โครงการการสร้างเว็บไซต์ร้านขายสินค้าออนไลน์ยวลใจการแว่น

38 1) Welcome Screen เป็นเคร่อื งมือสาหรบั ช่วยเลอื กข้นั ตอนเรมิ่ ตน้ ในการใชง้ านโปรแกรมโดยตวั เลือกจะแบ่งออกเป็นกลมุ่ ๆ ดังภาพ - หมายเลขท่ี 1 Open a Recent Item เปิดไฟล์ที่เคยใช้โดยคลิก เลือกจากรายชื่อที่แสดงอยู่ (เรียงลาดับจากที่เคยเปิดหลังสุดเป็นต้นไปหรือคลิก Open เพื่อเปิดไฟล์ อื่นๆ) - หมายเลขที่ 2 Create New สร้างไฟล์ใหม่ โดยถ้าคลิก HTML จะเปน็ การสรา้ งเว็บเพจพน้ื ฐานแต่ถา้ คลกิ หัวข้ออื่นจะเปน็ การสร้างเว็บเพจหรอื ไฟลต์ ามชนดิ นน้ั ๆ - หมายเลขที่ 3 Top Features (videos) เป็นเส้นทางลัดสาหรับ เข้าดูรายละเอยี ดและเทคนิคในการใช้งานต่าง ๆ ของโปรแกรมผ่านทางเวบ็ ไซต์ของ Adobe - หมายเลขที่ 4 เปดิ ดคู าแนะนาการใชโ้ ปรแกรม - หมายเลขที่ 5 ดาวน์โหลดโปรแกรมหรือดูข้อมูลบนเว็บไซต์ของ Adobe - หมายเลขที่ 6 คลิก ออปช่ันน้ีหากไม่ต้องการแสดง Welcome Screen อกี ในครั้งต่อไป รปู ท่ี 2.48 แสดงหน้าตา่ งสว่ นประกอบของหนา้ จอโปรแกรม

39 2) ส่วนประกอบของหน้าจอโปรแกรม Adobe Dreamweaver ประกอบไปดว้ ยส่วนต่าง ๆ ดงั น้ี - แถบเมนูหลัก (Menu bar) เป็นแถบรวมรวมคาส่ังทั้งหมดของ โปรแกรม โดยแบง่ คาสงั่ ทั้งหมดออกเป็นหมวดหมูต่ ามลกั ษณะของการใช้งาน - แถบเครื่องมือ (Insert Bar) เป็นแหล่งรวมเคร่ืองมือซึ่งใช้ในการ วางออบเจก็ ต์ชนิดต่าง ๆ ลงบนหนา้ เว็บเพจ เช่น ข้อความ รูปภาพ ลิงค์ รูปเคล่อื นไหวเปน็ ต้น โดยจะ แบง่ เปน็ กลุ่มคาส่งั เพื่อใหใ้ ชง้ านได้สะดวก ซึง่ จะประกอบดว้ ยกล่มุ คาส่งั ดงั น้ี - Common ใช้วางออบเจ็กต์ท่ีต้องใช้งานบ่อย ๆ เช่น รูปภาพ ตาราง ไฟลม์ ัลติมเี ดยี เปน็ ตน้ - Layout ใช้วางออบเจ็กต์ท่ีใช้จัดโครงสร้างของเว็บเพจ เช่น ตาราง เฟรม และ AP element (หรือเลเยอร์) - Forms ใช้วางออบเจ็กต์ท่ีใช้ในการสรา้ งแบบฟอร์มรับข้อมูล เช่น ชอ่ งรบั ขอ้ ความ ปมุ่ ตวั เลือกตา่ ง ๆ เปน็ ตน้ - Data ใช้วางคาสั่งที่ใช้การจัดการฐานข้อมูล และดึงข้อมูล จากฐานข้อมลู มาแสดงบนเว็บเพจ - Spry ใช้วางออบเจก็ ต์ทีใ่ ช้เทคโนโลยขี อง Ajax - jQuery Mobile ใช้สร้างหน้าเพจที่แสดงบนอุปกรณ์มือถือและ แท็บเล็ตโดยใชเ้ ทคโนโลยีแบบ jQuery - InContext Edting ใช้สร้างออบเจ็กต์ที่ช่วยอานวยความสะดวก ให้ผู้ใชง้ านสามารถแก้ไขเว็บเพจได้ - Text ใช้สาหรับจัดปรับแต่งหรือจัดรูปแบบของตัวอักษรและ ข้อความสะดวกให้ผู้ใช้งาน เช่น หัวเร่ือง ตัวหน้า ตัวเอียง รวมท้ังแทรกสัญลักษณ์พิเศษต่าง ๆ เช่น $ (Dollar) © (Copyright) เปน็ ต้น - Favorites เป็นกลุ่มท่ีสามารถเพ่ิมปุ่มคาสั่งท่ีใชบ้ ่อยจากกลุ่มอ่ืน ๆ เข้ามาเก็บไว้ใชง้ านเอง เพอ่ื ความสะดวกในการใชง้ าน 3) แถบ Document Toolbar ประกอบไปด้วยปุ่ม และป๊อปอัพเมนูท่ี ใชก้ าหนดรูปแบบมุมมองของ Document Window ท่ีเรากาลงั ทางานอยู่และ คาสง่ั ต่างๆที่ใช้ทางาน กบั Document Window อย่างเช่น การแสดงเว็บเพจที่สร้างข้ึนในเว็บบราวเซอร์ หรอื การกาหนด ออปชนั่ ของ Document Window เปน็ ต้น

40 - พ้ืนท่ีสร้างงาน (Document Windows) คือ ส่วนท่ีใช้สาหรับใส่ เนื้อหาและจัดองค์ประกอบของเว็บเพจ วิธีใช้งานวินโดว์น้ีจะคล้ายกับท่ีคุณใช้โปรแกรม เวิร์ดโปรเซสเซอร์ท่ัวไป เช่น พิมพ์ข้อความ วางภาพกราฟิก และสร้างตารางข้อมูลโดยเน้ือหาต่างๆ จะแสดงออกมาคล้ายกับที่ปรากฏบนบราวเซอร์ ซึ่งสามารถเลือกเปิดพ้ืนท่ีสร้างงานได้ด้วยกัน 4 มมุ มอง ตารางท่ี 2.2 ตารางอธบิ ายเครอ่ื งมอื ในแถบ Document Toolbar สัญลักษณ์ ความหมาย แสดงเว็บเพจในมุมมองโค้ด แสดงเวบ็ เพจในมุมมองโคด้ และออกแบบ แสดงเว็บเพจในมุมมองออกแบบ แสดงผลโคด้ (ทางานรว่ มกบั มุมมอง Live View) ตรวจสอบความถูกตอ้ งในการแสดงผลบนบราวเซอร์ที่เลอื ก ตรวจสอบความถูกต้องของการใชส้ ไตล์ CSS ในสว่ นต่าง ๆ บน เวบ็ เพจโดยใช้ร่วมกับพาเนล CSS Styles แสดงเมนสู าหรับเลือกเปดิ บราวเซอรเ์ พ่ือทดสอบเวบ็ เพจ (คยี ล์ ดั F12) แสดงเมนูซึง่ ประกอบดว้ ยคาสั่งจดั การไฟล์ ตรวจสอบความถูกตอ้ งในการแสดงผลบนบราวเซอรท์ ่ี เลอื ก แสดงเมนสู าหรบั เปิด/ปดิ ลักษณะพเิ ศษของแท็กหรือคาสั่ง บางอย่าง เช่น ตาราง,เฟรม และ CSS เพอ่ื ชว่ ยให้การ แก้ไขเวบ็ เพจสะดวกขึ้น ปรบั ปรงุ การแสดงผลของเวบ็ เพจ ใช้กาหนดช่ือหรือคาอธิบายเว็บเพจ

41 รปู ที่ 2.49 แสดงมมุ มองโค้ด (Code View) รูปที่ 2.50 มุมมองโคด้ และออกแบบ (Code and Design View หรือ Split) รูปที่ 2.51 แสดงมุมมองออกแบบ (Design View)

42 รูปท่ี 2.52 แสดงมุมมองแสดงหน้าเว็บเหมอื นดูบนบราวเซอร์ (Live View) 1. กลุ่มพาเนลต่างๆ (Panel Groups) พาเนลเป็นกรอบเล็ก ๆ ท่ีรวบรวมเคร่ืองมือต่าง ๆ สาหรับใชท้ างานเฉพาะเร่ืองไว้ เช่น พาเนล CSS Styles ใช้จัดการกับสไตล์ CSS และพาเนล Files ใช้จัดการกับไฟลแ์ ละโฟลเดอร์ภายในเว็บไซต์ใน Dreamweaver ประกอบไป ด้วยพาเนลจานวนมาก ซึ่งสามารถเปิด/ปิดได้โดยเลือกคาส่ัง Window แล้วเลือกช่ือพาเนลน้ัน หรือ กดคยี ์ลดั ท่ีแสดงด้านหลังช่อื พาเนล ดงั รปู รูปที่ 2.53 แสดงมมุ มองกลุ่มพาเนล 2. ไม้บรรทัด (Ruler) ไม้บรรทัดจะปรากฏท่ีด้านบนและด้านซ้ายของ วินโดว์ Document เพื่อให้สาหรับช่วยกาหนดตาแหน่งหรือขนาดขององค์ประกอบต่าง ๆ ท่ีวางบน เว็บเพจ สาหรับการจดั การต่าง ๆ กบั ไม้บรรทดั จะทาไดด้ งั นี้

43 1) ซ่อน/แสดงไมบ้ รรทัด เลอื กคาสงั่ View > Rulers > Show (คียลัด Ctrl +Alt +R) 2) ยา้ ยตาแหน่ง 0,0 ใหค้ ลิกลากรปู ไปวางตาแหน่งใหม่ 3) ยา้ ยตาแหนง่ 0,0 กลบั มาทมี่ ุมซ้ายบนสุดใหด้ ับเบลิ คลิก ท่ี หรอื คลกิ ขวาบน ไม้บรรทัดแล้วคลกิ เลอื กคาสั่ง Reset Origin 4) เปล่ียนหน่วยวัดบนไม้บรรทัดให้คลิกขวาบนไมบ้ รรทัด แลว้ เลือกหน่วย ซงึ่ มดี งั นี้ - Pixels พิกเซล - Inches นวิ้ - Centimeters เซนตเิ มตร รูปท่ี 2.54 แสดงหนา้ ต่างไม้บรรทัด 2.3.4 โปรแกรม Adobe Flash CS6 โปรแกรม Flash เปน็ ซอฟต์แวรท์ ่ชี ่วยในการสร้างส่ือมัลติมีเดีย, ภาพเคลอื่ นไหว (Animation), ภาพกราฟิกที่มีความคมชัด เนื่องจากเป็นกราฟิกแบบเว็คเตอร์(Vector), สามารถเล่น เสียงและวีดิโอ แบบสเตริโอได้, สามารถสร้างงานให้โต้ตอบกับผู้ใช้(Interactive Multimedia) มี ฟังก์ชั่นสาหรับการเขียนโปรแกรม (Action Script) และยังทางานในลักษณะ CGI โดยเช่ือมต่อกับ การเขียนโปรแกรมภาษาอ่ืนๆ ได้มากมาย เช่น ภาษา PHP, JSP, ASP, ASP.NET, C/C++, C#, C#.NET, VB, VB.NET, JAVAและอ่ืนๆ โดยเฉพาะขอ้ ดีของโปรแกรม Flash คือ ความสามารถในการ บีบอัดไฟล์ให้ มีขนาดเล็ก มีผลทาให้แสดงผลได้อย่างรวดเร็ว นอกจากน้ันยังแปลงไฟล์ไปอยู่ใน ฟอร์แมตอื่นไดห้ ลากหลาย เชน่ avi, mov, gif, wav, emf,eps, ai, dxf, bmp, jpg, gif, png เปน็ ตน้ โปรแกรม Flash เริ่มมีช่ือเสียงประมาณปี พ.ศ. 2539 จนถึง ปัจจุบันได้ถูกนามา ใช้งานอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะเทคโนโลยีเว็บ ทาให้การนาเสนอทาได้อย่างน่าสนใจ นอกจากนั้น

44 โปรแกรม Flash ยังสามารถสร้างแอพพลิเคชั่น (Application) เพ่ือใช้ทางานต่างๆ รองรับการใช้งาน กับอุปกรณ์ที่ เชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต และทางานได้กับหลายๆ แฟลตฟอร์ม (Platform) 2.3.4.1 การเปิดใช้งานโปรแกรม Adobe Flash CS6 เขา้ สู่โปรแกรม Flash CS6 เมื่อเปิดโปรแกรมครั้งแรก โดยคลิกเมาส์ที่ปุ่ม Start แล้วเลือกคาส่ง All Programs->Adobe>Adobe Flash CS6 Professional จะปรากฏ หนา้ ตา่ ง ให้เราเลือกใชง้ านโปรแกรม Flash CS6 ดงั น้ี รปู ท่ี 2.55 แสดงการเข้าสโู่ ปรแกรม Adobe Flash CS6 รปู ที่ 2.56 แสดงหน้าต่างเริม่ การทางานของ Adobe Flash CS6

45 รูปท่ี 2.57 แสดงหนา้ ต่างส่วนประกอบของโปรแกรม Adobe Flash CS6 รูปท่ี 2.58 แสดงหนา้ ตา่ งส่วนประกอบของโปรแกรม Adobe Flash CS6 1) ส่วนประกอบของโปรแกรม Adobe Flash CS6 มีดงั นี้ - ปมุ่ แสดงหรือซ่อน Timeline - เลเยอร์ เฟรมจะต้องวางบนเลเยอร์ - ปมุ่ ซอ่ นและแสดงข้อมูลบนเลเยอร์ - ป่มุ อนญุ าตให้แกไ้ ขและปอ้ งการแก้ไขขอ้ มลู บนเลเยอร์ - เพลยเ์ ฮดหวั อา่ นเฟรมแตล่ ะชอ่ ง - หมายเลขประจาเฟรม - เฟรม เปรียบเหมอื นช่องเก็บเหตุการณ์ของมูฟว่ี - ปุ่มสรา้ งเลเยอร์ใหม่

46 - ปมุ่ สร้างโฟล์เดอรเ์ ลเยอร์ - ปุม่ ลบเลเยอร์ - ปมุ่ เซน็ เตอรเ์ ฟรม - ปมุ่ โอเนยี น สกนิ - ปุ่มโอเนียน สกนิ แบบโครงร่าง - ปุ่มแกไ้ ขเฟรมหลายเฟรมพรอ้ มกัน - บอกตาแหนง่ หมายเลขเฟรมในขณะทางาน - บอกความเร็วการแสดงกีเ่ ฟรมตอ่ วนิ าที - เวลาท่ีใชใ้ นการมูฟวี่ รปู ที่ 2.59 แสดงหน้าต่างเมนูบาร์ (Menu Bar) แถบเมนแู สดงรายการคาส่ังต่างๆ รูปท่ี 2.60 แสดงหน้าต่างทลู บ๊อกซ์ (Toolbox) 2) Timeline หน้าต่างแสดงเส้นควบคุมเวลาสาหรับการนาเสนอ ผลงาน ประกอบด้วยส่วนทางานเก่ียวกับ Layer และ Timeline เราแบ่งไทมไลน์เป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ ไดแ้ ก่

47 - ส่วนแสดงเลเยอร์ (Layer) ซึ่งแต่ละเลเยอร์เปรียบ เหมือนแผนใสท่ีสามารถวางภาพหรือออบเจ็กต์ได้ โดยแต่ละเลเยอร์น้ันแยกเป็นอิสระต่อกันแต่ ประกอบกันเปน็ ชันงานเดียว (เราจะกล่าวถึงเรอื่ งเลเยอร์เพิม่ เติมภายหลงั ) - ส่วนเฟรม (Frame) ท่ีแสดงช่องเฟรมต่างๆ ซึ่งทางาน เหมือนกับเฟรมที่ประกอบกันเป็นภาพยนตร์โดยเม่ือมีการนาเฟรมเหล่านี้มาแสดง อย่างต่อเน่ือง ก็จะทาให้เกิดภาพเคล่ือนไหว ท้ังนี้ Frame จะแสดงผล ทีละเฟรม โดยจะมีหัวอ่าน (Playhead) ทเี่ ป็นเส้นสีแดงคอยบอกตาแหน่งวา่ งกาลังทางานอยู่ท่เี ฟรมใด รปู ท่ี 2.61 แสดงหน้าตา่ ง Timeline - เราสามารถเปิ ด/ปิ ดไท มไลน์ น้ี ได้ โดยค าส่ั ง View >Thmeline ให้มีเคร่ืองหมายถูกอยู่หน้าคาว่า Timeline เพื่อเปิดไทมไลน์ และใช้คาส่ัง View > Timeline อีกครั้งยกเลิกเครื่องหมายถูกเพื่อปิดไทมไลน์ซึ่งเราอาจเปรียบการทางานของไทมไลน์ เหมอื นกับม่วนฟลิ ม์ ในขณะทสี่ เตจคอื ส่วนท่ีแสดงแตล่ ะเฟรม ในมว้ นฟิลม์น้นั ตามลาดบั ทีก่ าหนดไว้ - เราสามารถแบ่งไฟล์ชิ้นงานที่สร้างเป็นส่วนย่อยๆ ท่ี เรียกวา่ ฉากหรือซีน (Scene) โดยในโดยในมูฟวีห่ น่งึ ๆ จะประกอบดว้ ยซีนหรือหลายซนี ก็ได้ เน่ืองจาก จะทางานได้ทีละซีนนั้นจึงต้องเลือกซีนท่ีจาทางานด้ยโดยคลิกท่ีเมนู Window > Other Panels > Scene หรือเลือกใช้ป่มุ การแทรกซีนสามารถแทรกได้ โดยเลอื กที่เมนูคาส่ัง Inserts > Scene1

48 รปู ท่ี 2.62 แสดงหนา้ ต่างพ้ืนท่วี ่างสาหรบั วางวตั ถุแบบช่วั คราว และพนื้ ท่ีการทางาน รปู ท่ี 2.63 แสดงหนา้ ต่างคณุ สมบตั ติ ่าง ๆ ของออบเจ็กต์

49 รูปที่ 2.64 แสดงหน้าต่างเลือกใช้สีและผสมสีตามทตี่ อ้ งการ รูปท่ี 2.65 แสดงหน้าตา่ งควบคุมเกยี่ วกับชุดวตั ถุของโปรแกรม 2.3.5 โฮสตง้ิ (Hosting) เว็บโฮสติ้งเป็นคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ (เซิร์ฟเวอร์) ซ่ึงเก็บเว็บไซต์ของพวกเขา เป็นพ้ืนท่ีในการใช้งานในอินเทอร์เน็ต สาหรับเว็บไซต์ท่ัวไป โฮสต้ิงมีลักษณะที่เปรียบเทียบได้ เหมือนกับ ฮาร์ดดิสก์ ในเคร่ืองคอมพิวเตอร์ ฉะน้ันถา้ มีพื้นที่การใช้งานโฮสติ้งท่ีมาก ก็จะสามารถเก็บ ไฟล์, รูปภาพ, เอกสาร และอ่ืนๆ ได้มากตามไปด้วยเช่นกัน จึงอาจเรียกได้อีกหลายแบบ เช่น โฮสติง โฮสต้งิ เว็บโฮสต้งิ โฮสต์ แตท่ ั้งหมดก็มีความหมายเหมอื นกัน โฮสติ้ง จะมีการติดตั้งโปรแกรมต่างๆ ท่ีทาหน้าท่ีหลากหลาย เช่น WebServer, FTP, Database, DNS, E-mail, Subdomain, Cronjob และอื่นๆ ซ่ึงผู้ท่ีต้องการสร้างระบบโฮสติ้ งเอง อาจจะมีค่าใช้จ่ายสูง หากต้องการแค่จะมีเว็บไซต์เล็กๆ ก็เพียงเช่าบริการโฮสต้ิง และ จ่ายค่าบริการรายปีแค่ไม่ก่ีบาท และข้อดีของระบบโฮสต้ิงคือ ผู้ให้บริการจะต้ังค่าทุกอย่างให้ท่าน พรอ้ มใช้งาน ท่านมหี นา้ ที่แค่อัพโหลดไฟล์เว็บไซดท์ ี่ท่านไดส้ รา้ งไว้ขน้ึ ระบบ โฮสต้ิง และสามารถทาให้

50 เว็บไซดข์ องท่านทางานได้ทนั ทีหรือจะงา่ ยยิ่งกว่านน้ั ถา้ ท่านใช้ระบบเว็บไซด์สาเร็จรปู ไม่ต้องเขียนเว็บ ไซด์ข้ึนมาเอง ก็สามารถกดติดต้ังเว็บไซด์สาเร็จรปู ได้จากระบบจัดการโฮสต้ิง (DirectAdmin) เพียง ไม่ก่ีคลิก ก็ได้เว็บไซด์ทันที แต่ถ้าท่านต้องการทาเว็บไซด์ขนาดใหญ่ ใช้พื้นที่เยอะ คนเข้าใช้งานเยอะ อาจจะใช้บริการโฮสติ้งไม่ได้ ท่านต้องเช่าบริการแบบ VPS ซึ่งราคาอาจจะเพิ่มสูงข้ึน แต่ก็จะมีความ เปน็ สว่ นตัว และรองรบั ผู้เขา้ ใช้งานเยอะๆ ได้ รูปท่ี 2.66 แสดงการหาเวบ็ โฮสตง้ิ ทด่ี ตี ้องคานงึ ถึงส่ิงใดบ้าง 2.3.6 โดเมนเนม (domain name) โดเมนเนม ความหมายโดยทั่วๆ ไป หมายถึง ชื่อเว็บไซต์ ช่ือบล็อก ซ่ึงเป็นช่ือที่ ตั้งขึ้นเพื่อให้จดจาและนาไปใช้งานได้ง่ายท้ังในการเข้าชมผ่านบราวเซอร์ของผู้ใช้ทั่วไป ยังรวมไปถึง ผู้ดูแลระบบโดเมนเนมซีสเทม ที่สามารถแก้ไขไอพีแอดเดรสของชื่อโดเมนเนมนั้นๆ ได้ทันทีโดยที่ผู้ใช้ ทั่วไปไม่จาเป็นต้องรับรู้หรือจดจาไอพีแอดเดรสที่มีการเปลี่ยนแปลง เคร่ืองคอมพิวเตอร์ที่ทาหน้าท่ี เผยแพรเ่ ว็บไซต์ จะมีโดนเมนเนมเฉพาะไม่ซา้ กบั ใคร หลงั จากจดโดนเมนเนมเป็นทเ่ี รียบรอ้ ยแลว้ สิ่งสาคัญลาดบั ถดั มาน้นั ก็คือ โฮสติ้ง (Hosting) หรือ ท่ีเก็บข้อมูลเว็บไซต์นั้นเอง ซ่ึงโฮสต้ิงแต่ละที่จะมี DNS หรือ Name Server ท่ีทางผู้ ให้บริการโฮสติ้ง จะเปน็ คนกาหนดและแจง้ ใหท้ ราบเพอื่ เอาไปใสใ่ หโ้ ดมเมนเนมของเวบ็ ไซตท์ ี่สร้างขน้ึ รูปที่ 2.67 แสดงหนา้ ต่างโดเมนเนมเม่ือเราจดทะเบยี นแล้ว

51 2.3.7 โปรแกรม Spss โปรแกรม SPSS (Statistical Package for the Social Science for Windows) เป็นโปรแกรมท่ีมีประสิทธิภาพสูง ในการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ และการจัดการข้อมูลต่าง ๆ ผู้ใช้โปรแกรมสามารถวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติประเภทต่าง ๆ และแสดงผลการวิเคราะห์ข้อมูล ออกมาในรูปของตาราง หรือแผนภูมิชนิดต่าง ๆ ได้ทั้งแบบ 2 มิติ และ 3 มิติ การใช้งานโปรแกรมไม่ ซับซ้อน เหมาะสาหรับผู้ใช้ที่ต้องการประมวลผลข้อมูลท่ีถูกต้องแม่นยาและรวดเร็ว แต่ก็ยังมีคนอยู่ จานวนไม่น้อยที่ยังมีแนวคิดที่ว่า การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรม SPSS เป็นเรื่องท่ียากและต้องใช้ ความรู้ทางสถิติเป็นอย่างดีบ้าง โอกาสในการนาไปใช้ในการปฏิบัตงิ านค่อนข้างน้อยบ้าง แต่ผู้เขียนไม่ เห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าวข้างต้น เน่ืองจากการใช้โปรแกรม SPSS ไม่จาเป็นต้องมีความรู้พื้นฐาน ทางสถิติเป็นอย่างดีเสมอไป แต่ขอให้มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการนาเสนอข้อมูลด้วยสถิติเบ้ืองต้น เช่น ค่าความถ่ี (Frequency) ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ยเลขคณิต (Mean) และค่าส่วน เบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) เป็นต้น โดยส่วนใหญ่แล้วการใช้งานโปรแกรม SPSS มักจะเกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ข้อมูลในงานวิจัย แต่ก็ไม่เสมอไป กล่าวคือ SPSS สามารถนาไป ประยุกต์ใช้ในการดาเนินชีวิตได้เป็นอย่างดี เช่น การทาบญั ชีและคานวณรายรับรายจ่ายในครอบครัว ใช้สาหรับการวิเคราะห์เพื่อประเมินการปฏิบัติงานของบุคลากรในหน่วยงาน วิเคราะห์ทัศนคติ และความพึงพอใจต่อสิ่งต่าง ๆ นอกจากนี้ SPSS ยังสามารถนามาใช้เป็นเคร่ืองมือท่ีช่วยในการ ตัดสินใจของผู้บริหาร หรือบุคคลในระดับอื่น ๆ อยู่ท่ีว่าจะรู้จักประยุกต์ใช้เทคโนโลยีท่ีทันสมัยและมี ประสิทธภิ าพดังกลา่ วน้ันอยา่ งไร รปู ที่ 2.68 แสดงหน้าต่างของโปรแกรม SPSS

52 รปู ท่ี 2.69 แสดงหนา้ ตา่ งการกรอกข้อมลู จากแบบสอบถาม รูปท่ี 2.70 แสดงหน้าตา่ งการหาค่าร้อยละ 2.3.8 Google Form Google Form เปน็ สว่ นหน่งึ ในบรกิ ารของกล่มุ Google Docs ท่ชี ่วยให้เราสร้าง แบบสอบถามออนไลน์ หรอื ใช้สาหรบั รวบรวมขอ้ มูลได้อยา่ งรวดเรว็ โดยทไี่ ม่ตอ้ งเสยี คา่ ใชจ้ า่ ย ในการ ใช้งาน Google Form ผู้ใช้สามารถนาไปปรับประยุกต์ใช้งานได้หลายรูปแบบอาทิ เช่น การทา แบบฟอรม์ สารวจความคิดเห็น การทาแบบฟอร์มสารวจความพึงพอใจ การทาแบบฟอรม์ ลงทะเบียน และการลงคะแนนเสียง เป็นต้นท้ังนี้การใช้งานกูเก้ิลฟอร์มน้ัน ผู้ใช้งานหรือผู้ท่ีจะสร้างแบบฟอร์ม จะต้องมีบัญชีของ Gmail หรือ Account ของ Google เสียก่อน ผู้ใช้งานสามารถเข้าใช้งานสร้าง แบบฟอรม์ ผา่ น Web Browser ไดเ้ ลยโดยท่ีไม่ตอ้ งตดิ ตัง้ โปรแกรมใดๆ ทง้ั ส้นิ

53 รปู ท่ี 2.71 แสดงหน้าตา่ งแบบฟอร์มทใ่ี ชเ้ กบ็ ขอ้ มลู ใน Google Form รปู ท่ี 2.72 แสดงหน้าต่างของการออกแบบ

54 2.4 ทฤษฎที ี่เกยี่ วข้องในการพัฒนาระบบงาน 2.4.1 ทฤษฎสี ี ทฤษฎีสี หมายถึง ลักษณะกระทบต่อสายตาให้เห็นเป็นสีมีผลถึงจิตวิทยา คือมีอานาจ ให้เกิดความเข้มของแสงท่ีอารมณ์ และความรู้สึกได้การที่ไดเ้ ห็นสีจากสายตาสายตาจะสง่ ความรสู้ ึกไป ยงั สมองทาใหเ้ กดิ ความรู้สกึ ต่างๆตามอทิ ธพิ ลของสี เช่น สดชื่น ร้อน ต่ืนเตน้ เศร้า สีมคี วามหมายอย่างมาก เพราะศิลปินต้องการใช้สีเป็นสื่อสร้างความประทับใจในผล งานของศิลปะ และสะท้อนความ ประทบั ใจน้ันให้บังเกดิ แก่ผู้ดมู นุษย์เกีย่ วข้องกบั สตี ่างๆ อยู่ตลอดเวลาเพราะทุกส่ิงท่ีอยู่รอบตัวน้ันลว้ น แตม่ ีสีสนั แตกตา่ งกันมากมาย สีในงานศิลปะที่เราใช้กันน้ัน โดยมากมักเป็นสีประเภทสาเร็จรูป กล่าวคือ เมื่อเปิดขวดข้ึนมาก็สามารถนามาใช้ได้ทันที จนทาให้เราขาดทักษะความรู้ด้านการผสมสีให้ได้มาซึ่งสี ในรูปแบบต่างๆ นับแต่อดีตกาล มนุษย์เรารู้จักการใช้สีในการสร้างสรรค์ส่ิงต่างๆรอบๆตัว เช่นว่า การนาเอาสีของยางไม้ไปเขียนตามผนังถา้ ทั้งแบบตั้งใจและไม่ต้ังใจศิลปนิ สมยั กอ่ นๆเหน็ ว่าเรอ่ื งของสี เป็นเร่ืองยุ่งยาก ทาให้การ สร้างสรรค์งานศิลปะในยุคก่อนไม่ค่อยคานึงถึงกฎเกณฑ์หรือหลักการ เท่าไรนัก ในยุคโบราณสีท่ีใช้เป็นอุปกรณ์ในการเขียนภาพ ไม่ได้ได้มาจากกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ แต่ได้จากการนาเอาวัตถุดิบที่มีอยู่ ธรรมชาติมาทาให้เกิดสีเช่น สีแดง ได้จากยางไม้ ดินแดง หรือหินสีมาบดหรอื แม้บางครั้งก็นามาจากเลือดของสัตว์ สีขาวได้จากดนิ ขาว สีดาได้จากการ นาเอาเข้ามาจากก้นภาชนะมาละลายน้า สีครามได้จากดอกไม้บางชนิด สเี หลอื งได้จากดนิ เหลืองหรือ ยางรงซึ่งในยุคนั้นไม่ ค่อยนิยมนามาใช้ในการเขียนภาพแต่มักจานาสีที่ได้มาใช้ในการย้อมผ้า แต่ทั้งนี้ ข้ึนอยู่กับความเชื่อ วิถีทางวัฒนธรรมของแต่ละชนชาติว่า นิยมหรือมี วิธีในการสร้างสรรค์อย่างไร เช่น ชาวจีนไม่ค่อยนิยมท่ีจะเขียนภาพดว้ ยสีเท่าไรนัก แต่กลับนิยมเขียนภาพดว้ ยหมึกดาส่วนชนชาติ ไทยเรานยิ มใชห้ ลายสี แต่ไม่มากนกั เพราะสที ี่หาได้จะมีจานวนจากดั เท่าท่หี าไดจ้ ากธรรมชาติ ไดแ้ ก่สี ดา สีขาว สีแดง และเหลือง ภาพเขียนเก่าแก่ของไทยจากกรุปรางค์ทิศวัดมหาธาตุอยุธยา กรุปรางค์ ใหญ่วัดมหาธาตุ ราชบุรี(น. ณ ปากน้า:1) ต่อมาในยุคหลงั ๆท่ีมี การพัฒนาด้านเทคโนโลยีมีการคิดค้น และผลิตสีต่างๆออกมามากมาย หลายชนิด ทาให้การใช้สนี ั้นกลายเป็นเรื่องทค่ี ่อนขา้ งยุง่ ยากเพราะว่า ค่สู บี างคมู่ ี ความสดและเข้มพอๆกนั ทาให้เขา้ กันไม่ได้เกดิ ความขัดแย้ง 2.4.1.1 ประเภทของแม่สี แม่สีในยุคปัจจุบัน อาจจาแนกออกได้เป็น 3 ประเภท คอื แม่สีจติ วทิ ยา แมส่ ีวิทยาศาสตร์ และแมส่ ศี ิลปะ 2.4.1.2 แม่สีจติ วิทยา แมส่ ีจิตวิทยา เป็นสีในกลุ่มที่มีอิทธิพลต่อความรู้สกึ และมีผลต่อ จิตใจของมนษุ ย์ กล่าวคือสีท่ีเราพบเห็นจะสามารถโน้มนา้ วชวนใหร้ ู้สึกต่นื เตน้ โศกเศรา้ โดยมากมักใช้

55 ในการรักษาคนไข้ได้ เช่นโรคประสาท หรือโรคทางจิต แม่สีจิตวิทยาสี 4 สีประกอบด้วย สีแดง สี เหลอื ง สีเขียว และสีน้าเงนิ 2.4.1.3 แม่สีวิทยาศาสตร์ แม่สีวิทยาศาสตร์เป็นสีท่ีเกิดจากการสร้างหรือประดิษฐ์ข้ึน จากกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์เชน่ สีของหลอดไฟ สีที่ผ่านแท่งแก้วปริซึม ที่เกิดจากการสะท้อนและ การหักเหของแสง แม่สใี นกลุม่ นี้ประกอบด้วย สีแสด สีเขยี วมรกต และสมี ว่ ง 2.4.1.4 แม่สีศิลปะ แม่สีศิลปะหรือบางครั้งเรียกว่า แม่สีวัตถุธาตุ หมายถึงสีท่ีใช้ใน การวาดภาพ หรือสร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะทั่วๆ ไปซ่ึงเมื่อนามาผสมกันในปริมาณต่างๆที่ต่าง อตั ราสว่ นกนั จะเกิดสสี ันต่างๆมากมายให้เราไดเ้ ลอื กหรือนามาใช้ในการสร้างสรรค์ ผลงานที่สวยงามได้ แมส่ ใี นกลุม่ น้ปี ระกอบดว้ ย สีแดง สเี หลือง และสนี า้ เงนิ 2.4.2 ทฤษฎคี วามพงึ พอใจ ไดม้ ผี ใู้ หค้ าอธบิ ายความหมายของความพึงพอใจดังน้ี ไพบูลย์ ช่างเรยี น (2516) ได้กล่าวถึงความหมายของความพึงพอใจสรุปได้ว่า ความพึง พอใจเป็นความต้องการทางร่างกาย มีความรุนแรงในตัวบุคคล ในการร่วมกิจกรรมเพื่อสนองความ ต้องการทางร่างกายเป็นผลทาให้เกิดความพึงพอใจแล้วจะรู้สึกต้องการความม่ันคง ปลอดภัยเมื่อ บุคคลได้รับการตอบสนอง ความต้องการทางร่างกายและความต้องการความม่ันคง แล้วบุคคล จะเกดิ ความผกู พันมากขน้ึ เพื่อใหเ้ ป็นที่ยอมรบั ว่าตนเปน็ ส่วนหนึ่งของกลุ่ม อุทัย หิรัญโต (2523) ได้ให้ความหมายของความพึงพอใจไว้ว่า “ความพึงพอใจเป็นสิ่ง ท่ีทาให้ทุกคนเกิดความสบายใจ เน่ืองจากสามารถตองสนองความต้องการของเขา ทาให้เขาเกิด ความสขุ ” สมพงศ์ เกษมสิน (2518. หน้า 298 อ้างอิงมาจาก นริษา นราศรี 2544. หน้า 28) บุคคลจะเกิดความพึงพอใจได้น้ัน จะต้องมีการจูงใจ ได้กล่าวถึงการจูงใจว่า “การจูงใจเป็นการชักจูง ให้ผู้อ่ืนปฏิบัติตาม โดยมีมูลเหตุความต้องการ 2 ประการ คือ ความต้องการทางร่างกายและความ ต้องการทางจิตใจ” นฤมล มีชัย (2535. หน้า 15) กล่าวว่า ความพึงพอใจเป็นความรู้สึกหรือเจตคติที่ดีต่อ การปฏิบัติงานตามภาระหน้าที่ และความรับผิดชอบนั้นๆ ด้วยใจรัก มีความกระตือรือร้นในการ ทางานพยายามตั้งใจทางานให้บรรลุเป้าหมาย และมีประสิทธิภาพสูงสุด มีความสุขกับงาน ท่ีทาและ มคี วามพอใจ เมื่องานนั้นได้ผลประโยชนต์ อบแทน สเต้าส์ และเชเลย์ (Srauss and Sayles, 1960. P. 119-121) กล่าวว่า ความรู้สึก พอใจในงานที่ทาและเต็มใจที่จะปฏิบัติงานนั้นให้บรรลุวัตถุประสงค์ขององค์กร คนท่ีจะพอใจในงาน ท่ีทาเม่ืองานน้ันให้ผลประโยชน์ตอบแทนด้านวตั ถแุ ละจติ ใจ ซึ่งสามารถสนองความตอ้ งการขั้นพน้ื ฐาน ของเขาได้

56 โวแมน (Wolman, 1973. p. 95) ให้ความหมายของความพึงพอใจว่า ความพึงพอใจ คอื ความรู้สึกมคี วามสุข เมื่อไดร้ ับผลสาเรจ็ ตามความมุง่ หมาย ตอ้ งการ หรอื แรงจูงใจ หทัยรัตน์ ประทุมสูตร (2542) กล่าวว่า การวัดความพึงพอใจ เป็นเร่ืองที่เปรียบเทียบ ได้กับความเข้าใจท่ัวๆไป ซ่ึงปกติจะวัดได้โดยการสอบถามจากบุคคลท่ีต้องการจะถามมีเคร่ืองมือท่ี ต้องการจะใช้ในการวิจัยหลายๆอย่าง อย่างไรก็ดีถึงแม้ว่าจะมีการวัดอยู่หลายแนวทาง แต่การศึกษา ความพงึ พอใจอาจแยกตามแนวทางวัด ไพรซ์ และมูลเลอร์ (Price and Muller, 1986. P. 215) ให้ทัศนะว่าความพึงพอใจ ในงานคือระดับของความรู้สึกในทางบวกหรือในทางท่ีดีของพนักงานหรือลูกจ้างต่องานจากความ คิดเห็นของนักวิชาการ ได้กล่าวถึงส่ิงท่ีสร้างความพึงพอใจสรุปได้ว่าความพึงพอใจจะทาให้บุคคลเกิด ความสบายใจหรอื สนองความต้องการทาให้เกิดความสุขเป็นผลดตี ่อการปฏิบัตงิ าน 2.4.3 หลักการจด Domain Name Domain Name คือ คาสามัญท่ีต้ังขึ้นเพ่ือใช้ทดแทนตัวเลขบอกตาแหน่งท่ีต้ังของ เว็บไซต์บนอินเตอร์เน็ต ( IP Address ) เพื่อให้คนท่ัวไปรู้จักและจดจาเว็บไซต์ได้ง่ายข้ึน เนื่องจาก ตวั เลข IP Address นนั้ จดจาได้ยากวา่ โดยองค์การกลางที่ควบคุมการจดทะเบยี น Domain Name คือ Internet Corporation for Assigned Names and Numbers ( ICANN ) ของสหรฐั อเมริกา 2.4.3.1 ประเภทของ Domain Name Top Level Domain Name คือ Domain Name ที่สามารถจดได้ท่วั โลก คณุ สามารถเช็ครายชื่อที่ว่างอยูไ่ ด้จากผู้ให้บริการ Hosting ท่ัวไปหรือ เข้าไปตรวจสอบโดยตรงได้ท่ี www.internic.net/regist.html. นามสกุลของ Domain Name จะแบ่งใช้ตามประเภทขององค์กร เช่น .mil จะใช้ได้เฉพาะกับหน่วยงานทางด้านการทหาร ของสหรัฐอเมริกาเท่านั้นหรือ .gov จะใช้ได้เฉาพะกับหน่วยงานทางด้านการปกครองของ สหรัฐอเมริกาเท่าน้นั เปน็ ตน้ นามสกุลของ Top Level Domain Name อื่น ๆ ท่พี บบ่อย ได้แก่ 1) .com ( Commercial ) 2) .net ( Network ) 3) .org ( Organization ) จะพบว่านามสกุลอ่ืนๆของ Top Level Domain Name น้ันจะมีการใช้แพร่หลายท่ัวไป โดยไม่ได้ แบง่ ตามประเภทขององค์กรมากนักเนื่องจากคานึงถึงความนิยมของผู้ใชง้ านเป็นหลกั 2.4.3.2 Local Domain Name คือ Domain Name ท่ีจดตามสังกัดของแต่ละประเทศ สาหรับประเทศไทยน้ัน ควบคุมโดยสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชียและบริษัทที่ดูแลการจดทะเบียน Domain Name ภายใต้ .th คือ THNIC ( http://www.thnic.co.th ) ซึ่งข้อกาหนดในการจด

57 ทะเบียนแบบแรก นั่นคือ จะต้องมีการจดให้ตรงตามประเภทขององค์กร พร้อมท้ังมีหลักฐานในการ ยนื ยนั การจดทะเบียนด้วยไดแ้ ก่ 1) ac.th หน่วยงานการศึกษา ( มาจากคาว่า Academic ) เงื่อนไข การขอจดทะเบียน คอื ตอ้ งเปน็ สถานศึกษาหรอื เก่ยี วขอ้ งกับการศึกษาวิจยั 2) co.th หน่วยงานการค้า ( Commerce ) เงื่อนไขการขอจดทะเบียน คือ ตอ้ งเป็นนิติบคุ คล 3) in.th บุคคลหรือองค์การทั่วไป ( Individuals ) เงื่อนไขการขอ จดทะเบียน คอื ต้องมบี ตั รประชาชน 4) go.th หนว่ ยงานรัฐบาล ( Government ) ไม่เปดิ รับจดทะเบียน 5) mi.th หน่วยงานทหาร ( Military ) ไมเ่ ปิดรับจดทะเบียน 6) or.th หน่วยงานไม่แสวงผลกาไร ( Non – Profit Organization ) ไมเ่ ปิดรับจดทะเบยี น 7) net.th ผใู้ หบ้ รกิ ารอนิ เตอรเ์ นต็ ( Internet Service Provider ) 2.4.4 ข้อกาหนดในการตงั้ ชื่อ Domain Name 2.4.4.1 ชื่อ Domain จะต้องประกอบด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษ ( ตัวพิมพ์ใหญ่ และตวั พิมพเ์ ล็กถือเป็นตวั เดยี วกัน ) หรือตวั เลข ( 0 – 9 ) เท่านั้น 2.4.4.2 สามารถใชต้ วั อักษรไดส้ ูงทส่ี ุดไมเ่ กิน 67 ตวั อกั ษร 2.4.4.3 อักขระพิเศษสามารถใชไ้ ด้เพียงเคร่ืองหมาย ยติภังค์ เคร่ืองหมายขีดส้ันๆ ที่ใชเ้ ชอ่ื มคาผสมหรอื ขดี กลางนนั่ เอง ( - ) นอกจากน้ีแล้วไมส่ ามารใช้อกั ขระพิเศษอน่ื ๆได้ 2.4.4.4 หา้ มเว้นวรรคระหวา่ งช่ือ 2.4.4.5 ระยะ เวลาในการจะทะเบียนเรมิ่ ตัง้ แต่ 1 ปี ขึ้นไปและสามารถจดได้นาน ที่สุด 10 ปี และ สาหรับ Local Domain จะมีข้อกาหนดเพิ่มเติมจากข้างต้นอีก ดังนี้ 1) แตล่ ะองคก์ ารสามารถถอื ครองช่อื โดเมนไดเ้ พยี ง 1 ชื่อโดเมน ยกเวน้ .in.th 2) แต่ละองค์กรสามารถถือครองชื่อโดเมน .in.th ได้ตามจานวนชื่อ โดเมนทต่ี อ้ งการ ( ทั้งน้ีช่ือโดเมนจาเป็นตอ้ งสอดคลอ้ งกบั นโยบายของ THNIC ) 3) สาหรับ .co.th แตล่ ะองค์กรสามารถถือครองชื่อโดเมนภายใต้ .co.th มากกวา่ 1 ชอื่ โดเมน ก็ต่อเม่ือองค์กรจดทะเบยี นชื่อโดเมนภายใต้เครอื่ งหมายการคา้ หรือเครื่องหมาย บรกิ าร ( ทง้ั น้ีช่ือโดเมนจาเปน็ ตอ้ งเป็นชื่อเตม็ หรือคาทับศัพท์ของเครื่องหมายการคา้ /บริการ )

58 2.4.5 หลกั การคิดช่ือ Domain Name ทด่ี ี 2.4.5.1 ช่ือโดเมนไมค่ วรยาวเกนิ ไป ชื่อจะต้องสามารถจดจาได้ง่ายสะกดผิดยากโดยเฉพาะช่ือโดเมนท่ีเป็นการเรียนแบบลักษณะคาอ่าน ของภาษาไทยควรระมัดระวังไม่ให้สะกดยากจนเกินไปนักเนื่องจากคาไทยบางคา เม่ือแปลงเป็น ภาษาอังกฤษแลว้ อาจทาให้เกดิ การสับสนระหว่างการจดจาได้หากต้องการใช้จริงๆ ควรใชเ้ ปน็ คาสน้ั ๆ ง่ายๆ เชน่ pantip.com , sanook.com , kapook.com เป็นตน้ 2.4.5.2 ต้องส่ือความหมายทางธุรกิจ สอดคล้องกับสินค้าและบริการท่ีทาการจด ช่ือโดเมนน้ัน ไม่ควรใช้เพียงแต่ชื่อบริษัทในการจดทะเบียนเท่านั้นแต่ควรให้มีคาสาคัญที่เกี่ยวข้องกับ สินค้าและบริการอยู่ด้วย เช่น หากทาเว็บไซต์เก่ียวกับเพลง ก็ควรมีคาว่า music หรือ lyrics ประกอบอยู่ด้วย เพื่อช่วยให้ผู้เข้าทราบว่าเป็นเว็บไซต์ที่มีเร่ืองราวเก่ียวข้องกับอะไร ซ่ึงส่ือได้ชัดเจน กว่าการใช้เพียงชอ่ื บรษิ ทั อย่างเดียว 2.5 งานวจิ ัยท่ีเกย่ี วขอ้ ง นางสาวมานีสงค์ ปฐมวิริยะวงศ์ (2550) ทาการศกึ ษาวิจยั เรื่อง การใช้ประโยชน์และความ พึงพอใจตอ่ เวบ็ ไซต์สถาบนั ของนักศึกษาสถาบนั เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนอื มีวัตถุประสงค์ เพ่ือศึกษาพฤติกรรมการใช้เหตุผลท่ีใช้เว็บไซต์ ลักษณะของการใช้ประโยชน์ และระดับความพึงพอใจ ต่อเว็บไซต์สถาบันของนักศึกษา ใช้วิธีการสารวจตัวอย่างนักศึกษา จานวน 400 คน พบว่า พฤติกรรมการใช้เว็บไซต์สถาบันมีความถี่ 1 – 3 ครั้งต่อเดือน แต่ละครั้งใช้เวลา 15 – 29 นาที ส่วนใหญ่เข้าเว็บไซต์เพ่ือรับทราบข้อมูลข่าวสาร และเพ่ือติดต่อส่ือสารกับสถาบันในระบบของการ ลงทะเบียน การตรวจสอบผลการศึกษา และการสบื คน้ ขอ้ มลู ประกอบการศกึ ษา นายศุภชัย ธรรมวงศ์ (2551) ทาการศึกษาวิจัยเร่ือง การพัฒนาระบบบริหารจัดการข้อมูล บนเว็บไซต์สานักงานสาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงเว็บไซต์สานักงานฯ ให้เป็นแหล่งเผยแพร่ข้อมูล ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร กิจกรรม และเป็นเคร่ืองมือในการทางาน โดยใช้ภาษาพีเอชพี และโปรแกรมจัดการฐานข้อมูลมายเอสคิวแอลเว็บไซต์ แบ่งได้ 2 ส่วนที่สาคัญ คือ สว่ นของเจา้ หนา้ ทแี่ ละบุคคลทั่วไป และส่วนระบบบรหิ ารจดั การขอ้ มูล เป็นสว่ นของผดู้ ูแลระบบ และผู้รับผิดชอบจากแต่ละหน่วยงาน ให้บริการข้อมูลได้แก่ ข้อมูลวิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์ การจอง การใชง้ านห้องประชุม รถยนต์ เคร่อื งโปรเจคเตอร์ การจัดการข้อมูลประชากร สถานการณ์โรคเอดส์ การ จดั อันดับสถานการณ์โรคติดต่อตา่ ง ๆ การจัดการข้อมูลบุคลากร การจัดการไฟล์ดาวน์โหลดการจัดการ อัลบ้ัมภาพ การจัดการข่าวกิจกรรม ข่าวประกวดราคา ข่าวประชาสัมพันธ์ บทความซ่ึง ผลการ ประเมินความพึงพอใจด้วยแบบสอบถามพบว่า 1) กลุ่มผู้ดูแลระบบ มีความพึงพอใจในระดับดี

59 (ค่าเฉล่ีย 4.35) 2) กลุ่มเจ้าหน้าท่ีท่ีรับผิดชอบข้อมูล มีความพึงพอใจในระดับดี (ค่าเฉล่ีย 4.25) และ 3) กลุ่มเจ้าหน้าที่ และบุคคลท่ัวไป มีความพึงพอใจระดับดีมาก (ค่าเฉลี่ย 4.75) สรุปได้ว่า เวบ็ ไซตท์ ่พี ัฒนาข้นึ สามารถนาไปใชป้ ระโยชนไ์ ดจ้ ริง จิราพร ทัศนานุสิทธ์ิ (2553) ศึกษาเว็บไซต์ห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษาในด้านข้อมูลเก่ียวกับ หอ้ งสมุด ทรัพยากรสารสนเทศของห้องสมุดและการเข้าใช้ การเชื่อมโยงเวบ็ ไซต์และองค์ประกอบของ เว็บไซต์ และศึกษาสถานภาพของผู้รับผิดชอบเว็บไซต์ห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษา ความถ่ีและระยะเวลา ที่กาหนดในการปรับปรุงข้อมูล และปัญหาในการจัดทาเว็บไซต์ห้องสมุด วิธีการวิจัยใช้แบบบันทึก ข้อมูลในการเก็บรวบรวมข้อมูลเว็บไซต์ห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษา จานวน 95 แห่ง และใช้ แบบสอบถามในการเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้รับผิดชอบเว็บไซต์ห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษาทั้ง 95 แห่ง ผลการวิจัยพบว่า เว็บไซต์ห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษาส่วนใหญ่มีข้อมูลเกี่ยวกับท่ีอยู่ ท่ีตั้ง วัน - เวลาทาการรายชื่อบุคลากร ข่าวกิจกรรมของห้องสมุด และรายช่ือหนังสือใหม่สามารถใช้เว็บไซต์ สืบค้นข้อมูลรายการทรัพยากรสารสนเทศของห้องสมุดผ่านทางออนไลน์ได้ (ร้อยละ 78.95) และมี การเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ของหน่วยงานภายนอก (ร้อยละ 90.53) ส่วนผลการวิจัยของผู้รับผิดชอบ เว็บไซต์ห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษาพบว่า ผู้รับผิดชอบเว็บไซต์จานวนมากท่ีสุดจบการศึกษาระดับ ปริญญาตรีสาขาบรรณารักษศาสตร์และสารนิเทศศาสตร์ อายุ 26 – 30 ปี เรียนรู้ด้านการจัดทา เว็บไซต์ด้วยตนเอง และมีผู้ร่วมรับผิดชอบเว็บไซต์ จานวน 1 - 3 คน ผู้รับผิดชอบเว็บไซต์ห้องสมุด ปรับปรุงเว็บไซต์เม่ือมีข้อมูลใหมแ่ ละสามารถปรับปรุงข้อมูลของเว็บไซต์ได้ตรงตามระยะเวลาท่ีกาหนด ผู้รับผิดชอบเว็บไซต์ห้องสมุดส่วนใหญ่ประสบปัญหาเร่ืองไม่มีเวลา เน่ืองจากมีงานประจาอย่างอื่นด้วย และเน้อื หาในการเชื่อมโยงไปยังเว็บไซตต์ ่าง ๆ มกี ารเปลี่ยนแปลงบ่อย ทาให้การปรับปรุงข้อมูลล่าช้า และขาดทกั ษะการใช้โปรแกรมท่ีใชท้ าเว็บไซต์ ณัฏพันธุ์ นันทวาส และ ยศธนา คุณาทร (2554) ได้ทาการศึกษาเรือ่ ง การพัฒนาสื่อการสอน อิเล็กทรอนิกส์บนเครือข่าย เร่ืองการเขียนแบบวิศวกรรม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กลุ่มตัวอย่างคือ นักศึกษา ระดับปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ ลงทะเบียนเรียนกระบวนวิชา 259014 การเขียนแบบวิศวกรรม ในภาคเรียนที่ 1/2554 จานวน 180 คน เคร่ืองมือที่ใช้ในการศึกษาได้แก่ บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์บนเครือข่าย เร่ืองการเขียนแบบ วิศวกรรมและแบบสอบถาม ซึ่งเกบ็ ข้อมูลโดยให้กลมุ่ ตวั อยา่ งทดสอบการใช้งานบทเรียนอเิ ล็กทรอนิกส์ บนเครือข่ายเร่ืองการเขียนแบบวิศวกรรม จากน้ันให้ตอบแบบสอบถามการใช้งานแล้วนาข้อมูลที่ได้มา วิเคราะห์ค่าร้อยละผลการศึกษาท้ัง 4 ด้าน คือ ด้านการนาเสนอเน้ือหา ด้านการออกแบบหน้าจอ ด้านการท่องเท่ียวในบทเรียน ด้านการใช้งาน โดยในด้านการนาเสนอเนื้อหากลุ่มตัวอย่างเห็นด้วย ร้อยละ 93.88 สาหรับการออกแบบหน้าจอนักศึกษาเห็นด้วย ร้อยละ 94.87 ด้านการท่องไปใน

60 บทเรียน กลุ่มศึกษาด้วย ร้อยละ 94.60 และด้านการใช้งาน กลุ่มนักศึกษาเห็นด้วย ร้อยละ 93.60 นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างได้ให้ข้อเสนอแนะว่า ในการเข้าถึงบทเรียนอิเล็กทรอนิกส์บนเครือข่าย พรอ้ มกนั หลายคนควรมีการเปดิ Bandwidth ใหเ้ หมาะสมกับการใชง้ านแบบ Video Stremin นายสถาพร ผิวดาและนายเอกรัตน์ วงษ์จอม (2559) การจัดทาโครงการ “ระบบขายสินค้า ออนไลน์ประเภท ร้านออร้านออมิวสิค” มีจุดมุ่งหมายเพ่ือ สนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนา โปรแกรมบนเว็บไซต์เพ่ือให้ผู้เข้าใช้อินเทอร์เน็ตน้ันได้เลือกชมเว็บไซต์ที่มีสินค้าที่หลากหลาย และเพอ่ื ให้ลูกค้าสามารถพดู คุยเรื่องราวสินค้ากับผดู้ ูแลเว็บไซต์ได้

บทที่ 3 วธิ กี ารดาเนินงาน การสร้างเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ร้านยวลใจการแว่น มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อสร้าง เว็บไซตข์ ายสินค้าออนไลน์ร้านยวลใจการแว่น 2) เพอ่ื เพิม่ ช่องทางการขายสินค้า 3) เพ่ือสารวจความ พงึ พอใจผู้ใช้บรกิ ารเว็บไซต์ โดยมวี ิธกี ารดาเนนิ งาน เปน็ ข้นั ตอนต่าง ๆ ดังนี้ 3.1 ประชากรและกลุ่มตัวอยา่ ง 3.2 เครื่องมอื ที่ใช้ในการพัฒนาระบบและวเิ คราะห์ข้อมลู 3.3 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู 3.4 การวเิ คราะห์ข้อมลู 3.5 ข้นั ตอนการดาเนินงานสร้างเว็บไซต์ 3.1 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง 3.1.1 ประชากร ประชากรท่ีใช้ในการศึกษาในคร้ังน้ีคือ ประชากรท่ีอาศัยอยู่ตาบลป่งขาม อาเภอหวา้ นใหญ่ จงั หวดั มกุ ดาหาร จานวน 5,206 คน 3.1.2 กลุม่ ตัวอยา่ ง กลุ่มตัวอย่าง คือ ประชากรที่อาศัยอยู่ตาบลป่งขาม อาเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมกุ ดาหาร โดยเจาะจงช่วงอายุ 18-70 ปี จานวน 357 คน 3.2 เครอื่ งมอื ทีใ่ ช้ในการพฒั นาระบบและวเิ คราะหข์ อ้ มูล 3.2.1 เครือ่ งมือในการพัฒนาระบบ (Software) 3.2.1.1 ระบบปฏิบัตกิ าร Microsoft Windows 10 3.2.1.2 โปรแกรมภาษา PHP+MySQL 3.2.1.3 โปรแกรม Microsoft Internet Chrome 3.2.1.4 โปรแกรมจาลองเซิฟเวอร์ AppServ 3.2.1.5 โปรแกรมชวยออกแบบและพฒั นาเวบ็ Macromedia Dreamweaver 3.2.1.6 โปรแกรมตกแตงภาพกราฟก Adobe Photoshop

62 3.2.2 เครอ่ื งมือการวิจัย/วิธีการวิเคราะห์ขอมูล 3.2.2.1 การสร้างเคร่ืองมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ในการศึกษาคร้ังนี้ ผู้ศึกษาได้ใช้แบบประเมินความพึงพอใจในการเข้าใช้ เว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ร้านยวลใจการแว่น ซ่ึงสร้างข้ึนมาเป็นเคร่ืองมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อนามาวิเคราะห์ โดยมีรายละเอียดการสร้าง เคร่ืองมอื ดังนี้ 3.2.2.2 การสร้างแบบประเมินความพึงพอใจ ในการสร้างแบบประเมินความ พงึ พอใจในการใช้บริการเวบ็ ไซต์ขายสนิ ค้าออนไลน์ร้านยวลใจการแว่น ให้ครอบคลมุ เน้ือหาท่ีต้องการ ศึกษา โดยออกแบบเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scales) โดยใช้แบบประเมินความ พึงพอใจในการเข้าใช้บริการเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ร้านยวลใจการแว่น ท่ีผ่านการประเมินความ ตรงเชิงโครงสร้างและเนื้อหาแล้วโดยแบบประเมินความพึงพอใจที่ปรับปรุงนั้นได้ให้ผู้ตอบแบบ ประเมินความพึงพอใจแสดงความเห็นเกี่ยวกับความพึงพอใจ ในการในการใช้บริการเว็บไซต์ ขายสินค้าออนไลน์ร้านยวลใจการแว่น โดยมีหลักเกณฑ์ในการให้คะแนนแบบประเมินความพึงพอใจ ในการเข้าใช้บรกิ าร 5 ระดับ ดังนี้ 5 หมายถึง มีความพึงพอในในระดบั ดมี าก 4 หมายถงึ มีความพงึ พอใจในระดับ ดี 3 หมายถึง มคี วามพึงพอใจในระดับ ปานกลาง 2 หมายถงึ มีความพึงพอใจในระดบั พอใช้ 1 หมายถงึ มีความพึงพอใจในระดบั ปรบั ปรงุ 3.2.2.3 สาหรับลักษณะของแบบประเมินความพึงพอใจในการเข้าใช้บริการเว็บ เว็บไซตข์ ายสินค้าออนไลนร์ า้ นยวลใจการแวน่ ทใ่ี ชใ้ นการศึกษาแบ่งออกเปน็ 3 ส่วน ดังน้ี ตอนท่ี 1 ขอ้ มลู ทวั่ ไป ตอนที่ 2 ข้อมูลความพ่ึงพอใจในการเข้าใช้บริการเว็บไซต์ขายสินค้า ออนไลน์ รา้ นยวลใจการแว่น ตอนท่ี 3 ข้อเสนอแนะ 3.3 การเกบ็ รวบรวมข้อมูล นาเว็บไซต์ที่คณะผู้วิจัยได้จัดทาข้ึน เผยแพร่ผ่านเครือข่ายอนิ เทอร์เน็ตโดยใช้ชอ่ื โดเมนเมน (Domain name) yuanjaioptic2020.epizy.com/yurnjaiot เพื่อใช้กับกลุ่มตัวอย่างท่ีเข้าใช้งาน เว็บไซต์ ประเมินความพึงพอใจตามระยะเวลาที่กาหนด นาคะแนนผลการประเมินจากการตอบ แบบสอบถามออนไลน์ ของผ้เู ข้าใช้บริการ เวบ็ ไซต์ขายสินค้าออนไลน์รา้ นยวลใจการแว่น มาวเิ คราะห์

63 หาค่าเฉล่ีย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เพื่อนาไปสรุปผลความพึงพอใจที่ได้จากการใช้งานเว็บไซต์ ขายสนิ ค้าออนไลนร์ ้านยวลใจการแว่น ท่ีสรา้ งข้ึน 3.4 การวเิ คราะห์ขอ้ มูล การศึกษาความพึงพอใจในการเข้าใช้บริการเว็บขายสินค้าออนไลน์ร้านยวลใจการแว่น โดยนาข้อมูลท่ีไดจ้ ากการเกบ็ รวบรวมข้อมูลมาวเิ คราะห์ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โดยใช้สถิติในการ วเิ คราะห์ขอ้ มูลดังนี้ 3.4.1 สถิติทใ่ี ช้ในการศกึ ษา 3.4.1.1 ในการศึกษาครั้งนี้ ผู้จัดทาได้ใช้สถติ ิเพ่ืออธิบายลักษณะของกลุ่มตัวอย่าง ในเร่ืองเก่ียวกับปัจจัยท่ัวไปด้านบุคคล ของผู้ตอบแบบประเมิน และร้อยละของความพึงพอใจ โดยการหาคา่ แจกแจงความถ่ี การหาค่าร้อยละ การค่าเฉลย่ี ส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐาน 3.4.1.2 การวิเคราะห์ระดับความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ ผู้จัดทาได้ทาการ วเิ คราะห์ โดยใช้คา่ เฉลย่ี และกาหนดเกณฑ์ในการตคี วามหมายไว้ ดังน้ี ค่าเฉลี่ย 1.00 – 1.49 หมายถึง มีความพงึ พอใจในระดบั ปรับปรงุ ค่าเฉลยี่ 1.50 – 2.49 หมายถึง มคี วามพึงพอใจในระดับ พอใช้ ค่าเฉลีย่ 2.50 – 3.49 หมายถงึ มีความพึงพอใจในระดบั ปานกลาง คา่ เฉลีย่ 3.50 – 4.49 หมายถึง มคี วามพงึ พอใจในระดับ ดี ค่าเฉลยี่ 4.50 – 5.00 หมายถงึ มคี วามพงึ พอใจในระดับ ดีมาก 3.4.1.3 ข้อเสนอแนะในการให้บริหารจากผู้ตอบแบบประเมินความพึงพอใจ ผจู้ ัดทาใช้การวเิ คราะห์เชิงคณุ ภาพ 3.5 ข้นั ตอนการดาเนนิ งานสรา้ งเว็บไซต์ 3.5.1 การวเิ คราะหค์ วามต้องการของผใู้ ช้ ความต้องการของผูเ้ ขา้ ใชง้ านเว็บไซต์ขายสนิ ค้าออนไลนร์ า้ นยวลใจการแว่น 3.5.1.1 สามารถสมคั รสมาชกิ ได้ 3.5.1.2 สามารถส่ังซือ้ สินค้าได้ 3.5.1.3 สามารถสรา้ งเว็บไซตข์ ายสนิ คา้ ออนไลน์รา้ นยวลใจการได้

64 3.5.2 การวิเคราะหแ์ ละออกแบบระบบ 3.5.2.1 การวเิ คราะหแ์ ละออกแบบเว็บไซต์ 1) โครงสร้างการทางานของเว็บไซต์ ในการจัดทาเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ร้านยวลใจการแว่นนั้น มีแนวความคิดในการออกแบบ โครงสร้างการทางานของเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ร้านยวลใจการ แว่น ดังน้ี หน้าหลัก เขา้ สู่ระบบ สินคา้ ทง้ั หมด รีวิวสินค้า แอดมนิ ออกจากระบบ สินค้า ระบบดสู มาชิก ระบบจดั การสินคา้ จดั การประเภทสนิ ค้า จัดการสนิ ค้าที่สง่ั ซ้อื ดขู อ้ มลู ประเภทสนิ ค้า เพิ่มข้อมลู ประเภท สนิ คา้ ภาพท่ี 3.1 แสดงแผนผงั โครงสรา้ งการทางานของเวบ็ ไซต์ขายสนิ ค้าออนไลนร์ า้ นยวลใจการแว่น

65 2) User Interface Design ในการพัฒนาเว็บไซต์ ผู้พัฒนาตอ้ งทาการ วางแผน จัดเตรียมรูปแบบการนาเสนอ เพื่อให้ได้เว็บไซต์ตรงตามความต้องการ โดยเว็บไซต์ถูก ออกแบบและพัฒนาเพ่ือให้รอบรับการทางานร่วมกับโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์ การออกแบบส่วน แสดงผล และส่วนควบคุมการทางานจะใช้ HTML ซึง่ จะใช้ไฟล์ index.php เปน็ สว่ นแสดงผล ดงั ภาพท่ี 3.2 สว่ นหวั ของเว็บไซต์ สว่ นแสดงเมนู ส่วนแสดงเนอ้ื หา แบบฟอรม์ ต่างๆ สว่ นทา้ ยของเว็บไซต์ ภาพท่ี 3.2 เปน็ ส่วนแสดงผล

66 3.5.2.2 การวเิ คราะห์และออกแบบฐานขอ้ มลู (Databases) 1) แผนภาพ Data Flow Diagram Level 0 ภาพที่ 3.3 แสดง Context Diagram

67 2) แผนภาพ Process Decomposition Diagram ภาพที่ 3.4 Process Decomposition Diagram ขายแว่นออนไลน์

68 3) แผนภาพ Data Flow Diagram Level 1 ภาพท่ี 3.5 แผนภาพกระแสขอ้ มูลระดับท่ี 1 ของระบบขายแว่นออนไลน์ จากภาพท่ี 3.5 แสดงให้เห็นรายละเอียดของกระแสข้อมูลระดับท่ี 1 ของระบบขายแว่น ออนไลน์ซงึ่ ประกอบด้วย 6 โปรเซส คอื โปรเซสที่ 1 เปน็ โปรเซสสาหรับสมคั รสมาชิกได้แก่ข้อมูลสมาชิก

69 โปรเซสที่ 2 เป็นโปรเซสสาหรับค้นหาข้อมูลได้แก่ข้อมูลสินค้าข้อมูล ประเภทสินค้า โปรเซสที่ 3 เปน็ โปรเซสสาหรับLoginได้แกข่ ้อมลู สมาชิกข้อมูลผู้ดแู ลระบบ โปรเซสที่ 4 เปน็ โปรเซสสาหรับการส่ังซอื้ ได้แก่ขอ้ มลู การสง่ั ซื้อ โปรเซสท่ี 5 เปน็ โปรเซสสาหรับแจ้งการชาระเงิน ได้แกข่ อ้ มลู การชาระเงิน โปรเซสที่ 6 เป็นโปรเซสสาหรับจัดการข้อมูลหลักได้แก่ข้อมูลสมาชิก ข้อมลู สินคา้ ข้อมูล ประเภทสนิ ค้าข้อมูลการส่ังซ้ือขอ้ มูลการชาระเงิน ขอ้ มลู ผู้ดูแลระบบ 4) แผนภาพ Data Flow Diagram Level 2 แผนภาพ DFD Fragment 1: กรอกขอ้ มูล ตรวจสอบขอมลู ยืนยนั การสมคั ร ภาพที่ 3.6 แผนภาพกระแสข้อมลู ระดับที่ 2 โปรเซสจัดการขอ้ มูลสมาชิก จากภาพท่ี 3.6 แสดงให้เห็นรายละเอียดของกระแสข้อมูลระดับท่ี 2 ของโปรเซสจัดการ ข้อมลู สมาชิก ซึง่ ประกอบด้วยโปรเซสยอ่ ย 3 โปรเซส คือ โปรเซสท่ี 1.1 เปน็ โปรเซสย่อยสาหรบั กรอกขอ้ มูล โปรเซสที่ 1.2 เปน็ โปรเซสย่อยสาหรับตรวจสอบข้อมลู โปรเซสท่ี 1.3 เปน็ โปรเซสย่อยสาหรับยืนยันการสมัครสมาชิก

70 5) DFD Fragment 4: สงั่ ซ้อื ตะกร้าสินค้า คานวณราคา ยนื ยนั การส่งั ซอ้ื ภาพท่ี 3.7 แผนภาพกระแสขอ้ มูลระดบั ท่ี 2 โปรเซสจดั การข้อมูลการส่ังซื้อ จากภาพที่ 3.7 แสดงให้เห็นรายละเอียดของกระแสข้อมูลระดับที่ 2 ของโปรเซสจดการ ข้อมูลการสง่ั ซื้อสินคา้ ซ่ึงประกอบด้วยโปรเซสยอ่ ย 4 โปรเซส คอื โปรเซสที่ 4.1 เป็นโปรเซสย่อยสาหรับการสั่งซ้ือได้แก่ข้อมูลสินค้าข้อมูลประเภท สินค้า โปรเซสท่ี 4.2 เป็นโปรเซสย่อยสาหรับตะกรา้ สินค้า โปรเซสท่ี 4.3 เป็นโปรเซสย่อยสาหรับคานวณราคา โปรเซสที่ 4.4 เป็นโปรเซสย่อยสาหรับยืนยนั การสั่งซื้อ

71 6) DFD Fragment 5: แจ้งการชาระเงิน ภาพที่ 3.8 แผนภาพกระแสข้อมูลระดบั ท่ี 2 โปรเซสแจ้งการชาระเงนิ จากภาพที่ 3.8 แสดงให้เห็นรายละเอียดของกระแสข้อมูลระดับท่ี 2 ของ โปรเซส สต๊อก สินค้าแจง้ ชาระเงิน ซ่งึ ประกอบด้วยโปรเซสย่อย 2 โปรเซส คือ โปรเซสที่ 5.1 เปน็ โปรเซสย่อยสาหรับแจ้งการชาระเงนิ โปรเซสที่ 5.2 เป็นโปรเซสย่อยสาหรับรายละเอยี ดการชาระเงิน

72 7) DFD Fragment 6: จัดการขอ้ มลู หลกั ภาพท่ี 3.9 แผนภาพกระแสข้อมูลระดบั ท่ี 2 โปรเซสจัดการขอ้ มลู หลกั จากภาพท่ี 3.9 แสดงใหเ้ หน็ รายละเอียดของกระแสข้อมูลระดับที่ 2 ของโปรเซสจัดการ ขอ้ มูลหลกั ซงึ่ ประกอบดว้ ยโปรเซสยอ่ ย 4 โปรเซส คอื โปรเซสที่ 6.1 เป็นโปรเซสยอ่ ยสาหรับการจัดการข้อมูลสมาชกิ โปรเซสที่ 6.2 เป็นโปรเซสย่อยสาหรบั การจัดการข้อมูลสินคา้ โปรเซสที่ 6.3 เป็นโปรเซสยอ่ ยสาหรับการจดั การข้อมูลการสงซอื้ โปรเซสที่ 6.4 เป็นโปรเซสย่อยสาหรับการจัดการข้อมลู แจ้งชาระหน้ี

บทที่ 4 ผลการพฒั นาระบบ / ผลการวิเคราะห์ขอ้ มูล การสรา้ งเวบ็ ไซต์ขายสินค้าออนไลนร์ ้านยวลใจการแว่น คณะผูจ้ ัดทาได้ใช้เครอ่ื งมือต่างๆ ในการดาเนินงานและได้ผ่านการทดสอบผลการพฒั นาตลอดจน สารวจความพึงพอใจของกล่มุ ผ้ใู ช้งาน ที่มีส่วนเกย่ี วข้องในการเขา้ ใชบ้ ริการเวบ็ ไซต์ขายสินค้าออนไลน์รา้ นยวลใจการแวน่ ดังน้ี 4.1 ผลการพฒั นาระบบ 4.2 ผลการวเิ คราะหข์ ้อมูล 4.1 ผลการพัฒนาระบบ ในการพัฒนาระบบมีการจาลองเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นเครื่อง Server และเครื่อง Client เข้ามาทางานกับการสร้างเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ร้านยวลใจการแว่น คณะผู้จัดทาได้ เลอื กใช้ภาษา HTML ในการพฒั นาระบบและใช้ Appserv-win 32-5.10 ในการจาลอง Server จากการสร้างเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ร้านยวลใจการแว่น ส่งผลให้การขายสินค้า ออนไลน์ร้านยวลใจการแว่นมีความสะดวกรวดเร็วยิ่งข้ึน โดยได้มีการทดสอบการใช้งานระบบซ่ึง สามารถแบ่งออกเปน็ 15 ส่วน คอื 4.1.1 การทดสอบหนา้ แรก 4.1.2 การทดสอบหนา้ สินค้าทง้ั หมด 4.1.3 การทดสอบหนา้ รวี วิ สนิ คา้ 4.1.4 การทดสอบหนา้ Login Member 4.1.5 การทดสอบหนา้ ติดสมคั รสมาชิก 4.1.6 การทดสอบหน้ารวมสินคา้ ท่ีส่งั ซื้อ 4.1.7 การทดสอบหนา้ รอการชาระสินคา้ 4.1.8 การทดสอบหนา้ Login Admin 4.1.9 การทดสอบหนา้ แรก Admin 4.1.10 การทดสอบหนา้ แสดงสมาชกิ ท้ังหมด 4.1.11 การทดสอบหน้าระบบสนิ คา้ ทั้งหมด 4.1.12 การทดสอบหน้าจัดการสินค้าท่ีสงั่ ซือ้ 4.1.13 การทดสอบหน้าจดั การประเภทสินค้าท้ังหมด 4.1.14 การทดสอบหนา้ ดูข้อมลู ประเภทสินค้า 4.1.15 การทดสอบหนา้ เพิ่มประเภทสินค้า

74 4.1.1 การทดสอบหน้าหลัก รูปที่ 4.1 แสดงการทดสอบหนา้ หลกั ตารางที่ 4.1 ทดสอบการทางานหน้าหลัก การทางาน เงือ่ นไขการทดสอบ ผลการทางาน หนา้ หลัก การแสดงข้อมูลประเภท ข้อความ ผลการทดสอบไม่พบปญั หา การแสดงข้อมลู ประเภทรูปภาพ ผลการทดสอบไม่พบปัญหา การเช่อื มโยงลิงค์ขอ้ มลู เมนูต่างๆ จากการทดสอบพบ เมนูต่างๆ ในหนา้ หลกั จะตอ้ งนาเขา้ หน้า สามารถเช่อื มโยงไปยงั ลิงคห์ น้า เพจย่อยถกู ต้อง เพจอ่ืนไดถ้ ูกต้องตามเงอ่ื นไข 4.1.2 แสดงการทดสอบหน้าสนิ คา้ ท้งั หมด รูปที่ 4.2 แสดงการทดสอบ

75 ตารางท่ี 4.2 ทดสอบการทางานหน้าสินคา้ ทงั้ หมด การทางาน เงื่อนไขการทดสอบ ผลการทางาน ผลการทดสอบไม่พบปญั หา หนา้ สินคา้ ท้งั หมด การแสดงข้อมูลประเภท ข้อความ ผลการทดสอบไม่พบปัญหา จากการทดสอบพบ เมนูต่างๆ การแสดงข้อมลู ประเภทรปู ภาพ สามารถเช่ือมโยงไปยังลงิ คห์ น้า เพจอนื่ ไดถ้ ูกตอ้ งตามเงื่อนไข การเช่อื มโยงลิงค์ข้อมูลเมนูต่างๆ ในหนา้ หลกั จะต้องนาเขา้ หน้า เพจย่อยถูกต้อง 4.1.3 การทดสอบหน้ารวี ิวสินค้า รปู ท่ี 4.3 แสดงการทดสอบหนา้ รีววิ สินคา้ ตารางที่ 4.3 ทดสอบการทางานหนา้ รีวิวสินค้า การทางาน เง่อื นไขการทดสอบ ผลการทางาน หนา้ รีวิวสนิ ค้า การแสดงข้อมลู ประเภท ข้อความ ผลการทดสอบไม่พบปัญหา การแสดงข้อมลู ประเภทรูปภาพ ผลการทดสอบไม่พบปญั หา การเช่อื มโยงลงิ ค์ขอ้ มลู เมนตู ่างๆ จากการทดสอบพบ เมนูตา่ งๆ ในหนา้ หลัก จะต้องนาเข้าหน้า สามารถเชื่อมโยงไปยงั ลงิ ค์หน้า เพจย่อยถกู ต้อง เพจอ่ืนได้ถูกตอ้ งตามเง่อื นไข

76 4.1.4 การทดสอบหนา้ Login Member รูปที่ 4.4 แสดงการทดสอบหนา้ Login Member ตารางที่ 4.4 ทดสอบการทางานหนา้ Login Member การทางาน เงือ่ นไขการทดสอบ ผลการทางาน หนา้ Login Member การแสดงข้อมูลประเภท ข้อความ ผลการทดสอบไม่พบปัญหา การแสดงข้อมูลประเภทรปู ภาพ ผลการทดสอบไม่พบปญั หา การเชื่อมโยงลงิ ค์ขอ้ มลู เมนูต่างๆ จากการทดสอบพบ เมนตู ่างๆ ในหน้าหลัก จะต้องนาเข้าหน้า สามารถเช่ือมโยงไปยงั ลิงค์หน้า เพจยอ่ ยถูกต้อง เพจอนื่ ได้ถูกต้องตามเงอ่ื นไข 4.1.5 การทดสอบหนา้ ติดสมัครสมาชกิ รูปที่ 4.5 แสดงการทดสอบหน้าสมัครสมาชิก

77 ตารางที่ 4.5 ทดสอบการทางานหนา้ สมคั รสมาชิก การทางาน เง่ือนไขการทดสอบ ผลการทางาน ผลการทดสอบไม่พบปญั หา หนา้ สมคั รสมาชิก การแสดงข้อมลู ประเภท ข้อความ ผลการทดสอบไม่พบปญั หา จากการทดสอบพบ เมนตู ่างๆ การแสดงข้อมลู ประเภทรปู ภาพ สามารถเชอื่ มโยงไปยังลิงคห์ น้า เพจอื่นไดถ้ ูกตอ้ งตามเงอ่ื นไข การเชือ่ มโยงลิงค์ข้อมลู เมนตู ่างๆ ในหน้าหลกั จะตอ้ งนาเข้าหนา้ เพจย่อยถกู ต้อง 4.1.6 การทดสอบหนา้ รวมสินค้าที่สง่ั ซอ้ื รูปท่ี 4.6 แสดงการทดสอบหน้ารวมสินค้าท่ีสง่ั ซื้อ ตารางที่ 4.6 ทดสอบการทางานหนา้ รวมสินคา้ ที่สงั่ ซ้ือ การทางาน เง่อื นไขการทดสอบ ผลการทางาน หนา้ รวมสนิ คา้ ที่สง่ั ซื้อ การแสดงข้อมูลประเภท ข้อความ ผลการทดสอบไม่พบปัญหา การแสดงข้อมูลประเภทรปู ภาพ ผลการทดสอบไม่พบปญั หา การเช่อื มโยงลิงค์ข้อมลู เมนูตา่ งๆ จากการทดสอบพบ เมนูต่างๆ ในหน้าหลกั จะต้องนาเข้าหนา้ สามารถเชอ่ื มโยงไปยังลิงคห์ น้า เพจย่อยถกู ต้อง เพจอน่ื ไดถ้ ูกต้องตามเงื่อนไข

78 4.1.7 การทดสอบหนา้ รอการชาระสินค้า รูปท่ี 4.7 แสดงการทดสอบหนา้ รอการชาระสินคา้ ตารางที่ 4.7 ทดสอบการทางานหน้ารอการชาระสนิ คา้ การทางาน เงอื่ นไขการทดสอบ ผลการทางาน หน้ารอการชาระสินค้า การแสดงข้อมูลประเภท ข้อความ ผลการทดสอบไม่พบปญั หา การแสดงข้อมูลประเภทรูปภาพ ผลการทดสอบไม่พบปัญหา การเช่อื มโยงลงิ ค์ขอ้ มูลเมนูตา่ งๆ จากการทดสอบพบ เมนูตา่ งๆ ในหน้าหลัก จะต้องนาเขา้ หนา้ สามารถเชือ่ มโยงไปยงั ลิงคห์ น้า เพจยอ่ ยถกู ต้อง เพจอ่นื ไดถ้ ูกต้องตามเงื่อนไข 4.1.8 การทดสอบหนา้ Login Admin รูปที่ 4.8 แสดงการทดสอบหน้า Login Admin

79 ตารางท่ี 4.8 ทดสอบการทางานหน้า Login Admin การทางาน เงอื่ นไขการทดสอบ ผลการทางาน ผลการทดสอบไม่พบปญั หา หนา้ Login Admin การแสดงข้อมลู ประเภท ข้อความ ผลการทดสอบไม่พบปัญหา จากการทดสอบพบ เมนตู า่ งๆ การแสดงข้อมูลประเภทรปู ภาพ สามารถเช่อื มโยงไปยังลงิ ค์หน้า เพจอน่ื ไดถ้ ูกต้องตามเงอื่ นไข การเช่ือมโยงลงิ ค์ข้อมูลเมนตู า่ งๆ ในหนา้ หลกั จะต้องนาเข้าหน้า เพจยอ่ ยถูกต้อง 4.1.9 การทดสอบหน้าแรก Admin รปู ที่ 4.9 แสดงการทดสอบหน้าแรก Admin ตารางที่ 4.9 ทดสอบการทางานหน้าแรก Admin การทางาน เงอื่ นไขการทดสอบ ผลการทางาน หน้าแรก Admin การแสดงข้อมลู ประเภท ข้อความ ผลการทดสอบไม่พบปัญหา การแสดงข้อมูลประเภทรปู ภาพ ผลการทดสอบไม่พบปญั หา การเช่อื มโยงลงิ ค์ขอ้ มลู เมนูต่างๆ จากการทดสอบพบ เมนตู า่ งๆ ในหนา้ หลกั จะตอ้ งนาเข้าหนา้ สามารถเชื่อมโยงไปยงั ลงิ ค์หน้า เพจย่อยถูกต้อง เพจอน่ื ได้ถูกต้องตามเงื่อนไข

80 4.1.10 การทดสอบหนา้ แสดงสมาชกิ ท้ังหมด รูปที่ 4.10 แสดงการทดสอบหน้าสมาชิกท้ังหมด ตารางท่ี 4.10 ทดสอบการทางานหนา้ สมาชิกทั้งหมด การทางาน เงื่อนไขการทดสอบ ผลการทางาน หน้าแสดงสมาชกิ ท้ังหมด การแสดงข้อมูลประเภท ข้อความ ผลการทดสอบไม่พบปญั หา การแสดงข้อมลู ประเภทรูปภาพ ผลการทดสอบไม่พบปญั หา การเชือ่ มโยงลิงค์ข้อมลู เมนตู ่างๆ จากการทดสอบพบ เมนตู ่างๆ ในหน้าหลกั จะต้องนาเข้าหน้า สามารถเชอ่ื มโยงไปยงั ลิงคห์ น้า เพจย่อยถกู ต้อง เพจอน่ื ไดถ้ ูกตอ้ งตามเงอ่ื นไข 4.1.11 การทดสอบหนา้ ระบบสนิ คา้ ทงั้ หมด รปู ที่ 4.11 แสดงการทดสอบหน้าระบบสินคา้ ท้งั หมด

81 ตารางที่ 4.11 ทดสอบการทางานหน้าระบบสินค้าทั้งหมด การทางาน เงอ่ื นไขการทดสอบ ผลการทางาน ผลการทดสอบไม่พบปญั หา หนา้ ระบบสินคา้ ท้ังหมด การแสดงข้อมลู ประเภท ข้อความ ผลการทดสอบไม่พบปญั หา จากการทดสอบพบ เมนูต่างๆ การแสดงข้อมลู ประเภทรูปภาพ สามารถเชือ่ มโยงไปยังลิงค์หน้า เพจอ่นื ได้ถูกตอ้ งตามเงอ่ื นไข การเชื่อมโยงลิงค์ข้อมูลเมนตู ่างๆ ในหนา้ หลกั จะตอ้ งนาเขา้ หนา้ เพจย่อยถกู ต้อง 4.1.12 การทดสอบหน้าจัดการสินค้าที่ส่งั ซอื้ รปู ที่ 4.12 แสดงการทดสอบหน้าจดั การสนิ ค้าท่สี ั่งซื้อ ตารางท่ี 4.12 ทดสอบการทางานหนา้ จัดการสนิ ค้าท่สี ่ังซื้อ การทางาน เงอ่ื นไขการทดสอบ ผลการทางาน ผลการทดสอบไม่พบปัญหา หน้าจดั การสินคา้ ท่ีสั่งซื้อ การแสดงข้อมูลประเภท ข้อความ ผลการทดสอบไม่พบปัญหา จากการทดสอบพบ เมนูตา่ งๆ การแสดงข้อมลู ประเภทรูปภาพ สามารถเช่อื มโยงไปยงั ลิงคห์ น้า เพจอื่นได้ถูกต้องตามเงือ่ นไข การเชอื่ มโยงลงิ ค์ขอ้ มลู เมนตู า่ งๆ ในหน้าหลัก จะตอ้ งนาเข้าหน้า เพจย่อยถูกต้อง

82 4.1.13 การทดสอบหน้าจดั การประเภทสินค้าทั้งหมด รปู ท่ี 4.13 แสดงการทดสอบหนา้ จัดการประเภทสนิ ค้าท้ังหมด ตารางที่ 4.13 ทดสอบการทางานหน้าจดั การประเภทสินค้าทัง้ หมด การทางาน เงอ่ื นไขการทดสอบ ผลการทางาน หนา้ จดั การประเภทสินค้า การแสดงข้อมลู ประเภท ข้อความ ผลการทดสอบไม่พบปญั หา ท้ังหมด การแสดงข้อมลู ประเภทรปู ภาพ ผลการทดสอบไม่พบปัญหา การเช่อื มโยงลงิ ค์ข้อมูลเมนูต่างๆ จากการทดสอบพบ เมนูต่างๆ ในหนา้ หลัก จะตอ้ งนาเขา้ หน้า สามารถเชือ่ มโยงไปยังลงิ คห์ น้า เพจยอ่ ยถกู ต้อง เพจอนื่ ได้ถูกตอ้ งตามเง่อื นไข 4.1.14 การทดสอบหนา้ ดขู ้อมูลประเภทสินค้า รูปที่ 4.14 แสดงการทดสอบหน้าดูข้อมูลประเภทสินค้า

83 ตารางที่ 4.14 ทดสอบการทางานหนา้ ดขู ้อมลู ประเภทสนิ คา้ การทางาน เงือ่ นไขการทดสอบ ผลการทางาน ผลการทดสอบไม่พบปญั หา หนา้ ดูขอ้ มูลประเภท การแสดงข้อมูลประเภท ข้อความ ผลการทดสอบไม่พบปญั หา จากการทดสอบพบ เมนตู า่ งๆ สินคา้ การแสดงข้อมลู ประเภทรปู ภาพ สามารถเชอ่ื มโยงไปยังลิงคห์ น้า เพจอืน่ ได้ถูกตอ้ งตามเงื่อนไข การเชือ่ มโยงลิงค์ขอ้ มลู เมนูตา่ งๆ ในหนา้ หลัก จะตอ้ งนาเขา้ หน้า เพจยอ่ ยถูกต้อง 4.1.15 การทดสอบหนา้ เพิม่ ประเภทสินคา้ รปู ท่ี 4.15 แสดงการทดสอบหน้าเพิม่ ประเภทสินคา้ ตารางท่ี 4.15 ทดสอบการทางานหนา้ เพิ่มประเภทสินค้า การทางาน เง่ือนไขการทดสอบ ผลการทางาน หนา้ เพ่มิ ประเภทสนิ ค้า การแสดงข้อมลู ประเภท ข้อความ ผลการทดสอบไม่พบปัญหา การแสดงข้อมูลประเภทรูปภาพ ผลการทดสอบไม่พบปญั หา การเชอื่ มโยงลงิ ค์ข้อมูลเมนตู ่างๆ จากการทดสอบพบ เมนูต่างๆ ในหน้าหลัก จะตอ้ งนาเข้าหนา้ สามารถเชื่อมโยงไปยังลงิ ค์หน้า เพจยอ่ ยถกู ต้อง เพจอื่นได้ถูกต้องตามเงอ่ื นไข

84 4.2 ผลการวเิ คราะหข์ ้อมูล การศึกษาความพึงพอใจในการใช้บริการของเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ร้านยวลใจ การแว่น โดยนาข้อมูลที่ได้จากการเก็บรวบรวมข้อมูลมาวเิ คราะห์ด้วยโปรแกรมสาเร็จรูปทางสถิติ ซ่ึง ผ้จู ัดทาขอนาเสนอผลการวเิ คราะหข์ อ้ มูลนาเสนอตามลาดับดังน้ี 4.2.1 ปจั จัยท่ัวไปด้านบคุ คลของผตู้ อบแบบประเมนิ 4.2.2 ผลการประเมินความพึงพอใจของผูใ้ ช้บริการ เว็บไซตข์ ายสนิ ค้าออนไลน์ ร้านยวลใจการแวน่ 4.2.3 ข้อเสนอแนะอืน่ ๆ 4.2.1 ปจั จัยท่ัวไปดา้ นบคุ คลของผ้ตู อบแบบประเมิน จากแบบประเมนิ เปน็ เก็บข้อมลู ปัจจัยทัว่ ไปดา้ นบุคคล ของผูต้ อบแบบประเมิน ดงั น้ี เพศ , อายุ , สถานภาพ , ระดบั การศึกษา และอาชีพ ของผ้ตู อบแบบประเมิน วเิ คราะห์ข้อมลู ดว้ ยคา่ รอ้ ยละ (Percentage) ไดผ้ ลการวเิ คราะห์ดังต่อไปน้ี 4.2.1.1 ผลการประเมินตอนที่ 1 ปัจจยั ทว่ั ไปด้านบคุ คล ตารางที่ 4.16 คา่ รอ้ ยละของขอ้ มูลท่วั ไปของผู้ตอบแบบประเมิน สถานภาพผตู้ อบแบบประเมิน จานวน (คน) รอ้ ยละ 1. เพศ 1.1 ชาย 150 42.0 1.2 หญงิ 207 58.0 รวม 357 100.0 2. อายุ 47 13.2 2.1 18 – 22 ปี 60 16.8 2.2 23 – 30 ปี 72 20.2 2.3 31 – 40 ปี 62 17.4 2.4 41 – 50 ปี 65 18.2 2.5 51 – 60 ปี 51 14.3 2.6 61 ปีข้นึ ไป รวม 357 100.0

85 ตารางที่ 4.16 คา่ รอ้ ยละของข้อมูลทั่วไปของผตู้ อบแบบประเมนิ (ต่อ) สถานภาพผู้ตอบแบบประเมิน จานวน (คน) รอ้ ยละ 3. สถานภาพ 26.1 43.4 3.1 โสด 93 17.1 13.4 3.2 สมรส 155 100.0 3.3 หยา่ รา้ ง 61 5.3 1 9.0 3.4 แยกกันอยู่ 48 21.8 รวม 357 29.1 29.4 4. ระดบั การศึกษา 5.3 4.1 ประถมศกึ ษา 19 4.2 มัธยมศึกษาตอนตน้ 32 4.3 ปวช. (ม.6) 78 4.4 ปวส. 104 4.5 ปริญญาตรี 105 4.6 ปริญญาโท 19 รวม 357 100.0 5. อาชพี 44 12.3 5.1 นกั เรียน/นกั ศกึ ษา 89 24.9 5.2 ข้าราชการ 140 39.2 5.3 เกษตรกร 84 23.5 5.4 อ่ืน ๆ 357 100.0 รวม จากตารางท่ี 4.16 แสดงจานวนผตู้ อบแบบประเมินท้ังหมด 357 คน จาแนกรายการดังน้ี จาแนกตามเพศของผู้ตอบแบบสอบถามพบว่า เพศหญิง จานวน 207 คน คิดเป็นร้อยละ 58.0 และเพศชาย จานวน 150 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 42.0 จาแนกตามอายุของผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า อายุระหว่าง 31-40 ปี จานวน 72 คน คิดเป็นร้อยละ 20.2 รองลงมาอายุระหว่าง 51-60 ปี จานวน 65 คน คิดเป็นร้อยละ 18.2 รองลงมา อายุระหว่าง 41-50 ปี จานวน 62 คน คิดเป็นร้อยละ 17.4 รองลงมาอายุระหว่าง 23-30 ปี

86 จานวน 60 คน คิดเป็นร้อยละ 16.8 รองลงมาอายุ 61 ปีข้ึนไป จานวน 51 คน คิดเป็นร้อยละ 14.3 อายุระหว่าง 18-22 ปี จานวน 47 คน คดิ เป็นร้อยละ 13.2 ตามลาดบั จาแนกตามสถานภาพของผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่าสถานภาพสมรส จานวน 155 คน คิดเป็นร้อยละ 43.4 รองลงมาสถานภาพโสด จานวน 93 คน คิดเป็นร้อยละ 26.1 สถานภาพ หย่าร้าง จานวน 61 คิดเป็นร้อยละ 17.1 สถานภาพแยกกันอยู่ จานวน 48 คิดเป็นร้อยละ 13.4 ตามลาดบั จาแนกตามระดับการศึกษาของผู้ตอบแบบสอบถามพบว่า ระดับปริญญาตรีมากท่ีสุด จานวน 105 คน คิดเป็นร้อยละ 29.4 รองลงมาระดับปวส. จานวน 104 คน คิดเป็นร้อยละ 29.1 รองลงมาระดับ ปวช.(ม.6) จานวน 78 คน คิดเป็นร้อยละ 21.8 รองลงมาระดับ มัธยมศึกษาตอนต้น จานวน 32 คน คิดเป็นร้อยละ 9.0 รองลงมาระดับ ประถมศึกษา จานวน 19 คน คิดเป็นร้อยละ 5.3 ระดับปรญิ ญาโท จานวน 19 คน คิดเปน็ ร้อยละ 5.3 ตามลาดับ จาแนกตามอาชีพของผู้ตอบแบบสอบถามพบว่า อาชีพ เกษตรกรมากที่สุด จานวน 140 คน คดิ เป็นร้อยละ 39.2 รองลงมาอาชีพข้าราชการ จานวน 89 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 24.9 รองลงมาอาชีพอ่ืน ๆ จานวน 84 คน คิดเป็นร้อยละ 23.5 อาชีพนักเรียน/นักศึกษา จานวน 44 คน คิดเป็นร้อยละ 12.3 ตามลาดบั 4.2.1.2 ผลการประเมินตอนที่ 2 ระดบั ความพึงพอใจของผตู้ อบแบบประเมิน ตารางที่ 4.17 แสดงค่าคะแนนเฉล่ียและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของแบบประเมินความพึงพอใจใน การเข้าใชบ้ รกิ ารเว็บไซต์ขายสินคา้ ออนไลนร์ ้านยวลใจการแวน่ ดา้ นที่ 1 ดา้ นเน้อื หา รายการประเมิน ระดบั ความพึงพอใจ ด้านที่ 1 ดา้ นเนอ้ื หา x S.D. ความหมาย 1. มกี ารจัดหมวดหมูเ่ พื่อง่ายต่อการคน้ หา 4.79 0.48 ดมี าก 2. มหี นา้ เว็บเพจท่ีใช้โฆษณาสินค้า 4.55 0.64 ดมี าก 3. มขี ้อมลู สนิ ค้าท่หี ลากหลายและรายละเอียดครบถ้วน 4.52 0.67 ดมี าก 4. เนอื้ หาและภาพมคี วามสอดคลอ้ งกนั 4.64 0.62 ดมี าก 5. ขอ้ ความเวบ็ ไซต์มคี วามถูกตอ้ ง 4.66 0.63 ดมี าก รวมเฉลย่ี 4.64 0.61 ดมี าก จากตารางที่ 4.17 พบว่าความพึงพอใจในการใช้บริการเว็บไซต์ร้านยวลใจการแว่น ด้านเนื้อหาโดยภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก( x = 4.64 , S.D.= 0.61) โดยเรียงลาดับ ระดับ

87 ความพึงพอใจดังนี้ มีการจัดหมวดหมู่เพ่ือง่ายต่อการค้นหา ( x = 4.79 , S.D.= 0.48) รองลงมาข้อความ เว็บไซต์มีความถูกต้อง ( x = 4.66 , S.D.= 0.63) รองลงมาเนื้อหาและภาพมีความสอดคล้องกัน ( x = 4.64 , S.D.= 0.62) รองลงมามีหน้าเว็บเพจท่ีใช้โฆษณาสินค้า ( x = 4.55 , S.D.= 0.64) และมขี ้อมูลสินคา้ ทีห่ ลากหลายและรายละเอยี ดครบถ้วน ( x = 4.52 , S.D.= 0.67) ตามลาดบั ตารางที่ 4.18 แสดงคา่ คะแนนเฉล่ียและสว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐานของแบบประเมนิ ความพงึ พอใจใน การเข้าใชบ้ ริการเวบ็ ไซต์ขายสนิ ค้าออนไลน์ร้านยวลใจการแว่น ด้านที่ 2 ดา้ นการออกแบบและการ จดั รปู แบบเว็บไซต์ รายการประเมิน ระดบั ความพึงพอใจ ด้านท่ี 2 ด้านการออกแบบและการจัดรปู แบบเวบ็ ไซต์ x S.D. ความหมาย 6. การจัดรปู แบบเว็บไซตง์ า่ ยตอ่ การอา่ นและการใช้งาน 4.69 0.57 ดมี าก 7. หน้าโฮมเพจมคี วามสวยงามทันสมยั และนา่ สนใจ 4.70 0.58 ดมี าก 8. มีสสี ันในการออกแบบเว็บไซตม์ ีความเหมาะสม 4.56 0.68 ดมี าก 9. ขนาดของตัวอกั ษรและรปู แบบตัวอักษรมคี วาม 4.61 0.61 ดมี าก สวยงามและอา่ นไดง้ า่ ย 10. มีการใช้ส่ือประสมและภาพ เคล่ือนไหวในการ 4.66 0.61 ดมี าก ประชาสมั พนั ธเ์ หมาะสมกบั ลกั ษณะสินคา้ รวมเฉล่ยี 4.65 0.61 ดีมาก จากตารางท่ี4.18 พบว่าความพึงพอใจในการใช้บริการเว็บไซต์ร้านยวลใจการแว่น ด้านการออกแบบและการจัดรูปแบบเว็บไซต์ อยู่ในระดับดีมาก ( x = 4.65 , S.D.= 0.61) โดยเรียงลาดับระดับความพึงพอใจดังน้ี มากท่ีสุด หน้าโฮมเพจมีความสวยงามทันสมัยและน่าสนใจ ( x = 4.70 ,S.D.= 0.58) รองลงมาการจัดรูปแบบเว็บไซต์ง่ายต่อการอ่านและการใช้งาน ( x = 4.69 , S.D.= 0.57) รองลงมามีการใช้ส่ือประสมและภาพเคล่ือนไหวในการประชาสัมพันธ์เหมาะสมกับ ลักษณะสินค้า ( x = 4.66 , S.D.= 0.61) รองลงมาขนาดของตัวอักษรและรูปแบบตัวอักษรมีความ สวยงามและอ่านได้ง่าย ( x = 4.61 , S.D.= 0.61) และมีสีสันในการออกแบบเว็บไซต์มีความ เหมาะสม ( x = 4.56 , S.D.= 0.68) ตามลาดบั