Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore กลยุทธ์การบริหารกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตและอาชีพ

กลยุทธ์การบริหารกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตและอาชีพ

Published by yaowaluck590, 2022-05-26 01:53:34

Description: กลยุทธ์การบริหารกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตและอาชีพ

Search

Read the Text Version

ปี ท่ี 14 ฉบบั ท่ี 4 เดอื นเมษายน – มถิ นุ ายน 2561 ปี ที่ กลยทุ ธก์ ารบริหารกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียนเพอ่ื เสริมสรา้ งทกั ษะชวี ิต และทกั ษะอาชพี ของนกั เรียนมธั ยมศึกษา STRATEGIES FOR LEARNER DEVELOPMENT ACTIVITIES MANAGEMENT TO ENHANCE LIFE AND CAREER SKILLS OF SECONDARY SCHOOL STUDENTS ยุพยง วุ้นวงษ์* Yuppayong Woonwong ดร.ธีระภาพ เพชรมาลยั กลุ ** Dr. Theeraphab Phetmalaikul ดร.จารวุ รรณ พลอยดวงรัตน์** Dr. Jaruwan Ployduangrat ดร.ราชนั ย์ บญุ ธมิ า** Dr.Rachan Boontima บทคัดย่อ การวิจัยนี้มีความมุ่งหมายเพ่ือ 1) ศึกษาทักษะชีวิตและทักษะอาชีพของนักเรียนมัธยมศึกษา 2) สร้างกล ยุทธ์การบริหารกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเพ่ือเสริมสร้างทักษะชีวิตและทักษะอาชีพของนักเรียนมัธยมศึกษา และ 3) ประเมินกลยุทธ์การบริหารกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตและทักษะอาชีพของนักเรียน มธั ยมศึกษา วธิ ีดาเนินการวิจัยแบง่ เปน็ 3 ตอน ไดแ้ ก่ ตอนท่ี 1 ศึกษาทักษะชีวิตและทักษะอาชีพของนักเรียน โดย ศึกษาเอกสาร สัมภาษณ์เชิงลกึ ผู้ทรงคุณวุฒิ 5 คน สอบถามนักเรียน 75 คน ครู 14 คน และผูป้ กครอง 71 คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เน้ือหา ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าสหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน ตอนท่ี 2 สรา้ งกลยุทธ์ โดยจดั สนทนากลมุ่ ผู้เช่ียวชาญด้านกลยทุ ธ์ 9 คน และวเิ คราะห์ขอ้ มูลด้วยการวิเคราะห์เน้ือหา ตอนท่ี 3 ประเมินกลยุทธ์ โดยผทู้ รงคุณวุฒิ 17 คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าเฉลี่ย การทดสอบทีแบบกลมุ่ ตัวอย่าง เดียว และวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดยี ว พบวา่ 1. ทักษะชีวิตและทักษะอาชีพของนักเรียนมัธยมศึกษา มี 10 ทักษะ ได้แก่ การตัดสินใจและแก้ปัญหา การคดิ สรา้ งสรรค์และการคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ การส่ือสารและมนุษยสมั พันธ์ การรู้จักตนเองและการเข้าใจผูอ้ ่ืน การควบคุมอารมณ์และการเอาชนะความกดดัน ความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับตัว การริเริ่มและการ ช้ีนาตนเอง ทักษะด้านสังคมและทักษะข้ามวัฒนธรรม การมีผลงานและความรับผิดชอบ ภาวะผู้นาและหน้าที่ รบั ผดิ ชอบ โดยทักษะการตัดสินใจและการแกป้ ญั หา กับการริเร่ิมและการชนี้ าตนเอง มคี วามสัมพันธก์ ันมากท่สี ดุ * การศึกษาดษุ ฎีบัณฑติ สาขาวชิ าการบริหารและการจัดการการศกึ ษา มหาวทิ ยาลัยศรีนครินทรวโิ รฒ ปีการศึกษา 2560 **อาจารย์ประจาภาควชิ าบริหารการศึกษา สาขาวิชาการบรหิ ารและการจัดการการศึกษา คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครินทรวิโรฒ ***อาจารยป์ ระจาภาควิชาการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน วทิ ยาลัยวจิ ัยนวตั กรรมทางการศึกษา สถาบนั เทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ เจา้ คณุ ทหาร ลาดกระบัง ****อาจารย์ประจาภาควชิ าบริหารการศกึ ษา สาขาวชิ าการบริหารและการจัดการการศึกษา คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยศรีนครนิ ทรวิโรฒ วารสารวิชาการศรปี ทมุ ชลบรุ ี 159

ปท ่ี 14 ฉบับท่ี 4 เดือนเมษายน - มิถุนายน 2561 2. กลยุทธ มี 3 กลยุทธหลักคือ 1) การเสริมสรางความตระหนัก การพัฒนาทักษะการ ตดั สนิ ใจและแกป ญ หา ทกั ษะการรเิ รมิ่ และการชน้ี าํ ตนเองของนกั เรยี น 2) การเสรมิ สรา งและพฒั นาการ ยอมรบั ความเขา ใจในการพฒั นาทกั ษะชวี ติ และทกั ษะอาชพี ของนกั เรยี น และ 3) การพฒั นาพฤตกิ รรม การพฒั นาการตัดสินใจและแกปญหา การริเรมิ่ และการช้นี ําตนเองของนักเรียน 3. กลยุทธมีความถูกตอ ง มีความเหมาะสม มีความเปน ไปได และมีประโยชนอ ยใู นระดับมาก และสูงกวาเกณฑอ ยางมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .01 คําสําคัญ: กิจกรรมพฒั นาผเู รียน, ทกั ษะชีวติ , ทักษะอาชพี , นกั เรียนมัธยมศกึ ษา ABSTRACT The purposes of the research were to study the life and career skills of secondary students, to create and evaluate the strategies for learner development activities management to enhance the lives and career skills of secondary students. The research was divided into three steps, which were: studying the life and career skills of secondary students by in-depth interview 5 experts, questionnaire 75 secondary students, 71 parents and 14 teachers. The data was analyzed by content analysis, mean, standard deviation and the Pearson product-moment correlation coefficient, to create strategies for learner development activities management to enhance the life and the career skills of secondary students, a focus group of 9 experts and on analysis of the data by content analysis and to evaluate the strategies for the development of activities management to enhance the life and the career skills of secondary students by 17 experts and analyzing the data by mean, a t-test for one sample and one-way analysis of variance . The results were: 1. The life and career skills of secondary students were comprised of ten factors which were based on decisions and problem-solving, creative thinking and critical thinking, communication and human relations, self-awareness and understanding others, emotional and pressure control, flexibility and adaptability, initiative and self-direction, social and cross-cultural skills, productivity and accountability, leadership and responsibility, decision and problem-solving skills and the factors of initiative and self-direction were the most related. 2. The strategies which included: 1) developing awareness, 2) development of the acceptance to understand, and 3) developing behavior. 160 วารสารวช� าการศร�ปทมุ ชลบุร�

ปท ี่ 14 ฉบบั ที่ 4 เดอื นเมษายน - มิถนุ ายน 2561 3. The strategies were in high relation to accuracy, propriety, feasibility and utility and a higher statistical significance of .01. Keywords: learner development activities, life skills, career skills, secondary school students. บทนํา สภาวะปจจุบัน ทั่วโลกกําลังเผชิญกับการเปล่ียนแปลงทางสังคม วัฒนธรรม การเมือง เศรษฐกจิ และเทคโนโลยอี ยา งรวดเรว็ (สาํ นกั เลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา, 2553, หนา 16) ซง่ึ จากสภาพ สังคมท่ีเปล่ียนแปลงอยางรวดเร็วในโลกปจจุบันไดสงผลกระทบตอเด็กวัยเรียน ทั้งการดําเนินชีวิต ทา มกลางกระแสเทคโนโลยที เี่ ปลย่ี นแปลงและความคาดหวงั ของผปู กครองตอ การศกึ ษาของบตุ รหลาน ตลอดจนการเผชิญสิ่งย่ัวยุหรือตัวแบบท่ีไมเหมาะสมตาง ๆ รอบตัว กอใหเกิดปญหาเด็กและเยาวชน อยา งมาก (สาํ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน, 2554, หนา 1) แผนการศึกษาแหงชาติ พ.ศ. 2560-2579 ไดพบปญหาและความทาทายทีเ่ กิดจากระบบการ ศกึ ษา โดยพบวาคุณภาพของคนไทยทุกกลมุ วยั ยังมปี ญ หา ซ่งึ สงผลตอการยกระดับขีดความสามารถ ในการแขงขันของประเทศในอนาคต ท้ังเร่ืองพัฒนาการและสติปญญาต้ังแตวัยเด็ก การขาดทักษะ ความรูความสามารถท่ีสงผลตอผลิตภาพแรงงานของประเทศ โดยมีสาเหตุสําคัญมาจากทักษะและ สมรรถนะไมสอดคลองกับความตองการของตลาดแรงงาน อีกท้ังปจจุบันมีแรงงานระดับอุดมศึกษา ที่มีสัดสวนการวางงานสูง ขณะท่ีตลาดแรงงานมีความตองการแรงงานท่ีมีการศึกษาตํ่ากวาระดับ มัธยมศกึ ษาปท ่ี 6 จาํ นวนมาก (สํานกั งานเลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา, 2560, หนา 67-68) จากสภาพปญหาขางตน ผูวิจัยจึงตระหนักถึงความสําคัญของการสรางกลยุทธการบริหาร กจิ กรรมพฒั นาผเู รยี นเพอ่ื เสรมิ สรา งทกั ษะชวี ติ และทกั ษะอาชพี ของนกั เรยี นมธั ยมศกึ ษา สนองนโยบาย ของรัฐบาล เพ่ือเตรียมความพรอมใหนักเรียนมีพัฒนาการดานทักษะชีวิตและทักษะอาชีพ มีความรู ทักษะและสมรรถนะทจ่ี าํ เปนในการเขาสูอ าชีพตอไป วตั ถปุ ระสงคข องการวิจยั 1. เพื่อศึกษาทักษะชีวิตและทักษะอาชีพของนักเรียนมธั ยมศกึ ษา 2. เพอ่ื สรา งกลยทุ ธก ารบรหิ ารกจิ กรรมพฒั นาผเู รยี นเพอ่ื เสรมิ สรา งทกั ษะชวี ติ และทกั ษะอาชพี ของนกั เรียนมัธยมศึกษา 3. เพ่ือประเมินกลยุทธการบริหารกิจกรรมพัฒนาผูเรียนเพ่ือเสริมสรางทักษะชีวิตและทักษะ อาชพี ของนกั เรียนมธั ยมศึกษา วารสารวช� าการศรป� ทมุ ชลบรุ � 161

ปท่ี 14 ฉบบั ที่ 4 เดือนเมษายน - มถิ ุนายน 2561 กรอบแนวคดิ ในการวิจัย 1. ทักษะชีวิตของนักเรียนมัธยมศึกษาตามกรอบขององคการอนามัยโลก (WHO, 1997) มี 5 ทกั ษะคอื ทกั ษะการตดั สนิ ใจและแกป ญ หา ทกั ษะการคดิ สรา งสรรคแ ละการคดิ อยา งมวี จิ ารณญาณ ทกั ษะการสอ่ื สารและมนษุ ยสมั พนั ธ ทกั ษะการรจู กั ตนเองและการเขา ใจผอู น่ื ทกั ษะการควบคมุ อารมณ และการเอาชนะความกดดนั 2. ทักษะอาชีพของนักเรียนมัธยมศึกษาตามกรอบของ Partnership for 21st Century Skills (Online, 2006) มี 5 ขอ คือ ความยืดหยุนและความสามารถในการปรับตัว การริเริ่ม และการชี้นําตนเอง ทักษะดานสังคมและทักษะขามวัฒนธรรม การมีผลงานและความรับผิดชอบ ภาวะผูนาํ และหนาท่ีรบั ผิดชอบ 3. การสรางกลยุทธการบริหารกิจกรรมพัฒนาผูเรียนเพื่อเสริมสรางทักษะชีวิตและทักษะ อาชพี ของนักเรยี นมัธยมศกึ ษา อาศยั แนวคดิ 5 ประการ ของ Thomson and Strickland (2003) คอื การกําหนดวิสัยทัศนเ ชงิ กลยทุ ธ การกําหนดวัตถปุ ระสงค การจดั ทาํ กลยุทธ การนาํ กลยุทธท่ีเลือกไว ไปปฏิบตั ิ การประเมินผลการดาํ เนนิ งานและการปรบั ปรงุ แกไ ขเพื่อเรมิ่ ตน ใหม 4. การประเมินกลยุทธการบริหารกิจกรรมพัฒนาผูเรียนเพ่ือเสริมสรางทักษะชีวิตและทักษะ อาชพี ของนกั เรยี นมธั ยมศกึ ษา ผวู จิ ยั ใชแ นวคดิ 4 ดา น ของแมคมลิ แลนดแ ละชมู ารเ คอร (McMillan & Schumacher, 1997, pp. 545-546) คือ การประเมินดานความถูกตอง ดานความเหมาะสม ดานความเปน ไปได และดานความมีประโยชน ภาพท่ี 1 กรอบแนวคิดในการวิจัย 162 วารสารว�ชาการศร�ปทุม ชลบุร�

ปท ่ี 14 ฉบบั ที่ 4 เดือนเมษายน - มถิ ุนายน 2561 วธิ ดี ําเนนิ การวจิ ยั ตอนที่ 1 ศกึ ษาทักษะชีวิตและทักษะอาชพี ของนกั เรยี นมธั ยมศกึ ษา ขัน้ ที่ 1 ศึกษาเอกสารและงานวิจัยท่ีเกี่ยวของ สังเคราะหแนวคิดของนักวิชาการที่เกี่ยวของ ไดแ ก ทกั ษะชวี ติ ตามแนวคดิ ขององคก ารอนามยั โลก (WHO, 1997) และทกั ษะอาชพี ตามกรอบแนวคดิ ของ Partnership for 21th Century Skills (Online, 2006) ขั้นท่ี 2 สัมภาษณเชิงลึกผูทรงคุณวุฒิ จํานวน 5 คน คุณสมบัติคือ สําเร็จการศึกษาระดับ ปริญญาเอก มีประสบการณด านการบริหารกิจกรรมพฒั นาผูเ รยี นไมตา่ํ กวา 3 ป เกี่ยวกบั ทักษะชวี ติ และทักษะอาชพี ของนักเรยี น ขน้ั ท่ี 3 สอบถามครู นกั เรยี นและผูปกครองของนกั เรยี นมธั ยมศกึ ษา เก่ียวกบั ทกั ษะชวี ติ และ ทกั ษะอาชีพของนกั เรยี นมัธยมศกึ ษา โดยมี 1) ประชากรคือ ครู นักเรียน และผูปกครองของนักเรียนมัธยมศึกษา เขตพ้ืนที่การศึกษา มัธยมศึกษาเขต 18 จังหวัดชลบุรีและจังหวัดระยอง ภาคเรียนที่ 1 ปการศึกษา 2560 จํานวน 50 โรงเรียน มีกลุมตวั อยางจาํ นวน 160 คน เปน ครู นักเรยี น และผปู กครองของนักเรียนมธั ยมศึกษา เขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศึกษาเขต 18 จังหวัดชลบุรี ภาคเรียนท่ี 1 ปการศึกษา 2560 จํานวน 1 โรงเรียน 2) เคร่ืองมือท่ีใชในการวิจัย ไดแก แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับทักษะชีวิตและทักษะ อาชพี ของนกั เรียนมธั ยมศึกษา มี 2 ตอนคือ ตอนที่ 1 ขอ มลู ทวั่ ไปของผูต อบแบบสอบถาม เปน แบบ ตรวจสอบรายการ (check list) จํานวน 5 ขอ ตอนที่ 2 ทักษะชีวิตและทักษะอาชีพของนักเรียน มัธยมศึกษา เปน แบบมาตราสว นประมาณคา (rating scale) จํานวน 10 ขอ 3) วิเคราะหขอมูลดวยการหาคาความถี่ คารอยละ คาเฉลี่ย คาเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ คา สัมประสทิ ธิ์สหสมั พนั ธแ บบเพียรส ัน ตอนท่ี 2 การสรางกลยุทธการบริหารกิจกรรมพัฒนาผูเรียนเพื่อเสริมสรางทักษะชีวิตและ ทักษะอาชพี ของนกั เรยี นมธั ยมศึกษา ขนั้ ท่ี 1 ศึกษาหลักการ แนวคิด ทฤษฎี และผลการวิจัยเกี่ยวกับแนวปฏิบัติท่ีดีในการสราง กลยทุ ธจ ากการบรหิ ารกลยทุ ธข ององคก าร และใชแ นวคดิ 5 ประการ ของ Thomson and Strickland (2003) คอื การกาํ หนดวสิ ยั ทศั นเ ชงิ กลยทุ ธ การกาํ หนดวตั ถปุ ระสงค การจดั ทาํ กลยทุ ธ การนาํ กลยทุ ธ ที่เลอื กไวไ ปปฏบิ ัติ และการประเมนิ ผลการดําเนนิ งานและการปรับปรุงแกไขเพอ่ื เร่มิ ตน ใหม ข้ันท่ี 2 สรางกลยุทธการบริหารกิจกรรมพัฒนาผูเรียนเพื่อเสริมสรางทักษะชีวิตและทักษะ อาชีพของนักเรียนมัธยมศึกษา โดยเลือกทักษะชีวิตและทักษะอาชีพที่มีความสัมพันธกันมากท่ีสุด คือ ทักษะชีวิตดานการตัดสินใจและแกปญหากับทักษะอาชีพดานการริเริ่มและการช้ีนําตนเอง มาเปนทักษะท่ีจะนํามาสรางกลยุทธการบริหารกิจกรรมพัฒนาผูเรียนเพ่ือเสริมสรางทักษะชีวิตและ ทักษะอาชพี ประกอบดว ย วสิ ยั ทัศน วัตถปุ ระสงค กลยทุ ธห ลกั กลยุทธยอ ย โครงการ/กจิ กรรม วารสารวช� าการศร�ปทุม ชลบุร� 163

ปท่ี 14 ฉบับท่ี 4 เดือนเมษายน - มถิ ุนายน 2561 ขน้ั ที่ 3 จัดสนทนากลมุ ผูเ ช่ียวชาญ จํานวน 9 คน เพอ่ื พจิ ารณาใหข อคดิ เห็นเกย่ี วกบั กลยุทธ การบริหารกิจกรรมพัฒนาผูเรียนเพ่ือเสริมสรางทักษะชีวิตและทักษะอาชีพของนักเรียนมัธยมศึกษา ทส่ี รางขนึ้ แลว นาํ ขอ มูลมาวิเคราะหเนือ้ หาเพ่อื สรางกลยุทธตอ ไป ตอนที่ 3 การประเมินกลยุทธการบริหารกิจกรรมพัฒนาผูเรียนเพ่ือเสริมสรางทักษะชีวิต และทักษะอาชีพของนักเรยี นมธั ยมศึกษา 1. กําหนดกลุมผูประเมิน ไดแก ผูทรงคุณวุฒิ จํานวน 17 คน มีตําแหนงในการบริหาร การศึกษา และสําเรจ็ การศกึ ษาไมต ํา่ กวาปริญญาโท 2. เครือ่ งมอื ทีใ่ ชใ นการประเมิน ไดแ ก แบบประเมนิ กลยุทธก ารบริหารกิจกรรมพฒั นาผูเรียน เพ่ือเสริมสรางทักษะชีวิตและทักษะอาชีพของนักเรียนมัธยมศึกษา ท้ังในดานความถูกตอง ความ เหมาะสม ความเปน ไปได และความมีประโยชน จาํ นวน 50 ขอ 3. วเิ คราะหข อ มลู ความถกู ตอ ง ความเหมาะสม ความเปน ไปได และความมปี ระโยชน ดว ยการ หาคาเฉลยี่ แลว นําคา เฉลี่ยทไ่ี ดไ ปเทยี บกบั คา เฉล่ยี เกณฑด วยการทดสอบแบบกลุม ตวั อยา งเดยี ว และ เปรียบเทยี บคาเฉลยี่ ของผลการประเมนิ ทั้ง 4 ดา น ดวยการวิเคราะหความแปรปรวนแบบทางเดยี ว ผลการวจิ ัย 1. ทกั ษะชีวิตของนกั เรียนมธั ยมศึกษา มีดังนี้ ทกั ษะชีวติ ประกอบดว ย 5 ทักษะ ไดแ ก 1) การตัดสนิ ใจและแกปญหา 2) การคดิ สรา งสรรค และการคิดอยางมีวิจารณญาณ 3) การสื่อสารและมนุษยสัมพันธ 4) การรูจักตนเองและการเขาใจ ผอู นื่ และ 5) การควบคมุ อารมณแ ละการเอาชนะความกดดัน ทกั ษะอาชีพ ประกอบดวย 5 ทักษะ ไดแก 1) ความยดื หยนุ และความสามารถในการปรบั ตัว 2) การริเร่ิมและการชน้ี ําตนเอง 3) ทกั ษะดานสงั คมและทกั ษะขา มวฒั นธรรม 4) การมผี ลงานและ ความรบั ผิดชอบ และ 5) ภาวะผนู าํ และหนา ทีร่ บั ผดิ ชอบ โดยทักษะการตัดสินใจและแกปญหากับการริเริ่มและการช้ีนําตนเอง มีความสัมพันธกันมาก ทส่ี ดุ กลา วไดว า ทกั ษะชวี ติ และทกั ษะอาชพี ของนกั เรยี นมธั ยมศกึ ษาทส่ี าํ คญั มากทสี่ ดุ คอื การตดั สนิ ใจ และแกปญหา การริเร่ิมและการช้ีนําตนเอง 2. กลยทุ ธก ารบริหารกิจกรรมพฒั นาผูเรยี น เพ่ือเสรมิ สรางทักษะการตัดสินใจและแกป ญ หา และทักษะการริเริ่มและการชี้นําตนเองของนักเรียนมัธยมศึกษา ประกอบดวย 1 วิสัยทัศน 3 วตั ถุประสงค 3 กลยทุ ธห ลัก โดย 3 กลยทุ ธห ลัก ไดแก กลยุทธหลักที่ 1 การเสริมสรางความตระหนัก การพัฒนาทักษะการตัดสินใจและแกปญหา ทักษะการรเิ ริม่ และการชี้นําตนเองของนักเรยี น กลยุทธห ลักท่ี 2 การเสรมิ สรา งและพฒั นาการยอมรบั ความเขา ใจในการพฒั นาทกั ษะชวี ติ และ ทกั ษะอาชีพของนกั เรียน 164 วารสารว�ชาการศร�ปทมุ ชลบรุ �

ปที่ 14 ฉบับท่ี 4 เดือนเมษายน - มถิ ุนายน 2561 กลยทุ ธห ลกั ท่ี 3 การพฒั นาพฤตกิ รรม การพฒั นาการตดั สนิ ใจและแกป ญ หา การรเิ รม่ิ และการ ชน้ี ําตนเองของนกั เรยี น 3. กลยทุ ธก ารบริหารกิจกรรมพัฒนาผเู รยี น เพื่อเสรมิ สรา งทักษะการตดั สนิ ใจและแกปญ หา และทักษะการริเร่ิมและการชี้นําตนเองของนักเรียนมัธยมศึกษา มีความถูกตอง มีความเหมาะสม มีความเปนไปได และมีประโยชนอยูในระดับมากและสูงกวาเกณฑอยางมีนัยสําคัญทางสถิติที่ ระดบั .01 ตลอดจนผลการประเมนิ ความถกู ตอ ง ความเหมาะสม ความเปน ไปได และความมปี ระโยชน มคี วามสอดคลองกนั อภปิ รายผล 1. จากผลการวจิ ยั พบวา ทกั ษะชีวติ ของนักเรยี นมธั ยมศกึ ษา ประกอบดว ย 5 ทักษะ ไดแก 1) การตัดสินใจและแกปญหา 2) การคิดสรางสรรคและการคิดอยางมีวิจารณญาณ 3) การสื่อสาร และมนุษยสัมพันธ 4) การรูจักตนเองและการเขาใจผูอื่น และ 5) การควบคุมอารมณและการ เอาชนะความกดดัน ที่เปนเชนนี้อาจเนื่องมาจากทักษะชีวิตมีความสําคัญยิ่งในการดําเนินชีวิต เพราะทักษะชีวิตมีความสัมพันธเกี่ยวของกับคุณภาพชีวิตของทุกคน เปนพ้ืนฐานในการจัดการ แกไขปญหาชีวิตที่เกิดขึ้น ท้ังตอบุคคล ครอบครัว สังคมประเทศ และสังคมโลก สงผลตอคุณภาพ ประชากรโดยรวม จากความสําคัญของทักษะชีวิตจึงมีผูใหความสําคัญเปนจํานวนมาก ไดแก UNICEF (Online, 2004) กรมสขุ ภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข (2543) กระทรวงศกึ ษาธกิ าร (2552) และสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน (2553) นอกจากน้ี ยังมีผูศึกษาองคประกอบของ หลักสูตรการแนะแนวเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตของนักเรียน เชน นีลล่ี (Neeley, 2004) สํานักงาน คณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน (2553) และ WHO (1997) และยงั ไดจ ดั กลมุ ทกั ษะชวี ติ ทสี่ าํ คญั ไว 3 กลุม ไดแก กลุมที่ 1 กลุมพุทธิพิสัย การคิดอยางมีวิจารณญาณและการคิดสรางสรรค กลุมที่ 2 กลุมจิตพิสัย การตระหนักรูในตนและทักษะการเขาใจผูอื่น กลุมที่ 3 กลุมทักษะพิสัย การสราง สัมพันธภาพและการสื่อสารกับบุคคลอ่ืนอยางมีประสิทธิภาพ การตัดสินใจและการแกปญหา การจัดการกับอารมณ และการจดั การกบั ความเครียด สําหรับทักษะอาชีพของนักเรียนมัธยมศึกษา พบวาประกอบดวย 5 ทักษะ ไดแก 1) ความ ยืดหยุนและความสามารถในการปรับตัว 2) การริเร่ิมและการช้ีนําตนเอง 3) ทักษะดานสังคมและ ทักษะขา มวฒั นธรรม 4) การมผี ลงานและความรับผิดชอบ และ 5) ภาวะผูนําและหนาท่ีรบั ผิดชอบ อาจเน่ืองมาจากในการดํารงชีวิตปจจุบันทุกคนตองมีการประกอบอาชีพ ซ่ึงเปนที่มาของรายได เพื่อนําไปใชในการดํารงชีวิต ตอบสนองความตองการของตนเอง ครอบครัว ชุมชน และประเทศ ชาติ การดํารงชวี ิตในสังคมปจจุบนั ไดเ ปลย่ี นแปลงไป ทกั ษะความรเู ปน พน้ื ฐานในการประกอบอาชีพ จึงเปนเร่ืองสําคัญและจําเปนอยางย่ิงท่ีจะตองไดรับการฝกฝนอบรม เพ่ือเตรียมตัวใหผูเรียนมีทักษะ วารสารวช� าการศร�ปทมุ ชลบุร� 165

ปท่ี 14 ฉบับท่ี 4 เดือนเมษายน - มิถนุ ายน 2561 อาชีพ สามารถเลือกอาชีพและปรับตัวใหเขากับชีวิตการทํางานอยางมีประสิทธิภาพตอไปในอนาคต การเตรียมความพรอมในการมีชีวิตอยางมีความสุขในศตวรรษท่ี 21 ทุกคนตองมีทักษะที่จะสามารถ ศึกษาหาความรู ปฏิบัติงานและประกอบอาชีพเพ่ือสรางความสุขใหกับชีวิต การเรียนรูแหงศตวรรษ ที่ 21 (21st century learning) ไดกลายมาเปนสวนสําคัญของการวิเคราะหและอภิปรายกันอยาง กวา งขวางในสงั คมรอบดาน สอดคลองกับ ทิศนา แขมมณี (2555) ทีเ่ สนอ 7 ทักษะเพอื่ การอยรู อด ไดแ ก การคดิ เชิงวพิ ากษแ ละการแกปญหา การรวมมอื กับเครือขายตาง ๆ การปรบั ตวั และการมคี วาม แคลว คลอ งวอ งไว การคดิ รเิ รม่ิ และการเปน ผูประกอบการท่สี รัางสรรค การสอื่ สารทงั้ ทางการพูดและ การเขียน การเขา ถึงขอ มูลและวิเคราะหขอมลู การใฝร ูแ ละมีจินตนาการ ทง้ั น้ี เมอ่ื นําทกั ษะชวี ิต 5 ทกั ษะ มาหาความสัมพันธกบั ทักษะอาชีพ 5 ทักษะ พบวา ทกั ษะ การตัดสินใจและแกปญหากับทักษะการริเร่ิมและการชี้นําตนเอง มีความสัมพันธกันมากที่สุด อาจเนอื่ งมาจากทกั ษะการตัดสนิ ใจและแกปญ หา การรเิ ร่ิมและการชน้ี ําตนเอง เปน ทกั ษะทผ่ี บู ริหาร ครู นกั เรยี น และผปู กครอง เหน็ วา มคี วามสาํ คญั จาํ เปน ตอ งเรง รดั ใหเ กดิ ขนึ้ สามารถนาํ ไปใชป ระโยชน ไดใ นชวี ติ จรงิ เพราะในชวี ติ ประจาํ วนั ของคนเรานนั้ จะพบกบั ปญ หาตา ง ๆ มากมาย เชน ปญ หาสว นตวั ปญ หาการทํางาน ปญ หาทางสังคม ซง่ึ สาํ คัญตอวิถีการดาํ เนนิ ชวี ติ ในสงั คมมนุษย ตอ งใชการตัดสนิ ใจ เพ่ือแกป ญหาทีเ่ กิดขึ้นทุกขณะ ผูท ่ีมที กั ษะการตัดสนิ ใจและแกปญ หาจะสามารถเผชญิ กบั ภาวะสงั คม ที่เครงเครียดไดอยางเขมแข็ง ทักษะการแกปญหาจึงมิใชเปนเพียงการรูจักคิดและรูจักใชสมอง หรือเปนทักษะที่มุงพัฒนาสติปญญาแตเพียงอยางเดียว แตยังเปนทักษะที่สามารถพัฒนาทัศนคติ วิธีคิด คานิยม ความรู ความเขาใจในสถานการณของสังคมไดดีอีกดวย นอกจากน้ี การริเร่ิม และการช้ีนําตนเองมีพ้ืนฐานมาจากทฤษฎีการเรียนรูของผูใหญ (andragogy) ของโนลส (Knowles, 1984) ซึ่งจอหน ดิวอ้ี (John Dewey) (อางถึงใน Barkley, Cross & Major, 2005) นักการศึกษาท่ีเนนผูเรียนเปนศูนยกลางไดกลาววา มนุษยเกิดข้ึนมาพรอมกับพลังท่ีไมจํากัดสําหรับ การเจรญิ เติบโตและการพัฒนา โดยการศึกษาเปนสง่ิ ที่ชว ยใหเกดิ การพัฒนาของมนษุ ย ซง่ึ ผสู อนตอ ง ระมัดระวังท่ีจะไมเขาไปแทรกแซงหรือเขาไปควบคุมกระบวนการของการเรียนรูของผูเรียน ผูสอน ควรทําหนาท่ีเปนเพียงผูแนะนําเทาน้ัน ข้ันตอนในการแกปญหาท่ีครูสามารถนําไปใชสอนนักเรียน เพื่อใหเกดิ ทักษะการแกปญหาตามเทคนคิ ของดวิ อ้ี ไดแก ระบปุ ญ หา วางแผนแกปญหา ประเมินและ ทดสอบปญหาตาง ๆ ตดั สนิ ใจเลอื กวิธแี กปญหารว มกนั นําไปใชป ระโยชนและประเมนิ ผล การเรยี นรู ดว ยการชนี้ าํ ตนเองไดเ นน ทค่ี วามเปน อสิ ระสว นบคุ คล และความรบั ผดิ ชอบตนเองในการเรยี นรู ซงึ่ เปน พนื้ ฐานของการศกึ ษาในระดบั สงู ตอ ไป นกั การศกึ ษาตา งยอมรบั วา ผเู รยี นทมี่ คี วามใฝร แู ละพยายามทจ่ี ะ เรียนรูในส่ิงท่ีตนสนใจ เปนลักษณะของผูเรียนท่ีมีการชี้นําตนเองในการเรียนรู ซึ่งจะสามารถเรียนรู ไดด ีกวา ผูเรยี นที่เรยี นโดยการชนี้ ําจากผูอ น่ื 166 วารสารว�ชาการศร�ปทมุ ชลบรุ �

ปที่ 14 ฉบับท่ี 4 เดอื นเมษายน - มถิ นุ ายน 2561 2. จากผลการวิจัยพบวา กลยุทธการบริหารกิจกรรมพัฒนาผูเรียนเพ่ือเสริมสรางทักษะชีวิต และทักษะอาชีพของนักเรียนมัธยมศึกษาท่ีเก่ียวของกับทักษะการตัดสินใจและแกปญหา ทักษะการ ริเริ่มและการชี้นําตนเอง ประกอบดวย 1 วสิ ยั ทศั น 3 วตั ถปุ ระสงค 3 กลยทุ ธห ลกั 13 กลยุทธยอย 40 โครงการ/กิจกรรม โดย 3 กลยุทธห ลกั ไดแก กลยุทธหลกั ที่ 1 การเสริมสรางความตระหนัก การพัฒนาทักษะการตัดสินใจและแกปญหา ทกั ษะการริเร่ิมและการช้นี ําตนเองของนกั เรยี น กลยทุ ธห ลกั ที่ 2 การเสริมสรางและพัฒนาการยอมรับความเขาใจในการพัฒนาทักษะชีวิต และทักษะอาชีพของนกั เรียน กลยุทธหลกั ท่ี 3 การพัฒนาพฤติกรรม การพัฒนาการตัดสินใจและแกปญหา การริเริ่มและ การชี้นาํ ตนองของนักเรยี น อาจเน่ืองมาจากในการสรางกลยุทธการบริหารกิจกรรมพัฒนาผูเรียนเพ่ือเสริมสรางทักษะ ชีวิตและทักษะอาชีพของนักเรียนมัธยมศึกษานั้น ไดสรางโดยมีหลักการและแนวทางที่ชัดเจน มีการดําเนินการสนทนากลุมโดยผูมีความรูความสามารถครอบคลุมรอบดาน ดึงศักยภาพของผูรวม สนทนาใหอ ยใู นประเดน็ สมาชกิ เปน ผูม ีศกั ยภาพหลากหลาย สามารถแสดงความคดิ เห็นและมีอสิ ระ มีปฏิสัมพันธอันดตี อ กัน การกาํ หนดวิสยั ทัศน วัตถุประสงค กลยุทธ โครงการ/กจิ กรรมจะถกู กําหนด ในปริมาณที่ชัดเจนและเหมาะสม สอดคลองกับวิสัยทัศน วัตถุประสงค ซึ่งวิสัยทัศนท่ีสรางข้ึน สามารถบงบอกความมุงหมายวาองคกรจะมุงหนาไปทางใด สอดคลองกับแนวคิดของ ทอมสัน และสตริคแลนด (Thompson & Strickland, 2003) ท่ีวา การกําหนดวิสัยทัศนเชิงกลยุทธ ตอ งบง บอกลกั ษณะในอนาคตวามีลกั ษณะอยา งไร จะมุงหนา ไปทางใด ทั้งนี้เพ่อื กําหนดทิศทางในการ ดําเนินงานในระยะยาวที่องคกรพยายามจะใหเปนไปและแจงใหทุกคนทราบเพื่อใหการปฏิบัติงาน เปนไปในทิศทางตามที่มุงหวังรวมกัน จินตนา บุญบงการ และณัฏฐพันธ เขจรนันทน (2549) กลาววา วัตถุประสงค หมายถึง เปาหมายที่มีความเฉพาะเจาะจงและมีผลลัพธที่สามารถวัดไดอยาง เปนรูปธรรม เมื่อเทียบกับจุดมุงหมายขององคกรในระดับอื่น วัตถุประสงคเปนถอยแถลงของส่ิงท่ี องคก รตอ งการบรรลุ ซงึ่ โดยปกตวิ ตั ถปุ ระสงคจ ะถกู กาํ หนดในรปู ของความตอ งการภายใตก ารกาํ หนด ระยะเวลาทแ่ี นน อน โดยวตั ถปุ ระสงคส ามารถจาํ แนกตามระยะเวลาออกเปน 2 ระดบั คอื วตั ถปุ ระสงค ในระยะส้ัน ซง่ึ เกี่ยวขอ งกับเปา หมายการดําเนนิ งานทคี่ รอบคลมุ ระยะเวลาไมน าน ปกตจิ ะไมเ กนิ 1 ป และวัตถุประสงคระยะยาว ซึ่งเปนความตองการของธุรกิจท่ีครอบคลุมระยะเวลามากกวา 1 ป โดยปกตอิ งคก ารจะกาํ หนดวตั ถปุ ระสงคร ะยะยาวตง้ั แต 3 ป 5 ป หรอื 10 ป วตั ถปุ ระสงคม กั จะถกู กาํ หนด ในปรมิ าณทชี่ ดั เจนและสามารถวดั ได และวตั ถปุ ระสงคย งั เปน สว นสาํ คญั สาํ หรบั ความสาํ เรจ็ ขององคก ร การต้ังวัตถุประสงคท่ีดีจะตองชัดเจน ทาทาย สมเหตุสมผล และสอดคลองกับวิสัยทัศนของ องคกร เม่ือไดวิสัยทัศนและวัตถุประสงคที่ชัดเจนแลว ข้ันตอนตอไปคือการกําหนดกลยุทธ ในการ วารสารวช� าการศรป� ทมุ ชลบุร� 167

ปท ี่ 14 ฉบบั ที่ 4 เดอื นเมษายน - มถิ นุ ายน 2561 กาํ หนดกลยทุ ธน น้ั อาจมไี ดท ง้ั กลยทุ ธห ลกั และกลยทุ ธย อ ย ซงึ่ การกาํ หนดกลยทุ ธน นั้ เปน วธิ กี ารเพอื่ ให บรรลวุ ตั ถปุ ระสงคร ะยะยาว เรมิ่ ตน จากการกาํ หนดภารกจิ หลกั การวเิ คราะหส ภาพแวดลอ มภายนอก และภายใน การวเิ คราะหแ ละจัดวางกลยุทธ การจดั ทาํ แผนงานและโครงการ การนํากลยุทธไปปฏบิ ตั ิ การทบทวนและจัดวางกลยุทธใหม การมุงเนนภาพรวม โดยเนนระดับของการวิเคราะหทั้งองคการ มากกวาพิจารณาเพยี งสวนใดสวนหนึง่ หรือเฉพาะแผนงานโครงการและกิจกรรมใด ๆ ดังน้ัน อิทธพิ ล ผลกระทบของการบรหิ ารเชงิ กลยทุ ธจ งึ มคี อ นขา งสงู และครอบคลมุ ทวั่ ทงั้ องคก าร และการเปลยี่ นแปลง ใด ๆ ทเี่ กดิ ขน้ึ มกั จะมผี ลตอ เน่ืองไปอีกหลายป 3. จากผลการวิจัยพบวา กลยุทธการบริหารกิจกรรมพัฒนาผูเรียนเพื่อเสริมสรางทักษะชีวิต และทักษะอาชีพของนักเรียนมัธยมศึกษาท่ีเก่ียวกับทักษะการตัดสินใจและแกปญหา ทักษะการริเริ่ม และการช้ีนําตนเอง มีความถูกตอง มีความเหมาะสม มีความเปนไปได และมีประโยชนอยูใน ระดับมาก ตลอดจนผลการประเมินความถูกตอง ความเหมาะสม ความเปนไปได และความ มีประโยชน มีความสอดคลองกัน เพราะในการสรางกลยุทธการบริหารกิจกรรมพัฒนาผูเรียน เพ่ือเสริมสรางทักษะชีวิตและทักษะอาชีพของนักเรียนมัธยมศึกษาน้ัน ไดดําเนินการอยางเปนระบบ มกี ารกําหนดวิสยั ทัศน วัตถปุ ระสงค กลยทุ ธ โครงการ/กจิ กรรมที่สอดคลองกนั โดยมีพืน้ ฐานอยบู น บริบทของโรงเรียนท่ีเปนไปได มีผูรวมคิด รวมทํา และมีการประเมินกลยุทธโดยผูที่มีความรูความ ชาํ นาญหลายสาขารว มตดั สนิ ใจ สอดคลอ งกบั ราชบณั ฑติ ยสถาน (2555) ทใี่ หค วามหมายของกลยทุ ธ วา กุศโลบายในการทํางาน จัดกิจกรรม แผนงานหรือโครงการตาง ๆ โดยกําหนดแผนการท่ีจะทํา อยางรอบคอบ กําหนดขั้นตอนของการกระทําที่มีความยืดหยุนตามสถานการณ ตระหนักถึงปจจัย แทรกซอน มุงใหสิ่งที่จะทําประสบความสําเร็จตามวัตถุประสงคและเอาชนะคูแขงได สอดคลองกับ เพยี รส และโรบินสัน (Pearce & Robinson, 2011) ที่วา ยุทธศาสตรท่ดี แี ละมปี ระโยชนน ั้น ตองเกดิ ข้ึนโดยอาศัยกลุม การตัดสินใจอันเกิดจากมุมมองของสมาชิกของกลุมที่มีความรูความชํานาญหลาย สาขารวมตดั สนิ ใจ จะทาํ ใหเกดิ แนวทางการจัดการยุทธศาสตรทีห่ ลากหลายและผานการเลือกสรรใน การนาํ กลยุทธไ ปใชอ ยา งเหมาะสมและผานการกล่นั กรองอยางดี ขอ เสนอแนะ 1. สํานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ ควรกําหนดนโยบาย ในการพัฒนานกั เรยี นมธั ยมศกึ ษาในสวนของการจัดกจิ กรรมพฒั นาผูเรียนใหม ที กั ษะทง้ั 10 ประการ ดงั กลาว 2. สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 18 จังหวัดชลบุรีและจังหวัดระยอง ควรสนับสนุนใหโรงเรียนนํากลยุทธดังกลาวไปใชในการบริหารกิจกรรมพัฒนาผูเรียน เพื่อเสริมสราง ทักษะชวี ิตและทักษะอาชีพของนักเรยี นมธั ยมศึกษาตอ ไป 168 วารสารว�ชาการศร�ปทมุ ชลบรุ �

ปที่ 14 ฉบบั ท่ี 4 เดอื นเมษายน - มถิ ุนายน 2561 บรรณานุกรม กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข. (2543). คูมือการสอนทักษะชีวิตเพ่ือปองกันสารเสพติด ในสถานศกึ ษาระดับประถมศกึ ษา (พมิ พค รัง้ ท่ี 3). นนทบุร:ี โรงพิมพอ งคการรับสง สินคาและ วัสดุภณั ฑ (ร.ส.พ.). กระทรวงศึกษาธิการ. (2552). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: โรงพมิ พชมุ นมุ สหกรณการเกษตรแหง ประเทศไทย. จนิ ตนา บุญบงการ และณฏั ฐพนั ธ เขจรนันทน. (2549). การจัดการเชงิ กลยทุ ธ (พิมพค ร้ังท่ี 9). กรงุ เทพฯ: ซเี อ็ดยูเคชัน. ทิศนา แขมมณี. (2555). ศาสตรการสอน: องคความรูเพื่อการจัดกระบวนการเรียนรูท่ีมี ประสทิ ธภิ าพ. กรุงเทพฯ: สาํ นักพมิ พแ หง จุฬาลงกรณม หาวทิ ยาลัย. ราชบัณฑติ ยสถาน. (2555). พจนานุกรมฉบบั ราชบัณฑิตยสถาน. กรุงเทพฯ: ศิรวิ ัฒนาอินเตอร พรนิ้ ท. สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน. (2553). จุดเนน สกู ารพัฒนาคณุ ภาพผูเรียนเพื่อการ ขบั เคลอ่ื นหลักสูตร การจัดการเรียนรู การวัดและประเมินผล. กรุงเทพฯ: โรงพิมพชุมนุม สหกรณก ารเกษตรแหง ประเทศไทย. . (2554). การพัฒนาทักษะชีวติ ในระบบการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน. กรงุ เทพฯ: โรงพิมพช ุมนมุ สหกรณการเกษตรแหงประเทศไทย. สํานักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติ. (2559). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและ สังคมแหง ชาติ ฉบบั ที่ 12 พ.ศ. 2560-2564. กรุงเทพฯ: สํานกั นายกรฐั มนตรี. สาํ นกั เลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา. (2553). แผนการศกึ ษาแหง ชาตฉิ บบั ปรบั ปรงุ (พ.ศ. 2552-2559). กรุงเทพฯ: พรกิ หวานกราฟฟค. . (2560). แผนการศึกษาแหงชาติ พ.ศ. 2560-2579. กรงุ เทพฯ: พริกหวานกราฟฟค. Barkley, E. F, Cross, K. P., & Major, C. H. (2005). Collaborative learning techniques: A hand book for college faculty. San Francisco, CA: Jossey-Bass. Knowles, M. (1984). Andragogy in action. San Francisco, CA: Jossey-Bass. McMillan, J. H., & Schumacher, S. S. (1997). Research in education: A conceptual introduction. New York, NY: Longman. Neeley, S. J. (2004). A model comprehensive developmental guidance and counseling program for Texas public schools. Austin, TX: Texas Education Agency. วารสารวช� าการศรป� ทุม ชลบรุ � 169

ปที่ 14 ฉบับที่ 4 เดือนเมษายน - มิถนุ ายน 2561 Partnership for 21st Century Skills. (2006). Framework for 21st Century Learning (Online). Available: http://www.p21.org/our-work/p21-framework. Pearce, J. A., & Robinson, R. B. (2011). Formulation, implementation, and control of competitive strategy (9th ed.). New York, NY: McGraw-Hill/Irwin. Thomson, A. A., & Strickland, A. J. (2003). Strategic management: Concepts and cases (12th ed.). Boston, MA: McGraw-Hill. UNICEF. (2004). Definition of terms: Life skills (Online). Available: http://www. unicef.org/teachers. WHO. (1997). Life skills education for children and adolescents in schools. Geneva, Switzerland: WHO. 170 วารสารว�ชาการศร�ปทมุ ชลบรุ �