คำนำ ค่มู ือรจู้ ักชุมชนประแสร์ เรอื่ ง “สถาปตั ยกรรมของบา้ น” ฉบบั นไ้ี ด้จัดทาขึ้นเพื่อเปน็ คมู่ อื ประกอบการ เรยี นรใู้ นชมุ ชนปากน้าประแสร์ ซึง่ มีเนือ้ หาเกยี่ วกบั ความเป็นมาของบา้ น ลกั ษณะรปู ทรงของบา้ น และลวดลายฉลุ ของบา้ นในชมุ ชนปากน้าประแสร์ คณะผ้จู ัดทาได้เล็งเห็นความสาคัญของสถาปัตยกรรมบา้ นของชมุ ชนปากนา้ ประแสร์ จึงได้จดั ทาข้ึนเพ่ือ เป็นคมู่ ือสาหรับนักเรยี น ชมุ ชน และผู้สนใจทวั่ ไปไดเ้ ป็นแหล่งศกึ ษาคน้ ควา้ หรอื อา้ งองิ ใหเ้ กิดประโยชนไ์ ดต้ าม ความเหมาะสม ขอขอบคุณทา่ นผู้อานวยการโรงเรียน รองผู้อานวยการโรงเรียน สานกั ปลดั เทศบาลตาบลปากนา้ ประแส ผนู้ าชุมชนปากน้าประแสท่ีให้ขอ้ มลู และคณะครูที่เก่ยี วข้องทกุ ท่านท่ใี หค้ วามชว่ ยเหลอื มา ณ โอกาสน้ี คณะผู้จดั ทา คู่มือรู้จกั ชมุ ชนประแสร์ เล่มที่ 3 เรื่อง สถาปัตยกรรม โรงเรียนชมุ ชนวดั ตะเคียนงาม
สำรบัญ รจู้ ักชมุ ชนปากน้าประแสร์ “สถาปตั ยกรรมบ้าน”…………………………………………………………………………………. 1 - ลักษณะอาคารบ้านเรือน……………………………………………………………………………………………………. 1 รูปแบบสถาปัตยกรรมอาคารบา้ นเรือน……………………………………………………………………………………………….. 8 - บ้านหลวงอินทรอ์ าวธุ …………………………………………………………………………………………………………. 9 - บา้ นทรัพยเ์ จริญ (บ้านพพิ ิธภัณฑป์ ากน้าประแสร)์ ………………………………………………………………… 13 - รา้ นทองมว้ นป้าไพ……………………………………………………………………………………………………….…… 15 - บ้านลุงไซ…………………………………………………………………………………………………………………….….. 17 - โรงกลึงอู่ชา่ งตน้ ………………………………………………………………………………………………………….….… 19 - บา้ นศิริเจรญิ ……………………………………………………………………………………………………………………. 21 - บ้านปา้ จไุ ร ช่างทอง………………………………………………………………………………………………………..… 23 - รา้ นน้อยกาแฟโบราณร้านกาแฟเจก๊ เลย้ี ง……………………………………………………………………………… 25 - บา้ นคุณยายบุญช่วย………………………………………………………………………………………………….……… 27 - ร้านนงเยาว์ขายของชา………………………………………………………………………………………………….…… 29 - รา้ นหลีบตู กิ ……………………………………………………………………………………………………………..………. 31 - ร้านหนังสอื นิโรจน์……………………………………………………………………………………………………………. 33 สถาปัตยกรรมลวดลาย(ฉลุ)ชอ่ งลมบา้ น…………………………………………………………………………………………..… 36 เอกสารอ้างองิ …………………………………………………………………………………………………………………………….….. 39 คณะผจู้ ดั ทา………………………………………………………………………………………………………………………….……….. 40 คู่มือรู้จกั ชมุ ชนประแสร์ เล่มที่ 3 เรื่อง สถาปัตยกรรม โรงเรียนชุมชนวดั ตะเคียนงาม
รูจ้ กั ชุมชนปำกนำประแสร์ “สถำปตั ยกรรมบ้ำน” ลกั ษณะอำคำรบ้ำนเรือน ชุมชนริมน้ากระแสนหี้ ากจะเรียกว่าเป็นชมุ ชนท่ีตงั้ อยเู่ หนือนา้ ก็ไม่ผิดนกั เน่ืองจากอาคารบา้ นเรือนท้งั สอง ฝงั่ ถนนตา่ งกต็ ้ังอยบู่ นเลนริมน้า เมื่อถึงเวลาน้าขนึ้ ใต้ถุนบา้ นในชมุ ชนจะเต็มไปดว้ ยนา้ ทะเลที่หมนุ ข้ึนมา ในอดีต ตามคาบอกเลา่ ของคนชมุ ชนถนนเสน้ นีเ้ ปน็ เพยี งสะพานไม้ขนาดกว้างเพียง 3 แผน่ ไมเ้ ท่านน้ั ซงึ่ คณุ จุไร ช่างทอง วยั 86 ปี ได้บรรยายถงึ สภาพถนนเสน้ นี้แก่ผู้ศึกษาฟังว่า ถนนในประแสเมื่อก่อนเป็นไม้สามแผ่นแคบกว่าถนนใน ปัจจบุ ันใช้ไมก้ ระดานปูอยู่ตรงกลางไม่ติดหนา้ บ้านเป็นทางสลบั กับสะพานไป…. ภาพสะพานไม้กลางชมุ ชนปากนา้ ประแส กอ่ นท่จี ะปรับเปลีย่ นเป็นถนนคอนกรีต สงั เกตไดว้ า่ ทั้งบา้ นเรือนและสะพานไมต้ า่ งตัง้ อยบู่ นนา้ ทั้งน้ัน ท่มี าภาพ :บา้ นพพิ ิธภณั ฑป์ ากนา้ ประแส บา้ นเรอื นภายในชมุ ชนปากน้ากระแส สว่ นมากมีลักษณะเปน็ บ้านไมย้ กพ้ืนให้สูงจากระดับน้า เพอ่ื ปอ้ งกนั น้าเข้าท่วมบ้านในช่วงนา้ ข้นึ ปลูกบ้านหันหน้าเข้าหากนั ตามแนวถนนผ่านตรงกลาง ในอดตี ถนนเสน้ น้ีเป็นเพยี ง สะพานไมส้ าหรบั ให้คนในชมุ ชนเดนิ เท้าเท่าน้นั จนถึงสมัยรัฐบาล คกึ ฤทธ์ิ ปราโมทย์ราว ปี พ.ศ.2519 มีการจดั สรร งบประมาณพฒั นาตาบลๆ ละ 50,000 บาท ตามนโยบายของรัฐบาลในขณะนน้ั เพอ่ื ยกระดบั ความเปน็ อยู่ของ ประชาชนในชมุ ชนจากสะพานไม้ จงึ ถูกพัฒนามาเป็นถนนทดี่ ขี น้ึ (ประสาท เนนิ ไชย , สัมภาษณ์ 27 กมุ ภาพันธ์ 2562) ถนนเส้นนผี้ ้คู นในชุมชนตา่ งยกความดีความชอบให้กบั นายเหลียง แสงแกว้ คู่มือรู้จกั ชมุ ชนประแสร์ เล่มที่ 3 เรื่อง สถาปัตยกรรม โรงเรียนชมุ ชนวดั ตะเคียนงาม
2 ลูกชายของ นายจูฮง แซ่ตนั๊ ตระกูลเกา่ แก่อีกตระกูลหน่งึ ของปากน้าประแสร์ นายเหลยี งถือเป็นผรู้ า่ รวย ประสบ ความสาเรจ็ จากการค้าขาย และได้มอบเงินส่วนตัวสมทบกับเงินของรฐั บาลในการสรา้ งก่อสร้างถนนคอนกรตี อีก ทั้งยงั ควบคุมดแู ลการก่อสรา้ งถนนเสน้ น้ีจนแล้วเสร็จซ่ึง คุณภาณุ ธนะสาร หรอื ชาวบา้ นเรียกกันตดิ ปากวา่ “กานนั เอยี ด” ไดก้ ล่าวถึงการสร้างถนนในครงั้ นน้ั วา่ ถนนเส้นน้ีไปถามใครๆ กต็ ้องพูดถึงนายเหลียง แสงแก้ว ตอนน้ัน ไดร้ ับงบประมาณจากสว่ นกลางมา แต่ก็ไม่พอสร้างนายเหลียง เลยออกเงินตัวเองมาสมทบ แลว้ กค็ มุ งานกอ่ สร้าง และสัง่ ใหไ้ ปเอาหนิ ใหญจ่ ากเกาะมันมาถมถนน (ภานุ ธนะสาร,สัมภาษณ์ 18 พฤษภาคม 2562) จากการสังเกตพบวา่ บ้านสว่ นใหญม่ ลี กั ษณะเป็นอาคารแถวไม้ 2 ชนั้ และยังมหี ลายหลงั ทย่ี งั คงลักษณะ เดิม กลา่ วคือ ประตบู ้านเป็น บำนเฟยี้ ม คือ ประตูไม้ทส่ี ามารถพบั ได้ ทาให้พนื้ ท่ีด้านล่างเปดิ โล่งเหมาะแก่การค้า ขาย เป็นพ้ืนทสี่ าหรับประกอบอาชพี สว่ นด้านบนเปน็ ห้องนอนและพ้ืนที่ส่วนตวั สาหรบั บา้ นที่อยู่ติดฝ่ังแม่นา้ จะมี ขนาดกวา้ งเนื่องจากในอดตี บ้านฝง่ั นีจ้ ะเป็นทงั้ ท่าจอดเรอื และท่ีอยูอ่ าศัยโดยมีลกั ษณะเปน็ แพปลา คล้ายคลงึ กบั บรเิ วณปากนา้ ระยองโดยจะมีการบ้านขนาดกวา้ งอยบู่ ริเวณหลังบา้ น เพอื่ ใช้เปน็ สถานท่ีเตรยี มของในการออกเรือ ขึ้นลงสัตวน์ า้ ท่ีไดจ้ ากการทาประมง และแปรรูปอาหารทะเล เช่น ปลาเค็ม ตากเคย เปน็ ต้น ในอดตี เม่ือราว 60 ปที ี่ผา่ นมา บ้านเรือนยังไมห่ นาแนน่ เท่าในปัจจบุ นั บา้ นแต่ละหลงั อย่หู า่ งกนั แตจ่ ะมกี ารจับจองพน้ื ท่โี ดยรอบบา้ น เอาไว้ เมื่อลกู หลานแต่งงานสรา้ งครอบครวั จงึ มอบทด่ี ินที่ได้จับจองไว้ก่อนหนา้ ซ่งึ มักจะอยู่ใกล้เคียงกันเพอื่ ให้ สรา้ งบ้านเปน็ ของตนเอง บ้านเรอื นจึงเร่มิ หนาแนน่ ขน้ึ ภาพลักษณะบา้ นเรือนในชมุ ชนปากนา้ ประแสมกี ารยกเสาสูงเพื่อปอ้ งกนั นา้ ทว่ มในช่วงนา้ ขึ้น คู่มือรู้จกั ชมุ ชนประแสร์ เล่มที่ 3 เรื่อง สถาปัตยกรรม โรงเรียนชุมชนวดั ตะเคียนงาม
3 ภาพราวอวนในอดีตผู้ศึกษาไดน้ าไปสอบถามกับ คณุ ไพเราะ ชัยชล อดตี ชาวประมงไดค้ วามว่าบริเวณหลงั บา้ นชาว ประแสจะมหี ลักไมไ้ ผ่สงู อย่หู ลังบ้านเพ่ือใชต้ ากอวนโดยจะใช้แรงงานคนปนี ขึน้ ไปตาก ทมี่ าภาพ : หอจดหมายเหตแุ หง่ ชาติ ภาพประตบู า้ นสว่ นใหญ่ในชมุ ชนปากนา้ ประแส มลี ักษณะเปน็ บานเฟี้ยม สามารถเปิดโล่งเหมาะสาหรับทาเป็นร้านค้า คู่มือรู้จกั ชมุ ชนประแสร์ เล่มที่ 3 เรื่อง สถาปัตยกรรม โรงเรียนชุมชนวดั ตะเคียนงาม
4 สาหรบั การต้ังบา้ นเรือนนัน้ ส่วนใหญ่หนาแนน่ บรเิ วณดา้ นตะวนั ออกของแม่น้าประแส คอื ชุมชนปากน้า ประแส ส่วนฝ่งั แหลมสนหรือฝงั่ ตะวันตกของแมน่ ้าประแสนั้นมีชาวบ้านอาศยั อยู่น้อย ซึ่งผู้ศึกษาสนั นิษฐานว่า น่าจะเปน็ ผลมาจากแหลมสนมลี ักษณะทางภูมศิ าสตรเ์ ปน็ แหลมย่ืนออกไป อกี ท้ังยงั เป็นส่วนของหน้าหาดทป่ี ะทะ ลมโดยตรง จึงอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ในชา่ งหน้ามรสุม พ้ืนทบี่ รเิ วณดา้ นตะวันออกของแมน่ า้ จึงเปน็ ทาเลที่เหมาะ สาหรบั การตงั้ ถ่ินฐาน เนื่องจากมแี หลมสนที่เปรยี บเสมอื นเกราะกาบงั ช่วยรบั แรงปะทะ ภาพแมน่ ้าประแสร์ แสดงใหเ้ ห็นบา้ นเรือนทั้งหมดท่ตี งั้ ถิ่นฐานอย่างหนาแนน่ อย่ทู างตะวันออกของแม่น้า ส่วนทางตะวนั ตกเปน็ ปา่ ชายเลน ชุมชนตลาดปากนา้ ประแสเมืองทา่ สาคัญและศนู ย์กลางการคา้ เมืองแกลงชมุ ชนรมิ น้าประแส ตาบลปากนา้ กระแส เป็นชมุ ชนริมน้าในอาเภอแกลง จังหวดั ระยอง ประกอบไปด้วยหม่บู ้านทั้ง 8 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ 1 บ้านตลาดดอนล่าง หมู่ 2 บา้ นตลาดดอนบน หมู่ 3 บ้านดอนมะกอกลา่ ง หมู่ 4 บ้านนาซา หมู่ 5 บา้ นดอน มะกอกบน หมู่ 6 บ้านแหลมสน หมู่ 7 บ้านแสมผู้ และหมู่ 8 บ้านตลาดตอนกลาง โดยชุมชนท่อี ยู่บริเวณปากน้า ประแส ไดแ้ ก่ ตลาดตอนลา่ ง บา้ นตลาดตอนกลาง และบา้ นตลาดตอนบน ซงึ่ ในงานชิน้ น้ผี ศู้ ึกษาขอเรยี กพื้นท่ีทง้ั 3 ว่า “ชุมชนตลาดปากน้าประแส” เนื่องจากชมุ ชนดงั กล่าวต้ังอยูบ่ นถนนเส้นเดยี วกนั และมปี ระวตั คิ วามเป็นมา รว่ มกนั ดว้ ยลกั ษณะทางภูมิศาสตร์ทม่ี ีความเฉพาะตัว กลา่ วคือ เป็นชมุ ชนทต่ี ง้ั อย่บู ริเวณปากแม่น้าและมีระบบ นเิ วศทเ่ี ปน็ ป่าชายเลนจงึ ส่งผลต่อรูปแบบการดารงชีวติ ของผ้คู นในพื้นท่ี สิง่ เหล่าน้แี สดงใหเ้ ห็นผ่านวิถชี วี ิตของคน ในปากน้าประแสในแง่มมุ ตา่ งๆ เช่น อาชีพ อาหาร ประเพณีทอ้ งถิ่น เป็นต้น อีกทั้งการเปน็ เมอื งท่ตี ง้ั อยบู่ รเิ วณ ปากแม่นา้ ยังสง่ ผลให้ชุมชนแหง่ นีเ้ ป็นอกี หนึ่งศูนยก์ ารทางเศรษฐกิจทสี่ าคัญของเมืองแกลง คู่มือรู้จกั ชมุ ชนประแสร์ เล่มที่ 3 เรื่อง สถาปัตยกรรม โรงเรียนชมุ ชนวดั ตะเคียนงาม
5 ในฐานะเมืองทา่ ท่มี ีบทบาทสาคญั ในการทาการคา้ กับกลุ่มการค้าอน่ื ๆแตเ่ ม่ือกระแสแห่งความเปล่ียนแปลงพัดพาสู่ ชุมชนแหง่ น้ี จากเมอื งท่าท่ีเคยรุ่งเรอื งก็ต้องเปลีย่ นไป สง่ ผลให้ชมุ ชนแหง่ นีห้ นั มาสนับสนนุ และพัฒนาการ ทอ่ งเที่ยวเชิงธรรมชาติ ซ่งึ เป็นทรพั ยากรทม่ี ีอยู่เดิมเพื่อสร้างรายไดใ้ ห้กบั สมาชกิ ในชมุ ชนดงั นนั้ ชุมชนปากน้าประ แส จงึ กลายเปน็ สถานท่ีทอ่ งเทย่ี วสาคญั อีกแห่งหนง่ึ ของอาเภอแกลงโดยนกั ท่องเท่ยี วนยิ มมาเทย่ี วชมธรรมชาติ ภายในพื้นท่ี เช่น เส้นทางศึกษาธรรมชาติท่งุ โปรงทอง เปน็ ต้น ภายในชุมชนมที ี่พักทีเ่ รยี กกนั ว่า” โฮมสเตย์” อยู่ หลายแหง่ เพ่ือรองรบั นักท่องเทีย่ วทตี่ อ้ งการจะสัมผสั กับธรรมชาติและบรรยากาศริมนา้ โดยดัดแปลงบ้านรมิ น้าที่ เดิมเป็นเพียงทอี่ ยอู่ าศยั ให้นักทอ่ งเทยี่ วสามารถเข้ามาพักผ่อนได้ นอกเหนอื จากหลกั ฐานที่เป็นลายลกั ษณ์อักษรแล้ว ประวตั ิศาสตรข์ องชมุ ชนแหง่ น้ี ยงั คงฝังอยู่กบั ความ ทรงจาของสมาชกิ ในชุมชน โดยสามารถยอ้ นระยะเวลาไปได้ไมต่ ่ากว่า 100 ปี จากการเทียบเคียงอายุของผู้ให้ ข้อมูล แสดงให้เห็นว่าชุมชนแห่งนม้ี คี วามเจรญิ ร่งุ เรืองจากการเป็นเมอื งท่าท่ีมีการซื้อขายแลกเปลยี่ นสนิ คา้ เป็น ศูนยก์ ลางที่คนจากในระยองจะนาของในพืน้ ท่ีของตน เชน่ ของป่าจากบรเิ วณเขาชะเมา พืชผัก และข้างสาร จาก บริเวณประแสรบ์ น และอาหารทะเลจากบริเวณปากนา้ มาแลกเปล่ียนกบั สนิ ค้าจากต่างแดน ซึง่ คุณนวรตั น์ มจุ ริ นทร์ ไดบ้ รรยายถึงบรรยากาศความคึกคักของชุมชนแห่งนี้ไว้ว่า “ตอนเด็กๆ ที่ตลาดประแสร์ยงั คกึ คัก เห็นมรี ้าน ขายปลาสดลงจากเรือมาขายแล้วก็มีร้านขายปู กงุ้ ร้านผลไม้ จะมคี นจากเมืองแกลงเอา กับขา้ ว ของแห้ง กะปิ นา้ ปลา มาขายท่ีตลาดประแสรบ์ า้ ง ในนก้ี ม็ ีทากะปิ นา้ ปลาเหมอื นกนั ช่วงหน้าที่มีเคยกจ็ ะทากะปิกนิ เอง บางคนก็ ทามาขายทีต่ ลาดประแสร์” (นวรตั น์ มจุ รินทร์,สมั ภาษณ์ 28 กุมภาพนั ธ์ 2562) ภาพสภาพบา้ นเรอื นริมแมน่ ้าประแสร์ในอดีต เม่ือราว 60 ปี ที่ผ่านมาลักษณะบ้านยกพ้ืนสูงเหนอื ระดับน้าทะเล และก่อสรา้ งจากวสั ดุที่หาได้ง่ายมีบ้านบางหลังมุงด้วยกระเบ้ืองว่าว ท่มี าภาพ หอจดหมายเหตแุ ห่งชาติ คู่มือรู้จกั ชมุ ชนประแสร์ เล่มที่ 3 เรื่อง สถาปัตยกรรม โรงเรียนชมุ ชนวดั ตะเคียนงาม
6 ภาพตลาดจา่ ยเปน็ หลักเขตท่ีแบ่งตลาดตอนบนและตลาดตอนล่างออกจากกัน ตลาดแห่งนเ้ี ป็นตลาดด้ังเดมิ มีอายมุ ากกวา่ 80 ปี ภาพบรรยากาศยามเชา้ ในตลาดของชมุ ชนปากนา้ ประแสร์ (ตลาดจ่าย) ทมี่ ีผู้คนในชุมชนออกมาซ้ือส่ิงของเปน็ ประจาทุกเช้า คู่มือรู้จกั ชมุ ชนประแสร์ เล่มที่ 3 เรื่อง สถาปัตยกรรม โรงเรียนชุมชนวดั ตะเคียนงาม
7 ภาพอาหารทะเลทจ่ี าหนา่ ยภายในตลาดชมุ ชนปากน้าประแสร์ (ตลาดจา่ ย) นอกจากเปน็ ศนู ย์กลางการแลกเปล่ียนสนิ คา้ ของผู้คนในพ้ืนทีแ่ ล้ว ยงั มีการสง่ ออก-นาเขา้ ส้ินค้าจาก กรุงเทพฯ อีกดว้ ย โดยมเี รอื เมลเ์ ป็นพาหนะสาคญั ในการลาเลยี งสนิ คา้ ไปรษณีย์ โทรเลขและผคู้ นจากพ้นื ท่ีหนง่ึ ไป ยงั อกี พืน้ ท่ีหน่ึง ดังนัน้ นอกจากท่แี ห่งน้จี ะทาหนา้ ท่เี ป็นเมืองท่าแล้วยงั เปน็ ที่พักสาหรบั นักเดินทางทต่ี ้องการเขา้ ไป พระนครอีกดว้ ย “จะมีเรือลาใหญ่ขนของเข้ามา เวลาเราสง่ั ของก็สง่ ใบสงั่ ไปกับเรือ เขาจะแวะจอดตามจุดเวลาใคร เขา้ ไปกรุงเทพฯ กต็ ้องแวะคา้ งที่นก่ี ่อนคนื นึง กเ็ ลยมโี รงแรมอย่แู ถวตลาด นัง่ ไปทีก็สามส่ีวันกว่าจะถงึ ” (ชม วเิ ศษ ศลิ ปานนท์,สัมภาษณ์ 28 กุมภาพนั ธ์ 2562) ในภายหลังเมอ่ื ผ้ศู ึกษาไปสบื ค้นหลักฐานช้นั ต้น พบวา่ มหี นังสอื สัญญาเดนิ เรือในพื้นทแี่ ถบหวั เมือง ตะวันออกในสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจ้าอยูห่ วั ราวปี พ.ศ.2452 ซงึ่ สอดคลอ้ งกนั เรอื่ งราวเลา่ เกย่ี วกับเรือเมลท์ ีค่ นในชุมชนถา่ ยทอดเน้อื ความเก่ียวกบั การทาสัญญาเดินเรือระหวา่ งรฐั บาลของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัวแห่งกรุงสยาม กับบรษิ ัทอิสเอเชียติกคัมปนใี นสญั ญาระบุว่า เรือทใี่ ช้วงิ่ เปน็ เรือกลไฟนามว่า “จักร พงษ์” เรอื ลานจ้ี ะวง่ิ จากพระนครไปยงั เมืองตราด อาทติ ย์ ละ 1คร้งั โดยต้องจอดแวะตามตาบลตา่ งๆ ตาม ชายทะเลตะวันออกเฉยี งใต้ ดังนั้นจึงเหน็ ได้ว่า บ้านเรือนชมุ ชนปากนา้ ประแสส่วนใหญม่ ีลักษณะ เปน็ อาคารไม้ 2 ช้นั ทรงสงู โปรง่ (แบบ เรือนมะลิลา) หลังคาทรงจว่ั ลาดเท และทรงปนั้ หยา ชั้นบนเป็นหอ้ งสว่ นตวั มีระเบยี งหลังบา้ นและชานหนา้ บ้าน ยน่ื ออกมา ผนังดา้ นข้างตีไมฝ้ าแนวนอนแบบซ้อนเกร็ดท้งั 2 ชัน้ สว่ นผนังดา้ นหลังและดา้ นหนา้ ตีเปน็ เส้นตรง ประดับด้วยฉลไุ ม้เพ่ือรับลมทั้งหน้าและหลัง ชนั้ ลา่ งตรงกลางเปน็ หอ้ งโถงมองทะลไุ ปหลังบา้ นเหน็ ครัว ส่วนชนั้ ลา่ ง งานประดบั ตกแต่งเหนือประตทู าช่องลมไมฉ้ ลลุ าย ประตเู ป็นบานเฟีย้ มสลบั ชอ่ งลูกฟัก ใชก้ ลอนไมแ้ บบโบราณใช้ ในการขดั ประตู ในชุมชนปากน้าประแสสว่ นดา้ นหนา้ ของบ้าน ทาลักษณะใหเ้ ปิดหน้าถงั เพ่ือใช้ทาการคา้ ขายได้ คู่มือรู้จกั ชมุ ชนประแสร์ เล่มที่ 3 เรื่อง สถาปัตยกรรม โรงเรียนชุมชนวดั ตะเคียนงาม
8 รูปแบบสถำปตั ยกรรมอำคำรบำ้ นเรือน รูปแบบทางสถาปตั ยกรรมบา้ นในชุมชนปากนา้ ประแส ยงั คงมีใหเ้ ห็นถงึ คุณค่าและวฒั นธรรมทเี่ กย่ี วข้อง กนั ตั้งตาในอดีตจนกระทง่ั ถงึ ปจั จุบนั นี้ ซึ่งเหน็ ไดจ้ ากรปู แบบบา้ นเรือนท่ตี ั้งเรียงรายกนั เปน็ แนวยาว รมิ แมน่ า้ ด้านหน้าหันเขา้ หากนั โดยมถี นนก้นั กลาง ดา้ นหลังตดิ ริมแม่นา้ ถึงแม้บ้านแตล่ ะหลงั จะมคี วามแตกจา่ งกันไปบ้างใน รปู แบบของก่อสรา้ ง แตส่ ิ่งหนึ่งทค่ี งไวซ้ ง่ึ ความสวยงามทางประวัตศิ าสตร์ น่ันคือ รูปแบบของสถาปตั ยกรรมบา้ นท่ี เปน็ เอกลักษณ์ของชุมชนปากน้าประแส คือ ตวั บ้ำน : เป็นอาคารเรือนไม้ 2 ชัน้ เป็นลักษณะคล้ายแบบเรือนมะนลิ า คือ เรอื นทรงสงู โปร่ง ประดบั ไม้ ฉลกุ ่อสรา้ งด้วยวธิ กี ารเข้าไม้สอดรบั กันจึงไมใ่ ช้ตะปู เสำ : ใชไ้ มต้ ะเคยี นท้ังตน้ หลงั คำ : ทรงป้นั หยา และทรงจั่วแบบลาดเท โครงสร้างเครื่องบนไม่มฝี ้าเพดานและมองเห็นได้ชัดเจน มุง ด้วยกระเบื้องว่าว ผนังกันดำ้ นหนำ้ และด้ำนข้ำง : ตีไม้ฝาเป็นแนวนอนแบบซ้อนเกรด็ ทัง้ 2 ชน้ั ไม้ทใ่ี ชส้ ่วนใหญ่เป็นไม้ ตะแบก เนอ่ื งจากมนี า้ หนักความเบา ผนงั กนั ด้ำนหลงั และสว่ นบน : ตไี ม้ฝาเปน็ แนวตงั้ สาหรบั เป็นช่องลมและฉลดุ ว้ ยไมท้ ัง้ 2 ชัน้ พนื กระดำน : ปพู ืน้ กระดานด้วยไม้ตะเคยี น เพราะเปน็ ต้นไมท้ ่ีข้นึ ช่ือในอาเภอแกลง ไม้ตะแบก และไม้ อาพนั ขนาดแผ่นไม้กระดานจะไม่เทา่ กันตามแบบเรอื นไม้รุ่นเก่าในยคุ ทย่ี งั ไมเ่ ข้าอุตสาหกรรมไม้จึงเปน็ การเล่ือย ถากไม้ดว้ ยมือ ประตู : เป็นบานเฟ้ียมสลบั ชอ่ งลูกฟัก ใช้กลอนไม้แบบโบราณใชใ้ นการขัดประตู ประดบั ตกแต่งเหนือ ประตูทาช่องลมไมฉ้ ลลุ ายที่แตกต่างกนั ไป บางหลงั ใช้วธิ ีการนาไม้มาขัดกนั เปน็ รปู ทรงเรขาคณิตตา่ งกนั ไป หนำ้ ตำ่ งประตหู อ้ ง : หน้าตา่ ง และประตูห้องเปน็ แบบบานไม้เปดิ คู่ ชนั บน : ประกอบไปดว้ ย ส่วนทเี่ ปน็ หอ้ งโถงตรงกลาง หอ้ งส่วนตวั (หอ้ งนอน) มีระเบียงหลงั แบบบา้ นเปดิ โล่งไม่มหี ลงั คา และชานหน้าบ้านมงุ หลังคาและตีไมฝ้ าเป็นแนวต้งั สาหรับเปน็ ช่องลมและฉลดุ ้วยไม้ ชันล่ำง : ประกอบไปด้วยสว่ นหนา้ บ้านเปิดกวา้ ง สาหรบั เปิดหน้าร้านขายของชา และประกอบอาชีพ สว่ นหลงั บา้ นเป็นห้องน้า ห้องครวั และมชี านยืน่ ออกไปรมิ น้า สาหรบั การตากผา้ และงานประมง บนั ได : บริเวณทางข้ึนบนั ไดจะมีประตูกัน้ ระหว่างชั้นล่างกบั พ้นื ชัน้ บน มรี าวจบั ตดแตง่ ดว้ ยลูกบนั ได หน้าตา่ ง และประตูหอ้ งเป็นแบบบานไม้เปดิ คู่ คู่มือรู้จกั ชมุ ชนประแสร์ เล่มที่ 3 เรื่อง สถาปัตยกรรม โรงเรียนชมุ ชนวดั ตะเคียนงาม
9 จากรปู แบบดงั กลา่ วข้างตน้ นั้น บ้านเรือนในชุมชนปากน้าประแสท่ียังคงไว้ซ่งึ สถาปัตยกรรมที่เกา่ แก่และทรงคณุ ค่า ถึงแมว้ ่าลกั ษณะและรูปแบบของบ้านจะเปล่ียนแปลงไปตามอายุของการใช้งาน หรอื วฒั นธรรมใหมๆ่ ท่ีเขา้ มาก็ ตาม แตก่ ย็ งั คงมีบ้านเรอื นหลายหลังท่ียังคงไวซ้ ึง่ สถาปัตยกรรมท่ีเก่าแก่และทรงคณุ คา่ และยังเลา่ เรอ่ื งราวภาพใน อดตี ที่ผ่านมาจนกระท่งั ถึงปจั จุบันนจี้ ากความประณีตของประวตั คิ วามเปน็ มา วิถชี ีวิตผา่ นงานศิลปกรรมบ้าน ดงั นี้ บำ้ นหลวงอนิ ทร์อำวธุ (นำยคง ทรรภัษเฐียร) ประวัติควำมเป็นมำวิถีชีวติ ในอดตี บ้านหลังนี้เปน็ บา้ นของหลวงอนิ ทร์อาวธุ (นายคง ทรรภัษเฐยี ร) นายทหารเรือเมืองแกลงมีเรื่อง เลา่ สืบมาวา่ เมือ่ ปี พ.ศ.2427 รัชกาลท่ี 5 เมอ่ื สมเดจ็ ประพาสปากน้าประแส ไดท้ รงเสดจ็ ขึ้นบ้านหลังน้แี ลว้ ประทับ พงิ เสาต้นหนง่ึ ในบ้าน ประกอบกับรปู แบบเป็นเรือนไมร้ ุ่นเก่าแบบเรือนปั้นหยาจงึ อาจเปน็ ไปได้ว่าบ้านหลังน้นี า่ จะ สร้างขึ้นต้ังแต่สมยั รชั กาลท่ี 5 ในสมยั ของ นางจติ ศิลปะทอง ลกู ของหลวงอนิ ทร์อาวธุ เร่ิมอาชีพประมงและทานา ต่อมาบา้ นหลังนี้ยัง เปิดเป็นสถานที่ทาคลอดโดย หมอจรญู ศิลปะทอง (ลกู ของนางจติ ) แพทยผ์ ดุงครรภส์ มยั ใหม่คนเดียวในชุมชน ขณะนนั้ และยงั เปิดรา้ นขายยาโบราณเล็กๆ ไล่เลี่ยกบั รา้ นสมบรู ณโ์ อสถจนเลิกกิจการไป ในทสี่ ดุ ก็สบื ทอดกันมาถึง เจา้ ของปัจจุบันคอื นางพนดิ า บังเกดิ ผล เป็นรุ่นที่ 4 รปู แบบศิลปกรรมของบำ้ น บ้านหลังน้ีมลี กั ษณะรปู แบบเป็นอาคารเรือนไม้ 2 ชั้น เป็นลกั ษณะคลา้ ยแบบเรอื นมะนิลา คอื เรือนทรง สงู โปร่ง ประดบั ไม้ฉลุก่อสรา้ งดว้ ยวิธกี ารเขา้ ไมส้ อดรบั กันจึงไม่ใช้ตะปู สว่ นใหญ่เปน็ ไม้ตะเคียน ที่เปน็ ไม้ขึน้ ช่ือใน อาเภอแกลง ขนาดแผ่นไม้กระดานจะไม่เท่ากนั ตามแบบเรือนไมร้ ่นุ เก่าในยุคท่ยี ังไม่เขา้ อุตสาหกรรมไม้แปรรปู แต่ เป็นการเลื่อยถากไม้ด้วยมือ พื้นไม้กระดานสว่ นใหญ่เปน็ ไม้ตะเคยี นขนาดไมเ่ ท่ากัน คู่มือรู้จกั ชมุ ชนประแสร์ เล่มที่ 3 เรื่อง สถาปัตยกรรม โรงเรียนชุมชนวดั ตะเคียนงาม
10 ตัวบ้านประกอบด้วย 2 ส่วน คอื เรือนโถงกลางยาวตาม แนวแมน่ ้าประแสและมเี รือนขวางอยู่ฟากทิศใต้หลังคาบ้าน วางแนวยาวทรงปัน้ หยาสว่ นเรือนขวางหันเอาหน้าจัว่ ออก ดา้ นข้างเดิมเป็นจว่ั ตัด ภายหลงั มีการซ่อมแซมต่อเติมทาให้ เป็นทรงจ่วั แหลมอยา่ งในปจั จุบัน มงุ กระเบื้องวา่ วซึ่งเป็น วัสดทุ ่ีนยิ มกันในชว่ งรชั กาลท่ี 5-7 ผนังดา้ นหน้าและด้านขา้ งตไี ม้ฝาแนวนอนแบบซ้อนเกลด็ ทงั้ 2 ช้ัน ยกเวน้ ช้นั บนฝง่ั ขวาของบ้านตไี ม้ฝาใน แนวต้งั และตีไม้ระแนงในแนวตง้ั เป็นชอ่ งลม สว่ นชนั้ ล่างงานประดับตกแตง่ เหนือประตูทาช่องลมไมฉ้ ลลุ าย ประตู เป็นบานเฟยี้ มสลับช่องลกู ฟัก ใชก้ ลอนไม้แบบโบราณใช้ในการขัดประตู การประดบั ตกแต่งเหนอื ประตดู ว้ ยชอ่ งลมไม้ฉลลุ าย ประตูเป็นบานเฟย้ี มสลับชอ่ งลกู ฟัก ใช้กลอนไมแ้ บบโบราณใชใ้ นการขัดประตู คู่มือรู้จกั ชมุ ชนประแสร์ เล่มที่ 3 เรื่อง สถาปัตยกรรม โรงเรียนชมุ ชนวดั ตะเคียนงาม
11 ชานหน้าบ้านมชี ายคากันสาดคลุม บริเวณหลังบ้านในอดีตเป็นชัน้ โล่งรมิ น้าไมม่ ีหลังคาเพ่ือเปน็ ทา่ เรือ ชั้น 2 ทางด้านหลังบา้ นมีระเบยี งแคบๆ ภายในไมม่ ีการทาฝ้าเพดานจงึ เปน็ ลักษณะพิเศษที่เหน็ โครงสรา้ งเคร่อื งบนได้ ชดั เจน เช่น ขอ่ื คานคู่ ดง้ั จนั ทนั เปน็ ตน้ ชานหน้าบา้ น ระเบียงหลงั บา้ น โครงสร้างเครื่องบนไม่มีฝ้าเพดานและมองเห็นได้ชดั เจน เชน่ ขอื่ คานคู่ ด้งั จนั ทนั เป็นต้น คู่มือรู้จกั ชมุ ชนประแสร์ เล่มที่ 3 เรื่อง สถาปัตยกรรม โรงเรียนชุมชนวดั ตะเคียนงาม
12 ลกั ษณะพิเศษรูปแบบของบ้านหลังนี้ ไดแ้ ก่ บริเวณทางขน้ึ บันไดจะมีประตูกน้ั ระหวา่ งชัน้ ลา่ งกบั พ้ืนช้นั บน เปน็ ประตูบานใหญซ่ ่ึงไมค่ ่อยพบขนาดใหญเ่ ทา่ นี้มากนัก บริเวณพ้นื บ้านบางจดุ เจาะชอ่ งสี่เหลย่ี มเล็กๆ มแี ผ่นไม้ วางปดิ ไวเ้ ป็นช่องสาหรับเปิดออกเพ่ือทง้ิ สายรกจากการคลอด มีทัง้ หมด 2 จุดในบา้ น ซ่ึงในอดตี เคยกั้นเป็นห้อง สาหรบั ทาคลอด ประตูก้นั ระหว่างช้ันลา่ งกับพนื้ ช้ันบนเป็นประตบู านใหญ่ ชอ่ งสาหรบั ทิ้งสายรก ขา้ วของเครอื่ งใชเ้ กา่ แก่ เช่น เตียงไมโ้ บราณมีอยู่คู่กับบา้ นมาตั้งแต่แรกเรม่ิ ลักษณะของเตยี งมมี ุมทงั้ ส่ีจะมี ชอ่ งสาหรับเสาปกั เสาเพอ่ื กางม้งุ หีบกาป่นั เหลก็ และกล่องเคร่ืองมือแพทย์ของหมอจรูญ ยังถกู เก็บรักษาเอาไวเ้ ป็น สมบัติคบู่ า้ น คุณค่ำทำงศลิ ปกรรมและประวัตศิ ำสตรว์ ิถีชวี ิต บา้ นหลงั นี้เป็นบา้ นท่มี คี วามสวยงามและเก่าแกท่ สี่ ุดหลงั หน่ึงในชุมชน ไดร้ ับอิทธพิ ลสถาปัตยกรรม ตะวันตก ท่ีสร้างขึ้นราวสมยั รชั กาลที่ 5 ผสมผสานกับเรือนพ้นื ถิน่ คือ ทาชานยน่ื ออกไปริมน้า สอดคล้องกับวถิ ี ชวี ติ ของชุมชนริมนา้ รวมท้ังวัสดุเทคนิคกอ่ สร้างเป็นหลักฐานงานช่างที่เก่าแก่ บง่ บอกถงึ อายสุ มัยและความสาคัญ ของคนในอดตี ซง่ึ ไมใ่ ชร่ ปู แบบเรอื นที่พบทว่ั ไปในชุมชนปากนา้ ประแส เนื่องจากเปน็ บา้ นของขนุ นางหรอื คหบดี ที่ มคี วามเก่ยี วพันกบั ราชสานักในอดตี นอกจากจะมีคุณคา่ ในแงข่ องศิลปะสถาปตั ยกรรมแลว้ ในเชงิ สงั คมและวถิ ีชีวิตช่วงเวลาหนึ่งก็เป็นสถาน ผดุงครรภ์ท่ีมคี วามผูกพันกบั ผู้คนในชมุ ชนอย่างกวา้ งขวางด้วย สะทอ้ นความรุ่งเรอื งของชุมชนปากน้าประแสใน คร้งั ก่อน คู่มือรู้จกั ชมุ ชนประแสร์ เล่มที่ 3 เรื่อง สถาปัตยกรรม โรงเรียนชุมชนวดั ตะเคียนงาม
13 บ้ำนทรัพย์เจริญ (บำ้ นพพิ ธิ ภณั ฑ์ปำกนำประแสร)์ ประวตั ิควำมเปน็ มำวิถีชีวติ บา้ นไมห้ ลงั น้ี มีอายุมากกวา่ 100 ปี ศิลปะในการสรา้ งบ้านท่ีเปน็ เอกลกั ษณข์ องคนประแสซึ่งแต่อดตี เป็น คนจีนแผน่ ดินใหญ่ มาทามาหากนิ ในเมืองไทยและแตง่ งานกบั ผู้หญงิ ไทยท่ปี ระแส จงึ มีคนรนุ่ ต่อรนุ่ ท่ีเรียกกันบง่ บอกถงึ ความเปน็ “ไชนสิ กระแส” (Chinese Prasae) เช่น รนุ่ กง๋ -ยา่ เตยี่ -แมะ เปน็ ต้น บา้ นหลงั นจี้ ึงเปน็ อารมณผ์ สมผสานระหวา่ งจีน-ไทย ทย่ี งั คงความเป็นท้องถิ่นของคนทะเล เชน่ การสรา้ ง เรอื นสูงโปรง่ สงู 2 ชัน้ มรี ะเบียงไว้รบั ลมทะเลชมวิว ทะเลและมองเห็นท่าเรือเห็นการค้าท่ีคึกคักในอดตี วนั วาน ของประแสซง่ึ ผสมผสานความเปน็ กระแสในแบบ Chinese Prasae ไวอ้ ย่างลงตวั รปู แบบศิลปกรรมของบำ้ น การสรา้ งเรือนสูงโปรง่ สงู 2 ช้ัน มรี ะเบยี งไวร้ บั ลมทะเลชมววิ ทะเลและมองเหน็ ท่าเรอื เหน็ การค้าที่คกึ คัก ในอดตี วนั วานของประแสซ่งึ ท่ีซึง่ ผสมผสานความเปน็ กระแสในแบบ Chinese Prasae ไว้อยา่ งลงตวั ชนั้ ลา่ งของบา้ นเปน็ ประตูบานเฟยี้ ม จานวน 3 ห้อง หอ้ งโถงตรงกลางโล่ง คู่มือรู้จกั ชมุ ชนประแสร์ เล่มที่ 3 เรื่อง สถาปัตยกรรม โรงเรียนชุมชนวดั ตะเคียนงาม
14 ระเบียงชน้ั บนไว้สาหรบั รบั ลมทะเลชมววิ คุณค่ำทำงศลิ ปกรรมและประวตั ศิ ำสตร์วถิ ีชีวิต บา้ นไม้หลงั นี้ เปน็ ครอบครัวทรัพยเ์ จริญ อดีตคหบดปี ากน้าประแส คุณพ่อช้วน – คณุ แมแ่ หวน ทรัพย์ เจรญิ เป็นคนปากนา้ ประแสโดยกาเนิดเป็นชายไทยเชื้อสายจีนแต้จิ๋ว มบี ุตร-ธดิ า รวม 8 คน จากชีวติ ที่เร่ิมตน้ รมิ ทะเลโดยเก็บหาปู ปลา เอากะปิ นา้ ปลา ไปแลกขา้ วสารจากชาวนา พอ่ อยู่ทา้ ย แม่พายหนา้ เรือ เอาข้าวสารมาสเี องโดยทาโรงสีเล็กๆ หลงั จากน้นั ไดร้ ับซ้ือข้าวเปลอื กจากชาวนามาสีทีโ่ รงสเี ปน็ ประจาและได้ขยาย กจิ กรรมการขายยาสมุนไพร ยาแผนปจั จุบัน ในยคุ สมยั ต่อมา ในยุคนั้นยงั ไมม่ ีกระแสไฟฟา้ เป็นทใ่ี ชแ้ พรห่ ลาย กจิ การหนง่ึ ของคณุ พ่อได้ริเริ่มทาคือ ปัน่ กระแสไฟฟา้ ขายในปากน้าประแส เมอื่ ตอนเด็กๆ ทบ่ี ้านน้ีอบอนุ่ มาก เรามพี น่ี ้อง 8 คน มีหน้าที่ทตี่ ้องทางานบ้านกนั ทุกคน จะแบ่งกันขัด บา้ นไม้ดว้ ยเปลอื กไมก้ ะลามะพร้าวถูไปถมู าจนพนื้ มันวาว เราจะแบง่ กันในพน่ี อ้ งว่าเอาไปคนละก่ีแผ่นกระดาน ความรัก ความสามัคคี ในครอบครัวเราทาให้พวกเราเจรญิ เติบโตมาด้วยความรัก และส่ิงเหล่านี้ท่ีได้ปลูกฝังและ หล่อหลอมให้พวกเรามวี ันนี้ หลงั จากนน้ั มีญาตชิ วนคุณพ่อไปลงทนุ ทาโรงเล่อื ยที่จงั หวดั ตาก ชื่อโรงเรียนเลือ่ ยโภคภยั ป่าไม้จากัด เม่ือ ตอนเดก็ ๆ พอวนั หยดุ จากเรียนหนงั สือทีก่ รุงเทพฯ ลูกๆ จะกลับมาหาแม่ท่ีประแส และแม่จะพาไปหาพ่อทจี่ ังหวดั ตราด เปน็ อยรู่ ะยะหนึ่งจนกระทง่ั ครอบครวั เรายา้ ยไปอยจู่ ังหวัดตราด บ้านหลังนเี้ ปน็ มรดกตกทอดท่ียังคงมคี วาม ผูกพนั ของคนครอบครัวทรัพย์เจริญ คู่มือรู้จกั ชมุ ชนประแสร์ เล่มที่ 3 เรื่อง สถาปัตยกรรม โรงเรียนชมุ ชนวดั ตะเคียนงาม
15 รำ้ นทองม้วนปำ้ ไพ บ้ำนเลขท่ี 130/1 ประวัติควำมเปน็ มำวิถีชีวติ คุณจกั รพันธ์ ชนะปาละพนั ธ์ เจ้าของบ้านหลงั นี้ไดใ้ ห้ข้อมลู วา่ เปน็ บา้ นทค่ี ณุ จักรพันธ์ เคยเห็นมาต้งั แตย่ ัง เด็กโดยเข้ามาอยู่อาศยั ได้ 30 กว่าปแี ลว้ เมอ่ื เทยี บกับอายขุ องคุณจักรพนั ธแ์ ลว้ นน้ั ทาใหท้ ราบวา่ บา้ นหลงั นีม้ อี ายุ มากกวา่ 70 ปี เดมิ เป็นอาคารไม้เรยี งกันหลายห้อง ปจั จุบนั คุณจักรพันธ์เปน็ เจ้าของจานวน 3 หอ้ ง และใช้พน้ื ทห่ี นา้ บา้ น ประกอบอาชีพซ่อมรถจักรยานและรับซอ่ มกางเกง ส่วนภรรยา(คณุ ป้าไพ) เปิดหนา้ ร้านขายทองม้วนและของแห้ง เล็กนอ้ ย รปู แบบศิลปกรรมของบ้ำน ตัวบ้านแบง่ เปน็ 2 สว่ น คอื สว่ นด้านหนา้ เป็นอาคารเรือนไม้ 2 ชั้น 3 ห้องผังยาวลึกพน้ื เสมอระดบั ถนน หลังคาทรงจัว่ ลาดตามความยาวของบา้ นมุงดว้ ยกระเบือ้ งลอน หนา้ บ้านเป็นบานประตฝู าเฟี้ยมเปิดโลง่ ผนงั ดา้ นข้างแบ่งเป็น 2 ชัน้ ชัน้ บนเป็นผนังตีไมฝ้ าในแนวตั้งส่วนผนงั ชน้ั ล่างเปน็ ฝาไมต้ ีนอนซ้อนเกลด็ คู่มือรู้จกั ชมุ ชนประแสร์ เล่มที่ 3 เรื่อง สถาปัตยกรรม โรงเรียนชมุ ชนวดั ตะเคียนงาม
16 ชนั้ บนเคยมีระเบยี งมากอ่ นแตไ่ ดร้ ื้อทง้ิ ไปแลว้ ยงั มหี นา้ ตา่ งและบานประตูบานพับเปดิ คูท่ ่ที าใหช้ อ่ งลกู ฟัก หลงเหลือไวอ้ ยู่ สว่ นดา้ นหลังทมี่ กี ารต่อเติมใหม่เปน็ อาคารปนู ชนั้ เดียว หลงั คาลาดมงุ ด้วยกระเบ้ืองลอน เจาะช่อง ลมทีผ่ นงั ดา้ นบน ภาพชั้นบนทเี่ คยมรี ะเบียงท่ีไดร้ ้ือท้ิงไปแล้ว แต่ยงั มีหนา้ ตา่ งและบานประตบู านพบั เปดิ คู่ คุณคำ่ ทำงศิลปกรรมและประวตั ิศำสตรว์ ิถีชีวติ ถงึ แมต้ ัวบ้านจะมีการซ่อมแซมอยเู่ ป็นระยะ แตย่ ังคงรปู เรือนแถวไมแ้ บบดัง้ เดมิ เม่ือครงั้ สมยั แรกสร้างไว้ พน้ื บ้านยกสงู ตั้งอยูบ่ นเสาปักดินชายตล่งิ เปิดฝาเฟ้ียมเพื่อออกสู่ทางสัญจรเพื่อใช้ค้าขาย ซึ่งเป็นวิธกี ารสรา้ งบา้ นใน อดีต ถือไดว้ า่ บา้ นหลังน้เี ป็นหนง่ึ ในบ้านเก่าแก่มากหลงั หนึ่งในชมุ ชนปากนา้ ประแส ภาพบริเวณหนา้ บ้าน คู่มือรู้จกั ชมุ ชนประแสร์ เล่มที่ 3 เรื่อง สถาปัตยกรรม โรงเรียนชมุ ชนวดั ตะเคียนงาม
17 บ้ำนเลขที่ 123 (บ้ำนลงุ ไซ) ประวตั ิควำมเปน็ มำวิถีชีวติ คุณไซ ลักษณะดี เจา้ ของบา้ นในปัจจุบันอายุ 88 ปี ได้กล่าวว่าซื้อบา้ นหลงั นี้ต่อจากลกู สาวเจา้ ของเดมิ เมอ่ื ตอนอายุประมาณ 30 ปี ซง่ึ ขณะน้นั เท่าของเดมิ อายุกว่า 70 ปี จงึ สันนิษฐานว่าบา้ นหลังนี้มอี ายุไม่ต่ากว่า 80 ปี เดิมคุณไซ เคยประกอบอาชพี ประมงหาปลาและเคยนามาแปรรปู เปน็ สินคา้ ไวข้ าย คือ กะปิ เคย และ ปลาจ่อม ในปัจจุบนั เลกิ กจิ การประมงเลิกไปหมดแลว้ รปู แบบศิลปกรรมของบำ้ น ตวั บ้านเป็นเรอื นไมก้ ึ่งคอนกรตี ยกพืน้ สงู ต้ังอยบู่ นเสาปักดนิ เลนชายตลง่ิ มองจากด้านหนา้ เหมือนอาคาร เรือนไม้ 2 ช้นั แต่ภายในยกช้ันลอยครง่ึ ชั้นตามรูปแบบบา้ นจีนท่เี รียกวา่ เลา่ เตง๊ หลงั คาทรงจวั่ ลาด อดีตเคยมุง กระเบ้ืองว่าว แตป่ จั จบุ นั มงุ กระเบ้ืองลอน ผนงั ตไี มฝ้ าแบบซ้อนเกลด็ ในแนวนอนทั้งหลัง เลา่ เตง๊ หรอื ช้นั ลอยสว่ นหน้าของบา้ น คู่มือรู้จกั ชมุ ชนประแสร์ เล่มที่ 3 เรื่อง สถาปัตยกรรม โรงเรียนชมุ ชนวดั ตะเคียนงาม
18 ชั้นบนทาชายคายน่ื ออกมา เหนือหนา้ ต่างบานกลางเจาะช่องลมโดยตีไม้ขัดกนั เปน็ รปู เรขาคณิตหนา้ ต่าง ช้นั บนและลา่ งเป็นแบบบานพับ ชั้นลา่ งทากันสาดย่นื ออกมาหนา้ บ้านมไี ม้ค้าช่วยรับนา้ หนัก ประตเู ป็นบานเฟ้ยี ม ประดับลูกฟักยาวตลอดแนว เรยี กวา่ หน้าถัง ลวดลายของช่องลมจะตีไมข้ ดั กันเปน็ รูปเรขาคณิต คณุ ลุงไซ เลา่ ว่าได้ซ่อมแซมต่อเตมิ บ้านจากเดิมที่ซ้ือมาบ้างโดยใช้วสั ดุท่ีทันสมัยข้ึน เนือ่ งจากของเดมิ ชารดุ ตามอายุการใช้งาน เชน่ เปลีย่ นพืน้ ท่หี ลงั บา้ นเป็นปนู เปล่ียนผนังไม้ภายในทั้งสองดา้ นเนื่องจากไมเ้ ดิมถูกมอดกนิ และรือ้ เสา 4 ตน้ ทเ่ี คยลองรับกันสาดบรเิ วณหน้าบา้ นออก เป็นต้น คุณคำ่ ทำงศิลปกรรมและประวัติศำสตร์วถิ ีชีวิต บา้ นหลงั นถ้ี อื เปน็ บ้านทีเ่ ก่าแกห่ ลังหนง่ึ ของชมุ ชนลักษณะทางสถาปัตยกรรมสอดคล้องกบั สภาพพนื้ ทแี่ ละ วิถีชีวติ การประกอบอาชพี พนื้ ท่ีหลงั บ้านมีโอง่ จานวนมากไว้ใชส้ าหรับหมักกะปเิ คยและปลาจ่อมถึงแมว้ า่ ปัจจบุ นั จะ เลิกกจิ การประมงเลิกทากะปิเคยและปลาจ่อมไปแลว้ แต่เรากย็ ังสามารถเห็นรูปแบบวิถีชีวติ ในอดตี ผ่านรปู แบบ บ้านและส่ิงของเคร่ืองมือที่สอดคล้องกบั การประกอบอาชพี ในอดตี ได้อยู่ โอง่ สาหรับหมักกะปิเคยและปลาจ่อม คู่มือรู้จกั ชมุ ชนประแสร์ เล่มที่ 3 เรื่อง สถาปัตยกรรม โรงเรียนชมุ ชนวดั ตะเคียนงาม
19 โรงกลึงอู่ชำ่ งต้น บ้ำนเลขที่ 164 หมู่ 2 ประวตั ิควำมเปน็ มำวถิ ีชีวิต คุณกินเหรียญ มณกี ร ได้มาซ้ือบา้ นหลงั นี้ต่อจากเจ้าของเดิมเพื่ออยอู่ าศยั รวมถึงบ้านทีอ่ ยูใ่ กล้เคียงไดแ้ ก่ รา้ นเจห๊ นอ่ งแซ่บเว่อร์ และรา้ นสมบูรณ์โอสถ ปัจจบุ ันจงึ ถือว่าเป็นบา้ นหลังเดยี วกัน ตอ่ มาประมาณปี พ.ศ.2509 คุณสมศักดิ์ ยอดบริบูรณ(์ ลูกเขย) จึงเร่มิ ใชบ้ ้านหลงั นเี้ ปดิ เป็นโรงกลงึ และซ่อมเรือประมงขนาดเล็กเมื่อเรือประมง ในชุมชนมาใชบ้ รกิ ารมากขึ้นรวมถงึ เคร่ืองจกั รก็มเี พมิ่ มากขึ้นหลายชิ้นทาใหส้ ามารถขยายกจิ การได้ปัจจบุ นั สบื ทอด มาถงึ รุ่นท่ี 2 คอื คุณเตมิ พงศ์ ยอดบริบูรณ์ ยังประกอบกิจการรับซ่อมสร้างและตดิ ตั้งอุปกรณเ์ รอื ประมงและใชช้ อ่ื รา้ นว่า “โรงกลงึ อู่ชา่ งต้น” มาจนถงึ ปจั จุบัน คู่มือรู้จกั ชมุ ชนประแสร์ เล่มที่ 3 เรื่อง สถาปัตยกรรม โรงเรียนชมุ ชนวดั ตะเคียนงาม
20 รปู แบบศิลปกรรมของบำ้ น ลักษณะบา้ นเปน็ อาคารเรือนไม้ 2 ช้ันต่อเนอ่ื งกบั ร้านเจ๊หน่องแซบ่ เวอร์ และรา้ นสมบูรณ์โอสถ หลังคาทรง จวั่ ลาดมงุ ดว้ ยกระเบื้องลอน ผนงั ไม้ตีนอนซอ้ นเกล็ด ชัน้ บนทาเปน็ ระเบยี งย่นื ออกมาจากตวั บ้าน โดยมเี สาช่วยรบั น้าหนกั ส่วนของชายคา ราวระเบยี งลูกกรงทาจากไม้กลึง ฝั่งขวาของตวั อาคารมีหน้าตา่ งบริเวณเหนือหนา้ ต่างเจาะ ช่องแสงและกรดุ ว้ ยกระจกฝา้ ตรงกลางประตู สว่ นช้นั ลา่ งใตร้ ะเบียงทาชายคายืน่ ออกมาดา้ นหนา้ เปน็ กนั สาดมีไมค้ ้าชว่ ยรองรับเหนอื ประตูเจาะชอ่ งลมไม้ แบบบานเกล็ดประตบู านเฟ้ียมไมย้ าวตลอดแนว ด้านหลังบ้านมีทางเดินเช่ือมระหว่างบา้ นท้ัง 3 หลงั และทาแพ แยกจากตวั บา้ นไวส้ าหรบั เปน็ ทา่ เรอื ให้เรือประมงเข้ามาจอดซอ่ ม ประตูบานเฟี้ยมไมย้ าวตลอดแนว ข้าวของเครอ่ื งใช้เก่าแก่ เชน่ บรรดาเครอ่ื งจกั รท่ใี ชส้ าหรับประกอบกิจการโรงกลึงและพื้นท่ี workshop สร้างอปุ กรณ์เรอื ประมงมที งั้ ของที่อยูต่ ง้ั แต่แรกเริ่มกิจการและเครือ่ งจกั รรุน่ ใหม่ๆ ทีเ่ พิ่มข้นึ ภายหลงั คุณค่ำทำงศิลปกรรมและประวัติศำสตร์วถิ ีชวี ิต รปู แบบบ้าน ปลูกสร้างดว้ ยฝมี อื ช่างเมื่อราว 70-80 ปกี อ่ น ด้วยงานไม้ปรบั เปล่ียนจากบา้ นท่ีอยอู่ าศัย กลายเป็นโรงกลึงซ่อมแซมเคร่ืองเรอื ประมง ประตบู านเฟี้ยม หนา้ บา้ นจะแง้มออกเล็กน้อยให้เห็นเครอ่ื งจักรด้านใน โรงกลงึ แต่ทา้ ยบา้ นเปิดชานโล่งริมนา้ ให้เรือประมงเทียบท่ารอซอ่ มแซมเป็นภาพทมี่ ีเสน่ห์ของโรงกลึงซ่อมเรอื ตาม วิถชี วี ติ ของชุมชนปากนา้ ประแสตงั้ แต่อดีต คู่มือรู้จกั ชมุ ชนประแสร์ เล่มที่ 3 เรื่อง สถาปัตยกรรม โรงเรียนชมุ ชนวดั ตะเคียนงาม
21 บ้ำนศิรเิ จรญิ บำ้ นเลขท่ี 163/2 ประวตั ิควำมเป็นมำวถิ ชี ีวติ บ้านหลังน้เี ปน็ บ้านของคุณนรศิ รา ศิรเิ จริญ หรอื คุณก้อย โดยขอ้ มูลจากคณุ ก้อยและคณุ ภาวิณี ยอด บริบรู ณ์ ซึ่งอยู่บา้ นฝงั่ ตรงข้าม (รา้ นสมบรู ณโ์ อสถ) ทาให้ทราบวา่ ตัวบ้านน่าจะมมี าก่อน พ.ศ. 2484 อายขุ องบา้ น จงึ ไม่ตา่ กวา่ 78 ปี เดมิ บา้ นหลังนเี้ คยเปิดเป็นรา้ นขายขนมตาลและขนมถ้วยฟูที่ได้สูตรมาจากคณุ ยาย สว่ นปจั จุบนั ได้ใช้บริเวณชานหนา้ บา้ น เป็นรา้ นอาหารอสี าน รปู แบบศลิ ปกรรมของบำ้ น เดมิ เปน็ เรอื นไม้ช้นั เดียว ต่อมาได้ต่อเตมิ ด้วยการเสรมิ โครงสร้างปนู หลังคาทรงจว่ั ลาดเท เดิมเคยมุงด้วย กระเบื้องว่าวกอ่ นจะเปลี่ยนเปน็ กระเบ้ืองลอน ผนังตีไม้ฝาแบบซ้อนเกล็ดในแนวนอน หนา้ บา้ นทาชายคาย่ืน ออกมาโดยใช้ไม้ค้ายนั หนา้ บา้ นทาชายคายืน่ ออกมาโดยใช้ไมค้ า้ ยนั คู่มือรู้จกั ชมุ ชนประแสร์ เล่มที่ 3 เรื่อง สถาปัตยกรรม โรงเรียนชมุ ชนวดั ตะเคียนงาม
22 เหนือประตตู กแต่งเป็นช่องรับแสงฉลลุ วดลายเครอื เถา (บางท่านเรยี กว่าลายมะลิเถา) ประตูบานเฟ้ียม เรยี บยาวตลอดแนวเพ่ือเปดิ ออกเปน็ ร้านค้าแบบทมี่ กั เรยี กว่า “หน้าถงั ” กลา่ ววา่ เป็นไม้ที่สงั่ ตดั พิเศษมาจากเขาชะ เมา ประตูใชก้ ลอนไม้ขดั พ้นื บา้ นเสมอกับถนนหน้าบา้ น มีชานบา้ นเทปนู ราดยื่นออกมาเสมอกับขอบของชายคา ช่องรบั แสงฉลลุ วดลายเครอื เถา(ลายมะลเิ ถา) กลอนไม้แบบโบราณใชค้ วบคกู่ บั ประตูบานเฟ้ียม ประตูบานเฟ้ียม ช่องบนพ้ืนเพื่อทงิ้ สง่ิ ปฏิกูล ภายในตวั บ้านสามารถแบ่งออกเปน็ 3 ส่วน ได้แก่ พืน้ ทดี่ ้านหนา้ แบ่งเปน็ 2 สว่ น เปน็ หอ้ งน่ังเล่นและ ห้องนอน สว่ นดา้ นหลังเทปูนซ่อมแซมเป็นพ้นื ห้องนอน พนื้ บา้ นเป็นไม้กระดานทาจากไม้เนอื้ แข็ง แผ่นใหญต่ ยี าว มี การเจาะช่องพร้อมฝาปดิ บนพ้ืนไม้กระดานประมาณ 5 จุด คาดว่าใช้สาหรบั ทิ้งเศษปฏกิ ูลต่างๆ ของคนสมัยกอ่ น เสาบางต้นในบา้ นถูกตดั ออกเพื่อให้บ้านมีพนื้ ท่มี ากขน้ึ เสาหนา้ บา้ นทาการตกแต่งใหม้ ลี ักษณะคล้ายกบั บานประตู คอื เจาะช่องบานเกล็ดและชอ่ งลูกฟัก แนวนอนแนวตง้ั และส่วนทา้ ยสดุ ของบ้านเป็นพน้ื ท่ีกลางแจ้งสาหรบั ตากผ้า ในอดีตหลังคาเคยอยู่ในระดับเดียวกบั ขอบช่องลมแต่ปัจจุบันไดต้ ผี นังยกหลงั คาใหส้ งู ขึ้น คณุ คำ่ ทำงศลิ ปกรรมและประวัติศำสตรว์ ิถีชวี ติ ลกั ษณะบา้ นเปน็ เรือนไมแ้ บบพนื้ ถิ่นท่สี อดคล้องกับการใช้งานเป็นรา้ นค้า การใช้ไมก้ ระดานขนาดใหญ่ใน การสาหรับการก่อสร้าง สะท้อนอายสุ มยั วัสดกุ ่อสรา้ งและเทคนคิ ท่เี กา่ แก่ การเจาะช่องบนพื้นเพ่ือท้งิ ส่ิงปฏกิ ลู ลิม่ กลอนไม้แบบโบราณเพ่ือขดั ประตู และชอ่ งลมฉลุเปน็ ลายเครอื เถาประดับอย่างสวยงาม เป็นหลกั ฐานทาง ประวตั ศิ าสตร์ และเชิงชา่ งทางชุมชนปากน้าประแส คู่มือรู้จกั ชมุ ชนประแสร์ เล่มที่ 3 เรื่อง สถาปัตยกรรม โรงเรียนชุมชนวดั ตะเคียนงาม
23 บ้ำนป้ำจไุ ร ช่ำงทอง บ้ำนเลขที่ 137 ประวัติควำมเปน็ มำวถิ ีชีวิต คณุ จไุ ร ช่างทอง เจา้ ของเล่าว่าตน มีพื้นเพมาจากแถบอาเภอแกลงเกา่ ในวยั เดก็ ได้ย้ายมาอย่อู าศยั ที่ ปากน้าประแส โดยบา้ นหลังน้สี รา้ งขึน้ ตัง้ แตส่ มัยคณุ พ่อ (นายหลี ชา่ งทอง ) มากกวา่ 80 ปีแล้ว ซง่ึ เดมิ ประกอบ อาชีพประมง ต่อมาเมอื่ เลิกไป คุณจุไร ใช้พื้นท่ีดา้ นหนา้ บ้าน เปดิ เป็นรา้ นตัดเยบ็ เสือ้ ผา้ อยู่ระยะหน่งึ แล้วเปลี่ยน มาทาร้านขายของชา ปัจจบุ นั ใช้บา้ นหลังน้ีเป็นทีอ่ ยู่อาศัยเพียงอยา่ งเดยี ว คู่มือรู้จกั ชมุ ชนประแสร์ เล่มที่ 3 เรื่อง สถาปัตยกรรม โรงเรียนชุมชนวดั ตะเคียนงาม
24 รปู แบบศลิ ปกรรมของบ้ำน ลกั ษณะรูปทรงของบ้านเปน็ อาคารเรอื นไม้ 2 ชัน้ ตัง้ บนเสาสงู ชายตล่ิง พนื้ บา้ นเสมอกับแนวถนน หลงั คา ทรงป้ันหยา มุงกระเบ้ืองลอน มเี ทา้ แขนรองรบั ชายคาท่ยี นื่ ออกมาท้ัง 2 ชนั้ ชน้ั บนมรี ะเบยี งตีระแนงไม้ปิดไว้ ผนงั ฝงั่ ขวาเจาะช่องลม ทาเปน็ ระแนงไม้แนวนอน ผนงั ของตัวบ้านตีไม้นอนซ้อนเกล็ด เหมือนกันท้ัง 2 ชัน้ ยกเวน้ ผนัง ชน้ั ลา่ งฝ่ังซ้ายของบ้าน ตไี มฝ้ าในแนวตง้ั ประตูแบบบานเฟยี้ ม สลบั กับลูกฟัก เปดิ ปิดได้ตลอดหน้าบา้ น พนื้ ดา้ นหลังบา้ นเปน็ ชานปูไมก้ ระดานยก เสา ริมน้า ตไี มร้ ะแนงหา่ งๆ ปดิ ไวพ้ อให้แสงแดดและลมพดั เขา้ ได้เปน็ ส่วนเพิ่มความสว่างใหพ้ นื้ ท่คี รัวหลงั บ้าน งานประดบั ตกแต่งทน่ี ่าสนใจ คือ เหนือประตูฝาเฟี้ยม ฉลุช่องลมลายเครือเถา ลกั ษณะเปน็ กิ่งก้าน ดอกพนั พฤกษา คดโค้งเก่ียวพันกนั คล้ายเถาวลั ย์ มีลายรูปหนุมานแทรกอยู่อีกด้วย คนในชมุ ชนเรียกลายในลักษณะน้วี า่ ลายมะลเิ ถา ช่องลมเหนอื ประตูบานเฟ้ยี ม เป็นลายมะลิเถา บ้านหลงั น้ีมกี ารซ่อมแซมในบางจดุ แตย่ งั คงสร้างเหมอื นเดิมเมอื่ ครง้ั แรกสร้าง ลักษณะของบ้าน ใช้พื้นท่ี สอดคลอ้ งกับการประกอบอาชพี ในสมยั ก่อน คือดา้ นหลังของบา้ นมีการสร้างชานย่นื ลงไปในแม่นา้ สนั นิษฐานได้วา่ เดมิ เป็นท่สี าหรบั ใชเ้ ทียบเรือ การประมงเชน่ เดยี วกับบ้านหลงั อน่ื ๆ ในชมุ ชนปากนา้ ประแสส่วนดา้ นหนา้ ของบา้ น ทาลกั ษณะใหเ้ ปิดหนา้ ถงั เพือ่ ใชท้ าการคา้ ขายได้ ภายในบา้ นยงั คงมีขา้ วของเคร่อื งใช้ที่เก่าแก่ เช่น จักรเย็บผ้าไม้ อายมุ ากกวา่ 80 ปี เป็นเครอื่ งมือท่ีคุณยาย จไุ รใชป้ ระกอบอาชพี ตดั เย็บเสื้อผา้ ในสมัยก่อน ภาพถ่ายเก่าของบรรพบรุ ุษ และงานพิธีต่างๆของครอบครัว ยงั ถูก เกบ็ รกั ษาไว้อย่างดี คณุ คำ่ ทำงศิลปกรรมและประวัตศิ ำสตร์ /วิถีชีวติ บา้ นหลังน้ีถือไดว้ า่ เป็นเรอื นไมแ้ บบพน้ื ถิ่น ท่เี ก่าแก่มากหลังนงึ ชุมชนประแส ยังมปี ระวตั ิ จาของผู้อย่อู าศยั ในปัจจุบนั ชดั เจน และมีงานประดับตกแต่งท่สี วยงาม ซอื้ ช่องลม มลี ายฉลุมะลเิ สา ในช่วงแรก นิยมกันในชว่ งเรา รชั กาลที่ 5 ลงมา อีกทั้งการฉลลุ ายรปู หนมุ านแทรกอยู่ในรายเดือนเขา เป็นลูกเลน่ ของงานช่างสมัยนน้ั ทีห่ าดไู ด้ ยาก คู่มือรู้จกั ชมุ ชนประแสร์ เล่มที่ 3 เรื่อง สถาปัตยกรรม โรงเรียนชุมชนวดั ตะเคียนงาม
25 รำ้ นน้อยกำแฟโบรำณรำ้ นกำแฟเจ๊กเลียง บำ้ นเลขที่ 110 ประวตั ิควำมเปน็ มำวิถชี ีวิต เฮียกี ซึง่ เป็นเจา้ ของบา้ นรุ่นที่ 2 ปัจจบุ นั อายุ 81 ปี กลา่ ววา่ บา้ นหลงั นส้ี รา้ งขนึ้ ก่อนท่ีท่านจะเกิด ประมาณ 7-8 ปี ตัวบ้านจงึ มอี ายุมากกวา่ 80 ปี ตงั้ แตแ่ รกเกดิ เปดิ เป็นร้านขายของชา มที ัง้ สินค้าอาหารตามส่งั ก๋วยเตีย๋ ว เครอ่ื งด่ืมและ ปาทอ่ งโก๋ ดว้ ยทาเลท่อี ยู่ใกล้ทา่ เรือเกา่ ซง่ึ พอ่ คา้ ชาวจนี สว่ นใหญ่มักจะขึ้น-ลง เรือประจา ทาใหล้ กู คา้ จานวนมากทั้งคนใน ชมุ ชน และพ่อค้าต่างๆ มารวมตวั พบปะพูดคุยกัน จนเปน็ สภากาแฟของชมุ ชน ร้จู กั กนั ในนาม “รา้ นกาแฟ เจ๊กเลี้ยง” ปัจจบุ ันประกอบกจิ การรา้ นกาแฟ อยู่เป็นรุน่ ท่ี 2 ร้านเปิดขายอยู่บรเิ วณหนา้ ด้านหนา้ ส่วนแรกของตัวบ้าน และยังคง รปู แบบด้งั เดิมไว้ รูปแบบศลิ ปกรรมของบ้ำน เปน็ เรือนไม้ กึ่งคอนกรตี อยบู่ นเสาสงู ชายตลิง่ ผังลักษณะเปน็ สีเ่ หล่ยี มผืนผ้ายาวลกึ เขา้ ไปในแนวขวาง พ้นื ท่ี แบ่งเป็น 2 ส่วน ด้านหนา้ เปน็ เรอื นไม้ 2 ช้ัน หลงั คาทรงป้นั หยามุงกระเบือ้ งว่าว ผนังไม้ตีแนวนอนซอ้ นเกล็ด ดา้ นหลัง เปน็ เรือนชน้ั เดียว หลังคาลาดต่อด้วยหลังคาทรงจ่วั มุงกระเบอ้ื งลอน เป็นพ้ืนทส่ี าหรับอยู่อาศยั และห้องครวั ชั้น 2 ทาระเบียงยนื่ ออกมาจากตัวบา้ น ราวระเบียงลูกกรงไมก้ ลงึ เหนือประตูทาชอ่ งลม เป็นแผ่นลกู กรงไม้ รอบตัวบ้าน ประตูมี 2 แบบ เปน็ ประตูบานเฟย้ี มขนาดเลก็ และประตบู านเปิดคู่ ดา้ นข้างทาหนา้ ต่างบานพับ ชายคากัน สาดมุงดว้ ยสงั กะสียาว ตง้ั แต่ด้านหน้าถึงด้านขา้ ง ประตบู านเฟีย้ ม ประดบั ลกู ฟกั ยาวตลอดแนว ด้านหน้า จนถึงฝั่งท่อี ยู่ ติดกบั คลองเพื่อเปิดออก เป็นรา้ นคา้ แบบที่ เรียกวา่ หนา้ ถงั คู่มือรู้จกั ชมุ ชนประแสร์ เล่มที่ 3 เรื่อง สถาปัตยกรรม โรงเรียนชมุ ชนวดั ตะเคียนงาม
26 คณุ คำ่ ทำงศิลปกรรมและประวตั ศิ ำสตร์/ วิถีชีวติ ร้านน้อยกาแฟโบราณถอื เปน็ ร้านค้าท่เี กา่ แก่ในชมุ ชนท่ียังคงประกอบกิจการสืบมา เป็นสถานที่ในความทรงจา ของคนในชุมชนมาอย่างยาวนาน ทาใหห้ วนราลกึ ถงึ อดีตทรี่ ้านน้ี เปน็ สภากาแฟทีพ่ บปะกันของชมุ ชน ขณะเดียวกันตวั เรือนยงั คงรักษารปู แบบศิลปกรรมดั้งเดิมไว้ รวมถึงรปู แบบศลิ ปกรรมท่ีแปลกตา เช่น การเปิดหน้าถงั บรเิ วณหนา้ บา้ นไป จนถึงด้านขา้ งฝ่ังติดกบั คลอง ซึง่ เปน็ รูปแบบที่ไม่ได้พบกนั นักในชมุ ชนปากน้าประแส คู่มือรู้จกั ชมุ ชนประแสร์ เล่มที่ 3 เรื่อง สถาปัตยกรรม โรงเรียนชมุ ชนวดั ตะเคียนงาม
27 บำ้ นคณุ ยำยบุญช่วย บำ้ นเลขท่ี 126 ประวตั คิ วำมเป็นมำวถิ ีชีวิต คณุ บญุ ชว่ ย อายุ 86 ปี กล่าวว่า เป็นบ้านทตี่ กทอดมา รนุ่ คณุ ปู่ ของตน มีอายุราว 80 ปขี น้ึ ไป เดมิ ถนน บริเวณหน้าบา้ น เป็นสะพานไมจ้ นมีการขยายและเปลี่ยนถนนคอนกรีตในปจั จุบนั ในอดตี คุณพ่อของคุณบญุ ช่วย มีอาชีพรบั ราชการกรมป่าไม้ จงึ หาไมม้ าสรา้ งบา้ นไดค้ ่อนข้างงา่ ย ซงึ่ ไม้ท่ี นามาสร้างบา้ น คือ ไม้ตะแบก หลังจากคุณพ่อเกษียณอายุราชการ จงึ หนั มาประกอบอาชพี ค้าขายทัว่ ไปจนถึง ปัจจุบัน โดยหนา้ บ้านจะมโี ตะ๊ ไมต้ วั ใหญ่ไปตัง้ ของขายเลก็ ๆ นอ้ ยๆ เช่น กะปิ น้าผง้ึ ปลาหมกึ บด เป็นต้น รปู แบบศลิ ปกรรมของบำ้ น เรอื นไมแ้ ถว 2 ชั้น ยกพ้ืนสูงตง้ั อยู่บนเสาปักชายตลิง่ หลงั คาทรงจว่ั ลาดหันหน้าจ่วั ด้านขา้ งอาคารเดมิ น้ัน มุงดว้ ยกระเบ้ืองวา่ ว ปจั จุบันเปล่ียนเปน็ กระเบ้ืองลอน ผนงั ตีไมฝ้ าแบบซ้อนเกล็ดในแนวนอน ชั้นบนทาระเบียงย่นื ออกมาจากตัวบ้านโดยมีเสา 4 ตน้ ชว่ ยรบั นา้ หนกั ชายคา ราวระเบียงลกู กรงไม้กลึง ด้านหน้ามีประตแู บบบานไม้ เปดิ คู่ 3 บาน และดา้ นขา้ งมหี น้าตา่ งแบบบานไมเ้ ปิดคู่ 2 บาน ราวระเบยี งบันไดไม้กลึง คู่มือรู้จกั ชมุ ชนประแสร์ เล่มที่ 3 เรื่อง สถาปัตยกรรม โรงเรียนชมุ ชนวดั ตะเคียนงาม
28 ชัน้ ล่างใต้ระเบียงทาหลังคากันสาดคลุมยื่นออกมาหน้าบ้าน เหนอื ประตูทาเปน็ ไม้กระดานประดับช่อง ลกู ฟัก ประตูใชบ้ านเฟ้ยี มเรยี บทาจากไมต้ ะแบก หน้าบา้ นมโี ตะ๊ ตั้งสาหรบั ขายของ ภายในบา้ นเหน็ โครงสร้างเพดาน เป็นคานรองรับพน้ื บา้ นไมช้ ัน้ บน และสว่ นบรเิ วณทา้ ยบ้านขยายพนื้ ท่ีเพมิ่ เติม ลักษณะพเิ ศษของบ้านหลงั นี้ คอื โครงสรา้ งบ้านและการใช้วสั ดไุ ม้แบบดั้งเดิม คือ ไมต้ ะแบกท่นี ามาทาตัว บา้ น และไมอ้ าพันนามาทาเป็นกระดานพื้นบ้าน ซ่ึงสงั เกตได้ว่าพ้นื ไมจ้ ะมีขนาดไม่เท่ากัน เนื่องจากไม่ได้ใช้ไม้แปร รูปจากอตุ สาหกรรม กระดานพืน้ บ้านทาด้วยไม้อาพัน ภายในบา้ นยงั มีข้าวของเคร่ืองใช้โบราณที่ตกทอดจากรุ่นคณุ ปู่ มีอายปุ ระมาณ 100 ปี เชน่ จาน ชามถว้ ย ไห ตะเกยี ง นาฬิกาโบราณ เป็นต้น จาน ชาม ถ้วย ไห ตะเกียง จาน ชาม ถว้ ย ไห ตะเกยี ง นาฬิกาโบราณ คุณค่ำทำงศลิ ปกรรมของบ้ำน เป็นบา้ นท่ีเกา่ แก่ของชุมชนอีกหลงั หนึ่งทีห่ ลงเหลือรปู แบบสถาปตั ยกรรมพ้ืนถนิ่ แบบชมุ ชนปากนา้ ประแส คือ เรือนไมผ้ งั ยาว พื้นไมก้ ระดานแบบเกา่ ที่เร่อื ยถากด้วยมอื มีประตูฝาเฟ้ียมเปิดหน้าบ้านริมทางถนน เพ่อื ใช้คา้ ขายสอดคล้องกบั อาชีพและสภาพสังคมเศรษฐกจิ ของชุมชนในอดีต คู่มือรู้จกั ชมุ ชนประแสร์ เล่มที่ 3 เรื่อง สถาปัตยกรรม โรงเรียนชมุ ชนวดั ตะเคียนงาม
29 รำ้ นนงเยำวข์ องชำ บ้ำนเลขที่ 90 หมู่ 2 ประวัตคิ วำมเป็นมำวิถีชีวติ เจ้าของบ้านปจั จุบนั คือ คุณนงเยาว์ พรพิมาน อายุ 55 ปี ไดเ้ ลา่ ว่าบ้านสร้างมาตัง้ แต่รนุ่ คณุ ป่ขู องสามี จงึ สนั นษิ ฐานว่าบา้ นน่าจะมีอายุประมาณ 100 ปี ในอดีตครอบครวั เคยประกอบอาชีพประมง แตห่ ลังจากสามถี ึงแก่กรรมจงึ เลกทาและหันมาประกอบอาชีพ ค้าขาย โดยเปดิ เป็นร้านขายของชา และช้อนเคยจากกระชงั เพ่ือทากะปิจาหน่ายเลก็ น้อย รูปแบบศลิ ปกรรมของบ้ำน เรอื นไมแ้ ถวชัน้ เดยี ว หลังคาทรงจ่วั ลาด หนั หน้าจั่วออกด้านขา้ งเดมิ มุงหลงั คาด้วยกระเบ้ืองว่าว ปจั จุบนั มงุ ด้วยกระเบ้ืองลอน ผนงั ตีไมฝ้ าแบบซอ้ นเกรด็ ในแนวนอนทงั้ หลัง บรเิ วณดา้ นหน้าทาชายคายนื่ ออกมาเป็นกัน สาด โดยมีเทา้ แขนและไม้ค้ายันช่วยรบั นา้ หนัก เหนอื ประตูทาชอ่ งลมตีไมท้ ะแยงคลา้ ยสเ่ี หลีย่ มขนมเปียกปูน ประตใู ช้บานเฟีย้ มยาวตลอดแนว เพื่อเปิดเปน็ รา้ นค้าแบบที่เรยี กวา่ หน้าถัง ภายในบา้ นแบง่ พื้นท่ีออกเป็น 2 สว่ น คือ ส่วนดา้ นหน้าเป็นพ้ืนท่ีค้าขายของชา โครงสรา้ งภายในตอ่ เติม เป็นฝา้ เพดานใหม่เพ่ือกันความร้อนสว่ นตัว สว่ นดา้ นหลงั เปน็ ชานไม้กระดานยกพืน้ จากริมน้า แตเ่ ดิมเคยเปน็ ทา่ จอดเรือทาประมง ปจั จบุ ันลงกระชงั ช้อนเคยเพื่อแปรรูปเป็นกะปิ และด้านขา้ งของบา้ นเป็นพื้นท่เี ปดิ โลง่ สาหรบั ตากเคย กระชงั ชอ้ นเคยบรเิ วณหลงั บ้าน พนื้ ทีต่ ากเคยบริเวณดา้ นขา้ งบา้ น คู่มือรู้จกั ชมุ ชนประแสร์ เล่มที่ 3 เรื่อง สถาปัตยกรรม โรงเรียนชมุ ชนวดั ตะเคียนงาม
30 ขา้ วของเครื่องใช้เกา่ แก่ของบา้ นยังคงหลงเหลอื อยู่บ้าง เชน่ กานา้ ชา และไมห้ าบโบราณจากเมืองจีน เป็น ของตกทอดมาจากคุณพ่อของสามคี ณุ นงเยาว์ ด้านข้างและดา้ นบนของกาน้าชาโบราณจากเมืองจีนเป็นของตกทอดมาจากคุณพอ่ ของสามีคุณนงเยาว์ คุณคำ่ ทำงศิลปกรรมของบำ้ น บา้ นหลังนถี้ อื เปน็ เรอื นอายเุ ก่าแกท่ ี่มรี ปู แบบสถาปัตยกรรมพนื้ ถิน่ ชุมชนปากน้าประแสร์ทยี่ ังถูกใชง้ าน ตง้ั แตอ่ ดีตจนถงึ ปจั จบุ นั ร่องรอยของชานรมิ นา้ ทเ่ี ป็นทา่ เรือและถูกเปลีย่ นแปลงมาเปน็ กระชังชอ้ นเคยเพ่ือทากะปิ แสดงให้เหน็ ถึงวถิ ชี วี ิตความเป็นอย่รู ิมนา้ ของผู้คนในชุมชนที่ยังคงประกอบอาชพี ดง้ั เดิม อันเปน็ สว่ นหน่ึงของ ประวัติศาสตร์ชุมชนท่มี ีการต้ังถ่ินฐานอย่หู ลายยุคสมยั อีกด้วย เสน่ห์ของบ้านในปจั จุบันนี้ คือ การจดั หน้ารา้ นเพื่อวางสนิ คา้ ทง้ั โหลผลไมด้ อง แผงขนม แผงของเล่นท่ี แขวนตามประตู กระปุกใส่กะปิ อปุ กรณ์ทาขนมกะลา และทองมว้ นสดแบบร้านขายของชาสมัยโบราณท่ีหาดูได้ ยากแล้วทกุ วันนี้ คู่มือรู้จกั ชมุ ชนประแสร์ เล่มที่ 3 เรื่อง สถาปัตยกรรม โรงเรียนชมุ ชนวดั ตะเคียนงาม
31 ร้ำนหลีบูติก บำ้ นเลขที่ 98 หมู่ 2 ประวตั ิควำมเปน็ มำวิถีชีวติ คณุ วลั ลภ นติ ยสกุล เจา้ ของบา้ นคนปจั จบุ ันกล่าวว่า สรา้ งบ้านข้ึนต้งั แต่สมยั คุณพอ่ ในปี พ.ศ.2502 จงึ มี อายมุ ากกวา่ 60 ปีขึ้นไป และซ่อมแซมข้ึนใหมเ่ น่ืองจากชรุ ุดทรดุ โทรมครงั้ ลา่ สุดเมื่อปี พ.ศ.2546 ครอบครัวของคุณวลั ลภ นิตยสกลุ มีอาชีพคา้ ขายและตดั เย็บเส้ือผ้ามาจนถึงปัจจุบนั โดยเปิดเปน็ บนรา้ น ขายเส้ือ กางเกงเล ชอ่ื ร้าน “หลบี ูตกิ ” และขนมเบเกอร่เื ล็กน้อย รูปแบบศิลปกรรมของบำ้ น แตเ่ ดมิ เป็นเรอื นไม้ท้ังหลงั หลงั คามงุ ดว้ ยสังกะสี ปัจจุบนั เปน็ เรือนไมแ้ ถว 2 ชนั้ กง่ึ คอนกรตี หลังคาทรง จ่ัวลาดมุงด้วยกระเบื้องลอน ชน้ั บนเปน็ พ้นื ที่อยู่อาศยั สร้างด้วยไม้ ผนงั ตฝี าไม้แนวนอนซ้อนเกรด็ เป็นแผน่ ไม้ยาง หนา้ บา้ น ทาชายคายื่นออกมาเป็นกนั สาด ใช้คานท่ีทาจากเสาไมย้ างชว่ ยรับน้าหนัก มีหนา้ ตา่ งแบบบานไมเ้ ปิดคู่ โดยรอบด้านละ 4 บาน และสว่ นของพน้ื ท่บี า้ นทาจากกระดานไมต้ ะแบก ช้ันลา่ งเปดิ เปน็ รา้ นค้าขาย และทางานตดั เย็บเสื้อผ้า เทพนื้ และก่อโครงสรา้ งด้วยคอนกรีตดา้ นหนา้ ใช้ ประตบู านเฟย้ี มยาวตลอดแนวเพ่อื เป็นรา้ นคา้ เรยี กวา่ หน้าถัง ภายในเห็นโครงสรา้ งเพดานเป็นคานรองรบั พน้ื บา้ น ชัน้ บน พื้นบ้านช้ันล่างปพู ื้นด้วยกระเบือ้ ง บันไดและราวบันไดทาจากไม้ตะแบก และส่วนทา้ ยบ้านมีการตอ่ เติมขึ้น ใหม่ภายหลังเพ่ือเพิ่มพ้นื ทใี่ นการใช้งานให้มากขึน้ และอานวยความสะดวกขน้ึ กวา่ เดิม บนั ไดและราวบันไดทาจากไม้ตะแบก คู่มือรู้จกั ชมุ ชนประแสร์ เล่มที่ 3 เรื่อง สถาปัตยกรรม โรงเรียนชมุ ชนวดั ตะเคียนงาม
32 คุณค่ำทำงศลิ ปกรรมประวตั ิศำสตร์วถิ ชี ีวติ ข้อมลู ทางสถาปตั ยกรรมท่สี าคัญ พบวา่ ใชไ้ มห้ ลากหลายในการกอ่ สร้างซง่ึ หาได้งา่ ยในท้องถิ่น เช่น เดยี วกับเรอื นเก่าแก่อีกหลายหลงั ในยา่ นนี้ และปรบั เปลย่ี นตวั บา้ นใหท้ ันสมัยมากข้ึนท้ังทางโครงสรา้ งกับวสั ดุ เชน่ ปนู ซีเมนต์ แสดงให้เหน็ ถงึ กระแสความนิยมท่ีเข้ามาใหม่ในชุมชน แตถ่ ึงอย่างไรก็ตามยงั คงหลงเหลอื กล่ินอายของ เรอื นพื้นถิน่ ในชมุ ชนปากนา้ ประแสไว้อย่างชัดเจน ไดแ้ ก่ การปลูกยกเสาแต่พ้นื บา้ นเสมอกับถนน หันหนา้ เปดิ หน้า บ้านกว้างเข้าหาเสน้ ทางสัญจรเพ่ือการคา้ ขาย แสดงถึงความเฟื่องฟูของสังคมเศรษฐกจิ ในอดตี เอกลักษณ์การจัดวางสิ่งของบรเิ วณหนา้ บา้ น คือ สินคา้ อยา่ งกางเกงเลสีสันสะดดุ ตา และเคร่ืองจกั รเย็บผ้า คู่ใจของคุณวลั ลภ ทีม่ กั มาน่งั ตดั เยบ็ อยู่เป็นประจาอันเปน็ เสน่หข์ องรา้ นแห่งนี้ นอกจากนี้ยงั มมี ุมโปรดของคุณ วลั ลภซึ่งภาคภูมใิ จกบั บนั ไดข้ึนชน้ั สองและราวบันไดทาจากไมต้ ะแบกท่คี งทนแข็งแรงมาจนมอี ายุยาวคู่กบั ตวั บา้ น เคร่อื งจกั รเย็บผ้า บรเิ วณหน้าบา้ นเปิดกว้าง คู่มือรู้จกั ชมุ ชนประแสร์ เล่มที่ 3 เรื่อง สถาปัตยกรรม โรงเรียนชมุ ชนวดั ตะเคียนงาม
33 ร้ำนหนงั สอื นโิ รจน์ บ้ำนเลขท่ี 20 หมู่ 2 ประวัติควำมเปน็ มำวถิ ชี ีวิต ปจั จบุ นั บา้ นหลงั นี้เปน็ ของคณุ สมัญญา บาเพ็ญทาน หรือคณุ แหมม่ สร้างขึน้ ในรุน่ คณุ ปู่คุณย่า อายุ ประมาณ 70-80 ปี ในอดตี เคยทาประมง ต่อมาพ่อของคุณแหมม่ ประกอบอาชีพเป็นชา่ งภาพ แตภ่ ายหลงั เปล่ียน มาขายหนงั สือ ปัจจบุ ันคณุ แหมม่ ทาอาชพี รบั เล่ยี มกรอบพระ และขายกะปิท่ีทาเองจากการช้อนเคยรมิ แม่น้าหลัง บ้าน รูปแบบศลิ ปกรรมของบำ้ น เป็นอาคารเรือนไม้ช้ันเดียว สร้างบนเสาสูงปักลงชายตลิง่ หลังคาทรงจ่ัวหันหน้าจว่ั ออกด้านขา้ ง เดิมเคยมุง ด้วยกระเบ้ืองว่าว แตเ่ กดิ ความเสยี หายจากพายจุ ึงเปล่ียนมาใช้กระเบื้องลอนแทน ผนังด้านข้างของบา้ นตีแบบซ้อน เกรด็ ในแนวนอน ผนังด้านหน้าเปน็ พนื้ ไม้กระดาน มปี ระตบู านเฟี้ยมใช้ไม้กลอนขดั เหนือประตูตชี อ่ งลมเปน็ ลกู กรง ไม้ทะแยงมมุ มีกนั สาดยาวตลอดแนวหนา้ บ้าน คู่มือรู้จกั ชมุ ชนประแสร์ เล่มที่ 3 เรื่อง สถาปัตยกรรม โรงเรียนชุมชนวดั ตะเคียนงาม
34 ประตบู านเฟีย้ มใชไ้ ม้กลอนขัด เหนอื ประตตู ชี ่องลมเป็นลกู กรงไม้ทแยงมุม ตัวบ้านแบง่ เปน็ สว่ นๆ โดยพนื้ ท่ตี รงกลางจะเปน็ พ้ืนที่แบบเปิดโล่งทาเป็นห้องนา้ เนอื่ งจากสมยั กอ่ นไม่มี นา้ ประปา จึงต้องเปดิ โล่งเพ่ือรองน้าฝน แตป่ จั จุบันทาหลังคาคลุมบรเิ วณกลางบา้ น และต่อเติมด้านหลงั บ้านใหม่ โดยการทาพื้นชานย่ืนออกไปริมแม่น้าไวส้ าหรบั เลยี้ งปลาในกระชังสง่ ขาย พ้ืนทตี่ รงกลางที่แบบเปดิ เคยโลง่ ทาเป็นหอ้ งน้า ปจั จุบันมุงหลังคาคลุมแลว้ ตีช่องลมไม้แนวตงั้ ภายในบ้านมกี ล้องถา่ ยรปู แสดงอยบู่ นช้ันในต้หู นังสือไมเ้ กา่ มีหนงั สอื นิยายจนี แปลไทยและนยิ ายไทย ตหู้ นงั สอื ไม้เก่า คู่มือรู้จกั ชมุ ชนประแสร์ เล่มที่ 3 เรื่อง สถาปัตยกรรม โรงเรียนชุมชนวดั ตะเคียนงาม
35 คุณค่ำทำงศลิ ปกรรมประวัติศำสตรว์ ถิ ีชวี ิต ลักษณะของบา้ นเป็นเรอื นแถวไมท้ มี่ ีอายเุ กา่ แก่ การปลกู สร้างสอดคล้องกบั หน้าที่การใชง้ านทส่ี ัมพนั ธ์กบั การประมงและการคา้ ขาย ส่วนขา้ วของเคร่ืองใชเ้ กา่ แก่ เช่น กล้องฟิล์มสมยั ท่ีคุณพ่อเป็นช่างภาพ มุมตู้หนงั สือไม้ เกา่ แก่และหนงั สือนยิ ายเก่าที่วางอยู่ในชั้นหนังสอื ถือวา่ เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ด้านอาชพี ชองชาวชุมชน ปากน้าประแสในอดตี การชอ้ นเคยและเล้ียงปลากระชงั รมิ แมน่ า้ หลังบา้ น คู่มือรู้จกั ชมุ ชนประแสร์ เล่มที่ 3 เรื่อง สถาปัตยกรรม โรงเรียนชุมชนวดั ตะเคียนงาม
36 สถำปตั ยกรรมลวดลำย(ฉลุ)ช่องลมบำ้ น นอกจากลักษณะ รปู แบบของสถาปัตยกรรมอาคารบา้ นเรอื นในอดีตของชุมชนปากนา้ ประแสจะมีความ เป็นเอกลักษณ์ทีพ่ ิเศษไม่เหมือนใครแลว้ ยังมีส่วนประกอบของตัวบา้ นทม่ี คี วามพิเศษอีกอย่างและบ้านทุกหลังต้อง มี ซ่ึงมคี วามแตกต่างกนั ออกไป คือ ชอ่ งลมนั่นเอง บา้ นแต่ละหลังจะตีช่องลมเหนือประตบู านเฟีย้ มทงั้ ดา้ นหน้า และดา้ นหลงั ท้งั 2 ช้ัน เพ่ือรบั ลมเข้าออกไดง้ า่ ยตลอดเวลา ไม่รอ้ น อากาศถ่ายเทสะดวก ซง่ึ ลวดลายและแบบของ ช่องลมก็แตกตา่ งกันไปของเจ้าของบ้าน และอาคารบ้านเรอื นในอดีตของชุมชนปากนา้ ประแสท่ียังคงมใี ห้เหน็ ถงึ ฝีมอื ความละเอยี ดด้านงานช่างสมยั ก่อนไว้ใหเ้ ห็นกันจนถึงปัจจบุ ัน ดงั นี้ ช่องลมทีแ่ กะสลักลวดลายฉลุไม้ที่ความประณีต สวยงาม เรยี กวา่ ลายเครือเถา หรอื มะลเิ ถา ถงึ แม้ว่า ความละเอยี ดในการแกะจะแตกต่างกนั ท้ังนี้ขึ้นอยู่กับช่างในสมยั อดตี ลายเครอื เถา หรอื ลายมะลิเถา ชอ่ งลมท่มี ีลักษณะของลวดลายฉลไุ ม้ คู่มือรู้จกั ชมุ ชนประแสร์ เล่มที่ 3 เรื่อง สถาปัตยกรรม โรงเรียนชุมชนวดั ตะเคียนงาม
37 ชอ่ งลมที่เปน็ ลกู กรงไมท้ ะแยงมุมไมฉ้ ลุลวดลายคลา้ ยกับรูปทรงเรขาคณิต ชอ่ งลมที่เปน็ ลูกกรงไม้ตงั้ ในแนวตั้ง คัน่ กลางดว้ ยไม้ยาวตลอดแนว คู่มือรู้จกั ชมุ ชนประแสร์ เล่มที่ 3 เรื่อง สถาปัตยกรรม โรงเรียนชมุ ชนวดั ตะเคียนงาม
38 ช่องลมไมม้ ีลักษณะคล้ายกับการตผี นงั ในแนวนอน ซอ้ นเกรด็ เว้นระยะหา่ งกันของแตล่ ะแผน่ ประมาณ 1 นว้ิ สถาปัตยกรรมลวดลายฉลุไมข้ องช่องลมอาคารบา้ นเรอื นนนั้ มีความหลากหลาย และแตกต่างกันไป แต่การ ใช้งานไม่แตกต่างกนั เพราะส่ิงสาคญั ของการทาชอ่ งลม คอื การะบายอากาศในบ้านน่นั เอง คู่มือรู้จกั ชมุ ชนประแสร์ เล่มที่ 3 เรื่อง สถาปัตยกรรม โรงเรียนชมุ ชนวดั ตะเคียนงาม
39 เอกสำรอ้ำงอิง คณะโบราณคดี มหาวิทยาลยั ศลิ ปากร รว่ มกับ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จากดั (มหาชน) (2562) .โครงการวิจยั ข้อมลู ชาติพันธ์แุ ละวถิ ีชมุ ชนระยอง ระยะ ท่ี 2 RAYONG ETHNIC GROUPS AND WAY OF LIFE (2nd Phase) โครงการเผยแพรค่ วามรปู้ ระวตั ิศาสตร์ศิลปะสูช่ มุ ชน ภาควชิ าประวัติศาสตร์ศิลปะ คณะ โบราณคดี มหาวิทยาลยั ศิลปากร คู่มือรู้จกั ชมุ ชนประแสร์ เล่มที่ 3 เรื่อง สถาปัตยกรรม โรงเรียนชุมชนวดั ตะเคียนงาม
40 คณะผูจ้ ัดทำ นางอญั ชลี สารสุวรรณ์ ผอู้ านวยการโรงเรยี นชุมชนวดั ตะเคียนงาม นางสาวเสาวลกั ญ์ ธรรมเกสร รองผอู้ านวยการโรงเรียนชมุ ชนวัดตะเคียนงาม นางวิณี ซ่อื ตรง ครูชานาญการโรงเรยี นชมุ ชนวัดตะเคียนงาม นางสาวเยาวภา บตุ รดีวงศ์ ครูชานาญการโรงเรยี นชุมชนวัดตะเคยี นงาม นางสาวนลิ วรรณ อาจเอ้ือ ครโู รงเรียนชมุ ชนวัดตะเคียนงาม นางพิชญา เนธิบุตร ครผู ู้ช่วยโรงเรียนชุมชนวดั ตะเคียนงาม นายกฤตคณุ ัชญ์ ฉัตรถี ครูโรงเรียนชุมชนวัดตะเคียนงาม คู่มือรู้จกั ชมุ ชนประแสร์ เล่มที่ 3 เรื่อง สถาปัตยกรรม โรงเรียนชมุ ชนวดั ตะเคียนงาม
Search
Read the Text Version
- 1 - 44
Pages: