วนั อาสาฬหบูชา วันขึน้ 15 คา่ เดือน 8 วันอาสาฬหบชู า คอื วนั ท่ีพระพุทธเจา้ ไดท้ รงประกาศพระพุทธศาสนา เป็นคร้ังแรก หลังจากตรสั รู้ได้ 2 เดอื น โดยแสดงปฐมเทศนาโปรด พระปัญจวัคคียท์ งั้ 5 ไดแ้ ก่ พระโกณฑัญญะ พระวปั ปะ พระภัททยิ ะ พระมหานามะ และพระอัสสชิ ท่ปี า่ อสิ ิปตนมฤคทายวนั เมอื งพาราณสี แคว้นมคธ จนพระอญั ญาโกณฑัญญะ ไดบ้ รรลุธรรมและขอบวชเปน็ พระภิกษุรูปแรกในพระพทุ ธศาสนา จงึ ถอื ว่าวันนี้มพี ระรตั นตรยั ครบองค์ สามบริบูรณ์คร้ังแรกในโลก คือ มที งั้ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ซึ่งเหตกุ ารณน์ ้ีเกดิ ข้นึ กอ่ นพทุ ธศกั ราช 45 ปี หอ้ งสมดุ ประชาชน “เฉลมิ ราชกมุ ารี” อาเภอดอนเจดยี ์ สพุ รรณบรุ ี ขอบคณุ ทมี่ า:: Kapook.com
\"วันอาสาฬหบชู า\" ซ่งึ ในปี 2563 วันอาสาฬหบูชา ตรงกับวนั อาทติ ยท์ ี่ 5 กรกฎาคม (ขน้ึ 15 คํ่า เดือน 8) คาํ ว่า \"อาสาฬหบูชา ซงึ่ จะประกอบดว้ ยคาํ 2 คาํ คอื อาสาฬห ทีแ่ ปลวา่ เดอื น 8 ทางจนั ทรคติ กบั คาํ วา่ บูชา ที่แปลว่า การบูชา เมื่อนํามารวมกนั จึงแปลวา่ การบูชาในเดือน 8 หรือการบูชาเพื่อระลึกถงึ เหตกุ ารณ์สาคญั ในเดอื น 8
สําหรบั พุทธศาสนกิ ชนทุกคน คงทราบกนั ดีวา่ ทุกวันขึ้น 15 คาํ่ เดือน 8 ของทกุ ปี จะ ตรงกับวนั สําคญั ทางพทุ ธศาสนาอกี หน่งึ วัน น่ันคอื \"วันอาสาฬหบชู า\" ซึง่ ในปี 2563 วนั อาสาฬหบชู า ตรงกับวันอาทิตย์ท่ี 5 กรกฎาคม (ขน้ึ 15 คํ่า เดือน 8) แตห่ ลายท่าน อาจจะยังไม่ทราบความเป็นมาเกีย่ วกับวันอาสาฬหบูชาเทา่ ใดนัก ดงั นนั้ วนั นเี้ รามี ประวัติวนั อาสาฬหบชู า มาฝากกนั คะ่ ทั้งน้ี คําว่า \"อาสาฬหบูชา\" สามารถอ่านได้ 2 แบบ คอื อา-สาน-หะ-บ-ู ชา หรือ อา-สา-ละ-หะ-บ-ู ชา ซง่ึ จะประกอบดว้ ยคํา 2 คํา คอื อาสาฬห ท่ีแปลว่า เดอื น 8 ทางจันทรคติ กับคาํ วา่ บชู า ทแ่ี ปลว่า การบูชา เมื่อนาํ มารวมกันจึงแปลวา่ การบชู าใน เดือน 8 หรือการบูชาเพอ่ื ระลึกถงึ เหตุการณส์ าํ คัญในเดือน 8
วนั อาสาฬหบชู า คอื วนั ที่พระพุทธเจ้าได้ทรงประกาศพระพุทธศาสนาเปน็ ครง้ั แรก หลงั จากตรสั รู้ได้ 2 เดือน โดยแสดงปฐมเทศนาโปรดพระปัญจวัคคีย์ท้ัง 5 ได้แก่ พระโกณฑญั ญะ พระวัปปะ พระภทั ทิยะ พระมหานามะ และพระอัสสชิ ทปี่ ่าอิสปิ ตน มฤคทายวนั เมอื งพาราณสี แควน้ มคธ จนพระอัญญาโกณฑัญญะ ไดบ้ รรลุธรรมและขอ บวชเปน็ พระภิกษรุ ปู แรกในพระพุทธศาสนา จึงถือวา่ วันน้ีมพี ระรตั นตรยั ครบองคส์ าม บรบิ รู ณค์ รัง้ แรกในโลก คอื มีทั้งพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ซง่ึ เหตุการณน์ เ้ี กิดขึ้น ก่อนพทุ ธศักราช 45 ปี ทง้ั น้ี พระธรรมทพี่ ระพทุ ธเจ้าทรงแสดงแก่ปญั จวัคคยี ท์ ั้ง 5 เรยี กวา่ \"ธมั มจัก กัปปวัตนสตู ร\" แปลวา่ พระสตู รแหง่ การหมนุ วงลอ้ ธรรม ซึ่งหลงั จากปฐมเทศนา หรือ เทศนากัณฑแ์ รกที่พระองคท์ รงแสดงจบลง พระอัญญาโกณฑญั ญะกไ็ ด้ดวงตาเห็นธรรม สาํ เร็จเปน็ พระโสดาบัน จึงขออปุ สมบทเป็นพระภกิ ษุในพระพทุ ธศาสนา พระพทุ ธเจา้ ก็ ไดป้ ระทานอปุ สมบทใหด้ ้วยวิธีทเ่ี รียกวา่ \"เอหิภิกขุอปุ สัมปทา\" พระโกณฑัญญะจึงได้ เป็น พระอรยิ สงฆ์องค์แรกในพระพทุ ธศาสนา ตอ่ มา พระวัปปะ พระภทั ทยิ ะ พระมหา นามะ และพระอสั สชิ ก็ไดด้ วงตาเหน็ ธรรม และได้อปุ สมบทตามลาํ ดบั
สาหรับใจความสาคญั ของการปฐมเทศนา มีหลกั ธรรมสาคญั 2 ประการ คือ 1. มชั ฌมิ าปฏิปทา หรอื ทางสายกลาง เปน็ ข้อปฏิบตั ิที่ เปน็ กลาง ๆ ถูกตอ้ งและเหมาะสมทีจ่ ะให้บรรลุถึงจุดหมายได้ มิใชก่ ารดําเนนิ ชีวิตท่ีเอียง สุด 2 อยา่ ง หรอื อย่างหน่งึ อยา่ งใด คือ การหมกมุ่นในความสุขทางกาย มัวเมาในรูป รส กลิ่น เสียง รวมความ เรยี กวา่ เป็นการหลงเพลิดเพลินหมกมุ่นในกามสุข หรือกามสุขัลลกิ านุโยค การสร้างความลาบากแกต่ น ดําเนนิ ชวี ติ อยา่ งเลื่อนลอย เชน่ บําเพ็ญตบะการ ทรมานตน คอยพง่ึ อาํ นาจส่ิงศักดิส์ ิทธ์ิ เปน็ ตน้ ซง่ึ การดําเนนิ ชวี ติ แบบทกี่ ่อความทุกข์ให้ ตนเหน่อื ยแรงกาย แรงสมอง แรงความคดิ รวมเรียกวา่ อัตตกิลมถานุโยค ดังนั้น เพื่อละเว้นห่างจากการปฏิบัตทิ างสดุ เหลา่ น้ี ตอ้ งใช้ทางสายกลาง ซ่ึงเป็น การดาํ เนนิ ชีวิตด้วยปัญญา โดยมหี ลกั ปฏบิ ตั เิ ป็นองคป์ ระกอบ 8 ประการ เรียกว่า อรยิ อัฏฐงั คกิ มคั ค์ หรอื มรรคมอี งค์ 8 ได้แก่ 1. สัมมาทิฏฐิ เหน็ ชอบ คือ ร้เู ขา้ ใจถูกตอ้ ง เห็นตามทเ่ี ปน็ จรงิ 2. สมั มาสังกัปปะ ดาํ รชิ อบ คือ คดิ สจุ ริตตงั้ ใจทําสิ่งทีด่ ีงาม 3. สัมมาวาจา เจรจาชอบ คอื กลา่ วคําสุจรติ 4. สมั มากัมมนั ตะ กระทาํ ชอบ คอื ทําการที่สจุ รติ 5. สมั มาอาชวี ะ อาชีพชอบ คอื ประกอบสัมมาชีพหรืออาชีพทีส่ จุ ริต 6. สมั มาวายามะ พยายามชอบ คอื เพียรละชว่ั บาํ เพ็ญดี 7. สัมมาสติ ระลึกชอบ คอื ทาํ การดว้ ยจิตสํานึกเสมอ ไมเ่ ผลอพลาด 8. สัมมาสมาธิ ต้งั จิตม่ันชอบ คือ คมุ จติ ใหแ้ น่วแนม่ ั่นคงไม่ฟงุ้ ซ่าน
2. อรยิ สจั 4 แปลวา่ ความจริงอนั ประเสรฐิ ของอริยะ ซง่ึ คือ บคุ คลท่ีห่างไกลจากกเิ ลส ได้แก่ 1. ทุกข์ ไดแ้ ก่ ปญั หา ทัง้ หลายท่เี กดิ ขึ้นกบั มนษุ ย์ บคุ คล ต้องกําหนดรใู้ หเ้ ท่าทันตามความ เป็นจริงว่ามันคืออะไร ต้องยอมรับรู้ กล้าสหู้ น้าปัญหา กลา้ เผชิญความจริง ตอ้ งเขา้ ใจใน สภาวะโลกวา่ ทกุ ส่ิงไม่เทย่ี ง มีการเปลีย่ นแปลงไปเปน็ อย่างอื่น ไมย่ ึดตดิ 2. สมทุ ยั ได้แก่ เหตุเกดิ แห่งทุกข์ หรือสาเหตุของปญั หา ตัวการสําคัญของ ทกุ ข์ คอื ตณั หาหรือเส้นเชอื กแห่งความอยากซงึ่ สัมพันธก์ ับปัจจัยอน่ื ๆ 3. นิโรธ ไดแ้ ก่ ความดบั ทุกข์ เร่ิมด้วยชีวติ ทีอ่ สิ ระ อยู่อย่างรเู้ ทา่ ทันโลกและ ชีวติ ดําเนนิ ชวี ติ ด้วยการใช้ปญั ญา 4. มรรค ได้แก่ กระบวนวธิ แี ห่งการแกป้ ญั หา อันไดแ้ ก่ มรรคมอี งค์ 8 ประการดงั กล่าวขา้ งตน้
กจิ กรรมวนั อาสาฬหบูชา พธิ กี รรมโดยท่ัวไปท่ีนยิ มกระทาในวันนี้ คือ การทาบุญ ตกั บาตร รกั ษาศีล ฟังพระธรรมเทศนา และสวดมนต์ ในตอนคา่ ก็จะมกี ารเวียนเทียนท่ี เปน็ การสืบทอดประเพณอี นั ดีงามของไทยเรา ดงั นั้น พุทธศาสนกิ ชนทง้ั หลาย ควรเขา้ วัด เพือ่ นอ้ มระลกึ ถงึ คุณพระรัตนตรยั อีกทั้งยงั เปน็ การชว่ ยชะล้างจติ ใจ ใหป้ ลอดโปรง่ ผ่องใส จะไดม้ รี า่ งกายและจิตใจท่พี รอ้ มสาํ หรับการดาํ เนนิ ชีวติ ใน ยคุ ที่คา่ ครองชพี ถีบตัวสงู ขน้ึ อยา่ งนี้...
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: