1 วจิ ัยในชนั้ เรียน เร่อื งการแก้ปญั หาการสง่ งานในรายวชิ าคอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพ่ืองานอาชพี (Computer and Information for Work) รหสั วชิ า ๒๐๐๑-๒๐๐๑ โดยใช้วิธกี ารสง่ งานผ่านระบบห้องเรยี นออนไลน์ (Google Classroom) ของนักเรยี นระดบั ประกาศนยี บัตรวชิ าชพี ช้ันปีที่ ๑ สาขาวชิ าคอมพวิ เตอร์ธุรกิจ นางประเสรฐิ ศรี สทุ ธพิ นั ธ์ ครู สาขาวชิ าคอมพวิ เตอร์ธรุ กจิ วิทยาลัยการอาชพี นวมินทราชนิ มี กุ ดาหาร สาขาวชิ าคอมพิวเตอร์ธรุ กจิ สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2561
2 ก ซ่อื งานวจิ ยั การแก้ปัญหาการสง่ งานในรายวิชาคอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพือ่ งานอาชพี (Computer and Information for Work) รหัสวิชา ๒๐๐๑-๒๐๐๑ โดยใช้วิธีการส่งงานผ่านระบบ ห้องเรียน ออนไลน์ (Google Classroom) ของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชั้นปที ่ี ๑ สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกจิ ซ่ือผู้วจิ ยั นางประเสริฐศรี สุทธิพนั ธ์ สาขาวิชา คอมพวิ เตอรธ์ ุรกิจ บทคดั ย่อ การวิจัยในครั้งน้ีเป็นวิจัยเร่ือง การแก้ปัญหาการส่งงานในรายวิชาคอมพิวเตอร์และ สารสนเทศเพื่องานอาชีพ (Computer and Information for Work) รหัสวิชา ๒๐๐๑-๒๐๐๑ โดยใช้ วิธีการส่งงานผ่านระบบ ห้องเรียนออนไลน์ (Google Classroom) ของนักเรียนระดับประกาศนียบัตร วิชาชีพ ช้ันปีท่ี ๑ สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ซึ่งมีจุดประสงค์เพ่ือแก้ปัญหาการส่งงานของนักเรียน ระดับชั้นปีท่ี ๑ สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ โดยประชากรในการทาวิจัยคือ ช้ันปีท่ี ๑ สาขาวิชา คอมพิวเตอร์ธุรกิจ จานวน 32 คน ซ่ึงใช้ ระยะเวลาในการทาวิจัย ๑ ภาคเรียน คือ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖1 เคร่อื งมอื ท่ใี ช้ในการวิจัยครงั้ นี้ เปน็ เครอ่ื งมอื ท่ผี ู้จดั ทาได้สรา้ งขึ้นได้แก่ แบบประเมินความพงึ พอใจ ต่อการ ส่งงานผ่านระบบ google classroom และระบบ google classroom ท่ีเป็นเครือข่ายของ website google เครื่องมือของแบบประเมินความพึงพอใจเป็นแบบมาตรการประเมิน (Rating Scale) ๕ ระดับ ตามแนวคิดของ ลิเคิร์ท ข้อคาถามจานวน ๖ ข้อ โดยใช้เกณฑ์น้าหนักคะแนนประเมินค่าจัด อันดับความสาคัญ และสาหรับการ แปลความหมายใช้ค่าเฉลี่ยของค่าท่ีวัดได้และยึดแนวคิดของเบสท์ (Best, ๑๙๘๖ : ๑๙๕)การวิเคราะห์ข้อมูลจะใช้สถิติท่ีใช้วิเคราะห์ปริมาณการส่งงานของนักเรียน คือ ค่าเฉล่ีย ( ) และร้อยละ(%) ส่วนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านความพึงพอใจใช้สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลคือ คา่ เฉลี่ย ( ) ร้อยละ (%) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD) ผลการวิจัยพบวา่ จานวนนักเรยี นที่ไม่ Join Class คดิ เปน็ คา่ เฉลย่ี รวม ( =5) คิดเปน็ รอ้ ยละ 15.63 ของจานวนนกั เรยี นทัง้ หมด ความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อการส่งงานผ่านระบบ google classroom พบว่า นักเรียนมี ความพึงพอใจในการใช้ระบบ google classroom ในการส่งงานคิดเป็น ค่าเฉล่ีย ( =๔๙๘) และ (SD= ๐.๑๒) ซ่งึ อยใู่ นระดบั คณุ ภาพมากท่ีสุด สารบญั ข
บทคัดยอ่ 3 สารบญั บทที่ 1 บทนา ก ข ความเป็นมา และความสาคัญของปัญหา สมมตุ ิฐานการวิจยั 2 วตั ถุประสงคข์ องการวจิ ัย 3 ขอบเขตของการวจิ ัย 3 ประโยชนท์ ค่ี าดวา่ จะได้รบั 3 นยิ ามศัพท์เฉพาะ 3 บทที่ 2 เอกสารและวิจยั ท่ีเกย่ี วขอ้ ง 4 วิจัยในช้ันเรียน 6 อปุ สรรคของการทางาน 7 Google Classroom 9 คาอธบิ ายรายวิชา 11 บทที่ 3 วธิ ีการดาเนนิ งาน 11 ประชากร 11 ระยะเวลาที่ใช้ในการทางาน 11 เครือ่ งมือท่ีใช้ในการวจิ ัย 12 ข้ันดาเนนิ การ 12 การวเิ คราะหข์ ้อมูล สถิตทิ ่ีใช้ในการงวเิ คราะหข์ อ้ มูล 14 บทท่ี 4 ผลการวิจัย 16 ผลการวิจยั 17 18 บทที่ 5 สรุปผลการวจิ ัย อภปิ ราย และขอ้ เสนอแนะ สรปุ ผลการวิจยั 19 อภปิ รายผล ขอ้ เสนอแนะในการทาวจิ ยั ภาคผนวก
1 บทที่ 1 บทนา 1. ความเปน็ มาและความสาคญั ของปัญหา ในโลกและยุคสมัยปัจจุบนั ได้มีการพัฒนาเปล่ียนแปลงอยตู่ ลอดเวลา แตล่ ะประเทศมีการแข่งขัน สูงในทางด้านกิจการงานต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม การศึกษา เทคโนโลยี เป็นต้น ประเทศไทยเป็นประเทศหน่ึงที่อยู่ท่ามกลางกระแสการเปล่ียนแปลงน้ัน เพื่อให้สังคม ก้าวทันยุคสมัย สังคมไทยจึงต้องมีการปรับเปล่ียนระบบด้านการศึกษา เพ่ือเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างเสริมคุณลักษณะ นิสัย ปลูกฝังให้คิดเป็น ทาเป็น แก้ปัญหาเป็น มีความใฝ่เรียนใฝ่รู้ ศึกษาค้นคว้า ความรู้ได้จากส่ือส่ิงอานวย ความสะดวกทางด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ก่อให้เกิดความคิดที่ริเร่ิมสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นรากฐานของการทางานของประชากรในอนาคตที่เป็นคนยุค ใหม่ กา้ วทันโลกแห่งความเจริญในปัจจุบัน และอนาคต สามารถปรับตวั ให้อยู่รอด กา้ วทัน กา้ วหน้า กา้ ว นา การเปลยี่ นแปลงทางสงั คมได้อยา่ งมีคณุ ภาพ และยั่งยืน แผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ (ประจาปี ๒๕๖๐ - ๒๕๖๔) การเตรียมพร้อมด้าน กาลังคนและการเสริมสร้างศักยภาพของประชากรในทุกช่วงวัย โดยมุ่งเน้นการพฒั นาคนในทุกมิติและใน ทุกช่วงวัยให้เป็นทุนมนุษย์ท่ีมีศักยภาพสูง ภายใต้เงื่อนไขการเปล่ียนแปลงท่ีสาคัญได้แก่การเปลี่ยนแปลง ไปสู่โครงสร้างประชากรสังคมสูงวัยสมบูรณ์เมื่อสิ้นสุดแผนพัฒนาฯ ฉบับท่ี ๑๒ คุณภาพคนยังมีปัญหาใน ทุกช่วงวัยและส่งผลกระทบต่อเนื่องถงึ กนั ตลอดช่วงชวี ติ ผลลัพธ์ทางการศกึ ษาของ เด็กวัยเรียนค่อนช้างต่า ดงั น้ัน จดุ เน้นการพัฒนาคนทส่ี าคญั ในชว่ งแผนพฒั นาฯฉบับท่ี ๑๒ มีดังนี้ ๑) การพัฒนาเดก็ ให้มีสขุ ภาพกายและใจที่ดี มที ักษะทางสมอง ทักษะการเรยี นรู้ ทกั ษะชีวติ และ ทกั ษะทางสงั คม เพ่อื ให้เติบโตอย่างมีคณุ ภาพ ๒) การหล่อหลอมให้คนไทยมีค่านิยมตามบรรทัดฐานที่ดีทางสังคม คนไทยในทุกช่วงวัยเป็นคนดี มสี ุข วฒุ ิภาวะที่ดี มคี ุณธรรมจรยิ ธรรม มรี ะเบยี บวนิ ัย มีจติ สานกึ ที่ดตี ่อสังคมสว่ นรวม ๓) การพฒั นาทักษะความรู้ความสามารถของคน มงุ่ เนน้ การพฒั นาทกั ษะทเี่ หมาะสมในแต่ละช่วง วัย เพื่อวางรากฐานให้เป็นคนมีคุณภาพในอนาคต การพัฒนาทักษะสอดคล้องกับความต้องการใน ตลาดแรงงาน และทักษะท่ีจาเป็นต่อการดารงชีวิตในศตวรรษที่ ๒๑ ของคนในแต่ละช่วงวัยตามความ เหมาะสม เช่น เด็กวัย เรียนและวัยรุ่นพัฒนาทักษะการวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ มีความคิดสร้างสรรค์ รวมท้งั การให้ความสาคัญ กับการพฒั นาใหม้ ีความพรอ้ มในการตอ่ ยอดพัฒนาทกั ษะในทกุ ด้าน ๔) การเตรียมความพร้อมของกาลังคนด้านวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยใี นกลุ่มวิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยีที่จะเปลีย่ นแปลงโลกในอนาคตอยา่ งสาคญั ๕) การยกระดับคุณภาพการศึกษาสู่ความเป็นเลิศในทุกระดับและยกระดับการเรียนรู้ โดยเน้น การพัฒนาคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐานท้ังการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็ก ปรับระบบการจัดการ เรียน การสอน และการพฒั นาคุณภาพครูทั้งระบบ รวมทง้ั การยกระดับคณุ ภาพการศกึ ษาสู่ความเป็นเลิศ ใน สาขาวิชาที่มีความเช่ยี วชาญเฉพาะด้าน และพฒั นาระบบทวิภาคี ให้เอือ้ ตอ่ การเตรียมคนทีม่ ี ทกั ษะให้ พร้อมเข้าสู่ตลาดแรงงาน นอกจากนี้ต้องให้ความสาคัญกับการสร้างปัจจัยแวดล้อมท่ีเอื้อต่อการเรียนรู้ ตลอดชวี ิตทงั้ สอื่ การเรยี นรแู้ ละแหลง่ เรียนรทู้ ่หี ลากหลาย
2 พัฒนาเด็กวัยเรียนและวัยรุ่นให้มีทักษะการคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ มีความคิดสร้างสรรค์ มที กั ษะ การทางานและการใช้ชวี ติ ท่ีพรอ้ มเข้าสตู่ ลาดงาน ๑) ปรับกระบวนการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้เด็กมีการเรียนรู้จากการปฏิบัติจริงสอดคล้องกับ พัฒนาการ ของสมองแต่ละช่วงวัย เน้นพัฒนาทักษะพ้ืนฐานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีด้าน วศิ วกรรมศาสตร์ ด้านคณิตศาสตร์ ดา้ นศลิ ปะ และด้านภาษาตา่ งประเทศ ๒) สนับสนุนให้เด็กเข้าร่วมกิจกรรมทั้งในและนอกห้องเรียนที่เอ้ือต่อการพัฒนาทักษะชีวิตและ ทกั ษะการเรียนรู้อย่างต่อเนือ่ ง อาทิ การอา่ น การบาเพญ็ ประโยชน์ทางสังคม การดแู ลสุขภาพการทางาน ร่วมกันเปน็ กลุ่ม การวางแผนชีวิต ๓) สร้างแรงจูงใจให้เด็กเข้าสู่การศึกษาในระบบทวิภาคีท่ีมุ่งการฝึกทักษะอาชีพให้ พร้อมเข้าสู่ ตลาดงาน แผนงานการสร้างสภาพแวดล้อมให้เป็นแหล่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตมุ่งเน้นการพฒั นาพ้ืนที่แหล่ง เรียนรู้ให้มีชีวิต ทันสมัย มีคุณภาพและไดม้ าตรฐานสากลเพอ่ื ดึงดูดให้คน ทุกช่วงวัยเกิดความสนใจเขา้ ไป เรียนรูแ้ ละมสี ่วนรว่ มในการทากิจกรรมมกี ารศกึ ษาและพฒั นาแหลง่ เรียนรู้ รปู แบบใหมๆ่ ท่ีจะช่วยเพมิ่ พูน ศักยภาพคนไทยให้สามารถรองรับการเปล่ียนแปลงในอนาคต เช่น ห้องสมุด เสมือน (Virtual Library) ศูนย์ศึกษาบันเทิง (Edutainment Center) เป็นต้น การส่งเสริมการอา่ นการเรยี นรู้ ผ่านบริการห้องสมุด ในภูมิภาคที่ทันสมัย สร้างโอกาสให้กลุ่มเด็กเยาวชนสามารถเข้าถึงบริการได้อย่าง มีคุณภาพ สะดวกและ รวดเร็ว จัดให้มีเครือข่ายอุทยานการเรยี นรู้ในระดับจังหวัดและภูมิภาค รวมทั้งประสาน ความร่วมมือกบั ภาคีเครือข่ายในชุมชนเพ่ือพัฒนาพิพิธภัณฑ์ท้องถ่ินให้เป็นพื้นที่การเรียนรู้ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมด้วย รูปแบบท่ที ันสมัย การจดั การเรียนการสอนในรายวชิ าคอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพ่ืองานอาชพี (รหสั วชิ า ๒๐๐๑ - ๒๐๐๑) มีการเก็บคะแนนแบ่งออกเป็นสองส่วน คือ คะแนนเก็บระหว่างเรียน ๘๐ คะแนน และคะแนน คุณธรรมจริยธรรม ๒๐ คะแนน รวมเป็น ๑๐๐ คะแนน โดยคะแนนเก็บระหว่างเรียนมีสัดส่วนคะแนนท่ี มากกว่าร้อยละ ๘๐ ซึ่งมาจากการทาใบงานหรือช้ินงาน 6๐ คะแนน และการสอบทฤษฏี 2๐ คะแนน ดังนั้น การทา ใบงานหรือช้ินงานส่งครู จึงเป็นสิ่งสาคัญที่จะใช้ในการประเมินทักษะของนักเรียนในเรื่อง การจดั การเรยี นการสอนในรายวชิ าคอมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศเพอ่ื งานอาชีพ (รหัสวชิ า ๒๐๐๑ - ๒๐๐๑) ให้กับนักเรียนระดับช้ันประกาศนียบัตรวิชาชีพ ช้ันปีท่ี ๑ สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ วิทยาลัยการ อาชีพนวมินทราชินีมกุ ดาหาร ได้พบปญั หาและอุปสรรคจากการสง่ งาน เขน่ การส่งงานช้า หรอื ไมส่ ง่ งาน ของนักเรียน อย่บู อ่ ยครัง้ ซึ่งทาให้ครูไม่สามารถวดั ทกั ษะและความก้าวหน้าของนกั เรยี นได้ ดงั นั้นครูผู้สอน จึงมีความ ต้องการท่ีจะแก้ไขปัญหาดังกล่าว ผู้วิจัยจึงได้จัดทาวิจัยแกป้ ัญหาการส่งงานโดยลดอุปสรรคใน การส่งงานแบบ ปกติให้ส่งผ่าน Google Classroom ท่ีสามารถส่งงานได้ตลอดเวลาและทุกที่ที่นักเรยี นมี สัญญาณอนิ เตอรเ์ นต็ เพ่อื ให้การเรยี นการสอนมผี ลสมั ฤทธิ์และประสิทธภิ าพที่สงู ช้นิ 2. สมมุตฐิ านการวจิ ัย สถิติปริมาณการส่งงานของนักเรียนระดับช้ันประกาศนียบัตรวิชาชีพ ช้ันปีที่ ๑ สาขาวิชา คอมพิวเตอร์ธุรกิจ วิทยาลัยการอาชีพนวมินทราชินีมุกดาหาร ระหว่างการส่งงานแบบปกติ และการส่ง งานผา่ น Google Classroom มคี วามแตกต่างกัน
3 3. วตั ถุประสงคข์ องการวจิ ยั เพื่อแก้ปัญหาการส่งงานของนักเรียนระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพ ช้ันปีท่ี ๑ สาขาวิชา คอมพวิ เตอรธ์ ุรกจิ วทิ ยาลยั การอาชพี นวมินทราชินีมุกดาหาร 4. ขอบเขตของงานวิจัย 1. ประชากรในการทาวิจัยคือ นักเรียนระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพ ช้ันปีที่ ๑ สาขาวิชา คอมพิวเตอร์ธุรกิจ วทิ ยาลัยการอาชีพนวมินทราชนิ มี กุ ดาหาร จานวน 32 คน ๒. ระยะเวลาคือ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖1 5. ประโยชนท์ คี่ าดวา่ จะไดร้ บั ๑. ได้รับแนวทางแกไขปัญหาการจัดการเรียนการสอนของการส่งงานนักเรียน ทาให้การเรียน การสอนมปี ระสิทธภิ าพมากยิง่ ขึ้น ๒. เป็นแนวทางในการแกป้ ัญหาการส่งงานของนักเรยี นให้กับครูผูส้ อนในรายวิชาอน่ื ๆ 6. นิยามศพั ท์เฉพาะ อุปสรรค หมายถึง เครื่องขัดข้อง ความขัดข้อง หรือเครื่องขัดขวาง เช่น อุปสรรคทาให้เรา แขง็ แกรง่ ขึ้น คนทีไ่ ม่เคยเผชญิ อปุ สรรคจะไม่รจู้ ักความสามารถที่แท้จริงของตนเลย งาน หมายถึง แบบฝกึ หัดท่ีครูใหใ้ นช่ัวโมงเรียน แบบฝกึ หัดท่คี รูให้เปน็ การบา้ น ใบงาน รวมถงึ การ ทางานเป็นกลมุ่ และขึ้นงาน Classroom หมายถึง บริการบนเว็บฟรีสาหรับโรงเรียน องค์กรการกุศล และทุกคนท่ีมีบัญชี Google ส่วนบุคคล และ Classroom ยังช่วยให้ผู้เรียนและผู้สอนเชื่อมต่อถึงกันได้ง่าย ท้ังภายในและ ภายนอก โรงเรยี น Join Class หมายถึง การเข้าร่วมชนั้ เรยี นผ่านระบบ Google Classroom
4 บทที่ ๒ งานวิจัยทีเ่ กีย่ วขอ้ ง แนวทางในการจดั ทาวจิ ยั ในเร่อื ง การแกป้ ัญหาการสง่ งานในรายวชิ าคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ เพ่ืองานอาชีพ (Computer and Information for Work) รหัสวิชา ๒๐๐๑-๒๐๐๑ โดยใช้วิธีการส่งงาน ผา่ น ระบบห้องเรียนออนไลน์ (Google Classroom) ของนักเรียนระดบั ประกาศนียบัตรวชิ าชพี ช้นั ปีท่ี ๑ สาขาวิชาคอมพิวเตอรธ์ ุรกจิ ผู้วิจัยจึงศึกษาเอกสารและงานวจิ ัยท่ีเก่ียวขอ้ งโดยเสนอตามลาดบั หัวข้อดังน้ี ๑. วจิ ัยในชน้ั เรียน ๒. อุปสรรคของการทางาน ๓. Google Classroom 4. คาอธิบายรายวชิ า ๑. วจิ ยั ในชนั้ เรียน ความหมายของวิจัยในชนั้ เรียน การวิจัยในชั้นเรียนเป็นรูปแบบของการวิจัยทางการศึกษาอีกรูปแบบหน่ึงซ่ึงเป็นการวิจัยท่ี ดาเนินการควบคู่ไปกับการปฏิบัติงานของครู โดยมีครูเป็นนักวิจัย ทั้งผลิตงานวิจัย และบริโภคงานวิจัย หรือกล่าวอีกนยั หน่งึ คือ ครูเป็นผทู้ าการวจิ ยั และนาผลการวิจยั ไปใช้ ดว้ ยลกั ษณะของการวิจยั ในช้นั เรยี นจึง มีนักศึกษาและนักวิจัยหลายท่านได้ให้ความหมายของการวิจัยในช้ันเรียนไว้หลากหลายโดยเน้นการวิจัย ทางการศึกษาและปฏิบตั ิการในห้องเรียนดงั นี้ การวิจัยในช้ันเรียน หากแปลความหมายโดยการแยกคาหลัก ๆ จะเห็นได้ว่าประกอบด้วยคาว่า \"การวิจัย\" และ\"ช้ันเรียน\" ซ่ึงการวิจัยน้ันในบทท่ี ๑ได้อธิบายความหมาย ความสาคัญ และหลักการไวแ้ ลว้ ส่วนคาว่าชั้นเรียน หากส่ือตามความหมายท่ีเกี่ยวข้องจะเห็นได้ว่าส่ือถึง ครู นักเรียน ดังนั้นหากหมาย รวมกนั แล้วจะเห็นได้ว่า การวจิ ัยในช้นั เรยี น จะหมายถงึ การวิจยั ทีเ่ กย่ี วข้องกับครูหรอื นักเรยี น นอกจากนี้ ความหมายของการวิจัยในช้ันเรียนนัน้ ไดม้ ีนกั วิชาการ ได้นยิ ามความหมายทคี่ ลา้ ยคลงึ กันดงั น้ี (Field, ๑๙๙๗ อ้างถึงในสภุ า/รา เออื้ วงศ์ ออนไลน์ ๒๕๕๔) การวิจยั ในช้นั เรยี น เปน็ การวิจัยเพ่ือ หานวัตกรรมสาหรับแก้ปัญหาหรือเพ่ือพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน ซึ่งเน้นในลักษณะการวิจัย เชิง ปฏิบตั กิ าร (Action Research) โดยมีปญั หาการเรียนรเู้ ปน็ จุดเร่ิมต้น ผูส้ อนหาวธิ กี าร หรือนวตั กรรม เพื่อ แก้ปัญหา มีการสังเกตและตรวจสอบผลของการแก้ปัญหา/การพัฒนา แล้วจึงบันทึกและสะท้อนการ แก้ปัญหาหรือการพัฒนาน้ันๆ การวิจัยในชั้นเรียนมักเป็นการวิจัยขนาดเล็ก (Small scale) ที่ดาเนินการ โดย ผสู้ อน เปน็ กระบวนการทผ่ี ู้สอนสะทอ้ นการปฏิบตั ิงาน และเสริมพลังอานาจให้ครูผสู้ อน (รัตนะ บัวสนธ์,๒๕๔๔) การวิจัยในช้ันเรียน เป็นการแก้ปัญหาและ /หรือพัฒนางานท่ีเกี่ยวกับ การเรียนการสอนในชั้นเรียนโดยอาศัยกระบวนการวิจัยในการดาเนินงานท้ังนี้มีเป้าหมายสาคัญท่ีอยู่ท่ี การเรียนรู้ที่สาคญั ของผูเ้ รียนใหเ้ ปน็ ไปตามวตั ถุประสงค์ท่ีกาหนดไว้ในหลกั สูตรการศึกษาในแตล่ ะระดบั (ส. วาสนา ประวาลพฤกษ์,๒๕๔๑)การวิจัยในชั้นเรียน เป็นวิธีการศึกษาค้นคว้าที่สะท้อนตัวครู และกลุ่มผู้ร่วมปฏิบัติงานในสถานการณ์สังคม เพ่ือค้นหาลักษณะท่ีเหมาะสมของรูปแบบการพัฒนา คุณภาพ การปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับภาวะของสังคมหรือสถานการณ์ ด้วยความร่วมมือของเพ่ือนครู ผ้บู รหิ าร สถานศกึ ษา ผู้ปกครอง ตลอดจนสมาชกิ ในสังคมท่ีเกีย่ วขอ้ ง มีจุดมุง่ หมายเพื่อพนิ จิ พิเคราะห์การ
5 กระทาของ ตนเองและกลมุ่ เพ่ือพฒั นาเพิม่ พนู ความรู้เกยี่ วกับหลกั สตู รการสอนและการเรียนรู้ อนั เป็นผล จากการ เปลย่ี นแปลงแบบมแี ผน ดังน้นั การวจิ ัยในชน้ั เรียน จงึ ไมใ่ ชเ่ ป็นเพียงการแก้ปัญหา แต่จะเป็นการ ตั้งปัญหาจากแรงกระตุ้นของผู้วิจัยที่ต้องการเปลี่ยนแปลงพัฒนา แล้วปฏิบัติสังเกต สะท้อนกลับเป็นวัฏ จกั รของการวจิ ัยท่หี มุนไปเรือ่ ย ๆ เพื่อการเปลีย่ นแปลงทยี่ งั่ ยนื และสรา้ งภาพลักษณ์ของการเรียนการสอน ให้มีคุณภาพย่ิงขนึ้ ส่วนความสาคัญของการวิจัยในชั้นเรยี นนั้นจะเห็นได้ว่าการวิจัยในช้ันเรียนนั้นมุ่งแก้ปัญหาและ/ หรือ พัฒนางานท่ีเกี่ยวกับการเรียนการสอนในช้ันเรียน ซึ่งต้องบังเกิดประโยชน์แก่นักเรียนให้ในการ พัฒนา การเรียนรู้อยู่แล้ว และต้องส่งผลต่อผลงานของครูผู้สอนและโรงเรียนตามมา และนอกจากน้ีการ วิจัยในช้ัน เรียนนี้ยังสอดคล้องกับแนวทางของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ หมวด๔ แนวการจัด การศึกษา มาตรา ๒๔(๕) ส่งเสรมิ สนับสนนุ ใหค้ รผู ูส้ อนสามารถจัดบรรยากาศ สภาพแวดล้อม ส่ือการเรียนรู้ และมีความรอบรู้ รวมทั้งสามารถใช้การวิจัยเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้ ทั้งนี้ ผู้สอนและผู้เรียนอาจ เรียนรู้ไปพร้อมกันจากการเรียนการสอนและแหล่งวิทยาการประเภทต่างๆ มาตรา ๓๐ ส่งเสริมให้ผู้สอน สามารถวิจัยเพื่อพัฒนาการเรยี นรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียนในแต่ละระดับการศึกษาใน หลักสูตรการศึกษา ช้ันพื้นฐาน พ.ศ. ๒๕๔๔ ได้กล่าวถึงการวิจัย ในกระบวนการจัดการศึกษา ของ ผู้เกี่ยวข้อง ดังเช่น ศึกษา ค้นคว้า วิจัยเพื่อพัฒนาสื่อการเรียนรู้ไห้สอดคล้องกับกระบวนการเรียนรู้ของ ผู้เรียน ให้ผู้สอนนา กระบวนการวิจัยมาผสมผสานหรือบูรณาการใช้ในการจัดการเรียนรู้เพ่ือพัฒนา คุณภาพของผู้เรียนและเพื่อให้ ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้สามารถใช้กระบวนการวิจัยเป็นส่วนหนึ่งของ กระบวนการเรียนรู้ สุวัฒนา สุวรรณเขตนิค (๒๕๕๕) กล่าวว่า การวิจยั ในชั้นเรียน คือ กระบวนการแสวงหาความรู้อัน เป็น ความจริงที่เชอื่ ถือได้ในเน้อื หาเกีย่ วกับการพัฒนาการจดั การเรียนการสอน เพือ่ พัฒนาการเรยี นรขู้ อง นักเรียน ในบริบทของชั้นเรียน การวิจัยในชั้นเรยี นมีเป้าหมายสาคัญอยู่ท่ีการพัฒนางานการจัดการเรียน การสอนของครู ลักษณะของการวิจัยเป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research) คือ เป็นการวิจัย ควบคู่ไปกับ การปฏิบัติงานจริง โดยมีครูเป็นทั้งผู้ผลิตงานวิจัย และผู้บริโภคผลการวิจัย หรือกล่าวอีกนัย หนึ่งคือ ครเู ป็น นักวจิ ยั ในชัน้ เรยี นครนู ักวจิ ยั จะตงั้ คาถามท่ีมีความหมายในการพัฒนาการจัดการเรยี นการ สอน แลว้ จะวางแผน การปฏิบตั ิงานและการวิจัย หลักจากนนั้ ครจู ะดาเนินการการจดั การเรยี นการสอนไป พร้อม ๆ กับทา การจัดเก็บข้อมูล ตามระบบข้อมลู ที่ได้วางแผนการวิจัยไว้ นาข้อมูลท่ีได้มาวิเคราะห์สรุป ผลการวจิ ยั นาผลการวิจัยไปใช้ในการพฒั นาการจัดการเรยี นการสอนแล้วพัฒนาข้อความรทู้ ีไ่ ดน้ น้ั ตอ่ ไปให้ มีความถูกต้อง เป็นสากลและเป็นประโยชน์มากยงิ่ ขึ้นต่อการพัฒนาการเรยี นการสอนเพ่ือพัฒนานักเรียน ของครูใหม้ ีคณุ ภาพ ยง่ิ ๆ ข้นึ ไป โดยท่ัวไปแล้วประชากรเป้าหมายของการวิจัยในช้ันเรียนจะถูกจากัดเป็นกลุ่มนักเรียนในความ รับผิดชอบของครูนักวจิ ยั เท่านั้น และขอ้ ความรู้ทไี่ ด้มักจะมคี วามเฉพาะคอื จะเกี่ยวกับสภาพปญั หาและผล การพฒั นานักเรยี นในชน้ั เรยี นของครูนักวิจยั เป็นสาคัญ สรุปได้ว่าวิจัยในชั้นเรยี นคือ การค้นคว้าเพื่อแก้ไขปญั หาของครูและนกั เรียน ในการจัดการเรียน การสอนเพ่ือให้บรรลุซ่ึงเป้าหมายและพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพที่ดีย่ิงข้ึน โดยมีการวางแบบแผน การ ปฏิบัติการอย่างมีระบบ ช้ันตอนและสืบค้นหาข้อมูลเพ่ือนามาแก้ไขปัญหาเหล่าน้ันที่เกิดในชั้นเรียนของ ครผู ู้สอน
6 ความสาคญั ของวจิ ยั ในชน้ั เรียน สุวัฒนา สุวรรณเขตนิคม (๒๕๕๕) กล่าวว่า การทาวิจัยในช้ันเรียนนั้นจะช่วยให้ครูมีวิถีชีวิตของ การทางานครูอย่างเป็นระบบเห็นภาพของงานตลอดแนว มีการตัดสินใจท่ีมีคุณภาพ เพราะจะมองเห็น ทางเลือกต่าง ๆ ได้กว้างขวางและลึกซ้ึงขึ้น แล้วจะตัดสินใจเสือกทางเสือกต่าง ๆ อย่างมีเหตุผลและ สร้างสรรค์ ครูนักวิจัยจะมีโอกาสมากขึน้ ในการคิดใคร่ครวญเก่ียวกบั เหตุผลของการปฏิบัติงานและครจู ะ สามารถบอกได้ว่า งานการจัดการเรียนการสอนที่ปฏิบัติน้ันได้ผลหรือไม่เพราะอะไร นอกจากน้ีครูท่ีใช้ กระบวนการวิจัยในการพัฒนากระบวนการเรียนการสอนน้ีจะสามารถควบคุม กากับ และพัฒนาการ ปฏิบตั งิ านของตนเองได้ อยา่ งดี เพราะการทางาน และผลของการทางานนน้ั ลว้ นมคี วามหมาย และคุณค่า สาหรับครูในการพัฒนา นักเรียน ผลจากการทาวิจัยในช้ันเรียนจะช่วยให้ครูได้ตัวบ่งช้ีท่ีเป็นรูปธรรมของ ผลสาเร็จในการปฏิบัตงิ าน ของครู อนั จะนามาซึ่งความรใู้ นงานและความปีติสุขในการปฏิบัตงิ านท่ีถูกต้อง ของครู เป็นที่คาดหวังว่า เมื่อครูผู้สอนได้ทาการวิจัยในชั้นเรียนควบคู่ไปกับการปฏิบัติงานสอนอย่าง เหมาะสมแลว้ จะก่อใหเ้ กดิ ผลดตี อ่ วงการศึกษา และวชิ าชีพครอู ยา่ งนอ้ ย ๓ ประการ คอื ๑. นกั เรยี นจะมกี ารเรียนรูท้ ่ีมีคณุ ภาพและประสทิ ธิภาพย่งิ ข้ึน ๒. วงการวิชาการการศึกษาจะมีข้อความรู้และ/ หรือนวัตกรรมทางการจัดการเรียนการสอนท่ี เป็นจริง เกิดมากขึ้นอันจะเป็นประโยชน์ต่อครูและเพ่ือนครูในการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนเป็น อย่างมาก ๓. วิถีชีวิตของครู หรือวัฒนธรรมในการทางานของครู จะพัฒนาไปสู่ความเป็นครูมืออาชีพ (Professional Teacher) มากยงิ่ ข้ึนทงั้ นเ้ี พราะครนู ักวจิ ยั จะมีคุณสมบตั ขิ องการเป็นผู้แสวงหาความรู้หรือ ผู้เรียน (Learner) ในศาสตร์แห่งการสอนอย่างต่อเน่ืองและมีชีวิตชีวา จนในที่สุดก็จะเป็นผู้ท่ีมีความรู้ ความเข้าใจท่ีกว้างขวาง และลึกซ้ึงในศาสตร์และศิลป์แห่งการสอนเป็นครูท่ีมีวิทยายุทธ์แกร่งกล้าในการ สอน สามารถที่จะสอนนักเรยี นให้พัฒนากา้ วหนา้ ในด้านตา่ ง ๆ ในหลายบรบิ ทหรือที่เรยี กว่าเปน็ ครูผู้รอบรู้ หรือปรมาจารย์ (Maser Teacher) ซ่ึงถ้ามีปริมาณครูนักวิจัยดังกล่าวมากข้ึนจะช่วยให้การพฒั นาวิชาชีพ ครูเปน็ อย่างสร้างสรรคแ์ ละมัน่ คง สรุปได้ว่าการจัดทาวิจัยในชั้นเรียนจะช่วยให้ครูสามารถวิเคราะห์ถึงปัญหาของผู้เรียนและ วเิ คราะห์ได้ ถึงปญั หาในการจดั การเรียนการสอนของครผู สู้ อนไดอ้ ย่างลึกซงึ้ เนือ่ งจากครูผู้สอนจะสามารถ รู้และเข้าใจถึง ปัญหาที่เกิดกับผู้เรียนได้โดยตรง เมื่อทราบถึงปัญหาครูผู้สอนสามารถทาการวิจัยเพ่ือสืบ ค้นหาหนทางหรอื วธิ ีการแก่ไขไดอ้ ย่างตรงเป้าหมายทาใหผ้ ู้เรียนมปี ระสทิ ธิภาพและคุณภาพทีด่ มี ากยิง่ ข้ึน ๒. อุปสรรคของการทางาน 2.1 ขาดความพร้อมในการทางาน บางคนมาทางาน แต่ยงั ทาตวั เป็นเดก็ ๆ ทางานแบบเด็ก ๆ ไมม่ คี วามรับผิดชอบมากพอ เมอื่ คุณ ก้าว เข้าสู่โลกของการทางาน คุณควรบอกตัวเองว่าตอนนี้คุณคือผู้ใหญ่แล้ว คุณไม่ใช่เด็กอีกต่อไป คุณจะต้อง รบั ผดิ ชอบงานทไ่ี ด้รบั มอบหมายอย่างเต็มความสามารถ อย่าลมื วา่ คณุ จะตอ้ งพิสจู นใ์ ห้นายจ้าง เหน็ วา่ คณุ มี ความสามารถและสามารถผา่ นการทดลองงานได้
7 ๒.๒ ไม่ชานาญในงานทที า เนื่องจากคุณเพ่ิงเรียนจบ และงานที่คุณได้รับมกั เป็นสิ่งที่แปลกใหม่ ไม่เคยทา ไม่เคยเรียนมา ก่อน เรื่องความชานาญจึงเป็นอุปสรรคอย่างหน่ึง คุณอาจรู้สึกว่างานยากเกินไปสาหรับคุณ แต่เม่ือคุณ เรียนร้มู นั สัก ระยะหนึ่ง คณุ จะรสู้ กึ ชนิ กับมัน และสามารถทางานไดอ้ ย่างสบายใจขน้ึ ๒.๓ ขาดกาลังใจ เวลาท่ีเจอกับงานยาก บางครั้งคุณอาจรู้สึกท้อแท้และหมดกาลังใจ จนคิดว่าคุณไม่มี ความสามารถคุณไม่อาจทามันให้สาเร็จได้อย่างที่นายจ้างต้องการ หากความรู้สึกน้เี กิดข้ึน คุณควรจะเติม ความมั่นใจให้ตัวเองใหเ้ ต็ม และหมัน่ เติมอยู่เรือ่ ย ๆ อย่าปลอ่ ยให้ความรู้ลึกขาดกาลังใจมาบัน่ ทอนคุณ ถ้า นายจ้างคณุ คิดว่าคณุ ทาไม่ได้ เขาคงไม่ให้คุณทางานนีห้ รอก ดงั น้ัน เมอ่ื เขามนั่ ใจในตัวคุณ แล้วไยคณุ ถึงไม่ ม่นั ใจในตัวเองล่ะ ๒.๔ ทีมไม่เวิรก์ การทางานเป็นทีมคือการรวมตัวของคนหลายคน จึงต้องมีการปรับตัวให้ทุก ๆ คน สามารถ ทางาน รว่ มกันไดอ้ ย่างราบร่ืน แต่กอ็ าจมีบอ่ ยครงั้ ที่คนในทีมทางานคล่อมจงั หวะกนั บางคนช้าเกินไป บาง คนเรว็ เกินไป ควรจะตอ้ งมกี ารตกลงทาความเข้าใจว่าจะทางานกนั อยา่ งไร จงึ จะทาให้ทีมของคุณประสบ ความสาเรจ็ ๒. ๕ ขาดมนุษยสัมพันธ์ที่ดี คนท่ีเป็นพนักงานใหม่ แน่นอนจะต้องเป็นฝ่ายท่ีเข้าหาผู้อื่น เพ่ือ แนะนาตัวคุณให้ผู้อื่นรู้จัก และขอ คาแนะนาจากพวกเขา เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่งคุณก็จะมีเพื่อน มากมาย ที่เขาสามารถให้คาแนะนา และช่วยเหลือคุณในเรื่องต่าง ๆ ได้ แต่ส่ิงที่เป็นปัญหาคือ พนักงาน ใหม่บางคนขาดมนุษย์สัมพนั ธ์ที่ดีกบั ผู้อื่น ไม่ว่าจะด้วยความขี้อาย พูดน้อย หรือม่ันใจในตัวเองมากจนไม่ สนใจผูอ้ นื่ คดิ วา่ ตนเองสามารถอยู่คนเดียว ทางานคนเดียวได้ จึงทาตวั ไม่นา่ รกั ไม่นา่ เอ็นดู และในท่ีสุดก็ จะถูกโดดเด่ียวจากเพ่ือนร่วมงาน ในทางกลับกัน คนท่ีรู้จักเข้าหาผู้อ่ืน มีนิสัยร่าเริง เข้ากับคนง่าย มักจะ เปน็ ท่รี ักของคนในทท่ี างาน เม่อื ตอ้ งการความชว่ ยเหลือ ใด ๆ กจ็ ะมีแต่คนยินดใี หค้ วามช่วยเหลอื สรุปได้ว่าการอุปสรรคในการทางานมีปัจจัยจากภายนอกในหลายด้านทาให้ผู้ทางานไม่สามารถ ทางาน ให้บรรลสุ เู่ ป้าหมายของตนเองทว่ี างไวไ้ ด้ ไม่ว่าจะเป็นดา้ นความพรอ้ มในการทางาน งานท่ที านั้นไม่ มคี วาม ชานาญหรอื ความรู้เกีย่ วกับงานที่ทา ไมม่ กี าลงั ใจต่องานที่ทาหรือเกิดจาการที่ทางานนน้ั ไม่ได้แล้ว เกิดความ ท้อแท้ส้ินหวัง ทีมหรือกลุ่มท่ีทางานร่วมกันไม่มีความสามัคคีขาดการวางแผนและร่วมมือกัน และขาด มนุษยสมั พันธท์ ี่ดีทาให้ไมไ่ ดร้ ับการช่วยเหลือจากผูอ้ ืน่ และทางานไดล้ ่าชา้ ลงในทสี่ ุด ๓. Google Classroom Classroom คือบริการบนเว็บฟรสี าหรบั โรงเรียน องค์กรการกุศล และทุกคนท่ีมีบัญชี Google ส่วนบุคคล และ Classroom ยังช่วยให้ผู้เรียนและผู้สอนเช่ือมต่อถึงกันได้ง่าย ท้ังภายในและภายนอก โรงเรียน ตัง้ คา่ ง่าย ครสู ามารถสรา้ งชนั้ เรียน เชญิ นักเรยี น และผสู้ อนร่วม จากนน้ั ครูจะสามารถแชร์ขอ้ มูล ต่างๆ ได้แก่ งาน ประกาศ และคาถามในสตรมี ของช้นั เรียนได้ ประหยดั เวลาและกระดาษ ครูสามารถสรา้ งชั้นเรียน แจกจ่ายงาน สื่อสาร และจดั รายการต่างๆ ให้เปน็ ระเบียบอยู่เสมอได้ในท่ีแห่งเดียว จดั ระเบียบไดด้ ีข้ึน นักเรียนสามารถดูงานได้ในหน้างาน ในสตรีมของช้ันเรยี น หรอื ในปฏทิ ินของ ชัน้ เรยี น โดยเนือ้ หาประกอบทง้ั หมดของชั้นเรยี นจะเก็บไว้ในโฟลเดอร์ Google ไดรฟ์ โดยอตั โนมัติ
8 คณุ ลักษณะและประโยชนข์ อง Classroom Classroom เป็นชุดเคร่อื งมือเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพทใ่ี ชง้ านได้ฟรี โดยมที ง้ั อเี มล์ เอกสาร และพนื้ ทเ่ี กบ็ ข้อมลู Classroom ผ่านการออกแบบมาร่วมกบั ครเู พือ่ ช่วยประหยัดเวลา จัดชน้ั เรียนให้เปน็ ระเบยี บ และปรบั ปรงุ การ สื่อสารกับนกั เรียน ผู้ใช้ ส่ิงท่คี ณุ ทาไดโ้ ดยใช้ Classroom ครู สร้างและจัดการชน้ั เรยี น งาน และคะแนน แสดงความคิดเหน็ และให้คะแนนไดโ้ ดยตรงในแบบเรยี ลไทม์ นักเรียน ติดตามงานของชั้นเรยี นและเนือ้ หาประกอบการเรียน ผปู้ กครอง แบง่ บน่ แหล่งข้อมลู หรือโต้ตอบกบั เพ่อื นร่วมชัน้ ในสตรมี ของชัน้ เรียนหรอื ทางอีเมล์ ส่งงาน รบั ความคดิ เห็นและคะแนน รับอีเมล์สรุปงานของนักเรียน ซ่ึงอีเมล์สรปุ น้จี ะมขี อ้ มูลเกยี่ วกบั งานทไี่ ม่ได้ส่ง งานทีใ่ กลค้ รบ กาหนด และกิจกรรมของช้นั เรียน หมายเหตุ: ผูป้ กครองไมส่ ามารถลงชอื่ เขา้ ใช้ Classroom ได้โดยตรง แต่ตอ้ งรบั อเี มลส์ รปุ ผา่ น บญั ชอี ่นื ผ้ดู แู ล สร้าง ดู หรือลบชั้นเรยี นในโดเมน ระบบ เพิ่มหรือนา่ นักเรียนและครูออกจากช้ันเรียน ดูงานในชน้ั เรียนทกุ ชัน้ ในโดเมน เพิ่มนกั เรียนไดง้ ่าย นักเรียนสามารถเขา้ ร่วมชั้นเรียนโดยใชร้ หสั ทาให้คุณมเี วลาในการสอนมากขึ้น จดั การหลายชน้ั เรยี น นา่ ประกาศ งานทม่ี อบหมาย หรือคาถามที่มอี ยแู่ ลว้ จากช้ันเรียนอื่นมาใช้ได้ การส่ือสารและการแสดงความคิดเห็นทป่ี รับปรุงข้ึน ครูสามารถสร้างงาน สง่ ประกาศ และเริ่ม การ อภิปรายในชั้นเรียนได้ทันที นักเรียนก็สามารถแบ่งแหล่งข้อมูลร่วมกับเพ่ือนๆ และโต้ตอบกันได้ใน สตรีม ของชั้นเรียนหรือผ่านทางอีเมล์ ครูสามารถดูได้อย่างรวดเร็วว่าใครทางานเสร็จหรือไม่เสร็จบ้าง ตลอดจน สามารถแสดงความคิดเห็นและให้คะแนนโดยตรงไดแ้ บบเรยี ลไทม์ ใช้ได้กับแอปท่ีคุณใช้อยู่ Classroom ใช้ได้กับ Google เอกสาร, ปฏิทิน, Gmail, ไดร์ฟ และ ฟอร์ม ประหยัดและปลอดภัย Classroom ให้คุณใช้งานฟรี ไม่มีโฆษณา และไม่ใช้เน้ือหาของคุณหรือ ขอ้ มูล ของนักเรยี นเพื่อการโฆษณาแชร์กับชนั้ เรียนตา่ งๆ และเกบ็ ชั้นเรียนไว้เพ่ือนาข้อมูลมาใช้ในอนาคต รว่ มกนั สอน สอนหลกั สูตรรว่ มกับผู้สอนคนอน่ื ๆ ไดถ้ งึ ๒๐ คน แผ่นงานแบบคลกิ เดยี ว สร้างเอกสารแยกสาหรบั นกั เรยี นแตล่ ะคนได้เพยี งคลิกเดียวโดยใช้เทม เพลตแผ่นงาน งานท่ีมีส่ือการสอนหลายรูปแบบ ใส่ส่ือต่างๆ ในงานที่มอบหมาย เช่น วิดีโอ YouTube, แบบสารวจ Google ฟอร์ม, PDF และรายการอนื่ ๆ จากไดร์ฟ ครูและนักเรียนสามารถวาด เขียนโน้ต และไฮไลสใ์ น เอกสารและไฟล์ PDF ในแอป Classroom ในอุปกรณเ์ คลอ่ื นท่ีได้ ปรับแต่งงานที่มอบหมาย ใส่วันที่ครบกาหนด จัดทาค่าคะแนนที่กาหนดเอง และติดตามได้ ว่าให้ คะแนนงานใดแลว้ บ้าง
9 เตรียมการสอนล่วงหน้า จัดทาโพสต์และงานฉบบั ร่าง หรือกาหนดเวลาให้โพสต์ในสตรีมของชั้น เรียน ในวนั เวลาอน่ื โดยอัตโนมัติ คาถามท้ายบทเรียนและแบบสารวจความคิดเห็นด่วน โพสต์คาถามถึง'นักเรียน จากน้ันดู ผลลพั ธ์ใน Classroom ปรับธมี ของช้นั เรียน เปลย่ี นสีเร่ิมตน้ หรือภาพธมี เร่ิมตน้ ของชนั้ เรยี น เก็บทรัพยากรไว้ในที่เดียว จัดทาหน้าทรัพยากรของช้ันเรียนเพ่ือเก็บเอกสาร เช่น ประมวล รายวิชา หรอื กฎของชั้นเรยี น จัดระเบียบให้นักเรียน Classroom จะสร้าง Google ปฏิทินให้กับช้ันเรียนแต่ละช้ันและบันทึก งานและวนั ท่คี รบกาหนดลงในปฏิทนิ นักเรียนสามารถดูงานที่กาลงั จะครบกาหนดส่งในสตรีมของชนั้ เรียน ในหน้างานของตัวเอง หรอื ในปฏิทินของชัน้ เรยี นได้ จัดระเบียบให้ครู ตรวจทานงานของนักเรียน ทั้งงานท่ีมอบหมาย คาถาม คะแนน และความ คิดเหน็ เก่าๆ ดูงานแบบทีละช้นั เรียนหรือทกุ ช้นั เรียนพรอ้ มกัน และจัดเรียงตามงานที่ตอ้ งตรวจทาน จัดระเบียบใหช้ ้ันเรียน ครสู ามารถจัดระเบียบสตรีมของชั้นเรียนได้โดยการเพ่ิมหัวข้อลงในโพสต์ และกรองสตรีมตามหวั ขอ้ ให้คะแนนได้ง่ายและเร็ว จัดเรียงนักเรียนตามชื่อหรือนามสกุล ดูว่าใครส่งงานแล้ว ร่างคะแนน คร่าวๆ เพอ่ื แชรก์ ับนักเรียนในภายหลัง และเพม่ิ ความคดิ เห็นสว่ นตวั นอกจากนี้ยงั สามารถเพมิ่ คาอธิบาย ประกอบ และความคดิ เห็นแบบรูปภาพสาหรบั งานของนักเรียนได้ในแอป Classroom ในอุปกรณ์เคลื่อนท่ี โอนคะแนน ส่งออกคะแนนสรุปสดุ ทา้ ยเป็น Google ชีตหรอื ไฟล์ CSV เพอื่ นาไปอปั โหลดท่อี น่ื รวมกับเครื่องมือการสอนอน่ื ๆ ทช่ี อบ ซิงค์ชัน้ เรยี น,โน Classroom กบั แอปพลิเคชันของพาร์ทเนอร์ งานเดี่ยว ครูสามารถโพสต์งานและประกาศถึงนักเรยี นแต่ละคนในชั้นเรยี นได้ ดังนั้นการทางาน ผ่านระบบ Google Classroom จะเป็นการทางานท่ีง่ายผ่านเครือข่ายระบบ อินเตอร์เน็ต ซ่ึงสามารถ เช่ือมต่อการทางานระหว่างครู นักเรียน และผู้ปกครองได้ง่ายไม่ว่าจะอยู่นอกโรงเรียน นักเรียนสามารถ ตรวจสอบงาน ส่งงานครูผ่านระบบออนไลน์ Google Classroom นี้ได้ตลอดเวลาไม่ว่า นักเรียนจะอยู่ท่ี ไหนกจ็ ะสามารถสง่ งานได้ทันและครบตามกาหนดโดยไมจ่ าเปน็ ที่จะต้องมาสง่ กับครูด้วยตนเอง ลดปญั หา การหาครไู ม่เจอ ส่งงานไม่ทันเวลา หรอื สง่ งานไมค่ รบ 3. คาอธบิ ายรายวิชา รหัสวชิ า 2001-2001 วชิ าคอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชพี 1 - 2 – 2 จานวน 3 ช่วั โมง/สปั ดาห์ รวม 54 ชว่ั โมง/ภาคเรียน จานวน 2 หน่วยกิต จุดประสงค์รายวชิ า 1. เขา้ ใจหลกั การและกระบวนการด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศเพอื่ งานอาชีพการ ใชโ้ ปรแกรมสาเร็จรูป การใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ตและการส่ือสารข้อมูลสารสนเทศในงานอาชีพ 2. สามารถสืบค้นและสื่อสารข้อมูลโดยใช้อินเทอร์เน็ต ใช้ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์และ โปรแกรมสาเร็จรปู ตามลักษณะงานอาชพี 3. มคี ณุ ธรรม จริยธรรมและความรบั ผิดชอบในการใช้คอมพิวเตอร์กับระบบสารสนเทศ
10 สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรู้เกี่ยวกับหลักการและกระบวนการใช้คอมพิวเตอร์ ระบบสารสนเทศ ระบบปฏิบตั กิ ารโปรแกรมสาเรจ็ รปู และอนิ เทอร์เน็ตเพื่องานอาชีพ 2. ใช้ระบบปฏิบัติการในการจัดสภาพแวดล้อมและจัดสรรทรัพยากรต่าง ๆ บนเครื่อง คอมพิวเตอร์ 3. ใช้โปรแกรมสาเรจ็ รปู ในงานอาชพี ตามลักษณะงาน 4. สบื คน้ ข้อมลู สารสนเทศในงานอาชีพโดยใช้อนิ เทอรเ์ น็ต 5. สื่อสารข้อมูลสารสนเทศโดยใช้อินเทอร์เน็ต คาอธิบายรายวิชา ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับการใช้คอมพิวเตอร์และระบบสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ การใช้ ระบบปฏิบัติการ(Windows หรือ Mac OS) การใช้โปรแกรมประมวลผลคาเพื่อจัดทาเอกสารในงานอาชีพ การใช้โปรแกรมตารางทาการเพ่อื การคานวณในงานอาชพี การใช้โปรแกรมการนาเสนอผลงาน หรอื การใช้ โปรแกรมสาเร็จรูป อ่ืน ๆ ตามลักษณะงานอาชีพ การใช้อินเทอร์เน็ตสืบค้นข้อมูลเพ่ืองานอาชีพและการ ส่ือสารขอ้ มลู สารสนเทศ ผลกระทบของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ จริยธรรมและความรับผิดชอบในการ ใชค้ อมพวิ เตอรก์ บั ระบบสารสนเทศและงานอาชพี คาอธิบายรายวชิ าใหม่สาหรบั ฐานสมรรถนะ ศกึ ษาและปฏิบตั เิ กยี่ วกับ 1. งานการใชง้ านโปรแกรม Microsoft Word เบ้ืองตน้ 2. งานการจดั การเอกสาร และการนาเอกสารมาใช้งาน 3. งานสร้างตาราง และการพิมพ์เอกสารทางเคร่ืองพมิ พ์ 4. งานความรเู้ บ้อื งต้นเก่ยี วกับฐานข้อมลู 5. งานการใช้งานโปรแกรม Microsoft Access เบื้องตน้ 6. งานการสร้างฐานข้อมลู 7. งานการใช้งานโปรแกรม Microsoft Excel เบ้ืองต้น 8. งานการสรา้ งแผนภมู ิ 9. งานการวเิ คราะห์ข้อมูลการใช้สูตรและฟังก์ช่นั ในการคานวณ 10.งานการใช้งานโปรแกรม Microsoft PowerPoint เบอ้ื งตน้ 11.งานการผลิตและนาเสนอผลงาน 12.งานการสบื คน้ ขอ้ มูลบนอินเตอรเ์ น็ต
11 บทที่ ๓ วธิ ีการดาเนินงาน วิจัยเร่ือง การแก้ปัญหาการส่งงานในรายวิชาคอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ (Computer and Information for Work) รหัสวิชา ๒๐๐๑-๒๐๐๑ โดยใช้วิธีการส่งงานผ่านระบบ ห้องเรียนออนไลน์ (Google Classroom) ของนักเรียนระดับช้ันประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชั้นปีท่ี 1 สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ปัญหาหรือลดอุปสรรคในการส่งงานของนักเรียน โดยเปรียบเทยี บ ระหว่างการสง่ งานแบบปกติกับการส่งงานผ่าน Google Classroom มรี ายละเอยี ดดังน้ี ๑. กล่มุ ประชากร กลุ่มประชากร คือ นักเรียนช้ันประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีท่ี ๑ สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ วทิ ยาลยั การอาชีพนวมนิ ทราชินมี ุกดาหาร จานวน 32 คน ๒. ระยะเวลาทใ่ี ชใ้ นการทางาน ระยะเวลาทใี่ ชใ้ นการทาวิจัย ตลอดภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศึกษา ๒๕๖1 ๓. เครือ่ งมอื ที่ใช้ในการวิจัย - การส่งงานผา่ นระบบ Google Classroom - แบบประเมินความพงึ พอใจ ๔. ขั้นดาเนนิ การ ๑. ศกึ ษาปัญหาและอุปสรรคท่ีทาให้นกั เรยี นส่งงานช้าหรอื ไมค่ อ่ ยสง่ งาน ๒. ใช้ Google classroom ในการแก้ไขปัญหาทางด้านการส่งงานของนักเรียนระดับชั้น ประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ ชั้นปีท่ี ๑ สาขาวิชาคอมพวิ เตอร์ธุรกจิ ๒.๑ ชั้นเตรียมแนะน่าวิธีการใช้ google classroom กับนักเรียน โดยการใช้ นักเรียน สมัคร e-mail ของตวั เองทเี่ ป็นของ G-mail เพื่อสรา้ งความเขา้ ใจในการใชง้ าน google classroom ใหก้ บั นักเรียน ๒.๒ ช้ันสอน ครูสอนนักเรยี นในบทเรียนท่ีกาลังเรยี นในขณะน้ีแล้วส่ังใบงานให้ นักเรยี น ได้ทาแล้วให้นักเรยี นทดลองสง่ งานผา่ น google classroom ๓. เช็คปริมาณงานและประเมินผลจากการท่ีนักเรียนส่งงานผ่านระบบ google classroom จากนั้นนาปริมาณท่ีได้มาคิดหาค่าเฉล่ีย หรือ ร้อยละของปริมาณงานท่ีนักเรียนส่งผ่านระบบ google classroom ๔. การสรา้ งแบบประเมนิ ความพงึ พอใจของนกั เรียนในการสง่ งานผ่านระบบ google Classroom ๔.๑ ศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เก่ียวข้องกับการสร้างแบบประเมินความพึงพอใจ เพื่อ นามาเปน็ แนวทางในการสร้างแบบสอบถามความพึงพอใจ ๔.๒ ศึกษาวิธีสร้างแบบประเมินความพึงพอใจ และกาหนดรูปแบบแบบสอบถาม จาก เอกสารและงานวิจัยที่เกย่ี วข้อง
12 ๔.๓ ออกแบบแบบประเมินความพึงพอใจ ต่อการแก้ปัญหาการส่งงานในรายวิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ (รหัสวิชา ๒๐๐๑ - ๒๐๐๑) โดยใช้วิธีการส่งงานผ่านระบบ ห้องเรียนออนไลน์ (Google Classroom) ของนักเรียนระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพ ช้ันปีท่ี ๑ สาขาวิชาคอมพิวเตอรธ์ รุ กิจ มาตรการประเมนิ (Rating Scale) ๔ ระดบั ตามแนวคดิ ของลิเคิรท์ ข้อคาถาม จานวน ๖ ขอ้ โดยใชเ้ กณฑ์นา้ หนักคะแนนประเมินค่าจดั อันดับความสาคัญ ดงั นี้ ๔ หมายถึง เหน็ ดว้ ยมากทส่ี ุด ๔ หมายถึง เหน็ ดว้ ยมาก ๓ หมายถงึ เห็นด้วยปานกลาง ๒ หมายถงึ เหน็ ด้วยนอ้ ย ๑ หมายถงึ เหน็ ด้วยน้อยทส่ี ดุ สาหรบั การแปลความหมายใช้ค่าเฉล่ียของค่าท่ีวัดได้และยึดแนวคดิ ของเบสท์ (Best, ๑๙๘๖ :๑๙๕) ดงั นี้ ๑.๐๐ - ๑.๕๐ หมายถึง เห็นดว้ ยอยู่ในระดบั น้อยทีส่ ดุ ๑.๕๑ - ๒.๕๐ หมายถงึ เห็นดว้ ยอยใู่ นระดบั น้อย ๒.๕๑ - ๓.๕๐ หมายถงึ เห็นด้วยอยู่ในระดับปานกลาง ๓.๕๑ - ๔.๕๐ หมายถึง เห็นด้วยอยู่ในระดับ มาก ๔.๕๑ - ๕๐๐ หมายถึง เห็นด้วยอยใู่ นระดบั มากท่ีสุด ๕. การวเิ คราะห์ขอ้ มลู ผวู้ จิ ยั ดาเนินการวิเคราะห์ขอ้ มูลเพอื่ ให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการวจิ ยั ด้วยวิธกี ารทาง สถติ ิ ดังน้ี ๑. วิเคราะห์ร้อยละของปริมาณการส่งงานของนักเรียนระดับชน้ั ประกาศนยี บัตรวิชาชีพ ช้ัน ปีท่ี ๑ สาขาวชิ าคอมพิวเตอรธ์ รุ กจิ จานวนนักเรียนประชากรทง้ั หมด 32 คน ๒. วิเคราะห์ค่าเฉล่ียแบบประเมินความพึงพอใจ ของนักเรียนระดับชั้นประกาศนียบัตร วชิ าชพี ชั้นปที ่ี ๑ สาขาวิชาคอมพวิ เตอร์ธรุ กจิ ที่ใชว้ ิธีการสง่ งานผ่านระบบ google classroom ๓. ผ้วู ิจัยได้ใช้วธิ กี ารทางสถติ ิวิเคราะหข์ อ้ มลู โดยการหาคา่ คะแนนเฉลย่ี ค่าร้อยละ วิเคราะห์ ข้อมูลโดยใช้ Microsoft Excel หลังจากวิเคราะห์ข้อมูลแล้ว ทาการแปลผลและนาเสนอในรูปตาราง ประกอบความเรียงแล้วสรุปผลการวิจัยโดยการบรรยาย ๖. สถติ ทิ ่ีใชใ้ นการวิเคราะหข์ ้อมลู ในการศกึ ษาคน้ คว้าครงั้ นีผ้ ้รู ายงานไดท้ าการวิเคราะหข์ ้อมลู และไดใ้ ช้สถติ ิในการวิเคราะหข์ ้อมลู ดังน้ี 6.1 คา่ คะแนนเฉลี่ย โดยใช้สูตรดังน้ี คะแนนเฉล่ีย = x N เมอื่ x แทน ผลรวมของคะแนนทกุ ตวั N แทน จานวนนกั เรียนที่นามาวิเคราะห์
13 6.2 ส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐาน ใช้สตู รดังน้ี S.D. = N X 2 − ( X )2 N (N − 1) เมื่อ S.D. แทน สว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐาน x แทน ผลรวมของคะแนนทกุ ตัว x2 แทน ผลรวมของคะแนนแตล่ ะตัวยกกาลงั สอง N แทน จานวนนักเรียนท่นี ามาวเิ คราะห์
14 บทท่ี ๔ ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มลู ในการวิจัยครั้งน้ีเป็นการวิจัยเพ่ือแก้ปัญหาการส่งงานในรายวิชาคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ เพื่องานอาชีพ (Computer and Information for Work) รหัสวิชา ๒๐๐๑-๒๐๐๑ โดยใช้วิธีการส่ง งานผ่านระบบ ห้องเรียนออนไลน์ (Google Classroom) ของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชั้นปีที่ ๑ สาขาวชิ าคอมพิวเตอร์ธุรกจิ ได้วเิ คราะห์ขอ้ มูลทางดา้ นสถิติได้ดังนี้ ตารางท่ี ๑ แสดงการส่งงานผา่ นระบบ google classroom ของนักเรียนระดับช้นั ประกาศนียบัตร วชิ าชพี ชัน้ ปีที่ ๑ สาขาวิชาคอมพิวเตอรธ์ ุรกจิ จานวน 32 คน จานวน จานวน จานวน จานวน นกั เรียน ไม่ รอ้ ยละ นักเรียน รอ้ ยละ นกั เรยี น ไม่ รอ้ ยละ ช้ินงาน ปรมิ าณ Join Class ร้อยละ นกั เรยี น ส่ง ที่ นักเรียน งาน ตาม สง่ งานชา้ ส่งงาน กาหนด ๑ 32 5 15.63 ๒๓ ๗๑.๘๘ ๓ ๙.๓๘ ๑ 3.12 ๒ 32 5 15.63 ๒๓ ๗๑.๘๘ ๒ ๖.๒๕ ๒ 6.25 รวม ๓๒ ๕ ๑๕.๖๓ ๒๓ ๗๑.๘๘ ๓ ๗.๘๑ ๒ ๔.๖๙ คา่ เฉลยี่ จากตารางที่ ๑ พบว่า จานวนนกั เรยี นท่ไี ม่ Join Class คดิ เปน็ คา่ เฉลี่ยรวม ( =5) คิดเป็นร้อย ละ 15.63 ของจานวนนกั เรียนทั้งหมด จานวนนักเรียนท่ีส่งงานตามกาหนด คิดเป็นค่าเฉล่ียรวม ( =23) และคิดเป็นร้อยละ 71.88 ของจานวนนักเรียนทั้งหมด เมื่อพิจารณาเปน็ ชิ้นงานจะเหน็ วา่ สามารถเรียงลาดบั จานวนนักเรียนทสี่ ง่ งาน ตามกาหนดจากมากไปหานอ้ ย ไดด้ ังนช้ี น้ิ งานท่ี ๒ จานวนนักเรียนท่ีส่งงานตามกาหนด คดิ เป็นรอ้ ยละ 23 ของนกั เรียนท้งั หมด และชิ้นงานที่ ๑ จานวนนักเรยี นที่สง่ งานตามกาหนด คดิ เป็นร้อยละ 23 ของนกั เรียน ทั้งหมด จานวนนักเรียนที่ส่งงานช้า คิดเป็นค่าเฉลี่ยรวม ( =3) และคิดเป็นร้อยละ 7.81 ของ จานวน นกั เรียนทัง้ หมด เม่อื พิจารณาเป็นช้ินงานจะเห็นว่า สามารถเรียงลาดบั จานวนนักเรียนสง่ งานช้า จากมากไปหา น้อย ได้ดังน้ี ช้ินงานที่ ๒ จานวนนักเรียนท่ีส่งงานช้า คิดเป็นร้อยละ 6.25 ของนักเรียน ทง้ั หมด และชนิ้ งานท่ี ๑ จานวนนกั เรียนท่ีส่งงานช้า คดิ เป็นรอ้ ยละ 9.38 ของนักเรียนท้งั หมด จานวนนกั เรยี นทไ่ี มส่ ง่ งาน คิดเปน็ ค่าเฉล่ียรวม ( =2) และคิดเปน็ รอ้ ยละ 4.69 ของจานวน นักเรียนทง้ั หมด เม่ือพิจารณาเปน็ ช้ินงานจะเห็นว่า สามารถเรียงลาดับจานวนนักเรยี นท่ีไมส่ ่งงานจาก มากไป หาน้อย ไดด้ งั น้ชี ิน้ งานท่ีจานวนนกั เรียนท่ไี ม่ส่งงาน คิดเปน็ ร้อยละ 3.12 ของนักเรยี นทั้งหมด และชนิ้ งานที่ ๒ จานวนนักเรียนที่ไมส่ ่งงาน คดิ เป็นรอ้ ยละ 6.25 ของนักเรียนทง้ั หมด
15 ตารางที่ ๒ แสดงค่าเฉลยี่ ความพึงพอใจของนักเรยี น ทมี่ ตี อ่ การสง่ งานผ่านระบบ google classroom ข้อที่ หัวขอ้ การประเมิน SD ระดับคณุ ภาพ ๑ ความเขา้ ใจในการใชร้ ะบบ google classroom ๔๙๒ ๐.๒๘ มากทีส่ ด ๒ ประหยัดเวลาในการส่งงาน ลดขันตอนและอุปสรรคในการ ๔๐๐ ๐.๐๐ มากทส่ี ดุ ส่งงาน ๓ ใช้ได้เหมาะสมกบั วิชาทีเ่ รยี น ๔๐๐ ๐.๐๐ มากทส่ี ด ๔ สามารถนาไปใช้ในวชิ าอน่ื ๆ ได้ ๔๐๐ ๐.๐๐ มากทีส่ ด ๔ สามารถส่งงานไดต้ รงตามเวลาทีก่ าหนด ๔๙๗ ๐.๑๗ มากท่ีสด ๖ มีความต้องการที่ใช้ระบบ google classroom ในการส่ง งาน ๔๙๘ ๐.๑๔ มากทส่ี ุด ตอ่ ไป รวม ๔๙๘ ๐.๑๒ มากทีส่ ด จากตารางท่ี ๒ พบวา่ นกั เรียนระดบั ชัน้ ประกาศนยี บัตรวิชาชีพ ชัน้ ปที ี่ ๑ สาขาวชิ าคอมพิวเตอร์ ธุรกิจ มีความพึงพอใจในการใช้ระบบ google classroom ในการส่งงานคิดเป็น ค่าเฉลี่ย ( =๔๙๘) และ (SD= ๐.๑๒) ซ่ึงอยู่ในระดับคุณภาพมากท่ีสุด เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อแล้วพิจารณาจากมากไปหา นอ้ ยได้ ดังนี้ ด้านประหยัดเวลาในการส่งงาน ลดช้นั ตอนและอุปสรรคในการส่งงาน ด้านใชไ้ ดเ้ หมาะสมกับ วิชาท่ีเรียน และด้านนาไปใช้ในวิชาอื่น ๆ ได้มีความพึงพอใจมากท่ีสุด มีค่าเฉลี่ย ( =๔.๐๐) ส่วน เบยี่ งเบนมาตรฐาน (SD = ๐.๐๐) ดา้ นมคี วามต้องการท่ีใชร้ ะบบ google classroom ในการส่งงานต่อไป มีค่าเฉล่ีย( =๔๙๘) ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (SD = ๐.๑๔) มีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด สามารถ ส่งงานได้ตรงตามเวลาที่กาหนด มีคา่ เฉล่ยี ( =๔.๙๗) ส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐาน (SD = ๐.๑๗) มคี วามพึง พอใจในระดับมากท่ีสุด และด้านความเข้าใจในการใช้ระบบ google classroom มีค่าเฉลี่ย( =๔๙๒) สว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐาน (SD = ๐.๒๘) มีความพึงพอใจในระดับมากทส่ี ดุ ตามลาดบั
16 บทท่ี ๕ สรุปผล อภปิ รายผล และข้อเสนอแนะ 1. สรปุ ผลการวจิ ัย การวิจัยในคร้ังนี้เป็นวิจัยเร่ือง การแก้ปัญหาการส่งงานในรายวิชาคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ เพ่ืองานอาชีพ (Computer and Information for Work) รหัสวิชา ๒๐๐๑-๒๐๐๑ โดยใช้วิธีการส่งงาน ผ่านระบบ ห้องเรยี นออนไลน์ (Google Classroom) ของนักเรียนระดบั ประกาศนียบตั รวิชาชพี ชั้นปีที่ ๑ สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ซ่ึงมีจุดประสงค์เพื่อแก้ปัญหาการส่งงานของของนักเรียนระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ ช้ันปีท่ี ๑ สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ โดยประชากรในการทาวิจัยคือ ของ นักเรียนระดับประกาศนียบัตร วิชาชีพ ชั้นปีที่ ๑ สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ จานวน 32 คน ซึ่งใช้ ระยะเวลาในการทาวจิ ัย ๑ ภาคเรียน คือ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปกี ารศึกษา ๒๕๖1 เครื่องมือท่ีใช้ในการวิจัยคร้ังน้ี เป็นเคร่ืองมือท่ีผู้จัดทาได้สร้างข้ึนได้แก่ แบบประเมินความพึง พอใจต่อ การส่งงานผ่านระบบ google classroom และระบบ google classroom ท่ีเป็นเครือข่ายของ website google เครื่องมือของแบบประเมินความพึงพอใจเป็นแบบมาตรการประเมิน (Rating Scale) ๕ ระดบั ตามแนวคดิ ของลิเคริ ์ท ขอ้ คาถามจานวน ๖ ข้อ โดยใช้เกณฑ์นา้ หนกั คะแนนประเมินคา่ จดั อันดับ ความสาคัญ และสาหรับการแปลความหมายใช้ค่าเฉล่ียของค่าท่ีวัดได้และยึดแนวคิดของเบสท์ (Best, ๑๙๘๖ : ๑๙๕) การวิเคราะห์ข้อมูลจะใช้สถิติท่ีใชว้ เิ คราะห์ปรมิ าณการสง่ งานของนกั เรียน คือ คา่ เฉล่ยี ( ) และ ร้อยละ (%) ส่วนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านความพงึ พอใจใช้สถิติท่ีใช้วิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่าเฉล่ีย ( )ร้อย ละ (%) และสว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐาน (SD) การสง่ งานผ่านระบบ google classroom ของนกั เรียนระดับชัน้ ประกาศนยี บัตร วชิ าชพี ช้ัน ปีที่ ๑ สาขาวิชาคอมพวิ เตอร์ธุรกิจ จานวน 32 คน พบว่า จานวนนักเรยี นทไี่ ม่ Join Class คดิ เปน็ คา่ เฉลีย่ รวม ( =5) คดิ เปน็ ร้อยละ 15.63 ของจานวน นกั เรยี นทั้งหมด จานวนนักเรียนท่ีส่งงานตามกาหนด คิดเป็นค่าเฉลี่ยรวม ( =23) และคิดเป็นร้อยละ 71.88 ของจานวนนกั เรียนทั้งหมด เมื่อพจิ ารณาเป็นชิน้ งานจะเหน็ วา่ สามารถเรยี งลาดบั จานวนนกั เรยี นท่ีส่งงาน ตามกาหนดจากมากไปหาน้อย ไดด้ ังน้ชี น้ิ งานที่ ๒ จานวนนกั เรียนที่สง่ งานตามกาหนด คิดเปน็ ร้อยละ 23 ของนักเรยี นทงั้ หมด และช้นิ งานที่ ๑ จานวนนักเรียนท่ีสง่ งานตามกาหนด คดิ เปน็ ร้อยละ 23 ของนกั เรียน ทัง้ หมด จานวนนักเรียนท่ีส่งงานช้า คิดเป็นค่าเฉล่ียรวม ( =3) และคิดเป็นร้อยละ 7.81 ของ จานวน นกั เรียนท้งั หมด เมื่อพจิ ารณาเปน็ ชน้ิ งานจะเหน็ ว่า สามารถเรยี งลาดับจานวนนกั เรียนส่งงานช้า จากมากไปหา น้อย ได้ดังนี้ ชิ้นงานท่ี ๒ จานวนนักเรียนที่ส่งงานช้า คิดเป็นร้อยละ 6.25 ของนักเรยี น ท้งั หมด และชน้ิ งานที่ ๑ จานวนนักเรยี นทส่ี ง่ งานชา้ คิดเป็นรอ้ ยละ 9.38 ของนักเรียนทัง้ หมด
17 จานวนนักเรยี นทไ่ี ม่ส่งงาน คิดเป็นคา่ เฉลยี่ รวม ( =2) และคิดเป็นร้อยละ 4.69 ของจานวน นักเรียนทง้ั หมด เมื่อพิจารณาเป็นชิ้นงานจะเห็นวา่ สามารถเรียงลาดับจานวนนักเรยี นที่ไมส่ ่งงานจาก มากไป หาน้อย ไดด้ งั นช้ี นิ้ งานที่จานวนนักเรียนทีไ่ ม่สง่ งาน คิดเป็นร้อยละ 3.12 ของนกั เรียนทั้งหมด และช้ินงานท่ี ๒ จานวนนักเรยี นทไ่ี มส่ ง่ งาน คิดเปน็ รอ้ ยละ 6.25 ของนักเรยี นทัง้ หมด ความพงึ พอใจของนักเรียน ท่มี ีต่อการส่งงานผ่านระบบ google classroom พบว่า นกั เรียนระดับช้นั ประกาศนียบัตรวชิ าชพี ช้นั ปที ี่ ๑ สาขาวิชาคอมพิวเตอรธ์ รุ กจิ มคี วามพึง พอใจในการใช้ระบบ google classroom ในการส่งงานคิดเป็น ค่าเฉลี่ย ( =๔๙๘) และ (SD= ๐.๑๒) ซ่ึงอยู่ในระดับคุณภาพมากท่ีสุด เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อแล้วพิจารณาจากมากไปหาน้อยได้ ดังนี้ ด้าน ประหยัดเวลาในการส่งงาน ลดช้ันตอนและอุปสรรคในการส่งงาน ด้านใช้ได้เหมาะสมกับวิชาที่เรียน และ ด้านนาไปใชใ้ นวชิ าอืน่ ๆ ได้มคี วามพึงพอใจมากทส่ี ดุ มคี า่ เฉลี่ย ( =๔.๐๐) สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน (SD = ๐.๐๐) ด้านมีความต้องการที่ใช้ระบบ google classroom ในการส่งงานต่อไป มีค่าเฉล่ีย( =๔๙๘) สว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD = ๐.๑๔) มคี วามพึงพอใจในระดับมากท่ีสุด สามารถสง่ งานไดต้ รงตามเวลาที่ กาหนด มีค่าเฉลี่ย( =๔.๙๗) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD = ๐.๑๗) มีความพึงพอใจในระดับมากท่สี ดุ และด้านความเข้าใจในการใช้ระบบ google classroom มีค่าเฉล่ีย( =๔๙๒) ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (SD = ๐.๒๘) มคี วามพงึ พอใจในระดับมากที่สดุ ตามลาดับ 2. อภิปรายผล จากผลการวิจัยเร่ือง การแก้ปัญหาการส่งงานในรายวิชาคอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพ่ืองาน อาชพี (Computer and Information for Work) รหสั วิชา ๒๐๐๑-๒๐๐๑ โดยใช้วิธีการส่งงานผา่ นระบบ ห้องเรยี น ออนไลน์ (Google Classroom) ของนกั เรยี นระดบั ประกาศนยี บตั รวิชาชพี ชั้นปีที่ ๑ สาขาวิชา คอมพวิ เตอรธ์ ุรกจิ สามารถอภปิ รายผลได้ดงั น้ี ๑. จากผลการวิจัยพบวา่ มจี านวนนักเรียนทไ่ี ม่ Join Class ในปริมาณนอ้ ย มจี านวนนกั เรยี นท่ีสง่ งาน ผ่านระบบ Google Classroom ตามกาหนดต่ากวา่ ครึง่ หนึง่ ของจานวนนกั เรยี นท้งั หมด แตม่ ีจานวน นกั เรยี น ส่งงานในปริมาณที่เพิ่มขึน้ จากการส่งงานในครัง้ แรก และมจี านวนนักเรยี นที่สง่ งานช้าในปริมาณ นอ้ ยมาก สว่ น นักเรียนทไี่ ม่ส่งงานน้ันมปี รมิ าณน้อยกวา่ จานวนนกั เรียนท่ีส่งงานตามกาหนด ๒. จากผลการประเมินความพึงพอใจพบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจในการส่งงานผ่านระบบ google classroom ในระดับมากที่สุด โดยพิจารณาจากการประเมินเป็นรายข้อได้ว่า นักเรียนมีความ เขา้ ใจในระบบ google classroom ในระดบั มากทีส่ ดุ มีความประหยัดเวลาในการสง่ งาน ลดช้นั ตอนและ อุปสรรคในการส่ง งาน ในระดับมากท่ีสุด มีการใช้ระบบได้เหมาะสมกับวิชาที่เรียนในระดับมากท่ีสุด สามารถนาไปใช้ในวิชาอ่ืน ๆ ได้ในระดับมากที่สุด นั่นคือนักเรียนมีการคิดต่อยอดและประยุกต์วิธีการสง่ งานของตนในรายวิชาอ่ืน ๆ ได้ สามารถส่งงานไดต้ รงตามเวลาท่กี าหนด ไดใ้ นระดบั มากทส่ี ุด และนักเรยี น ยังมคี วามตอ้ งการท่ีใชร้ ะบบ google classroom ในการสง่ งานตอ่ ไป ในระดบั มากทส่ี ุด จะเห็นได้ว่าการส่งงานผ่านระบบ google classroom นั้น นักเรียนไม่สามารถ Join Class ได้ ครบ ตามจานวนนักเรียนทั้งหมด ซ่ึงมาจากปัจจัยด้านอื่น เช่น นักเรียนไม่มาเรียนในวันท่ีสอนใช้งาน Google Classroom และนักเรียนมีพฤติกรรมไมส่ นใจเรียน ถึงแม้ว่าจานวนนักเรียนที่ส่งงานตามกาหนด จะต่ากว่า คร่ึงหนึ่งของจานวนนกั เรยี นทั้งหมด แต่จานวนนกั เรียนท่ีส่งงานตามกาหนดมีมากกวา่ ครึง่ หนงึ่ ของจานวน นักเรียนที่ Join Class ซ่ึงจานวนนักเรียนส่งงานตามกาหนดมีมากขึ้นจากการส่งงานในครั้ง
18 แรก หากมีจานวน ช้ินงานทมี่ ากกวา่ นี้ คาดวา่ อาจทาใหจ้ านวนนักเรียนทส่ี ่งงานตามกาหนดมีมากข้นึ ส่วน ความพึงพอใจของ นกั เรยี นนั้นมคี วามรู้ ความสนใจ และอยากใหม้ ีการใช้ Google Classroom เป็นวธิ ีการ ส่งงานในครั้งต่อไป แต่ขัดแย้งกับจานวนนักเรียนท่ีส่งงานตามกาหนด นั่นหมายความว่า ระบบ Google Classroom ยังไม่ สามารถปรับพฤติกรรมการส่งงานของนกั เรยี นระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ช้ันปีท่ี ๑ สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจได้ดีเท่าที่ควร เพียงแต่สามารถช่วยอานวยความสะดวกในการส่งงานมากข้นึ เทา่ นน้ั 4. ข้อเสนอแนะในการทาวจิ ัย ๑. ควรทาวจิ ยั เพอ่ื แกไขปญั หาการจัดการเรยี นการสอน โดยการสอนผา่ นระบบ Google Classroom ๒. ควรทาวิจัยเปรยี บเทียบผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนผา่ นระบบ Google Classroom 4. ควรนากระบวนการวจิ ยั ไปใชใ้ นรายวิชาอืน่
19 ภาคผนวก
20 แบบประเมินความพงึ พอใจ เรือ่ งการแก้ปญั หาการสง่ งานในรายวชิ าคอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพ่อื งานอาชีพ (Computer and Information for Work) โดยใช้วิธีการสง่ งานผ่านระบบห้องเรยี นออนไลน์ (Google Classroom) ของนกั เรยี นระดบั ประกาศนยี บตั รวิชาชพี ชนั้ ปที ่ี ๑ สาขาวชิ าคอมพวิ เตอรธ์ รุ กิจ คาชี้แจง แบบประเมินฉบับนี้ มีทั้งหมดมี 3 ตอน ขอให้ผู้ตอบแบบประเมินตอบให้ครบท้ัง 2 ตอน เพื่อให้การดาเนิน โครงการเป็นไปตามวัตถุประสงคแ์ ละเพ่อื เปน็ ประโยชนใ์ นการพัฒนาการดาเนินงานโครงการ ครงั้ ต่อไป ตอนท่ี 1 แบบประเมินความพึงพอใจ โปรดกาเคร่ืองหมาย ลงในช่องระดับความพึงพอใจของท่าน ขอ้ รายการ ระดบั ความพึงพอใจ มากท่ีสดุ น้อยทสี่ ดุ น้อย ปานกลาง มาก ๑ ความเข้าใจในการใชร้ ะบบ google classroom ๒ ประหยัดเวลาในการสง่ งาน ลดขนั ตอน และอุปสรรค์ ในการส่งงาน ๓ ใช้ไดเ้ หมาะสมกบั วชิ าทเ่ี รยี น ๔ สามารถนาไปใช้ในวิชาอ่ืน ๆ ได้ ๕ สามารถส่งงานได้ตรงตามเวลาทีก่ าหนด ๖ มคี วามตอ้ งการทใ่ี ช้ระบบ google classroom ใน การสง่ งานต่อไป รวม ตอนที่ 2 ข้อเสนอแนะ .......................................................................................................................................................................................... ..........................................................................................................................................................................................
21 รปู ภาพประกอบ ระบบหอ้ งเรยี นออนไลน์ (Google Classroom) ของนกั เรยี นระดบั ประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ช้นั ปที ี่ ๑ สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธรุ กิจ รปู ภาพที่ ๑ การสง่ งานชน้ิ งานท่ี ๑ ผ่านระบบ Google Classroom ของนกั เรยี นระดับประกาศนยี บตั รวิชาชีพ ชัน้ ปีที่ ๑ สาขาวชิ าคอมพวิ เตอร์ ธรุ กจิ รูปภาพที่ 1 ภาพหน้าแรก Google Classroom วชิ าคอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ ของนักเรียนระดบั ประกาศนียบตั รวชิ าชพี ช้ันปีที่ ๑ สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกจิ รูปภาพที่ 2 สมาชิกของหอ้ งเรียนออนไลน์ Google Classroom วิชาคอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพือ่ งานอาชีพ ของ นกั เรยี นระดบั ประกาศนียบตั รวชิ าชีพ ชัน้ ปีที่ ๑ สาขาวิชาคอมพวิ เตอร์ธรุ กิจ
22 รปู ภาพที่ 3 การสง่ งานในระบบ Google Classroom วิชาคอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพือ่ งานอาชีพ ของนักเรยี นระดับประกาศนียบัตรวิชาชพี ชัน้ ปีท่ี ๑ สาขาวชิ าคอมพวิ เตอรธ์ ุรกจิ รปู ภาพที่ 4 ข้อมลู ชิน้ งาน เก็บไว้ใน ไดร์ฟออนไลน์ สว่ นตวั วชิ าคอมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศเพื่องานอาชพี ของนักเรียนระดับประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ ชั้นปที ี่ ๑ สาขาวชิ าคอมพวิ เตอร์ธรุ กิจ
23
Search
Read the Text Version
- 1 - 26
Pages: