โรงเรียนเทศบาล 7 (ศิรินาวินวิทยา) สงั กดั กรมส่งเสริมการปกครองทอ้ งถิ่น ฐ า น ข้ อ มู ล พ ร ร ณ ไ ม้ โรงเรียนเทศบาล 7 (ศิรินาวนิ วทิ ยา) ต้นทองหลาง 130 ถนนสขุ สวสั ดิ์ 1 ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลาปาง 52000
ช่ือวทิ ยาศาสตร์ : Erythrina fusca Lour. ช่ือเรียกอื่น : ทองหลางน้า,ทองหลางใบมน,ทองโหลง ชื่อวงศ์ : Leguminosae-Papilionoideae ลกั ษณะ : เป็ นไมย้ ืนตน้ ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ผลดั ใบ สูงประมาณ 10-20 เมตร ผิว เปลือกลาตน้ บาง สีเทาหรือเปลือกเป็ นลายคลา้ ยเปลือกแตกต้ืนๆสีเทาอ่อน และ เหลืองอ่อนๆ ลาตน้ และก่ิงกา้ นมีหนามแหลมคม หรือบางชนิดมีหนามเลก็ ๆแหลม คมตลอด เรือนยอดเป็นพมุ่ กลมโปร่ง ใบ : เป็ นใบประกอบแบบขนนก มีใบยอ่ ย 3 ใบ ใบกลางจะโตกว่าสองใบ ดา้ นขา้ ง ลกั ษณะใบเป็ นรูปสามเหลี่ยมคลา้ ยใบโพธ์ิ กวา้ งประมาณ 2-3 น้ิว ยาว ประมาณ 35 น้ิว ผวิ ใบเรียบ สีเขียวหรือด่างเหลืองๆใตท้ อ้ งใบมีสีขาวข่นุ กา้ นช่อ ยาวประมาณ 3-5 นิ้ว บางชนิดลกั ษณะใบมนคลา้ ยกบั ใบของถว่ั พู ใบโตประมาณ 3-4 นิ้ว กา้ นใบจะมีใบยอ่ ย 3 ใบ และบางชนิดใบประกอบ เรียงสลบั มี 3 ใบยอ่ ย มี หูใบ ใบยอ่ ยรูปไขห่ รือโคง้ ใบมีขน ดอก : เป็ นช่อติดกนั เป็ นกลุ่มออกตามบริ เวณขอ้ ตน้ หรื อโคนก้านใบ ลกั ษณะดอกคลา้ ยกบั ดอกถว่ั มีสีแดง หรือชมพู กลีบดอกกวา้ งประมาณ 1-2 น้ิว ยาวประมาณ 2-3 นิ้ว ช่อดอกยาวประมาณ 4-8 น้ิว ผล : เป็นฝักแบนโคง้ เลก็ นอ้ ย ยาวประมาณ 15 -30 ซ.ม. เป็ นขอ้ ๆสีน้าตาล เขม้ โคนฝักจะลีบเลก็ ผลแก่ฝักจะแตกท่ีปลายอา้ ออก ภายในฝักมีเมลด็ เป็นเหล่ียม บา้ งฝักยาวคอดเป็นขอ้ ๆ สีน้าตาลเขม้ และบา้ งฝักแคบ ภายในมีเมลด็ 2-4 เมลด็
การกระจายพนั ธ์ุ : เพาะเมลด็ หรือปักชากิ่ง ช่วงเวลาการออกดอก : ออกเป็นช่อกระจะออกท่ปี ลายก่ิง ดอกรูปดอกถวั่ ดอกบานกวา้ ง 8 – 10 เซนตเิ มตร สีแดง ออกดอกเดือนมกราคม – กมุ ภาพนั ธ์ และตดิ ผลในเดือนมีนาคม -เมษายน ประโยชน์ : ปลูกเป็นไมป้ ระดบั เป็นไมม้ งคลประจาบา้ น ราก ลาตน้ ใบ ดอก เป็ นป๋ ุยอยา่ งดีกบั พืช ดูดซบั น้าในดินไวเ้ ล้ียงลาตน้ ไดม้ ากกว่า พืช ทุกชนิดเป็นพืชพ่เี ล้ียง เป็นพชื ที่ปลูกข้นึ ก่อนพชื ประธาน เพ่ือมีหนา้ ท่ีช่วยในการบงั ร่ม บงั ลม ช่วยสร้างธาตอุ าหาร หาอาหาร และรักษาความช้ืนใหก้ บั พืชประธาน คือ ตน้ ทองหลางเป็ นพืชที่โตเร็ว สร้างป๋ ุยไดเ้ นื่องจากท่ีปมรากมีบกั เตรี ท่ีตรึงไนโตรเจน จากอากาศได้ มีใบจานวนมาก ใบอ่อนใชร้ ับประทานเป็ นผกั ใบแก่ท่ีร่วงหล่นจะผผุ งั กลายเป็ นป๋ ุยอยู่ที่ผิวดิน มีเน้ือไม้เป็ นชนิดไม้เน้ืออ่อนผุผงั ได้ง่าย มีรากจานวนมาก กระจายอยใู่ นระดบั ผวิ ดินและในระดบั ลึก ทนทานต่อภาวะน้าท่วมขงั และที่พิเศษ คือ สร้างรากใหม่ไดท้ ุกปี รากเก่าบางส่วนจะผผุ งั สลายตวั ทาให้เกิดเป็ นโพรงอยู่ในดินเป็ น ท่อระบายอากาศในดิน และเป็ นช่อง ให้พืชประธานสามารถแทงรากลงไปได้ง่าย เกษตรกรนิยมปลูกทองหลางไวใ้ นสวนทุเรียน มงั คุด มะไฟ ส่วนใหญ่เป็นในระบบแบบ ยกร่องมีคุณค่าอาหารนึกไม่ถึง คือ ใบทองหลางอุดมดว้ ยโปรตีนเหมาะท่ีจะใช้เป็ น อาหารสัตว์ เช่น ววั ควาย แพะ แกะ ส่วนใบอ่อนเป็ นผกั ยอดฮิตใชร้ ับประทานร่วมกบั เมี่ยงคา ร่วมกบั ส้มตามะละกอ บา้ งเป็ นผกั จิ้มน้าพริก เป็ นผกั สดเคียงเม่ียง ปลาทู ปลา แหนม เป็นตน้ แหล่งอ้างองิ : http://www3.rdi.ku.ac.th/exhibition/51/Plant/pla nt_32/index_32.htm
ลกั ษณะของลาตน้ ลกั ษณะของใบ
ลกั ษณะของดอก ลกั ษณะของผล
ผู้ จั ด ทา เด็กหญิง อรประภา บุญเชียง ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 1 เลขที่ 32 โรงเรียนเทศบาล 7 (ศิรินาวนิ วทิ ยา)
Search
Read the Text Version
- 1 - 6
Pages: