Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนหน่วยที่ 3 ของเธอของฉัน

แผนหน่วยที่ 3 ของเธอของฉัน

Published by ครูภา สอนไทย, 2021-09-12 07:29:48

Description: แผนหน่วยที่ 3 ของเธอของฉัน

Search

Read the Text Version

บนั ทึกขอ้ ความ สว่ นราชการ โรงเรียนวดั พืชนมิ ติ (คาสวัสดริ์ าษฎรบ์ ารุง) ท…่ี …………………วนั ท่ี ………… เดอื น …………………….. พ.ศ.2564 เร่ือง ขออนุญาตใช้แผนการจดั การเรียนรู้ เรยี น ผู้อานวยการโรงเรยี นวดั พชื นมิ ิต (คาสวัสดิร์ าษฎร์บารุง) ด้วยข้าพเจ้า นางสาววรรณภา เคนไชยวงค์ ตาแหน่งครผู ้ชู ่วย โรงเรียนวดั พืชนิมติ (คาสวสั ด์ิราษฎรบ์ ารงุ ) ได้รับมอบหมายใหป้ ฏิบัตหิ น้าท่ีการสอน รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วชิ า ท11101 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2563 บัดนี้ ข้าพเจา้ ได้จัดเตรียมการสอน และจดั ทาแผนการสอนโดยใช้กระบวนการการจัดการเรยี นรูแ้ บบ บนั ได 6 ขัน้ ข้าพเจ้าจึงขออนุญาตดาเนินการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้ท่ีจัดเตรียมไว้ ซง่ึ แนบเอกสารหน่วยการเรียนท่ี 3 ช่ือ หน่วย ของเธอ ของฉัน เวลาเรยี น 10 ชั่วโมง มาพรอ้ มกับเอกสารน้ี จงึ เรียนมาเพ่ือโปรดทราบ ลงชื่อ ( นางสาววรรณภา เคนไชยวงค์ ) ตาแหนง่ ครู ลงชอ่ื (นางสาววรรณภา เคนไชยวงค์) หัวหน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย ความเห็นผ้อู านวยการโรงเรยี น อนุญาต ไม่อนญุ าต เพราะ .................................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................. ลงช่อื ( นางสาวกันยาภทั ร ภทั รโสตถิ ) ผอู้ านวยการโรงเรียนวัดพชื นิมิต (คาสวสั ดิร์ าษฎร์บารงุ ) ............./................../.............

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เรื่อง ของเธอ ของฉัน ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 1 รายวิชา ภาษาไทย รหสั ท11101 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย ครูผ้สู อน นางสาววรรณภา เคนไชยวงค์ โรงเรียนวัดพชื นมิ ติ (คาสวัสด์ริ าษฎรบ์ ารุง) สานักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 1 สานกั านคณะกรรมการการศกึ ษาข้ึนพน้ื ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร

คาอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐาน ท๑๑๑๐๑ ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๑ เวลา ๒๐๐ ช่ัวโมง ศึกษา ฝกึ ทกั ษะการอา่ น การเขียน การฟัง การดแู ละการพูด หลกั การใชภ้ าษาไทย และวรรณคดีและวรรณกรรม ในสาระต่อไปนี้ การอา่ นออกเสียงและบอกความหมายของคา คาคลอ้ งจอง และข้อความ ทป่ี ระกอบ ดว้ ยคาพืน้ ฐาน คือ คาทใี่ ชใ้ นชีวิตประจาวนั ไมน่ ้อยกวา่ ๖๐๐ คา รวมทัง้ คาท่ีใช้เรียนร้ใู นกลุม่ สาระ การเรยี นรูอ้ นื่ ประกอบดว้ ยคาท่ีมรี ูป วรรณยกุ ตแ์ ละไม่มรี ูปวรรณยกุ ต์ คาท่ีมตี วั สะกดตรงตามมาตราและ ไมต่ รงตามมาตรา คาท่มี ีพยัญชนะควบกลา้ คาท่มี ี อักษรนา การอ่านจับใจความจากสือ่ ต่างๆ การอา่ นหนงั สือตามความสนใจ การอา่ นเคร่ืองหมายและสญั ลกั ษณ์ มารยาท ในการอ่าน การคัดลายมอื ตวั บรรจงเตม็ บรรทัดตามรปู แบบการเขียนตวั อกั ษรไทย การเขยี นสอื่ สาร มารยาทในการเขียน การฟงั และปฏบิ ัตติ ามคาแนะนา คาสั่งง่าย ๆ การจับใจความและพูดแสดงความคิดเหน็ ความรู้สกึ จากเร่ืองท่ฟี ังและดูทง้ั ท่ีเปน็ ความรแู้ ละความบันเทิง การพูดสอื่ สารในชีวิตประจาวัน มารยาทในการฟัง มารยาทในการดู มารยาทในการพูด หลกั การใชภ้ าษา การบอกและเขยี นพยัญชนะ สระ และวรรณยกุ ต์ เลขไทย การเขยี นสะกดคา การแจกลูกและการอ่าน เปน็ คามาตราตัวสะกดท่ตี รงตามมาตราและไม่ตรงตามมาตรการผันคา ความหมายของคาการแต่งประโยคและตอ่ คาคล้อง จองวรรณคดีและวรรณกรรม การอา่ นหรือการฟงั วรรณกรรมร้อยแก้วและร้อยกรองสาหรับเด็ก การทอ่ งบทอาขยานและ บทร้อยกรองตามทก่ี าหนดและความสนใจ โดยใช้กระบวนการอ่าน การเขยี น การฟัง การดู การพดู และการวิเคราะห์ เพือ่ ให้เกิดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ สามารถสื่อสารส่ิงที่เรยี นรู้ จากการแต่งประโยคและต่อคาคล้องจองเขียนเรอ่ื งจากภาพ การเรยี นวรรณคดแี ละ วรรณกรรมการอ่านหรอื การฟังวรรณกรรมร้อยแก้วและร้อยกรองสาหรับเด็ก การทอ่ งบทอาขยานและบทร้อยกรองตามที่ กาหนดและตามความสนใจ มคี วามสามารถในการสอื่ สาร คิดวเิ คราะห์ จากเรือ่ งทอ่ี า่ นได้ เห็นคณุ ค่าของการนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชวี ิตประจาวัน มีเจตคติท่ีดตี อ่ ภาษาไทย มีมารยาทในการอ่าน การเขียน การฟงั การดแู ละการพูด มคี วามซาบซง้ึ ภาคภมู ใิ จในภาษาไทย รักความเปน็ ไทย ใฝ่เรียนรแู้ ละมีคา่ นยิ มที่ เหมาะสม รหัสตัวชว้ี ัด ท ๑.๑ ป.๑/๑,ป.๑/๒,ป.๑/๓,ป.๑/๔,ป.๑/๕,ป.๑/๖,ป.๑/๗,ป.๑/๘ ท ๒.๑ ป.๑/๑,ป.๑/๒,ป.๑/๓ ท ๓.๑ ป.๑/๑,ป.๑/๒,ป.๑/๓,ป.๑/๔,ป.๑/๕ ท ๔.๑ ป.๑/๑,ป.๑/๒,ป.๑/๓,ป.๑/๔ ท ๕.๑ ป.๑/๑,ป.๑/๒ รวมท้ังหมด ๒๒ ตัวชวี้ ดั

แผนผังมโนทัศน์เป้าหมายการเรยี นรู้/ หลกั ฐานการเรียนรู้ ความรู้ (Knowledge : K) ทักษะ/กระบวนการ (Process : P) คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1.ซอ่ื สตั ยส์ ุจริต 1.การอา่ นแจกลูกสะกด 1.อ่านสะกดคา 2.มวี นิ ยั 2.การประสมคา 2.เขียนตามคาบอก 3.ใฝเ่ รยี นรู้ 3. การบอกความหมาย 3.เขยี นคาประกอบภาพ 4.มุ่งม่นั การทางาน 4. การแต่งประโยค 4.แตง่ ประโยค 5.รกั ความเปน็ ไทย 5. การคดั ลายมอื 5.การคดั ลายมอื 6. การเขยี นเร่ืองย่อจากนทิ าน 6.การท่องบทอาขยาน เป้าหมายการเรียน เรื่อง ของเธอ ของฉนั หลกั ฐานการเรยี นรู้ 1.แบบฝึกอา่ น 5. คดั ลายมือ 2.แบบฝึกเขยี นตามคาบอก 6. บทอาขยาน 3.แบบฝึกเขยี นคาประกอบภาพ 4.แบบฝกึ แตง่ ประโยค

แผนผงั มโนทศั นข์ น้ั ตอนการทากิจกรรมประกอบการจดั การเรียนรดู้ ้วย วธิ ีการสอนแบบบนั ได 6 ขัน้ ศึกษามาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชว้ี ัด และจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ แบบทดสอบก่อนเรยี น ทากิจกรรมโดยใชก้ ระบวนการจดั การเรยี นรู้ดว้ ยเทคนคิ การสอนแบบบนั ได 6 ข้ัน ขนั้ ท่ี 1 ฝกึ อา่ นทุกวนั จากง่ายไปยาก ข้ันท่ี 2 เขียนตามคาบอกจากสิง่ ท่ีอา่ น ขัน้ ที่ 3 คดั ลายมือ ข้ันที่ 4 แตง่ ประโยค ขนั้ ที่ 5 คัดลายมอื ขนั้ ท่ี 6 ท่องบทอาขยาน ทดสอบหลังเรยี น (ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 70)

ผังมโนทัศน์ หน่วยกา แผนที่ 1 การอ่านแจกลกู สะกด จานวน 2 ชั่วโมง แผนที่ 3 บอกความหมายของคา หนว่ ยกา จานวน 1 ชั่วโมง ของเธอ จานวน แผแนผทนี่ ท5่ี 5กากราเลรคา่ นัดลิทาายนมือ จาจนาวนนวน2 2ช่ัวชโมว่ั โงมง การเรยี นรแู้ บ สาสระารกะากรเารรียเรนียรนู้ .ร..ู้............................................................... สงั คมศกึ ษ • การทอ่ งบทอา วทิ ยาศาสตร์ ภาพ 1.อา่ นและเขยี นคาเกี่ยวกับสัตว์ มี สัตวบ์ ก สัตว์เลอ้ื ยคลาน สัตว์ปีก สัตว์นา้ เชน่ งู กบ กระตา่ ย แมว นก กา สนุ ัขจิ้งจอก

ารเรยี นรทู้ ่ี 3 ของเธอ ของฉัน ารเรยี นรทู้ ี่ 3 แผนท่ี 2 เขยี นสะกดคา อ ของฉัน จานวน 2 ชวั่ โมง 10 ชัว่ โมง สาระการเรยี นรู้ ................................. บบบรู ณาการ แผนท่ี 4 แต่งประโยค จานวน 1 ชว่ั โมง ษา ศาสนา และวัฒนธรรม าขยาน การเขยี นนิทานประกอบ แแผผนนทที่่ี 66 เกขาียรนทเรอ่ ่ืองงบยทอ่ อจาาขกยนาทิ นาน จจาานนววนน22ชวั่ชโวั่ มโงมง สารกะการาเรรเียรยีนนรู้ร.ู้................................................................. .ศลิ ปะ : ทศั นศลิ ป์ • เขยี นคาประกอบกับวาดภาพและระบายสี

แผนบรู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ครู ความพอประมาณ ความมเี หตุผล การมีภูมคิ มุ้ กนั ในตวั ทด่ี ี 1. ออกแบบการจดั กิจกรรม ตรงตาม 1. ออกแบบการเรยี นรูส้ ่งเสรมิ กระบวนการคดิ 1. ศกึ ษาแนวทางการจัดการเรยี นรู้ลว่ งหน้า ตวั ช้วี ดั 2. ใชเ้ ทคนคิ การจดั การเรยี นรู้ทหี่ ลากหลาย 2. จัดเตรียมการวดั ผลประเมินผล และแบบ 2. เลอื กสอ่ื แหลง่ เรยี นรู้เหมาะสม สังเกตพฤตกิ รมนักเรยี น 3. วัดผลประเมินผลตรงตามเน้อื หา เงื่อนไขความรู้ เงอื่ นไขคณุ ธรรม 1. รู้จักเทคนิคการสอนทีส่ ่งเสรมิ กระบวนการคดิ และนักเรียน 1. มคี วามขยัน เสยี สละ และมุ่งม่นั ในการจดั หาสื่อมาพัฒนา สามารถเรยี นรูไ้ ด้อย่างมคี วามสุข นกั เรยี นให้บรรลตุ ามจดุ ประสงค์ 2. มคี วามอดทนเพื่อพฒั นานกั เรยี นโดยใชเ้ ทคนคิ การสอนท่ี หลากหลาย นกั เรียน ความพอประมาณ ความมเี หตุผล การมภี ูมคิ ุม้ กนั ในตวั ที่ดี 1. การใชเ้ วลาในการทากจิ กรรม/ภาระงาน 1. ฝึกทกั ษะการอา่ นท่เี หมาะสมกับวยั 1. วางแผนการศึกษาใบงาน/ใบกจิ กรรม ได้อย่างเหมาะสม ทันเวลา 2. ฝกึ ทักษะการเขียนที่เหมาะสมกบั วยั 2. นาความรูเ้ รอื่ ง ทักษะการอ่าน การเขียน 2. เลอื กใชส้ ่ือไดเ้ หมาะสมกับการจดั การ 3.ฝกึ ทักษะการพดู ท่ีเหมาะสมกับสถานการณ์ การพูดและการฟงั ของมนษุ ย์ไปใชใ้ น เรยี นการสอน 4.ฝกึ ทกั ษะการฟังและการปฏิบัติตามคาสงั่ ได้ ชวี ติ ประจาวนั ได้ เหมาะสมกบั วัย เงอื่ นไขความรู้ เง่อื นไขคุณธรรม 1. มีความรเู้ รื่องทักษะการอ่านและการเขียนภาษาไทยท่ีถูกตอ้ งมสี ว่ น 1. มคี วามรบั ผิดชอบ และปฏบิ ัติตามข้อตกลงของกลุ่ม รว่ มในการอนุรักษ์ภาษาไทยและเปน็ แบบอย่างในการใชภ้ าษาไทย 2. มสี ติ มีสมาธชิ ่วยเหลอื กันในการทางานร่วมกัน อย่างถูกต้องตลอดจนสามารถสร้างจัดทาชิน้ งาน ผลงานและใบงานได้ ตามวตั ถุประสงค์ ส่งผลตอ่ การพฒั นา 4 มิติใหย้ ่งั ยืนยอมรบั ตอ่ การเปลย่ี นแปลงในยุคโลกาภวิ ฒั น์ วตั ถุ สังคม สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม ความรู้ (K) มีความรู้ความเข้าใจในหลักการใช้ มคี วามร้แู ละเขา้ ใจ มีความรแู้ ละเขา้ ใจ มีความรแู้ ละเข้าใจการ ภาษาไทย ทกั ษะการฟงั พูด อา่ น เกย่ี วกบั ส่งิ แวดล้อม ชว่ ยเหลอื แบง่ ปัน และเขียน และส่งิ ต่างๆรอบตวั ทกั ษะ (P) สามารถสรา้ งช้ินงาน ผลงาน ใบงาน ทางานไดส้ าเรจ็ ตาม ใช้แหลง่ เรียนรู้โดยไม่ ช่วยเหลือ แบ่งปนั ซึง่ แบบทดสอบเรื่องการพดู การเขียน เป้าหมาย ดารงชีวิตได้ ทาลายสง่ิ แวดลอ้ ม กนั และกนั ภาษาไทยและการใชภ้ าษาไทยไดถ้ ูกต้อง อย่างมีความสขุ ตรงตามวตั ถุประสงค์ คา่ นิยม (A) เห็นประโยชน์ของการเรียนรู้ เกย่ี วกับ เหน็ คุณค่า และ เหน็ คุณคา่ ของการใช้ ปลกู ฝงั นิสยั การ การมสี ว่ นร่วมในการอนรุ กั ษภ์ าษาไทย ภาคภูมิใจในการ แหล่งเรียนร้โู ดยไม่ ช่วยเหลือแบง่ ปัน และเห็นคุณค่าของภาษาไทย ทางานรว่ มกนั ได้ ทาลายสิ่งแวดล้อม สาเรจ็

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 เรือ่ งของเธอ ของฉัน กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย วิชา ภาษาไทย รหสั วิชา ท11101 ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 1 จานวนแผนการจัดการเรียนรู้ 6 แผน เวลาเรยี น 10 ชว่ั โมง ครผู ูส้ อน นางสาววรรณภา เคนไชยวงค์ โรงเรยี นวัดพืชนมิ ิต (คาสวัสด์ิราษฎรบ์ ารงุ ) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ัด มาตรฐาน ท 1.1 ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรแู้ ละความคิดเพ่อื นาไปใชต้ ัดสนิ ใจ แกป้ ัญหาในการดาเนินชวี ิต และมี นิสัยรักการอา่ น ตวั ชวี้ ดั ป.1/1 อ่านออกเสียงคาและข้อความส้ัน ๆ ตัวชว้ี ัด ป.1/2 บอกความหมายของคาและข้อความท่ีอา่ น มาตรฐาน ท 2.1 ใช้กระบวนการเขยี นเขียนส่ือสาร เขยี นเรยี งความ ยอ่ ความ และเขยี นเรื่องราวในรปู แบบต่าง ๆ เขียน รายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นควา้ อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ตวั ชี้วดั ป.1/1 คดั ลายมอื ตวั บรรจงเต็มบรรทัด มาตรฐาน ท 4.1 เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและพลังของภาษา ภูมิปัญญา ทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ ตัวชี้วัด ป.1 /1 บอกและเขยี นพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ และเลขไทย ตวั ชีว้ ดั ป.1 /2 เขยี นสะกดคาและบอกความหมาย ของคา มาตรฐาน ท 5.1 เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอยา่ งเห็นคุณคา่ และ. นามา ประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตจรงิ . ตัวชี้วัด ป.1/2 ท่องจาบทอาขยานตามที่กาหนด และบทรอ้ ยกรองทม่ี คี ณุ คา่ ตามความสนใจ 2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด ทกั ษะการอ่าน ผู้เรียนตอ้ งเข้าใจ หลกั การอา่ นแจกลกู สะกดคาก่อน เพ่อื เป็นพน้ื ฐานในการอ่านออกเสียงคา,ขอ้ ความ, ประโยคและเน้ือเรือ่ งไดอ้ ย่างถกู ต้องชัดเจนเพื่อนาไปส่กู ารอา่ นและเขยี นพยัญชนะสระ วรรณยกุ ต์ และเลขไทยได้ถูกตอ้ ง สามารถอธิบายความหมายของคาและขอ้ ความ ตอบคาถามจากเรอื่ งทอ่ี า่ นได้ ทักษะการอ่านการเขียน ตอ้ งหมั่นฝกึ ฝนอยู่ เป็นประจาเรม่ิ จากการฝึกอา่ นและเขยี นคาท่ีง่ายไปหาเรื่องท่ียากขึ้นฝกึ อ่านและเขียนจากคาศพั ท์บทเพลง บทอาขยาน อ่าน แล้วจะทาใหเ้ กิดความเพลดิ เพลนิ สนุกสนาน มีนสิ ัยรักการอ่าน 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง 1) การอา่ นแจกลูกสะกดคาประสมสระ เ-ีย สระ เ-ือ 2) การอา่ นสะกดคาและบอกความหมายของคาจากเร่ืองที่อ่าน 4. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน 4.1 ความสามารถในการสอื่ สาร 4.2 ความสามารถในการคดิ 4.3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ

5. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ เคร่ืองมือ เกณฑ์ 1. มวี ินัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 9 (ประเมนิ ตามสภาพ 3. มุง่ มนั่ ในการทางาน จรงิ ) 6. ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบฝึกอ่าน รอ้ ยละ 70 ผ่านเกณฑ์ 1. อา่ นสะกดคา 2. เขยี นตามคาบอก แบบฝกึ เขียนตามคาบอก ร้อยละ 70 ผา่ นเกณฑ์ 3. คัดลายมอื 4. แต่งประโยค แบบฝกึ เขียนคาประกอบภาพ ร้อยละ 70 ผ่านเกณฑ์ 5. ท่องบทอาขยาน 6. เขียนคาประกอบภาพ แบบฝกึ คัดลายมอื ร้อยละ 70 ผ่านเกณฑ์ 7.การวัดและการประเมินผล แบบฝึกแต่งประโยค รอ้ ยละ 70 ผ่านเกณฑ์ วิธีการ แบบฝึกหดั จับคู่คากบั ภาพ รอ้ ยละ 70 ผ่านเกณฑ์ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ทดสอบอ่านรายบคุ คล ผ่านเกณฑ์ ทดสอบเขียนตามคาบอก ตรวจแบบฝกึ เขยี นคาประกอบภาพ ตรวจแบบฝกึ คดั ลายมอื ตรวจแบบฝึกแต่งประโยค ตรวจแบบฝกึ อา่ นรู้เร่อื ง สังเกตความมวี ินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งม่นั ใน การทางาน 8. กิจกรรมการเรยี นรู้ กิจกรรมท่ี 1 เรือ่ งการอา่ นแจกลูกสะกดคา ( เวลา 3 ชั่วโมง) ชัว่ โมงที่ 1 การอา่ นแจกลกู สะกดคาสระ เ-ีย มี/ไมม่ ีตัวสะกด 1.) ครูนาบัตรคาสระ เ-ยี ใหน้ กั เรยี นดูให้นักเรยี นทุกคนออกเสียงพรอ้ มกัน 2.) ครสู นทนากับนกั เรยี น สระ เ-ีย เป็นสระเสียงสั้นหรือเสยี งยาวครอู อกเสียงให้นกั เรียนฟังนกั เรียนออกเสยี งตาม 3.) ครูอธบิ ายหลกั การประสมคาสระ เ-ยี ไมม่ ตี ัวสะกด 4.1 ออกเสยี งพยัญชนะต้นเชน่ ก ออกเสยี งวา่ กอ 4.2 ประสมกับเสียงสระ เชน่ เ-ีย ออกเสียงว่า เอีย เชน่ เกยี อ่านแจกลูกสะกดคาได้ว่า กอ-เอีย-เกีย นักเรียนฝึกอา่ นแจกลูกสะกดพรอ้ มกนั ทกุ คนจนคลอ่ ง เจีย เสยี เปีย 4.3 ออกเสียงพยัญชนะทา้ ย คอื ตัวสะกด เช่น ดอ-เอยี -งอ-เตียง 4.) ครอู ธิบายหลักการประสมคาสระ เ-ยี มตี วั สะกด 5.) ครสู ุม่ นักเรียนหลาย ๆคนบอกหลกั การอา่ นแจกลกู สะกดคา และครอู ธิบายเพิ่มเตมิ ใหน้ กั เรียนเข้าใจย่ิงข้ึน นกั เรยี นฝึกอา่ นแจกลกู สะกดพร้อมกนั ทกุ คนจนคล่อง

6.) ครทู ดสอบทีละคน คนละ 10 คาโดยเปน็ คาที่ไมซ่ า้ กนั ทุกคนตอ้ งอา่ นใหไ้ ด้ 7 คาจาก 10 คาจึงจะผา่ นเกณฑ์ ถา้ ใครไมถ่ งึ 7 คาให้ฝึกอา่ นแล้วมาสอบใหม่จนกว่าจะผ่าน 7.) ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรุปวธิ ีการอา่ นแจกลูกสะกดคาพร้อมกนั นกั เรียนฝกึ อ่านแจกลกู สะกดคาจากบตั รคา นอกตาราเรยี นที่ครเู ตรยี มมาเปน็ การสรปุ บทเรยี น ชว่ั โมงที่ 2 การอ่านแจกลูกสะกดคาสระ เ-ือ มี/ไม่มตี ัวสะกด 1.) ครนู าบัตรคาสระ เ-อื ใหน้ ักเรยี นดูใหน้ ักเรยี นทกุ คนออกเสียงพรอ้ มกนั 2.) ครูออกเสยี งสระ เ-อื ใหฟ้ ังนักเรยี นออกเสยี งตามครสู นทนากับนักเรียนสระ เ-อื เปน็ เสียงส้นั หรือเสยี งยาว ครู อธิบายใหน้ ักเรยี นฟงั 3.) ครอู ธิบายหลักการประสมคาสระ เ-อื ไมม่ ีตวั สะกด เชน่ กอ -เออื -เกอื นกั เรียนฝกึ อา่ นแจกลูกสะกดคาพรอ้ ม กันทุกคนจนคลอ่ ง 4.) ครูอธบิ ายหลกั การประสมคาสระ เ-อื มีตัวสะกด เช่น รอ- เออื – งอ –เรือง นกั เรยี นฝกึ อา่ นแจกลกู สะกด พร้อมกนั ทุกคนจนคล่อง 5.) ครทู ดสอบทีละคน คนละ 10 คาโดยเปน็ คาท่ีไมซ่ ้ากัน ทกุ คนต้องอ่านให้ได้ 7 คาจาก 10 คาจึงจะผ่านเกณฑ์ ถ้าใครไม่ถงึ 7 คาให้ฝึกอา่ นแล้วมาสอบใหม่จนกวา่ จะผา่ น 6.) ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรปุ วิธกี ารอ่านแจกลูกสะกดคาพร้อมกัน นกั เรียนฝกึ อา่ นแจกลูกสะกดคาสระ เ-อื ม/ี ไม่มีตัวสะกดจากบตั รคานอกตาราเรียนท่ีครเู ตรียมมาเปน็ การสรุปบทเรยี น ช่วั โมงที่ 3 การอา่ นแจกลูกสะกดคาจากเรอ่ื งท่ีอา่ น 1.) รว่ มกนั สนทนากบั นกั เรยี น จากบทเรียนทเี่ รียนผา่ นมา เปน็ การนาเข้าสบู่ ทเรียนเรือ่ งตอ่ ไป 2.) ครูเขยี นคาวา่ ข้าว กระเปา๋ รองเท้า เพอ่ื น น้าหก แบง่ ปนั เก็บ ตุ๊กตา กระดานดาครนู านักเรยี นอา่ นสะกดคา นักเรยี นอ่านสะกดคาตามพรอ้ มกันจนคล่อง จากนัน้ ใหอ้ า่ นทลี ะคน 3.) ครทู ดสอบอ่านทีละคน นักเรยี นตอ้ งอา่ นให้ไดร้ ้อยละ 70 ขนึ้ ไปจึงผา่ นเกณฑ์ คนที่ไมผ่ ่านตอ้ งฝึกอ่านจนคล่อง แลว้ มาสอบใหมจ่ นกวา่ จะผ่าน 4.) นักเรียนทอ่ี ่านผา่ นเกณฑ์แล้ว ครใู หท้ าแบบฝกึ หัดสง่ ครู ครูตรวจสอบความถูกตอ้ งและเฉลย 5.) นักเรียนอ่านออกเสียงคาเรอ่ื ง เพ่อื นกัน ตัง้ แตห่ นา้ แรกจนถึงหน้าสุดทา้ ยเปน็ การสรุปบทเรยี น กิจกรรมท่ี 2 เรือ่ ง การเขียนสะกดคา ( เวลา 3 ช่วั โมง) ชั่วโมงที่ 1. การเขยี นสะกดคาสระ เ-ีย มี/ไม่มีตัวสะกด 1.) ครูนาบัตรคาประสมสระ เ-ยี มี/ไมม่ ีตัวสะกดใหน้ กั เรยี นอ่านพรอ้ มกนั เป็นการทบทวน 2.) ครูอธบิ ายหลักการเขยี นสะกดคาและยกตวั อย่างการเขียนใหน้ กั เรยี นดูเปน็ ตัวอย่างนกั เรยี นสงั เกต จดจา นักเรียนฝกึ อ่านสะกดคาพร้อมกันอกี คร้งั จนคล่อง 3.) ครใู ห้นกั เรยี นเขียนตามคาบอกของครู 10 คา ครูตรวจผลงาน สาหรบั นกั เรียนทีไ่ มผ่ า่ นให้คัดคาที่เขียนไม่ได้ คาละ 2 ครัง้ แลว้ มาสอบเขยี นใหม่จนกว่าจะผ่าน 4.) ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรุปวิธกี ารเขยี นสะกดคาสระ เ-ยี ม/ี ไมม่ ตี วั สะกดเป็นการสรปุ บทเรยี น ชั่วโมงที่ 2. การเขยี นสะกดคาสระ เ-อื ม/ี ไมม่ ีตัวสะกด 1.) ครนู าบัตรคาประสมสระ เ-อื มี/ไมม่ ีตวั สะกดใหน้ กั เรียนอา่ นพรอ้ มกันเปน็ การทบทวน นักเรยี นสงั เกตและ จดจาลักษณะของคาที่ประสมสระ เ-อื มี/ไม่มตี ัวสะกด

2.) ครอู ธิบายหลกั การเขียนสะกดคาและยกตัวอยา่ งการเขียนใหน้ ักเรยี นดูเปน็ ตัวอย่างนกั เรยี นสงั เกต จดจา นกั เรยี นฝึกอา่ นสะกดคาพรอ้ มกันอกี ครง้ั จนคลอ่ ง 3.) ครใู หน้ กั เรียนเขียนตามคาบอกของครู 10 คา ครตู รวจผลงานนกั เรยี นต้องเขยี นสะกดคาถูกตอ้ ง 7 คา จาก10 คาจึงผ่านเกณฑ์สาหรับคนทผี่ ่านเกณฑค์ รใู ห้ทาใบงานสง่ ครู สว่ นคนทไ่ี ม่ผ่านให้ คัดคาทไี่ มผ่ ่าน 2 ครงั้ และฝกึ เขยี นใหม่จนกว่าจะผ่าน 4.) ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรุปวธิ ีการเขยี นสะกดคาประสมสระ เ-อื ม/ี ไมม่ ตี ัวสะกด เป็นการสรุปบทเรยี น ชวั่ โมงท่ี 3. การเขียนสะกดคาจากเรอ่ื งทอี่ า่ น 1.) ครใู หน้ ักเรยี นอา่ นบทอ่านจากเพื่อนกัน เปน็ การทบทวน นักเรยี นสังเกต จดจาลกั ษณะการเขียนพยัญชนะ สระ วรรณยกุ ต์ของคาแตล่ ะคา 2.) ครอู ธิบายหลักการเขียนสะกดคาและยกตวั อย่างการเขียนให้นกั เรยี นดูเปน็ ตัวอยา่ งนักเรยี นสังเกต จดจา นกั เรียนฝกึ อา่ นสะกดคาพรอ้ มกนั อีกครั้งจนคล่อง 3.) ครใู หน้ กั เรียนเขียนตามคาบอกของครู 10 คา ครตู รวจผลงานนกั เรียนตอ้ งเขียนสะกดคาถูกต้อง 7 คา 10 คา จงึ ผ่านเกณฑ์ สาหรับคนที่ผ่านเกณฑ์ครใู ห้ทาใบงานส่งครู สว่ นคนทไ่ี ม่ผา่ นให้คดั คาที่ไม่ผ่าน 2 คร้งั และ ฝึกเขียน ใหมจ่ นกว่าจะผ่าน 4.) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปวธิ กี ารเขยี นสะกดคาจากเรอื่ งภูผา เป็นการสรุปบทเรยี น กิจกรรมท่ี 3 การอ่านและบอกความหมายของคา เวลา 1 ช่ัวโมง 1.) ครูตดิ บตั รคาและรปู ภาพจากรจู้ ักคานาเรื่อง บนกระดานดา ใหน้ ักเรียนดูและชว่ ยกันตอบคาถาม 2.) นกั เรยี นอา่ นหนงั สือเรียน วรรณคดลี านา หนา้ 5 พรอ้ มกัน ครูสมุ่ อา่ นทีละคนครแู นะนาแกไ้ ข ขอ้ ผิดพลาด เปน็ รายบคุ คล 3.) ร่วมกันเล่นเกม “ ทายคาด้วยท่าทาง” วธิ ีเล่นคอื ครูกาหนดภาษาท่าทางไวด้ งั นี้ เล่น ใชท้ า่ ทางใหอ้ ีกคนทาย กระเปา๋ ใช้ทา่ ทางใหอ้ กี คนทาย รองเทา้ ใชท้ า่ ทางให้อีกคนทาย นา้ หก ใชท้ า่ ทางใหอ้ กี คนทาย 4.) นกั เรียนทาแบบฝกึ หัด จับคคู่ ากบั ภาพ จากนั้นนาสง่ ครู ครเู ฉลยและตรวจสอบความถูกต้อง 5.) ครูและนกั เรียนสรุปบทเรียนเรอื่ งการอา่ นวเิ คราะห์ คารว่ มกนั พรอ้ มกันเปน็ การสรุปบทเรียน กจิ กรรมท่ี 4 การคดั ลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทดั เวลา 1 ชว่ั โมง 1.) ครสู นทนากับนักเรยี นเรอื่ งรูปแบบตวั อักษร ครูนารูปแบบตัวอักษรแบบกระทรวงศึกษาธกิ ารให้นกั เรยี นดู นกั เรียนสงั เกตลกั ษณะตวั อักษร 2.) ครอู ธบิ ายหลกั ปฏบิ ัติในการเขยี นตวั อกั ษรท่ีถูกต้อง โดยให้คลอบคลุมประเดน็ ตามทก่ี าหนดดงั นี้ 2.1 ความถูกต้องของรปู แบบตัวอกั ษร 2.2 มาตรฐานของตวั อักษร 2.3 การเว้นชอ่ งไฟ 2.4 การวางตาแหน่งพยญั ชนะ สระและวรรณยุกต์ 3.) จากนน้ั เขียนเปน็ ตวั อย่างบนกระดานใหน้ กั เรยี นดู อยา่ งช้าๆ พรอ้ มอธิบายประกอบ 4.) ครใู หน้ ักเรียนช่วยกันบอกหลกั เกณฑ์การคัดลายมอื ครูสมุ่ นักเรยี นยืนขน้ึ ตอบทลี ะคน นกั เรยี นช่วยกนั ตอบถา้ เพ่ือนตอบไมไ่ ด้ ครสู รุปเพมิ่ เติม

5.) ครมู อบหมายให้นกั เรยี นแต่ละคนคดั ลายมอื ตัวบรรจงเต็มบรรทดั ตัวอักษรแบบกระทรวงศึกษาธิการจากหนังสอื ภาษาพาทเี รื่องเพื่อนกันในหน้า 3 ความยาว 4 บรรทดั เสร็จแล้วรวบรวมส่งครู 6.) ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรุปหลักการคดั ลายมือตวั บรรจงเตม็ บรรทัดเปน็ การสรปุ บทเรยี น กิจกรรมท่ี 5 การแต่งประโยค เวลา 1 ช่ัวโมง 1.) ครนู าแถบประโยคมาใหน้ ักเรียนดู นักเรียนอ่านแถบประโยคพรอ้ มกนั ประโยคที่มี 2.) ครนู าแถบประโยคติดบนกระดาน ครูอธิบายลักษณะของประโยค ส่วนประกอบของ ใจความสมบรู ณ์ ประโยคท่ีไมไ่ ด้ใจความประโยคสามสว่ นประกอบด้วย ประธาน+ กริยา+กรรม เช่น นอ้ งใสร่ องเทา้ น้อง= ประธาน ใส่= กรยิ า รองเท้า= กรรม ------เปน็ ประโยคท่มี ีใจความสมบูรณ์ 3.) ครูยกตัวอย่างรปู ภาพบนกระดานใหน้ กั เรียนช่วยกนั แตง่ ใหไ้ ด้ประโยคทีส่ มบรู ณ์ 4.) ครูกาหนดคาศัพท์ประกอบรูปภาพใหน้ กั เรยี น 10 คาให้นกั เรยี นทุกคนทาแบบฝึกหดั แตง่ ประโยคจากคาที่ครู กาหนดให้ เสรจ็ แล้วสง่ ครู ครูตรวจผลงานนักเรยี นเปน็ รายบคุ คล 5.) ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรุปบทเรยี นเรอื่ งการแตง่ ประโยคเปน็ การสรุปบทเรียน กิจกรรมท่ี 6 การท่องบทอาขยาน เวลา 1 ช่วั โมง 1.) ครูนาบทอาขยานตดิ บนกระดานให้นักเรียนดู ครแู ละนักเรยี นสนทนาเกยี่ วกับการนอนสมยั ยงั เดก็ 2.) ครูนาบทอาขยาน นข่ี องของเธอ มาติดบนกระดานใหน้ กั เรียนดู นกั เรยี นฝึกอา่ นบท ครูนานักเรยี นทอ่ งบท อาขยาน เปน็ ทานองทไี พเราะ นกั เรยี นตามครูและฝกึ ท่องจนคลอ่ ง 3.) นักเรยี นทดสอบท่องบทอาขยาน ทีละกลุม่ และครทู ดสอบทีละคนจนครบทกุ คน โดยทกุ คนต้อง ทอ่ งบท อาขยาน ใหถ้ กู ตอ้ งทั้งเน้ือและทานองจงึ จะผ่านเกณฑ์ 4.) ครแู ละนักเรียนทอ่ งบทอาขยาน ร่วมกันเปน็ การสรุปบทเรยี น 9. สือ่ /แหล่งการเรียนรู้ 9.1 สื่อการเรยี นรู้ 1) หนังสือเรียน วรรณคดลี านา ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 1. 4) บทอาขยาน 5) แบบฝกึ อ่านแจกลกู สะกดคา 6) แบบฝกึ เขียนตามคาบอก 7) แบบฝึกเขียนคาประกอบภาพ 8) แบบฝึกแต่งประโยค 9) แบบฝกึ คดั ลายมือ 9.2 แหล่งการเรยี นรู้ 1) ห้องสมดุ 2) อนิ เทอรเ์ น็ต

แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 1 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย วิชา ภาษาไทย ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 1 หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 3 เรื่องของเธอ ของฉัน เวลา 3 ชว่ั โมง เรือ่ ง การอ่านแจกลกู สะกดคา 1. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด การอา่ นแจกลกู สะกดคาเปน็ กระบวนการขนั้ พนื้ ฐานของการนา เสียงพยญั ชนะตน้ สระ วรรณยุกต์ และเสียง ตัวสะกดมาประสมเสยี งกนั ทาให้ออกเสียงคาต่าง ๆทีม่ คี วามหมาย ในภาษาไทยการแจกลกู และการสะกดคา บางครั้งเรียก รวมกนั ว่า “การแจกลูกสะกดคา ” 2. ตวั ชวี้ ัด ท1.1ป.1/1 อ่านออกเสียงคาและข้อความส้ัน ๆ 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อา่ นแจกลูกสะกดคาสระ เ-ยี ม/ี ไม่มีตวั สะกดไดถ้ กู ต้อง 7 คาจาก 10 คา 2. อา่ นแจกลูกสะกดคาสระ เ-อื ม/ี ไมม่ ตี ัวสะกดได้ถูกตอ้ ง 7 คาจาก 10 คา 3. อ่านสะกดคาจากเรื่องที่อา่ นไดถ้ ูกต้องร้อยละ 70 4. สาระการเรยี นรู้ 4.1 สาระการเรียนร้แู กนกลาง - หลกั การอ่านแจกลกู สะกดคา 4.2 สาระการเรยี นรทู้ ้องถ่นิ - บทอาขยาน 5. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคิด 6. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 7. การวดั และประเมนิ ผล วธิ กี าร เครอ่ื งมือ เกณฑ์ ประเมนิ การอา่ น แบบฝกึ อา่ น อา่ นไดถ้ กู ต้อง7คาจาก10คา หนงั สือเรยี นภาษาพาทีชน้ั ป.1 อ่านเร่ืองไดถ้ กู ตอ้ งรอ้ ยละ 70 สังเกตการใฝเ่ รยี นรู้ ตรงตอ่ เวลา มคี วาม แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ รับผิดชอบ และมงุ่ มนั่ ในการทางาน

8. กิจกรรมการเรยี นรู้ ช่ัวโมงท่ี 1 การอ่านแจกลกู สะกดคาสระ เ-ีย มี/ไม่มตี ัวสะกด ใช้วธิ ีสอนแบบบนั ได 6 ขน้ั ; ขั้นท่ี 1 ฝึกอา่ นทกุ วันจากง่ายไปยาก ขนั้ นา 1.) ครูนาบตั รคาสระ เ-ยี ใหน้ ักเรียนดูใหน้ ักเรยี นทุกคนออกเสียงพรอ้ มกนั ขั้นสอน 2.) ครสู นทนากับนกั เรยี น สระ เ-ีย เปน็ สระเสียงส้ันหรือเสยี งยาวครอู อกเสยี งใหน้ ักเรยี นฟังนกั เรียนออกเสียงตาม 3.) ครอู ธบิ ายหลกั การประสมคาสระ เ-ีย ไมม่ ีตวั สะกด 3.1 ออกเสียงพยญั ชนะต้นเชน่ ก ออกเสยี งวา่ กอ 3.2 ประสมกับเสยี งสระ เชน่ เ-ีย ออกเสียงวา่ เอีย เชน่ เกยี อา่ นแจกลูกสะกดคาได้วา่ กอ-เอีย-เกีย นักเรยี นฝึกอา่ นแจกลูกสะกดพรอ้ มกนั ทกุ คนจนคล่อง เจีย เสีย เปีย 3.3 ออกเสยี งพยัญชนะทา้ ย คือ ตวั สะกด เชน่ ดอ-เอยี -งอ-เตียง 4.) ครอู ธิบายหลกั การประสมคาสระ เ-ีย มตี ัวสะกด 5.) ครสู ุ่มนักเรยี นหลาย ๆคนบอกหลกั การอา่ นแจกลกู สะกดคา และครูอธิบายเพ่มิ เติมใหน้ ักเรียนเขา้ ใจย่ิงข้ึน นกั เรยี นฝึกอ่านแจกลูกสะกดพร้อมกันทุกคนจนคลอ่ ง 6.) ครูทดสอบทีละคน คนละ 10 คาโดยเปน็ คาท่ีไม่ซา้ กัน ทกุ คนตอ้ งอ่านให้ได้ 7 คาจาก 10 คาจึงจะผา่ นเกณฑ์ ถา้ ใครไมถ่ งึ 7 คาให้ฝึกอา่ นแลว้ มาสอบใหม่จนกวา่ จะผ่าน ขน้ั สรุป 7.) ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ วิธีการอ่านแจกลูกสะกดคาพร้อมกนั นักเรยี นฝึกอา่ นแจกลกู สะกดคาจากบัตรคา นอกตาราเรยี นท่ีครเู ตรียมมาเปน็ การสรุปบทเรียน ชั่วโมงท่ี 2 การอา่ นแจกลูกสะกดคาสระ เ-ือ ม/ี ไม่มตี ัวสะกด ใช้วธิ สี อนแบบบันได 6 ข้นั ; ขัน้ ท่ี 1 ฝกึ อา่ นทกุ วันจากง่ายไปยาก ข้นั นา 1.) ครนู าบัตรคาสระ เ-อื ใหน้ ักเรยี นดูให้นักเรียนทกุ คนออกเสียงพร้อมกนั ข้นั สอน 2.) ครอู อกเสียงสระ เ-อื ให้ฟงั นกั เรียนออกเสยี งตามครสู นทนากับนักเรียนสระ เ-อื เปน็ เสยี งสั้นหรือเสียงยาว ครู อธิบายให้นกั เรียนฟงั 3.) ครอู ธบิ ายหลกั การประสมคาสระ เ-อื ไม่มีตวั สะกด เช่น กอ -เออื -เกอื นกั เรียนฝกึ อา่ นแจกลกู สะกดคาพรอ้ ม กนั ทุกคนจนคล่อง 4.) ครอู ธิบายหลกั การประสมคาสระ เ-อื มตี วั สะกด เชน่ รอ- เออื – งอ –เรือง นกั เรียนฝกึ อา่ นแจกลูกสะกด พร้อมกนั ทกุ คนจนคลอ่ ง 5.) ครูทดสอบทีละคน คนละ 10 คาโดยเป็นคาท่ีไมซ่ า้ กนั ทุกคนตอ้ งอา่ นใหไ้ ด้ 7 คาจาก 10 คาจึงจะผ่านเกณฑ์ ถ้าใครไม่ถึง 7 คาให้ฝกึ อา่ นแล้วมาสอบใหม่จนกว่าจะผ่าน ขนั้ สรปุ 6.) ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรุปวิธีการอา่ นแจกลกู สะกดคาพรอ้ มกัน นกั เรยี นฝึกอ่านแจกลกู สะกดคา

สระ เ-อื ม/ี ไม่มตี วั สะกดจากบตั รคานอกตาราเรียนท่ีครเู ตรียมมาเปน็ การสรปุ บทเรยี น ชว่ั โมงท่ี 3 การอ่านแจกลูกสะกดคาจากเรือ่ งท่ีอ่าน ใชว้ ธิ ีสอนแบบบันได 6 ขน้ั ; ขัน้ ที่ 1 ฝกึ อ่านทกุ วันจากงา่ ยไปยาก กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้นั นา 1.) ร่วมกนั สนทนากบั นักเรียน จากบทเรียนท่ีเรียนผา่ นมา เปน็ การนาเขา้ สู่บทเรยี นเร่อื งตอ่ ไป ขั้นสอน 2.) ครูเขียนคาวา่ ขา้ ว กระเป๋า รองเทา้ เพื่อน น้าหก แบง่ ปนั เก็บ ตุ๊กตา กระดานดาครนู านักเรียนอา่ นสะกดคา นกั เรยี นอา่ นสะกดคาตามพรอ้ มกันจนคลอ่ ง จากนน้ั ให้อา่ นทลี ะคน 3.) ครทู ดสอบอา่ นทีละคน นักเรยี นตอ้ งอ่านให้ไดร้ ้อยละ 70 ขึ้นไปจงึ ผา่ นเกณฑ์ คนท่ีไมผ่ ่านต้องฝึกอ่านจนคล่อง แลว้ มาสอบใหมจ่ นกวา่ จะผ่าน 4.) นักเรยี นทีอ่ า่ นผา่ นเกณฑ์แล้ว ครใู ห้ทาแบบฝึกหดั ส่งครู ครูตรวจสอบความถูกตอ้ งและเฉลย ขัน้ สรุป 5.) นักเรียนอ่านออกเสียงคาเรื่องของเธอของฉนั ตงั้ แต่หน้าแรกจนถึงหนา้ สุดท้ายเป็นการสรปุ บทเรียน 9. ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้ 9.1 ส่ือการเรียนรู้ 1) หนงั สือเรยี น วรรณคดลี านา ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 2) แบบฝึกอ่าน 9.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) หอ้ งสมดุ 2) อินเทอร์เนต็

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 1 กล่มุ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย วิชา ภาษาไทย เวลา 3 ชวั่ โมง หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 3 เรือ่ งของเธอของฉนั เร่อื ง การเขียนสะกดคา 1. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด การเขยี นสะกดคา ผ้เู รียนตอ้ งเรียนรูท้ ง้ั ในดา้ นองคป์ ระกอบของคา หลักการเขียนสะกดคา หลกั การประสมคา การวางรปู พยัญชนะต้น สระตวั สะกดและวรรณยกุ ตไ์ ดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งร้จู กั สงั เกตจดจาลักษณะของคาทอ่ี า่ น เพ่อื นาไปสกู่ าร เขยี นคาที่ถกู ตอ้ ง 2. ตวั ช้ีวัด ท 4.1ป.1/2 เขยี นสะกดคาจากเรือ่ งทอ่ี ่าน 3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. เขยี นคาสระ เ-ีย มี/ไม่มีตวั สะกดไดถ้ ูกตอ้ ง 7 คาจาก 10 คา 2. เขียนคาสระ เ-อื ม/ี ไมม่ ีตวั สะกดไดถ้ กู ต้อง 7 คาจาก 10 คา 3. เขียนคาจากเรอื่ งทอ่ี ่านไดถ้ กู ต้อง 7 คาจาก 10 คา 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง - หลักการประสมคา 4.2 สาระการเรียนรทู้ ้องถนิ่ - บทอ่านวิเคราะห์ 5. สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการคดิ 6. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุง่ มัน่ ในการทางาน 7. การวดั และประเมนิ ผล เครอื่ งมอื เกณฑ์ วิธีการ แบบฝึกเขียนตามคาบอก เขยี นสะกดคาถกู ต้อง7คาจาก ตรวจแบบฝึกเขียนตามคาบอก 10คา สงั เกตการใฝเ่ รยี นรู้ ตรงตอ่ เวลา มีความ แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ รบั ผิดชอบ และมงุ่ ม่นั ในการทางาน

8. กิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงท่ี 1. การเขยี นสะกดคาสระ เ-ีย ม/ี ไมม่ ีตัวสะกด ใชว้ ิธีสอนแบบบันได 6 ข้ัน ; ขน้ั ท่ี 2 เขียนตามคาบอกจากสิ่งท่อี า่ น ขน้ั นา 1.) ครูนาบตั รคาประสมสระ เ-ีย ม/ี ไมม่ ีตัวสะกดใหน้ กั เรียนอา่ นพรอ้ มกนั เปน็ การทบทวน ขนั้ สอน 2.) ครูอธบิ ายหลักการเขียนสะกดคาและยกตวั อยา่ งการเขยี นให้นกั เรยี นดูเปน็ ตัวอยา่ งนกั เรยี นสงั เกต จดจา นักเรียนฝกึ อ่านสะกดคาพรอ้ มกันอกี คร้ังจนคลอ่ ง 3.) ครใู ห้นักเรยี นเขยี นตามคาบอกของครู 10 คา ครตู รวจผลงาน สาหรบั นกั เรียนทีไ่ มผ่ า่ นให้คัดคาท่เี ขียนไมไ่ ด้ คาละ 2 ครงั้ แล้วมาสอบเขยี นใหม่จนกวา่ จะผ่าน 4.) ครูและนักเรยี นร่วมกันสรุปวิธีการเขียนสะกดคาสระ เ-ยี มี/ไม่มีตัวสะกดเปน็ การสรุปบทเรยี น ขน้ั สรุป 4.) ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสรปุ วธิ กี ารเขียนสะกดคาสระ เ-ยี มี/ไม่มตี ัวสะกดเปน็ การสรุปบทเรียน ชัว่ โมงที่ 2. การเขียนสะกดคาสระ เ-อื ม/ี ไม่มีตัวสะกด ใชว้ ธิ สี อนแบบบันได 6 ขัน้ ; ข้นั ท่ี 2 เขียนตามคาบอกจากสง่ิ ทอี่ ่าน ขั้นนา 1.) ครนู าบัตรคาประสมสระ เ-อื ม/ี ไมม่ ีตัวสะกดใหน้ ักเรยี นอ่านพร้อมกนั เป็นการทบทวน นกั เรียนสงั เกตและ จดจาลกั ษณะของคาทป่ี ระสมสระ เ-อื มี/ไมม่ ตี ัวสะกด ขน้ั สอน 2.) ครูอธบิ ายหลกั การเขียนสะกดคาและยกตวั อย่างการเขยี นให้นักเรียนดูเป็นตัวอยา่ งนักเรียนสงั เกต จดจา นักเรยี นฝกึ อ่านสะกดคาพร้อมกันอีกครง้ั จนคล่อง 3.) ครูให้นกั เรียนเขียนตามคาบอกของครู 10 คา ครตู รวจผลงานนกั เรยี นต้องเขียนสะกดคาถกู ตอ้ ง 7 คา จาก10 คาจึงผา่ นเกณฑ์สาหรบั คนที่ผ่านเกณฑค์ รใู ห้ทาใบงานส่งครู ส่วนคนทีไ่ ม่ผ่านให้ คัดคาที่ไม่ผ่าน 2 ครัง้ และฝึก เขยี นใหม่จนกว่าจะผา่ น ข้ันสรุป 4.) ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั สรุปวธิ กี ารเขยี นสะกดคาประสมสระ เ-อื มี/ไม่มีตัวสะกด เป็นการสรุปบทเรยี น ชั่วโมงท่ี 3. การเขยี นสะกดคาจากเร่ืองทีอ่ ่าน ใช้วธิ ีสอนแบบบนั ได 6 ข้นั ; ขั้นที่ 2 เขยี นตามคาบอกจากสงิ่ ที่อา่ น ขั้นนา 1.) ครูให้นกั เรยี นอ่านบทอ่านจากเรื่องทผี่ ่านมา เป็นการทบทวน นกั เรียนสงั เกต จดจาลักษณะการเขียนพยัญชนะ สระ วรรณยกุ ตข์ องคาแตล่ ะคา ขั้นสอน 2.) ครูอธิบายหลักการเขียนสะกดคาและยกตัวอย่างการเขยี นใหน้ ักเรยี นดูเปน็ ตวั อย่างนกั เรยี นสงั เกต จดจา นกั เรียนฝกึ อ่านสะกดคาพรอ้ มกนั อกี ครั้งจนคล่อง

3.) ครใู หน้ ักเรียนเขียนตามคาบอกของครู 10 คา ครตู รวจผลงานนักเรียนต้องเขียนสะกดคาถกู ตอ้ ง 7 คา จาก 10 คาจึงผ่านเกณฑ์ สาหรบั คนท่ีผา่ นเกณฑ์ครูให้ทาใบงานสง่ ครู สว่ นคนท่ีไม่ผ่านให้คัดคาทีไ่ มผ่ ่าน 2 ครัง้ และ ฝึก เขยี นใหม่จนกวา่ จะผ่าน ขนั้ สรุป 4.) ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสรปุ วธิ กี ารเขยี นสะกดคาจากเรอ่ื ง เปน็ การสรปุ บทเรยี น 9. สอื่ /แหล่งการเรียนรู้ 9.1 ส่อื การเรยี นรู้ 1) หนังสอื เรยี น วรรณคดลี านา ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 1 2) แบบฝึกอ่าน 3) แบบฝึกเขยี นตามคาบอก 9.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) หอ้ งสมดุ 2) อนิ เทอรเ์ น็ต

แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 3 ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 1 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย วิชา ภาษาไทย เวลา 1 ช่วั โมง หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 เรอื่ งของเธอของฉัน เร่ือง การอ่านและบอกความหมายของคา 1. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด ความหมายของคา คอื สงิ่ ท่คี าจะบอกถึงว่าหมายถงึ อะไร คา มีความหมายวา่ เสียงทีเ่ ปล่งออกมาแล้วตอ้ งมี ความหมายดว้ ย ดังน้ันคาจึงประกอบด้วย เสยี งและความหมายถ้ามแี คเ่ สยี งไมม่ ีความหมายจึงเรยี กว่า พยางค์ สาหรับ นกั เรยี นทีพ่ ึ่งเรมิ่ ฝึกอา่ นใหม่ต้องศกึ ษาความหมายของคาไปด้วย เพ่ือนาไปสู่การใช้คาภาษาไทยท่ีถูกตอ้ ง 2. ตวั ช้ีวัด ท 1.1ป.1/2 บอกความหมายของคาท่ีอา่ น 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อ่านและบอกความหมายของคาจากเรอ่ื งทอ่ี า่ นได้ 4. สาระการเรยี นรู้ 4.1 สาระการเรยี นรู้แกนกลาง - การวเิ คราะห์คา - การบอกความหมายของคา 4.2 สาระการเรียนรู้ทอ้ งถน่ิ - บทอ่านวเิ คราะห์ 5. สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น 5.1 ความสามารถในการส่อื สาร 5.2 ความสามารถในการคิด 6. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทางาน 7. การวัดและประเมินผล เครอ่ื งมือ เกณฑ์ วธิ กี าร แบบฝกึ หดั จับคู่คากับภาพ จบั คูค่ าไดถ้ กู ตอ้ ง 7 คาจาก ตรวจแบบฝกึ หัด 10 คา สังเกตการใฝ่เรียนรู้ ตรงต่อเวลา มีความ แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ รับผดิ ชอบ และมงุ่ มั่นในการทางาน

8. กิจกรรมการเรยี นรู้ เรื่องท่ี การอ่านและบอกความหมายของคา เวลา 1 ช่วั โมง ใช้วิธสี อนแบบบนั ได 6 ขั้น ; ขน้ั ท่ี 3 เขยี นคาประกอบภาพ ขนั้ นา 1.) ครูติดบัตรคาและรปู ภาพจากรูจ้ ักคานาเร่ือง บนกระดานดา ให้นกั เรียนดแู ละชว่ ยกันตอบคาถาม ข้นั สอน 2.) นกั เรียนอ่านหนงั สอื เรียน ชุดวรรณคดีลานา หน้า 25 พรอ้ มกัน ครูส่มุ อา่ นทีละคนครูแนะนาแกไ้ ข ข้อผดิ พลาดเปน็ รายบุคคล 3.) รว่ มกันเล่นเกม “ ทายคาดว้ ยทา่ ทาง” วิธเี ล่นคอื ครูกาหนดภาษาท่าทางไวด้ งั นี้ เล่น ใชท้ า่ ทางใหอ้ กี คนทาย กระเปา๋ ใช้ทา่ ทางใหอ้ ีกคนทาย รองเทา้ ใช้ทา่ ทางให้อกี คนทาย น้าหก ใช้ท่า ทางใหอ้ กี คนทาย 4.) นักเรียนทาแบบฝกึ หัด จบั คู่คากบั ภาพ จากนั้นนาสง่ ครู ครเู ฉลยและตรวจสอบความถูกตอ้ ง ขนั้ สรุป 5.) ครแู ละนกั เรยี นสรุปบทเรียนเรอ่ื งการอ่านวิเคราะห์ คาร่วมกัน พร้อมกันเป็นการสรุปบทเรยี น 9. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ 9.1 สือ่ การเรยี นรู้ 1) หนงั สอื เรยี น วรรณคดลี านา ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 2) แบบฝกึ หดั จับคู่คากบั ภาพ 9.2 แหล่งการเรียนรู้ 1. ห้องสมดุ 2. อินเทอร์เนต็

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 4 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย วิชา ภาษาไทย ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 1 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 เรอ่ื งของเธอของฉัน เวลา 1 ชวั่ โมง เร่ือง การคัดลายมอื ตัวบรรจงเต็มบรรทดั 1. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การคดั ลายมอื เป็นการเขยี นฝกึ เขียนตัวอกั ษรไทยใหถ้ ูกต้องตามหลักการเขียนโดยการเขียนให้อ่านง่าย มีชอ่ งไฟ และวรรคตอนเหมาะสม ตวั อักษรเสมอกัน วางพยญั ชนะ สระและวรรณยกุ ต์ถกู ท่ี ตวั สะกดการนั ตถ์ กู ตอ้ งและลายมอื สวยงามเปน็ ระเบียบ 2. ตวั ชี้วัด ท 2.1 ป.1/1 คัดลายมอื ตวั บรรจงเต็มบรรทดั 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. คัดลายมอื ตวั บรรจงเต็มบรรทัดตามรปู แบบการเขยี นตัวอกั ษรไทยได้ถกู ต้องและสวยงาม 4. สาระการเรยี นรู้ 4.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง - การคัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทดั ตามรูปแบบการเขยี นตวั อักษรไทย 4.2 สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถิ่น - บทอาขยาน 5. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น 1. ความสามารถในการคดิ 2. ความสามารถในการสอื่ สาร 6. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มงุ่ มน่ั ในการทางาน 7. การวัดและประเมินผล วธิ ีการ เครือ่ งมือ เกณฑ์ ตรวจแบบฝึกหัด แบบฝึกคัดลายมอื ตวั บรรจงเตม็ บรรทัด คดั ลายมอื ได้ถกู ตอ้ งสวยงาม สังเกตการใฝเ่ รียนรู้ ตรงตอ่ เวลา มคี วาม แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ รบั ผดิ ชอบ และม่งุ ม่ันในการทางาน

8. กจิ กรรมการเรียนรู้ ใชว้ ธิ สี อนแบบบันได 6 ข้ัน ; ข้ันที่ 4 คัดลายมือ ขน้ั นา 1.) ครสู นทนากับนักเรยี นเร่ืองรูปแบบตัวอกั ษร ครูนารปู แบบตวั อกั ษรแบบกระทรวงศกึ ษาธกิ ารใหน้ กั เรียนดู นกั เรยี นสังเกตลักษณะตัวอกั ษร ขน้ั สอน 2.) ครอู ธบิ ายหลักปฏบิ ตั ใิ นการเขียนตัวอกั ษรท่ถี ูกตอ้ ง โดยให้คลอบคลุมประเด็นตามที่กาหนดดังนี้ 2.1 ความถกู ต้องของรูปแบบตัวอกั ษร 2.2 มาตรฐานของตัวอกั ษร 2.3 การเว้นช่องไฟ 2.4 การวางตาแหนง่ พยัญชนะ สระและวรรณยกุ ต์ 3.) จากน้ันเขยี นเป็นตวั อย่างบนกระดานใหน้ กั เรยี นดู อยา่ งชา้ ๆ พรอ้ มอธิบายประกอบ 4.) ครูใหน้ กั เรียนชว่ ยกนั บอกหลกั เกณฑ์การคดั ลายมือ ครสู ุ่มนกั เรียนยืนข้ึนตอบทลี ะคน นักเรยี นช่วยกันตอบถา้ เพอื่ นตอบไมไ่ ด้ ครูสรปุ เพิ่มเติม 5.) ครมู อบหมายใหน้ ักเรียนแต่ละคนคัดลายมอื ตัวบรรจงเตม็ บรรทัดตวั อกั ษรแบบกระทรวงศกึ ษาธกิ ารจาก หนังสอื ภาษาพาทีเรอื่ งภผู าในหน้า 23 ความยาว 8 บรรทดั เสรจ็ แล้วรวบรวมส่งครู ขั้นสรุป 6.) ครูและนักเรียนรว่ มกันสรปุ หลกั การคัดลายมือตวั บรรจงเต็มบรรทดั เป็นการสรุปบทเรียน 9. สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสอื เรียน วรรณคดลี านา ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 2) แบบฝึกคดั ลายมอื 3) ตัวอยา่ งรปู แบบตัวอักษรกระทรวงศึกษาธกิ าร 9.2 แหลง่ การเรยี นรู้ 1) ห้องสมดุ 2) อนิ เทอร์เนต็

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 5 กลุม่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย วิชา ภาษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 1 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 เรอ่ื งของเธอของฉนั เวลา 1 ช่ัวโมง เรื่อง การแตง่ ประโยค 1. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด ประโยคคอื คาทนี่ ามาเรียงกันและได้ใจความสมบูรณ์ทาให้ผูฟ้ ังเขา้ ใจว่า ใครทาอะไรทไี่ หน ทาอาการอยา่ งไร ประโยคประกอบดว้ ยสองสว่ นสาคัญ คือ 1. ภาคประธานไดแ้ ก่ผ้กู ระทากรยิ า 2. ภาคแสดงได้แก่ส่วนทเี่ ป็นกรยิ า คือแสดง การกระทาของประธาน 2. ตวั ชว้ี ัด เกณฑ์ ท 4.1 ป.1/3 เรียบเรียงคาเปน็ ประโยคง่าย ๆ แต่งประโยคได้ถกู ตอ้ ง 3.จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 7 ประโยคจาก 10 ประโยค 1. แต่งประโยคจากภาพไดถ้ กู ตอ้ ง 7 ประโยคจาก 10 ประโยค 4. สาระการเรยี นรู้ 4.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง - สว่ นประกอบของประโยค - การแต่งประโยค 4.2 สาระการเรยี นรทู้ ้องถิ่น - บทอ่านวเิ คราะห์ 5. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการคดิ 5.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. ม่งุ ม่นั ในการทางาน 7. การวดั และประเมินผล วิธีการ เคร่อื งมอื ตรวจแบบฝกึ หัด แบบฝกึ แต่งประโยค สังเกตการใฝเ่ รยี นรู้ ตรงต่อเวลา มคี วาม แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ รับผดิ ชอบ และมงุ่ มนั่ ในการทางาน

8. กิจกรรมการเรียนรู้ ใช้วธิ ีสอนแบบบนั ได 6 ขน้ั ; ข้ันที่ 5 แต่งประโยค ข้นั นา 1.) ครูนาแถบประโยคมาใหน้ กั เรยี นดู นกั เรียนอ่านแถบประโยคพรอ้ มกนั ขั้นสอน 2.) ครนู าแถบประโยคติดบนกระดาน ครูอธบิ ายลักษณะของประโยค สว่ นประกอบของ ประโยคท่ีมี ใจความสมบรู ณ์ ประโยคท่ีไมไ่ ดใ้ จความประโยคสามสว่ นประกอบดว้ ย ประธาน+ กรยิ า+กรรม เช่น น้องใสร่ องเทา้ นอ้ ง= ประธาน ใส่= กรยิ า รองเท้า= กรรม ------เปน็ ประโยคท่ีมใี จความสมบูรณ์ 3.) ครูยกตัวอยา่ งรปู ภาพบนกระดานใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั แตง่ ให้ได้ประโยคท่สี มบรู ณ์ 4.) ครกู าหนดคาศัพท์ประกอบรปู ภาพให้นักเรยี น 10 คาใหน้ กั เรียนทกุ คนทาแบบฝึกหัดแต่งประโยคจากคาท่ีครู กาหนดให้ เสรจ็ แล้วส่งครู ครูตรวจผลงานนกั เรียนเปน็ รายบคุ คล ขัน้ สรุป 5.) ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั สรุปบทเรียนเร่ืองการแต่งประโยคเปน็ การสรปุ บทเรียน 9. สอื่ /แหลง่ การเรียนรู้ 9.1 สอื่ การเรียนรู้ 1) หนงั สือเรยี น วรรณคดลี านาชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 1 2) แบบฝกึ แต่งประโยค 3) แถบประโยค 9.2 แหลง่ การเรียนรู้ 1) ห้องสมดุ 2) อนิ เทอร์เนต็

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 6 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย วิชา ภาษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 1 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 เรื่องของเธอของฉนั เวลา 1 ชว่ั โมง เรื่อง การทอ่ งจาบทอาขยาน 1. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด เพลงช้างป่านา่ รักเป็นเพลงท่มี ีความสาคัญเพราะการร้องเพลง การปรบมอื และการเคาะจังหวะเป็นพนื้ ฐานของ การเรียนรู้ การขับร้องและดนตรีเพ่ือใหน้ ักเรยี นได้รู้จักและซาบซง้ึ ในในเพลงไทย เมอื่ ผรู้ ้องขับรอ้ งเพลงก็สรา้ งความ สนกุ สนานให้กับท้ังผู้ร้องและผู้ฟังอกี ท้งั ยงั ร้องง่ายและเปน็ พ้นื ฐานให้กบั ผู้เริม่ ฝึกอา่ นเป็นอยา่ งดี 2. ตวั ช้วี ัด ป.1/2 ท่องจาบทอาขยานตามท่กี าหนด และบทรอ้ ยกรองท่มี คี ุณค่าตามความสนใจ 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. ท่องจาบทอาขยานไดถ้ ูกต้องและไพเราะ 4. สาระการเรยี นรู้ 4.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง - การร้องทอ่ งจาบทอาขยาน 4.2 สาระการเรียนรูท้ ้องถ่นิ - บทอาขยาน 5. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น 5.1 ความสามารถในการส่อื สาร 5.2 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มงุ่ มนั่ ในการทางาน 7. การวดั และประเมนิ ผล เครื่องมอื เกณฑ์ วิธกี าร บทอาขยาน - ท่องจาบทอาขยานได้ถกู ตอ้ งและ ทดสอบทอ่ งบทอาขยาน ไพเราะ สงั เกตการใฝ่เรยี นรู้ ตรงตอ่ เวลา มีความ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึง ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ รบั ผิดชอบ และมุ่งมน่ั ในการทางาน ประสงค์

8. กิจกรรมการเรียนรู้ ใชว้ ธิ กี ารสอนแบบ การท่องบทอาขยาน ขนั้ นา 1.) ครนู าบทอาขยานตดิ บนกระดานใหน้ ักเรยี นดู ครแู ละนกั เรียนสนทนาเกี่ยวกับการนอนสมัยยงั เดก็ ขนั้ สอน 2.) ครูนาบทอาขยาน นีข่ องของเธอมาติดบนกระดานให้นกั เรยี นดู นักเรียนฝกึ อา่ นบท ครนู านกั เรียนท่องบท อาขยานนข่ี องของเธอ เป็นทานองทไี พเราะ นักเรยี นตามครูและฝกึ ทอ่ งจนคลอ่ ง 3.) นกั เรยี นทดสอบท่องบทอาขยานนข่ี องของเธอ ทลี ะกลุ่ม และครูทดสอบทีละคนจนครบทกุ คน โดยทุกคนตอ้ ง ทอ่ งบทอาขยาน ให้ถกู ต้องทั้งเนอ้ื และทานองจงึ จะผา่ นเกณฑ์ ขัน้ สรุป 4.) ครูและนักเรยี นท่องบทอาขยาน น่ีของของเธอรว่ มกนั เป็นการสรปุ บทเรยี น 9. ส่อื /แหลง่ การเรียนรู้ 9.1 สอ่ื การเรยี นรู้ 1) หนงั สือเรยี น วรรณคดีลานา ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 1 2) บทอาขยาน 9.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) อนิ เทอร์เนต็ 2) ห้องสมดุ

แบบฝกึ อ่านที่ 1.1 การอ่านแจกลกู สะกดคาสระ เ-ยี มี/ไม่มีตัวสะกด คาชแ้ี จง 1. ให้นักเรียนอา่ นสะกดคา ภายในเวลา ๕ นาที 2. ครยู กตัวอย่างการอา่ นสะกดคา ตัวอย่าง เกยี สะกดวา่ กอ – เอีย – เกีย เขยี ง สะกดว่า ขอ – เอีย -งอ – เขียง ขอ้ ที่ คา ผลการประเมิน อา่ นได้ อ่านไมไ่ ด้ 1 เจีย 2 เสีย 3 เปยี ก 4 เบียด 5 เพยี บ 6 เสยี ม 7 เนียน 8 เถยี ง 9 เรียว 10 เข้ียว ชอ่ื ผรู้ ับการประเมนิ ……………………………………………………………………….ช้ัน……………เลขที่………… คะแนนทไ่ี ด้……………………………………ผ่าน………………ไมผ่ ่าน………………. ผปู้ ระเมิน………………………………………. ช่วงคะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ตา่ กวา่ 7 ระดับคุณภาพ 7- 10 ไมผ่ ่านเกณฑ์ ผ่านเกณฑ์

แบบฝกึ อา่ นท่ี 1.2 การอา่ นแจกลกู สะกดคาสระ เ-อื มี/ไม่มตี ัวสะกด คาชแ้ี จง 1. ใหน้ ักเรียนอา่ นสะกดคา ภายในเวลา 5 นาที 2. ครยู กตัวอย่างการอ่านสะกดคา ตัวอยา่ ง เขอื สะกดว่า ขอ – เอือ– เขอื เมอื ง สะกดว่า ออ – เอือ -งอ – เมือง ข้อท่ี คา ผลการประเมิน อา่ นได้ อ่านไม่ได้ 1 เหงอ่ื 2 เจือ 3 เชือด 4 เหอื ด 5 เปลือก 6 เคลอื บ 7 เบอื น 8 เช่ือม 9 เปลอื ง 10 เรื่อย ชอ่ื ผรู้ บั การประเมนิ ……………………………………………………………………….ชัน้ ……………เลขที่………… คะแนนท่ไี ด้…………………………………….ผ่าน……………..ไม่ผา่ น……………… ผปู้ ระเมนิ ………………………………………. ชว่ งคะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ต่ากวา่ 7 ระดบั คณุ ภาพ 7- 10 ไมผ่ ่านเกณฑ์ ผ่านเกณฑ์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook