Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การเผยแผ่พระพุทธศาสนา

การเผยแผ่พระพุทธศาสนา

Published by Dow Pattarasuda, 2021-07-31 07:35:48

Description: ใบความรู้เรื่องการเผยแผ่พระพุทธศาสนาสู่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก

Search

Read the Text Version

ใบความรู้ เร่ือง การเผยแผ่พระพุทธศาสนาสู่ประเทศต่าง ๆ ทวั่ โลก การเผยแผ่พระพุทธศาสนาในทวปี เอเชีย ทวีปเอเชียนับเป็ นดินแดนแห่งแรกท่ีพระพุทธศาสนา ไดเ้ ผยแผ่เขา้ มาในราวพุทธศตวรรษท่ี3ซ่ึง พระพุทธศาสนาที่ไดเ้ ผยแผ่เขา้ มาน้ัน แบ่งออกเป็ น 2 นิกาย คือ นิกายเถรวาท และนิกายอาจาริยวาท ต่อมา ได้ผสมผสานกับวฒั นธรรมและความเชื่อด้ังเดิมของแต่ละท้องถ่ินของแต่ละ ประเทศ ทําให้เกิดการ วิวฒั นาการเป็นพระพุทธศาสนานิกายต่าง ๆ หลายนิกาย เช่น นิกายเถรวาทเดิม นิกายตนั ตระ นิกายสุขาวดี เป็นตน้ ดว้ ยเหตนุ ้ีการนบั ถือพระพทุ ธศาสนาของประเทศตา่ ง ๆในทวปี เอเชียจึงแตกต่างกนั ออกไป ดงั น้ี การเผยแผ่และการนบั ถือพระพุทธศาสนาในประเทศศรีลงั กา พระพุทธศาสนาไดเ้ ผยแผเ่ ขา้ มายงั ลงั กาทวีป(ศรีลงั กา ปัจจุบนั ) ในรัชกาลของพระเจา้ เทวานมั ปิ ยติสสะ( พ.ศ 235-275)ผคู้ รองเมืองอนุราธปุระ โดยการนาํ ของพระมหินทเถระและคณะสมณทูต ซ่ึงพระเจา้ อโศกมหาราช แห่งชมพูทวีปได้ทรงส่งมาในคราวทาํ สังคยานาคร้ังท่ี 3 ซ่ึงได้รับการต้อนรับจากพระมหากษตั ริยแ์ ละ ประชาชนเป็นอยา่ งดี ไดม้ ีการส่งสมณทูตไปสู่ราชสํานกั ของพระเจา้ อโศกมหาราช และไดท้ ูลขอกิ่งพระศรี มหาโพธ์ิมาสู่ลงั กาทวีปดว้ ย ตน้ โพธ์ิน้ีปัจจุบนั เป็ นตน้ ไมป้ ระวตั ิศาสตร์ที่มีอายมุ ากท่ีสุดในโลก พระเจา้ เท วานมั ปิ ยติสสะยงั ทรงสร้างมหาวิหารและถปู าราม อนั เป็นเจดียอ์ งคแ์ รกของลงั กาไว้ ณ เมืองอนุราธปรุ ะดว้ ย ในสมยั น้ันลงั กาทวีปมีประชาชนอยู่ 2 เผ่า คือ เผ่าสิงหล และเผ่าทมิฬ ชนผ่าสิงหลทว่ั ไปนับถือ พระพุทธศาสนา ส่วนชนเผา่ ทมิฬไม่ไดน้ บั ถือพระพุทธศาสนาเมื่อสิ้นรัชกาลของพระเจา้ เทวานมั ปิ ยติสสะ แลว้ ลงั กาทวีปก็ตกอย่ใู นอาํ นาจของกษตั ริยท์ มิฬ พระพุทธศาสนาในลงั กาบางคร้ังก็เจริญรุ่งเรือง บางคร้ังก็ เสื่อมลงจนถึงสูญสิ้นสมณวงศส์ ลบั กนั ไปเช่นน้ี ข้ึนอยู่กบั ว่ากษตั ริยข์ องชนผ่าใดในระว่างสิงหลกบั ทมิฬ ข้นึ มามีอาํ นาจ คร้ันต่อมาเมื่อพระเจา้ วิชยั สิริสังฆโพธิ ทรงกอบกูร้ าชบลั ลงั ก์จากพวกทมิฬได้ และทรงจดั การทาง ฝ่ ายราชอาณาจกั รเรียบร้อยแลว้ ก็ไดห้ ันมากอบกูฟ้ ้ื นฟูพระพุทธ ศาสนา และส่งทูตไปขอพระภิกษุสงฆจ์ าก พม่ามาทาํ การบรรพชาอปุ สมบทกลุ บุตรชาวลงั กา ทาํ ใหส้ มณวงศใ์ นลงั กาไดก้ ลบั มีข้นึ อีกคร้ัง ในสมยั รัชกาลของพระเจ้าปรากรมพาหุท่ี 1 ทรงสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชปกครองสงฆ์ท้ัง ประเทศเป็ นคร้ังแรก และสร้างวดั วาอารมอีกมากมายจนลงั กาไดก้ ลายเป็ นศูนยก์ ลางการศึกษาพระพุทธ ศาสนา แต่ภายหลงั พวกทมิฬก็มารุกรานอีกและมีอาํ นาจเหนือชาวสิงหล ทาํ ใหพ้ ระพุทธศาสนาเสื่อมลงอีก คร้ัง ระหว่างท่ีลงั กาอ่อนแอลงชนชาติโปรตุเกสและ ฮอลนั ดาก็ไดเ้ ขา้ มาผลดั เปล่ียนกนั เขา้ มามีอาํ นาจซ่ึงชนท้งั สองพยามยาม ประดิษฐานคริสตศ์ าสนาแต่ก็ไม่สําเร็จ ท้งั น้ีเน่ืองจากพระพุทธศาสนาไดฝ้ ังรากลึกลงสู่จิตใจ ของชาวลงั กามาเป็นเวลา ชา้ นาน

ใน พ.ศ.2293 พระเจา้ กิตติสิริราชสีห์ ไดส้ ่งราชทูตไปขอพระสงฆจ์ ากประเทศไทยในรัชสมยั พระ เจา้ บรมโกศแห่งกรุง ศรีอยุธยา พระเจา้ บรมโกศทรงส่งพระอุบาลีและพระอริยมุนี พร้อมดว้ ยคณะสงฆ์ 12 รูป เดินทางไปลงั กา และไดท้ าํ การบรรพชาอุปสมบทแก่กุลบุตรชาวสิงหล พระสงฆท์ ่ีบรรพชาอุปสมบท ใหม่หน้ีเรียกวา่ อบุ าลีวงศห์ รือสยามวงศ์ หรือสยามนิกาย ซ่ึงเป็นคณะสงฆส์ ่วนใหญ่ของลงั กามาจนกระทงั่ ทกุ วนั น้ี ในปี พ.ศ.2358 องั กฤษไดเ้ ขา้ มายดึ ครองลงั กา ทาํ ใหว้ งศก์ ษตั ริยล์ งั กาสูญสิ้นไป เป็นเวลากวา่ 100 ปี ที่ชาวลงั กาไดต้ อ่ สูจ้ นไดอ้ ิสรภาพจากองั กฤษเม่ือ พ.ศ.2490 พระพุทธศาสนาจึงไดร้ ับการฟ้ื นฟูข้ึน และไดส้ ่ง พระสงฆอ์ อกไปประกาศเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาในทวปี ยโุ รปและอเมริกาดว้ ย การเผยแผ่และการนับถือพระพทุ ธศาสนาในประเทศจีน เทา่ ท่ีปรากฏหลกั ฐาน พบวา่ พระพทุ ธศาสนาไดเ้ ผยแผเ่ ขา้ มาในประเทศจีนเมื่อประมาณพุทธศกั ราช 608 ในสมยั ของพระจกั รพรรดิมิ่งตี่ แห่งราชวงศ์ฮน่ั โดยพระองค์ส่งสมณทูตไปสืบพระพุทธศาสนาใน อินเดีย และเดินทางกลบั ประเทศจีนพร้อมดว้ ยพระภิกษุ 2 รูป คือ พระกาศยปมาตงั คะและพระธรรมรักษ์ รวมท้งั คมั ภีร์ของพระพุทธศาสนาอีกส่วนหน่ึงดว้ ย เม่ือพระเถระ 2 รูป พร้อมดว้ ยคณะทูตมาถึงนครโลยาง พระจกั รพรรดิมิ่งตี่ไดท้ รงสั่งสร้างวดั ใหเ้ ป็น ที่อยูข่ องพระเถระท้งั 2 และต้งั ชื่อวา่ วดั แปะเบย้ ่ี ซ่ึงแปลว่าเป็นไทยวา่ วดั มา้ ขาว ซ่ึงเป็ นอนุสรณ์ให้มา้ ตวั ที่ บรรทุกพระคมั ภีร์ทางพระพุทธศาสนามากบั พระเถระท้งั 2 รูป ในสมัยราชวงศ์ฮ่นั ถึงแมว้ ่าพระพุทธศาสนาจะเป็ นท่ีเล่ือมแต่ยงั จาํ กัดอยู่ในวงแคบคือในหมู่ข้า ราชการและชนช้นั สูงแห่งราชสาํ นักเป็ นส่วนใหญ่ เพราะชาวจีนส่วนใหญ่ยงั คงนบั ถือลทั ธิขงจ้ือและลทั ธิ เต๋า จนกระทงั่ โม่งจ้ือนัก ปราชญ์ผูม้ ีความสามารถไดแ้ สดงหลกั ธรรมของพระพุทธศาสนาให้ชาวเมืองได้ เห็นถึง ความจริงใหช้ าวจีนเกิดศรัทธาเลื่อมใสมากกวา่ ลทั ธิศาสนาอื่น ๆ จนถึงสมยั ราชวงศ์ถงั (พ.ศ.1161-1450) พระพุทธศาสนาก็เจริญสูงสุดและไดม้ ีการส่งพระเถระ เดินทางไปสืบพระพุทธใน อินเดียและอญั เชิญพระไตรปิ ฎก กลบั มายงั จีน และไดม้ ีการแปลพระสูตรจาก ภาษาบาลีเป็ นภาษาจีนอีกมากมาย พระพุทธศาสนาเริ่มเส่ือมลงเม่ือพระเจา้ บู๊จง ข้ึน ปกครองประเทศ เพราะพระเจา้ บู๊จงนบั ถือลทั ธิเต๋า ทรงสง่ั ทาํ ลายวดั บงั คบั ใหพ้ ระภิกษุลาสิกขา ทาํ ลายพระพุทธรูป เผาคมั ภีร์ จนถึง พ.ศ.1391 เม่ือพระเจา้ ชวน จง ข้ึนครองราชย์ ทรงส่ังห้ามทาํ ลายวดั และนาํ ประมุขลทั ธิเต๋ากบั พวกไปประหารชีวิต พร้อมกนั น้ันก็ได้ อุปถัมภ์บํารุงพระพุทธศาสนาให้กลบั มาเจริญรุ่งเรืองอีกคร้ัง พระพุทธศาสนาในประเทศจีนมีความ เจริญรุ่งเรืองสลบั กบั เสื่อมโทรมตามยคุ สมยั ของราชวงศท์ ี่จะทรงนบั ถือลทั ธิหรือศาสนาใด ใน พ.ศ.2455 ประเทศจีนได้เปลี่ยนช่ือประเทศเป็ นสาธารณรัฐจีน รัฐบาลไม่สนับสนุน พระพุทธศาสนา แต่กลบั สนับสนุนแนวความคิดของลทั ธิมาร์กซิสต์ จนใน พ.ศ.2465 พระสงฆ์ชาวจีนรูป หน่ึงชื่อวา่ ไทส้ ู ไดท้ าํ การฟ้ื นฟูพระพุทธศาสนา โดยการต้งั วทิ ยาลยั สงฆ์ ข้นึ ที่ วูชงั เอห้ มึง เสฉวน และหลิ่ง นาน และจดั ต้งั พุทธสมาคมแห่งประเทศจีน ข้นึ ทาํ ใหป้ ระชาชนและรัฐบาลเขา้ ใจพระพทุ ธศาสนามากข้นึ

พ.ศ.2492 สาธารณรัฐจีน ไดเ้ ปล่ียนชื่อประเทศอีกคร้ังหน่ึง เป็น สาธารณรัฐประชาชนจีน ปกครอง ด้วยลัทธิคอมมิวนิสต์ซ่ึงมีคาํ สอนท่ีขัดแยง้ กับพระพุทธศาสนาเป็ นอย่าง มากรัฐบาลได้ยึดวดั เปนของ ราชการ ทาํ ลายพระคมั ภีร์ต่าง ๆ ทําให้พระพุทธศาสนาเกือบสูญสิ้นไปจากประเทศจีนเลยทีเดียว เม่ือ ประธานพรรคคอมมิวนิสตจ์ ีน เหมา เจ๋อ ตุง ไดถ้ ึงแก่อสัญกรรม พ.ศ.2519 รัฐบาลชุดใหม่ของจีน คือ เติ้ง เสี่ยวผิง คลายความเขม้ งวดลงบา้ ง และให้เสรีภาพในการนบั ถือศาสนาของประชาชนมากข้ึน สภาวการณ์ ทางพระพทุ ธศาสนาจึงเร่ิมกลบั ฟ้ื นตวั ข้ึนอีกคร้ัง รัฐบาลจีนใหก้ ารสนบั สนุนจดั ต้งั พุทธสมาคมแห่งประเทศ จีนและสภาการศึกษาพระ พุทธศาสนาแห่งประเทศจีนข้ึนในกรุงปักกิ่งด้วย ปัจจุบันชาวจีนนับถือ พระพุทธศาสนาควบคูไ่ ปกบั การนบั ถือลทั ธิขงจ้ือและลทั ธิ เต๋า การเผยแผ่และการนับถือพระพทุ ธศาสนาในประเทศเกาหลี พระพุทธศาสนาเริ่มเผยแผ่เขา้ สู่ประเทศเกาหลีเม่ือ พ.ศ.915 โดยสมณทูตซุนเตา เดินทางจากจีน แผน่ ดินใหญเ่ ขา้ เผยแผพ่ ระพุทธศาสนาในอาณาจกั รโกครุ ิโอ คือประเทศเกาหลีในปัจจุบนั พ.ศ.1935 พระพุทธศาสนาเร่ิมเส่ือมลงเมื่อราชวงศโ์ ซซอน ข้ึนมามีอาํ นาจ ราชวงศน์ ้ีเชิดชูลทั ธิขงจ้ือ ให้เป็นศาสนาประจาํ ชาติ พ.ศ.2453 ประเทศเกาหลีไดต้ กอยู่ภายใตก้ ารปกครองของญี่ป่ ุน ราชวงศเ์ กาหลี สิ้นสุดลง ปลายสงครามโลกคร้ังท่ี 2 กองทพั สหภาพโซเวียต และสหรัฐอเมริกาไดเ้ ขา้ ยึดเกาหลีจากญี่ป่ ุน เกาหลีจึงถูกแบ่งเป็น 2 ประเทศ ทางตอนเหนืออยูภ่ ายใตก้ ารคุม้ ครองดูแลของสหภาพโซเวียต มีช่ือประเทศ วา่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี ทางตอนใตอ้ ย่ภู ายใตก้ ารดูแลของสหรัฐอเมริกา มีชื่อประเทศ วา่ สาธารณรัฐเกาหลี พระพุทธศาสนาในเกาหลีเหนือไม่สามารถที่จะรู้สถานการณ์ได้ เพราะเกาหลีเหนือ ปกครองด้วยลทั ธิคอมมิวนิสต์ ส่วนเกาหลีใตไ้ ดม้ ีมีการฟ้ื นฟูข้ึน ไดย้ กเลิกขอ้ บังคบั สมยั ท่ีญ่ีป่ ุนยึดครอง มหาวทิ ยาลยั พระพุทธศาสนาท่ีเก่าแก่ที่สุดของเกาหลี คือ มหาวิทยาลยั ดงกุก ในปี พ.ศ.2507 คณะสงฆเ์ กาหลีใตไ้ ดจ้ ดั ต้งั โครงการแปลและจดั พิมพพ์ ระไตรปิ ฎกฉบบั เกาหลีข้ึน เรียกว่า ศูนย์แปลพระไตรปิ ฎกเกาหลี ต้ังอยู่ในมหาวิทยาลัยดงกุก ประชาชนในเกาหลีใต้นับถือ พระพุทธศาสนานิกายเซนผสมกบั ความเชื่อในพระอมิตาภพทุ ธะ และ พระศรีอารยเมตไตรย หรือพระเมตต รัยโพธิสัตว์ การเผยแผ่และการนบั ถือพระพทุ ธศาสนาในประเทศญีป่ ่ ุน พระพุทธศาสนาเขา้ สู่ญี่ป่ ุนโดยผา่ นเกาหลี โดย พระเจา้ เซมาโวแห่งเกาหลีส่งราชทตู ไปยงั ราชสาํ นกั พระจักรพรรดิกิมเมจิพร้อม ด้วยพระพุทธรูป ธง คัมภีร์ะพุทธธรรมและพระราชสาร์นแสดงพระราช ประสงค์ที่จะขอให้พระจักรพรรดิกิม เมจิรับนับถือพระพุทธศาสนา ซ่ึงนับเป็ นการเร่ิ มต้นของ พระพุทธศาสนาในญี่ป่ ุน ซ่ึงเจริญเป็ นอย่างมาก หลงั จากพระจกั รพรรดิกิมเมจิสิ้นพระชนมแ์ ลว้ จกั รพรรดิ องคต์ ่อๆมาก็มิไดใ้ ส่พระทยั ในพระพุทธศาสนา จนถึงสมยั ของพระจกั รพรรดินีซุยโกไดท้ รงสถาปนาเจา้ ชาย โชโตกุ เป็ นผูส้ ําเร็จราชการแผ่นดิน เจา้ ชายพระองค์น้ีเองท่ีไดท้ รงวางรากฐานการปกครองประเทศญี่ป่ ุน และสร้าง สรรคว์ ฒั นธรรมพร้อมท้งั ทรงเชิดชูพระพทุ ธศาสนา และในวนั ท่ี 1 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ.1137พระองค์ ไดป้ ระกาศพระราชโองการเชิดชูพระรัตนตรัย ทาํ ใหพ้ ระพทุ ธศาสนาเจริญรุ่งเรืองอย่างมนั่ คงในญ่ีป่ นุ จนได้

ช่ือวา่ ยคุ โฮโก คือ ยคุ ที่สัทธรรมไพโรจน์ ดหลงั จากเจา้ ชายโชโตกุ สิ้นพระชนม์ ประชาชนรวมใจกนั สร้าง พระพุทธรูปขนาดเทา่ องคเ์ จา้ ชายโชโตกขุ ้นึ 1 องค์ ประดิษฐานไวเ้ ป็นอนุสรณ์ท่ีวดั โฮริวจิ หลงั จากน้นั พระพุทธศาสนาก็แบ่งเป็ นหลายนิกาย จนถึงยุคเมอิจิพระ พุทธศาสนาก็เส่ือมลงอยา่ ง หนกั ลทั ธิชินโตข้ึนมาแทนท่ี และศาสนาคริสตก์ ็เริ่มเผยแผ่พร้อมกบั วฒั นธรรมตะวนั ตกหลง่ั ไหลเขา้ มาใน ญ่ีป่ ุนทาํ ใหก้ ารศึกษาเจริญข้นึ พระพทุ ธศาสนาถกู ยกข้นึ มาในแง่ของวชิ าการ ในปัจจุบันชาวญี่ป่ ุนนับถือพระพุทธศาสนาควบคู่ไป กับศาสนาชินโต พระพุทธศาสนาแบ่ง ออกเป็นหลายนิกาย แต่นิกายที่สําคญั มี 5 นิกาย คือ นิกายเทนได นิกายชินงอน นิกายโจโด (สุขาวดี) นิกาย เซน (ธฺยาน หรือฌาน เป็นท่ีนิยมมากที่สุด) และนิกายนิจิเรน การเผยแผ่และการนบั ถือพระพทุ ธศาสนาในประเทศทเิ บต แต่เดิมชาวทิเบตนบั ถือลทั ธิบอนโป ซ่ึงเป็ นลทั ธิท่ีนบั ถือผีสางเทวดา ต่อมาพระเจา้ สรองสันคมั โป ทรงข้ึนครองราชย์ ไดท้ รงอภิเษกสมรสกบั เจา้ หญิงเนปาลและเจา้ หญิงจีน ซ่ึงนับถือพระพุทธศาสนา ทาํ ให้ พระพทุ ธศาสนาเร่ิมเผยแผเ่ ขา้ สู่ทิเบต และแพร่หลายในรัชสมยั ของกษตั ริยท์ ิเบตพระองคท์ ี่ 5 กษตั ริยอ์ งคต์ ่อ ๆ มา แทบทกุ พระองคท์ รงมีพระราชศรัทธาในพระพทุ ธศานาทาํ ใหพ้ ระพทุ ธศาสนาไดร้ ับการ อุปถมั ภบ์ าํ รุง อย่างดี พุทธศตวรรษที่ 16 พระทีปังกรศรีชญาณ(พระอตีศะ)จาก มหาวิทยาชลยั วิกรมศิลา แควน้ พิหาร ประเทศอินเดีย ไดร้ ับการอาราธนาเขา้ มาเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาในทิเบตจากเหตุการณ์คร้ังน้ีทาํ ให้ พระพทุ ธศาสนาประดิษฐานมน่ั คง เป็นศาสนาประจาํ ชาติทิเบตในเวลาต่อมา พระพุทธศาสนาในทิเบตมีหลายนิกาย นิกายเก่าท่ีนบั ถือพระปัทมสัมภวะน้ันต่อมาไดช้ ื่อว่า นิกาย หมวกแดง ต่อมาพระตสองขะปะ ไดป้ ฎิรูปหลกั คาํ สอนของนิกายหมวกแดงน้ีแลว้ ต้งั นิกายใหม่ข้ึน ช่ือว่า นิกายเกลุกปะ หรือ นิกายหมวกเหลือง นิกายน้ีไดร้ ับการยกยอ่ งจากผปู้ กครองมองโกลวา่ เป็นผูน้ าํ ทางจิตใจ และต่อมาถือวา่ เป็นผปู้ กครองบา้ นเมืองดว้ ย ในรัชสมัยของพระเจ้าอัลตันข่าน พระองค์ได้พบประมุขสงฆ์องค์ท่ี 3 ของนิกายเกลุกปะ ชื่อ สอดนมั ยาโส พระองค์ เกิดความเช่ือวา่ พระสอดนมั ยาโสน้ีเป็นอาจารยข์ องพระองคใ์ นชาติก่อนจึงเรียก พระ สอดนมั ยาโสว่า ดะเล หรือ ดะไล (Dalai ) ต้งั แต่น้นั มาประมุขสงฆ์ของธิเบตจะพูกเรียกว่า ดะไลลามะ ดะ ไลลามะบางองคไ์ ดร้ ับมอบอาํ นาจจากผนู้ าํ มองโกลใหป้ กครองประเทศธิเบตท้งั หมดทาํ ใหพ้ ระพุทธศาสนา และวฒั นธรรมเจริญรุ่งเรือง จนถึงองค์ที่ 7 (พ.ศ.2351-2401) ทิเบตเขา้ สู่ยุคของการปิ ดประตูอยู่โดดเดี่ยว เนื่องจากไดร้ ับความผนั ผวนและ การเปล่ียนแปลงตา่ ง ๆ จีนแดงเขา้ ครอบครองในปี พ.ศ.2494 ขณะน้ีดะไลลามะประมุขสงฆ์ของทิเบตองคป์ ัจจุบนั เป็ นองค์ท่ี 14 ทรงพาํ นักล้ีภยั อยู่ในประเทศ อินเดีย ต้งั แตท่ รงเดินทางหลบหนีออกจากทิเบต พ.ศ.2505เป็นตน้ มา การเผยแผ่และการนับถือพระพทุ ธศาสนาในประเทศเนปาล พระพุทธศาสนาเผยแผเ่ ขา้ สู่ประเทศเนปาลทางประเทศ อินเดีย แต่เดิมน้นั ประเทศเนปาลเป็ นส่วน หน่ึงของประเทศอินเดีย สถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า คือ สวนลุมพินีวนั อยู่ในเขตประเทศเนปาล ปัจจุบนั

ในสมยั พระเจา้ อโศกมหาราชไดพ้ ระราชทานพระราชธิดา พระนามว่า จารุมตี ใหแ้ ก่ขุนนางผใู้ หญ่ ชาวเนปาล พระเจา้ อโศกมหาราชและเจา้ หญิงจารุมตีไดท้ รงสร้างวดั และเจดียห์ ลายแห่ง ซ่ึงยงั คงปรากฏอยู่ที่ นครกาฐมาณฑุในปัจจุบัน ในสมัยท่ีชาวมุสลิมเขา้ รุกรานแควน้ พิหารและเบงกอล ในประเทศอินเดีย พระภิกษุจากอินเดียต้องหลบหนีภยั เขา้ ไปอาศัยอยู่ในเนปาล ซ่ึงพระภิกษุเหล่าน้ันก็ได้นําคาํ ภีร์อนั มีค่า มากมายไปด้วย และมีการเก็บรักษาไวเ้ ป็ นอย่างดีจนถึงทุกวนั น้ี และเมื่อมหาวิทยาลยั ลนั ทา(ในประเทศ อินเดีย) ถูกทาํ ลายซ่ึงทาํ ใหพ้ ระพทุ ธศาสนาเส่ือมสูญไปจากอินเดียแลว้ ก็ส่งผลใหพ้ ระพุทธศาสนาในเนปาล พลอยเส่ือมลงดว้ ย คุณลกั ษณะพิเศษที่เป็ นเคร่ืองประจาํ พระพุทธศาสนา เช่น ชีวิตพระสงฆ์ในวดั วาอาราม การตอ่ ตา้ น การถือวรรณะ การปลดเปล้ืองความเชื่อไสยศาสตร์หายไป พระพุทธศาสนาในประเทศเนปาล ในยุคแรกเป็ นพระพุทธศาสนาแบบด้งั เดิมหรือแบบเถรวาท ต่อมาเถรวาทเส่ือมสูญไป เนปาลไดก้ ลายเป็ นศูนยก์ ลางของพระพุทธศาสนามหายานนิกายตนั ตระซ่ึงใช้ คาถาอาคม และพิธีกรรมแบบไสยศาสตร์ นอกจากน้ีไดม้ ีนิกายพุทธปรัชญาสาํ นกั ใหญ่ ๆ เกิดข้ึนอีก 4 นิกาย คอื สวาภาวิภะ ไอศวริกะ การมิกะ และยาตริกะ ปัจจุบนั ไดม้ ีการฟ้ื นฟูการศึกษาพระพุทธศาสนาฝ่ าย เถรวาทข้ึนในประเทศเนปาลโดยส่งพระภิกษุ สงฆส์ ามเณรไปศึกษาในประเทศที่นบั ถือ พระพุทธศาสนา เช่น ประเทศไทย พม่า ศรีลงั กา โดยเฉพาะใน ประเทศไทยน้ันพระภิกษุสามเณรชาวเนปาล ซ่ึงไดอ้ ุปสมบาทและบรรพชาแบบเถรวาทไดม้ าศึกษาปริยตั ิ ธรรมและศึกษาใน มหาวิทยาลยั สงฆ์ 2 แห่ง คือมหามกุฏราชวิทยาลยั และมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั ใน ประเทศเนปาลเองมีสมาคมแห่งหน่ึงชื่อธรรโมทยั สภาไดอ้ ปุ ถมั ภใ์ หพ้ ระภิกษสุ งฆจ์ ากประเทศศรีลงั กาและ พระภิกษุสงฆใ์ นประเทศ เนปาลท่ีไดร้ ับการอบรม มาจากประเทศศรีลงั กา ออกเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาอยา่ ง จริงจงั พร้อมท้งั มีการแปลพระสูตรจากภาษาบาลีเป็นภาษาทอ้ งถ่ินพิมพอ์ อกเผยแพร่เป็น จาํ นวนมากดว้ ย

ใบความรู้ เร่ือง การเผยแผ่พระพุทธศาสนาสู่ประเทศต่าง ๆ ทว่ั โลก การเผยแผ่พระพุทธศาสนาในทวีปยโุ รป การเผยแผแ่ ละการนบั ถือศาสนาในทวีปยโุ รป พระพทุ ธศาสนาไดเ้ ผยแผ่เขา้ ไปในทวปี ยโุ รป โดยผ่านทางประเทศกรีซก่อนในช่วงพุทธสตวรรษตน้ ๆ แต่ทวา่ ยงั ไม่ไดร้ ับความนิยมเทา่ ใดนกั จนกระทง่ั หลงั จากพทุ ธศตวรรษที่ ๒๑ เป็นตน้ มา เม่ือชาวยโุ รปได้ ประเทศต่าง ๆ ในทวีปเอเชีย เช่น อินเดีย ศรีลงั กา พมา่ เขมร ลาว และบางส่วนของจีนเป็นอาณานิคมแลว้ ก็ พบว่าชาวพ้ืนเมืองส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนา ซ่ึงมีหลกั ธรรมคาํ สั่งสอนอนั ลึกซ้ึง มีเหตุมีผลถูกตอ้ ง ตามหลกั วิทยาศาสตร์ จึงบงั เกิดความสนใจและเมื่อได้ทาํ การศึกษาคน้ ควา้ พระไตรปิ ฎกและคมั ภีร์ต่าง ๆ เพิม่ เติม ก็ประจกั ษว์ า่ หลกั ธรรมของพระพุทธศาสนาสามารถนาํ ไปใชป้ ระโยชนไ์ ดอ้ ยา่ งดียง่ิ จึงมีการนําหลกั ธรรมดงั กล่าวออกเผยแพร่ในหมู่ชาวยุโรปดว้ ยกนั เหตุผลท่ีทาํ ให้ชาวยุโรปเริ่ม สนใจพระพุทธศาสนาก็เพราะประทบั ใจ หลกั การของพระพุทธเจา้ ที่ทรงสอนให้บุคคลอยา่ เช่ือถือคาํ สอน ของพระองคโ์ ดยทนั ที จนกว่าจะไดใ้ คร่ครวญพิจารณาหรือทดลองปฏิบตั ิดูก่อน เม่ือเห็นผลแลว้ จึงค่อยเชื่อ นอกจากน้ี หลกั ธรรมของพระพุทธศาสนาก็เน้นถึงความมีเมตตากรุณา ความรัก การไม่เบียดเบียนต่อกัน ส่งเสริมเสรีภาพ ภราดรภาพ และความเสมอภาค จึงส่งผลใหม้ ีชาวยโุ รปประกาศตนเป็นพุทธมามกะเพ่มิ ข้ึน เร่ือย ๆ นบั ต้งั แต่อดีตจนถึงปัจจุบนั ซ่ึงเราสามารถแบง่ รายละเอียดเป็นประเทศๆ ไดด้ งั น้ี การเผยแผ่ศาสนาในประเทศองั กฤษ การเผยแผ่ในประเทศองั กฤษเร่ิมตน้ ข้ึนเม่ือ พ.ศ. 2393 โดยนายสเปนเซอร์ อาร์ดี ตีพิมพห์ นังสือ ช่ือ “ศาสนจกั รแห่งบูรพาทิศ” ออกเผยแผ่ แต่ไม่ประสบผลสําเร็จมากนกั จนกระทง่ั เมื่อ เซอร์ เอ็ดวิน อาร์ ดนลด์เขียนหนังสือเรื่อง “ประทีปแห่งเอเชีย” ออกสู่สายตามหาชนใน พ.ศ.2422 นับต้งั แต่น้ันเป็ นตน้ มา ชาวองั กฤษก็เริ่มตื่นตวั หันมาสนใจในพุทธศาสนามากข้ึนเร่ือย ๆ โยชาวองั กฤษไดร้ ่วมมือกบั ชาวพุทธใน ประเทศต่าง ๆ ก่อต้งั สมาคมเพื่อดาํ เนินงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศองั กฤษข้ึนหลายสมาคมท่ี สําคญั ไดแ้ ก่สมาคมบาลีปกรณ์ จดั พิมพพ์ ระไตรปิ ฎกเป็ นภาษาองั กฤษ พุทธสมาคมระหว่างชาติ (สาขา

ลอนดอน) ของพม่า ตีพิมพห์ นังสือชื่อ “พระพุทธศาสนา” พุทธสมาคมแห่งเกรตบริเตนและไอร์แลนด์ ออกวารสารช่ือ “พุทธศาสตร์ปริทศั น์” สมาคมมหาโพธ์ิ (สาขาลอนดอน) ของศรีลงั กาออกวารสารช่ือ “ชาวพทุ ธองั กฤษ” และ “ธรรมจกั ร” เป็นตน้ การเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาในองั กฤษน้ีถึงแมพ้ ทุ ธสมาคมต่าง ๆ จะนบั ถืนิกายแตกต่างกนั เช่น นิกายเถรวาท นิกายมหายาน นิกายเซน นิกายสุขาวดี ฯลฯ แตท่ ุกสมาคมก็ สมคั รสมานสามคั คีกันดี โดยมีการจดั กิจกรรมและประชุมกนั บ่อยคร้ัง ท้งั น้ีเพื่อทาํ ให้พระพุทธศาสนา สามารถเผยแผอ่ อกไปไดอ้ ยา่ งกวา้ งขวาง อน่ึงไดม้ ีการจดั ต้งั วหิ ารทางพระพุทธศาสนาข้ึนหลายแห่งในประเทศองั กฤษ เป็นตน้ ว่าพุทธวหิ าร ลอนดอนของประเทศศรีลงั กา วดั ของมูลนิธิสงฆ์องั กฤษท่ีถนน แฮมสเตท และมีวดั ของชาวพุทธศรี ลงั กา ที่ตาํ บลซิลิค กรุงลอนดอน วดั ทิเบตที่บิดดอล์ฟ ประเทศสกอตแลนด์ วดั ไทยพุทธประทีปท่ีกรุง ลอนดอนเกิดข้ึน ต่อมาก็มีวดั อ่ืน ๆ เช่น วดั ป่ าจิตตวิเวก เมืองแฮมไชร์ วดั ป่ าสันติธรรม เมืองวอริค วดั อมราวดี และวดั สงั ฆทาน เมืองเบอร์มิงแฮม พระภิกษุไทยไดไ้ ปเผยแผ่พระพุทธศาสนา สอนวิปัสสนากรรมฐานให้แก่ชาวพุทธในประเทศ องั กฤษ โดยเฉพาะป่ า จิตตวิเวก วดั อมราวดี และวดั ป่ าสันติธรรม ไดม้ ีชาวองั กฤษมาบวชศึกษาปฏิบตั ิจาก หลวงพ่อชา สุภทั โท พระวิปัสสนาจารยผ์ ูม้ ีชื่อเสียง แล้วกลับไปเผยแผ่ยงั ประเทศของตน งานเผยแผ่ พระพุทธศาสนาจึงกระจายไปได้อย่างรวดเร็ว นอกจากน้ีพระเขมธัมโม ได้เขา้ ไปสอนนักโทษตาม ทัณฑสถานต่าง ๆ โดยความร่วมมือของรัฐ ผลักดันให้คุกเป็ น สถานปฏิบัติธรรมของนักโทษ และ โครงการองคุลีมารเพอ่ื ช่วย เหลือนกั โทษ โดยมิไดแ้ บง่ วา่ นบั ถือศาสนาพุทธหรือศาสนาอื่น ๆ กล่าวโดยสรุป ปัจจุบนั มีชาวองั กฤษประกาศตนเป็ นพุทธมามกะมากข้ึนเรื่อย ๆ และจากรายงาน ในวารสาร “ทางสายกลาง” ของ พุทธสมาคมลอนดอนระบุวา่ มีสมาคมและองคก์ ารต่าง ๆ ที่เกี่ยวขอ้ งกบั พระพทุ ธศาสนาจดั ต้งั อยใู่ นประเทศองั กฤษแลว้ ประมาณ 32 แห่ง การเผยแผ่ศาสนาในประเทศเยอรมนี ชาวเยอรมนั ไดย้ อมรับพระพุทธศาสนาต้งั แต่ก่อนสงครามโลกคร้ังท่ี 2 แลว้ แต่เป็ นเพียงชนส่วน นอ้ ยเทา่ น้นั จนกระทง่ั เมื่อลทั ธินาซีเรืองอาํ นาจ พระพุทธศาสนากเ็ ร่ิมเสื่อมไปจากประเทศเยอรมนี หลงั จากสงครามโลกคร้ังท่ี 2 เยอรมนั ถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเทศ พระพุทธศาสนาค่อย ๆ ไดร้ ับ การฟ้ื นฟูข้นึ มาใหม่ ในประเทศสาธารณรัฐเยอรมนี (เยอรมนั ตะวนั ตก) โดย ดร.คาร์ล ไซเกนสิตคเกอร์ และ ดร.ยอร์จ กริมม์ ได้ร่วมมือต้งั พุทธสมาคมเยอรมนั ข้ึนที่เมืองไลป์ ซิก เมื่อ พ.ศ. 2464 เพื่อทาํ การเผยแผ่ หลกั ธรรมและดาํ เนินกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา

การเผยแผพ่ ุทธศาสนาในประเทศเยอรมนั ตะวนั ตก ดาํ เนินการโดยเอกชนร่วมมือกบั ภิกษุสงฆ์จาก ญ่ีป่ ุน ไทย ศรีลงั กา ไทย ทิเบต จดั พิมพว์ ารสารแลจุลสารออกเผยแผ่ เช่นกลุ่มชาวพุทธเก่าตีพิมพว์ ารสารชื่อ “ยาน” สมาคมพระธรรมทูตศรีลงั กาและชาวพุทธในเมืองฮัมบูร์ก ออกวารสารพระพุทธศาสนาฉบับ ภาษาเยอรมัน นอกจากน้ีก็มีการจดั แสดงปาฐกถาอภิปราย และสนทนาธรรมที่กรุงเบอร์ลินตะวนั ตก ประมาณ 5 – 10 คร้ังต่อเดือน รวมท้งั ยงั มีศาสตราจารยท์ ี่เชี่ยวชาญเรื่องราวทางดา้ นพระพุทธศาสนานิกาย สุขาวดีอยใู่ นกรุงเบอร์ลินตะวนั ตก เมืองมิวนิกและฮมั บูร์ก เป็นประจาํ อีกดว้ ย เม่ือเยอรมนีตะวนั ตกไดร้ วมเขา้ กบั เยอรมนีตะวนั ออกเป็นประเทศเดียว ก็พอท่ีจะคาดการณไดว้ า่ คง จะมีชาวเยอรมนั ประกาศตนเป็นพุทธมามกะเพิ่มข้ึนเรื่อย ๆ ซ่ึงส่วนใหญ่จะเป็นผทู้ ี่อาศยั อยู่ในเมืองฮมั บูร์ก เบอร์ลิน สตุตการ์ต มิวนิก โคโลญ และ แฟรงค์เฟิ ร์ต ส่วนการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่สําคัญ มกั จะกระทาํ กนั ท่ี “ศาสนสภาแห่งกรุงเบอร์ลิน” ปัจจุบนั น้ีที่สหพนั ธ์สาธารณรัฐเยอรมนี มีวดั ไทย 3 วดั คือ วดั พุทธวิหาร ที่เมืองเบอร์ลิน วิตเต นัว วดั ไทยมิวนิค ท่ีเมือง มิวนิค และวดั พุทธารามเบอร์ลิน ซ่ึงเป็ นศูนยก์ ารเผยแผ่พระพุทธศาสนาใน เยอรมนี การเผยแผ่ศาสนาในประเทศฝร่ังเศส การเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศฝรั่งเศสเริ่มข้ึนเม่ือ พ.ศ. 2471 โดยกลุ่มพุทธศาสนิกชนชาว ฝรั่งเศส ซ่ึงมี นางสาวคอนสแตนต์ ลอนสเบอรี เป็นผนู้ าํ ไดร้ ่วมกนั จดั ต้งั พุทธสมาคม ช่ือ “เล ซามี ดู บุดดิส เม” ข้ึนที่กรุงปารีส พุทธสมาคมแห่งน้ีนอกจากจะทาํ การเผยแผห่ ลกั ธรรมคาํ สอนของพระพทุ ธศาสนิกายเถร วาทแลว้ ก็ยงั ไดจ้ ดั ใหม้ ีการแสดงธรรมอภิปรายเร่ืองราวของธรรมะ ออกวารสารพระพุทธศาสนารายเดือน ฝึ กอบรมการน่ังสมาธิและวิปัสสนาให้แก่ผูท้ ี่สนใจ นอกจากน้ียงั ไดน้ ิมนตพ์ ระสงฆจ์ ากประเทศไทย พม่า ลาว เดินทางไปแสดงพระธรรมเทศนาท่ีกรุงปารีส และนางสาวคอนสแตนต์ ก็ยงั เป็ นผูร้ ิเริ่มการแปล พระไตรปิ ฎกจากภาษาบาลีเป็นภาษาฝร่ังเศสดว้ ย ปัจจุบนั สถานะของพระพุทธศาสนาในฝรั่งเศสยงั ไม่รุ่งเรืองนกั การเผยแผ่และการจดั กิจกรรมทาง พระพุทธศาสนาดาํ เนินการโดยพระภิกษุจากไทย ญ่ีป่ ุน ศรีลงั กา กลุ่มพุทธศาสนิกชน จากประเทศฝรั่งเศส และประเทศองั กฤษ และเมื่อถึงวนั วิสาขบูชา ของทุก ๆ ปี ชาวพุทธในกรุงปารีสจะประกอบพิธีเวียนเทียน กนั ท่ีวิหารของพุทธสมาคม โยมีวดั ไทยต้งั อยู่ 2 แห่ง การเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาในประเทศอดตี สหภาพโซเวียต

สหภาพโซเวียตจดั เป็ นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีดินแดนครอบคลุมถึง 2 ทวีป คือ ยโุ รป และเอเชีย จากหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์พบว่า พระพุทธศาสนาได้เผยแผ่เขา้ สู่สหภาพโซเวียตซ่ึงใน ขณะน้ันเรียกว่า “รุสเซีย” เม่ือคร้ังท่ีพวกมองโกลภายใตก้ ารนําของพระจกั พรรดิเจงกิสข่าน ยกทพั มา รุกราน ยุโรปเมื่อ พ.ศ. 1766 และสามารถปกครองรุสเซีย อยู่เป็ นเวลานานประมาณ 250 ปี แต่ทว่ามีชาว รุสเซียเพยี งส่วนนอ้ ยเทา่ น้นั ท่ียอมรับพระพทุ ธศาสนา ภายหลงั สงครามโลกคร้ังท่ี 1 ไดม้ ีผนู้ าํ พระพุทธศาสนาเขา้ ไปเผยแผ่ในรุสเซียอีก เช่น มาดามเชอร์ บาตรสกี และ มร. บี.เอน็ . โตโปรอฟ แปลหนงั สือธรรมบทจากภาษาบาลีเป็นภาษารุสเซีย นอกจากน้ีก็ยงั มี การจดั ต้งั พุทธสมาคมข้ึนในรุสเซียดว้ ย มีช่ือวา่ “บิบลิโอเธคา พุทธิคา” แต่การเผยแผ่พุทธศาสนาก็ทาํ ได้ ในขอบเขตท่ีจาํ กดั เน่ืองจากสหภาพโซเวียตมีระบบการปกครองแบบคอมมิวนิสต์ จึงสั่งห้ามมิให้บุคคล องค์การ สมาคม ทาํ การโฆษณาเผยแผ่หลกั ธรรมคาํ สอนของศาสนาจนกว่าจะไดร้ ับอนุญาตจากทางการ เสียก่อน การประกอบพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนาคร้ังใหญ่ท่ีจดั ทาํ ข้ึนในสหภาพโซเวียต ก็คืองานเฉลิม ฉลอง 25 พทุ ธศตวรรษ เม่ือ พ.ศ. 2500 ที่กรุงมอสโก ปัจจุบนั เมื่อมีการแยกตวั เป็ นรัฐเอกราชต่าง ๆ ก็ทาํ ให้ชาวพุทธกระจายกันออกไปแต่ละรัฐ เช่น สหพนั ธรัฐเซีย สาธารณรัฐลิทวั เนีย สาธารณรัฐคาซคั สถาน เป็นตน้ ซ่ึงโดยมากมกั จะนบั ถือนิกายตนั ตระ ส่วนวดั มีเหลืออยู่เพียงไม่ก่ีแห่งโดยวดั ส่วนใหญ่จะถูกดดั แปลงทาํ เป็ นพิพิธภณั ฑ์เพ่ือการศึกษา และบาง แห่งก็ถูกดัดแปลงทาํ เป็ นสถานที่ราชการ วดั สําคญั ๆ ได้แก่ วดั ไอโวกินสกีมหายานและวดั อีโวลกาใน สหพนั ธ์รัสเซีย เป็นตน้ การเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศเนเธอร์แลนด์ พระพุทธศาสนาไดเ้ ผยแผเ่ ขา้ สู่ประเทศเนเธอร์แลนดโ์ ดยผา่ นมาทางพ่อคา้ ชาวดตั ชแ์ ละชาวพ้ืนเมือง จากประเทศอินโดนีเซียและศรีลงั กา ซ่ึงเดินทางเขา้ มาศึกษาเล่าเรียนอยูใ่ นกรุงอมั สเตอร์ดมั แต่ทวา่ กม็ ีผูน้ บั ถืออยเู่ พยี งไมก่ ่ีคนเท่าน้นั หลงั สงครามโลกคร้ังท่ี 2 ชาวพุทธในกรุงเฮก ไดฟ้ ้ื นฟูชมรมชาวพุทธข้ึนมาใหม่เม่ือ พ.ศ. 2498 โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะให้เป็ นศูนย์กลางในการพบปะสังสรรค์กันของพุทธศาสนิกชนในประเทศ เนเธอร์แลนด์ ชมรมน้ีจะเปิ ดประชุมทุกวนั องั คาร สัปดาห์ท่ี 3 ของเดือน ซ่ึงในการประชุมทุกคร้ังจะเริ่มตน้ ดว้ ยการบรรยายหลกั ธรรมของพระพุทธเจา้ แลว้ อ่านพระสูตรพร้อมกบั อธิบายความหรือขยายความเพ่ิมเติม และก่อนเปิ ดประชุมจะมีการฝึกสมาธิก่อน ปัจจุบนั การเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศเนเธอร์แลนด์ ดาํ เนินงานโดยพระภิกษุสงฆ์จาก ประเทศไทย ศรีลงั กา และญ่ีป่ ุนเป็ นส่วนใหญ่ และมีวดั ไทยเกิดข้ึน เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา คือ วดั

พุทธราม และวดั พุทธวิหารอมั สเตอร์ดมั โดยพระ ธรรมทูตท่ีผ่านการอบรมจากมหาวิทยาลยั สงฆไ์ ปอย่ทู าํ หน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนา และเป็นที่คาดกนั ว่าในอนาคตอนั ใกลน้ ้ีคงจะมีชาวดตั ชห์ ันมายอมรับนบั ถือ พระพุทธศาสนาเพม่ิ ข้นึ มากเร่ือย ใบความรู้ เร่ือง การเผยแผ่พระพุทธศาสนาสู่ประเทศต่าง ๆ ทัว่ โลก การเผยแผ่พระพุทธศาสนาในทวีปอเมริกาเหนือ การเผยแผ่และการนบั ถือพระพุทธศาสนาในประเทศสหรัฐอเมริกา พระพุทธศาสนาไดเ้ ผยแผ่เขา้ สู่สหรัฐอเมริกา เมื่อประมาณตน้ พุทธศตวรรษท่ี 25 โดยมหาวิทยาลยั ฮาร์วาร์ด ไดเ้ ริ่มจดั พิมพห์ นังสือสําคญั ๆ ของตะวนั ออก ซ่ึงมีเรื่องราวของพระพุทธศาสนารวมอยู่ดว้ ย เช่น Buddhist Legends ของ อี. ดับบลิว. เบอร์ลิงเกม Buddhism in Translation ของ เอช. ซี. วอเรน ทาํ ให้ชาว อเมริกนั โดยเฉพาะปัญญาชนหันมาสนใจพระพุทธศาสนา นอกจากน้ีหนงั สือ ประทีปแหงเอเชีย ของ เซอร์ เอด็ วนิ อาร์โนลด์ กม็ ีส่วนทาํ ใหช้ าวอเมริกนั สนใจพระพุทธศาสนา เฉพาะหนงั สือเล่มน้ีไดร้ ับการตีพิมพเ์ ผย แผพ่ ระพทุ ธศาสนาในสหรัฐอเมริกามากกวา่ 80 คร้ัง บุคคลท่ีมีบทบาทสาํ คญั ในการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนา ในสหรัฐอเมริกาช่วงแรกๆ คือ พนั เอก เฮนรี สตีล ออลคอตต์ พนั เอก เฮนรี สตีล ออลคอตต์ เป็ นนักกฎหมายชาวอเมริกนั ไดเ้ ดินทางไปยงั ประเทศศรีลงั กา เมื่อ เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2423 และไดป้ ระกาศตนเป็ นพุทธศาสนิกชนพร้อมท้งั ไดต้ ้งั สมาคมพุทธเทวนิยมข้ึน เพื่อต้งั โรงเรียนสอนภาษาองั กฤษสําหรับเด็กชาวพุทธ เม่ือกลบั ถึงอเมริกาไดแ้ ต่งหนังสือชื่อ ปุจฉาวิสัชนา ทางพระพุทธศาสนา (Buddhist Catechism) ข้ึนเผยแผ่และได้รับความสนใจจากชาวเมริกันเป็ นอย่างมาก นอกจากน้ีในคราวประชุมสภาพโลกของศาสนา ในเมืองชิคาโก เมื่อ พ.ศ. 2436 ทา่ นยงั ไดร้ ับเชิญใหบ้ รรยาย เก่ียวกบั พระพทุ ธศาสนาในท่ีประชุม สุนทรพจนข์ องท่าเป็นที่ซาบซ้ึงใจแก่ผฟู้ ังจาํ นวนมาก

ในปี พ.ศ. 2442 ท่านโซกวั โซนาดะ พร้อมคณะไดน้ าํ พระพุทธศาสนาแบบมหายานนิกายต่างๆ ไป เผยแผ่ในเมืองซานฟรานซิสโก มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ต่อมาในปี พ.ศ. 2448 ไดม้ ีการสร้างวดั พระพุทธศาสนา ข้ึน ณ เมืองแห่งน้ี แบะวดั น้ีก็ได้กลายเป็ นท่ีทําการใหญ่ของนิกายซินหรือสุขาวดีแห่งญี่ป่ ุน ความ เจริญรุ่งเรื องของพระพุทธศาสนาในสหรัฐอเมริกาเป็ นไปอย่างช้าๆ แต่ทว่าม่ันคงศูนย์กลางของ พระพทุ ธศาสนาที่สาํ คญั ๆ ส่วนใหญอ่ ยใู่ นเมืองซานฟรานซิสโก ลอสอแอนเจลิส และซีแอตเติล ในปี พ.ศ. 2497 ไดม้ ีการจดั ต้งั พุทธสมาคมข้ึนในวอชิงตนั ดี.ซี. มีชื่อว่า สหายพุทธศาสนา (Friend of Buddhism) สมาคมแห่งน้ีถือวา่ เป็นสมาคมท่ีมีกาํ ลงั มากที่สุดแห่งหน่ึงในสหรัฐอเมริกาในเวลาตอ่ มา ในปี พ.ศ. 2501 พระพมิ ลธรรม (อาจ อาสภมหาเถระ) ไดร้ ับเชิญจากขบวนการ เอม็ . อาร์. เอ ไปร่วม ประขุมสุดยอดของขบวนการ ขณะท่ีท่านพาํ นกั อยูท่ ่ีกรุงวอชิงตนั ดี. ซี. ไดเ้ ผยแผพ่ ระพุทธศาสนาท้งั ในหมู่ ชาวอเมริกนั และชาวไทยในอเมริกาพอสมควร ในช่วงปี พ.ศ. 2502-2512 การเผยแพระพุทธศาสนาในสหรัฐอเมริกาไดด้ าํ เนินไปอยา่ งต่อเน่ือง มี พระสงฆไ์ ดร้ ับนิมนตไ์ ปแสดงธรรมหรือปาฐกถาธรรมอยเู่ สมอ จนกระทงั่ ปี พ.ศ. 2513 ไดม้ ีกลุ่มคณะพุทธศาสนิกชนชาวไทยในสหรัฐอเมริการ่วมกนั ก่อต้งั พุทธ สมาคมไทย-อเมริกนั ข้ึน ณ นครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย และไดน้ ิมนตพ์ ระสงฆไ์ ทยจาํ นวน 3 รูป มา จาํ พรรษาชว่ั คราว หลงั จากออกพรรษาแลว้ ไดป้ ระชุมปรึกษาหารือกนั เพอื่ สร้างวดั พุทธศาสนานิกายเถรวาท แบบไทยข้ึน ในวนั ท่ี 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2515 นายพูนศกั ด์ิ ซอโสตถิกุล ไดท้ าํ พิธีถวายโฉนดท่ีดินให้แก่คณะ สงฆเ์ พอ่ื ใชเ้ ป็นที่สร้างวดั และในวนั ท่ี 19 พฤษภาคม ปี เดียวกนั สมเดจ็ พระวนั รัต (ป่ ุน ปุณฺณสิริ) ไดว้ างศิลา ฤกษส์ ร้าง วนั ไทยลอสแอนเจลิส เป็นวดั พระพุทธศาสนาแห่งแรกในสหรัฐอเมริกา หลงั จากที่ไดส้ ร้างวดั ไทยลอสแอนเจลิสข้นึ เป็นแห่งแรกแลว้ การดาํ เนินการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนา ในสหรัฐอเมริ กาก็เป็ นไปอย่างกว้างขวาง พระสงฆ์ไทยก็ได้รับการนิ มนต์ให้ไปทําการเผยแผ่ พระพุทธศาสนาตามรัฐต่างๆ มากข้ึน และมีการสร้างวดั ไทยเพิ่มข้ึนในรัฐต่าง ๆ เช่น วดั ไทยกรุงวอชิงตนั ดี.ซี. วดั วชิรธรรมปทีป ในนิวยอร์ก วดั พุทธาราม ในเดนเวอร์ วดั พุทธาวาส ในฮิวส์ตนั เป็นตน้ การเผยแผ่และการนบั ถือพระพทุ ธศาสนาในประเทศแคนาดา พระพุทธศาสนาในประเทศแคนาดาก็มีลกั ษณะเช่นเดียวกบั พระพุทธศาสนาในสหรัฐอเมริกา คือ เร่ิมเผยแผ่เขา้ สู่แคนาดาโดยมีชาวเอเชียจากประเทศต่าง ๆ เดินทางเขา้ มาอาศยั อยใู่ นแคนาดาซ่ึงชาวเอเชีย เหล่าน้ีก็ไดน้ าํ เอาหลกั ธรรมของพระพุทธศาสนาเขา้ ไปเผยแผต่ ่อชาวพ้ืนเมืองดว้ ย โดยเฉพาะในปัจจุบนั น้ีมี

ชาวเกาหลี เวียดนาม เขมร และลาวจาํ นวนมากไดอ้ พยพเขา้ ไปต้งั ถ่ินฐานในประเทศแคนาดา จึงทาํ ให้มี การจดั ต้งั พุทธสมาคมข้ึนเพื่อดาํ เนินกิจกรรมทางดา้ นพระพุทธศาสนาดว้ ยเหตุน้ีจึงทาํ ให้จาํ นวนชาวพุทธ เพิ่มมากข้ึน องค์กรท่ีสําคญั ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศแคนาดา ได้แก่ พุทธสมาคมแห่ง ออตตาวา กลุ่มชาวพุทธแห่ งโตรอนโต คณ ะพระธรรมทูตแห่ งอเมริ กาเหนื อ เป็ นต้น ปัจจุบนั พระพุทธศาสนาในประเทศแคนาดาส่วนใหญ่ยงั คงนบั ถือกนั ในกลุ่มคนเอเชียท่ีไปต้งั ถ่ิน ฐานในแคนาดา ชาวแคนาดาไม่ค่อยใหค้ วามสนใจในพระพุทธศาสนามากนกั วดั ทางพระพุทธศาสนาส่วน ใหญจ่ ึงเป็นวดั ของนิกายสุขาวดีและนิกายเซนแบบญ่ีป่ ุน ใบความรู้ เรื่อง การเผยแผ่พระพุทธศาสนาสู่ประเทศต่าง ๆ ทว่ั โลก การเผยแผ่พระพุทธศาสนาในทวปี อเมริกาใต้ ประเทศบราซิล ชาวเอเชียจากประเทศจีน เกาหลี ญ่ีป่ ุน เป็นบุคลกลุ่มแรกที่นาํ พระพุทธศาสนาไปเผยแผเ่ ขา้ มาใน ประเทศบราซิล ต้งั แต่ก่อนสงครามโลกคร้ังที่ 2 ชาวพุทธเหล่าน้ีส่วนใหญ่จะอาศยั อยู่ในเมืองเซาเปาลู และรีโอเดจาเนโร ปัจจุบนั มีการสร้างวดั ทางพระพุทธศาสนานิกายมหายานตามเมืองต่าง ๆ ทางชายฝ่ัง ทะเลดา้ นตะวนั ออกของประเทศประมาน 30 แห่ง รวมท้งั มีการจดั ต้งั องคก์ ารทางพระพุทธศาสนาข้ึนดว้ ย เช่น สมาคมสหายพระพทุ ธศาสนา สหพนั ธ์พระพทุ ธศาสนาแห่งบราซิล และชมรมชาวพทุ ธญ่ีป่ ุน เป็นตน้ อยา่ งไรก็ตามการนบั ถือพระพุทธศาสนาในประเทศบราซิลก็ยงั จาํ กดั อย่แู ต่เฉพาะในกลุ่มเอเชียเท่าน้นั ส่วน ชาวพ้นื เมืองท่ีมีความศรัทธานบั ถือพระพุทธศาสนายงั มีจาํ นวนนอ้ ย ประเทศอ่ืนในทวปี อเมริกาใต้ ประเทศอื่นในทวีปอเมริกาใตม้ ีการปฏิบตั ิธรรมและการประกอบพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนากนั อยู่บา้ งในกรุงบวั โนสไอเรส เมืองหลวงของประเทศอาเจนตินา กรุงการากสั เมืองหลวงของประเทศ เวเนซุเอลา และกรุงมอนเตวิเดโอ เมืองหลวงของประเทศอุรุกวยั เพราะมีชาวพุทธเช้ือชาติจีนและญี่ป่ ุน

อาศยั ร่วมกนั เป็นกลมุ่ เลก็ ๆ กลา่ วไดว้ า่ การนบั ถือพระพทุ ธศาสนาในประเทศตา่ ง ๆ ของวปี อเมริกาใตย้ งั อยใู่ นขอบเขตจาํ กดั และคงตอ้ งใชเ้ วลาอีกนบั เป็น สิบ ๆ ปี ถึงทาํ การเผยแผไ่ ปไดท้ ว่ั ใบความรู้ เรื่อง การเผยแผ่พระพุทธศาสนาสู่ประเทศต่าง ๆ ทัว่ โลก การเผยแผ่พระพุทธศาสนาในออสเตรเลีย พระพุทธศาสนาไดเ้ ผยแผ่เขา้ มาในทวีปออสเตรเลียต้งั แต่ พ.ศ. ๒๔๕๓ โดยพระภิกษุชาวองั กฤษ ช่ือ ศาสนชะ (มร.อี.สตีเวนสนั ) ท่านผูน้ ้ีไดอ้ ุปสมบทที่ประเทศพมา่ ท่านไดเ้ ดินทางเขา้ สู่ประเทศออสเตรเลีย และเผยแผ่พระพุทธศาสนาแก่ชาวออสเตรเลียโดยแนะนาํ แต่เพียงว่าพระพุทธศาสนาเนน้ การพฒั นาจิตใจ หลงั สงครามโ,กคร้ังที่ ๒ เป็นตน้ มา พระพุทธศาสนาในประเทศออสเตรเลียก็มีการเคลื่นไหวอยา่ งคกึ คกั ในปี พ.ศ. ๒๔๙๖ รัฐควีนสแลนด์ นิวเซาทเ์ วลส์ และวิกตอเรีย ไดจ้ ดั ต้งั พุทธสมาคมข้ึน โดยมีวตั ถุประสงค์ เพ่ือเผยแผห่ ลกั ธรรมในพระพุทธศาสนา ในปี พ.ศ. ๒๔๙๗ พุทธสมาคมแห่งรัฐนิวเซาทเ์ วลส์ก็ไดจ้ ดั พิมพ์ วารสารเกี่ยวกบั พระพุทธศาสนาออกเผยแพร่ใหก้ บั ผูส้ นใจและในปี ๒๔๙๘ ก็มีการจดั ต้งั พุทธสมาคมแห่ง รัฐแทสเมเนียข้ึน ในขณะเดียวกนั คือ ในปี ๒๔๙๗ - ๒๔๙๙ อนั เป็ นระยะเวลาท่ีประเทศพม่ากาํ ลงั มีการสังคายนา คร้ังที่ ๖ พระเถระชาวพม่าชื่อ อู ฐิติละ ไดไ้ ปเผยแผ่พระพุทธศาสนาท่ีประเทศออสเตรเลีย มีผสู้ นใจฟังการ บรรยายธรรมเป็นอมั มาก ท่านอูฐิติละไดจ้ ดั อบรมกรรมฐานแก่ชาวออสเตรลียดว้ ย มีผูบ้ ริจาคเงินซ้ือท่ีดินจะ

สร้างวดั เพื่อให้มีวดั และพระสงฆอ์ ยู่ประจาํ แต่ท่านอูฐิติละไม่ไดก้ ลบั ไปออสเตรเลียอีก การสร้างวดั จึงไม่ เป็นผลสาํ เร็จ ในเวลาต่อมาพุทธสมาคมต่างๆ ทวั่ ประเทศออสเตรเลีย ไดร้ ่วมกนั จดั ต้งั สหพนั ธ์พระพุทธศาสนา แห่งออสเตรเลียข้ึนโดยมีสํานักงานใหญ่อยู่ท่ีกรุงแคนเบอร์รา ท้งั น้ีก็เพ่ือจะทาํ การเผยแผ่พระพุทธศาสนา อย่างมีระบบโดยสหพนั ธ์แห่งน้ีจดั ให้เป็ นสถานท่ีจดั แสดงปาฐกถาธรรม สัมมนาทางวิชาการ อ๓◌ิปราย ธรรม และใชเ้ ป็นศูนยร์ วมในการประกอบศาสนกิจตามประเพณีของพระพุทธศาสนาทาํ ใหม้ ีผูห้ ันมานบั ถือ พระพุทธศาสนามากข้นึ เป็นลาํ ดบั สาํ หรับประเทศนิวซีแลนดน์ ้นั การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาก็คลา้ ยคลึงกบั ของประเทศออสเตรเลีย แตพ่ ระพุทธศาสนาในประเทศนิวซีแลนดย์ งั ไม่รุ่งเรืองเป็นท่ียอมรับเหมือนในประเทศออสเตรเลีย ส่วน ใหญ่การเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาจะดาํ เนินการ โดยพระภิกษุสงฆช์ าวญ่ีป่ นุ ซ่ึงไดร้ ับการสนบั สนุนจากพุทธ สมาคมแห่งเมืองฌอคแลนด์ พระพุทธศาสนาในทวปี ออสเตรเลยี ในปัจจบุ ัน พุทธศาสนิกชนท้งั ชาวไทยและชาติอ่ืนๆ ไดเ้ ไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาในทวีปออสเตรเลียมากข้ึน ชาวออสเตรเลียไดม้ าอุปสมบทในประเทศไทยและประเทศอ่ืนท่ีนบั ถือพระพุทธศาสนาฝ่ ายเถรวาท มีการ สร้างวดั ไทยข้ึนท้งั ในประเทศออสเตรเลียและประเทศนิวซีแลนด์ เพื่อเป็นศูนยก์ ลางเผยแผพ่ ระพุทธศาสนา เช่น วดั ธรรมรังสี วดั รัตนประทีป วดั ป่ าพุทธรังสี วดั ป่ าสุญญตาราม บนั ดานูน วดั ธรรมธารา

ใบความรู้ เร่ือง การเผยแผ่พระพุทธศาสนาสู่ประเทศต่าง ๆ ท่วั โลก การเผยแผ่พระพุทธศาสนาในแอฟริกา ประเทศอยี ิปต์ การเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศอียิปต์น้ัน ส่วนใหญ่จะเป็ นไปในรูปแบบอย่างไม่เป็ น ทางการ กล่าวคือ เกิดจากการที่มีชาวพุทธโดยเฉพาะชาวญี่ป่ ุน เกาหลี ไทย ศรีลงั กาอินเดียเดินทางเขาไป ทาํ งาน ศึกษา ท่องเที่ยงในอียิปต์ แลว้ บุคคลเหล่าน้ีก็ค่อยๆ ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกบั พระพุทธศาสนาใหก้ บั ชาวอียิปตร์ ุ่นใหม่ ซ่ึงไม่ใคร่ยดึ ติดกบั วฒั นธรรมด้งั เดิมของตนมากนัก ให้ยอมรับนบั ถือพระพุทธศาสนา ดว้ ย แต่ก็ยงั มีจาํ นวนไม่มากนักประมาณว่าไม่น่าจะเกิน 10,000 คนซ่ึงส่วนใหญ่จะเป็ นผทู้ ี่อาศยั อยูใ่ นกรุง ไคโร และเมืองอะเลก็ ซานเดรีย นอกจากน้นั กม็ ีชาวพทุ ธท่ีไปอาศยั อยใู่ นอีกจาํ นวนหน่ึง ในช่วงวนั วิสาขบูชาชาวพุทธท่ีอียิปต์จะมารวมตวั กนั ณ สถานทูตของประเทศตนหรือสมาคมท่ี ชาวพุทธเป็ นเจา้ ของ เพ่ือปฏิบตั ิศาสนกิจดว้ ยการเวียนเทียนกนั เป็ นกลุ่มเล็กๆ และเชิญผทู้ รงภูมิมาแสดง ธรรมเป็นเวลาส้นั ๆ ปัจจุบนั พระพทุ ธศาสนาในอียปิ ตย์ งั เผยแผไ่ ดน้ อ้ ย เน่ืองจากมีขอ้ จาํ กดั ดา้ นวฒั นธรรม

ประเทศเคนยา พระพุทธศาสนาเผยแผ่เขา้ สู่ประเทศเคนยา ผ่านมาทางชาวพุทธอินเดีย และศรีลงั กาท่ีเดินทางเขา้ ไปทาํ งานในไร่การเกษตรของชาวองั กฤษ ซ่ึงในช่วงแรกๆ ก็จาํ กดั ขอบเขตที่ผนู้ บั ถือเฉพาะชาวเอเชียเทา่ น้นั ภายหลงั ชาวเคนยาซ่ึงมีอยู่เป็นจาํ นวนหน่ึงท่ีนบั ถือลทั ธิภตู ผีปี ศาจ ไดห้ นั มายอมรับนบั ถือพระพุทธศาสนา บา้ ง แตย่ งั คงเป็นกลุ่มเลก็ ๆ โดยอาศยั อยตู่ ามเมืองทา่ ทางชายฝ่ังตะวนั ออกของประเทศ ภายหลงั จากการประชุมศาสนาและสันติภาพของโลก ที่นครไนโรบีเม่ือเดือนสิงหาคม พ.ศ.2527 การเผยแผ่พระพุทธศาสนาในเคนยาเริ่มมีรูปแบบมากข้ึน เมื่อมีความพยายามท่ีจะก่อต้งั ชมรมชาวพุทธใน เคนยาข้ึนมาและมีการนิมนตพ์ ระสงฆจ์ ากญ่ีป่ ุน จีน ไทยเพ่ือใหเ้ ดินทางเขา้ มาเผยแผ่หลกั ธรรมในประเทศน้ี แต่ก็เป็ นช่วงส้ันๆ และไม่ประสบความสําเร็จคืบหน้ามากนัก เน่ืองจากสถานภาพในประเทศเคนยาก็มี ปัญหาท้งั ในเรื่องการเมืองและเศรษฐกิจ รวมท้งั ชนพ้ืนเมืองบางกลุ่มมีความไม่เป็ นมิตรนักสําหรับผูท้ ี่นับ ถือศาสนาแตกต่างไปจากตน การเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศน้ีจึงค่อนขา้ งมีปัญหามาก ปัจจุบนั ใน ประเทศเคนยามีผูน้ บั ถือพระพุทธศาสนาอยู่เพียงเล็กนอ้ ย ส่วนใหญ่จะเป็ นชาวเอเชีย โดยเฉพาะชาวอินเดีย และศรีลงั กา นอกจากน้นั กม็ ีชาวพ้นื เมืองอีกกล่มุ หน่ึงซ่ึงจาํ นวนไม่มากนกั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook