หนงั สอื อ่านเพิ่มเตมิ รายวชิ าการบญั ชเี บื้องตน้ รหสั ง30283 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 สมุดรายวนั ท่วั ไป นางสาวจิราพร พิมพว์ ชิ ัย ครชู านาญการพิเศษ โรงเรียนร้อยเอด็ วทิ ยำลัย สำนักงำนเขตพน้ื ท่ีกำรศึกษำมัธยมศึกษำรอ้ ยเอด็ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำข้นั พนื้ ฐำน กระทรวงศึกษำธกิ ำร
หน่วยท่ี 3 สมุดรายวันทว่ั ไป สมดุ รายวันขนั้ ตน้ (Book of Original Entry) หรือ สมดุ รายวัน (Journal) หมายถึงสมดุ บญั ชที ่จี ะใชจ้ ด บันทึกรายการคา้ ต่าง ๆ ทเี่ กิดขน้ึ เป็นขนั้ แรก โดยการจดบันทกึ รายการคา้ ทเ่ี กิดขึน้ น้ัน จะจดบนั ทึกโดยเรยี ง ตามลำดับก่อนหลังของการเกิดรายการคา้ ประเภทของสมดุ บัญชีขนั้ ตน้ (Types of Books of Original Entry) แบง่ ออกได้เปน็ 2 ประเภท 1. สมดุ รายวนั เฉพาะ(Special Journal)คือ สมุดรายวนั หรือสมุดบญั ชีขัน้ ต้นทใี่ ชบ้ ันทึกรายการค้า ทีเ่ กดิ ขน้ึ เร่ืองใดเรื่องหน่ึงโดยเฉพาะ 1.1 สมุดรายวันรบั เงิน (Cash Received Journal) เปน็ สมดุ รายวันทใ่ี ชบ้ ันทึกรายการค้าท่ี เกีย่ วกบั การรับเงนิ เทา่ นัน้ เช่น การรบั รายได้ การรบั ชำระหนี้ เป็นต้น 1.2 สมุดรายวันจ่ายเงนิ (Cash Payment Journal) เปน็ สมดุ รายวันท่ใี ชบ้ ันทึกรายการคา้ ท่เี กยี่ วกบั การจ่ายเงินเท่านนั้ เช่น จ่ายค่าใช้จ่าย ซือ้ สนิ ทรพั ย์ จ่ายเงนิ ชำระหนี้ เปน็ ต้น 1.3 สมุดรายวันซอื้ ( Purchases Journal ) เปน็ สมุดรายวันทใี่ ชบ้ ันทึกรายการค้าทเ่ี กยี่ วกับ การซอ้ื สินคา้ เป็น เงนิ เชอ่ื เทา่ นั้น 1.4 สมุดรายวนั ขาย (Sales Journal) เป็นสมุดรายวันที่ใชบ้ นั ทึกรายการคา้ ทเี่ ก่ยี วกับการ ขายสินคา้ เปน็ เงินเช่ือเท่านนั้ 1.5 สมุดรายวนั สง่ คืนสนิ คา้ (Purchases Returns and Allowance Journal) เปน็ สมุด รายวันทใ่ี ช้บนั ทกึ รายการค้าท่ีเกย่ี วกับการสง่ คนื สินค้าที่ซื้อมาเปน็ เงนิ เช่อื เทา่ นน้ั 1.6 สมุดรายวนั รบั คืนสนิ ค้า (Sales Returns and Allowance Journal) เป็นสมดุ รายวนั ที่ ใชบ้ ันทึกรายการค้าท่เี กยี่ วกบั การรับคืนสนิ คา้ ที่ขายเป็นเงนิ เชื่อเท่าน้ัน 2. สมดุ รายวันท่ัวไป (General Journal) คอื สมดุ บญั ชขี นั้ ตน้ หรือสมดุ รายวนั ทใี่ ชจ้ ดบนั ทึก รายการคา้ ท่ีเกิดข้นึ ทุกรายการ ถา้ กจิ การนนั้ ไมม่ ีสมุดรายวนั เฉพาะ แต่ถา้ กจิ การน้นั มีการใช้สมดุ รายวัน เฉพาะ สมุดรายวันทว่ั ไปก็จะมไี ว้เพื่อบนั ทึกรายการค้าอืน่ ๆ ท่ีเกิดขน้ึ และไม่สามาถนำไปบนั ทกึ ในสมุดรายวนั เฉพาะเลม่ ใดเลม่ หน่ึงได้ ผงั บญั ชี (Chart of Accounts) การกำหนดเลขทบี่ ญั ชีหรอื “ผังบญั ช”ี ซ่งึ จะกำหนดอยา่ งมีระบบตามมาตรฐานโดยท่วั ไปแลว้ เลขที่ บัญชีจะถูกกำหนดตามหมวด บัญชี ซงึ่ แบง่ ออก 5 หมวด ดังน้ี หมวดที่ 1 หมวดสนิ ทรัพย์ รหสั บญั ชคี อื 1 หมวดที่ 2 หมวดหน้สี นิ รหัสบัญชีคอื 2 หมวดที่ 3 หมวดสว่ นของเจ้าของ รหสั บัญชีคือ 3
หมวดท่ี 4 หมวดรายได้ รหัสบัญชีคือ 4 หมวดที่ 5 หมวดคา่ ใชจ้ า่ ย รหสั บัญชีคอื 5 เลขท่บี ญั ชจี ะมจี ำนวนก่ีหลักน้ัน ขึน้ อยู่กบั กจิ การแตล่ ะแห่ง ถ้าเป็นกจิ การขนาดเล็กทมี่ ีจำนวน บัญชตี า่ ง ๆไม่มาก ก็อาจจะใช้เลขท่ี บัญชี จำนวน 2 หลกั แต่ถ้าหากเป็นกจิ การขนาดใหญแ่ ละบัญชี ตา่ ง ๆ เปน็ จำนวนมากกอ็ าจจะกำหนดเลขที่บัญชใี หม้ ีหลายหลัก อาจจะเปน็ 3 หรือ 4 หลกั หรือ มากกว่านนั้ เลขทบี่ ัญชหี ลักแรก แสดงถึงหมวดของบัญชี และหลักหลังแสดงถึงบัญชีตา่ ง ๆ ในหมวดนน้ั ๆ ซึ่งในแตล่ ะหมวดจะถกู กำหนดดว้ ยหลกั เกณฑแ์ ตกต่างกันไป โดย - หมวดสินทรพั ย์ หลักหลังของเลขทบ่ี ัญชีจะเรียงตามสภาพคล่องของสนิ ทรัพย์ โดยเรยี งจากสภาพ คล่องมากไปสภาพคล่องน้อย เชน่ เลขทีบ่ ัญชขี องเงนิ สด จะมาก่อนเลขทบ่ี ัญชีของลูกหน้ี เปน็ ตน้ - หมวดหนสี้ นิ กจ็ ะเรยี งตามสภาพคล่องของหนส้ี นิ เชน่ เลขท่ีบัญชีของเจา้ หน้จี ะมาก่อนเลขทบี่ ญั ชขี อง เงนิ กรู้ ะยะยาว เป็นต้น - หมวดสว่ นของเจา้ ของ หลักหลังของเลขที่บญั ชีจะเรียงตามการเกิดขึน้ ก่อนหลงั เช่น การท่นี ำ สินทรัพยม์ าลงทนุ ทำให้เกิดบัญชที ุนกอ่ นทีเ่ จ้าของ กิจการจะมีการถอนใช้สว่ นตัว จึงทำให้เลขทบ่ี ญั ชี ทนุ มาก่อนเลขท่ีบญั ชีถอนใชส้ ว่ นตัว - หมวดรายได้ หลักหลังของเลขท่ีบัญชจี ะเรียงความสำคัญของรายได้ -หมวดคา่ ใชจ้ ่าย หลักหลังของเลขทบ่ี ญั ชจี ะเรียงความสำคัญของคา่ ใชจ้ า่ ย
หลกั การบนั ทกึ รายการในสมุดรายวนั ทวั่ ไป 1. หลักการบญั ชีเดี่ยว (Single-entry book-keeping) เปน็ หลกั การบนั ทึก บัญชอี ย่างงา่ ยเพียงแค่จดบนั ทึกรายการคา้ ท่เี กดิ ขน้ึ เทา่ น้นั เช่น นายดำรงนำเงินสดมา ลงทุน 50,000 บาท ก็สามารถบนั ทึกตามรายการนี้ไดเ้ ลย ซงึ่ ทำให้ไมส่ ามารถทราบว่า กจิ การมผี ลการดำเนินงานและฐานะทางการเงินเปน็ อย่างไรบ้าง ดังน้นั หลกั การบัญชเี ดี๋ยว จึงเปน็ หลกั การบญั ชีที่ไม่นิยมใชแ้ ละถือเปน็ หลักการบญั ชีที่ไมส่ มบูรณ์แบบ 2. หลักการบญั ชีคู่ (Double-entry book - keeping) เป็นหลักการบญั ชีที่ สมบรู ณแ์ บบ และใช้กันโดยทั่วไปในปัจจุบัน รวมถึงเป็นหลักการบัญชที ี่ใชใ้ นการศึกษาวิชา บญั ชีต่าง ๆ
1. ดา้ นเดบิต (Debit) จะใช้ตัวย่อว่า Dr. คือดา้ นซา้ ยของสมการบญั ชี ดงั น้นั ด้านเดบติ จึงเปน็ ด้านทใี่ ชบ้ นั ทึกรายการบัญชีท่ีทำใหด้ ้านซ้ายของสมการบัญชเี พิม่ ขึ้น หรอื รายการบญั ชีที่ทำให้ด้านขวาของสมการบญั ชลี ดลง คือการเพ่ิมขนึ้ ของสนิ ทรัพย์ การ ลดลงของหนี้สินและการลดลงของส่วนของเจ้าของ 2. ด้านเครดิต (Credit) จะใชต้ ัวย่อวา่ Cr. คอื ด้านขวาของสมการ บญั ชี ดงั นน้ั ดา้ นเครดิตจงึ เปน็ ดา้ นทีใ่ ช้บันทกึ รายการบัญชีท่ีทำใหด้ ้านขวาของสมการบญั ชี เพิม่ ขึน้ หรือรายการบญั ชที ท่ี ำใหด้ ้านซา้ ยของสมการบัญชลี ดลง คือ การลดลงของสนิ ทรัพย์ การเพ่ิมขน้ึ ของหนสี้ นิ และการเพ่ิมขึน้ ของสว่ นของเจ้าของ การบนั ทึกบญั ชตี ามหลักการบัญชีคู่ในสมุดรายวนั ท่ัวไป รายการคา้ ที่บันทึกบัญชีในสมุดรายวันทั่วไป แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1. รายการเปิดบัญชี (Opening Entry) 2. รายการปกติของกิจการ (Journal Entry) 1. การบันทึกรายการเปดิ บญั ชใี นสมุดรายวันท่ัวไป รายการเปิดบัญชี (Opening Entry) หมายถึง รายการแรกของการบันทึกบญั ชีในสมุด รายวนั ท่วั ไป ซ่ึงอาจจะเกดิ จากมีการลงทนุ คร้ังแรก หรอื เม่ือมีการ เรมิ่ รอบระยะเวลาบัญชี ใหม่ 1.1 การลงทุนครั้งแรกมี 3 กรณี ดงั นี้ กรณที ่ี 1 การนำเงินสดมาลงทนุ เพียงอย่างเดียว ตัวอย่างที่ 1 นายอยู่สขุ เปิดกจิ การอซู่ ่อมรถ โดยเรม่ิ กิจการเมือ่ วนั ท่ี 1 มกราคม 2550 และนำเงนิ สดมาลงทุนในกิจการจำนวน 100,000 บาท
กรณที ่ี 2 การนำเงนิ สด และสนิ ทรพั ย์อื่นมาลงทุน ตวั อยา่ งท่ี 2 นายแดน เปดิ กิจการรา้ นเสรมิ สวย \"แดนบิวตี้\" เมอ่ื วันที่ 1 มกราคม 2550 โดยนำเงนิ สด 80,000 บาท เงนิ ฝากธนาคาร 140,000 บาท อปุ กรณ์ 80,000 บาท มาลงทนุ กรณที ่ี 3 การนำเงินสด สินทรพั ย์อื่น และหนีส้ ินมาลงทุน ตัวอย่างท่ี 3 นางสาวลาลา่ เปิดร้านสปาเพื่อสขุ ภาพ ในวนั ท่ี 1 มกราคม 2550 ได้นำเงนิ สดจำนวน 70,000 บาท เงนิ ฝากธนาคาร 30,000 บาท อุปกรณ์ 60,000 บาท อาคาร 400,000 บาท และเจ้าหน้ี การคา้ 40,000 บาท มาลงทุน
1.2 เริม่ รอบระยะเวลาบญั ชใี หม่ (งวดบัญชีใหม)่ การบนั ทกึ รายการในสมุดรายวันทว่ั ไปเหมือนกรณีการลงทุนคร้ังแรก คอื ต้องบนั ทกึ ในสมดุ รายวนั ทว่ั ไปแบบรวม (Compound Journal Entry) โดยเขยี นเงนิ สด สินทรัพย์อน่ื ใหห้ มดก่อน แล้วจงึ เขยี นหนี้สิน ให้ หมด (ถา้ มี) ตามด้วยทนุ เปน็ ลำดบั สุดทา้ ยและขียนคำอธิบายรายการวา่ บันทึกสินทรัพย์ หน้ีสินและทุนท่ี มีอยู่ ณ วันเปิดบัญชี การบันทึกรายการเปิดบญั ชี เมอื่ เรม่ิ รอบระยะเวลาบญั ชีใหม่น้ี อาจจะใชส้ มุดรายวนั ท่วั ไปและบญั ชี แยกประเภทเล่มเดมิ เพื่อบนั ทกึ รายการตอ่ ไป หรือจะใชส้ มดุ เล่มใหม่กไ็ ด้ แล้วแต่กิจการ รอบระยะเวลาบญั ชี หมายถึง ชว่ งระยะเวลาหนึ่งที่ต้องแสดงผลการดำเนินงานและฐานะทาง การเงินของกจิ การ เชน่ 3 เอือน 6 เดือน หรือ 12 เดือน ก็ได้ ขนึ้ อยู่กับกิจการแต่ละแหง่ ตวั อย่างที่ 4 ต่อไปนีเ้ ปน็ รายการคา้ ของร้านนครชยั การช่าง ระหวา่ งเดอื นมกราคม 2550 ม.ค. นายนครเปิดร้านบริการซอ่ มวิทยุ โทรทศั น์ และอปุ กรณ์ไฟฟา้ อ่ืน ๆ โดยนำเงินสด 1 40,000 บาท เงินฝากธนาคาร 60,000 บาท อาคาร 400,000 บาท อุปกรณ์การ ซอ่ ม 50,000 บาทและ เจ้าหน้ี 60,000 บาท มาลงทนุ 5 รับเงนิ คา่ ซ่อมโทรทัศน์ 3,000 บาท 8 ซอื้ อปุ กรณ์ในการซ่อมเป็นเงินเชือ่ จากร้านโกมล 12,000 บาท 11 จ่ายค่าเช่าอาคารเพิ่มเติมเน่ืองจากพืน้ ที่คบั แคบ 12,000 บาท
15 ซอ่ มพดั ลมใหโ้ รงเรียนเกง่ วทิ ยา 35,000 บาท ยังไม่ได้รบั เงิน 20 รับชำระหน้ีจากโรงเรียนเก่งวิทยาตามรายการวันท่ี 15 ม.ค. 25 จา่ ยชำระหน้ีใหร้ ้านโกมล 12,000 บาท 28 กูเ้ งินจากธนาคารไทย 80,000 บาท 29 นายนครถอนเงนิ ไปใชส้ ่วนตัว 14,000 บาท 31 จา่ ยเงนิ เดอื นให้คนงาน 28,000 บาท ใหท้ ำ บนั ทกึ รายการในสมดุ รายวนั ทว่ั ไป
2. การบันทกึ รายการปกตขิ องกจิ การในสมดุ รายวนั ท่ัวไป
รายการปกติของกิจการ (Journal Entry) เปน็ การบนั ทกึ รายการค้าต่าง ๆ ที่เกดิ ข้นึ หลังจาก มกี ารลงทนุ หรอื เรมิ่ ระยะเวลาบญั ชีใหม่แล้ว ในแต่ละวัน โดยการบันทึกรายการคา้ ปกติของกจิ การจะบนั ทึก โดยเรยี งตามลำดับ ก่อนหลงั ของการเกิดรายการค้า ซึ่งจะมีลกั ษณะเหมือนกับการ บันทึกรายการในสมุด รายวันทวั่ ไปตวั อย่างที่ 4 ข้างต้น
บรรณานกุ รม กรมวชิ าการ. (2532), ระเบียนการเงิน 1 และระเบียนการเงิน 2 หนงั สือเรียน พิมพค์ รงั้ ที่ 9. กรุงเทพมหานคร :โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพรา้ ว. นนั ท์ ศรสี วุ รรณ. (2549),บัญชเี บือ้ งต้น 1. หนงั สือเรียนสาระการเรยี นรเู้ พิ่มเตมิ งานธุรกจิ , กรุงเทพมหานคร : สํานักพมิ พ์วงั อักษร นนั ทิยา ศุภราชโยธนิ . (2550). แบบฝึกทกั ษะงานวชิ าระเบียนการเงนิ , คน้ เม่ือ มีนาคม 10, 2556, จาก http://gotoknow.org/file/nuntiya/innovation, ปิยฉตั ร วฒุ สิ รรพ์. (2550), รายงานการใช้เอกสารประกอบการเรยี น วิชาระเบยี นการเงิน ง 30282 ช้นั มธั ยมศกึ ษา ปีที่ 2. คน้ เมื่อ มีนาคม 10, 2556, จาก http://www.horpra.ac.th/pdf /krupiyachat.pdf. สวทช. (2557). ความหมายของระเบียน คน้ เมอ่ื มนี าคม 10, 2557, จาก http://dict.longdo.com/search/ https://tanateauditor.com/accounting-equation/ search/ https://www.pw.ac.th/emedia/media/tech/accounting1/lesson4.php
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: