วิจัยหน้าเดียวครูจิราพร

วิจัยในชัน้ เรยี นหนา้ เดยี ว นางสาวจิราพร พมิ พว์ ชิ ัย ครู วทิ ยฐานะชานาญการพิเศษ กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม โรงเรยี นรอ้ ยเอ็ดวิทยาลยั

วจิ ัยในชนั้ เรียน Classroom action research โรงเรยี นรอ้ ยเอ็ดวทิ ยาลัย เรอื่ ง : การแก้ปญั หานักเรยี นไมต่ ง้ั ใจเรียน ทาแบบทดสอบไม่ ผา่ น ของนักเรียนช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 3/4 สภาพปญั หา : จากการเรียน 4 สปั ดาห์ สาเหตุและปญั หาการวจิ ัย : เมอ่ื ถึง ทผี่ ่านมา นักเรยี นชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 3/4 ไม่ต้ังใจ เวลาเรียนนักเรยี นไม่ทากิจกรรมตามบทเรยี น ไมส่ นใจ เรียน คยุ กนั เล่นโทรศัพทเ์ ปน็ ประจา ทาให้เรียน เรียนและชอบคุยกนั หรอื ไมก่ เ็ ลน่ โทรศพั ท์ตลอดเวลาใน ไม่เขา้ ใจและทดสอบหลงั เรยี นไมผ่ า่ นเกณทข์ น้ั ตา่ คาบเรยี น เมอ่ื สอบถามมักไมไ่ ดค้ าตอบ นักเรยี นไม่มีความ เป็นเหตใุ ห้คะแนนเก็บในแต่ละตัวชีว้ ดั ไม่ผา่ น กระตือรือร้นในการเรยี นอ ทาให้บรรยากาศการเรยี นในช้ัน เกณฑ์ จะทาให้คะแนนเกบ็ ไมถ่ งึ อัตราที่กาหนด เรยี นไมไ่ ดป้ ระสิทธผิ ลเทา่ ทีค่ วร เป้าหมายการวิจัย : วิธกี ารวิจยั : 1. เพื่อใหน้ กั เรยี นมแี รงกระต้นุ ในการเรียนเรียนและ ต้ังใจ 1. สร้างแรงกระตุน้ ในการเรียนใหก้ ับนักเรยี น โดย เรียนมากข้ึน การอบรมคุณธรรม ความขยันหม่นั เพียร มวี ินยั 2. กจิ กรรมการเรียนการสอนดาเนินไปได้อย่างราบรื่น ซ่งึ โดยอธิบายถึงประโยชนข์ องการมีวนิ ยั จะเปน็ ผลดตี ่อนักเรยี นทาใหไ้ ดร้ ับความรู้ อยา่ งเตม็ ที่ และ ขยันหมัน่ เพียร ก็จะไดค้ วามรดู้ ีและมคี วามเขา้ ใจใน จะเปน็ ผลดีตอ่ การทางานแบบฝกึ หดั หรือแบบทดสอบมี เน้อื หาท่เี รยี น ผลสัมฤทธใิ์ นการเรยี นกจ็ ะดไี ปด้วย คะแนนดขี ึน้ ผ่านเกณท์มากข้ึน 2. ให้นักเรียนบันทึกสรุปการเรียนทกุ คาบเรยี นลงไป ในสมุดและส่งท้ายคาบเรียนทกุ คร้ัง สรุปผลการวจิ ัย : 3. ใหค้ าชมเชย ให้กาลงั ใจกบั นักเรยี นทส่ี ง่ งานและ ทาคะแนนแบบทดสอบหลังเรยี นไดผ้ า่ นเกณทท์ ี่ 1. จากการสังเกตพฤตกิ รรม นกั เรียนมีพฤติกรรมดขี น้ึ เป็น กาหนด และตดิ ตามงานจากนักเรยี นท่ยี งั ไมส่ ง่ งาน ลาดับ และหลังเสรจ็ สน้ิ การวจิ ยั นกั เรยี นร้อยละ 93 มี 4. มมี าตรการในการทดสอบหลงั เรียน นักเรยี นที่สง่ พฤตกิ รรมการเรยี นตั้งใจเรยี นมากขึน้ ส่งงานทนั เวลา ผล สมดุ งานเท่าน้ันท่ีจะทาการทดสอบหลงั เรียนได้ การทาแบบทดสอบมีคะแนนท่ีผา่ นเกณท์ที่กาหนด 2. ทาใหบ้ รรยากาศในการเรยี นการสอนดขี ึ้น นักเรียนต้งั ใจ ขอ้ เสนอแนะ : ควรปรบั เปลี่ยนกจิ กรรม เรียนมากข้ึน เพิม่ เติมเพื่อสรา้ งบรรยากาศท่ีดใี นการเรยี น

วิจัยในชนั้ เรียน Classroom action research โรงเรียนรอ้ ยเอ็ดวทิ ยาลัย เรื่อง : การพฒั นาการจัดการเรยี นการสอนแบบออนไลนว์ ิชาสงั คมศกึ ษา โดยใช้ระบบ E-Leaning ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 สภาพปญั หา : จากปัญหาการระบาด สาเหตแุ ละปญั หาการวจิ ัย : เมอื่ ของเชอ้ื ไวรสั โควดิ จงึ ตอ้ งปรบั การจดั การเรียนการ โรงเรียนต้องปดิ เรียนและนักเรยี นตอ้ งเรียนออนไลน์ การ สอนแบบใหม่ โดยใหผ้ ู้เรยี น “เรียนท่ี บา้ น ทางาน เรยี นรูข้ องนักเรยี นจงึ ตอ้ งมกี ารปรับเปลย่ี นเพือ่ ให้นกั เรยี น สง่ ท่บี า้ น” ซง่ึ เป็นการนาส่ิงเดิมที่เคย ทาในชนั้ เรียน สามารถเรยี นรไู้ ด้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสทิ ธผิ ล ไปทาท่ีบา้ น โดยไม่ เน้นใหค้ รอู ยู่ในชนั้ เรียนเพ่อื สอน มากท่สี ดุ และเกดิ ปัญหาในกาเรยี นกบั นักเรียนบา้ งคนท่ี เน้ือหาตา่ งๆ เพราะ ผเู้ รียนสามารถศกึ ษาเน้ือหา เรียนไม่ทันหรอื ทางานไมท่ นั ตามที่กาหนด นั้นๆ ดว้ ยตนเองได้ เปา้ หมายการวิจัย : วธิ ีการวจิ ัย : 1. เพ่อื พฒั นาการจดั การเรยี นรู้ออนไลน์ โดยใชร้ ะบบ E- 1. พฒั นาเนื้อหาจัดทาคลิปการสอน และแบบฝึกหัด Leaning ,แบบทดสอบ บนเว็บบลอ็ กของครูจริ าพร พมิ พ์วชิ ยั 2. เพือ่ ใหน้ ักเรยี นสามารถเรยี นรู้ไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ 2. ครูพฒั นากิจกรรมการเรยี นรู้ เพ่อื ให้นักเรยี น และได้รับความร้มู ากท่สี ุด สามารถศกึ ษาคน้ คว้าด้วยตนเอง 3. เพ่อื ประเมินความพึงพอใจของผเู้ รยี นทม่ี ตี อ่ การจดั 3. เมอื่ นักเรยี นศึกษาเนอ้ื หาความรูแ้ ลว้ สามารถทา กิจกรรมการเรียนร้แู บบออนไลน์ แบบฝึกหัด,แบบทดสอบ ผ่านเกณฑท์ ่ีกาหนด 4. นกั เรียนมีความรแู้ ละมคี วามสุขในการเรียน สรุปผลการวจิ ยั : ออนไลนท์ บ่ี ้านในชว่ งสถานการณก์ ารระบาดของ โรคโควดิ -19 1. การจัดการเรยี นการสอนแบบออนไลน์ ชว่ ยให้ผู้สอน พฒั นาส่อื การเรยี นรู้ทม่ี ีประสิทธภิ าพย่งิ ขึ้น ข้อเสนอแนะ : ควรมีกิจกรรมเพ่มิ เตมิ 2. การจดั การเรยี นการสอนแบบออนไลน์ ทาให้ผู้เรียน สามารถใช้เวลาในการเรยี นรูไ้ ด้ไม่ จากัด 3. นักเรยี นมีความสขุ ในการเรยี นออนไลน์มากข้ึน

วจิ ัยในช้ันเรยี น Classroom action research โรงเรียนร้อยเอด็ วิทยาลยั เรอ่ื ง : การแก้ปัญหานกั เรยี นเขา้ ห้องเรยี นออนไลนไ์ มต่ รงเวลา ของนักเรยี นชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3/5 สภาพปัญหา : สืบเนือ่ งจากการ สาเหตุและปัญหาการวจิ ัย : เมอ่ื ถงึ นกั เรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3/5 เข้าหอ้ งเรยี น เวลาเรยี นออนไลน์ โดยใชโ้ ปรแกรมไลน์ในการประชุมกลุ่ม สายในการเรยี นออนไลน์ เปน็ ประจา ทาใหเ้ รยี น นกั เรยี นเขา้ เรียนไมต่ รงเวลา เมือ่ สอบถามปรากฏวา่ นอน ไม่ทันเพือ่ นและทางานไม่ตรงกับเนือ้ หาที่เรยี นใน ตนื่ สายบ้าง ไปทาธรุ ะนอกบ้านบา้ ง ลืมเวลาเรยี นบา้ ง ทา วนั นั้นๆ และสง่ งานไม่ทันเวลาท่กี าหนด เปน็ เหตุ ให้การเรยี นออนไลนไ์ มไ่ ดป้ ระสิทธิผลเทา่ ท่คี วร ใหค้ ะแนนเกบ็ ในแต่ละตวั ช้ีวดั ไมผ่ า่ นเกณฑ์ จะทา ใหค้ ะแนนเกบ็ ไม่ถึงอตั ราทกี่ าหนด วิธกี ารวิจัย : เป้าหมายการวิจัย : 1. สร้างแรงบนั ดาลใจใหน้ กั เรียนมจี ติ สานึกในการ 1. เพ่ือให้นกั เรยี นมจี ิตสานึกในการเข้าเรียนใหต้ รงเวลา เขา้ เรียน โดยการอบรมคุณธรรม ความ และ ตง้ั ใจเรยี น ขยันหมัน่ เพยี ร มีวนิ ยั ความตรงตอ่ เวลา โดยอธิบาย 2. กิจกรรมการเรยี นการสอนดาเนนิ ไปไดอ้ ย่างราบร่ืน ซ่ึง ถงึ ประโยชนข์ องการมวี นิ ยั ตรงตอ่ เวลา กจ็ ะได้ จะเป็นผลดีต่อนักเรียนทาใหไ้ ดร้ ับความรู้ อย่างเตม็ ท่ี และ ความรู้ดีและมีความเขา้ ใจในเนอ้ื หาเท่าทนั กับเพ่อื น จะเปน็ ผลดตี อ่ การทางานแบบฝึกหดั หรอื แบบทดสอบสง่ เปน็ อยา่ งดี ผลสัมฤทธ์ใิ นการเรียนก็จะดีไปด้วย และครูผสู้ อนกจ็ ะมีความสขุ กบั การสอน 2. ให้คาชมเชย ให้กาลังใจกบั นักเรยี นทเ่ี ข้าเรยี นตรง เวลา สรุปผลการวจิ ยั : 3. เชค็ ชอ่ื การเขา้ เรยี นของนักเรียนและให้เวลาใน การเขา้ เรยี นเพ่ิมมากขน้ึ 10 นาที 1. จากการสังเกตพฤตกิ รรม นักเรยี นมพี ฤติกรรมดีขึ้นเปน็ 4. ทาคลปิ การสอน เพ่ือให้นกั เรียนทเี่ ขา้ เรียนไมท่ นั ลาดับ และหลังเสรจ็ ส้นิ การวิจยั นักเรียนทุกคนมี พฤติกรรม สามารถไปเปิดดยู ้อนหลังได้ การเรยี นตรงเวลามากขนึ้ เรียนทันเพอื่ น ตั้งใจเรียน ผลการ ทาแบบฝกึ หัดมคี ะแนนที่สงู ข้ึน ขอ้ เสนอแนะ : ควรมกี จิ กรรมเกมเพิม่ เติม 2. ทาใหบ้ รรยากาศในการเรียนการสอนดีขนึ้ นกั เรยี น นักเรียนเข้าเรียนออนไลนค์ รบทกุ คน

วจิ ยั ในชนั้ เรยี น Classroom action research โรงเรยี นรอ้ ยเอ็ดวิทยาลัย เรือ่ ง : การแกป้ ัญหาการเรียนออนไลน์ นกั เรียนไมเ่ ข้าใจเน้อื หา และเรียนไม่ทนั เวลา ของนกั เรียนช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 3/3 สภาพปญั หา : สบื เน่อื งจากการที่ สาเหตแุ ละปญั หาการวจิ ยั : เมอ่ื ถงึ นักเรยี นช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3/3 มีคะแนนในการ เวลาเรยี นออนไลน์ โดยใช้โปรแกรมไลนใ์ นการประชมุ กลมุ่ ทาแบบทดสอบท่ไี มผ่ า่ นเกณฑ์ ทาใหน้ กั เรยี นขาด นกั เรยี นเขา้ เรยี นไม่ตรงเวลา ทาให้ไม่เข้าใจเน้อื หา เรยี นไม่ ขวญั และกาลังใจ ไม่เข้าใจในเนอ้ื หาที่เรยี น หรอื ทัน ตามตัวช้ีวดั ท่กี าหนดในคาบเรยี นนนั้ ๆ เม่ือถงึ เวลาทา เรียนไม่ทนั บา้ ง ทาให้คะแนนเก็บในแต่ละตวั ชวี้ ัด แบบฝกึ หัดหรือแบบทดสอบ ทาใหน้ กั เรยี นไดค้ ะแนนไม่ ไมผ่ ่านเกณฑ์ คะแนนเกบ็ ไม่ถงึ อัตราทีก่ าหนด ผ่านเกณฑท์ กี่ าหนดไว้ เป้าหมายการวจิ ยั : วิธกี ารวิจยั : 1. เพ่ือให้นักเรียนมีความรู้ความเขา้ ใจในเน้ือหาวิชาท่ีเรยี น 1. สรา้ งแรงบนั ดาลใจให้นกั เรียน โดยอธิบายถงึ ในคาบเรียนนั้น ประโยชนข์ องการมีวินัย ตรงต่อเวลา กจ็ ะไดค้ วามรู้ 2. กิจกรรมการเรยี นการสอนดาเนนิ ไปได้อย่างราบร่ืน เป็น ดแี ละมคี วามเขา้ ใจในเนอ้ื หาเท่าทนั กับเพ่ือนเป็น ผลดตี ่อการทางานแบบฝกึ หัดหรือแบบทดสอบ ทาคะแนน อยา่ งดี ผลสัมฤทธิใ์ นการเรียนกจ็ ะดไี ปด้วย ผา่ นเกณฑท์ ีก่ าหนด 2. ทาคลิปการสอน ตามเนื้อหาที่เรยี นในคาบเรียน 3. นกั เรยี นและครูมีความสุขในการเรยี นออนไลนม์ ากข้ึน นัน้ ๆ เพ่ือให้นกั เรยี นทเ่ี ข้าเรียนไมท่ นั หรือนกั เรียนที่ ตอ้ งการทบทวนความรู้สามารถไปเปดิ ดูย้อนหลังได้ สรปุ ผลการวจิ ยั : จะได้รบั ความรอู้ ย่างเต็มท่ี 3. ตรวจสอบผลการทาแบบฝกึ หัดและแบบทดสอบ 1. จากการสงั เกตพฤติกรรม นกั เรียนมีพฤตกิ รรมดขี ้ึนเป็น ของนกั เรียนที่สง่ หลงั จากการเรียนทุกคาบเรยี น ลาดับ และหลังเสร็จสิ้นการวิจัยนกั เรียนทกุ คนมี พฤติกรรม นกั เรยี นมผี ลการทดสอบที่ดีขน้ึ ผา่ นเกณฑ์ท่กี าหนด การเรียนตรงเวลามากข้ึน เรยี นทนั เพื่อน ตง้ั ใจเรยี น ผลการ มากข้ึน ทาแบบฝึกหัดมคี ะแนนท่สี งู ข้ึน 2. ทาใหบ้ รรยากาศในการเรียนการสอนดีขึ้นนกั เรยี น ข้อเสนอแนะ : ควรมีกจิ กรรมหรือความรู้ นกั เรยี นเข้าเรียนออนไลนค์ รบทุกคน เพม่ิ เตมิ

วิจัยในช้นั เรียน Classroom action research โรงเรยี นรอ้ ยเอด็ วทิ ยาลัย เรือ่ ง : การแก้ปญั หานกั เรยี นเข้าห้องเรยี นสายในคาบท่ี 1 และคาบที่ 5 ของนักเรยี นช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3/2 สภาพปัญหา : สบื เนอื่ งจากการ สาเหตุและปัญหาการวิจัย : เมอ่ื ถึง นักเรยี นช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3/2 เข้าห้องเรยี น เวลาเปล่ยี นคาบนกั เรยี นที่เรยี นในคาบที่ 1 และ 5 มักเข้า สายในคาบเรียนที่ 1 และ 5 เป็นประจา การ เรยี นสายเปน็ ประจา และเมือ่ ครูเข้าสอนในรายวชิ าสังคม ทยอยเขา้ ห้องเรียนตลอดเวลา ทาใหน้ ักเรยี นคน ศึกษา ครจู ะตอ้ งเสียเวลากับการซักถามสาเหตุ และ อนื่ เสียสมาธใิ นการเรยี นไปดว้ ยย ส่วนคุณครู ตกั เตือนนักเรยี น ตลอดคาบเรียน ทาให้การเรียนสะดดุ ผู้สอน ก็เบอ่ื หนา่ ยไม่ อยากสอนตอ้ งคอยดุและ และทาใหเ้ พ่อื นคนอ่ืนๆ เดือดรอ้ นราคาญไปด้วยทีม่ ีการ ตักเตอื นตลอดเวลา เพื่อนๆ ในห้องเลยเรียน เปิดประตเู ข้าห้องตลอดเวลาดว้ ย เน้ือหาไม่ต่อเนอ่ื งกัน เปา้ หมายการวิจยั : วธิ กี ารวิจยั : 1. เพ่อื ใหน้ กั เรียนมีจิตสานกึ ในการเข้าเรียนใหต้ รงเวลา 1. สร้างแรงบันดาลใจใหน้ กั เรยี นมจี ติ สานึกในการ และ ตง้ั ใจเรยี น เขา้ เรยี น โดยการอบรมคณุ ธรรม ความ 2. กจิ กรรมการเรียนการสอนดาเนนิ ไปไดอ้ ย่างราบรื่น ซ่งึ ขยนั หม่นั เพยี ร มวี นิ ยั ความตรงต่อเวลา โดยอธิบาย จะเปน็ ผลดีต่อนกั เรยี นทาใหไ้ ดร้ ับความรู้ อย่างเตม็ ท่ี และ ถงึ ประโยชนข์ องการมวี ินยั ตรงตอ่ เวลา กจ็ ะได้ จะเป็นผลดีตอ่ เพอ่ื นคนอื่นๆไมเ่ สยี สมาธิ ครผู สู้ อนก็จะมี ความรู้ดีและมคี วามเข้าใจในเนอื้ หาเท่าทนั กับเพือ่ น ความสุขกบั การสอน เปน็ อยา่ งดี ผลสัมฤทธิใ์ นการเรียนกจ็ ะดีไปด้วย 2. ให้คาชมเชย ใหก้ าลงั ใจกบั นักเรยี นทีเ่ ข้าเรียนตรง สรุปผลการวจิ ยั : เวลา 3. มีกิจกรรมเสริม เช่น เกมความรกู้ ่อนเรียนการ 1. จากการสังเกตพฤติกรรม นักเรยี นมพี ฤติกรรมดขี นึ้ เปน็ สอนทกุ คาบเปน็ เวลาประมาณ 3 - 5 นาทรี วมอยา่ ง ลาดับ และหลังเสรจ็ ส้นิ การวิจัยนักเรยี นทุกคนมี พฤตกิ รรม นอ้ ย 10 คาบ การเรยี นตรงเวลามากขึ้น เรียนทนั เพือ่ น ต้งั ใจเรยี น ไมม่ ี ปญั หาการเปดิ ประตเู ขา้ ห้องเรยี นตลอดเวลาอีก 2. ทาให้ บรรยากาศในการเรียนการสอนดีขนึ้ นกั เรียนไม่คยุ กัน ครู ควรมีกิจกรรมอื่นๆเพิ่มเติม ข้อเสนอแนะ :สอนไมเ่ บ่อื หน่าย

วิจัยในชน้ั เรยี น Classroom action research โรงเรียนร้อยเอ็ดวทิ ยาลยั เรื่อง : การแก้ปัญหานักเรยี นไม่กลา้ แสดงความคิดเห็น ของนักเรียนชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 3/3 สภาพปัญหา : สบื เนอ่ื งจากนกั เรียน สาเหตุและปญั หาการวจิ ยั : เม่อื ถึง ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3/3 ไม่กลา้ แสดงออกเวลาครู ชว่ งเวลาหลงั จากครูอธิบายบทเรยี นแล้ว ซักถามนักเรยี น ให้นกั เรยี นแสดงความคิดเห็นให้ตอบคาถาม มกั หรือให้นักเรยี นถามขอ้ สงสัยในห้องเรียนนักเรียนน่งั เงยี บ นง่ั เฉยๆ ไมต่ อบ ไมพ่ ูด เรียกชือ่ ก็ไมต่ อบ ทาใหค้ รู ไม่พดู ไมจ่ า สงสัยหรือไม่สงสยั ก็ไม่พูด ทาให้ครูไม่อาจทราบ ไมอ่ าจทราบไดว้ ่านักเรยี นเขา้ ใจหรือไม่เขา้ ใจ ได้วา่ นกั เรยี นเข้าใจหรือไมเ่ ขา้ ใจในการเรยี นคาบน้ันๆ บทเรยี น เปา้ หมายการวิจยั : 1. เพื่อใหน้ ักเรียนกล้าแสดงออกในห้องเรยี น 2. กิจกรรมการเรยี นการสอน เป็นไปตามวตั ถปุ ระสงค์ซึ่งจะเป็นผลดีต่อนกั เรยี นทาใหไ้ ดร้ บั ความรู้ อย่างเตม็ ท่ี และจะเป็นผลดตี อ่ เพ่อื นคนอนื่ ๆครผู ู้สอนก็จะมคี วามสุขกับการสอน วิธกี ารวิจยั : สรุปผลการวิจยั : 1. ให้นกั เรยี นทางานกลมุ่ เพ่มิ มากข้นึ โดยคร้งั แรกให้ 1. จากการสงั เกตพฤติกรรม นักเรยี นมีพฤติกรรมดี แบ่งกลุ่ม ก ข จานวนกลุ่มละ 21 คน สง่ ตวั แทนนาเสนอ ขึ้นเป็นลาดบั และหลังเสร็จสิน้ การวจิ ัยนกั เรียนทกุ งานหนา้ ช้นั คนมี พฤติกรรมการเรยี นท่มี กี ล้าพดู กล้าถาม กลา้ 2. แบง่ กลุ่มย่อยลง เหลอื กลุ่มละ 10 คน สง่ ตวั แทน แสดงความคิดเห็นมากขนึ้ เมอื่ ครถู าม มคี นคอ นาเสนอหนา้ ชั้นเรยี น คาถามมากขึ้น 3. แบ่งกลุม่ ๆ ละ 2 คน นาเสนอหน้าช้ัน 2. ทาใหบ้ รรยากาศในการเรยี นการสอนดีขน้ึ 4. ครูซกั ถามความเขา้ ใจจากการทเ่ี พ่ือนๆ นาเสนองานทกุ ครัง้ เปน็ เวลาอย่างน้อย 10 คาบ ข้อเสนอแนะ : ครูวรหากจิ กรรมอน่ื ๆเพมิ่ เตมิ เพ่ือให้นกั เรยี นได้แสดงออกส

Classrวoิจoยั ใmนชaัน้ cเtรiยี oนn research โรงเรยี นรอ้ ยเอด็ วิทยาลัย เร่อื ง : การแกป้ ัญหานักเรยี นคุยกนั ในขณะที่มกี ารเรยี นการสอน ของนักเรียนชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 3/4 สภาพปัญหา : สบื เนื่องจากการ สาเหตุและปญั หาการวจิ ยั : เมือ่ ถึง นกั เรยี นชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 3/4 นง่ั คยุ กันเป็น ชว่ งเวลาเปลี่ยนคาบนกั เรียนจะเปลย่ี นอิริยาบถ พูดคยุ กลุม่ ๆ ใหค้ วามสนใจในการเรียนเปน็ ช่วงสัน้ ๆ ซักถาม ลุกจากเกา้ อ้ี และออกไปเดนิ บรเิ วณระเบียงหน้า สลบั กบั การคยุ กบั เพือ่ นเปน็ ระยะๆตลอดคาบ หอ้ งเรียนเพือ่ ผอ่ นคลาย และเม่อื มาเรยี นในรายวิชาสงั คม เรยี น ทาใหน้ ักเรยี นคนอื่นเสยี สมาธไิ ปดว้ ย สว่ น ศึกษา ครูจะตอ้ งเสียเวลากับ การเตรยี มความพร้อมในการ คณุ ครผู ู้สอน ก็เบ่ือหน่ายไม่ อยากสอนต้องคอยดุ เรียนของนกั เรียน โดยจัดให้นักเรยี นกลมุ่ นแี้ ยกยา้ ยทนี่ ง่ั กัน และตักเตอื นตลอดเวลา เพือ่ นๆ ในหอ้ งเลยเรยี น ทาใหเ้ พือ่ นคนอื่นๆ เดือดร้อนด้วย เนื้อหาไม่ตอ่ เนอ่ื งกนั สรปุ ผลการวิจัย : 1. จากการสังเกต เปา้ หมายการวจิ ยั : พฤตกิ รรมนักเรยี นมพี ฤตกิ รรมดขี ึน้ เปน็ ลาดบั และ 1. เพอ่ื ให้นักเรียนมีจิตใจที่สงบมีสมาธิในการเรยี น ตัง้ ใจ หลงั เสร็จส้ินการวิจยั นกั เรียนทกุ คนมี พฤติกรรม เรยี น การเรียนทีม่ สี มาธมิ ากข้ึน ไมค่ ุย ตัง้ ใจเรียน ไม่มี 2. ไมพ่ ดู คยุ เรอ่ื งไรส้ าระขณะดาเนนิ กจิ กรรมการเรยี นการ ปัญหาในเรอื่ งคุยเสยี งดัง ทางานช้า ส่งงานไม่ทนั 2. สอน ซ่ึงจะเปน็ ผลดตี อ่ นกั เรียนทาใหไ้ ดร้ บั ความรู้ อย่าง ทาใหบ้ รรยากาศในการเรียนการสอนดีข้ึนนกั เรยี น เตม็ ที่ และจะเป็นผลดีตอ่ เพื่อนคนอืน่ ๆไมเ่ สียสมาธิ ไม่คยุ กนั ครูสอนไมเ่ บ่ือหน่าย ครูผสู้ อนก็จะมีความสขุ กับการสอน ข้อเสนอแนะ : ควรหาสาเหตเุ พม่ิ เตมิ วธิ กี ารวิจัย : 1. ใหค้ วามรูก้ บั นักเรยี นในเรอ่ื งการบริหารจิต (สมาธ)ิ โดยอธิบายถึงประโยชน์ของการปฏบิ ัตสิ มาธิ อธบิ าย ยกตวั อยา่ งใหเ้ ห็นจรงิ ว่า ผู้มสี มาธแิ นว่ แน่ในสิง่ ใดส่ิงหนึ่งในขณะใดขณะหน่งึ เมื่อทาอะไรก็จะสาเร็จ อย่างเรว็ และดี ถ้า เรียนหนงั สือมสี มาธใิ นการเรยี น ก็จะได้ความร้ดู ีและมคี วามเขา้ ใจในเน้ือหาเป็นอย่างดี ผลสัมฤทธใ์ิ นการเรียนก็ จะดไี ปด้วย 2. อธบิ ายถงึ ขนั้ ตอนการปฏบิ ัตสิ มาธิ และการปฏบิ ัติสมาธิแบบงา่ ยๆ เช่น การยืนสงบนิ่ง หรอื นั่งบนเกา้ อี้ 3. เร่มิ ปฏิบตั สิ มาธิก่อนเรียนการสอนทกุ คาบเปน็ เวลาประมาณ 3 - 5 นาทรี วมอยา่ งนอ้ ย 10 คาบ