ตรา กศน.บวั เชด รูป ผอ ดา้ นที่ 1 ดา้ นวนิ ยั คณุ ธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชพี ตอนท่ี 1 การมีวนิ ยั ตวั บง่ ช้ที ่ี 1.1 การมวี ินยั ในตนเอง ยอมรับ และถือปฏบิ ตั ติ ามกฎ กติกา มารยาท ขนบธรรมเนยี ม และแบบแผนอนั ดงี ามของสังคม มวี นิ ัยในตนเอง ยอมรบั และถอื ปฏิบตั ิตาม กฎ กตกิ า มารยาท ขนบธรรมเนียม และแบบแผนอันดงี ามของสังคม เป็นแบบอย่างทด่ี ี และเป็นผู้นาในการเสรมิ สรา้ งพัฒนา ผอู้ น่ื ในด้านนี้ .................................................................. ตวั บง่ ชี้ท่ี 1.2 การรกั ษาและเสรมิ สรา้ งวินยั ในตาแหนง่ หน้าทร่ี าชการ ปฏบิ ัตติ าม กฎหมาย ระเบียบแบบแผนของทางราชการ รกั ษาและเสริมสร้างวนิ ัยในตาแหน่งหน้าทรี่ าชการปฏิบัติ ตามกฎหมาย ระเบยี บ แบบแผนของทางราชการ และมสี ว่ นรว่ มเสรมิ สร้างวินยั แกผ่ ู้อนื่ มผี ลงานเปน็ ท่ีปรากฏ เปน็ แบบอยา่ งท่ีดี ................................................................. ตวั บง่ ชีท้ ่ี 1.3 การตรงต่อเวลา การอุทศิ เวลาให้แก่ทางราชการและผู้เรยี นอย่างตอ่ เนอ่ื ง ตรงตอ่ เวลา ปฏิบตั ิงานตามที่ไดร้ ับมอบหมายไดส้ าเรจ็ และอุทศิ เวลาอยา่ ง ต่อเนือ่ ง ................................................................. ตวั บง่ ชี้ท่ี 1.4 ความซื่อสตั ยส์ จุ รติ ในการปฏบิ ตั ิหน้าท่ี การรักษาผลประโยชนข์ องทาง ราชการ และไม่มผี ลประโยชนท์ บั ซ้อน ปฏิบตั งิ านด้วยความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ รกั ษาผลประโยชนข์ องทางราชการ ไมม่ ี ผลประโยชน์ทับซ้อน และไดร้ ับการยกย่อง ชมเชย ................................................................. ตวั บง่ ช้ที ี่ 1.5 การรักษาความสามัคคี มีนา้ ใจ เออ้ื เฟอ้ื เผ่ือแผ่ เพ่ือนรว่ มงาน องค์กร และชมุ ชน มีนา้ ใจ เสียสละ ทางานร่วมกับผอู้ ืน่ ไดอ้ ย่างราบรืน่ และประสบความสาเรจ็ จน ได้รบั การยอมรบั จากหนว่ ยงานหรอื องคก์ รทีเ่ กยี่ วข้อง .................................................................
ตอนที่ 2 การประพฤติปฏบิ ัตติ นเป็นแบบอยา่ งท่ดี ี ตวั บ่งช้ที ่ี 2.1 ความอสุ าหะ ขยนั อดทน มุง่ มน่ั และรบั ผดิ ชอบต่อผลสมั ฤทธขิ์ องงาน โดยยึดหลกั ประหยดั คมุ้ คา่ มีประสิทธภิ าพ ปฏิบัตงิ านประสบความสาเร็จ เป็นที่ยอมรบั และมผี ลงานปรากฏชดั เจน และ นาไปเปน็ ตน้ แบบพัฒนาผู้อืน่ ได้ ................................................................. ตวั บง่ ชท้ี ่ี 2.2 การยึดมน่ั ในคุณธรรม จริยธรรม มีความศรทั ธา และปฏิบตั ติ นตามหลัก ศาสนา ยึดมน่ั ในคณุ ธรรม จรยิ ธรรม มคี วามศรทั ธาและปฏบิ ัตติ นตามหลักศาสนาเปน็ แบบอย่างทีด่ ใี นการรบั การยกย่อง ชมเชย และมีส่วนรว่ มเสริมสรา้ งพัฒนาผ้อู ืน่ ................................................................. ตัวบง่ ชี้ที่ 2.3 การยึดม่นั ในหลกั นติ ิธรรม ยนื หยัด กระทาในสง่ิ ทถี่ ูกตอ้ ง เป็นธรรม และ ชอบดว้ ยกฎหมาย ยดึ ม่ันปฏิบตั หิ นา้ ที่ตามหลกั นิตธิ รรม ไดร้ บั การยกยอ่ ง ชมเชย และมีการรณรงค์ และเสริมสรา้ งผอู้ น่ื ในด้านนี้ ................................................................. ตัวบง่ ชี้ที่ 2.4 การยึดม่ันในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษตั รยิ ์ทรง เป็นประมุข และวางตวั เปน็ กลางทางการเมอื ง ใช้สทิ ธ์ิและหนา้ ทตี่ ามระบอบประชาธปิ ไตย มีสว่ นร่วมสง่ เสริม สนบั สนนุ กจิ กรรม ท่เี กย่ี วข้องกบั การเลอื กตั้ง วางตวั เปน็ กลางทางการเมือง และการวางรากฐานระบบ ประชาธปิ ไตย ................................................................. ตัวบ่งชีท้ ่ี 2.5 การผู้มสี ว่ นรว่ มในการอนรุ ักษว์ ัฒนธรรมไทยและสง่ิ แวดลอ้ ม มสี ่วนร่วมในกจิ กรรมอนุรักษว์ ัฒนธรรมไทยและส่ิงแวดล้อม จานวนมากกวา่ 8 กิจกรรม .................................................................
ตอนท่ี 3 การดารงชีวติ อยา่ งเหมาะสม ตวั บ่งช้ที ี่ 3.1 การดารงชวี ิตตามแนวทางหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอยู่เสมอ มพี ฤตกิ รรมการดารงชวี ติ ท่แี สดงถึงการนาหลักเศรษฐกจิ มันยังมาใช้ ................................................................. ตัวบง่ ชีท้ ี่ 3.2 การละเวน้ อบายมขุ และส่งิ เสพติด มีพฤตกิ รรมท่ีแสดงถึงการเปน็ ผู้ละเว้นอบายมุข และส่งิ เสพตดิ และเปน็ ผูน้ า รณรงคแ์ ละเสริมสร้างผู้อืน่ ในด้านนี้อย่างตอ่ เนอื่ ง ................................................................. ตวั บ่งชที้ ่ี 3.3 การใชห้ รือให้ข้อมลู ขา่ วสารสว่ นบุคคลและของทางราชการให้เป็นไปดว้ ย ความถกู ต้อง ใช้หรอื ใหข้ อ้ มลู ได้ถกู ตอ้ งเหมาะสม และสามารถพฒั นาผู้อนื่ จนได้ผลงานเปน็ ที่ ประจักษอ์ ยา่ งต่อเนื่อง ................................................................. ตัวบ่งชี้ที่ 3.4 การดารงตนเป็นแบบอยา่ งท่ีดเี หมาะสมกบั สถานภาพและตาแหนง่ หน้าท่ี ดารงตนเปน็ แบบอยา่ งทด่ี ี เหมาะสมกับสถานภาพและตาแหนง่ หนา้ ท่ี ได้รับการ ยกย่อง ชมเชย และมีส่วนรว่ มเสรมิ สรา้ งพัฒนาผ้อู ื่นในดา้ นนี้ ................................................................. ตัวบง่ ช้ที ี่ 3.5 การผูป้ ระหยดั มัธยัสถ์ อดออม มกี ารดารงชวี ติ เปน็ ท่ีประหยดั มัธยสั ถ์ อดออม ปรากฏไดร้ ับการยกย่อง ชมเชย และมีส่วนร่วมรณรงคแ์ ละเสรมิ สร้างผอู้ น่ื ในดา้ นน้ี .................................................................
ตอนท่ี 4 ความรักและศรัทธาในวิชาชีพ ตัวบง่ ชี้ท่ี 4.1 การเปน็ สมาชกิ ทดี่ ี สนับสนนุ และรว่ มกิจกรรมของวชิ าชีพ และทางวิชาการ อยา่ งสร้างสรรค์ เปน็ สมาชกิ ทีด่ ี สนับสนนุ และรว่ มกิจกรรมของวิชาชพี และทางวิชาการอย่าง สร้างสรรค์ ไดร้ บั การยกยอ่ งชมเชย และมสี ว่ นร่วมรณรงคแ์ ละเสรมิ สรา้ งผอู้ นื่ ในดา้ นนี้ ................................................................. ตัวบง่ ช้ที ่ี 4.2 การศกึ ษา ค้นควา้ รเิ รม่ิ สรา้ งสรรคค์ วามรู้ใหม่ ๆ มาใช้พฒั นางานใน วชิ าชีพ ศึกษา คน้ ควา้ รเิ ร่ิม สรา้ งสรรค์ความรูใ้ หมน่ วตั กรรมในการพัฒนางานในวชิ าชพี จนสาเร็จและเปน็ ตัวอยา่ งได้ ................................................................. ตัวบง่ ชี้ที่ 4.3 การมีบทบาทเปน็ ผู้นาทางวชิ าการในวงการวิชาชพี มีบทบาทเป็นผ้นู าทางวิชาการในระดบั จังหวดั / เขตพ้นื ท่ีการศึกษาและมีสว่ นร่วม ในการพฒั นาเสรมิ สร้างภาวะผู้นาทางวชิ าการแก่ผู้อื่นและมีผลงานปรากฏ ................................................................. ตัวบง่ ช้ีท่ี 4.4 การรักษาชือ่ เสียง ปกป้องศักดิศ์ รีแห่งวชิ าชีพและการยกย่องเชดิ ชเู กยี รติ รักษาชอื่ เสียง ปกปอ้ งศักดิ์ศรีแห่งวิชาชพี และการยกย่องเชิดชูเกียรติอย่าง ต่อเนื่องเกิดผลดีเปน็ ทยี่ อมรบั มีสว่ นรว่ มรณรงค์และเสริมสร้างผอู้ น่ื ในดา้ นน้ี ................................................................. ตวั บ่งชที้ ่ี 4.5 การเสรมิ สร้างปลกู จติ สานกึ ทด่ี แี กผ่ ้เู รียน ชมุ ชน สังคม เปน็ ผูน้ าในการเสรมิ สรา้ งปลูกจิตรสานึกทดี่ แี ก่ผู้เรยี น ชุมชน สังคม มผี ลงานเป็น ท่ปี รากฏและได้รบั การยกยอ่ ง ชมเชย .................................................................
ตอนที่ 5 ความรบั ผดิ ชอบในวิชาชีพ ตัวบง่ ชี้ที่ 5.1 การเอาใจใส่ ถา่ ยทอดความรูแ้ ละส่งเสรมิ การแสวงหาความรโู้ ดยไม่ บิดเบอื น ปิดบังหวังส่งิ ตอบแทน เอาใจใส่ ถา่ ยทอดความรู้ หรือส่งเสริมการแสวงหาความรู้ โดยไมบ่ ดิ เบือน ปิดบัง หวังสิง่ ตอบแทน เกดิ ผลดีต่องานในหน้าท่ี และไดร้ บั การยกย่อง โดยมผี ลงานปรากฏ อยา่ งต่อเน่อื ง ................................................................. ตวั บ่งชีท้ ่ี 5.2 การเอาใจใส่ชว่ ยเหลือผู้เรยี นและผรู้ บั บรกิ ารเตม็ ความสามารถตามหลัก วชิ าชพี อยา่ งสม่าเสมอเท่าเทียมกนั เอาใจใส่ช่วยเหลอื ผ้เู รยี นและผูร้ บั บรกิ ารเต็มความสามารถตามหลกั วิชาชีพอยา่ ง สมา่ เสมอเทา่ เทียมกนั มคี ารับรองของผูบ้ ังคับบญั ชา และคณะกรรมการสถานศกึ ษา ................................................................. ตวั บง่ ช้ีที่ 5.3 การศึกษา คน้ คว้ารเิ ริ่ม สรา้ งสรรค์ ความร้ใู หม่ นวตั กรรมในการพัฒนา งานในหนา้ ท่ี ศกึ ษา คน้ ควา้ ริเร่ิม สร้างสรรค์ ความรู้ใหม่ นวตั กรรมในการพฒั นางานในหนา้ ที่ จนสาเร็จ และเปน็ ตวั อย่างได้ ................................................................. ตัวบ่งชท้ี ่ี 5.4 การประพฤตติ นตามจรรยาบรรณของวชิ าชีพและแบบแผนพฤตกิ รรม ตามจรรยาบรรณของวชิ าชพี ไดร้ ับการยกย่องชมเชย จากครุ ุสภา องคก์ รภายนอก หนว่ ยงานอนื่ หรือ หนว่ ยงานท่ีสงู กว่าระดับจังหวัด/เขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษา ................................................................. ตัวบ่งชท้ี ่ี 5.5 การมีจติ อาสา จิตสาธารณะ และมุง่ ประโยชนส์ ่วนรวม ใหก้ ารชว่ ยเหลือหรือใหค้ วามรว่ มมอื แกส่ ว่ นรวมอย่างทมุ่ เทและเสยี สละจนสาเร็จ เกดิ ประโยชนต์ ่อส่วนรวมและได้รบั การยกยอ่ ง .................................................................
Search
Read the Text Version
- 1 - 5
Pages: