Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 008 มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

008 มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

Description: 008 มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

Search

Read the Text Version

มาตรฐานการเรียนรูแŒ ละตวั ชว้ี ัดฯ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) 41 สาระท่ี ๑ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ มาตรฐาน ว ๑.๒ เข้ำใจสมบตั ิของสิ่งมชี วี ิต หนว่ ยพนื้ ฐำนของสง่ิ มชี ีวติ กำรล�ำเลียงสำรเขำ้ และออกจำกเซลล ์ ควำมสมั พนั ธข์ องโครงสรำ้ งและหนำ้ ทขี่ องระบบตำ่ ง ๆ ของสตั วแ์ ละมนษุ ยท์ ที่ ำ� งำนสมั พนั ธก์ นั ควำมสัมพันธ์ของโครงสร้ำงและหน้ำที่ของอวัยวะต่ำง ๆ ของพืชท่ีท�ำงำนสัมพันธ์กัน รวมทั้งน�ำควำมรู้ไปใชป้ ระโยชน ์ (ตอ่ ) ตวั ชว้ี ัดชนั้ ป ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖ และบรรยำย หนำ้ ท่ขี อง อวยั วะในระบบ ย่อยอำหำร รวมท้ังอธิบำย กำรย่อยอำหำร และกำรดูดซมึ สำรอำหำร ๕. ตระหนักถึง ควำมสำ� คัญของ ระบบย่อยอำหำร โดยกำรบอก แนวทำงในกำร ดแู ลรักษำอวัยวะ ในระบบ ย่อยอำหำร ใหท้ �ำงำน เป็นปกติ

42 มาตรฐานการเรียนรูแŒ ละตวั ชีว้ ดั ฯ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) สาระที่ ๑ วทิ ยาศาสตรช์ วี ภาพ มาตรฐาน ว ๑.๒ เขำ้ ใจสมบตั ิของส่งิ มีชวี ิต หนว่ ยพืน้ ฐำนของส่ิงมีชีวิต กำรล�ำเลยี งสำรเขำ้ และออกจำกเซลล ์ ควำมสมั พนั ธข์ องโครงสรำ้ งและหนำ้ ทขี่ องระบบตำ่ ง ๆ ของสตั วแ์ ละมนษุ ยท์ ที่ ำ� งำนสมั พนั ธก์ นั ควำมสัมพันธ์ของโครงสร้ำงและหน้ำที่ของอวัยวะต่ำง ๆ ของพืชท่ีท�ำงำนสัมพันธ์กัน รวมทัง้ น�ำควำมรู้ไปใช้ประโยชน์ (ต่อ) ม. ๑ ม. ๒ ตัวชวี้ ดั ชัน้ ป ม. ๕ ม. ๖ ม. ๓ ม. ๔ - - ๑. เปรียบเทียบ ๑. ระบอุ วยั วะและ รูปรำ่ ง ลกั ษณะ บรรยำยหนำ้ ที่ - ๑. อธิบำย และโครงสรำ้ ง ของอวัยวะ โครงสร้ำงและ ของเซลล์พชื ทเี่ กยี่ วข้อง สมบตั ิของ และเซลลส์ ตั ว ์ ในระบบหำยใจ เย่ือหุม้ เซลล์ รวมทัง้ บรรยำย ๒. อธิบำยกลไก ทสี่ มั พนั ธก์ ับ หน้ำที่ของผนงั กำรหำยใจเข้ำ กำรล�ำเลยี งสำร เซลล์ เยื่อห้มุ และออก และเปรยี บเทียบ เซลล ์ ไซโทพลำ โดยใช้แบบจ�ำลอง กำรลำ� เลยี งสำร ซมึ นิวเคลียส รวมทงั้ อธบิ ำย ผำ่ นเย่อื หุม้ เซลล์ แวคิวโอล กระบวนกำร แบบตำ่ ง ๆ ไมโทคอนเดรีย แลกเปลย่ี นแกส และคลอโรพลำสต์ ๓. ตระหนักถึง ๒. อธิบำย ๒. ใช้กลอ้ งจลุ ทรรศน์ ควำมส�ำคญั ของ กำรควบคมุ ใช้แสงศึกษำ ระบบหำยใจ ดลุ ยภำพของน้ำ� เซลลแ์ ละ โดยกำรบอก และสำรในเลือด โครงสรำ้ งต่ำง ๆ แนวทำงในกำร โดยกำรทำ� งำน ภำยในเซลล์ ดแู ลรักษำอวัยวะ ของไต ๓. อธบิ ำย ในระบบหำยใจ ควำมสัมพันธ์ ใหท้ �ำงำน ๓. อธบิ ำย ระหวำ่ งรปู รำ่ ง เปน็ ปกติ กำรควบคุม กบั กำรทำ� หนำ้ ท่ี ๔. ระบอุ วยั วะและ ดลุ ยภำพ ของเซลล์ บรรยำยหนำ้ ท่ี ของกรด-เบส ๔. อธิบำย ของอวยั วะ ของเลือด กำรจดั ระบบ ในระบบขับถ่ำย โดยกำรท�ำงำน ของส่งิ มีชีวิต ในกำรกำ� จดั ของไตและปอด โดยเรม่ิ จำกเซลล์ ของเสียทำงไต เน้อื เยื่อ อวัยวะ ๕. ตระหนกั ถงึ ๔. อธบิ ำย ระบบอวัยวะ ควำมสำ� คัญของ กำรควบคมุ จนเป็นส่ิงมชี ีวติ ระบบขบั ถ่ำย ดุลยภำพ ๕. อธบิ ำย ในกำรกำ� จัด ของอณุ หภมู ิ กระบวนกำรแพร่ ของเสยี ทำงไต ภำยในร่ำงกำย และออสโมซสิ โดยกำรบอก โดยระบบ จำกหลักฐำน แนวทำง หมุนเวยี นเลอื ด ผวิ หนงั และ กล้ำมเนือ้ โครงร่ำง

มาตรฐานการเรียนรูŒและตวั ช้ีวดั ฯ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) 43 สาระที่ ๑ วทิ ยาศาสตร์ชวี ภาพ มาตรฐาน ว ๑.๒ เขำ้ ใจสมบตั ขิ องสง่ิ มีชีวิต หนว่ ยพืน้ ฐำนของส่ิงมีชีวติ กำรลำ� เลยี งสำรเขำ้ และออกจำกเซลล์ ควำมสมั พนั ธข์ องโครงสรำ้ งและหนำ้ ทขี่ องระบบตำ่ ง ๆ ของสตั วแ์ ละมนษุ ยท์ ท่ี ำ� งำนสมั พนั ธก์ นั ควำมสัมพันธ์ของโครงสร้ำงและหน้ำที่ของอวัยวะต่ำง ๆ ของพืชท่ีท�ำงำนสัมพันธ์กัน รวมทงั้ นำ� ควำมรูไ้ ปใช้ประโยชน์ (ตอ่ ) ม. ๑ ม. ๒ ตวั ชีว้ ดั ชน้ั ป ม. ๕ ม. ๖ ม. ๓ ม. ๔ เชงิ ประจกั ษ ์ ในกำรปฏิบตั ติ น และยกตวั อย่ำง ทีช่ ่วยให้ ๕. อธิบำย กำรแพร่และ ระบบขบั ถำ่ ย และเขยี นแผนผงั ออสโมซสิ ทำ� หน้ำท่ี เก่ียวกับ ในชีวิตประจำ� วัน ได้อย่ำงปกติ กำรตอบสนอง ๖. ระบุปจั จยั ๖. บรรยำย ของร่ำงกำย ทจี่ ำ� เปน็ ในกำร โครงสรำ้ งและ แบบไมจ่ �ำเพำะ สงั เครำะหด์ ว้ ย หน้ำท่ีของหวั ใจ และแบบจ�ำเพำะ แสงและผลผลติ หลอดเลอื ด ต่อส่งิ แปลกปลอม ท่เี กิดขึน้ จำก และเลอื ด ของร่ำงกำย กำรสงั เครำะห์ ๗. อธิบำย ด้วยแสง กำรท�ำงำน ๖. สืบค้นขอ้ มลู โดยใช้หลักฐำน ของระบบ อธบิ ำยและ เชงิ ประจักษ์ หมุนเวียนเลือด ยกตัวอย่ำงโรค ๗. อธบิ ำย โดยใช้แบบ หรืออำกำร ควำมส�ำคัญของ จ�ำลอง ที่เกดิ จำก กำรสังเครำะห์ ๘. ออกแบบ ควำมผดิ ปกติ ดว้ ยแสงของพืช กำรทดลองและ ของระบบ ตอ่ สงิ่ มีชีวิตและ ทดลองในกำร ภมู ิคุม้ กัน สิ่งแวดลอ้ ม เปรยี บเทียบ ๘. ตระหนัก อตั รำกำรเต้น ๗. อธบิ ำยภำวะ ในคณุ ค่ำของพชื ของหวั ใจ ภูมิคมุ้ กนั ทมี่ ตี อ่ สิ่งมีชีวติ ขณะปกติและ บกพรอ่ งทีม่ ี และสิ่งแวดลอ้ ม หลังท�ำกิจกรรม สำเหตมุ ำจำก โดยกำรรว่ มกัน ๙. ตระหนกั ถึง กำรตดิ เชื้อ HIV ปลูกและดูแล ควำมสำ� คัญ รักษำตน้ ไม้ ของระบบ ๘. ทดสอบและ ในโรงเรียน หมนุ เวยี นเลือด บอกชนดิ ของ และชมุ ชน โดยกำรบอก สำรอำหำรท่พี ชื ๙. บรรยำยลักษณะ แนวทำงในกำร สังเครำะห์ได้ และหน้ำทขี่ อง ดแู ลรักษำ ไซเลม็ และ อวัยวะในระบบ ๙. สบื คน้ ข้อมูล โฟลเอ็ม หมนุ เวยี นเลอื ด อภิปรำย และ ให้ท�ำงำนเปน็ ปกติ ยกตัวอย่ำง เก่ยี วกับกำรใช้ ประโยชน์ จำกสำรต่ำง ๆ ที่พืชบำงชนิด สรำ้ งข้นึ

44 มาตรฐานการเรยี นรูŒและตัวชีว้ ดั ฯ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) สาระที่ ๑ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ มาตรฐาน ว ๑.๒ เขำ้ ใจสมบตั ขิ องส่งิ มชี วี ิต หน่วยพนื้ ฐำนของสิง่ มีชวี ิต กำรลำ� เลียงสำรเขำ้ และออกจำกเซลล์ ควำมสมั พนั ธข์ องโครงสรำ้ งและหนำ้ ทขี่ องระบบตำ่ ง ๆ ของสตั วแ์ ละมนษุ ยท์ ที่ ำ� งำนสมั พนั ธก์ นั ควำมสัมพันธ์ของโครงสร้ำงและหน้ำท่ีของอวัยวะต่ำง ๆ ของพืชท่ีท�ำงำนสัมพันธ์กัน รวมทั้งน�ำควำมรูไ้ ปใช้ประโยชน์ (ต่อ) ม. ๑ ม. ๒ ตัวช้ีวดั ชัน้ ป ม. ๕ ม. ๖ ม. ๓ ม. ๔ ๑๐. เขยี นแผนภำพ ๑๐. ระบุอวยั วะและ ท่บี รรยำยทิศทำง บรรยำยหน้ำท่ี ๑๐. ออกแบบ กำรลำ� เลยี งสำร ของอวัยวะ กำรทดลอง ในไซเลม็ และ ในระบบประสำท ทดลอง และ โฟลเอ็มของพืช ส่วนกลำง อธิบำยเกยี่ วกบั ๑๑. อธบิ ำย ในกำรควบคุม ปจั จัยภำยนอก กำรสบื พนั ธุ์ กำรท�ำงำนต่ำง ๆ ท่มี ีผลต่อ แบบอำศัยเพศ ของรำ่ งกำย กำรเจริญเตบิ โต และไม่อำศยั เพศ ๑๑. ตระหนกั ถึง ของพชื ของพชื ดอก ควำมสำ� คัญของ ๑๒. อธิบำย ระบบประสำท ๑๑. สบื ค้นข้อมูล ลกั ษณะโครงสร้ำง โดยกำรบอก เกี่ยวกบั ของดอกทมี่ ีสว่ น แนวทำง สำรควบคมุ ทำ� ใหเ้ กดิ ในกำรดแู ลรกั ษำ กำรเจริญเตบิ โต กำรถำ่ ยเรณู รวมถึงกำรปอ้ งกนั ของพืชทีม่ นษุ ย์ รวมทง้ั บรรยำย กำรกระทบ สงั เครำะหข์ นึ้ กำรปฏสิ นธิของ กระเทือน และยกตวั อยำ่ ง พืชดอก กำรเกิดผล และอันตรำย กำรน�ำมำ และเมล็ด ตอ่ สมองและ ประยุกต์ใช้ กำรกระจำยเมล็ด ไขสนั หลัง ทำงดำ้ นกำรเกษตร และกำรงอก ๑๒. ระบุอวัยวะและ ของพชื ของเมล็ด บรรยำยหน้ำท่ี ๑๓. ตระหนักถึง ของอวัยวะ ๑๒. สงั เกตและอธิบำย ควำมส�ำคัญ ในระบบสืบพนั ธ์ุ กำรตอบสนอง ของสัตวท์ ชี่ ่วย ของเพศชำย ของพืชตอ่ ส่ิงเร้ำ ในกำรถ่ำยเรณู และเพศหญิง ในรูปแบบต่ำง ๆ ที่มีผลต่อกำร ด�ำรงชีวติ ของพืชดอก โดยใช้แบบจำ� ลอง โดยกำร ๑๓. อธบิ ำยผล ไมท่ �ำลำยชีวติ ของฮอรโ์ มน ของสัตว์ทช่ี ว่ ย เพศชำยและ ในกำรถ่ำยเรณู เพศหญิง ๑๔. อธิบำย ที่ควบคุม ควำมส�ำคัญ กำรเปลย่ี นแปลง ของธำตอุ ำหำร ของร่ำงกำย

มาตรฐานการเรียนรŒูและตัวช้ีวดั ฯ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) 45 สาระที่ ๑ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ มาตรฐาน ว ๑.๒ เขำ้ ใจสมบตั ขิ องสงิ่ มชี วี ิต หน่วยพืน้ ฐำนของสง่ิ มชี ีวิต กำรล�ำเลยี งสำรเขำ้ และออกจำกเซลล ์ ควำมสมั พนั ธข์ องโครงสรำ้ งและหนำ้ ทข่ี องระบบตำ่ ง ๆ ของสตั วแ์ ละมนษุ ยท์ ท่ี ำ� งำนสมั พนั ธก์ นั ควำมสัมพันธ์ของโครงสร้ำงและหน้ำที่ของอวัยวะต่ำง ๆ ของพืชที่ท�ำงำนสัมพันธ์กัน รวมทงั้ นำ� ควำมรไู้ ปใช้ประโยชน์ (ต่อ) ตัวช้ีวดั ชน้ั ป ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖ บำงชนดิ ที่มผี ลตอ่ เม่ือเขำ้ สู่ กำรเจริญเติบโต วัยหนุ่มสำว และกำรด�ำรงชีวิต ๑๔. ตระหนกั ถึง ของพืช กำรเปลย่ี นแปลง ๑๕. เลอื กใชป้ ยุ ของรำ่ งกำย ทีม่ ธี ำตอุ ำหำร เม่อื เข้ำสู่ เหมำะสมกบั พืช วัยหนุม่ สำว ในสถำนกำรณ์ โดยกำรดูแล ทกี่ ำ� หนด รักษำร่ำงกำย ๑๖. เลือกวธิ กี ำร และจติ ใจ ขยำยพันธุพ์ ืช ของตนเอง ให้เหมำะสม ในชว่ งทม่ี กี ำร กับควำมต้องกำร เปลีย่ นแปลง ของมนษุ ย์ ๑๕. อธบิ ำยกำรตกไข่ โดยใช้ควำมรู้ กำรมปี ระจำ� เดือน เก่ยี วกบั กำร กำรปฏสิ นธ ิ และ สบื พนั ธุข์ องพชื กำรพฒั นำของ ๑๗. อธบิ ำย ไซโกต จนคลอด ควำมส�ำคญั เปน็ ทำรก ของเทคโนโลยี ๑๖. เลือกวธิ ีกำร กำรเพำะเลยี้ ง คมุ กำ� เนิด เนื้อเยื่อพืชใน ทเี่ หมำะสมกบั กำรใช้ประโยชน์ สถำนกำรณ์ ด้ำนต่ำง ๆ ท่ีก�ำหนด ๑๘. ตระหนกั ถึง ๑๗. ตระหนักถึง ประโยชนข์ อง ผลกระทบของ กำรขยำย กำรตง้ั ครรภ์ พนั ธุ์พชื ก่อนวยั อนั ควร โดยกำรน�ำ โดยกำร ควำมรไู้ ปใช้ ประพฤติตน ในชวี ติ ประจ�ำวนั ใหเ้ หมำะสม

46 มาตรฐานการเรยี นรแŒู ละตวั ชี้วัดฯ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) สาระที่ ๑ วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ มาตรฐาน ว ๑.๓ เขำ้ ใจกระบวนกำรและควำมสำ� คญั ของกำรถ่ำยทอดลกั ษณะทำงพนั ธุกรรม สำรพันธุกรรม กำรเปล่ียนแปลงทำงพันธุกรรมที่มีผลต่อส่ิงมีชีวิต ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพและ ววิ ฒั นำกำรของสิ่งมชี ีวิต รวมท้ังนำ� ควำมรู้ไปใช้ประโยชน์ ตวั ชว้ี ัดชน้ั ป ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖ - ๑. เปรียบเทยี บ - ลักษณะของ - ๑. จำ� แนกสิ่งมีชวี ติ ๑. อธบิ ำยลกั ษณะ สงิ่ มีชีวิตและ โดยใช้ควำมเหมือน ทำงพันธกุ รรม สิ่งไมม่ ีชวี ิต และควำมแตกตำ่ ง ทีม่ กี ำรถ่ำยทอด จำกขอ้ มลู ของลักษณะ จำกพอ่ แมส่ ู่ลกู ทร่ี วบรวมได้ ของส่ิงมชี ีวิต ของพืช สตั ว์ ออกเป็นกล่มุ พืช และมนุษย์ กล่มุ สตั ว์ และ ๒. แสดงควำม กลมุ่ ทไ่ี ม่ใช่พชื อยำกรอู้ ยำกเห็น และสตั ว์ โดยกำรถำม ๒. จำ� แนกพชื ออกเปน็ คำ� ถำมเก่ียวกบั พืชดอกและ ลกั ษณะที่ พชื ไม่มดี อก คล้ำยคลึงกนั โดยใชก้ ำรมีดอก ของตนเอง เปน็ เกณฑ์ กบั พ่อแม่ โดยใช้ขอ้ มลู ทีร่ วบรวมได้ ๓. จ�ำแนกสตั ว์ ออกเปน็ สตั ว์ มกี ระดกู สันหลัง และสัตวไ์ ม่มี กระดูกสันหลัง โดยใช้กำรมี กระดูกสนั หลัง เป็นเกณฑ์ โดยใช้ขอ้ มลู ที่รวบรวมได้ ๔. บรรยำย ลักษณะเฉพำะ ที่สังเกตได้ ของสัตว์ มีกระดูกสันหลงั ในกลมุ่ ปลำ กลมุ่ สตั ว์

มาตรฐานการเรียนรŒแู ละตวั ชว้ี ัดฯ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) 47 สาระที่ ๑ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ มาตรฐาน ว ๑.๓ เข้ำใจกระบวนกำรและควำมสำ� คัญของกำรถำ่ ยทอดลักษณะทำงพนั ธกุ รรม สำรพนั ธุกรรม กำรเปลี่ยนแปลงทำงพันธุกรรมท่ีมีผลต่อส่ิงมีชีวิต ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพและ ววิ ัฒนำกำรของสง่ิ มชี ีวิต รวมทัง้ นำ� ควำมรู้ไปใชป้ ระโยชน์ (ตอ่ ) ตวั ชีว้ ัดชัน้ ป ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖ สะเทนิ น้ำ� สะเทินบก กลุ่มสัตว์ เล้ือยคลำน กลมุ่ นก และ กลุ่มสัตว์เลีย้ งลูก ดว้ ยนำ้� นม และยกตวั อย่ำง สงิ่ มีชวี ติ ในแต่ละกล่มุ

48 มาตรฐานการเรียนรูŒและตัวชวี้ ัดฯ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) สาระท่ี ๑ วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ มาตรฐาน ว ๑.๓ เขำ้ ใจกระบวนกำรและควำมส�ำคัญของกำรถำ่ ยทอดลกั ษณะทำงพนั ธกุ รรม สำรพันธุกรรม กำรเปล่ียนแปลงทำงพันธุกรรมท่ีมีผลต่อส่ิงมีชีวิต ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพและ วิวฒั นำกำรของส่ิงมชี ีวิต รวมทัง้ นำ� ควำมรู้ไปใชป้ ระโยชน ์ (ต่อ) ตัวช้วี ดั ชั้นป ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖ - - ๑. อธบิ ำยควำม ๑. อธิบำย - - สัมพนั ธ์ระหว่ำง ควำมสมั พันธ์ ยนี ดเี อ็นเอ ระหว่ำงยนี และโครโมโซม กำรสงั เครำะห์ โดยใชแ้ บบจำ� ลอง โปรตีน และ ๒. อธบิ ำย ลักษณะทำง กำรถำ่ ยทอด พนั ธุกรรม ลกั ษณะทำง ๒. อธบิ ำยหลกั กำร พันธกุ รรม ถำ่ ยทอดลกั ษณะ จำกกำรผสม ทถี่ กู ควบคุม โดยพจิ ำรณำ ดว้ ยยนี ทีอ่ ยบู่ น ลกั ษณะเดยี ว โครโมโซมเพศ ท่ีแอลลลี เด่น และมลั ตเิ ปล ข่มแอลลลี ดอ้ ย แอลลลี อย่ำงสมบรู ณ์ ๓. อธบิ ำยผล ๓. อธิบำย ท่ีเกดิ จำก กำรเกิดจีโนไทป์ กำรเปลยี่ นแปลง และฟีโนไทป์ ลำ� ดับนวิ คลโี อไทด์ ของลกู และ ในดเี อ็นเอ คำ� นวณอตั รำสว่ น ต่อกำรแสดง กำรเกิดจีโนไทป์ ลักษณะของ และฟีโนไทป์ สิ่งมีชีวิต ของรุ่นลูก ๔. สืบค้นขอ้ มลู และ ๔. อธิบำย ยกตวั อยำ่ งกำร ควำมแตกต่ำง น�ำมวิ เทชนั ไปใช้ ของกำรแบ่งเซลล์ ประโยชน์ แบบไมโทซิส ๕. สืบค้นข้อมลู และไมโอซสิ และอภปิ รำยผล ๕. บอกไดว้ ำ่ ของเทคโนโลยี กำรเปล่ยี นแปลง ทำงดีเอน็ เอ ของยนี หรอื ที่มีตอ่ มนุษย์ โครโมโซม และสงิ่ แวดลอ้ ม อำจทำ� ใหเ้ กิด

มาตรฐานการเรียนรแูŒ ละตัวช้ีวดั ฯ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) 49 สาระที่ ๑ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ มาตรฐาน ว ๑.๓ เขำ้ ใจกระบวนกำรและควำมสำ� คญั ของกำรถ่ำยทอดลกั ษณะทำงพนั ธกุ รรม สำรพนั ธกุ รรม กำรเปล่ียนแปลงทำงพันธุกรรมท่ีมีผลต่อส่ิงมีชีวิต ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพและ ววิ ัฒนำกำรของสง่ิ มชี ีวติ รวมทง้ั น�ำควำมรไู้ ปใช้ประโยชน ์ (ต่อ) ตวั ชี้วัดช้ันป ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖ โรคทำงพันธุกรรม ๖. สบื คน้ ขอ้ มลู พร้อมทง้ั อธบิ ำย และ ยกตัวอยำ่ ง ยกตวั อยำ่ ง โรคทำงพันธุกรรม ควำมหลำกหลำย ๖. ตระหนักถึง ของส่ิงมีชีวิต ประโยชนข์ อง ซง่ึ เป็นผลมำจำก ควำมร้เู รอ่ื งโรค ววิ ัฒนำกำร ทำงพนั ธุกรรม โดยร้วู ำ่ กอ่ นแตง่ งำน ควรปรึกษำแพทย์ เพอ่ื ตรวจ และวนิ ิจฉยั ภำวะเสยี่ งของลกู ที่อำจเกิดโรค ทำงพนั ธกุ รรม ๗. อธบิ ำยกำรใช้ ประโยชน์จำก สง่ิ มีชีวิตดดั แปร พันธกุ รรมและ ผลกระทบท่ี อำจมีตอ่ มนุษย์ และสิ่งแวดลอ้ ม โดยใชข้ ้อมลู ที่ รวบรวมได ้ ๘. ตระหนักถงึ ประโยชนแ์ ละ ผลกระทบ ของสิ่งมชี วี ติ ดดั แปรพันธกุ รรม ที่อำจมตี อ่ มนษุ ย์ และส่ิงแวดล้อม โดยกำรเผยแพร่

50 มาตรฐานการเรียนรูŒและตัวชว้ี ดั ฯ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) สาระที่ ๑ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ มาตรฐาน ว ๑.๓ เข้ำใจกระบวนกำรและควำมส�ำคญั ของกำรถำ่ ยทอดลกั ษณะทำงพันธกุ รรม สำรพนั ธุกรรม กำรเปล่ียนแปลงทำงพันธุกรรมที่มีผลต่อสิ่งมีชีวิต ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพและ วิวัฒนำกำรของสง่ิ มชี วี ิต รวมทง้ั นำ� ควำมรู้ไปใช้ประโยชน ์ (ตอ่ ) ตวั ชี้วดั ชน้ั ป ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖ ควำมรทู้ ่ไี ดจ้ ำก กำรโตแ้ ยง้ ทำง วิทยำศำสตร์ ซึง่ มีขอ้ มลู สนบั สนนุ ๙. เปรยี บเทยี บ ควำมหลำกหลำย ทำงชีวภำพ ในระดับชนดิ ส่งิ มชี วี ิตในระบบ นิเวศต่ำง ๆ ๑๐. อธบิ ำย ควำมสำ� คญั ของ ควำมหลำกหลำย ทำงชวี ภำพ ทม่ี ตี อ่ กำรรกั ษำ สมดลุ ของระบบ นเิ วศ และ ตอ่ มนุษย์ ๑๑. แสดงควำม ตระหนกั ในคุณคำ่ และ ควำมสำ� คัญของ ควำมหลำกหลำย ทำงชวี ภำพ โดยมสี ว่ นรว่ ม ในกำรดแู ลรักษำ ควำมหลำกหลำย ทำงชวี ภำพ

มาตรฐานการเรียนรูŒและตัวช้ีวดั ฯ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) 51 สาระท่ี ๒ วิทยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว ๒.๑ เข้ำใจสมบัติของสสำร องค์ประกอบของสสำร ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงสมบัติของสสำร กับโครงสร้ำงและแรงยึดเหนี่ยวระหว่ำงอนุภำค หลักและธรรมชำติของกำรเปลี่ยนแปลง สถำนะของสสำร กำรเกิดสำรละลำย และกำรเกดิ ปฏกิ ิรยิ ำเคมี ตัวช้ีวดั ช้นั ป ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖ ๑. อธิบำยสมบตั ิ ๑. เปรยี บเทียบสมบัติ ๑. อธิบำยว่ำ ๑. เปรยี บเทียบ ๑. อธิบำย ๑. อธบิ ำยและ ทส่ี งั เกตได้ของ กำรดดู ซบั นำ้� วัตถุประกอบข้นึ สมบตั ิทำง กำรเปลย่ี น เปรียบเทยี บ วัสดทุ ่ีใช้ทำ� วตั ถุ ของวสั ดุ จำกชน้ิ ส่วนย่อย ๆ กำยภำพ สถำนะของสสำร กำรแยกสำรผสม ซึ่งทำ� จำกวัสดุ โดยใชห้ ลักฐำน ซึ่งสำมำรถแยก ด้ำนควำมแขง็ เมอื่ ทำ� ใหส้ สำร โดยกำรหยบิ ออก ชนดิ เดียวหรอื เชงิ ประจักษ ์ ออกจำกกันได้ สภำพยดื หยุน่ รอ้ นข้ึนหรือ กำรรอ่ น กำรใช้ หลำยชนดิ และระบุ และประกอบกนั กำรนำ� ควำมร้อน เยน็ ลง โดยใช้ แม่เหลก็ ดงึ ดูด ประกอบกัน กำรน�ำสมบตั ิ เปน็ วัตถุช้นิ ใหม่ได ้ และกำรนำ� ไฟฟำ้ หลกั ฐำน กำรรนิ ออก โดยใช้หลักฐำน กำรดดู ซับน�้ำ โดยใชห้ ลักฐำน ของวสั ดุ เชงิ ประจักษ์ กำรกรอง และ เชิงประจักษ์ ของวสั ดุไป เชงิ ประจักษ์ โดยใชห้ ลกั ฐำน ๒. อธบิ ำย กำรตกตะกอน ๒. ระบุชนิดของ ประยกุ ต์ใช้ ๒. อธิบำย เชิงประจักษ์ กำรละลำย โดยใช้หลักฐำน วัสดุและจดั กลมุ่ ในกำรท�ำวตั ถุ กำรเปลีย่ นแปลง จำกกำรทดลอง ของสำรในน้�ำ เชงิ ประจกั ษ์ วสั ดุตำมสมบัติ ในชวี ติ ประจ�ำวัน ของวัสดุ และระบุ โดยใชห้ ลักฐำน รวมท้งั ระบุ ทส่ี งั เกตได้ ๒. อธบิ ำยสมบตั ิ เมอ่ื ท�ำให้รอ้ นข้นึ กำรนำ� สมบตั ิ เชิงประจกั ษ์ วธิ แี ก้ปญั หำ ทีส่ ังเกตได้ของ หรือทำ� ใหเ้ ย็นลง เร่อื งควำมแขง็ ๓. วิเครำะห์ ในชวี ิตประจำ� วัน วสั ดุทีเ่ กดิ จำก โดยใชห้ ลกั ฐำน สภำพยืดหย่นุ กำรเปล่ยี นแปลง เก่ียวกบั กำร กำรนำ� วสั ดุ เชิงประจกั ษ์ กำรนำ� ควำมร้อน ของสำรเมื่อเกิด แยกสำร มำผสมกัน และกำรน�ำไฟฟำ้ กำรเปล่ยี นแปลง โดยใชห้ ลักฐำน ของวัสดไุ ปใช้ ทำงเคม ี โดยใช้ เชิงประจกั ษ์ ในชีวติ ประจ�ำวนั หลักฐำน ๓. เปรียบเทียบ ผ่ำนกระบวนกำร เชิงประจักษ์ สมบัติทสี่ งั เกตได้ ออกแบบชิ้นงำน ๔. วเิ ครำะหแ์ ละระบุ ของวสั ดุเพ่อื นำ� มำ ๒. แลกเปลี่ยน กำรเปลี่ยนแปลง ทำ� เป็นวัตถุ ควำมคดิ กับผู้อนื่ ท่ผี ันกลบั ได้และ ในกำรใช้งำน โดยกำรอภิปรำย กำรเปล่ยี นแปลง ตำมวัตถปุ ระสงค์ เกย่ี วกับสมบตั ิ ทผ่ี ันกลบั ไม่ได้ และอธิบำย ทำงกำยภำพ กำรน�ำวัสดุทีใ่ ช้ ของวัสดุ แล้วกลับมำใชใ้ หม่ อย่ำงมีเหตุผล โดยใช้หลักฐำน จำกกำรทดลอง เชิงประจกั ษ ์

52 มาตรฐานการเรยี นรูŒและตัวช้ีวัดฯ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) สาระท่ี ๒ วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว ๒.๑ เข้ำใจสมบัติของสสำร องค์ประกอบของสสำร ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงสมบัติของสสำร กับโครงสร้ำงและแรงยึดเหนี่ยวระหว่ำงอนุภำค หลักและธรรมชำติของกำรเปล่ียนแปลง สถำนะของสสำร กำรเกดิ สำรละลำย และกำรเกดิ ปฏกิ ิรยิ ำเคม ี (ต่อ) ป. ๑ ป. ๒ ตวั ชวี้ ัดชั้นป ป. ๕ ป. ๖ ๔. ตระหนักถงึ ป. ๓ ป. ๔ ประโยชน์ของ กำรนำ� วสั ดุ ๓. เปรยี บเทียบ ทใ่ี ช้แล้ว สมบัติของสสำร กลบั มำใชใ้ หม ่ ท้ัง ๓ สถำนะ โดยกำรน�ำ จำกข้อมลู วสั ดทุ ่ใี ชแ้ ล้ว ที่ได้จำก กลบั มำใช้ใหม่ กำรสงั เกตมวล กำรตอ้ งกำรทอี่ ยู่ รปู ร่ำงและ ปรมิ ำตร ของสสำร ๔. ใชเ้ ครือ่ งมอื เพ่ือวดั มวล และปริมำตร ของสสำร ทงั้ ๓ สถำนะ

มาตรฐานการเรยี นรูŒและตวั ช้ีวดั ฯ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) 53 สาระท่ี ๒ วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว ๒.๑ เข้ำใจสมบัติของสสำร องค์ประกอบของสสำร ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงสมบัติของสสำร กับโครงสร้ำงและแรงยึดเหนี่ยวระหว่ำงอนุภำค หลักและธรรมชำติของกำรเปล่ียนแปลง สถำนะของสสำร กำรเกดิ สำรละลำย และกำรเกิดปฏิกิริยำเคมี (ต่อ) ตวั ชว้ี ดั ชั้นป ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖ ๑. ระบวุ ่ำสำร - ๑. อธิบำยสมบัติ ๑. อธบิ ำย ๑. ระบสุ มบัติ - ทำงกำยภำพ กำรแยกสำรผสม ทำงกำยภำพและ เป็นธำตุหรือ บำงประกำรของ โดยกำรระเหยแห้ง กำรใชป้ ระโยชน์ สำรประกอบ ธำตโุ ลหะ อโลหะ กำรตกผลึก วสั ดุประเภท และอยใู่ นรปู และกึ่งโลหะ กำรกลน่ั อย่ำงง่ำย พอลเิ มอร ์ อะตอม โมเลกลุ โดยใช้หลักฐำน โครมำโทกรำฟี เซรำมกิ และ หรือไอออน เชงิ ประจกั ษท์ ีไ่ ด้ แบบกระดำษ วัสดุผสม จำกสตู รเคมี จำกกำรสงั เกต กำรสกัดดว้ ย โดยใชห้ ลกั ฐำน ๒. เปรยี บเทยี บ และกำรทดสอบ ตวั ท�ำละลำย เชงิ ประจักษ์ ควำมเหมอื นและ และใชส้ ำรสนเทศ โดยใชห้ ลกั ฐำน และสำรสนเทศ ควำมแตกต่ำง ที่ได้จำกแหลง่ เชิงประจกั ษ์ ๒. ตระหนักถงึ ของแบบจ�ำลอง ขอ้ มูลต่ำง ๆ ๒. แยกสำรโดยกำร คณุ คำ่ ของกำรใช้ อะตอมของโบร์ รวมทง้ั จัดกลมุ่ ธำตุ ระเหยแหง้ วสั ดปุ ระเภท กับแบบจำ� ลอง เป็นโลหะ อโลหะ กำรตกผลึก พอลิเมอร ์ อะตอมแบบ และกึง่ โลหะ กำรกลัน่ อยำ่ งง่ำย เซรำมกิ กลุ่มหมอก ๒. วิเครำะหผ์ ล โครมำโทกรำฟี และวสั ดุผสม ๓. ระบจุ �ำนวน จำกกำรใชธ้ ำตุ แบบกระดำษ โดยเสนอแนะ โปรตอน โลหะ อโลหะ กำรสกัดดว้ ย แนวทำง นวิ ตรอนและ ก่ึงโลหะ และ ตวั ทำ� ละลำย กำรใช้วัสดุ อิเล็กตรอน ธำตกุ ัมมันตรงั ส ี ๓. น�ำวธิ ีกำร อยำ่ งประหยดั ของอะตอม ทม่ี ตี ่อสง่ิ มชี ีวิต แยกสำรไปใช้ และคุ้มค่ำ และไอออน สง่ิ แวดล้อม แกป้ ญั หำ ๓. อธบิ ำยกำรเกดิ ทเี่ กิดจำก เศรษฐกิจและ ในชีวติ ประจำ� วนั ปฏิกริ ิยำเคมี อะตอมเดยี ว สงั คม จำกข้อมลู โดยบูรณำกำร รวมถึงกำรจดั ๔. เขียนสญั ลกั ษณ์ ที่รวบรวมได้ วทิ ยำศำสตร์ เรียงตัวใหม่ นวิ เคลยี ร์ของ ๓. ตระหนักถงึ คณิตศำสตร์ ของอะตอม ธำตุและระบกุ ำร คณุ ค่ำของกำรใช้ เทคโนโลยี และ เมือ่ กำรเกิด เปน็ ไอโซโทป ธำตุโลหะ อโลหะ วศิ วกรรมศำสตร์ ปฏกิ ิริยำเคมี ๕. ระบุหมู่และ ก่งึ โลหะ ๔. ออกแบบกำร โดยใชแ้ บบ คำบของธำตุ ธำตุกัมมนั ตรังสี ทดลองและ จ�ำลองและ และระบวุ ำ่ ธำตุ โดยเสนอแนวทำง ทดลองในกำร สมกำรขอ้ ควำม เป็นโลหะ กำรใชธ้ ำตุอย่ำง อธิบำยผลของ ๔. อธิบำย อโลหะ ก่งึ โลหะ ปลอดภัย ค้มุ ค่ำ ชนดิ ตวั ละลำย กฎทรงมวล กลมุ่ ธำตุ

54 มาตรฐานการเรียนรูŒและตัวชว้ี ดั ฯ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) สาระท่ี ๒ วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว ๒.๑ เข้ำใจสมบัติของสสำร องค์ประกอบของสสำร ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงสมบัติของสสำร กับโครงสร้ำงและแรงยึดเหน่ียวระหว่ำงอนุภำค หลักและธรรมชำติของกำรเปล่ียนแปลง สถำนะของสสำร กำรเกิดสำรละลำย และกำรเกดิ ปฏกิ ิริยำเคม ี (ต่อ) ตัวชีว้ ัดชัน้ ป ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖ เรพรเี ซนเททฟี ๔. เปรยี บเทียบ ชนดิ ตัวทำ� ละลำย โดยใชห้ ลกั ฐำน หรือกลุม่ ธำตุ จุดเดือด อุณหภูมิ เชิงประจักษ์ แทรนซิชัน จดุ หลอมเหลว ที่มตี ่อสภำพ ๕. วิเครำะห์ จำกตำรำงธำตุ ของสำรบริสทุ ธิ์ ละลำยได้ของสำร ปฏิกิริยำ ๖. เปรยี บเทียบ และสำรผสม รวมท้งั อธบิ ำย ดูดควำมรอ้ น สมบัติ โดยกำรวัด ผลของควำมดนั และปฏิกริ ยิ ำ กำรนำ� ไฟฟ้ำ อุณหภมู ิ ทมี่ ีต่อสภำพ คำยควำมรอ้ น กำรให้และรบั เขยี นกรำฟ ละลำยไดข้ อง จำกกำร อิเล็กตรอน แปลควำมหมำย สำรโดยใช้ เปลี่ยนแปลง ระหว่ำงธำต ุ ข้อมลู จำกกรำฟ สำรสนเทศ พลังงำนควำมร้อน ในกลุ่มโลหะ หรอื สำรสนเทศ ๕. ระบปุ รมิ ำณ ของปฏิกิริยำ กบั อโลหะ ๕. อธิบำยและ ตัวละลำย ๖. อธบิ ำยปฏิกริ ยิ ำ ๗. สืบค้นข้อมลู และ เปรียบเทยี บ ในสำรละลำย กำรเกดิ สนิม น�ำเสนอตัวอย่ำง ควำมหนำแน่น ในหนว่ ย ของเหล็ก ประโยชน์ ของสำรบรสิ ุทธ์ิ ควำมเขม้ ข้น ปฏิกริ ยิ ำของ และอันตรำย และสำรผสม เปน็ รอ้ ยละ กรดกับโลหะ ทเ่ี กดิ จำกธำตุ ๖. ใชเ้ ครอ่ื งมือ ปรมิ ำตรต่อ ปฏกิ ริ ิยำของ เรพรีเซนเททีฟ เพื่อวดั มวลและ ปริมำตร กรดกบั เบส และ และธำตแุ ทรนซิชัน ปริมำตรของ มวลตอ่ มวล และ ปฏิกริ ยิ ำของเบส ๘. ระบวุ ่ำ สำรบริสทุ ธ์ิ มวลต่อปริมำตร กบั โลหะ พนั ธะโคเวเลนต์ และสำรผสม ๖. ตระหนกั ถึง โดยใช้หลักฐำน เป็นพนั ธะเดีย่ ว ๗. อธิบำยเกี่ยวกบั ควำมส�ำคญั ของ เชงิ ประจักษ์ พนั ธะค ู่ หรือ ควำมสัมพันธ์ กำรน�ำควำมรู้ และอธิบำย พนั ธะสำม ระหวำ่ งอะตอม เรอื่ งควำมเขม้ ข้น ปฏิกิริยำ และระบุจ�ำนวน ธำตุ และ ของสำรไปใช้ กำรเผำไหม้ คอู่ เิ ลก็ ตรอน สำรประกอบ โดยยกตัวอยำ่ ง กำรเกดิ ฝนกรด ระหวำ่ งอะตอมคู่ โดยใช้แบบจ�ำลอง กำรใช้สำรละลำย กำรสังเครำะห์ ร่วมพนั ธะ และสำรสนเทศ ในชวี ิตประจำ� วนั ดว้ ยแสง โดยใช้ จำกสูตรโครงสรำ้ ง ๘. อธิบำย อยำ่ งถูกต้อง สำรสนเทศ ๙. ระบุสภำพขั้ว โครงสร้ำงอะตอม และปลอดภยั รวมท้ังเขยี น ของสำร ท่ีประกอบดว้ ย สมกำรข้อควำม ท่โี มเลกลุ โปรตอน แสดงปฏกิ ริ ยิ ำ นวิ ตรอน และ ดงั กล่ำว

มาตรฐานการเรยี นรŒูและตวั ช้วี ัดฯ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) 55 สาระท่ี ๒ วทิ ยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว ๒.๑ เข้ำใจสมบัติของสสำร องค์ประกอบของสสำร ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงสมบัติของสสำร กับโครงสร้ำงและแรงยึดเหนี่ยวระหว่ำงอนุภำค หลักและธรรมชำติของกำรเปลี่ยนแปลง สถำนะของสสำร กำรเกดิ สำรละลำย และกำรเกิดปฏกิ ิรยิ ำเคมี (ต่อ) ตวั ชีว้ ดั ชนั้ ป ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖ อเิ ล็กตรอน ๗. ระบุประโยชน์ ประกอบดว้ ย โดยใช้แบบจำ� ลอง และโทษของ ๒ อะตอม ๙. อธิบำยและ ปฏิกิรยิ ำเคมี ๑๐. ระบุสำรทีเ่ กดิ เปรียบเทียบ ท่ีมีต่อสงิ่ มชี ีวิต พนั ธะไฮโดรเจน กำรจัดเรียง และสิง่ แวดลอ้ ม ไดจ้ ำกสตู ร อนภุ ำค แรงยดึ และยกตัวอยำ่ ง โครงสรำ้ ง เหน่ียวระหว่ำง วธิ กี ำรป้องกัน ๑๑. อธบิ ำยควำม อนภุ ำค และ และแกป้ ญั หำ สมั พนั ธ์ระหว่ำง กำรเคลอ่ื นท่ี ทเี่ กดิ จำก จดุ เดือดของ ของอนุภำคของ ปฏิกริ ยิ ำเคมี สำรโคเวเลนต์ สสำรชนิดเดยี วกัน ที่พบในชวี ติ กบั แรงดึงดูด ในสถำนะของแข็ง ประจำ� วัน จำก ระหวำ่ งโมเลกุล ของเหลวและแกส กำรสบื ค้นขอ้ มูล ตำมสภำพข้วั โดยใช้แบบจำ� ลอง หรอื กำรเกดิ ๑๐. อธบิ ำยควำม ๘. ออกแบบวิธี พันธะไฮโดรเจน สมั พันธร์ ะหว่ำง แกป้ ญั หำ ๑๒. เขยี นสูตรเคมี พลงั งำนควำมร้อน ในชีวติ ประจ�ำวนั ของไอออนและ กบั กำรเปลย่ี น โดยใชค้ วำมรู้ สำรประกอบ สถำนะของสสำร เก่ยี วกบั ไอออนกิ โดยใชห้ ลกั ฐำน ปฏกิ ิริยำเคมี ๑๓. ระบุว่ำสำร เชิงประจักษ์ โดยบูรณำกำร เกดิ กำรละลำย และแบบจ�ำลอง วิทยำศำสตร ์ แบบแตกตวั คณติ ศำสตร ์ หรอื ไมแ่ ตกตัว เทคโนโลยี และ พรอ้ มให้เหตผุ ล วศิ วกรรมศำสตร์ และระบวุ ำ่ สำรละลำยท่ไี ด้ เป็นสำรละลำย อเิ ลก็ โทรไลต ์ หรอื นอนอิเล็ก- โทรไลต์ ๑๔. ระบสุ ำรประกอบ อินทรยี ป์ ระเภท ไฮโดรคำร์บอน

56 มาตรฐานการเรยี นรูแŒ ละตัวชีว้ ดั ฯ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) สาระท่ี ๒ วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว ๒.๑ เข้ำใจสมบัติของสสำร องค์ประกอบของสสำร ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงสมบัติของสสำร กับโครงสร้ำงและแรงยึดเหนี่ยวระหว่ำงอนุภำค หลักและธรรมชำติของกำรเปล่ียนแปลง สถำนะของสสำร กำรเกดิ สำรละลำย และกำรเกดิ ปฏกิ ิริยำเคมี (ตอ่ ) ตวั ชี้วดั ชนั้ ป ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖ วำ่ อิ่มตัวหรือ ไม่อิ่มตวั จำก สูตรโครงสร้ำง ๑๕. สบื คน้ ขอ้ มูล และเปรยี บเทยี บ สมบัติทำง กำยภำพระหว่ำง พอลิเมอรแ์ ละ มอนอเมอร์ ของพอลเิ มอร์ ชนดิ นน้ั ๑๖. ระบุสมบัติ ควำมเปน็ กรด-เบส จำกโครงสรำ้ ง ของสำรประกอบ อินทรยี ์ ๑๗. อธิบำยสมบัติ กำรละลำย ในตัวท�ำละลำย ชนดิ ต่ำง ๆ ของสำร ๑๘. วเิ ครำะห์ และอธิบำย ควำมสมั พันธ์ ระหว่ำงโครงสรำ้ ง กบั สมบัติ เทอรม์ อพลำสตกิ และเทอร์มอเซต ของพอลเิ มอร์ และกำรน�ำ พอลเิ มอรไ์ ปใช้ ประโยชน์

มาตรฐานการเรียนรŒแู ละตวั ชี้วดั ฯ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) 57 สาระท่ี ๒ วิทยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว ๒.๑ เข้ำใจสมบัติของสสำร องค์ประกอบของสสำร ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงสมบัติของสสำร กับโครงสร้ำงและแรงยึดเหน่ียวระหว่ำงอนุภำค หลักและธรรมชำติของกำรเปลี่ยนแปลง สถำนะของสสำร กำรเกิดสำรละลำย และกำรเกิดปฏกิ ิริยำเคมี (ตอ่ ) ตวั ชวี้ ัดชนั้ ป ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖ ๑๙. สืบคน้ ขอ้ มูล และนำ� เสนอ ผลกระทบของ กำรใช้ผลติ ภัณฑ์ พอลิเมอร์ที่มตี อ่ ส่ิงมีชีวิตและ ส่งิ แวดลอ้ ม พรอ้ มแนวทำง ปอ้ งกนั หรอื แก้ไข ๒๐. ระบุสตู รเคมี ของสำรตงั้ ต้น ผลิตภณั ฑ ์ และ แปลควำมหมำย ของสัญลกั ษณ์ ในสมกำรเคมี ของปฏกิ ิริยำเคมี ๒๑. ทดลองและ อธิบำยผลของ ควำมเขม้ ข้น พื้นทผ่ี ิว อณุ หภมู ิ และตัวเร่งปฏิกริ ยิ ำ ทีม่ ผี ลต่ออตั รำ กำรเกิดปฏิกิริยำ เคมี ๒๒. สืบค้นข้อมลู และอธิบำย ปัจจยั ทีม่ ีผลต่อ อัตรำกำรเกดิ ปฏกิ ิรยิ ำเคมี ทใ่ี ช้ประโยชน์ ในชีวิตประจ�ำวนั หรอื ใน อุตสำหกรรม

58 มาตรฐานการเรยี นรแูŒ ละตวั ชีว้ ัดฯ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) สาระที่ ๒ วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว ๒.๑ เข้ำใจสมบัติของสสำร องค์ประกอบของสสำร ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงสมบัติของสสำร กับโครงสร้ำงและแรงยึดเหน่ียวระหว่ำงอนุภำค หลักและธรรมชำติของกำรเปล่ียนแปลง สถำนะของสสำร กำรเกดิ สำรละลำย และกำรเกิดปฏิกริ ยิ ำเคม ี (ต่อ) ตัวชีว้ ดั ช้ันป ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖ ๒๓. อธิบำย ควำมหมำยของ ปฏกิ ริ ิยำรดี อกซ์ ๒๔. อธบิ ำยสมบัติ ของสำรกัมมันตรังสี และค�ำนวณ คร่งึ ชวี ติ และ ปรมิ ำณของ สำรกัมมันตรังสี ๒๕. สืบค้นข้อมูลและ น�ำเสนอตวั อย่ำง ประโยชน์ของ สำรกมั มันตรังสี และกำรป้องกนั อันตรำย ทเ่ี กิดจำก กัมมนั ตภำพรังสี

มาตรฐานการเรยี นรูŒและตวั ชีว้ ัดฯ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) 59 สาระท่ี ๒ วิทยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว ๒.๒ เข้ำใจธรรมชำตขิ องแรงในชวี ิตประจ�ำวัน ผลของแรงทกี่ ระท�ำต่อวตั ถุ ลกั ษณะกำรเคลอ่ื นที่ แบบต่ำงๆ ของวัตถุ รวมทง้ั น�ำควำมรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ตวั ชี้วัดชน้ั ป ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖ - - ๑. ระบผุ ลของ ๑. ระบผุ ลของ ๑. อธิบำยวธิ ีกำร ๑. อธิบำยกำรเกิด แรงทมี่ ตี ่อ แรงโน้มถ่วง หำแรงลพั ธข์ อง และผลของ กำรเปลี่ยนแปลง ทม่ี ีต่อวตั ถุ แรงหลำยแรง แรงไฟฟ้ำ กำรเคลอ่ื นท่ี จำกหลกั ฐำน ในแนวเดยี วกนั ซึง่ เกดิ จำกวตั ถุ ของวตั ถุ เชิงประจักษ์ ที่กระทำ� ตอ่ วัตถุ ที่ผำ่ นกำรขัดถู จำกหลกั ฐำน ๒. ใช้เคร่ืองช่ัง ในกรณีท่ี โดยใชห้ ลักฐำน เชิงประจักษ์ สปรงิ ในกำรวดั วตั ถุอย่นู ่ิง เชงิ ประจักษ์ ๒. เปรยี บเทียบ นำ้� หนกั ของวัตถุ จำกหลักฐำน และยกตวั อย่ำง ๓. บรรยำย เชิงประจักษ์ แรงสมั ผสั และ มวลของวตั ถุ ๒. เขียนแผนภำพ แรงไมส่ ัมผัส ท่มี ีผลต่อ แสดงแรงที่ ทีม่ ผี ลตอ่ กำร กำรเปลยี่ นแปลง กระทำ� ต่อวัตถุ เคล่ือนที่ของวตั ถุ กำรเคล่ือนท่ี ท่ีอยใู่ นแนว โดยใชห้ ลักฐำน ของวัตถุ เดียวกันและ เชงิ ประจกั ษ์ จำกหลกั ฐำน แรงลพั ธ์ ๓. จำ� แนกวัตถุ เชิงประจกั ษ์ ที่กระท�ำตอ่ วตั ถุ โดยใชก้ ำรดงึ ดดู ๓. ใชเ้ คร่ืองชงั่ สปรงิ กับแมเ่ หล็ก ในกำรวดั แรง เป็นเกณฑ์ ท่ีกระท�ำต่อวตั ถุ จำกหลักฐำน ๔. ระบุผลของ เชงิ ประจกั ษ ์ แรงเสียดทำน ๔. ระบขุ ว้ั แม่เหล็ก ท่ีมีต่อ และพยำกรณ์ กำรเปลย่ี นแปลง ผลท่เี กดิ ขึน้ กำรเคลื่อนท่ี ระหว่ำง ของวัตถุ ขั้วแมเ่ หลก็ จำกหลักฐำน เมื่อนำ� มำ เชงิ ประจกั ษ์ เขำ้ ใกล้กัน ๕. เขยี นแผนภำพ จำกหลกั ฐำน แสดงแรงเสียดทำน เชงิ ประจกั ษ์ และแรงท่ีอยู่ ในแนวเดียวกัน ทก่ี ระท�ำต่อวัตถุ

60 มาตรฐานการเรยี นรŒูและตวั ช้ีวัดฯ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) สาระที่ ๒ วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว ๒.๒ เข้ำใจธรรมชำติของแรงในชีวติ ประจ�ำวัน ผลของแรงท่ีกระทำ� ตอ่ วตั ถ ุ ลักษณะกำรเคลอื่ นท่ี แบบตำ่ งๆ ของวตั ถ ุ รวมทั้งนำ� ควำมรู้ไปใชป้ ระโยชน์ (ตอ่ ) ม. ๑ ม. ๒ ตวั ชวี้ ัดชน้ั ป ม. ๕ ม. ๖ ม. ๓ ม. ๔ ๑. วิเครำะหแ์ ละ - ๑. สรำ้ งแบบจำ� ลอง ๑. พยำกรณ์ ท่ีอธบิ ำย กำรเคลือ่ นที่ -- แปลควำมหมำย ข้อมูลควำมเรว็ ควำมสัมพนั ธ์ ของวัตถทุ เ่ี ปน็ กบั เวลำของ ระหวำ่ ง ผลของแรงลัพธ์ กำรเคลอ่ื นท่ี ควำมดนั อำกำศ ที่เกิดจำก ของวัตถุเพ่อื กับควำมสูง แรงหลำยแรง อธิบำยควำมเรง่ จำกพื้นโลก ทก่ี ระท�ำต่อวตั ถุ ของวัตถุ ในแนวเดียวกนั ๒. สงั เกตและ จำกหลักฐำน อธบิ ำย เชิงประจกั ษ์ กำรหำแรงลัพธ์ ๒. เขียนแผนภำพ ที่เกดิ จำก แสดงแรงและ แรงหลำยแรง แรงลัพธ์ ทอี่ ยูใ่ นระนำบ ทีเ่ กดิ จำก เดียวกัน แรงหลำยแรง ทก่ี ระทำ� ตอ่ วตั ถุ ท่กี ระท�ำตอ่ วตั ถุ โดยกำรเขยี น ในแนวเดยี วกนั แผนภำพกำรรวม ๓. ออกแบบ แบบเวกเตอร์ กำรทดลองและ ๓. สงั เกต วเิ ครำะห ์ ทดลองด้วยวธิ ี และอธบิ ำย ทีเ่ หมำะสม ควำมสัมพันธ์ ในกำรอธบิ ำย ระหวำ่ งควำมเรง่ ปัจจยั ทีม่ ีผลต่อ ของวตั ถุกับ ควำมดันของ แรงลพั ธ์ท่ีกระทำ� ของเหลว ต่อวัตถุและ ๔. วิเครำะหแ์ รงพยุง มวลของวัตถุ และกำรจม ๔. สงั เกตและ กำรลอยของวตั ถุ อธิบำยแรงกิริยำ ในของเหลว และแรงปฏกิ ริ ยิ ำ จำกหลกั ฐำน ระหว่ำงวตั ถุ เชิงประจกั ษ์ คูห่ น่ึง ๆ ๕. เขยี นแผนภำพ แสดงแรง

มาตรฐานการเรยี นรูแŒ ละตัวชว้ี ัดฯ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) 61 สาระท่ี ๒ วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว ๒.๒ เข้ำใจธรรมชำติของแรงในชีวิตประจ�ำวัน ผลของแรงทก่ี ระทำ� ต่อวัตถุ ลกั ษณะกำรเคลอ่ื นท่ี แบบต่ำงๆ ของวตั ถุ รวมทงั้ น�ำควำมรไู้ ปใชป้ ระโยชน ์ (ตอ่ ) ตัวชวี้ ดั ชั้นป ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖ ที่กระท�ำต่อวตั ถุ ๕. สังเกตและ ในของเหลว อธบิ ำยผลของ ๖. อธบิ ำย ควำมเร่งทีม่ ีต่อ แรงเสยี ดทำน กำรเคลอื่ นที่ สถติ และแรง แบบตำ่ ง ๆ เสยี ดทำนจลน์ ของวตั ถ ุ ไดแ้ ก ่ จำกหลกั ฐำน กำรเคลอ่ื นท่ี เชิงประจักษ์ แนวตรง ๗. ออกแบบ กำรเคลอ่ื นที่ กำรทดลองและ แบบโพรเจกไทล์ ทดลองด้วยวธิ ี กำรเคลือ่ นที่ ทเี่ หมำะสม แบบวงกลม ในกำรอธิบำย และกำรเคลอื่ นที่ ปัจจัยท่มี ผี ลต่อ แบบสน่ั ขนำดของแรง เสียดทำน ๖. สบื ค้นข้อมลู ๘. เขยี นแผนภำพ และอธิบำย แสดงแรงเสียดทำน แรงโน้มถ่วง และแรงอน่ื ๆ ทีเ่ กี่ยวกับ ที่กระทำ� ต่อวัตถุ กำรเคลื่อนที่ ๙. ตระหนกั ถึง ของวัตถตุ ำ่ ง ๆ ประโยชน์ของ รอบโลก ควำมรูเ้ รือ่ ง แรงเสยี ดทำน ๗. สงั เกตและ โดยวิเครำะห์ อธิบำยกำรเกิด สถำนกำรณ์ สนำมแมเ่ หล็ก ปัญหำและ เน่ืองจำก เสนอแนะวธิ ีกำร กระแสไฟฟำ้ ลดหรอื เพิ่ม แรงเสยี ดทำน ๘. สังเกตและ ทเ่ี ป็นประโยชน์ อธบิ ำย ต่อกำรทำ� แรงแมเ่ หล็ก กจิ กรรมใน ทก่ี ระทำ� ต่อ ชีวติ ประจำ� วัน อนภุ ำคที่มี ประจไุ ฟฟ้ำ ทเ่ี คลือ่ นที่ ในสนำมแมเ่ หลก็

62 มาตรฐานการเรียนรŒูและตัวช้ีวดั ฯ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) สาระท่ี ๒ วทิ ยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว ๒.๒ เขำ้ ใจธรรมชำติของแรงในชีวติ ประจำ� วนั ผลของแรงท่กี ระท�ำต่อวัตถ ุ ลกั ษณะกำรเคลอื่ นท่ี แบบตำ่ งๆ ของวัตถ ุ รวมทงั้ นำ� ควำมรูไ้ ปใชป้ ระโยชน ์ (ตอ่ ) ตัวชว้ี ัดช้ันป ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖ ๑๐. ออกแบบ และแรงแมเ่ หลก็ กำรทดลองและ ทีก่ ระท�ำต่อ ทดลองดว้ ยวธิ ี ลวดตวั นำ� ทีม่ ี ท่เี หมำะสม กระแสไฟฟ้ำผำ่ น ในกำรอธบิ ำย ในสนำมแม่เหล็ก โมเมนตข์ องแรง รวมท้ังอธิบำย เมอื่ วัตถุอย่ใู น หลักกำรท�ำงำน สภำพสมดุล ของมอเตอร์ ต่อกำรหมนุ และ ๙. สังเกตและอธบิ ำย ค�ำนวณโดยใช้ กำรเกดิ อเี อม็ เอฟ สมกำร M = Fl รวมทงั้ ยกตัวอย่ำง กำรน�ำควำมรู้ ๑๑. เปรยี บเทยี บ ไปใชป้ ระโยชน์ แหลง่ ของ ๑๐. สบื ค้นข้อมลู สนำมแม่เหลก็ และอธบิ ำย สนำมไฟฟ้ำ และ แรงเข้มและ สนำมโน้มถ่วง แรงออ่ น และทิศทำงของ แรงทีก่ ระท�ำ ต่อวตั ถทุ ่ีอยู่ ในแตล่ ะสนำม จำกข้อมลู ที่รวบรวมได้ ๑๒. เขยี นแผนภำพ แสดงแรงแม่เหล็ก แรงไฟฟำ้ และ แรงโน้มถ่วง ทก่ี ระทำ� ตอ่ วตั ถุ ๑๓. วเิ ครำะห์ ควำมสมั พันธ์ ระหว่ำงขนำด ของแรงแมเ่ หลก็ แรงไฟฟำ้ และ แรงโนม้ ถ่วง ท่กี ระทำ� ต่อวัตถุ

มาตรฐานการเรยี นรูแŒ ละตวั ช้ีวัดฯ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) 63 สาระท่ี ๒ วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว ๒.๒ เข้ำใจธรรมชำตขิ องแรงในชวี ิตประจำ� วนั ผลของแรงที่กระท�ำตอ่ วัตถุ ลักษณะกำรเคลื่อนที่ แบบต่ำงๆ ของวตั ถ ุ รวมทั้งน�ำควำมรู้ไปใชป้ ระโยชน ์ (ต่อ) ตวั ชวี้ ัดชนั้ ป ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖ ทอ่ี ยใู่ นสนำมนน้ั ๆ กบั ระยะหำ่ ง จำกแหล่งของ สนำมถงึ วตั ถุ จำกขอ้ มลู ท่ีรวบรวมได้ ๑๔. อธิบำยและ คำ� นวณอตั รำเร็ว และควำมเร็ว ของกำรเคลอ่ื นที่ ของวตั ถุ โดยใชส้ มกำร s v= t และ s v= t จำกหลกั ฐำน เชงิ ประจกั ษ์ ๑๕. เขยี นแผนภำพ แสดงกำรกระจัด และควำมเรว็

64 มาตรฐานการเรยี นรูแŒ ละตัวชว้ี ดั ฯ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) สาระที่ ๒ วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว ๒.๓ เขำ้ ใจควำมหมำยของพลงั งำน กำรเปลย่ี นแปลงและกำรถำ่ ยโอนพลงั งำน ปฏสิ มั พนั ธร์ ะหวำ่ ง สสำรและพลงั งำน พลงั งำนในชวี ติ ประจำ� วนั ธรรมชำตขิ องคลนื่ ปรำกฏกำรณท์ เ่ี กยี่ วขอ้ งกบั เสียง แสง และคล่ืนแมเ่ หล็กไฟฟำ้ รวมทง้ั น�ำควำมรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ ตัวช้ีวัดชั้นป ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖ ๑. บรรยำย ๑. บรรยำย ๑. ยกตวั อยำ่ ง ๑. จำ� แนกวตั ถเุ ป็น ๑. อธิบำย ๑. ระบสุ ่วนประกอบ กำรเกดิ เสียง แนวกำรเคลื่อนท่ี กำรเปล่ียน ตัวกลำงโปร่งใส กำรไดย้ ินเสยี ง และบรรยำย และทิศทำง ของแสงจำก พลังงำนหนง่ึ ตวั กลำงโปรง่ แสง ผ่ำนตวั กลำง หน้ำที่ของแตล่ ะ กำรเคล่อื นท่ี แหลง่ ก�ำเนิดแสง ไปเปน็ อีก และวตั ถทุ ึบแสง จำกหลกั ฐำน สว่ นประกอบ ของเสียง และอธบิ ำย พลังงำนหนง่ึ จำกลกั ษณะ เชิงประจกั ษ์ ของวงจรไฟฟ้ำ จำกหลักฐำน กำรมองเห็นวตั ถ ุ จำกหลักฐำน กำรมองเห็น ๒. ระบตุ วั แปร อย่ำงงำ่ ย เชิงประจกั ษ์ จำกหลักฐำน เชงิ ประจกั ษ์ สงิ่ ต่ำง ๆ ทดลอง และ จำกหลักฐำน เชงิ ประจกั ษ์ ๒. บรรยำย ผำ่ นวัตถุน้ัน อธบิ ำยลกั ษณะ เชงิ ประจกั ษ์ ๒. ตระหนกั กำรทำ� งำนของ เป็นเกณฑ์ และกำรเกิด ๒. เขยี นแผนภำพ ในคณุ ค่ำของ เคร่อื งกำ� เนิด โดยใช้หลกั ฐำน เสียงสงู เสยี งต�่ำ และต่อวงจร ควำมรขู้ อง ไฟฟ้ำและระบุ เชิงประจักษ์ ๓. ออกแบบ ไฟฟำ้ อย่ำงงำ่ ย กำรมองเห็น แหล่งพลังงำน กำรทดลองและ ๓. ออกแบบ โดยเสนอแนะ ในกำรผลติ ไฟฟ้ำ อธิบำยลักษณะ กำรทดลองและ แนวทำงกำร จำกข้อมูล และกำรเกดิ ทดลองด้วยวิธี ป้องกนั อันตรำย ที่รวบรวมได้ เสียงดัง เสยี งคอ่ ย ทเ่ี หมำะสม จำกกำรมองวตั ถุ ๓. ตระหนกั ๔. วัดระดบั เสยี ง ในกำรอธิบำย ท่อี ยู่ในบริเวณท่ี ในประโยชน์ โดยใช้เครื่องมือ วิธกี ำรและ มีแสงสวำ่ ง และโทษ วดั ระดับเสยี ง ผลของกำรต่อ ไม่เหมำะสม ของไฟฟำ้ ๕. ตระหนกั ใน เซลลไ์ ฟฟำ้ โดยน�ำเสนอ คณุ คำ่ ของ แบบอนกุ รม วิธีกำรใช้ไฟฟำ้ ควำมรูเ้ รื่อง ๔. ตระหนกั อยำ่ งประหยัด ระดับเสยี ง ถึงประโยชนข์ อง และปลอดภยั โดยเสนอแนะ ควำมรขู้ องกำร แนวทำง ตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้ำ ในกำรหลกี เลี่ยง แบบอนกุ รม และลดมลพษิ โดยบอก ทำงเสยี ง ประโยชน์และ กำรประยุกต์ใช้ ในชีวติ ประจำ� วัน

มาตรฐานการเรยี นรูแŒ ละตวั ชี้วดั ฯ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) 65 สาระท่ี ๒ วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว ๒.๓ เขำ้ ใจควำมหมำยของพลงั งำน กำรเปลย่ี นแปลงและกำรถำ่ ยโอนพลงั งำน ปฏสิ มั พนั ธร์ ะหวำ่ ง สสำรและพลงั งำน พลงั งำนในชวี ติ ประจำ� วนั ธรรมชำตขิ องคลนื่ ปรำกฏกำรณท์ เี่ กยี่ วขอ้ งกบั เสียง แสง และคลน่ื แมเ่ หล็กไฟฟำ้ รวมท้ังน�ำควำมรู้ไปใช้ประโยชน ์ (ต่อ) ตัวชี้วัดชัน้ ป ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖ ๕. ออกแบบ กำรทดลองและ ทดลองดว้ ยวิธี ทเ่ี หมำะสม ในกำรอธิบำย กำรตอ่ หลอดไฟฟำ้ แบบอนุกรม และแบบขนำน ๖. ตระหนกั ถึง ประโยชนข์ อง ควำมรขู้ องกำร ตอ่ หลอดไฟฟำ้ แบบอนุกรม และแบบขนำน โดยบอกประโยชน์ ขอ้ จ�ำกัด และ กำรประยุกตใ์ ช้ ในชีวติ ประจ�ำวนั ๗. อธบิ ำยกำรเกดิ เงำมดื เงำมวั จำกหลกั ฐำน เชงิ ประจกั ษ์ ๘. เขยี นแผนภำพ รงั สขี องแสง แสดงกำรเกดิ เงำมืดเงำมวั

66 มาตรฐานการเรียนรูŒและตวั ชีว้ ดั ฯ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) สาระที่ ๒ วิทยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว ๒.๓ เขำ้ ใจควำมหมำยของพลงั งำน กำรเปลย่ี นแปลงและกำรถำ่ ยโอนพลงั งำน ปฏสิ มั พนั ธร์ ะหวำ่ ง สสำรและพลงั งำน พลงั งำนในชวี ติ ประจำ� วนั ธรรมชำตขิ องคลน่ื ปรำกฏกำรณท์ เ่ี กยี่ วขอ้ งกบั เสยี ง แสง และคล่นื แมเ่ หลก็ ไฟฟำ้ รวมท้ังน�ำควำมรู้ไปใช้ประโยชน ์ (ตอ่ ) ตัวช้วี ัดชนั้ ป ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖ ๑. สบื คน้ ข้อมลู - ๑. วเิ ครำะห์ ๑. วิเครำะห์ ๑. วิเครำะห์ - แปลควำมหมำย สถำนกำรณแ์ ละ ควำมสัมพนั ธ์ และอธิบำย ข้อมลู และคำ� นวณ ค�ำนวณเกีย่ วกบั ระหวำ่ ง พลังงำนนวิ เคลยี ร์ ปริมำณควำมร้อน งำนและก�ำลงั ควำมตำ่ งศกั ย์ ฟชชนั และฟว ชนั ท่ีทำ� ให้สสำร ทเ่ี กิดจำกแรง กระแสไฟฟำ้ และ และควำมสัมพันธ์ เปลี่ยนอณุ หภมู ิ ท่กี ระทำ� ต่อวัตถุ ควำมต้ำนทำน ระหว่ำงมวล และเปล่ียน โดยใช้สมกำร และค�ำนวณ กับพลังงำน สถำนะ W = Fs ปริมำณทเี่ กย่ี วขอ้ ง ทป่ี ลดปลอ่ ย โดยใช้สมกำร แจำลกะขอ้Pม=ูลWt โดยใช้สมกำร ออกมำจำกฟชชัน Q = mc t V = IR และฟวชนั และ Q = mL ที่รวบรวมได ้ จำกหลักฐำน ๒. สบื คน้ ข้อมลู ๒. ใช้เทอรม์ อมเิ ตอร์ ๒. วิเครำะห์ เชิงประจักษ์ และอธิบำย ในกำรวดั หลักกำรทำ� งำน ๒. เขยี นกรำฟ กำรเปลี่ยน อณุ หภูมิ ของเครื่องกล ควำมสัมพนั ธ์ พลงั งำนทดแทน ของสสำร อย่ำงง่ำย ระหวำ่ ง เป็นพลังงำนไฟฟ้ำ ๓. สร้ำงแบบจำ� ลอง จำกข้อมลู กระแสไฟฟ้ำและ รวมทง้ั สืบคน้ ทอี่ ธิบำย ท่รี วบรวมได้ ควำมต่ำงศกั ย์ และอภิปรำย กำรขยำยตัว ๓. ตระหนักถงึ ไฟฟำ้ เกีย่ วกบั หรอื หดตัว ประโยชน์ ๓. ใช้โวลตม์ เิ ตอร์ เทคโนโลย ี ของสสำร ของควำมรู้ แอมมเิ ตอร์ ทีน่ �ำมำแก้ปญั หำ เน่อื งจำกได้รบั ของเครื่องกล ในกำรวดั ปรมิ ำณ หรือตอบสนอง หรือสูญเสีย อย่ำงงำ่ ยโดย ทำงไฟฟ้ำ ควำมต้องกำร ควำมร้อน บอกประโยชน์และ ๔. วิเครำะห์ ทำงด้ำนพลังงำน ๔. ตระหนักถึง กำรประยุกตใ์ ช้ ควำมต่ำงศกั ย์ โดยเน้นดำ้ น ประโยชน์ ในชวี ติ ประจ�ำวนั ไฟฟำ้ และ ประสทิ ธิภำพ ของควำมรู้ ๔. ออกแบบและ กระแสไฟฟ้ำ และควำมคุ้มค่ำ ของกำรหดและ ทดลองด้วยวิธี ในวงจรไฟฟำ้ ดำ้ นค่ำใชจ้ ำ่ ย ขยำยตัวของสสำร ทเี่ หมำะสม เม่ือตอ่ ตวั ต้ำนทำน ๓. สงั เกตและอธิบำย เนื่องจำกควำมร้อน ในกำรอธิบำย หลำยตัว กำรสะท้อน โดยวิเครำะห์ ปัจจยั ทีม่ ีผลตอ่ แบบอนุกรม กำรหกั เห สถำนกำรณ์ พลงั งำนจลน์ และแบบขนำน กำรเลีย้ วเบน ปญั หำ และ และพลังงำนศักย์ จำกหลักฐำน และกำรรวมคลื่น เสนอแนะวธิ ี โน้มถ่วง เชิงประจกั ษ ์

มาตรฐานการเรยี นรแŒู ละตวั ชว้ี ดั ฯ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) 67 สาระท่ี ๒ วิทยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว ๒.๓ เขำ้ ใจควำมหมำยของพลงั งำน กำรเปลย่ี นแปลงและกำรถำ่ ยโอนพลงั งำน ปฏสิ มั พนั ธร์ ะหวำ่ ง สสำรและพลงั งำน พลงั งำนในชวี ติ ประจำ� วนั ธรรมชำตขิ องคลนื่ ปรำกฏกำรณท์ เ่ี กย่ี วขอ้ งกบั เสยี ง แสง และคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้ำ รวมท้ังนำ� ควำมร้ไู ปใช้ประโยชน ์ (ตอ่ ) ตัวช้ีวัดชนั้ ป ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖ ๔. สงั เกตและ กำรน�ำควำมรู้ ๕. แปลควำมหมำย ๕. เขยี นแผนภำพ มำแก้ปัญหำ ข้อมูลและ วงจรไฟฟ้ำ อธิบำยควำมถ่ี ในชีวติ ประจ�ำวัน อธิบำยกำร แสดงกำรตอ่ ธรรมชำติ ๕. วิเครำะห์ เปลีย่ นพลังงำน ตัวต้ำนทำน กำรสน่ั พอ้ ง สถำนกำรณ์ ระหวำ่ งพลังงำน แบบอนุกรม และผลที่เกิดขึ้น กำรถ่ำยโอน ศักยโ์ น้มถ่วงและ และขนำน จำกกำรสน่ั พอ้ ง ควำมรอ้ น พลังงำนจลน์ของ ๖. บรรยำยกำรทำ� งำน ๕. สังเกตและอธบิ ำย และคำ� นวณ วัตถโุ ดยพลงั งำน ของชิน้ สว่ น กำรสะท้อน ปริมำณควำมร้อน กลของวตั ถมุ ีคำ่ อิเลก็ ทรอนกิ ส์ กำรหกั เห ทถี่ ำ่ ยโอน คงตัวจำกข้อมลู อย่ำงง่ำยในวงจร กำรเลีย้ วเบน ระหวำ่ งสสำร ทรี่ วบรวมได้ จำกขอ้ มูล และกำรรวมคลนื่ จนเกดิ สมดุล ๖. วเิ ครำะห์ ทีร่ วบรวมได้ ของคลน่ื เสียง ควำมรอ้ น สถำนกำรณ์ ๗. เขียนแผนภำพ ๖. สบื ค้นขอ้ มูล โดยใช้สมกำร และอธบิ ำย และต่อช้ินส่วน และอธบิ ำย =Q สูญเสยี Q ไดร้ บั กำรเปลย่ี นและ อิเลก็ ทรอนกิ ส์ ควำมสัมพันธ์ กำรถำ่ ยโอน อยำ่ งง่ำย ระหว่ำง ๖. สรำ้ งแบบจำ� ลอง พลงั งำน ในวงจรไฟฟ้ำ ควำมเขม้ เสยี ง ท่อี ธบิ ำย โดยใชก้ ฎ ๘. อธบิ ำยและ กับระดบั เสียง กำรถ่ำยโอน กำรอนรุ กั ษ์ ค�ำนวณพลงั งำน และผลของ ควำมรอ้ น พลงั งำน ไฟฟำ้ โดยใช้ ควำมถีก่ บั โดยกำรน�ำ สมกำร W = Pt ระดับเสียงทมี่ ตี ่อ ควำมรอ้ น รวมท้งั ค�ำนวณ กำรไดย้ นิ เสยี ง กำรพำควำมรอ้ น คำ่ ไฟฟ้ำของ ๗. สังเกตและ กำรแผ่รงั สี เคร่อื งใชไ้ ฟฟ้ำ อธิบำยกำรเกิด ควำมร้อน ในบำ้ น เสยี งสะทอ้ นกลบั ๗. ออกแบบ ๙. ตระหนกั ในคุณคำ่ บตี ดอปเพลอร ์ เลอื กใช้ และ ของกำรเลอื กใช้ และกำรสน่ั พ้อง สรำ้ งอปุ กรณ์ เคร่ืองใชไ้ ฟฟำ้ ของเสียง เพอ่ื แกป้ ัญหำ โดยนำ� เสนอ ๘. สืบค้นขอ้ มูล ในชีวิตประจ�ำวัน วิธกี ำรใช้ และยกตวั อย่ำง โดยใชค้ วำมรู้ เคร่ืองใช้ไฟฟ้ำ กำรนำ� ควำมรู้ เกย่ี วกับกำร อยำ่ งประหยดั เกีย่ วกบั เสยี งไป ถ่ำยโอนควำมร้อน และปลอดภัย ใช้ประโยชน์

68 มาตรฐานการเรียนรแŒู ละตวั ชวี้ ัดฯ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) สาระที่ ๒ วทิ ยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว ๒.๓ เขำ้ ใจควำมหมำยของพลงั งำน กำรเปลย่ี นแปลงและกำรถำ่ ยโอนพลงั งำน ปฏสิ มั พนั ธร์ ะหวำ่ ง สสำรและพลงั งำน พลงั งำนในชวี ติ ประจำ� วนั ธรรมชำตขิ องคลน่ื ปรำกฏกำรณท์ เี่ กยี่ วขอ้ งกบั เสยี ง แสง และคลืน่ แมเ่ หลก็ ไฟฟ้ำ รวมทงั้ น�ำควำมรไู้ ปใช้ประโยชน์ (ตอ่ ) ตัวชี้วัดช้ันป ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖ ๑๐. สร้ำงแบบจำ� ลอง ในชวี ิตประจ�ำวัน ทีอ่ ธบิ ำย ๙. สังเกตและอธิบำย กำรเกดิ คลื่น และบรรยำย กำรมองเห็น สว่ นประกอบ สขี องวัตถุและ ของคลืน่ ควำมผิดปกติ ในกำรมองเห็นสี ๑๑. อธบิ ำย ๑๐. สังเกตและอธบิ ำย คลน่ื แมเ่ หล็ก กำรทำ� งำนของ ไฟฟ้ำและ แผ่นกรองแสงสี สเปกตรมั กำรผสมแสงสี คลนื่ แม่เหลก็ ไฟฟ้ำ กำรผสมสำรสี จำกขอ้ มลู ท่ี และกำรน�ำไปใช้ รวบรวมได้ ประโยชน์ ในชวี ิตประจำ� วัน ๑๒. ตระหนกั ถึง ๑๑. สบื ค้นข้อมลู ประโยชนแ์ ละ และอธบิ ำย อันตรำยจำก คลนื่ แมเ่ หลก็ ไฟฟำ้ คล่นื แมเ่ หลก็ ไฟฟ้ำ ส่วนประกอบ โดยน�ำเสนอ คล่ืนแมเ่ หล็กไฟฟ้ำ กำรใชป้ ระโยชน์ และหลักกำร ในด้ำนตำ่ ง ๆ ท�ำงำน และอันตรำยจำก ของอุปกรณ์ คล่ืนแม่เหลก็ ไฟฟ้ำ บำงชนิดทีอ่ ำศัย ในชวี ิตประจ�ำวัน คลน่ื แมเ่ หลก็ ไฟฟ้ำ ๑๒. สืบคน้ ข้อมลู ๑๓. ออกแบบ และอธบิ ำย กำรทดลอง กำรสื่อสำร และดำ� เนนิ กำร โดยอำศัย ทดลองดว้ ยวธิ ี คลนื่ แมเ่ หลก็ ไฟฟ้ำ ทเ่ี หมำะสม ในกำรส่งผ่ำน ในกำรอธบิ ำย สำรสนเทศและ กฎกำรสะท้อน เปรยี บเทยี บ ของแสง กำรส่อื สำร ๑๔. เขยี นแผนภำพ กำรเคลอื่ นท่ี

มาตรฐานการเรยี นรแูŒ ละตัวช้วี ดั ฯ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) 69 สาระท่ี ๒ วิทยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว ๒.๓ เขำ้ ใจควำมหมำยของพลงั งำน กำรเปลยี่ นแปลงและกำรถำ่ ยโอนพลงั งำน ปฏสิ มั พนั ธร์ ะหวำ่ ง สสำรและพลงั งำน พลงั งำนในชวี ติ ประจำ� วนั ธรรมชำตขิ องคลนื่ ปรำกฏกำรณท์ เ่ี กย่ี วขอ้ งกบั เสียง แสง และคลื่นแมเ่ หล็กไฟฟำ้ รวมท้งั นำ� ควำมร้ไู ปใชป้ ระโยชน ์ (ตอ่ ) ตัวชวี้ ดั ช้ันป ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖ ของแสง แสดง ดว้ ยสัญญำณ กำรเกิดภำพจำก แอนะลอ็ กกับ กระจกเงำ สญั ญำณดจิ ทิ ลั ๑๕. อธบิ ำยกำรหักเห ของแสง เม่ือผำ่ นตัวกลำง โปร่งใส ท่ีแตกตำ่ งกัน และอธบิ ำย กำรกระจำยแสง ของแสงขำว เม่อื ผำ่ นปริซมึ จำกหลักฐำน เชิงประจักษ์ ๑๖. เขียนแผนภำพ กำรเคลื่อนที่ ของแสง แสดงกำรเกิดภำพ จำกเลนสบ์ ำง ๑๗. อธิบำย ปรำกฏกำรณ์ ทีเ่ กีย่ วกบั แสง และกำรทำ� งำน ของทศั นอปุ กรณ์ จำกข้อมูล ที่รวบรวมได้ ๑๘. เขยี นแผนภำพ กำรเคลอ่ื นท่ี ของแสงแสดง กำรเกดิ ภำพของ ทศั นอุปกรณ์ และเลนสต์ ำ

70 มาตรฐานการเรยี นรŒแู ละตัวช้วี ัดฯ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) สาระท่ี ๒ วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว ๒.๓ เขำ้ ใจควำมหมำยของพลงั งำน กำรเปลย่ี นแปลงและกำรถำ่ ยโอนพลงั งำน ปฏสิ มั พนั ธร์ ะหวำ่ ง สสำรและพลงั งำน พลงั งำนในชวี ติ ประจำ� วนั ธรรมชำตขิ องคลน่ื ปรำกฏกำรณท์ เ่ี กยี่ วขอ้ งกบั เสยี ง แสง และคล่ืนแม่เหลก็ ไฟฟำ้ รวมทัง้ น�ำควำมรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ (ตอ่ ) ตัวชว้ี ัดชั้นป ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖ ๑๙. อธบิ ำยผล ของควำมสวำ่ ง ทม่ี ีตอ่ ดวงตำ จำกข้อมูลที่ได้ จำกกำรสืบคน้ ๒๐. วัดควำมสวำ่ ง ของแสงโดยใช้ อุปกรณ์วัดควำม สวำ่ งของแสง ๒๑. ตระหนัก ในคุณค่ำ ของควำมรู้ เร่อื งควำมสว่ำง ของแสง ท่ีมตี อ่ ดวงตำ โดยวิเครำะห์ สถำนกำรณ์ ปญั หำและ เสนอแนะ กำรจัดควำมสวำ่ ง ให้เหมำะสม ในกำรทำ� กิจกรรม ต่ำง ๆ

มาตรฐานการเรยี นรแŒู ละตัวช้วี ัดฯ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) 71 สาระท่ี ๓ วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ มาตรฐาน ว ๓.๑ เขำ้ ใจองคป์ ระกอบ ลกั ษณะ กระบวนกำรเกดิ และววิ ฒั นำกำรของเอกภพ กำแลก็ ซ ี ดำวฤกษ ์ และระบบสรุ ยิ ะ รวมทงั้ ปฏสิ มั พนั ธภ์ ำยในระบบสรุ ยิ ะทส่ี ง่ ผลตอ่ สงิ่ มชี วี ติ และกำรประยกุ ตใ์ ช้ เทคโนโลยีอวกำศ ตัวชี้วดั ช้ันป ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖ ๑. ระบดุ ำวทป่ี รำกฏ - ๑. อธบิ ำยแบบรูป ๑. อธบิ ำยแบบรปู ๑. เปรียบเทยี บ ๑. สร้ำงแบบจำ� ลอง บนทอ้ งฟ้ำ เสน้ ทำงกำรขึน้ เส้นทำงกำรขึ้น ควำมแตกต่ำง ท่ีอธิบำยกำรเกิด ในเวลำกลำงวัน และตกของ และตกของ ของดำวเครำะห์ และเปรยี บเทยี บ และกลำงคนื ดวงอำทติ ย์ ดวงจันทร์ และดำวฤกษ์ ปรำกฏกำรณ์ จำกข้อมูล โดยใช้หลักฐำน โดยใชห้ ลกั ฐำน จำกแบบจำ� ลอง สรุ ยิ ปุ รำคำและ ทร่ี วบรวมได้ เชิงประจักษ ์ เชิงประจักษ์ ๒. ใชแ้ ผนทดี่ ำว จนั ทรุปรำคำ ๒. อธบิ ำยสำเหตุ ๒. อธบิ ำยสำเหตุ ๒. สรำ้ งแบบจ�ำลอง ระบุตำ� แหนง่ ๒. อธิบำย ทีม่ องไมเ่ หน็ ดำว กำรเกดิ ท่ีอธบิ ำยแบบรูป และเส้นทำง พฒั นำกำรของ ส่วนใหญ่ ปรำกฏกำรณ์ กำรเปล่ยี นแปลง กำรขนึ้ และตก เทคโนโลยอี วกำศ ในเวลำกลำงวัน กำรขึน้ และตก รปู ร่ำงปรำกฏ ของกลุม่ ดำวฤกษ์ และยกตัวอยำ่ ง จำกหลกั ฐำน ของดวงอำทติ ย์ ของดวงจันทร ์ บนท้องฟ้ำ กำรน�ำ เชงิ ประจกั ษ์ กำรเกิดกลำงวนั และพยำกรณ์ และอธิบำย เทคโนโลยีอวกำศ กลำงคนื และ รูปร่ำงปรำกฏ แบบรปู เส้นทำง มำใชป้ ระโยชน์ กำรก�ำหนดทิศ ของดวงจันทร์ กำรขึ้นและตก ในชีวิตประจ�ำวนั โดยใชแ้ บบ ๓. สรำ้ งแบบจำ� ลอง ของกล่มุ ดำวฤกษ์ จำกข้อมูล จ�ำลอง แสดงองค์ประกอบ บนทอ้ งฟำ้ ที่รวบรวมได้ ๓. ตระหนักถงึ ของระบบสรุ ิยะ ในรอบปี ควำมส�ำคัญ และอธิบำย ของดวงอำทิตย์ เปรียบเทียบ โดยบรรยำย คำบกำรโคจร ประโยชนข์ อง ของดำวเครำะห์ ดวงอำทิตย์ ต่ำง ๆ จำกแบบ ตอ่ สงิ่ มชี ีวติ จ�ำลอง

72 มาตรฐานการเรียนรูแŒ ละตวั ชีว้ ดั ฯ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) สาระที่ ๓ วทิ ยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ มาตรฐาน ว ๓.๑ เขำ้ ใจองคป์ ระกอบ ลกั ษณะ กระบวนกำรเกดิ และววิ ฒั นำกำรของเอกภพ กำแลก็ ซ ี ดำวฤกษ ์ และระบบสรุ ยิ ะ รวมทงั้ ปฏสิ มั พนั ธภ์ ำยในระบบสรุ ยิ ะทส่ี ง่ ผลตอ่ สง่ิ มชี วี ติ และกำรประยกุ ตใ์ ช้ เทคโนโลยอี วกำศ (ต่อ) ตวั ชี้วดั ชน้ั ป ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖ - - ๑. อธิบำย - - ๑. อธิบำย กำรโคจรของ กำรกำ� เนิดและ ดำวเครำะห์ กำรเปลี่ยนแปลง รอบดวงอำทิตย์ พลงั งำน สสำร ด้วยแรงโนม้ ถว่ ง ขนำด อุณหภูมิ จำกสมกำร ของเอกภพ F = (Gm1m2) / r2 หลังเกดิ บกิ แบง ๒. สร้ำงแบบจ�ำลอง ในชว่ งเวลำตำ่ ง ๆ ท่อี ธิบำย ตำมวิวฒั นำกำร กำรเกดิ ฤดูและ ของเอกภพ กำรเคลอื่ นที่ ๒. อธิบำยหลักฐำน ปรำกฏของ ท่สี นบั สนุน ดวงอำทิตย ์ ทฤษฎีบกิ แบง ๓. สรำ้ งแบบจ�ำลอง จำกควำมสัมพันธ์ ท่ีอธบิ ำย ระหวำ่ งควำมเรว็ กำรเกิดขำ้ งขน้ึ กับระยะทำง ขำ้ งแรม ของกำแลก็ ซ ี กำรเปล่ยี นแปลง รวมทง้ั ขอ้ มูล เวลำกำรข้ึนและ กำรค้นพบ ตกของดวงจันทร ์ ไมโครเวฟพน้ื หลัง และกำรเกดิ จำกอวกำศ น้�ำขน้ึ น�ำ้ ลง ๓. อธบิ ำยโครงสร้ำง ๔. อธบิ ำย และองค์ประกอบ กำรใชป้ ระโยชน์ ของกำแล็กซี ของเทคโนโลยี ทำงชำ้ งเผือก อวกำศ และ และระบตุ ำ� แหน่ง ยกตัวอย่ำง ของระบบสรุ ิยะ ควำมก้ำวหนำ้ พรอ้ มอธบิ ำย ของโครงกำร เชอ่ื มโยงกบั ส�ำรวจอวกำศ กำรสังเกตเหน็ จำกขอ้ มูล ทำงชำ้ งเผือก ที่รวบรวมได้ ของคนบนโลก

มาตรฐานการเรยี นรแŒู ละตัวชีว้ ดั ฯ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) 73 สาระท่ี ๓ วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ มาตรฐาน ว ๓.๑ เขำ้ ใจองคป์ ระกอบ ลกั ษณะ กระบวนกำรเกดิ และววิ ฒั นำกำรของเอกภพ กำแลก็ ซ ี ดำวฤกษ์ และระบบสรุ ยิ ะ รวมทงั้ ปฏสิ มั พนั ธภ์ ำยในระบบสรุ ยิ ะทส่ี ง่ ผลตอ่ สงิ่ มชี วี ติ และกำรประยกุ ตใ์ ช้ เทคโนโลยีอวกำศ (ต่อ) ตวั ช้ีวดั ช้ันป ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖ ๔. อธบิ ำย กระบวนกำร เกิดดำวฤกษ ์ โดยแสดง กำรเปล่ยี นแปลง ควำมดนั อุณหภูม ิ ขนำด จำกดำวฤกษ์ ก่อนเกิด จนเป็นดำวฤกษ์ ๕. ระบปุ จั จยั ทีส่ ่งผลต่อ ควำมส่องสวำ่ ง ของดำวฤกษ ์ และอธิบำย ควำมสัมพันธ์ ระหวำ่ ง ควำมส่องสวำ่ ง กบั โชตมิ ำตร ของดำวฤกษ์ ๖. อธิบำย ควำมสัมพนั ธ์ ระหว่ำงสี อุณหภมู ผิ ิว และสเปกตรมั ของดำวฤกษ์ ๗. อธบิ ำยล�ำดบั วิวัฒนำกำร ทสี่ ัมพันธ์ กับมวลต้ังตน้ และวิเครำะห์ กำรเปลยี่ นแปลง สมบัติ

74 มาตรฐานการเรียนรแูŒ ละตวั ชว้ี ดั ฯ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) สาระที่ ๓ วทิ ยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ มาตรฐาน ว ๓.๑ เขำ้ ใจองคป์ ระกอบ ลกั ษณะ กระบวนกำรเกดิ และววิ ฒั นำกำรของเอกภพ กำแลก็ ซ ี ดำวฤกษ์ และระบบสรุ ยิ ะ รวมทง้ั ปฏสิ มั พนั ธภ์ ำยในระบบสรุ ยิ ะทสี่ ง่ ผลตอ่ สงิ่ มชี วี ติ และกำรประยกุ ตใ์ ช้ เทคโนโลยีอวกำศ (ตอ่ ) ตัวชีว้ ดั ชัน้ ป ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖ บำงประกำร ของดำวฤกษ์ ๘. อธบิ ำย กระบวนกำรเกิด ระบบสรุ ิยะ และกำรแบง่ เขต บรวิ ำรของ ดวงอำทติ ย ์ และลักษณะ ของดำวเครำะห์ ที่เออ้ื ตอ่ กำรด�ำรงชวี ิต ๙. อธบิ ำย โครงสรำ้ ง ของดวงอำทติ ย์ กำรเกิดลมสรุ ยิ ะ พำยุสุริยะ และ สบื คน้ ข้อมลู วเิ ครำะห ์ นำ� เสนอ ปรำกฏกำรณ์ หรอื เหตกุ ำรณ์ ท่ีเก่ยี วข้องกบั ผลของลมสุรยิ ะ และพำยสุ ุริยะ ที่มีตอ่ โลก รวมทง้ั ประเทศไทย ๑๐. สืบค้นขอ้ มูล อธิบำยกำรส�ำรวจ อวกำศ โดยใช้ กล้องโทรทรรศน์ ในชว่ ง

มาตรฐานการเรียนรŒแู ละตัวช้ีวัดฯ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) 75 สาระที่ ๓ วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ มาตรฐาน ว ๓.๑ เขำ้ ใจองคป์ ระกอบ ลกั ษณะ กระบวนกำรเกดิ และววิ ฒั นำกำรของเอกภพ กำแลก็ ซ ี ดำวฤกษ ์ และระบบสรุ ยิ ะ รวมทง้ั ปฏสิ มั พนั ธภ์ ำยในระบบสรุ ยิ ะทสี่ ง่ ผลตอ่ สงิ่ มชี วี ติ และกำรประยกุ ตใ์ ช้ เทคโนโลยีอวกำศ (ต่อ) ตัวชี้วดั ชนั้ ป ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖ ควำมยำวคลนื่ ต่ำง ๆ ดำวเทยี ม ยำนอวกำศ สถำนอี วกำศ และน�ำเสนอ แนวคดิ กำรนำ� ควำมรทู้ ำงดำ้ น เทคโนโลยอี วกำศ มำประยกุ ตใ์ ช้ ในชีวิตประจำ� วัน หรือในอนำคต

76 มาตรฐานการเรยี นรŒูและตวั ชว้ี ัดฯ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) สาระท่ี ๓ วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ มาตรฐาน ว ๓.๒ เข้ำใจองค์ประกอบและควำมสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนกำรเปล่ียนแปลงภำยในโลก และบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนกำรเปลี่ยนแปลงลมฟ้ำอำกำศและภูมิอำกำศโลก รวมท้งั ผลตอ่ สง่ิ มชี วี ิตและสิ่งแวดล้อม ตวั ช้วี ัดช้นั ป ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖ ๑. อธบิ ำยลักษณะ ๑. ระบุสว่ นประกอบ ๑. ระบุส่วนประกอบ - ๑. เปรียบเทียบ ๑. เปรยี บเทยี บ ภำยนอกของ ของดิน และ ของอำกำศ ปริมำณนำ้� กระบวนกำร หินจำกลักษณะ จำ� แนกชนดิ บรรยำย ในแต่ละแหล่ง เกิดหินอคั น ี เฉพำะตัวท่ี ของดนิ โดยใช้ ควำมส�ำคัญ และระบปุ รมิ ำณ หินตะกอน สงั เกตได้ ลักษณะเน้อื ดนิ ของอำกำศ น�้ำทมี่ นุษย์ และหนิ แปร และกำรจับตัว และผลกระทบ สำมำรถนำ� มำใช้ และอธบิ ำย เป็นเกณฑ์ ของมลพิษ ประโยชนไ์ ด ้ วฏั จกั รหนิ ๒. อธิบำยกำรใช้ ทำงอำกำศ จำกขอ้ มลู จำกแบบจำ� ลอง ประโยชน์จำกดนิ ต่อส่งิ มชี ีวติ ท่ีรวบรวมได้ ๒. บรรยำยและ จำกขอ้ มูล จำกข้อมูล ๒. ตระหนกั ถงึ ยกตวั อยำ่ งกำรใช้ ทรี่ วบรวมได้ ท่รี วบรวมได ้ คณุ คำ่ ของนำ้� ประโยชนข์ องหิน ๒. ตระหนกั ถงึ โดยน�ำเสนอ และแรใ่ นชีวิต ควำมสำ� คญั แนวทำงกำรใชน้ ำ้� ประจำ� วัน ของอำกำศ อย่ำงประหยดั จำกข้อมลู โดยนำ� เสนอ และกำรอนรุ กั ษน์ ำ�้ ที่รวบรวมได้ แนวทำง ๓. สร้ำงแบบจำ� ลอง ๓. สร้ำงแบบจำ� ลอง ทีอ่ ธบิ ำยกำรเกดิ กำรปฏบิ ตั ติ น ท่ีอธิบำยกำร ซำกดกึ ดำ� บรรพ์ ในกำรลด หมุนเวยี นของน�้ำ และคำดคะเน กำรเกดิ มลพษิ ในวฏั จักรน�้ำ สภำพแวดลอ้ ม ทำงอำกำศ ๔. เปรียบเทยี บ ในอดตี ของ ๓. อธิบำยกำรเกดิ กระบวนกำร ซำกดกึ ดำ� บรรพ์ ลมจำกหลักฐำน เกดิ เมฆ หมอก ๔. เปรียบเทยี บ เชงิ ประจักษ์ นำ้� คำ้ ง และ กำรเกิดลมบก ลมทะเล และ ๔. บรรยำย นำ�้ ค้ำงแข็ง มรสุม รวมท้งั ประโยชน์และ จำกแบบจำ� ลอง อธิบำยผลท่มี ี โทษของลม ๕. เปรียบเทียบ ตอ่ สิ่งมีชีวติ จำกขอ้ มลู กระบวนกำรเกดิ และส่ิงแวดล้อม ทร่ี วบรวมได้ ฝน หมิ ะ จำกแบบจ�ำลอง และลกู เห็บ ๕. อธิบำยผลของ จำกขอ้ มูล มรสุมตอ่ กำรเกิด ท่รี วบรวมได้ ฤดูของ ประเทศไทย จำกข้อมูล ทร่ี วบรวมได้

มาตรฐานการเรียนรŒแู ละตวั ช้ีวดั ฯ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) 77 สาระที่ ๓ วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ มาตรฐาน ว ๓.๒ เข้ำใจองค์ประกอบ และควำมสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนกำรเปลี่ยนแปลงภำยในโลก และบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนกำรเปลี่ยนแปลงลมฟ้ำอำกำศและภูมิอำกำศโลก รวมท้งั ผลต่อสงิ่ มีชวี ติ และส่งิ แวดล้อม (ตอ่ ) ตวั ช้วี ัดชนั้ ป ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖ ๖. บรรยำยลักษณะ และผลกระทบ ของน�้ำทว่ ม กำรกดั เซำะชำยฝงั ดินถลม่ แผน่ ดนิ ไหว สนึ ำม ิ ๗. ตระหนกั ถึง ผลกระทบของ ภัยธรรมชำติ และธรณีพิบัตภิ ยั โดยน�ำเสนอ แนวทำงในกำร เฝ้ำระวงั และ ปฏบิ ตั ติ น ให้ปลอดภัย จำกภัยธรรมชำติ และธรณพี ิบตั ิภยั ท่ีอำจเกิดในท้องถ่นิ ๘. สร้ำงแบบจำ� ลอง ท่อี ธิบำยกำรเกิด ปรำกฏกำรณ์ เรือนกระจก และผลของ ปรำกฏกำรณ์ เรอื นกระจก ต่อส่งิ มีชีวิต ๙. ตระหนกั ถงึ ผลกระทบของ ปรำกฏกำรณ์ เรอื นกระจก โดยนำ� เสนอ แนวทำงกำร ปฏิบัติตน เพอ่ื ลดกจิ กรรม ที่กอ่ ให้เกิด แกสเรอื นกระจก

78 มาตรฐานการเรียนรูŒและตัวชว้ี ัดฯ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) สาระที่ ๓ วทิ ยาศาสตร์โลก และอวกาศ มาตรฐาน ว ๓.๒ เข้ำใจองค์ประกอบ และควำมสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนกำรเปล่ียนแปลงภำยในโลก และบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนกำรเปล่ียนแปลงลมฟ้ำอำกำศและภูมิอำกำศโลก รวมทัง้ ผลต่อสงิ่ มชี วี ิตและสิง่ แวดล้อม (ตอ่ ) ม. ๑ ม. ๒ ตวั ชี้วดั ชนั้ ป ม. ๕ ม. ๖ ม. ๓ ม. ๔ - ๑. อธบิ ำยกำรแบง่ ช้ัน ๑. สรำ้ งแบบจำ� ลอง ๑. เปรยี บเทียบ และสมบัตขิ อง ที่อธิบำย กระบวนกำรเกิด -- โครงสรำ้ งโลก พรอ้ มยกตัวอย่ำง กำรแบ่งชน้ั สมบัติ และ ข้อมูลท่ีสนบั สนุน บรรยำกำศ กำรใชป้ ระโยชน ์ ๒. อธบิ ำยหลักฐำน และเปรยี บเทียบ รวมทัง้ อธิบำย ทำงธรณวี ิทยำ ประโยชน์ของ ผลกระทบจำก ท่ีสนบั สนนุ บรรยำกำศ กำรใช้เชอ้ื เพลงิ กำรเคลอื่ นที่ แตล่ ะชนั้ ซำกดึกดำ� บรรพ์ ของแผน่ ธรณี ๒. อธบิ ำยปจั จัย จำกข้อมูล ๓. ระบุสำเหต ุ ท่ีมีผลต่อกำร ทรี่ วบรวมได้ และอธิบำย เปลีย่ นแปลง ๒. แสดงควำม รูปแบบแนวรอยต่อ องค์ประกอบ ตระหนกั ถงึ ของแผ่นธรณี ของลมฟ้ำอำกำศ ผลจำกกำร ทีส่ ัมพนั ธก์ ับ จำกข้อมลู ท่ี ใช้เชือ้ เพลิง กำรเคลอ่ื นท่ี รวบรวมได้ ซำกดึกดำ� บรรพ์ ของแผน่ ธรณี ๓. เปรยี บเทียบ โดยน�ำเสนอ พร้อมยกตวั อย่ำง กระบวนกำรเกิด แนวทำงกำร หลักฐำนทำง พำยุฝนฟำ้ คะนอง ใช้เชือ้ เพลงิ ธรณวี ิทยำทพ่ี บ และพำยหุ มุน ซำกดกึ ด�ำบรรพ์ ๔. อธิบำยสำเหตุ เขตรอ้ น และผล ๓. เปรียบเทียบ กระบวนกำรเกิด ทม่ี ตี ่อสง่ิ มชี ีวติ ขอ้ ดีและข้อจ�ำกัด ภเู ขำไฟระเบิด และสิง่ แวดล้อม ของพลังงำน รวมทัง้ สบื คน้ รวมทงั้ นำ� เสนอ ทดแทน ขอ้ มลู พ้นื ที่ แนวทำง แตล่ ะประเภท เสย่ี งภัย กำรปฏิบตั ิตน จำกกำรรวบรวม ออกแบบ และ ใหเ้ หมำะสม ขอ้ มลู และนำ� เสนอ นำ� เสนอแนวทำง และปลอดภยั แนวทำงกำรใช้ กำรเฝำ้ ระวังและ ๔. อธบิ ำย พลังงำนทดแทน กำรปฏิบตั ิตน กำรพยำกรณ์ ทีเ่ หมำะสม ใหป้ ลอดภัย อำกำศ และ ในทอ้ งถิ่น พยำกรณ์อำกำศ ๔. สรำ้ งแบบ อย่ำงง่ำย จ�ำลองท่ีอธิบำย จำกขอ้ มลู โครงสรำ้ ง

มาตรฐานการเรียนรูแŒ ละตัวช้วี ดั ฯ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) 79 สาระท่ี ๓ วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ มาตรฐาน ว ๓.๒ เข้ำใจองค์ประกอบ และควำมสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนกำรเปลี่ยนแปลงภำยในโลก และบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนกำรเปลี่ยนแปลงลมฟ้ำอำกำศและภูมิอำกำศโลก รวมทงั้ ผลต่อสิง่ มชี ีวิตและสง่ิ แวดลอ้ ม (ต่อ) ม. ๑ ม. ๒ ตวั ชว้ี ัดช้นั ป ม. ๕ ม. ๖ ม. ๓ ม. ๔ ๕. อธิบำยสำเหต ุ กระบวนกำรเกิด ทร่ี วบรวมได้ ภำยในโลก ขนำดและ ๕. ตระหนกั ตำมองคป์ ระกอบ ควำมรุนแรงและ ถึงคณุ คำ่ ของ ทำงเคม ี ผลจำกแผน่ ดินไหว กำรพยำกรณ์ จำกข้อมูล รวมทัง้ สบื คน้ อำกำศ โดยน�ำ ที่รวบรวมได้ ขอ้ มูลพ้นื ท่ี เสนอแนวทำง ๕. อธิบำย เสี่ยงภยั กำรปฏิบัติตน กระบวนกำร ออกแบบและ และกำรใช้ ผพุ ังอยูก่ ับท่ี นำ� เสนอแนวทำง ประโยชนจ์ ำก กำรกรอ่ น และ กำรเฝ้ำระวงั และ ค�ำพยำกรณ์ กำรสะสมตวั กำรปฏิบัตติ น อำกำศ ของตะกอน ให้ปลอดภัย ๖. อธิบำย จำกแบบจ�ำลอง ๖. อธิบำยสำเหตุ สถำนกำรณ์ รวมท้งั ยกตวั อย่ำง กระบวนกำรเกิด และผลกระทบ ผลของ และผลจำก กำรเปลี่ยนแปลง กระบวนกำร สึนำมิ รวมทง้ั ภมู ิอำกำศโลก ดงั กลำ่ ว สบื คน้ ข้อมูล จำกขอ้ มูล ท่ีท�ำใหผ้ วิ โลก พน้ื ท่เี ส่ียงภยั ทีร่ วบรวมได้ เกิดกำร ออกแบบและ ๗. ตระหนักถึง เปล่ยี นแปลง นำ� เสนอแนวทำง ผลกระทบของ ๖. อธิบำยลักษณะ กำรเฝำ้ ระวังและ กำรเปลี่ยนแปลง ของช้นั หนำ้ ตัดดิน กำรปฏิบัติตน ภูมอิ ำกำศโลก และกระบวน ใหป้ ลอดภยั โดยน�ำเสนอ กำรเกิดดิน ๗. อธิบำยปจั จยั แนวทำงกำร จำกแบบจ�ำลอง สำ� คญั ท่มี ีผลตอ่ ปฏบิ ัติตนภำยใต้ รวมทงั้ ระบปุ จั จยั กำรได้รบั กำรเปล่ียนแปลง ท่ีทำ� ให้ดิน พลงั งำนจำก ภมู ิอำกำศโลก มีลักษณะ ดวงอำทิตย์ และสมบัติ แตกตำ่ งกัน แตกตำ่ งกัน ในแต่ละบรเิ วณ ๗. ตรวจวดั สมบัติ ของโลก บำงประกำร ของดนิ โดยใชเ้ ครอื่ งมอื

80 มาตรฐานการเรยี นรแูŒ ละตัวช้วี ดั ฯ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) สาระที่ ๓ วิทยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ มาตรฐาน ว ๓.๒ เข้ำใจองค์ประกอบ และควำมสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนกำรเปล่ียนแปลงภำยในโลก และบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนกำรเปล่ียนแปลงลมฟ้ำอำกำศและภูมิอำกำศโลก รวมทั้งผลต่อสิง่ มชี วี ติ และส่งิ แวดล้อม (ตอ่ ) ตัวชวี้ ัดชั้นป ม. ๕ ม. ๖ ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ๘. อธิบำย กำรหมุนเวียน ท่เี หมำะสมและ ของอำกำศ นำ� เสนอแนวทำง ทเ่ี ปน็ ผลมำจำก กำรใช้ประโยชน์ ควำมแตกต่ำง ดินจำกข้อมูล ของควำมกด สมบัตขิ องดนิ อำกำศ ๘. อธบิ ำยปัจจัย ๙. อธิบำยทิศทำง และกระบวนกำร กำรเคลื่อนท่ี เกิดแหล่งนำ�้ ของอำกำศทเี่ ปน็ ผิวดนิ และ ผลมำจำกกำร แหล่งนำ�้ ใต้ดิน หมุนรอบตัวเอง จำกแบบจ�ำลอง ของโลก ๙. สรำ้ งแบบจำ� ลอง ๑๐. อธบิ ำย ทอ่ี ธบิ ำยกำรใชน้ ำ�้ กำรหมุนเวียน และนำ� เสนอ ของอำกำศ แนวทำงกำรใชน้ ำ�้ ตำมเขตละตจิ ูด อย่ำงย่ังยืน และผลทีม่ ีต่อ ในท้องถ่นิ ภูมิอำกำศ ของตนเอง ๑๑. อธิบำยปัจจัย ๑๐. สรำ้ งแบบจ�ำลอง ทีท่ ำ� ใหเ้ กิด ทีอ่ ธิบำย กำรหมุนเวยี น กระบวนกำรเกดิ ของนำ�้ ผิวหนำ้ และผลกระทบ ในมหำสมทุ ร ของนำ้� ท่วม และรปู แบบ กำรกัดเซำะ กำรหมุนเวยี น ชำยฝงั ของน�้ำผิวหน้ำ ดินถลม่ หลมุ ยบุ ในมหำสมุทร แผ่นดนิ ทรดุ ๑๒. อธบิ ำยผลของ กำรหมุนเวียน ของอำกำศ และน้�ำผิวหน้ำ ในมหำสมุทร

มาตรฐานการเรียนรŒแู ละตวั ชว้ี ดั ฯ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) 81 สาระท่ี ๓ วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ มาตรฐาน ว ๓.๒ เข้ำใจองค์ประกอบ และควำมสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนกำรเปล่ียนแปลงภำยในโลก และบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนกำรเปล่ียนแปลงลมฟ้ำอำกำศและภูมิอำกำศโลก รวมทั้งผลต่อสงิ่ มชี วี ติ และส่งิ แวดลอ้ ม (ต่อ) ตวั ช้วี ดั ช้ันป ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖ ทม่ี ีต่อลักษณะ ภูมอิ ำกำศ ลมฟ้ำอำกำศ สง่ิ มชี วี ติ และ สิง่ แวดล้อม ๑๓. อธบิ ำยปจั จยั ทีม่ ผี ลตอ่ กำร เปลี่ยนแปลง ภมู อิ ำกำศของโลก พร้อมทง้ั น�ำเสนอ แนวปฏิบตั ิ เพ่ือลดกิจกรรม ของมนษุ ย์ ทส่ี ่งผลตอ่ กำรเปลย่ี นแปลง ภมู ิอำกำศโลก ๑๔. แปลควำมหมำย สญั ลักษณ์ ลมฟำ้ อำกำศ ทส่ี �ำคญั จำก แผนทีอ่ ำกำศ และน�ำข้อมูล สำรสนเทศต่ำง ๆ มำวำงแผน กำรดำ� เนนิ ชวี ติ ใหส้ อดคล้อง กบั สภำพ ลมฟำ้ อำกำศ

82 มาตรฐานการเรียนรŒูและตัวชว้ี ัดฯ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) สาระท่ี ๔ เทคโนโลยี มาตรฐาน ว ๔.๑ เขำ้ ใจแนวคดิ หลกั ของเทคโนโลยเี พอื่ กำรดำ� รงชวี ติ ในสงั คมทมี่ กี ำรเปลย่ี นแปลงอยำ่ งรวดเรว็ ใช้ควำมรู้และทักษะทำงด้ำนวิทยำศำสตร์ คณิตศำสตร์ และศำสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหำ หรอื พฒั นำงำนอยำ่ งมีควำมคดิ สร้ำงสรรค์ด้วยกระบวนกำรออกแบบเชงิ วศิ วกรรม เลือกใช้ เทคโนโลยีอย่ำงเหมำะสมโดยคำ� นึงถึงผลกระทบต่อชวี ติ สงั คม และส่ิงแวดล้อม ตัวชี้วดั ชน้ั ป ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖ ------ ตัวชี้วัดช้ันป ม. ๖ ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ - ๑. อธบิ ำยแนวคดิ ๑. คำดกำรณ์ ๑. วิเครำะห์ ๑. วิเครำะห์ ๑. ประยกุ ตใ์ ช้ หลักของ แนวโนม้ สำเหต ุ แนวคิดหลกั ควำมรแู้ ละ เทคโนโลยใี น เทคโนโลยี หรือปัจจยั ของเทคโนโลย ี ทกั ษะจำก ชีวติ ประจ�ำวนั ท่จี ะเกดิ ขึน้ ท่สี ่งผลต่อกำร ควำมสมั พันธ์ ศำสตร์ต่ำง ๆ และวิเครำะห์ โดยพจิ ำรณำ เปล่ียนแปลง กับศำสตรอ์ น่ื รวมทัง้ ทรพั ยำกร สำเหตหุ รือปัจจัย จำกสำเหตุ หรือ ของเทคโนโลยี โดยเฉพำะ ในกำรท�ำ ที่ส่งผลต่อกำร ปัจจยั ท่ีส่งผลต่อ และควำมสมั พันธ์ วิทยำศำสตร์ โครงงำน เปลย่ี นแปลง กำรเปลี่ยนแปลง ของเทคโนโลยี หรอื คณิตศำสตร์ เพอ่ื แก้ปญั หำ ของเทคโนโลยี ของเทคโนโลย ี กับศำสตร์อนื่ รวมทง้ั ประเมนิ หรือพัฒนำงำน ๒. ระบุปญั หำหรือ และวเิ ครำะห์ โดยเฉพำะ ผลกระทบทจ่ี ะ ควำมต้องกำร เปรียบเทยี บ วิทยำศำสตร ์ เกดิ ขึ้นตอ่ มนุษย์ ในชวี ติ ประจ�ำวัน ตดั สนิ ใจเลือกใช้ หรอื คณิตศำสตร์ สงั คม เศรษฐกิจ รวบรวม เทคโนโลยี เพ่ือเป็นแนวทำง และสิ่งแวดลอ้ ม วเิ ครำะหข์ อ้ มลู โดยค�ำนงึ ถึง กำรแกป้ ญั หำ เพอื่ เปน็ แนวทำง และแนวคดิ ผลกระทบ หรอื พฒั นำงำน ในกำรพัฒนำ ทเ่ี ก่ียวขอ้ ง ทีเ่ กดิ ขน้ึ ต่อชีวติ ๒. ระบุปัญหำหรอื เทคโนโลยี กบั ปัญหำ สงั คม และ ควำมต้องกำร ๒. ระบปุ ัญหำหรือ ๓. ออกแบบวธิ ีกำร สิง่ แวดล้อม ของชมุ ชน ควำมต้องกำร แก้ปญั หำ ๒. ระบุปญั หำหรอื หรือท้องถ่นิ ท่มี ีผลกระทบ โดยวเิ ครำะห์ ควำมต้องกำร เพ่อื พฒั นำงำน ต่อสงั คม รวบรวม เปรียบเทียบ ในชมุ ชน อำชีพ สรุปกรอบ วิเครำะหข์ อ้ มลู และตดั สนิ ใจ หรือท้องถิน่ ของปญั หำ และแนวคิด เลือกข้อมูล สรปุ กรอบของ รวบรวม ท่ีเกี่ยวขอ้ งกับ ทจี่ ำ� เปน็ ปญั หำ รวบรวม วเิ ครำะหข์ ้อมูล ปญั หำท่มี ี นำ� เสนอแนวทำง วเิ ครำะห์ขอ้ มูล และแนวคิด ควำมซบั ซอ้ น

มาตรฐานการเรียนรูแŒ ละตวั ช้ีวัดฯ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) 83 สาระท่ี ๔ เทคโนโลยี มาตรฐาน ว ๔.๑ เขำ้ ใจแนวคดิ หลกั ของเทคโนโลยเี พอ่ื กำรดำ� รงชวี ติ ในสงั คมทมี่ กี ำรเปลยี่ นแปลงอยำ่ งรวดเรว็ ใช้ควำมรู้และทักษะทำงด้ำนวิทยำศำสตร์ คณิตศำสตร์ และศำสตร์อ่ืน ๆ เพ่ือแก้ปัญหำ หรือพฒั นำงำนอยำ่ งมคี วำมคดิ สร้ำงสรรค์ด้วยกระบวนกำรออกแบบเชงิ วศิ วกรรม เลอื กใช้ เทคโนโลยีอยำ่ งเหมำะสมโดยคำ� นงึ ถึงผลกระทบต่อชีวิต สงั คม และสิ่งแวดลอ้ ม (ต่อ) ตวั ชี้วัดชั้นป ม. ๕ ม. ๖ ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ กำรแก้ปญั หำ และแนวคิด ท่เี ก่ยี วข้องกับ เพอื่ สงั เครำะห์ ใหผ้ ูอ้ ่นื เขำ้ ใจ ทีเ่ กย่ี วขอ้ ง ปัญหำ โดยคำ� นงึ วิธีกำร เทคนิค วำงแผนและ กับปญั หำ ถึงควำมถูกตอ้ ง ในกำรแกป้ ญั หำ ดำ� เนินกำร ๓. ออกแบบวิธี ดำ้ นทรัพยส์ นิ โดยคำ� นงึ ถึง แก้ปัญหำ กำรแก้ปญั หำ ทำงปัญญำ ควำมถูกตอ้ ง ๔. ทดสอบ โดยวเิ ครำะห์ ๓. ออกแบบวิธี ด้ำนทรัพย์สิน ประเมนิ ผล และ เปรียบเทยี บ กำรแกป้ ญั หำ ทำงปญั ญำ ระบขุ อ้ บกพรอ่ ง และตัดสนิ ใจ โดยวเิ ครำะห์ ๓. ออกแบบวิธีกำร ทีเ่ กดิ ขนึ้ เลอื กขอ้ มลู เปรยี บเทยี บ แก้ปญั หำ พร้อมทั้งหำ ท่จี ำ� เป็นภำยใต้ และตดั สินใจ โดยวเิ ครำะห ์ แนวทำงกำร เงื่อนไขและ เลือกขอ้ มูล เปรียบเทยี บ ปรับปรงุ แก้ไข ทรัพยำกรท่ีมอี ย่ ู ทจ่ี �ำเปน็ ภำยใต้ และตัดสนิ ใจ และน�ำเสนอ น�ำเสนอแนวทำง เง่ือนไขและ เลือกข้อมูล ผลกำรแก้ปัญหำ กำรแก้ปญั หำ ทรัพยำกรทม่ี ีอยู ่ ทจี่ ำ� เปน็ ภำยใต้ ๕. ใช้ควำมรแู้ ละ ให้ผูอ้ ื่นเข้ำใจ นำ� เสนอแนวทำง เงอื่ นไขและ ทักษะเก่ยี วกับ วำงแผนขั้นตอน กำรแก้ปญั หำ ทรัพยำกรท่ีมีอย ู่ วสั ดุ อปุ กรณ ์ กำรทำ� งำนและ ใหผ้ อู้ น่ื เขำ้ ใจ นำ� เสนอแนวทำง เคร่อื งมือ กลไก ดำ� เนินกำรแก้ ดว้ ยเทคนคิ กำรแกป้ ัญหำ ไฟฟ้ำ หรอื ปญั หำอยำ่ งเปน็ หรอื วธิ กี ำร ใหผ้ ้อู น่ื เขำ้ ใจ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ข้นั ตอน ท่ีหลำกหลำย ดว้ ยเทคนคิ เพอ่ื แกป้ ญั หำ ๔. ทดสอบ วำงแผนข้นั ตอน หรอื วิธีกำร ไดอ้ ย่ำงถกู ตอ้ ง ประเมินผล กำรทำ� งำน ทห่ี ลำกหลำย เหมำะสมและ และอธิบำย และดำ� เนินกำร โดยใชซ้ อฟต์แวร์ ปลอดภัย ปัญหำหรือข้อ แกป้ ญั หำอย่ำง ช่วยในกำร บกพร่องทเี่ กดิ ข้ึน เป็นข้นั ตอน ออกแบบ ภำยใตก้ รอบ ๔. ทดสอบ วำงแผนข้ันตอน เงือ่ นไข พร้อมท้งั ประเมินผล กำรทำ� งำน หำแนวทำงกำร วเิ ครำะหแ์ ละ และดำ� เนินกำร ปรับปรงุ แกไ้ ข ใหเ้ หตผุ ลของ แก้ปัญหำ และน�ำเสนอ ปัญหำหรอื ๔. ทดสอบ ผลกำรแก้ปญั หำ ข้อบกพรอ่ งที่ ประเมนิ ผล เกิดขน้ึ ภำยใต้ วเิ ครำะห์และ

84 มาตรฐานการเรยี นรแูŒ ละตัวชว้ี ดั ฯ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) สาระท่ี ๔ เทคโนโลยี มาตรฐาน ว ๔.๑ เขำ้ ใจแนวคดิ หลกั ของเทคโนโลยเี พอื่ กำรดำ� รงชวี ติ ในสงั คมทม่ี กี ำรเปลยี่ นแปลงอยำ่ งรวดเรว็ ใช้ควำมรู้และทักษะทำงด้ำนวิทยำศำสตร์ คณิตศำสตร์ และศำสตร์อ่ืน ๆ เพื่อแก้ปัญหำ หรอื พัฒนำงำนอย่ำงมคี วำมคดิ สรำ้ งสรรคด์ ว้ ยกระบวนกำรออกแบบเชิงวิศวกรรม เลอื กใช้ เทคโนโลยีอย่ำงเหมำะสมโดยคำ� นงึ ถึงผลกระทบต่อชวี ติ สังคม และส่ิงแวดล้อม (ตอ่ ) ตัวชว้ี ัดชั้นป ม. ๖ ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ๕. ใชค้ วำมรแู้ ละ กรอบเง่อื นไข ให้เหตุผลของ ทักษะเก่ียวกบั พร้อมทงั้ หำ ปัญหำหรือ วสั ด ุ อุปกรณ์ แนวทำงกำร ขอ้ บกพร่องท่ี เครื่องมอื กลไก ปรบั ปรงุ แก้ไข เกิดข้นึ ภำยใต้ ไฟฟ้ำ และ และนำ� เสนอผล กรอบเง่ือนไข อิเลก็ ทรอนกิ ส์ กำรแก้ปัญหำ หำแนวทำง เพื่อแกป้ ัญหำ ๕. ใชค้ วำมร้แู ละ กำรปรับปรงุ แก้ไข หรอื พฒั นำงำน ทกั ษะเกี่ยวกบั และนำ� เสนอผล ได้อยำ่ งถูกตอ้ ง วัสด ุ อุปกรณ ์ กำรแก้ปญั หำ เหมำะสม และ เครอ่ื งมอื กลไก พรอ้ มทงั้ เสนอ ปลอดภัย ไฟฟำ้ และ แนวทำงกำร อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ พฒั นำต่อยอด ให้ถูกตอ้ งกับ ๕. ใชค้ วำมร้แู ละ ลกั ษณะของงำน ทกั ษะเกย่ี วกบั และปลอดภัย วสั ดุ อปุ กรณ์ เพ่ือแกป้ ญั หำ เครอ่ื งมือ กลไก หรือพัฒนำงำน ไฟฟ้ำและ อเิ ลก็ ทรอนิกส ์ และเทคโนโลยี ที่ซบั ซอ้ นในกำร แกป้ ญั หำหรือ พฒั นำงำน ไดอ้ ย่ำงถกู ตอ้ ง เหมำะสม และ ปลอดภยั

มาตรฐานการเรยี นรแŒู ละตวั ชว้ี ัดฯ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) 85 สาระท่ี ๔ เทคโนโลยี มาตรฐาน ว ๔.๒ เข้ำใจและใช้แนวคิดเชิงค�ำนวณในกำรแก้ปัญหำที่พบในชีวิตจริงอย่ำงเป็นข้ันตอนและ เปน็ ระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ำรสนเทศและกำรสอื่ สำรในกำรเรยี นร ู้ กำรทำ� งำน และกำรแกป้ ญั หำ ได้อยำ่ งมีประสทิ ธภิ ำพ รเู้ ทำ่ ทันและมีจรยิ ธรรม ตัวช้วี ดั ช้ันป ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖ ๑. แกป้ ญั หำ ๑. แสดงลำ� ดบั ๑. แสดงอัลกอริทึม ๑. ใช้เหตุผล ๑. ใชเ้ หตผุ ล ๑. ใช้เหตผุ ล อย่ำงง่ำย ขั้นตอน ในกำรท�ำงำน เชงิ ตรรกะ เชิงตรรกะ เชงิ ตรรกะ โดยใช้กำร กำรทำ� งำนหรือ หรือกำรแก้ ในกำรแก้ปัญหำ ในกำรแกป้ ญั หำ ในกำรอธิบำย ลองผิด ลองถูก กำรแก้ปัญหำ ปญั หำอยำ่ งงำ่ ย กำรอธบิ ำย กำรอธิบำย และออกแบบ กำรเปรยี บเทยี บ อย่ำงงำ่ ยโดยใช้ โดยใช้ภำพ กำรท�ำงำน กำรทำ� งำน วธิ กี ำร ๒. แสดงล�ำดับ ภำพ สัญลกั ษณ ์ สญั ลกั ษณ ์ กำรคำดกำรณ์ กำรคำดกำรณ์ แก้ปญั หำทีพ่ บ ขั้นตอน หรอื ข้อควำม หรือข้อควำม ผลลพั ธ์ ผลลัพธจ์ ำก ในชวี ติ ประจ�ำวัน กำรทำ� งำนหรอื ๒. เขียนโปรแกรม ๒. เขยี นโปรแกรม จำกปัญหำ ปญั หำอย่ำงงำ่ ย ๒. ออกแบบและ กำรแกป้ ัญหำ อย่ำงง่ำย โดยใช้ อย่ำงงำ่ ย โดยใช้ อย่ำงงำ่ ย ๒. ออกแบบและ เขียนโปรแกรม อย่ำงง่ำย โดยใช้ ซอฟตแ์ วรห์ รือ ซอฟต์แวรห์ รอื ๒. ออกแบบ และ เขยี นโปรแกรม อย่ำงงำ่ ย ภำพ สญั ลกั ษณ์ ส่อื และตรวจหำ สือ่ และตรวจหำ เขียนโปรแกรม ท่มี กี ำรใช้เหตุผล เพ่ือแก้ปญั หำ หรอื ข้อควำม ขอ้ ผดิ พลำด ข้อผดิ พลำด อยำ่ งง่ำย โดยใช้ เชงิ ตรรกะ ในชีวิตประจ�ำวัน ๓. เขยี นโปรแกรม ของโปรแกรม ของโปรแกรม ซอฟต์แวร์หรือ อย่ำงง่ำย ตรวจหำ ตรวจหำ อย่ำงง่ำย โดยใช้ ๓. ใชเ้ ทคโนโลยี ๓. ใช้อนิ เทอร์เน็ต สอื่ และตรวจหำ ขอ้ ผดิ พลำด ขอ้ ผิดพลำด ซอฟต์แวร์ ในกำรสรำ้ ง คน้ หำควำมรู้ ข้อผดิ พลำด และแกไ้ ข ของโปรแกรม หรือสอ่ื จัดหมวดหมู ่ ๔. รวบรวม และแกไ้ ข ๓. ใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ และแกไ้ ข ๔. ใช้เทคโนโลยี ค้นหำ จัดเกบ็ ประมวลผล และ ๓. ใช้อินเทอร์เนต็ คน้ หำขอ้ มูล ๓. ใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ ในกำรสร้ำง เรยี กใชข้ ้อมูล น�ำเสนอขอ้ มลู คน้ หำควำมรู้ ตดิ ต่อสอ่ื สำร ในกำรคน้ หำ จัดเกบ็ ตำมวัตถปุ ระสงค์ โดยใชซ้ อฟตแ์ วร์ และประเมิน และท�ำงำน ขอ้ มูลอย่ำงมี เรยี กใชข้ ้อมูล ๔. ใช้เทคโนโลยี ตำมวัตถุประสงค์ ควำมนำ่ เชือ่ ถอื รว่ มกัน ประเมิน ประสิทธภิ ำพ ตำมวตั ถุประสงค์ สำรสนเทศ ๕. ใชเ้ ทคโนโลยี ของขอ้ มลู ควำมน่ำเช่อื ถอื ๔. ใช้เทคโนโลยี ๕. ใชเ้ ทคโนโลยี อย่ำงปลอดภัย สำรสนเทศ ๔. รวบรวม ประเมิน ของข้อมลู สำรสนเทศ สำรสนเทศ ปฏิบตั ิตำม อยำ่ งปลอดภยั นำ� เสนอขอ้ มูล ๔. รวบรวม ประเมิน ทำ� งำนรว่ มกัน อย่ำงปลอดภยั ข้อตกลงในกำร ปฏิบตั ติ ำม และสำรสนเทศ นำ� เสนอข้อมลู อย่ำงปลอดภยั ปฏิบัติตำม ใช้คอมพิวเตอร์ ขอ้ ตกลง โดยใช้ซอฟต์แวร์ และสำรสนเทศ เขำ้ ใจสทิ ธแิ ละ ขอ้ ตกลงในกำร รว่ มกนั ในกำรใช้ ทห่ี ลำกหลำย ตำมวตั ถปุ ระสงค์ หนำ้ ที่ของตน ใช้คอมพวิ เตอร์ ดแู ลรักษำ อินเทอรเ์ นต็ เพ่อื แก้ปญั หำใน โดยใชซ้ อฟตแ์ วร์ เคำรพในสิทธิ ร่วมกนั ดแู ล อุปกรณเ์ บื้องตน้ ชวี ิตประจ�ำวนั หรือบรกิ ำรบน ของผอู้ นื่ รกั ษำอุปกรณ์ ใชง้ ำนอยำ่ ง ๕. ใชเ้ ทคโนโลยี อนิ เทอร์เนต็ ท่ี แจง้ ผู้เกย่ี วขอ้ ง เบื้องตน้ ใชง้ ำน เหมำะสม สำรสนเทศ หลำกหลำย เม่อื พบขอ้ มูล อยำ่ งเหมำะสม อย่ำงปลอดภยั เพือ่ แกป้ ัญหำ หรอื บุคคล เข้ำใจสิทธแิ ละ ในชีวติ ประจำ� วัน ท่ีไม่เหมำะสม หน้ำทีข่ องตน

86 มาตรฐานการเรยี นรูŒและตวั ชว้ี ัดฯ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) สาระท่ี ๔ เทคโนโลยี มาตรฐาน ว ๔.๒ เข้ำใจและใช้แนวคิดเชิงค�ำนวณในกำรแก้ปัญหำที่พบในชีวิตจริงอย่ำงเป็นข้ันตอนและ เปน็ ระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ำรสนเทศและกำรสอื่ สำรในกำรเรยี นร ู้ กำรทำ� งำน และกำรแกป้ ญั หำ ไดอ้ ยำ่ งมปี ระสทิ ธภิ ำพ รเู้ ท่ำทนั และมจี ริยธรรม (ต่อ) ตวั ชี้วัดชน้ั ป ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖ เคำรพในสิทธิ ๕. ใชเ้ ทคโนโลยี ของผูอ้ ่นื สำรสนเทศ แจ้งผ้เู กยี่ วขอ้ ง อย่ำงปลอดภัย เมอื่ พบข้อมูล มีมำรยำท เข้ำใจ หรอื บคุ คล สิทธิและหนำ้ ที่ ที่ไมเ่ หมำะสม ของตน เคำรพ ในสิทธิของผูอ้ ่นื แจ้งผู้เก่ยี วข้อง เมื่อพบขอ้ มลู หรือบุคคล ท่ไี มเ่ หมำะสม

มาตรฐานการเรียนรแŒู ละตวั ชี้วดั ฯ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) 87 สาระท่ี ๔ เทคโนโลยี มาตรฐาน ว ๔.๒ เข้ำใจและใช้แนวคิดเชิงค�ำนวณในกำรแก้ปัญหำท่ีพบในชีวิตจริงอย่ำงเป็นข้ันตอนและ เปน็ ระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ำรสนเทศและกำรสอื่ สำรในกำรเรยี นร ู้ กำรทำ� งำน และกำรแกป้ ญั หำ ไดอ้ ยำ่ งมปี ระสทิ ธิภำพ รเู้ ท่ำทนั และมีจริยธรรม (ตอ่ ) ตัวชีว้ ดั ช้ันป ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖ ๑. ออกแบบ ๑. ออกแบบ ๑. พฒั นำ ๑. ประยกุ ตใ์ ช้ ๑. รวบรวม ๑. ใช้เทคโนโลยี อลั กอริทึม อลั กอริทมึ แอปพลเิ คชัน แนวคิดเชิง วิเครำะห์ข้อมลู สำรสนเทศใน ที่ใช้แนวคดิ ทใ่ี ชแ้ นวคิด ที่มีกำรบูรณำกำร คำ� นวณในกำร และใช้ควำมรู้ กำรนำ� เสนอและ เชิงนำมธรรม เชิงคำ� นวณ กบั วชิ ำอน่ื พัฒนำโครงงำน ด้ำนวทิ ยำกำร แบง่ ปันข้อมูล เพ่ือแก้ปัญหำ ในกำรแกป้ ญั หำ อยำ่ งสรำ้ งสรรค์ ทมี่ กี ำรบรู ณำกำร คอมพิวเตอร์ อย่ำงปลอดภยั หรืออธบิ ำย หรอื กำรท�ำงำน ๒. รวบรวมข้อมูล กับวิชำอน่ื สือ่ ดิจทิ ัล มจี รยิ ธรรม กำรทำ� งำน ทีพ่ บในชวี ิตจรงิ ประมวลผล อย่ำงสร้ำงสรรค ์ เทคโนโลยี และวิเครำะห์ ท่ีพบในชีวิตจรงิ ๒. ออกแบบและ ประเมนิ ผล และเชื่อมโยง สำรสนเทศ กำรเปลีย่ นแปลง ๒. ออกแบบและ เขียนโปรแกรม นำ� เสนอข้อมลู กบั ชวี ติ จริง ในกำรแก้ปัญหำ เทคโนโลยี เขยี นโปรแกรม ที่ใช้ตรรกะและ และสำรสนเทศ หรือเพิม่ มลู ค่ำ สำรสนเทศ อยำ่ งง่ำย ฟังกช์ นั ในกำร ตำมวัตถปุ ระสงค์ ใหก้ ับบริกำร ท่ีมีผลต่อ เพอ่ื แกป้ ญั หำ แก้ปัญหำ โดยใชซ้ อฟต์แวร์ หรอื ผลิตภัณฑ์ กำรดำ� เนินชวี ิต ทำงคณติ ศำสตร์ ๓. อภิปรำย หรอื บรกิ ำรบน ท่ีใชใ้ นชีวติ จรงิ อำชพี สังคม หรอื วิทยำศำสตร์ องค์ประกอบ อนิ เทอรเ์ นต็ ท่ี อย่ำงสร้ำงสรรค์ และวฒั นธรรม ๓. รวบรวมขอ้ มูล และหลกั กำร หลำกหลำย ปฐมภูมิ ท�ำงำนของระบบ ๓. ประเมิน ประมวลผล คอมพวิ เตอร์ ควำมน่ำเชอื่ ถือ ประเมินผล และเทคโนโลยี ของข้อมลู น�ำเสนอขอ้ มูล กำรสอื่ สำร วเิ ครำะห์สือ่ และสำรสนเทศ เพ่ือประยุกต์ และผลกระทบ ตำมวัตถปุ ระสงค์ ใชง้ ำนหรือแก้ จำกกำรให้ โดยใชซ้ อฟตแ์ วร์ ปัญหำเบอื้ งต้น ขำ่ วสำรท่ผี ดิ หรอื บรกิ ำร ๔. ใชเ้ ทคโนโลยี เพอ่ื กำรใชง้ ำน บนอินเทอร์เนต็ สำรสนเทศ อย่ำงรู้เทำ่ ทัน ทหี่ ลำกหลำย อยำ่ งปลอดภยั ๔. ใช้เทคโนโลยี ๔. ใชเ้ ทคโนโลยี มีควำมรบั ผดิ ชอบ สำรสนเทศ สำรสนเทศ สรำ้ งและแสดง อย่ำงปลอดภัย อย่ำงปลอดภัย สิทธใิ นกำร และมีควำม ใช้ส่อื และ เผยแพร่ผลงำน รบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม แหล่งข้อมลู ปฏิบตั ติ ำม ตำมข้อก�ำหนด กฎหมำยเกย่ี วกับ และข้อตกลง คอมพิวเตอร์ ใช้ลิขสิทธ์ขิ อง ผ้อู ื่นโดยชอบธรรม

88 มาตรฐานการเรยี นรแูŒ ละตัวชี้วัดฯ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) สาระภมู ศิ าสตร ในกลุ‹มสาระการเรยี นรูส้ งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ท�าไมต้องเรียนภมู ิศาสตร์ สำระภมู ศิ ำสตรช์ ว่ ยใหผ้ เู้ รยี นเขำ้ ใจลกั ษณะทำงกำยภำพของโลก ปฏสิ มั พนั ธร์ ะหวำ่ งมนษุ ยก์ บั สงิ่ แวดลอ้ ม ที่ก่อให้เกิดกำรสร้ำงสรรค์วิถีกำรด�ำเนินชีวิต เพื่อให้รู้เท่ำทัน ปรับตัวตำมกำรเปลี่ยนแปลงของส่ิงแวดล้อม ตลอดจนสำมำรถใชท้ กั ษะ กระบวนกำร ควำมสำมำรถทำงภมู ศิ ำสตร ์ และเครอ่ื งมอื ทำงภมู ศิ ำสตรจ์ ดั กำรทรพั ยำกร และส่ิงแวดล้อมตำมสำเหตแุ ละปัจจยั อนั จะนำ� ไปสู่กำรปรบั ใช้ในกำรดำ� เนนิ ชวี ติ จนเกิดจติ ส�ำนกึ และมีส่วนร่วม ในกำรพฒั นำท่ียง่ั ยนื เรยี นรู้อะไรในภูมศิ าสตร์ ลกั ษณะทำงกำยภำพของโลก กำรเปลยี่ นแปลงทำงกำยภำพ ปญั หำทำงกำยภำพและภยั พบิ ตั ิ ควำมสมั พนั ธ์ ของสรรพสง่ิ ซง่ึ มผี ลตอ่ กนั แผนทแ่ี ละเครอื่ งมอื ทำงภมู ศิ ำสตร ์ กำรใชภ้ มู สิ ำรสนเทศ ปฏสิ มั พนั ธร์ ะหวำ่ งมนษุ ยก์ บั ส่ิงแวดล้อมทำงกำยภำพกับกำรสร้ำงสรรค์วิถีกำรด�ำเนินชีวิต กิจกรรมทำงเศรษฐกิจและสังคม ควำมร่วมมือ ด้ำนทรัพยำกรและส่ิงแวดล้อมในประเทศและระหว่ำงประเทศ และกำรจัดกำรทรัพยำกรและสิ่งแวดล้อม เพอื่ กำรพัฒนำทย่ี งั่ ยนื คุณภาพผูเ้ รยี น จบช้นั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๓ มีควำมรู้เก่ยี วกบั ลกั ษณะทำงกำยภำพของส่งิ ตำ่ ง ๆ ท่อี ยรู่ อบตวั และชุมชน และสำมำรถปรบั ตัวเทำ่ ทัน กำรเปล่ยี นแปลงทำงกำยภำพ และมีสว่ นรว่ มในกำรจดั กำรทรพั ยำกรและสิง่ แวดลอ้ มใกลต้ ัว จบช้ันประถมศึกษาปท่ี ๖ มีควำมรู้เกี่ยวกับลักษณะทำงกำยภำพ ภัยพิบัติ ลักษณะกิจกรรมทำงเศรษฐกิจและสังคมในจังหวัด ภำค และประเทศไทย สำมำรถเตรียมรบั มอื กบั กำรเปลยี่ นแปลงทำงกำยภำพกบั ภัยพบิ ัตติ ำ่ ง ๆ ในประเทศไทย และหำแนวทำงในกำรจัดกำรทรพั ยำกรและส่งิ แวดล้อม จบชั้นมธั ยมศกึ ษาปท่ี ๓ มคี วำมรเู้ กย่ี วกบั ลกั ษณะทำงกำยภำพ ภยั พบิ ตั ิ ลกั ษณะกจิ กรรมทำงเศรษฐกจิ และสงั คม ในภมู ภิ ำคตำ่ ง ๆ ของโลก ควำมร่วมมือด้ำนทรัพยำกรและสิ่งแวดล้อมระหว่ำงประเทศ เพ่ือเตรียมรับมือภัยพิบัติและกำรจัดกำร ทรัพยำกรและสง่ิ แวดล้อมท่ียัง่ ยืน

มาตรฐานการเรียนรูŒและตวั ชวี้ ัดฯ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) 89 จบชั้นมัธยมศึกษาปที่ ๖ มีควำมรู้เก่ียวกับกำรเปลี่ยนแปลงทำงกำยภำพ ปัญหำทำงกำยภำพและภัยพิบัติ ซ่ึงได้รับอิทธิพล จำกปัจจัยทำงภูมิศำสตร์ ปฏิสัมพันธ์ระหว่ำงส่ิงแวดล้อมทำงกำยภำพกับกำรสร้ำงสรรค์วิถีกำรด�ำเนินชีวิต ควำมร่วมมือด้ำนทรัพยำกรและส่ิงแวดล้อมในประเทศและระหว่ำงประเทศ เพื่อเตรียมรับมือกำรเปล่ียนแปลง ของโลก และกำรจัดกำรทรัพยำกรและสิง่ แวดลอ้ มเพือ่ กำรพัฒนำทยี่ ่งั ยนื สาระที่ ๕ ภมู ิศาสตร์ มาตรฐาน ส ๕.๑ เข้ำใจลักษณะทำงกำยภำพของโลกและควำมสัมพันธ์ของสรรพสิ่งซ่ึงมีผลต่อกัน ใช้แผนท่ี และเคร่ืองมือทำงภูมิศำสตร์ในกำรค้นหำ วิเครำะห์ และสรุปข้อมูลตำมกระบวนกำร ทำงภูมศิ ำสตร ์ ตลอดจนใชภ้ มู ิสำรสนเทศอย่ำงมีประสิทธภิ ำพ ตวั ช้ีวดั ช้นั ป ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖ ๑. จำ� แนกสงิ่ แวดล้อม ๑. ระบสุ ่ิงแวดลอ้ ม ๑. ส�ำรวจข้อมลู ๑. สบื คน้ และ ๑. สบื คน้ และ ๑. สบื คน้ และ รอบตวั ที่เกดิ ขนึ้ เอง ทำงธรรมชำต ิ ทำงภมู ิศำสตร์ อธบิ ำยข้อมลู อธบิ ำยข้อมลู อธบิ ำยข้อมูล ตำมธรรมชำติ และที่มนุษย์ ในโรงเรยี นและ ลักษณะทำง ลกั ษณะทำง ลกั ษณะ และท่ีมนุษย์ สร้ำงขน้ึ ชมุ ชนโดยใช้ กำยภำพ กำยภำพ ทำงกำยภำพ สร้ำงขึน้ ซงึ่ ปรำกฏระหวำ่ ง แผนผงั แผนท่ ี ในจังหวดั ของตน ในภมู ภิ ำคของตน ของประเทศไทย ๒. ระบคุ วำม บ้ำนกบั โรงเรยี น และรูปถำ่ ย ดว้ ยแผนท่ี ด้วยแผนท่ี ด้วยแผนท ่ี สัมพันธ์ของ ๒. ระบุตำ� แหน่ง เพือ่ แสดง และรปู ถำ่ ย และรูปถ่ำย รปู ถำ่ ยทำงอำกำศ ตำ� แหน่ง ระยะ และลกั ษณะทำง ควำมสัมพนั ธ์ ๒. ระบแุ หล่ง ๒. อธบิ ำยลกั ษณะ และภำพจำก ทิศของสงิ่ ต่ำง ๆ กำยภำพ ของต�ำแหน่ง ทรัพยำกรและ ทำงกำยภำพ ดำวเทยี ม ๓. ใช้แผนผงั ของสิ่งตำ่ ง ๆ ระยะ ทิศทำง สถำนที่ส�ำคญั ท่ีส่งผลตอ่ ๒. อธบิ ำยควำม แสดงตำ� แหนง่ ทป่ี รำกฏ ๒. วำดแผนผงั ในจงั หวดั ของตน แหลง่ ทรพั ยำกร สมั พันธ์ระหว่ำง ของส่ิงต่ำง ๆ ในแผนผงั เพอ่ื แสดง ด้วยแผนท่ี และสถำนทีส่ �ำคญั ลักษณะทำง ในห้องเรียน แผนท่ี รูปถำ่ ย ตำ� แหน่งที่ตัง้ และรูปถ่ำย ในภมู ิภำค กำยภำพ ๔. สงั เกตและบอก และลกู โลก ของสถำนท่สี ำ� คญั ๓. อธิบำยลกั ษณะ ของตน กบั ภยั พิบัต ิ กำรเปลย่ี นแปลง ๓. สงั เกตและแสดง ในบริเวณโรงเรียน ทำงกำยภำพ ในประเทศไทย ของสภำพอำกำศ ควำมสมั พันธ์ และชุมชน ทสี่ ง่ ผลต่อ เพือ่ เตรยี มพรอ้ ม ในรอบวัน ระหวำ่ งโลก แหล่งทรัพยำกร รบั มือภัยพิบตั ิ ดวงอำทิตย์ และสถำนที่สำ� คัญ และดวงจันทร์ ในจังหวดั ที่ท�ำใหเ้ กิด ปรำกฏกำรณ์

90 มาตรฐานการเรยี นรŒูและตวั ชวี้ ดั ฯ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) สาระท่ี ๕ ภูมศิ าสตร์ มาตรฐาน ส ๕.๑ เข้ำใจลักษณะทำงกำยภำพของโลกและควำมสัมพันธ์ของสรรพส่ิงซ่ึงมีผลต่อกัน ใช้แผนท่ี และเคร่ืองมือทำงภูมิศำสตร์ในกำรค้นหำ วิเครำะห์ และสรุปข้อมูลตำมกระบวนกำร ทำงภูมิศำสตร์ ตลอดจนใช้ภมู ิสำรสนเทศอยำ่ งมปี ระสทิ ธภิ ำพ (ต่อ) ตัวชีว้ ดั ชั้นป ตวั ชว้ี ัดชว่ งช้ัน ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔-๖ ๑. วิเครำะหล์ กั ษณะ ๑. วเิ ครำะห์ลกั ษณะ ๑. วิเครำะหล์ กั ษณะ ๑. วเิ ครำะห์กำรเปลี่ยนแปลง ทำงกำยภำพของทวปี เอเชยี ทำงกำยภำพของทวปี ยโุ รป ทำงกำยภำพของ ทำงกำยภำพในประเทศไทย ทวปี ออสเตรเลยี และ และทวีปแอฟรกิ ำโดยใช้ ทวปี อเมริกำเหนือ และ และภูมภิ ำคต่ำง ๆ ของโลก โอเชียเนียโดยใชเ้ ครือ่ งมือ เครือ่ งมือทำงภมู ิศำสตร์ ทวปี อเมรกิ ำใต ้ โดยเลอื กใช้ ซงึ่ ไดร้ ับอิทธิพลจำกปัจจัย ทำงภมู ศิ ำสตร์สืบคน้ ขอ้ มูล สืบคน้ ข้อมลู แผนที่เฉพำะเรื่องและ ทำงภูมิศำสตร์ ๒. อธบิ ำยพิกัดภูมศิ ำสตร์ ๒. อธบิ ำยมำตรำส่วน ทิศ เครื่องมือทำงภมู ศิ ำสตร์ ๒. วเิ ครำะหล์ กั ษณะ (ละตจิ ดู และลองจจิ ดู ) และสัญลกั ษณ์ สืบค้นข้อมลู ทำงกำยภำพซึ่งท�ำให้ เสน้ แบ่งเวลำและ ๓. วเิ ครำะห์สำเหตกุ ำรเกิด ๒. วิเครำะห์สำเหตกุ ำรเกดิ เกดิ ปญั หำและภัยพบิ ัติ เปรียบเทยี บวนั เวลำของโลก ภยั พบิ ตั แิ ละผลกระทบ ภัยพบิ ตั ิและผลกระทบ ทำงธรรมชำติ ๓. วิเครำะห์สำเหตุกำรเกดิ ในทวปี ยุโรปและทวปี แอฟริกำ ในทวีปอเมริกำเหนอื ในประเทศไทยและ ภัยพิบตั ิและผลกระทบ และทวปี อเมรกิ ำใต้ ภมู ิภำคต่ำง ๆ ของโลก ในทวปี เอเชยี ทวปี ออสเตรเลีย ๓. ใชแ้ ผนทีแ่ ละเคร่ืองมอื และโอเชยี เนยี ทำงภมู ศิ ำสตร ์ ในกำรค้นหำ วเิ ครำะห ์ และสรุปข้อมูล ตำมกระบวนกำร ทำงภมู ศิ ำสตร์ และ น�ำภมู ิสำรสนเทศมำใช้ ประโยชน์ในชวี ติ ประจำ� วัน