Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เอกสาร ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน

เอกสาร ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน

Published by special_lp, 2021-12-11 07:53:36

Description: เอกสาร ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน

Search

Read the Text Version

ระบบดแู ลชว่ ยเหลือ ๑. ความหมาย ความสําคัญและความจําเปน็ ของระบบดแู ลช่วยเหลือนกั เรยี น ระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนเป็นกระบวนการหน่ึงในการบริหารจัดการศึกษาของสถานศึกษา ท่ีจะดาเนินงานดูแลช่วยเหลือนักเรียนท่ีมีขั้นตอนวิธีการและเครื่องมือการทางานที่ชัดเจน มีครูประจาชั้น หรือครูที่ปรึกษาเป็นบุคลากรหลักในการดาเนินงาน โดยการมีสวนร่วมของบุคลากรและเครือข่ายท่ีเก่ียวของ ทง้ั ภายในและภายนอกสถานศึกษา ความหมายของระบบการดูแลช่วยเหลือ ระบบการดแู ลช่วยเหลือนักเรียน หมายถงึ การดาเนินงานดูแลช่วยเหลือนกั เรยี น มกี ารประสานความ ร่วมมือมือกับผู้เกี่ยวของในการดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างมีระบบ มีข้ันตอน เพื่อการดาเนินงานพัฒนาและ การแกไขปญหานักเรียน เพ่ือใหนักเรียนมีพฤติกรรมท่ีเหมาะสมและสามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข สถานศึกษาในสังกัดทุกแหงจัดใหมีระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ดาเนินการระบบดูแลช่วยเหลือ (การวิเคราะห์ ป้องกัน และแก้ปัญหาเด็กกลุ่มเสี่ยง) อย่างจริงจัง ต่อเนื่อง เพ่ือใหเกิดความยั่งยืน ซึ่งนักเรียนทุกคนจะตองได้รับการดูแล ช่วยเหลือ พิทักษ ปกปอง คุมครองอย่างรอบด้าน ดวยกระบวนการที่ ถูกตอง เหมาะสมและทันการณได้รับการพัฒนาในทุกมิติ เพ่ือให้เป็นคนดี มีความสุขและปลอดภัยใน สภาพสงั คมปจจบุ นั ความสาํ คัญและความจําเปน็ ของระบบดแู ลช่วยเหลอื นกั เรียน การจัดทาระบบการช่วยเหลือนักเรียนเพ่ือใหมีกระบวนการทางานเป็นระบบ มีความชัดเจน มีการประสานความร่วมมือของผู้เก่ียวของทุกฝ่ายทั้งในโรงเรียนและนอกโรงเรียน รวมทั้งวิธีการกิจกรรมและ เครื่องมือตา่ ง ๆ ทม่ี ีคณุ ภาพในการดแู ลชว่ ยเหลอื นกั เรยี น โดยมีแนวคดิ หลกั ในการดาเนนิ งาน ดังนี้ ๑. มนษุ ยท์ กุ คนมศี กั ยภาพทจี่ ะเรียนรูและพัฒนาตนเองได้ตลอดชวี ติ ๒. ความสาเรจ็ ของงาน ตองอาศยั การมสี วนรว่ ม ทั้งการรว่ มใจ รว่ มคดิ พฤตกิ รรมทไ่ี มเ่ หมาะสม เป็นผลมาจากปัจจยั เสี่ยงต่าง ๆ ดงั นี้ ๑. ปัจจยั เสี่ยงจากสภาพครอบครวั ๒. ปจั จัยเสย่ี งจากโรงเรียน ๓. ปัจจยั เสี่ยงจากชมุ ชนและสังคม ๔. ปจั จัยเสี่ยงจากเพอ่ื น ๕. ปจั จัยเสยี งจากบคุ ลิกภาพหรอื ตวั นกั เรยี น

กฎหมายท่เี ก่ยี วของกบั ระบบดแู ลชวยเหลือนักเรยี น พระราชบัญญัติการศึกษาแหงชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ แกไขเพ่ิมเติม (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ และ (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๕๓ หมวด ๑ มาตรา ๖ การจัดการศึกษาตองเป็นไปเพ่ือพัฒนาคนไทยใหเป็นมนุษย์ ท่ีสมบูรณท้ังร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู และคุณธรรม มีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดารงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีมีความสุข หมวด ๔ มาตรา ๒๒ การจัดการศึกษาตองยึดหลักวา ผู้เรียน ทุกคนมีความสามารถ พระราชบัญญัติคุมครองเด็ก พ.ศ. ๒๕๔๖ พระราชบัญญัติฉบับน้ีมีเป้าหมายในการดูแลช่วยเหลือเด็ก และครอบครัวใหอยู่ในสภาพ ท่ีมีมาตรฐานในการดารงชีวิตที่ดี ได้รับการดูแลใหมีพัฒนาการตามวัย และ เด็กทุกคนตองมีหลักประกันความปลอดภัย ได้รับความคุมครองจากผู้เกี่ยวของ ทั้งเด็กท่ีประสบปญหาและ เด็กทไี่ มป่ ระสบปญหาซึ่งระบุไว ดังนี้ หมวด ๒ มาตรา ๒๒ การปฏิบัติตอเดก็ ไม่วากรณีใดใหคานึงถึงประโยชน สูงสุดของเดก็ เปน็ สาคญั พระราชบัญญัติระเบียบขาราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗ แกไขเพิ่มเติม (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ และ (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๕๓ มาตรา ๔๒ พระราชบัญญัติการปองกันและแกไขปญหาการตั้งครรภในวัยรุน พ.ศ. ๒๕๕๙ การต้ังครรภในวัยรุน ของประเทศมีจานวนเพิม่ ขึน้ อยา่ งเน่ือง ๒. การดาํ เนนิ งานตามระบบดูแลช่วยเหลอื นักเรยี น สถานศกึ ษาทกุ แหง่ ดาเนนิ งานอยา่ งเป็นระบบและต่อเน่ือง โดยมขี ั้นตอนสาคญั ๕ ขัน้ ตอน ๑) การรจู ักนักเรยี นเป็นรายบคุ คล ซง่ึ ครูทีป่ รึกษาควรมขี ้อมูลเก่ียวกับตวั นกั เรยี นอยา่ งน้อย ๓ ดา้ น ดา้ นแรก ดานความสามารถ ดา้ นที่สอง ดานสขุ ภาพ ดา้ นที่สาม ดานครอบครวั ขอมูลดานตาง ๆ เกยี่ วกบั ตวั นกั เรียน พอสรปุ ไดดงั นี้ ๑. ระเบยี นสะสม ๒. แบบประเมนิ พฤติกรรมเด็ก (SDQ) ๒) การคดั กรองนกั เรยี น เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลท้ังหมดที่ได้จากการรูจักนักเรียนเป็นรายบุคคลแล้วนาผลที่ได้มาจาแนกตาม เกณฑการคัดกรองท่สี ถานศึกษาไดจ้ ัดทาขึ้น จะแบงนกั เรียนออกเป็น ๓ กลมุ ดงั น้ี ๑. กลุมปกติ หมายถึง นักเรียนท่ีไม่มีพฤติกรรมท่ีเป็นปญหาและส่งผลกระทบต่อ ชีวติ ประจาวนั ในดา้ นลบ ๒. กลมุ เสี่ยง นักเรยี นทม่ี ีพฤตกิ รรมเบี่ยงเบนไปจากปกติ ๓. กลุมมีปญหา นักเรียนมีพฤติกรรมท่ีเป็นปญหาชัดเจน มีผลกระทบตอวิถีชีวิตประจาวัน ของตนเองหรอื ตอสังคมสวนรวมในด้านลบ

วธิ กี ารทาการคดั กรองนักเรยี น ๑) ทา SDQ ๒) จดั กลุมนักเรียน ๓ กลมุ คอื กลุมปกติ กลุมเส่ยี งและกลุมมปี ญหา เครอ่ื งมือในการคดั กรอง ๑) แบบประเมนิ SDQ ๒) เกณฑการคัดกรองที่ฝายปกครองของโรงเรียนการคัดกรองนักเรียน (ดานครอบครัวและ สิ่งแวดลอม) ๒.๑) ดานครอบครัว ๒.๒) ฐานะครอบครัว ๒.๓) ทอ่ี ยูอาศัย ๒.๔) สภาพแวดลอมอยูในชมุ ชนทด่ี ี ๒.๕) การคบเพอ่ื นคบกลมุ เพื่อน ๓) การสงเสรมิ และพฒั นานักเรียน เป็นการสนับสนุนใหนักเรียนทุกคน ไม่วาจะเป็นนักเรียนกลุมปกติ กลุมเส่ียงหรือกลุมมีปัญหาใหมี คุณภาพมากข้ึน ได้พัฒนาเต็มศักยภาพ มีความภาคภูมิใจในตนเองในดานต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยปองกันมิใหนักเรียน ที่อยูในกลุมปกติและกลุมพิเศษกลายเป็นนักเรียนกลุมเสี่ยงและกลุมมีปญหา และเปนการชวยใหนักเรียน กลุมเส่ียง กลุมมีปญหากลับมาเป็นนักเรียนกลุ่มปกติการสงเสริมพัฒนานักเรียน มีหลายวิธีท่ีโรงเรียนสามารถ พจิ ารณาดาเนินการได แตม่ กี ิจกรรมหลักสาคัญทโ่ี รงเรียนตองดาเนินการ คอื ๑. การจดั กิจกรรมโฮมรูม ๒. การเย่ยี มบ้าน ๓. การจดั ประชุมผู้ปกครองชัน้ เรยี น (Classroom meeting) ๔. การจัดกิจกรรมเสรมิ สร้างทกั ษะการดารงชีวติ และกิจกรรมพฒั นาผู้เรียน ๔) การปองกนั และแกไขปญหานกั เรยี น ในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพ่ือการช่วยเหลือนักเรียนก็เป็นส่ิงสาคัญ เพราะจะทาใหการช่วยเหลือ มีประสิทธิภาพกอใหเกิดความร่วมมือ ร่วมใจใจของครูทุกคน รวมท้ังผู้ปกครองดวย ครูที่ปรึกษาสามารถคิด พิจารณากิจกรรม เพ่ือการแกไขปญหาของนักเรียนได้หลายแนวทาง กิจกรรมหลักสูตร กิจกรรมใน หองเรียน กิจกรรมซอมเสริม กจิ กรรมส่ือสารกบั ผู้ปกครอง ขอทพ่ี ึงตระหนักในการปองกันและการแกไขปญหา ของนักเรยี น คอื ๑. การรักษาความลบั ๒. การแกไขปญหา

๕) การส่งตอ่ ผู้ที่มหี นาทหี่ ลักในการดาเนินงาน ๑. ครูทป่ี รึกษาประสานงานกับครทู จี่ ะช่วยเหลือนักเรยี นตอเพื่อใหทราบลวงหนา ๒. สรปุ ขอมูลสวนตวั ของนกั เรียนที่เกี่ยวของกับการช่วยเหลือ และวธิ ีการช่วยเหลือท่ีผ่านมา รวมทั้งผลที่เกิดขึ้นจากการช่วยเหลือใหผู้ที่รับชวงการช่วยเหลือนักเรียนทราบ โดยมีแบบบันทึกการส่งต่อ หรือแบบประสานงานขอความรว่ มมอื ผทู้ ่เี กีย่ วของ ๓. ครูท่ีปรึกษาตองชี้แจงใหนักเรียนเขาใจถึงความจาเป็นในการส่งต่อ โดยใชคาพูดท่ี สร้างสรรค ระมัดระวังไม่ใหนักเรียนเกิดความรูสึกผิด หรือโกรธ แต่ใหนักเรียนเกิดความรูสึกที่ดีจากการส่งต่อ และยนิ ดไี ปพบกบั ครูท่ีจะช่วยเหลอื ๔. ครทู ป่ี รึกษานดั วัน เวลา และสถานทนี่ ดั พบกบั ครทู ่ีชว่ ยเหลือนกั เรียนและสง่ ตอ่ ใหเรยี บรอ้ ย ๕. ตดิ ตามผลการช่วยเหลอื นกั เรียนอย่างสม่าเสมอ กรณีที่มีเด็กท่ีมีความสามารถพิเศษหรือเด็กอัจฉริยะ เด็กท่ีมีความตองการเป็นพิเศษเด็กดอยโอกาส ฯลฯ ควรส่งตอ่ ผูเชี่ยวชาญเฉพาะด้านหรอื หน่วยงานทเี่ กี่ยวของการสงตอ่ แบ่งเปน ๒ แบบคอื ๑. การสงต่อภายใน ครูประจาช้ันหรือครูท่ีปรึกษาส่งต่อยังครูท่ีสามารถใหการช่วยเหลือ นกั เรยี น ทั้งนขี้ ้นึ อยู่กับลักษณะปญหาและความตองการของนักเรียน ๒. การส่งต่อภายนอก ครูแนะแนวหรือฝายปกครองเป็นผู้ดาเนินการการสงต่อไปยัง ผู้เช่ียวชาญภายนอก ในกรณีที่เป็นปญหาตองช่วยเหลืออย่างใกลชิด หรือตองใชผู้มีความรูเฉพาะทางสาหรับ การส่งต่อภายใน หากสงต่อไปยังครูแนะแนวหรือฝายปกครองจะเป็นการแกไขปญหาท่ียากตอการช่วยเหลือ ของครทู ี่ปรกึ ษา ๓. บทสรุป ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน หมายถึง กระบวนการดาเนินงานดูแลช่วยเหลือนักเรียน มีขั้นตอน ซ่ึงรวมถึงการสงเสริม การปองกัน การแกไขปญหา พรอมด้วยวิธีการและเคร่ืองมือการทางานที่ชัดเจน โดยมีครูท่ีปรึกษาเป็นบุคลากรหลักและมีการประสานความร่วมมืออย่างใกลชิดกับครูที่เกี่ยวของหรือบุคลากร ภายนอก รวมทง้ั การสนบั สนุนสงเสรมิ จากโรงเรียนตามองคประกอบ ๕ ดา้ น คอื ๑. การรูจักนักเรียนเป็นรายบุคคล หมายถึง การรูขอมูลพื้นฐานของนักเรียนเป็นรายบุคคล ในดานความสามารถทางการเรียน ความสามารถทางการเรียน ความสามารถพิเศษ ดานสุขภาพกาย สุขภาพจิต และพฤติกรรม ด้านเศรษฐกิจของครอบครัว และด้านการคุมครองนักเรียนเพ่ือท่ีจะช่วยให ครูทปี่ รกึ ษามคี วามเขาใจและรูจกั นักเรียนมากขึ้น ๒. การคัดกรองนักเรยี น หมายถึง การพิจารณาขอมูลจากการรูจักนักเรียนเป็นรายบุคคลเพื่อจาแนก นักเรยี นออกเป็นกลมุ ๆ คือ กลุมปกติ กลมุ เสี่ยง และกลุมมีปญหา ตามเกณฑการคดั กรองของโรงเรยี น ๓. การสงเสริมและพัฒนานักเรียน หมายถึง การจัดกิจกรรมใหนักเรียนทุกคนที่อยู่ในความดูแล รับผิดชอบของครูท่ีปรึกษา ท้ังในกลุมปกติ กลุมเสี่ยง และกลุมที่มีปญหาใหสามารถพัฒนาเป็นบุคคลที่มี คุณภาพสูงสุดตามศักยภาพของนักเรียนแต่ละคน มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคโดยการจัดกิจกรรมโฮมรูม กิจกรรมแนะแนว โดยครูที'ปรึกษาตองคานึงถงึ ความแตกต่างของนักเรยี นในแต่ละคน ทาใหนักเรยี นมีคุณภาพ และมีความภาคภมู ใิ จตนเองในดา้ นตา่ ง ๆ มากขึน้

๔. การปองกันและแกไข หมายถึง การดูแลช่วยเหลือนักเรียน เอาใจใสนักเรียนทุกคนเทาเทียมกัน สาหรับกลุมเสี่ยง/มีปญหาน้ัน จาเป็นจะตองใหความดูแลเอาใจใสอย่างใกลชิดและหาวิธีการช่วยเหลืออย่าง ถกู ทางและรวดเรว็ ๕. การส่งต่อ หมายถึง ขั้นตอนการส่งต่อนักเรียนไปยังผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพ่ือใหนักเรียนได้รับ การชว่ ยเหลอื ประกอบดว้ ยการสง่ ต่อภายใน และการส่งตอ่ ภายนอก ๕.๑ ส่งต่อภายใน หมายถึง การดาเนินการการช่วยเหลือนักเรียนกลุมเสี่ยงและกลุมมีปญหา ท่ียากตอแกไข หรอื ดาเนินการแกไขแลวไมด่ ีข้ึน ครทู ปี่ รึกษาจะพจิ ารณาสง่ ต่อใหครูท่ีเกีย่ วของ ๕.๒ สงต่อภายนอก หมายถึง การดาเนินการการช่วยเหลือนักเรียนกลุมเส่ียงและ กลุมมีปญหาท่ีได้รับการส่งต่อภายในแลวไม่ดีข้ึน หรือยากตอการแกไขครูสงไปยังผูเชี่ยวชาญภายนอก เชน นายแพทย ผูเช่ียวชาญดานการบาบัด เจาหนาที'ควบคุมความประพฤติ หรือหนวยงานหรือองคกรภายนอกท่ี เกยี่ วของชวยเหลือตอไป


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook