๑ ระเบียบการวดั ผลและประเมินผล โรงเรยี นวดั พิชยั พุทธศักราช 2563 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศักราช 2560) สานักงานเขตบงึ กุม่ สงั กัดกรงุ เทพมหานคร
๒ คานา หลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 เป็นหลักสูตรแกนกลางของประเทศ มี จุดประสงค์ท่ีจะพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนให้เป็นคนดี มีปัญญา มีคุณภาพชีวิตท่ีดี มีขีดความสามารถ ในการ แข่งขัน โดยเฉพาะอย่างย่ิงการเพิ่มศักยภาพของผู้เรียนให้สูงข้ึน สามารถดารงชีวิตอย่างมีความสุข บนพ้ืนฐาน ของความเป็นไทยและความเป็นสากล รวมท้ังมีความสามารถในการประกอบอาชีพ หรือศึกษา ต่อตามความ ถนัด ความสนใจและความสามารถของแต่ละบคุ คล การวัดผลประเมินผลการเรียนเป็นมาตรการหนึ่งท่ีจะช่วยให้ได้มาซ่ึงข้อมูลมาพั ฒนาผู้เรียนให้บรรลุ เป้าหมายของหลักสูตร เพื่อความเข้าใจตรงกันและมีแนวทางปฏิบัติ ในเรื่องการประเมินผลการเรียนไปใน ทศิ ทางเดียวกัน โรงเรียนวดั พิชยั จึงไดจ้ ดั ทาระเบยี บการวดั ผลประเมินผลการเรยี น เพือ่ ใหผ้ ู้บริหาร ครู และผู้ท่ี เกย่ี วขอ้ งเขา้ ใจสาระและเจตนารมณ์ของระเบยี บ ตลอดจนแนวปฏบิ ัติทีถ่ ูกต้อง โรงเรียนวดั พิชยั ไดน้ าระเบยี บการวดั และประเมนิ ผลไปใชป้ ระกอบกับหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัด พิชัย พุทธศักราช 2551 และได้มีการปรบั ปรุงในบางกลุ่มสาระการเรียนรู้ ดังนั้นระเบียบการวัดและประเมินผล จึงต้องมีการปรับปรุงเพ่ือให้มีความสอดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดพิชัย พุทธศักราช 2563 ตาม หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.2560) โรงเรียนวัดพิชัยขอขอบคุณ คณะกรรมการบริหารหลักสูตรและวิชาการของสถานศึกษาที่ได้ร่วมกัน ปรบั ปรุงระเบียบการวดั ผลประเมนิ ผล ของโรงเรยี นมา ณ ที่น้ีด้วย โรงเรียนวดั พชิ ัย หวงั เปน็ อย่างยิง่ วา่ ระเบยี บ การวัดผลประเมินผลการเรียนฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานดา้ นการวัดผลประเมินการเรยี น อันจะ นาไปส่กู ารพฒั นาคณุ ภาพของผเู้ รียนอย่างมีประสทิ ธภิ าพและเกดิ ประสทิ ธิผล (นางศรนิ รัตน์ ดารงสินศักด)์ิ ผูอ้ านวยการสถานศึกษาโรงเรียนวดั พชิ ัย
สารบัญ ๓ คานา หนา้ สารบญั ก ประกาศโรงเรยี นวดั พชิ ยั ข ระเบยี บโรงเรยี นวดั วัดพิชัย วา่ ด้วยการประเมินผลการเรยี นรู้ 1 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 2 หมวด 1 หลักการในการวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ หลกั การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ 3 3 หมวด 2 องคป์ ระกอบของการวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ 4 หมวด 3 วิธีการวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 5 5 การประเมินผลเพือ่ ปรับปรุงพัฒนาการเรียนรู้ 5 การประเมนิ ผลเพือ่ ปรบั ปรุงการเรียนรู้ 6 หมวด 4 เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา 6 การตัดสินผลการเรยี น 6 การกาหนดคะแนนระหว่างเรียนและปลายปี 8 การประเมนิ ผลการเรียนรใู้ ห้ระดับผลการเรยี น 10 การเล่ือนชัน้ 11 การเรยี นซ้าช้นั 12 การสอนซอ่ มเสริม 12 การจบระดบั ประถมศกึ ษา 13 การใหร้ ะดบั ผลการเรียน 15 หมวด 5 การเทยี บโอนผลการเรียน 21 หมวด 6 การรายงานผลการเรียน 21 จุดมงุ่ หมายการรายงานผลการเรยี น 21 ขอ้ มูลในการรายงานผลการเรียน 22 ลกั ษณะขอ้ มลู สาหรับการรายงาน 22 เป้าหมายการรายงาน 23 วธิ กี ารรายงาน 24 การกาหนดระยะเวลาในการรายงาน 24 หมวด 7 เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา 24 เอกสารหลักฐานการศกึ ษาทีก่ ระทรวงศกึ ษาธิการกาหนด 24 เอกสารหลกั ฐานการศึกษาควบคมุ และบังคบั แบบ
เอกสารหลักฐานการศกึ ษาทส่ี ถานศกึ ษาดาเนินการเอง ๔ หมวด 8 การยา้ ยทเ่ี รียน บรรณานกุ รม 25 ภาคผนวก 27 ภาคผนวก ก คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 28 29
๑ a ประกาศโรงเรยี นวดั พชิ ัย เรอื่ ง ใหใ้ ชร้ ะเบียบการวัดและประเมนิ ผลโรงเรียนวัดพิชัย พทุ ธศกั ราช 2563 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ 2560) ............................................................................ ระเบียบวัดผลประเมินผลโรงเรียนวัดพิชัยพุทธศักราช 2561 เป็นระเบียบวัดผลประเมินผล ท่ีมีความสอดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดพิชัยพุทธศักราช 2561 ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) และได้ดาเนินการตามคาสั่ง กระทรวงศึกษาธกิ าร ที่ สพฐ 1239/2560 ลงวันท่ี 7 เดือน สิงหาคม พ.ศ. 2560 เร่ืองใหใ้ ช้หลักสูตรแกนกลาง การศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 โดยระเบียบนี้กาหนดให้ใช้ควบคู่กับหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียน วัดพิชัยพุทธศักราช 2561 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) คณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐานได้มีมติเห็นชอบให้ใช้ระเบียบวัดผลประเมินผลโรงเรียน วัดพิชัย พุทธศักราช 2561 ในระดับประถมศึกษา โดยเริ่มใช้ในปีการศึกษา 2563 เม่ือวันท่ี 13 เดือนกรกฎาคม พ.ศ.2563 จึงประกาศใหใ้ ชร้ ะเบยี บวดั ผลประเมินผลโรงเรียนวัดวัดพิชยั พทุ ธศกั ราช 2563 ประกาศ ณ วันท่ี 13 กรกฎาคม 2563 (นายมิตร เจริญวัลย์) (นางศรนิ รตั น์ ดารงสนิ ศักด)์ิ ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพ้นื ฐาน ผู้อานวยการสถานศึกษาโรงเรียนวดั พชิ ัย
๒ ระเบยี บโรงเรยี นวัดพิชัย ว่าดว้ ยการวัดผลและประเมินผลการเรียน ระดับประถมศกึ ษา พุทธศักราช 2563 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ------------------------------------------------------------------- ตามท่ีโรงเรียนวัดพิชัย ได้ประกาศใช้หลักสูตแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2563 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ตามคาส่ัง กระทรวงศึกษาธิการ ท่ี สพฐ 1239/2560 ลงวันที่ 8 เดือน สิงหาคม พ.ศ. 2560 เรื่องให้ใช้หลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) จึงเป็นการสมควรที่กาหนดระเบียบ โรงเรียน วัดพิ ชัย ว่าด้ว ยการวัดผ ลและประเมิน ผลการเรียน ตามห ลักสู ตรแกน กลาง การศึกษาขั้นพ้ื นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) เพ่อื ให้สามารถดาเนินการได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ และสอดคลอ้ งกับ คาสง่ั ดงั กล่าว ฉะนั้นอาศัยอานาจตามความในมาตรา 39 แห่งพระราชบัญญั ติระเบียบบริหารราชการ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร พ.ศ. 2546 และกฎกระทรวงแบง่ ส่วนราชการ คณะกรรมการบริหารหลักสูตร และงานวิชาการ สถานศึกษาข้ันพนื้ ฐานโดยความเห็นขอบของคระกรรมการสถานศึกษาขนั้ พื้นฐาน จงึ วางระเบียบ ไวด้ งั ตอ่ ไปน้ี ข้อ 1 ระเบียบน้ีเรียกว่า “ระเบียบโรงเรยี นวัดพิชยั ”ว่าด้วยการวดั และประเมินผลการเรียน ระดบั ประถมศึกษา ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.2560) ข้อ 2 ระเบียบน้ใี ห้ใชบ้ ังคบั ตั้งแต่ปกี ารศกึ ษา 2563 เป็นตน้ ไป ข้อ 3 ให้ยกเลกิ ระเบยี บ ข้อบังคับ ที่ขดั แยง้ กบั ระเบียบนี้ ให้ใชร้ ะเบียบน้แี ทน ขอ้ 4 ให้ใช้ระเบียบนี้ควบคู่กับหลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นวดั พชิ ัย พุทธศักราช 2563 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง 2560) ข้อ 5 ใหผ้ บู้ รหิ ารสถานศึกษารักษาการใหเ้ ปน็ ไปตามระเบียบนี้
๓ หมวด 1 หลกั การในการวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ขอ้ 5 หลกั การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ การวัดและและประเมินผลการเรียนรู้ของโรงเรียนวัดพิชัย พุทธศักราช 2563 ตาม หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 เป็นกระบวนการเก็บรวบรวม ตรวจสอบ ตีความผลการเรียนรู้ และพัฒนาการด้านต่างๆ ของผู้เรียนตามมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวัดของหลักสูตร นาผลไปปรับปรุงพัฒนาการจัดการเรียนรู้และใช้เป็นข้อมูลสาหรับการตัดสินผลการเรียน สถานศึกษาจึงมี กระบวนการจัดการท่ีเป็นระบบ เพื่อให้การดาเนินการวัดและประเมินผลการเรียนรู้เป็นไปอยา่ งมีคุณภาพและ ประสิทธิภาพ ผลการประเมินตรงตามสภาพการเรียนรู้ ความสามารถที่แท้จริงของผู้เรียน ถูกต้องตาม หลักการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ รวมทั้งสามารถรองรับการประเมินภายในและการประเมินภายนอก ตามระบบประกันคุณภาพการศึกษาได้ สถานศึกษาจึงกาหนดหลักการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ เพ่ือเป็น แนวทางในการตดั สนิ ใจเก่ยี วกับการวัดและประเมนิ ผลการเรียนร้ขู องสถานศึกษา ดงั น้ี 5.1 การประเมินผลการเรยี นรู้ของผเู้ รยี น เปิดโอกาสให้ทกุ ฝ่ายทเี่ กี่ยวขอ้ งมีส่วนร่วม 5.2 การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ต้องสอดคล้องและครอบคลุมมาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชว้ี ัดตามกลุ่มสาระการเรยี นรูท้ ี่กาหนดในหลักสูตร และจัดใหม้ ีการประเมินการอ่าน คดิ วิเคราะห์และเขียน คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ตลอดจนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 5.3 การประเมินผู้เรียนพิจารณาจากพัฒนาการของผู้เรียน ความประพฤติ การสังเกต พฤติกรรมการเรียนรู้ การร่วมกิจกรรมและการทดสอบควบคู่ไปในกระบวนการเรียนการสอนตามความ เหมาะสมของแต่ละระดับ 5.4 การวัดและประเมินผลการเรียนรู้เป็นส่วนหน่ึงของกระบวนการจัดการเรียนการสอน ต้องดาเนินการด้วยเทคนิควิธีการที่หลากหลาย เพื่อให้สามารถวัดและประเมินผลผู้เรียนได้อย่างรอบด้าน ทั้งด้านความรู้ ความคิด กระบวนการ พฤติกรรมและเจตคติ เหมาะสมกับสิ่งท่ีต้องการวัด ธรรมชาติวิชา และระดับช้ันของผูเ้ รียนโดยต้ังอยบู่ นพ้นื ฐานความเท่ยี งตรง ยตุ ิธรรม และเช่ือถือได้ 5.5 การประเมินผลการเรียนรู้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงพัฒนาผู้เรียน พัฒนาการจัดการ เรียนร้แู ละตัดสินผลการเรียน 5.6 เปดิ โอกาสให้ผูเ้ รียนและผมู้ สี ว่ นเกี่ยวขอ้ งตรวจสอบผลการประเมนิ ผลการเรียนรู้ 5.7 มีการเทยี บโอนผลการเรยี นระหวา่ งสถานศึกษาและรูปแบบการศึกษาต่าง ๆ 5.8 จัดทาเอกสารหลกั ฐานการศึกษา เพื่อเป็นหลักฐานการประเมินผลการเรียนรู้ รายงาน ผลการเรียน แสดงวุฒิการศึกษาและรับรองผลการเรียนของผเู้ รียน
๔ หมวด 2 องค์ประกอบของการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ขอ้ 6 การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ หลักสูตรโรงเรียนวัดพิชัยพุทธศักราช 2561 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กาหนดจุดหมาย สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน และมาตรฐาน การเรียนรู้เป็นเป้าหมาย และกรอบทิศทางในการพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี มีปัญญา มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีขีดความสามารถในการ แข่งขันในเวทีระดับโลก กาหนดให้ผู้เรยี นได้เรียนรู้ตามมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วดั ท่ีกาหนดในกลุ่มสาระการ เรียนรู้ 8 กลุ่มสาระ มีความสามารถด้านการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์และ เขา้ ร่วมกิจกรรมพฒั นาผู้เรียน และการวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ มอี งคป์ ระกอบดังน้ี 6.1 การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตามรายกลุ่มสาระการเรียนรู้ ผู้สอนทาการวดั และ ประเมินผลการเรียนรู้ผู้เรียนเป็นรายวิชาตามตัวช้ีวัดท่ีกาหนดในหน่วยการเรียนรู้ด้วยวิธีการท่ีหลากหลาย ให้ได้ผลการประเมินตามความสามารถท่ีแท้จริงของผู้เรียน โดยทาการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ไปพร้อม กับการจดั การเรียนการสอน ได้แก่ การสังเกตพัฒนาการและความประพฤติของผเู้ รยี น การสังเกตพฤติกรรม การเรียน การร่วมกิจกรรมและการทดสอบ ซึ่งผู้สอนต้องนานวัตกรรมการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ท่ี หลากหลาย เช่น การประเมินสภาพจริง การประเมินการปฏิบัติงาน การประเมินจากโครงงานและการ ประเมินจากแฟ้มสะสมผลงาน ไปใช้ในการประเมินผลการเรียนรู้ควบคู่ไปกับการใช้แบบทดสอบแบบต่าง ๆ และใหค้ วามสาคญั กบั การประเมินระหวา่ งปมี ากกวา่ การประเมินปลายปี 6.2 การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน เป็นการประเมินศักยภาพของผู้เรียนใน การอ่าน การฟัง การดูและการรับรู้ จากหนังสือ เอกสารและสื่อต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง แล้วนามาคิด วิเคราะห์เนื้อหาสาระที่นาไปสู่การแสดงความคิดเห็น การสังเคราะห์สร้างสรรค์ในเรื่องต่าง ๆ และถ่ายทอด ความคิดนั้นด้วยการเขียนซึ่งสะท้อนถึงสติปัญญา ความรู้ ความเข้าใจ ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหา และสร้างสรรค์จินตนาการอย่างเหมาะสมและมีคุณค่าแก่ตนเอง สังคม และประเทศชาติ พร้อม ด้วยประสบการณ์และทักษะในการเขียนที่มีสานวนภาษาถูกต้อง มีเหตุผลและลาดับข้ันตอนในการนาเสนอ สามารถสร้างความเข้าใจแก่ผู้อ่านได้อย่างชัดเจนตามระดับความสามารถในแต่ละระดับช้ัน การประเมินการ อ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน สรุปผลเป็นรายปี เพ่ือวินิจฉัยและใช้เป็นข้อมูลเพื่อประเมินการเลื่อนช้ันเรียน และการจบการศึกษา 6.3 การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 เป็นการประเมนิ รายคุณลักษณะ แล้วรวบรวมผลการประเมินจากผูป้ ระเมินทกุ ฝ่ายนามา พิจารณาสรุปผลเปน็ รายปี เพ่ือใชเ้ ป็นขอ้ มลู ประเมินการเล่ือนชั้นเรียนและการจบการศกึ ษา 6.4 การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เป็นการประเมินการปฏิบัติกิจกรรมตามจุดประสงค์ และเวลาในการเข้าร่วมกิจกรรมตามเกณฑ์ท่ีกาหนดไว้ในแต่ละกิจกรรมและใช้เป็นข้อมูลประเมินการเล่ือนช้ัน เรยี นและการจบการศกึ ษา
๕ หมวด 3 วธิ ีการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ข้อ 7 การประเมนิ ผลเพอื่ ปรบั ปรงุ พัฒนาการเรียนรู้ 7.1 การจัดการเรยี นรู้ 7.1.1 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ครูผู้สอนแจง้ ให้นกั เรยี นทราบดังนี้ 1) มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดชนั้ ปี 2) คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 3) การอา่ น คิดวเิ คราะห์ และเขยี น 4) วธิ กี ารวดั และประเมนิ ผล ข้อ 1) , 2) และ 3) 5) เกณฑก์ ารผา่ นขอ้ 1), 2) และ 3) และการผา่ นกลมุ่ สาระการเรียนรู้ 7.1.2 การจัดการเรียนรู้กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียนครผู สู้ อนแจ้งให้นกั เรียนทราบดงั น้ี 1) จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2) คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 3) วธิ กี ารวัดและประเมินผลขอ้ 1) และ 2) 4) เกณฑก์ ารผ่าน ขอ้ 1) และ 2) และการผา่ นกิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น 7.2 ก่อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ผู้สอนต้องประเมินผลก่อนเรียนเพื่อตรวจสอบ ความรูพ้ น้ื ฐานและทกั ษะเบ้อื งต้นของนกั เรียน 7.3 ระหว่างเรยี น ผู้สอนประเมนิ ผลการเรียนรู้ของนกั เรยี นเปน็ ระยะ ๆ ดังนี้ 7.3.1 ประเมินผลตามตัวชวี้ ดั ช้ันปีของรายวิชาเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนและ เพอื่ การผ่านตัวชว้ี ดั ช้นั ปี 7.3.2 ประเมินผลตามมาตรฐานการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน เพื่อพฒั นาการ เรียนร้แู ละการผา่ นการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขยี น 7.3.3 ประเมนิ ผลตามตวั บง่ ช้แี ตล่ ะคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ เพือ่ ประเมนิ วินิจฉัย และปรับเปล่ียนคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ และการผา่ นการประเมินคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 7.3.4 ประเมินผลตามจุดประสงค์การเรียนรู้ของกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเพื่อ พฒั นาการเรยี นรู้ของผเู้ รียนและเพือ่ ผ่านจดุ ประสงค์การเรียนรู้ของกิจกรรมพฒั นาผู้เรียน 7.4 ปลายปี เมื่อจบกระบวนการเรียนรู้ มีการประเมินผลการเรียนรู้ปลายปี โดยเลือก ประเมินเฉพาะตัวชี้วดั ชั้นปีทสี่ าคัญให้ครอบคลุมท้ัง ความรู้ ทกั ษะกระบวนการ และการอ่านคดิ วเิ คราะห์และ เขยี น คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ เพ่อื ตรวจสอบคณุ ภาพตามทกี่ าหนดไวใ้ นหลักสูตร ข้อ 8 การประเมนิ ผลเพอ่ื ปรับปรุงการเรยี นรู้ ตามข้อ 7.2 ก่อนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้อ 7.3 ระหว่างเรียน และข้อ 7.4 ปลายปี ถ้านักเรียนมีความรู้ความสามารถต่ากว่าเกณฑ์ท่ีกาหนดไว้ ใหผ้ สู้ อนสอนซอ่ มเสริมใหส้ อดคล้องกับลักษณะการเรียนรขู้ องนักเรยี น ขอ้ 9 ให้ใช้ผลการประเมินตามข้อ 7 ในการตดั สนิ ผลดังน้ี 9.1 ตามขอ้ 7.3.1 ตดั สนิ ผลการผ่านตวั ช้ีวดั ชัน้ ปีของรายวชิ าเพอ่ื พฒั นาการเรยี นรขู้ อง ผู้เรียนเพื่อผ่านตัวชวี้ ดั ชนั้ ปี ใชต้ ัดสินผลการผ่านตวั ช้ีวดั ช้ันปี
๖ 9.2 ตามข้อ 7.3.1 การประเมนิ ผลตัวชวี้ ัดชั้นปีของรายวิชาเพอ่ื พัฒนาการเรียนรู้ของ ผูเ้ รยี นและเพ่ือผ่านตวั ชีว้ ดั ชน้ั ปี กับ 7.4 การประเมินผลปลายปี เม่ือจบกระบวนการเรียนรู้ ใช้ตดั สินผลการ ผา่ นกลุ่มสาระการเรยี นรู้ 9.3 ตามข้อ 7.3.2 การประเมินผลตามมาตรฐานการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน กับ การประเมินผลปลายปี ใช้ตดั สนิ ผลการผ่านการประเมินการอ่าน คิดวเิ คราะห์และเขียน 9.4 ตามข้อ 7.3.3 ตดั สินผลการผ่านคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 9.5 ตามขอ้ 7.3.4 ตดั สนิ ผลการผ่านกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น หมวด 4 เกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ข้อ 10 การตัดสนิ ผลการเรียน หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ได้กาหนดโครงสร้าง เวลาเรียน มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์และ กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น ที่สถานศึกษาตอ้ งจัดให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ มคี ณุ ภาพเตม็ ตามศักยภาพ สถานศกึ ษา จงึ กาหนดเกณฑก์ ารวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ เพ่ือตัดสินผลการเรยี นของผเู้ รยี น ดังน้ี 10.1 ผ้เู รียนตอ้ งมเี วลาเรยี นไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของเวลาเรยี นท้ังหมด 10.2 ผ้เู รียนต้องไดร้ บั การประเมนิ ทุกตวั ชี้วดั ชั้นปี และผ่านร้อยละ 100 ของตวั ช้ีวัดชน้ั ปี รายวิชา 10.3 ผ้เู รยี นต้องได้รบั การตดั สินผลการเรยี นทกุ รายวชิ า 10.4 ผู้เรยี นตอ้ งได้รับการประเมนิ และมผี ลการประเมินผา่ นตามเกณฑท์ ี่กาหนดใน การ อา่ น คิดวเิ คราะหแ์ ละเขยี น คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ และกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น ข้อ 11 การกาหนดคะแนนระหว่างเรยี นและปลายปี เพอ่ื ใช้ตดั สินผลการเรียน กาหนดดังนี้ 11.1 รายวิชาของกลุ่มสาระการเรียนรู้ ให้นาคะแนนระหว่างเรียนรวมกับปลายภาคเรียน แล้วนามาตดั สนิ ผลการเรียน ดงั น้ี 11.1.1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย, คณิตศาสตร์, วิทยาศาสตร์ , สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม และภาษาตา่ งประเทศ กาหนดดงั น้ี คะแนนระหวา่ งปี / ภาค 70 คะแนน คะแนนปลายปี / ภาค 30 คะแนน รวม 100 คะแนน 11.1.2 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ และการงานอาชีพ และเทคโนโลยี กาหนดดงั น้ี คะแนนระหวา่ งปี / ภาค 80 คะแนน คะแนนปลายปี / ภาค 20 คะแนน รวม 100 คะแนน
๗ 11.2 การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน เพื่อการเล่ือนระดับช้ันและจบ การศึกษา กาหนดเกณฑ์การตัดสนิ เป็น 4 ระดบั และความหมายของแตล่ ะระดับ ดังนี้ ดเี ย่ยี ม หมายถึง มีผลงานท่ีแสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวเิ คราะห์และเขียนที่มี คุณภาพท่ีดเี ลิศอยเู่ สมอ ดี หมายถึง มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คดิ วเิ คราะห์และเขยี นทีม่ ี คณุ ภาพเป็นที่ยอมรับ ผ่าน หมายถึง มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอา่ น คดิ วิเคราะหแ์ ละเขียนทม่ี ี คณุ ภาพเปน็ ทีย่ อมรบั แต่ยังมขี อ้ บกพร่องบางประการ ไม่ผ่าน หมายถงึ ไมม่ ีผลงานทีแ่ สดงถึงความสามารถในการอา่ น คดิ วิเคราะห์และเขียน หรือถา้ มผี ลงาน ผลงานนัน้ ยงั มขี ้อบกพร่องที่ตอ้ งไดร้ ับการปรบั ปรงุ แก้ไขหลายประการ 11.3 การสรุปผลประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์รวมทกุ คุณลกั ษณะ เพอื่ การเลอ่ื นระดบั ชน้ั และจบการศึกษา กาหนดเกณฑก์ ารตดั สนิ เปน็ 4 ระดบั และความหมายของแตล่ ะระดับ ดังนี้ ดีเยีย่ ม หมายถงึ นกั เรียนปฏบิ ัตติ ามคณุ ลักษณะจนเปน็ นิสยั และนาไปใชใ้ น ชีวติ ประจาวนั เพอ่ื ประโยชน์สุขของตนเองและสงั คมโดยพจิ ารณาจาก ผลการประเมนิ ระดับดีเย่ียม จานวน 5 -๘ คณุ ลกั ษณะ และไม่มี คุณลกั ษณะใดได้ผลการประเมินต่ากวา่ ระดับดี ดี หมายถึง นักเรียนมีคุณลักษณะในการปฏิบัติตามเกณฑ์ เพ่ือให้เป็นการยอมรับ ของสงั คมโดยพิจารณาจาก (1) ได้ผลการประเมินระดับดีเย่ียมจานวน 1-4 คุณลักษณะและไม่มี คุณลักษณะใดที่ไดผ้ ลการการประเมินตา่ กว่าระดบั ดีหรือ (2) ได้ผลการประเมินระดับดีเยี่ยมจานวน 4 คุณลักษณะและไม่มี คณุ ลกั ษณะใดทีไ่ ด้ผลการการประเมนิ ตา่ กว่าระดบั ดหี รอื (3) ได้ผลการประเมินระดับดีเยี่ยมจานวน 5-8 คุณลักษณะและไม่มี คุณลกั ษณะใดทไ่ี ดผ้ ลการการประเมนิ ตา่ กวา่ ระดบั ดี ผา่ น หมายถึง นักเรียนรับรู้และปฏิบัตติ ามกฎเกณฑ์และเงื่อนไขท่ีโรงเรียนกาหนดโดย พจิ ารณาจาก (1) ได้ผลการประเมินระดับผ่านจานวน 5-8 คุณลักษณะและไม่มี คณุ ลักษณะใดท่ไี ดผ้ ลการการประเมนิ ตา่ กวา่ ระดบั ผ่านหรือ (2) ได้ผลการประเมินระดับดีจานวน 4 คุณ ลักษณ ะและไม่มี คุณลกั ษณะใดทไ่ี ดผ้ ลการการประเมินตา่ กว่าระดบั ผา่ น ไม่ผ่าน หมายถงึ นักเรียนรับรู้และปฏิบัติได้ไม่ครบตามกฎเกณฑ์และเงอื่ นไขท่ีโรงเรียน กาหนด โดยพิจารณาจากมีผลการประเมินระดับไม่ผ่าน ต้ังแต่1 คณุ ลกั ษณะ 11.4 การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จะต้องพิจารณาทั้งเวลาการเข้าร่วมกิจกรรมอย่างน้อยร้อย ละ80 การปฏิบัติกิจกรรม และผลงานของนกั เรียน ต้องผ่านรอ้ ยละ 70 และให้ผลการประเมินเป็นผ่านและไม่ ผา่ น โดยให้ใช้ตัวอักษรแสดงผลการประเมินดังน้ี “ผ” หมายถงึ นักเรยี นมีเวลาการร่วมกิจกรรม การปฏิบัตกิ ิจกรรม และมีผลงานผา่ นเกณฑ์
๘ “มผ” หมายถึง นักเรียนมีเวลาการเข้าร่วมกิจกรรม การปฏิบัติกิจกรรม และมีผลงานไม่ผ่าน เกณฑ์ ในกรณี ที่นักเรียนได้ผลการเรียน “มผ” ให้ครูผู้สอนจักซ่อมเสริมให้นักเรียนทากิจกรรมในส่วนที่ นักเรียนไม่ได้เข้าร่วม หรือไม่ไดทาจนครบถ้วน แล้วจึงเปลี่ยนผลการเรียนจากๆไม่ผ่านเป็นผ่าน ท้ังน้ีต้อง ดาเนินการใหเ้ สรจ็ ส้ินภายในปกี ารศึกษานนั้ 11.5 การสอนซ่อมเสรมิ การสอนซ่อมเสริม เป็นส่วนหน่ึงของกระบวนการจัดการเรียนรู้และเป็นการให้โอกาสแก่ ผู้เรียนได้มีเวลาเรียนรู้สิ่งต่างๆ เพิ่มข้ึน จนสามารถบรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวัดที่กาหนดไว้ การ สอนซ่อมเสริมเป็นการสอนกรณีพิเศษนอกเหนือไปจากการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้ปกติ เพ่ือแก้ไข ข้อบกพร่องที่พบในผู้เรียน โดยจัดกระบวนการเรียนรู้ท่ีหลากหลายและคานึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล ของผู้เรยี น การสอนซอ่ มเสริมสามารถดาเนินการได้ในกรณดี ังต่อไปน้ี 11.1 ผู้เรียนมีความรู้/ทักษะพ้ืนฐานไม่เพียงพอที่จะศึกษาในแต่ละรายวิชานั้น จะ จัดการสอนซอ่ มเสรมิ ปรับความรู/้ ทักษะพ้ืนฐาน 11.2 การประเมนิ ระหวา่ งเรียน ผู้เรียนไมส่ ามารถแสดงความรู้ ทกั ษะกระบวนการหรือ เจตคติ/คณุ ลกั ษณะ ทีก่ าหนดไว้ตามมาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวช้ีวดั 11.3 ผลการเรียนไม่ถึงเกณฑ์และ/หรือต่ากว่าเกณฑ์การประเมิน ต้องจัดการสอนซ่อม เสรมิ กอ่ นจะใหผ้ ู้เรยี นสอบแกต้ วั ข้อ 12 การประเมินผลการเรียนรู้และใหร้ ะดับผลการเรียน สถานศึกษากาหนดเกณฑ์การตัดสินผลการเรียน ซ่ึงสามารถอธิบายผลการเรียนว่าผู้เรียนต้องมี ความรู้ ทักษะและคณุ ลักษณะโดยรวม ดังน้ี 12.1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ กาหนดผลการเรยี นเป็น 8 ระดับ คือ ระดับผลการเรียน ความหมาย ช่วงคะแนนร้อยละ 4 ผลการเรยี นดเี ย่ยี ม 80 - 100 3.5 ผลการเรียนดีมาก 75 - 79 3 ผลการเรียนดี 70 - 74 2.5 ผลการเรยี นค่อนข้างดี 65 - 69 2 ผลการเรียนปานกลาง 60 - 64 1.5 ผลการเรยี นพอใช้ 55 - 59 1 ผลการเรียนผา่ นเกณฑข์ ้ันตา่ 50 - 54 0 ผลการเรยี นตา่ กว่าเกณฑ์ 0 - 49
๙ 12.2 การประเมนิ ผลการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน กาหนดผลจาก การประเมนิ ดงั น้ี ชว่ งคะแนน 86-100 หมายถงึ ผลการประเมินอยู่ในระดบั ดีเยยี่ ม ชว่ งคะแนน 70-85 หมายถงึ ผลการประเมนิ อยใู่ นระดบั ดี ช่วงคะแนน 50-69 หมายถงึ ผลการประเมนิ อยใู่ นระดับผา่ น ชว่ งคะแนน 0-49 หมายถึง ผลการประเมินอยใู่ นระดับ ไม่ผา่ น และแยกใหค้ ะแนนเปน็ ข้อ ๆ ดงั น้ี 1. การอา่ น 35 คะแนน 2. การคิด 30 คะแนน 3. การเขยี น 35 คะแนน รวมคะแนนการประเมนิ ผลการอ่าน คิดวเิ คราะห์ และเขยี น เปน็ 100 คะแนน 12.3 การประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ทาผลการประเมินเปน็ 4 ระดับ คือ โดยพิจารณาผลการประเมินดงั นี้ ชว่ งคะแนน 86-100 หมายถึง ผลการประเมินอยใู่ นระดับดีเยยี่ ม ช่วงคะแนน 70-85 หมายถึง ผลการประเมินอยู่ในระดบั ดี ช่วงคะแนน 50-69 หมายถึง ผลการประเมินอยู่ในระดับผา่ น ช่วงคะแนน 0-49 หมายถึง ผลการประเมินอยู่ในระดับ ไมผ่ า่ น และแยกใหค้ ะแนนเปน็ ข้อ ๆ ดังน้ี คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ๘ ประการ ไดแ้ ก่ - รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ 15 คะแนน ตวั ชว้ี ัด เปน็ พลเมืองดขี องชาติ 4 คะแนน ธารงไว้ซง่ึ ความเป็นชาติไทย 3 คะแนน ศรทั ธา ยดึ ม่นั และปฏบิ ัติตนตามหลักศาสนา 4 คะแนน เคารพเทิดทูนสถาบนั พระมหากษัตริย์ 4 คะแนน - ซ่ือสัตยส์ ุจริต 10 คะแนน ประพฤตติ รงตามความเป็นจริงต่อตนเองทั้งทางกาย วาจา ใจ 5 คะแนน ประพฤตติ รงตามความเปน็ จริงตอ่ ผู้อนื่ ทง้ั ทางกาย วาจา ใจ 5 คะแนน - มีวินยั 15 คะแนน ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั โรงเรยี น และสงั คม 15 คะแนน - ใฝ่เรียนรู้ 15 คะแนน ตงั้ ใจ เพียรพยายามในการเรียนและเขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรียนรู้ 8 คะแนน แสวงหาความรจู้ ากแหลง่ เรยี นรู้ตา่ งๆ ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรยี นดว้ ยการเลือกใช้สอ่ื อยา่ งเหมาะสม สรปุ เปน็ องค์ความรู้ และสามารถนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ได้ 7 คะแนน - อย่อู ย่างพอเพยี ง 10 คะแนน ดาเนนิ ชีวิตอย่างพอประมาณ มีเหตผุ ล รอบคอบ มีคณุ ธรรม 5 คะแนน มภี ูมิคุม้ กันในตัวที่ดี และปรับตัวเพ่ืออยใู่ นสงั คมได้อยา่ งมีความสุข 5 คะแนน
๑๐ - มุ่งม่นั ในการทางาน 10 คะแนน ตงั้ ใจและรับผิดชอบในหนา้ ท่ีการงาน 5 คะแนน ทางานดว้ ยความเพยี รพยายามและอดทนเพ่อื ให้งานสาเรจ็ ตามเปา้ หมาย 5 คะแนน - รกั ความเป็นไทย 10 คะแนน ภาคภมู ิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ วฒั นธรรมไทยและมีความกตญั ญู กตเวที 4 คะแนน เห็นคุณคา่ และใชภ้ าษาไทยในการสือ่ สารได้อยา่ งถกู ต้องและเหมาะสม 3 คะแนน อนุรกั ษ์ และสืบทอดภูมปิ ญั ญาไทย 3 คะแนน - มจี ิตสาธารณะ 15 คะแนน ช่วยเหลอื ผอู้ ่ืนด้วยความเต็มใจโดยไม่หวังสิง่ ตอบแทน 8 คะแนน เข้ารว่ มกิจกรรมท่เี ป็นประโยชนต์ ่อโรงเรยี น ชมุ ชนและสงั คม 7 คะแนน 12.4 การประเมินการเข้าร่วมกจิ กรรมของผ้เู รยี น กาหนดการประเมินเป็น 2 ระดบั ดังน้คี อื ผ่าน หมายถึง ผา่ นเกณฑ์ ไม่ผ่าน หมายถงึ ไมผ่ ่านเกณฑ์ ข้อ 13 การเลื่อนชนั้ สถานศึกษากาหนดกฎเกณฑ์การเล่ือนชั้น โดยพิจารณาให้สอดคล้องกับเกณฑ์การตัดสินผล การเรียน ตลอดจนกาหนดเกณฑ์เก่ียวกับการผา่ นตัวชว้ี ัดท่ีชัดเจนและประกาศให้ทราบทั่วกนั ดังนี้ 13.1 ผู้เรียนต้องมีเวลาเรียนตลอดปีการศึกษาไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของเวลาเรียน ทั้งหมด 13.2 ผเู้ รยี นต้องไดร้ บั การประเมินทกุ ตัวชี้วดั และตอ้ งผ่านทุกตัวชี้วัดของแต่ละรายวิชา 13.3 ผู้เรยี นต้องไดร้ บั การตัดสนิ ผลการเรยี น และผ่านทุกรายวิชาของกลุม่ สาระการเรียนรู้ โดยมเี กณฑ์การผา่ น ดังน้ี 13.3.1 เวลาเรยี นในแตล่ ะรายวิชาของกลุ่มสาระการเรียนรู้ไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ 80 ของเวลาเรยี นท้ังหมด 13.3.2 ต้องได้รับการประเมินทุกตัวช้ีวัด และผ่านตัวช้ีวัดชั้นปีไม่น้อยกว่าร้อยละ 100 ของตัวชี้วัดในรายวิชา 13.3.3 ระดับผลการเรียนตง้ั แตร่ ะดบั 1 ขึ้นไป 13.2 การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ผู้เรียนต้องได้ระดับผลการเรียน ต้ังแต่ระดบั ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินขนึ้ ไป 13.4 การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ผู้เรียนต้องได้ผลการประเมินระดับผ่าน เกณฑก์ ารประเมินข้นึ ไป 13.5 การประเมนิ การเขา้ รว่ มกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ผูเ้ รยี นตอ้ งได้ผลการประเมินระดับ ผา่ น โดยมเี กณฑก์ ารผา่ น ดังน้ี 13.5.1 ผู้เรียนต้องมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมแต่ละปีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของเวลา เรยี น
๑๑ 13.5.2 ผู้เรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 100 ของจุดประสงค์ การเรยี นรใู้ นกิจกรรมพัฒนาผ้เู รียน 13.5.3 ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์ตามเวลา ท่ีกาหนดไว้ในโครงสรา้ งของหลกั สูตร ดงั น้ี 1) ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 1 จานวน 10 ชวั่ โมง 2) ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 2 จานวน 10 ชั่วโมง 3) ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 3 จานวน 10 ชัว่ โมง 4) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จานวน 10 ชว่ั โมง 5) ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5 จานวน 10 ชว่ั โมง 6) ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 จานวน 10 ชวั่ โมง การพิจารณาเลื่อนชั้น ถ้าผู้เรียนมีข้อบกพร่องเพียงบางตัวช้ีวัด ซ่ึงพิจารณาเห็นว่าสามารถ พัฒนาและสอนซอ่ มเสริมได้ ก็ใหอ้ ยู่ในดลุ ยพินจิ ของคณะกรรมการที่จะผ่อนผนั ใหเ้ ลื่อนชั้นได้ ในกรณีที่ผู้เรียนมีสติปัญญาและความสามารถดีเลิศ สามารถเรียนรู้ได้เร็วเป็นพิเศษ สถานศึกษาจะให้โอกาสผ้เู รียนเลอื่ นช้ันระหว่างปีการศกึ ษา โดยสถานศึกษาแต่งต้งั คณะกรรมการประกอบดว้ ย คณะกรรมการบริหารหลักสูตรและวิชาการและผู้แทนของเขตพื้นท่ีการศึกษาอย่างน้อย 1 คน เม่ือผู้เรียนมี คุณสมบัติครบถ้วนตามเง่ือนไขทั้ง 3 ประการ ต่อไปนี้ 1) มผี ลการเรยี นปีการศกึ ษาที่ผ่านมาและมีผลการเรยี นระหวา่ งปีอยู่ในเกณฑด์ เี ยยี่ ม 2) มวี ฒุ ภิ าวะเหมาะสมท่ีจะเรยี นในช้ันทีส่ ูงข้ึน 3) ผ่านการประเมินผลความรู้ความสามารถตามตัวช้ีวัดรายปีท้ังหมดในภาคเรียนท่ี 2 ปี ปัจจุบนั และภาคเรยี นที่ 1 ของปีการศึกษาถัดไป การอนุมัติให้เล่ือนไปเรียนช้ันสูงได้ 1 ระดับชั้นนี้ ต้องได้รับการยินยอมจากนักเรียนและ ผ้ปู กครองและดาเนนิ การให้เสร็จสิ้นภายในวนั ท่ี 1 กันยายนของปกี ารศึกษานัน้ สาหรับในกรณีที่พบว่ามีผู้เรียนกลุ่มพิเศษประเภทต่าง ๆ ที่มีปัญหาในการเรียนรู้สถานศึกษาจะ ดาเนนิ งานรว่ มกบั สานักงานเขตพ้ืนที่การศกึ ษาหาแนวทางการแก้ไขและพฒั นา ข้อ 14 การเรยี นซ้าชั้น หลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 กาหนดว่า หากผู้เรียนไม่ผ่าน รายวิชาจานวนมากและมีแนวโน้มว่าจะเป็นปัญหาต่อการเรียนในระดับช้ันที่สูงขึ้น สถานศึกษาอาจต้ัง คณะกรรมการพิจารณาให้เรียนซ้าช้ันได้ ท้ังนี้ให้คานึงถึงวุฒิภาวะและความรู้ความสามารถของนักเรียนเป็น สาคัญ ผู้เรยี นทไี่ ม่มีคุณสมบตั ติ ามเกณฑ์การอนมุ ัตเิ ล่ือนช้ันเรยี น จะต้องจดั ให้เรียนซา้ ช้ัน ในกรณีท่ีผู้เรียนขาดคุณสมบัติข้อใดข้อหน่ึง คณะกรรมการอาจใช้ดุลพินิจให้เลื่อนชั้นได้ หากพิจารณาเห็นว่า 1) ผูเ้ รยี นมเี วลาเรียนไม่ถงึ รอ้ ยละ 80 อันเน่ืองจากสาเหตจุ าเป็น หรือเหตุสดุ วิสัย แต่มี คุณสมบัตติ ามข้ออนื่ ๆ ครบถ้วน 2) ผเู้ รียนผ่านมาตรฐานและตัวชี้วดั ไม่ถงึ เกณฑ์ตามที่กาหนดในแต่ละรายวิชา และเห็นว่า สามารถสอนซ่อมเสริมไดใ้ นปกี ารศกึ ษาถัดไปและมีคุณสมบัติข้ออนื่ ๆ ครบถว้ น
๑๒ 3) ผู้เรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1-3 มีผลการประเมินกลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย และคณิตศาสตร์ อยู่ในเกณฑ์พอใช้ และผู้เรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 4-6 มีผลการประเมินกลุ่มสาระการ เรยี นรู้ ภาษาไทย คณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรมอยู่ในเกณฑผ์ า่ น ข้อ 15 การสอนซอ่ มเสริม การสอนซ่อมเสริม เป็นส่วนหน่ึงของกระบวนการจัดการเรียนรู้และเป็นการให้โอกาสแก่ ผู้เรียนได้มีเวลาเรียนรู้สิ่งต่างๆ เพิ่มขึ้น จนสามารถบรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดท่ีกาหนดไว้ การ สอนซ่อมเสริมเป็นการสอนกรณีพิเศษนอกเหนือไปจากการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้ปกติ เพ่ือแก้ไข ข้อบกพร่องท่ีพบในผู้เรียน โดยจัดกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลายและคานึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล ของผเู้ รยี น การสอนซ่อมเสริมสามารถดาเนนิ การได้ในกรณดี ังต่อไปน้ี 15.1 ผู้เรียนมีความรู้/ทักษะพื้นฐานไม่เพียงพอที่จะศึกษาในแต่ละรายวิชาน้ัน จะ จัดการสอนซอ่ มเสริม ปรับความร/ู้ ทักษะพ้นื ฐาน 15.2 การประเมนิ ระหว่างเรียน ผเู้ รียนไม่สามารถแสดงความรู้ ทกั ษะกระบวนการหรือ เจตคติ/คุณลักษณะ ทีก่ าหนดไวต้ ามมาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชว้ี ดั 15.3 ผลการเรียนไม่ถึงเกณฑ์และ/หรือต่ากว่าเกณฑ์การประเมิน ต้องจัดการสอนซ่อม เสริมก่อนจะให้ผ้เู รยี นสอบแก้ตวั ขอ้ 16 เกณฑ์การจบระดับประถมศกึ ษา 16.1 ผู้เรียนเรียนรายวิชาพ้ืนฐาน จานวน 840ช่ัวโมง และรายวิชาเพ่ิมเติม/กิจกรรม เพ่มิ เตมิ จานวน 120 ช่ัวโมง และมีผลการประเมินรายวชิ าพน้ื ฐานผ่านทุกรายวชิ า 16.2 ผเู้ รียนต้องมีผลการประเมินการอา่ น คิดวิเคราะห์ และเขยี น ระดบั “ผา่ น” ขนึ้ ไป 16.3 ผู้เรียนต้องมีผลการประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดับ “ผ่าน” ขึน้ ไป 16.4 ผ้เู รียนต้องเขา้ รว่ มกิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น และได้รบั การตัดสนิ ผลการเรยี น ”ผา่ น” ทุกกจิ กรรม 16.3 การประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ คะแนนจากการประเมนิ ระหว่างปี/ภาคเรยี นใน กลมุ่ สาระการเรยี นรูก้ ลมุ่ ละ 100 คะแนน
๑๓ ขอ้ 17 การให้ระดบั ผลการเรยี น 17.1 รายวชิ าของกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ รายวิชาท่จี ะนบั หน่วยกติ ไดจ้ ะต้องไดร้ ะดับผลการ เรียนตั้งแต่ 1 ข้นึ ไป โดยมกี ารใหร้ ะดบั ผลการเรียนดังนี้ ระดบั ผลการเรยี น ความหมาย ช่วงคะแนนรอ้ ยละ 4 ผลการเรยี นดีเย่ียม 80 - 100 3.5 ผลการเรียนดีมาก 75 - 79 3 ผลการเรียนดี 70 - 74 2.5 ผลการเรยี นคอ่ นข้างดี 65 - 69 2 ผลการเรียนปานกลาง 60 - 64 1.5 ผลการเรียนพอใช้ 55 - 59 1 ผลการเรยี นผ่านเกณฑ์ขั้นต่า 50 - 54 0 ผลการเรยี นตา่ กว่าเกณฑ์ 0 - 49 17.2 การประเมนิ ผลการอ่าน คดิ วเิ คราะห์ และเขยี น กาหนดผลจาก การประเมนิ ดงั นี้ ชว่ งคะแนน 86-100 หมายถงึ ผลการประเมินอยูใ่ นระดับดีเยยี่ ม ช่วงคะแนน 70-85 หมายถึง ผลการประเมนิ อย่ใู นระดับดี ช่วงคะแนน 50-69 หมายถึง ผลการประเมนิ อยใู่ นระดบั ผา่ น ช่วงคะแนน 0-49 หมายถึง ผลการประเมินอยู่ในระดับ ไม่ผา่ น และแยกใหค้ ะแนนเปน็ ข้อ ๆ ดังน้ี 1. การอา่ น 35 คะแนน 2. การคดิ 30 คะแนน 3. การเขียน 35 คะแนน รวมคะแนนการประเมนิ ผลการอา่ น คดิ วิเคราะห์ และเขียน เป็น 100 คะแนน 17.3 การประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ทาผลการประเมนิ เปน็ 4 ระดบั คือ โดยพจิ ารณาผลการประเมินดงั นี้ ชว่ งคะแนน 86-100 หมายถงึ ผลการประเมนิ อยใู่ นระดับดีเย่ยี ม ช่วงคะแนน 70-85 หมายถงึ ผลการประเมนิ อยู่ในระดบั ดี ช่วงคะแนน 50-69 หมายถงึ ผลการประเมนิ อยใู่ นระดบั ผา่ น ช่วงคะแนน 0-49 หมายถงึ ผลการประเมนิ อยูใ่ นระดับ ไม่ผา่ น และแยกให้คะแนนเป็นข้อ ๆ ดงั น้ี คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ๘ ประการ ได้แก่ - รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ 15 คะแนน ตวั ชี้วดั เปน็ พลเมืองดีของชาติ 4 คะแนน ธารงไวซ้ ่ึงความเปน็ ชาติไทย 3 คะแนน ศรัทธา ยดึ มั่นและปฏิบัตติ นตามหลักศาสนา 4 คะแนน เคารพเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษตั ริย์ 4 คะแนน
๑๔ - ซอ่ื สตั ย์สจุ รติ 10 คะแนน ประพฤตติ รงตามความเป็นจริงต่อตนเองท้งั ทางกาย วาจา ใจ 5 คะแนน ประพฤตติ รงตามความเป็นจริงตอ่ ผอู้ ่ืนท้ังทางกาย วาจา ใจ 5 คะแนน - มวี นิ ัย 15 คะแนน ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คับของครอบครวั โรงเรยี น และสังคม 15 คะแนน - ใฝ่เรียนรู้ 15 คะแนน ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ 8 คะแนน แสวงหาความรจู้ ากแหลง่ เรียนรู้ต่างๆ ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรยี น ดว้ ยการเลือกใช้สอ่ื อย่างเหมาะสม สรปุ เป็นองค์ความรู้ และสามารถนาไปใช้ในชวี ติ ประจาวนั ได้ 7 คะแนน - อยู่อยา่ งพอเพียง 10 คะแนน ดาเนินชีวิตอยา่ งพอประมาณ มีเหตผุ ล รอบคอบ มีคุณธรรม 5 คะแนน มีภูมคิ มุ้ กนั ในตวั ที่ดี และปรับตวั เพอื่ อยูใ่ นสังคมได้อย่างมีความสุข 5 คะแนน - มุ่งม่นั ในการทางาน 10 คะแนน ตัง้ ใจและรบั ผิดชอบในหน้าท่ีการงาน 5 คะแนน ทางานดว้ ยความเพียรพยายามและอดทนเพ่อื ให้งานสาเรจ็ ตามเป้าหมาย 5 คะแนน - รักความเปน็ ไทย 10 คะแนน ภาคภมู ใิ จในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ วฒั นธรรมไทยและมีความกตัญญู กตเวที 4 คะแนน เห็นคณุ คา่ และใช้ภาษาไทยในการสอื่ สารได้อยา่ งถกู ต้องและเหมาะสม 3 คะแนน อนุรักษ์ และสืบทอดภมู ปิ ัญญาไทย 3 คะแนน - มจี ิตสาธารณะ 15 คะแนน ชว่ ยเหลือผอู้ ่ืนด้วยความเต็มใจโดยไมห่ วงั สง่ิ ตอบแทน 8 คะแนน เขา้ ร่วมกจิ กรรมท่ีเป็นประโยชน์ต่อโรงเรียน ชุมชนและสงั คม 7 คะแนน 17.4 การประเมนิ การเข้ารว่ มกิจกรรมของผู้เรยี น กาหนดการประเมนิ เปน็ 2 ระดบั ดังน้คี ือ ผา่ น หมายถึง ผ่านเกณฑ์ ไม่ผา่ น หมายถงึ ไมผ่ า่ นเกณฑ์
๑๕ หมวด 5 การเทยี บโอนผลการเรียน ข้อ 18 การเทียบโอนผลการเรียนของนักเรียนท่ีเรียนรู้กรณีย้ายสถานศึกษา การเปลี่ยน รูปแบบการศึกษา การย้ายหลักสูตร การละทิ้งการศึกษาและขอกลับเข้ารับการศึกษาต่อ การศึกษาจาก ต่างประเทศและขอเข้าศึกษาต่อในประเทศ เทียบโอนความรู้ ทกั ษะ ประสบการณ์จากแหล่งการเรียนรอู้ ื่น ๆ เช่น สถานประกอบการ สถาบันทางศาสนา สถาบันการฝึกอบรมอาชีพ การศึกษาโดยครอบครวั การเทียบ โอนผลการเรียนดาเนินการในช่วงก่อนเปิดภาคเรียนแรกของโรงเรียน นักเรียนที่ได้รับการเทียบโอนผลการ เรียนต้องศึกษาต่อเนื่อง ในสถานศึกษานี้อย่างน้อย 1 ภาคเรียน โดยสถานศึกษากาหนดรายวิชา จานวน หน่วยกิตท่จี ะรับเทยี บโอนตามความเหมาะสม การพจิ ารณาการเทียบโอน ดาเนนิ การดังนี้ 18.1 พจิ ารณาจากหลกั ฐานการศกึ ษา 18.2 พจิ ารณาจากความรู้ ประสบการณ์ตรงจากการปฏบิ ตั จิ ริง การทดสอบ การสัมภาษณ์ เป็นต้น 18.3 พิจารณาจากความสามารถและการปฏิบตั ิจรงิ 18.4 ในกรณีมีเหตุผลจาเป็นระหว่างเรียน นักเรียนสามารถแจ้งความจานงขอไปศึกษา บางรายวิชาในสถานศึกษา/สถานประกอบการอื่น แล้วนามาเทียบโอนได้ โดยความเห็นชอบของ คณะกรรมการบริหารหลักสูตรและวชิ าการของสถานศึกษา 18.5 การเทียบโอนผลการเรียนให้ดาเนินการในรูปของคณะกรรมการ การเทียบโอน จานวน 3 – 5 คน 18.6 การเทยี บโอนดาเนินการดงั น้ี 18.6.1 กรณีผู้ขอเทียบโอนมีผลการเรียนมาจากหลักสูตรอ่ืน นารายวิชาท่ีมี ตัวชี้วัด/มาตรฐานการเรียนรู้/ผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวัง/จุดประสงค์/เน้ือหาที่สอดคล้องกันไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 มาเทียบโอนผลการเรยี นและพิจารณาให้ระดับผลการเรียนใหส้ อดคล้องกบั หลักสตู รสถานศึกษา 18.6.2 กรณีการเทียบโอนความรู้ ทักษะและประสบการณ์ พิจารณาจากเอกสาร หลักฐาน (ถ้ามี) โดยให้มีการประเมินด้วยเคร่ืองมือที่หลากหลายและให้ระดับผลให้สอดคล้องกับหลักสูตร สถานศกึ ษา 18.6.3 กรณีการเทียบโอนที่นักเรียนเข้าโครงการแลกเปล่ียนต่างประเทศ ดาเนินการตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการเรื่องหลักการและแนว ปฏิบัติการเทียบชั้นการศึกษาสาหรับ นักเรียนท่เี ขา้ รว่ มโครงการแลกเปล่ียน ทั้งน้ีวิธีการเทียบโอนผลการเรียนให้เป็นไปตามประกาศของกระทรวงศึกษาธิการและ แนวปฏบิ ตั ทิ เี่ กีย่ วขอ้ ง
๑๖ แนวปฏบิ ตั ิการเทียบโอนผลการเรยี นรเู้ ขา้ สกู่ ารศกึ ษาในระบบระดบั การศึกษาขั้นพน้ื ฐาน การเทียบโอน จากการ การเทียบ จดั การศึกษา แนวทาง การเทียบโอน การเทยี บโอน โอน โดยศนู ยก์ าร การเทียบโอน การพิจารณา จากการศึกษา จากการศึกษา จากการจัด เรียนการศึกษา จากการศึกษา ในระบบเข้าสู่การศึกษาในระบบ นอกระบบ การศกึ ษา ตามหลกั สูตร ตามหลกั สูตร วธิ ีปฏิบตั ิใน ตา่ งประเทศ การจดั เข้าชัน้ ๑.เทียบโอนรายวชิ า/สาระกจิ กรรมที่ เขา้ สู่ โดย ระยะสัน้ เขา้ สู่การศึกษา เรียน ผ่านการตดั สนิ ผลการเรยี นจาก การศึกษา ครอบครวั หลกั สตู รเฉพาะ สถานศกึ ษาเดมิ ได้ท้ังหมดและจัดเข้า ในระบบ ประสบการณ์ ในระบบ ชน้ั เรยี นต่อเน่อื งจากทีเ่ ขา้ เรียนอย่เู ดิม เขา้ สู่ การทางานการ เช่น จบ ป.๑ จัดเขา้ เรยี น ป.๒สถาน การศึกษา ศกึ ษาอาจประเมนิ บางรายวิชาที่ ในระบบ ฝกึ อาชพี เขา้ สู่ จาเปน็ เพ่ือการตรวจสอบความรู้ พ้นื ฐาน การศกึ ษาใน ระบบ เทียบโอน ๑.ให้นาผล พิจารณา ๑. สาเร็จการ หมวดวิชา การวัดและ ความรู้ ทกั ษะ ศกึ ษาภาค สาระกจิ กรรม ประเมนิ เขต ประสบการณ์ที่ เรยี นใดชั้นปีใด ท่ผี า่ นการ พ้นื ท่ี ขอเทยี บโอนวา่ ให้พจิ ารณา ตัดสินผลการ การศกึ ษามา ตรงกับรายวิชา/ เทยี บโอนภาค เรียนจาก ประกอบการ สาระ/กิจกรรม เรยี นต่อภาค สถานศกึ ษา พจิ ารณา ใด จึงทาการ เรยี นปีต่อปี เดิม ๒.ให้ ประเมิน หาก โดยนาพ้นื ๑. เรียน สถานศึกษา ปรากฏวา่ ชอ่ื ไม่ ความรู้สามัญ ผา่ นอยา่ งน้อย ประเมิน ตรงกับทป่ี รากฏ เดิมมา ๓ หมวดวิชา ความรู้ ในโครงสร้าง ประกอบ จดั ให้เรียนปที ่ี ทกั ษะ หลกั สูตรให้ การพจิ ารณา ๒ ของ ประสบการ กาหนดและ หรอื อาจ ระดบั ชั้นและ ณ์เพื่อการ บรรจชุ ื่อนนั้ ไว้ ประเมิน ลงทะเบียน จัดเขา้ ช้นั ในหลักสตู ร เพ่มิ เติมเพ่ือ เรียนต่อไป เรียน ตรวจสอบ ตามปกติ ความรู้พื้นฐาน ๒. เรียน ผา่ นอย่างน้อย
๑๗ การเทยี บโอน จากการ การเทียบ จัดการศกึ ษา แนวทาง การเทียบโอน การเทยี บโอน โอน โดยศูนย์การ การเทยี บโอน การพจิ ารณา จากการศึกษา จากการศึกษา จากการจัด เรียนการศกึ ษา จากการศึกษา ในระบบเข้าส่กู ารศึกษาในระบบ นอกระบบ การศกึ ษา ตามหลัก สตู ร ตามหลกั สตู ร ตา่ งประเทศ เขา้ สู่ โดย ระยะสนั้ เข้าสู่การศึกษา การศึกษา ครอบครวั หลักสูตรเฉพาะ ในระบบ ประสบการณ์ ในระบบ เขา้ สู่ การทางานการ การศกึ ษา ในระบบ ฝกึ อาชพี เข้าสู่ การศึกษาใน ระบบ ๒.รายวชิ า/สาระ/กจิ กรรมท่ียังไม่ได้ ๖ หมวดวชิ า ตดั สินผลการเรยี นใหป้ ระเมินตาม จัดใหเ้ รยี นปที ี่ เกณฑ์ ๓ ของ ทีส่ ถานศึกษากาหนดหากไมผ่ ่านตาม ระดบั ชั้นและ เกณฑ์ใหล้ งะเบยี นเรียนเพิ่มเติม ลงทะเบยี น เรียนต่อใน รายวิชาที่ จาเปน็ ตอ้ ง เรยี นให้ครบ ตามเกณฑก์ าร จบระดับชนั้ ตามหลักสูตร ของ สถานศกึ ษา ใหม่ท่รี ับเขา้ เรยี น จานวน/หน่วย พจิ ารณาแลว้ เหน็ ว่าเทยี บโอนผลการ จานวน/หนว่ ย พจิ ารณาแลว้ การเรยี น/ เรียนได้จานวนหน่วยใหเ้ ปน็ ไปตาม หนว่ ยน้าหนัก โครง การเรยี น/หนว่ ย เหน็ ว่าเทยี บ น้าหนัก โอนผลการ เรยี นไดจ้ านวน หนว่ ยให้เป็นไป ตามโครง
๑๘ การเทยี บโอน จากการ การเทยี บ จัดการศึกษา แนวทาง การเทียบโอน การเทียบโอน โอน โดยศนู ย์การ การเทยี บโอน การพจิ ารณา จากการศึกษา จากการศึกษา จากการจัด เรียนการศึกษา จากการศึกษา ในระบบเข้าสู่การศึกษาในระบบ นอกระบบ การศกึ ษา ตามหลัก สูตร ตามหลักสูตร ผลการเรียน/ ตา่ งประเทศ ผลการ ยอมรบั ผลการเรียนของสถาน เขา้ สู่ โดย ระยะสั้น เข้าสู่การศึกษา ประเมิน ศกึ ษาเดิม การศึกษา ครอบครัว หลกั สูตรเฉพาะ ในระบบ ประสบการณ์ ในระบบ การบนั ทึกผล ๑. ไมต่ อ้ งนารายวชิ าและผลการ เขา้ สู่ การทางานการ การเรยี นใน เรียนเดิมกรอกในใบแสดงผลการเรียน การศกึ ษา แสดงผลการ ของสถานศกึ ษาใหม่ แตใ่ หแ้ นบ เรียน แสดงผลการเรียนเดิมไว้กบั ใบแสดงผล ในระบบ ฝกึ อาชีพเขา้ สู่ การเรยี นใหม่และบนั ทึกจานวน การศึกษาใน ระบบ ไม่ตอ้ งให้ผล ยอมรับผล ผลการ ผลการ การเรียนใน การประเมิน ประเมินความรู้ ประเมนิ เพิ่ม รายวิชา/ ของเขต ทักษะ เตมิ ใหเ้ ป็นไป สาระ/ พ้ืนท่ี มา ประสบการณ์ให้ ตามทสี่ ถาน กิจกรรมท่ีได้ เป็น เปน็ ไปตามที่ ศกึ ษาท่รี ับเข้า จากการเทยี บ สว่ นประกอ สถานศกึ ษาใหม่ เรยี นกาหนด โอน บในการ กาหนด พิจารณา ไม่ต้องนา ไม่ตอ้ งนา นาผลการ ๑. ให้กรอร หมวดวิชาและ รายวิชาผล ประเมนิ ความรู้ รายชื่อและ ผลการเรยี น การเรยี น/ ทกั ษะ จานวนหน่วย เดิมกรอกใน ผลการวัด ประสบการณ์ ตามรายวิชา ใบแสดงผล และประเมนิ กรอกในใบ ของ การเรียนของ เดิมของเขต แสดงผลการ สถานศกึ ษาที่ สถาน พน้ื ท่กี รอก เรียน รบั เขา้ เรยี นใน ศกึ ษาใหม่ ในใบ ใบแสดงผลการ แต่ใหแ้ นบใบ แสดงผลการ เรยี นของสถาน แสดงผลการ เรียนของ ศกึ ษาที่รบั เขา้ เรียนเดมิ ไว้กบั สถานศึกษา เรยี น แสดงผลการ ใหม่ แต่ให้ เรียนใหม่และ แนบเอกสาร บนั ทึก เดิมไว้กับใบ
๑๙ การเทยี บโอน จากการ การเทยี บ จัดการศกึ ษา แนวทาง การเทยี บโอน การเทยี บโอน โอน โดยศนู ย์การ การเทียบโอน การพจิ ารณา จากการศึกษา จากการศึกษา จากการจัด เรยี นการศกึ ษา จากการศึกษา ในระบบเข้าสู่การศึกษาในระบบ นอกระบบ การศกึ ษา ตามหลกั สูตร ตามหลักสตู ร ตา่ งประเทศ เขา้ สู่ โดย ระยะส้ัน เข้าสู่การศึกษา การศึกษา ครอบครัว หลักสูตรเฉพาะ ในระบบ ประสบการณ์ ในระบบ เข้าสู่ การทางานการ การศึกษา ในระบบ ฝึกอาชพี เข้าสู่ การศกึ ษาใน ระบบ หน่วยทไ่ี ดร้ บั จานวนหน่วยทไ่ี ดร้ ับการเทยี บโอนตาม แสดงผลการ โดยไม่ตอ้ ง การเทยี บโอน โครงสร้างหลักสตู รใหมไ่ วใ้ นช่องหมาย เรียนใหม่ กรอกผลการ ตามโครงสรา้ ง เหตุ และบันทึก เรยี นและแนบ หลักสูตรของ ข้อมูลและ ใบแสดงผลการ สถานศึกษา จานวนหน่วย เรยี นจาก เดมิ ไว้ในช่อง ทไี่ ด้รับการ สถานศึกษาเดิม หมายเหตุ เทียบโอนไวใ้ น และสถานศึกษา ๒. รายวชิ า/ ชอ่ ง ทรี่ ับเข้าเรยี นไว้ สาระ/กิจกรรม หมายเหตุ ด้วยกนั และ ทีย่ งั ไม่ได้ บันทึกผลการ ตดั สนิ ผลการ เทยี บโอนไวใ้ น เรียนและได้รับ ชอ่ งหมายเหตุ การประเมนิ ให้ ๒. รายวชิ าที่ นาผลการ ยังไม่ไดต้ ัดสนิ ประเมินกรอก ผลการเรียน ในชอ่ งหมาย และสถานศึกษา เหตุ ท่รี ับเข้าเรยี นได้ ประเมนิ ผลการ เรียนแล้วใหน้ า ผลการประเมนิ กรอกไว้ในช่อง หมายเหตุ
๒๐ การเทียบโอน จากการ การเทียบ จัดการศกึ ษา แนวทาง การเทยี บโอน การเทยี บโอน โอน โดยศูนย์การ การเทยี บโอน การพจิ ารณา จากการศึกษา จากการศึกษา จากการจัด เรยี นการศึกษา จากการศึกษา ในระบบเข้าสกู่ ารศึกษาในระบบ นอกระบบ การศึกษา ตามหลัก สูตร ตามหลกั สตู ร การคิดผล ต่างประเทศ การเรียนเฉลี่ย การคดิ ผลการเรยี นเฉลย่ี ให้นาผลการ เขา้ สู่ โดย ระยะสนั้ เข้าสู่การศึกษา เรยี นและจานวนหน่วยจาก การศึกษา ครอบครวั หลกั สตู รเฉพาะ สถานศกึ ษาเดมิ มาคิดรวมกบั ผลการ ในระบบ ประสบการณ์ ในระบบ เรียนและจานวนหน่วยท่ีไดจ้ ากการ เข้าสู่ การทางานการ เรียนในสถานศึกษาใหมแ่ ละคิดผล การคดิ ผล การศึกษา เรียนเฉลย่ี รวมตลอดระดับชนั้ การเรยี นเฉล่ยี ใหค้ ิดจาก ในระบบ ฝกึ อาชพี เขา้ สู่ รายวชิ าทีม่ ี จานวนหนว่ ย การศกึ ษาใน และระดบั ผล การเรยี นทไี่ ด้ ระบบ เรยี นใน สถานศึกษา การคดิ ผล การคดิ ผลการ ได้ตดั สนิ ผล ใหม่ การเรียน เรียนเฉลีย่ ให้คดิ การเรยี นจาก เฉลีย่ ให้คดิ จากรายวชิ าทไ่ี ด้ หลักสูตร จากรายวชิ า จากการเรียนใน ต่างประเทศท่ี ทไี่ ดจ้ าก สถานศึกษาใหม่ สถานศกึ ษาที่ เรียนใน โดยไมต่ ้องนา รบั เข้าเรยี นได้ สถานศกึ ษา ผลการประเมิน ประเมินแล้ว ใหม่ โดยนา ความรู้ ทกั ษะ และได้ระดบั ผลการ ประสบการณ์ ผลการเรยี น ประเมนิ ของ มาคิดรวม ให้นามาคดิ ผล เขตพื้นท่ีทม่ี ี การเรียนเฉลีย่ ระดบั ผลการ รวมกับผลการ เรียนมาคดิ เรียนที่ไดจ้ าก รวม การเรยี นใน สถานศกึ ษาท่ี รับเขา้ เรียน ตลอดระดบั ช้ัน
๒๑ หมวด 6 การรายงานผลการเรยี น การรายงานผลการเรียน เปน็ การแจ้งผลการเรียนร้แู ละพฒั นาการในดา้ นตา่ ง ๆ ซึ่งเป็นความก้าว หน้าของผู้เรียนให้ผู้เรียนและผู้ท่ีเก่ียวข้องรับทราบอย่างน้อยภาคเรียนละ 1 ครั้ง เพ่ือใช้เป็นข้อมูลในการ ปรบั ปรุงแกไ้ ขและสง่ เสริมพัฒนาการของผู้เรยี นให้ประสบความสาเร็จอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ รวมท้งั ใช้เปน็ ข้อมูล สาหรับออกเอกสารหลักฐานการศึกษา การตรวจสอบ ยืนยัน การรับรองผลการเรียนและวุฒิการศึกษาของ ผู้เรยี น ขอ้ 19 จดุ มงุ่ หมายการรายงานผลการเรยี น 19.1 เพือ่ แจ้งใหผ้ ู้เรียน ผเู้ กยี่ วขอ้ งทราบความกา้ วหน้าของผเู้ รยี น 19.2 เพอ่ื ให้ผู้เรียน ผูเ้ กี่ยวข้องใช้เป็นข้อมลู ในการปรบั ปรุงแก้ไข ส่งเสริมและพฒั นาการ เรียนของผู้เรียน 19.3 เพ่ือให้ผู้เรียน ผู้เก่ียวข้องใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนการเรียน กาหนดแนวทางา การศึกษาและการเลอื กอาชีพ 19.4 เพ่ือเปน็ ข้อมูลให้ผทู้ ่ีมีหน้าที่เก่ียวข้อง ใช้ดาเนินการออกเอกสารหลักฐานการศกึ ษา ตรวจสอบและรบั รองผลการเรยี น หรือวุฒิทางการศึกษาของผู้เรียน 19.5 เพ่ือเป็นข้อมูลสาหรับสถานศึกษา เขตพ้ืนท่ีการศึกษาและหน่วยงานต้นสังกัดใช้ ประกอบในการกาหนดนโยบาย วางแผนในการพัฒนาคณุ ภาพการศึกษา ข้อ 20 ขอ้ มลู ในการรายงานผลการเรยี น 20.1 ข้อมูลระดับชั้นเรียน ประกอบด้วย ผลการประเมินความรู้ ความสามารถ พฤติกรรมการเรียน ความประพฤติและผลงานในการเรียนของผู้เรียน เป็นข้อมูลสาหรับรายงานให้ผู้มีส่วน เกยี่ วข้อง ได้แก่ ผู้เรยี น ผู้สอนและผู้ปกครอง ได้รับทราบความก้าวหน้า ความสาเรจ็ ในการเรียนของผู้เรียน เพ่อื นาไปใช้ในการวางแผนกาหนดเป้าหมายและวิธีการในการพฒั นาผเู้ รยี น 20.2 ข้อมูลระดับสถานศึกษา ประกอบด้วย ผลการประเมินผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ 8 กลุ่มสาระ ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ผลการประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนรายปี/รายภาค ผลการประเมิน ความก้าวหน้าในการเรียนรู้รายปี/รายภาคโดยรวมของสถานศึกษา เพ่ือใช้เป็นข้อมูลและสารสนเทศในการ พัฒนาการเรียนการสอนและคุณภาพของผู้เรียน ให้เป็นไปตามมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวัด การตัดสินการ เล่ือนช้ันและการซ่อมเสริมผู้เรียนที่มีข้อบกพร่องให้ผ่านระดับชั้นและเป็นข้อมูลในการออกเอกสารหลักฐาน การศกึ ษา 20.3 ข้อมูลการประเมินคุณภาพระดับเขตพื้นที่การศึกษา ได้แก่ ผลการประเมิน คุณภาพของผู้เรียนด้วยแบบประเมินท่ีสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาจัดทาข้ึนในกลุ่มสาระการเรียนรู้สาคัญใน ระดับชั้นที่นอกเหนือจากการประเมินคุณภาพระดับชาติ เป็นข้อมูลที่ผู้เกี่ยวข้องใช้วางแผนและดาเนินการ พัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาเพ่ือให้เกิดการยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของผู้เรียน และสถานศึกษา
๒๒ 20.4 ข้อมูลผลการประเมินคุณภาพระดับชาติ ได้แก่ ผลการประเมินคุณภาพของ ผู้เรียนด้วยแบบประเมินที่เป็นมาตรฐานระดับชาติในกลุ่มสาระการเรียนรู้ท่ีสาคัญในประถมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งดาเนินการโดยหน่วยงานระดับชาติ เป็นข้อมูลท่ีผู้เก่ียวข้องใช้วางแผนและดาเนินการพัฒนาคุณภาพ การศึกษาในส่วนที่เก่ียวข้อง เพ่ือให้เกิดการยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของผู้เรียน สถานศึกษา และนาไปรายงานในเอกสารหลกั ฐานการศกึ ษาของผูเ้ รยี น 20.5 ข้อมูลพัฒนาการของผู้เรียนด้านอ่ืน ๆ ประกอบด้วย ข้อมูลเกี่ยวกับพัฒนาการ ทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคมและพฤติกรรมต่าง ๆ เป็นข้อมูลส่วนหนึ่งของการแนะแนวและ จัดระบบการดูแลช่วยเหลือเพ่ือแจ้งให้ผู้เรียน ผู้สอน ผู้ปกครอง และผู้เกี่ยวข้องได้รับทราบข้อมูล โดยผู้มี หน้าท่ีรับผิดชอบแต่ละฝ่ายนาไปใช้ปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาผู้เรียนให้เกิดพัฒนาการอย่างถูกต้อง เหมาะสม รวมท้งั นาไปจดั ทาเอกสารหลกั ฐานแสดงพฒั นาการของผเู้ รียน ข้อ 21 ลกั ษณะขอ้ มลู สาหรับการรายงาน การรายงานผลการเรียน สถานศึกษารายงานผลการเรยี นดังน้ี 21.1 ผลการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้รายงานเป็นระดับผลการเรียน “0 – 4” ( 8 ระดบั ) 21.2 ผลการประเมินการอ่านคดิ วิเคราะหแ์ ละเขียน รายงานผลการประเมินคณุ ภาพเป็น ดีเยยี่ ม ดี ผา่ น และไม่ผา่ น 21.3 ผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์รายงานผลการประเมินคุณภาพเป็น ดี เยยี่ ม ดี ผ่าน และไม่ผ่าน 21.4 ผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนรายงานผลการประเมินคุณภาพเป็น ผ่าน และ ไมผ่ ่าน ขอ้ 22 เปา้ หมายการรายงาน การดาเนนิ การจดั การศึกษา ประกอบด้วยบคุ ลากรหลายฝา่ ยร่วมมอื ประสานงานกันพัฒนา ผู้เรยี นท้งั ทางตรงและทางออ้ ม ให้ความรู้ความสามารถ คณุ ธรรม จริยธรรมและค่านิยมอนั พงึ ประสงค์ โดยมี ผมู้ สี ่วนเกย่ี วขอ้ งควรไดร้ บั การรายงานผลการประเมินของผู้เรียนเพ่ือใช้เปน็ ข้อมูลในการดาเนนิ งานดังนี้ กลุม่ เป้าหมาย การใช้ขอ้ มูล ผู้เรียน - ปรับปรุง แก้ไขและพฒั นาการเรียน รวมทั้งพฒั นาร่างกาย อารมณ์ ผูส้ อน สงั คมและพฤติกรรมต่างๆ ของคน ครูวดั ผล - วางแผนการเรียน การเลือกแนวทางการศกึ ษา และอาชีพในอนาคต นายทะเบยี น - แสดงผลการเรยี น ความรู้ ความสามารถ และวฒุ ิการศกึ ษาของตน ครแู นะแนว - วางแผนและดาเนินการปรบั ปรงุ แกไ้ ขและพัฒนาผเู้ รียน - ปรับปรุง แก้ไขและพัฒนาการจัดการเรยี นการสอน - ตรวจสอบความถูกต้องในการประเมนิ ผลของผ้สู อน/ผูเ้ รยี น - พฒั นาระบบ ระเบยี บและแนวทางการประเมินผลการเรียน - จัดทาเอกสารหลกั ฐานการศึกษา - ใหค้ าแนะนาผเู้ รียนในดา้ นตา่ ง ๆ
๒๓ กล่มุ เปา้ หมาย การใชข้ อ้ มูล คณะกรรมการบรหิ าร - พิจารณาให้ความเหน็ ชอบผลการเรียนของผเู้ รยี น หลกั สตู รและวชิ าการของ - พัฒนาแนวทางการจัดการศกึ ษาของสถานศึกษา สถานศกึ ษา ผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา - พจิ ารณาตดั สิน และอนุมตั ผิ ลการเรียนของผูเ้ รยี น - พัฒนากระบวนการจัดการเรยี นของสถานศึกษา - วางแผนการบรหิ ารจัดการศึกษาด้านตา่ ง ๆ ผูป้ กครอง - รบั ทราบผลการเรียนและพัฒนาการของผเู้ รยี น - ปรับปรุง แกไ้ ขและพฒั นาการเรียนของผู้เรียน รวมทงั้ การดูแล สขุ ภาพอนามยั รา่ งกาย จิตใจ อารมณ์ สงั คมและพฤติกรรมตา่ ง ๆ ของผู้เรียน - พิจารณาวางแผนและสง่ เสรมการเรยี น การเลือกแนวทางการศึกษา และอาชพี ในอนาคตของผู้เรียน ฝา่ ย/หนว่ ยงานทมี่ ีหน้าท่ี - ตรวจสอบ และรบั รองผลการเรียนและวฒุ ิการศกึ ษาของผูเ้ รียน ตรวจสอบรับรองความรู้ - เทยี บระดบั /วฒุ ิการศกึ ษาของผ้เู รยี น และวฒุ ิการศึกษา/ - เทียบโอนผลการเรยี น สถานศกึ ษา สานกั งานเขตพ้นื ท่ี - ยกระดบั และพัฒนาการศึกษาของสถานศึกษาในเขตพื้นทก่ี ารศึกษา การศึกษา/หนว่ ยงานตน้ - นเิ ทศ ติดตาม และให้ความชว่ ยเหลอื การพฒั นาคุณภาพการศกึ ษา สังกัด ของสถานศกึ ษาท่ีมผี ลการประเมนิ ต่ากวา่ ค่าเฉล่ยี ของสานกั งานเขต พนื้ ทกี่ ารศกึ ษา ขอ้ 23 วธิ กี ารรายงาน การรายงานผลการเรียนใหผ้ ้เู กย่ี วข้องรับทราบ ดาเนินการดงั นี้ 23.1 การรายงานผลการเรยี นในเอกสารหลักฐานการศึกษา ได้แก่ 23.1.1 ระเบยี บแสดงผลการเรียน (ปพ.1) 23.1.2 แบบรายงานผสู้ าเรจ็ การศึกษา (ปพ.3) 23.1.3 แบบรายงานผลการพัฒนาคณุ ภาพผเู้ รยี นรายบุคคล 23.1.4 แบบบนั ทึกผลการเรียนประจารายวิชา 23.1.5 ระเบยี นสะสม 23.1.6 ใบรบั รองผลการเรียน 23.1.7 แบบบันทึกผลการประเมินมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวัดชั้นปี / ผลการเรยี นรู้ / จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 23.2 การรายงานคณุ ภาพการศึกษาให้ผเู้ กย่ี วขอ้ งทราบ รายงานหลายวิธี เชน่ 23.2.1 รายงานคณุ ภาพการศึกษาประจาปี 23.2.2 วารสาร/จลุ สารของสถานศกึ ษา 23.2.3 จดหมายสว่ นตวั 23.2.4 การให้คาปรึกษาหารอื เป็นรายบคุ คล 23.2.5 การให้พบครทู ่ีปรึกษาหรือการประชมุ ผูป้ กครอง
๒๔ ข้อ 24 การกาหนดระยะเวลาในการรายงาน ดงั นี้ 24.1 ผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นกลุ่มสาระการเรยี นรู้ 8 กลุ่มสาระ ผลการประเมนิ การอ่าน คิดวเิ คราะห์และเขียน ผลการประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ผลการประเมินกจิ กรรมพัฒนาผ้เู รยี น จะ รายงานหลังจากประเมนิ ผลปลายปีแล้วเสร็จภายใน 15 วนั 24.2 ผลการประเมนิ คุณภาพระดับเขตพืน้ ทีก่ ารศกึ ษา จะรายงานผลหลงั จากได้รบั ทราบ ผลภายใน 7 วัน 24.3 ผลการประเมนิ คุณภาพระดับชาติ จะรายงานผลหลงั จากไดร้ บั ทราบภายใน 7 วนั 24.4 ข้อมูลพัฒนาการของนักเรยี นประกอบด้วย ขอ้ มูลเก่ยี วกบั พัฒนาการทางดา้ น รา่ งกาย จติ ใจ อารมณ์ สังคม และพฤติกรรมต่าง ๆ จะรายงานให้ทราบพร้อมกับการรายงานผลในขอ้ 1 หมวด 7 เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กาหนดให้มีเอกสารหลักฐานทาง การศึกษา 2 ประเภท คือ เอกสารหลักฐานการศึกษาที่กระทรวงศึกษาธิการกาหนด และเอกสารหลักฐาน การศกึ ษาทสี่ ถานศกึ ษากาหนด รายละเอยี ด ดังน้ี ขอ้ 25 เอกสารหลักฐานการศึกษาท่ีกระทรวงศึกษาธิการกาหนดเป็นเอกสารควบคมุ และบังคับแบบ เรียกว่า แบบประเมินผลตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน (ปพ.) จัดทาขึ้นเพ่ือตัดสิน รับรองผล การเรียน ของผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ท่ีใช้เป็ นหลักฐาน สาหรับการตรวจสอบ ยืนยัน และรับรองคุณสมบัติทางการศึกษาของผู้เรียนได้ตลอดไป สถานศึกษาต้องใช้ แบบพิมพ์และดาเนินการจัดทาตามทก่ี ระทรวงศึกษาธิการกาหนดไว้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ดังน้ี ขอ้ 26.1 เอกสารหลักฐานการศึกษาควบคมุ และบังคับแบบ มีดังน้ี 26.1.1 ระเบียนแสดงผลการเรียน (ปพ.1) เป็นหลักฐานเพื่อแสดงผลการเรียนและ รับรองผลการเรียนของผู้เรียนตามรายวิชา ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ผลการประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของสถานศึกษา และผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน สถานศึกษาจะต้อง บันทึกข้อมูล และออกเอกสารนี้ให้ผู้เรียนเป็นรายบุคคล เมื่อผู้เรียนจบการศึกษาระดับประถมศึกษา (ช้ัน ประถมศึกษาปที ่ี 6) หรือเมอื่ ลาออกจากสถานศกึ ษาในทุกกรณี ระเบียนแสดงผลการเรยี น (ปพ.1) นาไปใชป้ ระโยชน์ ดังน้ี - แสดงผลการเรียนของผ้เู รยี นตามโครงสร้างหลักสตู รของสถานศกึ ษา - รบั รองผลการเรียนของผู้เรียนตามข้อมูลท่ีบันทึกในเอกสาร - ตรวจสอบผลการเรยี นและวุฒิการศึกษาของผเู้ รียน - ใช้เป็นหลักฐานการศึกษาเพ่ือสมัครเข้าศึกษาต่อ สมัครงานหรือขอรับ สิทธปิ ระโยชน์อืน่ ใดที่พงึ มีได้ตามวฒุ กิ ารศึกษาน้ัน 26.1.2 แบบรายงานผู้สาเร็จการศึกษา (ปพ. 3) เป็นเอกสารอนุมัติการจบหลักสูตร โดยบันทึกรายชื่อและขอ้ มูลของผ้จู บการศึกษาระดับประถมศึกษา (ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 6)
๒๕ แบบรายงานผูส้ าเรจ็ การศึกษา (ปพ.3) นาไปใช้ประโยชน์ ดังนี้ - ใช้ตัดสินและอนมุ ัติผลการเรยี นของผ้เู รยี น - แสดงรายช่ือผู้จบหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน แต่ละระดับ การศึกษาทีไ่ ดร้ บั การรับรองวฒุ จิ ากกระทรวงศึกษาธกิ าร - ใช้สาหรับตรวจสอบ ค้นหา พิสูจน์ ยืนยันและรับรองวุฒิหรือผล การศกึ ษาของผู้จบหลกั สูตรการศกึ ษา 26.2 เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษาทีส่ ถานศึกษาดาเนนิ การเอง เอกสารหลักฐานการศึกษาที่สถานศึกษากาหนด เป็นเอกสารที่จัดทาข้ึนเพื่อบันทึก พัฒนาการผลการเรียนรู้ และข้อมูลสาคัญเกี่ยวกับผู้เรียน เช่น แบบบันทึกผลการเรียนประจารายวิชา แบบ รายงานประจาตัวนกั เรยี น ระเบียนสะสม ใบรบั รองผลการเรยี น และเอกสารอืน่ ๆ ตามวตั ถุประสงค์ของการ นาเอกสารไปใช้ 26.2.1 แบบรายงานผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนรายบุคคล เป็นเอกสารที่สถานศึกษา จัดทาขึ้นเพอ่ื บันทกึ ขอ้ มูลผลการเรียนรายวิชา และพัฒนาการด้านตา่ ง ๆ ของผเู้ รียนแต่ละคน ตามเกณฑ์การ ตัดสินผ่านระดับช้ันของหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน รวมทั้งข้อมูลดา้ นอืน่ ๆ ของผู้เรียนท่ีบ้านและ สถานศึกษา โดยจัดทาเป็นเอกสารรายบุคคล เพ่ือใช้สาหรับส่ือสารให้ผู้ปกครองของผู้เรียนแต่ละคนได้ รับทราบผลการเรยี นและพัฒนาการดา้ นตา่ ง ๆ ของผูเ้ รียนอยา่ งตอ่ เน่อื ง แบบรายงานประจาตวั นกั เรยี น นาไปใช้ประโยชน์ ดงั น้ี - รายงานผลการเรยี น ความประพฤติ และพฒั นาการของผู้เรียนให้ผแู้ กครองไดร้ ับทราบ - ใช้เปน็ เอกสารสอ่ื สาร ประสานงาน เพ่ือความร่วมมือในการพัฒนาและปรับปรุงแก้ไขผูเ้ รียน - เป็นเอกสารสาหรับตรวจสอบ ยืนยัน และรับรองผลการเรียนและพัฒนาการต่าง ๆ ของ ผู้เรยี น 26.2.2 แบบบันทกึ ผลการเรียนประจารายวชิ า เปน็ เอกสารทส่ี ถานศึกษาจัด ทา ข้ึน เพ่ือให้ครูผู้สอนใช้บันทึกพัฒนาการ ผลการเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และการอา่ น คดิ วเิ คราะห์ และเขยี น สาหรับการพิจารณาตดั สินผลการเรียนแตล่ ะรายวิชาเป็นรายหอ้ งเรียน เอกสารบนั ทกึ ผลการเรยี นรายวชิ า นาไปใช้ประโยชน์ ดงั นี้ - ใช้บันทึกพัฒนาการผลการเรียนรู้ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ การอ่าน คิด วิเคราะห์ และเขยี น และผลการประเมินกจิ กรรมพฒั นาผ้เู รยี นของผุเ้ รยี นแต่ละรายวชิ า - ใช้เป็นหลักฐานสาหรับตรวจสอบ รายงาน และรับรองข้อมูลเก่ียวกับ พฒั นาการ และผลการเรียนรขู้ องผู้เรียน เอกสารบนั ทึกผลการเรียนรายวิชา นาไปใชป้ ระโยชน์ ดงั น้ี - ใช้บันทึกพัฒนาการผลการเรียนรู้ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ การอ่าน คิด วเิ คราะห์ และเขียน และผลการประเมนิ กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี นของผู้เรียนแต่ละรายวิชา - ใช้เป็นหลักฐานสาหรับตรวจสอบ รายงาน และรับรองข้อมูลเก่ียวกับ พัฒนาการ และผลการเรียนรขู้ องผเู้ รยี น
๒๖ 36.2.3 ระเบียนสะสม เป็นเอกสารที่สถานศึกษาจัดทาข้ึน เพื่อบันทึกข้อมูล เกี่ยวกับพัฒนาการของผู้เรยี นในด้านต่างๆ เป็นรายบุคคล โดยจะบันทกึ ข้อมลู ของผเู้ รียนอยา่ งตอ่ เน่ือง ตลอด ช่วงระยะเวลาการศกึ ษาตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน 12 ปี ระเบยี นสะสม นาไปใช้ประโยชน์ ดงั น้ี - ใชเ้ ปน็ ขอ้ มลู ในการแนะแนวทางการศึกษาและการประกอบอาชีพของผ้เู รียน - ใชเ้ ป็นข้อมูลในการพัฒนาปรับปรุงบุคลิกภาพ ผลการเรียน และการปรับตัว ของผเู้ รียน - ใช้ติดต่อส่ือสาร รายงานพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนระหว่างสถานศึกษากับ ผู้ปกครอง - ใช้เปน็ หลกั ฐานสาหรับตรวจสอบ รบั รอง และยืนยันคุณสมบตั ิของผู้เรียน 26.2.4 ใบรบั รองผลการเรยี น เป็นเอกสารทีส่ ถานศึกษาจัดทาข้ึนเพือ่ ใช้เป็นเอกสาร สาหรับรับรองความเป็นนักเรยี นของผู้เรียนเปน็ การชว่ั คราวตามที่ผู้เรียนร้องขอ ท้ังกรณีทีผ่ ู้เรียนกาลังศึกษาอยู่ ในสถานศึกษาและเมื่อจบการศกึ ษาไปแล้ว ใบรับรองผลการเรยี น นาไปใช้ประโยชน์ ดังนี้ - รับรองความเปน็ นักเรียนของสถานศึกษาท่ีเรียนหรอื ทีเ่ คยเรยี น - รับรองและแสดงความรู้ วุฒกิ ารศกึ ษาของผู้เรียน - ใช้เป็นหลักฐานแสดงคุณสมบัติของผู้เรียนในการสมัครเข้าศึกษาต่อ สมัครเข้าทางาน หรือมีกรณีอื่นใดที่ผู้เรียนแสดงคุณสมบัติเก่ียวกับวุฒิ ความรู้ หรือสถานการณ์เป็นผู้เรยี นของตน - เป็นหลักฐานสาหรับตรวจสอบ รับรอง ยืนยันการใช้สิทธ์ิความเป็น ผูเ้ รยี น หรือการได้รบั การรับรองจากสถานศกึ ษา 26.2.5 แบบบันทึกผลการประเมินมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดชั้นปี /ผลการ เรียนรู้ / จุดประสงค์การเรียนรู้ เป็นเอกสารที่สถานศึกษาจัดทาขึ้น เพื่อใช้เป็นเอกสารหลักฐานสาหรับ แสดงผลการเรียนตามมาตรฐาน/ตัวชี้วัดชั้นปี โดยแสดงผลการประเมินมาตรฐาน/ตัวชี้วัดชั้นปี ที่ผู้เรียนได้ ประเมินไปแล้วในระดับชั้นท่ีผู้เรียนกาลังศึกษาอยู่ สถานศึกษาจะออกเอกสารหลักฐานแบบบันทึกผลการ ประเมินมาตรฐาน/ตัวชี้วัดชั้นปี เม่ือผู้เรียนย้ายที่เรียนไปยังสถานศึกษาอื่นในขณะท่ียังไม่ได้รับการประเมินผล ปลายปีการศึกษานัน้
๒๗ หมวด 8 การยา้ ยทีเ่ รยี น ข้อ 27. นักเรียนคนใดจาเป็นต้องย้ายที่เรียน โรงเรียนจัดทาเอกสารหลักฐานการเรียนของ นกั เรยี นไปให้โรงเรยี นใหม่ ดงั นี้ คือ 27.1 ระเบยี นแสดงผลการเรียน (ปพ.1) 27.2 แบบรายงานผลการพฒั นาคุณภาพผูเ้ รียนรายบคุ คล 27.3 ระเบียนสะสม 27.4 แบบบนั ทึกผลการประเมนิ มาตรฐานการเรยี นรู้ /ตัวช้วี ัด / ผลการเรยี นรู้ / จดุ ประสงค์การเรียนรู้
๒๘ ภาคผนวก
๒๙ ภาคผนวก ก คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ตามหลกั สตู รแกนกลาง การศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
๓๐ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตามหลกั สูตรแกนกลาง การศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ทัง้ 8 ประการ ได้แก่ 1) รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ 2) ซือ่ สัตยส์ จุ รติ 3) มวี นิ ยั 4) ใฝเ่ รยี นรู้ 5) อยูอ่ ย่างพอเพยี ง 6) มุง่ มัน่ ในการทางาน 7) รักความเป็นไทย 8) มีจติ สาธารณะ การนาคุณลักษณะอนั พึงประสงคท์ ั้ง 8 ประการดงั กล่าว ไปพฒั นาผเู้ รียนให้มีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผลน้นั สถานศกึ ษาตอ้ งมีความเขา้ ใจเก่ยี วกับคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์อย่างชดั เจนโดย พิจารณาจาก นยิ าม ตวั ชวี้ ดั พฤติกรรมบ่งชี้ และเกณฑ์การใหค้ ะแนนของคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ซง่ึ มี รายละเอยี ด ดงั นี้ ข้อท่ี 1 รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ นยิ าม รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ หมายถึง คณุ ลักษณะท่แี สดงออกถึงการเปน็ พลเมอื งดขี องชาติ ธารงไว้ซงึ่ ความเป็นชาติไทย ศรัทธา ยดึ มนั่ ในศาสนา และเคารพเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษัตริย์ ผู้ที่รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ คือ ผู้ท่ีมีลักษณะซึ่งแสดงออกถึงการเป็นพลเมืองดีของชาติ มคี วามสามัคคีปรองดอง ภมู ใิ จ เชิดชคู วามเปน็ ชาตไิ ทย ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ศาสนาที่ตนนับถอื และแสดงความจงรักภักดีตอ่ สถาบันพระมหากษตั ริย์ ตัวชีว้ ดั 1.1 เปน็ พลเมืองดขี องชาติ 1.2 ธารงไว้ซ่ึงความเปน็ ชาติไทย 1.3 ศรทั ธา ยึดมัน่ และปฏิบัติตนตามหลกั ศาสนา 1.4 เคารพเทดิ ทูนสถาบันพระมหากษตั รยิ ์ ตัวชว้ี ัดและพฤตกิ รรมบง่ ช้ี พฤติกรรมบ่งช้ี ตัวชว้ี ดั 1.1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ รอ้ งเพลงชาติ และอธิบายความหมาย 1.1 เป็นพลเมอื งดขี องชาติ ของเพลงชาตไิ ด้ถูกต้อง 1.1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธิ และหนา้ ท่ีพลเมืองดขี องชาติ 1.2 ธารงไว้ซึ่งความเป็น 1.1.3 มคี วามสามัคคี ปรองดอง ชาตไิ ทย 1.2.1 เข้าร่วม สง่ เสรมิ สนบั สนุนกจิ กรรมที่สร้างความสามคั คี ปรองดอง ที่เปน็ ประโยชน์ต่อโรงเรียน ชมุ ชนและสังคม 1.2.2 หวงแหน ปกปอ้ ง ยกย่องความเปน็ ชาติไทย
๓๑ ตวั ชี้วัด พฤตกิ รรมบ่งช้ี 1.3 ศรทั ธา ยดึ มนั่ และปฏบิ ัติตน 1.3.1 เขา้ รว่ มกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนบั ถือ ตามหลกั ของศาสนา 1.3.2 ปฏิบตั ิตนตามหลักของศาสนาทต่ี นนบั ถือ 1.3.3 เปน็ แบบอย่างทีด่ ขี องศาสนิกชน 1.4 เคารพเทดิ ทนู สถาบนั 1.4.1 เขา้ รว่ มและมีส่วนรว่ มในการจดั กิจกรรมท่เี กย่ี วกับสถาบัน พระมหากษัตรยิ ์ พระมหากษัตริย์ 1.4.2 แสดงความสานกึ ในพระมหากรุณาธิคณุ ของพระมหากษตั ริย์ 1.4.3 แสดงออกซ่งึ ความจงรักภกั ดตี ่อสถาบนั พระมหากษัตริย์ เกณฑ์การให้คะแนน ระดบั ประถมศึกษา ตัวชว้ี ดั ที่ 1.1 เป็นพลเมืองดีของชาติ พฤตกิ รรมบ่งชี้ ไมผ่ า่ น (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดีเยย่ี ม(3) 1.1.1 ยืนตรง ไม่ยนื ตรงเคารพ ยนื ตรงเมื่อไดย้ นิ ยืนตรงเม่ือได้ยิน ยืนตรงเมื่อไดย้ นิ เคารพธงชาติ ร้อง ธงชาติ เพลงชาติ และ เพลงชาติ รอ้ งเพลง เพลงชาติ รอ้ งเพลง เพลงชาติ รอ้ งเพลง อธบิ ายความหมาย ของเพลงชาติ ชาติ และอธบิ าย ชาติ และอธิบาย ชาติ และอธิบาย ได้ถูกต้อง 1.1.2 ปฏิบัติ ความหมายของ ความหมายของ ความหมายของ ตนตามสทิ ธิ หน้าท่ี พลเมืองดขี องชาติ เพลงชาติได้ถูกต้อง เพลงชาตไิ ด้ถกู ต้อง เพลงชาตไิ ด้ถกู ต้อง 1.1.3 มีความ สามคั คีปรองดอง ปฏบิ ตั ิตนตามสิทธิ ปฏิบัตติ นตามสิทธิ ปฏิบตั ติ นตามสทิ ธิ และหนา้ ท่ขี อง และหนา้ ทขี่ อง และหน้าทีข่ อง นกั เรยี น และให้ นักเรียนและให้ พลเมืองดี และให้ ความรว่ มมอื ร่วมใจ ความรว่ มมือรว่ มใจ ความร่วมมอื รว่ มใจ ในการทากิจกรรม ในการทากิจกรรม ในการทากจิ กรรม กบั สมาชิกในช้ัน กับสมาชิกใน กบั สมาชิกใน เรียน โรงเรียน โรงเรียนและชมุ ชน ตวั ชว้ี ดั ที่ 1.2 ธารงไว้ซ่งึ ความเป็นชาติไทย พฤติกรรมบ่งชี้ ไม่ผา่ น (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดีเยี่ยม(3) 1.2.1 เข้ารว่ ม ไมเ่ ขา้ ร่วม เขา้ รว่ มกิจกรรมท่ี เขา้ ร่วมกิจกรรม เขา้ รว่ มกจิ กรรม สง่ เสริมสนับสนุน กจิ กรรมทส่ี รา้ ง สร้างความสามัคคี และมีสว่ นร่วมใน และมีสว่ นรว่ มใน กิจกรรมทสี่ รา้ ง ความสามคั คี ปรองดอง และเปน็ การจัดกจิ กรรมท่ี การจดั กจิ กรรมที่ ความสามคั คี ประโยชนต์ อ่ สร้างความสามคั คี สร้างความสามคั คี ปรองดอง โรงเรยี นและชุมชน ปรองดองและเป็น ปรองดองและเป็น ท่เี ปน็ ประโยชน์ ประโยชนต์ อ่ ประโยชนต์ ่อ โรงเรยี น และชุมชน โรงเรียน ชุมชน ต่อโรงเรยี น และสังคม ชืน่ ชมใน ความเป็นชาติไทย ชมุ ชนและสงั คม 1.2.2 หวงแหน ปกป้อง ยกย่อง ความเปน็ ชาตไิ ทย
๓๒ ตัวช้วี ัดท่ี 1.3 ศรัทธา ยดึ มั่น และปฏบิ ตั ิตนตามหลักของศาสนา พฤติกรรมบ่งช้ี ไม่ผ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดีเยยี่ ม(3) 1.3.1 เข้าร่วม ไมเ่ ขา้ ร่วม เขา้ รว่ มกิจกรรม เขา้ รว่ มกิจกรรม เข้ารว่ มกิจกรรม กจิ กรรมทางศาสนา กิจกรรมทาง ทางศาสนาที่ตนนับ ทางศาสนาท่ีตนนับ ทางศาสนา ที่ตนนบั ถือ ศาสนาท่ตี น ถือและปฏบิ ัติตน ถือและปฏิบัติตน ทตี่ นนบั ถือปฏบิ ัติ 1.3.2 ปฏบิ ตั ิตน นับถือ ตามหลักของ ตามหลักของ ตนตามหลกั ตามหลักของศาสนา ศาสนาตามโอกาส ศาสนาอยา่ ง ของศาสนาอยา่ ง ท่ตี นนบั ถือ สม่าเสมอ สม่าเสมอ 1.3.3 เป็น และเปน็ แบบอย่าง แบบอย่างทีด่ ขี อง ทีด่ ีของศาสนิกชน ศาสนกิ ชน ตวั ชว้ี ดั ท่ี 1.4 เคารพเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตรยิ ์ พฤตกิ รรมบ่งช้ี ไมผ่ ่าน (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดเี ยี่ยม(3) 1.4.1 เขา้ ร่วม ไม่เข้ารว่ ม เขา้ ร่วมกิจกรรมที่ เข้ารว่ มกิจกรรม เข้ารว่ มกิจกรรม และมีส่วนรว่ ม กิจกรรมที่ เก่ยี วกับสถาบัน และมีส่วนรว่ มใน และมสี ่วนรว่ มใน ในการจดั กจิ กรรมที่ เกี่ยวกับสถาบัน พระมหากษัตรยิ ์ การจัดกิจกรรมท่ี การจัดกิจกรรมท่ี เก่ียวกับสถาบัน พระมหากษัตรยิ ์ ตามทโี่ รงเรียนและ เกีย่ วกบั สถาบัน เก่ียวกบั สถาบัน พระมหากษัตรยิ ์ ชมุ ชนจดั ข้ึน พระมหากษัตริย์ พระมหากษัตริย์ 1.4.2 แสดง ตามทโ่ี รงเรยี นและ ตามทโ่ี รงเรียนและ ชุมชนจดั ขนึ้ ชมุ ชนจัดขนึ้ ชื่นชม ความสานกึ ใน ในพระราชกรณยี กจิ พระปรีชา พระมหากรุณาธิคุณ สามารถของ พระมหากษัตรยิ ์ ขอพระมหากษัตริย์ และพระราชวงศ์ 1.4.3 แสดงออกซ่ึง ความจงรักภกั ดตี ่อ สถาบันพระมหา กษัตริย์ ข้อท่ี 2 ซอื่ สตั ย์สุจรติ นิยาม ซื่อสตั ย์สุจริต หมายถึง คุณลักษณะท่แี สดงออกถงึ การยึดมั่นในความถูกต้องประพฤติตรงตามความเป็น จริงต่อตนเองและผ้อู ื่นทง้ั ทางกาย วาจา ใจผ้ทู ่ีมีความซื่อสัตย์สุจริต คือ ผทู้ ่ีประพฤติตรงตามความเปน็ จริงท้ังทาง กาย วาจา ใจ และยึดหลักความจรงิ ความถกู ตอ้ งในการดาเนนิ ชีวติ มีความละอายและเกรงกลัวตอ่ การกระทาผิด ตัวช้ีวัด 2.1 ประพฤตติ รงตามความเปน็ จรงิ ตอ่ ตนเองทง้ั ทางกาย วาจา ใจ 2.2 ประพฤตติ รงตามความเปน็ จริงตอ่ ผู้อ่ืนทงั้ ทางกาย วาจา ใจ
๓๓ ตวั ชว้ี ัดและพฤติกรรมบ่งชี้ พฤติกรรมบ่งช้ี ตวั ช้วี ัด 2.1.1 ให้ข้อมลู ทถ่ี กู ต้องและเป็นจรงิ 2.1 ประพฤติตรงตาม 2.1.2 ปฏบิ ัตติ นโดยคานงึ ถงึ ความถูกตอ้ งละอายและเกรงกลวั ความเปน็ จริงตอ่ ตนเองท้ังทาง ตอ่ การกระทาผิด กาย วาจา ใจ 2.1.3 ปฏบิ ตั ิตามคามน่ั สัญญา 2.2 ประพฤตติ รงตาม 2.2.1 ไมถ่ อื เอาสง่ิ ของหรอื ผลงานของผู้อืน่ มาเปน็ ของตนเอง ความเป็นจริงต่อ ผอู้ น่ื ทัง้ ทาง 2.2.2 ปฏบิ ตั ติ นตอ่ ผ้อู น่ื ดว้ ยความซอ่ื ตรง กาย วาจา ใจ 2.2.3 ไมห่ าประโยชนใ์ นทางที่ไม่ถูกต้อง เกณฑก์ ารให้คะแนน ระดับประถมศึกษา ตวั ช้ีวัดท่ี 2.1 ประพฤตติ รงตามความเปน็ จริงต่อตนเองทัง้ ทางกาย วาจา ใจ พฤตกิ รรมบ่งช้ี ไม่ผ่าน (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดเี ย่ยี ม(3) 2.1.1 ใหข้ อ้ มูลท่ี ไมใ่ ห้ข้อมูลท่ี ให้ข้อมลู ทถ่ี ูกต้อง ให้ขอ้ มลู ทถ่ี ูกตอ้ ง ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ถูกต้องและเปน็ จรงิ 2.1.2 ปฏบิ ัติตน ถูกตอ้ งและเปน็ จรงิ และเปน็ จริง และเปน็ จริง ปฏบิ ตั ิ และเปน็ จรงิ ปฏบิ ตั ิ โดยคานึงถงึ ความถูกต้อง ปฏบิ ัตใิ นส่ิงที่ ในสงิ่ ทถ่ี กู ตอ้ ง ในสิ่งท่ีถูกต้อง ละอายและ เกรงกลวั ถกู ต้อง ทาตาม ทาตามสญั ญาทตี่ น ทาตามสัญญาที่ตนให้ ต่อการกระทาผิด 2.1.3 ปฏบิ ตั ิตาม สญั ญาท่ตี นให้ไว้ ใหไ้ ว้กับเพือ่ นพอ่ แม่ ไวก้ ับเพ่ือน คามนั่ สญั ญา กับเพ่ือน หรอื ผูป้ กครอง และ พอ่ แม่ หรือ พ่อแม่ หรอื ครู ละอายและเกรง ผูป้ กครอง และครู ผปู้ กครอง กลัวทจ่ี ะทา ละอายและ และครู ละอาย ความผดิ เกรงกลัวท่ีจะทา และเกรงกลัว ความผิดเป็น ทจี่ ะทาความผดิ แบบอย่างทีด่ ดี า้ น ความซ่อื สตั ย์
๓๔ ตวั ช้วี ัดที่ 2.2 ประพฤตติ รงตามความเปน็ จรงิ ต่อผู้อ่ืนทง้ั ทางกาย วาจา ใจ พฤตกิ รรมบ่งช้ี ไม่ผา่ น (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดีเย่ียม(3) 2.2.1 ไมถ่ ือเอาสิ่งของ นาสิ่งของของ ไมน่ าส่งิ ของ และ ไมน่ าสงิ่ ของ และ ไมน่ าสิ่งของ และ ผลงานของผู้อน่ื มา หรือผลงานของผ้อู นื่ คนอืน่ มาเปน็ ผลงานของผู้อืน่ ผลงานของผู้อน่ื มา เปน็ ของตนเองปฏิบตั ิ ตนต่อผู้อน่ื ดว้ ยความ มาเปน็ ของตนเอง ของตนเอง มาเปน็ ของตนเอง เปน็ ของตนเอง ซ่ือตรง 2.2.2 ปฏบิ ัติตนต่อ ปฏิบัติตนตอ่ ผอู้ ื่น ปฏิบตั ติ นตอ่ ผ้อู ่ืน ผอู้ ื่นดว้ ยความซ่ือตรง ด้วยความซ่ือตรง ดว้ ยความซอื่ ตรง 2.2.3 ไม่หาประโยชน์ ไมห่ า ข้อท่ี 3 มวี ินัย นิยาม มวี นิ ัย หมายถึง คณุ ลักษณะทีแ่ สดงออกถงึ การยดึ มั่นในข้อตกลง กฎเกณฑ์ และระเบยี บ ข้อบงั คบั ของครอบครัว โรงเรียน และสังคม ผูท้ ่มี ีวินัย คือ ผู้ทป่ี ฏิบตั ติ นตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คบั ของครอบครัว โรงเรยี น และสงั คมเป็นปกตวิ ิสยั ไมล่ ะเมดิ สิทธขิ องผู้อ่นื ตวั ชว้ี ดั 3.1 ปฏบิ ัตติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบข้อบงั คบั ของครอบครัว โรงเรียน และสังคม ตวั ช้ีวดั และพฤตกิ รรมบ่งชี้ ตวั ชีว้ ัด พฤติกรรมบ่งชี้ 3.1 ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ 3.1.1 ปฏบิ ัติตน ตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคับ ระเบยี บ ข้อบงั คับ ของ ของครอบครัว โรงเรยี นและสังคม ไมล่ ะเมดิ สทิ ธขิ องผู้อน่ื ครอบครวั โรงเรยี น และสังคม 3.1.2 ตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ัติกจิ กรรมต่าง ๆ ในชวี ิตประจาวัน และ รบั ผิดชอบในการทางาน
๓๕ เกณฑก์ ารให้คะแนน ระดบั ประถมศึกษา ตัวช้วี ดั ที่ 3.1 ปฏิบตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คับของครอบครวั โรงเรยี นและสังคม พฤติกรรมบ่งช้ี ไมผ่ ่าน (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดีเยีย่ ม(3) 3.1.1 ปฏิบตั ิตนตาม ไมป่ ฏิบัตติ นตาม ปฏิบัติตามข้อตกลง ปฏบิ ัตติ ามข้อตกลง ปฏบิ ตั ติ าม ข้อตกลง กฎเกณฑ์ ขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อตกลงกฎเกณฑ์ ระเบียบข้อบังคับของ ระเบยี บ ข้อบังคบั ขอ้ บังคับของ ขอ้ บงั คบั ของ ระเบียบ ข้อบงั คับ ครอบครัว โรงเรียน ของครอบครัวและ ครอบครวั และ ครอบครวั และ ของครอบครวั และสงั คม ไม่ละเมิด โรงเรียน โรงเรียน ตรงตอ่ โรงเรยี น ตรงตอ่ โรงเรยี นและ สิทธขิ องผู้อน่ื เวลาในการปฏิบัติ เวลาในการปฏิบัติ สงั คม ไม่ละเมิด 3.1.2 ตรงตอ่ เวลา กจิ กรรมต่าง ๆ กจิ กรรมตา่ งๆ ใน สทิ ธขิ องผ้อู นื่ ใน ในชวี ิต ชีวติ ประจาวัน และ ตรงตอ่ เวลา การปฏิบัตกิ จิ กรรม ประจาวนั รับผิดชอบในการ ในการปฏิบัติ ตา่ งๆ ใน ทางาน กจิ กรรมตา่ งๆ ชีวิตประจาวนั และ ในชีวติ ประจาวัน รับผดิ ชอบในการ และรบั ผดิ ชอบใน ทางาน การทางาน ข้อที่ 4 ใฝ่เรยี นรู้ นยิ าม ใฝเ่ รียนรู้ หมายถึง คุณลกั ษณะที่แสดงออกถงึ ความตงั้ ใจ เพียรพยายามในการเรียน แสวงหา ความรู้จากแหลง่ เรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรยี น ผู้ท่ใี ฝ่เรยี นรู้ คือ ผู้ที่มลี กั ษณะซง่ึ แสดงออกถึงความต้ังใจ เพียรพยายามในการเรยี นและเขา้ ร่วมกจิ กรรมการเรยี นรู้ แสวงหาความร้จู ากแหลง่ เรียนรทู้ ้ังภายในและภายนอกโรงเรียนอยา่ งสม่าเสมอ ด้วย การเลอื กใช้ส่ืออย่างเหมาะสม บนั ทึกความรู้ วิเคราะห์ สรปุ เปน็ องค์ความรู้ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถา่ ยทอด เผยแพร่ และนาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวันได้ ตัวช้วี ัด 4.1 ตัง้ ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรียนรู้ 4.2 แสวงหาความร้จู ากแหล่งเรยี นรู้ ต่างๆ ทง้ั ภายในและภายนอกโรงเรียน ด้วยการเลือกใชส้ ื่ออย่างเหมาะสม สรปุ เปน็ องคค์ วามรู้ และสามารถนาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ได้
๓๖ ตัวชี้วดั และพฤตกิ รรมบ่งชี้ ตัวช้วี ัด พฤตกิ รรมบ่งชี้ 4.1 ต้งั ใจ เพียรพยายาม 4.1.1 ตง้ั ใจเรียน ในการเรียนและเข้ารว่ มกจิ กรรม 4.1.2 เอาใจใส่และมีความเพียรพยายามในการเรยี นรู้ การเรียนรู้ 4.1.3 สนใจเข้ารว่ มกจิ กรรมการเรยี นรูต้ ่าง ๆ 4.2 แสวงหาความรจู้ าก 4.2.1 ศึกษาค้นควา้ หาความรูจ้ ากหนงั สือ เอกสาร สิ่งพิมพ์ ส่ือ แหล่งเรียนรู้ ต่างๆ ท้ังภายในและ เทคโนโลยตี า่ งๆ แหลง่ เรยี นรทู้ ั้งภายในและภายนอกโรงเรียน และ ภายนอกโรงเรียน ด้วยการ เลือกใช้สอ่ื ได้อยา่ งเหมาะสม เลอื กใช้ส่ืออย่างเหมาะสม สรุป 4.2.2 บันทึกความรู้ วเิ คราะห์ตรวจสอบ จากสงิ่ ทเ่ี รยี นรู้ สรุปเป็นองค์ เปน็ องค์ความรู้ และ ความรู้ สามารถนาไปใช้ใน 4.2.3 แลกเปลีย่ นความรู้ ด้วยวิธกี ารตา่ งๆ และนาไปใช้ใน ชวี ิตประจาวันได้ ชวี ิตประจาวัน เกณฑก์ ารให้คะแนน ระดบั ประถมศึกษา ตัวชีว้ ัดที่ 4.1 ตัง้ ใจ เพียรพยายาม ในการเรยี นและเขา้ รว่ ม กิจกรรม พฤติกรรมบ่งชี้ ไม่ผา่ น (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดีเยีย่ ม(3) 4.1.1 ตัง้ ใจเรียน ไม่ต้ังใจเรยี น เขา้ เรียนตรงเวลา เขา้ เรยี นตรงเวลา เขา้ เรยี นตรงเวลา 4.1.2 เอาใจใส่และมี ความเพยี รพยายามใน ตง้ั ใจเรียน เอาใจใส่ ตัง้ ใจเรยี น เอาใจ ตง้ั ใจเรยี น เอาใจใส่ การเรยี นรู้ 4.1.3 เขา้ ร่วมกจิ กรรม ในการเรยี น มสี ว่ น ใส่ และมีความ และมคี วามเพียร การเรียนรูต้ า่ งๆ ร่วมในการเรียนรู้ เพียรพยายามใน พยายามใน และเข้ารว่ มกิจกรรม การเรียนรู้ มีส่วน การเรียนรู้ การเรยี นรู้ ต่างๆ รว่ มในการเรยี นรู้ มสี ่วนรว่ มในการ เปน็ บางครง้ั และเขา้ ร่วม เรียนรู้และเข้ารว่ ม กิจกรรมการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ต่างๆ บ่อยครัง้ ต่าง ๆ ท้งั ภายใน และภายนอก โรงเรียนเป็นประจา
๓๗ ตัวช้ีวดั ที่ 4.2 แสวงหาความรูจ้ ากแหลง่ เรยี นรู้ ตา่ ง ๆ ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรยี น ด้วยการเลอื กใช้สือ่ อย่างเหมาะสม สรุปเปน็ องคค์ วามรู้ สามารถนาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวันได้ พฤติกรรมบ่งชี้ ไมผ่ ่าน (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดีเยย่ี ม(3) 4.2.1 ศึกษาคน้ คว้า ไมศ่ ึกษาค้นคว้า ศกึ ษาคน้ คว้าความรู้ ศึกษาคน้ คว้าหา ศึกษาคน้ ควา้ หา หาความรจู้ ากหนังสือ หาความรู้ จากหนงั สอื เอกสาร ความร้จู ากหนงั สือ ความรู้จากหนงั สือ เอกสาร สิ่งพิมพ์ ส่ือ ส่ิงพมิ พ์ สือ่ เอกสาร สิ่งพิมพ์ เอกสาร สงิ่ พิมพ์ สือ่ เทคโนโลยีตา่ ง ๆ แหล่ง เทคโนโลยี ส่ือ เทคโนโลยแี ละ เทคโนโลยี และ เรียนรูท้ ้ังภายในและ แหลง่ เรยี นรู้ สารสนเทศ แหล่ง สารสนเทศ แหล่ง ภายนอกโรงเรียน และ ท้งั ภายในและ เรยี นรู้ ทัง้ ภายใน เรียนรู้ท้ังภายใน เลอื กใช้สือ่ ได้อยา่ ง ภายนอกโรงเรยี น และภายนอก และภายนอก เหมาะสม เลือกใช้ส่ือ โรงเรยี น และ โรงเรียน เลอื กใช้ 4.2.2 บนั ทกึ ความรู้ ไดอ้ ย่างเหมาะสม เลือกใช้สื่อได้ สือ่ ได้อยา่ งเหมาะสม วิเคราะห์ข้อมูล จากสิ่งที่ และมกี าร อยา่ งเหมาะสม มีการบันทึกความรู้ เรียนรู้ สรปุ เปน็ องค์ บนั ทกึ ความรู้ มกี ารบนั ทึก วิเคราะห์ข้อมูล ความรู้ ความรู้ วิเคราะห์ สรปุ เป็นองค์ความรู้ 4.2.3 แลกเปล่ียนเรียนรู้ ข้อมูล สรปุ เปน็ และแลกเปล่ยี น ด้วยวธิ กี ารต่างๆ และ องค์ความรู้ และ เรียนรู้ ด้วยวิธกี าร นาไปใชใ้ น แลกเปลยี่ นเรยี นรู้ ที่หลากหลาย และ ชีวิตประจาวัน กบั ผ้อู ่ืนได้ นาไปใช้ใน ชีวติ ประจาวัน ข้อท่ี 5 อยู่อยา่ งพอเพียง นยิ าม อยู่อย่างพอเพียง หมายถงึ คุณลักษณะท่แี สดงออกถึงการดาเนนิ ชวี ติ อย่างพอประมาณ มีเหตผุ ล รอบคอบ มีคุณธรรม มีภูมคิ ุม้ กันในตวั ที่ดี และปรบั ตัวเพ่ืออยู่ในสงั คมได้อย่างมคี วามสขุ ผูท้ อี่ ยอู่ ยา่ งพอเพียง คอื ผู้ทดี่ าเนนิ ชีวติ อยา่ งประมาณตน มเี หตุผล รอบคอบ ระมดั ระวัง อยู่รว่ มกับผู้อื่นดว้ ยความรบั ผิดชอบ ไม่เบยี ดเบยี นผู้อน่ื เห็นคุณคา่ ของทรัพยากรต่างๆ มีการวางแผนป้องกนั ความเสย่ี งและพร้อมรับการเปล่ียนแปลง ตวั ชีว้ ัด 5.1. ดาเนินชีวติ อยา่ งพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม 5.2 มภี ูมิคมุ้ กันในตัวทด่ี ี ปรับตวั เพื่ออยใู่ นสังคมได้อยา่ งมีความสขุ
๓๘ ตัวชวี้ ัดและพฤติกรรมบ่งช้ี พฤตกิ รรมบ่งช้ี ตัวชี้วดั 5.1.1ใช้ทรัพยส์ ินของตนเอง เช่น เงิน ส่งิ ของ เคร่ืองใช้ ฯลฯ 5.1 ดาเนนิ ชวี ิตอยา่ ง อย่างประหยดั คมุ้ ค่าและเก็บรักษาดแู ลอย่างดรี วมทง้ั การใช้เวลาอยา่ งเหมาะสม พอประมาณ มีเหตุผล 5.1.2 ใชท้ รัพยากรของสว่ นรวมอย่างประหยัดคุ้มคา่ และเก็บรกั ษาดูแลอย่างดี รอบคอบ มคี ณุ ธรรม 5.1.3 ปฏบิ ตั ิตนและตดั สินใจด้วยความรอบคอบ มีเหตผุ ล 5.1.4ไม่เอาเปรยี บผูอ้ ่นื และไม่ทาให้ผู้อื่นเดือดร้อน พร้อมให้อภยั 5.2 มีภมู ิค้มุ กันในตวั ทด่ี ี เมอื่ ผอู้ ืน่ กระทาผดิ พลาด ปรับตัวเพื่ออย่ใู น สงั คมได้อย่างมคี วามสุข 5.2.1วางแผนการเรยี น การทางานและการใช้ชีวิตประจาวันบนพื้นฐานของ ความรู้ ขอ้ มลู ข่าวสาร 5.2.2 รู้เทา่ ทันการเปลยี่ นแปลงของสงั คมและสภาพแวดล้อม ยอมรบั และปรับตัวเพอ่ื อยู่ร่วมกับผอู้ นื่ ได้อยา่ งมีความสุข เกณฑ์การให้คะแนน ระดบั ประถมศกึ ษา ตัวชี้วดั ท่ี 5.1 ดาเนนิ ชีวติ อย่างพอประมาณ มเี หตุผล รอบคอบ มีคณุ ธรรม พฤตกิ รรมบ่งช้ี ไมผ่ ่าน (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดีเยย่ี ม(3) 5.1.1ใช้ทรัพย์สินของ ใช้เงนิ และของ ใชท้ รัพยส์ นิ ใชท้ รัพยส์ นิ ใชท้ รัพยส์ ิน ตนเอง เช่น เงนิ สิง่ ของ เคร่อื งใช้ ฯลฯ อย่าง ใชส้ ว่ นตวั ของตนเองและ ของตนเองและ ของตนเองและ ประหยัด คุ้มค่าและเกบ็ รักษาดูแลอย่างดี รวมทง้ั การ อยา่ งไม่ ทรพั ยากรของ ทรพั ยากรของ ทรัพยากรของ ใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม 5.1.2 ใชท้ รพั ยากรของ ประหยดั สว่ นรวมอยา่ ง สว่ นรวม สว่ นรวม อย่าง สว่ นรวมอย่างประหยัด คมุ้ คา่ และเก็บรักษาดูแล ประหยัด อย่างประหยดั ประหยดั อย่างดี 5.1.3 ปฏบิ ัติตนและ คุม้ คา่ ค้มุ ค่า คุ้มคา่ ตัดสนิ ใจดว้ ยความ รอบคอบ มีเหตผุ ล เกบ็ รกั ษาดูแล เกบ็ รกั ษาดูแล เกบ็ รักษาดูแล 5.1.4 ไม่เอาเปรยี บผูอ้ ่นื และไม่ทาใหผ้ ้อู น่ื เดือดร้อน อยา่ งดี อยา่ งดี อย่างดี พร้อมใหอ้ ภัย เมื่อผ้อู ืน่ กระทาผดิ พลาด รอบคอบ รอบคอบ มี รอบคอบ มเี หตผุ ล เหตุผล มเี หตผุ ล ไม่เอาเปรียบ ไม่เอาเปรยี บ ผอู้ ืน่ และไม่ทา ผูอ้ ่ืน ไมท่ าให้ ให้ผ้อู ่นื ผ้อู ่นื เดอื ดร้อน เดอื ดร้อน และใหอ้ ภยั เมือ่ ผอู้ น่ื กระทา ผิดพลาด
๓๙ ตวั ชีว้ ัดที่ 5.2 มีภูมิคุ้มกันในตวั ทีด่ ี ปรับตัวเพ่ืออย่ใู นสังคมได้อยา่ งมคี วามสุข พฤติกรรมบ่งชี้ ไมผ่ ่าน (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดีเยี่ยม(3) 5.2.1 วางแผนการเรยี น ไมว่ างแผนการ ใช้ ความรู้ ใช้ ความรู้ ใช้ ความรู้ ข้อมลู การทางานและการใช้ เรยี นและ ข้อมลู ขา่ วสาร ข้อมลู ขา่ วสาร ขา่ วสารในการวาง ชวี ิตประจาวนั บน การใช้ ในการวาง ในการวาง แผนการเรยี น พ้ืนฐานของ ความรู้ ชวี ิตประจาวนั แผนการเรยี น แผนการเรียน การทางานและใช้ ขอ้ มูลขา่ วสาร 5.2.2 รู้เทา่ ทนั การ การทางานและ การทางานและ ในชีวติ ประจาวนั ใช้ ใน ใชใ้ น ยอมรับ การ เปล่ยี นแปลงของสังคม ชวี ิตประจาวนั ชีวิตประจาวัน เปล่ยี นแปลงของ และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และปรับตวั อยู่ รบั รู้การ ยอมรับการ ครอบครัว ชมุ ชน เปล่ยี นแปลง เปลยี่ นแปลงของ สงั คม รว่ มกับผ้อู ่ืนไดอ้ ยา่ งมี ของครอบครวั ครอบครวั สภาพแวดล้อม ความสขุ ชุมชนและ ชุมชนสงั คม และปรบั ตัวอยู่ สภาพแวดลอ้ ม และ รว่ มกับผ้อู ่ืน สภาพแวดล้อม ได้อย่างมคี วามสขุ ขอ้ ท่ี 6 มงุ่ มัน่ ในการทางาน นยิ าม มุง่ มน่ั ในการทางาน หมายถึง คุณลักษณะที่แสดงออกถึงความตั้งใจและรบั ผดิ ชอบในการ ทาหนา้ ทกี่ ารงาน ดว้ ยความเพียรพยายาม อดทน เพ่ือให้งานสาเรจ็ ตามเปา้ หมาย ผู้ทม่ี ุ่งม่นั ในการทางาน คอื ผทู้ ม่ี ลี ักษณะซ่งึ แสดงออกถึงความตั้งใจปฏิบัตหิ นา้ ที่ท่ีได้รับ มอบหมายด้วยความเพยี รพยายาม ทุม่ เทกาลงั กาย กาลังใจ ในการปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ใหส้ าเร็จลลุ ่วง ตาม เปา้ หมายทีก่ าหนดดว้ ยความรบั ผิดชอบ และมคี วามภาคภมู ใิ จในผลงาน ตวั ชี้วดั 6 .1 ต้ังใจและรับผดิ ชอบในหน้าทีก่ ารงาน 6 .2 ทางานดว้ ย ความเพียรพยายาม และ อดทนเพื่อให้งานสาเรจ็ ตามเป้าหมาย ตวั ชวี้ ัดและพฤตกิ รรมบ่งชี้ พฤตกิ รรมบ่งช้ี ตวั ช้ีวัด 6 .1.1 เอาใจใสต่ ่อการปฏิบัตหิ น้าท่ที ีไ่ ด้รบั มอบหมาย 6 .1.2 ตั้งใจและรบั ผดิ ชอบในการทางานใหส้ าเร็จ 6 .1 ตัง้ ใจและรบั ผิดชอบ 6 .1.3 ปรับปรงุ และพฒั นาการทางานดว้ ยตนเอง ในการปฏบิ ัตหิ น้าท่ี การงาน 6 .2.1 ท่มุ เททางาน อดทน ไม่ย่อท้อต่อปญั หาและอปุ สรรคในการทางาน 6 .2.2 พยายามแก้ปัญหาและอปุ สรรคในการทางานให้สาเร็จ 6 .2 ทางานดว้ ย ความ 6 .2.3 ชืน่ ชมผลงานดว้ ยความภาคภูมใิ จ เพยี ร พยายาม และ อดทนเพ่ือใหง้ านสาเร็จ ตามเป้าหมาย
๔๐ เกณฑ์การให้คะแนน ระดบั ประถมศึกษา ตวั ช้ีวัดท่ี 6 .1 ต้ังใจและรบั ผิดชอบในการปฏบิ ตั ิหน้าที่การงาน พฤตกิ รรมบ่งช้ี ไมผ่ ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดเี ยี่ยม(3) 6.1.1 เอาใจใส่ ไมต่ งั้ ใจปฏิบตั ิ ตงั้ ใจและ ตงั้ ใจและรบั ผิดชอบ ตัง้ ใจและ ตอ่ การปฏบิ ตั ิ หน้าทก่ี ารงาน หน้าทที่ ไี่ ดร้ บั รับผดิ ชอบในการ ในการปฏิบัติหน้าท่ีท่ี รบั ผิดชอบในการ มอบหมาย 6.1.2 ตั้งใจและ ปฏิบตั หิ น้าท่ที ี่ได้รับ ได้รบั มอบหมายให้ ปฏบิ ตั หิ น้าทีท่ ีไ่ ดร้ ับ รบั ผิดชอบใน การทางานให้ มอบหมายใหส้ าเรจ็ สาเรจ็ มกี ารปรับปรงุ มอบหมายใหส้ าเร็จ สาเร็จ 6.1.3 ปรบั ปรงุ มกี ารปรับปรงุ การ และพัฒนาการ มีการปรบั ปรงุ และ และพัฒนาการ ทางานดว้ ยตนเอง ทางานให้ดีขนึ้ ทางานให้ดีขึน้ พัฒนาการทางาน ใหด้ ีขน้ึ ดว้ ยตนเอง ตัวชี้วัดที่ 6 .2 ทางานด้วย ความเพียรพยายาม และ อดทนเพื่อใหง้ านสาเรจ็ ตามเป้าหมาย พฤตกิ รรมบ่งชี้ ไม่ผา่ น (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดีเยี่ยม(3) 6.2.1 ทุม่ เท ไม่ขยนั อดทน ทางานด้วยความ ทางานดว้ ยความขยัน ทางานด้วยความ ทางานอดทนไม่ ในการทางาน ขยนั อดทน และ อดทน และพยายาม ขยนั อดทน และ ย่อท้อตอ่ ปัญหา พยายามให้งาน ให้งานสาเร็จตาม พยายามให้งาน และอุปสรรค สาเรจ็ ตาม เปา้ หมาย ไม่ย่อท้อ สาเรจ็ ตาเป้าหมาย ในการทางาน 6.2.2 พยายาม เปา้ หมาย และช่ืน ต่อปัญหาในการ ภายในเวลาที่ ชมผลงานด้วย ทางาน และชื่นชม กาหนด ไมย่ ่อท้อ แกป้ ัญหาและ ความภาคภมู ใิ จ ผลงานด้วยความ ต่อปญั หาแกป้ ญั หา อปุ สรรคในการ ภาคภมู ใิ จ ทางานใหส้ าเรจ็ 6.2.3 ชน่ื ชม ผลงานด้วยความ ภาคภูมิใจ
๔๑ ขอ้ ที่ 7 รกั ความเปน็ ไทย นิยาม รักความเปน็ ไทย หมายถึง คุณลกั ษณะที่แสดงออกถงึ ความภาคภมู ิใจ เหน็ คณุ ค่ารว่ มอนุรกั ษ์ สบื ทอดภมู ปิ ญั ญาไทย ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะและวฒั นธรรม ใช้ภาษาไทยในการสอื่ สารได้อย่า ถกู ต้องและเหมาะสม ผทู้ ีร่ ักความเปน็ ไทย คือ ผทู้ ี่มีความภาคภูมใิ จ เหน็ คณุ คา่ ช่นื ชม มสี ่วนร่วมในการอนรุ กั ษ์ สบื ทอด เผยแพรภ่ ูมิปญั ญาไทย ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะและวัฒนธรรมไทย มีความกตญั ญกู ตเวที ใชภ้ าษาไทยในการสอื่ สารอย่างถกู ต้องเหมาะสม ตัวช้ีวดั 7.1 ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรมไทย และมคี วามกตญั ญูกตเวที 7.2 เหน็ คณุ ค่าและใช้ภาษาไทยในการสื่อสารได้อย่างถูกต้องเหมาะสม 7.3 อนรุ ักษ์ และสืบทอดภูมิปญั ญาไทย ตวั ช้ีวดั ตวั ชว้ี ัดและพฤติกรรมบ่งช้ี 7.1 ภาคภมู ใิ จใน พฤตกิ รรมบ่งชี้ ขนบธรรมเนยี มประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรมไทย 7.1.1 แตง่ กายและมีมารยาทงดงามแบบไทย มีสัมมาคารวะ กตญั ญู และมีความกตญั ญกู ตเวที กตเวทีตอ่ ผู้มีพระคุณ 7.1.2 ร่วมกิจกรรมที่เกย่ี วข้องกบั ประเพณี ศิลปะและวัฒนธรรมไทย 7.2 เหน็ คุณคา่ และ 7.1.3 ชกั ชวน แนะนาใหผ้ ้อู ่ืนปฏบิ ัติตามขนบธรรมเนียมประเพณี ใช้ภาษาไทย ในการสอื่ สารได้ ศิลปะและวฒั นธรรมไทย อยา่ งถูกต้องเหมาะสม 7.2.1 ใช้ภาษาไทยและเลขไทยในการสื่อสารได้อยา่ งถูกต้องเหมาะสม 7.3 อนุรักษ์ สบื ทอด 7.2.2 ชักชวน แนะนา ใหผ้ อู้ ื่นเหน็ คุณคา่ ของการใชภ้ าษาไทยท่ีถกู ต้อง ภูมปิ ญั ญาไทย 7.3.1 นาภูมิปัญญาไทยมาใช้ใหเ้ หมาะสมในวถิ ชี ีวิต 7.3.2 รว่ มกิจกรรมทเี่ ก่ยี วข้องกบั ภูมิปญั ญาไทย
๔๒ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ระดับประถมศึกษา ตวั ช้ีวัดที่ 7.1 ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศลิ ปะ วฒั นธรรมไทย และมีความกตัญญูกตเวที พฤตกิ รรมบ่งชี้ ไมผ่ ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดีเยย่ี ม(3) 7.1.1 แต่งกายและมี ไม่มีสัมมาคารวะ ปฏิบตั ิตนเปน็ ผูม้ ี ปฏบิ ัติตนเป็นผู้มี ปฏบิ ัตติ นเปน็ ผู้มี มารยาทแบบไทย มารยาทงดงามแบบไทย ต่อผู้ใหญ่ มารยาทแบบไทย มารยาทแบบไทย มีสมั มาคารวะ กตัญญูกตเวทตี ่อ มสี มั มาคารวะ กตญั ญู มสี มั มาคารวะ มีสมั มาคารวะ ผมู้ พี ระคุณ แต่ง กายแบบไทยด้วย กตเวทตี ่อผู้มีพระคุณ กตัญญูกตเวทตี อ่ ผู้ กตัญญูกตเวทตี ่อ ความภาคภูมิใจ เขา้ ร่วมหรอื มสี ว่ น 7.1.2 ร่วมกิจกรรมที่ มพี ระคณุ และแตง่ ผ้มู ีพระคุณ และ รว่ มในการจัด กิจกรรมที่ เก่ยี วข้องกบั ประเพณี กายแบบไทย เขา้ แตง่ กายแบบไทย เกีย่ วข้องกับ ประเพณี ศลิ ปะ ศิลปะและวัฒนธรรมไทย ร่วมหรือมสี ว่ นรว่ ม ดว้ ยความ และวฒั นธรรม ไทย ชกั ชวน 7.1.3 ชกั ชวน แนะนา ในกจิ กรรมที่ ภาคภูมใิ จ เขา้ แนะนาเพ่ือนและ คนอื่นปฏิบตั ิตาม ให้ผอู้ ่นื ปฏิบัตติ าม เกยี่ วขอ้ งกับ รว่ ม หรอื มีส่วน ขนบธรรมเนยี ม ประเพณี ขนบธรรมเนยี มประเพณี ประเพณี ร่วมในกจิ กรรมท่ี ศลิ ปะและ วัฒนธรรมไทย ศิลปะและวัฒนธรรมไทย ศิลปะและ เกย่ี วข้องกับ วฒั นธรรมไทย ประเพณี ศลิ ปะ และวัฒนธรรม ไทย ตัวชว้ี ดั ท่ี 7.2 เห็นคณุ คา่ และใช้ภาษาไทยในการส่ือสารไดอ้ ยา่ งถูกต้องเหมาะสม พฤติกรรมบ่งช้ี ไมผ่ า่ น (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดีเย่ยี ม(3) 7.2.1ใชภ้ าษาไทยและ ไมส่ นใจใช้ ใชภ้ าษาไทย ใชภ้ าษาไทย ใช้ภาษาไทย เลขไทยในการสื่อสารได้ ภาษาไทย เลขไทยในการ เลขไทย ในการ เลขไทย ในการ สื่อสารไดถ้ ูกต้อ เหมาะสม และ อยา่ งถูกต้องเหมาะสม อย่างถูกต้อง ส่ือสารไดถ้ ูกต้อง สือ่ สารได้ถูกต้อง แนะนา ชักชวน 7.2.2 ชกั ชวน แนะนา เหมาะสม และ เหมาะสม และ ให้ผ้อู นื่ ใช้ ให้ผอู้ ่นื เห็นคุณค่าของ แนะนาใหผ้ ู้อ่ืนใช้ แนะนา ชักชวน ภาษาไทยที่ ถกู ต้องเปน็ การใช้ภาษาไทยที่ ภาษาไทย ให้ผ้อู ื่นใช้ ประจาเปน็ แบบ ถกู ต้อง ท่ีถกู ต้อง ภาษาไทยท่ี อย่างทดี่ ีด้านการ ถูกต้อง ใช้ภาษาไทย
๔๓ ตวั ชว้ี ัดท่ี 7.3 อนุรักษ์ สืบทอด ภมู ิปญั ญาไทย พฤติกรรมบ่งชี้ ไมผ่ า่ น (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดเี ยยี่ ม(3) 7.3.1 นาภมู ปิ ญั ญาไทย ไม่สนใจภมู ิ สืบค้นภูมปิ ญั ญา สบื คน้ ภมู ปิ ัญญา สบื คน้ มาใช้ให้เหมาะสมในวถิ ี ปัญญาไทย ไทยที่ใช้ในทอ้ งถ่นิ ไทยท่ีมีอยู่ใน ภมู ปิ ญั ญาไทย ชีวติ เข้ารว่ ม และ ทอ้ งถิ่น เข้าร่วม เขา้ รว่ มและ 7.3.2 รว่ มกิจกรรมท่ี ชกั ชวนคนใน และชักชวนคนใน ชักชวนคน เกย่ี วข้องกบั ภูมปิ ัญญา ครอบครัวหรือ ครอบครัว เพื่อน ในครอบครัว ไทย เพ่อื นเข้าร่วม และผูอ้ ืน่ เข้าร่วม เพ่อื น และผอู้ ่นื 7.3.3 แนะนา กิจกรรมที่เก่ยี วข้อง กจิ กรรมทีเ่ ก่ียวข้อง เข้าร่วมกิจกรรมที่ มสี ่วนรว่ ม ในการ กบั ภมู ิปญั ญาไทย กบั ภูมปิ ญั ญาไทย เก่ียวขอ้ งกับภูมิ สืบทอดภูมิปัญญาไทย ปัญญาไทย ใช้ และแนะนา ใหเ้ พ่ือนใช้ ข้อท่ี 8 มจี ิตสาธารณะ นยิ าม มีจติ สาธารณะ หมายถงึ คุณลกั ษณะที่แสดงออกถงึ การมีสว่ นร่วมในกจิ กรรมหรือสถานการณ์ท่ี กอ่ ใหเ้ กดิ ประโยชนแ์ ก่ผู้อืน่ ชุมชน และสงั คม ด้วยความเต็มใจ กระตือรอื ร้น โดยไม่หวงั ผลตอบแทน ผทู้ ี่มีจติ สาธารณะ คือ ผูท้ ่ีมีลักษณะเปน็ ผ้ใู ห้และชว่ ยเหลอื ผ้อู ่นื แบง่ ปนั ความสุขส่วนตนเพ่อื ทา ประโยชน์แกส่ ่วนรวม เข้าใจ เห็นใจผู้ทมี่ ีความเดือดร้อน อาสาชว่ ยเหลอื สังคม อนรุ ักษส์ ิ่งแวดล้อม ด้วย แรงกาย สตปิ ัญญา ลงมือปฏบิ ตั เิ พ่อื แก้ปัญหา หรือรว่ มสร้างสรรค์สง่ิ ที่ดีงามให้เกิดในชมุ ชน โดยไม่หวงั ส่ิงตอบ แทน ตวั ช้ีวดั 8.1 ช่วยเหลือผู้อ่ืนดว้ ยความเต็มใจโดยไมห่ วงั ผลตอบแทน 8.2 เข้ารว่ มกิจกรรมท่เี ป็นประโยชน์ต่อโรงเรียน ชุมชน และสงั คม ตวั ชี้วดั และพฤตกิ รรมบง่ ชี้ ตัวช้วี ดั พฤติกรรมบ่งชี้ 8.1 ชว่ ยเหลอื ผอู้ น่ื ด้วย 8.1.1 ชว่ ยพ่อแม่ ผปู้ กครอง ครทู างานดว้ ยความเต็มใจ ความเต็มใจโดย ไมห่ วงั 8.1.2 อาสาทางานให้ผู้อนื่ ด้วยกาลงั กาย กาลังใจ และกาลังสติปัญญาโดยไม่ ผลตอบแทน หวังผลตอบแทน 8.1.3 แบง่ ปนั สง่ิ ของ ทรัพย์สินและอนื่ ๆ และช่วยแก้ปัญหาหรอื สรา้ งความสุขให้กับผู้อน่ื 8.2 เขา้ ร่วมกจิ กรรมท่เี ปน็ 8.2.1 ดูแล รกั ษาสาธารณสมบัตแิ ละสิง่ แวดล้อมดว้ ยความเต็มใจ ประโยชนต์ อ่ โรงเรยี น 8.2.2 เข้าร่วมกจิ กรรมทเ่ี ปน็ ประโยชนต์ ่อโรงเรียน ชมุ ชนและสังคม ชมุ ชน และสังคม 8.2.3 เข้าร่วมกิจกรรมเพ่ือแก้ปัญหาหรือรว่ มสรา้ งส่งิ ท่ีดีงามของสว่ นรวม ตาม สถานการณ์ท่เี กดิ ขึ้นด้วยความกระตือรือรน้
๔๔ เกณฑก์ ารให้คะแนน ระดบั ประถมศึกษา ตวั ชว้ี ัดท่ี 8.1 ช่วยเหลือผู้อ่ืนดว้ ยความเต็มใจและพึงพอใจ พฤติกรรมบ่งช้ี ไม่ผ่าน (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดีเยยี่ ม(3) 8.1.1 ชว่ ยพ่อแม่ ไมช่ ่วยเหลือ ชว่ ยพอ่ แม่ ช่วยพ่อแมผ่ ปู้ กครอง ช่วยพ่อแม่ และครทู างาน ผู้ปกครองและครู ผปู้ กครองและครู พอ่ แม่ ผู้ปกครอง ผ้ปู กครองและครู อาสาทางาน ชว่ ย ทางาน อาสา คิด ช่วยทา และ ทางาน ช่วยคิด ทางานด้วย และครู ทางาน อาสา แบง่ ปนั สิ่งของให้ ชว่ ยทา แบ่งปัน ผูอ้ ื่นด้วยความ สิ่งของ ความเต็มใจ ทางานและแบ่งปนั เตม็ ใจ และชว่ ยแกป้ ญั หา 8.1.2 อาสาทางานให้ ส่งิ ของให้ผู้อน่ื ดว้ ย ให้ผู้อน่ื ด้วยความ เตม็ ใจ ผอู้ น่ื ด้วยกาลงั กาย ความ กาลังใจ และกาลัง เตม็ ใจ สติปญั ญา ดว้ ยความ สมัครใจ 8.1.3 แบ่งปนั ส่ิงของ ทรพั ย์สินและอื่นๆ และช่วยแก้ปัญหา หรือสรา้ งความสุข ใหก้ บั ผู้อ่ืน ตวั ช้ีวดั ท่ี 8.2 เข้าร่วมกิจกรรมที่เปน็ ประโยชนต์ ่อโรงเรยี น ชุมชน และสังคม พฤตกิ รรมบ่งชี้ ไมผ่ า่ น (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดีเยี่ยม(3) 8.2.1 ดูแล รักษา ไมส่ นใจดูแล ดูแล รกั ษาทรัพย์ ดแู ล รักษาทรัพย์ ดแู ล รักษาทรัพย์ สาธารณสมบตั ิ และ รักษา สมบัติ สง่ิ แวดล้อม สมบตั ิ สงิ่ แวดล้อม สมบัติ ส่ิงแวดลอ้ ม สิง่ แวดลอ้ ม ทรัพยส์ มบัติและ ของห้องเรยี น ของห้องเรียน ของห้องเรยี น ดว้ ยความเตม็ ใจ สิ่งแวดลอ้ มของ โรงเรยี น และเขา้ โรงเรียน ชุมชน โรงเรยี น ชุมชน 8.2.2 เข้ารว่ ม และเขา้ รว่ ม กจิ กรรมท่ีเปน็ โรงเรียน ร่วมกิจกรรมเพ่ือ และเขา้ รว่ ม กจิ กรรมเพื่อ สังคมและ กจิ กรรมเพอื่ ประโยชน์ตอ่ สาธารณประโยชน์ สังคมและ สงั คมและ โรงเรยี น ชุมชนและ สังคม ของโรงเรยี นด้วย สาธารณประโยชน์ สาธารณประโยชน์ ความเตม็ ใจ ของโรงเรียนดว้ ย ของโรงเรียนและ 8.2.3 เข้ารว่ ม ความเต็มใจ ชมุ ชนดว้ ย กจิ กรรม เพื่อ ความเต็มใจ แก้ปญั หา หรือ ร่วม สรา้ งสิ่งท่ีดงี ามของ สว่ นรวม ตาม สถานการณ์ทเี่ กิด ขึ้นด้วยความ กระตือรอื รน้
๔๕
Search
Read the Text Version
- 1 - 49
Pages: