จอหน์ ทอมสัน นกั วิทยาศาสตรช์ าวอังกฤษ ทําการทดลองบรรจุแก๊ส ชนิดหนง่ึ ไว้ในหลอดแก้วที่ตอ่ ไว้กับเครือ่ งสูบอากาศเพ่ือลดความดนั ภายในหลอด ท่ีแอโนดเจาะรูตรงกลาง และต่อไว้กบั เครื่องกาํ เนดิ ไฟฟ้า กระแสตรงศักยส์ ูง ทีป่ ลายหลอดมีฉากเรอื งแสงวางขวางอยู่ ดงั รปู 1.2 พบว่าเม่ือลดความดนั ในหลอดแกว้ ใหต้ ํา่ ลงมากๆ จนเกือบเปน็ สูญญากาศ จะมีจุดสว่างเกิดข้นึ ตรงบริเวณศูนย์กลางของฉากเรืองแสง รปู 1.2 หลอดรงั สีแคโทดท่ีดัดแปลงแล้ว รูป 1.3 หลอดรังสแี คโทดทีม่ ีขั้วไฟฟา้ ในหลอดเพ่ิมข้ึนอีกสอง ขั้ว ท่ีมา : http://www.vcharkarn.com/lesson/1168 ทอมสันทาํ การทดลองต่อโดยเพมิ่ ขวั้ ไฟฟ้าอกี 2 ขว้ั ในแนวด่งิ ดงั รปู 1.3 ปรากฏวา่ ตําแหน่ง ของจุดสว่างบนฉากเรืองแสงเบนเขา้ หาขั้วบวกของสนามไฟฟา้ จงึ สรปุ วา่ รังสีจากแคโทดประกอบด้วย อนุภาคทม่ี ีประจุไฟฟา้ ลบ เมอ่ื ทอมสนั ทดลองเปลย่ี นชนดิ ของแก๊สทบี่ รรจุในหลอดและโลหะท่ีใช้เปน็ แคโทด พบวา่ รังสีท่ีเกดิ ข้ึนยังคงประกอบดว้ ยอนุภาคที่มีประจุลบพุ่งมากที่ฉากเรืองแสงเหมือนเดมิ เม่ือคาํ นวณหา อัตราสว่ นของประจตุ ่อมวล (e/m) ของอนภุ าคพบวา่ ไดค้ ่าเทา่ กบั 1.76x108 คลู อมบ์ต่อกรัมทกุ ครั้ง จาก ผลการทดลองและการคํานวณช่วยให้ทอมสันสรุปไดว้ า่ อะตอมทุกชนิดมีอนุภาคทีม่ ีประจุลบเปน็ องค์ประกอบ และเรียกอนภุ าคนีว้ ่า อิเล็กตรอน จากการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์พบวา่ อะตอมเป็นกลาง ทางไฟฟ้าและมีอเิ ลก็ ตรอนซึ่งเป็นอนุภาคทีม่ ปี ระจลุ บเป็นองค์ประกอบ จึงเชื่อว่าอะตอมตอ้ งประกอบด้วย อนุภาคทีม่ ปี ระจุบวกดว้ ย
แบบจำลองอะตอม 5 ออยเกน โกลด์ชไตน์ นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมนั ได้ดัดแปลงหลอดรงั สีแคโทดโดยเจาะรูตรงกลางข้ัวแอโนด และแคโทด และเล่ือนขั้วทง้ั สองมาไว้เกือบตรงกลางหลอดรวมท้ังเพอ่ื ฉากเรอื งแสงท่ปี ลายทั้งสองด้านของ หลอดดังรูป 1.4 รูป 1.4 หลอดรังสีแคโทดกบั อนุภำคบวก ทม่ี า : http://www.vcharkarn.com/lesson/1168 เมอ่ื ผ่านกระแสไฟฟ้าเขา้ ไปในหลอด ปรากฏวา่ มีจดุ สว่างเกิดขน้ึ บนฉากเรืองแสงทัง้ สองด้าน อธิบายได้วา่ รงั สีทไี่ ปกระทบกบั ฉากเรืองแสงบรเิ วณดา้ นหลังแคโทดตอ้ งเป็นอนภุ าคทีม่ ีประจุบวก เม่อื ทํา การทดลองกับแก๊สอกี หลายชนดิ พบว่าอนุภาคที่มปี ระจุบวกเหล่านม้ี ีอัตราส่วนของประจุต่อมวลไม่คงท่ี นอกจากนย้ี ังพบว่าถ้าบรรจุแกส๊ ไฮโดรเจนไว้ในหลอดรงั สีแคโทด จะไดอ้ นุภาคบวกท่มี ีประจเุ ท่ากบั ประจุ ของอเิ ล็กตรอน นกั วทิ ยาศาสตร์เรยี กอนุภาคบวกที่เกิดจากแก๊สไฮโดรเจนน้ีว่า โปรตอน จากผลการทดลองดงั กลา่ วทําให้ทอมสนั สรุปว่าอะตอมเป็นรูปทรงกลมประกอบดว้ ยเน้อื อะตอม ซง่ึ มีประจบุ วกและมีอิเล็กตรอนซงึ่ มปี ระจลุ บกระจายอยทู่ ่ัวไปอะตอมในสภาพท่เี ปน็ กลางทางไฟฟ้าจะมี จํานวนประจุบวกเท่ากับจาํ นวนประจลุ บ รูป 1.5 แบบจําลองอะตอมของทอมสัน ท่มี า : http://www.vcharkarn.com/lesson/1168 รอเบริ ต์ แอนดรูส์ มลิ ลแิ กน นักวทิ ยาศาสตร์ชาวอเมรกิ นั พบวา่ อิเล็กตรอนมปี ระจุเทา่ กับ คูลอมบ์ และคาํ นวณหามวลไดเ้ ท่ากับ กรมั ซึง่ เป็นค่าน้อยมาก
แบบจำลองอะตอม 6 ใบความรู้ท่ี 3 เร่อื ง แบบจำํ ลองอะตอมของรัทเทอร์ฟอร์ด ลอร์ดเออร์เนสต์ รัทเทอรฟ์ อร์ด นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ และฮันส์ ไกเกอร์ นักวทิ ยาศาสตร์ ชาวเยอรมนั ได้ศึกษาและพสิ จู น์แบบจําลองอะตอมของทอมสันเมอื่ ปี พ.ศ.2454 โดยการยิงอนภุ าคแอลฟา ไปยังแผ่นทองคําบาง ๆ และใช้ฉากเรืองแสงที่เคลือบดว้ ยซงิ ค์ซลั ไฟด์โค้งเป็นวงล้อมรอบแผน่ ทองคําเพื่อ ตรวจจบั อนุภาคแอลฟา จากผลการทดลองพบว่าสว่ นใหญจ่ ะเกิดการเรืองแสงบนฉากท่ีอย่บู รเิ วณด้านหลัง ของแผน่ ทองคํา มีบางคร้ังเกดิ การเรืองแสงบริเวณด้านหลัง และมีการเรอื งแสงบริเวณด้านหนา้ ของแผ่น ทองคําด้วยแตน่ อ้ ยครั้งมาก ดังรูป 1.6 รปู 1.6 กำรทดลองของรัทเทอร์ฟอร์ด ที่มา : http://www.vcharkarn.com/lesson/1168 จากผลการทดลองถ้าอธิบายตามแบบจาํ ลองอะตอมของทอมสันอนภุ าคแอลฟาซงึ่ มปี ระจบุ วกน่าจะผลกั กบั โปรตอนทาํ ให้เกิดก ารเบยี่ งเบนไปจากแนวเสน้ ตรงไดบ้ า้ งแตไ่ มน่ า่ จะมอี นุภาคสะทอ้ นกลบั มากระทบฉากบรเิ วณด้านหน้าได้ดังน้ันรทั เทอรฟ์ อรด์ จึงอธิบายลัก ษณะภายในอะตอมว่าการทอ่ี นุภาค แอลฟาวิง่ ผ่านแผ่นทองคาํ ไปได้เปน็ ส่วนใหญ่ แสดงวา่ ภายในอะตอมต้องมีทว่ี า่ งอยู่เปน็ บริเวณกวา้ ง การที่อนุภาคแอลฟาบางอนุภาคเบ่ียงเบนหรือสะท้อนกลบั มาบริเวณด้านหนา้ ของฉากเรอื งแสงแสดงว่าบริเวณตรงกลางของอะตอมนา่ จะ มีอนุภาคท่ีมีประจุบวกและมีมวลสูงมากกว่าอนุภาคแอลฟารทั เทอรฟ์ อรด์ ได้เสนอแบบจําลองอะตอมใหมว่ ่าอะตอมประกอบดว้ ยนิวเคลยี สที่มขี นาด เลก็ มากอยู่ตรงกลางและมปี ระจุ ไฟฟ้าเปน็ บวก โดยมอี ิเลก็ ตรอนว่ิงอยูร่ อบๆ ดงั รูป 1.7
แบบจำลองอะตอม 7 รปู 1.7 แบบจํำลองอะตอมของรัทเทอร์ฟอร์ด ท่ีมา : http://www.vcharkarn.com/lesson/1168 ตามแบบจําลองของรัทเทอรฟ์ อรด์ นวิ เคลยี สของอะตอมซึ่งอยตู่ รงกลางมีขนาดเล็กมากเมื่อเทียบกบั ขนาดของอะตอม อนภุ าคแอลฟาจึงมโี อกาสชนนวิ เคลียสไดน้ อ้ ยมากส่วนอิเล็กตรอนท่ีอยรู่ อบนิวเคลียสมมี วลน้อยมากการชนกับอิเล็กตรอนจึงไม่มผี ลทาํ ให้ ทิศทางการเคล่ือนที่ของอนุภาคแอลฟาเปล่ียนไปอนภุ าคส่วนใหญจ่ งึ วงิ่ ผ่านทะลุแผน่ ทองคาํ ไปเปน็ แนวตรงมบี างคร้งั ที่อนุภาคแอลฟาว่ิง เฉยี ดนวิ เคลียสซ่ึงจะถูกประจุของนิวเคลยี สผลักให้เบนไปจากแนวเส้นตรงส่วนอนุภาคแอลฟาที่วง่ิ ตรงไปยังนวิ เคลียสซ่ึงมีมวล มากก็จะถูกผลักให้สะท้อนกลบั ดังแสดงในรปู 1.8 รปู 1.8 การใช้แบบจํำลองอธิบายผลการทดลองของรัทเทอร์ฟอรด์ ท่มี า : http://www.vcharkarn.com/lesson/1168 ตามแนวคิดของรัทเทอรฟ์ อร์ดจะพบว่ามวลสว่ นใหญ่ของอะตอมคือมวลของนวิ เคลียสน่ันเอง สว่ นอเิ ลก็ ตรอนถึงแม้จะเปน็ ส่วนประกอบท่ีทําให้อะตอมมีขนาดใหญ่แต่ก็มีมวลน้อย จนถอื ว่าไม่มผี ลต่อ มวลของอะตอม
แบบจ˚ำ ลองอะตอม 8 ใบความรู้ที่ 4 เรื่อง แบบจํำลองอะตอมของโบร์ เน่ืองจากแบบจาํ ลองอะตอมของรัทเทอร์ฟอร์ดไม่ได้อธิบายว่าอเิ ล็กตรอนรอบนิวเคลยี สอยู่ในลักษณะใดนักวทิ ยาศาสตรจ์ ึงหาวธิ ที ดลอง เพื่อรวบรวมข้อมูลเกยี่ วกับตําแหนง่ ของอิเล็กตรอนโดย การศกึ ษาสเปกตรมั ของสารประกอบและธาตุ สเปกตรมั หมายถงึ แถบสีหรอื เส้นสีท่ีได้จากการผา่ นพลังงานรังสเี ข้าไปในชดุ ศึกษา เชน่ ปริซมึ ซ่ึงทําใหพ้ ลงั งานรงั สแี ยกออกเป็นแถบหรือ เปน็ เส้น ทมี่ ีความยาวคลื่นตา่ ง ๆ เรยี งลําดบั กันไป แสงท่ีประสาทตาของมนุษย์สามารถรับรู้ไดเ้ รยี กวา่ แสงทม่ี องเห็นได้ ซ่งึ มีความยาวคลืน่ อยู่ในช่วง 400 - 700 นาโนเมตร แต่ไมส่ ามารถแยกเป็นสตี า่ งๆ ได้ จงึ มองเห็นเปน็ สีรวมกนั ซึง่ เรยี กวา่ แสงขาว สเปกตรัม ความยาวคลื่น (nm) แสงสมี ่วง แสงสีคราม - 400-420 นำ้ํ เงิน แสงสเี ขยี ว 420-490 แสงสีเหลอื ง แสงสีแสด 580-590 (สม้ ) แสงสีแดง 590-650 590-650 650-700 ตารางที่ 1.1 แสงสีต่าง ๆ ในแถบสเปกตรัมของแสงขาว ท่ีมา : http://www.vcharkarn.com/lesson/1168 สเปกตรมั ของธาตแุ ละการแปลความหมาย สรุปได้ว่า 1. เมื่ออิเล็กตรอนได้รับพลงั งานในปริมาณทเี่ หมาะสม อิเล็กตรอนจะขึ้นไปอยใู่ นระดับพลงั งานที่สูงกว่า ระดบั พลงั งานเดมิ แตจ่ ะอยใู่ นระดับใดขน้ึ กับปริมาณพลงั งานทไ่ี ด้รับ การท่ีอเิ ล็กตรอนขนึ้ ไปอยใู่ นระดบั พลงั งาน ใหมท่ าํ ให้อะตอม อเิ ลก็ ตรอนจะกลับมาอยู่ในระดบั พลังงานทตี่ ํ่ากวา่ ซึ่งในการเปล่ียนตําแหน่งน้ีอเิ ลก็ ตรอนจะคาย พลังงานออกมา การดดู หรอื คายพลงั งานจะต้องมคี ่าเฉพาะตามทฤษฎีของพลงั ค์ 2. การเปลยี่ นระดบั พลงั งานของอเิ ล็กตรอนไมจ่ ําเปน็ ต้องเปล่ยี นไปยงั ระดับพลังงานที่อยู่ติดกนั อาจมีการเปลี่ยนข้ามระดบั ได้ 3. ผลตา่ งของพลงั งานระหว่างระดบั พลังงานตํ่า จะมีคา่ มากกว่าผลตา่ งของพลังงานระหวา่ งระดบั พลังงานท่ีสูงข้นึ ไป
แบบจ˚ลองอะตอม 9 จากความรเู้ รอื่ งการเปลยี่ นแปลงระดับพลังงานของอิเลก็ ตรอนและการเกดิ สเปกตรมั ช่วยให้นีลส์ โบร์ นกั วทิ ยาศาสตรช์ าวเดนมาร์ก สรา้ งแบบจําลองอะตอมเพื่อใช้อธิบายพฤติกรรมของอิเล็กตรอนใน อะตอมได้ โดยกลา่ วว่า อิเลก็ ตรอนจะเคล่ือนท่ีรอบนิวเคลยี สเป็นวงคลา้ ยกับวงโคจรของดาวเคราะห์ รอบดวงอาทติ ย์ แตล่ ะวงจะมีระดับพลังงานเฉพาะตัว ระดบั พลงั งานของอเิ ล็กตรอนทอ่ี ยู่ใกล้นวิ เคลียส ทส่ี ดุ ซึ่งมพี ลังงานตำ่ํ ทสี่ ดุ เรียกวำ่ ระดับ K และระดับพลงั งานท่ีอยู่ถัดออกมาเรยี กเป็น L M N... ตำมลำํ ดบั (ดงั รูป 1.9) ตอ่ มาไดม้ กี ารใชต้ ัวเลขแสดงถงึ ระดับพลงั งานของอเิ ลก็ ตรอน คือ n=1 หมายถงึ ระดับพลังงานท่ี 1 ซ่งึ อยู่ใกลก้ ับนิวเคลียสทส่ี ุด และชัน้ ถัดออกมาเป็น n=2 หมายถึงระดบั พลังงาน ท่ี 2 ตอ่ จากน้นั n=3 4 ... หมายถงึ ระดับพลงั งานที่ 3 4 และสูงข้นึ ไปตามลําดับ รูป 1.9 แบบจําลองอะตอมของโบร์แสดงระดับพลงั งานของอเิ ล็กตรอน ที่มา : http://www.vcharkarn.com/lesson/1168 แบบจาํ ลองอะตอมของโบร์ พฒั นามาจากการคน้ พบสเปกตรมั ของอะตอมไฮโดรเจน ซง่ึ เป็น อะตอม ทมี่ ี 1 อิเล็กตรอน แตไ่ ม่สามารถใช้อธบิ ายอะตอมที่มหี ลายอิเล็กตรอนได้ นกั วทิ ยาศาสตรจ์ ึงจําเป็นตอ้ งศึกษาค้นคว้าเพิม่ เติมเพื่อเสนอแบบจําลองอะตอมใหม่
แบบจ˚ลองอะตอม 10 ใบความรู้ท่ี 5 เร่ือง แบบจํำลองอะตอมแบบกลุ่มหมอก เนื่องจากแบบจาํ ลองอะตอมของโบร์มีข้อจํากัดที่ไม่สามารถใช้อธบิ ายสเปกตรมั ของอะตอมท่มี ี หลายอิเล็กตรอนได้ นักวิทยาศาสตรจ์ งึ ได้ศึกษาเพ่ิมเตมิ จนได้ข้อมลู เพยี งพอที่จะเชื่อวา่ อิเล็กตรอนมีสมบัติ เปน็ ท้ังอนภุ าคและคลน่ื โดยเคลอื่ นทร่ี อบนิวเคลยี สในลักษณะของคลื่นน่งิ บริเวณท่พี บอิเล็กตรอนพบได้ หลายลกั ษณะเปน็ รูปทรงต่าง ๆ ตามระดับพลงั งานของอิเล็กตรอน จากการใช้ความร้ทู างกลศาสตร์ ควอนตัมสร้างสมการขนึ้ เพื่อคาํ นวณหาโอกาสที่จะพบอเิ ล็กตรอนในระดบั พลงั งานต่างๆ พบวา่ แบบจําลอง น้สี ามารถอธิบายเส้นสเปกตรมั ของธาตไุ ด้ถูกต้องกว่าแบบจําลองอะตอมของโบร์ อเิ ล็กตรอนมขี นาดเล็กมากและเคล่ือนท่ีอย่างรวดเร็วตลอดเวลาไปทวั่ ทั้งอะตอม จึงไม่สามารถบอก ตาํ แหนง่ ทแ่ี น่นอนของอเิ ล็กตรอนได้ อย่างไรก็ตามนักวทิ ยาศาสตรพ์ บว่ามโี อกาสท่ีจะพบอเิ ล็กตรอนรอบ นิวเคลียสบางบรเิ วณเทา่ น้ัน ทําใหส้ รา้ งมโนภาพได้ว่าอะตอมประกอบด้วยกลมุ่ หมอกทึบแสดงว่ามีโอกาสท่ี จะพบอิเลก็ ตรอนไดม้ ากกวา่ บริเวณทม่ี ีกลุ่มหมอกจาง ดังรูป 1.10 (แต่ละจุดคือ 1 โอกาสที่จะพบ อิเล็กตรอน) รปู 1.10 ภาพ 2 มิติแสดงกลมุ่ หมอกอิเล็กตรอนของไฮโดรเจนอะตอมทมี่ ี 1 อิเล็กตรอน ทม่ี า : http://www.vcharkarn.com/lesson/1168 แบบจําลองอะตอมแบบกลุ่มหมอกที่แสดงถงึ ความหนาแนน่ ของอเิ ล็กตรอนรอบนิวเคลียสทําได้ยาก โดยทั่วไปจึงคิดถงึ อะตอมในลักษณะทรงกลมและใชล้ ูกกลม เชน่ ลูกปิงปอง หรอื ลกู กลมพลาสติกเป็น แบบจําลองแทนอะตอมของธาตุ แต่นักเรยี นควรระลึกไว้เสมอว่าการใช้แบบจาํ ลองเชน่ นเ้ี พยี งเพ่ือช่วยให้ เกิดจินตนาการไดง้ า่ ยข้ึนเท่าน้ัน โครงสรา้ งอะตอมตามแบบจาํ ลองอะตอมแบบกลุ่มหมอกสามารถใช้อธบิ ายสมบตั ิต่างๆ ของ อะตอมได้อยา่ งกว้างขวาง แต่ทั้งนไี้ ม่ใชข่ ้อยตุ ิในการศึกษาทดลองเกย่ี วกับอะตอม เพราะเป็นที่ยอมรับกนั แลว้ ว่าความร้ทู างวิทยาศาสตร์มีการพฒั นาอย่างต่อเนื่องตลอดไป ดังน้นั ในอนาคตจงึ อาจมีแบบจาํ ลอง อะตอมใหม่ทใ่ี ช้อธิบายโครงสร้างอะตอมได้เหมาะสมและดีกว่าที่เปน็ อยู่ในปัจจบุ ัน
แบบจ˚ลองอะตอม 11 ใบงานแบบจำํ ลองอะตอม ตอนท่ี 1 ใหน้ กั เรยี นวาดภาพแบบจําลองอะตอมแบบตา่ งๆ พร้อมทงั้ เขียนคาํ อธิบายลกั ษณะ แตล่ ะ แบบจําลองของอะตอมให้เขา้ ใจพอสงั เขป แบบจำํ ลองอะตอมของจอหน์ ดอลตัน รูปภาพ ลักษณะ ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ...................................... แบบจำํ ลองอะตอมข..อ..ง..ท..อ....ม..ส....ัน.......................................................... รปู ภาพ ลกั ษณะ .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. ...................................... ............................................................................ ...................................... แบบจํำลองอะตอมของร.ทั..เท..อ.ร.์ฟ..อ.ร..ด์ .......................... รปู ภาพ ลกั ษณะ ...................................... ...................................... .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. ...................................... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ...
แบบจ˚ลองอะตอม แบบจำํ ลองอะตอมของนลี สโ์ บร์ รปู ภาพ ลักษณะ .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. ...................................... .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. ...................................... .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. แบบจํำลองอะตอมแบบกลุ่มหมอก รูปภาพ ลักษณะ .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. ...................................... .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. ...................................... .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. ..
แบบจ˚ลองอะตอม ตอนที่ 2 เม่ือนักเรยี นศึกษาใบความรู้แล้วให้นักเรียนตอบคําถามต่อไปน้ี 1. นกั เรยี นคิดวา่ แบบจาํ ลองท่ีสร้างขน้ึ มานนั้ สามารถปรับปรุงหรือเปลย่ี นแปลงไดห้ รอื ไมเ่ พราะเหตใุ ด …………………………………………………………………………………………………………………………………….…………… …………………………………………………………………………………………………………………………………….…………… 2. แนวคิดเกย่ี วกับแบบจาํ ลองอะตอมของดอลตนั ทอมสัน และรัทเทอร์ฟอรด์ แตกต่างกันอยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………………………………………….…………… …………………………………………………………………………………………………………………………………….…………… 3. นักเรยี นคิดว่าเราสามารถแยกแสงขาวออกเป็นแสงสีอื่นๆ ได้หรือไม่ อย่างไร …………………………………………………………………………………………………………………………………….…………… …………………………………………………………………………………………………………………………………….…………… 4. นกั วิทยาศาสตรผ์ คู้ ้นพบโปรตอน คือใคร …………………………………………………………………………………………………………………………………….…………… 5. “อะตอมเปน็ รูปทรงกลม ประกอบดว้ ยประจุบวกและประจลุ บกระจายอยู่ท่ัวไป” ขอ้ สรุปนี้ คอื แบบจําลองอะตอมของใคร …………………………………………………………………………………………………………………………………….…………… 6. นกั วิทยาศาสตรผ์ ู้คน้ พบนิวตรอน คอื ใคร …………………………………………………………………………………………………………………………………….…………… 7. แนวคดิ ที่ว่า มวลส่วนใหญข่ องอะตอมคือมวลของนวิ เคลียส มาจากแนวคิด ของใคร …………………………………………………………………………………………………………………………………….…………… 8. อิเลก็ ตรอนทม่ี พี ลังงานตํ่า จะพบอย่บู ริเวณใดของอะตอม …………………………………………………………………………………………………………………………………….…………… …………………………………………………………………………………………………………………………………….…………… 9. อิเลก็ ตรอนมขี นาดเล็กมาก และเคล่ือนทอ่ี ยา่ งรวดเร็วตลอดเวลาไปทว่ั ทั้งอะตอมคือแบบจําลอง อะตอมของใคร …………………………………………………………………………………………………………………………………….…………… 10. การทดลองของทอมสัน ทาํ ใหค้ น้ พบวา่ อะตอมประกอบด้วยอนุภาคใด …………………………………………………………………………………………………………………………………….…………… …………………………………………………………………………………………………………………………………….……………
แบบจ˚ลองอะตอม 14 ตอนท่ี 3 จงเลือกแบบจําลองอะตอมตามขอ้ ก – จ ลงหนา้ ขอ้ ความขอ้ 1 – 10 ให้ถกู ต้อง และสอดคลอ้ งกนั ก. แบบจําลองอะตอมของดอลตนั ข. แบบจําลองอะตอมของทอมสัน ค. แบบจาํ ลองอะตอมของรัทเทอรฟ์ อร์ด ง. แบบจาํ ลองอะตอมของโบร์ จ. แบบจําลองอะตอมแบบกลุ่มหมอก ……….. 1. ทดลองโดยใช้หลอดรงั สีแคโทด ……….. 2. การศึกษาสเปกตรมั ของธาตุและสารประกอบ ……….. 3. อะตอมมลี กั ษณะเป็นทรงกลมไมส่ ามารถแบ่งแยกได้ ……….. 4. อเิ ลก็ ตรอนเคลื่อนทีร่ อบนิวเคลียสเป็นวงคลา้ ยกบั วงโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทติ ย์ ……….. 5. ไมส่ ามารถบอกตาํ แหน่งที่แน่นอนของอิเลก็ ตรอนได้ ……….. 6. อะตอมเป็นกลางทางไฟฟ้า ……….. 7. ยิงอนภุ าคแอลฟาไปยังแผ่นทองคํา ……….. 8. เป็นแบบจาํ ลองอะตอมท่สี ามารถใชอ้ ธิบายสมบตั ติ ่าง ๆ ของอะตอม ได้อย่างกว้างขวาง ……….. 9. มีนิวเคลียสที่มขี นาดเลก็ มากอยู่ภายในและมอี เิ ลก็ ตรอนเคลอ่ื นท่ีล้อมรอบ ……….. 10. อะตอมของธาตชุ นิดเดียวกนั มสี มบตั เิ หมือนกัน ตง้ั ใจทาํ นะคะ
แบบจ˚ลองอะตอม 15 แบบทดสอบหลังเรียน คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนเลือกคำํ ตอบท่ีถกู ตอ้ งที่สดุ 1. จากการทดลองของทอมสนั ข้อใดถกู ต้อง ก. รังสีแคโทดเปน็ กระแสอเิ ล็กตรอนที่มาจากขัว้ แคโทดเท่าน้ัน ข. รงั สีบวกทีม่ ากระทบฉากเรืองแสง คือไอออนบวกของแก๊สไฮโดรเจน ค. อนุภาคลบที่รวมกันเปน็ รงั สมี ากระทบฉากเรอื งแสงดา้ นแอโนด ควรเปน็ อนภุ าคของสว่ นประกอบ ทุกธาตุเพราะมคี ่าประจุต่อมวลคงท่ี ง. อะตอมประกอบดว้ ยอนุภาคโปรตอนที่มีประจบุ วกมารวมกนั อยทู่ แ่ี กนกลางและอนภุ าคอิเลก็ ตรอนที่ มีประจุลบกระจายอยู่โดยรอบท่ัวไป 2. รงั สีแคโทดคือขอ้ ใด ก. อเิ ล็กตรอนท่เี คลื่อนท่ี ข. รังสที เ่ี คลื่อนที่ไปยงั แคโทด ค. แสงสเี ขียวทพ่ี บใกล้แคโทด ง. ประจุบวกและประจุลบทเ่ี คลื่อนท่ี 3. ขอ้ ใดไมถ่ ูกตอ้ งเก่ยี วกับแบบจําลองอะตอมท่ีนักวิทยาศาสตรเ์ สนอข้ึน ก. แบบจาํ ลองอะตอมเสนอขึ้นจากข้อมูลของการทดลอง ข. แบบจาํ ลองอะตอมท่เี สนอข้ึนไมส่ ามารถเปล่ียนแปลงได้ ค. นักวิทยาศาสตร์เสนอแบบจาํ ลองอะตอมขนึ้ เพ่ือใช้อธบิ ายผลการทดลอง ง. แบบจาํ ลองอะตอมสร้างข้ึนตามจินตนาการของนกั วิทยาศาสตร์ 4. “มวลสว่ นใหญ่ของอะตอมอยใู่ นนิวเคลยี สทมี่ ีขนาดเล็ก”ข้อสรปุ น้ีไดจ้ ากข้อมูลในขอ้ ใด ก. ขอ้ มลู เกย่ี วกบั รังสีแคโทด ข. ข้อมูลของแก๊สท่ีสามารถบบี อัดได้ ค. การศึกษาการผ่านแสงไปยงั ปริซึม ง. การศึกษาอนุภาคแอลฟาผ่านแผ่นโลหะบาง 5. แบบจําลองอะตอมของดอลตันและแบบจําลองอะตอมของทอมสนั ต่างกันอย่างไร ก. องคป์ ระกอบภายในอะตอม ข. ตาํ แหน่งของอนุภาคภายในอะตอม ค. ชนิดของอนุภาคภายในอะตอม ง. ขนาดอนภุ าคภายในอะตอม
แบบจ˚ลองอะตอม 6. ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกบั แบบจาํ ลองอะตอมแบบกลมุ่ หมอก ก. อเิ ลก็ ตรอนเคลื่อนทรี่ อบนวิ เคลียสตลอดเวลา ข. อะตอมประกอบด้วยโปรตอน อิเล็กตรอน และนิวตรอน ค. อิเลก็ ตรอนเคลื่อนท่ีรอบนวิ เคลียสโดยมีทศิ ทางที่แน่นอน ง. ไม่สามารถบอกตําแหนง่ ท่ีแน่นอนของอเิ ล็กตรอนในอะตอมได้เทา่ กัน 7. ข้อมูลใดสนับสนนุ แบบจาํ ลองอะตอมของรัทเทอร์ฟอรด์ ได้จาก ก. การศึกษาเส้นสเปกตรัมของธาตุ ข. การยงิ อนุภาคแอลฟาผา่ นแผ่นทองคําเปลว ค. การคน้ พบว่าอะตอมมีค่าพลังงานไอออนไนเซซนั ต่างกนั ง. การคน้ พบอนภุ าคโปรตอน และอนุภาคของอเิ ล็กตรอน 8. ข้อใดถกู ต้องเกี่ยวกบั แบบจําลองอะตอมของรทั เทอรฟ์ อรด์ ก. โปรตอนและอิเล็กตรอนรวมกนั เป็นนวิ เคลยี สของอะตอม ข. นวิ เคลยี สมีขนาดเล็กและมวลน้อย ภายในประกอบด้วยอนุภาคโปรตอน ค. นวิ เคลียสเป็นกลางทางไฟฟ้าเพราะประจุของโปรตอนกบั ของอิเล็กตรอนเท่ากัน ง. อะตอมของธาตุประกอบด้วยอนุภาคโปรตอนและอิเลก็ ตรอนกระจดั กระจายอยู่ภายในดว้ ยจาํ นวน 9. ข้อใดถูกตอ้ งเกยี่ วกบั แบบจาํ ลองอะตอมของนลี ส์ โบว์ ก. อิเล็กตรอนไม่เคล่ือนท่ี แต่อยู่เฉพาะที่ ข. อิเล็กตรอนในระดับพลังงานที่ 1 จะมีพลังงานมากที่สดุ ค. อิเลก็ ตรอนเคลื่อนทร่ี อบนวิ เคลยี ส ในระดบั พลังงานทม่ี ีคา่ เฉพาะตวั ง. อเิ ล็กตรอนที่อยู่ในระดับพลงั งานใกล้นวิ เคลียสทสี่ ุดจะมีพลงั งานสูงสุด 10. ข้อความใดตอ่ ไปนี้ถูกต้อง ก. แบบจําลองอะตอมของทอมสัน คือ อะตอมทมี่ ีนิวคลียสมโี ปรตอนรวมกนั อย่ตู รงกลางและมี อิเล็กตรอนว่ิงรอบนวิ เคลียสเป็นบริเวณกว้าง ข. แบบจาํ ลองอะตอมของดอลตนั คือ อะตอมมีลกั ษณะเป็นวงกลม มีอิเล็กตรอนและโปรตอนกระจาย อย่ทู ่วั ไปในทรงกลมนัน้ ค. แบบจําลองอะตอมของรัทเทอรฟ์ อร์ด คอื อะตอมมลี ักษณะเป็นลุกทรงกลมขนาดเล็กมาก และไม่ สามารถแบง่ แยกต่อไปได้อีก ง. แบบจําลองอะตอมของโบว์ คืออิเล็กตรอนที่อยูร่ อบนิวเคลียสจะโคจรอยู่เปน็ ชน้ั เหมอื นดาวเคราะห์ ในสุริยจักรวาล
แบบจ˚ลองอะตอม 17 เฉลย แบบทดสอบ กอ่ น หลงั เรยี น เรยี น ขอ้ ก ข ค ง ขอ้ ก ข ค ง 1 1 2 2 3 3 4 4 5 5 6 6 7 7 8 8 9 9 10 10
แบบจ˚ลองอะตอม 18 เฉลยใบงานแบบจาลองอะตอม ตอนท่ี 1 แนวตอบ แบบจํำลองอะตอมของจอหน์ ดอลตนั รปู ภํำพ ลกั ษณะ อะตอม คืออนุภำคท่ีเล็กที่สุดของธำตุ มีลักษณะเป็ นทรงกลม ไม่สำมำรถ แบง่ แยกหรอื ทำใหส้ ญู หำยไปได้ แบบจํำลองอะตอมของทอมสนั รูปภํำพ ลกั ษณะ อะตอมเป็ นรูปทรงกลม ประกอบดว้ ย เน้ืออะตอมซง่ึ มีประจุบวกและอเิ ล็กตรอน ซง่ึ มีประจลุ บกระจายอยูท่ ่วั ไป อะตอม ในสภาพทีเ่ ป็ นกลางทางไฟฟ้ าจะมีจํานวน ประจบุ วกเทา่ กบั จาํ นวนประจุลบ แบบจํำลองอะตอมของรทั เทอรฟ์ อรด์ รูปภํำพ ลกั ษณะ อะตอมประกอบดว้ ยนวิ เคลยี สทมี่ ีขนาดเล็ก มากอยภู่ ายในและมีประจไุ ฟฟ้ าเป็ นบวก โดยมอี เิ ลก็ ตรอนวงิ่ อยรู่ อบ ๆ
แบบจ˚ลองอะตอม 19 แบบจํำลองอะตอมของนลี สโ์ บร์ รูปภํำพ ลกั ษณะ อะตอมประกอบดว้ ยอเิ ล็กตรอนทเ่ี คลอื่ นท่ี รอบนวิ เคลยี สเป็นวง แตล่ ะวงมรี ะดับ พลังงำนเฉพำะตัว แบบจํำลองอะตอมแบบกลุ่มหมอก รปู ภํำพ ลกั ษณะ อะตอมประกอบดว้ ยอเิ ล็กตรอนเคลอ่ื นท่ี รอบนวิ เคลยี สทั่วทงั้ อะตอมในลกั ษณะ กล่มุ หมอก โดยไม่สำมำรถบอกตำแหน่งที่ แน่นอนของอเิ ล็กตรอนได ้
แบบจ˚ลองอะตอม 20 ตอนที่ 2 แนวตอบ 1. นกั เรียนคิดว่าแบบจําลองทสี่ ร้างข้ึนมาน้นั สามารถปรับปรุงหรอื เปลี่ยนแปลงไดห้ รอื ไม่เพราะเหตุใด เปลี่ยนแปลงได้เพราะความทนั สมัย ของเคร่ืองมือ ความร้คู วามสามารถของมนุษย์ท่ีกวา้ งข้นึ 2. แนวคดิ เกีย่ วกบั แบบจาํ ลองอะตอมของดอลตัน ทอมสนั และรทั เทอรฟ์ อร์ด แตกตา่ งกันอย่างไร อนุภาคภายในอะตอม โดยดอลตันบอกว่าอะตอมไม่สามารถแบง่ แยกได้ ทอมสนั พบอนภุ าค 2 ชนดิ คือโปรตอนกับนิวตรอน สว่ นรทั เทอร์ฟอร์ดพบ 3 อนุภาค คือโปรตอน นวิ ตรอน และอิเล็กตรอน 3. นกั เรียนคิดว่าเราสามารถแยกแสงขาวออกเป็นแสงสอี ่นื ๆ ไดห้ รือไม่ อย่างไร ได้ โดยใช้แสงขาวส่องผ่านปริซมึ จะได้สี มว่ ง คราม นํ้าเงิน เขยี ว เหลือง แสด แดง 4. นักวทิ ยาศาสตร์ผคู้ ้นพบโปรตอน คือใคร ออยเกน โกลดช์ ไตน์ 5. “อะตอมเปน็ รปู ทรงกลม ประกอบด้วยประจุบวกและประจลุ บกระจายอยู่ทั่วไป” ขอ้ สรุปน้ี คอื แบบจาํ ลองอะตอมของใคร แบบจาํ ลองอะตอมของทอมสนั 6. นกั วทิ ยาศาสตร์ผคู้ ้นพบนวิ ตรอน คือใคร เซอรเ์ จมส์ แชดวิก 7. แนวคิดท่วี ่า มวลสว่ นใหญ่ของอะตอมคือมวลของนวิ เคลียส มาจากแนวคิด ของใคร รทั เทอรฟ์ อร์ด 8. อิเล็กตรอนท่ีมีพลังงานตํา่ จะพบอย่บู รเิ วณใดของอะตอม บริเวณใกล้นิวเคลียส 9. อิเลก็ ตรอนมีขนาดเล็กมาก และเคลอ่ื นท่ีอยา่ งรวดเร็วตลอดเวลาไปทัว่ ทงั้ อะตอมคือแบบจําลอง อะตอมของใคร แบบกลมุ่ หมอกอเิ ลก็ ตรอน 10. การทดลองของทอมสัน ทําให้คน้ พบวา่ อะตอมประกอบด้วยอนุภาคใด โปรตอน และนิวตรอน
แบบจ˚ลองอะตอม ตอนที่ 3 แนวตอบ ก. แบบจําลองอะตอมของดอลตัน ข. แบบจาํ ลองอะตอมของทอมสัน ค. แบบจาํ ลองอะตอมของรัทเทอรฟ์ อรด์ ง. แบบจําลองอะตอมของโบร์ จ. แบบจาํ ลองอะตอมแบบกลมุ่ หมอก ……ข….. 1. ทดลองโดยใช้หลอดรังสแี คโทด ……ง….. 2. การศกึ ษาสเปกตรมั ของธาตแุ ละสารประกอบ ……ก….. 3. อะตอมมีลักษณะเป็นทรงกลมไม่สามารถแบ่งแยกได้ ……ง….. 4. อิเล็กตรอนเคลอ่ื นทร่ี อบนวิ เคลียสเปน็ วงคล้ายกบั วงโคจรของดาวเคราะหร์ อบดวงอาทิตย์ ……จ 5. ไมส่ ามารถบอกตาํ แหน่งที่แน่นอนของอิเล็กตรอนได้ ……ข….. 6. อะตอมเป็นกลางทางไฟฟ้า ……ค….. 7. ยงิ อนภุ าคแอลฟาไปยังแผ่นทองคาํ ……จ 8. เปน็ แบบจาํ ลองอะตอมท่สี ามารถใช้อธิบายสมบตั ติ า่ ง ๆ ของอะตอม ได้อย่างกว้างขวาง ……ค….. 9. มีนวิ เคลียสทมี่ ีขนาดเล็กมากอยู่ภายในและมีอเิ ล็กตรอนเคลื่อนท่ลี อ้ มรอบ ……ก….. 10. อะตอมของธาตชุ นิดเดียวกันมีสมบตั ิเหมือนกัน ทำได้ถูกทุกข้อ หรือเปล่าคะ
แบบจ˚ลองอะตอม บรรณานุกรม จุฑามาศ วงษ์สวาท. (2551). แบบจํำลองอะตอม. จาก http://www.promma.ac.th/main/chemistry/ jutamas/lesson/atom_model.htm. <สบื คน้ เมอ่ื วันท่ี 1 เมษายน 2559>. วชิ าการ.คอม. (2554). แบบจํำลองอะตอม. จาก http://www.vcharkarn.com/lesson/1168. <สบื คน้ เมื่อวันท่ี 10 เมษายน 2559>. สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.). (2556). แบบจำํ ลองอะตอม. จาก http://www.scimath.org/socialnetwork/groups/viewbulletin/1987- ?groupid=301 <สืบค้นเมื่อวนั ท่ี 5 เมษายน 2559>. สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลย,ี สถาบนั หนงั สือเรียนสำระการเรียนรู้พื้นฐาน เคมี สำํ หรบั นักเรียนทีเ่ นน้ วทิ ยำศำสตร์ พิมพค์ ร้ังท่ี 1; กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพรา้ ว, 2554. . หนงั สือเรียนสำระกำรเรียนร้พู ื้นฐานและเพม่ิ เตมิ เคมี เลม่ 1 พิมพค์ รั้งที่ 8 ; กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว, 2554. . หนังสอื เรียนสำระการเรียนร้พู ้ืนฐาน สารและสมบัตขิ องสาร พิมพค์ ร้ังท่ี 1 ; กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว, 2554. สาํ นักงานมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม. คู่มอื ครสู อนทางไกลผ่านดาวเทยี มสํำหรบั โรงเรยี น ปลายทางชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4. กรุงเทพฯ : กระทรวงศึกษาธกิ าร, 2555.
Search
Read the Text Version
- 1 - 28
Pages: