คำนำ ตามกฎกระทรวง “การประกันคุณภาพการศึกษา” พ.ศ.2562 กาหนดให้หน่วยงานต้นสังกัด หรือหน่วยงานท่ีกากับดูแลมีหน้าที่ให้คาปรึกษา ช่วยเหลือ และแนะนาสถานศึกษาเพื่อให้การประกันคุณภาพ การศึกษาของสถานศึกษาพัฒนาอย่างต่อเน่ือง และเม่ือได้รับรายงานผลการประเมินคุณภาพภายในของ สถานศึกษาแล้ว ให้หน่วยงานต้นสังกัดหรือหน่วยงานที่กากับดูแลสถานศึกษาจัดส่งรายงานดังกล่าวพร้อมกับ ประเด็นต่างๆ ท่ีต้องการให้มีการประเมินผลและติดตามตรวจสอบซ่ึงรวบรวมได้จากหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องกับ สถานศึกษาแห่งน้ัน ให้แก่สานักการศึกษา กรุงเทพมหานคร เพื่อใช้เป็นข้อมูลและแนวทางในการประเมิน คุณภาพภายนอกต่อไป การจัดทารายงานการประเมินคุณภาพภายในสถานศึกษา เป็นการรายงานผลการดาเนินงานใน รอบปีการศึกษาของสถานศกึ ษาในการเขียนรายงานต้องสะทอ้ นให้เห็นภาพความสาเร็จที่เกิดข้นึ ตามบรบิ ทของ โรงเรียนตามมาตรฐานเพื่อการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา ดังนั้น เพ่ือให้โรงเรียนสังกัด กรุงเทพมหานครมีความชัดเจนในการจัดทารายงานการประเมินคุณภาพภายในสถานศึกษาตามแนวการ ประกันคุณภาพแนวใหม่ เพื่อให้หน่วยงานต้นสังกัด หรือหน่วยงานที่มีหน้าท่ีกากับดูแลมีข้อมูลในการให้ คาปรกึ ษา ช่วยเหลือและแนะนาสถานศึกษา โรงเรยี นวดั พิชัย สานกั งานเขตบงึ กมุ่ จึงไดจ้ ัดทารายงานเลม่ นขี้ ้ึน โรงเรียนวัดพิชยั สานักงานเขตบงึ กุ่ม กรงุ เทพมหานคร
สารบญั หน้ำ ส่วนท่ี 1 ข้อมูลพ้ืนฐำนของสถำนศกึ ษำ .1 ๑.1 ข้อมูลทั่วไป 1 1.2 ขอ้ มูลผ้บู ริหาร 2 1.3 ขอ้ มูลบุคลากรของสถานศกึ ษา 3 1.4 ขอ้ มลู นกั เรยี น 4 1.5 ข้อมลู โครงสร้างหลักสตู รของสถานศึกษา 5 1.6 ขอ้ มูลผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนระดบั สถานศึกษา ปีการศึกษา 2562 14 1.7 ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นระดบั ชาติ 15 1.8 งบประมาณของสถานศึกษา 15 1.9 ขอ้ มูลสภาพชุมชนโดยรอบสถานศึกษา 16 1.10 ผลงานดเี ด่น 1.11 การปฏิบตั ิที่เปน็ เลิศ/การดาเนินการท่สี ามารถเป็นแบบอยา่ งท่ดี ีได้ 18 (Best Practices) 19 ส่วนท่ี ๒ ผลกำรประเมนิ ตนเองของสถำนศกึ ษำ ระดับกำรศกึ ษำขัน้ พ้นื ฐำน 20 มาตรฐานท่ี 1 คุณภาพของผู้เรียน 22 มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบรหิ ารและการจัดการ มาตรฐานท่ี 3 กระบวนการจัดการเรียนการสอนทเี่ น้นผู้เรียนเป็นสาคัญ 26 สว่ นท่ี ๓ สรุปผล แนวทำงกำรพฒั นำ และควำมต้องกำรชว่ ยเหลือ สรปุ ผล แนวทางการพัฒนา และความต้องการช่วยเหลอื ภำคผนวก
1 ส่วนท่ี 1 ข้อมูลพ้ืนฐานของสถานศกึ ษา 1.1 ขอ้ มูลทั่วไป ช่อื โรงเรยี น วัดพชิ ยั สำนักงำนเขตบึงกุ่ม ทต่ี ง้ั เลขท่ี 30/1 หมู่ 1 ถนนเสรไี ทย แขวงคลองกุ่ม เขตบงึ กมุ่ กรุงเทพมหำนคร รหสั ไปรษณีย์ 10240 หมำยเลขโทรศัพท์ 02 3776160 หมำยเลขโทรสำร 02 3776160 Website: www.wpcs.ac.th E-mail: [email protected] Facebook: www.facebook.com/watpichai เปดิ สอนระดบั ชัน้ อนบุ ำล 1 ถงึ ประถมศึกษำปีที่ 6 วสิ ัยทัศน์ พฒั นำคุณภำพกำรศกึ ษำ ใฝเ่ รยี นรู้ คคู่ ุณธรรม กำ้ วนำเทคโนโลยี พันธกิจ 1. พฒั นำสถำนศึกษำให้ไดม้ ำตรฐำนกำรศกึ ษำ 2. พัฒนำนักเรยี นใหม้ คี วำมรู้ มีคุณธรรม จรยิ ธรรม 3. พัฒนำกำรนำเทคโนโลยีมำใชใ้ นกำรจดั กำรเรยี นรู้ เปา้ ประสงค์ โรงเรยี นไดม้ ำตรฐำนกำรศึกษำ นกั เรียนมีควำมรู้ คู่คุณธรรม นำเทคโนโลยีพัฒนำกำรศึกษำ 1.2 ข้อมลู ผูบ้ ริหาร ผู้อำนวยกำรโรงเรียน นำงศรินรัตน์ ดำรงสินศกั ด์ิ
2 1.3 ขอ้ มลู บคุ ลากรของสถานศกึ ษา 1) จานวนบุคลากร บุคลากร ผ้บู รหิ าร ครผู สู้ อน ลกู จ้างประจา ลูกจา้ ง เจา้ หน้าที่ อ่ืน ๆ รวม ชว่ั คราว ธุรการ 5 23 ปกี ำรศึกษำ 2562 1 10 4 21 2) วฒุ ิการศึกษาสงู สุดของบุคลากร วุฒกิ ารศึกษาสูงสดุ ของ ปรญิ ญา ปริญญาโท ปริญญาตรี ปวส. ปวช. อ่ืนๆ รวม บคุ ลากร เอก - - 10 23 ปีกำรศึกษำ 2562 - 1 12 - - 43.48 100 คิดเป็นร้อยละ - 4.35 52.17 3) สาขาวิชาที่จบการศึกษาและภาระงานสอน จานวน (คน) ภาระงานสอนเฉลีย่ ของครู 1 คน ในแต่ละสาขาวชิ า (ชม./สัปดาห)์ สาขาวิชา 1 22 1. พลศึกษำ 2. วทิ ยำศำสตรท์ ัวไป 1 21 3. ดนตรีศกึ ษำ 4. ภำษำไทย 1 20 5. คณติ ศำสตร์ 6. สังคมศึกษำ 1 18 7. ฟสิ ิกส์ 8. วทิ ยำกำรคอมพวิ เตอร์ 1 20 9. ภำษำองั กฤษ 10. บรรณำรกั ษศำสตร์ 1 21 รวม 1 21 1 21 1 24 1 21 10
3 1.4 ข้อมลู นักเรยี น จำนวนนกั เรยี นปีกำรศึกษำ 2562 รวม 217 คน ปกี ารศึกษา/ ปกี ารศกึ ษา 2561 ปีการศึกษา 2562 ระดบั ชน้ั จานวน ชาย หญงิ รวม เฉล่ียต่อ จานวน ชาย หญิง รวม เฉลย่ี ต่อ หอ้ งเรยี น หอ้ ง ห้องเรียน ห้อง อนุบำล 1 1 15 0 15 15 1 16 9 25 25 อนุบำล 2 1 18 16 34 34 1 15 3 18 18 รวมระดับอนบุ าล 2 33 16 49 25 2 31 12 43 22 ประถมศึกษำปที ่ี 1 1 17 16 33 33 1 20 17 37 37 ประถมศึกษำปีที่ 2 1 18 19 37 37 1 16 9 25 25 ประถมศกึ ษำปที ี่ 3 1 15 6 21 21 1 14 19 33 33 ประถมศึกษำปีที่ 4 1 15 10 25 25 1 16 5 21 21 ประถมศึกษำปีที่ 5 1 17 16 33 33 1 16 14 30 30 ประถมศกึ ษำปีท่ี 6 1 17 13 30 30 1 13 15 28 28 รวมระดับ 6 99 80 179 30 6 95 79 174 29 ประถมศกึ ษา รวมทั้งหมด 8 132 96 228 29 8 126 91 217 28
4 1.5 ข้อมลู โครงสร้างหลักสูตรของสถานศกึ ษา ระดับประถมศึกษา กลุ่มสาระการเรียนร้/ู กิจกรรม ป.1 เวลาเรยี น (ช่ัวโมง/ปี) ป.6 ป.2 ป.3 ป.4 ป.5 1. กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ 160 200 200 160 160 160 1.1. ภำษำไทย 200 200 200 160 160 80 120 80 120 120 1.2. คณติ ศำสตร์ 200 120 120 120 120 120 1.3. วทิ ยำศำสตร์ 120 80 40 40 80 80 80 วทิ ยำกำรคำนวณ 40 40 80 80 80 40 80 40 40 80 1.4. สังคมศึกษำ ศำสนำและวัฒนธรรม 120 80 80 80 80 40 ประวัติศำสตร์ 40 40 40 40 40 1.5. สขุ ศกึ ษำและพลศึกษำ 40 40 40 40 40 40 40 40 40 40 30 1.6. ศลิ ปะ 40 30 30 30 30 10 10 10 10 10 1.7. กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี 40 40 80 80 40 40 40 1.8. ภำษำต่ำงประเทศ 80 40 40 120 2. รำยวิชำ/กิจกรรมทส่ี ถำนศึกษำจดั เพิ่มเติม 120 120 120 120 2.1. หน้ำทพ่ี ลเมือง 40 3. กิจกรรมพัฒนำผูเ้ รียน 3.1. กิจกรรมแนะแนว 40 3.2. กจิ กรรมลูกเสือ/ยุวกำชำด 40 3.3. กิจกรรมชุมนุม(ทกั ษะชีวิต) 30 3.4. กิจกรรมเพ่ือสงั คม/บำเพญ็ ประโยชน์ 10 4. กจิ กรรมเพม่ิ เติม 4.1. ภำษำองั กฤษเพอ่ื กำรสือ่ สำร 80 4.2. ภำษำจีน 4.3. เสริมทักษะ 120
5 1.6 ขอ้ มูลผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนระดับสถานศึกษา ปกี ารศึกษา 2562 1) จานวนนกั เรียนทม่ี ีผลการประเมนิ พฒั นาการแต่ละด้านในระดับ 3 ข้นึ ไป - ระดับปฐมวัย พฒั นาการดา้ น จานวนทปี่ ระเมนิ จานวนของเด็กตามระดับคุณภาพ ดี พอใช้ ควรปรับปรุง อนุบำล 1 1. ร่ำงกำย 25 22 3 0 2. สตปิ ัญญำ 25 21 4 0 3. อำรมณ์ จติ ใจ 25 23 2 0 4. สังคม 25 23 2 0 มีควำมพร้อมในกำรเรยี นระดับอนุบำล 2 จำนวน 23 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 92.00 อนุบำล 2 1. รำ่ งกำย 18 17 1 0 2. สติปญั ญำ 18 18 0 0 3. อำรมณ์ จติ ใจ 18 18 0 0 4. สังคม 18 18 0 0 มคี วำมพร้อมในกำรเรียนระดับประถมศกึ ษำปีท่ี 1 จำนวน 17 คน คิดเปน็ ร้อยละ 94.44 - ระดบั ประถมศึกษา กลมุ่ สาระการ จานวนที่ จานวนนักเรยี นทมี่ ีผลการเรียนรู้ จานวน นร. ร้อยละ นร. เรยี นรู้ เขา้ สอบ 0 1 1.5 2 2.5 3 3.5 4 ท่ีไดร้ ะดบั 3 ท่ีไดร้ ะดบั 3 ขนึ้ ไป ข้ึนไป ประถมศกึ ษำปที ่ี 1 ภำษำไทย 33 0 0 4 2 3 8 6 10 24 72.73 0 0 1 4 4 14 3 7 24 72.73 คณิตศำสตร์ 33 0 0 3 3 3 12 1 11 24 72.73 วทิ ยำศำสตร์ 33 0 สงั คมศึกษำ 0 0 ศำสนำ และ 33 0 0 1 5 4 9 11 3 23 69.70 0 วฒั นธรรม 0 ประวัตศิ ำสตร์ 33 0 2 2 6 11 10 2 23 69.70 0 0 0 5 18 8 2 28 84.85 สุขศกึ ษำและพล 33 0 0 0 5 8 8 12 28 84.85 ศึกษำ 0 0 0 0 2 10 21 33 100.00 0 0 2 5 7 10 9 26 78.79 ศลิ ปะ 33 กำรงำนอำชพี 33 และเทคโนโลยี ภำษำตำ่ งประเทศ 33
6 กลุม่ สาระการ จานวนที่ จานวนนักเรียนทม่ี ีผลการเรียนรู้ จานวน นร. ร้อยละ นร. เรียนรู้ เขา้ สอบ 0 1 1.5 2 2.5 3 3.5 4 ทีไ่ ดร้ ะดบั 3 ทไ่ี ด้ระดับ 3 ขน้ึ ไป ขน้ึ ไป จำนวนนกั เรียนทมี่ คี วำมสำมำรถในกำรเรยี นต่อในระดับชั้นทส่ี ูงขึ้น 33 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 100.00 ประถมศกึ ษำปที ่ี 2 ภำษำไทย 25 0 0 0 2 1 3 6 13 22 88.00 คณิตศำสตร์ 25 0 1 0 6 0 9 1 8 18 72.00 วทิ ยำศำสตร์ 25 0 1 0 6 0 6 2 10 18 72.00 สังคมศึกษำ ศำสนำ และ 25 0 0 0 2 1 5 8 9 22 88.00 วฒั นธรรม ประวตั ศิ ำสตร์ 25 0 0 0 3 3 6 4 9 19 76.00 สุขศกึ ษำและพล 25 0 0 0 1 3 10 6 5 21 84.00 ศกึ ษำ ศลิ ปะ 25 0 0 0 0 3 9 2 11 22 88.00 กำรงำนอำชีพ 25 0 0 0 0 0 3 9 13 25 100.00 และเทคโนโลยี ภำษำต่ำงประเทศ 25 0 0 0 1 4 7 2 11 20 80.00 จำนวนนกั เรียนท่มี ีควำมสำมำรถในกำรเรียนต่อในระดับชั้นที่สูงข้นึ 25 คน คิดเปน็ ร้อยละ 100.00 ประถมศกึ ษำปที ่ี 3 ภำษำไทย 32 0 0 0 0 5 8 12 7 27 84.38 คณิตศำสตร์ 32 0 0 1 3 3 15 4 6 25 78.12 วิทยำศำสตร์ 32 0 0 0 2 7 18 4 1 23 71.88 สังคมศึกษำ ศำสนำ และ 32 0 1 1 2 5 10 6 7 23 71.88 วฒั นธรรม ประวัตศิ ำสตร์ 32 0 1 1 5 2 11 4 8 23 71.88 สขุ ศึกษำและพล 32 0 0 1 0 4 7 17 3 27 84.38 ศกึ ษำ ศลิ ปะ 32 0 0 0 0 1 8 8 15 31 96.88 กำรงำนอำชีพ 32 0 0 0 0 0 2 8 22 32 100.00 และเทคโนโลยี ภำษำต่ำงประเทศ 32 0 0 0 1 5 4 9 13 26 81.25 จำนวนนกั เรยี นที่มคี วำมสำมำรถในกำรเรียนต่อในระดบั ชัน้ ทส่ี ูงขึ้น 32 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 100.00 ประถมศึกษำปที ่ี 4
7 กลมุ่ สาระการ จานวนท่ี จานวนนักเรยี นทม่ี ผี ลการเรยี นรู้ จานวน นร. รอ้ ยละ นร. เรียนรู้ เขา้ สอบ 0 1 1.5 2 2.5 3 3.5 4 ทีไ่ ดร้ ะดบั 3 ท่ไี ด้ระดบั 3 ขึน้ ไป ขนึ้ ไป ภำษำไทย 22 0 0 0 5 1 8 5 3 16 72.73 คณติ ศำสตร์ 22 0 1 2 1 2 5 4 7 16 72.73 วทิ ยำศำสตร์ 22 0 0 0 2 3 5 5 7 17 77.27 สงั คมศึกษำ ศำสนำ และ 22 0 0 1 2 3 5 9 2 16 72.73 วฒั นธรรม ประวตั ศิ ำสตร์ 22 0 0 1 2 3 10 5 1 16 72.73 สุขศกึ ษำและพล 22 0 0 0 1 2 8 10 1 19 86.36 ศกึ ษำ ศลิ ปะ 22 0 0 0 0 3 2 4 13 19 86.36 กำรงำนอำชพี 22 0 0 0 0 2 4 8 8 20 90.91 และเทคโนโลยี ภำษำต่ำงประเทศ 22 0 0 0 0 3 5 7 7 19 86.36 จำนวนนกั เรยี นทมี่ ีควำมสำมำรถในกำรเรียนต่อในระดับชน้ั ท่ีสงู ข้นึ 22 คน คิดเปน็ ร้อยละ 22.00 ประถมศึกษำปีที่ 5 ภำษำไทย 28 0 0 0 0 3 13 7 5 25 89.29 คณิตศำสตร์ 28 0 0 0 0 5 14 4 5 23 82.14 วิทยำศำสตร์ 28 0 0 0 0 6 14 2 6 22 78.57 สังคมศึกษำ ศำสนำ และ 22 0 0 1 2 3 5 6 5 16 72.73 วัฒนธรรม ประวัตศิ ำสตร์ 28 0 0 1 2 4 15 5 1 21 75.00 สขุ ศกึ ษำและพล 28 0 0 0 0 6 15 7 0 22 78.57 ศึกษำ ศิลปะ 28 0 0 0 0 2 11 4 11 26 92.86 กำรงำนอำชีพ 28 0 0 0 1 1 11 8 7 26 92.86 และเทคโนโลยี ภำษำต่ำงประเทศ 28 0 0 0 0 6 11 6 5 22 78.57 จำนวนนกั เรียนทม่ี ีควำมสำมำรถในกำรเรยี นต่อในระดบั ช้ันทส่ี งู ขนึ้ 28 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 100.00 ประถมศกึ ษำปีท่ี 6 ภำษำไทย 29 0 0 0 2 5 5 6 11 22 75.86 คณติ ศำสตร์ 29 0 0 3 1 4 13 2 6 21 72.41
8 กล่มุ สาระการ จานวนที่ จานวนนักเรียนทีม่ ผี ลการเรียนรู้ จานวน นร. ร้อยละ นร. เรียนรู้ เขา้ สอบ 0 1 1.5 2 2.5 3 3.5 4 ทีไ่ ดร้ ะดบั 3 ทีไ่ ดร้ ะดบั 3 ขึ้นไป ข้นึ ไป วทิ ยำศำสตร์ 29 0 0 0 0 6 10 6 7 23 79.31 สงั คมศึกษำ ศำสนำ และ 29 0 0 1 0 0 13 9 6 28 96.55 วฒั นธรรม ประวตั ศิ ำสตร์ 29 0 0 1 0 2 12 8 6 26 89.66 สุขศกึ ษำและพล 29 0 0 0 0 2 1 8 18 27 93.10 ศึกษำ ศลิ ปะ 29 0 0 0 0 4 8 7 10 25 86.21 กำรงำนอำชีพ 29 0 0 0 0 1 6 3 19 28 96.55 และเทคโนโลยี ภำษำต่ำงประเทศ 29 0 0 0 1 7 7 7 7 21 72.41 จำนวนนกั เรยี นท่มี ีควำมสำมำรถในกำรเรียนต่อในระดับชน้ั ท่ีสูงขน้ึ 29 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 100.00 2) ผลการประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ปีการศึกษา 2562 คุณลกั ษณะอันพงึ จานวน ดีเย่ยี ม ผลการประเมิน ระดับผ่าน ร้อยละ ประสงค์ นกั เรยี น ดี ผา่ น ไมผ่ ่าน ข้ึนไป อนบุ ำล 1 รกั ชำติ ศำสน์ กษัตริย์ 25 25 0 0 0 25 100.00 ซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ 25 25 0 0 0 25 100.00 มีวินยั 25 25 0 0 0 25 100.00 ใฝเ่ รียนรู้ 25 25 0 0 0 25 100.00 อยอู่ ย่ำงพอเพยี ง 25 25 0 0 0 25 100.00 มุ่งมั่นในกำรทำงำน 25 25 0 0 0 25 100.00 รักควำมเปน็ ไทย 25 25 0 0 0 25 100.00 มีจติ สำธำรณะ 25 25 0 0 0 25 100.00 อนุบำล 2 รกั ชำติ ศำสน์ กษัตริย์ 17 17 0 0 0 17 100.00 ซ่ือสัตยส์ ุจรติ 17 17 0 0 0 17 100.00 มีวินยั 17 17 0 0 0 17 100.00 ใฝเ่ รยี นรู้ 17 17 0 0 0 17 100.00 อยูอ่ ยำ่ งพอเพยี ง 17 17 0 0 0 17 100.00 มุ่งมั่นในกำรทำงำน 17 17 0 0 0 17 100.00
9 คณุ ลักษณะอันพงึ จานวน ดีเย่ยี ม ผลการประเมนิ ระดับผา่ น ร้อยละ ประสงค์ นักเรียน ดี ผา่ น ไม่ผ่าน ขึน้ ไป รักควำมเปน็ ไทย 17 17 0 0 0 17 100.00 มจี ติ สำธำรณะ ประถมศกึ ษำปที ่ี 1 17 17 0 0 0 17 100.00 รักชำติ ศำสน์ กษัตรยิ ์ ประถมศกึ ษำปีที่ 2 33 33 0 0 0 33 100.00 รกั ชำติ ศำสน์ กษัตริย์ ซอ่ื สัตย์สุจรติ 25 25 0 0 0 25 100.00 มีวนิ ัย 25 20 5 0 0 25 100.00 ใฝเ่ รียนรู้ 25 21 4 0 0 25 100.00 อยอู่ ยำ่ งพอเพยี ง 25 18 7 0 0 25 100.00 มุ่งมน่ั ในกำรทำงำน 25 25 0 0 0 25 100.00 รกั ควำมเปน็ ไทย 25 22 3 0 0 25 100.00 มจี ิตสำธำรณะ 25 25 0 0 0 25 100.00 ประถมศึกษำปีท่ี 3 25 23 2 0 0 25 100.00 รกั ชำติ ศำสน์ กษตั ริย์ ซื่อสัตย์สุจริต 32 32 0 0 0 32 100.00 มวี นิ ยั 32 17 15 0 0 32 100.00 ใฝเ่ รยี นรู้ 32 14 18 0 0 32 100.00 อยู่อย่ำงพอเพยี ง 32 16 13 3 0 32 100.00 มงุ่ มน่ั ในกำรทำงำน 32 22 10 0 0 32 100.00 รักควำมเป็นไทย 32 23 9 0 0 32 100.00 มีจิตสำธำรณะ 32 32 0 0 0 32 100.00 ประถมศึกษำปที ี่ 4 32 13 19 0 0 32 100.00 รกั ชำติ ศำสน์ กษัตริย์ ซ่อื สัตย์สจุ ริต 22 22 0 0 0 22 100.00 มีวนิ ยั 22 22 0 0 0 22 100.00 ใฝเ่ รียนรู้ 22 22 0 0 0 22 100.00 อย่อู ยำ่ งพอเพยี ง 22 22 0 0 0 22 100.00 มุ่งมั่นในกำรทำงำน 22 22 0 0 0 22 100.00 รกั ควำมเปน็ ไทย 22 18 4 0 0 22 100.00 มีจติ สำธำรณะ 22 20 2 0 0 22 100.00 ประถมศกึ ษำปีท่ี 5 22 20 2 0 0 22 100.00
10 คุณลกั ษณะอันพึง จานวน ดเี ย่ยี ม ผลการประเมนิ ระดบั ผา่ น รอ้ ยละ ประสงค์ นักเรียน ดี ผา่ น ไม่ผ่าน ข้ึนไป รกั ชำติ ศำสน์ กษตั ริย์ 28 28 0 0 0 28 100.00 ซือ่ สัตยส์ ุจริต มวี นิ ัย 28 28 0 0 0 28 100.00 ใฝ่เรียนรู้ อยูอ่ ยำ่ งพอเพียง 28 8 20 0 0 28 100.00 มุ่งม่ันในกำรทำงำน รักควำมเป็นไทย 28 12 16 0 0 28 100.00 มจี ิตสำธำรณะ ประถมศกึ ษำปที ่ี 6 28 15 13 0 0 28 100.00 รักชำติ ศำสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตยส์ ุจริต 28 10 18 0 0 28 100.00 มวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ 28 28 0 0 0 28 100.00 อย่อู ย่ำงพอเพยี ง มุ่งมั่นในกำรทำงำน 28 10 18 0 0 28 100.00 รกั ควำมเปน็ ไทย มีจิตสำธำรณะ 29 29 0 0 0 29 100.00 29 29 0 0 0 29 100.00 29 12 17 0 0 29 100.00 29 12 17 0 0 29 100.00 29 29 0 0 0 29 100.00 29 12 15 2 0 29 100.00 29 29 0 0 0 29 100.00 29 29 0 0 0 29 100.00 3) ผลการประเมนิ การอ่าน คิดวเิ คราะห์ และเขียน ปกี ารศกึ ษา 2562 ระดบั ช้นั จานวน ผลการประเมนิ ระดบั ผ่าน ร้อยละ นักเรียน ดเี ยี่ยม ดี ผา่ น ไมผ่ า่ น ขน้ึ ไป อนุบำล 1 25 23 2 0 0 25 100.00 ประถมศกึ ษำปที ่ี 1 33 8 20 5 0 33 100.00 ประถมศึกษำปที ี่ 2 25 15 8 2 0 25 100.00 ประถมศกึ ษำปที ี่ 3 32 21 7 4 0 32 100.00 ประถมศึกษำปที ี่ 4 22 12 9 1 0 22 100.00 ประถมศกึ ษำปที ่ี 5 28 12 14 2 0 28 100.00
11 4) ผลการประเมินสมรรถนะสาคัญ ปกี ารศกึ ษา 2562 ระดบั อนุบาล 1 สมรรถนะสาคัญ ผลการประเมนิ ระดับผ่าน ร้อยละ ดีเยี่ยม ดี ผ่าน ไมผ่ า่ น ขนึ้ ไป 1. ควำมสำมำรถ ในกำรส่ือสำร 22 3 0 0 25 100.00 2. ควำมสำมำรถ ในกำรคิด 24 1 0 0 25 100.00 3. ควำมสำมำรถ ในกำรแกป้ ัญหำ 24 1 0 0 25 100.00 4. ควำมสำมำรถ ในกำรใชท้ ักษะชวี ติ 25 0 0 0 25 100.00 5. ควำมสำมำรถ ในกำรใชเ้ ทคโนโลยี 25 0 0 0 25 100.00 ระดับอนบุ าล 2 สมรรถนะสาคัญ ผลการประเมิน ระดับผา่ น ร้อยละ ดเี ยี่ยม ดี ผา่ น ไม่ผา่ น ขน้ึ ไป 1. ควำมสำมำรถ ในกำรส่ือสำร 14 3 0 0 17 100.00 2. ควำมสำมำรถ ในกำรคิด 14 3 0 0 17 100.00 3. ควำมสำมำรถ ในกำรแกป้ ัญหำ 14 3 0 0 17 100.00 4. ควำมสำมำรถ ในกำรใชท้ ักษะชีวติ 16 1 0 0 17 100.00 5. ควำมสำมำรถ ในกำรใช้เทคโนโลยี 17 0 0 0 17 100.00 ระดบั ประถมศกึ ษาปีที่ 2 สมรรถนะสาคัญ ผลการประเมิน ระดบั ผา่ น ร้อยละ ดีเยี่ยม ดี ผ่าน ไม่ผ่าน ขึ้นไป 1. ควำมสำมำรถ ในกำรส่ือสำร 15 10 0 0 25 100.00 2. ควำมสำมำรถ ในกำรคดิ 14 11 0 0 25 100.00 3. ควำมสำมำรถ ในกำรแก้ปัญหำ 17 8 0 0 25 100.00 4. ควำมสำมำรถ ในกำรใช้ทักษะชีวิต 20 5 0 0 25 100.00 5. ควำมสำมำรถ ในกำรใชเ้ ทคโนโลยี 15 10 0 0 25 100.00 ระดบั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 สมรรถนะสาคัญ ผลการประเมิน ระดบั ผ่าน รอ้ ยละ ดีเยี่ยม ดี ผ่าน ไม่ผา่ น ขึ้นไป 1. ควำมสำมำรถ ในกำรสื่อสำร 18 10 4 0 32 100.00 2. ควำมสำมำรถ ในกำรคดิ 17 8 7 0 32 100.00 3. ควำมสำมำรถ ในกำรแกป้ ัญหำ 15 10 7 0 32 100.00 4. ควำมสำมำรถ ในกำรใชท้ ักษะชวี ติ 19 13 0 0 32 100.00 5. ควำมสำมำรถ ในกำรใชเ้ ทคโนโลยี 25 7 0 0 32 100.00
12 ระดับประถมศึกษาปีท่ี 5 สมรรถนะสาคญั ดเี ย่ยี ม ผลการประเมนิ ระดบั ผ่าน ร้อยละ ดี ผ่าน ไมผ่ ่าน ขึ้นไป 1. ควำมสำมำรถ ในกำรส่ือสำร 10 18 0 0 28 100.00 2. ควำมสำมำรถ ในกำรคิด 8 20 0 0 28 100.00 3. ควำมสำมำรถ ในกำรแก้ปัญหำ 16 10 2 0 28 100.00 4. ควำมสำมำรถ ในกำรใชท้ ักษะชีวติ 15 13 0 0 28 100.00 5. ควำมสำมำรถ ในกำรใชเ้ ทคโนโลยี 20 8 0 0 28 100.00 ระดับประถมศึกษาปีที่ 6 สมรรถนะสาคัญ ดีเยย่ี ม ผลการประเมิน ระดับผ่าน รอ้ ยละ ดี ผา่ น ไม่ผ่าน ขึ้นไป 1. ควำมสำมำรถ ในกำรส่ือสำร 13 16 0 0 29 100.00 2. ควำมสำมำรถ ในกำรคดิ 11 18 0 0 29 100.00 3. ควำมสำมำรถ ในกำรแกป้ ัญหำ 15 12 2 0 29 100.00 4. ควำมสำมำรถ ในกำรใช้ทักษะชวี ิต 8 21 0 0 29 100.00 5. ควำมสำมำรถ ในกำรใชเ้ ทคโนโลยี 29 0 0 0 29 100.00 5) ผลการประเมนิ กิจกรรมพฒั นาผ้เู รียน ปกี ารศกึ ษา 2562 กจิ กรรม จานวนนกั เรียนจาแนกตามผลการประเมิน ผา่ น ไมผ่ ่าน อนบุ ำล 1 1. แนะแนว 25 0 จำนวนนักเรยี นทผี่ ำ่ นคดิ เป็นร้อยละ 100.00 อนบุ ำล 2 1. แนะแนว 17 0 จำนวนนกั เรยี นท่ีผ่ำนคิดเป็นร้อยละ 100.00 ประถมศกึ ษำปที ่ี 1 1. แนะแนว 32 0 จำนวนนกั เรยี นท่ผี ่ำนคิดเป็นรอ้ ยละ 100.00 ประถมศกึ ษำปีที่ 2 1. แนะแนว 25 0 2. ลกู เสอื 16 0 3. ยุวกำชำด 90 4. ชมุ นุม, ชมรม 25 0
กิจกรรม 13 5. กิจกรรมเพ่ือสังคมและสำธำรณประโยชน์ จานวนนักเรียนจาแนกตามผลการประเมนิ จำนวนนกั เรียนที่ผ่ำนคดิ เปน็ ร้อยละ 100.00 ผา่ น ไมผ่ า่ น ประถมศึกษำปีที่ 3 25 0 1. แนะแนว 2. ลูกเสอื 32 0 3. ยุวกำชำด 11 0 4. ชมุ นมุ , ชมรม 21 0 5. กจิ กรรมเพื่อสังคมและสำธำรณประโยชน์ 32 0 จำนวนนักเรียนที่ผ่ำนคดิ เปน็ ร้อยละ 100.00 32 0 ประถมศึกษำปีที่ 5 1. แนะแนว 28 0 2. ลกู เสอื 14 0 3. ยุวกำชำด 14 0 4. ชุมนุม, ชมรม 28 0 5. กจิ กรรมเพื่อสังคมและสำธำรณประโยชน์ 28 0 จำนวนนกั เรยี นทผ่ี ำ่ นคิดเปน็ ร้อยละ 100.00 ประถมศกึ ษำปีท่ี 6 29 0 1. แนะแนว 14 0 2. ลูกเสือ 15 0 3. ยุวกำชำด 29 0 4. ชุมนมุ , ชมรม 29 0 5. กจิ กรรมเพ่ือสงั คมและสำธำรณประโยชน์ จำนวนนกั เรยี นทผี่ ่ำนคดิ เปน็ รอ้ ยละ 100.00
14 1.7 ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนระดับชาติ 1) ผลการทดสอบทางการศึกษาระดบั ชาติข้ันพน้ื ฐาน (O-NET) กำรเปรียบเทยี บผลกำรทดสอบทำงกำรศึกษำระดบั ชำติขน้ั พน้ื ฐำน (O-NET) ระดับประถมศึกษาปีท่ี 6 รายวิชา ปกี ารศกึ ษา 2561 ปีการศกึ ษา 2562 ร้อยละของผลต่าง ระหวา่ งปีการศึกษา ภำษำไทย 54.95 44.16 คณิตศำสตร์ 32.86 23.93 -10.79 วิทยำศำสตร์ 37.73 28.88 ภำษำอังกฤษ 38.57 25.27 -8.93 -8.85 -13.30 2) ผลการทดสอบความสามารถพื้นฐานของผู้เรียนระดบั ชาติ (National Test: NT) กำรเปรียบเทยี บผลกำรประเมนิ คุณภำพผู้เรยี น (NT) ชนั้ ประถมศึกษำปีที่ 3 ความสามารถ ปีการศึกษา 2561 ปีการศกึ ษา 2562 ร้อยละของผลต่าง ระหวา่ งปีการศกึ ษา ด้ำนภำษำ 53.49 59.29 5.77 ดำ้ นคำนวณ 42.53 49.93 7.40 ดำ้ นเหตุผล 46.66 3) ผลการประเมนิ ความสามารถด้านการอ่านของผูเ้ รียน (Reading Test: RT) ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 1 ระดบั ช้ัน จานวนนกั เรยี น ดมี าก ผลการประเมนิ ปรับปรงุ ดี พอใช้ ประถมศึกษำ 33 12 17 4 0 ปที ี่ 1 4) ผลการตรวจสอบคุณภาพการศึกษาด้วยข้อสอบมาตรฐานกลาง วิชา จานวนผเู้ ข้า คะแนน ผลการประเมิน สอบ เฉลีย่ ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรงุ จานวน ร้อยละ จานวน รอ้ ยละ จานวน รอ้ ยละ จานวน รอ้ ยละ ประถมศกึ ษำปีที่ 5 ภำษำไทย 28 54.96 0 0.00 20 71.43 8 28.57 0 0.00 คณติ ศำสตร์ 28 40.82 0 0.00 2 7.14 26 92.86 0 0.00 วิทยำศำสตร์ 28 57.14 0 0.00 23 82.14 5 17.86 0 0.00
15 วิชา จานวนผู้เขา้ คะแนน ผลการประเมนิ สอบ เฉลีย่ ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ จานวน ร้อยละ จานวน ร้อยละ จานวน ร้อยละ จานวน ร้อยละ ภำษำอังกฤษ 28 57.07 2 7.14 18 64.29 8 28.57 0 0.00 1.8 งบประมาณของสถานศึกษา จานวนเงิน (บาท) งบประมาณ 1,986,240.00 1,258,641.00 เงนิ งบประมำณ 3,244,881.00 เงนิ นอกงบประมำณ รวม 1.9 ขอ้ มูลสภาพชุมชนโดยรอบสถานศกึ ษา 1) ลักษณะชุมชน ชุมชนวัดพิชยั ต้ังอยู่ในเขตบึงกุ่ม ซ่ึงเป็นชุมชนประเภทแออัด ประกำศเป็นชุมชนที่จดั ต้ังตำมระเบยี บ กรุงเทพมหำนคร เม่ือปี 2535 ชุมชนต้ังอยู่ท่ี 30/3 หมู่ 1 ซ.วัดพิชัย ถนน เสรีไทย แขวง คลองกุ่ม ซึ่งเป็น กลุ่มเขต 4. กลุ่มกรุงเทพตะวันออก ชุมชนวัดพิชัย มีประชำกรชำยจำนวน 635 คน และประชำกรหญิง จำนวน 565 คน รวมเปน็ 1,200 คน ชุมชนวัดพชิ ัย มจี ำนวนครัวเรือนทง้ั หมด 250 ครัวเรอื น (ท่ีมำ: ขอ้ มูล ชุมชนที่จัดตั้งตำมระเบียบกรุงเทพมหำนคร) สภำพชุมชนรอบบริเวณโรงเรียน ติดกับคลองแสนแสบ บริเวณ ใกลเ้ คยี งโดยรอบโรงเรียน ได้แก่ บรษิ ัทวดั ร้ำนคำ้ หำ้ งสรรพสนิ คำ้ และมหำวิทยำลัย อำชีพหลักของชมุ ชน คือ รับจ้ำงและค้ำขำย คนในชุมชนส่วนใหญ่นับถือศำสนำพุทธ ผู้ปกครองส่วนใหญ่จบกำรศึกษำระดับ ประถมศึกษำ ฐำนะทำงเศรษฐกิจ/รำยได้โดยเฉล่ียต่อครอบครัวต่อปี โดยประมำณ ต่ำกว่ำ 150,000บำท จำนวนคนเฉล่ยี 3–4 คน/ครอบครวั โรงเรียนวัดพิชัย เป็นสถำนศกึ ษำทอี่ ยูใ่ กล้กบั วดั ศนู ยส์ ำธำรณสขุ 50 บึง กุ่ม หอสมุดเสรีไทย สวนน้ำบึงกุ่ม ลำนกีฬำพัฒน์ ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ท่ีผเู้ รยี นได้มีโอกำสไปใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ ภำยนอกโรงเรียนได้เป็นอย่ำงดี โดยวัดพิชัย ผู้นำชุมชน ผู้ปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น สมำชิก สภำเขต, สมำชิกสภำกรุงเทพมหำนคร ให้กำรสนับสนุน ช่วยเหลือชุมชนและโรงเรียนในโอกำสต่ำงๆ ด้วยดี ตลอดมำ ในด้ำนข้อจำกัดของโรงเรียน คือทำงเข้ำโรงเรียนที่มีกำรจรำจรแออัด ทำงเข้ำ-ออกลำบำก พื้นที่ของ โรงเรียนมีจำกัดไม่สำมำรถขยำยหรือตอ่ เตมิ ได้ 2) อาชพี ส่วนใหญ่ของผู้ปกครอง รบั จ้ำงทั่วไป ประมำณร้อยละ 85 รบั รำชกำร ประมำณร้อยละ 10 คำ้ ขำย ประมำณร้อยละ 5 3) ศาสนา/วัฒนธรรม/ประเพณี 1. ศำสนำท่ีผู้ปกครองนักเรียนนบั ถือ คือ 1.1 ศำสนำพุทธ ประมำณร้อยละ 75.93 1.2 ศำสนำอิสลำม ประมำณรอ้ ยละ 17.59 1.3 ศำสนำครสิ ต์ ประมำณร้อยละ 6.48
16 1.10 ผลงานดเี ดน่ นกั เรียน ช่อื นกั เรยี น ระดับรางวัล/ช่ือรางวัลท่ไี ด้รับ หน่วยงานทมี่ อบ วนั /เดือน/ปี รางวลั ตวั แทนยุวชนซูโมท่ ีมชำตไิ ทย ไปแขง่ ขนั ใน 31/01/256 3 เด็กชำยเอสรำ เทพพิทักษ์ รำยกำรซูโม่ฮะกโู ฮแมท คร้งั ท่ี 9 ณ - กรุงโตเกียว ประเทศญป่ี นุ่ ชนะเลศิ ประเภทยุวชนชำย อำยุไม่เกิน 12 ปี เด็กชำยเอสรำ เทพพิทักษ์ นำ้ หนกั ไมเ่ กนิ 45 กโิ ลกรมั กำรแขง่ ขันกีฬำ องค์กำรบริหำร 19/08/256 ยูโดยุวชน เยำวชนชงิ แชมป์จังหวดั สมทุ รสำคร สว่ นจังหวัด 2 และกำรแข่งขนั กีฬำยูโดประชำชนชิงแชมป์ สมทุ รสำคร จังหวดั สมุทรสำคร รองชนะเลิศอันดับที่ 2 ประเภทยวุ ชนหญิง เด็กหญิงพชั รี นันสุนยี ์ อำยไุ มเ่ กนิ 12 ปี นำ้ หนกั ไมเ่ กิน 38 กิโลกรมั องค์กำรบรหิ ำร 19/08/256 กำรแขง่ ขนั กีฬำยูโดยวุ ชน เยำวชนชงิ แชมป์ ส่วนจงั หวดั 2 จงั หวัดสมุทรสำคร และกำรแขง่ ขันกีฬำยโู ด สมทุ รสำคร ประชำชนชงิ แชมป์จังหวดั สมทุ รสำคร เดก็ ชำยธนชำ เมืองศรี รองชนะเลศิ อนั ดบั ที่ 1 ประเภทยุวชนชำย 19/08/256 อำยุไมเ่ กิน 12 ปี นำ้ หนักไม่เกนิ 45 กโิ ลกรัม องค์กำรบรหิ ำร 2 กำรแข่งขันกีฬำยโู ดยุวชน เยำวชนชิงแชมป์ ส่วนจงั หวดั จังหวัดสมทุ รสำคร และกำรแขง่ ขันกีฬำยูโด สมุทรสำคร ประชำชนชิงแชมป์จงั หวัดสมทุ รสำคร เดก็ หญิงสกุ ญั ญำ พวงแก้ว รองชนะเลศิ อันดบั ท่ี 2 ประเภทยวุ ชนหญงิ 19/08/256 อำยุไม่เกิน 12 ปี น้ำหนกั ไม่เกิน 48 กโิ ลกรมั องค์กำรบริหำร 2 กำรแข่งขันกีฬำยโู ดยวุ ชน เยำวชนชงิ แชมป์ ส่วนจังหวดั จังหวดั สมุทรสำคร และกำรแข่งขันกีฬำยูโด สมทุ รสำคร ประชำชนชงิ แชมปจ์ งั หวดั สมุทรสำคร เดก็ ชำยกติ ตภิ พ แสงสว่ำง รองชนะเลิศอนั ดับที่ 2 ประเภทยวุ ชนชำย 19/08/256 อำยุไมเ่ กิน 12 ปี น้ำหนกั ไมเ่ กนิ 100 องค์กำรบริหำร 2 กโิ ลกรมั กำรแข่งขนั กฬี ำยูโดยุวชน เยำวชนชิง ส่วนจังหวัด แชมป์จังหวัดสมุทรสำคร และกำรแขง่ ขนั กีฬำ สมุทรสำคร ยโู ดประชำชนชงิ แชมปจ์ ังหวัดสมุทรสำคร รองชนะเลิศอนั ดบั ท่ี 1 ประเภทยุวชนชำย เด็กชำยพีระศิลป์ สวนเมอื ง อำยไุ มเ่ กนิ 12 ปี น้ำหนักไม่เกนิ 50 กิโลกรมั องค์กำรบรหิ ำร 19/08/256 กำรแขง่ ขนั กีฬำยูโดยวุ ชน เยำวชนชิงแชมป์ ส่วนจงั หวดั 2 จังหวดั สมทุ รสำคร และกำรแขง่ ขันกีฬำยูโด สมุทรสำคร ประชำชนชงิ แชมป์จงั หวัดสมทุ รสำคร ประจำปี 2562
17 ช่อื นกั เรยี น ระดับรางวัล/ชื่อรางวลั ทไี่ ดร้ ับ หนว่ ยงานทม่ี อบ วนั /เดอื น/ปี รางวัล รองชนะเลิศอนั ดบั ท่ี 1 ประเภทยุวชนชำย เดก็ ชำยอดเิ ทพ แซเ่ ล่ำ อำยไุ มเ่ กิน 12 ปี น้ำหนักไม่เกนิ 50 กโิ ลกรัม องค์กำรบรหิ ำร 19/08/256 กำรแขง่ ขนั กีฬำยโู ดยวุ ชน เยำวชนชิงแชมป์ ส่วนจังหวัด 2 จังหวัดสมทุ รสำคร และกำรแขง่ ขันกีฬำยูโด สมทุ รสำคร ประชำชนชงิ แชมปจ์ ังหวดั สมทุ รสำคร รองชนะเลิศอนั ดับท่ี 2 ประเภทยวุ ชนหญิง อำยุไมเ่ กนิ 10 ปี น้ำหนกั ไมเ่ กิน 35 กโิ ลกรัม องค์กำรบริหำร 19/08/256 เด็กหญงิ กนั ยำรกั ษ์ นำชัยยำ กำรแข่งขนั กีฬำยูโดยวุ ชน เยำวชนชงิ แชมป์ สว่ นจงั หวัด 2 จงั หวดั สมุทรสำครและกำรแข่งขนั กีฬำยูโด สมุทรสำคร ประชำชนชงิ แชมป์จังหวดั สมุทรสำคร รำงวัลเหรียญเงิน กำรแขง่ ขันกีฬำ ว่ิงผลัด เด็กหญงิ ชำมำวรี ์ อย่ดู ำรง 5x80 เมตร ประเภท 12 ปี หญงิ ในกำร สำนกั กำรศึกษำ 20/08/256 แข่งขันกฬี ำนักเรียนสงั กัดกรงุ เทพมหำนคร กรงุ เทพมหำนคร 2 คร้งั ท่ี 32 \"ช้ำงนอ้ ยเกมส์\" รำงวลั เหรยี ญเงิน กำรแขง่ ขันกฬี ำ วิง่ ผลัด เด็กหญิงปภำดำ มุกเหล็ก 5x80 เมตร ประเภท 12 ปี หญิง ในกำร สำนักกำรศึกษำ 20/08/256 แขง่ ขนั กีฬำนักเรียนสงั กัดกรงุ เทพมหำนคร กรงุ เทพมหำนคร 2 ครง้ั ท่ี 32 \"ชำ้ งนอ้ ยเกมส\"์ รำงวัลเหรียญเงนิ กำรแขง่ ขนั กฬี ำ วิง่ ผลัด เดก็ หญงิ ธัญสินี คลอ่ งกำร 8x50 เมตร ประเภท 12 ปี หญิง ในกำร สำนกั กำรศึกษำ 20/08/256 แข่งขนั กฬี ำนักเรียนสังกัดกรุงเทพมหำนคร กรงุ เทพมหำนคร 2 คร้ังที่ 32 \"ช้ำงนอ้ ยเกมส\"์
18 1.11 การปฏิบัติท่ีเปน็ เลิศ/การดาเนินการทีส่ ามารถเป็นแบบอยา่ งทดี่ ไี ด้ (Best Practices) ช่ือเร่ือง โครงงานรีไซเคลิ เพื่อชีวติ กระบวนการทางาน จำกกำรศึกษำโดยวิธีกำรสำรวจพ้ืนที่โรงเรียนวัดพิชัยพบว่ำ ขยะท่ีพบในโรงเรียนส่วนมำกเกิดจำก นกั เรียนซอ้ื อำหำรมำรับประทำน ขยะสว่ นใหญท่ พี่ บเปน็ ถุงพลำสติก แก้วนำ้ หลอดดูด ไม้ไอตมิ ขวดพลำสติก ถุงใส่อำหำรสำเร็จรูป กล่องนม และเศษกระดำษ โดยส่วนมำกนักเรียนจะทิ้งในถังขยะ มีบำงส่วนท่ีท้ิงนอกถัง ขยะ ระยะเวลำท่ีท้ิงขยะได้แก่ช่วงเช้ำก่อนเข้ำแถว และช่วงกลำงวันหลังรับประทำนอำหำรกลำงวัน เนือ่ งจำกปญั หำดังกล่ำวโรงเรียนได้ฝึกใหน้ ักเรียนมีควำมรับผิดชอบต่อสงิ่ แวดล้อม และเพ่ือลดขยะใน โรงเรียน โดยมีกำรจัดเวรทำควำมสะอำดห้องเรียน จัดกิจกรรม Big cleaning day และปฏิบัติงำนตำม กิจกรรม 5 ส ซ่ึงได้แก่ สะสำง (Seiri) สะดวก (Seison) สะอำด (Seiso) สุขลักษณะ (Seiketsu) สร้ำงนิสัย (Shisuku) ซ่ึงเป็นนโยบำยที่สำคัญประกำรหน่ึงของกรุงเทพมหำนคร ได้กำหนดให้สถำนศึกษำในสังกัดจัด สภำพแวดล้อมในโรงเรียนให้มีควำมเหมำะสม หลังจำกกำรดำเนินกำรกิจกรรม 5 ส พบว่ำเมื่อนักเรียนทำ ควำมสะอำดแล้ว มีขยะหลำกหลำยประเภท จำกปัญหำน้ีทำงโรงเรียนจึงมีกำรนำแนวทำงกำรลด กำรคัดแยก และนำขยะกลับมำใชใ้ หม่ โดยใช้หลกั 3R ซึ่งเป็นแนวคิดและแนวทำงในกำรปฏิบัติเพ่ือกำรใช้ทรัพยำกรท่ีมีอยู่ อย่ำงคุ้มค่ำ สำมำรถช่วยลดปริมำณขยะให้น้อยลง ด้วยกำรลดกำรใช้ กำรนำกลับมำใช้ซ้ำ และกำรนำขยะ กลับมำใช้ใหม่ (Reduce Reuse and Recycle: 3Rs) โดยเร่ิมต้นท่ีกำรใช้ให้นอ้ ยลง ลดกำรใช้วัสดุ ผลิตภัณฑ์ ทก่ี อ่ ใหเ้ กิดขยะเพื่อลดปริมำณขยะที่เกดิ ขน้ึ (Reduce) กำรนำวัสดุ ผลิตภัณฑท์ ่ยี งั สำมำรถใช้งำนได้ กลับมำใช้ ซ้ำ (Reuse) และกำรนำวัสดุ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้งำนแล้วมำแปรรูป เพื่อนำกลับมำใช้ประโยชน์ใหม่ หรือ รีไซเคิล (Recycle) จำกท่ีกล่ำวมำแลว้ ข้ำงต้นผู้บริหำร และคณะครูได้ปรึกษำหำรอื เกี่ยวกับวิธีกำจัดขยะในโรงเรียนให้ลด น้อยลงโดยกำรหำวิธีกำรบริหำรจัดกำรขยะท่ีเป็นปัญหำให้ลดน้อยลง หรือใช้ให้เกิดประโยชน์มำกที่สุด ด้วย กำรนำมำบูรณำกำรเข้ำกับทั้ง 8 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ และทำงโรงเรียนส่งเสริมให้มีกำรจัดกำรเรียนกำรสอน แบบโครงงำนเพื่อให้ผู้เรียนเรียนรู้เร่ืองใดเร่ืองหน่ึงจำกควำมสนใจ อยำกรู้ อยำกเรียนของผู้เรียนเอง โดยใช้ กระบวนกำรและวิธีกำรทำงวิทยำศำสตร์ ผู้เรียนจะเป็นผู้ลงมือปฏิบัติกิจกรรมต่ำงๆ เพื่อค้นหำคำตอบด้วย ตนเอง เป็นกำรเรียนที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จำกประสบกำรณ์ตรงกับแหล่ง ควำมรู้เบ้ือง สำมำรถสรุป ควำมรู้ได้ด้วยตนเอง และจัดประกวดโครงงำนโดยมีเง่ือนไขว่ำโครงงำนที่นักเรียนจัดทำจะต้องช่วยลดปริมำณ ขยะในโรงเรียนได้ หลังจำกประกวดเสร็จชิ้นงำนหรือผลงำนที่ได้ เช่น หมวกจำกกล่องนม เส่ือจำกกล่องนม กระเป๋ำจำกกล่องนม เก้ำอ้ีจำกกล่องนม เป็นต้น สำมำรถนำกลับมำใช้ในห้องเรียน หรือในกิจกรรมของทำง โรงเรียนได้อีก และยังเปน็ กำรปลูกฝังคณุ ลักษณะพึงประสงคผ์ ู้เรียน ค่ำนยิ มของคนไทยและควำมเป็นพลเมือง ที่ดีของคนไทย เพื่อปลูกฝังให้นักเรียนมคี ุณลักษณะดังกล่ำวที่จะเปน็ พ้ืนฐำนทด่ี ีในอนำคต สร้ำงสิ่งแวดล้อมที่ ดี ทำให้เกิดควำมสวยงำม สร้ำงเสริมสุขภำพอนำมัยของบุคคลให้อยู่อย่ำงมีควำมสุข จำกกำรมีส่วนร่วมของ ผู้บริหำร คณะครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียนในกำรบริหำรจัดกำรขยะใน โรงเรยี นวัดพชิ ัย จะช่วยพฒั นำใหเ้ ปน็ โรงเรียนปลอดขยะ (Zero Waste School) ต่อไป ผลจากการปฏิบตั ิ 1. ลดปรมิ ำณขยะในโรงเรียน 2. ประหยัดงบประมำณในกำรกำจัดขยะ 3. นำวัสดหุ มุนเวียนกลบั มำใชใ้ หม่ 4. สงวนทรพั ยำกรธรรมชำติและประหยัดพลังงำน และชว่ ยให้ส่ิงแวดล้อมดีข้นึ
19 สว่ นท่ี 2 ผลการประเมินตนเองของสถานศึกษา ผลการประเมนิ ตามมาตรฐานการศกึ ษาของสถานศึกษา ระดบั การศึกษาขั้นพน้ื ฐาน มาตรฐานท่ี 1 คุณภาพของผเู้ รียน 1. ระดบั คุณภาพ ดเี ลิศ 2. วธิ ีการพัฒนา/ผลท่ีเกิดจากการพัฒนา ขอ้ มลู หลกั ฐาน เอกสารเชิงประจักษ์ ท่ีสนบั สนุนผลการ ประเมินตนเอง 2.1. กระบวนการพัฒนา โรงเรียนมีกำรจัดโครงกำรเพ่ือพัฒนำคุณภำพกำรเรียนกำรสอน ในกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ต่ำง ๆ โดยมี เปำ้ หมำยหลักทกี่ ำรอ่ำนของนักเรียน เพรำะกำรอ่ำนคือหวั ใจแห่งกำรเรียนรูใ้ นทุกสำขำวิชำ ตลอดจนมีกำรจัด ค่ำยบูรณำกำรควำมรู้ออกสู่กำรปฏิบัติเช่น โครงกำรค่ำยทักษะชีวิต โครงกำรค่ำยรักษ์โลก ผู้เรียนได้รับกำร สนับสนุนให้รู้จักแสวงหำควำมรู้ ผ่ำนกิจกรรมในโครงกำรสืบค้นควำมรู้ผ่ำนทำงอินเตอร์เน็ต , โครงกำรแนะ แนวกำรศึกษำต่อและอำชีพ และโครงกำรห้องเรียนในโลกกว้ำง มีกำรส่งเสริมวินัยและกำรอยู่ร่วมกันในสงั คม ผ่ำนโครงกำรส่งเสริมประชำธิปไตย เพื่อให้ผู้เรียนได้ฝึกกำรใช้ชีวิตในระบบประชำธิปไตยตำมกฎหมำย และ เปิดโอกำสให้ผู้เรียนที่เป็นคณะกรรมกำรได้มีส่วนร่วมในกำรพัฒนำสังคม โดยมีหน้ำที่ในกำรควบคุมดูแล กระบวนกำรทำภำรกิจประจำวันของนักเรียน เช่น กำรจัดระเบียบหน้ำเสำธง กำรควบคุมควำมสะอำด เรยี บร้อยของพืน้ ที่ กำรจดั สถำนทเี่ พอื่ ทำกิจกรรมพิเศษต่ำงๆในวันสำคัญของโรงเรียน 2.2. ผลการดาเนนิ งาน ผู้เรียนมีควำมสำมำรถในกำรอ่ำน กำรเขียน กำรสื่อสำร และกำรคิดคำนวณ สูงกว่ำเป้ำหมำยที่ สถำนศึกษำกำหนดไว้ ผู้เรียนมีผลสัมฤทธ์ิทำงกำรเรียนตำมหลักสูตรสถำนศึกษำในระดับเกรด 3 ข้ึนไป มำกกว่ำร้อยละ 70 ซึ่งสูงกว่ำเป้ำหมำยที่สถำนศึกษำกำหนด ผู้เรียนมีควำมสำมำรถในกำรคิดวิเครำะห์ คิด อย่ำงมีวิจำรณญำณอภิปรำยแลกเปล่ียนควำมคิดเห็น โดยใช้เหตุผลประกอบกำรตัดสินใจ และแก้ปัญหำได้ ผู้เรียนมคี วำมสำมำรถในกำรสร้ำงนวัตกรรม ในรปู แบบโครงงำนประดิษฐ์ โดยใชก้ ระบวนกำร 3 R เพื่อชว่ ยลด ปัญหำขยะ และใช้ส่ิงท่ีประดิษฐ์สำมำรถนำมำใช้ได้จริง เป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคม ผู้เรียนมี ควำมสำมำรถในกำรใช้เทคโนโลยีสำรสนเทศ และกำรสื่อสำรเพื่อพัฒนำตนเอง และสังคมในด้ำนกำรเรียนรู้ กำรสื่อสำร กำรทำงำน ผู้เรียนมีควำมรู้ ทักษะพื้นฐำน และเจตคติที่ดีพร้อม ที่จะศึกษำต่อในระดับช้ันที่สูงข้ึน และกำรทำงำนหรืองำนอำชีพ ผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ผ่ำนกำรประเมินร้อยละ 100 สูงกว่ำ เป้ำหมำยที่สถำนศึกษำกำหนด ผู้เรียนมีควำมภูมิใจในท้องถิ่น เห็นคุณค่ำของควำมเป็นไทย รู้จักรักษำ วัฒนธรรมในกำรทักทำย ผู้เรียนทุกคนมีส่วนร่วมในกำรอนุรักษ์วัฒนธรรม ประเพณี เช่นกำรแต่งกำย กำร ทักทำย มำรยำทในกำรดำเนินชีวิตและกำรอยู่ร่วมกับผู้ใหญ่ รู้จักใช้ภูมิปัญญำไทยในกำรดูแลชวี ิต เช่น กำรใช้ สมนุ ไพรรกั ษำโรค เปน็ ตน้ ผูเ้ รยี นมสี ขุ ภำวะทำงรำ่ งกำย ผ่ำนเกณฑ์รอ้ ยละ 80 ขึ้นไป สำหรบั เดก็ ท่ีมีภำวะทุพ โภชนำกำร เด็กๆ จะได้เข้ำร่วมกิจกรรมบริหำรร่ำงกำยเป็นพิเศษ เพื่อควบคุมและลดน้ำหนัก ด้ำนสุขภำพจิต และจิตสังคม มีกำรจัดกิจกรรมสวดมนต์ทำสมำธิ เพ่ือพัฒนำจิตใจ มีผู้เข้ำร่วมสูงกว่ำเป้ำหมำยที่สถำนศึกษำ กำหนด 3. จุดเดน่ จุดที่ควรพัฒนา แผนพฒั นาคณุ ภาพเพ่อื ยกระดับใหส้ ูงขน้ึ จดุ เดน่ จุดทีค่ วรพฒั นา ผเู้ รยี นสำมำรถมคี วำมรู้ด้ำนกำรอำ่ น จำกระบวนกำร ควรมีกำรจดั กำรเรียนรูเ้ พ่ือเพิ่มประสิทธิภำพของ ฝกึ ในชน้ั เรียน กิจกรรมเสรมิ ต่ำงๆจำกห้องสมุด และ ผู้เรียน ด้ำนกำรคดิ วิเครำะห์ ผ่ำนกระบวนกำรเชงิ ส่อื เทคโนโลยที ี่โรงเรยี นสรำ้ งข้นึ ท้ังวดี ีโอกำรสอนอำ่ น, ประจกั ษ์ สำมำรถชใ้ี ห้เหน็ เป็นตวั เลขหรือผลสำเร็จ
20 จดุ เด่น จดุ ทีค่ วรพัฒนา หนังสืออิเลกทรอนิกส(์ E-Book) และเผยแพรต่ ำมสื่อ ของกระบวนกำรคดิ เพ่มิ กำรคิดอย่ำงมีวจิ ำรณญำณ ตำ่ งๆ เชน่ ช่องทำงยูทูป : โรงเรียนวดั พชิ ัย สำนกั งำน อภิปรำยแลกเปล่ียนควำมคดิ เห็นและแกป้ ัญหำ เขตบึงุก่ม, ช่องทำงเว็บไซต์ : www.wpcs.ac.th เป็น เกี่ยวกับสภำพปญั หำในสงั คมรอบตวั และกำรนำ ต้น ผเู้ รียนสำมำรถอยู่ร่วมกนั ไดอ้ ย่ำงมคี วำมสุข จำก กระบวนกำรแก้ปัญหำของสงั คมโลก มำใหน้ ักเรียน กระบวนกำรในกิจกรรมกลุ่มสังคมที่สถำนศึกษำจัดไว้ อภิปรำยเพื่อนำมำปรบั ใชใ้ นกำรดำเนินชวี ิตในปัจจบุ ัน ในระบบกำรเรยี นรู้ รจู้ กั เคำรพกฏ กติกำ มำรยำทใน และอนำคต เด็กทุกศำสนำ ควรไดร้ ับโอกำสไปศกึ ษำ กำรอยรู่ ว่ มกัน ผ้เู รยี นสำมำรถอยูร่ ว่ มกนั บนควำม หลักปฏิบัตขิ องศำสนำอน่ื ๆ เพือ่ ให้เขำ้ ใจวถิ ชี วี ิตในกำร แตกต่ำงและหลำกหลำย เหน็ ได้จำกกำรอยู่รว่ มกันของ อยรู่ ่วมกนั อย่ำงมีควำมสขุ เด็กนักเรยี นทั้ง 3 ศำสนำ คือ รูจ้ กั กำรวำงตัวเม่ืออย่ใู น พิธีกรรมทำงศำสนำของผู้อน่ื มกี ำรใชโ้ ครงกำรตำ่ งๆ เช่น โครงกำรส่งเสรมิ ประชำธิปไตย มำฝึกเด็กให้รจู้ ัก หนำ้ ท่ีของพลเมืองท่ีดี ตลอดปีกำรศกึ ษำ มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ 1. ระดบั คุณภาพ ดเี ลศิ 2. วิธีการพัฒนา/ผลทเี่ กดิ จากการพฒั นา ข้อมลู หลกั ฐาน เอกสารเชงิ ประจกั ษ์ ท่ีสนบั สนนุ ผลการ ประเมนิ ตนเอง 2.1. กระบวนการพัฒนา โรงเรียนวัดพิชัย ดำเนินกำรจัดทำแผนพัฒนำกำรศึกษำระยะ 4 ปี (พ.ศ.2562-2565) โดยร่วมกับ คณะกรรมกำรสถำนศึกษำ คณะกรรมกำรเครือข่ำยผู้ปกครอง คณะครูและบุคลำกร วิเครำะห์บริบทของ สถำนศึกษำท้ังสภำพภำยในและภำยนอก และนโยบำยกำรปฏิรูปกำรศึกษำ เพื่อกำหนดเป้ำหมำยในกำร พัฒนำกำรจัดกำรเรียนรู้ สร้ำงวิสัยทัศน์ พันธกิจ กลยุทธ์ให้ชั ดเจน และสอดคล้องกับแผนพัฒนำ กรงุ เทพมหำนคร ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2556-2575) แผนพัฒนำกำรศึกษำขั้นพืน้ ฐำนกรุงเทพมหำนคร ระยะท่ี 2 (พ.ศ.2560-2563) แผนกำรศึกษำแห่งชำตริ ะยะ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) แผนยทุ ธศำสตรช์ ำติ 20 ปี (พ.ศ.2561 – 2580) ครูและบุคลำกรทุกคนมีส่วนร่วมในกำรจัดกำรเรียนรู้และสภำพแวดล้อม ตลอดจน ตรวจสอบทบทวนหลักสตู ร มีกำรจดั ทำแผนพัฒนำงำน 4 ฝ่ำย ได้แก่ งำนวชิ ำกำร งำนงบประมำณ งำนบรหิ ำร บุคคล งำนบริหำรท่ัวไป และหลักสูตรกำรศึกษำปฐมวัย มีโครงกำรนิเทศภำยใน เพ่ือกำกับติดตำม ตรวจสอบ ปรับปรุงกำรทำงำนเป็นระยะ ส่งเสริมครูให้มีควำมเชี่ยวชำญทำงวิชำชีพ โดยสนับสนุนให้ครูและบุคลำกรทำง กำรศึกษำเข้ำรับกำรอบรมเพ่ือพัฒนำตนเอง และเพิ่มพูนควำมรู้ในด้ำนต่ำงๆ รวมถึงควำมสำมำรถในกำรจัด กิจกรรมกำรเรียนกำรสอนท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ให้ผู้เรียนสำมำรถนำควำมรู้ ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่ำง เหมำะสมและไม่ขัดต่อหลักธรรมทำงศำสนำของตน และมกี ำรนิเทศ กำกับ ติดตำม ประเมนิ ผลกำรดำเนินงำน และสรุปผลกำรดำเนินงำนของทุกฝ่ำยรำยงำนต่อชุมชนและสำธำรณชนอย่ำงต่อเนื่องวำงแผนกำรพัฒนำส่ือ และแหล่งกำรเรียนรู้ที่เอ้ือต่อกำรจัดกิจกรรมพัฒนำผู้เรียน มีควำมปลอดภัยต่อผู้เรียน จัดให้มีกำรบริกำรสื่อ สำรสนเทศ กำรใช้เทคโนโลยีเพ่ือกำรศึกษำใหส้ อดคล้องกับทักษะในยุค 4.0 สถำนศึกษำมีกำรประชำสมั พันธ์ ข้อมูลข่ำวสำรกิจกรรมท่ีโรงเรียนดำเนินกำรตลอดปีกำรศึกษำ ท่ีหลำกหลำย เช่น เฟสบุ๊ค เว็บไซต์ วำรสำร โรงเรียน ให้ผู้เก่ียวข้องทุกฝ่ำยได้เข้ำถึงกำรบริหำรจัดกำรศึกษำ และเครือข่ำยกำรพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำ มี สว่ นร่วมในกำรพฒั นำ รบั ทรำบและรบั ผดิ ชอบตอ่ ผลกำรจัดกำรศกึ ษำ
21 2.2. ผลการดาเนินงาน จัดให้มีคณะทำงำน ประกอบด้วย คณะกรรมกำรสถำนศึกษำขั้นพ้ืนฐำน กรรมกำรเครือข่ำย ผู้ปกครอง คณะครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ ร่วมแสดงควำมคิดเห็น ให้คำปรึกษำ เสนอแนวทำงกำรพัฒนำ และวำงแผนพัฒนำกำรศึกษำของโรงเรียนวัดพิชัย ให้เป็นไปตำมเป้ำหมำยและทิศทำงที่ต้องกำร จัดทำ แผนปฏิบัติรำชกำรประจำปี โดยกำหนดโครงกำรและกิจกรรม ท่ีส่งเสริมและสอดคล้องแผนพัฒนำกำรศึกษำ ในยุทธศำสตร์ต่ำงๆ ให้เหมำะสมกับควำมต้องกำรของชุมชน ตำมนโยบำยกำรปฏิรูปกำรศึกษำ โดยพัฒนำ ผู้เรียนใหม้ ีควำมร้คู วำมสำมำรถตำมกรอบมำตรฐำน ตวั ชี้วัดและสำระกำรเรยี นรใู้ นทุกกลุ่มสำระ มีคุณลกั ษณะ อนั พึงประสงค์ มกี ำรประชุมคณะกรรมกำรสถำนศึกษำขั้นพน้ื ฐำน คณะกรรมกำรเครือข่ำยผูป้ กครอง และกำร ประชุมผู้ปกครอง เพื่อรำยงำนกำรดำเนินงำนเป็นระยะและรับฟังควำมคิดเห็นจำกผู้มีส่วนร่วมและผู้มำรับ บริกำรทุกเสียง ตลอดจนรับฟังควำมคิดเห็นจำกองค์กรภำครัฐ และเอกชนต่ำงๆ ท่ีเข้ำมำมีส่วนร่วมในกำร พัฒนำสถำนศึกษำ มีกำรนิเทศ กำกับ ติดตำม ตรวจสอบกำรปฏิบัติหน้ำท่ีของครูผู้สอน กำรปฏิบัติงำนตำม แผนปฏิบัติรำชกำรประจำปี กำรจัดทำรำยงำนข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะจำกกำรจัดกิจกรรมและโครงกำรต่ำงๆ เพื่อนำไปปรับปรุงประสิทธิภำพกำรปฏิบัติงำนโดยยึดเป้ำหมำยของสถำนศึกษำเป็นสำคัญ ครูจัดกระบวนกำร เรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญแบบ Active Learning (กำรเรียนรู้แบบลงมือทำ) เสริมทักษะต่ำงๆ ที่จำเป็น สร้ำงแรงจูงใจเชิงบวกในกำรเรียน ใช้สื่อเทคโนโลยีในกำรบริหำรจัดกำรกำรเรียนรู้ ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เข้ำถึง สอ่ื เทคโนโลยีสอดแทรกคุณธรรม จรยิ ธรรมท่ีสำคญั ในระหวำ่ งกำรจัดกิจกรรมกำรเรยี นรู้ วัดผลและประเมนิ ผล ตำมสภำพจริงและตำมวัตถุประสงค์ท่ีกำหนด โดยยึดสูตรสถำนศึกษำ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2561) ตำม หลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำข้ันพื้นฐำน พุทธศักรำช 2551 โครงสร้ำงหลักสูตรรำยวิชำ จัดกิจกรรมพัฒนำ ผู้เรียนให้สอดคล้องกับหลักสูตรสถำนศึกษำ ครูมีกำรพัฒนำตนเองโดยเข้ำรับกำรอบรมและสร้ำงชุมชนแห่ง กำรเรียนรู้(PLC) มีกำรพัฒนำรูปแบบกำรจัดกำรเรียนรู้ เลือกใช้ส่ือเทคโนโลยีได้อย่ำงเหมำะสมกับเน้ือหำและ วัยของผู้เรียน กระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดกำรอยำกรู้อยำกเห็น สร้ำงแรงจูงใจเชิงบวกในกำรเรียน สำมำรถสรุปองค์ ควำมรู้ได้ด้วยตนเอง และรู้จักวิธีกำรแสวงหำควำมรู้ ข้อเท็จจริงจำกสื่อต่ำงๆ ครูได้จัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ สำหรับนกั เรยี นได้ตรงตำมควำมสำมำรถและศกั ยภำพและควำมสนใจของนกั เรียนในแต่ระดับชนั้ ไดเ้ ปน็ อย่ำงดี ทำให้นกั เรยี นรกั ครู ครรู ักนกั เรยี น นกั เรยี นรักนกั เรียน รกั ที่จะมำโรงเรียน และเรยี นรูอ้ ยำ่ งมีควำมสุข สง่ เสริม สนับสนุน บริกำรครู ให้เข้ำถึงสื่อสำรสนเทศต่ำงๆ แหล่งกำรเรียนรู้ผ่ำนระบบอินเทอร์เนต ติดตั้งอินเทอร์เน็ต เพิ่มเติม และเพ่ิมจุดกระจำยสัญญำณ WiFi ติดต้ังโทรทัศน์และกล่องสัญญำณดิจิตัลในห้องเรียนระดับปฐมวัย ห้องกำรงำนกำรงำนอำชีพ และห้องนำฏศิลป์และบริกำรเคร่ืองฉำยโปรเจคเตอร์ใ นห้องประชุม ห้อง คอมพิวเตอร์ ห้องสมุด ห้องดนตรีและนำฎศิลป์ ห้องภำษำอังกฤษห้องอำเซียน เป็นต้น จัดสภำพแวดล้อมให้ เอ้อื ต่อกำรเรยี นรู้ของเด็กเชน่ สนำมเด็กเลน่ สวนหย่อม สวนพฤษศำสตร์ พฒั นำและสรำ้ งควำมตระหนักให้ครู ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่ำงที่ดีในกำรครองตน ครองคน และครองงำน อยู่ในศีลธรรม จำรีตประเพณีอย่ำง เคร่งครดั ปฏิบตั ิหน้ำทร่ี ำชกำรอย่ำงสุดกำลัง อุทศิ เวลำเพ่ืองำนรำชกำรและเพื่อเด็ก สร้ำงสังคมแห่งกำรเรียนรู้ ร่วมกันระหว่ำงครูกับเพื่อนครูหรือสร้ำงชุมชนแห่งกำรเรียนร่วมกัน (Professional Learning Community : PLC) ครูกบั นักเรยี น นกั เรียนกบั เพื่อนนักเรียน สร้ำงสังคมแบ่งปันควำมสุข เออื้ เฟื้อเผ่ือแผ่ มจี ติ สำธำรณะ จน กอ่ ใหเ้ กดิ เป็นวัฒนธรรมองค์กรที่ชมุ ชนให้กำรยอมรับสง่ บุตรหลำนมำเข้ำเรียนอย่ำงสม่ำเสมอ มกี ำรจดั ทำคำสั่ง มอบหมำยหน้ำที่ในกำรบริหำรงำนสำรสนเทศ โดยจะมีผู้ดูแลระบบกำรกรอกข้อมูลนักเรียนลงในระบบ MIS ของสำนักกำรศึกษำ และ ข้อมูลในระบบฐำนข้อมูลเด็กปฐมวัยตำมมำตรฐำนกำรศึกษำชำติ ของกรมกิจกำร เด็กและเยำวชน สำหรับงำนด้ำนกำรสอน มีกำรจัดทำวีดีโอประกอบกำรสอนอ่ำนภำษำไทย, กำรสอนในกลุ่ม สำระกำรงำนอำชีพ, ควำมรู้ในสำระฯสังคมศึกษำ, กำรสอนด้ำนนำฏศิลป์ และ กำรทดลองทำงวิทยำศำสตร์ สื่อหนังสืออิเลกทรอนิก ท่ีครูได้จัดทำผ่ำนกำรอบรมเชิงปฏิบัติกำร ได้นำเสนอไว้ในเวบ็ ไซต์ของโรงเรียน หลำย
22 เร่ืองเช่น ภำษำไทย ภำษำอังกฤษ คณิตศำสตร์ วิทยำศำสตร์ และสังคมศึกษำ ซึ่งผู้เรียน และชุมชน สำมำรถ รับรู้และติดตำมข่ำวสำรได้จำก เว็บไซต์( www.wpcs.ac.th ) Youtube (โรงเรียนวัดพิชัย สำนักงำนเขตบึง กุ่ม) Facebook ( สถำนศึกษำมีกำรประชำสัมพันธ์ข้อมูลข่ำวสำรกิจกรรมท่ีโรงเรียนดำเนินกำรตลอดปี กำรศึกษำ ทห่ี ลำกหลำย เช่น เฟสบคุ๊ เวบ็ ไซต์ วำรสำรโรงเรยี น 3. จดุ เด่น จดุ ท่คี วรพัฒนา แผนพฒั นาคุณภาพเพอื่ ยกระดับใหส้ ูงขน้ึ จดุ เดน่ จุดที่ควรพฒั นา คณะกรรมกำรสถำนศึกษำและคณะกรรมกำร ควรมกี ำรเพิม่ ผเู้ ชี่ยวชำญทำงวชิ ำกำรมำเปน็ เครือข่ำยผูป้ กครอง มีสว่ นรว่ มในกำรวำงแผนพฒั นำ คณะกรรมกำรในกำรพัฒนำสถำนศกึ ษำดว้ ย เพ่ือให้ กำรศึกษำ ให้ควำมเหน็ ชอบ และสนับสนุนกิจกรรม ผลสมั ฤทธ์ทิ ำงกำรเรียนมคี ำ่ เฉลี่ยสงู ขน้ึ เพ่ือใหผ้ ู้เรยี น ตำ่ งๆ ของโรงเรียนด้วยดี ครมู ีควำมกระตือรือร้นใน มีผลงำนท่โี ดดเด่นแข่งขนั กับสงั คมได้ ควรนำ กำรค้นควำ้ หำส่ือท่ีทันสมยั มำประกอบกำรสอน และมี ข้อเสนอแนะในกำรปฏบิ ัตหิ น้ำงำนแตล่ ะโครงกำร/ ควำมพยำยำมในกำรสร้ำงสื่อให้เพยี งพอต่อผเู้ รยี น ครู กิจกรรม/งำนทผี่ ่ำนกำรประเมนิ ผล กำรนิเทศ กำกับ ไดร้ ับกำรอบรมเชิงปฏิบตั ิกำรเพ่ือสรำ้ งส่ือนวตั กรรม ติดตำม ตรวจสอบ มำวเิ ครำะห์หำสำเหตุที่เปน็ ปัญหำ อยำ่ งน้อยภำคเรยี นละ 1 ครงั้ มกี ำรอบรมและสรำ้ ง อุปสรรค ในกำรปฏิบัติงำนซงึ่ อำจจะมีผลต่อเปำ้ หมำย ชุมชนแห่งกำรเรยี นรู้ร่วมกับโรงเรยี นในเครือขำ่ ย มี ควำมสำเรจ็ และกำรพัฒนำสถำนศึกษำใหบ้ รรลตุ ำม กำรแลกเปล่ยี นทำงวิชำกำร ครูได้ไปศกึ ษำดงู ำนด้ำน เป้ำหมำย หำแนวทำงลดปัญหำโดยใช้กำรมีส่วนรว่ มใน กำรจัดกำรเรยี นกำรสอน และมีกำรสร้ำงสรรคส์ ่ือ กำรแก้ปัญหำรว่ มกนั ทง้ั องค์กร ชุมชน และหนว่ ยงำน เทคโนโลยี ตำมทีไ่ ด้รบั กำรอบรม มกี ำรเผยแพร่ข้อมลู ที่เกีย่ วข้อง ควรส่งเสรมิ ใหค้ รูใชร้ ะบบกำรสอนแบบ สอ่ื กำรเรยี นรู้ บนระบบสำรสนเทศได้อย่ำงเหมำะสม ออนไลนแ์ ละส่ือกำรสอนท่ีชว่ ยลดกำรอธบิ ำยของครู หลำกหลำยช่องทำง อำทิ เวบ็ ไซต์, เฟสบกุ้ , ยทู ูบ เปน็ ประเภทสอ่ื ส่ิงพิมพใ์ ห้มีจำนวนมำก เพียงพอสำหรับ ต้น นักเรียน ให้นกั เรียนสำมำรถเรยี นร้ไู ดด้ ้วยตนเองจำก กำรค้นควำ้ ในสื่อต่ำงๆ มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรยี นการสอนทเี่ นน้ ผูเ้ รยี นเป็นสาคญั 1. ระดบั คุณภาพ ดเี ลิศ 2. วธิ ีการพฒั นา/ผลท่เี กดิ จากการพฒั นา ขอ้ มูล หลกั ฐาน เอกสารเชงิ ประจกั ษ์ ที่สนับสนุนผลการ ประเมินตนเอง 2.1. กระบวนการพฒั นา โรงเรียนมีกำรจัดทำคำส่ังแต่งตั้งคณะกรรมกำรตรวจสอบทบทวนหลักสูตรสถำนศึกษำ เพ่ือปรับปรุง พัฒนำมำตรฐำนตัวชี้วัด โครงสร้ำงเวลำเรียน เนื้อหำให้มีควำมสอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำข้ัน พื้นฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑ และร่วมกันวิเครำะห์หลักสูตรเพื่อสร้ำงหน่วยกำรเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เพื่อให้หลักสูตรสถำนศึกษำและแผนกำรจัดกำรเรียนรู้เหมำะสมกับควำมเปล่ียนแปลงของสังคมโลก สำมำรถ นำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตได้ มโี ครงกำรส่งเสรมิ ครใู ห้ได้รับกำรอบรมเพ่ือสร้ำงนวัตกรรมในกำรจดั กำรเรยี นรู้และ มีกำรเผยแพร่หลักสตู รและแผนกำรเรยี นร้ผู ำ่ นระบบออนไลน์ 2.2. ผลการดาเนนิ งาน โรงเรียนมีแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ครูจัดกระบวนกำรเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญแบบ Active Learning (กำรเรียนรู้แบบลงมือทำ) เสริมทักษะต่ำงๆท่ีจำเป็น สร้ำงแรงจูงใจเชิงบวกในกำรเรียน ใช้สื่อ เทคโนโลยีในกำรบริหำรจัดกำรกำรเรียนรู้ ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เข้ำถึงส่ือเทคโนโลยีสอดแทรกคุณธรรม
23 จริยธรรมที่สำคัญในระหว่ำงกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ วัดผลและประเมินผลตำมสภำพจริงและตำม วัตถุประสงค์ที่กำหนด โดยยึดสูตรสถำนศึกษำ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2561) ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำ ขนั้ พ้ืนฐำน พุทธศักรำช 2551 โครงสรำ้ งหลกั สตู รรำยวิชำ จัดกิจกรรมพัฒนำผู้เรยี นให้สอดคล้องกับหลักสูตร สถำนศึกษำ ครูได้จัดทำแผนกำรเรียนรู้ท้ัง 8 กลุ่มสำระให้สอดคล้องกับหลักสูตรสถำนศึกษำ มำตรฐำน และ ตัวชี้วัดในแต่ละรำยวิชำ มีกำรวิเครำะห์มำตรฐำนเพ่ือกำหนดกำรสอน กำรวัดและประเมินผลที่หลำกหลำย และสอดคล้องกับวัตถุประสงค์กำรเรียนรู้ กำรประเมินตำมสภำพจริง จัดทำบันทึกหลังกำรจัดกิจกรรมกำร เรียนรู้ เพื่อนำผลที่ได้มำปรับปรุง พัฒนำกำรเรียนกำรสอนให้บรรลุตำมวัตถุประสงค์ รวมถึงได้รำยงำน ผลสัมฤทธ์ิทำงกำรเรียนของนักเรียนให้ผู้ปกครองทรำบ อย่ำงน้อยภำคเรียนละ 1 คร้ัง พร้อมท้ังได้จัดทำวิจัย ในชัน้ เรียนเพื่อเป็นกำรแกป้ ัญหำกำรเรยี นกำรสอนในแต่ละวิชำ มีกำรวิเครำะหน์ ักเรียนเป็นรำยบุคคลในแต่ละ รำยวชิ ำ สง่ เสริมครูและนกั เรียนได้ใช้ส่ือตำ่ งๆ รวมทั้งส่อื เทคโนโลยี ในกำรจดั กำรเรยี นกำรสอนเพื่อใหน้ ักเรียน เกิดกำรเรียนรู้และผ่ำนจุดประสงค์กำรเรียนรู้ได้เร็วย่ิงขึ้น ครูใช้ส่ือกำรสอนทั้งจัดทำขึ้นเองและจัดหำเพื่อ ประกอบกำรสอนให้ผู้เรียนบรรลุเป้ำหมำยที่ต้ังไว้ ครูใช้แหล่งเรียนรู้ทั้งภำยในและภำยนอกโรงเรียนในกำร จดั กำรสอน ประยุกต์กำรสอนโดยใช้ภูมิปัญญำท้องถ่นิ มำบรู ณำกำรในกลุ่มสำระและจัดกจิ กรรมเสริมหลักสูตร ที่สอดคล้องกับบริบทของชุมชน เช่น ภูมิปัญญำท้องถ่ินสอนทำขนมไทย ภูมิปัญญำท้องถ่ินสอนทำยำสมุนไพร เปน็ ตน้ ครแู ละบุคลกำรมกี ำรใช้สือ่ วดี ีทัศน์มำประกอบกำรเรยี นรู้ เพือ่ ประกอบกำรอธบิ ำยทีช่ ัดเจน สอ่ื มขี นำด ใหญ่ กระจำยไดท้ ว่ั ถึงเหน็ ไดช้ ัดเจนในพื้นท่ีที่ใช้สอน เชน่ จอโทรทศั น์ จอโปรเจคเตอร์ ครูและบคุ ลำกรร่วมกัน สร้ำงสื่อกำรสอน เพ่ือใช้บนระบบออนไลน์ เช่น วีดีโอสอนอ่ำนภำษำไทยบนช่องยูทูป จำนวน 60 ชุด ประกอบกำรสอนอ่ำนคำยำกในแต่ละระดับช้ัน เป็นรำยเดือน, กำรสอนในสำระฯกำรงำนอำชีพ, กำรสอน นำฎศิลป์, กำรสำธิตกำรทดลองของระดับปฐมวัย นอกจำกน้ียังมีกำรสร้ำงหนังสืออิเลกทรอนิก ประกอบกำร สอนในสำระกำรเรียนรู้ต่ำงๆ กำรใช้ส่ือออนไลน์ในกำรทำงำนประจำด้ำนเอกสำรของครู เผยแพร่บนเว็บไซต์ อำทิ หลักสูตรสถำนศึกษำ, หลักสูตรกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ต่ำงๆ เอกสำรกำรวัดและประเมินผล และข่ำวสำร ประชำสัมพันธ์ของโรงเรยี น (www.wpcs.ac.th) เป็นต้น ผู้สอนได้ใช้กระบวนกำรเรยี นรู้แบบ 5E มำใช้ในกำร สอนวิทยำศำสตร์ มีกำรสำธิตทำงวิทยำศำสตร์ , มีกำรฝึกปฏิบัติด้ำนกีฬำ ในกำรสอนพลศึกษำ, มีกำรแสดง ละครในกำรเรียนรู้ภำษำไทย ในแต่ละแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ มีกำรประเมินผลตำมสภำพจริง มีกำรต้ังเกณฑ์ กำรให้คะแนนที่ได้มำตรฐำน(Rubric Score) ท่คี รูผู้สอนท่ำนอ่ืน ๆ สำมำรถนำไปใชส้ อนและประเมินผู้เรียนได้ ในแบบเดยี วกนั เมือ่ ทำกำรสอน ครูมีกำรประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ของผเู้ รยี น และใหข้ ้อมลู ย้อนกลับเพือ่ ใหผ้ ู้เรียน นำไปปรับปรุงตนเอง และในแต่ละภำคเรียน ครูมีกำรสรุปผลกำรเรียนรู้ของผู้เรียนเป็นรำยบุคคล และแจ้งผล กำรพฒั นำของผ้เู รยี นให้ผปู้ กครองทรำบ 3. จดุ เด่น จดุ ที่ควรพฒั นา แผนพัฒนาคณุ ภาพเพือ่ ยกระดับให้สูงขึ้น จดุ เดน่ จดุ ท่ีควรพฒั นา ครผู สู้ อนมีควำมทุ่มเทเสียสละ รกั องคก์ ร มุ่งพัฒนำ ควรเพิม่ สื่อกำรเรียนรูใ้ ห้มำกขนึ้ สรำ้ งเน้ือหำสำระที่ นักเรียนอยำ่ งเตม็ ควำมสำมำรถในกำรจัดกจิ กรรม กำร หลำกหลำยเหมำะกับควำมต้องกำรของสงั คม ท่ีไม่ เรยี นรูท้ ุกครง้ั ผ่ำนกำรจัดกจิ กรรมกำรเรียนรู้ ที่ จำเป็นจะต้องสอื่ สำรเพียงเน้ือหำในบทเรยี นเท่ำนัน้ หลำกหลำยเชน่ กำรทดลอง กำรทำโครงงำน กำร ควรเพม่ิ ควำมรู้เก่ียวกบั ทักษะทำงอำชีพ ควำมคิด สืบเสำะ กำรวิเครำะห์ ครผู ู้สอนมกี ำรประเมินผู้เรยี น สรำ้ งสรรค์ ทักษะชีวติ และควำมรใู้ นวฒั นธรรมไทยท่ี อย่ำงเปน็ ระบบท้งั กำรประเมินเพอื่ พฒั นำและประเมิน หำยไป ตอกยำ้ กำรอนุรกั ษ์ควำมเป็นไทยของสงั คมท่ี เพื่อตัดสินโดยดำเนินกำรวิเครำะห์ควำมสำมำรถของ เจริญด้วยวัฒนธรรมอันสงบ งดงำม เนือ่ งจำกโรงเรยี น
24 จดุ เดน่ จดุ ที่ควรพัฒนา ผ้เู รยี นตำมกลุ่มสำระ แลว้ นำผลกำรวิเครำะห์มำ มีขนำดเล็ก มีจำนวนครูนอ้ ย จึงไมส่ ำมำรถเขำ้ กลมุ่ ออกแบบกำรเรียนรู้ ขณะจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ มกี ำร ชมุ ชนแหง่ กำรเรียนร้ใู นสำระกำรเรียนรูเ้ ดียวกนั ได้ ประเมินผ้เู รยี นตำมจุดประสงคแ์ ล้วใหผ้ ลสะทอ้ นกลบั กำรจัดครูเข้ำร่วมในชุมชนเดียวกนั จงึ ควรเลือก แก่ผู้เรยี นพร้อมกับใหค้ ำแนะนำ เพ่ือใหผ้ ู้เรยี นสำมำรถ ครผู สู้ อนท่ีมีพนื้ ฐำนสำระกำรเรยี นรู้ที่เป็นไปในทศิ ทำง ปรบั ปรุงและพฒั นำตนเองได้ มีกำรสอนซ่อมและสอน เดยี วกนั เชน่ ภำษำไทยกบั ภำษำอังกฤษ, คณิตศำสตร์ เสริมสำหรับนักเรียนทมี่ ีควำมสำมำรถตำ่ งกนั โดยยึด กับวทิ ยำกำรคำนวณ เป็นตน้ กำรเรียนรู้ตำมศักยภำพของผ้เู รียนเป็นสำคัญ ครูทำ วจิ ัยในช้ันเรยี นเพื่อพัฒนำนกั เรยี นทัง้ ดำ้ นผลสมั ฤทธิ์ ทำงกำรเรียนและคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ให้ กำลงั ใจเสรมิ แรง ไม่ท้ิงนกั เรียนออ่ นไวห้ ลงั หอ้ ง สนับสนนุ และเปิดโอกำสให้ผ้เู รยี นทกุ คนได้ปฏบิ ตั ิ กจิ กรรมทุกอย่ำงทจ่ี ัดข้นึ อย่ำงเท่ำเทยี มกัน ครเู ปิดใจ ยอมรับควำมคดิ เห็นของเพื่อนร่วมงำน และมีกำร พัฒนำตนเองอย่ำงต่อเน่ืองตลอดเวลำโดยเข้ำรับกำร พฒั นำทงั้ จำกตน้ สังกัดและจำกกำรวเิ ครำะหค์ วำม ตอ้ งกำรของครูภำยในโรงเรยี นแล้วนำมำจัดทำ โครงกำรพัฒนำศกั ยภำพดำ้ นกำรจดั กำรเรยี นรภู้ ำยใน สถำนศึกษำ มกี ำรแลกเปลี่ยนประสบกำรณ์ด้ำนกำร จัดกำรเรียนรสู้ ม่ำเสมอทำให้สำมำรถปรับปรงุ กระบวนกำรจดั กำรเรียนรู้ได้ตลอดเวลำ โรงเรยี นมีกำร สร้ำงช่องทำงกำรเรียนรผู้ ำ่ นระบบออนไลน์ที่ หลำกหลำย ครแู ละบุคลำกรทุกคนมีส่วนรว่ มในกำร สรำ้ งช่องทำงกำรเรยี นรู้แบบออนไลน์ ชมุ ชนใหก้ ำร สนับสนุนในกำรเรียนรโู้ ดยมีกำรเข้ำมำบรรยำย สำธิต และอบรมเชิงปฏิบตั ิกำรแก่นักเรียนอยำ่ งสมำ่ เสมอ โรงเรยี นสำมำรถตดิ ต่อประสำนขอควำมร่วมมอื จำก ปรำชญ์ชุมชน หนว่ ยงำนรฐั หน่วยงำนเอกชน และ สถำบันกำรศึกษำระดับสูง มำให้ควำมรู้แก่ผ้เู รียนได้
25 สรุปผลการประเมนิ คุณภาพภายในของสถานศึกษา ระดับการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน ปกี ารศกึ ษา 2562 มาตรฐาน/ประเด็นการพิจารณา ระดบั คุณภาพ มาตรฐานที่ 1 คณุ ภาพของผเู้ รยี น ดีเลศิ 1.1. ผลสมั ฤทธิ์ทำงวชิ ำกำรของผู้เรียน ดีเลศิ 1.2. คุณลักษณะท่พี งึ ประสงคข์ องผ้เู รยี น ดีเลศิ มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบรหิ ารและการจัดการ ดีเลิศ 2.1. มเี ป้ำหมำยวิสยั ทศั น์และพนั ธกจิ ทีส่ ถำนศึกษำกำหนดชัดเจน ดีเลิศ 2.2. มีระบบบรหิ ำรจัดกำรคุณภำพของสถำนศกึ ษำ ดีเลิศ 2.3. ดำเนินงำนพฒั นำวชิ ำกำรทเี่ น้นคุณภำพผเู้ รียนรอบดำ้ นตำมหลกั สูตรสถำนศึกษำ ดีเลศิ และทุกกลมุ่ เปำ้ หมำย 2.4. พัฒนำครูและบคุ ลำกรใหม้ คี วำมเชี่ยวชำญทำงวชิ ำชพี ดีเลิศ 2.5. จัดสภำพแวดลอ้ มทำงกำยภำพและสังคมที่เอื้อต่อกำรจัดเรยี นรู้อย่ำงมีคุณภำพ ดเี ลศิ 2.6. จัดระบบเทคโนโลยีสำรสนเทศเพื่อสนบั สนนุ กำรบริหำรจดั กำรและกำรจัดกำร ดเี ลิศ เรยี นรู้ มาตรฐานท่ี 3 กระบวนการจัดการเรยี นการสอนทเี่ น้นผู้เรยี นเป็นสาคญั ดเี ลศิ 3.1. จัดกำรเรียนรผู้ ำ่ นกระบวนกำรคิดและปฏิบตั ิจรงิ และสำมำรถนำไปประยุกตใ์ ช้ใน ดเี ลศิ ชวี ิตได้ 3.2. ใช้สอื่ เทคโนโลยีสำรสนเทศ และแหล่งเรยี นรทู้ ่เี อื้อต่อกำรเรยี นรู้ ดีเลิศ 3.3. มกี ำรบริหำรจัดกำรช้ันเรยี นเชงิ บวก ดีเลิศ 3.4. ตรวจสอบและประเมินผู้เรยี นอย่ำงเปน็ ระบบ และนำผลมำพฒั นำผู้เรียน ดเี ลศิ 3.5. มกี ำรแลกเปลีย่ นเรียนรู้และให้ข้อมลู สะทอ้ นกลบั เพื่อพฒั นำและปรบั ปรงุ กำรจัดกำร ดีเลศิ เรยี นรู้
26 สว่ นที่ 3 สรปุ ผล แนวทางการพัฒนา และความตอ้ งการชว่ ยเหลอื สรุปผล ผลกำรประเมินตนเองของสถำนศึกษำ ระดบั กำรศึกษำข้ันพ้นื ฐำน ปกี ำรศึกษำ 2562 มำตรฐำนที่ 1 คุณภำพของผู้เรียน อยู่ในระดับ ดีเลิศ มำตรฐำนท่ี 2 กระบวนกำรบริหำรและกำรจัดกำร อยู่ในระดับ ดีเลิศ และมำตรฐำนที่ 3 กระบวนกำรจัดกำรเรียนกำรสอนท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ อยู่ในระดับ ดีเลิศ สรุปผลกำร ประเมินตนเองของสถำนศกึ ษำภำพรวม อย่ใู นระดบั ดีเลิศ แนวทางการพัฒนาในอนาคต 1. มุง่ พัฒนำผลสัมฤทธทิ์ ำงกำรเรยี นของนักเรยี นในทุกระดับชนั้ 2. สง่ เสริมให้ผเู้ รยี นและครู มีประสบกำรณ์ในกำรแขง่ ขันทำงวชิ ำกำร กบั หนว่ ยงำนภำยนอก 3. ควรมกี ำรสอนเสรมิ ในทุกกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ เพ่อื เตรียมสอบ O-NET และสอบแขง่ ขันทำง วิชำกำรในระดับชำติ 4. จัดหำหรอื จดั ให้มกี ำรพัฒนำสอ่ื เทคโนโลยีเพื่อสนบั สนุนกำรจัดกำรศึกษำ พัฒนำครูและนักเรยี นให้ มที ักษะควำมรคู้ วำมสำมำรถตำมทักษะในศตวรรษที่ 21 ความตอ้ งการและการชว่ ยเหลือ ตอ้ งกำรครูปฐมวยั เพ่ือพัฒนำใหเ้ ต็มตำมศกั ยภำพ เนอ่ื งจำกยงั ไมม่ ีครู ที่มคี วำมรดู้ ้ำนกำรจดั กำรเรยี น กำรสอนระดบั ปฐมวยั โดยตรง
27 ภาคผนวก - ประกำศกระทรวงศึกษำธิกำร เร่ืองใหใ้ ชม้ ำตรฐำนกำรศึกษำ ระดับปฐมวยั ระดบั กำรศึกษำข้ันพ้ืนฐำน และระดับกำรศกึ ษำขนั้ พืน้ ฐำนศนู ย์กำรศึกษำพเิ ศษ - ควำมเห็นชอบรำยงำนประจำปขี องสถำนศึกษำของคณะกรรมกำรสถำนศึกษำขนั้ พน้ื ฐำน - คำส่งั แตง่ ต้งั คณะกรรมกำรดำเนนิ งำนประเมนิ คุณภำพตำมมำตรฐำนกำรศึกษำขั้นพื้นฐำนเพ่ือ ประกนั คุณภำพภำยในของสถำนศึกษำ - ผลกำรประเมินภำยนอกรอบแรก รอบสอง และรอบสำม - รำยงำนผลกำรประเมนิ ควำมสำมำรถด้ำนกำรอ่ำนของผเู้ รยี น (Reading Test: RT) ชน้ั ประถมศกึ ษำปีท่ี 1 ปีกำรศกึ ษำ 2562 - รำยงำนผลกำรประเมินคุณภำพกำรศึกษำระดับชำตขิ ้นั พ้ืนฐำน (National Test: NT) ชั้นประถมศึกษำปีที่ 3 ปีกำรศึกษำ 2562 - รำยงำนผลกำรทดสอบทำงกำรศึกษำระดับชำตขิ น้ั พน้ื ฐำน (O-NET) ชั้นประถมศึกษำปีที่ 6 ปกี ำรศกึ ษำ 2562
n:uu?un''r:drsrutorn6uu n::il nl:rir rf, ulru il:v nor 6'r a il:voru o.o urqfliuYm{ rir:rfiud'nei ritirurunr:anrufinrgr n::1]n1: ltav Lat1uftl 1: U o.b ur.rortn:ai urt'uqvrd nl nfl.en b. n 6uufl ::il nlid:c ffi uil1er:fi€1un1 :6inur fi rarirvr' Ier.o.o rirvurrn:olnt:l:vufru rJ:vnar6'ru il:soru
ti:voru n::un''): il:voru n:51.lfl't: il:voru n::iln1: il:voru n::l..ln1:
6.). ulutana::6n v6 il:soru fl::iln1: ?uauLa f,i::iln1: n::iln1: br. urln::nfnr fi::}Jn1: n:5iln'l: 4a fl::1]fl'1: sn. U1{0'lTfllflJ n::iln'l: d. u'rutlvt:u n::lJn1: d. UA n:::Jn1: u']{Y{11:uvt: b. u1{1i'?,7t'l er. uruilrurufrsrd !UU d. u1{6'r'ruclila 6(. U'l{4l?Uf4i4fi'l oo. a U1.ld11[U4f,tU1
il:soru n::iln1: n::1.Jfl1: n::ilfl'): fl::}Jfl'I: n::!Jn1: fl:5tJfl1: fl::lJnl: n:5}Jfl'1: n::lJn1: Ltas Lnl'lufi1: 9 r-l y u1ulifu6ul\\9llu {un? or. iqv fl Le. ul{n::flfn'l 4d en. U1{015filfU d. u1uflvt:u d. u'r{?11J:uvr: b. u'r{1111j'l d er. U\"lUtAnA::Fl d. ul':4l'tufifi''] 4d G(. U1{41?6U6'tU1 oo. U1.id1?1JQtl6
rJ:so'ru il19llf4llUYdtavb fl 5sU?Uf'r1:U:1415$Asfl 154qfl ','l: vl uirto. o fi ra #n agln : n r 0 u n a il rfi'nr ur n r :ri'.r a rir u a o o n do r rYr uvr rL o r fr o t fr to. to d'o n :1rirfi ufl o rir.,d'l G uu U tito. en ei t taBlt#n :sfui nr ur i6 u ? t't fll frlu |n r : 6'rr : v a I n r : vvlJ+vod b.d a-o afl 'rv{ tt? a a oil tla v a o Lil o nl : r; aui a d'xrl n o q Jiu ua v til uw\\ o ov d J ssa oi a vA u vI t Io.d 114u:nr:aorrn1uTa6ar:auivnuavdonr:GuuUiri fioarirauunr:6'a!:ual.rn''l:tu q vv A v t, d , b Ii a, s Ie. }J : U U U U : 14'i : n96!9U fl 1 1\\ vr tU O L0 n 1 A Lv zu t n U ? 0.1 Vl n iJ 1 U l.J A ? U : ? 1l l:snarfrru
o. ul.tn::[tn't il:voru fl:::Jfl'I: 4d n::iln1: fl::iln1: le. U1{0'1:tl:{u n::l.in1: sn. U1{Y{1Il1lYl5 n::1.tn1: n::}.tfl''l: d. ul{vtvtlJ't n::iln15 d. u1uflvt:u nT5ilfl1: u. ururjrurufi'erd n::}.Jfl 't:LLa u Latlu fl 't: lvv 9 6'r. U1dA1?UqxJa d. u1{4l'tu6404 'r 6(. U1{41?il04?,U'l oo. U'ltilfffldllFl4
nan1:il:lrft uqnrnrnRla$a Rraufl oo I:l6uur\"ofit-uto\":lnrtrhrriiuqnurlfln'luuano'rn ffirrr. Tauflo{ rfiar-ufi bd-tD6c rdaunnrrnn I ltl.fl.tsddd *nrn::J*tfrfinnrrnxRrrluam,0{ffinu6ntn firn:rixriiu o, dru 6a dr{uirar: cirung u*eiru l.iliiuuuu 6d.l,gs::r:jnjnaannl:rrhjx:rrfifui loulron$'lmurf?l r::6ilrs1nlr:J.lTqlrrr1llla.tJanr:1glrlxftful eurorr-rrm.deri'ooid.1a.l#tjd riunr:ilnmrlgu{u Ts6UqAlRl?t rliu ad rJr vra1f e il1il { { { siu s::ri 6otnin:o.l un:ii frl?in{ mnrgr*du$iausra\"n:*r1$rnr$f, ?irfi Tr?rrgTran*tminnr:riuuf unsfiunrn*a.r { ,/ d ,/ urargr*d .,r {riu*firinr*Junr:rltru fnnrfirqu srm:nrlrm*i:lriud6utiuacfironn6 ,/ { a1$a: I -.------.C g-\"Il$- nrfl{llLl, n?1ilmilllngr-onusrufli)u-^ft orouun:iitn:rf,d ssilo { I.tolg_.1nl )- \" I lr n:grrrfi a n3fi a:rlnr*r:nlurntfenrriuunr:ea*a drlfi rJ::f,rqinrr{ua;rriu11'. rtuu rilulnfitu q1$fvlautu1t ifu.r_rg.pd-o__\"-if rfi lg$:p:fi l3iuarm:nlunr:uinr:c-onr: m nzgrrfi oe so1$fi nunfi nr:c-aatrin: floanfrssnrnlflr:r,n:itlnoslitrrJll:luu R:u?5a: !e tt a r,1r uTtStulylrl un1:Fin1*1 ,.rrg33d\"to, t_\"il*f f Tlly1yl-!1-!l1li_B1rl-.r\"u_{ag,l-t1i-rt!mfq rrretgrnfideamf,alu6nl*1fiun-nnfl:nlm;srn'un\"6uu*n;rialfiufifiant:riuunr:saudrdoeianr: r:[uu? H----l-n-- lglttv-.1t od so1llfatfll*'lg. Jtffaiun?lllgeilnue iut n:Rruirui,iane:ume ruu1ucnr:rfla!rurnr:ftnur
iaranaunsmn nrnlufi nqaurr;R1 s$a nroustal 1ra-unrrflnuarJgufal ,tou riltrou$! snru6nmn::d.rrsiryl-Rt*;n:rurunrrfiohi{riuuliilnn-nB;n1:Eoirn:.rnd farPnlsrfla,^irr,raard:ar;ri fi arirt a:rd 6a1,nin:al 6 na drliiinrrnrrgr ar a dr.rrfl ursu u c Irurflrn1:uftal ra$ lowautua uu- fuls ttd u1 un n*riu*nr:1d:-urn:riuupdfi nm::lrJ$uhfi t-nLrrrLirrrn:#unfrnr:cnriufi n nr:afi il:r I n,trrr un*ri*n{r nr:*r:rriloff a{ nr:tirloruru olr, od lf{riT tia r fi ul{rJ n n : a.r fi r*: uir ulun r :q us fn ri s rril ;{rfur,lrtrd6riuu1d
'v q 4 il n.t ai4i!a, r\" 9a r+ :c u d:, ofi A n $'} n a #u rBn,t a 0 {ris, du fllotras$,lsnilassH #aXdlnrrflnrr lirea;ro cco faXa&arr6',r o fl nrrihlyr rr 6.rb rjtsr6n o. 1il?llfltbrdTgn Otra$Bt acft euu6i $ uu*fuflu nfi{,ilf,1l3n1:tlultol fl1H4tYtU finrflrriasn; n1ulur.att 6UOtll -*'---_ \"--n-{l'n:r:unrriuuf,-;e-f;,r-o;o*r-a-n-{ fi9[lJu:0rI&t 0a'ru1u$qullAf uuidl]lBfitil tac, frorlJu:auR3 bo.srb i1u?llilt:fluilatnfiil n iit9anr::nr:6uui rYo srfi n rn ert$ruas't\"flta6:tlr flouJu:au8l FIflIIJII:BUHE 'lT(arvu41t1:ouoLu nntailR-l:3n11Trjn':A 9lnilt netuillSflR! ae4 ,TUT']NUET1l fi0tlju:ouR3 $ila0t nwairluanlort,5l19,01l,tfl an1fltadauicquv ?['r0a a na rj.t fl nrrilRul unls d(o v niilarts I E[ H a o-NET o'r fl 6{ir6. :sdut% lr d{rb uasfl nrtfifl yTo a fl1:l:du91$:iu
Ha artilrsrfi nqtamT nn,t srra Rrau rtr]ir rc n-u nr r 6l n* n'r.Cr.gr* : rlt;a *il ntrr I:.rrisufofis\"$te\":\"unr:rJ::fiuqnur1r{R1rJu0nr1R slJ?r.TBUs6r riiafu# bd-bc, r6auun:rnr t lt.rl.bddc ilnnr:il:ctfiuqrurrrurn'ruil0n?4.:flrnuf,n:c't finr:rJxriiu sr 6Y1u 6a riru{uiur: n'run: u*rireuvAr{,Jt.5,-+u--u-vu6tl .relrJaronrxjafiuTogm}rrnlJfl1xrtfl$'ln:T'lufluorr:rldtdohjd l\"n-unr:itRrnfnifupot 1rI*audnurrl oiuffirxunsfhfisrdfilrrj:r n rd f, n}*nguauo'lllfl RrJg c$adtatta]fl r'r-l lr nrgrnfJi--c ririuufi o:trnrrn:n1unr:Eairn:r;f fi ai.uan:ri iim:urg'rar fi n rrrt 6 c rfi .r strri 6 nlninro,r uncfi ifu?is{ urn:grrfAi u foiraiiaufi?inurlurn:uf,.r.r1,rlo?lrf,irunurar :\"nnr:6uuf, un;n-eurnural aUl{flArUArl jittrntgr*fi .l{riauririnu**nrahm*fnnrtfi musrrn:nrim*irun-u$u1a' :trolua{t ulrrgn*d a;finmlrrrr:alun,ufnnr:riuunr:*auatirlfirJrf,n?nru$n: \"+ i'irUr.ll a,U'^l$Hrrful: Iiatunlflt:l,l'1:oon1: r--\"_l_n_.T- f l$r-d4 e6 f, . nulr,4ln1T3ysoitfidn: /,tfR:.!ilfr.rufl tnr:u?ur:lruadrltilu:suu o'luf, .;11?.tottu! nl:flnu1 6b SnlUflAAnElrrnl:?6non:fllu8in1tt rl1argl$l,Il ocr fln'tufalntrlr,i4lnnyBfi:t?IrJ13fr$nue{tTuuauun3ti'o,.lfru; iaitJonl:tiuunr:rau fila0na rl-1 ff :91rrtdr od A nul(.rtrff,:iarJfl ?1uef,ilxe(ufun;nrui\",lruialan! ugltulur nrt{-o&ur Hn1ufl I a:IfinU'l
fIa).Ara.UnAo.JuTr,rsornnrrd:rtS*qnrn1ilR1s$anrout{o0 (t;dunT :f;lnunl'uiiugtr : rlrcaililnu,T ; il1nt6c1llr1d tlt toLdraou$; d snrudntnnr:d.t rsiryinurn::urunr:5n hisiria$ldfr nyinucnr:6oirn:r:f ll - 0 e 3a o v dffTtnf na eI telnr Ta n a I $d-?s'):tltqntn o gr1nteill$:3uu R friltn:131rr ff tr:1 ne o u'ln rlrrr-.alvaau u1 LUl|f{rnlTUnUn lOrUtlJUUflU eA le[ou Tiln1:[:aguTiwluA4na3fl T:lrlJrrnlaudqnillo re ts. u nlTfy[unfvi n'lTaaueufAi n E'ul rr:uuaufl?T ud nr:sfr ilfl a n1:T1 u it 1 unhn t-t nl:*rfl oyr o n a.i nlTyitln:lm truwleiyh uurfi nu-o tfiaTil f & f[nT{nl:sa r il tffaril QlunBtr!itl E\"l:snlTttauut?uI)aiJr.t fl n1:tTr uu6I'] [0 ua o u$a ob,od tfrilrEh,uftatu$u/pitjner:arSrirui:rlunlrou0fntiuurJ*dr:'u d'rXrfiiriuuleirdmutdl ftnuRlvl
Search