Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 411-17

411-17

Published by อัมรินทร์ ศรีเพ็ญ, 2018-08-15 00:26:01

Description: 411-17

Search

Read the Text Version

เวสสันดรชาดก จัดทาโดยนายอมั รินทร์ ศรีเพญ็ ม.4/11เลขท่ี 17 นาเสนอ อาจารย์ นางสาวสริภรณ์ แจ่มใส

คานา กรายงานเล่มน้ีจดั ทา ข้ึนเพอื่ เป็นส่วนหน่ึงของวชิ าวทิ ยาการนวณช้นัม.๔/๑๑ เพ่ือใหไ้ ดศ้ ึกษาหาความรู้ในเร่ืองการทา พระเวสสนั ดรและได้ศึกษาอยา่ งเขา้ ใจเพื่อเป็ นประโยชน์ กบั การเรียน การสอน และการใช้เวลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชนผ์ จู้ ดั ทาหวงั วา่ รายงานเล่มน้ีจะเป็ นประโยชน์กบั ผอู้ ่านนหรือผทู้ ี่กา ลงั หาขอ้ มลู เรื่องน้ีอยหู่ ากมีขอ้ แนะนา หรือขอ้ผิดพลาดประการใดผจู้ ดั ทา ขอนอ้ มรับไวแ้ ละขออภยั มา ณ ท่ีน้ีดว้ ย

สารบญั ข เร่ือง หนา้คานาสารบญั กพระเวสสันดรชาดก ขบรรณานุกรม 1-13 14

1พระเจ้าสญชัย ทรงครองราชสมบัตเิ มืองสีพี มพี ระมเหสีทรงพระนามว่า พระนางผุสดี ธิดาพระเจ้ากรุงมัททราช พระนางผสุ ดนี ีใ้ นชาตกิ ่อนๆ ได้เคยถวายแก่นจนั ทน์หอมเป็ นพทุ ธบูชาและอธิษฐาน ขอให้ได้เป็ นพทุ ธมารดาพระพทุ ธเจ้าในกาลอนาคตคร้ันเมือ่ นางสิ้นชีวติ กไ็ ด้ไปบังเกดิ ในเทวโลก เมอ่ื ถงึ วาระทจ่ี ะต้องจุตมิ าเกดิ ในโลกมนุษย์ พระอนิ ทร์ได้ประทานพรสิบประการแก่นาง คร้ันเมือ่ พระนางผุสดที รงครรภ์ใกล้กาหนดประสูติ พระนางปรารถนาไปเทย่ี วชมตลาด ร้านค้าบงั เอญิ ในขณะเสดจ็ประพาสน้ัน พระนางทรงเจบ็ ครรภ์และประสูตพิ ระโอรสในบริเวณย่านน้ัน พระโอรสจงึ ทรงพระนามว่าเวสสันดร หมายถงึ ในท่ามกลางระหว่างย่านค้าขาย พร้อมกับท่ีพระโอรสประสูติ ช้างต้นของพระเจ้าสญชัยกต็ กลูกเป็ นช้างเผอื กเพศผู้ได้รับชื่อว่าปัจจยั นาค เป็ นช้างต้นคู่บุญพระเวสสันดรเมอ่ื พระกมุ ารเวสสันดรทรงเจริญวยั ขนึ้ ทรงมีพระทยั ฝักใฝ่ ในการบริจาคทาน มักขอพระราชทานทรัพย์จากพระบดิ ามารดา เพอ่ื บริจาคแก่ประชาชนอยู่เป็ นนิตย์ ทรงขอให้พระบดิ าต้งั โรงทานส่ีมุมเมอื ง เพอ่ื บริจาคข้าวปลาอาหารและสิ่งของจาเป็ น แก่ประชาชน และหากมีผู้มาทูลขอส่ิงหน่ึง ส่ิงใด พระองค์กจ็ ะทรงบริจาคให้โดยมไิ ด้เสียดาย ด้วยทรงเห็นว่า การบริจาคน้ันเป็ นกศุ ลเป็ นคุณประโยชน์อนั ยงิ่ ใหญ่ ท้งั แก่ผู้รับและผู้ให้ ผู้รับกจ็ ะพ้นความเดอื ดร้อน ผู้ให้กจ็ ะอม่ิ เอบิ เป็ นสุขใจทไ่ี ด้ช่วยเหลอืผู้อน่ื และยงั ทาให้พ้นจากความโลภความตระหนี่ถเี่ หนียวในทรัพย์สมบัติของตนอกีด้วย พระเกยี รตคิ ุณของพระเวสสันดรเลอ่ื งลอื ไปทว่ั ทกุ ทศิ ว่าทรงมจี ติ เมตตาแก่ผู้อน่ืมไิ ด้ ทรงเห็นแก่ความสุขสบายหรือเห็นแก่ทรัพย์สมบตั สิ ่วนพระองค์ มิได้ทรงหวงแหนส่ิงใด ไว้สาหรับพระองค์

2อยมู่ าคร้ังหน่ึงในเมืองกลิงคราษฏร์เกิดขา้ วยากหมายแพงเพราะฝนแลง้ ทาให้เพาะปลูกไม่ได้ ราษฎร์อดอยากไดร้ ับความเดือนร้อนสาหสั ประชาชนชาวกลิงคราษฏร์พากนั ไปเฝ้ าพระราชา ทลู วา่ ในเมืองสีพีน้นั มีชา้ งเผอื กคบู่ ุญพระเวสสนั ดรช่ือวา่ ชา้ งปัจจยั นาค เป็นชา้ งมีอานาจพเิ ศษ ถา้ อยเู่ มืองใด จะทาใหฝ้ นฟ้ าตกตอ้ งตามฤดูกาล พชื พนั ธุ์จะบริบูรณ์ ขอใหพ้ ระเจา้ กลิงคราษฏร์ส่งทูตเพือ่ ไปทลู ขอชา้ งจากพระเวสสนั ดร พระเวสสนั ดรกจ็ ะทรงบริจาคใหเ้ พราะพระองคไ์ ม่เคยขดั เม่ือมีผทู้ ูลขอส่ิงใด พระเจา้ กลิงคราษฏร์จึงส่งพราหมณ์แปดคนไปเมืองสีพี คร้ันเม่ือพราหมณ์ไดพ้ บพระเวสสนั ดรขณะเสดจ็ ประพาสพระนคร ประทบั บนหลงั ชา้ งปัจจยั นาค พราหมณ์จึงทลู ขอชา้ งคู่บุญเพ่อื ดบั ทุกขช์ าวกลิงคราษฏร์พระเวสสนั ดรกโ็ ปรดประทานให้ตามท่ีขอ ชาวสีพีเห็นพระเวสสนั ดรทรงบริจาคชา้ งปัจจยั นาคคู่บา้ นคู่เมืองไป ดงั น้นั ก็ไม่พอใจ พากนั โกรธเคืองวา่ ต่อไปบา้ นเมืองจะลาบาก เม่ือไม่มีชา้ งปัจจยั นาคเสียแลว้จึงพากนั ไปเขา้ เฝ้ าพระเจา้ สญชยั ทูลกล่าวโทษพระเวสสนั ดรวา่ บริจาคชา้ งคู่บา้ นคู่เมือง แก่ชาวเมืองอื่นไป ขอใหข้ บั พระเวสสนั ดรไปเสียจากเมืองสีพี พระเจา้ สญชยั ไม่อาจขดั ราษฏรได้ จึงจาพระทยั มีพระราชโองการใหข้ บั พระเวสสนั ดรออกจากเมืองไปพระเวสสนั ดรไม่ทรงขดั ขอ้ ง แต่ทลู ขอพระราชทานโอกาสบริจาคทาน คร้ังใหญ่ก่อนเสดจ็ ออกจากพระนคร พระบิดากท็ รงอนุญาตใหพ้ ระเวสสนั ดรทรงบริจาค สตั สดกมหาทาน คือบริจาค ทานเจด็ ส่ิง ส่ิงละเจด็ ร้อย แก่ประชาชนชาว

3เมือ่ พระนางมัทรี พระมเหสีของพระเวสสันดรทรงทราบว่าประชาชนขอให้ขบั พระเวสสันดร ออกจากเมอื ง กก็ ราบทูลพระเวสสันดรว่า\"พระองค์เป็ นพระราชสวามีของหม่อมฉัน พระองค์เสดจ็ ไปทใ่ี ด หม่อมฉันจะขอตดิ ตาม ไปด้วยทุกหนทุกแห่งมิได้ย่อท้อต่อความ ลาบาก ขนึ้ ช่ือว่าเป็ นสามีภรรยาแล้ว ย่อมต้องอยู่เคยี งข้างกนั ในทุกทท่ี ุกเวลา ไม่ว่ายามสุข หรือทุกข์ โปรดประทานอนุญาตใิ ห้หม่อมฉันตดิ ตามไปด้วยเถดิ \"พระเวสสันดรไม่ทรงประสงค์ให้พระนางมทั รี ติดตามพระองค์ไป เพราะการเดินทางไปจากพระนครย่อมมีแต่ความยากลาบาก ท้งั พระองค์ เองกท็ รงปรารถนาจะเสดจ็ ไปประทบั บาเพญ็ ศีลภาวนาอยู่ในป่ า พระนางมทั รีไม่คุ้นเคยต่อสภาพเช่นน้ัน ย่อมจะต้องลาบากยากเขญ็ ท้งั อาหารการกนิ และความเป็ นอยู่ แต่ไม่ว่าพระเวสสันดรจะตรัสห้ามปรามอย่างไร นางกม็ ยิ อมฟัง บรรดาพระประยูรญาติ กพ็ ากนั อ้อนวอนขอร้อง พระนางกท็ รงยนื กรานว่าจะตดิ ตามพระราชสวามีไปด้วยพระนางผสุ ดจี งึ ทรงไปทูลขอพระเจ้าสญชัย มใิ ห้ขบั พระเวสสันดรออกจากเมอื ง พระเจ้าสญชัยตรัสว่า\"บ้านเมอื งจะเป็ นสุขได้กต็ ่อ เมอื่ ราษฏรเป็ นสุข พระราชาจะเป็ นสุขได้ก็ เมื่อราษฏรเป็ นสุข ถ้าราษฏรมีความทุกข์ พระราชาจะนิ่งเฉยอย่ไู ด้อย่างไร ราษฏรพากนักล่าวโทษพระเวสสันดรว่าจะทาให้บ้านเมอื งยากเขญ็ เราจงึ จาเป็ นต้องลงโทษ แม้ว่าพระเวสสันดรจะเป็ นลูกของเรากต็ าม\"

4ไม่ว่าผู้ใดจะห้ามปรามอย่างไร พระนางมัทรีกจ็ ะตามเสดจ็ พระเวสสันดรไปให้จงได้พระเจ้าสญชัยและพระนางผุสดจี งึ ขอเอา พระชาลี พระกณั หา โอรสธิดาของพระเวสสันดรไว้ แต่พระนางมัทรีกไ็ ม่ยนิ ยอม ทรงกล่าวว่า \"เมอ่ื ชาวเมืองสีพรี ังเกยี จพระเวสสันดรให้ขบั ไล่ไปเสียดงั นี้ พระโอรสธิดาจะอย่ตู ่อไปได้อย่างไร ชาวเมอื งโกรธแค้นขนึ้ มา พระชาลกี ณั หากจ็ ะทรงได้รับความลาบาก จงึ ควรที่จะออกจากเมืองไปเสียพร้อมพระบดิ าพระมารดา“ในทสี่ ุดพระเวสสันดร พร้อมด้วยพระมเหสี และโอรสธิดากอ็ อกจากเมอื งสีพไี ป แม้ในขณะน้ันชาวเมืองยงั ตามมาทูลขอรถพระทน่ี ง่ั ท้งั สี่พระองค์จงึ ต้องทรงดาเนินด้วยพระบาทออกจากเมืองสีพมี ุ่งไปสู่ป่ า เพอ่ื บาเพญ็ พรตภาวนาคร้ันเสดจ็ มาถงึ เมอื งมาตุลนครบรรดากษตั ริย์เจตราชทรงทราบข่าว จงึ พากนั มาต้อนรับ พระเวสสันดร ทรงถามถงึ ทางไปสู่เขาวงกต กษตั ริย์เจตราชกท็ รงบอกทางให้และเล่าว่า เขาวงกตน้ันต้องเดนิ ทางผ่านป่ าใหญ่ที่เต็ม ไปด้วยอนั ตราย แต่เมือ่ ไปถงึ สระโบกขรณแี ล้วกจ็ ะเป็ นบริเวณร่มร่ืนสะดวกสบาย มีต้นไม้ผล ที่จะใช้เป็ นอาหารได้นอกจากนีก้ ษตั ริย์เจตราช ยงั ได้ส่ังให้ พรานป่ าเจตบุตร ซึ่งเป็ นผู้ชานาญป่ าแถบน้ันให้คอยเฝ้ าระแวดระวงั รักษาต้นทาง ทจี่ ะไปสู่เขาวงกต เพอ่ื มิให้ผู้ใดไปรบกวนพระเวสสันตรในการบาเพญ็ พรต เว้นแต่ทูต จากเมอื งสีพที จ่ี ะมาทูลเชิญเสดจ็ กลบั นครเท่าน้ัน ทจ่ี ะยอมให้ผ่านเข้าไปได้

5เม่ือเสดจ็ ไปถงึ บริเวณสระโบกขรณอี นั เป็ นท่ีร่มรื่นสบาย พระเวสสันดร พระนางมทั รีตลอดจนพระโอรสธิดา กผ็ นวชเป็ นฤาษบี าเพญ็ พรตภาวนาอยู่ ณ ทนี่ ้ัน โดยมีพรานป่ าเจตบุตรคอยรักษาต้นทางณ ตาบลบ้านทุนนวฐิ เขตเมอื งกลงิ คราษฏร์มพี ราหมณ์เฒ่าช่ือ ชูชก หาเลยี้ งชีพด้วยการขอทาน ชูชก ขอทานจนได้เงนิ มามาก จะเกบ็ ไว้เองก็กลวั สูญหาย จงึ เอาไปฝากเพอื่ นพราหมณ์ไว้อยู่มาวนั หน่ึง ชูชกไปหาพราหมณ์ทต่ี นฝากเงินได้ จะขอเงนิ กลบั ไป ปรากฎว่าพราหมณ์น้ันนาเงินไปใช้หมดแล้ว จะหามาใช้ให้ชูชกกห็ าไม่ทนั จงึ จูงเอาลูกสาวช่ือ อมิตตดา มายกให้แก่ชูชก พราหมณ์กล่าวแก่ชูชกว่า\"ท่านจงรับเอาอมิตตดาลูกสาวเราไปเถดิ จะเอาไปเลยี้ งเป็ นลูกหรือภรรยา หรือจะเอาไปเป็ นทาสรับใช้ปรนนิบตั กิ ส็ ุด แล้วแต่ท่านจะเมตตา\"ชูชกเห็นนางอมติ ตดาหน้าตาสะสวย งดงามกห็ ลงรัก จงึ พานางไปบ้าน เลยี้ งดูนางในฐานะภรรยา นางอมิตตดาอายยุ งั น้อย หน้าตางดงาม และมีความกตญั ญู ต่อพ่อแม่ นางจงึ ยอมเป็ นภรรยาชูชกผู้แก่เฒ่า รูปร่างหน้าตาน่ารังเกยี จอมิตตดา ปรนนิบัตชิ ูชกอย่างภรรยาทด่ี ีจะพงึ กระทาทุกประการ นางตกั น้า ตาข้าว หุงหาอาหาร ดูแลบ้านเรือนไม่มีขาดตกบกพร่อง ชูชกไม่เคยต้องบ่นว่าหรือตกั เตอื นส่ังสอนแต่ อย่างใดท้งั สิ้น

6ความประพฤติทด่ี เี พยี บพร้อมของนาง อมิตตดาทาให้เป็ นทสี่ รรเสริญของบรรดาพราหมณ์ท้งั หลายในหมู่บ้านน้ัน ในไม่ช้า บรรดาพราหมณ์เหล่าน้ันกพ็ ากนั ตาหนิติเตียนภรรยาของตนท่มี ิได้ประพฤตติ นเป็ น แม่บ้านแม่เรือนอย่างอมติ ตดา บางบ้านก็ถงึ กบั ทุบตภี รรยาเพอื่ ให้รู้จกั เอาอย่างนาง เหล่านางพราหมณที ้งั หลายได้รับความเดอื ดร้อน กพ็ ากนั โกรธแค้นนางอมติ ตดา ว่าเป็ นต้นเหตุวนั หนึ่งขณะทนี่ างไปตักน้าในหมู่บ้าน บรรดานางพราหมณกี ร็ ุมกนั เย้ยหยนั ทนี่ างมสี ามีแก่ หน้าตาน่าเกลยี ดอย่างชูชก นางพราหมณพี ากนั กล่าวว่า\"นางกอ็ ายนุ ้อย หน้าตางดงาม ทาไมมายอมอย่กู บัเฒ่าชรา น่ารังเกยี จอย่างชูชก หรือว่ากลวั จะหาสามไี ม่ได้ มิหนาซ้ายงั ทา ตนเป็ นกาลกณิ ี พอเข้ามาในหม่บู ้านกท็ าให้ ชาวบ้านสิ้นความสงบสุข เขาเคยอย่กู นั มาดๆี พอนางเข้ามากเ็ ดอื ดร้อนไปทกุ หย่อมหญ้า หาความสงบไม่ได้ นางอย่าอย่ใู นหม่บู ้านน้ีเลยจะไปไหนกไ็ ปเสียเถดิ “ ยงั พากนั หยกิ ท้งึึ้ ทาร้ายนางอมิตตดา จนนางทนไม่ได้ ต้องไม่เพยี งกล่าววาจาด่าทอหนีกลบั บ้านร้องไห้ มาเล่าให้ชูชกฟัง ชูชกจงึ บอกว่าต่อไปนีน้ างไม่ต้องทาการ งานส่ิงใด ชูชกจะเป็ นฝ่ ายทาให้ทุกอย่าง นางอมติ ตดาจงึ ว่า\"ภรรยาทดี่ จี ะทาเช่นนั้นได้อย่างไร จะปล่อยให้สามมี าปรนนิบัตริ ับใช้ เราทาไม่ได้หรอก ลกู หญงิ ทพ่ี ่อแม่อบรมส่ังสอนมาดี ย่อมจะไม่นั่งนอนอย่เู ฉยๆ ดแี ต่ชี้น้ิวให้ผ้อู ื่นปรนนิบตั ติ น น่ีแน่ะ ชูชก ถ้าท่านรักเราจริง ท่านจงไปหาบริวารมาปรนนิบตั ริ ับใช้เราดกี ว่า\"

7ในท่ีสุดชูชกจึงตดั สินใจเดินทางไปเขาวงกตเพื่อทูลขอพระชาลีกณั หา เม่ือไปถึงบริเวณปากทางเขา้ สู่เขาวงกต ชูชกกไ็ ดพ้ บพรานเจตบุตรผรู้ ักษาปากทาง หมาไล่เน้ือท่ีพรานเล้ียงไวพ้ ากนั รุมไล่ตอ้ นชูชกข้ึนไปจนมุมอยบู่ นตน้ ไม้ เจตบุตรกเ็ ขา้ ไปตะคอกชูชกน้นั เป็นคนมีไหวพริบ สงั เกตดูเจตบุตรกร็ ู้วา่ เป็นคนซ่ือสตั ย์ มีฝีมือเขม้ แขง็ แต่ขาดไหวพริบ จึงคิดจะใชว้ าาจาลวง เจตบุตรใหห้ ลงเช่ือ พาตนเขา้ ไปพบพระเวสสันดรให้ได้ ชูชกจึงกล่าวแก่เจตบุตรวา่ \"นี่แนะ เจา้ พรานป่ าหนา้ โง่ เจา้ หารู้ไม่วา่ เราเป็นใครผอู้ ื่นเขาจะเดินทางมาใหย้ ากลาบากทาไมจนถึงนี่ เรามาในฐานะทูต ของพระเจา้ สญัชยั เจา้ เมืองสีวพี จะมาทูลพระเวสสนั ดรวา่ บดั น้ีชาวเมืองสีพีไดค้ ิดแลว้ จะมาทูลเชิญเสดจ็ กลบั พระนคร เราเป็นผมู้ าทูลพระองคไ์ วก้ ่อน เจา้ มวั มาขดั ขวางเราอยอู่ ยา่ งน้ีเม่ือไรพระเวสสนั ดรจะไดเ้ สดจ็ คืนเมือง\"เจตบุตรไดย้ นิ กห็ ลงเชื่อ เพราะมีความจงรักภกั ดี อยากใหพ้ ระเวสสนั ดรเสดจ็ กลบั เมืองอยแู่ ลว้ จึงขอโทษชูชก จดั การหาอาหารมาเล้ียงดู แลว้ ช้ีทางใหเ้ ขา้ ไปสู่อาศรมท่ีพระเวสสนั ดรบาเพญ็ พรตภาวนาอยู่

8เมือ่ ชูชกมาถงึ อาศรมกค็ ดิ ได้ว่า หากเข้าไปทูลขอ พระโอรสธิดาในขณะพระนางมทั รีอยู่ด้วย พระนางคงจะไม่ยนิ ยอมยกให้เพราะความรัก อาลยั พระโอรสธิดา จงึ ควรจะรอจนพระนางเสดจ็ ไปหาผลไม้ในป่ าเสียก่อน จงึ ค่อยเข้า ไปทูลขอต่อพระเวสสันดรเพยี งลาพงั ในวนั น้ัน พระนางมทั รีทรงรู้สึกไม่สบายพระทยั เป็ นอย่างยง่ิ เพราะในตอนกลางคนื พระนางทรงฝันร้ายว่า มบี ุรุษร่างกายกายา ถอื ดาบ มาตดั แขนซ้ายขวาของพระนางขาด ออกจากกาย บุรุษน้ันควกั ดวงเนตร ซ้ายขวา แล้วยงั ผ่าเอาดวงพระทยัพระนางไปด้วย พระนางมทั รีทรงสังหรณ์ว่าจะมีเหตุร้ายเกดิ ขนึ้ จงึ ทรงละล้าละลงั ไม่อยากไปไกลจาก อาศรม แต่คร้ันจะไม่เสดจ็ ไปกจ็ ะไม่มผี ลไม้มาให้พระเวสสันดรและโอรสธิดาเสวยพระนางจงึ จูงโอรสธิดาไปทรงฝากฝังกบั พระเวสสันดรขอให้ทรงดูแลตรัสเรียกหา ให้เล่นอยู่ใกล้ๆ บรรณศาลาพร้อมกบั เล่าความฝันให้พระเวสสันดรทรงทราบ

9พระเวสสันดรทรงหยง่ั รู้ว่าจะมีผู้มาทูลขอพระโอรสธิดา แต่คร้ันจะบอกความตามตรง พระนางมทั รีกค็ งจะทนไม่ได้ พระองค์เองน้ัน ต้งั พระทยั มั่นว่าจะบริจาคทรัพย์สมบตั ทิ ุกส่ิงทุกประการในกายนอกกาย แม้แต่ชีวติ และ เลอื ดเนือ้ ของพระองค์ หากมผี ู้มาทูลขอกจ็ ะ ทรงบริจาคให้โดยมิได้ทรงเสียดายหรือหวาดหวนั่ พระเวสสันดรจงึ ตรัสกบั พระนางมทั รีว่าจะดูแลพระโอรสธิดาให้ พระนางมทั รีจงึ เสดจ็ ไปหาผลไม้ในป่ าแต่ลาพงัคร้ันชูชกเห็นได้เวลาแล้ว จงึ มุ่งมาทอ่ี าศรม ได้พบพระชาลพี ระกณั หาทรงเล่นอยู่หน้าอาศรมกแ็ กล้งขู่ ให้สองพระองค์ตกพระทยั เพอ่ื ข่มขวญั ไว้ก่อน แล้วชูชกพราหมณ์เฒ่ากเ็ ข้าไปเฝ้ า พระเวสสันดรกล่าววาจากราบทูลด้วยโวหาร อ้อมค้อมลดเลยี้ ว ชักแม่น้าท้งั ห้า เพอื่ ทูลขอพระโอรสธิดาไปเป็ นข้าช่วงใช้ของตนพระเวสสันดรทรงมีพระทัยยนิ ดที จ่ี ะทรงกระทาบุตรทาน คอื การบริจาคบุตรเป็ นทาน อนั หมายถงึ ว่า พระองค์เป็ นผู้สละกเิ ลส ความหวงแหนในทรัพย์สมบตั ทิ ้งั ปวง แม้กระทง่ั บุคคลอนั เป็ นทรี่ ัก ก็สามารถสละ เป็ นทานเพอื่ ประโยชน์แก่ผู้อนื่ ได้ แต่พระองค์ทรงผดั ผ่อนต่อชูชกว่าขอให้ พระนางมทั รีกลบั มาจากป่ าได้ร่าลาโอรสธิดา เสียก่อนชูชกกไ็ ม่ยนิ ยอม กลบั ทูลว่า\"หากพระนางกลบั มา สัญชาตญาณแห่งมารดา ย่อมจะทาให้พระนางหวงแหนห่วงใย พระโอรสธิดา ย่อมจะไม่ทรงให้พระโอรส ธิดาพรากจากไปได้ หากพระองค์ทรง ปรารถนาจะบาเพญ็ ทานจริง กโ็ ปรดยกให้หม่อมฉันเสียแต่บัดน้ีเถดิ \"

10ชูชกคร้ันได้ตวั พระชาลกี ณั หาเป็ นสิทธิขาดแล้ว กแ็ สดงอานาจฉุดลากเอาสอง กมุ ารเข้าป่ าไป เพอ่ื จะให้เกดิ ความยาเกรงตน พระเวสสันดรทรงสงสารพระโอรสธิดา แต่ก็ไม่อาจทาประการใดได้เพราะทรงถอื ว่า ได้บริจาคเป็ นสิทธิแก่ชูชกไปแล้วคร้ันพระนางมัทรีทรงกลบั มาจากป่ าในเวลาพลบค่า เทยี่ วตามหาโอรสธิดาไม่พบ กม็ าเฝ้ าทูลถามจากพระเวสสันดร พระเวสสันดรจะทรงตอบความจริงกเ็ กรงว่า นางจะทนความเศร้าโศกมิได้ จงึ ทรงแกล้งตาหนิว่านางไปป่ าหาผลไม้กลบั มาจนเยน็ ค่า คงจะรื่นรมย์มากจนลมื นึกถงึ โอรสธิดาและสวามที ค่ี อยอยู่พระนางมัทรี ได้ทรงฟังกเ็ สียพระทยั ทูลตอบว่า\"เมอื่ หม่อมฉันจะกลบั อาศรม มีสัตว์ร้ายวนเวยี นดกั ทางอยู่ หม่อมฉันจะมา กม็ ามิได้จนเยน็ ค่า สัตว์ร้ายเหล่าน้ันจงึ จากไป หม่อมฉันมีแต่ความสัตย์ซื่อมไิ ด้เคยนึกถงึ ความสุขสบายส่วนตวั เลยแม้แต่น้อยนิด บัดน้ีลกู ของหม่อมฉันหายไปจะเป็ นตายร้ายดอี ย่างไรกม็ ิทราบ หม่อมฉันจะเที่ยวตดิ ตามหาจนกว่าจะพบลกู “พระนางมทั รีทรงออกเทยี่ วตามหาพระชาลกี ณั หาตามรอบบริเวณศาลา เท่าไรๆ ก็มไิ ด้พบจนในทสี่ ุด พระนางกส็ ิ้นแรงถงึ กบั สลบไป พระเวสสันดรทรงเวทนา จงึ ทรงนาน้าเยน็ มาประพรมจนนางฟื้ นขนึ้ กต็ รัสเล่าว่าได้บริจาค โอรสธิดาแก่พราหมณ์เฒ่าไปแล้ว ขอให้พระนางอนุโมทนาในทานบารมีทที่ รงกระทา ไปน้ันด้วยบุตรทานทพ่ี ระราชสวามีทรงบาเพญ็ และมพี ระทยั ค่อยบรรเทาจากความโศกเศร้า

11ฝ่ ายท้าวสักกะเทวราชทรงเลง็ เห็นว่า หากมผี ู้มาทูลขอพระนางมัทรีไป พระเวสสันดรกจ็ ะทรงลาบาก ไม่อาจบาเพญ็ เพยี รได้เต็มความปรารถนา เพราะต้องทรงแสวงหาอาหารประทงั ชีวติ ท้าวสักกะจงึ แปลงองค์เป็ นพราหมณ์ มาขอรับบริจาคพระนางมทัรีพระเวสสันดร กท็ รงปิ ติยนิ ดที ีจ่ ะได้ประกอบทารทาน คอื การบริจาคภรรยาเพอ่ืประโยชน์แก่บุคคลอนื่ พระนางมทั รีกท็ รงเตม็ พระทยั ทจี่ ะได้ทรงมสี ่วนในการบาเพญ็ทานบารมตี ามทพ่ี ระเวสสันดรทรงต้งั พระทัยไว้เมอื่ ได้รับบริจาคแล้ว ท้าวสักกะกท็ รงกลบั คนื ร่างดงั เดมิ และตรัสสรรเสริญอนุโมทนาในกศุ ลแห่งทานบารมีของพระเวสสันดร แล้วถวายพระนางมัทรีกลบั คนื แด่พระเวสสันดร พระเวสสันดรจงึ ได้ทรงประกอบบุตรทารทาน อนั ยากทผ่ี ู้ใดจะกระทาได้สมดงั ท่ีได้ต้งั พระทัย ว่าจะบริจาคทรัพย์ของพระองค์เพอื่ ประโยชน์แก่ผู้อนื่ โดยปราศจากความหวงแหนเสียดายฝ่ ายชูชกพาสองกมุ ารเดนิ ทางมาในป่ า ระหกระเหินได้รับความลาบากเป็ นอนั มากและหลงทางไปจนถงึ เมืองสีพบี ังเอญิ ผ่านไปหน้าท่ปี ระทับพระเจ้าสญชัยทรงทอดพระเนตรเห็นพระนัดดาท้งั สองกท็ รงจาได้ จงึ ให้เสนาไปพาเข้ามาเฝ้ า ชูชกทูลว่าพระเวสสันดรทรงบริจาคพระชาลกี ณั หาให้เป็ นข้าทาสของตนแล้ว บรรดาเสนาอามาตย์และประชาชนท้งั หลาย ต่างกพ็ ากนั สงสารพระกมุ ารท้งั สอง และ ตาหนิพระเวสสันดรทม่ี ไิ ด้ทรงห่วงใยพระโอรสธิดา

12พระชาลเี ห็นผู้อนื่ พากนั ตาหนิตเิ ตยี นพระบดิ าจงึ ทรงกล่าวว่า\"เมอื่ พระบดิ าเสดจ็ ไปผนวชอย่ใู นป่ า มไิ ด้ทรงมีสมบัตใิ ดติดพระองค์ไป แต่ทรงมีพระทยั แน่วแน่ทจ่ี ะสละกเิ ลส ไม่หลงใหลหวงแหนในสมบตั ิสิ่งหน่ึงสิ่งใด แม้บุคคลอันเป็ นทร่ี ักกย็ ่อมสละได้เพอ่ื ประโยชน์แก่ผ้อู น่ื เพราะทรงมีพระทยั มนั่ ในพระโพธิญาณในภายหน้า ความรักความหลง ความโลภ ความโกรธ เป็ นกเิ ลสทข่ี วางกนั้ หนทางไปสู่พระโพธิญาณ พระบดิ าของหม่อมฉันสละกเิ ลสได้ดงั น้ี จะมาตาหนิติเตยี นพระองค์หาควรไม่\"พระเจ้าสญชัยได้ทรงฟังดงั น้ันกย็ นิ ดี จงึ ตรัสเรียกพระชาลใี ห้เข้าไปหา แต่พระชาลียงั คงประทบั อยู่กบั ชูชก และทูลว่า พระองค์ยงั เป็ นทาสของชูชกอยู่ พระเจ้าสญชัยจงึขอไถ่สองกมุ ารจากชูชกพระชาลตี รัสว่าพระบิดาตคี ่าพระองค์ไว้พนั ตาลงึ ทอง แต่พระกณั หาน้ันเป็ นหญงิ พระบิดาจงึ ตคี ่าตวั ไว้สูง เพอื่ มิให้ผู้ใดมาไถ่ตัวหรือซื้อขายไปได้ง่ายๆ พระกณั หา น้ันมีค่าตัวเท่ากบั ทรัพย์เจ็ดชีวติ เจ็ดสิ่ง เช่น ข้าทาส หญงิ ชายเป็ นต้น สิ่งละเจ็ดร้อย กบั ทองคาอกี ร้อยตาลงึ พระเจ้าสญชัยกโ็ ปรดให้เบิกสมบตั ิท้องพระคลงั มาไถ่ตวั พระนัดดาจากชูชก และโปรดให้จดั ข้าวปลาอาหารมาเลยี้ งดูชูชกเพอื่ ตอบแทนทพี่ าพระนัดดากลบั มาถึงเมอื ง

13ชูชกพราหมณ์เฒ่าขอทาน ไม่เคยได้บริโภคอาหารดๆี กไ็ ม่รู้จกั ยบั ย้งั บริโภคมาจนทนไม่ไหว ถงึ แก่ความตายในทส่ี ุดพระเจ้าสญชัยโปรด ให้จดั การศพแล้วประกาศหาผู้รับมรดก กห็ ามีผู้ใดมาขอรับไม่ หลงั จากน้ันพระเจ้าสญชัย จงึ ตรัสสั่งให้จดั กระบวนเสดจ็ เพอ่ื ไปรับ พระเวสสันดรและพระนางมทั รีกลบั คนื สู่เมืองสีพี เพราะบรรดาประชาชนกพ็ ากนั ได้คดิ ว่า พระเวสสันดรได้ทรงประกอบทานบารมี อนั ยง่ิ ใหญ่กว่าท้งั หลายท้งั ปวง กเ็ พอ่ื ประโยชน์แห่งผู้คนท้งั หลายหาใช่เพอื่ พระองค์เองไม่เม่อืกระบวนไปถึงอาศรมริมสระโบกขรณี กษตั ริย์ท้งั หกกท็ รงได้พบกนั ด้วยความโสมนสัยนิ ดีพระเจ้าสญชัยจงึ ตรัสบอกพระเวสสันดรว่า ประชาชนชาวสีพไี ด้เห็นสิ่งท่ีถูกทคี่ วรแล้ว และพากนั ร่าร้อง ได้ทูลเชิญเสดจ็ กลบั เมืองสีพี พระเวสสันดร พระนางมัทรี และพระชาลกี ณั หา จงึ ได้เสดจ็ กลบั เมือง พระเจ้าสญชัยทรงอภเิ ษกพระเวสสันดรขนึ้ครองเมืองสืบต่อไปคร้ันได้เป็ นพระราชาแห่งสีพี พระเวสสันดรกท็ รงยดึ ม่นั ในการประกอบทานบารมีทรงต้งั โรงทานบริจาคเป็ นประจาทุกวนั ชาวเมอื งสีพตี ลอดจนบ้านเมอื งใกล้เคยี ง ก็ได้รับพระเมตตากรุณา มีความร่มเยน็ เป็ นสุข ชาวเมืองต่างกเ็ ออื้ เฟื้ อช่วยเหลอื กนัมไิ ด้โลภ กระหายในทรัพย์สมบัติ ต่างกม็ ีจติ ใจผ่องใสเป็ นสุข เหมอื นดงั ท่พี ระเวสสันดรทรงต้งั พระปณธิ านว่า พระองค์จะทรงบริจาคทรัพย์สมบตั ทิ ้งั ปวง เพอื่ประโยชน์สุขแก่ผู้อน่ื ด้วยทรัพย์ท้งั หลาย ทาให้เกดิ กเิ ลส คอื ความโลภ ความหลงหวงแหน เมอื่ บริจาคทรัพย์แล้ว ผู้รับกจ็ ะได้ประโยชน์จากส่ิงน้ัน และมีความช่ืนชม ยนิ ดีผู้ให้กจ็ ะ อมิ่ เอมใจว่าได้ทาประโยชน์แก่ผู้อนื่ เกดิ ความปิ ตยิ นิ ดเี ช่นกนั ท้งั ผู้ให้และผู้รับย่อมได้รับ ความสุขความพงึ พอใจดงั นี้

บรรณานุกรม 14http://www.dhammathai.org/chadok/legend10.php


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook