ศลิ ปะการแสดงนพิ นธ์ ภายใตแ้ นวคดิ นาฏยปญั ญา: “ปญั ญา เพอื่ ความเขม้ แขง็ ของชมุ ชน” โดย นสิ ิตสาขาวิชาศิลปะการแสดง รุ่นที่ 5 ปีการศึกษา 2563 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา วนั จนั ทรท์ ี่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ เวลา ๙๐.๐๐ น. เป็นตน้ ไป ณ อาคารปฏิบตั ิการสาขาวชิ าศลิ ปะการแสดง คณะสถาปตั ยกรรมศาสตรแ์ ละศลิ ปกรรมศาสตร์ LIVE สด เพจ สาขาวชิ าศลิ ปะการแสดง เพจ สาขาดนตรีนาฏศลิ ป์ ม.พะเยา
ศิลปะการแสดงนพิ นธ์ ภายใต้แนวคิด “นาฏยปญั ญาปญั ญาเพอ่ื ความเขม้ แขง็ ของชมุ ชน” ปรชั ญาของหลกั สตู ร ศิลปะการแสดง เป็นวฒั นธรรมแห่งการสอื่ สารของมนษุ ยชาติ ที่เกิดจากการบรู ณาการศิลปะและศาสตรส์ าขาต่าง ๆ ข้นึ เป็นวิชาการและวิชาชีพ เพือ่ สร้างสรรค์อรรถรสทีม่ ีความหมายตอ่ การดาลงชีวิต มอี ตั ลักษณ์และภมู ิปญั ญา
การสอบศลิ ปะการแสดงนพิ นธ์ มหาวิทยาลัยพะเยาเป็นสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาท่ีมีการส่งเสริมคุณค่าท้ัง ศาสตร์และศิลป์บนพ้ืนฐานวิถีชีวิตท้องถิ่น ตามปณิธานของมหาวิทยาลัย คือ ปัญญาเพ่ือ ความเขม้ แขง็ ของชมุ ชน สาขาวิชาศิลปะการแสดง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และศิลปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยพะเยา ได้ปฏิบตั หิ น้าทใ่ี นการอนรุ ักษ์ และพัฒนาศิลปวัฒนธรรมให้สอดคล้องกับ ปรัชญาของหลักสูตร ของสาขา คือ ศิลปะการแสดง เป็นวัฒนธรรมแห่งการส่ือสารของ มนษุ ยชาติ ท่เี กดิ จากการบูรณาการศิลปะและศาสตร์สาขาต่าง ๆ ข้ึน เป็นวิชาการและวิชาชีพ เพอ่ื สรา้ งสรรคอ์ รรถรสทม่ี ีความหมายตอ่ การดารงชีวิตอย่างมีอตั ลักษณ์และภูมิปัญญา การสอบศิลปะการแสดงนิพนธ์ ของนิสิตสาขาวิชาศิลปะการแสดง คือส่วนหน่ึงของ กระบวนการสร้างสรรค์ศิลปะการแสดง เพ่ือบูรณาการองค์ความรู้ เป็นปัจจัยทางข้อมูลและ แรงบันดาลใจ ในการกาหนดแนวคิด รวมถึงองค์ประกอบการแสดงและการใช้เทคโนโลยีใน การส่ือสาร ท่ีได้จากการศึกษาตลอดระยะเวลา 4 ปี เพื่อนาเสนอแนวความคิด อันพร่ังพร้อม ไปด้วยศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญารวมถึงจิตวิญญาณแห่งท้องถิ่น ผ่านปณิธานของ มหาวทิ ยาลัย ภายใตแ้ นวคดิ ปัญญาเพอ่ื ความเขม้ แข็งของชุมชน การสอบศิลปะการแสดงนิพนธ์ในครั้งน้ีเป็นการสอบในรูปแบบใหม่มีการนาเทคโนโลยี มาปรับใช้ผสมผสานกับองค์ความรู้ท่ีได้ศึกษาตลอดระยะเวลา 4 ปี เพ่ือให้สอดคล้องกับ รูปแบบวิถีการรับชมการแสดงของผู้ชมในยุคปัจจุบันรวมถึงโลกและเทคโนโลยีท่ีรวดเร็ว ก่อให้เกิดการสร้างองค์ประกอบทางด้านการแสดง ท่ีช่วยกระตุ้นความสนใจของผู้ชมจึงมี ความสาคัญกับการสรา้ งสรรคก์ ารแสดงโดยนิสิตได้นาองค์ความรู้จากกระบวนการวิจัยมาต่อ ยอดเป็นการแสดงและสามารถสง่ ต่อให้กับชมุ ชนไดอ้ ย่างภาคภูมิใจ
สารอธกิ ารบดมี หาวทิ ยาลยั พะเยา มหาวิทยาลัยพะเยา มุ่งสู่การเป็น “มหาวิทยาลัยสร้างปัญญา เพ่ือนวัตกรรมชุมชนสู่ สากล” ผลิตกาลังคนท่ีมีคุณภาพและมีมาตรฐาน วิจัยและนวัตกรรม รักษาและส่งเสริม ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น มหาวทิ ยาลยั พะเยาจึงให้ความสาคัญและสนับสนุนให้มีการส่งเสริมการ เรียนการสอนที่มีจดุ เดน่ เฉพาะศาสตร์ของสาขาวชิ า ทง้ั ยังมุ่งเน้นการทานุบารุงภูมิปัญญา ศิลปะ วัฒนธรรม และส่ิงแวดล้อมในชุมชนและท้องถิ่น เพ่ือบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธผิ ล และยึดมนั่ ในหลักธรรมาภบิ าลควบคู่กบั การพัฒนามหาวิทยาลัย การสอบศิลปะการแสดงนิพนธ์ในครั้งนี้ เป็นการสอบเพื่อประมวลองค์ความรู้ และ ประเมินความสามารถของนิสิตหลักสูตรศิลปกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาศิลปะการแสดง ก่อนสาเร็จการศึกษาของนิสิตชั้นปีท่ี ๔ โดยการแสดงความสามารถผ่านการสอบ ศิลปะการแสดงนิพนธ์สร้างสรรค์ ท่ีนิสิตได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้ตลอดการศึกษาใน หลกั สูตร ๔ ปี หวังเปน็ อย่างยิง่ ว่านสิ ติ จะนาความรู้ที่ได้รับไปใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานสู่ชุมชน สังคม ประเทศชาติ และระดบั สากลต่อไป ในนามของมหาวิทยาลัยพะเยา ดิฉันขอชื่นชมและแสดงความยินดีกับนิสิตหลักสูตร ศิลปกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาศิลปะการแสดง รุ่นท่ี ๕ ท่ีได้ทาการสอบศิลปะการแสดง นิพนธ์สร้างสรรค์ เพ่ือเป็นการวัดความรู้และประเมินความสามารถของนิสิต ซึ่งจะเป็นการ เตรียมความพร้อม พัฒนาความรู้ทักษะด้านการแสดง เพื่อสืบสานและสร้างสรรค์งาน ศิลปะการแสดงของชาติ รวมท้ัง สรา้ งสรรคง์ านศิลปะการแสดงในวิชาชีพสืบไป (รองศาสตราจารย์ ดร.สภุ กร พงศบางโพธิ์) อธิการบดีมหาวิทยาลัยพะเยา
สารรองอธกิ ารบดฝี า่ ยวชิ าการและประกนั คณุ ภาพ มหาวิทยาลัยพะเยา ได้มีการส่งเสริมกิจกรรมท้ังทางวิชาการ และศิลปวัฒนธรรมอย่าง ต่อเน่ือง ท่ีนิสิตได้มีส่วนร่วมกับชุมชนทั้งภายใน และภายนอกมหาวิทยาลัยพะเยา ท่ีเน้นการ สร้างปัญญา รวมหมู่เคียงคู่ชุมชน ทั้งน้ีสาขาวิชาศิลปะการแสดง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์ได้มีส่วนร่วม ในการส่งเสริมทานุบารุงศิลปะ ภูมิปัญญา วัฒนธรรม และ สง่ิ แวดลอ้ มของท้องถิ่นสสู่ ากลให้แกท่ าง มหาวิทยาลัยพะเยาอย่างสม่าเสมอ การสอบศิลปะการแสดงนิพนธ์ในครั้งนี้ ถือได้ว่าทางมหาวิทยาลัยพะเยาได้มุ่งให้นิสิตรุ่น ท่ี ๕ สาขาวิชา ศิลปะการแสดง นาความรู้ ความสามารถท่ีนิสิตได้ศึกษามาตลอดระยะเวลา ๔ ปี มาต่อยอด และ แสดงความสามารถผ่านการสอบศิลปะการแสดงนิพนธ์ในคร้ังน้ีเป็นกิจกรรม อย่างหน่ึงท่ีส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม และเป็นการอนุรักษ์การแสดงสร้างสรรค์สู่สังคมในปัจจุบัน โดยนิสิตสาขาวิชาศิลปะการแสดงถือไดว้ ่าเป็นกลุ่มคน ท่ีช่วยผลักดันให้นาฏศิลป์ไทยสร้างสรรค์ สสู่ ายตาประชาชน และเปน็ ทร่ี ู้จกั กนั อย่างแพร่หลาย ดิฉันมีความชืน่ ชมยินดีกับการเจริญเตบิ โต และพัฒนาการของนิสิตสาขาวิชา ศิลปะการแสดง ทม่ี ีมาอย่างตอ่ เนอ่ื ง เปน็ ผลผลิตท่มี ีคุณภาพของมหาวิทยาลยั พะเยา ซึ่งนิสิต สามารถนาความรู้ และประสบการณ์ท่ไี ด้รบั จากการศึกษาไปสวู่ ิชาชีพ เพ่อื เปน็ ประโยชนต์ อ่ สงั คม และประเทศชาติไดต้ อ่ ไป (ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชลธิดา เทพหินลัพ) รองอธกิ ารบดฝี ่ายวิชาการและประกนั คณุ ภาพ
สารรองอธกิ ารบดฝี า่ ยคณุ ภาพนสิ ติ มหาวิทยาลัยพะเยา ให้การสนับสนุน และเล็งเห็นความสาคัญทางด้านศิลปวัฒนธรรม ทั้งรูปแบบ ของท้องถิ่น และศิลปวัฒนธรรมราชสานัก ซึ่งศิลปะการแสดงเป็นหน่วยของ วัฒนธรรมท่ีสามารถถ่ายทอด ส่ือสารให้กับคนในสังคมได้เข้าใจและชื่นชมทางสุนทรียภาพได้ อย่างชัดเจน นิสิตสาขาวิชาศิลปะการแสดง ได้ศึกษา เรียนรู้ ฝึกฝนทางด้านศิลปะการแสดงมา อย่างตอ่ เนอ่ื งในระยะเวลา ๔ ปี ทาให้มีองค์ความรู้ และสามารถนามาใช้ได้จริงในการทางาน การสอบศิลปะการแสดงนิพนธ์ “ปัญญาเพื่อความเข้มแข็งของชุมชน” เป็นศิลปะการ สรา้ งสรรคผ์ ลงานทางด้าน การเรียนตลอดระยะเวลา ๔ ปี โดยการบูรณาการองค์ความรู้ที่นิสิต ได้ศึกษา ได้ปฏิบัติ ฝึกฝนตนเองจนมีความชานาญ สู่กระบวนการประเมินความรู้และ ความสามารถจากการศึกษา ของหลักสูตรสาขาวิชาศิลปะการแสดง ท้ังน้ีการสอบ ศิลปะการแสดงนิพนธ์ ถือเป็นผลงานสร้างสรรค์ อยู่ภายใต้นาฏศิลป์ไทยสร้างสรรค์ที่บ่งบอกถึง คุณภาพ และศกั ยภาพของนิสิต ท่จี ะกา้ วสู่สายงาน ในอนาคตต่อไป ผมขอแสดงความชื่นชมและยินดีกับนิสิตผู้สอบศิลปะการแสดงนิพนธ์ในครั้งน้ี ขอให้การ ดาเนิน การบรรลุตามวัตถุประสงค์ของสาขาวิชาศิลปะการแสดง และเป็นบรรทัดฐานการเรียน การสอนตอ่ ไป (ดร. วุฒิชยั ไชยรินคา) รองอธกิ ารบดฝี ่ายคณุ ภาพนิสิต
สารคณบดคี ณะสถาปตั ยกรรมศาสตร์และศลิ ปกรรมศาสตร์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และศิลปกรรมศาสตร์ มีนโยบายในการ เป็นผู้สืบสาน เสริมสร้าง ผลิตบัณฑิต และผลงานวิจัยท่ีมีคุณภาพด้านศิลปกรรม บูรณาการความรู้ร่วมกับ ชุมชน เป็นท่ียอมรับของสังคม และชุมชน โดยมีการเปิดหลักสูตรการศึกษาท้ังหมด 5 หลักสูตร สาขาวิชาศิลปะการแสดงเป็นหน่ึงในหลักสูตรท่ีก่อต้ังข้ึน ในปี 2556 และเป็นหลักสูตรท่ีมีความ ทันสมัยทางด้านศิลปะการแสดงของไทย สาขาวิชาศิลปะการแสดงเป็นสาขาวิชาที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านศิลปะการแสดง นาฏศิลป์ไทย ศิลปะการแสดงร่วมสมัย และศิลปะการแสดงพ้ืนบ้านล้านนา ท่ีปรากฏผลงานมา โดยตลอด ต้ังแต่เริ่มก่อตั้งสาขา การสอบศิลปะการแสดงนิพนธ์ จึงเป็นตัวชี้วัดความรู้ และ ความสามารถทางด้านศิลปะการแสดงทุกแขนงท่ีได้ศึกษาเล่าเรียนมา ตลอดระยะเวลา 4 ปี การศึกษา นามาสรา้ งสรรค์ และบรู ณาการให้เกิดการแสดงสรา้ งสรรคข์ ้นึ มาใหม่ ในนามคณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และศิลปกรรมศาสตร์ ดิฉันมีความยินดี มี ความชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง ท่ีนิสิตของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และศิลปกรรมศาสตร์ เป็นผู้ท่ีมี ความสามารถตรงตามหลกั สูตรของสาขาวิชาศิลปะการแสดง ที่เนน้ การสร้างบัณฑิตให้มีความรู้ ความสามารถ โดยนาความรู้เหล่าน้ีไปประกอบอาชีพ และเผยแพร่ความรู้ความสามารถได้ใน อนาคตต่อไป (รองศาสตราจารย์จันทนี เพชรานนท์) คณบดคี ณะสถาปตั ยกรรมศาสตร์และศิลปกรรมศาสตร์
สารผมู้ คี วามรคู้ วามสามารถทางดา้ นนาฏศลิ ปไ์ ทย หลักสูตรศิลปกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาศิลปะการแสดง ได้อบรมส่ังสอนให้นิสิตเป็น บัณฑิตท่ีพึงประสงค์ เปิดทาการสอนเมื่อปี 2562 โดยมีเน้ือหา 5 กลุ่มวิชา คือ วิชาประวัติ ทฤษฎี และการวิจัย กลุ่มวิชาองค์ประกอบการแสดง และการออกแบบการแสดง กลุ่มวิชา ศิลปะการแสดงนาฏศิลป์ไทย กลุ่มวิชาศิลปะการแสดงพ้ืนเมืองล้านนา และกลุ่มวิชา ศิลปะการแสดงร่วมสมัย เพื่อให้นิสิตนาผลสัมฤทธ์ิจากการศึกษาไปใช้ประโยชน์ในการอนุรักษ์ พฒั นา ตลอดจนการสร้างสรรค์ผลงานบนรากฐานของศิลปวฒั นธรรมทอ้ งถิน่ การวัดผล และการประเมินผลสัมฤทธ์ิศิลปะการแสดงนิพนธ์ เป็นการประเมินศักยภาพ และ ความสามารถของนิสิตก่อนสาเร็จการศึกษา ดังน้ันนิสิตต้องผ่านการทดสอบผลการเรียนรู้ และ มีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเป็นผู้พิจารณา ประกอบด้วย การสอบประมวลความรู้ การสอบ การสอบการสรา้ งสรรคศ์ ิลปะการแสดง อน่ึงในการนาเสนอผลงานสร้างสรรค์ศิลปะการแสดงแต่ละชุด นิสิตจะต้องผ่านขั้นตอนการ นาเสนอหัวข้อ การสร้างแนวความคิด รูปแบบการแสดง และองค์ประกอบการแสดง ตลอดจน การเรียนรู้วิธีการทางาน การแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ด้วยตนเอง โดยมีคณาจารย์เป็นท่ีปรึกษา และ ให้คาแนะนาเพ่ือส่งผลให้นิสิตมีการพัฒนาศักยภาพทางด้านทฤษฎี และการปฏิบัติ ตลอดจนมี ความรู้คคู่ ุณธรรม เหมาะสมต่อการเป็นบณั ฑิตมหาวทิ ยาลยั พะเยาอย่างสมบรู ณ์ ในนามสาขาวชิ าศิลปะการแสดง มีความยินดอี ย่างยิ่งที่นิสิตสาขาวิชาศิลปะการแสดง รุ่น 5 ได้แสดงศักยภาพจากความรู้ท่ีได้จากการศึกษาเล่าเรียนมาตลอด 4 ปีการศึกษา ในการสอบ ศิลปะการแสดงนิพนธ์ ขออานวยพรให้นิสิตผู้เข้าสอบทุกคน จงประสบความสาเร็จตาม จุดประสงค์ที่ต้ังไว้ทุกประการ (รองศาสตราจารย์ นุชนาฎ ดเี จริญ) ผู้มีความรู้ความสามารถพิเศษทางนาฏศิลปไ์ ทย
คณะกรรมการ การสอบศลิ ปะการแสดงนพิ นธ์ ประจาปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ อาจารย์สนั ติ คริ ิคชพันธ์ุ อาจารย์สาขาวชิ าดรุ ิยางคศาสตร์สากล ประธานกรรมการ คุณครกู ฤษณา กาญจนะสรุ ะกิจ คณุ ครอู ริน พลู เกษม ครูวิทยฐานะ เชี่ยวชาญ (คศ.4) ผเู้ ชี่ยวชาญดา้ นนาฏศลิ ป์พื้นบา้ น วุฒิการศกึ ษา ค.บ.
คณะกรรมการ การสอบศลิ ปะการแสดงนพิ นธ์ ประจาปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ นายคงอมร เหมรตั น์รักษ์ นางสาวณัฐญาณี ธนาฤทธิ์ อาจารยก์ ลุ่มสาระการเรียนรู้วชิ าภาษาไทย นักวชิ าการการศกึ ษาพัฒนานิสิตส่คู วามเปน็ เลิศ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลยั พะเยา และสากล นายอธิพงศ์ สัทธรรมนุวงศ์ อาจารยก์ ลุ่มสาระการเรียนรู้วชิ าศิลปะ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยพะเยา
กาหนดการการสอบสมั มนาและศิลปะการศลิ ปะการแสดงนพิ นธ์ ภายใต้หัวข้อ “นาฏยปัญญา : ปญั ญาเพ่ือความเข้มแข็งของชุมชน” วันท่ี 23 พฤศจกิ ายน 2563 ณ อาคารปฏบิ ัตกิ ารสาขาวิชาศิลปะการแสดง มหาวิทยาลัยพะเยา คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และศลิ ปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั พะเยา เวลา 08.00 – 09.00 น. ลงทะเบียน เวลา 09.00 – 09.15 น. พิธีเปิดการสอบสัมมนาและศิลปะการแสดงนพิ นธ์ เวลา 09.15 – 10.15 น. การสัมมนาในหัวขอ้ “นาฏยปัญญา : ปญั ญาเพ่อื ความเขม้ แขง็ ของชุมชน” เวลา 10.15 – 10.45 น. การสอบศิลปะการแสดงนิพนธ์ ชุด กลองชนะมาร เวลา 10.45 – 11.15 น. การสอบศิลปะการแสดงนิพนธ์ ชดุ สขู่ วญั ขา้ ว เจา้ แม่ธรณี เวลา 11.15 – 11.45 น. การสอบศิลปะการแสดงนิพนธ์ ชดุ แห่ดอกไม้อีสานลา้ นนา เวลา 11.45 – 12.15 น. พกั รับประทานอาหาร เวลา 12.15 -12.45 น. การสอบศิลปะการแสดงนิพนธ์ ชดุ เหวีย่ งผ้า เวลา 12.45 – 13.15 น. การสอบศิลปะการแสดงนิพนธ์ ชุด ลูกช่วงส่อื รกั เวลา 13.15 – 14.45 น. การสอบศิลปะการแสดงนิพนธ์ ชดุ นอ้ มไหว้สาขนั แก้วท้ังสาม เวลา 14.45 – 15.15 น. การสอบศิลปะการแสดงนิพนธ์ ชุด ถาดรกั เสนห่ ์สาวเมี่ยน เวลา 15.15 – 15.45 น. การสอบศิลปะการแสดงนิพนธ์ ชุด ซาฮะ เวลา 15.45 – 16.15 น. การสอบศิลปะการแสดงนิพนธ์ ชุด ต่าก้าว เวลา 16.15 – 16.45 น. ถ่ายรูปรว่ มกับคณะกรรมการ หมายเหตุ : อาจเปลย่ี นแปลงตามความเหมาะสม
กลองชนะมาร
ผู้สร้างสรรค์ นางสาวกัญญาณฐั วงคค์ ม อาจารยท์ ี่ปรกึ ษา อาจารย์รัตนะ ตาแปง ว่าที่รอ้ ยตรี วิรยิ ะ สวสั ดิ์จีน แรงบันดาลใจ ผู้สร้างสรรค์ผลงานได้รับแรงบันดาลใจมาจาก กลองปู่จา อาเภอเมือง จงั หวดั พะเยา ทีม่ ีความเชื่อการตีกลองปู่จาเพื่อไล่ยักษ์ของคนในลา้ นนา แนวความคิด ผู้สร้างสรรค์ผลงานต้องการสือ่ ใหเ้ ห็นถึงความเชือ่ ของชาวล้านนาในการ ตีกลองปู่จา ที่เล่าต่อ ๆ กันมาว่า จะมียักษ์ลงมากินคนในทุกวันศีล(วันพระ) จึงมเี ทวาดาลงมาบอกชาวบา้ นใหส้ ร้างกลองปู่จาขึน้ มา เพื่อตีบชู าพระรัตนตรัย พรอ้ มสวดคาถาบังตา และทาให้ยกั ษ์ไม่ลงมากนิ คนอีก ชว่ งท่ี 1 ลายกลอง เป็นชว่ งท่สี ือ่ ใหเ้ หน็ ถึงลกั ษณะของกลองปู่จาแต่ละใบ เริม่ จากกลองลูกเล็กถึงกลองแม(่ กลองใหญ่) ช่วงที่ 2 ยักษ์ลงหา เป็นช่วงที่สื่อให้เห็นถึงยักษ์ที่กาลังลงมาจับคนไปกิน และชาวบา้ นที่หวาดกลัว และหนียกั ษ์ ช่วงที่ 3 ตีกลองปัดเป่า เป็นช่วงที่สื่อให้เห็นการตีกลองปู่จาเพื่อไล่ยักษ์ ไมใ่ ห้กลับมาอีก
สู่ขวัญขา้ ว เจา้ แม่ธรณี
ผูส้ รา้ งสรรค์ นายธนัชพร ไทโท อาจารยท์ ีป่ รกึ ษา อาจารย์รัตนะ ตาแปง ว่าทีร่ อ้ ยตรี วิรยิ ะ สวสั ดจ์ิ ีน แรงบนั ดาลใจ ผู้สร้างสรรค์ผลงานได้แรงบันดาลใจมาจากความเชื่อของชาวนาบ้านจุน หลวง อาเภอจนุ ตาบลจนุ จงั หวดั พะเยา ที่เชือ่ กนั ว่าพธิ ีสู่ขวญั ข้าวที่ทาขึ้นนี้ เป็นการขอบคุณเจ้าแม่ธรณีและเชื่อว่าจะทาให้ชาวนาได้ผลผลิตข้าวอุดม สมบูรณ์ในปีต่อไป แนวความคิด ผู้สร้างสรรค์ผลงานต้องการสื่อให้เห็นถึงความเชื่อของชาวนาที่มีต่อเจ้า แม่ธรณีกับพิธีสู่ขวัญข้าว และต้องการให้เห็นถึงวิถีการทานาและความมี น้าใจ ความสามัคคีการช่วยเหลือกันในสังคมของชาวนาที่ช่วยกันเก็บเกี่ยว ข้าวใส่ในยุ้งฉางเพื่อจะใชใ้ นการทาพิธสี ขู่ วญั ข้าว รูปแบบการแสดง นาเสนอออกมาในรูปแบบศิลปะการแสดงล้านนาสร้างสรรค์ โดยแบ่ง ชว่ งการแสดงออกเปน็ 2 ชว่ ง ได้แก่ ช่วงที่ 1 ธรณีกับวิถีชาวนา การแสดงช่วงนี้สื่อถึงความเชื่อระหว่างวิถี ชวี ิตชาวนากับดนิ ช่วงที่ 2 ไหว้สาเจ้าแม่ธรณี การแสดงช่วงนี้สื่อถึงการบูชาเจ้าแม่ธรณี และการทาพธิ ีสู่ขวัญข้าวของชาวนาบา้ นจุนหลวง
แหด่ อกไมอ้ ีสานลา้ นนา
ผ้สู ร้างสรรค์ นายกรภัทร์ กันวันนะ อาจารย์ที่ปรกึ ษา ว่าที่รอ้ ยตรีวริ ิยะ สวัสดิ์จีน อาจารย์ลิขิต ใจดี แรงบันดาลใจ ผู้สร้างสรรค์ผลงานได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ประเพณีแห่ ดอกไม้ ของชุมชนบ้านใหม่ราษฎร์บารุง ตาบลสันโค้ง อาเภอดอกคาใต้ จงั หวัดพะเยา แนวความคิด ผู้สร้างสรรค์ผลงานได้นาประเพณีแห่ดอกไม้ของชุมชนหมู่บ้าน ใหม่ราษฎร์บารุง ตาบลสันโค้ง อาเภอดอกคาใต้ จังหวัดพะเยา ซึ่งถือ ว่าเป็นประเพณีที่ชาวอีสานและชาวล้านนาได้จัดขึ้นมาร่วมกัน เพื่อ นาไปถวายเป็นเครื่องสักการบูชาพระและขอขมาในการล่วงเกินทั้งกาย วาจา ใจ ซึง่ ถือว่าเปน็ ส่งิ สาคัญของชาวพุทธ
รปู แบบการแสดง นาเสนอผลงานรูปแบบของการแสดงชาติพันธุ์สร้างสรรค์ โดยแบ่ง ออกเปน็ 3 ชว่ ง ดังนี้ ชว่ งท่ี 1 สองชาติพนั ธ์ุ เป็นชว่ งท่สี ื่อใหเ้ ห็นถึงกลุ่มชาติพนั ธ์ุไทยอีสานและ ล้านนาที่อาศัยอยู่ร่วมกันในชุมชนหมู่บ้านใหม่ราษฎร์บารุง ตาบลสันโค้ง อาเภอดอกคาใต้ จงั หวดั พะเยา ช่วงที่ 2 ต้นดอก เป็นช่วงที่สื่อให้เห็นถึงความสามัคคีของกลุ่มชาติพันธ์ุ ไทยอสี านและลา้ นนาในการมารวมตวั กนั เพือ่ จัดเตรียมต้นดอกไม้ ช่วงที่ 3 แห่ดอกไม้ เป็นช่วงที่สื่อให้เห็นถึงความเลื่อมใสศรัทธาต่อ พระพุทธศาสนาของกลุ่มชาติพันธุ์ไทยอีสานและล้านนาผ่านการรวมตัวกัน ฟ้อนราแห่ดอกไม้ไปวัด เพื่อเป็นเครื่องพุทธบูชาแด่พระรัตนตรัยในวัน สงกรานต์
เหวี่ยงผา้
ผสู้ ร้างสรรค์ นางสาวณัฐพร รุ่งเรอื ง อาจารยท์ ีป่ รกึ ษา รองศาสตราจารย์นุชนาฏ ดเี จริญ ว่าทีร่ อ้ ยตรีวริ ิยะ สวสั ดิจ์ ีน แรงบนั ดาลใจ ผู้สร้างสรรค์ผลงานได้รับแรงบันดาลใจมาจากประเพณีฟ้อนผีมด ผีเม็ง ของ อาเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา เป็นการฟ้อนเพื่อบูชา บรรพบุรุษ โดยเชื่อว่าบรรพบุรุษตายไปจะคอยดูแลรักษาลูกหลานใน ตระกูล แนวความคิด จากความเชื่อของคนในหมู่บ้าน เก่ียวกับเรื่องผีมดผีเม็ง ทาให้ ผู้สร้างสรรค์ผลงานเห็นเทคนิคที่สาคัญในการเคลื่อนไหว จากการใช้ แรงเหวี่ยงของการทรงตัว ทาให้เกิดแนวคิดของการนาพลังของการ เหวย่ี งผ้า มาสร้างสรรค์เป็นการแสดง รปู แบบการแสดง นาเสนอออกมาในรูปแบบ ศิลปะการแสดงล้านนาร่วมสมัย การแสดงแบ่งออกเปน็ 2 ชว่ ง ได้แก่ ชว่ งท่ี 1 ความเชื่อ สื่อใหเ้ ห็นถึงความเชื่อของคนที่มีต่อการหอ้ ยผ้า ชว่ งท่ี 2 เหวย่ี งผ้า นาเสนอการใชผ้ ้าในรปู แบบต่าง ๆ ในการเหวี่ยง
ลกู ชว่ งส่อื รกั
ผสู้ ร้างสรรค์ นางสาวอปั สร ชานาญ อาจารย์ทีป่ รกึ ษา ว่าที่รอ้ ยตรีวริ ิยะ สวัสดิจ์ ีน อาจารย์ธนนั ยวรรณ ศรีทรัพโยทยั แรงบนั ดาลใจ ผู้สร้างสรรค์ผลงานได้รับแรงบันดาลใจมาจากการละเล่นลูกช่วง หรือที่ เรียกกนั วา่ “จุเป๊าะ” ของกลุ่มชาติพันธ์ุม้ง ตาบลขุนควร อาเภอปง จังหวัดพะเยา การละเลน่ ลูกช่วงมกั จะนิยมใช้เล่นกันในโอกาสวันขึน้ ปีใหม่มง้ โดยหนุ่มสาว จะชวนกันมาเล่นโยนลูกช่วง การเล่นจะแบ่งฝ่ายออกเป็น 2 ฝ่าย คือฝ่าย หญิงและฝ่ายชาย การละเล่นลูกช่วงมีจุดประสงค์ในการเล่นเพื่อหาคู่ให้กับ หนุ่มสาวชาวม้ง ในช่วงระหว่างการเล่นลูกช่วงหนุ่มสาวที่เล่นลูกช่วงจะร้อง เพลงโต้ตอบกัน เพื่อเพิ่มความสนุกสนานในการเล่น และเป็นการสร้าง มิตรภาพที่ดีต่อกัน ในการเล่นจะใช้ลูกช่วงที่มีลักษณะเป็นลูกวงกลม ห่อ ดว้ ยผ้าสีดาขนาดเลก็ เป็นอปุ กรณ์ในการเล่น การละเล่นลูกช่วงนับได้ว่าเป็น การละเลน่ ที่มเี อกลกั ษณ์ทโ่ี ดดเด่ดประจาชาติพันธ์ุมง้
แนวความคิด ผู้สร้างสรรค์ผลงานต้องการนาเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับการละเล่นลูกช่วง ของกลุ่มชาติพันธุ์ม้ง โดยสื่อให้เห็นถึงขั้นตอนและวิธีการประดิษฐ์ลูกช่วง ของกลุ่มชาติพันธ์ุม้ง รวมถึงวัฒนธรรมการเล่นและความสนุกสนานใน การละเล่นลูกช่วง ผ่านหนุ่มสาวชาวม้งที่เกี้ยวพาราสีกันในระหว่าง การละเลน่ โยนลกู ชว่ ง เพื่อหาคู่ครอง โดยนาขั้นตอนและวิธีการประดิษฐ์ลูก ช่วงและวัฒนธรรมในการละเล่นลูกช่วงของกลุ่มชาติพันธ์ุม้งมาสร้างสรรค์ เป็นกระบวนท่ารา และนาเสนอในรูปแบบของศิลปะการแสดงชาติพันธุ์ สร้างสรรค์ รูปแบบการแสดง นาเสนอออกมาในรูปแบบ ศิลปะการแสดงชาติพันธุ์สร้างสรรค์ การแสดงแบ่งออกเปน็ 2 ชว่ ง ได้แก่ ชว่ งท่ี 1 ลูกชว่ ง เป็นชว่ งทส่ี ือ่ ใหเ้ หน็ ถึงวิธกี ารประดิษฐ์ลกู ชว่ ง ชว่ งท่ี 2 สือ่ รัก ช่วงที่ 2 สื่อรกั สื่อใหเ้ หน็ ถึงการละเลน่ ลูกช่วงของหนุ่มสาว เพือ่ ใชเ้ กีย้ วพาราสีและความสนกุ สนานในเทศกาลปีใหม่มง้
นอ้ มไหวส้ าขันแกว้ ทั้งสาม
ผสู้ ร้างสรรค์ นายพฒั นพงษ์ อักษร อาจารยท์ ีป่ รกึ ษา อาจารย์รตั นะ ตาแปง ว่าทีร่ อ้ ยตรี วิรยิ ะ สวสั ด์จิ ีน แรงบนั ดาลใจ ผู้สร้างสรรค์ผลงานได้รับแรงบันดาลใจมาจาก “ความเลื่อมใสศรัทธาใน พระพุทธศาสนาของชาวล้านนา บ้านใหม่ท่ากลอง ตาบลบ้านใหม่ อาเภอเมือง จังหวัดพะเยา ผ่านการสักการะบูชาโดยการใส่ดอกไม้ใน ภาชนะทีเ่ รียกว่า ขันแก้วท้ังสาม เพื่อบชู าพระรตั นตรัย” แนวความคิด ผู้สร้างสรรค์ผลงานต้องการนาเสนอเรื่องราวความเลื่อมใสศรัทธาใน พระพุทธศาสนาของชาวล้านนาผ่านการสักการะบูชาโดยการใส่ดอกไม้ใน ภาชนะที่เรียกว่า ขันแก้วทั้งสาม เพื่อบชู าพระรตั นตรยั รูปแบบการแสดง นาเสนอออกมาในรูปแบบศิลปะการแสดงล้านนาสร้างสรรค์ แบ่งการ แสดงออกเปน็ 2 ชว่ งได้แก่ ชว่ งท่ี 1 ขนั แก้ว สื่อถึง ความหมายของมุมสามเหล่ียมในแต่ละมุม ของขันแก้วทั้งสามอันหมายถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และลักษณะ รปู ทรงของขนั แก้วท้ังสาม ช่วงที่ 2 น้อมไหว้สา สื่อถึง การเก็บดอกไม้ของชาวล้านนาเพื่อ น้อมนามาสักการะบชู า โดยการใส่ดอกไม้ในขันแก้วท้ังสามเพือ่ เป็นการบูชา พระรตั นตรยั
ถาดรักเสน่หส์ าวเม่ียน
ผู้สร้างสรรค์ นางสาวนสุ รา ธนานุศกั ดิ์ อาจารย์ทีป่ รึกษา วา่ ทร่ี อ้ ยตรีวริ ยิ ะ สวัสดิจ์ นี อาจารย์ธนนั ยวรรณ ศรีทรัพโยทัย แรงบนั ดาลใจ ผู้สร้างสรรค์ผลงานได้รับแรงบันดาลใจมาจาก การราถาดในพิธี ต่ม ช่ิง จา หรือประเพณีงานแต่งงานของชนเผ่าเมี่ยน บ้านแม่ตาน้อย ตาบลแม่กา อาเภอเมือง จงั หวัดพะเยา การแต่งงานเปน็ อีกหนึ่งประเพณีอนั งดงามทีช่ าว ไทยเผ่าเมี่ยน ถือปฏิบัติสืบทอดต่อกันมา เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่มีใครเหมือน และเป็นไปในลักษณะที่ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ทั้งสองฝ่าย ทุกขั้นตอนของ พิธี ก ร ร ม จ ะท า อย่า งพิถี พิถั น บ่ ง บ อ ก ถึงอั ต ลัก ษ ณ์ข องต น เ อ ง ในพิธีแต่งงานเจ้าบ่าว และเจ้าสาวจะนาน้าชา และเครื่องดื่มต่าง ๆ ใส่ใน ถาดเพื่อนาไปมอบให้กับแขกที่มาร่วมงานเพื่อเป็นการแสดงความต้อนรับ หลังจากเสร็จส้ินพิธีแต่งงาน เพื่อนเจ้าบ่าว และเพื่อนเจ้าสาว จะนาถาดมา เป็นอุปกรณ์ในการแสดงเพื่อแสดงความยินดีและเป็นการอวยพรให้แก่ เจ้าบ่าว และเจ้าสาว
แนวความคิด ผู้สร้างสรรค์ผลงานต้องการนาเสนอเรื่องราวความรักของชายและหญิงใน ชนเผ่าเมี่ยน ต้องการสื่อให้เห็นถึงวัฒนธรรมการใช้ถาด และความสาคัญของ ศิลปะการแสดงที่มีลีลาการเล่นถาดอย่างมีเอกลักษณ์ในประเพณี ต่ม ช่ิง จา ซึ่งเป็นการแสดงที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะของชนเผ่าเมี่ยน โดยนาขั้นตอน การแจกน้าชาที่เป็นส่วนหนึ่งของประเพณีงานแต่งงานมาสร้างสรรค์เป็น กระบวนท่ารา และนาลีลาการเล่นถาดของชนเผ่าเมี่ยนมาประยุกต์เป็นการ แสดงสร้างสรรค์ทีย่ ังคงความเปน็ เอกลักษณ์ทางด้านวัฒนธรรม รูปแบบการแสดง นาเสนอออกมาในรูปแบบศิลปะการแสดงชาติพันธุ์สร้างสรรค์การแสดง แบ่งออกเปน็ 2 ชว่ ง ดงั นี้ ชว่ งท่ี 1 ถาดสื่อรัก สื่อใหเ้ หน็ ถึงวฒั นธรรมการใชถ้ าด และการพบรัก ของชายและหญิงในชนเผ่าเมีย่ น ชว่ งท่ี 2 ต่ม ช่งิ จา สือ่ ใหเ้ ห็นถึงประเพณีงานแต่งงาน และศิลปะการ ราถาดที่เป็นการแสดงเพื่อแสดงความยินดีให้กับเจ้าบ่าว และเจ้าสาวในงาน แต่งงาน
บญุ ซาฮะ
ผสู้ ร้างสรรค์ นายวสพุ ล รักษช์ น อาจารย์ที่ปรกึ ษา รองศาสตราจารย์นชุ นาฏ ดเี จริญ ว่าที่รอ้ ยตรีวริ ิยะ สวัสดิ์จีน แรงบนั ดาลใจ สร้างสรรค์ได้รับแรงบันดาลใจมาจากประเพณีบุญซาฮะของหมู่บ้าน ปางมดแดง ต.อ่างทอง อ.เชียงคา จ.พะเยา ซึ่งเป็นประเพณีของกลุ่มชาติ พนั ธ์ุไทยอสี านทีอ่ ยู่อาศัยในเขตล้านนา แนวความคิด ผู้สร้างสรรค์ผลงานต้องการนาเสนอประเพณบี ุญซาฮะของชาวอีสานที่ มีความเชื่อในด้านของการปัดรังควานส่ิงอัปมงคล ความทุกข์ต่าง ๆ หรือ ส่งิ ช่ัวรา้ ยให้ออกไปจากหมู่บ้านเพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลและความสุข แก่คนในหมบู่ ้าน รูปแบบการแสดง นาเสนอออกมาในรูบแบบศิลปะการแสดงอีสานร่วมสมัย การแสดง แบ่งออกเป็น 3 ชว่ ง ได้แก่ ช่วงที่ 1 เสื่อม เป็นช่วงที่สื่อถึงส่ิงไม่ดีที่เกิดจากการกระทาของมนุษย์ เป็นการตีความความหมายสิ่งอัปมงคลจากการละเมิดศีลหา้ ชว่ งที่ 2 ผลของการไมร่ ักษาศีล เปน็ ชว่ งทีส่ ื่อถึงความวุ่นวายของผู้คนที่ ขาดสติ หวาดกลัว เป็นทุกข์ซึง่ เป็นผลทีไ่ ดร้ ับจากการละเมิดศีล ชว่ งท่ี 3 ซาฮะ เป็นชว่ งทส่ี ือ่ ถึงวิธกี ารดับทกุ ข์ ชาระล้างสิง่ ไม่ดี โดยการ ทาพิธีซาฮะเพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลโดนพิธีกรรมนี้แฝงไว้ด้วยการ รกั ษาศลี ธรรม
ตำ่ กำ้ ว
ผ้สู รา้ งสรรค์ นายอษั ฎาวุธ สิงหท์ อง อาจารยท์ ี่ปรกึ ษา ว่าทีร่ อ้ ยตรีวริ ิยะ สวสั ดิจ์ ีน อาจารย์ลิขิต ใจดี แรงบนั ดาลใจ ผู้สร้างสรรค์ผลงานได้รับแรงบันดาลใจมาจากลายต่าก้าวบนแถบชุด ครุยวิทยฐานะของมหาวิทยาลัยพะเยาที่ได้รับการถักทอจากกลุ่มชาติพันธ์ุไท ลื้อ อาเภอเชียงคา จังหวัดพะเยา ซึ่งถือว่าเป็นลายพื้นเมืองที่มีเอกลักษณ์ของ กลุ่มชาติพันธ์ุ แนวความคิด ผู้สร้างสรรค์ผลงานจึงมีแนวความคิดที่จะนาเสนอให้เห็นความ ภาคภมู ิใจของนสิ ิตมหาวิทยาลัยพะเยาทีส่ าเร็จการศึกษาโดยนาการถักทอผ้าที่ ต้องใช้ความอดทน ความเพียรพยายามของการถักทอผ้าในแต่ละผืนบนแถบ ชดุ ครยุ ซึง่ เปรียบเสมือนกับการเข้ามาศึกษาของนิสติ มหาวทิ ยาลัยพะเยาที่กว่า จะสาเร็จการศึกษาได้น้ันต้องใช้ความอดทนและความเพียรพยายามเป็นอย่าง มากตามหลักอิทธิบาท 4 คือ ฉันทะ การมีใจรัก ศรัทธาและเชื่อมั่นต่อส่ิงที่ทา วิริยะ ความเพียร ความมุ่งมั่นทุ่มเท จิตตะ ใจที่จดจ่อและรับผิดชอบ วิมังสา การทบทวนในสิ่งที่ได้คิดได้ทามา เพื่อเป็นแนวทางการใช้ชีวิตให้ประสบ ความสาเร็จ นาเสนอออกมาในรูปแบบศิลปะการแสดงล้านนาร่วมสมัย โดย แบ่งการแสดงออกเป็น 2 ชว่ งคือ ช่วงที่ 1 เสน้ ยืน ช่วงที่ 2 เสน้ นอน
รูปแบบการแสดง นาเสนอออกมาในรูปแบบ ศิลปะการแสดงล้านนาร่วมสมัย การแสดงแบ่งออกเป็น 2 ชว่ ง ได้แก่ ช่วงที่ 1 เส้นยืน เป็นช่วงที่สื่อให้เห็นถึง ตัวตน ครอบครัว สังคม การเรียนของนิสติ ช่วงที่ 2 เส้นนอน เป็นช่วงที่สื่อให้เห็นถึงการถักทอผ้าที่ต้องใช้ความ อดทน ความเพียรพยายามของการถักทอผ้าในแต่ละผืนบนแถบชุดครุย ซึ่งเปรียบเสมือนกับการเข้ามาศึกษาของนิสิตมหาวิทยาลัยพะเยาที่กว่าจะ สาเร็จการศกึ ษาได้นั้นต้องใช้ความอดทนและความเพยี รพยายามเป็นอยา่ ง
ขอขอบคณุ สาร ๑. รองศาสตราจารย์ ดร.สภุ กร พงศบางโพธิ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยพะเยา ๒. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชลธิดา เทพหินลัพ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการและประกันคุณภาพ ๓. ดร.วุฒิชัย ไชยรินคา รองอธิการบดีฝ่ายคณุ ภาพนิสติ ๔. รองศาสตราจารย์ ดร.จันทนี เพชรานนท์ คณบดีคณะสถาปตั ยกรรมศาสตร์และศิลปกรรมศาสตร์ ๕. รองศาสตราจารย์ นชุ นาฏ ดีเจริญ ผู้มีความรู้ความสามารถทางด้านนาฏศลิ ปไ์ ทย ขอขอบคุณคณะกรรมการ การสอบศิลปะการแสดงนิพนธ์ ประจาปีการศึกษา ๒๕๖๓ ๑. คุณครกู ฤษณา กาญจนะสุระกิจ ครวู ทิ ยฐานะ เช่ยี วชาญ (คศ.4) วุฒิการศึกษา ค.บ. ๒. คุณครอู ริน พลู เกษม ผู้เชีย่ วชาญดา้ นนาฏศิลปพ์ ้ืนบ้าน ๓. อาจารย์สันติ คริ คิ ชพนั ธุ์ อาจารย์สาขาวชิ าดุริยางคศาสตร์สากล ๔. นางสาวณฐั ญาณี ธนาฤทธ์ิ นักวชิ าการการศึกษาพัฒนานสิ ติ สู่ความเป็นเลิศและสากล ๕. นายคงอมร เหมรตั น์รักษ์ อาจารย์กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิชาภาษาไทย โรงเรยี นสาธติ มหาวิทยาลัยพะเยา ๖. นายอธิพงศ์ สัทธรรมนุวงศ์ อาจารย์กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิชาศิลปะ โรงเรยี นสาธติ มหาวิทยาลัยพะเยา
ขอขอบคุณอาจารย์สาขาวิชาศิลปะการแสดงคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และ ศลิ ปกรรมศาสตร์ ๑. รองศาสตราจารย์ นุชนาฏ ดเี จริญ ๒. อาจารย์รัตนะ ตาแปง ๓. ว่าทร่ี ้อยตรีวริ ิยะ สวสั ดิจ์ นี ๔. อาจารย์ธนนั ยวรรณ ศรที รพั โยทยั ๕. อาจารย์ลิขิต ใจดี ขอขอบคณุ ฝา่ ยออกแบบโปสเตอร์และภาพนิง่ นายวสุพล รักษช์ น ขอขอบคณุ ฝา่ ยจดั ทาวดิ ีทศั น์ ทมี งานเอกภาพ ๑.นาย เอกภาพ ออ่ นละมลู ๒. นาย ศรัณย์ ไชยสถาน ๓. ณัฏฐชัย พันธ์เลศิ ขอขอบคณุ ฝ่ายออกแบบสจู ิบตั ร นายวสพุ ล รักษช์ น นายอัษฎาวุฒิ สงิ ห์ทอง ขอขอบคุณสถานที่ถ่ายสูจบิ ัตรและสถานที่สอบ ณ อาคารปฏิบัติการสาขาวิชาศิลปะการแสดง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และศิลปกรรม ศาสตร์
ขอขอบคุณนกั แสดงในการแสดงศลิ ปะการแสดงนิพนธ์ นายกรภทั ร์ กนั วนั นะ นิสติ สาขาวิชาศลิ ปะการแสดง ชั้นปีท่ี 4 ชั้นปีท่ี 4 นายวสพุ ล รกั ษช์ น นิสติ สาขาวิชาศลิ ปะการแสดง ช้ันปีท่ี 4 ชั้นปที ี่ 4 นายอัษฎาวฒุ ิ สงิ ห์ทอง นิสติ สาขาวิชาศลิ ปะการแสดง ชั้นปที ี่ 4 ช้ันปีท่ี 4 นายธนัชพร ไทโท นิสติ สาขาวิชาศลิ ปะการแสดง ชั้นปีท่ี 4 ชั้นปีท่ี 4 นายพัฒนพงษ์ อักษร นสิ ิตสาขาวิชาศิลปะการแสดง ช้ันปีท่ี 4 ช้ันปีที่ 3 นางสาวนุสรา ธนานศักดิ์ นิสติ สาขาวิชาศลิ ปะการแสดง ชั้นปีท่ี 3 ชั้นปีท่ี 3 นางสาวณฐั พร รุ่งเรอื ง นิสติ สาขาวิชาศลิ ปะการแสดง ช้ันปีท่ี 3 ชั้นปีท่ี 2 นางสาวอปั สร ชานาญ นิสติ สาขาวิชาศลิ ปะการแสดง นางสาวกัญญาณัฐ วงคค์ ม นิสติ สาขาวิชาศลิ ปะการแสดง นางสาวจารุวรรณ แสนยาวชิ ยั นสิ ติ สาขาวชิ าศิลปะการแสดง นางสาวปทติ ตา ไชยปรงุ นิสติ สาขาวิชาศลิ ปะการแสดง นายอภิศกั ดิ์ ขุนประเสริฐ นิสติ สาขาวิชาศลิ ปะการแสดง นางสาวชญาณี ลขิ ติ านสุ ทิ ธ์ นิสติ สาขาวิชาศลิ ปะการแสดง นางสาวณฐั รกิ า มานะ นิสติ สาขาวิชาศลิ ปะการแสดง
รายชือ่ ผ้เู ข้าสอบศลิ ปะการแสดงนิพนธ์ ประจาปี ๒๕๖๓ ๑. นายธนชั พร ไทโท (ประธาน) ๒. นางสาวกณั ญาณฐั วงคค์ ม (รองประธานโครงการ) ๓. ฝ่ายสจู ิบัตร ๑.นายวสุพล รักษช์ น ๒.นายอัษฎาวฒุ ิ สงิ ห์ทอง ๔. ฝ่ายเอกสาร ๑.นางสาวณฐั พร รงุ่ เรอื ง ๒. นางสาวกณั ญาณัฐ วงคค์ ม ๕. ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ๑.นายวสุพล รักษช์ น ๒.นายอัษฎาวุฒิ สงิ ห์ทอง ๖. ฝ่ายสถานที่ ๑. นายอัษฎาวุฒิ สงิ ห์ทอง ๗. ฝ่ายแสง สี เสียง และกากบั เวที ๑. นายอัษฎาวุฒิ สงิ ห์ทอง ๘. ฝ่ายพิธีการ ๑. นางสาวนสุ รา ธนานุศักดิ์ ๙. ฝ่ายสวสั ดิการ ๑.นางสาวอัปสร ชานาญ ๒. นายพฒั นพงษ์ อกั ษร ๑๐. ฝ่ายการเงิน ๑.นายกรภัทร์ กนั วนั นะ
ขอขอบคุณ ผสู้ นันสนุน นายรตั นะตาแปง ประธานหลักสูตรสาขาดนตรนี าฏศลิ ป์
ขอขอบคุณ ผู้สนันสนุน รองศาสตราจารย์ นุชนาฏ ดีเจรญิ
ขอขอบคุณ ผู้สนันสนุน อาจารยธ์ นนั ยวรรณ ศรีทรพั โยทัย อาจารยล์ ขิ ิต ใจดี นายโอภาส รตั นชมภู
นำฏยปัญญำ: “ปัญญำ เพือ่ ควำมเข้มแข็งของชุมชน” ศลิ ปะการแสดงนิพนธ์ โดย นิสติ สาขาวชิ าศลิ ปะการแสดง รนุ่ ที่ 5 ปีการศกึ ษา 2563 คณะสถาปตั ยกรรมศาสตรแ์ ละศลิ ปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา
Search
Read the Text Version
- 1 - 44
Pages: