โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง ชอ่ื .......................................................สกุล............................................................. ม.5 หอ้ ง ................ เลขท่ี ........... บทท่ี 1 ทกั ษะพืน้ ฐานการอ่าน : การอ่านจบั ใจความสาคญั ผลการเรียนรู้ 1. อา่ นจบั ใจความสาคญั เรอ่ื งทอ่ี า่ นได้ สาระสาคญั 1. การอา่ นจบั ใจความ 2. หลกั การอา่ นจบั ใจความสาคญั 3. วธิ กี ารอา่ นจบั ใจความสาคญั 1.การอ่านจบั ใจความสาคญั การอ่านจบั ใจความสาคญั คือ การอ่านเพ่ือจบั ใจความหรือข้อคิด ความคิดสาคัญหลักของ ขอ้ ความ หรอื เร่อื งทอ่ี า่ น เป็นขอ้ ความทค่ี ลมุ ขอ้ ความอน่ื ๆ ในยอ่ หน้าไวท้ งั้ หมด ใจความสาคญั หมายถงึ ใจความทส่ี าคญั และเด่นท่สี ดุ ในย่อหน้า เป็นแกน่ ของย่อหน้าทส่ี ามารถ ครอบคลุมเน้อื ความในประโยคอ่นื ๆ ในยอ่ หน้านนั้ หรอื ประโยคทส่ี ามารถเป็นหวั เร่อื งของย่อหน้านนั้ ได้ ถา้ ตดั เน้อื ความของประโยคอ่นื ออกหมด หรอื สามารถเป็นใจความหรอื ประโยคเดย่ี วๆ ได้ โดยไม่ตอ้ งมปี ระโยคอ่นื ประกอบ ซง่ึ ในแตล่ ะยอ่ หน้าจะมปี ระโยคในความสาคญั เพยี งประโยคเดยี ว หรอื อยา่ งมากไม่เกนิ 2 ประโยค ใจความรอง หรอื พลความ หมายถงึ ใจความ หรอื ประโยคทข่ี ยายความประโยคใจความสาคญั เป็นใจความสนับสนุนใจความสาคัญให้ชดั เจนข้นึ อาจเป็นการอธิบายให้รายละเอยี ด ให้คาจากดั ความ ยกตวั อยา่ ง เปรยี บเทยี บ หรอื แสดงเหตุผลอย่างถถ่ี ว้ น เพ่อื สนับสนุนความคดิ ส่วนท่มี ใิ ชใ่ จความสาคญั และ มใิ ชใ่ จความรอง แต่ชว่ ยขยายความใหม้ ากขน้ึ คอื รายละเอยี ด กลวธิ กี ารขยายความ ไดแ้ ก่ 1. การใหน้ ิยาม 2.อธบิ ายรายละเอยี ด 3. แสดงเหตผุ ล 4. เปรยี บเทยี บ 5. ยกตวั อย่าง 2. หลกั การจบั ใจความสาคญั 1. ตงั้ จดุ มุ่งหมายในการอา่ นใหช้ ดั เจน 2. อ่านเรอ่ื งราวอยา่ งครา่ วๆ พอเขา้ ใจ และเกบ็ ใจความสาคญั ของแตล่ ะย่อหน้า 3. เมอ่ื อา่ นจบใหต้ งั้ คาถามตนเองวา่ เรอ่ื งทอ่ี ่าน มใี คร ทาอะไร ทไ่ี หน เมอ่ื ไหร่ อยา่ งไร 4. นาสง่ิ ทส่ี รุปไดม้ าเรยี บเรยี งใจความสาคญั ใหมด่ ว้ ยสานวนของตนเองเพอ่ื ใหเ้ กดิ ความสละสลวย หน้าท่ี - 1 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง 3.วิธีจบั ใจความสาคญั วธิ จี บั ใจความสาคญั มหี ลกั ดงั น้ี 1. พจิ ารณาทลี ะย่อหน้า หาประโยคใจความสาคญั ของแต่ละยอ่ หน้า 2. ตดั ส่วนท่เี ป็นรายละเอียดออกได้ เชน่ ตวั อย่าง สานวนโวหาร อุปมาอุปไมย(การเปรยี บเทยี บ) ตวั เลข สถติ ิ ตลอดจนคาถามหรอื คาพูดของผเู้ ขยี นซง่ึ เป็นส่วนขยายใจความสาคญั 3. สรปุ ใจความสาคญั ดว้ ยสานวนภาษาของตนเอง ใจความสาคญั ของขอ้ ความในแตล่ ะยอ่ หน้าจะปรากฏดงั น้ี 1. ประโยคใจความสาคญั อยตู่ อนตน้ ของยอ่ หน้า 2. ประโยคใจความสาคญั อยตู่ อนกลางของย่อหน้า 3. ประโยคใจความสาคญั อย่ตู อนทา้ ยของยอ่ หน้า 4. ประโยคใจความสาคญั อยู่ตอนตน้ และตอนทา้ ยของยอ่ หน้า 5. ผอู้ ่านสรุปขน้ึ เอง จากการอ่านทงั้ ย่อหน้า (ในกรณใี จความสาคญั หรอื ความคดิ สาคญั อาจอยู่รวม ในความคดิ ยอ่ ย ๆ โดยไมม่ คี วามคดิ ทเ่ี ป็นประโยคหลกั ) แบบฝึ กทกั ษะ ตอนที่ 1 อ่านขอ้ ความต่อไปน้ีแลว้ ระบใุ จความสาคญั หรอื สาระสาคญั ของขอ้ ความ 1.ความสมบรู ณข์ องชวี ติ มาจากความเขา้ ใจชวี ติ เป็นพน้ื ฐาน คอื เขา้ ใจธรรมชาติ เขา้ ใจความเป็นมนุษย์ และ ความสมั พนั ธท์ เ่ี กอ้ื กลู กนั ระหวา่ งมนุษยก์ บั มนุษย์ และมนุษยก์ บั ธรรมชาติ มคี วามรกั ความเมตตาต่อเพอ่ื น มนุษยแ์ ละธรรมชาตอิ ยา่ งจรงิ ใจ ใจความสาคญั คอื ............................................................................................................................................... ................................................................................................................................................ กลวธิ กี ารขยายความ คอื ........................................................................................................... 2. ความเครยี ดทาใหเ้ พม่ิ ฮอรโ์ มนอะดรนี าลนี ในเลอื ด ทาใหห้ วั ใจเตน้ เรว็ เสน้ เลอื ดบบี ตวั กลา้ มเนอ้ื เขมง็ ตงึ ระบบยอ่ ยอาหารผดิ ปกตเิ กดิ อาการปวดหวั ปวดทอ้ ง ใจสนั่ แขง้ ขาอ่อนแรง ความเครยี ดจงึ เป็น ตวั การใหแ้ กเ่ รว็ ใจความสาคญั คอื ............................................................................................................................................... ................................................................................................................................................ กลวธิ กี ารขยายความ คอื ........................................................................................................... หน้าท่ี - 2 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง 3. เม่อื คนอยกู่ บั คนดว้ ยกนั กย็ งั ตอ้ งมศี ลี มวี นิ ยั วางไวแ้ ลว้ เวลานอยรู่ ว่ มกบั หมาซ่งึ ไม่ใชค่ นจงึ ตอ้ งกาหนด ศลี ธรรมกาหนดวนิ ยั ไวเ้ ชน่ เดยี วกนั มฉิ ะนนั้ จะอยู่รว่ มกนั ไม่ไดก้ ารทจ่ี ะใหห้ มาอยูใ่ นศลี นนั้ กจ็ าเป็นตอ้ งมี ผใู้ หศ้ ลี ผทู้ จ่ี ะใหศ้ ลี หมาไดก้ ค็ อื ผทู้ ห่ี มาเคารพเหมอื นกบั คนไมย่ อมรบั ศลี จากฆราวาสดว้ ยกนั แต่ยอมรบั ศลี จากพระ ฉะนนั้ กอ่ นทใ่ี ครจะหดั หมาใหอ้ ยใู่ นกาหนดใดๆไดผ้ นู้ นั้ จะตอ้ งอยใู่ นฐานะทเ่ี คารพของหมาเสยี กอ่ น ใจความสาคญั คอื ............................................................................................................................................... ................................................................................................................................................ กลวธิ กี ารขยายความ คอื .......................................................................................................... 4. ความแตกต่างของมนุษย์และสตั วอ์ ีกประการหน่ึงทเ่ี หน็ เด่นชดั คอื เร่อื งของการใชภ้ าษา มนุษย์ สามารถถ่ายทอดความรู้ความคิดออกมาเป็นตวั เขยี น คอื เป็นภาษาหนังสือสาหรบั ให้ผูอ้ ่นื อ่านและ เขา้ ใจตรงตามท่ตี ้องการ แต่สตั วใ์ ช้ได้แต่เสยี งเท่านัน้ ในการส่อื สาร แม้แต่เสยี งหลายท่านกย็ งั มี ความเหน็ วา่ สตั วจ์ ะทาเสยี งเพ่อื แสดงความรสู้ กึ เช่น โกรธ หวิ เจบ็ ปวด เท่านนั้ เสยี งของสตั วไ์ ม่ อาจส่อื ความหมายไดล้ ะเอยี ดลออเทา่ ภาษาพูดของมนุษย์ ใจความสาคญั คอื ............................................................................................................................................... ................................................................................................................................................ กลวธิ กี ารขยายความ คอื ........................................................................................................... 5. ปัจจบุ นั น้ชี วี ติ ของเยาวชนตกอยทู่ า่ มกลางสงิ่ แวดลอ้ มทเ่ี ป็นอบายมขุ ไดแ้ ก่ สุรา ยาเสพตดิ การพนนั และสถานเรงิ รมยต์ า่ งๆ ถา้ เยาวชนมเี วลาวา่ งมากเกนิ ไปกอ็ าจถูกชกั จงู ไปสอู่ บายมุขไดโ้ ดยงา่ ยหาก เยาวชนตกเป็นทาสของอบายมขุ แลว้ กอ็ าจจะกลายเป็นอาชญากรในทส่ี ดุ กฬี าจงึ เป็นกจิ กรรมยามวา่ งท่ี สาคญั ซ่งึ จะชว่ ยป้องกนั ไมใ่ หเ้ ยาวชนหนั เหไปสอู่ บายมขุ ได้ ใจความสาคญั คอื ............................................................................................................................................... .................................................................................................................................................. กลวธิ กี ารขยายความ คอื ........................................................................................................... หน้าท่ี - 3 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง 6. ปะการงั เป็นแหลง่ พกั พงิ ของปลาตวั เลก็ แตป่ ัจจุบนั ถูกพ่อคา้ ปลาตทู้ าลายโดยใชว้ ธิ ฉี ีดพน่ ยาสลบไปตาม คอปะการงั เพ่อื จบั ปลาสสี วยๆไปขาย มผี ลทาใหป้ ะการงั ตายไปดว้ ย เม่อื ปะการงั ตาย ปลาเลก็ ปลาน้อยซ่งึ เป็นอาหารของปลาใหญ่กถ็ กู ทาลาย ปะการงั เปรยี บเสมอื นหมอ้ ขา้ วของชาวประมง การทาลายปะการงั จงึ เทา่ กบั เป็นการทบุ หมอ้ ขา้ วของชาวประมงจานวนมาก ใจความสาคญั คอื ............................................................................................................................................... ................................................................................................................................................ กลวธิ กี ารขยายความ คอื ........................................................................................................... 7.ทุกคนลว้ นมปี ระสบการณอ์ นั เป็นบทเรยี นใหร้ วู้ า่ อะไรควรทาอะไรไม่ควรทา อะไรทาแลว้ ถกู อะไรทท่ี าให้ ผดิ พลาด อะไรทด่ี ี อะไรทเ่ี ลว สงิ่ ใดทท่ี าใหท้ กุ ขแ์ ละสง่ิ ใดทใ่ี หค้ วามสขุ ประสบการณท์ งั้ นนั้ ทส่ี อนเรา ชวี ติ คนอน่ื สอนชวี ติ เรา ชวี ติ เราเองสอนชวี ติ ตวั เอง ชวี ติ เราเองกเ็ ป็นบทเรยี นแก่ชวี ติ อ่นื เชน่ กนั และจะเป็น เชน่ น้จี วบจนวนั ตาย ใจความสาคญั คอื ............................................................................................................................................... ................................................................................................................................................. กลวธิ กี ารขยายความ คอื ........................................................................................................... 8. ภาษาเป็นเร่อื งของการเรยี นรู้ ย่อมจะมีสง่ิ แวดล้อมเขา้ มาเก่ยี วขอ้ งเสมอ สงิ่ แวดล้อมในท่นี ้ีคอื สงั คมหรอื กลุ่มของผใู้ ชภ้ าษา เช่น เดก็ ไทยคนหน่งึ เม่อื เกิดใหม่ๆ ใหไ้ ปอยู่ในประเทศองั กฤษซ่งึ ไม่มคี นไทย อยู่เลย เดก็ คนนนั้ เม่อื เตบิ โตขน้ึ ย่อมจะพูดภาษาองั กฤษไดแ้ ละถา้ ไม่มใี ครฝึกพูดภาษาไทยให้ กย็ ่อมจะพูด ภาษาไทยไมไ่ ด้ น่แี สดงวา่ ภาษาเป็นเร่อื งของการเรยี นรทู้ ม่ี สี ง่ิ แวดลอ้ มเขา้ มาเป็นองคป์ ระกอบ ถา้ ภาษาเป็น เร่อื งของพนั ธุกรรมหรอื สญั ชาตญาณเดก็ ไทยท่ไี ปอยู่ในประเทศองั กฤษและไม่เคยพบคนไทยมาก่อน ควร พูดภาษาไทยไดเ้ หมอื นกบั ภาษาแมข่ องตนเอง ใจความสาคญั คอื ............................................................................................................................................... ................................................................................................................................................ กลวธิ กี ารขยายความ คอื ........................................................................................................... หน้าท่ี - 4 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง 9. คาเวยี ร์ ไม่ใชช่ อ่ื ปลาแตเ่ ป็นชอ่ื ไขป่ ลาชนิดทเ่ี อามาดองเคม็ แลว้ และไขป่ ลาทจ่ี ะนามาดองเคม็ ไดน้ นั้ ไมใ่ ช่ ใชไ้ ดท้ ุกชนิด ชนิดทม่ี าทาไขค่ าเวยี รต์ อ้ งเป็นปลาใหญ่ชนิดโบราณมอี ายมุ าในโลกตงั้ 400 ล้านปี สมยั ยุคเด โวเนียนนนั่ แหละครบั ปลาโบราณน้เี รยี กกนั วา่ ปลาสเตอรเ์ จยี น ใจความสาคญั คอื ............................................................................................................................................... ................................................................................................................................................ กลวธิ กี ารขยายความ คอื ........................................................................................................... 10. มคี ากล่าวกนั วา่ \"คนเราน้เี กดิ มาเปลา่ แล้วกต็ ายไปเปล่า\" แต่กม็ คี นทไ่ี มต่ ายเปล่าๆ แตต่ ายไปแลว้ ยงั มคี า่ เขาเหลา่ นนั้ อาจเป็นเพยี งคนๆ หน่งึ คนทย่ี ากจนไม่เคยมใี ครรู้จกั ไม่เคยมชี ่อื เสยี งไม่มมี รดกใดๆ ท่ี จะท้งิ เอาไวใ้ ห้ลูกหลาน แต่เขากท็ ง้ิ มรดกอนั มคี ่ามหาศาลไวใ้ ห้แก่พลโลก ใกล้ๆ จะสน้ิ เร่อื งการตายมกี ่วี ธิ ี ทต่ี งั้ ใจเขยี นเอาไวน้ ้แี ลว้ กค็ ดิ วา่ ควรจะไดพ้ ดู เรอ่ื งการตายทม่ี คี ่าน้ไี ว้ เพ่อื วา่ ใครจะคดิ ตายอย่างไม่สญู เปลา่ น้ี บา้ ง การตายแบบไหนกต็ าม ดงั ทก่ี ล่าวมานบั รอ้ ยๆ อยา่ งนนั้ แลว้ อาจตายอย่างมคี ่าน้ไี ดเ้ สมอ คอื การให้ โรงพยาบาลทาการตรวจศพ หรอื ยงิ่ ไปกวา่ นนั้ ใหศ้ พของตนแกโ่ รงเรยี นแพทย์ ใจความสาคญั คอื ............................................................................................................................................... ................................................................................................................................................ กลวธิ กี ารขยายความ คอื ........................................................................................................... ตอนที่ 2 จงอ่านข้อความต่อไปนี้ แล้วเขียนเคร่ืองหมาย หน้าข้อท่ีเป็นใจความสาคญั หรอื สาระสาคญั ของเร่อื ง 1.ดอกไมไ้ ทยเป็นดอกไมท้ ส่ี วยงาม คงทน และมกี ลนิ่ หอม ละมุนรน่ื จมกู ชว่ ยใหอ้ ารมณผ์ อ่ นคลายไดเ้ ป็น อยา่ งดเี ยย่ี ม ดว้ ยเหตนุ ้ชี า่ งสตรไี ทยจงึ ใชด้ อกไมส้ ดมาประดดิ ประดอยเป็นงานดอกไมร้ ปู แบบต่างๆ ไม่วา่ จะ เป็นมาลยั ดอกไมส้ ด จดั แจกนั จดั พาน เป็นตน้ ดอกไมส้ ามารถนามาจดั ไดห้ ลายรูปแบบ ดอกไมไ้ ทยสวย ทน และกลนิ่ หอม เหมาะสาหรบั ชา่ งสตรไี ทย ดอกไมไ้ ทยมคี ุณสมบตั เิ หมาะสมสาหรบั การนามาจดั ใหเ้ ป็นรูปสวยงาม หน้าท่ี - 5 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง 2. ถงึ แมว้ ่าชวี ติ มนุษย์จะหนีความทกุ ขไ์ มพ่ น้ เรากไ็ มค่ วรมชี วี ติ อยู่อย่างสน้ิ หวงั การด้นิ รนต่อสู้และเอาชนะ ความลม้ เหลวทาใหช้ วี ติ มนุษยม์ คี ุณค่าขน้ึ ผทู้ ไ่ี มต่ อ่ สูด้ น้ิ รนเพราะมองไมเ่ หน็ ความสาเรจ็ อยู่ขา้ งหน้า และทา ตวั เหมอื นกรวดทรายทไ่ี หลไปตามกระแสน้านนั้ เป็นผทู้ ท่ี าตวั ไมส่ มกบั ทเ่ี กดิ มาเป็นมนุษย์ การตอ่ สดู้ น้ิ รนเป็นธรรมชาตขิ องมนุษย์ ชวี ติ มนุษยย์ อ่ มมที งั้ ทกุ ข์ สขุ สมหวงั และสน้ิ หวงั คณุ ค่าของชวี ติ มนุษยอ์ ยู่ทก่ี ารตอ่ สูเ้ พอ่ื เอาชนะอปุ สรรค 3. ความโลภเป็นภาวะของความไม่รู้จกั พอ มีความต้องการและความอยากได้ จงึ ต้องคอยเสาะหาสิ่งท่ี ตอ้ งการเพอ่ื ใหเ้ กดิ ความพออกพอใจ หากไมร่ จู้ กั ถ่ายถอน ความอยากกจ็ ะมอี ยเู่ ร่อื ยไป ความโลภเป็นสงิ่ ทต่ี อ้ งกาจดั ใหห้ มดสน้ิ ไป ความโลภและความไมร่ จู้ กั พอเป็นสง่ิ เดยี วกนั ความโลภทาใหเ้ กดิ การแสวงหาสงิ่ ทต่ี อ้ งการ 4. ถ้าคุณต้องการลดน้าหนกั คร่งึ กโิ ลกรมั ต่อสปั ดาห์ คุณจะต้องลดให้ได้ 500 แคลอรตี ่อวนั โดยลดปรมิ าณ อาหารมอ้ื หนกั ลง และเปลย่ี นจากของหวานมาเป็นผลไม้ หากตอ้ งการเผาผลาญแคลอรโี ดยการออกกาลงั กาย คุณจะต้องวงิ่ ใหไ้ ด้วนั ละหน่ึงชวั่ โมง แตถ่ า้ คณุ กงั วลเรอ่ื งรูปร่างมากกวา่ ตวั เลขบนเคร่อื งชงั่ น้าหนัก การออก กาลงั กายน่าจะเหมาะกวา่ เพราะนอกจากจะชว่ ยเผาผลาญไขมนั แลว้ ยงั เสรมิ กลา้ มเน้อื อกี ดว้ ย ผทู้ ค่ี มุ อาหาร อยา่ งเดยี วจะสญู เสยี ทงั้ ไขมนั และกลา้ มเน้อื การออกกาลงั กายทาใหน้ ้าหนกั ลดและรูปรา่ งดี การออกกาลงั กายชว่ ยเผาผลาญไขมนั ทาใหน้ ้าหนกั ลดลง น้าหนกั จะลดลงถา้ ควบคุมแคลอรแี ละวงิ่ ออกกาลงั กาย 5. ในระยะสนั้ เศรษฐกจิ ไทยยงั อยู่บนพน้ื ฐานของความอ่อนแอ และขาดความสามารถในการแขง่ ขนั ในระยะ กลาง ตราบท่กี ารปฏิรูปการศึกษาเพ่ือพฒั นาทรพั ยากรมนุษย์เป็นเกมการเมอื งเพ่อื หาคะแนนนิยมและ แสวงหาอานาจทางการเมอื ง นกั การเมอื งสนใจการปฏริ ูปการศกึ ษาเพอ่ื อานาจทางการเมอื ง ประเทศไทยยงั มเี ศรษฐกจิ และการศกึ ษาทอ่ี ่อนแออยูม่ าก เศรษฐกจิ ไทยจะยงั ไม่ดขี น้ึ หากไมม่ กี ารปฏริ ูปการศกึ ษาอยา่ งจรงิ จงั หน้าท่ี - 6 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง 6. ชวี ติ ประจาวนั ในเมอื งหลวงฉุดกระชากเอาความอ่อนโยนในหวั ใจใหม้ ลายหายไปทลี ะน้อยจนแทบไมร่ ตู้ วั ตอ้ งรบี ต่นื แต่เชา้ เพ่อื จะเดนิ ทางไปถงึ ทห่ี มายใหเ้ รว็ ท่สี ุดต้องแย่งโต๊ะว่างเพ่อื รบั ประทานอาหาร ต้องพกพา เคร่อื งมือส่ือสารหลากหลายชนิดสาหรบั ติดต่อธุรกิจ บริโภคข่าวสารทางวทิ ยุมากกว่าการอ่านหนังสือ จนิ ตนาการถกู เทคโนโลยตี ดั ทอนลงไป ชวี ติ เรมิ่ คลา้ ยหนุ่ ยนตเ์ ขา้ ไปทกุ ที คนในเมอื งหลวงใชช้ วี ติ อยา่ งเร่งรบี คนในเมอื งหลวงตอ้ งพง่ึ พาเทคโนโลยมี าก คนในเมอื งหลวงขาดสุนทรยี ใ์ นชวี ติ 7. การยอมรบั วา่ ส่อื มผี ลตอ่ คนดเู ป็นการใหค้ วามสาคญั แก่ส่อื มากเกนิ ไป ส่อื อาจมอี ทิ ธพิ ลต่อคนดกู จ็ รงิ แต่คง ไมม่ ากเท่าไร การทส่ี อ่ื จะมอี ทิ ธพิ ลต่อคนดไู ดน้ นั้ คนดูกต็ อ้ งพรอ้ มทจ่ี ะรบั ดว้ ยหมายความวา่ คนดูนนั่ เองทเ่ี ป็น ผเู้ ลอื กวา่ จะใหม้ อี ทิ ธพิ ลเหนอื ตนหรอื ไม่ สอ่ื สามารถครอบงาคนดไู ด้ อทิ ธพิ ลของสอ่ื ขน้ึ อยกู่ บั คนดู คนดใู หค้ วามสาคญั แก่สอ่ื มากเกนิ ไป 8. ระบบการสรา้ งหลกั ประกนั สุขภาพทวั่ หน้า เป็นระบบการเฉล่ยี ทุกขใ์ นสงั คม คนมชี ่วยคนจน คนทไ่ี ม่ป่วย ชว่ ยคนทป่ี ่วย เป็นสญั ลกั ษณ์ของประเทศทม่ี วี ฒั นธรรมของประชาคมทเ่ี จรญิ แลว้ คอื การชว่ ยเหลอื ซง่ึ กนั และ กนั ในสงั คม ไม่ใชอ่ ยู่อยา่ งตวั ใครตวั มนั โดยไมใ่ สใ่ จในสมาชกิ ทอ่ี ย่รู วมสงั คม แนวคดิ หลกั ของระบบการสรา้ งหลกั ประกนั สขุ ภาพทวั่ หน้า การดาเนนิ งานของระบบการสรา้ งหลกั ประกนั สุขภาพทวั่ หนา้ ประโยชน์ทไ่ี ดจ้ ากกระบวนการสรา้ งหลกั ประกนั สุขภาพทวั่ หน้า 9. ในแต่ละช่วงขณะ ทงั้ ในตวั คนเองและสง่ิ แวดล้อมทเ่ี ปลย่ี นแปลงไป ต้องอาศยั การเรยี นรูท้ งั้ สน้ิ มนุษย์จงึ สามารถปรบั ตวั ใหเ้ ขา้ กบั สภาพแวดลอ้ มทเ่ี ปลย่ี นไปได้ คนทเ่ี รยี นไม่ไดจ้ ะประสบความขดั แยง้ กบั ความเป็น จรงิ ทเ่ี ปลย่ี นไป การเรยี นรคู้ อื การปรบั ตวั มนุษยจ์ าเป็นตอ้ งเรยี นรู้ มนุษยป์ รบั ตวั โดยการเรยี นรู้ หน้าท่ี - 7 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง 10. จุดเรมิ่ ต้นทท่ี าให้สงั คม องคก์ ร ชุมชน หรอื ระบบต่างๆ มีคุณภาพได้นนั้ มกั จะเรมิ่ จากปัจจยั พน้ื ฐาน สาคญั คอื “คนคุณภาพ” แทบทงั้ ส้นิ คนคุณาพในทีน้ีหมายถึงคนดแี ละคนเก่ง ใช้ความดีเป็นกรอบ และใช้ ความเก่งเป็นพลงั ขบั เคล่อื นให้องค์กรหรือชุมชนนัน้ อยู่รอดหรอื พฒั นาสมาชกิ ให้เป็นคนคุณภาพ ซ่ึงเป็น ปัจจยั สาคญั ทท่ี าใหม้ คี นคุณภาพไดก้ ค็ อื การศกึ ษา การศกึ ษาสามารถพฒั นาใหค้ นมคี ุณภาพ คนคณุ ภาพคอื จดุ เรมิ่ ตน้ ในการพฒั นาสงั คม การศกึ ษาเป็นจดุ เรม่ิ ตน้ ในการพฒั นาคนคุณภาพ 11. ท่ามกลางสถานการณ์โลกทป่ี ัน่ ป่วนสบั สน มคี วามขดั แยง้ ภายในและระหวา่ งประเทศ มกี ารสูร้ บระอุไป ทวั่ โลก ส่ิงท่ีเห็นได้ชดั เจนคือประเทศมหาอานาจมีการร่วมมือ และการแก่งแย่งอานาจทางภูมิศาสตร์ เศรษฐกจิ ไดแ้ ก่ การควบคุมพน้ื ทท่ี างตลาดทรพั ยากร การแขง่ ขนั กนั เพ่อื ดงึ ดูดทุนแรงงานคุณภาพ และเพ่มื ผลผลติ ความร่วมมอื ระหวา่ งประเทศ การแขง่ ขนั ทางอานาจ การแสวงผลประโยชน์ 12. ชา้ งเคยร่วมรบเคยี งข้างกษตั รยิ ์เพ่อื ปกป้องผนื แผ่นดนิ ไทย วนั น้ีชา้ งไทยใกลส้ ูญพนั ธุ์ เน่ืองจาก ถูกใช้ แรงงานอย่างหนกั การทารุณและการเลย้ี งดอู ยา่ งผดิ ธรรมชาตทิ าใหช้ า้ งไทยตอ้ งเจบ็ ป่วยพกิ ารและทยอยตาย เฉล่ียปี ละ 50 เชือก จากจานวนช้างทัว่ ประเทศท่ีมีไม่ถึง 5,000 เชือก ช้างเป็ นสัตว์ขนาดใหญ่ การ รกั ษาพยาบาลซบั ซ้อนยุง่ ยาก มขี อ้ จากดั เร่อื งยาและอปุ กรณ์ ปัญหาดงั กล่าวจงึ ยง่ิ ทาใหช้ า้ งมจี านวนน้อยลง สาเหตทุ ท่ี าใหช้ า้ งไทยลดจานวนลง ปัญหาเร่อื งการรกั ษาพยาบาลชา้ งไทย สถานภาพของชา้ งไทยในปัจจุบนั หน้าท่ี - 8 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 เฉลย เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 ขอ้ สอบพนื้ ฐานการอ่านจบั ประเดน็ (ตามแนวขอ้ สอบ O-NET และวิชาสามญั ) คาสงั่ จงเลอื กคาตอบทถ่ี ูกตอ้ งทส่ี ดุ เพยี งขอ้ เดยี ว 1. ขอ้ ใดเป็นสาระสาคญั ของขอ้ ความตอ่ ไปน้ี ก. ประโยค 1 ข.ประโยค 2 (1) ปัจจุบนั หตั ถกรรมทผ่ี ลติ จากกระดาษ ค. ประโยค 3 ง. ประโยค 4 เสน้ ใยพชื กาลงั ไดร้ บั นิยมอยา่ งกวา้ งขวาง นอกจาก 4. สาระสาคญั ของขอ้ ความต่อไปน้ีอยทู่ ป่ี ระโยคใด กระดาษสาแลว้ ยงั มเี สน้ ใยจากพชื อ่นื ๆ อกี เชน่ ใย (1) ความรกั นนั้ ตอ้ งอาศยั การปลกู ตน้ รกั รดน้า สบั ปะรด กาบกลว้ ย เปลอื กขา้ วโพด มูลชา้ ง ฟาง พรวนดนิ อยา่ งดเี พ่อื สรา้ งชวี ติ ครอบครวั / (2) การ ขา้ ว ผกั ตบชวา ฯลฯ/ (2) เพราะเป็นผลติ ภณั ฑท์ แ่ี ล ครองคใู่ นสภาพสงั คมปัจจบุ นั ไม่ใชเ่ ร่อื งงา่ ยทจ่ี ะ เหน็ ความสวยงามของเสน้ ใยจากธรรมชาต/ิ (3) เขา้ ใจกนั ตลอดไป/(3) การอยรู่ ว่ มกนั ของคนสองคน วสั ดุจากธรรมชาตเิ หล่าน้มี อี ย่มู ากมายในเมอื งไทย ทแ่ี ตกตา่ งกนั ดา้ นความคดิ ตอ้ งอาศยั การรจู้ กั ให้ เป็นการเพม่ิ มลู คา่ ดว้ ยวธิ งี า่ ยๆจากภูมปิ ัญญา อภยั กนั / (4) คสู่ ามภี รรยาจงึ จะอยูร่ ว่ มกนั ไดต้ ลอด ทอ้ งถนิ่ / (4) ลงทุนน้อยเกดิ ประโยชน์ตอ่ สง่ิ แวดลอ้ ม รอดฝัง่ มกี ารสรา้ งงานสรา้ งรายไดใ้ หแ้ กท่ อ้ งถน่ิ ก. ประโยค 1 ข.ประโยค 2 ก. ส่วนท่ี 1 และ 2 ข. สว่ นท่ี 2 และ 3 ค. ประโยค 3 ง. ประโยค 4 ค. สว่ นท่ี 3 และ 4 ง. ส่วนท่ี 1 และ 4 5. ขอ้ ใดเป็นสาระสาคญั ของขอ้ ความตอ่ ไปน้ี 2. ขอ้ ความตอ่ ไปนส้ี ่วนใดเป็นใจความสาคญั “การแยกทางเดนิ ใหแ้ ก่ความสนใจจากสาย (1) เม่อื เกดิ บาดแผลขน้ึ การลา้ งทาความ หน่งึ ไปสอู่ กี สายหน่งึ น้ที ายากเหลอื เกนิ ถา้ หากทา่ น สะอาดแผลจะทาใหแ้ ผลหายเรว็ และลดอกั เสบจาก ไม่ไดเ้ ตรยี มถนนแห่งความสนใจไวห้ ลายๆสาย การตดิ เชอ้ื ได/้ (2) กรณบี าดแผลเลก็ แต่ลกึ การทา ดงั นนั้ ในการเตรยี มรบั มอื กบั ความทกุ ขท์ ่จี ะเกดิ ขน้ึ ความสะอาดสาคญั มาก/(3) แผลลกึ เชน่ ตะปตู าตอ้ ง ในวนั หน้า จงึ ตอ้ งเตรยี มหาถนนแห่งความสนใจไว้ ทาความสะอาดลกึ ลงไป/(4) บางครงั้ ปากแผลปิดแต่ หลายๆสายตงั้ แต่ในเวลาอนั ผดุ ผอ่ งชน่ื บาน เพอ่ื วา่ ขา้ งในยงั ไมห่ ายอาจจะอกั เสบหรอื เป็นบาดทะยกั ได้ เมอ่ื ถงึ ภาวะฉุกเฉนิ แหง่ ชวี ติ ทา่ นจะไดม้ ที างออก ก. ส่วนที่ 1 ข. ส่วนท่ี 2 หลายๆทาง” ค. ส่วนท่ี 3 ง. สว่ นท่ี 4 ก. การเตรยี มชวี ติ ใหพ้ รอ้ มยอ่ มจะประสบ 3. สาระสาคญั ของขอ้ ความต่อไปน้ีอยทู่ ป่ี ระโยคใด ความสาเรจ็ ในชวี ติ จติ และกายมคี วามสมั พนั ธก์ นั อย่างแยกไม่ ข. การเปลย่ี นแปลงความคดิ หรอื ความสนใจเป็น ออก/ ผทู้ จ่ี ะมสี ุขภาพจติ ดไี ดต้ อ้ งมรี า่ งกายทส่ี มบรู ณ์ เรอ่ื งยาก และแขง็ แรงดว้ ย/ ในปัจจบุ นั น้เี ราพบวา่ การเลน่ ค. ทุกคนยอ่ มหาทางออกใหช้ วี ติ ไดเ้ สมอเม่อื มี เทนนิส การฝึกโยคะ การวง่ิ การวา่ ยน้า หรอื การ ความทุกข์ บรหิ ารร่างกายมปี ระโยชน์ตอ่ สขุ ภาพกายและจติ ง. ทุกคนควรพรอ้ มที่จะแก้ปัญหาต่างๆในชีวิต มาก/ ถา้ ตอ้ งการใหม้ สี ขุ ภาพและจติ ดตี อ้ งออกกาลงั กายสม่าเสมอ หน้าท่ี - 9 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง 6.ขอ้ ใดเป็นสาระสาคญั ของขอ้ ความต่อไปน้ี 8. ขอ้ ใดเป็นสารสาคญั ของขอ้ ความตอ่ ไปน้ี คนสว่ นใหญ่ไม่คอ่ ยรตู้ วั ยงั คงอยากไดอ้ ะไร ชวี ติ ทด่ี ไี ม่วา่ ระดบั ไหนกต็ าม ถา้ มกี ารดาเนนิ ทม่ี ากๆขน้ึ ไมว่ า่ จะเป็นเงนิ ทอง เกยี รตยิ ศ ช่อื เสยี ง หรอื ความรกั และกม็ กั จะไมไ่ ดด้ งั ใจนึก ความทกุ ขก์ ็ ชวี ติ อยา่ งเรยี บงา่ ย ความสุขและความพอใจในชวี ติ ยงิ่ มมี ากขน้ึ ตามวยั ทม่ี ากขน้ึ ดว้ ย จะเกดิ ขน้ึ ได้ คนทม่ี คี วามเป็นอยเู่ รยี บงา่ ย ตอ้ งมพี อ ก. คนเราเมอ่ื อายุมากขน้ึ กย็ อ่ มมคี วามอยาก ไดม้ ากขน้ึ ตามวยั แกค่ วามจาเป็นแลว้ หยุดอยทู่ ต่ี รงนนั้ อยูอ่ ยา่ งเรยี บ ข. ถา้ คนเรามคี วามอยากไดไ้ มม่ ที ส่ี น้ิ สดุ กจ็ ะ ง่ายคอื ไมเ่ ป็นภาระแก่ใคร ไมเ่ บยี ดเบยี นผอู้ น่ื ยงิ่ มคี วามทุกข์ รวมทงั้ ตนเอง ค. คนสว่ นใหญอ่ ยากไดข้ องบางอยา่ งแลว้ ไมไ่ ด้ จงึ เกดิ ความทกุ ขใ์ จ ก. การแสวงหาความสขุ ในการดารงชวี ติ ง. ส่วนใหญค่ วามทกุ ขข์ องคนเกดิ จากความ ข. การรจู้ กั ดาเนินชวี ติ อย่างมคี วามสขุ อยากไดเ้ งนิ ทองเกยี รตยิ ศ ค. ลกั ษณะการดาเนินชวี ติ ทเ่ี รยี บง่าย 7. ใจความสาคญั ของขอ้ ความตอ่ ไปน้ีคอื อะไร ขา้ ศกึ ทม่ี าประชดิ บา้ นเมอื ง สรา้ งความ ง. การใชห้ ลกั ธรรมในการดาเนินชวี ติ ทเ่ี รยี บง่าย เดอื ดรอ้ นแก่ประชาชนฉนั ใด ความโลภทก่ี ลมุ้ รมุ 9. ขอ้ ใดไมไ่ ดก้ ลา่ วถงึ ในขอ้ ความตอ่ ไปน้ี จติ ใจกย็ งั ความรมุ่ รอ้ นแก่จติ ใจฉนั นนั้ และ ประชาชนจะกลบั อยู่เยน็ เป็นสุขกเ็ พราะใชก้ องทหาร เท่าทเ่ี ดนิ ดูตามรา้ นกเ็ หน็ วา่ อาหาร ตขี า้ ศกึ ใหแ้ ตกไปฉนั ใด จติ ใจจะสงบเยน็ กเ็ พราะได้ กาจดั ความโลภ และเผอ่ื แผค่ วามสขุ ดว้ ยการใหท้ าน สะอาดพอใช้ แตจ่ ะสดหรอื เปล่าไมแ่ น่ใจ เหน็ ปนู ่งึ ฉนั นนั้ ทานกบั การรบจงึ มลี กั ษณะทเ่ี ปรยี บเทยี บกนั ได้ ดงั พุทธศาสนสุภาษติ ทย่ี กมาเป็นบทกระทวู้ า่ อยู่ในซง้ึ และหอยแครงอยใู่ นถุงพลาสตกิ ทน่ี ่ากลวั ก็ ทานญฺจ ยทุ ธญฺจ สมานพาหุ ทา่ นวา่ ทานและการรบ เสมอกนั คอื แมค่ า้ ทงั้ หลายอนุ่ หอยแครงทงั้ ถุงพลาสตกิ เลย ก. การรบและความโลภ ทาใหจ้ ติ ใจไม่เป็นสขุ ไม่รวู้ า่ เนอ้ื หอยหนึบๆเพราะพลาสตกิ หรอื ตวั หอย ข. การรบและการใหท้ านไม่มคี วามแตกตา่ งกนั ค. การรบและการใชก้ องทหารไมส่ ามารถ จรงิ ๆ เอาชนะขา้ ศกึ ได้ ก. ความสะอาดของอาหาร ค. ชนดิ ของอาหาร ง. การรบและการทาจติ ใจใหส้ งบไม่สามารถ ข. รสชาตขิ องอาหาร ง. อนั ตรายจากอาหาร เปรยี บเทยี บกนั ได้ 10. ขอ้ ใดไม่ไดก้ ล่าวถงึ ในขอ้ ความตอ่ ไปน้ี กระทอ้ นเป็นไมย้ นื ตน้ ขนาดใหญ่ ผลเป็นรปู กลม เนอ้ื ทต่ี ดิ กบั เปลอื กผลมรี สหวานอมเปรย้ี ว กระทอ้ นนามาปรงุ เป็นอาหารคาวหวานหลายชนิด เชน่ แกงควั่ กระทอ้ น กระทอ้ นลอยแกว้ คนโบราณ นารากกระทอ้ นมาสมุ ไฟพอใหเ้ ป็นถ่านแลว้ รบั ประทานแกไ้ ขตวั รอ้ น บาบดั อาการไขร้ ากสาด และโรคบดิ ก. ประโยชน์ ข. ตารบั ยา ค. ลกั ษณะทวั่ ไป ง. ฤดกู าลออกผล หน้าท่ี - 10 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง 11.ขอ้ ใดไม่ไดก้ ล่าวถงึ เกย่ี วกบั โลมาในขอ้ ความ ผพู้ ดู ใหห้ นั เหเขา้ หาเร่อื งทเ่ี ขา้ ถนดั ทส่ี ดุ (4) โดย โลมา เป็นสัตว์เล้ยี งลูกด้วยนมจาพวกหน่ึง แสดงใหเ้ หน็ วา่ ตนกาลงั ฟังคาพดู ของเขาดว้ ยความ อาศยั อยู่ในทะเล, น้าจดื น้ากร่อย มีรูปร่างคล้าย ตงั้ ใจ อยากรู้ อยากฟังจรงิ ๆ ปลาคอื มคี รบี มีหาง แต่โลมาไม่ใชป่ ลา เพราะเป็น 1. ตอนท่ี 1 2. ตอนท่ี 2 สตั วเ์ ล้ยี งลูกด้วยนมท่มี รี ก ชอบอยู่รวมกนั เป็นฝูง 3. ตอนท่ี 3 4. ตอนท่ี 4 วา่ ยน้าไดอ้ ย่างคลอ่ งแคล่ว นอกจากน้ีโลมาเป็นสตั ว์ 14. ขอ้ ใดเป็นจดุ ประสงคข์ องผเู้ ขยี นขอ้ ความ ทร่ี บั รกู้ นั ดวี า่ เฉลยี วฉลาด มคี วามเป็นมติ รกบั มนุษย์ วยั รนุ่ ทม่ี ปี ัญหาเกย่ี วกบั โรคอว้ น อาจมี โดยเฉพาะอย่างยงิ่ จะช่วยเหลอื มนุษย์เม่อื ยามเรอื ภาวะแทรกซอ้ นของระบบอวยั วะตา่ งๆ เชน่ แตก จนกลายเป็นตานานหรอื เร่อื งเลา่ ขานทวั่ ไป โรคเบาหวาน โรคไขมนั ในเลอื ดสูง โรคความดนั 1. ลกั ษณะ 2. ถนิ่ ทอ่ี ยู่ โลหติ สงู ภาวะไขมนั เกาะตบั เป็นตน้ ดงั นนั้ วยั รุน่ ท่ี 3. นิสยั 4. ตานาน มโี รคอว้ นควรพบแพทยเ์ พ่อื รบั คาปรกึ ษาและ 12. ขอ้ ใดไม่ได้กล่าวถึงเก่ียวกบั ไม้จนั ทน์หอมใน ตรวจหาภาวะแทรกซอ้ นเหลา่ น้ี ขอ้ ความตอ่ ไปน้ี 1. ใหค้ วามรเู้ กย่ี วกบั ปัญหาโรคอว้ นในวยั รนุ่ จันทน์หอม (Sandalwood) เป็ นพันธุ์ไม้ท่ี 2. อธบิ ายสาเหตุการมภี าวะแทรกซอ้ นจากโรคอว้ น สมเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ิติพ์ ระบรมราชนิ ีนาถ ทรง 3. แนะนาขอ้ ปฏบิ ตั ขิ องวยั รุน่ ทม่ี ปี ัญหาโรคอว้ น พระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้เป็นไม้พระราชทานเพ่อื 4. เตอื นวยั รนุ่ ทม่ี ปี ัญหาโรคอ้วนใหด้ าเนินการรกั ษา ปลูกเป็นมงคลในจงั หวดั ต่างๆของประเทศไทย โดย 15. ขอ้ ใดเป็นจดุ ประสงคข์ องผเู้ ขยี นขอ้ ความ จนั ทน์หอมเป็นไมต้ น้ ผลดั ใบ ความสูง 10-20 เมตร ดอกบวบหอมจะมที งั้ ดอกเพศผแู้ ละเพศเมยี ใน เปลือกสเี ทาแตกเป็นร่อง ใบเป็นใบเด่ียว ช่อดอก ตน้ เดยี วกนั โดยเพศผจู้ ะออกเป็นชอ่ ยาวประมาณ เป็นแบบชอ่ แยกแขนงออกตามปลายกง่ิ และซอกใบ 10-15 เซนตเิ มตร ส่วนเพศเมยี มกั จะออกเป็นดอก พบในป่าเบญจพรรณและป่ าดบิ แล้งตามเขาหนิ ปูน เดย่ี ว คนไทยเม่อื ก่อนหากมอี าการเหงอ่ื อกมาก จะ ไม้จนั ทน์หอมท่ียืนต้นตายจะมีกลิ่นหอมมาก จึง นยิ มใชใ้ บสดทต่ี ดิ ดอกผสมกบั เมนทอลนามาใชย้ า สามารถนาใช้ทาหีบใส่เส้ือผ้า เคร่อื งกลึง เคร่อื ง ทาหรอื ใบพอก และในชนบททห่ี า่ งไกลเม่อื อดตี จะ แกะสลกั ดอกไม้จนั ทน์ ธูป รวมทงั้ เป็นยาแกไ้ ข้ แก้ นาน้ามาคนั้ จากใบสด มาหยอดตาเดก็ เพอ่ื ใชร้ กั ษา โลหติ เสยี อกี ดว้ ย เยอ่ื ตาอกั เสบ หรอื ใชด้ อกสดผสมกบั ฮวั่ เถ่าเชา่ สด 1. ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ 2. ลกั ษณะทวั่ ไป นาไปตาพอกรกั ษาโพรงจมกู อกั เสบ 3. นิเวศวทิ ยา 4. สรรพคุณ 1. แนะนาใหใ้ ชด้ อกบวบหอมในการรกั ษาโรคตา่ งๆ 13. ขอ้ ความน้ใี จความสาคญั อย่ทู ส่ี ่วนใด 2. ชใ้ี หเ้ หน็ คณุ คา่ และความสาคญั ของดอกบวบหอม “ (1) ศลิ ปะแห่งการฟังนนั้ ไมไ่ ดห้ มายถงึ การนงั่ นงิ่ 3. กระตุน้ ใหเ้ หน็ ภูมปิ ัญญาการแพทยข์ องดอกบวมหอม ปล่อยใหค้ นอ่นื พูดอยา่ งเดยี ว แลว้ ฟังเหมอื นฟัง 4. ใหค้ วามรเู้ กย่ี วกบั ดอกบวบหอมในดา้ นตา่ งๆ เทศน์ (2) การทาเชน่ นนั้ งา่ ยเกนิ กวา่ ทจ่ี ะนบั วา่ เป็น ศลิ ปะ (3) ศลิ ปะการฟังจงึ เป็นความสามารถทช่ี กั จูง หน้าท่ี - 11 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง ช่อื ......................................................สกุล......................................................... ม.5 หอ้ ง ............... เลขท.่ี ............ บทที่ 2 ทกั ษะพืน้ ฐาน : ภาษากบั การแสดงเหตผุ ล ผลการเรยี นรู้ 1. ตคี วาม แปลความ เชอ่ื มโยงความจากเรอ่ื งทอ่ี า่ นได้ สาระสาคญั 1. การตคี วาม แปลความภาษากบั การแสดงเหตุผล 2. วธิ กี ารแสดงเหตผุ ลและการอนุมาน 1. การตีความ แปลความ ภาษากบั การแสดงเหตุผล เหตผุ ล คอื ความคดิ สาคญั ซง่ึ จะเป็นหลกั เป็นเกณฑห์ รอื เป็นขอ้ เทจ็ จรงิ ซ่งึ มขี อ้ สรปุ รอรบั อยู่ ความคดิ หลกั ดงั กลา่ ว จะทาใหข้ อ้ สรุปนนั้ หนกั แน่น และน่าเชอ่ื ถอื โครงสรา้ งของการแสดงเหตุผล ตอ้ งประกอบดว้ ย ขอ้ สนับสนุน + ขอ้ สรปุ เหตผุ ล ภาษาทใ่ี ชใ้ นการแสดงเหตุผล ใชใ้ นลกั ษณะดงั น้ี 1. ใช้คาสนั ธาน เชน่ เพราะ จงึ ดงั นนั้ เพราะฉะนนั้ โดยท่ี ใชส้ นั ธานแสดงเหตผุ ล แบ่งออกเป็น 2 กลุม่ ดงั น้ี 1.1 ขอ้ สนบั สนุน จงึ ขอ้ สรปุ สาเหตุ จงึ ผลลพั ธ์ ..........................................ประธาน+ถงึ ............................... โดยเหตุท.่ี ..........................................จงึ .............................. ........................................ดงั นนั้ ........จงึ ............................. ..........................................ทาให.้ ........................................ เพราะวา่ .............................เพราะฉะนนั้ ............................. ถงึ (แม)้ + ประธาน...........แต.่ .....................ไม่................. ถา้ (หาก) .............................ก.็ ............................................. ...........................................กเ็ ลย........................................ หน้าท่ี - 12 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง ...........................................แล้ว......................................... ...........................................จน........................................... ...........................................เป็นผลทาให.้ ........................... ...........................................เป็นเหตุใหเ้ กดิ .......................... ...........................................จนกระทงั่ ................................ 1.2 ขอ้ สรุป เพราะ ขอ้ สนบั สนุน ผลลพั ธ์ เพราะ สาเหตุ ...........................................เพราะวา่ .................................... ...........................................ดว้ ย........................................... ...........................................เน่อื งดว้ ย................................... ...........................................เน่อื งจาก................................... ...........................................ถา้ (หาก).................................... ...........................................ถงึ (แม)้ + ประธาน.................. ...........................................คา่ ท.่ี ........................................... ...........................................เป็นผลมาจาก............................ ...........................................โดยเหตุท.่ี ................................. ...........................................ดว้ ยเหตทุ .่ี ................................. ...........................................เกดิ จาก...................................... เชน่ - ระยะน้ตี อ้ งดูหนงั สอื หนกั เพราะใกลส้ อบแลว้ - โดยทภ่ี าพยนตรเ์ ร่อื งน้ไี ดร้ บั ความสนใจจากผชู้ มมาก จงึ ตอ้ งฉายนานถงึ 6 เดอื น 2. เรยี บเรยี งขอ้ ความทงั้ 2 ส่วนให้เหมาะสม โดยไม่ตอ้ งใชค้ าสนั ธาน เชน่ - เมอื งกาญจน์เป็นเมอื งทม่ี ภี ูเขามาก อากาศดี ฉนั อยากไปเทย่ี วอกี - เชา้ น้รี ถตดิ มาก ฉนั จงึ มาโรงเรยี นสาย 3. ใช้กล่มุ คาเพือ่ บ่งชีว้ ่าเป็นเหตุหรือเป็นข้อสรปุ เชน่ - จากการประชมุ ของคณะกรรมการนกั เรยี น เรามมี ตวิ า่ ใหก้ รรมการแตล่ ะฝ่ายไปเขยี น โครงการของตนมาแลว้ นามาสง่ ทป่ี ระธานสปั ดาหห์ น้า 4. ใช้เหตผุ ลหลาย ๆ ขอ้ ประกอบกนั เพอื่ เพิ่มน้าหนักให้แกข่ ้อสรปุ เชน่ “การทฉ่ี นั ลาออกจากราชการ แลว้ มาปลูกตน้ ไมข้ ายกเ็ พราะเบอ่ื ชวี ติ ราชการทต่ี อ้ งทาตาม คาสงั่ เจา้ นายทงั้ ทไ่ี มอ่ ยากทา ชอบปลูกตน้ ไมเ้ พราะทาใหเ้ กดิ ความเพลดิ เพลนิ สบายใจ ตน้ ไมท้ าใหส้ ดชน่ื ผอ่ นคลาย ยงิ่ ปลกู กย็ ง่ิ เพลนิ กเ็ ลยมมี ากขน้ึ เรอ่ื ย ๆ จนพอทจ่ี ะขาย” หน้าท่ี - 13 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง 2. วิธีการแสดงเหตผุ ลและการอนุมาน การอนุมาน หมายถงึ กระบวนการคดิ ในการหาขอ้ สรุปจากเหตุผลทม่ี อี ยู่ การอนุมาน มี 2 วธิ ี คอื 1.) การอนุมานด้วยวิธีนิรนัย การอนุมานดว้ ยวธิ นี ิรนยั เป็นการแสดงเหตุผลโดยคดิ ถงึ หลกั ความจรงิ ของส่วนใหญ่ไปหาสว่ นย่อย เป็นหลกั ทจ่ี รงิ แทแ้ น่นอนเป็นอยา่ งอน่ื ไปไมไ่ ด้ เหตุผลทย่ี กขน้ึ มาอา้ งนนั้ เชอ่ื ถอื ไดส้ มเหตสุ มผลและชดั เจน รวม ยอ่ ย เหตุผล 1. กรณรี วม ทกุ คนตอ้ งตาย อนุมาน ขอ้ สนบั สนุน 2.กรณเี ฉพาะกรณหี น่งึ ฉนั เป็นคน ขอ้ สรุป 3.กรณเี ฉพาะอกี กรณหี น่งึ ฉนั กย็ อ่ มตอ้ งตาย นริ นยั ตามขนั้ ตอน ใชส้ นั ธานกลมุ่ จงึ นริ นยั สลบั ขนั้ ตอน ใชส้ นั ธานกลมุ่ เพราะ คุณสมคดิ ตอ้ งเป็นผหู้ ญงิ แน่เพราะเป็นป้าคุณสมชาย เพราะ 1. ............................................ 2. (คุณสมคดิ )เป็นป้าคณุ สมชาย 3. คณุ สมคดิ ตอ้ งเป็นผหู้ ญงิ แน่ นิรนยั ละขนั้ คอื นริ นยั ทล่ี ะขนั้ ทห่ี น่งึ นริ นยั ขา้ มขนั้ คอื นิรนยั ทข่ี า้ มขนั้ ทส่ี อง นิรนยั ขดั แยง้ คอื นิรนยั ทใ่ี ชส้ นั ธานกล่มุ ถงึ +ประธาน…แต.่ ..ไม่.. 2. ) การอนุมานด้วยวิธีอปุ นัย การอนุมานดว้ ยวธิ อี ปุ นยั เป็นการอนุมานจากสว่ นใดส่วนหน่งึ ไปสสู่ ว่ นรวมทงั้ หมด เป็นการใชข้ อ้ มูล หรอื ขอ้ เทจ็ จรงิ ตา่ ง ๆ มาสนบั สนุนขอ้ สรุป ขอ้ สรุปทไ่ี ดม้ านนั้ ไมแ่ น่นอนเสมอไป การอนุมานวธิ อี ปุ นยั น้ี อาจ หาขอ้ สรุปไดด้ ว้ ยวธิ กี ารใชแ้ นวเทยี บกไ็ ด้ โดยการนาเหตกุ ารณ์ในกรณหี น่งึ ไปเทยี บเคยี งกบั อกี กรณหี น่งึ ท่ี คลา้ ยคลงึ กนั ขอ้ สรุปทไ่ี ดจ้ ากการอนุมานแบบอุปนยั จงึ ไดเ้ พยี ง “น่าจะเป็นเชน่ นนั้ ” เทา่ นนั้ ไมใ่ ชแ่ น่นอนตายตวั เหมอื นการอนุมานดว้ ยวธิ นี ิรนยั ขอ้ สนบั สนุนทน่ี ามาอา้ งนนั้ กไ็ ม่สมเหตสุ มผลเทา่ ใดนกั ตวั อยา่ งเชน่ - คนไทยเป็นคนโอบออ้ มอารี ฉนั สบายใจจรงิ ๆ ทไ่ี ดอ้ ยกู่ บั คนไทย เพราะเขาตอ้ งเป็นคน โอบออ้ มอารแี น่ ยอ่ ย รวม หน้าท่ี - 14 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง 2.1 กรณเี ฉพาะกก่ี รณกี ไ็ ด้ - เขาเรยี นเก่ง ขอ้ สนบั สนุน - เขาขยนั - เขามคี รูดี อนุมาน - พอ่ แม่สนบั สนุนใหเ้ รยี น ขอ้ สรปุ ฯลฯ 2.2 การอนุมานโดยการเปรยี บเทยี บ เขาน่าจะสอบเขา้ มหาวทิ ยาลยั ได้ ควรจะ อาจจะ พงึ จะ มกั จะ สม เพ่อื น เขา ขอ้ สนบั สนุน 1. อยโู่ รงเรยี น √ √ 2. เรยี นวชิ า........... 3.2 3. คะแนนเฉลย่ี 3.0 อนุมาน เพอ่ื นสอบเขา้ มหาวทิ ยาลยั ได้ ขอ้ สรุป เขากค็ วรจะสอบไดเ้ ชน่ กนั การอนุมานด้วยวิธีอปุ นัยนัน้ หากพจิ ารณาจากเหตแุ ละผลทส่ี มั พนั ธก์ นั จะแบง่ ได้ 3 ประเภท คอื 1. สาเหตุ ผลลพั ธ์ อนุมาน 2. ผลลพั ธ์ สาเหตุ อนุมาน 3. ผลลพั ธ์ ผลลพั ธ์ อนุมาน หน้าท่ี - 15 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง แบบฝึ กหดั ทบทวนความเข้าใจ ตอนที่ 1 จงเลือกคาตอบที่ถกู ต้องที่สดุ เพยี งข้อเดียว 1. ขอ้ ใดเป็นภาษาแสดงเหตุผล 4. ขอ้ ใดเป็นโครงสรา้ งการแสดงเหตุผลของ 1. มอื ถอื สากปากถอื ศลี ขอ้ ความน้ี 2. เรอื ล่มเมอื จอดตามบอดเม่อื แก่ “การทากจิ กรรมต่างๆของโรงเรยี นเป็นสง่ิ ทด่ี ี 3. น้าเชย่ี วอยา่ ขวางเรอื 4. มอื ไมพ่ ายเอามาราน้า ดว้ ยสง่ิ เหล่าน้ที าใหน้ กั เรยี นไดฝ้ ึกฝนกบั ทางาน ร่วมกบั ผอู้ น่ื และยงั ชว่ ยใหก้ ลา้ แสดงออก มวี นิ ยั 2. ขอ้ ใดแสดงโครงสรา้ งแสดงเหตุผลตา่ งขอ้ อน่ื รจู้ กั แบบแผนการทางานและกจิ กรรมตา่ งๆของ 1. งบประมาณเป็นปัจจยั สาคญั อย่างหน่งึ ใน โรงเรยี นใหป้ ระสบความสาเรจ็ อกี ดว้ ย” การพฒั นาการศกึ ษา จะชว่ ยใหก้ าร พฒั นานนั้ รวดเรว็ 1. ขอ้ สนบั สนุน ขอ้ สนบั สนุน ขอ้ สรปุ 2. การจดั การเรยี นรแู้ บบ STEM ไดร้ บั การ 2. ขอ้ สรุป ขอ้ สนบั สนุน ขอ้ สนบั สนุน สนบั สนุน จากรฐั บาล ทาใหน้ กั เรยี นได้ 3. ขอ้ สรปุ ขอ้ สนบั สนุน ขอ้ สรุป เรยี นรอู้ ยา่ งบูรณาการ 4. ขอ้ สนบั สนุน ขอ้ สรุป ขอ้ สนบั สนุน 3. ปัญหาคนไมร่ หู้ นงั สอื จะหมดไปเพราะ 5. ขอ้ ใดแสดงเหตุผลแตกตา่ งจากขอ้ อ่นื ภาครฐั ส่งเสรมิ การศกึ ษาตลอดชวี ติ 1.การดูหนงั สอื ใหจ้ าแมน่ วธิ ที ด่ี ที ส่ี ุด ควรตน่ื 4.สงั คมไทยจะกา้ วเขา้ สู่สงั คมผสู้ งู อายุ มาดตู อนเชา้ ตร่เู พราะเป็นชว่ งทส่ี มองกาลงั การศกึ ษาตลอดชวี ติ สาหรบั ผสู้ งู อายจุ งึ ปลอดโปร่ง เป็นเร่อื งสาคญั 2. พวกเราทุกคนเป็นผรู้ กั ความยตุ ธิ รรม 3. ข้อความนี้มีโครงสร้างการแสดงเหตผุ ลอย่างไร ทา่ นเป็นผรู้ กั ความยุตธิ รรม แสดงวา่ ท่าน “ทผ่ี า่ นมาเราพบวา่ เกาะตาชยั เป็นพน้ื ท่ี กบั เราเป็นพวกเดยี วกนั 3. ความตายเป็นของธรรมดา ทกุ คนตอ้ ง สวยงาม เป็นทน่ี ยิ มของนกั ทอ่ งเทย่ี ว ทงั้ ชาวไทย ตายทงั้ นนั้ สกั วนั หน่งึ เรากต็ อ้ งเจอ และชาวต่างประเทศจานวนมากจนมปี รมิ าณลน้ 4. ธรรมะเป็นเคร่อื งยดึ เหน่ยี วจติ ใจของคน เกนิ กวา่ ทเ่ี กาะจะรบั สภาพได้ ทาใหห้ ลายสง่ิ หลาย คนทม่ี ี ธรรมะย่อมเป็นคนดี อย่างเกดิ ความเสอ่ื มโทรม มคี วามจาเป็นตอ้ งปิด 6. ขอ้ ใดเป็นการอนุมานดว้ ยวธิ นี ริ นยั เพอ่ื ใหส้ ภาพแวดลอ้ มบรเิ วณเกาะมกี ารฟ้ืนตวั 1. ทกุ วนั น้ใี ครๆกเ็ ลน่ เฟซบุ๊ค เขากน็ ่าจะเลน่ โดยปราศจากการรบกวนจากนกั ทอ่ งเทย่ี ว” 2. สุดาคงไดท้ ่ี 1 อกี เพราะไดท้ ุกครงั้ 3. ทน่ี ่ตี อ้ งเป็นสถานทร่ี าชการแน่ ฉนั เหน็ ธง 1. สาเหตไุ ปหาผลลพั ธ์ ชาตไิ ทยอยหู่ น้าอาคาร 2. ผลลพั ธไ์ ปหาสาเหตุ 4. เดอื นเมษายนของทกุ ปีอากาศรอ้ น ปีนก้ี ็ 3. ผลลพั ธไ์ ปหาผลลพั ธ์ เชน่ กนั 4. สาเหตไุ ปหาสาเหตุ หน้าท่ี - 16 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง 7.ขอ้ ใดไม่มโี ครงสรา้ งภาษาแสดงเหตผุ ล 10.ขอ้ ความตอ่ ไปน้ีมโี ครงสรา้ งการแสดงเหตุผล 1. เครอ่ื งสาอางทกุ ชนิดมสี ารเคมผี สมดว้ ยกนั อยา่ งไร ทงั้ นนั้ การใชเ้ คร่อื งสาอางตอ้ งระมดั ระวงั “..ดว้ ยมวลมาตยากร วา่ นครรามนิ ทร์ ผลดั เป็นพเิ ศษ แผน่ ดนิ เปลย่ี นราช เยยี วววิ าทชงิ ฉตั ร เพอ่ื 2. เชยี งใหมเ่ ป็นเมอื งทส่ี วย อากาศดี ฉนั อยาก กษตั รยิ ส์ องสู้ บ รา้ งรเู้ หตุผล ควรยาตรพลไป ไปอกี เยอื น เตอื นประยุทธเ์ อาเปรยี บ......” 3. ระยะน้เี ศรษฐกจิ ชาตกิ าลงั ตกต่า เราตอ้ ง ประหยดั 1. สาเหตไุ ปหาผลลพั ธ์ 4. การสอบครงั้ นน้ี กั เรยี นมเี วลาทาขอ้ สอบ 2. ผลลพั ธไ์ ปหาสาเหตุ น้อยลง แต่จานวนขอ้ เทา่ เดมิ 3. ผลลพั ธไ์ ปหาผลลพั ธ์ 4. สาเหตไุ ปหาสาเหตุ 8.ขอ้ ความตอ่ ไปน้มี โี ครงสรา้ งการแสดงเหตุผล 11.ขอ้ ใดเป็นโครงสรา้ งการแสดงเหตุผลขอ้ ความ อยา่ งไร ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถนิ่ ในประเทศของเราเป็นสงิ่ การสวดมนตไ์ ม่วา่ จะเป็นตอนเชา้ หรอื สาคญั ท่ี พวกเราพงึ อนุรกั ษไ์ วม้ ใิ หเ้ พย้ี น กลาย กอ่ นเขา้ เรยี น หรอื ตอนกลางคนื ก่อนนอน ลว้ น หรอื สูญไป เพราะภูมปิ ัญญาทอ้ งถน่ิ เป็นเคร่อื งบ่ง แลว้ แตม่ ผี ลดตี ่อผสู้ วดทงั้ สน้ิ ขณะทส่ี วดนนั้ จติ ใจ บอกถงึ ขนบธรรมเนียมประเพณี วฒั นธรรมของ ตอ้ งจดจอ่ อยกู่ บั บทสวด ตอ้ งใชส้ มาธเิ วลาทส่ี วด ทอ้ งถนิ่ นนั้ และยงั ทาใหเ้ หน็ สภาพของทอ้ งถนิ่ นนั้ โดยไมว่ อกแวกกบั สงิ่ ทม่ี ารบกวน อกี ดว้ ย 1. ขอ้ สนบั สนุน ขอ้ สนบั สนุน ขอ้ สรปุ 1. ขอ้ สรุป ขอ้ สรุป ขอ้ สนบั สนุน 2. ขอ้ สรุป ขอ้ สนบั สนุน ขอ้ สนบั สนุน 2. ขอ้ สนบั สนุน ขอ้ สนบั สนุน ขอ้ สรปุ 3. ขอ้ สรุป ขอ้ สนบั สนุน ขอ้ สรปุ 3. ขอ้ สรุป ขอ้ สนบั สนุน ขอ้ สนบั สนุน 4. ขอ้ สนบั สนุน ขอ้ สรปุ ขอ้ สนบั สนุน 4. ขอ้ สนบั สนุน ขอ้ สรุป ขอ้ สนบั สนุน 9. ขอ้ ใดวธิ กี ารอนุมานแตกตา่ งจากขอ้ อน่ื 12.ขอ้ ใดไมใ่ ชก่ ระบวนการแสดงเหตผุ ลแบบอปุ นยั 1. เขาขบั รถขณะเมาน่ากลวั จะเกดิ อุบตั เิ หตุ 1. ครูประจาชนั้ ตดิ ตามนกั เรยี นอยา่ งใกลช้ ดิ 2. การรบั ประทานอาหารมากเกนิ ไป จะทาให้ นกั เรยี นคงมผี ลการเรยี นดขี น้ึ อว้ นมาก 2. เพราะรฐั บาลตอ้ งจดั งบประมาณเพ่อื 3. เขารบี กลบั บา้ นวนั น้ี คงมเี รอ่ื งวนุ่ วายเกดิ ขน้ึ อนุรกั ษส์ งิ่ แวดลอ้ ม จงึ ตอ้ งลดงบประมาณ 4. นกั เรยี นคนน้ขี ยนั คงจะสอบเขา้ ในส่วนอน่ื ๆ มหาวทิ ยาลยั ได้ 3. คณุ มคี วามรคู้ วามสามารถอยขู่ ณะน้ี เพราะคุณจบจากสถาบนั ทม่ี ชี อ่ื เสยี ง 4. มนุษยท์ กุ คนตอ้ งการปัจจยั สเ่ี พ่อื การ ดารงชวี ติ อยรู่ อด หน้าท่ี - 17 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง พนื้ ฐานภาษาแสดงเหตผุ ล กบั ข้อสอบ GAT เช่ือมโยง ขนั้ ตอนการพิจารณา 1. พจิ ารณาความสมั พนั ธเ์ ชงิ เหตุผลของขอ้ ความทก่ี าหนด 2. ใชห้ มายเลขและสญั ลกั ษณ์ แทนความหมาย โดย เหตุ ผล หรอื จะเขยี น ผล เหตุ 1. การทค่ี นเราไมใ่ ส่ใจในการดแู ลรกั ษาผนื ป่ า01เอาไวก้ เ็ ท่ากบั เป็นการทเ่ี รากาลงั ค่อยๆทารา้ ยตวั เองลงไป เร่อื ยๆ จนวนั หน่งึ เรากจ็ ะขาดแหล่งน้า02ทจ่ี ะใชส้ อยในการทาการเกษตร เกิดอทุ กภยั 03อย่างรนุ แรงจนสรา้ ง ความเดอื ดรอ้ นนานปั การ สาเหตุ ............................................. ผลลพั ธ.์ ..................................... สญั ลกั ษณ์..................................... 2. ความรบั ผิดชอบต่อหน้าท่ี01ท่ไี ด้รบั มอบหมาย ความขยนั หมนั ่ เพียร02ฝึกฝนในงานอย่างสม่าเสมอ ตลอดจนความใฝ่รูใ้ ฝ่ เรยี น ตดิ ตามความก้าวหน้าของวทิ ยาการอยู่ตลอดเวลา ล้วนส่งผลใหค้ นเราประสบ ความสาเรจ็ และเจริญกา้ วหน้า03ในหน้าทก่ี ารงานอยา่ งแน่นอน สาเหตุ ............................................. ผลลพั ธ.์ ..................................... สญั ลกั ษณ์..................................... 3.Hans Timmer นกั เศรษฐศาสตรท์ ธ่ี นาคารโลกกล่าวว่า สาเหตทุ ่ที าให้เกดิ ความไม่สมดุลของการฟื้ นตวั ของเศรษฐกิจโลก01ในชว่ งปลายปี พ.ศ. 2553 กค็ อื สภาพการณ์ทข่ี ยายตวั ทางเศรษฐกจิ ของประเทศเอเชยี เป็นไปอย่างเขม้ แขง็ ในขณะท่เี ศรษฐกิจของประเทศตะวนั ตกกลบั มีปัญหา02 สาเหตุ ............................................. ผลลพั ธ.์ ..................................... สญั ลกั ษณ.์ .................................... 4.คงจากนั ได้ว่าในช่วงต้นปี พ.ศ. 2551 ราคาน้ามนั พุ่งสงู ขึ้นเร่ือยๆ01 จนถึงระดบั สูงสุดคือ 147 เหรยี ญ สหรฐั ตอ่ บารเ์ รล เม่อื เดอื นกรกฎาคม ส่งผลให้ต้นทนุ การผลิตสินค้าสงู ขนึ้ 02แทบทุกประเภทรวมทงั้ ตน้ ทุน การผลติ สนิ คา้ จาพวกอาหาร สาเหตุ ............................................. ผลลพั ธ.์ ..................................... สญั ลกั ษณ์..................................... 5. ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจโลก01ก่อใหเ้ กดิ ผลกระทบหลายอย่าง ทส่ี าคญั ตอ่ ภาคการเกษตรของไทยกค็ อื ทา ให้ทวั่ โลกลดการใชจ้ ่ายเพ่อื การบรโิ ภคลง รวมทงั้ ทาใหภ้ าพรวมของการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหาร ลดลง02 สาเหตุ ............................................. ผลลพั ธ.์ ..................................... สญั ลกั ษณ์..................................... หน้าท่ี - 18 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง บทที่ 3 การร้อยเรียงประโยค ผลการเรยี นรู้ ตคี วาม แปลความ เชอ่ื มโยงความจากเร่อื งทอ่ี ่านได้ สาระสาคญั หลกั ทวั่ ไปการรอ้ ยเรยี งประโยค หลกั ทวั่ ไปในการรอ้ ยเรียงประโยค ประโยคท่ีร้อยเรียงกันอยู่นัน้ ทงั้ เน้ือความและลกั ษณะของถ้อยคาในประโยคจะต้องมีส่วน เกย่ี วขอ้ งต่อเน่ืองกนั เน้อื ความในประโยคคอื ความคดิ ของผนู้ าเสนอ จะตอ้ งมลี าดบั และมคี วามเป็นอนั หน่ึง อนั เดียวกนั หรือท่ีเรยี กเป็นศพั ท์เฉพาะทางวชิ าการว่ามีเอกภาพ ส่วนลกั ษณะถ้อยคาท่ีทาให้ประโยค เกย่ี วขอ้ งต่อเน่อื งกนั อาจเกดิ จากวธิ ตี า่ ง ๆ ไดแ้ ก่ การเชอ่ื ม การแทน การละและ การซ้า 1. การเช่ือม การเชอ่ื มประโยคใหต้ อ่ เน่อื งกนั อาจใชค้ าเชอ่ื มหรอื เรยี กวา่ คาสนั ธาน หรอื ใชก้ ลุ่มคาเชอ่ื ม หรอื ท่ี เรยี กวา่ สนั ธานวลี ประกอบดว้ ย ขอ้ ต่าง ๆดงั น้ี 1. คาสนั ธานบางคาและสนั ธานวลบี างวลแี สดงวา่ ประโยคหน้าและประโยคหลงั มเี น้อื ความ คล้อย ตามกนั เชน่ และ ทงั้ อน่งึ อกี ประการหน่งึ อกี ทงั้ รวมทงั้ ตวั อยา่ งเชน่ ฉนั ตดั สนิ ใจเรยี นหนงั สอื และ ทางานไปดว้ ย 2. คาสนั ธานบางคาและสนั ธานวลบี างวลแี สดงวา่ ประโยคหน้าและประโยคหลงั มเี น้อื ความขดั แยง้ กนั เชน่ แต่ แตท่ วา่ แม้ แมแ้ ต่ แมว้ า่ ตวั อยา่ งเชน่ ตารวจรูต้ วั ผกู้ ระทาผดิ แลว้ แตย่ งั ไมม่ หี ลกั ฐาน เพยี งพอ 3. คาสนั ธานบางคาและสนั ธานวลบี างวลแี สดงวา่ ประโยคหน้าและประโยคหลงั มเี นอ้ื ความให้เลือก อย่างใดอย่างหนึ่ง เชน่ หรอื หรอื ไม่ก็ ตวั อยา่ งเชน่ เธอจะอยกู่ บั เขาหรอื เธอจะไปกบั ฉนั 4. คาสนั ธานบางคาและสนั ธานวลบี างวลแี สดงวา่ ประโยคหน้าและประโยคหลงั มเี นอ้ื ความเป็นเหตุ เป็นผลกนั เชน่ จงึ เลย จน จนกระทงั่ ตวั อยา่ งเชน่ เขาทางานอยา่ งหนกั สขุ ภาพจงึ ทรุดโทรม 5. คาสนั ธานบางคาและสนั ธานวลบี างวลแี สดงวา่ ประโยคหน้าและประโยคหลงั มเี นอ้ื ความเกีย่ วขอ้ ง กนั ทางเวลา เชน่ แลว้ แลว้ จงึ และแลว้ ตอ่ จากนนั้ ตอ่ มา ตวั อยา่ งเชน่ เขามางานเลย้ี งในตอนเชา้ ตอ่ จากนนั้ ตอนบ่ายเขากก็ ลบั บา้ น 6.คาสนั ธานบางคาและสนั ธานวลบี างวลแี สดงวา่ ประโยคหน้าและประโยคหลงั มเี น้อื ความเกีย่ วขอ้ ง กนั ในแง่ท่ีเป็นเงอ่ื นไข เชน่ ถา้ ถา้ ...แลว้ แมว้ า่ หากวา่ เมอ่ื ...ก็ หาก...ก็ ตวั อยา่ งเชน่ ถา้ เรามคี วาม ขยนั อยา่ งแทจ้ รงิ เรากไ็ มส่ อบตก หน้าท่ี - 19 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง 2. การซา้ หากประโยค 2 ประโยค มสี ว่ นกลา่ วถงึ บคุ คล สง่ิ เหตกุ ารณ์ การกระทาหรอื สภาพ เดยี วกนั ประโยคทงั้ สองมกั จะมคี าหรอื วลที ห่ี มายถงึ บุคคล สงิ่ เหตกุ ารณ์ การกระทาหรอื สภาพนนั้ ๆ ปรากฏซ้า ๆ การซ้าคาหรอื วลจี งึ แสดงความเกย่ี วขอ้ งของประโยคได้ เชน่ ฉนั วางกระเป๋ ากบั รม่ ไวบ้ นโตะ๊ ประเดยี๋ วเดยี วกระเป๋ าหายไปแลว้ ร่มยงั อยู่ ประโยคหน้าและประโยคหลงั กลา่ วถงึ สงิ่ เดยี วกนั คอื กระเป๋ ากบั รม่ จงึ มคี า กระเป๋ ากบั ร่มซ้ากนั หมายเหตุ 1. ในกรณที ม่ี คี าซ้ากนั เชน่ น้ี คาทซ่ี ้าอาจมคี าวเิ ศษณบ์ อกความชเ้ี ฉพาะ(นยิ มวเิ ศษณ)์ น้ี นนั้ โน้น น่ี นนั่ มาขยาย เพอ่ื ชเ้ี ฉพาะวา่ เป็นสง่ิ ทก่ี ลา่ วถงึ ไปแลว้ เชน่ แหล่งโบราณคดที ส่ี าคญั ทส่ี ดุ แห่งหน่งึ ของไทยคอื บรเิ วณเมอื งอทู่ อง ในจงั หวดั สพุ รรณบรุ ี นกั โบราณคดหี ลายทา่ นเชอ่ื วา่ บรเิ วณน้ี น่าจะเป็นศนู ยก์ ลางดงั้ เดมิ ของอาณาจกั รฟูนนั ประโยคหน้าและประโยคหลงั กล่าวถงึ สงิ่ เดยี วกนั คอื บรเิ วณน้เี ป็นแหลง่ โบราณคดี จงึ มคี าวา่ บรเิ วณ ซ้ากนั และมคี า น้ี ขยายบรเิ วณ ในประโยคหลงั เพ่อื ชว่ ยระบุวา่ เป็นบรเิ วณเดยี วกนั กบั ทก่ี ลา่ วในประโยคแรก 2. หากคาวเิ ศษณบ์ อกความชเ้ี ฉพาะใชข้ ยายคาในประโยคหน้าอยู่แลว้ คาทอ่ี ยู่ในประโยคหลงั มกั จะ ไม่มคี าวเิ ศษณ์บอกความชเ้ี ฉพาะขยาย เชน่ เดก็ คนน้ี มูลนธิ ริ บั ผดิ ชอบคา่ เล่าเรยี นแม่ของเดก็ รบั ผดิ ชอบคา่ ใชจ้ า่ ยอน่ื ๆ ประโยคหน้าและประโยคหลงั มสี ว่ นกล่าวถงึ คนคนเดยี วกนั และการกระทาเดยี วกนั จงึ มคี านาม เดก็ ซ้า กนั คาวา่ น้ขี ยายคาวา่ เดก็ ในประโยคหน้าอยู่แลว้ จงึ ไมใ่ ชใ้ นประโยคหลงั และมคี ากรยิ า รบั ผดิ ชอบซ้ากนั 3. คาทข่ี ยายคาทซ่ี ้ากนั นนั้ นอกจากคาวเิ ศษณ์บอกความชเ้ี ฉพาะแลว้ อาจมคี าชนดิ อน่ื อกี บา้ ง 3. การละ ในบางกรณเี ม่อื ประโยคหนา้ และประโยคหลงั มสี ่วนกลา่ วถงึ บคุ คล สง่ิ เหตกุ ารณ์ การกระทา หรอื สภาพเดยี วกนั อาจไมจ่ าเป็นตอ้ งกล่าวซ้า เชน่ คนขบั รถ กระโดดลงจากรถ ฉวยกระเป๋ าได้ รบี เดนิ เขา้ บา้ น ประโยคหน้าและประโยคต่อ ๆไป กล่าวถงึ บคุ คลเดยี วกนั คอื คนขบั รถ คานาม คนขบั รถเป็นประธาน ในประโยคหลงั ดว้ ยแตล่ ะไว้ หน้าท่ี - 20 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง 4. การแทน ในกรณที ผ่ี พู้ ูดหรอื ผเู้ ขยี นไมต่ อ้ งการใชว้ ธิ ซี ้าหรอื วธิ ลี ะเมอ่ื กล่าวถงึ บคุ คล สง่ิ เหตกุ ารณ์ การกระทา หรอื สภาพเดยี วกนั กอ็ าจใชว้ ธิ นี าคาหรอื วลอี น่ื มาแทน การใชค้ าหรอื วลอี น่ื มาแทนจงึ แสดงความเกย่ี ว เน่อื งกนั ของประโยค เชน่ ลกู ชายของหญงิ ชรา จากบา้ นไปนานแลว้ เขา อาจเสยี ชวี ติ ไปแลว้ กไ็ ด้ ประโยคหน้าและประโยคหลงั กล่าวถงึ บคุ คลคนเดยี วกนั คอื ลกู ชายของหญงิ ชรา คาสรรพนาม เขา ในประโยคหลงั หมายถงึ ลกู ชายของหญงิ ชรา ทก่ี ลา่ วถงึ ในประโยคหน้า วิเคราะหก์ ารรอ้ ยเรยี งประโยค วธิ ที าใหป้ ระโยคเกย่ี วขอ้ งกนั ทงั้ การเชอ่ื ม การซ้า การละ และการแทนดงั ทก่ี ล่าวมาขา้ งตน้ อาจ นาไปวเิ คราะหข์ อ้ เขยี นทป่ี รากฏในทต่ี า่ ง ๆได้ การวเิ คราะหจ์ ะทาใหเ้ ราเขา้ ใจความหมายของขอ้ เขยี นอยา่ ง แจ่มแจง้ และยงั เป็นแนวทางในการฝึกทกั ษะการรอ้ ยเรยี งประโยคดว้ ย ตวั อยา่ ง ลซี อ เป็นชาวเขาทม่ี บี ุคลกิ ภาพงดงาม มผี วิ กายค่อนขา้ งขาว มรี า่ งระหงและใบหน้าเป็นรปู ไข่ ชาวเขาเผา่ น้ี ยงั ชพี ดว้ ยการปลกู ขา้ ว ปลกู ขา้ วโพด และฝิ่น ลซี อ สว่ นใหญไ่ มส่ ูบฝิ่น ในบรรดาหนุ่ม ลซี อนนั้ หาคนตดิ ฝิ่นแทบไมไ่ ดเ้ ลย ประโยคแรกกล่าวถงึ ชาวเขาเผา่ ลซี อ ประโยคทเ่ี หลอื ทงั้ หมดมเี นอ้ื ความเกย่ี วกบั ชาวเขาเผา่ น้ี แต่ ประโยคท่ี 2 และ 3 ใชว้ ธิ ไี ม่เอ่ยชอ่ื ประโยคท่ี 4 ใชว้ ลี ชาวเขาเผา่ น้ี แทน ประโยคท่ี 5 ใชก้ ารซ้าคา วา่ ลซี อ และประโยคท่ี 6 ใชว้ ลี หนุ่มลซี อนนั้ เพอ่ื จากดั ความหมายใหแ้ คบเขา้ วา่ หมายถงึ เฉพาะชายหนุ่มเผา่ ลซี อเทา่ นนั้ หน้าท่ี - 21 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง แบบฝึ กหดั ทบทวนความเข้าใจ พนื้ ฐานเร่อื ง การรอ้ ยเรยี งประโยค กบั การทาข้อสอบ GAT คาชีแ้ จง : จงวิเคราะหก์ ารร้อยเรยี งประโยคของขอ้ ความต่อไปนี้ พร้อมยกตวั อย่าง 1.ภูมคิ มุ้ กนั ทงั้ สามประการขา้ งตน้ นอกจากจะชว่ ยป้องกนั ปัญหาวยั ร่นุ ทงั้ หลายดงั กลา่ วขา้ งตน้ ยงั จะชว่ ยให้ วยั รนุ่ มอี นาคตทส่ี ดใส และเป็นสมาชกิ ทด่ี ขี องครอบครวั สงั คม ประเทศชาตติ อ่ ไป การเชอ่ื ม ไดแ้ ก่......................................................................................................................... การละ ไดแ้ ก.่ ........................................................................................................................ การซ้า ไดแ้ ก.่ ........................................................................................................................ การแทน ไดแ้ ก่......................................................................................................................... 2. ส่วนหน่งึ ของปัญหาการศกึ ษาไทย คอื การขาดโอกาส การเขา้ ถงึ ทรพั ยากรของเดก็ บางกลมุ่ ซง่ึ การมี โอกาสนอ้ ยหรอื ไมเ่ ป็นผลมาจากพน้ื ฐานเศรษฐกจิ ของครอบครวั ของนกั เรยี น การเชอ่ื ม ไดแ้ ก่......................................................................................................................... การละ ไดแ้ ก.่ ........................................................................................................................ การซ้า ไดแ้ ก่......................................................................................................................... การแทน ไดแ้ ก.่ ........................................................................................................................ 3. มลพษิ ทางอากาศหรอื อากาศเสยี ซง่ึ หมายถงึ ภาวะทม่ี อี ากาศทม่ี สี ารเจอื ปนอยู่ในปรมิ าณทส่ี งู กวา่ ปกตแิ ละ เป็ นเวลานานพอท่ีจะทาให้เกิดผลกระทบต่างๆเช่น อันตรายต่อมนุษย์ สัตว์ พืช สิงแวดล้อม และ ทรพั ย์ สารเจอื ปนดงั กล่าว สานักอนามยั กทม.เรยี กวา่ สารมลพษิ ทางอากาศ ซ่ึงมีหลายอย่าง เช่น ฝ่ ุน ละออง กลนิ่ ควนั ละอองไอ ก๊าซหลายชนิด ฯลฯ การเชอ่ื ม ไดแ้ ก่......................................................................................................................... การละ ไดแ้ ก.่ ........................................................................................................................ การซ้า ไดแ้ ก่......................................................................................................................... การแทน ไดแ้ ก่......................................................................................................................... 4. นอกจากเตา่ ทะเล ยงั มสี ตั วท์ ม่ี กี ารเคล่อื นยา้ ยกลบั ถนิ่ เดมิ อยู่อกี หลายอยา่ ง เชน่ ฝงู ววั ในทวปี แอฟรกิ า ปลาแซลมอน และนกบางชนิด มนี กนางแอ่น นกเป็ดน้า นกพริ าบส่อื สาร เป็นต้น สตั ว์เหล่าน้ีจะมีการ อพยพเคลอ่ื นยา้ ยจากถน่ิ เดมิ ไปยงั แหลง่ ตา่ ง ๆ ทม่ี อี าหารอุดมสมบูรณ์ การเชอ่ื ม ไดแ้ ก.่ ........................................................................................................................ การละ ไดแ้ ก.่ ........................................................................................................................ การซ้า ไดแ้ ก.่ ........................................................................................................................ การแทน ไดแ้ ก่......................................................................................................................... หน้าท่ี - 22 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง 5. จุดอ่อนประการหน่งึ ของคนไทย คอื รูจ้ กั หน้าท่ขี องตวั เองต่ามากโดยเฉพาะหน้าทต่ี ่อสงั คม ลกั ษณะของ จุดอ่อนขอ้ น้ีท่ีเหน็ ได้ชดั คอื มสี านึกต่อสงั คมส่วนรวมต่า และมือใครยาวสาวได้สาวเอา หลายคนแสวงหา อานาจเพ่อื จะตกั ตวงผลประโยชน์ จนมคี าพูดวา่ ธุรกจิ การเมอื ง ธุรกจิ ราชการ ธุรกจิ การศกึ ษา ลกั ษณะของ จดุ ออ่ นทงั้ สองอยา่ งดงั กลา่ วทาใหบ้ า้ นเมอื งเราไมเ่ จรญิ เท่าทค่ี วร ประเทศชาตลิ า้ หลงั ไปเรอ่ื ยๆ การเชอ่ื ม ไดแ้ ก่......................................................................................................................... การละ ไดแ้ ก.่ ........................................................................................................................ การซ้า ไดแ้ ก.่ ........................................................................................................................ การแทน ไดแ้ ก่......................................................................................................................... 6.ชนวนเหตุสาคญั ท่ีทาให้เกิดวกิ ฤต “ชดั ดาวน์” นัน้ มที ่มี าท่ีไปจากความขดั แย้ง เร่อื ง กฎหมาย Patient Protection and Affordable Care Act หรือกฎหมายประกันสุขภาพท่ีเรียกกนั ติดปากว่า “โอบามาแคร์” (Obamacare) ซ่งึ ไมม่ คี วามเก่ยี วขอ้ งกบั งบประมาณโดยตรง แตก่ าลงั ถูกทงั้ สองพรรคใชเ้ ป็น “เคร่อื งตอ่ รอง” ทางการเมอื ง การเช่อื ม ได้แก่......................................................................................................................... การละ ได้แก่.............................................................................................................. ........... การซ้า ได้แก่......................................................................................................................... การแทน ไดแ้ ก่..................................................................................................................................... 7. ดร.Wendy Troxel นักวจิ ยั และนักจติ วทิ ยาจากมหาวทิ ยาลยั พติ ต์สเบริ ก์ สหรฐั อเมรกิ าเผยวา่ การได้นอน หลบั ข้างๆ ใครสกั คน โดยเฉพาะการไดน้ อนหลบั ขา้ งๆ คนท่รี กั กนั จะก่อให้เกดิ ความรูส้ ึกปลอดภยั ให้กบั มนุษย์ และชว่ ยลดการหลงั่ ฮอรโ์ มนคอรต์ ซิ อลทก่ี อ่ ใหเ้ กดิ ความวติ กกงั วลได้ การเช่อื ม ได้แก่......................................................................................................................... การละ ได้แก่.............................................................................................................. ........... การซ้า ได้แก่......................................................................................................................... การแทน ไดแ้ ก่..................................................................................................................................... หน้าท่ี - 23 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง ชอ่ื ......................................................สกุล....................................................... ม.6/........................ เลขท.่ี ....... บทที่ 4 : GAT ความถนัดทวั่ ไป ภาษาวิเคราะหเ์ ช่ือมโยง ผลการเรียนรู้ 1.อา่ นจบั ใจความสาคญั เร่อื งทอ่ี ่านได้ สาระสาคญั 2. ตคี วาม แปลความ เชอ่ื มโยงความจากเรอ่ื งทอ่ี ่านได้ 1. ความหมายของ GAT 2. โครงสรา้ งของขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง 3. ลกั ษณะการตอบขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง 4. แนวทางในการอา่ นบทความเพอ่ื การคดิ วเิ คราะหค์ วามสมั พนั ธเ์ ชอ่ื มโยง 5. การเขยี นสญั ลกั ษณ์และแผนผงั มโนทศั น์การอา่ น 1. ความหมายของ GAT GAT ยอ่ มาจากคาวา่ “ General Aptitude Test ” หรอื ทใ่ี ชช้ อ่ื ในภาษาไทยว่า “ แบบทดสอบวดั ความ ถนัดทวั่ ไป ” กล่าวคือ เป็นการสอบวดั ความสามารถด้านการอ่านเพ่ือการคดิ วเิ คราะห์ทงั้ ภาษาไทยและ ภาษาองั กฤษ เน่อื งจากการอา่ นจะเป็นความสามารถขนั้ พน้ื ฐานในการทจ่ี ะเรยี นรเู้ ร่อื งราวต่างๆ ต่อไป 2. โครงสร้างและคณุ ลกั ษณะของข้อสอบ GAT ขอ้ สอบจะประกอบดว้ ยบทความ 2 เร่อื ง ในแต่ละเรอ่ื งจะมขี อ้ ความทโ่ี จทยก์ าหนดใหจ้ านวนตงั้ แต่ 9- 11 ขอ้ ความ แต่จะรวมเป็น 20 ขอ้ ความ ผตู้ อบจะตอ้ งวเิ คราะหค์ วามสมั พนั ธ์ระหวา่ งขอ้ ความในแต่ละขอ้ ท่ี โจทยก์ าหนดกบั ขอ้ ความอน่ื ๆ ทเ่ี หลอื อกี 9 ขอ้ ความวา่ สมั พนั ธก์ นั ในลกั ษณะใดตามแบบของความสมั พนั ธท์ ่ี โจทย์กาหนดให้ แล้วใส่เป็นรหสั คาตอบไปทลี ะขอ้ โดยจะมคี ะแนนเตม็ 150 คะแนน และใชเ้ วลา 1 ชวั่ โมง 30นาที 3. ลกั ษณะของการตอบข้อสอบ GAT การตอบจะเป็นการลงรหสั คาตอบ โดยในแตล่ ะขอ้ ความสาหรบั บทความท่ี 1 จะมเี ลขกากบั ตงั้ แต่ 01 , 02 , 03 จนถงึ 10 ในบทความท่ี 2 กจ็ ะมเี ลขกากบั ตงั้ แต่ 11 , 12 , 13 จนถงึ 20 ในแต่ละขอ้ จะมคี าตอบได้ ตงั้ แต่ 1 คาตอบ จนถงึ 4 คาตอบ ถา้ คาตอบในแต่ละขอ้ มคี วามเชอ่ื มโยงสมั พนั ธก์ นั คาตอบกจ็ ะเป็นเลขกากบั ขอ้ ความอน่ื ๆ แลว้ ตาม ดว้ ยตวั อกั ษร A , D หรอื F แต่ถา้ คาตอบในขอ้ นนั้ ไมม่ คี วามสมั พนั ธเ์ ชอ่ื มโยงกบั ขอ้ ความใดๆ ทก่ี าหนดมา เลยกจ็ ะใส่เลข 99 แลว้ ตามดว้ ยตวั อกั ษร H และหากคาตอบในขอ้ นนั้ เป็น 99H แลว้ กจ็ ะไมม่ คี าตอบอน่ื ใดได้ อกี ขอ้ นนั้ จะมเี พยี งรหสั คาตอบ 99H เพยี งรหสั คาตอบเดยี วเท่านนั้ หน้าท่ี - 24 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง 4. แนวทางในการอ่านบทความเพ่ือการคิดวิเคราะหค์ วามสมั พนั ธเ์ ช่ือมโยง ในการอา่ นบทความเพ่อื การคดิ วเิ คราะหค์ วามสมั พนั ธเ์ ชอ่ื มโยงระหวา่ งขอ้ ความในแตล่ ะขอ้ ทโ่ี จทย์ กาหนดมาให้ 10 ขอ้ ความในแตล่ ะเร่อื งนนั้ ควรมขี นั้ ตอนในการอ่านดงั น้ี ขนั้ ท่ี 1 อา่ นเนอ้ื หาบทความทงั้ หมดอย่างรวดเรว็ หรอื อา่ นคร่าว ๆ ประมาณ 3 นาที ในรอบท่ี 1 เพอ่ื เป็นการทาความเขา้ ใจวา่ เน้อื หาของบทความน้กี ลา่ วถงึ เร่อื งอะไร เพอ่ื เป็นการกาหนดประเดน็ หลกั ของ บทความเพอ่ื ใชเ้ ป็นทศิ ทางในการอ่านในรอบท่ี 2 อยา่ งมี จดุ มงุ่ หมายตอ่ ไป ขนั้ ท่ี 2 อา่ นเนอ้ื หาบทความในรอบท่ี 2 อยา่ งละเอยี ดโดยพจิ ารณาในแตล่ ะยอ่ หน้าเพอ่ื พจิ ารณาไป ตามประเดน็ หลกั ของเน้อื หาทลี ะประเดน็ วา่ มรี ายละเอยี ดของขอ้ มูลในแตล่ ะประเดน็ อย่างไรบา้ ง โดยคานึงถงึ กรอบของความสมั พนั ธเ์ ชอ่ื มโยงตามทร่ี ูปแบบของขอ้ สอบกาหนดใน 4 ลกั ษณะดว้ ยกนั กลา่ วคอื 1 ) มคี วามสมั พนั ธเ์ ชอ่ื มโยงในลกั ษณะของความหมาย นยิ าม คอื คาจากดั ความวา่ สงิ่ ทก่ี ลา่ วถงึ นนั้ คอื อะไร หรอื มลี กั ษณะอย่างไร 2 ) มคี วามสมั พนั ธเ์ ชอ่ื มโยงในลกั ษณะขององคป์ ระกอบ สว่ นประกอบ หรอื เป็นคุณสมบตั ขิ องสงิ่ ท่ี กล่าวถงึ วา่ ประกอบไปดว้ ยอะไรบา้ ง หรอื มคี ณุ ลกั ษณะเป็นอย่างไรบา้ ง 3 ) มคี วามสมั พนั ธเ์ ชอ่ื มโยงในลกั ษณะของการเป็นผลลพั ธท์ เ่ี กดิ ขน้ึ ตามมา หรอื เป็นผลกระทบท่ี เกดิ ขน้ึ ตามมา หรอื เป็นเหตกุ ารณ์ทเ่ี กดิ ขน้ึ ตอ่ เน่อื งตามมาจาก ขอ้ ความหลกั นนั้ อยา่ งไร 4 ) มคี วามสมั พนั ธเ์ ชอ่ื มโยงในลกั ษณะของการถูกลดทอนลง การถกู ระงบั การถกู ยบั ยงั้ หรอื ไดร้ ับ การป้องกนั ไมใ่ หส้ งิ่ นนั้ เกดิ ขน้ึ อยา่ งไรบา้ ง ความสมั พนั ธ์ ลกั ษณะยอ่ ย ตวั อย่างคาเชื่อม เป็นผลโดยตรง แสดงเหตผุ ล หรอื ทเ่ี กดิ ขน้ึ ใน เน่อื งมาจาก, จาก, เพราะ, ดว้ ยเหตุวา่ , ดว้ ยเหตุท,่ี ลาดบั ถดั มา แสดงลาดบั เวลาบอกสงิ่ ถงึ กบั , เพอ่ื ท,่ี จะทาให,้ จงึ , มผี ลตอ่ , มผี ลให,้ ดงั นัน้ , ถา้ ทเ่ี กดิ ตามมา หากวา่ , ถา้ เผอ่ื วา่ , เม่อื ...ก็ A กระทงั่ , จนกระทงั่ , ครนั้ แลว้ , ทนั ใดนนั้ เอง, ในทส่ี ดุ , แสดงสว่ นประกอบ/ ตามไปดว้ ย, กอ่ นทจ่ี ะ, ก่อนหน้าท,่ี ตงั้ แต่ครงั้ ท,่ี จะพบ เป็น องคป์ ระกอบ/ ความหมาย กบั , ทาให,้ สง่ ผลให,้ กอ่ ใหเ้ กดิ สว่ นประกอบ/ แสดงการสนบั สนุน/ หมายถงึ , หมายความวา่ , คอื , นนั่ กค็ อื , ราวกบั , ประดจุ , องคป์ ระกอบ/ ขยายความ หรอื , แปลวา่ . เปรยี บเสมอื น, เรยี กวา่ , อาจกลา่ วไดว้ า่ ความหมาย รวมทงั้ , โดยเฉพาะ,นอกจากนนั้ , ตลอดจน, ไดแ้ ก่, ตวั อย่าง, เป็นตน้ วา่ , พรอ้ มกนั นนั้ , เชน่ เดยี วกนั , ดู D เหมอื นจะ, ต่อไปน้ี, ในกรณเี ชน่ น้,ี และ, กบั , โดยเฉพาะ อย่างยง่ิ ,เป็นทส่ี งั เกตวา่ , พงึ สงั เกตวา่ , ในขณะเดยี วกนั , อาทเิ ชน่ , ตวั อยา่ งเชน่ , อาท,ิ เชน่ ,คอื หน้าท่ี - 25 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง ความสมั พนั ธ์ ลกั ษณะย่อย ตวั อย่างคาเชื่อม แสดงการขดั แยง้ /ถกู ลด/ ถกู ลด/ยบั ยงั้ / ยบั ยงั้ /หา้ ม/ขดั ขวาง แต่ทวา่ , แมแ้ ต,่ ถงึ มาตรวา่ , ถงึ แมว้ า่ , ไมวา่ จะ, แตว่ า่ , ป้องกนั / หา้ ม/ ถงึ กระนนั้ กด็ ,ี อยา่ งไรกด็ ,ี ขณะท,่ี ทงั้ ๆท,่ี ไม่เชน่ นนั้ ขดั ขวาง แสดงตวั เลอื ก ,ลดลง หรอื , หรอื ไม่ก,็ ไมเ่ ชน่ นนั้ , มเิ ชน่ นนั้ , มฉิ ะนนั้ , ไม่...ก,็ F ถา้ ...ไม่ แบบฝึ กหดั ความเขา้ ใจเก่ียวกบั ประโยค1 คาสงั่ พิจารณาความสมั พนั ธข์ องคาที่พิมพต์ วั หนากบั ความหมายในประโยคที่กาหนด ใหใ้ ส่ตวั อกั ษร A เม่อื เป็นประโยคแบบเป็นเหตุเป็นผลซ่งึ กนั และกนั ใหใ้ สต่ วั อกั ษร D เมอ่ื เป็นประโยคประกอบ หรอื ขยายความ ใหใ้ ส่ตวั อกั ษร F เมอ่ื เป็นประโยคทข่ี ดั ขวาง ยบั ยงั้ หรอื ขดั แยง้ 1. ข้อสอบ GAT –PAT เป็นตน้ เหตุใหน้ ักเรียนเครยี ด 2. ในทะเลมคี ล่ืนเลก็ น้อยถึงปานกลาง 3. น้องฟ้าแอบหลบั ในขณะเรียนจงึ ถกู ถา่ ยรปู โพสต์ลง Facebook 4. อลุ ตร้าแมนหมดแรงเพราะไมไ่ ด้กินขา้ ว 5. การรวมพลงั ของไอ้มดแดงชว่ ยป้องกนั ไม่ใหโ้ ลกถกู รกุ ราน 6. คาเมนไรเดอรป์ ระกอบไปดว้ ย มดแดง มดเขียว มดดา 7. ใบเตย อารส์ ยาม เป็นนักร้องท่ีได้ฉายาวา่ สนั้ เสมอหู 8. กระโปรงของอมั้ เปิ ดเพราะลมพดั แรง 9. การกินชอ็ กโกแลตมากจนเกนิ ไปทาใหเ้ ลือดกาเดาไหล 10. ร่มบอ่ สรา้ งคอื ของฝากขนึ้ ชื่อชนดิ หน่ึงของจงั หวดั เชยี งใหม่ 11. การอมทุกบาททกุ สตางคข์ อง อบต. ทาใหก้ ารพฒั นาที่กาลงั ดีขนึ้ กลบั แยล่ ง 12. การเล่น Facebook ขณะเรียนหนังสือทาใหเ้ รยี นไมร่ ้เู รือ่ ง 13. โรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรยี นประกอบไปดว้ ยครู และนักเรยี นหน้าตาดี 14. เพราะน้าที่ท่วมสนามบอลทาใหก้ ารแขง่ ขนั ฟตุ บอลระหว่างแมนยกู บั ลิเวอรพ์ ลูตอ้ ง ยกเลกิ 1 วศนิ ปัญญาวธุ ตระกลู จ้ีจดุ ทลาย GAT พิชิต 150 คะแนนเตม็ .พษิ ณุโลก : รตั นสวุ รรณการพมิ พ,์ 2556. หน้าท่ี - 26 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง 15. ของหวานจะไปขดั ขวางการดดู กลืนของโปรตีน 16. สภาพอากาศท่ีร้อนอบอ้าว ทาใหห้ ลายคนเกดิ อาการเบื่ออาหาร 17. โฮลเกรน คอื ธญั พชื เตม็ เมลด็ ไมผ่ า่ นการขดั สี หรอื ขดั สนี ้อยทส่ี ดุ 18. การสดู เอาอากาศท่ีเป็นมลพิษเขา้ ไปจะทาใหอ้ อกซิเจนในสมองมนี ้อย 19. การคิดเป็นสิ่งท่ีดีที่สดุ ในการฝึกสมอง 20. เตะบอลทกุ วนั นามาซง่ึ สขุ ภาพรา่ งกายแขง็ แรง 21. ส่ิงที่วยั รนุ่ ควรหลีกเหลี่ยง ประกอบดว้ ยเล่น facebook ทงั้ วนั ทงั้ คืน มกี ๊ิก เถียงพ่อแม่ 22. การใช้ขอ้ เทจ็ จริงและการมีเมตตาต่อกนั จะชว่ ยแกไ้ ขความแตกแยกในสงั คม 23. อารมณ์ดีชว่ ยยบั ยงั้ การเกิดสิวหวั ฮิปโปได้ 24. น้าท่วมทาใหผ้ ลผลิตทางการเกษตรตกต่า 25. ชาวบา้ นเดือดรอ้ นน้อยลงอนั เน่อื งมาจากน้าใจของคนไทย 26. เกิดความรกั ในผนื ป่ าเป็นผลมาจากการไปเที่ยวอทุ ยานแห่งชาติ 27. หน่ึงในห้าบุคคลแห่งปี ของ Times ปีน้ี ไดแ้ ก่ สตีฟ จอ็ บส์ 28. การอ้อนแม่เป็นหน่ึงในวิธีทาให้ครอบครวั อบอ่นุ 29. ด่ืมนมเปรยี้ วเป็นผลใหข้ บั ถา่ ยดี 30. ความพยายามของท่านนัน้ ทจ่ี ะนาไปสู่ความสาเรจ็ 31. ความใกล้ชิดของผปู้ กครองหรือบิดามารดากบั วยั ร่นุ มสี ่วนป้องกนั ไม่ใหเ้ กดิ ปัญหา รา้ ยแรง 32. แรงจงู ใจต่อการละเมิดลิขสิทธ์ิมหี ลายประการ ทส่ี าคญั คอื ผลตอบแทนมหาศาล 33. น้าเสียจากการเกษตรกรรม เป็นน้าเสยี ทเ่ี กดิ จากการปนเปื้ อนของสารเคมลี งใน แหล่งน้า 34. ความงว่ งเป็นอปุ สรรคในการอ่านหนังสือ 35. การสบู บุหร่ี เป็นสาเหตทุ ท่ี าใหเ้ ป็นโรคสมองฝ่อและโรคอลั ไซเมอร์ 36. อาหารประเภทปลาจะชว่ ยป้องกนั การเกิดอาการซึมเศรา้ ในคนเกอื บทกุ เชอ้ื ชาติ 37. อาหารที่ช่วยสรา้ งอารมณ์ดีประกอบดว้ ยอาหารท่ีมวี ิตามินบี 12 กรดโฟลิค 38. โครงการอีสเทิรน์ ซีบอรด์ สง่ ผลใหเ้ กดิ ปัญหามลพิษในจงั หวดั ระยอง 39. การประกาศเขตควบคมุ มลพิษชว่ ยหยดุ ยงั้ ปัญหาสตั วน์ ้าล้มตายสญู พนั ธุ์ 40. สาเหตขุ องปัญหาน้าท่วมคอื ปริมาณฝนท่ีตกหนักติดต่อกนั ในช่วงฤดฝู น 41. การดื่มสรุ าและเครอ่ื งดื่มแอลกอฮอล์จะทาใหค้ วามสามารถในการขบั ขีย่ านพาหนะ ลดลง หน้าท่ี - 27 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง 42. นักเรยี นดีมคี ณุ สมบตั ิ 2 อย่างคอื เรียนเกง่ และเป็นคนดี 43. คณุ ภาพการเรียนการสอนขน้ึ อยกู่ บั คณุ ภาพของอาจารย์ 44. สงิ่ ทจ่ี ะมาลดทอนความเป็นคนดีคอื การคบเพื่อนเลว 45. ปัญหาโอกาสการอ่านหนังสือที่แตกต่างกนั เกดิ จากปัจจยั หลายประการ 46. เพราะความทเ่ี ป็นคนหเู บา พสิ ทุ ธจิ์ งึ ถกู สายน้าผงึ้ เป่ าหไู ด้ง่าย 47. ความสขุ ความทุกข์ ความรอ้ นร่มุ คอื ความอบอ่นุ ในหวั ใจ 48. การลดรถยนตส์ ่วนบคุ คลจะชว่ ยยบั ยงั้ ปัญหารถติดและวกิ ฤตการจราจรในกรุงเทพได้ ขนั้ ท่ี 3 ใหค้ วามสาคญั กบั ขอ้ ความทโ่ี จทยก์ าหนดให้ หรอื ขอ้ ความทก่ี าหนด โดยดจู ากตาราง ขอ้ ความทม่ี เี ลขกากบั เพอ่ื จะไดม้ องความสมั พนั ธเ์ ชอ่ื มโยงระหวา่ งกนั ตามกรอบ ความสมั พนั ธใ์ นรปู แบบท่ี ขอ้ สอบกาหนดเป็นแนวทางในการวเิ คราะห์ ขนั้ ที่ 4 พจิ ารณาประเดน็ หลกั ของเน้อื หาในบทความวา่ คอื ประเดน็ ใด โดยสามารถจะ ใชช้ อ่ื เรอ่ื ง ของบทความเป็นกญุ แจในการไขรหสั คาตอบตรงจุดน้ไี ด้ เพราะชอ่ื เร่อื งของ งานเขยี นทอ่ี ่าน คอื แนวคดิ หลกั หรอื ประเดน็ สาคญั ทผ่ี เู้ ขยี นตอ้ งการนาเสนอตอ่ ผอู้ ่าน ขนั้ ท่ี 5 นาขอ้ ความหลกั หรอื ขอ้ ความทก่ี าหนดทม่ี เี ลขกากบั มาเขยี นเป็นผงั มโนทศั น์ เพอ่ื วเิ คราะห์ ความสมั พนั ธเ์ ชอ่ื มโยงระหวา่ งขอ้ ความแต่ละขอ้ ความ เพอ่ื ทาใหม้ องเหน็ ภาพของความสมั พนั ธเ์ ชอ่ื มโยง ระหวา่ งขอ้ ความอย่างชดั เจน ขนั้ ที่ 6 ใสร่ หสั ตวั เลขของแต่ละขอ้ ความตามโจทยก์ าหนดให้ และใสต่ วั อกั ษร A , D , หรอื F ใน แต่ละตอนใหช้ ดั เจน เพอ่ื เป็นการระบุถงึ รปู แบบของความสมั พนั ธเ์ ชอ่ื มโยงท่ี เกดิ ขน้ึ ในแตล่ ะขอ้ ความ ขนั้ ที่ 7 อา่ นผงั มโนทศั น์ทเ่ี ขยี นแสดงความสมั พนั ธเ์ ชอ่ื มโยงทเ่ี สรจ็ เรยี บรอ้ ยแลว้ กอ่ นอกี ครงั้ หน่งึ ก่อนจะลงรหสั คาตอบในร่างตารางทก่ี าหนดให้ เพ่อื เป็นการทบทวนวา่ ความสมั พนั ธเ์ ชอ่ื มโยงระหวา่ ง ขอ้ ความทก่ี าหนดนนั้ เป็นไปตามเน้อื หาในบทความท่ี ผเู้ ขยี นไดเ้ ขยี นไวจ้ รงิ ๆ ไมม่ สี ่วนใดทเ่ี ราเชอ่ื มโยงไป เองตามความคดิ ของเราเองอยา่ งเดด็ ขาด จากนนั้ จงึ จะใส่รหสั คาตอบในแต่ละขอ้ ลงในกระดาษรา่ งรหสั คาตอบ หน้าท่ี - 28 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง การจดั ทาผงั มโนทศั น์ การอา่ นบทความท่โี จทย์กาหนดใหเ้ พ่อื จะวเิ คราะห์ถงึ ความสัมพนั ธ์เชอ่ื มโยงระหวา่ งขอ้ ความตาม เร่อื งราวท่อี ่านนัน้ เราสามารถมองเหน็ ความสมั พนั ธ์ได้ง่ายขน้ึ ถา้ เรานาขอ้ ความท่กี าหนดให้มาเขยี นเป็น แผนผงั มโนทศั น์ ( Concept Mapping ) แสดงถึงความสมั พันธ์เช่อื มโยงระหว่างข้อความต่าง ๆ ทงั้ 10 ขอ้ ความทโ่ี จทยก์ าหนด เพ่อื จะไดม้ องเหน็ ความสมั พนั ธเ์ ชอ่ื มโยงระหวา่ งขอ้ ความไดช้ ดั เจนยง่ิ ขน้ึ การเชอ่ื มโยงความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งขอ้ ความทก่ี าหนดจะใชเ้ ส้นตรงและเคร่อื งหมายต่าง ๆ เชน่ หวั ลูกศรกากบาท เป็นตวั บ่งบอกถงึ ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งขอ้ ความได้อย่างชดั เจน โดยมวี ธิ กี ารกาหนดการโย ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งขอ้ ความ ดงั น้ี 1. ถา้ ขอ้ ความหลกั มคี วามสมั พนั ธก์ บั ขอ้ ความอ่นื ๆ ในลกั ษณะของการเป็นความหมาย คาจากดั ความหรอื บทนิยาม หรอื เป็นส่วนประกอบ องคป์ ระกอบ หรอื เป็นคุณสมบตั ิ จะใชเ้ สน้ ตรง และ ตวั อกั ษร D เป็นเครอ่ื งหมายเชอ่ื มโยงความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง ขอ้ ความ เชน่ หรอื 2. ถา้ ขอ้ ความหลกั มคี วามสมั พนั ธก์ บั ขอ้ ความอ่นื ๆ ในลกั ษณะของการเป็นผลลพั ธ์ ผลกระทบ หรอื เหตกุ ารณ์ทเ่ี กดิ ขน้ึ ตามมา จะใชเ้ สน้ ตรงทม่ี หี วั ลูกศร และตวั อกั ษร A เป็นเครอ่ื งหมายเชอ่ื มโยง ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งขอ้ ความ เชน่ หรอื หน้าท่ี - 29 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง 3. ถา้ ขอ้ ความหลกั มคี วามสมั พนั ธก์ บั ขอ้ ความอน่ื ๆ ในลกั ษณะของการไดร้ บั การป้องกนั หรอื เป็นการถกู ระงบั ถกู ยบั ยงั้ ถกู หยดุ ยงั้ หรอื ถูกลดทอนลง จะใชเ้ สน้ ตรงทม่ี หี วั ลกู ศร พรอ้ มทงั้ มีเครอ่ื งหมายกากบาทบน เสน้ ตรง และตวั อกั ษร F เป็นเคร่อื งหมายเชอ่ื มโยงความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งขอ้ ความ เชน่ หรอื หน้าท่ี - 30 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง แบบฝึ กความเข้าใจเก่ียวกบั การเชื่อมโยงเส้นเพ่ือสรา้ งแผนผงั 2 คาสงั่ : ประโยคตวั อยา่ งทใ่ี หม้ ามคี วามสมั พนั ธใ์ นลกั ษณะใด จงแสดงความเชอ่ื มโยงสมั พนั ธข์ องขอ้ ความ เป็นแผนผงั ทเ่ี น้นดว้ ยตวั หนาในแต่ละขอ้ โดยใชส้ ญั ลกั ษณ์ตอ่ ไปน้ี แสดงความสมั พนั ธท์ ม่ี สี ว่ นประกอบหรอื ส่วนขยาย โดยขอ้ ความหลกั จะอยดู่ า้ น หางของหวั กลม และขอ้ ความทเ่ี ป็นส่วนประกอบหรอื ส่วนขยายอยทู่ างหวั ของ หวั กลม แสดงความสมั พนั ธแ์ บบเป็นเหตุเป็นผลกนั โดยทข่ี อ้ ความทเ่ี ป็นเหตจุ ะอย่ดู า้ น หางของลกู ศร และขอ้ ความทเ่ี ป็นผลอยทู่ างหวั ของลกู ศร แสดงความสมั พนั ธแ์ บบเป็นเหตเุ ป็นผลแบบยบั ยงั้ หรอื ขดั แยง้ โดยทข่ี อ้ ความท่ี เป็นเหตุจะอยทู่ างดา้ นหางของลกู ศร และขอ้ ความทเ่ี ป็นผลถกู ยบั ยงั้ หรอื ขดั ขวางอยู่ทางหวั ลูกศร ชดุ ท่ี 1 ความสมั พนั ธเ์ ชิงเด่ียว 1.แคค่ ณุ ดื่มชาวนั ละแกว้ 01 กส็ ามารถยบั ยงั้ การเกดิ โรคอลั ไซเมอร0์ 2ได้ 2. ความพยายาม01ของท่านเท่านนั้ ทจ่ี ะนาไปสู่ความสาเรจ็ 02 3.ปัญหาการเรียนในวยั ร่นุ 01เกดิ ขน้ึ เพราะในสภาวะปัจจบุ นั มสี ิ่งแวดล้อมภายนอกมาเบี่ยงเบนความ สนใจ02มาก 2 วศนิ ปัญญาวธุ ตระกลู จ้ีจุดทลาย GAT พิชิต 150 คะแนนเต็ม.พษิ ณุโลก : รตั นสวุ รรณการพมิ พ์, 2556. หน้าท่ี - 31 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง 4. โปรตนี คอลลาเจน01เป็นโปรตีนเส้นใยส่วนประกอบสาคญั ของกระดกู 02 สามารถจะอยคู่ งทนไดย้ ง่ิ กวา่ ดเี อน็ เอ 5. เกม Farm Ville01 เป็นเกมท่ีได้รบั ความนิยมอนั ดบั หน่ึงใน Facebook02 ณ ปัจจุบนั 6. เอกสารทางการแพทยร์ ะบุวา่ การกินกระเทียม01 ชว่ ยยบั ยงั้ การเกดิ โรคไขมนั อดุ ตนั ในเส้นเลือด02 ได้ 7. ความรกั ของพอ่ แมน่ บั วา่ เป็นความรกั ท่ีแท้จริงและย่ิงใหญ่ มอบใหล้ กู โดยไม่หวงั สง่ิ ตอบแทน 8. ผา้ คลุมล่องหน01ชว่ ยป้องกนั การถกู มองเหน็ จากยมทูต02ได้ 9. กนิ ผลติ ภณั ฑจ์ ากนม01เพอ่ื ป้องกนั การขาดแคลเซียม02 10. เพราะความฟ้งุ ซ่านราคาญของจิต01นนั้ ลว้ นแต่จะทาใหเ้ กดิ ความเดือดรอ้ น02 หน้าท่ี - 32 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง ชดุ ท่ี 2 ความสมั พนั ธเ์ ชิงกล่มุ ตวั อยา่ ง รปู แบบการวิเคราะหค์ วามสมั พนั ธเ์ ชิงกล่มุ 1. ทางตรง หรือ ยบั ยงั้ ตวั อย่างท่ี 1 น้าท่วม01 ทาใหผ้ ลผลิตทางการเกษตร02ตกต่า น้าท่วม01 ทาใหผ้ ลผลิตทางการเกษตรตกตา่ 02 ตวั อยา่ งท่ี 2 พฤติกรรมการออม01ทาใหป้ ัญหาหนี้สินลดลง02 พฤติกรรมการออม01 ทาใหป้ ัญหาหนี้สิน02ลดลง ตวั อยา่ งท่ี 3 โอกาสผิดพลาด01 น้อยลงเป็นผลมาจากการเตรียมตวั ทด่ี ี02 โอกาสผิดพลาดน้อยลง01เป็นผลมาจากการเตรยี มตวั ทีด่ ี02 2. ทางตรง หรอื องคป์ ระกอบ ตวั อยา่ งท่ี 1 หน่งึ ในสาเหตขุ องอบุ ตั ิเหตุบนท้องถนน คอื การเมาแล้วขบั หน่งึ ในสาเหตุของอบุ ตั ิเหตุบนท้องถนน คอื การเมาแล้วขบั ตวั อย่างท่ี 2 สาเหตุท่ีน้องปิ งเป็นแมค่ ้าขายหอยสดุ ฮอต01 มสี องประการ ไดแ้ ก่ หอยของเธอสะอาด02 และอธั ยาศยั ดี03 สาเหตุทน่ี ้องปิ งเป็นแม่ค้าขายหอยสดุ ฮอต01 มสี องประการ ไดแ้ ก่ หอยของเธอสะอาด02 และอธั ยาศยั ดี03 แบบฝึกทกั ษะ 1.เคร่ืองรางยมทูต01ประกอบไปดว้ ย ผา้ คลมุ ล่องหน02 หินชบุ วิญญาณ03 และไมก้ ายสิทธ์ิเอลเดอร0์ 4 2. โรคหวดั 01ทาใหเ้ กดิ อาการ 3 อยา่ ง ไดแ้ ก่ ไอ02 จาม03 และปวดหวั 04 3. การกินอาหารปรงุ สกุ 01ชว่ ยป้องกนั โรคพยาธิ02 รวมทงั้ อหิวาตกโรค03และโรคท้องร่วง04ไดเ้ ป็นอยา่ งดี หน้าท่ี - 33 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง 4. สาเหตุทท่ี าใหเ้ กดิ สิว01มหี ลายประการ เชน่ ไขมนั 02 แบคทีเรีย03 และการอดุ ตนั 04 5. ทงั้ ความจริงใจ01 ความไวใ้ จ02 และความเขา้ ใจ03 ลว้ นแตเ่ ป็นองคป์ ระกอบของความรกั ท่ีดี04 6. ความเรว็ 01 ความแขง็ แกร่ง02 รวมทงั้ ความเฉียบคม03 ทาใหก้ องหลงั กลวั 04โรนลั โดเ้ ป็นอยา่ งมาก 7. ความเสย่ี งตอ่ การเกดิ โรคหวั ใจ01สามารถลดน้อยลงไดห้ ากเราไม่ด่มื เหล้า02 ไม่สบู บหุ รี่03 รวมทงั้ กิน กระเทียม04ใหม้ ากขน้ึ 8. ห่นุ ไล่กาที่ต้องการสมอง01 ห่นุ กระป๋ องท่ีต้องการหวั ใจ และสิงโตตวั ใหญ่ท่ีต้องการความกล้าตา่ งคอื เพอื่ นรว่ มเดินทางของโดโรธีเพอ่ื ไปพบพอ่ มดแห่งออช 9. ผา้ คลุมล่องหน01 หินชบุ วิญญาณ02 และไมก้ ายสิทธ์ิแอลเดอร0์ 3 สง่ิ ของทงั้ 3 สง่ิ น้ี ชว่ ยยบั ยงั้ การ ครอบครองโลกเวทยม์ นต์04ของลอรด์ โวลเดอรม์ อร์ และชว่ ยปกป้องผบู้ รสิ ุทธไิ ์ ดเ้ ป็นจานวนมาก หน้าท่ี - 34 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง 10. การจะสอบไดค้ ะแนนดนี นั้ ไมม่ เี สน้ ทางลดั หากเอาแต่ขเี้ กยี จ01ไม่ยอมอ่านหนงั สอื ละเลยการทา ข้อสอบเกา่ 02 และไม่เตรยี มตวั เตรยี มใจใหด้ กี อ่ นไปสอบ การจะสอบได้คะแนนดี03คงเป็นแค่ความฝัน ต่อไป ชดุ ที่ 3 ความสมั พนั ธแ์ บบซบั ซ้อน ประโยคความซ้อน ตวั อยา่ งท่ี 1ปัญหาน้าท่วม01 ซง่ึ เป็นผลมาจากพายไุ ต้ฝ่ นุ 02 ทาใหต้ ้นไมเ้ น่าตาย03 ตวั อยา่ งท่ี 2 กลูต้าไธโอน01 ซง่ึ เป็นหน่งึ ในสารท่ีผลิตจากตบั 02 สามารถยบั ยงั้ การสรา้ งเมด็ สีเมลานิ น03 ทาใหส้ ผี วิ อ่อนลง การย่อคา เปล่ียนคา และรวบคา ตวั อย่างที่ 1 จากปัญหาผอู้ พยพชาวโรฮิงญา01 เป็นสาเหตหุ ลกั ทท่ี าใหป้ ระเทศไทยถกู จดั อนั ดบั อย่ใู น กล่มุ tier302 และจากปัญหาดงั กลา่ วยงั กอ่ ใหเ้ กดิ การถกเถยี งเรอ่ื งสิทธิมนุษยชน03อยา่ งกวา้ งขวางใน สงั คมไทย ตวั อย่างที่ 2 ส่วนหน่งึ ของปัญหาการศึกษาไทย01 คอื การขาดโอกาส02การเขา้ ถงึ ทรพั ยากรของเดก็ บางกลุ่ม ซง่ึ การมโี อกาสน้อยหรอื ไม่เป็นผลมาจากพืน้ ฐานเศรษฐกิจของครอบครวั 03 ของนกั เรยี น หน้าท่ี - 35 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง แบบฝึ กทกั ษะ 1.การทดลองขปี นาวธุ 01 ของประเทศเกาหลเี หนือสง่ ผลโดยตรงตอ่ ประเทศเกาหลใี ต้ คอื ทาให้ นักท่องเที่ยว ลดลง02 กวา่ เทา่ ตวั รวมไปถงึ ทาใหร้ าคาทองคาที่เพ่ิมสงู ขนึ้ 03 ในตลาดโลกลดลง อยา่ งน่าใจหาย 2. เครอื่ งยนตท์ างานขดั ข้อง01 ทาใหม้ อี ากาศเข้าไปในตวั ถงั 02จนเกดิ การเผาไหมไ้ ม่สมา่ เสมอ03 3. การประกาศลดกาลงั การผลิตน้ามนั 01 ของกล่มุ OPEC มผี ลทาใหป้ ระเทศไทยขาดดลุ การค้าเพ่ิมขึน้ 02 อกี ทงั้ ยงั ทาใหก้ ารขยายตวั ทางเศรษฐกิจลดลง03 อกี ทางหน่งึ ดว้ ย 4. นกั ศกึ ษาคงมศี กั ยภาพแสดงใหท้ วั่ โลกประจกั ษ์ และเหน็ ถงึ ความสามารถ รวมถงึ ควา้ ชยั บนเวทีระดบั สากล01 เพราะคณุ ภาพคนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก02 ไม่ใชเ่ ป็นเพยี งแคส่ ง่ิ คาดหวงั และรอคอยอยา่ งไร้ ว่ีแวว03 5. น้ามนั แพง01เป็นสาเหตุใหต้ ้นทนุ การผลิตสงู ขนึ้ 02 และทาใหก้ ารฟื้ นตวั ทางเศรษฐกิจ03ทก่ี าลงั ดขี น้ึ กลบั ลดลง หน้าท่ี - 36 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง 6. เพราะความหนาว01และการอากาศท่ีชืน้ 02 กอ่ ใหเ้ กดิ การเบง่ บานของไมด้ อก03แสนสวยงาม 7. น้าท่วมกรงุ เทพ01คราวน้มี สี าเหตุมาจากน้าเหนือท่ีไหลบา่ ลงมา02ประกอบกบั น้าทะเลที่หนุนสงู ขนึ้ 03 8. ฝนตก01ทาใหข้ า้ วเจริญเติบโต02ไดด้ ี ในขณะทฝ่ี นแล้ง03ทาใหข้ า้ วไมเ่ จรญิ เตบิ โตเทา่ ทค่ี วร 9. คลอโรฟี ลล0์ 1ทาให้ พืชสามารถสงั เคราะหแ์ สง02ได้ ความสามารถดงั กลา่ วทาใหพ้ ชื สรา้ งอาหารได้03 10. การปะทขุ องดวงอาทิตย0์ 1จะส่งพลงั งานจานวนมหาศาล02ออกมา ทาใหเ้ กดิ ประจไุ ฟฟ้า03เลด็ ลอดออกมามากมาย กลายเป็นลมสรุ ิยะ04ทม่ี คี วามรุนแรงจนถงึ ขนั้ กลายเป็นพายสุ รุ ิยะ05และสามารถ เดนิ ทางมาถงึ โลกเราไดภ้ ายในระยะเวลาเพยี งไม่กส่ี บิ นาที หน้าท่ี - 37 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง การแปลงรหสั คาตอบ หลงั จากการทาแผนผงั Mind Mapping ไดแ้ ลว้ ขนั้ ตอนทน่ี บั วา่ มคี วามสาคญั มาก คอื การนาแผนผงั Mind Mapping มาแปลรหสั คาตอบ 1. ถา้ ขอ้ ความทก่ี าหนดมขี อ้ ความอน่ื ซ่งึ อาจมไี ดห้ ลายขอ้ ความ เป็นผลโดยตรง หรอื เกิดขึน้ ใน ลาดบั ถดั มาใหร้ ะบายเลข 2 หลกั หน้าขอ้ ความทเ่ี ป็นผลโดยตรงหรอื เกดิ ขน้ึ ในลาดบั ถดั มาแลว้ ตามดว้ ย ตวั อกั ษร A ตวั อย่างท่ี 1 คนไทยเชอ่ื กนั วา่ การบูชาแมโ่ พสพ จะทาใหก้ ารทานาไดผ้ ลดี ตลอดจนไมม่ ปี ัญหาต่างๆ อาทิ ภยั จากธรรมชาติ ศตั รูพชื เป็นตน้ 01 การบชู าแมโ่ พสพ 02 การทานาไดผ้ ลดี เลขกากบั ขอ้ ความที่กาหนด ท่ีว่างสาหรบั ร่างรหสั คาตอบ 01 การบชู าแม่โพสพ 02A 02 การทานาไดผ้ ลดี 99H3 ตวั อย่างท่ี 2 แสงแดดเป็นสาเหตทุ ท่ี าใหเ้ กดิ โรคมะเรง็ โรคลมแดด และโรคผวิ หนงั ได้ 02 โรคมะเรง็ 01 แสงแดด 03 โรคลมแดด เลขกากบั ข้อความท่ีกาหนด 04 โรคผวิ หนงั 01 แสงแดด ท่ีวา่ งสาหรบั รา่ งรหสั คาตอบ 02 โรคมะเรง็ 02A 03A 04A 03 โรคลมแดด 99H 04 โรคผวิ หนงั 99H 99H 3 ถา้ ขอ้ ความทก่ี าหนด ไม่มขี อ้ ความอ่นื ทเ่ี ป็นผลโดยตรงหรอื เกดิ ขน้ึ ในลาดบั ถดั มา หรอื ทเ่ี ป็นส่วนประกอบ องคป์ ระกอบ ความหมาย หรอื ถูกลด/ ยบั ยงั้ /ป้องกนั /หา้ ม/ขดั ขวาง ดงั กลา่ วขา้ งตน้ ใหร้ ะบายคาตอบเป็น ตวั เลข 99H หน้าท่ี - 38 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง 2. ถา้ ขอ้ ความทก่ี าหนดมขี อ้ ความอน่ื ซง่ึ อาจมไี ดห้ ลายขอ้ ความ เป็นส่วนประกอบ/ องคป์ ระกอบ/ ความหมาย ใหร้ ะบายเลข 2 หลกั หน้าขอ้ ความทเ่ี ป็นส่วนประกอบ/ องคป์ ระกอบ/ความหมายแลว้ ตาม ดว้ ยตวั อกั ษร D ตวั อยา่ ง คนไทยเชอ่ื วา่ แมโ่ พสพ เป็นเทวีแห่งขา้ วสถติ ยอ์ ยกู่ ลางทอ้ งท่งุ นา เป็นผทู้ รงอนุภาพศกั ดาเรอื ง ฤทธชิ์ ว่ ยชบุ ชวี ติ มนุษยใ์ หย้ นื ยาว 01 แมโ่ พสพ 02 เทวแี ห่งขา้ ว เลขกากบั ข้อความที่กาหนด ท่ีว่างสาหรบั รา่ งรหสั คาตอบ 02D 01 แม่โพสพ 99H 02 เทวแี ห่งขา้ ว ตวั อย่างที่ 2 แม่สที างแสงประกอบดว้ ยสแี ดง สเี ขยี ว และสนี ้าเงนิ 02 สแี ดง 01 แม่สที างแสง 03 สเี ขยี ว 04 สนี ้าเงนิ เลขกากบั ขอ้ ความที่กาหนด ท่ีวา่ งสาหรบั รา่ งรหสั คาตอบ 01 แม่สที างแสง 02D 03D 04D 02 สแี ดง 99H 03 สเี ขยี ว 99H 04 สนี ้าเงนิ 99H หน้าท่ี - 39 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง 3. ถา้ ขอ้ ความทก่ี าหนดมขี อ้ ความอน่ื ซ่งึ อาจมไี ดห้ ลายขอ้ ความ ถกู ลด/ ยบั ยงั้ /ป้องกนั /ห้าม/ขดั ขวาง ใหร้ ะบายเลข 2 หลกั หน้าขอ้ ความทถ่ี กู ลด/ ยบั ยงั้ /ป้องกนั /ห้าม/ขดั ขวาง แลว้ ตามดว้ ยตวั อกั ษร F ตวั อย่าง จากวารสารทางการแพทยร์ ะบวุ า่ การกนิ กระเทยี ม สามารถชว่ ยยบั ยงั้ การเกดิ โรคมะเรง็ ไดเ้ ป็น อย่างดี 01 การกนิ กระเทยี ม 02 โรคมะเรง็ เลขกากบั ข้อความท่ีกาหนด ที่ว่างสาหรบั รา่ งรหสั คาตอบ 02F 01 การกนิ กระเทยี ม 99H 02 โรคมะเรง็ ตวั อยา่ งท่ี ความรกั ทด่ี ี สามารถชว่ ยป้องกนั ไมใ่ หเ้ กดิ ความอจิ ฉา ความเหน็ แกต่ วั และความแคน้ ได้ 02 ความอจิ ฉา 01 ความรกั ทด่ี ี 03 ความเหน็ แกต่ วั เลขกากบั ข้อความท่ีกาหนด 04 ความแคน้ 01 ความรกั ทด่ี ี ที่วา่ งสาหรบั รา่ งรหสั คาตอบ 02 ความอจิ ฉา 02F 03F 04F 03 ความเหน็ แกต่ วั 99H 04 ความแคน้ 99H 99H หน้าท่ี - 40 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง แบบฝึกทกั ษะการแปลงรหสั คาตอบ 1. สาเหตุสาคญั ที่ทาให้เราสามารถทาข้อสอบ GAT (ภาษาไทย) ได้คะแนนสูง มีหลายประการ ดว้ ยกนั กล่าวคอื การร้จู กั โครงสร้างของขอ้ สอบ เพราะทาใหเ้ รามองเหน็ ภาพที่ชดั เจนของโจทยป์ ัญหา การเข้าใจวิธีการทาข้อสอบ เพราะจะทาให้เราไม่หลงทิ ศทางและเกิดความสับสน นอกจากน้ี ความสามารถในการอ่านอย่างวิเคราะห์เช่ือมโยง ก็เป็นอีกปัจจยั หน่ึงเน่ืองจากจะทาให้เรามองเห็น ประเดน็ ของเนื้อเรื่องได้อยา่ งชดั เจนและครบถว้ น ท่ีว่างสาหรบั รา่ งแผนผงั มโนทศั น์ เลข ขอ้ ความที่กาหนด ท่ีวา่ งสาหรบั รา่ งรหสั กากบั คาตอบ 01 ไมห่ ลงทศิ ทางและเกดิ ความสบั สน 02 การรจู้ กั โครงสรา้ งของขอ้ สอบ 03 มองเหน็ ภาพทช่ี ดั เจนของโจทยป์ ัญหา 04 สาเหตุสาคญั ทท่ี าใหเ้ ราสามารถสอบ GAT (ภาษาไทย) ไดค้ ะแนนสงู 05 การเขา้ ใจวธิ กี ารทาขอ้ สอบ 06 ความสามารถในการอ่านอย่างวเิ คราะหเ์ ช่อื มโยง 07 มองเหน็ ประเดน็ ของเน้อื เรอ่ื งไดอ้ ยา่ งชดั เจนครบถว้ น หน้าท่ี - 41 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง 2. การยตุ คิ วามรนุ แรงที่กาลงั เกิดขึน้ ในสงั คมไทยในขณะน้ี สามารถกระทาไดห้ ลายวธิ ดี ว้ ยกนั ไม่วา่ จะ เป็นการหนั หน้ามาพดู คยุ กนั การสร้างกติกาหรือขอ้ ตกลงรว่ มกนั ตลอดจนการยอมลดทิฐิของแต่ละ ฝ่ายลง แตอ่ ย่างไรกต็ ามกจ็ ะตอ้ งขน้ึ อยกู่ บั ทุกฝ่ายจะตอ้ งมีความจริงใจ และความปรารถนาดีต่อสงั คม โดยแท้จริง เสยี ก่อน วธิ กี ารตา่ งๆจงึ จะเกดิ สมั ฤทธผิ ล ที่วา่ งสาหรบั รา่ งแผนผงั มโนทศั น์ เลข ขอ้ ความท่ีกาหนด ท่ีว่างสาหรบั ร่างรหสั คาตอบ กากบั 01 ความจรงิ ใจ 02 ความปรารถนาดตี อ่ สงั คมโดยแทจ้ รงิ 03 ความรุนแรงทก่ี าลงั เกดิ ขน้ึ ในสงั คมไทย 04 การหนั หน้ามาพดู คยุ กนั 05 การสรา้ งกตกิ าหรอื ขอ้ ตกลงรว่ มกนั 06 การยอมลดทฐิ ขิ องแต่ละฝ่ายลง 3.โรคไข้หวดั ใหญ่สายพนั ธใ์ุ หม่ 2009 ป้องกนั ไดไ้ ม่ยาก เพยี งหมนั ่ ล้างมอื ด้วยสบู่และน้าสะอาด ใช้เจล แอลกอฮอลลล์ ้างมอื ในกรณีที่ไมม่ ีน้าและสบู่ หลีกเลี่ยงการสมั ผสั วตั ถหุ รอื สถานท่ีสาธารณะ หรอื ไม่ ใช้มอื ขยตี้ าตลอดจนล้วงแคะแกะเกาอวยั วะใดๆ ที่ว่างสาหรบั รา่ งแผนผงั มโนทศั น์ เลข ข้อความที่กาหนด ท่ีวา่ งสาหรบั รา่ งรหสั คาตอบ กากบั 01 โรคไขห้ วดั ใหญ่สายพนั ธใุ์ หม่ 2009 02 หมนั่ ลา้ งมอื ดว้ ยสบู่และน้าสะอาด 03 ใชเ้ จลแอลกอฮอลลล์ า้ งมอื ในกรณที ไ่ี มม่ นี ้าและสบู่ 04 หลกี เลย่ี งการสมั ผสั วตั ถหุ รอื สถานทส่ี าธารณะ 05 ไมใ่ ชม้ อื ขยต้ี าตลอดจนลว้ งแคะแกะเกาอวยั วะใดๆ หน้าท่ี - 42 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง 4. ส่ิงที่อยู่ในถงั ขยะอาจไมใ่ ชข่ ยะทงั้ หมด หากลองสารวจกนั ดแู ลว้ จะพบวา่ สงิ่ ท่เี ป็นขยะจรงิ ๆ มเี พยี ง “3%” เทา่ นนั้ นนั่ คอื ขยะมพี ษิ หรอื ขยะอนั ตรายทค่ี วรจดั การอยา่ งระมดั ระวงั สง่ิ ทอ่ี ยู่ในถงั ขยะสามารถนากลบั มาใช้ ใหม่ไดด้ งั น้ี 46% เป็นสิ่งที่ย่อยสลายได้ เชน่ เศษอาหารนาไปเป็นอาหารสตั วห์ รอื ทาป๋ ยุ หมกั 42% เป็น ส่ิงของรีไซเคิลได้ เชน่ ขวดพลาสติก เม่อื นากลบั มาใชใ้ หม่ไมไ่ ดแ้ ลว้ จงึ คดั แยกประเภทเพอ่ื สง่ รไี ซเคลิ 9% เป็นของที่ย่อยสลายยาก เช่น ถ่านไฟฉาย ต้องส่งต่อให้กบั เทศบาล ส่งให้โรงเผาปูน หรอื หน่วยงานบาง แหง่ รบั ไปเผาเป็นเชอ้ื เพลงิ ทดแทน ท่ีวา่ งสาหรบั รา่ งแผนผงั มโนทศั น์ เลข ข้อความที่กาหนด ท่ีว่างสาหรบั ร่างรหสั คาตอบ กากบั 01 สง่ิ ทอ่ี ยูใ่ นถงั ขยะ 02 ขยะ 03 สง่ิ ทย่ี ่อยสลายได้ 04 สงิ่ ของรไี ซเคลิ ได้ 05 ของทย่ี ่อยสลายยาก 06 เศษอาหาร 07 ขวดพลาสตกิ 08 ถ่านไฟฉาย หน้าท่ี - 43 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง 5. โรคหวดั ทาใหเ้ กดิ อาการ 3 อยา่ ง ไดแ้ ก่ ไอ จาม และปวดหวั โดยโรคหวดั มที ม่ี าจากหลายสาเหตุ เชน่ การติดเชือ้ ไวรสั สายพนั ธุต์ า่ งๆ ทม่ี มี ากมายในปัจจบุ นั การตากฝนซ่งึ ทาใหอ้ ณุ หภูมริ า่ งกาย เปลย่ี นแปลงอยา่ งรวดเรว็ ตลอดจนภมู ิคมุ้ กนั อ่อนแอทบ่ี างคนมอี าการน้ตี ดิ ตวั มาตงั้ แต่เดก็ ท่ีว่างสาหรบั รา่ งแผนผงั มโนทศั น์ เลข ข้อความท่ีกาหนด ที่วา่ งสาหรบั ร่างรหสั คาตอบ กากบั 01 โรคหวดั 02 ไอ 03 จาม 04 ปวดหวั 05 การตดิ เชอ้ื ไวรสั 06 ภูมคิ มุ้ กนั ออ่ นแอ 6. การเข้านอนดึกและต่ืนสายช่วงวนั หยุด ทาใหน้ าฬกิ าของรา่ งกายถูกปรบั ใหส้ ายขน้ึ ส่งผลใหร้ สู้ กึ งวั เงยี ในชว่ งเชา้ วนั จนั ทร์ ซง่ึ ทาให้ภาวการณ์เรยี นร้บู กพร่องและขาดสมาธิ อกี ทงั้ ยงั มผี ลการวจิ ยั หลาย ประเทศระบุชดั เจนวา่ การทเ่ี ดก็ หรอื วยั รุ่นเขา้ นอนดกึ และต่นื สายในชว่ งวนั หยดุ หรอื นอนไมเ่ พยี งพอตอ่ ความ ตอ้ งการของร่างกาย มีผลกระทบต่อการเจริญต่อการเจริญเติบโตของรา่ งกายดว้ ย อาทิ รปู รา่ งเตี้ย ไม่แขง็ แรง ท่ีวา่ งสาหรบั ร่างแผนผงั มโนทศั น์ เลข ขอ้ ความท่ีกาหนด ท่ีว่างสาหรบั ร่างรหสั คาตอบ กากบั 01 การเขา้ นอนดกึ 02 ตน่ื สายชว่ งวนั หยุด 03 ภาวะการณเ์ รยี นรบู้ กพรอ่ งและขาดสมาธิ 04 มผี ลกระทบต่อการเจรญิ ต่อการเจรญิ เตบิ โตของร่างกาย 05 รูปรา่ งเตย้ี 06 ไม่แขง็ แรง หน้าท่ี - 44 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง 7. พระอรหนั ต์สมั มาสมั พุทธเจ้าได้ทรงจาแนกบุคคลในโลกของเรา ดงั ปรากฏในพระพุทธคุณบทท่วี ่าด้วย อนุตตโรปุริสทมั มสารถิไวด้ ว้ ยกนั 2 จาพวก จาพวกแรกคอื ปุรสิ ทมั มะ หมายถงึ บคุ คลที่ควรฝึ กหรอื ฝึ ก ได้ ประกอบด้วยบุคคล 3 ประเภท คอื อุคคติตญั ญู วปิ จติ ญั ญู และเนยยะ ส่วนจาพวกทส่ี องนัน้ คือ ปุริ สอทมั มะ หมายถงึ บุคคลท่ีไม่ควรฝึ กฝนหรือฝึ กไม่ได้ ได้แก่ บุคคลท่เี รียกว่า ปทปรมะ เราและท่าน ทงั้ หลายพงึ ระลกึ วา่ ตนเองจดั อยู่ในบุคคลประเภทใด ที่ว่างสาหรบั ร่างแผนผงั มโนทศั น์ เลข ขอ้ ความท่ีกาหนด ท่ีวา่ งสาหรบั ร่างรหสั คาตอบ กากบั 01 เนยยะ 02 บคุ คลทค่ี วรฝึกหรอื ฝึกได้ 03 บคุ คลทไ่ี ม่ควรฝึกหรอื ฝึกไม่ได้ 04 ปทปรมะ 05 อนุตตโรปรุ สิ ทมั มสารถิ 06 อุคคตติ ญั ญู หน้าท่ี - 45 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง 8. นักเรียนดีเป็นอย่างไร หากจะกล่าวอย่างสนั้ ท่สี ุดกค็ อื นกั เรยี นดี จะตอ้ งมคี ุณสมบตั หิ รอื องค์ประกอบ อย่างน้อย 2 อย่าง คอื เรียนเก่ง และ เป็นคนดี เหตุปัจจยั ท่สี ่งผลใหน้ ักเรยี นดมี หี ลายอย่างเชน่ พื้นฐาน จิตใจนักเรียน คณุ ภาพการเรียนการสอน คณุ ภาพอาจารยผ์ ้สู อน คณุ ภาพสถานศึกษา สาหรบั คณุ ภาพ การเรยี นการสอนนนั้ นอกจากเรอ่ื งหอ้ งสมดุ อาคารสถานท่ี อุปกรณ์ ส่อื การศกึ ษา ฯลฯ ยงั ขน้ึ อย่กู บั คณุ ภาพ อาจารย์ด้วย นอกจากน้ี จะต้องรู้จกั ระวงั หลกี เล่ยี งสง่ิ ท่จี ะก่อให้เกดิ ความเสยี หายต่อตนเอง เช่น การคบ เพือ่ นเลว เพราะย่อมบนั่ ทอนความเป็นคนดไี ดโ้ ดยงา่ ย ท่ีว่างสาหรบั ร่างแผนผงั มโนทศั น์ เลข ข้อความท่ีกาหนด ที่วา่ งสาหรบั รา่ งรหสั คาตอบ กากบั 01 การคบเพอ่ื นเลว 02 คณุ ภาพการเรยี นการสอน 03 คุณภาพสถานศกึ ษา 04 คณุ ภาพอาจารย์ 05 นกั เรยี นดี 06 เป็นคนดี 07 พน้ื ฐานจติ ใจนกั เรยี น 08 เรยี นเก่ง หน้าท่ี - 46 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง 9. สานกั ขา่ วบบี ซี ขี ององั กฤษเผยผลการวจิ ยั ท่สี ร้างความต่นื เตน้ ให้วงการแพทยเ์ ป็นอย่างมากกว่า ผทู้ ม่ี โี อ เมก้า 3 มโี อกาสท่จี ะทาให้เป็นโรคอลั ไซเมอรน์ ้อยลง ซ่งึ ตรงกนั ขา้ มกบั ผ้ทู ี่นิ ยมบริโภคอาหารจานด่วน หรอื ฟาสต์ฟ้ดู ทท่ี าใหก้ รดไขมนั สงู ขน้ึ มโี อกาสทจ่ี ะทาใหเ้ ป็นโรคดงั กลา่ วมากขน้ึ โดยผลการวจิ ยั พบวา่ จาก การศกึ ษาการตรวจหาสารตา่ งๆ ในเลอื ดของกลมุ่ ตวั อย่างและพฤตกิ รรมการรบั ประทานอาหาร ปรากฏวา่ ผทู้ ่ี มกี รดไขมนั ในกระแสเลือดสูง จะแปรผนั ตรงกบั การฝ่อตวั ของสมอง กล่าวคอื กรดไขมนั ในเลอื ดทส่ี ูงจะมี โอกาสทาให้เกดิ การฝ่ อตวั ของสมอง ท่สี ูงตามไปด้วย หรอื มโี อกาสท่จี ะป่ วยด้วยโรคอลั ไซเมอร์เพิม่ ข้นึ ขณะทผ่ี ลการศกึ ษาของผเู้ ชย่ี วชาญจากสหรฐั กอ็ อกมาในลกั ษณะเดยี วกัน เมอ่ื ศกึ ษาตวั อย่างเลอื ดของกลุ่ม ตวั อย่าง 104 คน ซง่ึ มอี ายุเฉลย่ี 87 ปี พบวา่ ผทู้ ม่ี โี อเมกา้ 3 ในปรมิ าณมากจะมผี ลการทดสอบความจาอย่ใู น เกณฑท์ ด่ี ี ดงั นนั้ เพ่อื สุขภาพควรหนั มาทานอาหารท่มี ีโอเมก้า 3 และในประเทศไทยกม็ สี ารชนิดน้ีอยู่มากใป ปลาทูและข้าวกล้องซง่ึ เป็นอาหารทไ่ี ม่แพงและหาทานไดง้ ่ายดว้ ย ดงั นนั้ ควรจะหนั มาทานโอเมกา้ 3 กนั ทุก คนนะครบั ท่ีว่างสาหรบั รา่ งแผนผงั มโนทศั น์ เลข ข้อความที่กาหนด ที่วา่ งสาหรบั ร่างรหสั คาตอบ กากบั 01 โรคอลั ไซเมอร์ 02 ผทู้ น่ี ิยมบรโิ ภคอาหารจานด่วนหรอื ฟาสตฟ์ ู้ด 03 กรดไขมนั ในกระแสเลอื ดสูง 04 การฝ่อตวั ของสมอง 05 โอเมกา้ 3 06 ปลาทู 07 ขา้ วกลอ้ ง หน้าท่ี - 47 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง 10. ภาวะเงินฝื ด หรอื เรยี กวา่ Deflation คอื ภาวะท่รี ะดบั ราคาสนิ ค้าและบรกิ ารโดยทวั่ ไปลดลงเรอ่ื ยๆ ภาวะเงนิ ฝืดนัน้ มีอยู่ 2 ประเภท คอื ภาวะเงินฝื ดจากด้านอุปทาน (Supply side) และภาวะเงินฝื ดจาก ด้านอปุ สงค์ (Demand side) โดยภาวะเงนิ ฝืดจากดา้ นอุปทานเกดิ จากการเพ่ิมของผลผลิตอยา่ งมากมาย ในระยะเวลาอนั สนั้ ตวั อย่างเชน่ เราอาจเคยใชค้ น 4 คน ผลติ แกว้ 4 ใบ แตต่ อนน้ีแรงงานของเราเก่งขน้ึ ทา ใหใ้ ชแ้ ค่3 คน กผ็ ลติ แกว้ 4 ใบเท่าเดมิ ได้ อนั น้ีกท็ าใหต้ น้ ทุนการผลติ แก้วถูกลงและทาให้ราคาแกว้ ถูกลงแต่ อย่างไรกต็ ามภาวะเงนิ ฝืดจากดา้ นอุปทานจะไม่ใชส่ ง่ิ ท่นี ่ากลวั เพราะเงนิ ฝืดประเภทน้จี ะไมท่ าใหค้ นตกงาน และส่งผลกระทบต่อรายไดข้ องคน ซง่ึ แตกต่างจากภาวะเงนิ ฝืดอกี ประเภทหน่งึ คอื ภาวะเงนิ ฝืดทม่ี สี าเหตุมา จากด้านอุปสงค์ ภาวะเงนิ ฝืดท่มี าจากด้านอุปสงค์ หรอื Demand side คอื สง่ิ ทน่ี กั เศรษฐศาสตรก์ ลวั ซ่งึ เกดิ จากความต้องการบริโภคของผบู้ ริโภคที่ลดลง อนั เป็นผลสบื เน่ืองมาจากคนไม่มีรายได้จบั จ่ายใช้สอย คนตกงาน รวมถึงภาวะเศรษฐกิจตกต่า ทาให้คนขายสนิ ค้าลดราคาสินค้าลงเพ่อื ให้ยงั ขายได้ทงั้ น้ีเรา สามารถหลกี เลย่ี งไม่ให้เกดิ ภาวะเงนิ ฝืดได้ โดยอาศยั การกระตุ้นเศรษฐกิจในรปู แบบต่างๆหลายวธิ ี ทงั้ การใช้นโยบายการเงิน เชน่ การลดอตั ราดอกเบี้ย รวมถึงการใช้นโยบายการคลงั เชน่ การลดภาษี การใช้จ่ายของภาครฐั เพ่อื สรา้ งงานและการลงทุน ซ่งึ เท่าท่ที ราบขณะน้ีหน่วยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ งทัง้ ธนาคาร แห่งประเทศไทยและกระทรวงการคลังก็ได้ดาเนินไปในแนวทางท่ีจะหลีกเล่ยี งไม่ให้เกิดภาวะเงินฝืดใน ประเทศไทยอย่แู ลว้ ที่วา่ งสาหรบั ร่างแผนผงั มโนทศั น์ หน้าท่ี - 48 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง เลข ขอ้ ความที่กาหนด ที่ว่างสาหรบั ร่างรหสั คาตอบ กากบั 01 การกระตนุ้ เศรษฐกจิ ในรปู แบบตา่ งๆ 02 การเพม่ิ ของผลผลติ อยา่ งมากมายในระยะเวลาอนั สนั้ 03 ความตอ้ งการบรโิ ภคของผบู้ รโิ ภคทล่ี ดลง 04 การใชน้ โยบายการคลงั 05 การใชน้ โยบายการเงนิ 06 การลดอตั ราดอกเบย้ี 07 การลดภาษี การใชจ้ า่ ยของภาครฐั 08 คนไม่มรี ายไดจ้ บั จ่ายใชส้ อย 09 ภาวะเงนิ ฝืด 10 ภาวะเงนิ ฝืดจากดา้ นอปุ ทาน 11 ภาวะเงนิ ฝืดจากดา้ นอปุ สงค์ 12 ภาวะเศรษฐกจิ ตกต่า หน้าท่ี - 49 -
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา รายวชิ า ท32101 ภาษาไทย 9 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เอกสารแบบฝึกหดั ทาขอ้ สอบ GAT เชอ่ื มโยง ประมวลบทความขอ้ สอบ GAT เชื่อมโยง ปี พ.ศ. 2552– 2560 / โดยครฮู าดี บินด่เู หลม็ ชื่อบทความ ปี พ.ศ. สตั วอ์ พยพเคลอ่ื นยา้ ยกลบั ถนิ่ กาเนดิ ไดอ้ ยา่ งไร 2552 อนาคตราคาสนิ คา้ เกษตรของไทย 2552 ลุยฝ่าวกิ ฤตเศรษฐกจิ โลก สศก. แนะทางสว่างแกป้ ัญหาสนิ คา้ เกษตร 2552 นกในอเมรกิ าหลายชนดิ เสย่ี งต่อการสญู พนั ธุ์ 2552 ทางรอดชวี ติ ของเต่าทะเลสเี ขยี วในฮอ่ งกง 2552 ปัญหาวยั รุ่น ตน้ เหตุและทางแก้ 2552 พระราชดารสั ในวนั เสดจ็ ออกมหาสมาคม 2553 ปัญหานิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด 2553 เมษายน ปีเสอื ดุ 2553 คลายเครยี ดดว้ ยการสรา้ งความสขุ 2553 วยั รนุ่ ไทยทาลายสถติ เิ อเชยี 2553 จุดอ่อนของคนไทย 2553 ปีกระต่ายเศรษฐกจิ โลกจะฟ้ืนตวั จรงิ หรอื 2554 ใกลส้ น้ิ ปีเสอื เสอื ใกลจ้ ะสญู พนั ธุ์ 2554 อนาคตของประเทศ...บทวเิ คราะหแ์ ผนพฒั นา ฉบบั ท่ี 11 2555 แผนป้องกนั และแก้ไขปัญหาอุทกภยั 2555 ป่ าพรุควนเครง็ 2555 อะไรจะเกดิ นบั ตงั้ แต่วนั ท่ี 1 มกราคม 2558 2555 พษิ ภยั ของมลพษิ 2556 เดก็ ไทยไอทเี ดก็ ลอ็ ค 2556 เหตุใดจงึ คดั คา้ นเขอ่ื นแม่วงก์ 2557 ปญหาทุจรติ 2557 ปัญหาขา้ วไทย 2557 การลว่ งละเมดิ ทางเพศ ภยั ใกลต้ วั สาหรบั สตรี 2558 ความสุขของคนอาเซยี น 2558 รา้ นเหลา้ รอบสถานศกึ ษา 2558 ปัญหาขยะลน้ เมอื ง 2558 เศรษฐกจิ ไทย พ.ศ. 2559 2559 เพม่ิ พน้ื ทป่ี ่าลดปัญหาภยั แลง้ 2559 ผลกระทบของ Bretix 2559 Digital technology เปลย่ี นโลก 2559 ทฤษฎใี หม่ หน่งึ ในพระมหากรุณาธคิ ุณหาทส่ี ุดไม่ได้ 2560 อาหารรมิ ทางภยั ใกลต้ วั 2560 หน้าท่ี - 50 -
Search