วิจัยในชัน้ เรยี นหนา้ เดยี ว นางสาวจิราพร พมิ พว์ ชิ ัย ครู วทิ ยฐานะชานาญการพิเศษ กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม โรงเรยี นรอ้ ยเอ็ดวิทยาลยั
Classวrจิoัยoใmนชัน้aเcรtiยีoนn research โรงเรยี นรอ้ ยเอ็ดวทิ ยาลยั เรอื่ ง : การแกป้ ัญหานักเรียนเขา้ หอ้ งเรียนสายในคาบที่ 1 และคาบท่ี 5 ของนกั เรยี นช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3/2 สภาพปญั หา : สืบเนื่องจากการ สาเหตแุ ละปญั หาการวจิ ยั : เมือ่ ถึง นักเรยี นช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 3/2 เข้าหอ้ งเรียน เวลาเปล่ียนคาบนกั เรยี นทเี่ รยี นในคาบท่ี 1 และ 5 มกั สายในคาบเรยี นท่ี 1 และ 5 เป็นประจา การ เข้าเรียนสายเปน็ ประจา และเมื่อครเู ข้าสอนในรายวชิ า ทยอยเขา้ ห้องเรียนตลอดเวลา ทาใหน้ ักเรียน สงั คมศกึ ษา ครูจะตอ้ งเสยี เวลากับการซักถามสาเหตุ คนอนื่ เสยี สมาธใิ นการเรยี นไปด้วยย ส่วน และตกั เตอื นนักเรียน ตลอดคาบเรียน ทาใหก้ ารเรยี น คุณครผู ้สู อน ก็เบอ่ื หน่ายไม่ อยากสอนต้องคอย สะดดุ และทาใหเ้ พื่อนคนอนื่ ๆ เดอื ดรอ้ นราคาญไปด้วย ดแุ ละตักเตอื นตลอดเวลา เพือ่ นๆ ในห้องเลย ทีม่ ีการเปดิ ประตูเข้าหอ้ งตลอดเวลาดว้ ย เรยี นเนื้อหาไมต่ อ่ เน่อื งกนั เปา้ หมายการวิจัย : วิธีการวจิ ัย : 1. เพือ่ ใหน้ กั เรยี นมีจติ สานกึ ในการเขา้ เรยี นใหต้ รงเวลา 1. สรา้ งแรงบนั ดาลใจให้นกั เรียนมีจติ สานกึ ใน และ ตั้งใจเรียน การเขา้ เรยี น โดยการอบรมคณุ ธรรม ความ 2. กิจกรรมการเรยี นการสอนดาเนนิ ไปไดอ้ ย่างราบรนื่ ขยันหมั่นเพยี ร มีวินยั ความตรงตอ่ เวลา โดย ซ่ึงจะเปน็ ผลดตี อ่ นักเรยี นทาให้ได้รับความรู้ อย่างเต็มที่ อธบิ ายถึงประโยชนข์ องการมวี นิ ัย ตรงต่อเวลา ก็ และจะเป็นผลดีตอ่ เพ่ือนคนอื่นๆไมเ่ สยี สมาธิ ครูผู้สอนก็ จะได้ความรดู้ ีและมีความเขา้ ใจในเนอ้ื หาเทา่ ทนั จะมีความสุขกบั การสอน กับเพอ่ื นเปน็ อยา่ งดี ผลสัมฤทธใิ์ นการเรียนก็จะดี ไปด้วย สรปุ ผลการวิจัย : 2. ให้คาชมเชย ให้กาลงั ใจกับนกั เรียนทเ่ี ข้าเรยี น ตรงเวลา 1. จากการสังเกตพฤตกิ รรม นกั เรยี นมพี ฤตกิ รรมดขี ึ้น 3. มกี ิจกรรมเสริม เชน่ เกมความรู้กอ่ นเรยี นการ เป็นลาดบั และหลังเสร็จส้นิ การวิจัยนักเรยี นทกุ คนมี สอนทุกคาบเปน็ เวลาประมาณ 3 - 5 นาทีรวม พฤติกรรมการเรยี นตรงเวลามากขนึ้ เรยี นทันเพอ่ื น อยา่ งนอ้ ย 10 คาบ ต้งั ใจเรยี น ไมม่ ปี ญั หาการเปดิ ประตเู ขา้ ห้องเรยี น ตลอดเวลาอีก 2. ทาใหบ้ รรยากาศในการเรยี นการสอน ควรมีกจิ กรรมอน่ื ๆเพิ่มเติม ขอ้ เสนอแนะ :ดขี น้ึ นกั เรียนไมค่ ยุ กัน ครสู อนไมเ่ บ่ือหน่าย
วิจัยในช้ันเรียน Classroom action research โรงเรยี นรอ้ ยเอด็ วทิ ยาลัย เรอื่ ง : การแก้ปัญหานกั เรียนไมก่ ล้าแสดงความคิดเหน็ ของนกั เรยี นช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3/3 สภาพปญั หา : สืบเนือ่ งจากนกั เรยี น สาเหตุและปญั หาการวจิ ยั : เมอื่ ถงึ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3/3 ไมก่ ลา้ แสดงออกเวลา ชว่ งเวลาหลงั จากครอู ธิบายบทเรียนแลว้ ซักถาม ครใู ห้นักเรียนแสดงความคิดเห็นให้ตอบคาถาม นกั เรียนหรือใหน้ กั เรยี นถามข้อสงสยั ในหอ้ งเรียน มักนงั่ เฉยๆ ไมต่ อบ ไม่พูด เรยี กช่อื กไ็ มต่ อบ นกั เรียนนงั่ เงยี บ ไม่พดู ไม่จา สงสยั หรอื ไมส่ งสยั กไ็ มพ่ ูด ทาให้ครไู ม่อาจทราบได้วา่ นักเรียนเขา้ ใจหรือไม่ ทาให้ครูไมอ่ าจทราบได้วา่ นกั เรียนเข้าใจหรอื ไมเ่ ขา้ ใจใน เขา้ ใจบทเรยี น การเรียนคาบน้นั ๆ เปา้ หมายการวิจัย : 1. เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นกลา้ แสดงออกในหอ้ งเรียน 2. กิจกรรมการเรยี นการสอน เปน็ ไปตามวัตถุประสงค์ซงึ่ จะเปน็ ผลดีตอ่ นกั เรียนทาใหไ้ ด้รบั ความรู้ อย่าง เต็มที่ และจะเปน็ ผลดีต่อเพื่อนคนอ่นื ๆครูผู้สอนก็จะมีความสขุ กับการสอน วิธีการวจิ ัย : สรุปผลการวจิ ัย : 1. ใหน้ ักเรียนทางานกลุ่มเพม่ิ มากขึ้น โดยครง้ั แรกให้ 1. จากการสังเกตพฤตกิ รรม นักเรยี นมี แบง่ กล่มุ ก ข จานวนกล่มุ ละ 21 คน ส่งตวั แทน พฤติกรรมดขี ึน้ เปน็ ลาดบั และหลังเสรจ็ สนิ้ การ นาเสนองานหนา้ ช้นั วิจัยนักเรยี นทกุ คนมี พฤตกิ รรมการเรยี นท่มี กี ล้า 2. แบง่ กลุ่มย่อยลง เหลือกลุ่มละ 10 คน ส่งตวั แทน พูด กลา้ ถาม กลา้ แสดงความคดิ เหน็ มากขน้ึ เมอ่ื นาเสนอหนา้ ชัน้ เรยี น ครูถาม มคี นคอคาถามมากขนึ้ 3. แบง่ กล่มุ ๆ ละ 2 คน นาเสนอหนา้ ชัน้ 2. ทาใหบ้ รรยากาศในการเรียนการสอนดีขน้ึ 4. ครซู ักถามความเขา้ ใจจากการทเี่ พอื่ นๆ นาเสนองาน ทกุ ครั้ง เป็นเวลาอย่างน้อย 10 คาบ ข้อเสนอแนะ : ครูวรหากิจกรรมอ่นื ๆเพ่มิ เติมเพอ่ื ใหน้ กั เรียนไดแ้ สดงออกส
Classวrิจoยัoใmนช้นัaเcรtiียoนn research โรงเรยี นรอ้ ยเอ็ดวทิ ยาลยั เรอ่ื ง : การแก้ปัญหานักเรียนคุยกนั ในขณะทม่ี กี ารเรียนการสอน ของนกั เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3/4 สภาพปญั หา : สืบเนอื่ งจากการ สาเหตแุ ละปญั หาการวจิ ยั : เม่อื ถึง นักเรยี นช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3/4 น่งั คยุ กนั เปน็ ช่วงเวลาเปลยี่ นคาบนกั เรียนจะเปลยี่ นอริ ยิ าบถ พูดคยุ กลมุ่ ๆ ให้ความสนใจในการเรยี นเปน็ ชว่ งสัน้ ๆ ซักถาม ลุกจากเก้าอี้ และออกไปเดนิ บริเวณระเบยี งหน้า สลบั กบั การคยุ กบั เพ่ือนเป็นระยะๆตลอดคาบ ห้องเรียนเพอื่ ผอ่ นคลาย และเมอ่ื มาเรยี นในรายวิชา เรียน ทาใหน้ กั เรียนคนอื่นเสยี สมาธไิ ปด้วย สงั คมศึกษา ครูจะต้องเสียเวลากบั การเตรยี มความ สว่ นคณุ ครูผู้สอน กเ็ บือ่ หน่ายไม่ อยากสอนตอ้ ง พร้อมในการเรยี นของนักเรยี น โดยจดั ให้นกั เรียนกลุ่มน้ี คอยดแุ ละตักเตอื นตลอดเวลา เพือ่ นๆ ในห้อง แยกยา้ ยที่นงั่ กนั ทาใหเ้ พ่ือนคนอื่นๆ เดอื ดร้อนดว้ ย เลยเรียนเน้อื หาไมต่ ่อเน่อื งกัน สรุปผลการวจิ ัย : 1. จากการสังเกต เป้าหมายการวิจยั : พฤติกรรมนกั เรยี นมพี ฤติกรรมดขี น้ึ เป็นลาดบั 1. เพ่ือให้นกั เรยี นมจี ิตใจที่สงบมีสมาธิในการเรยี น ต้งั ใจ และหลงั เสร็จสน้ิ การวิจัยนกั เรียนทุกคนมี เรยี น พฤตกิ รรมการเรียนทมี่ สี มาธิมากข้นึ ไม่คยุ ต้งั ใจ 2. ไม่พูดคุยเร่อื งไรส้ าระขณะดาเนนิ กิจกรรมการเรยี น เรยี น ไมม่ ปี ญั หาในเร่ืองคยุ เสียงดงั ทางานชา้ การสอน ซง่ึ จะเปน็ ผลดีต่อนักเรียนทาใหไ้ ดร้ บั ความรู้ ส่งงานไม่ทนั 2. ทาใหบ้ รรยากาศในการเรยี นการ อยา่ งเต็มท่ี และจะเปน็ ผลดีต่อเพ่ือนคนอ่ืนๆไม่เสยี สมาธิ สอนดีขึน้ นกั เรยี นไม่คยุ กัน ครสู อนไมเ่ บ่อื หน่าย ครูผ้สู อนก็จะมีความสุขกบั การสอน ข้อเสนอแนะ : ควรหาสาเหตเุ พิ่มเติม วธิ ีการวจิ ัย : 1. ใหค้ วามรกู้ บั นักเรยี นในเร่อื งการบรหิ ารจติ (สมาธ)ิ โดยอธิบายถึงประโยชนข์ องการปฏบิ ัติสมาธิ อธิบาย ยกตวั อยา่ งให้เห็นจรงิ ว่า ผูม้ สี มาธแิ นว่ แนใ่ นส่ิงใดส่งิ หนง่ึ ในขณะใดขณะหนึง่ เมอื่ ทาอะไรก็จะสาเรจ็ อย่างเรว็ และดี ถ้า เรยี นหนงั สอื มสี มาธใิ นการเรยี น กจ็ ะไดค้ วามรดู้ แี ละมีความเข้าใจในเนอื้ หาเป็นอยา่ งดี ผลสัมฤทธ์ิ ในการเรยี นก็จะดีไปดว้ ย 2. อธบิ ายถึงข้นั ตอนการปฏบิ ตั สิ มาธิ และการปฏิบตั ิสมาธิแบบง่ายๆ เชน่ การยืนสงบนง่ิ หรอื น่ังบนเก้าอี้ 3. เริ่มปฏิบัตสิ มาธกิ ่อนเรียนการสอนทุกคาบเปน็ เวลาประมาณ 3 - 5 นาทรี วมอย่างนอ้ ย 10 คาบ
Search
Read the Text Version
- 1 - 5
Pages: