Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore (ร่าง) หลักสูตรสำหรับเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษระยะแรกเริ่ม ของศูนย์การศึกษาพิเศษ ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๕๘

(ร่าง) หลักสูตรสำหรับเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษระยะแรกเริ่ม ของศูนย์การศึกษาพิเศษ ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๕๘

Published by special_lp, 2018-06-13 02:34:20

Description: ๑.เล่มหลักสูตรEI

Search

Read the Text Version

(รา่ ง)หลักสตู รสาหรับเดก็ ทม่ี ีความตอ้ งการจาเปน็ พิเศษระยะแรกเร่ิม ของศนู ยก์ ารศกึ ษาพิเศษ ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๕๘ สานักบริหารงานการศึกษาพเิ ศษ สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ

คำนำ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับที่ ๒)พ.ศ.๒๕๔๕ มาตรา ๑๐ กาหนดไว้ว่า “การจัดการศึกษาต้องจัดให้บุคคลมีสิทธิและโอกาสเสมอกันในการรับการศึกษาขั้นพื้นฐานไม่น้อยกว่าสิบสองปีที่รัฐต้องจัดให้อย่างทั่วถึงและมีคุณภ าพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย”และพระราชบัญญัติการจัดการศึกษาสาหรับคนพิการ พ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๕ กาหนดให้คนพิการมีสิทธิทางการศึกษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายต้ังแต่แรกเกิด หรือพบความพิการจนตลอดชีวิตพรอ้ มทั้งได้รับเทคโนโลยีสิ่งอานวยความสะดวก สื่อ บริการ และความช่วยเหลืออ่ืนใดทางการศึกษาเลือกบริการทางการศึกษา สถานศึกษา ระบบและรูปแบบการศึกษา โดยคานึงถึงความสามารถความสนใจ ความถนัดและความต้องการจาเปน็ พิเศษของบุคคลน้ัน และให้ได้รับการศกึ ษาท่มี ีมาตรฐานและประกันคุณภาพการศึกษา รวมท้ังการจัดหลักสูตรกระบวนการเรียนรู้ที่เหมาะสมสอดคล้องกับความตอ้ งการจาเปน็ พิเศษของคนพกิ ารแต่ละประเภทและบุคคล กระทรวงศึกษาธิการได้จัดต้ังศูนย์การศึกษาพิเศษ (เขตการศึกษา จานวน ๔ แห่ง และศูนย์การศึกษาพิเศษ ส่วนกลาง จานวน ๑ แห่ง ในปีพุทธศักราช ๒๕๓๙ ประกาศจัดต้ังศูนย์การศึกษาพิเศษ เขตการศึกษา จานวน ๘ แห่ง ในปีพุทธศักราช ๒๕๔๒-๒๕๔๓ ประกาศจัดต้ังศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจาจังหวัด จานวน ๖๓ แห่ง และในปีพุทธศักราช ๒๕๕๕ ได้ประกาศจัดตั้งศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจาจังหวัดบึงกาฬ เป็น ศูนย์การศึกษาพิเศษลาดับท่ี ๗๗ เมื่อวันท่ี๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๕) โดยให้มหี นา้ ท่ีจดั การศึกษาในลกั ษณะศนู ย์บริการช่วยเหลอื ระยะแรกเรมิ่ และเตรียมความพร้อมของคนพิการ รวมทั้งสนับสนุนการเรียนการสอน การจัดทาสื่อ จัดส่ิงอานวยความสะดวก การให้บริการและความช่วยเหลือ ที่เกี่ยวข้อง ทาการวิจัยและอบรมบุคลากร รวมถึงการจัดครูเดินสอนแก่คนพิการและสถานศึกษา โดยได้ให้บริการแก่บุคคลที่มีความต้องการจาเป็นพิเศษทางการศึกษา ๙ ประเภทตามประกาศกระทรวงศึกษาธกิ าร ได้แก่ บุคคลท่มี ีความบกพร่องทางการเห็นบุคคลท่ีมีความบกพร่องทางการได้ยิน บุคคลที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา บุคคลท่ีมีความบกพร่องทางร่างกายหรือการเคล่ือนไหวหรือสุขภาพ บุคคลที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ บุคคลท่ีมีความบกพร่องทางการพูดและภาษา บุคคลท่ีมีความบกพร่องทางพฤติกรรม หรืออารมณ์บุคคลออทิสติก และบุคคลพิการซ้อน ในการจัดบริการช่วยเหลือระยะแรกเริ่ม โดยใช้แนวทางการให้บริการช่วยเหลือแรกเริ่มที่จัดทาข้ึน ต่อมาเม่ือมีการปรับปรุงบทบาทหน้าที่ศูนย์การศึกษาพิเศษเป็น ๘ บทบาท คือ ๑) จัดและส่งเสริม สนับสนุนการศึกษาในลักษณะศูนย์บริการช่วยเหลือระยะแรกเริ่ม (Early Intervention : EI) และเตรียมความพร้อมของคนพิการ เพื่อเข้าสู่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โรงเรียนอนุบาล โรงเรียนเรียนร่วม โรงเรียนเฉพาะความพิการ ศูนย์การเรียนเฉพาะความพิการ และหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง เป็นต้น ๒) พัฒนา และฝึกอบรมผู้ดูแลคนพิการ บุคลากรที่จัดการศึกษาสาหรับคนพิการ ๓) จัดระบบและส่งเสริม สนับสนุนการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (Individualized Education Program: IEP) ส่ิงอานวยความสะดวก ส่ือ บริการ และความช่วยเหลืออื่นใดทางการศึกษาสาหรับคนพิการ ๔) จัดระบบบริการช่วงเชื่อมต่อสาหรับคนพิการ(Transitional Services) ๕ ) ให้บริการฟ้ื นฟูสมรรถภาพคนพิการโดยครอบครัวและชุมชนด้วยกระบวนการทางการศึกษา ๖) เป็นศูนย์ข้อมูล รวมท้ังจัดระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา

ขสาหรับคนพิการ ๗) จัดระบบสนับสนุนการจัดการเรียนร่วมและประสานงานการจัดการศึกษาสาหรับคนพกิ ารในจงั หวดั ๘) ภาระหน้าที่อืน่ ตามท่ีกฎหมายกาหนดหรอื ตามทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย ต่อมาได้มีการปรับปรุงพัฒนาหลักสูตรการให้บริการช่วยเหลือระยะแรกเร่ิมสาหรับเด็กพิการ ศูนย์การศึกษาพิเศษ พุทธศักราช ๒๕๕๖ ขึ้น และได้นาไปใช้ในศูนย์การศึกษาพิเศษท่ัวประเทศ เมื่อส้ินปีการศึกษา ๒๕๕๗ ได้เก็บข้อมูลผลการใช้ พบว่า ขอบข่าย เน้ือหา พัฒนาการทค่ี าดหวงั และแนวทางในการจัดกจิ กรรม คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ยังไม่ครอบคลุมกับความต้องการจาเป็นของผู้เรียนอย่างแท้จริง ประกอบกับ ศูนย์การศึกษาพิเศษต้องให้บริการนักเรียนที่มารับบริการที่ศูนย์การศึกษาพิเศษ ศูนย์การเรียนเฉพาะความพิการ และรับบริการท่ีบ้าน ซึ่งมีระดับความพิการแตกต่างกันมาก จึงมีเป้าหมายในการจัดการศึกษาแตกต่างกัน และแนวโน้มของชุมชน สังคมของประเทศไทยเปลยี่ นแปลงไปเปน็ สังคมแห่งเทคโนโลยสี ารสนเทศทีท่ ันสมัยมากข้นึ ดงั นั้น เพ่ือให้การจัดการศึกษาสาหรับเด็กพิการมีความสอดคล้องกับความตอ้ งการจาเป็นพิเศษ และสอดคล้องกบั สภาวการณ์ในปัจจุบนั สานักบริหารงานการศึกษาพิเศษจึงได้ปรบั ปรุงหลกั สูตรการให้บริการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มสาหรับเด็กพิการ ศูนย์การศึกษาพิเศษ พุทธศักราช ๒๕๕๖เป็ น ห ลั ก สู ต ร ส า ห รั บ เด็ ก ที่ มี ค ว า ม ต้ อ ง ก า ร จ า เป็ น พิ เศ ษ ร ะ ย ะ แ ร ก เร่ิ ม ข อ ง ศู น ย์ ก า ร ศึ ก ษ า พิ เศ ษฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๕๘ ทั้งน้ีเพื่อให้ส่ือความหมายได้ชัดเจนและถูกต้องตามหลักวิชาของการตั้งชื่อหลักสูตร โดยได้เพ่ิมทักษะการดารงชีวิตในทักษะการเรียนรู้ และกาหนดองค์ประกอบต่างๆให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น เอื้อกับเด็กพิการที่อยู่ตามบ้าน และการนาเทคโนโลยีส่ิงอานวยความสะดวกมาประยุกต์ใช้ และปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละพ้ืนที่ ตามประเภท ระดับความพิการและศักยภาพ เพื่อใหเ้ ด็กพกิ ารสามารถพ่ึงพาตนเองได้ และมคี ุณภาพชวี ิตทด่ี ขี ึ้น ขอขอบ พ ระคุณ ผู้ท่ี มีส่วน ร่วมจากทุ กห น่ วยงาน ที่เกี่ยวข้องท้ั งใน และน อกกระทรวงศึกษาธิการ รวมท้ังภาคเอกชน ตลอดจนพ่อแม่ ผู้ปกครอง ซึ่งช่วยให้การพัฒนาหลักสูตรสาหรับเด็กท่ีมีความต้องการจาเป็นพิเศษระยะแรกเริ่มของศูนย์การศึกษาพิเศษฉบับปรับปรุงพุทธศักราช ๒๕๕๘ ฉบับน้ีมีความสมบูรณ์ เหมาะสม สามารถนาไปใช้เป็นแนวทางการจัดการศึกษาสาหรับเดก็ พกิ ารตอ่ ไป (นายการุณ สกุลประดิษฐ์) เลขาธกิ ารคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พฤศจิกายน ๒๕๕๘

ค สารบญั หน้าคำนำ………………………………………………………………………………………………………………………. กสำรบญั แผนภำพ..................................................................................................................... งควำมนำ.................................................................................................................................. ๑คำชี้แจง............................................................................................................................. ..... ๓ปรัชญำกำรจัดกำรศกึ ษำสำหรับคนพกิ ำร............................................................................... ๔วสิ ยั ทศั น์ ................................................................................................................................ ๔หลกั กำร.................................................................................................................................. ๕จุดหมำย................................................................................................................................. ๕คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์...................................................................................................... ๕โครงสรำ้ งหลกั สูตร................................................................................................................. ๗กล่มุ เป้ำหมำย......................................................................................................................... ๑๑กำรจัดกำรเรียนรู้.................................................................................................................... 1๒บทบำทของผูบ้ ริหำร ครผู สู้ อน คณะสหวชิ ำชีพ ผูป้ กครอง และบุคลำกรสนบั สนนุ ............... 1๓เทคโนโลยีส่ิงอำนวยควำมสะดวก ส่ือ และแหลง่ เรยี นรู้......................................................... ๑๓กำรประเมนิ ผลกำรเรียนร.ู้ ...................................................................................................... 1๔กำรรำยงำนผลกำรพัฒนำผูเ้ รียน............................................................................................ 1๕เอกสำรหลกั ฐำนกำรศึกษำ .................................................................................................... ๑๕กำรสง่ ตอ่ .................................................................................................................... ............ ๑๕กำรบริหำรจัดกำรหลักสตู ร..................................................................................................... 1๖เอกสำรอำ้ งองิ ......................................................................................................................... 1๗ภำคผนวก............................................................................................................................... ๑๘ - คำสั่งแตง่ ต้ังคณะกรรมกำรปรับปรุงหลกั สตู รกำรใหบ้ ริกำรชว่ ยเหลือระยะแรกเรม่ิ สำหรบั เด็กพิกำรศนู ยก์ ำรศึกษำพิเศษ............................................................ ๑๙ - รำยชอื่ คณะกรรมกำรผู้จดั ทำ.............................................................................. ๒๒

ง สารบญั แผนภาพ หน้าแผนภำพที่ ๑ โครงสร้ำงหลกั สตู ร…………………………………………………..…………………………… ๗แผนภำพที่ ๒ ความสมั พันธ์ของการพฒั นาคุณภาพผูเ้ รยี นตามหลกั สตู รสาหรบั เด็กท่ีมีความต้องการจาเปน็ พเิ ศษระยะแรกเร่มิ ของศูนย์การศึกษาพเิ ศษ ฉบับปรับปรุง พทุ ธศักราช ๒๕๕๘.................................................................. ๑๐แผนภำพที่ ๓ กำรบรหิ ำรจัดกำรหลกั สูตร............................................................................. ๑๖

ความนา รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๔๙ ระบุว่า บุคคลย่อมมีสิทธิเสมอกันในการรับการศึกษาไม่น้อยกว่าสิบสองปีที่รัฐจะต้องจัดให้อย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ โดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย วรรคสอง ผู้ยากไร้ ผู้พิการหรือทุพพลภาพ หรือผู้อยู่ในสภาวะยากลาบาก ต้องได้รับสิทธิตามวรรคหน่ึงและการสนับสนุนจากรัฐเพ่ือให้ได้รบั การศึกษาโดยทัดเทียมกับบุคคลอ่ืน มาตรา ๕๐ ระบุว่า บุคคลย่อมมีเสรีภาพในทางวิชาการ การศึกษาอบรม การเรียนการสอน การวิจัย และการเผยแพร่งานวิจัยตามหลักวิชาการ ย่อมได้รับความคุ้มครอง ท้ังนี้ เท่าท่ีไม่ขัดต่อหน้าที่ของพลเมืองหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน มาตรา ๕๒ ระบุว่า เด็กและเยาวชนมีสิทธิในการอยู่รอดและได้รับการพัฒนาด้านร่างกาย จิตใจและสติปัญญา ตามศักยภาพในสภาพแวดล้อมท่ีเหมาะสม โดยคานึงถึงการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชนเป็นสาคัญ วรรคส่ีเด็กและเยาวชน ซึ่งไม่มีผู้ดูแลมีสิทธิได้รับการเลี้ยงดูและการศึกษาอบรมท่ีเหมาะสมจากรัฐมาตรา ๘๐ กาหนดให้รัฐต้องดาเนินการตามแนวนโยบายด้านสังคม การสาธารณสุข การศึกษา และวัฒนธรรม ดังต่อไปนี้ (๑) คุ้มครองและพัฒนาเด็กและเยาวชน สนับสนุนการอบรมเล้ียงดูและให้การศกึ ษาปฐมวยั ส่งเสรมิ ความเสมอภาคของหญงิ และชาย เสรมิ สร้างและพัฒนาความเป็นปึกแผ่นของสถาบันครอบครัวและชุมชน รวมท้ังต้องสงเคราะห์และจัดสวัสดิการให้แก่ผู้สูงอายุ ผู้ยากไร้ผู้พิการหรือทุพพลภาพและผู้อยู่ในสภาวะยากลาบาก ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและพ่ึงพาตนเองได้...และ (๓) พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการจัดการศึกษาในทุกระดับและทุกรูปแบบให้สอดคล้องกับความเปล่ียนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม จัดให้มีแผนการศึกษาแห่งชาติ กฎหมายเพื่อพัฒนาการศึกษาของชาติ จัดให้มีการพัฒนาคุณภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ก้าวหน้าทันการเปล่ียนแปลงของสังคมโลก รวมทั้งปลูกฝังให้ผู้เรียนมีจิตสานึกของความเป็นไทย มีระเบียบวนิ ัย คานึงถึงประโยชน์ส่วนรวมและยึดม่นั ในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมขุ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และแก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับท่ี ๒)พ.ศ. ๒๕๔๕ หมวดสอง สิทธแิ ละหน้าที่ทางการศึกษา มาตรา ๑๐ การจัดการศึกษา ตอ้ งจัดให้บุคคลมีสิทธแิ ละโอกาสเสมอกันในการรับการศึกษาขนั้ พน้ื ฐานไม่น้อยกวา่ สบิ สองปีทีร่ ัฐต้องจัดให้อย่างท่ัวถึงและมคี ณุ ภาพโดยไมเ่ กบ็ ค่าใช้จ่าย พระราชบัญญัติการจัดการศึกษาสาหรับคนพิการ พ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๕ ระบุว่าคนพิการมีสิทธิทางการศึกษา ดังน้ี (๑) ได้รับการศึกษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายต้ังแต่แรกเกิดหรือพบความพิการจนตลอดชีวิต พร้อมท้ังได้รับเทคโนโลยี ส่ิงอานวยความสะดวก ส่ือ บริการและความช่วยเหลืออ่ืนใดทางการศึกษา (๒) เลือกบริการทางการศึกษา สถานศึกษา ระบบและรูปแบบการศึกษาโดยคานึงถึง ความสามารถ ความสนใจ ความถนัดและความต้องการจาเป็นพเิ ศษของบุคคลน้ัน (๓) ได้รับการศึกษาที่มีมาตรฐานและประกันคุณภาพการศึกษา รวมทั้งการจัดหลักสูตรกระบวนการเรียนรู้ การทดสอบทางการศึกษา ที่เหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการจาเป็นพิเศษของคนพกิ าร แต่ละประเภทและบุคคล

๒ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๑(พ.ศ. ๒๕๕๕- ๒๕๕๙)ให้ ค ว า ม ส า คั ญ กั บ ก า ร พั ฒ น า คุ ณ ภ า พ ค น ไท ย ทุ ก ช่ ว ง วั ย ให้ มี ภู มิ คุ้ ม กั น ต่ อ ก า ร เป ล่ี ย น แ ป ล งมีความพรอ้ มทั้งด้านร่างกายทสี่ มบูรณแ์ ขง็ แรง มีสติปัญญาทีร่ อบรู้ มคี ุณธรรม จริยธรรม มคี วามเพียรมีโอกาสและสามารถเรียนรู้ตลอดชีวิต ควบคู่กับการเสริมสร้างสภาพแวดล้อมในสังคมและสถาบันทางสังคมให้เข้มแข็งและเอื้อต่อการพัฒนาคน ท้ังนี้กระทรวงศึกษาธิการได้กาหนดยุทธศาสตร์ตามแผนพัฒนาการจัดการศึกษาสาหรับคนพิการ ระยะ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙) ยุทธศาสตร์ท่ี ๒วิจัยและพัฒนาหลักสูตรกระบวนการจัดการเรียนรู้ การวัด และประเมินผลให้เหมาะสมสาหรับคนพิการไว้ในมาตรการท่ี ๑ ส่งเสริมการวิจัย การพัฒนาคุณภาพการศึกษารวมทั้งการจัดหลักสูตรนวัตกรรมในการจัดการเรียนรู้ กระบวนการเรียนรู้ การทดสอบทางการศึกษา การวัดและประเมินผลที่เหมาะสมกับความต้องการจาเปน็ ของคนพิการแตล่ ะประเภทและบุคคล สานกั บริหารงานการศึกษาพิเศษมีการดาเนินการจัดทาแนวทางการให้บรกิ ารช่วยเหลือระยะแรกเร่ิมและพัฒนาศักยภาพสาหรับบุคคลที่มีความบกพร่องทางการศึกษาของศูนย์การศึกษาพิเศษมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว แต่พบว่าการดาเนินการดังกล่าวยังขาดความเป็นเอกภาพ จึงมีความจาเป็นท่ีจะต้องพัฒนาหลักสูตรการจัดการศึกษา การบริการที่เหมาะสมและมีคุณภาพ เพ่ือให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบันและนโยบายการพัฒนาคุณภาพการศึกษาศูนย์การศึกษาพิเศษสู่ระบบประกันคุณภาพการศึกษา เน้นการพัฒนาเด็ก โดยยึดหลักความเท่าเทียม ความเสมอภาคความแตกต่างระหว่างบคุ คล รวมทั้งการมีส่วนร่วมของครอบครัว คณะสหวิชาชพี สถานศกึ ษา ชุมชนและผู้เกยี่ วข้องกับการพัฒนาเดก็ พิการ ดังน้ัน สานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐานจึงพัฒนาหลักสูตรการให้บริการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มสาหรับเด็กพิการ ศูนย์การศึกษาพิเศษพุทธศักราช ๒๕๕๖ เป็นหลักสูตรสาหรับเด็กที่มีความต้องการจาเป็นพิเศษระยะแรกเร่ิมของศูนย์การศึกษาพิเศษ ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๕๘ ท้ังน้ีเพ่ือให้ส่ือความหมายได้ชัดเจนและถูกต้องตามหลักวิชาของการต้ังช่ือหลักสูตร โดยได้เพ่ิมทักษะการดารงชีวิตในทักษะการเรียนรู้และกาหนดองค์ประกอบต่างๆ ให้มีความชัดเจนมากย่ิงข้ึน เอ้ือกับเด็กพิการที่อยู่ตามบ้าน และการนาเทคโนโลยีสิ่งอานวยความสะดวกมาประยุกต์ใช้ และปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละพื้นที่ตามประเภท ระดับความพิการและศักยภาพ เพื่อให้เด็กพิการสามารถพึ่งพาตนเองได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึน้ และให้ศนู ย์การศึกษาพเิ ศษใช้เป็นหลกั สตู รสถานศึกษา

๓ คาชแ้ี จง หลักสูตรสาหรับเด็กท่ีมีความต้องการจาเป็นพิเศษระยะแรกเริ่มของศูนย์การศึกษาพิเศษ ฉบบั ปรบั ปรุง พุทธศักราช ๒๕๕๘ ฉบบั น้ี เป็นแนวทางในการใหบ้ รกิ ารชว่ ยเหลอื ระยะแรกเร่ิมสาหรับเด็กพิการศูนย์การศึกษาพิเศษ ๙ ประเภทความพิการ ประกอบด้วย เด็กท่ีมีความบกพร่องทางการเห็น เด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน เด็กท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญา เด็กท่ีมีความบกพร่องทางร่างกาย หรือการเคลื่อนไหวหรือสุขภาพ เด็กท่ีมีความบกพร่องทางการเรียนรู้เด็กที่มีความบกพร่องทาง การพูดและภาษา เด็กที่มีความบกพร่องทางพฤติกรรมหรืออารมณ์เด็กออทิสติก เด็กพิการซ้อน ที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิดถึง ๖ ปี เพ่ือพัฒนาทักษะการเรียนรู้ ได้แก่กลุ่มทักษะพ้ืนฐาน และกลุ่มทักษะจาเป็นพิเศษเฉพาะความพิการหรือกลุ่มทักษะจาเป็นอ่ืนๆส่วน การให้บริการช่วยเหลือระยะแรกเร่ิมสาหรับ เด็กพิการศูนย์การศึกษาพิเศษเน้นการสร้างองค์ความรู้ให้กับผู้ปกครองในเร่ืองการดูแลช่วยเหลือ กระตุ้นพัฒนาการและพัฒนาศักยภาพให้เทียบเคียงกับพัฒนาการเด็กทั่วไปให้มากที่สุด การให้บริการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มสาหรับเดก็ พิการแตล่ ะประเภท ดังนี้ ๑. เด็กที่มีความบกพร่องทางการเห็น ได้แก่ เด็กเห็นเลือนราง และเด็กตาบอดมุ่งพัฒนาทักษะการใช้ประสาทสัมผัสที่เหลืออยู่ เช่น การมองเห็น การได้ยิน การสัมผัส การดมกลิ่นฯลฯ โดยเด็กเห็นเลือนราง ฝึกใช้อุปกรณ์ช่วยการเห็น เช่น แว่นขยาย เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ขยายขอ้ ความและภาพ สาหรบั เดก็ ตาบอด ฝึกการสร้างความคุ้นเคยกบั สภาพแวดล้อมและการเคล่ือนไหวการเดินทางของคนตาบอด การใช้ลูกคิด การเตรียมความพร้อมการอ่าน และการเขียนอักษรเบรลลไ์ ทย ๒. เด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน ได้แก่ เด็กหูตึง และเด็กหูหนวก โดยเด็กหูตึงฝึกฟัง ฝึกพูด ฝึกการใช้เคร่ืองช่วยฟัง ฝึกการใช้ประสาทหูเทียม สาหรับเด็กหูหนวก ฝึกการใช้ภาษามือการอา่ นรมิ ฝปี าก การสะกดนิ้วมอื ๓. เด็กท่มี คี วามบกพรอ่ งทางสติปัญญามุง่ เนน้ ฝึกปฏิบัตกิ ิจวัตรประจาวนั การรบั ผิดชอบงานบ้าน การดูแลสุขอนามัยสว่ นบุคคล และความปลอดภยั ในชวี ิตประจาวัน ๔. เด็กท่ีมีความบกพรอ่ งทางรา่ งกายหรือการเคลื่อนไหวหรือสุขภาพ ฝึกการใช้อปุ กรณ์เครื่องช่วยเดิน กายอุปกรณ์เสริม กายอุปกรณ์เทียม อุปกรณ์ดัดแปลง ส่ิงอานวยความสะดวกและเทคโนโลยีส่ิงอานวยความสะดวก รวมถึงการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล เพื่อป้องกันภาวะแทรกซอ้ น ๕. เด็กท่ีมีความบกพร่องทางการเรียนรู้ ฝึกความสนใจ ความเข้าใจภาษาการแสดงออก ทางภาษา อารมณ์ ความรู้สึก การลดพฤติกรรมท่ีไม่พึงประสงค์ การปฏิบัติตามกติกาของสังคม เตรียมความพรอ้ มดา้ นการอา่ น การเขียน การคิดคานวณ ๖. เด็กที่มีความบกพร่องทางการพูดและภาษา ฝึกการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารโดยการฝกึ ทักษะการฟงั การพดู การอา่ น การเขยี น การใช้รปู ภาพสญั ลกั ษณ์ในการสือ่ สาร

๔ ๗. เด็กท่ีมีความบกพร่องทางพฤติกรรม หรืออารมณ์ ฝึกการควบคุมอารมณ์ ความรู้สึกความสนใจ การตอบสนองต่อส่ิงเร้า เพื่อลดพฤติกรรมท่ีไม่พึงประสงค์ และปฏิบัติตามกติกาของสงั คมไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ๘. เด็กออทิสติก ฝึกการเข้าใจภาษา การแสดงออกทางภาษา อารมณ์ ความรู้สึกฝึกการมีปฏิสัมพันธ์ทางสงั คม ความสนใจ การตอบสนองต่อส่ิงเรา้ การลดพฤตกิ รรมทีไ่ ม่พึงประสงค์การปฏบิ ตั ติ ามกตกิ าของสงั คม การเลียนแบบ การหลกี หนจี ากอันตราย ๙. เด็กพิการซ้อน ฝึกโดยเน้นความบกพร่องท่ีจะพัฒนาศักยภาพเด็กพิการ เพ่ือพัฒนาศักยภาพด้านอ่นื ที่ส่งผลตอ่ การดารงชีวิต ทั้งนี้ การให้บริการช่วยเหลือเด็กพิการแต่ละประเภท ครูและผู้ปกครองควรเลือกใช้เทคนิค วิธีสอน สื่อ และเทคโนโลยีสิ่งอานวยความสะดวก ท่ีสอดคล้องเหมาะสมกับระดับและประเภทความพิการ สาหรับเด็กพิการอายุต่ากว่า ๓ ปี เน้นให้ครอบครัวมีบทบาทสาคัญในการดูแลช่วยเหลือ กระตุ้นพัฒนาการในระยะแรกเริ่ม ส่วนเด็กพิการอายุ ๓-๖ ปี เน้นให้ศูนย์การศึกษาพิเศษรว่ มกับคณะสหวิชาชพี ครอบครวั และชุมชน พฒั นาศักยภาพและเตรยี มความพร้อมใหก้ บั เด็กพิการ ปรัชญาการจัดการศึกษาสาหรบั เดก็ พกิ าร ๑. เด็กพกิ ารทุกคนมีโอกาสรับและเข้าถึงการศกึ ษาอยา่ งทั่วถงึ และเสมอภาค ๒. การจัดการศึกษาสาหรับเด็กพิการ ควรจัดให้เร็วท่ีสุดตั้งแต่แรกเกิดหรือพบความพิการ โดยคานึงถึงการมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ได้แก่ ครู หมอ พ่อแม่ และชุมชนรวมท้ังมีการวางแผนการจัดบริการทางการศกึ ษาท่ีเหมาะสม เพ่ือสนองต่อความต้องการจาเป็นพิเศษของแตล่ ะบคุ คล ๓. จัดให้มีการดาเนินการส่งต่อหรือการเปล่ียนผ่าน เพ่ือให้เด็กพิการได้รับบริการทเี่ หมาะสมตามความตอ้ งการจาเปน็ พเิ ศษของแตล่ ะบคุ คล ๔. การจัดการศึกษาสาหรับเด็กพิการมุ่งเน้นให้เด็กพิการดารงชีวิตอยู่กับผู้อื่นได้อยา่ งมีความสุข วิสัยทัศน์ เด็กพิการทุกคนได้รับการพัฒนาเต็มศักยภาพ ดารงชีวิตและสามารถอยู่กับผู้อื่นได้อยา่ งมีความสุข

๕ หลกั การ หลักสูตรสาหรับเด็กท่ีมีความต้องการจาเป็นพิเศษระยะแรกเร่ิมของศูนย์การศึกษาพเิ ศษ ฉบบั ปรบั ปรุง พุทธศักราช ๒๕๕๘ มีหลกั การสาคัญ ดงั น้ี ๑. จดั การศึกษาโดยยดึ ผเู้ รียนเปน็ สาคัญ ๒. พัฒนาเดก็ พิการโดยองค์รวมดว้ ยรูปแบบและกระบวนการที่หลากหลายผา่ นกิจกรรมที่เหมาะสมกับวัยและพัฒนาการ โดยใช้แผนให้บริการช่วยเหลือเฉพาะครอบครัว แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล กาหนดแนวทางการจัดการศึกษาท่ีสอดคล้องกับความต้องการจาเป็นพิเศษเฉพาะของเด็กพกิ ารและครอบครัว ๓. จัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้เด็กพิการสามารถดารงชีวิตได้เต็มศักยภาพอย่างมคี วามสุข และมคี ณุ ภาพชวี ิตทดี่ ี ๔. เลือกใช้เทคโนโลยีสิ่งอานวยความสะดวก ส่ือ บริการ และความช่วยเหลืออื่นใดทางการศกึ ษา ใหต้ รงกบั ความตอ้ งการจาเป็นพเิ ศษเฉพาะบุคคล ๕. เน้นการมีส่วนร่วมกับครอบครัว คณะสหวิชาชีพ สถานศึกษา ชุมชน และผู้เกี่ยวข้องในการพฒั นาเดก็ พิการ ๖. ประเมินผลการเรียนรู้อย่างต่อเน่ืองและนาผลการประเมินมาใช้ในการปรับและทบทวนแผนเพือ่ พัฒนาเดก็ พกิ าร จดุ หมาย มุ่งพัฒนาเด็กพิการต้ังแต่แรกเกิดหรือพบความพิการให้สามารถพัฒนาได้เทียบเท่าหรือใกล้เคียงกับเด็กท่ัวไปในวัยเดียวกัน และส่งเสริมครอบครัวให้สามารถเล้ียงดูพัฒนาเด็กพิการ เพ่ือให้เด็กพิการได้รับการพัฒนาตามที่กาหนดในแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลและแผนให้บริการช่วยเหลือเฉพาะครอบครัว ให้มีศักยภาพพ่ึงพาตนเองได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีเตม็ ศักยภาพของแต่ละบคุ คล คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ตามหลักสูตรสาหรับเด็กท่ีมีความต้องการจาเป็นพิเศษระยะแรกเร่ิมของศูนย์การศึกษาพิเศษ ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๕๘ ได้กาหนดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่ต้องการให้เกิดกับเด็กพิการ ทั้งทางด้านร่างกาย ด้านจิตใจ อารมณ์ ด้านสังคม ด้านสติปัญญา ด้านการพึ่งพาตนเองและด้านคณุ ภาพชีวติ ท่ีดี เต็มศกั ยภาพของแต่ละบุคคล โดยกาหนดตัวช้ีวัดคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ไว้ ๑๐ ประการ ดังน้ี ๑. รา่ งกายเจริญเติมโตและมสี ขุ นสิ ัยท่ีดี ๒. กลา้ มเนื้อมดั ใหญ่และกล้ามเน้ือมัดเล็กแข็งแรงและใช้ได้อย่างสมั พันธก์ ัน ๓. รา่ เริง แจม่ ใส มีความสขุ และมคี วามรู้สึกทด่ี ีต่อตนเองและผ้อู ่นื

๖๔. มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม มวี ินยั ในตนเอง และมีความรับผดิ ชอบ๕. ช่วยเหลือตนเองได้เตม็ ศักยภาพ๖. สนใจตอ่ การเรียนรสู้ ิง่ ตา่ งๆ รอบตัว๗. เลน่ และทากิจกรรมร่วมกับผู้อ่นื ได้๘. สื่อสารด้วยภาษาหรอื วิธกี ารอ่ืนได้๙. มคี วามสามารถในการคดิ และแกป้ ญั หาได้เต็มศักยภาพ๑๐. มีความสามารถในการดารงชวี ิตประจาวันไดเ้ ต็มศักยภาพ

๗ โครงสรา้ งหลกั สูตร การพัฒนาศักยภาพเด็กพิการ ตามหลักสูตรสาหรับเด็กท่ีมีความต้องการจาเป็นพิเศษระยะแรกเร่ิมของศูนย์การศึกษาพิเศษ ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๕๘ จาเป็นต้องคานึงถึงโครงสรา้ งหลักสูตร ดังนี้ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์๑. ร่างกายเจริญเติบโตและมสี ุขนสิ ัยทีด่ ี ๖. สนใจต่อการเรียนรสู้ ิง่ ตา่ งๆ รอบตัว๒. กลา้ มเนื้อมัดใหญ่และกล้ามเนอ้ื มดั เลก็ แขง็ แรงและ ๗. เลน่ และทากิจกรรมรว่ มกับผูอ้ นื่ ได้ใช้ไดอ้ ยา่ งสมั พนั ธก์ นั ๘. ส่ือสารด้วยภาษาหรือวิธกี ารอนื่ ได้๓. ร่าเริง แจ่มใส มคี วามสุขและมคี วามรสู้ ึกท่ดี ีต่อตนเอง ๙. มคี วามสามารถในการคดิ และการแก้ปัญหาไดเ้ ต็มและผู้อน่ื ศักยภาพ๔. มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม มีวนิ ัยในตนเองและมคี วามรับผิดชอบ ๑๐. มคี วามสามารถในการดารงชวี ติ ประจาวนั ไดเ้ ตม็๕. ชว่ ยเหลอื ตนเองไดเ้ ต็มศักยภาพ ศักยภาพ ทกั ษะการเรียนรู้ กล่มุ ทักษะพ้นื ฐาน กลมุ่ ทกั ษะจาเปน็ เฉพาะความพิการหรือทักษะจาเปน็ อ่นื ๆ- กลมุ่ ทกั ษะกล้ามเนอ้ื มดั ใหญ่ - กลมุ่ ทักษะจาเปน็ เฉพาะสาหรบั เดก็ ทม่ี ีความบกพรอ่ งทางการเหน็- กล่มุ ทกั ษะกล้ามเนือ้ มดั เลก็ - กลมุ่ ทักษะจาเปน็ เฉพาะสาหรับเดก็ ที่มคี วามบกพรอ่ งทางการได้ยนิ- กลมุ่ ทักษะการช่วยเหลอื ตนเองใน - กลุ่มทักษะจาเป็นเฉพาะสาหรบั เด็กทม่ี คี วามบกพรอ่ งทางสตปิ ญั ญาชีวติ ประจาวนั - กลมุ่ ทกั ษะจาเป็นเฉพาะสาหรับเด็กที่มคี วามบกพรอ่ งทางรา่ งกาย- กลมุ่ ทักษะการรบั รแู้ ละแสดงออกทางภาษา หรอื การเคล่ือนไหวหรอื สขุ ภาพ- กลุ่มทกั ษะทางสงั คม - กลมุ่ ทกั ษะจาเปน็ เฉพาะสาหรับเด็กทมี่ ีความบกพรอ่ งทางการเรียนรู้- กลมุ่ ทักษะทางสตปิ ญั ญาหรือการเตรียม - กลมุ่ ทกั ษะจาเป็นเฉพาะสาหรบั เด็กทม่ี คี วามบกพร่องทางการพดูความพรอ้ มทางวชิ าการ และภาษา - กลุม่ ทักษะจาเป็นเฉพาะสาหรบั เดก็ ที่มีความบกพรอ่ งทางพฤติกรรม หรอื อารมณ์ - กลมุ่ ทักษะจาเปน็ เฉพาะสาหรับเดก็ ออทสิ ตกิ - กลุม่ ทักษะจาเปน็ เฉพาะสาหรับเด็กพกิ ารซ้อนเวลาเรียน ตามอายุจริงตัง้ แต่แรกเกดิ ถงึ ๖ ปี และยดื หยุน่ ตามความพร้อม พฒั นาการและศกั ยภาพของเดก็ พกิ าร ตามประเภทและสภาพความพกิ ารของแตล่ ะบคุ คล ถงึ ๘ ปีกิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น กจิ กรรมนนั ทนาการ กจิ กรรมคณุ ธรรม กจิ กรรมทัศนศกึ ษา กจิ กรรมบรกิ ารเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร กจิ กรรมเสรมิ ทกั ษะ กจิ กรรมอื่นๆตามความเหมาะสม ฯลฯแผนภาพที่ ๑ โครงสร้างหลักสตู ร

๘ ๑. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เป็นเป้าหมายหลกั ในการพฒั นาศักยภาพเดก็ พิการตามหลกั สตู รกาหนด ๒. ทักษะการเรียนรู้ ประกอบด้วย ๒ ส่วน คือ กลุ่มทักษะพ้ืนฐานและกลุ่มทักษะจาเปน็ เฉพาะความพกิ ารหรือกลมุ่ ทกั ษะจาเปน็ อืน่ ๆ (รายละเอียดหนา้ ๒๒) ๓. กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้พัฒนาศักยภาพตามประเภทและสภาพความพิการ ตามบริบทหรือความพร้อมของศูนย์การศึกษาพิเศษ ทั้งนี้สานักงานคณ ะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน กาหนดขอบข่ายกิจกรรมพัฒ นาผู้เรียนซ่ึงศูนย์การศึกษาพิเศษสามารถนามาปรับใช้และดาเนินการในรูปแบบกิจกรรม โครงการ หรือการบรู ณาการกจิ กรรม ดงั สาระสาคัญต่อไปนี้ ๓.๑ กิจกรรมนันทนาการ เป็นกิจกรรมท่ีศูนย์การศึกษาพิเศษ จัดเพ่ิมเติมจากกิจกรรมการพัฒนาศักยภาพเด็กพิการตามที่ระบุไว้ในแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล เช่นกิจกรรมดนตรี กิจกรรมศิลปะ กิจกรรมกีฬา เป็นต้น ส่วนการให้บริการช่วยเหลือเฉพาะครอบครัวอาจจัดกิจกรรมตามความสนใจของเด็กและสภาพความพิการภายใต้บริบทของครอบครัว เช่นการฟังเพลงจากวทิ ยุ จากโทรทศั น์ รว่ มงานนนั ทนาการในชุมชน เปน็ ต้น ๓.๒ กิจกรรมคุณธรรม เป็นกิจกรรมส่งเสริมให้เด็กพิการมีคุณธรรม จริยธรรมคา่ นิยมที่ดีงาม คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ เช่น กิจกรรมทางศาสนาวฒั นธรรมและประเพณี กิจกรรมทางวิชาการ กิจกรรมทางสังคม กิจกรรมการรักษาธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม กิจกรรมส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมและจิตสาธารณะ เป็นต้น ส่วนการให้บริการช่วยเหลือเฉพาะครอบครัว อาจมีการจัดกิจกรรมตามความสนใจของเด็กและสภาพความพิการภายใต้บริบทของครอบครัว เช่นการสวดมนต์ ฟงั หรอื ดูนทิ านธรรมะ เป็นต้น ๓.๓ กิจกรรมทัศนศึกษา เป็นกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้สภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์ของชุมชน ท้องถ่ิน ชาติและกลุ่มประเทศอาเซียน และทัศนศึกษาตามแหล่งเรียนรู้ต่างๆ เพ่ือเสริมสร้างประสบการณ์ตรงให้กับเด็กพิการเพ่ิมเติมจากท่ีระบุไว้ในแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล เช่น ทัศนศึกษาแหล่งเรียนรู้ในชุมชน กิจกรรมกระเตงน้องท่องสวนสัตว์ เป็นต้น ส่วนการให้บริการช่วยเหลือเฉพาะครอบครัว อาจมีการจัดกิจกรรมตามความสนใจของเด็กและสภาพความพิการภายใต้บริบทของครอบครัว เช่น ดูภาพสถานท่ีท่องเที่ยวจากหนังสอื จากรายการโทรทัศน์ เป็นต้น ๓.๔ กิจกรรมบริการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นกิจกรรมการให้บริการแก่เด็ก หรือผู้ปกครอง เช่น การให้บริการสืบค้นข้อมูลผ่านระบบอินเตอร์เน็ตการให้บริการคอมพิวเตอร์ในการจัดทาสื่อ การบริการสืบค้นผลงานของศูนย์การศึกษาพิเศษผ่านคอมพิวเตอร์ เป็นต้น ส่วนการให้บริการช่วยเหลือเฉพาะครอบครัว อาจมีการจัดกิจกรรมตามความสนใจของเดก็ และสภาพความพิการภายใตบ้ รบิ ทของครอบครัว ๓.๕ กิจกรรมเสริมทักษะ เป็นกิจกรรมที่มีเป้าหมายเพื่อป้องกัน แก้ไข ฟ้ืนฟูความเสื่อมสภาพของร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคมและสติปัญญา ส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์ทางบวกเพ่ือลดพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ ได้แก่ บริการสอนเสริม กิจกรรมทางวิชาการ กิจกรรมบาบัด

๙กายภาพบาบัด อรรถบาบัด จิตวิทยา ธาราบาบัด อาชาบาบัด ช้างบาบัด กระบือบาบัด ลาบาบัดสตั วเ์ ลี้ยงบาบัด (Pet Therapy) ได้แก่ กระตา่ ยบาบดั ปลาบาบัด สนุ ัขบาบัด เปน็ ตน้ ๓.๖ กิจกรรมอน่ื ๆ ตามความเหมาะสม ๔. กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้พัฒนาศักยภาพตามประเภทและสภาพความพิการ ตามบริบทหรือความพร้อมของศูนย์การศึกษาพิเศษ ท้ังน้ีสานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน กาหนดขอบข่ายกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ซ่ึงศูนย์การศึกษาพิเศษสามารถนามาปรับใช้และดาเนินการในรูปแบบกิจกรรม โครงการ หรือการบูรณาการกิจกรรม ดงั สาระสาคัญตอ่ ไปน้ี ๔.๑ กิจกรรมนันทนาการ เป็นกิจกรรมที่ศูนย์การศึกษาพิเศษ จัดเพิ่มเติมจากกิจกรรมพัฒนาศักยภาพของเด็กพิการตามท่ีระบุไว้ในแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล เช่นกิจกรรมดนตรี ได้แก่ ฟังเพลง จากรายการทีวี วิทยุ ร้องคาราโอเกะ ดูการแสดงพ้ืนบ้าน เป็นต้นกิจกรรมศลิ ปะ ได้แก่ ตัดกระดาษ ฉกี ตัดปะ วาดภาพระบายสี เป็นต้น กจิ กรรมกีฬา เป็นต้น ๔.๒ กิจกรรมส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม เป็นกิจกรรมส่งเสริมให้เด็กพิการมีคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยมที่ดีงาม คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ เช่น กิจกรรมทางศาสนา วฒั นาธรรมและประเพณี กิจกรรมทางสังคม กิจกรรมการรักษาธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม กิจกรรมส่งเสริมคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและจิตสาธารณะ เป็นต้น ๔.๓ กิจกรรมทัศนศึกษา เป็นกิจรรมส่งเสริมการเรียนรู้สภาพแวดล้อมของชุมชนท้องถิ่น ชาติ และกลุ่มประเทศอาเซียนและทัศนศึกษาตามแหล่งเรียนรู้ต่างๆ เพ่ือส่งเสริมประสบการณ์ตรงให้กับเด็กพิการเพิ่มเติมจากท่ีระบุไว้ในแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล เช่นทศั นศกึ ษาแหลง่ เรยี นรใู้ นชมุ ชน กิจกรรมกระเตงนอ้ งท่องสวนสัตว์ เปน็ ตน้ ๔.๔ กิจกรรมบริการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นกิจกรรมการใหบ้ รกิ ารแก่เดก็ หรือผู้ปกครอง เพ่ือเสริมการเรียนของผู้เรยี น เช่น บริการติดตั้งโปรแกรมสาหรับการศึกษา การส่อื สาร การใหบ้ ริการคอมพิวเตอร์ให้ในการจดั ทาส่ือ การบริการสบื ค้นขอ้ มลู เปน็ ตน้ ๔.๕ กิจกรรมเสริมทักษะ เป็นกิจกรรมท่ีมีเป้าหมายเพ่ือป้องกัน แก้ไข ฟื้นฟูความเส่ือมสภาพของร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคมและสติปัญญา ส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์ทางบวกเพ่ือลดพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ ได้แก่ บริการสอนเสริม กิจกรรมทางวิชาการ กิจกรรมบาบัดกายภาพบาบัด อรรถบาบัด จิตวิทยา ธาราบาบัดอาชาบาบัด ช้างบาบัด กระบือบาบัด สัตว์เล้ียงบาบัด (Pet Therapy) ได้แก่ กระตา่ ยบาบดั ปลาบาบดั แมวบาบดั สุนขั บาบัด เป็นตน้ ๔.๖ กิจกรรมอ่ืนๆ ตามความเหมาะสม ๕. เวลาเรียน ให้ใช้เวลาเรียนท่ีสอดคล้องกับอายุจริงของเด็กพิการ คืออายุตั้งแต่แรกเกิดถึง ๖ ปี โดยการจัดโปรแกรมของเด็กพิการแต่ละบุคคลให้ข้ึนอยู่กับความพร้อม พัฒนาการและศักยภาพ ตามประเภทและสภาพความพิการของแต่ละบุคคล ในกรณีเด็กพิการอายุเกิน ๖ ปี และสถานศึกษาพิจารณาว่า ควรจะได้รับการพัฒนาด้านพัฒนาการต่อเนื่อง เพ่ือให้มีความพร้อมสาหรับการจัดช่วงเชื่อมต่อ ก็สามารถยืดหยุ่นเวลาเรียนได้จนถึงอายุจริง ๘ ปี สาหรับเด็กพิการท่ีอายุเกิน๘ ปี ศูนย์การศึกษาพิเศษควรจะจัดหลักสูตรท่ีมุ่งพัฒนา ให้ผู้เรียนสามารถดารงชีวิตอยู่ในชุมชนตามเปา้ หมายท่ผี ูป้ กครองและผ้เู กี่ยวขอ้ ง ได้รว่ มกนั วางแผนเพอ่ื ให้ผู้เรียนไดด้ ารงชีวติ ในสังคมต่อไป

๑๐ ความสัมพนั ธข์ องการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนตาม หลักสตู รสาหรบั เด็กที่มคี วามตอ้ งการจาเป็นพเิ ศษระยะแรกเรม่ิ ของศูนย์การศึกษาพเิ ศษ ฉบับปรบั ปรุง พทุ ธศักราช ๒๕๕๘ วสิ ยั ทศั น์ เด็กพกิ ารทกุ คนได้รับการพัฒนาเตม็ ศักยภาพ ดารงชวี ิตและสามารถอยู่กบั ผู้อ่นื ได้อย่างมีความสุข จดุ หมายม่งุ พัฒนาเด็กพิการตั้งแต่แรกเกดิ หรือพบความพิการใหส้ ามารถพฒั นาได้เทยี บเท่า หรือใกลเ้ คียงกับ เด็กทว่ั ไปในวัยระดับเดียวกัน และส่งเสริมครอบครัวให้สามารถเล้ียงดูพัฒนาเด็กพิการ เพื่อให้เด็กพิการได้รับการพัฒนาตามที่กาหนดในแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลและแผนให้บริการช่วยเหลือเฉพาะครอบครัว ให้พึ่งพาตนเองได้ และมีคณุ ภาพชวี ติ ที่ดีเต็มศกั ยภาพของแตล่ ะบุคคล คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ๑. ร่างกายเจริญเติบโตและมีสุขนิสัยที่ดี ๒. กล้ามเน้ือมัดใหญ่และกล้ามเนื้อมัดเล็กแข็งแรง และใช้ได้อย่าง ประสานสัมพันธ์กัน ๓. ร่าเริง แจ่มใส มีความสุขและมีความรู้สึกที่ดีต่อตนเองและผู้อื่น ๔. มีคุณธรรม จริยธรรม มีวินัยในตนเองและมีความรบั ผิดชอบ ๕. ชว่ ยเหลอื ตนเองไดเ้ ต็มศักยภาพ ๖. สนใจตอ่ การเรยี นรสู้ ่ิงตา่ งๆ รอบตัว ๗. เล่นและทากิจกรรมร่วมกับผู้อ่ืนได้ ๘. ส่ือสารด้วยภาษาหรือวิธีการอ่ืนได้ ๙. มีความสามารถในการคิดและ แก้ปญั หาไดเ้ ตม็ ศักยภาพ ๑๐. มคี วามสามารถในการดารงชวี ติ ประจาวันได้เตม็ ศักยภาพเตม็ ศกั ยภาพกล่มุ ทักษะการเรียนรู้ ทกั ษะจาเปน็ เฉพาะความพิการ กิจกรรมพฒั นาผู้เรียน ◊ กจิ กรรมนนั ทนาการ1. กลมุ่ ทักษะกลา้ มเน้อื มดั ใหญ่ ๑. ทักษะจาเป็นเฉพาะสาหรบั เดก็ ที่มคี วาม ◊ กจิ กรรมคณุ ธรรม บกพร่องทางการเห็น ◊ กจิ กรรมทศั นศกึ ษา2. กลุ่มทักษะกลา้ มเนือ้ มัดเล็ก ทกั ษะจาเปน็ เฉพาะสาหรับเด็กท่ีมคี วาม ◊ กจิ กรรมบรกิ ารเทคโนโลยี บกพรอ่ งทางการได้ยิน3. กลมุ่ ทกั ษะการช่วยเหลอื ตนเอง ๒. ทกั ษะจาเป็นเฉพาะสาหรับเด็กทม่ี ีความ สารสนเทศและ การสอื่ สาร บกพร่องทางสตปิ ัญญา ◊ กิจกรรมเสรมิ ทักษะ4. กลมุ่ ในชีวิตประจาวัน ทักษะจาเปน็ เฉพาะสาหรับเดก็ ท่มี คี วาม ◊ กจิ กรรมอืน่ ๆตามความ บกพร่องทางร่างกายฯ5. กล่มุ ทกั ษะการรับรูแ้ ละแสดงออก ๓. ทักษะจาเป็นเฉพาะสาหรบั เด็กที่มีความ เหมาะสม บกพรอ่ งทางการเรียนรู้ ฯลฯ6. กลุ่มทางภาษา ทักษะจาเป็นเฉพาะสาหรบั เด็กท่ีมีความ บกพรอ่ งทางการพดู และภาษา7. กลุ่มทักษะทางสังคม ๔. ทกั ษะจาเปน็ เฉพาะสาหรบั เด็กทม่ี ีความ บกพรอ่ งทางพฤติกรรมและอารมณ์8. กลมุ่ ทกั ษะทางสติปญั ญาหรือ ทักษะจาเป็นเฉพาะสาหรับเดก็ ออทสิ ติก ทกั ษะจาเป็นเฉพาะสาหรับเดก็ พกิ ารซอ้ น9. กลมุ่ การเตรียมความพรอ้ มทางวิชาการ ๕. ๖. ๗. ๘. ๙. คณุ ภาพเดก็ พกิ ารแผนภาพที่ ๒ ความสมั พันธ์ของการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนตามหลักสูตรสาหรับเด็กท่ีมคี วามต้องการจาเปน็ พเิ ศษระยะแรกเร่มิ ของศูนย์การศกึ ษาพิเศษ ฉบบั ปรับปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๕๘

๑๑ กลมุ่ เป้าหมาย กลุ่มเป้าหมายตามหลักสูตรการให้บริการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มสาหรับเด็กพิการศูนย์การศึกษาพิเศษ ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๕๘ ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการเรอ่ื งกาหนดประเภทและหลักเกณฑข์ องคนพกิ ารทางการศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๕๒ ดังตอ่ ไปนี้ ๑) บุคคลท่ีมีความบกพร่องทางการเห็น ได้แก่ บุคคลที่สูญเสียการเห็นตั้งแต่ระดบั เลก็ น้อยจนถงึ ตาบอดสนิท ซ่งึ แบ่งเป็น ๒ ประเภทดังน้ี ๑.๑) คนตาบอด หมายถึง บคุ คลท่ีสูญเสียการเห็นมาก จนต้องใช้สื่อสัมผัสและสื่อเสียงหากตรวจวัดความชัดของสายตาข้างดีเมื่อแก้ไขแล้ว อยู่ในระดับ ๖ ส่วน ๖๐ (๖/๖๐) หรือ๒๐ ส่วน ๒๐๐(๒๐/๒๐๐) จนถงึ ไมส่ ามารถรบั รู้เรือ่ งแสง ๑.๒) คนเห็นเลือนราง หมายถึง บุคคลที่สูญเสียการเห็น แต่ยังสามารถอ่านอักษรตัวพมิ พ์ขยายใหญ่ด้วยอปุ กรณเ์ คร่ืองช่วยความพิการ หรอื เทคโนโลยีส่ิงอานวยความสะดวกหากวดั ความชัดเจนของสายตาข้างดีเม่ือแก้ไขแล้วอย่ใู นระดับ ๖ ส่วน ๑๘ (๖/๑๘) หรือ ๒๐ สว่ น ๗๐(๒๐/๗๐) ๒) บุคคลที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน ได้แก่ บุคคลท่ีสูญเสียการได้ยินต้ังแต่ระดบั หูตงึ น้อยจนถงึ หูหนวก ซึ่งแบง่ เป็น ๒ ประเภท ดงั นี้ ๒.๑) คนหูหนวก หมายถึง บุคคลที่สูญเสียการได้ยินมากจนไม่สามารถเข้าใจการพูดผ่านทางการได้ยินไม่ว่าจะใส่หรือไม่ใส่เคร่ืองช่วยฟัง ซึ่งโดยท่ัวไปหากตรวจการได้ยินจะมี การสญู เสยี การไดย้ นิ ๙๐ เดซเิ บลขึน้ ไป ๒.๒) คนหูตึง หมายถึง บุคคลที่มีการได้ยินเหลืออยู่เพียงพอท่ีจะได้ยินการพูดผ่านทางการได้ยิน โดยท่ัวไปจะใส่เครื่องช่วยฟัง ซ่ึงหากตรวจวัดการได้ยินจะมีการสูญเสียการได้ยินน้อยกวา่ ๙๐ เดซเิ บลลงมาถึง ๒๖ เดซิเบล ๓) บุคคลท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญา ได้แก่ บุคคลท่ีมีความจากัดอย่างชัดเจนในการปฏิบัติตนในปัจจุบัน ซ่ึงมีลักษณะเฉพาะ คือ ความสามารถทางสติปัญญาต่ากว่าเกณฑ์เฉลี่ยอย่างมีนัยสาคัญร่วมกับความจากัดของทักษะการปรับตัวอีกอย่างน้อย ๒ ทักษะจาก ๑๐ ทักษะ ไดแ้ ก่ การสื่อความหมาย การดูแลตนเอง การดารงชีวิตภายในบ้าน ทักษะทางสังคม/การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น การรู้จักใช้ทรัพยากรในชุมชน การรู้จักดูแลควบคุมตนเอง การนาความรู้มาใช้ในชีวิตประจาวันการทางาน การใช้เวลาว่าง การรักษาสุขภาพอนามัยและความปลอดภัย ทั้งน้ีได้แสดงอาการดงั กล่าวกอ่ นอายุ ๑๘ ปี ๔) บุคคลท่ีมีความบกพร่องทางร่างกายหรือการเคลื่อนไหวหรือสุขภาพซ่งึ แบ่งเปน็ ๒ ประเภทดงั นี้ ๔.๑) บุคคลที่มีความบกพร่องทางร่างกายหรือการเคล่ือนไหว ได้แก่ บุคคลที่มีอวัยวะไม่สมส่วนหรือขาดหายไป กระดูกหรือกล้ามเนื้อผิดปกติ มีอุปสรรคในการเคล่ือนไหวความบกพร่องดังกล่าวอาจเกิดจากโรคทางระบบประสาท โรคของระบบกล้ามเนื้อและกระดูกการไม่สมประกอบ มาแตก่ าเนดิ อุบัติเหตแุ ละโรคตดิ ต่อ

๑๒ ๔.๒) บุคคลท่ีมีความบกพร่องทางสุขภาพ ได้แก่ บุคคลท่ีมีความเจ็บป่วยเร้ือรังหรือมีโรคประจาตัวซึ่งจาเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเน่ือง และเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาซึ่งมผี ลทาให้เกดิ ความจาเป็นตอ้ งได้รับการศึกษาพิเศษ ๕) บุคคลที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ ได้แก่ บุคคลที่มีความผิดปกติในการทางานของสมองบางส่วนท่ีแสดงถึงความบกพร่องในกระบวนการเรียนรู้ที่อาจเกิดข้ึนเฉพาะความสามารถด้านใดด้านหนึ่งหรือหลายด้าน คือ การอ่าน การเขียน การคิดคานวณ ซึ่งไม่สามารถเรียนรู้ในด้านทีบ่ กพร่องได้ ทั้งทมี่ รี ะดบั สติปัญญาปกติ ๖) บุคคลท่ีมคี วามบกพร่องทางการพดู และภาษา ไดแ้ ก่ บุคคลที่มคี วามบกพร่องในการเปล่งเสียงพูด เช่น เสียงผิดปกติ อัตราความเร็วและจังหวะการพูดผิดปกติ หรือบุคคลท่ีมีความบกพร่องในเรื่องความเข้าใจหรือการใช้ภาษาพูด การเขียนหรือระบบสัญลักษณ์อ่ืนท่ีใช้ในการตดิ ต่อสือ่ สาร ซ่งึ อาจเกีย่ วกับรปู แบบ เน้อื หาและหนา้ ท่ีของภาษา ๗) บุคคลท่ีมีความบกพรอ่ งทางพฤติกรรมหรืออารมณ์ ไดแ้ ก่บุคคลที่มพี ฤติกรรมเบ่ียงเบนไปจากปกติเป็นอย่างมาก และปัญหาทางพฤติกรรมนั้นเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากความบกพร่องหรือความผิดปกติทางจิตใจหรือสมองในส่วนของการรับรู้ อารมณ์หรือความคิด เช่นโรคจติ เภท โรคซมึ เศร้า โรคสมองเสือ่ ม เป็นตน้ ๘) บุคคลออทิสติก ได้แก่ บุคคลที่มีความผิดปกติของระบบการทางานของสมองบางส่วนซึ่งส่งผลต่อความบกพร่องทางพัฒนาการด้านภาษา ด้านสังคมและการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมและมีข้อจากัดด้านพฤติกรรม หรือมีความสนใจจากัดเฉพาะเรื่องใดเร่ืองหน่ึง โดยความผิดปกตินั้นค้นพบไดก้ ่อนอายุ ๓๐ เดอื น ๙) บุคคลพิการซ้อน ไดแ้ ก่ บุคคลทีม่ ีสภาพความบกพร่องหรือความพกิ ารมากกวา่ หน่งึ ประเภทในบุคคลเดยี วกนั การจัดการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้เป็นการนาหลักสูตรการให้บริการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มสาหรับเดก็ พิการ ศูนย์การศกึ ษาพิเศษ พุทธศักราช ๒๕๕๖ ไปสู่การปฏิบัติ ผู้สอนต้องมคี วามรคู้ วามเข้าใจในหลักการจัดการเรียนรู้ กระบวนการเรียนรู้ การออกแบบการจัดการเรียนรู้ และการประเมินผลการเรียนรู้เฉพาะสาหรับเด็กพิการ เพื่อให้สามารถจัดการเรียนรู้สาหรับเด็กพิการได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยคานึงถึง ความสามารถพ้ืนฐานของเด็กพิการ ความยืดหยุ่นของเนื้อหา และกระบวนการเรียนรู้ท่ีเหมาะสมตามความแตกตา่ งของแตล่ ะบุคคล ในกระบวนการจัดการเรียนรู้ ให้คานึงถึงความต้องการจาเป็นพิเศษของผู้เรียนซ่ึงอาจใช้กระบวนการดังต่อไปนี้ กระบวนการสร้างความรู้ กระบวนการคิด กระบวนการทางสังคมกระบวนการวิจัย การเรียนรู้จากประสบการณ์จริง การลงมือปฏิบัติจริง การแก้ปัญหา การเรียนรู้แบบบูรณาการ และเทคนิคการสอนอื่นๆ เช่น เทคนิคการวิเคราะห์งาน เทคนิค 3R (Repetition/Relaxation/Routine) เทคนิคการเสริมแรง เทคนิคการเลียนแบบ เทคนิคการกระตุ้นเตือน เทคนิคการลงโทษ เทคนคิ ฟลอไทม์ (Floor Time) วธิ เี พ็คส์ (PECS) วิธีทชี (TEACCH) เปน็ ตน้

๑๓ บทบาทของผู้บรหิ าร ครผู ู้สอน คณะสหวิชาชพี ผปู้ กครอง และบคุ ลากรสนบั สนุน การจัดการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนมีคุณภาพตามเป้าหมายของหลักสูตร ทั้งผู้บริหารครผู สู้ อน คณะสหวชิ าชพี ผปู้ กครอง และบคุ ลากรสนับสนนุ ควรมบี ทบาท ดงั น้ี ๑. ผู้บรหิ าร ผบู้ ริหารเป็นผู้นาในการขับเคล่ือนการใช้หลักสตู ร สกู่ ารปฏบิ ัติจริงในศูนย์การศึกษาพิเศษ อย่างเป็นรูปธรรม ส่งเสริมและสนับสนุนทรัพยากรที่เอ้ือต่อการจัดการเรียนรู้ รวมทั้งประสานความรว่ มมอื กบั หน่วยงานท่ีเกยี่ วข้องในการพัฒนาเด็กพิการ ๒. ครูผู้สอน ครูผู้สอนต้องศึกษาและทาความเขา้ ใจหลักสูตรการให้บริการช่วยเหลอื ระยะแรกเริ่มสาหรับเด็กพิการ ศูนย์การศึกษาพิเศษ พุทธศักราช ๒๕๕๖ อย่างถ่องแท้ เพื่อให้การจัดการเรียนรู้มีประสทิ ธภิ าพและเกิดประสทิ ธผิ ล ๓. คณะสหวิชาชพี คณะสหวิชาชีพ เป็นคณะผู้ให้บริการประกอบด้วย แพทย์ พยาบาล นักจิตวิทยานักอรรถบาบัด นักโภชนาการ นักกิจกรรมบาบัด นักกายภาพบาบัด นักสังคมสงเคราะห์ครูการศึกษาพิเศษ มีส่วนร่วมในการประเมินความสามารถพ้ืนฐาน วางแผน ร่วมพัฒนา และประเมินผล รวมทั้งเป็นที่ปรึกษาในการพัฒนาเด็กพิการ โดยคณะสหวิชาชีพเป็นบุคลากรจากโรงพยาบาล ศนู ย์การศึกษาพิเศษ พัฒนาสังคมและความมนั่ คงของมนุษย์ และอื่นๆ ๔. ผู้ปกครอง ผู้ปกครอง มีส่วนร่วมในการกาหนดเป้าหมาย วางแผน และพัฒนาศักยภาพเด็กพิการ รวมท้ังสง่ เสรมิ สนับสนุนกจิ กรรมของสถานศึกษา ๕. บคุ ลากรสนับสนนุ บุคลากรสนับสนุน มีส่วนร่วมในการสนับสนุนการดาเนินงานจัดการศึกษา และปฏิบตั ิภารกิจให้บรรลุจุดหมายของหลกั สูตร เทคโนโลยสี งิ่ อานวยความสะดวก ส่ือ และแหลง่ เรียนรู้ การจัดการศึกษาสาหรับเด็กพิการ ต้องใช้เทคโนโลยีสิ่งอานวยความสะดวก สื่อ และแหล่งเรียนรู้ ที่สอดคล้องกับความต้องการจาเป็นพิเศษ ของแต่ละบุคคล รวมทั้งการใช้แหล่งเรียนรู้ต่างๆ ท่ีมีในท้องถ่ิน มาใช้ประกอบในการจัดการเรียนรู้ ที่สามารถส่งเสริมและสื่อสารให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ โดยศูนย์การศึกษาพิเศษ ควรจัดให้มีอย่างพอเพียง เพ่ือพัฒนาให้เด็กพิการเกิดการเรียนรู้อย่างแทจ้ ริง เทคโนโลยีสิ่งอานวยความสะดวก สื่อ และแหล่งเรียนรู้นั้น ผู้สอนสามารถจัดทาและพัฒนาข้ึนเอง หรือพิจารณาเลือกใช้จากคู่มือรายการส่ิงอานวยความสะดวก ส่ือ บริการ และความช่วยเหลืออื่นใดทางการศึกษามาใช้ประกอบในการจัดการเรียนรู้ สามารถส่งเสริมและสื่อสาร

๑๔ให้เด็กพกิ ารเกดิ การเรียนรู้ โดยศูนย์การศึกษาพเิ ศษควรจดั ใหม้ อี ย่างพอเพยี ง เพ่ือพฒั นาให้เด็กพิการเกดิ การเรยี นรู้อย่างแทจ้ ริงควรดาเนนิ การดังนี้ ๑. จัดให้มีแหล่งเรียนรู้ ศูนย์ส่ือ นวัตกรรม และเครือข่ายการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพในสถานศึกษาและชุมชน เพ่ือการศึกษา ค้นคว้า และการแลกเปล่ียนประสบการณ์การเรียนรู้ระหว่างสถานศกึ ษา ทอ้ งถิ่น ชุมชน ๒. จัดทา จัดหาเทคโนโลยีส่ิงอานวยความสะดวก สื่อการเรียนรู้สาหรับเด็กพิการส่งเสรมิ ใหผ้ ้สู อนจดั ทา จัดหาสื่อที่หลากหลาย รวมทง้ั ประยุกต์ใช้ส่ิงทม่ี ีอย่ใู นท้องถิ่นเปน็ สอื่ การเรยี นรู้ ๓. เลือกใช้เทคโนโลยีส่ิงอานวยความสะดวก สื่อการเรียนรู้ท่ีมีคุณภาพ เหมาะสม และหลากหลาย สอดคลอ้ งกับวธิ กี ารเรียนร้แู ละความแตกต่างของแตล่ ะบุคคล ๔. ประเมินความเหมาะสมคุณภาพของเทคโนโลยีสิง่ อานวยความสะดวก ส่อื ท่ีเลือกใช้ในการจดั การเรยี นรู้ ๕. ศึกษาค้นคว้า วิจัย เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีสิ่งอานวยความสะดวก ส่ือการเรียนรู้ให้สอดคลอ้ งกับการพัฒนาเดก็ พกิ าร ๖. จัดให้มีการกากับ ติดตาม ประเมินคุณภาพ การใช้เทคโนโลยีสิ่งอานวยความสะดวกสื่อ และแหลง่ เรยี นรอู้ ย่างสมา่ เสมอ ในการจัดทา การเลือกใช้ และการประเมินคุณภาพเทคโนโลยีส่ิงอานวยความสะดวกส่ือ และแหล่งเรียนรู้ทีใ่ ชใ้ นศูนย์การศึกษาพเิ ศษ ควรคานงึ ถึงหลักการสาคัญ เช่น ความสอดคล้องกับหลักสตู ร วตั ถปุ ระสงคก์ ารเรียนรู้ การออกแบบกจิ กรรมการเรียนรู้ การจัดประสบการณ์ เป็นตน้ การประเมนิ ผลการเรียนรู้ การประเมินคุณภาพของผู้เรียน พิจารณาองค์ประกอบร่วมกัน ๓ ด้าน คือ ทักษะการเรียนรู้ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ตามหลักสูตรกาหนด โดยผู้เรียนต้องได้รบั การประเมินทกุ องคป์ ระกอบ ดงั น้ี องค์ประกอบดา้ นทกั ษะการเรียนรู้ เป็นการประเมินกลุ่มทักษะพื้นฐานและกลุ่มทักษะจาเป็นเฉพาะความพิการหรือกลุ่มทกั ษะจาเป็นอ่นื ๆ โดยมขี ั้นตอนการดาเนินการดงั นี้ ๑. การประเมินก่อนการใหบ้ ริการ เป็นการประเมินความสามารถพ้ืนฐาน เทียบเกณฑ์พัฒนาการมาตรฐานของเดก็ ทว่ั ไป เพ่อื ประโยชน์ในการจดั ทาแผนการจดั การศกึ ษาเฉพาะบคุ คล ๒. การประเมนิ ระหวา่ งการให้บริการ เป็นการประเมินจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม หรือเป้าหมายระยะส้ัน จากแผนการสอนเฉพาะบุคคล เพื่อประโยชน์ในการติดตามความก้าวหน้า หรือพัฒนาการ หรือข้อบกพร่อง รวมทั้งการทบทวน ปรบั ปรงุ แผนการจดั การศกึ ษาเฉพาะบุคคล

๑๕ ๓. การประเมนิ หลังการใหบ้ รกิ าร ๓.๑ การประเมินเป้าหมายระยะยาว ๑ ปี ตามแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลเพือ่ ตดั สนิ ผลการเรียนรู้ ๓.๒ การประเมินความสามารถพ้ืนฐานหลังการให้บริการ เพ่ือเปรียบเทียบความก้าวหนา้ ของพฒั นาการ ๓.๓ ใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนการพัฒนาเด็กพิการ หรือการส่งต่อ การประเมินทักษะการเรียนรู้ตามหลักสูตร ใช้เกณฑ์ในการตัดสินเป็น ๕ ระดับ คือ ดีเย่ียม ดีมาก ดี พอใช้ และปรับปรงุ องคป์ ระกอบดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ เป็นการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตร โดยใช้เกณฑ์ในการตัดสินเป็น๔ ระดบั คอื ดเี ยย่ี ม ดี ผา่ น และไม่ผ่าน องค์ประกอบด้านกจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รียน เป็นการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรโดยใช้เกณฑ์การตัดสินผ่านและไม่ผา่ น การรายงานผลการพัฒนาผู้เรยี น การรายงานผลการพัฒนาผู้เรียน เป็นการจัดทาเอกสารรายงานความก้าวหน้าในการพัฒนาคณุ ภาพของผู้เรียนใหผ้ ปู้ กครอง และผเู้ ก่ียวข้องอยา่ งน้อยภาคเรยี นละ ๑ ครัง้ เอกสารหลักฐานการศกึ ษา เอกสารหลักฐานการศึกษา เปน็ สมุดรายงานผลการพัฒนาผเู้ รียน ประกอบดว้ ย ๑. แบบรายงานผลการพฒั นาคุณภาพผูเ้ รียนตามแผนการจัดการศกึ ษาเฉพาะบคุ คล ๒. แบบสรุปผลประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ๓. แบบสรปุ ผลประเมนิ การเข้าร่วมกจิ กรรม การปฏิบัติกจิ กรรม และผลงานของผเู้ รยี น การสง่ ตอ่ การส่งต่อ เป็นการประสานงานระหว่างศูนย์การศึกษาพิเศษกับหน่วยงานอ่ืนๆท่ีเกี่ยวข้อง เพื่อให้เด็กพิการได้รับบริการที่เหมาะสม เช่น บริการทางการแพทย์ บริการทางสังคมบริการทางการศึกษา โดยประสานงานระหว่างโรงเรียนจัดการเรียนร่วม โรงเรียนเฉพาะความพิการศูนย์การเรียนเฉพาะความพิการ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยเม่ือเด็กพิการมีผลการพัฒนาศักยภาพผ่านตามเกณฑ์ท่ีกาหนด ให้ส่งต่อเข้าสู่ระบบการศึกษาในช้ันเรียนท่ีสูงขึ้น เม่ือย้ายสถานศึกษา หรือรับบริการด้านอื่นๆ ให้ศูนย์การศึกษาพิเศษนาส่ง

๑๖แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล แบบรายงานผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน เพ่ือเป็นข้อมูลในการจัดการศกึ ษาหรือบริการด้านอ่ืนๆ ต่อไป การบริหารจัดการหลกั สูตร ศูนย์การศึกษาพิเศษนาหลักสูตรสาหรับเด็กที่มีความต้องการจาเป็นพิเศษระยะแรกเร่ิมของศูนย์การศึกษาพิเศษ ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๕๘ มีกระบวนการในการบริหารจัดการหลักสตู รตามขน้ั ตอน ดงั ตอ่ ไปน้ีกระบวนการ ผรู้ ับผดิ ชอบ๑. ขนั้ เตรยี มการ  กล่มุ บริหารงานวิชาการ สร้างความเข้าใจแก่ครู บุคลากรเก่ียวกับหลักสูตรสาหรับเด็กที่มีความต้องการจาเป็นพิเศษระยะแรกเร่ิมของศูนย์การศึกษาพิเศษ ฉบับปรับปรุงพุทธศักราช ๒๕๕๘ ศึกษาวเิ คราะห์ เพอื่ จดั ทาหลกั สูตรสถานศึกษา เตรียมสื่อ วัสดุ อุปกรณ์ เอกสารต่างๆท่ีเกี่ยวข้องกับการจัดทาหลกั สูตรสถานศึกษา ตดิ ต่อประสานงาน วิทยากร หรอื ผู้ที่เกย่ี วข้อง ๒. ข้นั ดาเนนิ การ  คณะกรรมการสถานศกึ ษา จดั ทาหลกั สตู รสถานศึกษา  ผบู้ รหิ าร เตรียมสภาพแวดล้อม วัสดุ คุรุภัณฑ์ให้เอื้อต่อการ  กลุ่มบริหารงานวิชาการนาหลักสูตรไปใช้  ครูและบุคลากร ประกาศใชห้ ลักสตู รสถานศกึ ษา  คณะกรรมการบรหิ ารหลกั สูตร สร้างความเข้าใจครูและบุคลากรในการใช้หลักสูตร  ครูและบคุ ลากรสถานศกึ ษา  พอ่ แม่/ผู้ปกครอง  นกั วิชาชพี อน่ื๓. ข้ันการนาหลักสูตรไปใช้  คณะกรรมการนเิ ทศภายใน จดั ต้งั คณะกรรมการบริหารหลกั สตู ร จัดการเรียนการสอนตามหลกั สูตรสถานศึกษา นิเทศ ติดตาม และประเมินผลการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ปรบั ปรุงพฒั นาหลกั สตู รสถานศกึ ษาแผนภาพที่ ๓ การบริหารจดั การหลกั สตู ร

๑๗ เอกสารอา้ งอิงสานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ (๒๕๕๖) คู่มือหลักสูตรการให้บริการช่วยเหลือระยะแรกเริ่ม สาหรบั เดก็ พิการศูนย์การศึกษาพเิ ศษ พุทธศักราช ๒๕๕๖ เอกสารอดั สาเนา. . (๒๕๕๖) แนวทางการให้บริการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มและการพัฒนาศักยภาพ สาหรับบุคคลออทสิ ตกิ ของศนู ย์การศกึ ษาพเิ ศษ พทุ ธศักราช ๒๕๕๖ เอกสารอัดสาเนา. . (๒๕๕๖) หลักสูตรการให้บริการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มสาหรับเด็กพิการ ศนู ย์การศกึ ษาพเิ ศษ พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๖ เอกสารอัดสาเนา

๑๘ภาคผนวก

๑๙

๒๐

๒๑

๒๒ รายชื่อคณะกรรมการผจู้ ัดทาคณะกรรมการปรับปรุงหลักสูตรการให้บริการช่วยเหลือระยะแรกเร่ิมสาหรับเด็กพิการศูนยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษ ฉบับปรับปรุง พทุ ธศักราช ๒๕๕๘๑. นางพิกลุ เลยี วสริ ิพงศ์ ขา้ ราชการบานาญ๒. นางสาวบษุ บา ตาไว ผู้อานวยการ ศูนย์การศึกษาพิเศษประจาจงั หวัดสุโขทยั๓. นายธวชั ขุรมิ นต์ ผ้อู านวยการ ศูนย์การศกึ ษาพิเศษประจาจังหวัดตราด๔. นายสมชาย ชนนั ชนะ ผู้อานวยการ ศนู ย์การศึกษาพิเศษประจาจังหวัดนา่ น๕. นางสุรญั จิต วรรณนวล ผ้อู านวยการ ศนู ย์การศกึ ษาพิเศษประจาจงั หวัดลาปาง๖. นางสายสุณยี ์ ชโลธร รองผอู้ านวยการ ศนู ย์การศกึ ษาพิเศษประจาจังหวดั ปัตตานี๗. นางชตุ ิพร เหลก็ คา ครชู านาญการพเิ ศษ ศูนยก์ ารศึกษาพิเศษประจาจงั หวดั เพชบรูณ์๘. นางสาวมะลิวัลย์ รตั นสมบรูณ์ ครูชานาญการ ศนู ย์การศึกษาพเิ ศษประจาจังหวัดกระบี่๙. นางอรทัย แสงทอง ครชู านาญการ ศนู ย์การศึกษาพเิ ศษเขตการศึกษา ๑๑๐. นางมาลยั กลิ่นจาปา ครชู านาญการ ศนู ย์การศึกษาพิเศษประจาจังหวัดปทุมธานี๑๑. นางสภุ าพร กะแกว้ ครชู านาญการ ศนู ย์การศึกษาพเิ ศษประจาจังหวดั ลาพูน๑๒. นายอดิศักด์ิ แกว้ กลาง ครู ศนู ยก์ ารศึกษาพเิ ศษประจาจังหวัดมหาสารคาม๑๓. นางวิภาวี บุญนาค ครู ศูนยก์ ารศึกษาพเิ ศษประจาจงั หวัดลาพนู๑๔. นางสชุ าดา ปาดอน ครู ศูนย์การศึกษาพิเศษประจาจงั หวัดพะเยา๑๕. นางจิราพร จรยิ ภมรกุร ครู ศูนย์การศึกษาพเิ ศษประจาจงั หวัดลาปาง๑๖. นางอังคณา ล้มิ กุล ครู ศูนย์การศึกษาพเิ ศษประจาจงั หวัดลาปาง๑๗. นางสาวเบ็ญจวรรณ แสงสง่า ครผู ู้ชว่ ย ศนู ยก์ ารศึกษาพเิ ศษส่วนกลาง๑๘. นายประนม มะธิปไิ ข ครผู ้ชู ่วย ศนู ยก์ ารศกึ ษาพิเศษเขตการศึกษา ๑๒๑๙. นางสาวรญั ชนา ยะสะโน ครูผชู้ ่วย ศนู ย์การศึกษาพิเศษประจาจงั หวดั หนองคาย๒๐. นางสาววราภรณ์ เกียรติดารงสกลุ ครูผู้ชว่ ย ศนู ย์การศึกษาพิเศษ เขตการศึกษา ๑๒๑. นางสาวกาญจนา คาทะวงค์ ครูผูช้ ว่ ย ศนู ย์การศึกษาพิเศษประจาจงั หวัดลาปาง๒๒. นายอนชุ า นอ้ ยจันทร์ ครูผูช้ ว่ ย ศูนยก์ ารศกึ ษาพิเศษประจาจังหวดั ลาปาง๒๓. นายจักรพงศ์ หมื่นสุ ครูผชู้ ว่ ย ศูนย์การศึกษาพเิ ศษประจาจงั หวดั ลาปาง๒๔. นางสาวสุธรี า กาวารี พนกั งานราชการ ศูนยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษประจาจงั หวดั แม่ฮ่องสอน๒๕. นางสาวกิง่ แกว้ บรรจง พนักงานราชการ ศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษประจาจังหวัดเชียงราย๒๖. นายเอกนรนิ ทร์ สวา่ งกาย พนกั งานราชการ ศูนยก์ ารศึกษาพิเศษประจาจังหวัดแพร่๒๗. นายวรรณธนุ วรรณกจิ พนักงานราชการ ศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษ เขตการศึกษา ๕

๒๓๒๘. นางสาวสพุ นั ณี เชดิ ฉนั พนกั งานราชการ ศูนย์การศึกษาพิเศษ เขตการศึกษา ๕๒๙. นางสาวสกุ ญั ญา พันธช์ ากรี พนักงานราชการ ศนู ย์การศึกษาพเิ ศษประจาจังหวัดปทมุ ธานี๓๐. นางน้าฝน ขยันดี พนักงานราชการ ศนู ย์การศกึ ษาพิเศษ เขตการศึกษา ๘๓๑. นางสาวพิมผกา รวมจิต พนักงานราชการ ศนู ยก์ ารศกึ ษาพิเศษประจาจงั หวัดลาปาง๓๒. นายสมพร ผดั แกว้ พนกั งานราชการ ศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษประจาจังหวดั ลาปาง๓๓. นายธวชั ชัย อตุ สาสาร พนักงานราชการ ศูนยก์ ารศึกษาพเิ ศษประจาจังหวดั ลาปาง๓๔. นายอนวุ ฒั น์ นวิ ตั เิ จรญิ กุล พนักงานราชการ ศูนยก์ ารศกึ ษาพิเศษประจาจังหวดั ลาปาง๓๕. นางสาวภทั รวดี เสารแ์ ดน พนักงานราชการ ศนู ย์การศึกษาพิเศษประจาจังหวดั ลาปาง๓๖. นางสาวไพรศรี โคตรสวุ รรณ ครูอตั ราจ้าง ศูนยก์ ารศึกษาพิเศษประจาจงั หวดั นนทบุรี