Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนหน่วยที่ 8 กระต่ายกับเต่า

แผนหน่วยที่ 8 กระต่ายกับเต่า

Published by ครูภา สอนไทย, 2021-09-14 00:17:55

Description: แผนหน่วยที่ 8 กระต่ายกับเต่า

Search

Read the Text Version

บนั ทกึ ขอ้ ความ ส่วนราชการ โรงเรยี นวัดพืชนิมติ (คาสวัสดริ์ าษฎร์บารุง) ท…่ี …………………วนั ท่ี ………… เดือน …………………….. พ.ศ.2564 เรือ่ ง ขออนญุ าตใช้แผนการจดั การเรยี นรู้ เรียน ผู้อานวยการโรงเรยี นวัดพชื นมิ ติ (คาสวัสด์ริ าษฎร์บารงุ ) ดว้ ยข้าพเจา้ นางสาววรรณภา เคนไชยวงค์ ตาแหนง่ ครผู ู้ช่วย โรงเรียนวัดพืชนิมิต (คาสวัสดิ์ราษฎร์บารงุ ) ไดร้ บั มอบหมายใหป้ ฏิบตั หิ นา้ ท่ีการสอน รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท11101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษา ปที ่ี 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 บดั น้ี ข้าพเจา้ ได้จัดเตรียมการสอน และจัดทาแผนการสอนโดยใช้กระบวนการการจดั การเรียนรู้แบบ บันได 6 ข้ัน ข้าพเจ้าจึงขออนุญาตดาเนินการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้ที่จัดเตรียมไว้ ซ่ึงแนบเอกสารหน่วยการเรียนท่ี 8 ชื่อ หน่วย กระตา่ ยกับเตา่ เวลาเรียน 10 ช่วั โมง มาพร้อมกับเอกสารนี้ จงึ เรยี นมาเพอ่ื โปรดทราบ ลงช่ือ ( นางสาววรรณภา เคนไชยวงค์ ) ตาแหน่ง ครู ลงชื่อ (นางสาววรรณภา เคนไชยวงค์) หัวหน้ากลุม่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ความเหน็ ผู้อานวยการโรงเรียน อนุญาต ไม่อนุญาต เพราะ .................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................ ลงช่อื ( นางสาวกันยาภัทร ภทั รโสตถิ ) ผอู้ านวยการโรงเรยี นวัดพชื นิมติ (คาสวัสดริ์ าษฎร์บารุง) ............./................../.............

หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 12 เรือ่ ง กระตา่ ยกบั เต่า ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 รายวชิ า ภาษาไทย รหสั ท11101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย ครูผสู้ อน นางสาววรรณภา เคนไชยวงค์ โรงเรียนวัดพชื นิมติ (คาสวสั ด์ิราษฎรบ์ ารงุ ) สานักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษาปทุมธานี เขต 1 สานกั านคณะกรรมการการศึกษาขึน้ พื้นฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร

คาอธิบายรายวชิ าพนื้ ฐาน ท๑๑๑๐๑ ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ เวลา ๒๐๐ ชัว่ โมง ศึกษา ฝึกทักษะการอ่าน การเขยี น การฟงั การดแู ละการพดู หลกั การใชภ้ าษาไทย และวรรณคดแี ละวรรณกรรมในสาระต่อไปน้ี การอ่านออกเสียงและบอกความหมายของคา คาคล้องจอง และข้อความ ท่ีประกอบ ดว้ ยคาพน้ื ฐาน คอื คาท่ีใช้ใน ชีวติ ประจาวนั ไมน่ อ้ ยกว่า ๖๐๐ คา รวมท้ังคาทใ่ี ช้เรยี นรใู้ นกลมุ่ สาระ การเรยี นรอู้ น่ื ประกอบดว้ ยคาที่มรี ปู วรรณยุกต์ และไมม่ รี ูปวรรณยุกต์ คาที่มตี ัวสะกดตรงตามมาตราและ ไมต่ รงตามมาตรา คาท่มี ีพยัญชนะควบกลา้ คาทมี่ ีอักษรนา การอ่านจบั ใจความจากส่ือต่างๆ การอา่ นหนงั สือตามความสนใจ การอ่านเครอื่ งหมายและสัญลักษณ์ มารยาทในการอา่ น การคดั ลายมอื ตัวบรรจงเตม็ บรรทัดตามรปู แบบการเขียนตัวอักษรไทย การเขยี นส่อื สาร มารยาทในการเขยี น การฟังและ ปฏบิ ตั ิตามคาแนะนา คาสง่ั งา่ ย ๆ การจับใจความและพูดแสดงความคดิ เหน็ ความรสู้ กึ จากเร่อื งทฟ่ี งั และดูทั้งที่เปน็ ความรู้ และความบนั เทิง การพดู สอ่ื สารในชีวติ ประจาวัน มารยาทในการฟัง มารยาทในการดู มารยาทในการพดู หลกั การใช้ ภาษา การบอกและเขียนพยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์ เลขไทย การเขียนสะกดคา การแจกลูกและการอ่านเป็นคา มาตราตวั สะกดที่ตรงตามมาตราและไมต่ รงตามมาตรการผันคา ความหมายของคาการแต่งประโยคและตอ่ คาคลอ้ งจอง วรรณคดแี ละวรรณกรรม การอ่านหรือการฟังวรรณกรรมรอ้ ยแก้วและร้อยกรองสาหรับเดก็ การท่องบทอาขยานและบทรอ้ ย กรองตามทก่ี าหนดและความสนใจ โดยใชก้ ระบวนการอ่าน การเขยี น การฟงั การดู การพดู และการวเิ คราะห์ เพอื่ ให้เกดิ ความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ สามารถสอื่ สารสิง่ ทเี่ รียนรู้ จากการแต่งประโยคและตอ่ คาคล้องจองเขียนเรื่องจากภาพ การเรยี นวรรณคดแี ละ วรรณกรรมการอา่ นหรอื การฟังวรรณกรรมร้อยแก้วและรอ้ ยกรองสาหรับเดก็ การทอ่ งบทอาขยานและบทร้อยกรองตามท่ี กาหนดและตามความสนใจ มคี วามสามารถในการสือ่ สาร คิดวิเคราะห์ จากเรอ่ื งที่อ่านได้ เหน็ คณุ ค่าของการนาความรูไ้ ปใช้ประโยชน์ในชวี ติ ประจาวนั มเี จตคตทิ ่ีดตี อ่ ภาษาไทย มมี ารยาทในการอา่ น การเขียน การฟงั การดแู ละการพูด มีความซาบซงึ้ ภาคภูมใิ จในภาษาไทย รกั ความเปน็ ไทย ใฝ่เรียนรแู้ ละมีค่านยิ มท่ี เหมาะสม รหสั ตวั ชว้ี ัด ท ๑.๑ ป.๑/๑,ป.๑/๒,ป.๑/๓,ป.๑/๔,ป.๑/๕,ป.๑/๖,ป.๑/๗,ป.๑/๘ ท ๒.๑ ป.๑/๑,ป.๑/๒,ป.๑/๓ ท ๓.๑ ป.๑/๑,ป.๑/๒,ป.๑/๓,ป.๑/๔,ป.๑/๕ ท ๔.๑ ป.๑/๑,ป.๑/๒,ป.๑/๓,ป.๑/๔ ท ๕.๑ ป.๑/๑,ป.๑/๒ รวมท้งั หมด ๒๒ ตวั ช้วี ดั

แผนผังมโนทัศน์เปา้ หมายการเรยี นรู้/ หลักฐานการเรียนรู้ ความรู้ (Knowledge : K) ทักษะ/กระบวนการ (Process : P) คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1.ซอื่ สตั ยส์ ุจริต 1.การอ่านแจกลกู สะกด 1.อา่ นสะกดคา 2.มวี นิ ัย 2.การประสมคา 2.เขียนตามคาบอก 3.ใฝ่เรียนรู้ 3. การบอกความหมาย 3.เขยี นคาประกอบภาพ 4.มุ่งมั่นการทางาน 4. การแต่งประโยค 4.แต่งประโยค 5.รักความเป็นไทย 5. การเล่านทิ าน 5.การเล่านิทาน 6. การเขยี นเรื่องย่อจากนทิ าน 6.การเขยี นเรื่องยอ่ จากนทิ าน เปา้ หมายการเรียน เร่อื ง กระต่ายกบั เตา่ หลักฐานการเรยี นรู้ 1.แบบฝึกอา่ น 5. นิทาน 2.แบบฝึกเขยี นตามคาบอก 6. แบบฝึกเขียนเรื่องย่อจากนทิ าน 3.แบบฝึกเขยี นคาประกอบภาพ 4.แบบฝกึ แตง่ ประโยค

แผนผังมโนทัศนข์ นั้ ตอนการทากิจกรรมประกอบการจัดการเรยี นรดู้ ้วย วิธีการสอนแบบบนั ได 6 ขน้ั ศึกษามาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชีว้ ัด และจดุ ประสงค์การเรียนรู้ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ทากิจกรรมโดยใช้กระบวนการจดั การเรยี นรู้ดว้ ยเทคนคิ การสอนแบบบนั ได 6 ขั้น ขัน้ ท่ี 1 ฝึกอ่านทกุ วันจากง่ายไปยาก ข้ันที่ 2 เขียนตามคาบอกจากส่ิงทอ่ี า่ น ขน้ั ท่ี 3 เขียนคาประกอบภาพ ขนั้ ท่ี 4 แต่งประโยค ข้ันท่ี 5 เลา่ นทิ าน ข้ันท่ี 6 เขยี นเรอ่ื งย่อจากนทิ าน ทดสอบหลงั เรียน (ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ 70)

ผงั มโนทศั น์ หน่วยการ แผนที่ 1 การอ่านแจกลกู สะกด จานวน 2 ชั่วโมง แผนท่ี 3 บอกความหมายของคา หน่วยการ จานวน 1 ช่วั โมง กระตา่ แผแนผทน่ีท5ี่ 5กากราเรลเ่าลน่าิทนาิทนาน จานวน จาจนาวนนวน22ชวั่ชโว่ั มโงมง การเรยี นรแู้ บ สาสราะรกะากราเรรเยี รนียรนู้ ร..ู้................................................................ สงั คมศึกษ วทิ ยาศาสตร์ • การเลา่ นทิ าน 1.อ่านและเขยี นคาเกีย่ วกบั สัตว์ มี สัตวบ์ ก สัตว์เลอ้ื ยคลาน สตั วป์ กี สัตวน์ ้า เช่น งู กบ กระต่าย แมว นก กา สนุ ัขจง้ิ จอก

รเรยี นรทู้ ี่ 19 กระตา่ ยกบั เตา่ รเรยี นรทู้ ่ี 19 แผนท่ี 2 เขียนสะกดคา ายกบั เต่า จานวน 2 ชว่ั โมง 10 ชวั่ โมง สาระการเรียนรู้ ................................. บบบรู ณาการ แผนท่ี 4 แตง่ ประโยค จานวน 1 ชั่วโมง ษา ศาสนา และวฒั นธรรม น การเขยี นนทิ านประกอบภาพ แผแนผทน่ี ท6่ี 6เขเียขนียเนรอ่ืเรงือ่ ยง่อยจ่อาจกานกทิ นาทิ นาน จาจนาวนนวน2 2ช่ัวชโัว่มโงมง กากราเรยีเรนยี รนู้ .ร..ู้.................................. .ศิลปะ : ทศั นศลิ ป์ • เขยี นคาประกอบกับวาดภาพและระบายสี

แผนบรู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ครู ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การมภี มู คิ มุ้ กนั ในตัวทด่ี ี 1. ออกแบบการจดั กิจกรรม ตรงตาม 1. ออกแบบการเรยี นร้สู ่งเสรมิ กระบวนการคิด 1. ศกึ ษาแนวทางการจัดการเรียนรู้ล่วงหนา้ ตวั ช้วี ดั 2. ใชเ้ ทคนคิ การจดั การเรยี นรู้ทหี่ ลากหลาย 2. จัดเตรียมการวดั ผลประเมินผล และแบบ 2. เลอื กสอ่ื แหลง่ เรยี นรู้เหมาะสม สังเกตพฤตกิ รมนกั เรยี น 3. วัดผลประเมินผลตรงตามเน้อื หา เงื่อนไขความรู้ เงอ่ื นไขคุณธรรม 1. รู้จักเทคนิคการสอนทีส่ ่งเสรมิ กระบวนการคดิ และนกั เรียน 1. มีความขยัน เสียสละ และมงุ่ ม่ันในการจดั หาสือ่ มาพัฒนา สามารถเรยี นรูไ้ ด้อย่างมคี วามสุข นักเรยี นให้บรรลตุ ามจดุ ประสงค์ 2. มคี วามอดทนเพื่อพฒั นานกั เรียนโดยใชเ้ ทคนคิ การสอนที่ หลากหลาย นักเรียน ความพอประมาณ ความมเี หตุผล การมภี มู ิค้มุ กันในตวั ท่ดี ี 1. การใชเ้ วลาในการทากจิ กรรม/ภาระงาน 1. ฝกึ ทักษะการอ่านท่เี หมาะสมกับวัย 1. วางแผนการศึกษาใบงาน/ใบกจิ กรรม ได้อย่างเหมาะสม ทันเวลา 2. ฝึกทักษะการเขยี นที่เหมาะสมกบั วัย 2. นาความรเู้ รือ่ ง ทักษะการอา่ น การเขียน 2. เลอื กใชส้ ่ือไดเ้ หมาะสมกับการจดั การ 3.ฝกึ ทกั ษะการพดู ท่เี หมาะสมกับสถานการณ์ การพดู และการฟังของมนษุ ยไ์ ปใช้ใน เรยี นการสอน 4.ฝึกทักษะการฟงั และการปฏิบัติตามคาสง่ั ได้ ชีวติ ประจาวันได้ เหมาะสมกบั วัย เงอื่ นไขความรู้ เงอ่ื นไขคณุ ธรรม 1. มคี วามรเู้ รื่องทักษะการอ่านและการเขียนภาษาไทยที่ถกู ตอ้ งมีสว่ น 1. มคี วามรบั ผดิ ชอบ และปฏิบัตติ ามขอ้ ตกลงของกลมุ่ รว่ มในการอนุรักษ์ภาษาไทยและเปน็ แบบอย่างในการใช้ภาษาไทย 2. มสี ติ มีสมาธชิ ่วยเหลอื กันในการทางานร่วมกัน อย่างถูกต้องตลอดจนสามารถสร้างจัดทาชิน้ งาน ผลงานและใบงานได้ ตามวตั ถุประสงค์ ส่งผลตอ่ การพัฒนา 4 มิตใิ หย้ ่งั ยืนยอมรับต่อการเปลย่ี นแปลงในยุคโลกาภิวฒั น์ วตั ถุ สังคม สิ่งแวดลอ้ ม วัฒนธรรม ความรู้ (K) มีความรู้ความเข้าใจในหลักการใช้ มคี วามร้แู ละเขา้ ใจ มีความรู้และเข้าใจ มีความรแู้ ละเข้าใจการ ภาษาไทย ทกั ษะการฟัง พดู อา่ น เกย่ี วกับ สง่ิ แวดล้อม ชว่ ยเหลือ แบง่ ปนั และเขยี น และสิ่งต่างๆรอบตัว ทกั ษะ (P) สามารถสรา้ งช้ินงาน ผลงาน ใบงาน ทางานไดส้ าเร็จตาม ใช้แหลง่ เรียนรู้โดยไม่ ช่วยเหลือ แบง่ ปนั ซึง่ แบบทดสอบเรื่องการพดู การเขยี น เป้าหมาย ดารงชีวติ ได้ ทาลายสงิ่ แวดล้อม กนั และกนั ภาษาไทยและการใชภ้ าษาไทยได้ถกู ตอ้ ง อย่างมคี วามสุข ตรงตามวตั ถุประสงค์ คา่ นิยม (A) เห็นประโยชน์ของการเรียนรู้ เกย่ี วกับ เหน็ คุณคา่ และ เหน็ คณุ ค่าของการใช้ ปลูกฝังนสิ ัยการ การมสี ว่ นร่วมในการอนรุ กั ษภ์ าษาไทย ภาคภูมิใจในการ แหลง่ เรียนร้โู ดยไม่ ชว่ ยเหลอื แบ่งปัน และเห็นคุณค่าของภาษาไทย ทางานรว่ มกนั ได้ ทาลายส่งิ แวดลอ้ ม สาเรจ็

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 12 กระต่ายกบั เต่า กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย วิชา ภาษาไทย รหสั วิชา ท11101 ช้ันประถมศึกษาปีที่ 1 จานวนแผนการจัดการเรยี นรู้ 6 แผน เวลาเรียน 10 ชวั่ โมง ครูผู้สอน นางสาววรรณภา เคนไชยวงค์ โรงเรยี นวัดพืชนมิ ิต (คาสวัสดิ์ราษฎรบ์ ารุง) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วัด มาตรฐาน ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสร้างความร้แู ละความคดิ เพือ่ นาไปใช้ตัดสนิ ใจ แกป้ ญั หาในการดาเนิน ชีวติ และมนี ิสัยรักการอา่ น ตวั ชวี้ ัด ป.1/1 อ่านออกเสยี งคาและข้อความสัน้ ๆ ตัวช้ีวดั ป.1/2 บอกความหมายของคาและขอ้ ความท่อี ่าน ตัวชี้วดั ป.1/4 เล่าเรอ่ื งย่อจากเรอื่ งทอ่ี า่ น มาตรฐาน ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลย่ี นแปลงของภาษาและพลงั ของ ภาษา ภมู ปิ ญั ญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัตขิ องชาติ ตัวชว้ี ดั ป.1 /2 เขียนสะกดคาและบอกความหมายของคา ตวั ชี้วัด ป.1 /3 เรียบเรยี งคาเปน็ ประโยคอย่างงา่ ย ๆ มาตรฐาน ท 5.1 เขา้ ใจและแสดงความคดิ เหน็ วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณคา่ และ. นามาประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ จรงิ . ตวั ชว้ี ดั ป.1/1 ระบุข้อคิดที่ได้จากการอ่านหรอื การฟังวรรณคดสี าหรับเดก็ เพอ่ื นามาใช้ใน ชวี ติ ประจาวนั 2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด ทกั ษะการอ่าน ผู้เรียนต้องเข้าใจ หลักการอ่านแจกลกู สะกดคากอ่ น เพ่อื เปน็ พนื้ ฐานในการอา่ นออกเสียง คา,ขอ้ ความ,ประโยคและเน้อื เรอ่ื งได้อย่างถูกต้องชัดเจนเพื่อนาไปสกู่ ารอา่ นและเขยี นพยัญชนะสระ วรรณยกุ ต์ และเลขไทยได้ถกู ต้อง สามารถอธบิ ายความหมายของคาและข้อความ ตอบคาถามจากเรอ่ื งท่อี า่ นได้ ทกั ษะ การอา่ นการเขียน ตอ้ งหม่นั ฝึกฝนอยูเ่ ปน็ ประจาเริ่มจากการฝกึ อา่ นและเขยี นคาท่ีงา่ ยไปหาเร่อื งทยี่ ากขึ้นฝกึ อา่ นและเขยี นจากคาศพั ท์บทเพลง บทอาขยาน อ่านแล้วจะทาให้เกดิ ความเพลิดเพลนิ สนกุ สนาน มีนสิ ยั รัก การอ่าน 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง 1) การอ่านแจกลูกสะกดคา 3) การเล่า และเขยี นเรอ่ื งย่อจากเรอื่ งที่อา่ น 2) การอธิบายความหมายของคา 4. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ

5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุง่ มน่ั ในการทางาน 6. ชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) 1. อ่านสะกดคา 2. เขยี นตามคาบอก 3. เขยี นคาประกอบภาพ 4. แตง่ ประโยค 5. เลา่ นทิ าน 6. เขยี นนิทานตามภาพ 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ กจิ กรรมท่ี 1 เรือ่ งการอา่ นแจกลูกสะกดคา ( เวลา 2 ชว่ั โมง) ชัว่ โมงท่ี 1-2 การอ่านแจกลกู สะกดคาเร่ือง กระตา่ ยกบั เต่า 1.) นักเรียนทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยท่ี 19 กระตา่ ยกบั เต่า จานวน 10 ข้อเสรจ็ แล้ว ครู ตรวจสอบและประกาศผลเปน็ คะแนนตามจานวนขอ้ ทีท่ าถูก โดยที่ยงั ไม่ต้องเฉลย 2.) ครูสนทนากับนกั เรยี น เกยี่ วกบั นทิ านอีสปท่ีนักเรยี นเคยได้ดหู รอื ฟังมา มเี ร่ืองอะไรบ้าง 3.) ครนู ารูปภาพ กระตา่ ย เต่า และสุนัขจง้ิ จอกใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตอบว่ามาจากนทิ านเร่ืองอะไร 4.) ครเู ฉลยและอธิบายเก่ยี วกับนทิ านอสี ป คอื เร่ืองส้ันซง่ึ ใหค้ ติสอนใจ สอดแทรกศีลธรรมและสอน บทเรยี นใหก้ ับเด็ก ๆ ดงั เชน่ นิทานเรื่องกระตา่ ยกับเต่าน้ี 5.)นกั เรียนฝกึ อ่านสะกดคาในหนงั สอื วรรณคดลี านาเรอ่ื งกระตา่ ยกบั เต่า หน้า 66-76 จนคลอ่ ง 6.) ครูประเมินการอ่านพร้อมกันทั้งห้อง แล้วประเมินรายบุคคล ทุกคนต้องผ่านเกณฑ์ใครไม่ผ่านให้ ฝกึ อา่ นแลว้ มาสอบใหม่จนกว่าจะผา่ น 7.) นกั เรียนอา่ นเรอ่ื ง กระตา่ ยกับเต่าแลว้ ช่วยกันบอกว่า ไดป้ ระโยชน์อะไรบา้ งจากนทิ านเร่ืองน้ี กจิ กรรมท่ี 2 เรอ่ื ง การเขียนสะกดคา ( เวลา 2 ชัว่ โมง) ชว่ั โมงที่ 1-2 การเขยี นสะกดคา จากเรอื่ งทอ่ี ่าน 1.) ครใู หน้ ักเรียนอา่ นบทอา่ นจาก เร่อื ง กระตา่ ยกับเตา่ เป็นการทบทวน นกั เรียนสังเกต ลักษณะ การวางรูป พยญั ชนะ สระ วรรณยกุ ต์และตวั สะกดของแตล่ ะคา 2.) ครูนารปู ภาพ กระตา่ ย สนุ ขั จงิ้ จอก และเตา่ ให้นกั เรยี นดแู ละ ใหน้ กั เรยี นฝึกสะกดคาพรอ้ มกนั 3.) ครอู ธบิ ายหลักการเขียนสะกดคาและยกตวั อยา่ งการเขยี นใหน้ ักเรียนดูเปน็ ตวั อยา่ งนักเรยี นสงั เกต และ ฝกึ อ่านสะกดคาพร้อมกันอกี คร้ังจนคลอ่ ง ครสู ุ่มนกั เรยี นออกมาเขียนคาบนกระดาน 2-3 คน 4.) ครใู หน้ ักเรยี นเขียนตามคาบอกของครู 10 คา ครตู รวจผลงานนกั เรียนต้องเขียนสะกดคาถกู ตอ้ ง 7 คาจาก 10 คาจงึ ผา่ นเกณฑ์ ส่วนคนที่ไมผ่ ่านให้คัดคาที่ไมผ่ ่าน 3 คร้ังและ ฝกึ เขียนใหม่จนผ่าน 5.) ครูให้นักเรียนยกตัวอยา่ งการนาความรู้เร่ืองการเขียนไปใช้ในชวี ติ ประจาวนั ได้อย่างไรบา้ งนักเรยี น ช่วยกนั ตอบ เปน็ การสรปุ บทเรียน กิจกรรมท่ี 3 การอ่านและบอกความหมายของคา เวลา 1 ชว่ั โมง 1.) ครนู ารูปภาพจากร้จู กั คานาเร่ือง ติดบนกระดานดา ใหน้ กั เรยี นดูและชว่ ยกันตอบคาถามว่าเปน็ รูปภาพอะไร นกั เรียนช่วยกันสะกดคาตามภาพ

2.) ครอู ธิบายหลกั การบอกความหมาย และการวิเคราะหค์ ากบั ภาพใหน้ กั เรยี นฟงั พร้อมยกตัวอยา่ ง เช่นคาว่า ว่ายนา้ ครสู าธิตใหน้ กั เรยี นดู 3.) นักเรยี นอ่านหนังสือเรยี น วรรณคดีลานา หน้า 66-76 พร้อมกัน ครูสมุ่ อา่ นทีละคนครแู นะนา แก้ไข ข้อผดิ พลาดเป็นรายบุคคล 4.) ร่วมกนั เล่นเกม “ ทายคาด้วยท่าทาง” วธิ ีเล่นคอื ครกู าหนดภาษาท่าทางไว้ดังนี้ คลาน ใชท้ ่า ทางใหอ้ ีกคนทาย นอนหลับ ใชท้ า่ ทางให้อกี คนทาย กระโจน ใชท้ ่า ทางให้อกี คนทาย วง่ิ แขง่ ใช้ทา่ ทางใหอ้ ีกคนทาย 5.) นกั เรียนทาแบบฝกึ หัด จับคู่คากับภาพ จากนน้ั นาสง่ ครู ครูเฉลยและตรวจสอบความถูกตอ้ ง 6.) ครแู ละนักเรียนร่วมกันทายคา จากคาในบทเรยี น เปน็ การสรุปบทเรียน กจิ กรรมท่ี 4 การแต่งประโยค เวลา 1 ชั่วโมง 1.) ครนู าแถบประโยคมาใหน้ ักเรียนดู นกั เรียนอา่ นแถบประโยคพร้อมกนั 2.) ครนู าแถบประโยคติดบนกระดาน ครอู ธิบายลักษณะของประโยค ส่วนประกอบของ ประโยคท่มี ีใจความสมบูรณ์ ประโยคทไ่ี ม่ไดใ้ จความประโยคสามส่วนประกอบด้วย ประธาน+ กริยา เชน่ กระต่ายนอนหลับ กระตา่ ย= ประธาน นอนหลับ= กรยิ า ------เป็นประโยคที่มใี จความสมบูรณ์ 3.) ครยู กตัวอย่างรูปภาพบนกระดานให้นักเรียนชว่ ยกันแตง่ ใหไ้ ดป้ ระโยคทีส่ มบูรณ์ 4.) ครูกาหนดคาศัพท์ประกอบรปู ภาพใหน้ ักเรยี น 10 คาใหน้ ักเรยี นทกุ คนทาแบบฝึกหดั แตง่ ประโยค จากคาทคี่ รูกาหนดให้ เสรจ็ แลว้ สง่ ครู ครูตรวจผลงานนักเรียนเปน็ รายบุคคล 5.) ครแู ละนกั เรยี นยกตัวอยา่ งการนาเรอื่ งประโยคไปใช้ในชีวติ ประจาวันได้อยา่ งไรบ้างนกั เรยี น ช่วยกันตอบเป็นการสรปุ บทเรียน กิจกรรมท่ี 5 การเล่านิทานจากเรือ่ งทอี่ า่ น เวลา 2 ชวั่ โมง 1.) ครูสนทนากับนกั เรียนวา่ ใครชอบฟังนทิ าน ใครเคยเล่านทิ านบ้าง ครูเลา่ นทิ านอีสป ให้นักเรียนฟัง 1-2 เรอ่ื ง และใหน้ ักเรยี นลองเล่าเรือ่ งจากทฟ่ี งั จากครูบ้าง 2.) ครูอธิบายหลกั การเล่าเรื่องยอ่ จากนทิ านเรื่องทฟี่ งั และดูหรืออ่านผ่านมา มา เมอ่ื อ่านหรือฟงั เรอ่ื งแลว้ นกั เรียนต้อง สรุปให้ไดว้ ่า เป็นเร่ืองของใคร ทาอะไร ทไี่ หน เม่ือไร อย่างไร และผลการ กระทาเป็นอยา่ งไร และมารยาทในการพูด เช่น -พดู เสียงดังฟังชดั แต่ไมใ่ ชต่ ะโกน -พูดด้วยวาจาสภุ าพ แสดงหน้าตาที่ยิ้มแยม้ แจม่ ใส -ไม่พูดอวดตนข่มผ้อู ื่น -ไม่พดู ก้าวรา้ วหรอื พดู ขัดคอผู้อ่นื ควรใชว้ ิธีท่ีสภุ าพเมอื่ ตอ้ งการแสดงความคดิ เหน็ -รักษาอารมณแ์ ละขณะที่พดู ใหเ้ ป็นปกติ -ไมน่ าเรอ่ื งสว่ นตวั ของผู้อน่ื มาพดู -ไม่ล้วงแคะ แกะ เกา ขณะพดู 3.) นกั เรียนทดสอบเลา่ เร่ืองยอ่ จากการอา่ นนิทานกระต่ายกับเตา่ รายบุคคล ครูให้เวลาคนละไมเ่ กนิ 5 นาที ครปู ระเมินการพูดรายบคุ คล พร้อมแนะนาและแก้ไขขอ้ บกพรอ่ งของแต่ละคน 4.) ครแู ละนักเรยี น ร่วมกันสรุปการเล่านทิ านร่วมกัน และชว่ ยกนั ยกตวั อย่างมารยาทในการพูดในที่ สาธารณะมาคนละ 1 ขอ้

กจิ กรรมที่ 6 การเขยี นเรื่องยอ่ จากนทิ านอีสป กจิ กรรม coding เวลา 2 ชั่วโมง 1.) ครเู ปิดนทิ านเร่อื งกระต่ายกบั เตา่ ใหน้ ักเรียนดู เป็นการกระตุ้นความสนใจ 1 รอบเมอื่ ดจู บ 2.) ครูสนทนากับนักเรยี น เมอื่ ดูนิทานแลว้ ลาดับเหตุการณ์ จากเร่ืองโดยครูนารูปภาพใหน้ ักเรยี นดู แลว้ ชว่ ยกันตอบว่าภาพไหนเปน็ เหตุการณ์ที่ 1 ,2 ,3 หรือ 4 3.) ครอู ธบิ ายหลักการเขยี นย่อความ ให้นักเรียนฟังจากน้ันใหช้ ว่ ยกนั พูดออกมาเปน็ ข้อความว่า ภาพ ท่ี 1 ตัวละครในภาพ - เป็นใครทาอะไร - ท่ไี หน - เม่ือไร - อย่างไร - ผลเปน็ อยา่ งไร แลว้ เขยี นออกมาเป็นขอ้ ความของแต่ละภาพ ทาเหมือนกันทกุ ภาพ ตามลาดับเหตุการณ์เปน็ เรื่องราวต่อเนือ่ งและสมั พันธก์ นั 4.) ครูแจกใบงานให้นักเรยี นเขียนนทิ านตามภาพโดยลาดับเหตกุ ารณ์ให้ต่อเนื่อง และเป็นเนอ้ื เร่ืองท่ี สมบูรณค์ วามยาวไม่เกิน 5 บรรทัด 5.) ครูอธิบายมารยาทในการเขยี นให้นักเรียนฟัง - ควรเขียนด้วยตวั บรรจงให้อ่านเข้าใจง่าย - ควรเขยี นโดยใชภ้ าษาท่สี ภุ าพถูกต้องตามหลกั ภาษาไทย - ไมค่ วรเขียนว่ารายผอู้ ่นื ใหไ้ ด้รบั ความเสียหาย - เมอื เขยี นผิดควรใชย้ างลบ ลบให้สะอาด - ไม่ควรขดี เขยี นโต๊ะ เก้าอี หรือในที่ทหี่ ้ามเขยี น - ควรเขียนในกระดาษท่มี ีสีขาว สะอาด ไม่ยบั หรือฉีกขาด 5.) ครูตรวจผลงานนกั เรียนรายบคุ คล พรอ้ มแนะนาและแกไ้ ขข้อบกพร่องของแตล่ ะคน 6.) ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรปุ บทเรยี น โดยใหน้ ักเรียนชว่ ยกันบอกหลกั การเขียนเรื่องยอ่ จากนิทาน และบอกมารยาทในการเขียน เป็นการสรปุ บทเรยี น 7.) ครูให้นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลังเรยี น 10 ขอ้ เสร็จแล้วครูตรวจผลงานแจ้งคะแนนพรอ้ มเฉลย นกั เรียนตอ้ งทาถกู 7 ขอ้ จาก 10 ขอ้ จงึ ผ่านคนที่ไม่ผ่านครใู หแ้ ก้ไขใหมจ่ นกวา่ จะผ่าน 8.การวัดและการประเมินผล วธิ กี าร เครอ่ื งมือ เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น/หลังเรยี น แบบทดสอบกอ่ นเรียน/หลังเรยี น (ประเมนิ ตามสภาพ หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 19 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 19 จรงิ ) ทดสอบอ่านรายบุคคล แบบฝึกอา่ น รอ้ ยละ 70 ผา่ นเกณฑ์ ทดสอบเขยี นตามคาบอก แบบฝึกเขยี นตามคาบอก รอ้ ยละ 70 ผ่านเกณฑ์ บอกความหมายของคา ตรวจแบบฝกึ แตง่ ประโยค แบบฝกึ เขียนคาประกอบภาพ ร้อยละ 70 ผา่ นเกณฑ์ เลา่ นิทาน เขยี นเร่ืองย่อจากนทิ านอีสป แบบฝกึ แตง่ ประโยค รอ้ ยละ 70 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตความมวี ินยั ใฝ่เรียนรู้ และมุง่ มนั่ ใน การทางาน นทิ าน ประเมินตามสภาพจรงิ แบบฝึกเขยี นเร่ืองยอ่ จากนิทาน ประเมนิ ตามสภาพจริง แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

9. สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้ 9.1 สอื่ การเรียนรู้ 1) หนงั สือเรยี น วรรณคดีลานา ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1. 4) นทิ าน 5) แบบฝึกอ่านแจกลกู สะกดคา 6) แบบฝึกเขียนตามคาบอก 7) แบบฝึกเขียนคาประกอบภาพ 8) แบบฝึกแต่งประโยค 9) แบบฝึกเขียนเร่อื งยอ่ จากนทิ าน 10)แบบทดสอบกอ่ นเรียน/หลังเรียน 9.2 แหลง่ การเรียนรู้ 1) ห้องสมดุ 2) อนิ เทอร์เน็ต

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย วิชา ภาษาไทย เวลา 2 ชั่วโมง หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 12 กระตา่ ยกบั เต่า เร่อื ง การอา่ นแจกลูกสะกดคา 1. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การอ่านแจกลูกสะกดคาเปน็ กระบวนการขนั้ พน้ื ฐานของการนา เสยี งพยัญชนะตน้ สระ วรรณยกุ ต์ และเสยี งตัวสะกดมาประสมเสียงกนั ทาใหอ้ อกเสียงคาต่าง ๆทม่ี คี วามหมาย ในภาษาไทยการแจกลูกและการ สะกดคา บางครงั้ เรียกรวมกันวา่ “การแจกลกู สะกดคา ” 2. ตวั ชวี้ ัด ท1.1ป.1/1 อา่ นออกเสียงคาและขอ้ ความสนั้ ๆ 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกหลกั การอ่านแจกลูกสะกดคาได้ถกู ตอ้ งตามหลักภาษาไทย (K) 2. อ่านนิทานเรอ่ื ง กระต่ายกบั เต่าได้ถูกตอ้ งตามหลักภาษาไทย (P) 3. เห็นคณุ ค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมไทย(A) 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 สาระการเรยี นรู้แกนกลาง - อ่านแจกลกู สะกดคา - ข้อคดิ ท่ไี ด้จากเรอ่ื ง 4.2 สาระการเรียนรทู้ ้องถ่ิน - นิทาน 5. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ 6. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชวั่ โมงท่ี 1-2 การอ่านแจกลกู สะกดคาจากเร่อื ง กระตา่ ยกับเตา่ ใช้วธิ ีสอนแบบบนั ได 6 ขั้น ; ขนั้ ท่ี 1 ฝกึ อา่ นทกุ วันจากงา่ ยไปยาก ข้นั นา 1.) นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน บทท่ี 19 กระต่ายกบั เตา่ จานวน 10 ข้อเสร็จแลว้ ครู ตรวจสอบและประกาศผลเปน็ คะแนนตามจานวนข้อท่ีทาถกู โดยท่ยี งั ไมต่ ้องเฉลย 2.) ครูสนทนากบั นกั เรียน เกยี่ วกบั นทิ านอีสปทนี่ ักเรยี นเคยไดด้ หู รือฟงั มา มีเรอื่ งอะไรบ้าง 3.) ครนู ารูปภาพ กระตา่ ย เต่า และสุนัขจง้ิ จอกให้นกั เรยี นช่วยกนั ตอบว่ามาจากนทิ านเรือ่ งอะไร

ข้ันสอน 4.) ครเู ฉลยและอธิบายเกยี่ วหลักการอา่ นกบั นทิ านอีสป คือ เร่ืองสั้นซึง่ ให้คติสอนใจ สอดแทรก ศลี ธรรมและสอนบทเรียนใหก้ บั เด็ก ๆ ดงั เชน่ นทิ านเรอ่ื งกระตา่ ยกบั เตา่ นี้ 5.)นักเรยี นฝึกอ่านสะกดคาในหนงั สอื วรรณคดลี านาเรอ่ื งกระต่ายกบั เตา่ หน้า 66-73 จนคลอ่ งครู สนทนากบั นกั เรียนโดยใช้คาถามปลายเปิด 6.) ครูประเมินการอ่านพร้อมกันท้ังห้อง แล้วประเมินรายบุคคล ทุกคนต้องผ่านเกณฑ์ใครไม่ผ่านให้ ฝึกอา่ นแลว้ มาสอบใหมจ่ นกวา่ จะผา่ น ข้ันสรปุ 7.) นักเรยี นอ่านเร่ือง กระต่ายกบั เต่าแล้วช่วยกนั บอกวา่ จากเรื่องให้ขอ้ คิดอะไรบ้างจากนิทานเรอ่ื งน้ี นกั เรียนช่วยกันตอบเป็นขอ้ ๆ 8. การวัดและประเมินผล วิธกี าร เครื่องมือ เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยการเรยี นรู้ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรยี นรู้ (ประเมินตามสภาพจรงิ ) ที่ 19 ที่ 19 ประเมนิ การอ่าน แบบฝกึ อา่ น อ่านไดถ้ กู ต้อง7คาจาก10คา หนังสอื เรียน วรรณคดลี านา ชั้นป.1 อา่ นเรอ่ื งได้ถกู ต้องร้อยละ 70 สงั เกตการใฝเ่ รยี นรู้ ตรงต่อเวลา มคี วาม แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ รับผิดชอบ และมุ่งม่นั ในการทางาน 9. สือ่ /แหล่งการเรียนรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสอื เรยี น วรรณคดลี านา ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 1 2) ชุดฝกึ อา่ น 3) แบบทดสอบกอ่ นเรียน 9.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) หอ้ งสมุด 2) อนิ เทอรเ์ นต็

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 2 ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 1 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย วิชา ภาษาไทย เวลา 2 ชั่วโมง หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 12 กระตา่ ยกบั เตา่ เร่ือง การเขยี นสะกดคา 1. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด การเขยี นสะกดคา ผเู้ รียนตอ้ งเรียนรูท้ ัง้ ในด้านองคป์ ระกอบของคา หลักการเขียนสะกดคา หลักการ ประสมคาการวางรูปพยัญชนะตน้ สระตัวสะกดและวรรณยุกตไ์ ดอ้ ย่างถูกต้องรู้จกั สังเกตจดจาลักษณะของคา ที่อา่ น เพอื่ นาไปส่กู ารเขยี นคาทีถ่ กู ต้อง 2. ตัวชวี้ ัด ท 4.1ป.1/2 เขียนสะกดคาจากเรื่องทอ่ี ่าน 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกหลกั การเขียนสะกดคาได้ถูกต้องตามหลักภาษาไทย(K) 2. เขยี นสะกดคาจากเรือ่ งกระตา่ ยกับเต่าได้ถกู ต้อง(P) 3. นาความรู้ไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได(้ A) 4. สาระการเรยี นรู้ 4.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง - หลกั การเขียนคา - การนาไปใช้ในชวี ติ ประจาวนั 4.2 สาระการเรียนร้ทู ้องถน่ิ - นทิ าน 5. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น 5.1 ความสามารถในการส่ือสาร 5.2 ความสามารถในการคดิ 6. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มุง่ มนั่ ในการทางาน 7. กิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงท่ี 1-2 การเขยี นสะกดคาจากเร่อื งทอ่ี ่าน ใช้วธิ สี อนแบบบันได 6 ข้ัน ; ข้นั ท่ี 2 เขียนตามคาบอกจากสงิ่ ทอ่ี ่าน ขัน้ นา 1.) ครใู ห้นกั เรยี นอ่านบทอา่ นจาก เรอ่ื ง กระต่ายกับเตา่ เปน็ การทบทวน นักเรียนสังเกต ลกั ษณะการ วางรูป พยญั ชนะ สระ วรรณยุกต์และตัวสะกดของแตล่ ะคา 2.) ครนู ารูปภาพ กระต่าย สนุ ัขจงิ้ จอก และเต่าใหน้ ักเรียนดูและ ให้นกั เรยี นฝกึ สะกดคาพรอ้ มกัน

ขนั้ สอน 3.) ครอู ธิบายหลกั การเขียนสะกดคาและยกตัวอยา่ งการเขยี นให้นักเรยี นดเู ป็นตัวอย่างนกั เรียนสงั เกต และ ฝึกอ่านสะกดคาพร้อมกันอีกคร้งั จนคลอ่ ง ครูสุ่มนกั เรยี นออกมาเขียนคาบนกระดาน 2-3 คน 4.) ครใู ห้นกั เรยี นเขยี นตามคาบอกของครู 10 คา ครูตรวจผลงานนกั เรียนต้องเขียนสะกดคาถกู ต้อง 7 คาจาก 10 คาจงึ ผา่ นเกณฑ์ สว่ นคนทไี่ ม่ผ่านใหค้ ัดคาที่ไมผ่ ่าน 3 ครั้งและ ฝึกเขียนใหมจ่ นกว่าจะ ผ่าน ขน้ั สรปุ 5.) ครใู หน้ ักเรยี นยกตวั อยา่ งการนาความรู้เร่ืองการเขยี นไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ได้อยา่ งไรบา้ งนกั เรยี น ชว่ ยกันตอบ เป็นการสรุปบทเรยี น 8. การวัดและประเมนิ ผล เคร่ืองมอื เกณฑ์ วธิ ีการ แบบฝึกเขียนตามคาบอก เขยี นสะกดคาถูกตอ้ ง7คาจาก ตรวจแบบฝึกเขยี นตามคาบอก 10คา สงั เกตการใฝ่เรยี นรู้ ตรงตอ่ เวลา มคี วาม แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ รับผดิ ชอบ และมุ่งมน่ั ในการทางาน 9. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ 9.1 สื่อการเรยี นรู้ 1) หนังสือเรยี น วรรณคดลี านา ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 1 2) แบบฝึกอ่าน 3) แบบฝกึ เขียนตามคาบอก 9.2 แหลง่ การเรียนรู้ 1) ห้องสมุด 2) อนิ เทอร์เน็ต

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 3 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย วิชา ภาษาไทย เวลา 1 ช่ัวโมง หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 12 กระต่ายกับเต่า เรอ่ื ง การอ่านและบอกความหมายของคา 1. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด ความหมายของคา คอื สงิ่ ทคี่ าจะบอกถึงว่าหมายถงึ อะไร คา มีความหมายว่า เสียงที่เปล่งออกมาแล้ว ต้องมีความหมายด้วย ดังน้ันคาจงึ ประกอบด้วย เสียงและความหมายถ้ามีแค่เสียงไม่มีความหมายจึงเรียกวา่ พยางค์ สาหรับนกั เรียนทพี่ ่งึ เรมิ่ ฝกึ อา่ นใหม่ต้องศึกษาความหมายของคาไปดว้ ย เพื่อนาไปสกู่ ารใช้คาภาษาไทย ทีถ่ ูกตอ้ ง 2. ตัวชว้ี ัด ท 1.1ป.1/2 บอกความหมายของคาที่อา่ น 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. บอกความหมายของคาจากเรือ่ งทอ่ี า่ นได้ถูกตอ้ ง(k) 2. จับคู่คากับรูปภาพได้ถกู ต้อง(P) 3. นาไปใช้ในชวี ิตประจาวนั ไดถ้ ูกตอ้ ง (A) 4. สาระการเรยี นรู้ 4.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง - การวิเคราะหค์ า - การบอกความหมายของคา 4.2 สาระการเรียนรทู้ อ้ งถิ่น - นิทาน 5. สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น 5.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร 5.2 ความสามารถในการคิด 6. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มุ่งมัน่ ในการทางาน 7. กจิ กรรมการเรียนรู้ เรือ่ งท่ี บอกความหมายของคา เวลา 1 ชว่ั โมง ใช้วิธีสอนแบบบนั ได 6 ขนั้ ; ขัน้ ท่ี 3 เขียนคาประกอบภาพ ขนั้ นา 1.) ครูนารปู ภาพจากรจู้ กั คานาเรอื่ ง ติดบนกระดานดา ให้นกั เรียนดูและชว่ ยกันตอบคาถามวา่ เปน็ รปู ภาพอะไร นักเรยี นช่วยกันสะกดคาตามภาพ ข้นั สอน 2.) ครูอธิบายหลกั การบอกความหมาย และการวิเคราะห์คากบั ภาพใหน้ กั เรียนฟังพร้อมยกตวั อยา่ ง เช่นคาวา่ ว่ายนา้ ครูสาธิตทาทา่ วา่ ยนา้ ให้นักเรยี นดู

3.) นักเรยี นอ่านหนังสือเรยี น วรรณคดีลานา หนา้ 66-76 พร้อมกนั ครสู ุ่มอ่านทีละคนครแู นะนา แกไ้ ข ข้อผิดพลาดเปน็ รายบุคคล 4.) รว่ มกันเลน่ เกม “ ทายคาดว้ ยท่าทาง” วิธเี ล่นคือครกู าหนดภาษาท่าทางไว้ดงั น้ี คลาน ใชท้ ่า ทางให้อีกคนทาย นอนหลับ ใช้ท่า ทางใหอ้ ีกคนทาย กระโจน ใช้ท่า ทางใหอ้ กี คนทาย วิ่งแข่ง ใชท้ ่า ทางใหอ้ ีกคนทาย 5.) นกั เรยี นทาแบบฝึกหัด จบั คู่คากบั ภาพ จากนั้นนาสง่ ครู ครเู ฉลยและตรวจสอบความถกู ต้อง ขนั้ สรุป 6.) ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั ทายคา จากคาในบทเรียน เปน็ การสรุปบทเรียน 8. การวัดและประเมินผล วธิ กี าร เครื่องมือ เกณฑ์ ตรวจแบบฝกึ หัด แบบฝึกหดั เขยี นคากบั ภาพ จบั คคู่ าได้ถกู ต้อง 7 คาจาก 10 คา สงั เกตการใฝ่เรยี นรู้ ตรงตอ่ เวลา มคี วาม แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ รบั ผิดชอบ และมุ่งมั่นในการทางาน 9. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ 9.1 สือ่ การเรียนรู้ 1) หนงั สอื เรยี น วรรณคดีลานา ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 1 2) แบบฝกึ หัดจับคคู่ ากับภาพ 9.2 แหลง่ การเรียนรู้ 1. หอ้ งสมดุ 2. อนิ เทอรเ์ นต็

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 4 ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 เวลา 1 ชวั่ โมง กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย วิชา ภาษาไทย หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 12 กระต่ายกับเตา่ เรื่อง การแต่งประโยค 1. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด ประโยคคอื คาที่นามาเรียงกันและได้ใจความสมบูรณ์ทาให้ผ้ฟู งั เขา้ ใจวา่ ใครทาอะไรทไ่ี หน ทาอาการ อย่างไร ประโยคประกอบดว้ ยสองสว่ นสาคัญ คือ 1. ภาคประธานไดแ้ ก่ผกู้ ระทากรยิ า 2. ภาคแสดงไดแ้ ก่สว่ น ท่เี ปน็ กรยิ า คือแสดงการกระทาของประธาน 2. ตัวชีว้ ัด ท 4.1 ป.1/3 เรียบเรียงคาเปน็ ประโยคง่าย ๆ 3.จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. บอกส่วนประกอบของประโยคไดถ้ กู ต้อง(K) 2. แตง่ ประโยคจากภาพไดถ้ กู ต้องตามหลักภาษาไทย(P) 3. นาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได(้ A) 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง - สว่ นประกอบของประโยค - การแตง่ ประโยค 4.2 สาระการเรียนรู้ท้องถนิ่ - นทิ าน 5. สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รียน 5.1 ความสามารถในการส่ือสาร 5.2 ความสามารถในการคดิ 5.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ 6. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุง่ ม่นั ในการทางาน 7. กจิ กรรมการเรียนรู้ ใชว้ ธิ สี อนแบบบนั ได 6 ขัน้ ; ขนั้ ท่ี 5 แต่งประโยค ขัน้ นา 1.) ครนู าแถบประโยคมาให้นักเรยี นดู นักเรียนอ่านแถบประโยคพรอ้ มกนั ขัน้ สอน 2.) ครนู าแถบประโยคติดบนกระดาน ครูอธิบายลักษณะของประโยค ส่วนประกอบของ ประโยคทมี่ ีใจความสมบรู ณ์ ประโยคทีไ่ ม่ได้ใจความประโยคสามส่วนประกอบดว้ ย ประธาน+ กรยิ า เชน่ กระตา่ ยนอนหลับ กระต่าย= ประธาน นอนหลบั = กรยิ า ------เป็นประโยคทมี่ ีใจความสมบูรณ์

3.) ครูยกตัวอย่างรูปภาพบนกระดานให้นักเรียนชว่ ยกนั แตง่ ใหไ้ ด้ประโยคทีส่ มบรู ณ์ 4.) ครกู าหนดคาศัพท์ประกอบรปู ภาพให้นกั เรยี น 10 คาให้นักเรยี นทุกคนทาแบบฝึกหัดแตง่ ประโยค จากคาที่ครูกาหนดให้ เสร็จแลว้ สง่ ครู ครูตรวจผลงานนกั เรียนเปน็ รายบุคคล ขนั้ สรุป 5.) ครูและนกั เรียนยกตวั อย่างการนาเร่ืองประโยคไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ย่างไรบา้ งนกั เรยี น ช่วยกันตอบเปน็ การสรปุ บทเรยี น 8. การวัดและประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ วิธกี าร แบบฝกึ แต่งประโยค แตง่ ประโยคไดถ้ กู ต้อง ตรวจแบบฝึกหัด 7 ประโยคจาก 10 ประโยค สังเกตการใฝเ่ รยี นรู้ ตรงตอ่ เวลา มคี วาม แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ รับผดิ ชอบ และมงุ่ มนั่ ในการทางาน 9. สือ่ /แหล่งการเรยี นรู้ 9.1 สอื่ การเรียนรู้ 1) หนงั สอื เรียน วรรณคดลี านา ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 1 2) แบบฝกึ แตง่ ประโยคจากภาพ 3) แถบประโยค 9.2 แหลง่ การเรยี นรู้ 1) หอ้ งสมุด 2) อนิ เทอร์เนต็

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 5 ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 กล่มุ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย วิชา ภาษาไทย เวลา 2 ช่ัวโมง หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 12 กระต่ายกับเต่า เร่ือง การเล่านิทาน 1. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด ความสาคัญของนทิ านดงั กล่าวสรุปได้วา่ นทิ านให้ความเพลิดเพลนิ สนกุ สนานและผอ่ นคลาย ความเครียด สร้างเสรมิ จนิ ตนาการส่งเสริมคณุ ธรรม จริยธรรม กระชับความสมั พันธ์ในครอบครวั สะท้อนให้ เหน็ สภาพของสังคมในอดีตในหลายๆด้าน ช่วยพฒั นาเด็กทางคณุ ลกั ษณะชวี ิต พัฒนาบุคลกิ ภาพของเด็ก พัฒนาดา้ นความร้แู ละสตปิ ญั ญา ทักษะและความสามารถทางภาษา ถ้านักเรียนได้ฝกึ เล่านิทานจะทาให้ นักเรยี นมีมารยาทในการพดู ดว้ ย 2. ตัวชี้วัด ท 1.1 ป.1/4 เลา่ เรอื่ งยอ่ จากเรอื่ งที่อา่ น 3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. บอกหลกั การเล่านทิ านไดถ้ ูกตอ้ ง(K) 2. เลา่ เร่อื งยอ่ กระต่ายกับเต่าได้(P) 3. มีมารยาทในการพดู (A) 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง - การเล่านิทาน - มารยาทในการพดู 4.2 สาระการเรยี นรู้ท้องถ่ิน - นิทาน 5. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคดิ 2. ความสามารถในการสือ่ สาร 6. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุ่งมัน่ ในการทางาน 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ ใชว้ ิธีสอนแบบบันได 6 ขน้ั ; ขนั้ ที่ 6 การอ่านและเขยี นอิสระ เวลา 2 ชัว่ โมง ขนั้ นา 1.) ครูสนทนากับนักเรียนวา่ ใครชอบฟงั นทิ าน ใครเคยเล่านิทานบา้ ง ครเู ล่านิทานอีสป ให้นกั เรียนฟงั 1-2 เรื่อง และให้นักเรยี นลองเล่าเร่อื งจากที่ฟงั จากครูบ้าง

ขั้นสอน 2.) ครูอธบิ ายหลกั การเล่าเรือ่ งยอ่ จากนทิ านเรื่องทฟี่ ังและดหู รอื อา่ นผ่านมา เม่อื อา่ นหรือฟังเรือ่ ง แล้วนักเรยี นตอ้ ง สรปุ ให้ไดว้ ่า เปน็ เรอื่ งของใคร ทาอะไร ที่ไหน เม่ือไร อยา่ งไร และผลการกระทาเปน็ อยา่ งไร และมารยาทในการพูด เช่น -พดู เสยี งดงั ฟังชดั แตไ่ มใ่ ช่ตะโกน -พดู ด้วยวาจาสุภาพ แสดงหน้าตาที่ยมิ้ แย้มแจ่มใส -ไม่พดู อวดตนข่มผ้อู ่ืน -ไม่พดู ก้าวรา้ วหรือพูดขัดคอผู้อ่ืน ควรใช้วิธีทส่ี ุภาพเมื่อต้องการแสดงความคดิ เหน็ -รักษาอารมณ์และขณะท่ีพดู ใหเ้ ป็นปกติ -ไม่นาเรื่องส่วนตัวของผอู้ น่ื มาพูด -ไมล่ ว้ งแคะ แกะ เกา ขณะพูด 3.) นักเรียนทดสอบเลา่ เรอื่ งยอ่ จากการอา่ นนทิ านกระตา่ ยกับเต่ารายบุคคล ครใู ห้เวลาคนละไม่เกนิ 5 นาที ครปู ระเมนิ การพูดรายบคุ คล พร้อมแนะนาและแกไ้ ขข้อบกพร่องของแต่ละคน ข้ันสรุป 4.) ครูและนักเรยี น รว่ มกันสรปุ การเลา่ นทิ าน และช่วยกนั ยกตวั อย่างมารยาทในการพดู ในท่ี สาธารณะมาคนละ 1 ข้อ 8. การวัดและประเมินผล วธิ ีการ เคร่อื งมือ เกณฑ์ ประเมินการเลา่ นิทาน นทิ านอสี ปเร่อื งกระตา่ ยกับเต่า ระดับคุณภาพ 3 ผ่านเกณฑ์ สังเกตการใฝ่เรียนรู้ ตรงตอ่ เวลา มคี วาม แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ รับผดิ ชอบ และมุ่งมน่ั ในการทางาน 9. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ 9.1 สือ่ การเรียนรู้ 1) หนังสอื เรยี น วรรณคดลี านา ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 1 2) นิทาน 9.2 แหลง่ การเรียนรู้ 1) ห้องสมดุ 2) อนิ เทอรเ์ น็ต

แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 6 ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 1 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย วิชา ภาษาไทย เวลา 2 ชว่ั โมง หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 12 กระตา่ ยกับเต่า เรอื่ ง การเขียนเร่อื งย่อจากนทิ านอสี ป 1. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด นิทาน เปน็ เร่ืองจนิ ตนาการ เพอ่ื ใหค้ วามสนุกสนาน ปลูกฝังคุณธรรม แงค่ ิดมุมมองต่างๆแก่ผอู้ ่าน เน้อื หาต้องไมซ่ บั ซ้อน สนั้ ๆ กะทัดรดั เป็นลักษณะเรือ่ งเล่าธรรมดา มกี ารลาดับเหตกุ ารณก์ ่อนหลังเม่อื จบ นิทาน ผู้อา่ นควรไดแ้ ง่คิด คติสอนใจเพื่อเป็นการปลูกฝังคุณธรรมกลอ่ มเกลาจติ ใจ 2. ตัวชวี้ ัด ท2.1 ป.1/2 เขียนส่ือสารดว้ ยถอ้ ยคาและประโยคต่าง ๆ 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. บอกหลกั การเขยี นเรอ่ื งย่อจากนทิ านไดถ้ กู ตอ้ ง(K) 2. เขยี นเรอ่ื งยอ่ จากนิทานอสี ปเรื่องกระตา่ ยกับเตา่ ได้(P) 3 มมี ารยาทในการเขยี น(A) 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง - การเขยี นเรื่องย่อจากนทิ าน 4.2 สาระการเรยี นรทู้ ้องถ่ิน - นทิ าน 5. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น 5.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 5.2 ความสามารถในการคดิ 6. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มีวินยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. ม่งุ มั่นในการทางาน 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ใชว้ ิธกี ารสอนแบบ บนั ได 6 ข้นั ขน้ั ท่ี 6 เป็นการอา่ นหรอื เขียนอสิ ระ การเขยี นเรอื่ งยอ่ จากนิทานอีสป เวลา 2 ชัว่ โมง ขน้ั นา 1.) ครเู ปิดนทิ านเร่ืองกระต่ายกบั เตา่ ใหน้ ักเรียนดู เป็นการกระตุ้นความสนใจ 1 รอบเมอื่ ดูจบ ข้ันสอน 1.) ครูสนทนากับนกั เรียน เม่อื ดนู ทิ านแลว้ ลาดบั เหตุการณ์ จากเร่ืองโดยครนู ารูปภาพให้นักเรียนดู แลว้ ช่วยกนั ตอบว่าภาพไหนเปน็ เหตุการณ์ท่ี 1 ,2 ,3 หรือ 4

2.) ครอู ธิบายหลักการเขียนยอ่ ความ ใหน้ กั เรยี นฟังจากน้ันใหช้ ว่ ยกนั พดู ออกมาเป็นขอ้ ความว่า ภาพ ที่ 1 ตัวละครในภาพ - เป็นใครทาอะไร - ที่ไหน - เมอื่ ไร - อย่างไร - ผลเป็นอยา่ งไร แล้วเขยี นออกมาเปน็ ข้อความของแตล่ ะภาพ ทาเหมอื นกนั ทกุ ภาพ ตามลาดบั เหตกุ ารณเ์ ปน็ เรอ่ื งราวตอ่ เน่อื งและสมั พนั ธ์กัน 4.) ครูแจกใบงานใหน้ กั เรยี นเขยี นนิทานตามภาพโดยลาดับเหตกุ ารณใ์ หต้ ่อเนอื่ ง และเปน็ เน้อื เร่ืองที่ สมบรู ณ์ความยาวไมเ่ กนิ 5 บรรทดั 5.) ครอู ธบิ ายมารยาทในการเขียนให้นกั เรยี นฟัง - ควรเขยี นด้วยตวั บรรจงใหอ้ า่ นเข้าใจงา่ ย - ควรเขียนโดยใช้ภาษาที่สภุ าพถูกตอ้ งตามหลักภาษาไทย - ไม่ควรเขียนวา่ รายผอู้ ่นื ให้ได้รับความเสยี หาย - เมอื เขียนผิดควรใชย้ างลบ ลบให้สะอาด - ไม่ควรขีดเขียนโต๊ะ เก้าอี หรอื ในทีท่ ีห่ ้ามเขียน - ควรเขยี นในกระดาษทม่ี ีสีขาว สะอาด ไม่ยบั หรือฉกี ขาด 5.) ครตู รวจผลงานนักเรียนรายบุคคล พร้อมแนะนาและแก้ไขข้อบกพร่องของแตล่ ะคน ขัน้ สรุป 6.) ครูและนกั เรียนรว่ มกันสรุปบทเรยี น โดยให้นักเรียนช่วยกนั บอกหลกั การเขยี นเรื่องยอ่ จากนิทาน และบอกมารยาทในการเขียน เปน็ การสรุปบทเรยี น 7.) ครูให้นักเรยี นทาแบบทดสอบหลังเรียน 10 ข้อ เสรจ็ แลว้ ครูตรวจผลงานแจง้ คะแนนพรอ้ มเฉลย นักเรียนต้องทาถูก 7 ข้อ จาก 10 ข้อจึงผ่านคนที่ไมผ่ า่ นครูให้แก้ไขใหม่จนกว่าจะผ่าน 8. การวัดและประเมนิ ผล วิธกี าร เครือ่ งมอื เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการเรียนรู้ แบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยการเรยี นรู้ (ประเมนิ ตามสภาพจรงิ ) ที่ 19 ที่ 19 ตรวจผลงานการเขียนเรื่องย่อจากนทิ าน แบบฝึกเขียนเรือ่ งย่อจากนิทาน ประเมินตามสภาพจรงิ สงั เกตการใฝ่เรียนรู้ ตรงต่อเวลา มคี วาม แบบประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ รบั ผิดชอบ และมุ่งม่นั ในการทางาน

9. ส่อื /แหล่งการเรียนรู้ 9.1 ส่อื การเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน วรรณคดีลานา ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 1 2) นทิ าน 3) รปู ภาพ 4) แบบฝึกเขียนเรือ่ งยอ่ จากนทิ าน 5) แบบทดสอบหลังเรยี น 9.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) อินเทอรเ์ น็ต 2) ห้องสมุด

แบบฝึกท่ี 1.1 การอ่านสะกดคาจากเรอ่ื งกระต่ายกบั เตา่ คาช้แี จง 1. ใหน้ ักเรียนอา่ นสะกดคา ภายในเวลา ๕ นาที 2. ครูยกตวั อยา่ งการอา่ นสะกดคา ตวั อยา่ ง เตา่ สะกดวา่ ตอ – เอา – เตา – ไมเ้ อก -เตา่ ขอ้ ที่ คา ผลการประเมิน อา่ นได้ อา่ นไม่ได้ 1 กระต่าย 2 คลาน 3 เดิน 4 ว่งิ แข่ง 5 เชอื่ งช้า 6 นอนหลบั 7 สุนขั จ้ิงจอก 8 กระโจน 9 ว่ายนา้ 10 ชะลา่ ใจ ชอื่ ผรู้ ับการประเมิน……………………………………………………………………….ช้นั ……………เลขท่ี………… คะแนนที่ได้……………………………………ผ่าน………………ไม่ผ่าน………………. ผปู้ ระเมิน………………………………………. เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ชว่ งคะแนน 7- 10 ตา่ กวา่ 7 ระดบั คณุ ภาพ ผ่านเกณฑ์ ไมผ่ า่ นเกณฑ์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook