Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เล่าเรื่อง เรื่องเล่า

เล่าเรื่อง เรื่องเล่า

Published by special_lp, 2018-05-25 10:30:21

Description: Binder1

Search

Read the Text Version

1 คำนำ หนังสือเล่มนี้จัดทำขึ้นเพ่ือนำเสนอหลักกำร แนวคิด รวมถึงทฤษฎีที่นำมำจดั กิจกรรมคำ่ ยเพอื่ สง่ เสริมและพัฒนำเด็กที่มคี วำมต้องกำรพเิ ศษ ซงึ่ เป็นส่วนหน่ึงของวิชำ กพ 814 กำรสอนและกำรให้ควำมช่วยเหลือผู้เรียนท่ีมีควำมต้องกำรพิเศษ หลกั สูตรกำรศึกษำดุษฎีบัณฑติ สำขำกำรศึกษำพิเศษ มหำวิทยำลัยศรีนครินทรวิโรฒ ภำคเรียนที่ 2 ปีกำรศึกษำ 2560 โดยแบ่งเป็น 4 ค่ำยประกอบด้วยค่ำยพฒั นำทักษะภำษำและกำรสอ่ื สำร ค่ำยพัฒนำทักษะกลำ้ มเนื้อมัดเล็กและกล้ำมเน้ือมัดใหญ่ ค่ำยพัฒนำทักษะทำงสงั คม และค่ำยพัฒนำทักษะกำรช่วยเหลือตนเอง ทั้งน้ีในแต่ละค่ำยยังได้บูรณำกำรเน้ือหำและกิจกรรมที่สำมำรถพัฒนำทักษะกำรคิดสร้ำงสรรค์ กำรคิดวิจำรณญำณ กำรคิดแก้ปัญหำและกำรคิดวิเครำะห์สังเครำะห์ เพอ่ื ใหเ้ กิดประโยชน์ตอ่ เดก็ ใหม้ ำกท่ีสดุ คณะผู้จัดทำต้องขอขอบคุณอำจำรย์สำขำกำรศึกษำพิเศษ คณะศึกษำศำสตร์ มหำวิทยำลัยศรีนครินทรวิโรฒทุกท่ำน ท่ีให้มอบหมำยให้คณะผู้จัดทำได้มีโอกำสค้นคว้ำหำควำมรแู้ ละจดั ค่ำยเพ่ือพฒั นำทักษะท่จี ำเป็นสำหรับเด็กที่มีควำมต้องกำรพิเศษ รวมถึงจัดทำหนังสือเล่มน้ีเพื่อเผยแพร่ให้ครูผู้ปกครอง รวมถึงบุคคลท่ัวไปได้ใช้เป็นแนวทำงในกำรจัดกิจกรรมให้กับเด็กทมี่ ีควำมต้องกำรพเิ ศษตอ่ ไป คณะผู้จัดทำ

2 หนำ้ 1 สำรบัญ 3 3คำ่ ยเลน่ สนุก เรียนรอู้ ำ่ นเขยี น : ทักษะภำษำและกำรสือ่ สำร 4 กจิ กรรม : เตรยี มควำมพรอ้ ม 5 กิจกรรม : เสียงนี้ เสียงอะไร 9 กิจกรรม : เลำ่ นิทำน เรือ่ ง หัวผกั กำดยักษ์ 10 กิจกรรม : แตง่ นทิ ำนจำกภำพ 12 14ค่ำยกระโดด โลด เล่น : ทกั ษะกลำ้ มเนอื้ มัดเล็ก-ใหญ่ 17 กจิ กรรม : เดก็ ดมี นี ำ้ ใจ 18 กิจกรรม : ลอดถำ้ มหัศจรรย์ 19 กิจกรรม : ปั้น คลงึ ขด 20 21ค่ำย Social Skill หนูนอ้ ยคนเกง่ : ทกั ษะทำงสงั คม 24 กิจกรรม : ฮูล่ำฮปู สำมัคคี กจิ กรรม : จับภำพสตั วผ์ จญภัย กิจกรรม : โยนห่วงมหศั จรรย์ กจิ กรรม : พำรำชตู้ สนกุ สนำนคา่ ยพฒั นาทักษะการดำรงชวี ิต (Independent Living Skills) กิจกรรม : เตรยี มควำมพร้อม 26 กจิ กรรม : แนะนำ ทำควำมรจู้ กั 27 กจิ กรรม : สวมเส้ือแบบติดกระดมุ 27 กจิ กรรม : รอ้ ยเชือกรอ้ งเทำ้ 28 กิจกรรม : ทำอำหำรวำ่ ง 29คณะผู้จัดทำ 30

1 ค่ำยเลน่ สนกุ รู้อ่ำนเขียน (PLAY & LEARN)ควำมรูจ้ ำกกำรจดั กิจกรรมคำ่ ย“ เล่นสนุก ร้อู ่ำนเขียน (PLAY & LEARN) ” กำรจดั กจิ กรรมค่ำย “ เลน่ สนุก ร้อู ่ำนเขยี น (PLAY &LEARN) ” สำหรับนักเรียนท่มี ีควำมบกพร่องทำงกำรเรียนรู้ (LD) ในคร้งันี้ มวี ตั ถุประสงคเ์ พ่ือพัฒนำทกั ษะกำรฟงั กำรพูด กำรอำ่ น และกำรเขยี นกำรจับใจควำมสำคญั จำกเนอื้ เรอ่ื งตำมโครงสร้ำงของประโยค ใคร ทำอะไร ท่ีไหน ตลอดจนพัฒนำทกั ษะทำงสงั คม กำรอยู่รว่ มกนั ท้งั นี้กจิ กรรมทีท่ ำภำยในค่ำยยังชว่ ยส่งเสรมิ ควำมคิดสร้ำงสรรค์และกำรแสดงออกอีกดว้ ย

2 ก่อนอื่นเรำมำรู้จักเด็กที่มีควำมบกพร่องทำงกำรเรียนรู้ (LearningDisabilities) หรือเรียกย่อว่ำ LD หมำยถึงบุคคลท่ีมีควำมบกพร่องเกี่ยวกับกระบวนกำรทำงจิตวิทยำ ควำมบกพร่องนี้เก่ียวข้องกับกำรใช้ภำษำของเด็กทั้งภำษำพูดและภำษำเขียน บุคคลเหล่ำน้ีอำจมีปัญหำทำงด้ำนกำรฟัง กำรคิดกำรพูดคุยกับผู้อ่ืน กำรอ่ำน กำรสะกดคำ หรือ กำรเรียนวิชำคณิตศำสตร์แต่ไม่รวมถึงเด็กที่มีปัญหำอันเกิดจำกควำมบกพร่องทำงสำยตำ ทำงกำรได้ยินและทำงกำรเคลื่อนไหว ปัญญำอ่อน ควำมบกพร่องทำงอำรมณ์ และควำมเสยี เปรยี บทำงสภำพแวดล้อม (รฐั ธรรมนญู แหง่ รำชอำณำจักรไทย.2551)“กระบวนกำรทำงจติ วิทยำ”กระบวนกำร เกบ็ ข้อมูล กำรนำไปใช้ สง่ ขอ้ มูล

3กำรจัดค่ำยในครั้งนี้มีเด็กท่ีมีปัญหำทำงกำรเรียนรู้ท้ังหมด 7 คนซ่ึงคณะผู้จัดได้คิดกิจกรรมพัฒนำควำมสำมำรถตำมวัตถุประสงค์ท้ังด้ำนกำรฟัง กำรพูด กำรอ่ำน กำรเขยี น และกำรอ่ำนจับใจควำม แบบภำพรวมเพื่อให้เหมำะกบั เด็กทกุ คนในค่ำย โดยมีกำรจดั กิจกรรมดงั นี้ กิจกรรมท่ี 1 เตรยี มควำมพร้อม 1.1)ผูส้ อนทำทำ่ เบรนยมิ ให้เดก็ ทำตำม 1 – 2 ท่ำ หรือเป็นกำรร้องเพลงและทำท่ำ ประกอบ 1.2)ผู้สอนฝึกสมำธิเด็ก โดยนำกิจกรรม กล้ิงบอล ลงรู แต่สำมำรถนำกิจกรรมอ่ืนได้ เช่น โยนห่วง ร้อยลูกปัด หรือถ้ำเป็นเด็ก วัยรุ่นก็จะเป็นกิจกรรมที่ท้ำทำยข้ึนเพ่ือให้ เหมำะสมกับวยั และควำมสำมำรถของเดก็กิจกรรมท่ี 2 เสยี งน้ี เสยี งอะไร ประโยชน์ของกิจกรรมน้ี : เพ่ือให้เด็กได้ 2.1)ผู้สอนแจกสมุด และให้เด็กเขียนชือ่ ผ่อนคลำย (Relaxed Alertness) ยืดเส้นยืด สำย (Stretching) และสรำ้ งควำมตระหนกั จดตนเอง จ่อ(Orchestrated Immersion) ในกำรสร้ำง 2.2)จำกนั้นเปิดเสียงสัตว์ ( เป็ด, แมว,หมำ ลิง, หมู, ม้ำ, สิงโต, ช้ำง) เด็กช่วยกันตอบและเลือกกระดำษคำตอบแปะลงในสมดุ ท่แี จกให้ประโยชนข์ องกิจกรรมนี้ : เป็นกำรประเมินประสำทสัมผัสจำกกำรฟัง พูด อ่ำน และเขียน โดยฟังเสียงสัตว์ต่ำงๆ เพ่ือฝึกกำรฟังกำรแยกแยะเสยี งให้กับเด็ก

4กิจกรรมเลำ่ นทิ ำนท่ี 3 หวั ผกั กำดยกั ษ์ 3.1)ผู้สอนเล่ำนิทำนเรื่องหัวผักกำดยักษ์พรอ้ มทัง้ แสดงบทบำทสมมติให้เดก็ ดู 3.2)ผู้สอนเล่ำนิทำนจบ ให้เด็กตอบคำถำมใคร ทำอะไร ทีไ่ หน 3.3)ผู้ ส อ น เ ขี ย น ค ำ ศั พ ท์ ที่ นั ก เ รี ย น ต อ บคำถำม ใคร ทำอะไร ทไ่ี หน บนกระดำน พรอ้ มทั้งฝึกสะกดคำอำ่ นไปพรอ้ มๆกนั 3.4)ผู้สอนให้เด็กแบ่งกลุ่ม ๆ ละ คน 3จำกนั้นให้เด็กเล่มเกมเรียงประโยค ใคร ทำอะไร ท่ีไหน จำกบัตรภำพโดยสมำชิกในกลุ่มต้องระดมสมองช่วยกันจำกเหตุกำรณ์ในนิทำนเร่ืองหัวผักกำดยักษ์ แปะบัตรภำพตำมโครงสร้ำงของประโยคในกระ ดำษ ที่ค รูกำหนดให้ 3.5)ผู้สอนใหส้ มำชกิ ในกลมุ่ ช่วยกันอ่ำนทีละประโยค ถ้ำเด็กทำไม่ถูกต้องช้ีแนะประโยคที่ถูกต้องให้แก่เด็ก และกลำ่ วคำชมเชยเมื่อเด็กทำสำเร็จ ประโยชน์ของกิจกรรมน้ี : เป็นกำรฝึก ทกั ษะกำรฟัง กำรพดู และกำรอ่ำนจำกเรื่อง ท่ีครูเล่ำกำรจับใจควำมสำคัญจำกเน้ือเร่ือง ตำมโครงสร้ำงของประโยค ใคร ทำอะไร ที่ ไหน และกำรทำงำนรว่ มกัน

5กิจกรรมที่ 4 แต่งนิทำนจำกภำพ ผู้สอนให้แต่ละกลุม่ เลอื กนิทำนที่เตรียมไว้ นิทำนทม่ี ีแตภ่ ำพ และให้เด็กช่วยกันแต่งเรื่องส้ัน และเขียนด้วยตนเอง โดยมีผูช้ ว่ ยประจำกลุ่ม 4.1) เด็กแต่งเรอื่ ง และเขียนนทิ ำนตำมภำพ มีผู้ช่วยประจำกลุ่มคอยช่วยแนะนำเด็กๆ ตำมโครงสรำ้ งของประโยค ใคร ทำอะไร ทไ่ี หน 4.2)ผู้สอน คอยชว่ ยเหลือ แนะนำ และกระตุ้นเด็กในกำรเขียนตำมโครงสร้ำงของประโยค ใครทำอะไร ที่ไหน 4.3)เด็กๆช่วยกันแต่งนิทำนจำกภำพจนเสร็จแล้วประดิษฐ์อุปกรณ์ในกำรแสดงบทบำทสมมติตำมเนือ้ เรอ่ื ง เช่น แตง่ ชดุ ทำฉำก 4.4)แตล่ ะกลมุ่ ออกมำแสดงบทบำทสมมติตำมนิทำนท่ีกลุ่มตนเองแต่งเร่ืองไว้ โดยมีกำรประกวดกำรแสดงนิทำน และมอบรำงวัลให้แก่สมำชิกในกลมุ่ ท่แี สดงได้ตำมเนือ้ หำของนิทำนทีเ่ หมำะสมกับภำพ และตำมโครงสร้ำงของประโยค ใคร ทำอะไรทีไ่ หน 4.5)ผู้สอนและเด็กสรุปส่ิงท่ีได้เรยี นรู้ จำกปกระำโรยชนข์ องกจิ กรรมนี้ : เด็กไดฝ้ ึกควำมคดิ สร้ำงสรรค์ กำรสื่อสำร และกำรทำงำนรว่ มกัน และได้ฝกึ กำรจับ ใจควำมสำคัญจำกเนื้อเร่ือง ใคร ทำ อะไร ท่ีไหน กำรเรียงลำดับเหตุกำรณ์ และควำมกล้ำแสดงออก

6อุปกรณ์ท่ีใช้1. ลูกบอลขนำดเล็ก ขนำดกลำง 9. บัตรภำพตำมตัวละครเรื่องหัว2. พลำสติกผืนใหญ่ นำมำเจำะรู ผักกำดยักษ์เพ่ือให้ 10. กระดำษบรฟู๊ ท่เี ขยี นโครงรำ่ งของเด็กชว่ ยกันประคองบอลลงรู ประโยค ใคร ทำอะไร ทไ่ี หน3. ตะกรำ้ ใส่ลกู บอล 11. นิทำนเรื่องอื่นๆ เพ่ือให้เด็กเลือกใน4. เสยี งสตั ว์ต่ำงๆ ที่ผูส้ อนกำหนด กำรเล่ำนทิ ำนโดยกำรแสดงบทบำทสมมติ5. สมดุ กจิ กรรม และสะสมดำว 12. ของจำลองเพ่ือให้เด็กได้แสดง6. นิทำนเร่ืองหวั ผกั กำดยักษ์ บทบำทสมมติ7. กระดำษแข็ง 13. ร ำ ง วั ล ใ ห้ เ ด็ กท่ี ส ำ มำ ร ถทำ8. สีเมจกิ ดนิ สอ กจิ กรรม ได้ตำมข้อตกลง เทคนคิ ท่ใี ช้ในกำรจดั กจิ กรรมวิธอี งค์รวมทำงภำษำ (Whole Language Approach) กูดแมน กล่ำว่ำ กำรสอนภำษำแก่เด็กนั้นควรสอนรวมทักษะ ท้ังกำรฟัง กำรอ่ำน กำรพูด และกำรเขียนไม่ควรแยกสอนทีละทักษะเด็กควรพัฒนำไปพร้อมๆ กัน กำรสอนภำษำแก่เด็กควรสอนในเนื้อหำสำระท่ีมคี วำมหมำยสำหรับเด็ก ซึ่งเป็นเทคนิคท่ีใช้ประสบกำรณ์ทำงประสำทสัมผสั หลำย ๆ ด้ำนไปด้วยกัน(Multisensory experience) กำรได้ยิน กำรเห็น กำรสัมผัสด้วยมือไปพร้อมๆกนั

7ขั้นตอนของกดู แมน 1. อ่ำนหนงั สอื ให้เดก็ ฟงั 2. ฝกึ ให้เดก็ อำ่ นหนังสือ 3. กำรสอนเขียนครเู ขียนใหเ้ ด็กดเู ป็นตัวอยำ่ ง 4. ให้เดก็ เขยี นอธิบำยภำพ 5. รวบรวมคำศัพท์ ตำมเนอื้ หำท่ีอ่ำน “เกรด็ น่ำร้เู ก่ียวกับลักษณะของเดก็ ที่มีปัญหำทำงกำรเรียนรู้” กำรจัดกิจกรรมเพ่ือพัฒนำกำรฟัง กำรพูด กำรอ่ำน กำรเขียนตลอดจนทักษะกำรจับใจควำมน้ันควรพิจำรณำเลือกกิจกรรมตำมลักษณะของเด็กท่ีมีปัญหำทำงกำรเรียนรู้ ซ่งึ จะทำใหก้ ิจกรรมทจี่ ดั เหมำะสมกับเด็กมำกทส่ี ดุ โดยควรพจิ ำรณำลักษณะ ดังนี้ 1.เดก็ มคี วำมบกพรอ่ งทำงด้ำนกำรเขียนและสะกดคำ กำรเขยี นกลับกันเขียนไมไ่ ด้ เขียนไม่ตรงบรรทัด เขยี นวน เปน็ ตน้ 2.ควำมบกพร่องด้ำนกำรอ่ำน อ่ำนช้ำ อ่ำนไม่ออก อ่ำนข้ำม จำศัพท์ไมไ่ ด้ ผันเสียงไมไ่ ดจ้ ับใจควำมสำคญั และเรยี งลำดบั เหตุกำรณไ์ มไ่ ด้ 3. ควำมบกพร่องด้ำนกำรคิดคำนวณและเหตุผลเชิงคณิตศำสตร์ ไม่เข้ำใจค่ำของตวั เลขคำนวณด้วยกำรนบั น้ิว เขียนเลขสลับกนั ยุ่งยำกในกำรตีโจทย์ปญั หำ ไมเ่ ขำ้ ใจเรอ่ื งเวลำ

8 “ขอ้ คน้ พบจำกกำรทำกิจกรรม” จำกกำรสังเกตเดก็ ในกำรทำกจิ กรรมพบวำ่ กระบวนกำรเรียนรู้ของเด็กมคี วำมสำคญั ต่อกำรจดั กจิ กรรมและกำรวัดประเมินผล ซึง่ จำกกจิ กรรมกำรฟังเดก็ตอ้ งแยกแยะเสียงทต่ี อ้ งกำรฟงั ออกจำกเสยี งรบกวนให้ได้ หรอื จำกเสยี งธรรมชำติอ่ืนๆ ถึงจะทำให้ขอ้ มลู เข้ำสู่สมองและนำกลบั มำใชไ้ ด้ สว่ นกำรพูด กำรอำ่ น กำรเขยี น เป็นรูปแบบกำรสื่อสำรของเด็ก ซึ่งเม่อืมีข้อมูลอยใู่ นสมองเด็กแลว้ เดก็ สำมำรถดงึ ขอ้ มูลออกมำผ่ำนกำรพูด กำรอ่ำน และกำรเขียนได้ **สิ่งสำคญั ผู้สสอนตอ้ งคำนงึ ถงึ ควำมแตกต่ำงระหว่ำงบุคคลในกำรทำกจิ กรรมกลมุ่ ตอ้ งทำอยำ่ งไรใหเ้ ดก็ ทกุ คนมีส่วนร่วมในกจิ กรรม ไม่ให้เด็กคนใดถกูลมื และไมไ่ ดม้ สี ่วนร่วมกบั เพื่อนๆในชนั้ เรยี น

9 คา่ ยกระโดด โลด เล่น : ทักษะกลำ้ มเน้อื มัดเลก็ -ใหญ่ ทักษะกำรพัฒนำกล้ำมเน้ือ (Motor Skills) คือ ทักษะกำรเคล่ือนไหวกล้ำมเน้ือสว่ นต่ำงๆ ของร่ำงกำย ซงึ่ จะแบ่งออกเปน็ 2 กลุม่ คอื1) ทักษะพัฒนำกล้ำมเนื้อมัดใหญ่ (Gross Motor Skills) เป็นกำรเคลื่อนไหวส่วนต่ำงๆ ของร่ำงกำย ได้แก่ กำรวิ่ง กำรคลำน กำรกระโดด กำรทำกิจกรรมพละต่ำงๆพ่อแม่ควรให้โอกำสเด็กออกกำลังกำยนอกบ้ำนโดยเป็นสถำนท่ีท่ีปลอดภัย เช่น ปีนป่ำย เล่นเครอื่ งเล่น โยน-รับ-เตะฟุตบอล2) ทักษะพัฒนำกล้ำมเน้ือมัดเล็ก (Fine Motor Skills) เป็นกำรเคล่ือนไหวส่วนของรำ่ งกำยที่เลก็ กวำ่ สว่ นใหญ่คือกล้ำมเนอ้ื มอื เช่น กำรจบั ปำกกำ กำรหยิบของชิน้ เล็กๆพ่อแม่ควรฝึกให้เด็กได้ช่วยเหลือตัวเองบ้ำง เช่น กำรแต่งชุดนักเรียนเอง หยิบจับชอ้ นสอ้ ม รับประทำนอำหำรเอง รวมถงึ กจิ กรรมศิลปะ ฉกี ปั้น -ขยำ เปำ่ สี ดดี สี พับกระดำษ จับพกู่ ันระบำยสี หนีบ คบี จับสิง่ ของ ท่มี า : Playgroupthailand.com

10 ตวั อยำ่ งกจิ กรรมพัฒนำทกั ษะกลำ้ มเนือ้ มดั ใหญ่ - เลก็กิจกรรมที่ 1 เดก็ ดมี นี ำ้ ใจ วตั ถปุ ระสงค์1. เพื่อส่งเสรมิ ทกั ษะกล้ำมเนือ้ มัดเลก็2. เพอ่ื สง่ เสรมิ ลกั ษณะนิสยั เออื้ เฟือ้ เผื่อแผ่ มนี ้ำใจ และมคี วำมเป็นระเบยี บ3. เพอื่ สง่ เสรมิ กำรแกป้ ญั หำเฉพำะหนำ้ ทเ่ี หมำะสมกบั สถำนกำรณ์ วธิ ีกำรเล่น ให้เด็ก ๆ ยนื เข้ำแถวเพอ่ื เข้ำคิวช่วยงำนคณุ ครูโดยเปน็ กำรจำลองสถำนกำรณ์ 3 สถำนกำรณ์ ดงั นี้ 1. ใหเ้ ดก็ หยบิ ของเลน่ มำหมุนประกอบหรือแกะแยกช้ินส่วนออก (แล้วแต่ลักษณะของของเล่น) จำกน้ันให้นำของเล่นชิ้นนั้นเก็บเข้ำท่ีให้เรยี บร้อย 2. ให้เด็กหยิบไข่ (จำลองให้เด็กปอกไข่) ขึ้นมำหน่ึงฟองและให้แกะสตก๊ิ เกอรท์ ีต่ ิดอยูร่ อบ ๆ ไข่ออกใหห้ มดและท้ิงในถังขยะท่เี ตรียมไว้ให้เรียบร้อ**หมำยเหตุ : กจิ กรรมนสี้ ำมำรถใชไ้ ขจ่ ริงได้

11 3. ให้เดก็ ชว่ ยตกแต่งหอ้ งเรยี นโดยจำลองสถำนกำรณ์ใหเ้ ด็กหยิบภำพมำคร้ังละ 1 ภำพ และหยบิ ตวั หนบี ครงั้ ละ 1 ตวั จำกนัน้ ให้เด็กใช้ไมห้ นีบหนบี ภำพใหต้ ิดกบั เชือกท่คี รูกำหนดไว้ให้ อปุ กรณ์1. ของเลน่ ที่สำมำรถหมุนหรือแกะแยกชิน้ สว่ นออกได้2. ไข่จำลองที่ติดสติกเกอรท์ ั้งฟอง หรือ ไข่จรงิ ที่ต้มสกุ แลว้3. ไม้หนีบ รปู ภำพ และเชอื ก เกรด็ น่ำรู้ กำรส่งเสริมพัฒนำกำรเด็กปฐมวัยหรือเด็กท่ีมีควำมต้องกำรพิเศษด้ำนทกั ษะกลำ้ มเนอ้ื มัดเล็กน้นั เปน็ สง่ิ ทจ่ี ำเปน็ อย่ำงยงิ่ เน่อื งจำกในวัยเดก็ เล็กจะเร่มิ ใช้มือหยิบจับส่ิงของเล่นเพื่อเรียนรู้ส่ิงต่ำง ๆ รอบตัว รวมถึงเริ่มต้นขีดเขียน และโดยเฉพำะในเด็กที่มีควำมต้องกำรพิเศษทักษะกลำ้ มเน้ือมัดเล็กนับว่ำเป็นทักษะพ้ืนฐำนท่ีจะช่วยทำให้เด็กเรียนรู้และต่อยอดพัฒนำทักษะอ่ืน ๆ ต่อไปได้ ฉะน้ันพ่อแม่ผู้ปกครองตลอดจนครูท่ีสอนเด็กปฐมวัยและเด็กท่ีมีควำมต้องกำรพิเศษสำมำรถพัฒนำกล้ำมเนื้อมัดเล็กโดยผ่ำนกิจกรรมต่ำง ๆ ทั้งกำรช่วยเหลืองำนท่ีบ้ำนหรือช่วยเหลืองำนคุณครูได้ อีกทั้งเด็กยังจะได้รับกำรส่งเสริมให้มีลักษณะนสิ ยั เอื้อเฟ้อื เผือ่ แผ่ มีนำ้ ใจ และมีควำมเปน็ ระเบยี บเพิ่มด้วย

12กิจกรรมท่ี 2 ลอดถ้ำมหศั จรรย์ วัตถปุ ระสงค์1. เพ่ือส่งเสริมทักษะกล้ำมเนอ้ื มัดใหญ่ ไดแ้ ก่ กำรเดินข้ำมส่ิงกีดขวำง กำรกระโดด กำรเดนิ ทรงตัว และกำรเดินตอ่ เท้ำ2. เพ่ือสง่ เสรมิ ทกั ษะกำรสงั เกตและแยกแยะ3. เพอื่ ส่งเสรมิ กำรควบคมุ ตนเอง วธิ กี ำรเลน่ ให้เดก็ ๆ ยนื เข้ำแถว แลว้ เดินตำมจุดทกี่ ำหนด 3 จุด โดยเดินวนทำกิจกรรม 10 ครง้ั ดงั นี้ 1. ให้เด็กกระโดดข้ำมส่ิงกีดขวำงตำมจุดต่อมำให้เดินทรงตัวข้ำมเบำะโฟม ไปยังถ้ำรถไฟ**หมำยเหตุ : หำกเดก็ ไม่สำมำรถกระโดดได้ให้ครูจับมอื เดก็ ใหเ้ ดก็ ยอ่ ตวั แลว้ ชว่ ยดึงตัวเดก็ กระโดดข้ำมส่ิงกีดขวำง หรือหำกเด็กไม่สำมำรถทำได้ให้เริ่มจำกกำรเดนิ ขำ้ มสง่ิ กดี ขวำงกอ่ น 2. ให้เด็กลอดถ้ำรถไฟ แล้วค้นหำหุ่นจำลอง ไดโนเสำร์ ซึ่งเด็กจะต้องสังเกตหยิบหุ่นจำลอง ไดโนเสำร์ แยกออกจำกหุ่นจำลองรูปสัตว์ป่ำและ ลูกบอล แล้วหยิบหุ่นจำลองไดโนเสำร์ออกมำวำง บนโตะ๊

133. ใหเ้ ดก็ เดนิ ตำมเสน้ เทปกำวสี โดยเด็กจะตอ้ งเดินเหยียบเส้น เพ่ือเดินกลบั ไปยงั จดุ กระโดดขำ้ มสงิ่ กีดขวำงอปุ กรณ์ 5. หุ่นจำลองไดโนเสำร์1. บล็อกพลำสตกิ 6. หนุ่ จำลองสตั วป์ ำ่2. แผน่ กบั ลื่น 7. ลกู บอลพลำสติก3. เบำะโฟม 8. เทปกำวสี4. ถำ้ รถไฟ เกรด็ น่ำรู้ กำรส่งเสริมพัฒนำกำรทักษะกล้ำมเนื้อมัดใหญ่ เป็นทักษะที่อำจถูกละเลยเมื่อผู้ปกครองหรอื ครเู ห็นว่ำเด็กสำมำรถเดินและวิ่งได้ โดยเฉพำะอย่ำงยิง่ในเด็กออทิสติกท่ีมักพบควำมบกพร่องในกำรวำงแผนกำรเคล่ือนไหว ทำให้เด็กออทิสติกไม่สำมำรถทำทักษะกล้ำมเนื้อมัดใหญ่ทซ่ี ับซอ้ นได้ เช่น กำรเดินข้ำมส่งิกีดขวำง กำรกระโดด กำรเดินทรงตัว และกำรเดินต่อเท้ำ ซ่ึงผู้ปกครองและครูสำมำรถกระตุ้นพัฒนำกำรผ่ำนกำรจัดกิจกรรม เพ่ือให้เด็กได้ทำกิจกรรมที่มีจุดมุ่งหมำยและเกิดควำมสนุกสนำน นอกจำกน้ีกำรทำกิจกรรมรว่ มกบั เด็กอื่นในวัยท่ีใกล้เคียงกับก็ยังเป็นตัวส่งเสริมให้เด็กเกิดกำรเลียนแบบและมีแรงจูงใจที่จะทำกิจกรรมอีกด้วย ทั้งนี้กิจกรรมที่จะส่งเสริมควรเร่ิมจำกพัฒนำกำรในปัจจุบันของตัวเด็กเองมำกกว่ำพัฒนำกำรตำมวัย ปัญหำพัฒนำกำรล่ำช้ำด้ำนทักษะกล้ำมเนื้อมัดใหญ่ควรได้รับกำรส่งเสริมอย่ำงทันถ่วงที เพื่อเป็นรำกฐำนของพัฒนำกำรด้ำนอ่นื ๆ ท่ดี ีตอ่ ไป

14กิจกรรมท่ี 3 ปั้น คลึง ขด วตั ถปุ ระสงค์1. เพอ่ื สง่ เสรมิ ทักษะกล้ำมเนื้อมัดเลก็2. เพอ่ื สง่ เสริมทกั ษะกำรใช้มือ-ตำประสำนสัมพันธ์กัน3. เพ่ือส่งเสริมทักษะกำรสอื่ สำรด้วยรูปภำพ4. เพื่อสง่ เสริมกำรควบคมุ ตนเองในกำรร่วมกจิ กรรม วิธกี ำรเลน่ ให้เด็ก ๆ ใช้ดินน้ำมันมำติดลงบนภำพสัตว์ตำมต้นแบบ โดยมีสถำนกำรณ์ ดงั น้ี 1. ให้เดก็ ๆ แกะไข่พลำสตกิ ท่ไี ด้จำกฐำนลอดถ้ำมหัศจรรย์เพ่ือดูภำพสัตว์ท่ีตนเองหยิบมำได้ โดยให้เด็ก ๆ แต่ละคนพูดออกเสยี งเพ่ือบอกชอื่ สตั ว์ในภำพ 2. แจกภำพสัตว์ต้นแบบท่ีติดลง บนแผน่ ฟวิ เจอรบ์ อร์ดตำมทเี่ ด็ก ๆ ได้จำกไข่ พลำสติก และครูอธิบำยชั้นตอนกำร ปฏิบตั งิ ำนทีละข้ันตอน 3. ให้เด็ก ๆ ปฏิบัติงำนบนโต๊ะ โดยมีครูคอยให้คำแนะนำในกำรปั้น คลึง ขดดินน้ำมนั ลงบนแผน่ ภำพ

15 4. ใหเ้ ด็ก ๆ ออกมำนำเสนอภำพผลงำนของตนเองหน้ำชน้ั เรียน อปุ กรณ์ 1. ไข่พลำสติกพรอ้ มภำพสตั ว์ต้นแบบ 2. ดินนำ้ มนั 3. ภำพสตั ว์ต้นแบบที่ติดบนแผน่ ฟิวเจอรบ์ อร์ด เกร็ดนำ่ รู้ กิจกรรมศิลปะประเภทงำนป้ันสำมำรถช่วยส่งเสริมและพัฒนำเด็กปฐมวัยหรือเด็กที่มีควำมต้องกำรพิเศษด้ำนกล้ำมเนื้อมัดเล็ก ด้ำนกำรประสำนสัมพันธ์ระหว่ำงสำยตำและมือ รวมท้ังด้ำนกำรส่ือสำรได้ดี เนื่องจำกกิจกรรมศลิ ปะเปน็ สิง่ ทชี่ ่วยกระตุ้นควำมสนใจและกำรรบั รู้ด้วยภำพ อีกท้ังยงั เปน็ ส่อื กลำงท่ีช่วยในกำรสื่อสำร สำมำรถถ่ำยทอดคำพูด อำรมณ์ควำมรู้สึกของเด็กผ่ำนรูปภำพและผลงำนศลิ ปะได้ ซ่งึ ในกำรสรำ้ งสรรคผ์ ลงำนศลิ ปะประเภทงำนปนั้ เปน็เปน็ กจิ กรรมทีเ่ ดก็ ๆ จะได้ใชก้ ลำ้ มเนอ้ื มัดเลก็ ในกำรหยิบ จับ ดงึ กด คลึง ปั้น ดนิน้ำมันและนำมำขึ้นรูปงำนตำมภำพต้นแบบ รวมท้ังยังเป็นกำรฝึกกำรประสำนสัมพันธ์ระหว่ำงมือกับสำยตำ เนื่องจำกในกำรป้ันและติดดินน้ำมันให้ได้ตำมลักษณะและอยบู่ นพื้นท่ีที่ตนเองต้องกำร เด็ก ๆ จะต้องควบคมุ ประสำทสัมพันธ์ระหว่ำงมือในกำรปั้นและกำรใช้สำยตำในกำรมองให้สอดคล้องกัน นอกจำกนี้กิจกรรมงำนป้นั ยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยสร้ำงควำมเพลิดเพลิน สนุกสนำน และเปน็กำรระบำยอำรมณ์ที่อยู่ภำยในจิตใจของเด็กผ่ำนกระบวนกำรทำงำนในรูปแบบต่ำง ๆ ที่ต้องใช้แรงดึง กด ทุบดินน้ำมัน ซ่ึงในข้ันสุดท้ำยเมื่อเด็กสำมำรถเรียนรู้และสร้ำงสรรค์ผลงำนด้วยตนเองได้ก็จะส่งผลต่อควำมภำคภูมิใจในตนเองได้อีกดว้ ย

16เทคนคิ ทใ่ี ช้ในกำรทำกิจกรรม 1. เทคนิคกำรกระตุ้นเตอื น (Prompting)เป็นเทคนิคสำคัญประกำรหนึ่งท่ีใช้ในกำรช่วยเหลือบุคคลท่ีมีควำมบกพร่องทำงสติปัญญำ ให้เกิดกำรเรียนรู้ ประเภทของกำรกระตุ้นเตือนท่ีนิยมใช่มี 4 ชนิด 1.1 กำรเรยี กร้องควำมสนใจจำกเด็ก ( Elicitaion ) เชน่ กำรเคำะวัตถุที่ใช้ฝึกกับพื้นโต๊ะ หรือให้เด็กสบตำ (eye - contact )โดยใช้รำงวัลหลอกล่อ 1.2 กำรกระตุ้นเตือนทำงกำย ( Physical Prompting ) คือ จับมอื ของเด็กให้ทำงำนส่วนที่ครูต้องกำรให้ทำ เมื่อเด็กทำได้ครูจะลดกำรช่วยเหลือลงเป็นสัมผสัเบำ ๆ และเลื่อนจำกกำรจับมือเป็นแตะข้อศอกและลดควำมช่วยเหลือจนเด็กสำมำรถทำได้เอง 1.3 กำรกระตุ้นเตือนด้วยท่ำทำง ( Gestural Prompting ) คือ กำรสำธิตวิธีปฏิบัติงำนให้เด็กดู ให้เด็กเลียนแบบถ้ำเด็กทำไม่ได้ ให้ช้ีแนะด้วยกำรช้ีไปท่ีงำนหรอื วตั ถุน้ัน หรือ กำรมองดว้ ยใบหน้ำ สำยตำ 1.4 กำรกระต้นุ ด้วยวำจำ ( Verbal Prompting ) คือกำรออกคำส่งั หรอื ช้ีแจงดว้ ยคำพดู ซงึ่ ครตู ้องพยำยำมใช้คำสง่ั ส้ัน ๆ และ งำ่ ยพอท่เี ดก็ จะเข้ำใจได้ 2. เทคนิคกำรสำธิตและกำรเลียนแบบ (Modeling and Imitation) โดยมีครเู ป็นตัวแบบ แสดงกำรเคลือ่ นไหวใหเ้ ด็กทำตำม ทีม่ ำ : วรัญญำ บญุ รอด. (2561).https://sites.google.com/site/hxngreiynkhruwrayya/prawati-swn-taw-khru-wrayya

17 พัฒนำกำรทำงสังคม หมำยถึง กำรพัฒนำควำมสำมำรถในกำรแสดงพฤติกรรมให้สอดคล้องกับแบบแผนท่ีสังคมยอมรับ เพื่อดำรงชีวิตในสังคมได้อย่ำงเป็นปกติสุข ซ่ึงเด็กอำยุ 3-6 ปีจะเป็นช่วงวัยท่ีสนใจเรียนรู้สังคมภำยนอกบ้ำนมำกขึ้น เป็นกำรเรียนรู้เกี่ยวกบั กำรสร้ำงสัมพันธภำพกับบุคคลอ่ืนท่ีอยู่รอบตัว พัฒนำกำรด้ำนสงั คมของเด็กวัยน้ีจงึ เป็นพื้นฐำนกำรสรำ้ งบุคลิกภำพทีเ่ หมำะสมของเขำในอนำคต เด็กจะเรียนรู้กระบวนกำรที่สำคัญและจำเป็นสำหรับเขำ และจะทำให้เด็กเรียนรู้แนวทำงกำรปฏิบัติตัวในสังคมท่ีถูกต้อง นั่นคือกำรปรับตัวให้บุคคลอ่ืนยอมรับเพื่ออยู่ร่วมกับบุคคลรอบตัวได้ ซึ่งกำรเรียนรู้น้ีเป็นกระบวนกำรปรับตัวทำงสังคม(Socialization process) เด็กเรียนรู้ที่จะร่วมมือกับผู้อ่ืนในลักษณะกลุ่ม รู้จักกำรเป็นสมำชิกของกลุ่ม รู้จักปฏิเสธ กำรรับ กำรสื่อสำร หรือกำรใช้ภำษำ ซึ่งส่วนมำกเด็กจะเรยี นรู้ผำ่ นกำรเลน่ ดังนน้ั กำรเลน่ และกำรทำกิจกรรมรว่ มกับผู้อื่นจะช่วยใหเ้ ดก็ เรียนรู้ท่ีจะลดตนเองจำกกำรเป็นศูนย์กลำงไปสกู่ ำรปฏบิ ตั ิทีย่ อมรับคนอืน่ มำกข้ึน

18 ตัวอยา่ งกิจกรรมพฒั นาทักษะสงั คมสาหรับเดก็กจิ กรรมที่ 1 ฮลู ่าฮูปสามคั คีวตั ถปุ ระสงค์1. เพื่อสง่ เสรมิ ทกั ษะกำรรอคอยผำ่ นกจิ กรรมกำรเลน่2. เพ่ือสง่ เสริมทกั ษะกำรเล่นร่วมกบั เพือ่ น (กำรแบง่ ปนั /ควำมมนี ้ำใจ)3. เพ่ือส่งเสรมิ กำรแก้ปัญหำอย่ำงมวี ิจำรณญำณวธิ ีกำรเล่น 1. ให้นกั เรียนยนื จับมือกนั เป็นวงกลม 2. นำฮลู ่ำฮูปใส่ท่แี ขนของผู้เล่น 2วง สลบั กัน 3. ให้ผู้เล่นที่ได้รับห่วงส่งต่อห่วงให้เพ่ือนลอดฮูล่ำฮูปโดยท่ีมือไม่หลุดจำกกนัอุปกรณ์ ฮลู ่ำฮูป ห่วง 2 เกรด็ นำ่ รู้ กิจกรรมน้ีเด็กๆ จะต้องใช้กำรรอคอยเพื่อให้ฮูล่ำฮูปมำถึงตนเอง โดยมีเงือ่ นไขว่ำต้องให้ฮลู ่ำฮูปผำ่ นตัวเองไปโดยทมี่ ือไมห่ ลุดจำกผเู้ ล่นคนอื่นๆ เมื่อห่วงฮูล่ำฮูปมำถึง เด็กๆ ต้องคิดแก้ปัญหำเพ่ือให้ห่วงฮูล่ำฮูป ผ่ำนได้ ในกิจกรรมน้ีผู้ปกครองสำมำรถชักชวนคนในบำ้ นมำเล่นร่วมกัน โดยที่ต้องแจง้ เงื่อนไขและกำรเสริมแรงให้เด็กทรำบ เด็กจะเรียนเรียนกฎกติกำผ่ำนกำรเล่น และเป็นกำรเสรมิ สรำ้ งพลังจำกครอบครัว

19กจิ กรรมท่ี 2 จับภำพสัตว์ผจญภัยวตั ถปุ ระสงค์1. เพอ่ื สง่ เสรมิ ทักษะกำรรอคอยผ่ำนกิจกรรมกำรเล่น2. เพอ่ื ส่งเสรมิ ทักษะกำรเลน่ ร่วมกบั เพ่อื น3. เพ่ือสง่ เสริมกำรแก้ปญั หำอย่ำงมีวจิ ำรณญำณวธิ กี ำรเล่น 1. แบ่งนกั เรียนเป็น ทีมเทำ่ ๆ กนั 2 2. ใหน้ ักเรยี นแต่ละทมี เข้ำแถวตอนลึก และใหน้ กั เรียนคนแรกรบั ภำพที่เป็นสัตว์ ไปจับคู่กับภำพเงำที่เส้นชัย โดยจะต้องกระโดดข้ำมกล่อง ลอดช่องอโุ มงค์ เพ่ือไปใหถ้ งึ เส้นชยั 3. เม่ือถึงเส้นชัยให้นำภำพที่ได้รับไปวำงในช่องท่ีมีภำพเงำเหมือนกันและวิ่งกลับไปแตะมือเพื่อนคนที่ 4 3 2... ตำมลำดับ และทีมใดจับคู่ภำพสัตว์หมดก่อนถือว่ำชนะอปุ กรณ์ 1.บัตรภำพสัตว์และภำพเงำ 2. ของเล่นทรงเรขำคณิตบุผ้ำ หรือเป็น พลำสติกท่ีมีขนำดกลำงเด็กสำมำรถลอดได้ กระโดด ข้ำมได้ หรือใช้กล่องกระดำษดัดแปลงเป็นท่ีกระโดด และอโุ มงค์ให้เด็กลอด

20 เกรด็ นำ่ รู้ กิจกรรมน้ีนอกจำกส่งเสรมิ เรอ่ื งกำรรอคอย กำรใช้ทักษะสังคม รวมถึงกฎกติกำแล้ว เด็ก ๆ ยังต้องใช้ควำมจำและกำรจำแนกรูปภำพ ระหว่ำงภำพกับเงำ เพื่อให้สำมำรถจับคู่รูปภำพกับเงำได้อย่ำงถูกต้อง และกำรข้ำมส่ิงกีดขวำงท่ีสร้ำงข้ึนมำเด็ก ๆ จะได้ฝึกกล้ำมเน้ือและกำรทรงตัว ผู้ปกครองสำมำรถดัดแปลงสภำพแวดลอ้ มทบี่ ้ำนโดยใช้วัสดุ งำ่ ยๆ ทีมอี ยู่ มำเปน็ ส่ิงกีดขวำงและสำมำรถปรับภำพกับเงำ เป็นส่ิงของสิ่งอ่ืนที่ให้จับค่กู ับ เช่น กระดำษสี อุปกรณ์กำรเรยี น เป็นต้น สิ่งสำคัญอย่ำงหน่ึงเมื่อผู้ปกครองจะเล่นกิจกรรมน้ีกับเด็ก ๆ ควรคำนึงถึงควำมปลอดภัยในกำรจดั สง่ิ กดี ขวำงดว้ ยกจิ กรรมที่ 3 โยนหว่ งมหัศจรรย์วัตถปุ ระสงค์1 .เพอ่ื ส่งเสรมิ ทกั ษะกำรรอคอยผำ่ นกจิ กรรมกำรเล่น2 .เพื่อส่งเสริมทกั ษะกำรเล่นรว่ มกบั เพ่อื น (ควำมมีนำ้ ใจ/กำรแบง่ ปัน)3 .เพื่อสง่ เสรมิ กำรแกป้ ัญหำอยำ่ งมวี ิจำรณญำณวธิ ีกำรเลน่ 1. แบง่ นักเรียนเปน็ ทมี เทำ่ ๆ กนั 2 2. ให้นักเรียนแต่ละทีมเข้ำแถวตอนลึก และให้นักเรียนคนแรกรับห่วงและวิ่งซิกแซกผ่ำน กรวยที่ต้ังไว้ และเมื่อไปถึงเส้นชัยให้โยนห่วงลงหลัก และวิ่งกลับไปแตะมือเพอ่ื นคนที่ 4 3 2... ตำมลำดบั ทมี ใดโยนห่วงหมดก่อนถือวำ่ ชนะอุปกรณ์ 1. ชุดโยนห่วง ชดุ 2 2. กรวย อนั 12

21 เกร็ดน่ำรู้ กิจกรรมนี้เด็ก ๆ จะได้พฒั นำกล้ำมเนื้อมัดใหญ่ เด็ก ๆ ได้ทำกจิ กรรมท่ีมกี ำรขยับตวั และใช้พลงั เดก็ ๆ จะรู้สึกมีพลงั และต่นื เต้นเมือ่ ใกล้ถึงช่วงเวลำของตนเอง กำรกระตุ้นจำกผู้ปกครองมีควำมจำเป็นสูง เม่ือบุตรหลำนกำลังวิ่งผ่ำนกรวย ควรให้กำลังใจและกระตุ้นเตือนด้วยวำจำ เด็ก ๆ จะว่ิงไปอย่ำงสนุกสนำนท่ีสำคัญต้องทำให้เด็ก ๆ ทรำบว่ำควำมสำเร็จของทีมคือควำมสำเร็จของตนเชน่ กันกิจกรรมท่ี 4 พำรำชตู้ สนุกสนำนวตั ถุประสงค์1 .เพ่อื ส่งเสริมทักษะกำรรอคอยผำ่ นกจิ กรรมกำรเลน่2 .เพ่อื สง่ เสรมิ ทกั ษะกำรเลน่ รว่ มกบั เพื่อน (ควำมมีน้ำใจ/กำรแบง่ ปัน)3 .เพอื่ สง่ เสริมกำรแก้ปญั หำอยำ่ งมวี จิ ำรณญำณวิธีกำรเลน่ 1. ให้นักเรียนจับห่วงพำรำชูต ในพำรำชูตมีลูกบอล โดยทุกคนจะต้องช่วยกันดึงเพ่ือไม่ให้บอลตกออกจำกพำรำชูต โดยให้บอลกลิ้งตำมเข็มนำฬิกำจำกนั้นค่อยทวนเข็มนำฬิกำ และช่วยกันดึงผ้ำพำรำชูตให้บอลกล้ิงไปอยู่จุดตรงกลำงของผำ้อปุ กรณ์ 1. พำรำชตู้ ผนื 1 2. บอลขนำดกลำง ลูก 1 3. บอลขนำดเล็ก ลกู 3

22 เกรด็ นำ่ รู้ ในกำรเล่นโดยใช้พำรำชูตผู้ปกครองต้องแน่ใจว่ำอุปกรณ์ไม่มีกำรฉีดขำด หรอื ผ่ำนกำรซ่อมแซมมำแลว้ ในกิจกรรมน้เี ดก็ ๆ จะได้ใชก้ ำลังกลำ้ มเน้ือในกำรขยบั ดึงพำรำชูตเพื่อให้ลูกบอลที่อยู่ภำยในกล้ิงไปตำมท่ีครูกำหนด ในกำรเล่นพำรำชูตนี้ต้องมีพ้ืนท่ีที่กว้ำงพอสมควรเพื่อหพำรำชูตขยำยได้เต็มท่ี ผู้ปกครองสำมำรถกำหนดเงื่อนไขได้ว่ำต้องกำรใหลูกบอลกลิ้งไปทำงไหน และถ้ำที่บ้ำนมีจำนวนคนไม่มำกพอหรอื มีพ้ืนท่ีจำกัด สำมำรถนำเอำผ้ำผืนที่เลก็ ลง และช่วยกันประครองลูกบอลเพ่อื ไปหำเป้ำหมำยที่กำหนดเทคนคิ ทีใ่ ช้ในกำรทำกิจกรรม 1. TEACCH (Treatment and Education of Autistic and relatedCommunication Handicapped Children ) พัฒนำโดย Dr.Eric Schoplerเนน้ กำรสอนอย่ำงมีระบบ ข้ันตอน และกำรจดั สภำพแวดล้อมใหเ้ หมำะสมกับเด็กเป็นหัวใจสำคัญ โดยมีกำรจัดห้องเรียนให้เป็นระบบ จัดของเป็นหมวดหมู่ จัดตำรำงเวลำกิจกรรมต่ำง ๆ แน่นอน และมีควำมคำดหวังที่ชัดเจน ทำให้เด็กรู้ว่ำเขำต้องทำอะไรบ้ำง และสอนอย่ำงมีขั้นตอน วิธีกำรสอนจะเน้นใช้ภำพมำกกว่ำเสียง สอนใหส้ ่ือสำรโดยใชร้ ปู หรือสัญลักษณ์ต่ำง ๆ เน้ือหำจะครอบคลมุ ในทักษะทกุ ด้ำน ในกำรทำกิจกรรมครงั้ นี้ ผู้จดั กิจกรรมได้ออกแบบตำรำงกจิ กรรมโดยใช้รูปภำพเพ่ือให้นักเรียนที่มำเข้ำร่วมค่ำย Social skill : หนูน้อยคนเก่ง ได้ทรำบลำดับข้ันตอนของกิจกรรมในวันน้ี นอกจำกน้ีทำงผู้จัดกิจกรรมได้จัดทำภำพข้อตกลง และข้อควรปฏิบัติในกำรทำกิจกรรมให้นักเรียนได้แก่ ภำพน่ังรอคอยภำพยนื รอคอยควิ ภำพเข้ำหอ้ งน้ำ ภำพพกั รับประทำนอำหำรวำ่ ง

23 TEACCH ทง้ั น้ที ำงผู้จดั กจิ กรรมไดจ้ ดั สภำพแวดลอ้ มทช่ี ่วยเอ้อื อำนวยต่อกำรเรียนรขู้ องเด็ก ด้วยกำรจดั ทีน่ ง่ั ของเดก็ โดยใชเ้ บำะ ทำให้เดก็ รบั รถู้ ึงทีน่ ั่งของตนเอง ทำกจิ กรรมอย่ำงเปน็ ระเบยี บ และสำมำรถควบคมุ ตนเองได้

24 ค่ำยพัฒนำทักษะกำรดำรงชวี ิต (Independent Living Skills)สำหรับเดก็ ทม่ี คี วำมบกพร่องทำงสติปญั ญำ

25 คำ่ ยพัฒนำทกั ษะกำรดำรงชีวิต (Independent Living Skills) สำหรับเด็กท่ีมคี วำมบกพร่องทำงสติปญั ญำ เดก็ ทม่ี ีควำมบกพรอ่ งทำงสติปญั ญำ หมำยถงึ บคุ คลทมี่ ีระดบั สติปัญญำต่ำกว่ำ 70 รวมทั้งมีข้อจำกัดในกำรดำเนินชีวิตประจำวันหรือพฤติกรรมกำรปรบั ตัว อยำ่ งนอ้ ย 2 ดำ้ นจำก 10 ดำ้ น ซง่ึ เกิดข้ึนก่อนอำยุ 18 ปี ไดแ้ ก่ 1) กำรส่อืควำมหมำย 2) กำรดูแลตนเอง 3) กำรใชช้ ีวติ ในบ้ำน 4) ทกั ษะทำงสังคม 5) กำรใช้สำธำรณะประโยชน์ 6) กำรควบคุมตนเอง 7) สุขภำพและควำมปลอดภัย 8)ทกั ษะทำงวิชำกำร 9) กำรใช้เวลำวำ่ ง และ10) กำรทำงำน ซง่ึ กำรแบ่งระดับควำมบกพรอ่ งของเดก็ ท่ีมีควำมบกพรอ่ งทำงสติปัญญำโดยท่ัวไปแบ่งเป็น 4 ระดับ เพ่ือควำมชัดเจนในกำรสื่อสำรระหว่ำงกันในกลุ่มบุคลำกรวิชำชีพ มีตั้งแต่บกพร่องระดับเล็กน้อย ระดับปำนกลำง ระดับรุนแรง และระดับรุนแรงมำก (กุลยำ ก่อสุวรรณ. 2553) และในทำงกำรศึกษำมีกำรแบ่งประเภทตำมควำมสำมำรถด้ำนกำรศึกษำเป็น 4 ประเภทเช่นเดียวกัน แต่แบ่งเป็น ระดับเรียนได้ ระดับฝึกได้ระดับเรียนไมไ่ ด้ และระดับท่ีมคี วำมบกพรอ่ งมำกท่ีสุดจนช่วยเหลอื ตนเองได้ยำก(สมเกตุ อทุ ธโยธำ. 2560) ดว้ ยขอ้ จำกดั ขำ้ งตน้ จึงทำให้เดก็ ท่ีมคี วำมบกพรอ่ งทำงสติปัญญำมคี วำมยำกลำบำกใน กำรเรียนรวมกับเดก็ ทว่ั ไป ก ำ ร พั ฒนำ ทั ก ษ ะ ก ำ ร ดำ ร ง ชี วิ ต ส ำ ห รั บ เ ด็ ก ที่ มี ค วำ ม บ ก พร่ อ ง ท ำ งสติปัญญำ เป็นกำรทำกิจกรรมเพื่อพัฒนำทักษะกำรดูแลตนเองและกำรดูแลสุขอนำมัยส่วนบุคคล (Personal Care and Hygiene Skills) หมำยถึงกำรเลือกเครื่องแต่งกำย กำรถอดและสวมใส่เคร่ืองแต่งกำย กำรใช้ห้องน้ำในท่ีอยู่อำศัยกำรใช้ห้องน้ำในท่ีสำธำรณะ อนำมัยส่วนบุคคล และกำรปฏิบัติตนและดูแลบุคลิกภำพและ ทักษะส่วนบุคคลและสังคม (Personal and Social Skills)ประกอบด้วย 1) ทกั ษะกำรจดั กำรและกำรควบคุมตนเอง (Self-determinationSkills) หมำยถึง กำรรู้จักตนเอง กำรบอกช่ือตนเอง กำรบอกอำยุ วันเดือนปีเกิด

26ควำมภำคภูมิใจในตนเอง เห็นคุณค่ำในตนเองรจู้ ักกำรแกป้ ัญหำ รู้จักสิทธิ หน้ำที่และบทบำทตนเองและสร้ำงและรักษำปฏิสัมพันธ์กับผู้อ่ืนและ 2) ทักษะกำรมีส่วนร่วมทำงสังคม (Community Participation and Living skills) หมำยถึงกำรเข้ำคิว กำรบำเพ็ญประโยชน์ ได้แก่ รู้จักกำรรอคอยโดยกำรเข้ำคิวเพ่ือรับบริกำรในห้องเรียน สถำนศึกษำ ชุมชน และสังคม (สำนักบริหำรงำนกำรศึกษำพเิ ศษ. 2558) ตวั อย่ำงกจิ กรรมพัฒนำทักษะกำรดำรงชีวิตกจิ กรรมที่ 1 เตรยี มควำมพร้อม : ร้องและเตน้ (10นำที) วัตถปุ ระสงค์ เพ่ือสง่ เสริมทักษะกำรมีส่วนรว่ มทำงสงั คม (CommunityParticipation and Living skills) วิธกี ำรเลน่1. ครูแจกหมวกกระดำษรูปปลำฉลำมอำ้ ปำกให้นกั เรยี นและครสู วม2. ให้นักเรียนยนื เรียงกันเปน็ วงกลม โดยมคี รูยืนสลับกบั นกั เรยี น3. เปิดเพลง “Baby Shark” ใน YouTube จำกคอมพิวเตอร์และดูผ่ำนจอโปรเจคเตอร์4. ครูทำท่ำทำงกำรเต้นให้นักเรียนดูตำมคลิปเพลง ครูและนักเรียนร่วมกันเต้นและรอ้ งเพลงตำมจงั หวะบนจอ อุปกรณ์ หมวกกระดำษรูปปลำฉลำมอ้ำปำก คอมพิวเตอร์ และจอโปรเจคเตอร์ เทคนิคท่ีใช้ในกำรทำกิจกรรม เทคนิคกำรสำธิตและกำรเลียนแบบ(Modeling and Imitation)

27กจิ กรรมที่ 2 แนะนำ ทำควำมรจู้ ัก (10 นำท)ี วัตถุประสงค์ เพ่ือส่งเสริมทักษะกำรจัดกำรและกำรควบคุมตนเอง(Self-determination Skills) วิธีกำรเลน่1. ใหน้ ักเรียนนั่งลอ้ มวงสลบั กับครู2. ครูนำรอ้ งเพลงเพ่อื ใหท้ กุ คนแนะนำชื่อตนเองทลี ะคนจนครบทุกคน ดงั น้ี “ชอ่ืของเธอ ฉันไม่รู้จัก คุณครูถำมทัก นักเรียนเข้ำใหม่ ช่ือของเธอนั้นจำไม่ได้ ชื่ออะไรขอใหบ้ อกมำ น้อง Anny มำหรอื เปล่ำถำ้ มำสง่ เสยี งเรว็ ไว น้อง An… มำไหมคะ (เด็กยกมือ / สง่ เสียง)” อปุ กรณ์ ปำ้ ยชื่อห้อยคอ เทคนิคท่ีใช้ในกำรทำกิจกรรม เทคนิคกำรตะล่อมกล่อมเกลำ(Shaping)กจิ กรรมท่ี 3 ฝึกสวมเส้อื แบบติดกระดุม (30 นำท)ี วตั ถุประสงค์ เพื่อส่งเสรมิ ทักษะกำรดูแลตนเองและกำรดูแลสุขอนำมัยส่วนบุคคล (Personal Care and Hygiene Skills) วธิ กี ำรเล่น1. ครูเปดิ คลิปกำรสวมเส้ือแบบติดกระดุมให้นกั เรียนดู2. ครูสำธติ กำรตดิ กระดุมเสอื้ ใหต้ ๊กุ ตำหมี3. นกั เรียนตดิ กระดมุ เสื้อใหต้ ๊กุ ตำหมี และตดิ กระดุมเสือ้ ใหต้ นเอง

28 อปุ กรณ์ คลิปกำรสวมเสือ้ แบบติดกระดมุ ตุก๊ ตำหมี เสอ้ื เทคนิคท่ีใช้ในกำรทำกิจกรรม เทคนิคกำรกระตุ้นเตือน (Prompting)เทคนิคกำรวิเครำะห์งำน (Task Analysis) เทคนิคกำรตะล่อมกล่อมเกลำ(Shaping) และเทคนิคกำรสำธติ และกำรเลียนแบบ (Modeling and Imitation)กิจกรรมที่ 4 ฝึกรอ้ ยเชือกรองเทำ้ (30 นำที) วัตถปุ ระสงค์ เพ่ือสง่ เสริมทกั ษะกำรดูแลตนเองและกำรดแู ลสุขอนำมัยส่วนบุคคล (Personal Care and Hygiene Skills) วธิ กี ำรเล่น1. ครูเปิดคลปิ กำรรอ้ ยเชือกรองเท้ำใหน้ ักเรียนดู2. ครูสำธิตกำรรอ้ ยเชอื กรองเท้ำจำกแบบ3. นักเรยี นรอ้ ยเชือกรองเทำ้ จำกแบบ อุปกรณ์ คลิปกำรร้อยเชือกรองเทำ้ แบบจำลองรองเทำ้ เทคนิคที่ใช้ในกำรทำกิจกรรม เทคนิคกำรกระตุ้นเตือน (Prompting) เทคนิคกำรวิเครำะห์งำน( Task Analysis) เ ท ค นิ ค ก ำ ร ต ะ ล่อ มก ล่อมเกล ำ(Shaping) และเทคนิคกำรสำธิตและกำรเลียนแบบ(Modeling and Imitation)

29กจิ กรรมที่ 5 ฝึกทำอำหำรวำ่ ง : แซนวชิ พี่หมี วัตถปุ ระสงค์ เพอ่ื สง่ เสริมทกั ษะกำรดูแลตนเองและกำรดูแลสุขอนำมัยส่วนบุคคล (Personal Care and Hygiene Skills) วิธีกำรเลน่1. ครูเปดิ คลิปกำรทำแซนวิชพ่หี มีให้นกั เรียนดู2. ครูสำธติ กำรทำแซนวชิ พ่ีหมี โดย 1) โดยวำงขนมปัง 1 แผ่นลงบนจำน จำกนั้นวำงไส้ท่ีชอบลงบนขนมปังเช่น แฮม ชีส หรือ แยม ครีมชอกโก้แลต ลกู เกด นมขน้ หวำน เปน็ ตน้ 2) นำขนมปังอีกแผ่น วำงประกบขนมปังที่มีไส้ที่เลือกไว้แล้ว จำกน้ันนำแม่พิมพ์ขนมปงั รูปหมีกดทบั ลงบนขนมปงั 3) ดึงขอบขนมปงั ท่ีอยรู่ อบแมพ่ มิ พ์ขนมปงั รูปหมอี อก และตกแตง่ หน้ำหมี3. นักเรียนทำแซนวิชพ่ีหมี และรบั ประทำนอำหำรวำ่ งรว่ มกนั อุปกรณ์ คลิปกำรทำแซนวิชพี่หมี แม่พิมพ์ขนมปังรูปหมี ช้อน ถุงมือผำ้ กันเปอื้ น จำนกระดำษ ทชิ ชู่เปียก เทคนิคที่ใช้ในกำรทำกิจกรรม เทคนิค กำร กร ะตุ้นเตือน (Prompting) เทค นิค กำร วิเครำะห์งำน (Task Analysis) เทคนิคกำรตะล่อม กล่อมเกลำ (Shaping) และเทคนิคกำรสำธิตและ กำรเลียนแบบ (Modeling and Imitation)

30 คณะผ้จู ดั ทำ1. นำยจรี พฒั น์ ศริ ิรกั ษ์2. นำงสำวประดับศรี พินธโุ ท3. นำงโสรจั จะ มที รัพยม์ ั่น4. นำงสำวอรทยั ชวนนิยมตระกูล5. นำงสรุ ญั จติ วรรณนวล6. นำงสำววรัญนิตย์ จอมกลำง7. นำยวสนั ต์ วรรณรตั น์8. นำงจุฑำภัค มีฉลำด9. นำงวรี ยำ คำเนอื งฤทธิ์10. นำงปอแก้ว ครุฑนำค11. นำงสำวหรรษำ องคส์ ิงห์12. นำงสำวอรัญญำ ธำรำวร นิสติ ปรญิ ญำเอก สำขำวิชำกำรศกึ ษำพิเศษ คณะศกึ ษำศำสตร์ มหำวทิ ยำลยั ศรีนครินทรวิโรฒ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook