Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore my experiment

my experiment

Published by praewrungwattanasin, 2021-12-06 12:55:14

Description: my experiment

Search

Read the Text Version

โครงงานวิทยาศาสตร์ เรอื่ ง Breathing green beans and music จัดทำโดย นางสาวแพรวรุ่ง วฒั นสิน ครูทีป่ รึกษา อาจารยส์ ุวรรณวุฒิ พรพรหมศริ ิกุล ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภฏั นครปฐม

สารบัญ หนา้ ก บทคดั ยอ่ ข กติ ตกิ รรมประกาศ บทที่ 1 ทมี่ าและความสำคญั 1 บทที่ 2 เอกสารทเี่ ก่ยี วขอ้ ง 3 บทที่ 3 การดำเนนิ งาน 7 บทท่ี 4 ผลการดำเนนิ งาน 9 บทท่ี 5 สรปุ อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ 11 เอกสารอ้างอิง ภาคผนวก

กก ช่อื โครงงาน Breathing green beans and music ผู้จดั ทำ แพรวร่งุ วัฒนสนิ ระดับช้นั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย ชอ่ื ครูทีป่ รึกษา อาจารยส์ ุวรรณวฒุ ิ พรพรหมศิรกิ ลุ โรงเรยี น สาธิตมหาวิทยาลัยราชภฏั นครปฐม ปีการศกึ ษา 2564 บทคดั ย่อ ในปจั จบุ นั มกี ารทดลองและงานวจิ ัยทแ่ี สดงใหเ้ หน็ วา่ คำพูด ความคิด รวมทัง้ เสยี งเพลงมีผลต่อโครงร่าง ผลึกของนำ้ ซ่ึงเป็นส่งิ ไมม่ ชี วี ิต ผู้จัดทำจึงอยากทราบวา่ เสียงเพลงแต่ละประเภทซง่ึ มีคลนื่ เสียงท่ีตา่ งกนั จะมีผล ต่อส่งิ มชี วี ิตหรือไม่ โดยไดเ้ ลือกทดสอบในพืช ซ่ึงเลือกเป็นต้นถ่ัวเขยี ว ทส่ี ามารถหาได้ง่ายและมีการเจริญเติบโต ทรี่ วดเร็ว วิธีการดำเนนิ งาน ผ้จู ดั ทำได้นำเมล็ดถ่ัวเขียวที่ผา่ นการแชน่ ้ำ เพ่อื ให้มีชีวิตและเรม่ิ มีการเจรญิ เติบโต จากนั้นเปิดเพลงใส่เมลด็ ถัว่ เขียว ซงึ่ แบง่ ออกเป็น 3 ชุดการทดลอง ได้แก่ เมลด็ ท่ไี ม่ไดร้ ับเสยี งเพลง เมลด็ ท่ีไดร้ ับ เสยี งเพลงคลาสสคิ และเมล็ดทไี่ ดร้ บั เสียงเพลงร็อค โดยเปิดเพลงเป็นระยะเวลา 1 ชัว่ โมง จากนน้ั นำเมลด็ ถั่ว เขียวไปวดั อัตราการหายใจหรืออตั ราการใช้ออกซิเจนในกระบวนการหายใจระดับเซลล์ โดยใชเ้ ครอ่ื ง respirometer ท่ีประดษิ ฐ์ข้ึนแบบงา่ ยๆ ในการวัดอตั ราการหายใจเป็นเวลา 10 นาที จากผลการดำเนนิ งาน พบว่าเมล็ดถวั่ ทไ่ี ด้รบั เสียงเพลงมีอัตราการหายใจสูงกว่าเมลด็ ถั่วที่ไม่ไดร้ ับ เสียงเพลง โดยเมลด็ ถ่ัวท่ีไมไ่ ด้รับเสียงเพลงมีอตั ราการหายใจเฉล่ยี เป็น 0.0649 มิลลลิ ิตร/นาที ซงึ่ แสดงใหเ้ หน็ ว่า เสยี งเพลงมผี ลตอ่ การหายใจของพชื ซง่ึ กค็ ือมผี ลต่อการหายใจระดบั เซลลข์ องพืชดว้ ย นอกจากนั้นเมลด็ ถวั่ ท่ี ได้รบั เสยี งเพลงร็อค มีอัตราการหายใจโดยเฉลี่ยเป็น 0.0671 มิลลิลติ ร/นาที ซ่ึงสงู กว่าเมล็ดถว่ั ท่ไี ด้รบั เพลง คลาสสิคคดิ อัตราการหายใจเปน็ 0.0661 มลิ ลิลติ ร/นาที สรุปไดว้ า่ เสยี งเพลงที่มีคลนื่ ความถีต่ ่างกนั ทำให้พืช หายใจเอาออกซิเจนเข้าไปในอัตราทีต่ า่ งกันดว้ ย

ข กิตตกิ รรมประกาศ โครงงานวิทยาศาสตร์ เรอื่ ง “Breathing green beans and music” ผู้จัดทำขอขอบคุณ อาจารย์ สวุ รรณวฒุ ิ พรพรหมศิรกิ ลุ ครทู ่ีปรึกษา ที่ให้คำปรึกษา แนะนำ และขอขอบคุณอาจารย์ในคา่ ยสอวน. ทุกท่านที่ ได้ให้ความรู้มาเป็นแนวทางในการดำเนินการทดลองนี้ รวมถึงขอขอบคณุ ผปู้ กครองทุกท่านที่ให้ความชว่ ยเหลอื สนบั สนุน จนกระทงั่ โครงงานวทิ ยาศาสตร์สำเร็จดว้ ยดี ผ้จู ดั ทำขอขอบคณุ ทกุ ท่านท่ีกลา่ วมา ณ ทนี่ ด้ี ว้ ย ผจู้ ดั ทำ

1 บทที่ 1 บทนำ ทีม่ าและความสำคญั ผจู้ ดั ทำได้รเิ ริ่มโครงการ “Breathing green beans & music” เพราะเกดิ ความสงสยั วา่ เสยี งเพลง มีผลตอ่ การเจรญิ เติบโตของพืชหรอื ไม่ โดยเร่มิ จากผู้จดั ทำไดเ้ หน็ การทดลองของ ดร.มาซารุ อโิ มโต้ (Dr.Masaru Emoto,2014) ซ่ึงไดว้ ิจัยว่าความคดิ คำพูดล้วนมผี ลตอ่ โครงสรา้ งผลกึ ของน้ำ อยา่ งเชน่ การทีน่ ้ำได้รับคำพูดทดี่ ี หรือเสียงเพลงท่ีไพเราะ ผลึกของนำ้ กจ็ ะเรยี งตวั เป็นรูปแบบและมลี วดลายทีส่ วยงาม ทว่าเมือ่ น้ำได้รบั คำพูดใน ด้านลบ หรอื ความคิดแงล่ บ ผลกึ นำ้ ท่ีเหน็ กลับไมเ่ ป็นรูปรา่ งและไม่สวยงาม ซง่ึ นำ้ เปน็ สารอนนิ ทรีย์ ไม่มีชวี ติ ผูจ้ ดั ทำจึงเกดิ ความสงสยั และอยากทราบว่าเสยี งดนตรมี ผี ลต่ออัตราการหายใจของพืชทเี่ ป็นสิ่งมีชีวติ หรือไม่ และ ถ้ามีเสยี งเพลงแนวคลาสสิคหรอื ว่าแนวเพลงร็อคส่งผลตอ่ อัตราการหายใจของพืชแตกต่างกนั อย่างไร โดยในการ ทดลองศึกษาการหายใจของเมลด็ ถว่ั เขียวซึง่ สามารถหาได้ง่ายและมีการเจรญิ เตบิ โตท่รี วดเรว็ ในการทดลอง วัตถปุ ระสงค์ 1.เพือ่ ศึกษาการให้เสยี งเพลงในช่วงกอ่ นการงอกของเมลด็ ถ่ัววา่ มีผลตอ่ การหายใจของเมลด็ 2.เพื่อศึกษาแนวเพลงแต่ละประเภท ไดแ้ ก่ เพลงร็อคและคลาสสคิ มผี ลต่อการการหายใจของเมลด็ ถ่ัวที่ แตกตา่ งกัน สมมติฐาน ถ้าแนวเพลงร็อค สง่ ผลทำให้การหายใจของเมลด็ ถัว่ สูง ดังน้นั เสียงดนตรมี ผี ลต่อการเจรญิ เตบิ โตของพชื ตัวแปรที่เกีย่ วข้อง ตวั แปรต้น : เสียงเพลงแตล่ ะประเภท ทเ่ี ปดิ ให้เมล็ดถ่วั ได้แก่ ไม่เปิดเสยี งเพลง เพลงคลาสสคิ และ เพลงรอ็ ค ตัวแปรตาม : อัตราการหายใจของเมลด็ ถวั่ เขียว (วดั จากก๊าซออกซเิ จน (มลิ ลิตร/นาท)ี ) ตวั แปรควบคมุ : ปรมิ าณถั่ว(เม็ด) อายุถั่วเขียว(นบั จากวันที่ผลติ ) ระยะเวลาการแชน่ ้ำ ปรมิ าณนำ้ ใน การแช่ อณุ หภมู นิ ำ้ ปริมาณแสง ภาชนะทใี่ ส่ ระยะเวลาในการฟังเพลง ปรมิ าณโพแทสเซียมไฮดรอกไซด์

2 ระยะเวลาในการทำโครงงาน ผู้จัดทำไดด้ ำเนนิ การศึกษาโครงงานนี้ในชว่ งเดือน สงิ หาคม พ.ศ. 2564 ถงึ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2564 รวมเวลา 4 เดอื น ขอบเขตในการศึกษาค้นคว้า 1.ใช้เมลด็ ถั่วเขียวท่หี าซ้ือได้ตามหา้ งสรรพสินคา้ 2.สถานที่ทดลอง คอื บา้ นผจู้ ัดทำ

3 บทท่ี 2 เอกสารทีเ่ กีย่ วข้อง ถั่วเขียว (THAI-THAIFOOD.COM,2017) รูปท2ี่ .1 ภาพแสดงเมล็ดถัว่ เขยี วท่ีใชใ้ นการทดลอง ชอื่ วทิ ยาศาสตร์ : Vigna radiata ชื่อสามญั : Mung bean ,Green bean เป็นถัว่ ชนดิ หน่ึง เป็นพืชสมนุ ไพร มอี ายุส้ัน มีอายเุ พียงฤดเู ดียว ผลเป็นฝกั มลี ักษณะทรงกลมยาวรี โค้งงอ เล็กนอ้ ย ฝกั มีสเี ขียวอ่อน ฝักแก่มสี ีเขียวเข้ม ฝักจะนูนขน้ึ มีเมล็ดโตเรยี งกันอยู่ข้างใน ฝกั แกจ่ ัดมสี เี หลือง สดี ำ มี เมลด็ เรยี งกันอยู่ ภายในฝกั แก่จัด จะมปี ระมาณ 5-15 เมล็ดตอ่ ฝกั เมล็ดมีลักษณะทรงกลมเลก็ ๆ เปลือกเมลด็ ผิว เรียบล่ืน มสี เี ขียว สเี ขียวเขม้ ตามสายพันธุ์ มรี อยแผลเป็นตาสีขาว เมล็ดข้างในแข็งมสี เี หลอื ง เมล็ดมีรสชาติ หวานมัน มถี น่ิ กำเนดิ ในอนิ เดีย ในเอเชยี กลาง ต่อมาได้มปี ลกู กันมาก ในเขตร้อนหลายประเทศทวั่ โลก ใน ประเทศไทยมปี ลูกหลายสายพันธ์ุ มีประโยชน์และสรรพคุณ ทางยาหลายอย่าง ใช้เมล็ดนำมาเพาะเปน็ ถั่วงอก โพแทสเซยี มไฮดรอกไซด์ (GAMMACO (Thailand) CO.,LTD. ,2020) รปู ที2่ .2 ภาพแสดงสารโพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ท่ใี ชใ้ นการทดลอง ชอื่ ภาษาอังกฤษ : Potassium Hydroxide

4 สตู รโครงสร้าง : KOH คณุ สมบตั ทิ างเคมี : เป็นผงสขี าวไม่มีกลน่ิ จุดเดือด : 1324 °C, จดุ หลอมเหลว : 361 °C ความคงตวั และการเกดิ ปฏิกริ ิยาเคมี : - สารท่ีเข้ากันไมไ่ ด้ : ความร้อนเหนอื จดุ หลอมเหลว, ดบี กุ , สารประกอบไนไตร, สังกะสี, สารอนิ ทรีย์, แมกนเี ซยี ม, ทองแดง - สภาวะท่ีควรหลีกเล่ยี ง : ดูดซมึ CO2 จากอากาศ, ความร้อนจากการเดอื ดของสารจะสูงมาก - สารเคมอี ันตรายที่เกิดจากการสลายตวั : คาร์บอนมอนนอกไซด์ โดยโพแทสเซียมไฮดรอกไซด์นถ้ี กู นำมาใช้เพ่ือเปลี่ยนกา๊ ซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกดิ ข้ึนจากการหายใจของเมล็ด ถ่ัว ใหก้ ลายเป็นตะกอนของโพแทสเซยี มคาร์บอเนต เพื่อท่ีวา่ การวัดปรมิ าตรกา๊ ซจะไม่มีคารบ์ อนไดออกไซด์ปน อยู่ด้วย การเปล่ยี นเป็นตะกอนของโพแทสเซยี มคาร์บอเนต เปน็ ดงั สมการ CO2 + 2KOH → K2CO3 + H2O กระบวนการหายใจระดับเซลล์ (Sanomaru,2018) พลังงานที่เซลล์ในร่างกายของเรานำมาใชเ้ รยี กว่า อะดีโนซนี ไตรฟอสเฟต (Adenosine Triphosphate) หรือ ATP มีเบสอะดนี นี นำ้ ตาลไรโบส และหมูฟ่ อสเฟต 3 หมู่เปน็ องคป์ ระกอบ โดยมาจากการ สลายสารอาหารระดับเซลล์ หรือการหายใจระดับเซลล์ (Cellular Respiration) ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการหายใจ แบบใช้ออกซเิ จน จากออกซิเจนท่ีเราหายใจเข้าไป สำหรับการสลายน้ำตาลกลโู คส เขยี นเปน็ สมการรวมได้ดังน้ี C6H12O6 + 6O2 ---> 6CO2 + 6H2O + 38ATP น้ำตาลกลูโคส + ออกซเิ จน ---> คารบ์ อนไดออกไซด์ + น้ำ + พลังงาน การหายใจระดับเซลล์ กรณีการสลายน้ำตาลกลูโคส ประกอบไปดว้ ย 4 ขนั้ ตอน ได้แก่ 1) ไกลโคลซิ สิ (Glycolysis) 2) ไพรูเวทออกซิเดชนั (Pyruvate oxidation) 3) วัฏจักรเครบส์ (Krebs Cycle หรือ Citric Acid Cycle) 4) กระบวนการถา่ ยทอดอเิ ล็กตรอน (Electron Transport Chain)

5 ขน้ั ตอนของการหายใจระดับเซลล์ 1) ไกลโคลิซสิ (Glycolysis) กระบวนการนเี้ ปน็ กระบวนการแรกในการหายใจระดับเซลล์ เกิดขึน้ ท่บี ริเวณไซโทซอล (สว่ นทเ่ี ปน็ ของ กงึ่ เหลวในไซโทพลาซมึ ) โดยจะมีออกซเิ จนหรอื ไมม่ ีออกซิเจนในกระบวนการก็ได้ เปน็ การสลายกลูโคส 1 โมเลกุล ซ่ึงมีคาร์บอน 6 อะตอม ให้อยใู่ นรปู ของกรดไพรวู ิก (Pyruvic Acid) ซึ่งมีคารบ์ อนอยู่ 3 อะตอม จำนวน 2 โมเลกุล และในกระบวนการน้ียังได้เป็น 2 ATP กับ 2 NADH ออกมาด้วย 2) ไพรูเวทออกซเิ ดชนั (Pyruvate oxidation) กรดไพรูวกิ จากกระบวนการไกลโคลิซสิ จำนวน 2 โมเลกลุ จะเข้าสู่เย่ือหุ้มชัน้ ในของไมโทคอนเดรยี และทำปฏกิ ิริยากับโคเอนไซม์เอ (Coenzyme A, Co.A) ได้เป็นแอซิทลิ โคเอนไซมเ์ อ (Acetyl Coenzyme A) 2 โมเลกุล NADH 2 โมเลกลุ และคาร์บอนไดออกไซด์ 2 โมเลกุล อยา่ งไรก็ตาม ในบางครั้งกระบวนการน้ีอาจถูก จัดอยใู่ นกระบวนการไกลโคลิซสิ หรือวฏั จักรเครบสไ์ ด้ 3) วัฏจักรเครบส์ (Krebs Cycle) เกดิ ขนึ้ ที่บรเิ วณเมทริกซซ์ ่งึ เป็นของเหลวท่ีอยใู่ นไมโทคอนเดรีย เร่ิมต้นจากแอซทิ ลิ โคเอนไซม์เอรวมกับ สารประกอบกรดออกซาโลแอซิตกิ ไดเ้ ป็นกรดซิตริก จากนั้นยังมีขนั้ ตอนย่อย ๆ เกดิ ขึ้นอีกหลายขั้นตอนในวฏั จกั รน้ี โดยแอซทิ ิลโคเอนไซมเ์ อ 2 โมเลกุล จะได้เป็น 2 ATP, 6 NADH, 2 FADH2 และคารบ์ อนไดออกไซด์ ออกมา 4) กระบวนการถา่ ยทอดอเิ ล็กตรอน (Electron Transport Chain) เกดิ ขึ้นในครสิ ตี (Cristae) ซึ่งเปน็ เยือ่ หุ้มชน้ั ในของไมโทคอนเดรยี กระบวนการน้เี ร่ิมจาก NADH และ FADH2 ในวฏั จกั รเครบส์ มีการใหห้ รอื ส่งต่ออเิ ลก็ ตรอนแก่ตัวรบั อเิ ลก็ ตรอนทีแ่ ทรกอยู่ในเย่ือหุ้มช้ันในของไมโท คอนเดรยี และปลดปล่อยพลังงานออกมา เป็นพลงั งานท่ใี ช้ในการเคลื่อนย้ายโปรตอน (H+) ออกไปอยดู่ า้ นนอก ของเยื่อหุม้ ช้ันในของไมโทคอนเดรีย ทำให้ดา้ นนอกมีความเป็นกรดมากข้ึน ดงั น้นั เซลล์จงึ พยายามรักษาสมดลุ โดยการย้ายโปรตอนเข้าสู่ด้านในอีกครั้งผา่ นการทำงานของเอนไซม์ ATP Synthase และทำให้โปรตอนเหล่านั้น กลายเป็น ATP 34 โมเลกลุ

6 ซง่ึ ในกระบวนการสดุ ท้าย เป็นกระบวนการท่แี สดงให้เหน็ ว่าเซลลข์ องสงิ่ มชี ีวิตมกี ารใชอ้ อกซเิ จนในกระบวนการ หายใจ โดยทอี่ อกซเิ จนไปทำหน้าที่ oxidize โมเลกุลนำ้ ตาลและทำใหม้ ีกา๊ ซคารบ์ อนไดออกไซด์ปลอ่ ยออกมา ดงั สมการ C6H12O6 + O2 ----> CO2 + H2O + 38ATP เพลงคลาสสิค เพลงคลาสสิก (Classical music) เปน็ รูปแบบหนึง่ ของดนตรี ซึ่งมกั จะหมายถึงดนตรีทเ่ี ปน็ ศิลปะของ ตะวนั ตกการแสดงดนตรีคลาสสิกจะใชเ้ คร่ืองดนตรี 5 กลุ่ม กลมุ่ แรก คือ เครื่องสาย (String) แบง่ ออกเปน็ ไวโอลิน วิโอลา เชลโล และดบั เบิลเบส กลุ่มทีส่ อง คือ เคร่ืองลมไม้ (Woodwind) เชน่ ฟลูต คลารเิ นต็ โอโบ บา สซนู ปคิ โคโล กลุ่มท่ีสาม คือ เครอ่ื งลมทองเหลือง (Brass) เช่น ทรัมเป็ต ทรอมโบน ทบู า เฟรนชฮ์ อร์น กลุ่มทส่ี ี่ คือ เครื่องกระทบ (Percussion) เช่น กลองทิมปานี ฉาบ กลองใหญ่ (Bass Drum) ก๋งิ (Triangle) กลมุ่ ท่ีห้า คอื เครือ่ งลิม่ นวิ้ เช่น เปียโน ฮาร์ปซคิ อรด์ เมือ่ เลน่ รวมกันเป็นวงเรียกวา่ วงดุริยางคห์ รือ ออร์เคสตรา (Orchestra) ซ่ึงมผี ูอ้ ำนวยเพลง (conductor) เป็นผู้ควบคุมวง เพลงรอ็ ค ('LookKeaw,2009) เพลงร็อคเปน็ ดนตรีท่ีมจี งั หวะจะโคนเร่งเรา้ โดยมที ่ีมาจากดนตรีร็อคแอนด์โรลยคุ 50's ตอนปลาย และ ยุค 60's ทีเ่ รยี กกนั วา่ 'Rock A Billy' หรือจากเพลง 'Rock Around The Clock' มีกลองให้จงั หวะพร้อมกับของ กตี ารท์ ห่ี นักแนน่ และเสียงร้องกระแทกกระทนั้ เพื่อปลุกเร้าคนฟังให้เกิดอารมณ์ ดนตรรี ็อคไดพ้ ฒั นาให้มีจงั หวะ ทหี่ นกั แน่นและมีรายละเอียดในแง่ของลูกเล่นกีตารม์ ากขน้ึ และเรว็ ขึน้ เลยเรยี กว่า ฮาร์ด รอ็ ค(Hard Rock)และ พฒั นาให้มีความสลับซบั ซ้อนในโครงสร้างของเพลง และเน้ือหาทเ่ี ป็นเรื่องราวที่เรยี กว่า โปรแกรสซฟี ร็อค (Progressive Rock) โดยมีเคร่ืองดนตรีอยา่ งคยี บ์ อร์ดและออรแ็ กนเข้ามามีบทบาท และพฒั นามาจนถึงมีความ หนักแน่นกรา้ วร้าว หยาบคาย ท้งั ในเนือ้ หาและดนตรีท่ีเน้นหนักไปท่ีกีต่ ารร์ ิธ่มึ และโซโล่เป็นพระเอกทเี่ รียกวา่ เฮฟว่ีเมทอล (Heavy Metal) เชน่ วง Mattallica , Nirvana เป็นต้น

7 บทที่ 3 วิธกี ารดำเนินงาน วัสดอุ ุปกรณ์และสารเคมีทีต่ ้องใช้ 1.เมลด็ ถัว่ เขยี ว 1 ถุง (500 กรัม) 2.โพแทสเซียมไฮดรอกไซดช์ นิดเกลด็ (KOH) 3. สผี สมอาหาร 4. ปิเปตแบบขีด 1 มลิ ลลิ ิตร 3 อนั 5.หลอดทดลอง 3 หลอด 6. ทวี่ างหลอดทดลอง 3 อัน 7.จุกยางมีรู 3 อัน 8.สำลี 9.ช้อนตักสาร 10. สายยาง 3 อนั 11.เคร่ืองตวงสาร 12.เครอื่ งจบั เวลา 3 เคร่ือง วิธกี ารทดลอง 1. นำเมลด็ ถว่ั เขยี วจำนวนหน่งึ มาแชน่ ้ำท้ิงไว้ 12 ช่วั โมงเพ่ือให้เมลด็ เริม่ งอกและเพม่ิ เมแทบอลซิ ึมของเมล็ดถ่ัว เขียว 2. หลงั แช่นำ้ แล้วแบง่ ถวั่ เขียวออกเป็น 3 กลมุ่ ใส่ในหลอดทดลองอย่างละเท่าๆกนั โดยใชว้ ธิ ีการนบั เมลด็ หลอด ละ 50 เมล็ด

87 3. ใหเ้ สยี งเพลงทีแ่ ตกตา่ งกนั กลุ่มหนึ่งเป็นเพลงคลาสสคิ อีกกล่มุ เปน็ แนวเพลงร็อค อีกหลอดทดลองไม่ให้ เสียงเพลงเป็นเวลา 1 ชั่วโมง โดยวางห่างจากกันเปน็ ระยะ5-6 เมตร 4. หลงั จาก 1 ช่ัวโมงปิดเสยี งเพลง นำสำลีใส่ลงไปให้พอปิดคลุมเมลด็ ถว่ั จากนนั้ ใส่โพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ (ชนดิ เกลด็ ) ลงไป 3 กรัม เพ่ือดดู กา๊ ซคาร์บอนไดออกไซด์ไว้ แล้วนำจุกยางท่ีมีสายยางเสยี บกบั ปิเปตไว้แล้วมาปิด ปากหลอดทดลองใหแ้ น่น โดยทง้ั 3 หลอดทดลองทำการทดลองพร้อมกัน 5. นำปลายปิเปตจ่มุ นา้ํ สีเลก็ นอ้ ย สงั เกตการณเ์ คลื่อนท่ีของหยดนํ้าสใี นปิเปต โดยจบั เวลา 10 นาที บันทกึ ผล การทดลอง (การเคล่อื นที่ของหยดสแี สดงถงึ การเปล่ยี นแปลงปรมิ าตรก๊าซในการทดลอง ซง่ึ จะสมั พันธ์โดยตรง กบั ปรมิ าณออกซิเจนที่ถูกใช้ไปในการหายใจ) 6. นำข้อมลู ท่ีได้ไปเขียนกราฟ แลว้ คำนวณหาอัตราการหายใจของเมล็ดถั่ว

9 บทที่ 4 ผลการดำเนินงาน จากการทดลองวดั ปริมาตรอากาศท่เี ปลี่ยนแปลงไปในชุดการทดลองไม่ให้เสยี งเพลง ให้เสียงเพลง คลาสสิค ให้เสยี งเพลงร็อค สามารถอธบิ ายได้ผลการทดลอง ดงั ตาราง ตารางแสดงความสัมพนั ธ์ระหวา่ งปริมาตรของอากาศทีเ่ ปล่ียนแปลงไป(มิลลิลิตร) กับเวลาทใี่ ช้(นาท)ี ปริมาตรของอากาศทเ่ี ปล่ียนแปลงไป (มล.) เวลา ไม่ให้เสียงเพลง เพลงคลาสสคิ เพลงรอ็ ค (นาท)ี ครัง้ ที่ ครง้ั ที่ คา่ เฉลย่ี ครัง้ ท1่ี ครัง้ ที่ ครง้ั ที่ คา่ เฉลยี่ คร้ังท่1ี ครงั้ ที่ ครงั้ ท3ี่ คา่ เฉลีย่ คร้งั ท่1ี (X) 2 3 (X) 2 3 (X) 2 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 000 1 0.10 0.05 0.13 0.09 0.10 0.15 0.17 0.14 0.08 0.19 0.14 0.14 2 0.21 0.12 0.24 0.19 0.19 0.25 0.26 0.23 0.18 0.29 0.18 0.22 3 0.24 0.19 0.32 0.25 0.25 0.32 0.34 0.30 0.25 0.39 0.25 0.30 4 0.24 0.26 0.39 0.30 0.32 0.38 0.39 0.36 0.32 0.45 0.33 0.37 5 0.34 0.32 0.46 0.37 0.38 0.44 0.45 0.42 0.35 0.53 0.40 0.43 6 0.41 0.38 0.54 0.44 0.44 0.50 0.52 0.49 0.43 0.60 0.47 0.50 7 0.5 0.43 0.60 0.51 0.50 0.55 0.60 0.55 0.48 0.67 0.54 0.56 8 0.55 0.49 0.66 0.57 0.55 0.61 0.65 0.60 0.54 0.74 0.61 0.63 9 0.63 0.55 0.72 0.63 0.61 0.66 0.70 0.66 0.59 0.81 0.67 0.69 10 0.65 0.61 0.79 0.68 0.67 0.72 0.79 0.73 0.65 0.86 0.71 0.74

10 จากการคำนวณอัตราการหายใจของเมลด็ ถัว่ ในชุดการทดลอง สามารถแสดงได้ดังกราฟ รูปที่4.1 กราฟแสดงความสมั พนั ธร์ ะหว่างปรมิ าตรอากาศท่ีเปล่ยี นแปลงไป คา่ ความชันของกราฟ เท่ากับ 0.0649 (มิลลิลติ ร) กบั เวลาทใี่ ช(้ นาท)ี ในชดุ การทดลองทไี่ ม่ไดใ้ หเ้ สียงเพลงกบั เมล็ดถ่วั ดงั นัน้ อตั ราการหายใจของเมลด็ ถว่ั เทา่ กบั 0.0649 มิลลิลติ ร/นาที รูปที่4.2 กราฟแสดงความสมั พนั ธร์ ะหว่างปรมิ าตรอากาศทเี่ ปลีย่ นแปลงไป ค่าความชนั ของกราฟ เทา่ กับ 0.0661 (มลิ ลลิ ติ ร) กบั เวลาทีใ่ ช(้ นาท)ี ในชดุ การทดลองทใี่ หเ้ สียงเพลงคลาสสิคกบั เมล็ดถ่วั ดงั นัน้ อตั ราการหายใจของเมล็ดถัว่ เทา่ กบั 0.0661 มลิ ลลิ ติ ร/นาที รูปที่4.3 กราฟแสดงความสมั พนั ธร์ ะหว่างปริมาตรอากาศท่ีเปล่ียนแปลงไป คา่ ความชนั ของกราฟ เท่ากบั 0.0671 (มิลลลิ ติ ร) กบั เวลาท่ใี ช(้ นาท)ี ในชดุ การทดลองทใี่ หเ้ สยี งเพลงรอ็ คกบั เมล็ดถ่วั ดงั นัน้ อตั ราการหายใจของเมล็ดถว่ั เทา่ กบั 0.0671 มลิ ลลิ ติ ร/นาที

11 บทท่ี 5 สรปุ อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ สรปุ ผล จากการทดลองวัดปรมิ าตรอากาศทีเ่ ปล่ียนแปลงไป (ปริมาณออกซิเจนทีถ่ กู ใช้ในการหายใจ) เมอื่ เปรยี บเทยี บอตั ราการหายใจเฉลยี่ ของเมลด็ ถั่วที่ไม่ไดร้ บั เสียงเพลง เมล็ดถัว่ ท่ีได้รบั เสยี งเพลงคลาสสคิ และเมลด็ ถ่วั ท่ไี ด้รับเสียงเพลงร็อค เปน็ ระยะเวลา 1 ช่ัวโมง โดยวัดเปน็ เวลา 10 นาที ผลการทดลองทไี่ ด้คือ เมลด็ ถ่ัวที่ ไดร้ ับเสียงเพลงร็อค มีอตั ราการหายใจเฉล่ียสงู ทีส่ ุด คดิ เป็น 0.0671 มลิ ลลิ ติ ร/นาที รองลงมาคือเมลด็ ถั่วท่ีได้รับ เสียงเพลงคลาสสคิ คิดเปน็ 0.0661 มลิ ลิลิตร/นาที และเมล็ดถ่วั ที่ไม่ได้รับเสียงเพลงมีอัตราการหายใจต่ำทสี่ ดุ คือ 0.0649 มิลลลิ ิตร/นาที อภิปรายผล เมลด็ ถ่วั ทไ่ี ด้รบั เสียงเพลงทัง้ rockและเพลงclassic มีอตั ราการหายใจเฉลยี่ สูงกวา่ เมล็ดถั่วท่ไี ม่ไดร้ บั เสยี งเพลง ซึง่ จากการทดลองการให้เสียงเพลงกบั ต้นถว่ั เปน็ ระยะเวลา 1 ชั่วโมง ผลการทดลองแสดงใหเ้ ห็นว่า เสียงเพลงและเสียงเพลงท่ตี า่ งชนิดกัน สง่ ผลต่อการหายใจของพืช โดยเสียงเพลงrock ซ่ึงมที ำนองท่รี วดเรว็ และ มีเสยี งที่หนักแน่น ทำให้พืชมีอัตราการหายใจที่สงู ขึ้น สว่ นเสียงเพลงclassicซง่ึ มีท่วงทำนองทีช่ า้ และผ่อนคลาย ทำให้ตน้ ถวั่ มีอตั ราการหายใจในระดบั ปานกลาง การท่เี มล็ดถว่ั นำออกซเิ จนเขา้ ไปในใชใ้ นกระบวนการเมทาบอลิ ซมึ เผาผลาญสารอาหารผ่านกระบวนการหายใจระดับเซลล์ในอตั ราทต่ี ่างกนั ก็ย่อมส่งผลให้อัตราการ เจรญิ เตบิ โตของต้นถั่วแตกตา่ งกันด้วย ซึ่งสอดคลอ้ งกบั สมมตฐิ านทไี่ ด้ตั้งไวว้ ่าถา้ แนวเพลงrock ส่งผลทำใหก้ าร หายใจของเมลด็ ถว่ั สูง ดงั นัน้ เสียงดนตรีมีผลตอ่ การเจริญเติบโตของพชื ซง่ึ โครงงานน้ีทำใหผ้ ้จู ดั ทำได้ทราบวา่ นอกจากคำพดู การกระทำ เสยี งเพลง มีผลตอ่ สง่ิ ไม่มชี ีวติ อยา่ งเชน่ น้ำ แลว้ เสียงเพลงซง่ึ มคี ลื่นความถี่ที่ต่างกัน กม็ ผี ลตอ่ เซลล์พชื ซ่ึงเป็นสงิ่ มีชวี ติ ดว้ ย โครงงานนี้จึงสามารถเป็นแนวทางในการต่อยอดไดห้ ลายด้าน อย่างเชน่ การพฒั นาพืชผลเศรษฐกจิ โดยใช้เสยี งเพลงหรอื คล่ืนเสยี งที่เหมาะสม เพ่ือให้พืชเจริญเตบิ โตไดด้ แี ละมอี ตั ราการ หายใจท่เี หมาะสมได้

12 ประโยชนท์ ีไ่ ด้รบั 1.ทราบวา่ เสยี งเพลงมีผลต่ออัตราการหายใจของพืช 2.เขา้ ใจกระบวนการหายใจระดบั เซลลใ์ นพืชและการหายใจของพืช 3.ไดฝ้ กึ ทักษะทางวทิ ยาศาสตร์ การวางแผน และการแก้ไขปัญหา ข้อเสนอแนะ 1.ควรวดั อตั ราการหายใจของเมลด็ ถว่ั ทนั ที หลังจากทเ่ี ปิดเพลงครบ 1 ชั่วโมง 2.ถา้ มโี อกาสอาจทำการทดลอง โดยเปดิ เพลงให้ตน้ ถ่ัวในระยะเวลาที่นานขนึ้

เอกสารอ้างองิ Sarin. (2014). How music affects plant growth. แหล่งข้อมลู : https://www.thai- thaifood.com/th/%E0%B8%96%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0 %B8%82%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A7/ คน้ เมอื่ วันท่ี 7 สงิ หาคม 2564 THAI-THAIFOOD.COM. (2017). ถัว่ เขยี ว. แหล่งข้อมูล: https://www.thai- thaifood.com/th/%E0%B8%96%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0 %B8%82%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A7/ ค้นเมื่อวันท่ี 7 สิงหาคม 2564 GAMMACO (Thailand) CO.,LTD. (2020). KOH โพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ 350 g. แหลง่ ขอ้ มูล: https://gammaco.com/gammaco/KOH- %E0%B9%82%E0%B8%9E%E0%B9%81%E0%B8%97%E0%B8%AA%E0%B9%80%E0%B8 %8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B9%84%E0%B8%AE%E0%B8%94%E0 %B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%8B%E0%B8%94%E0%B9%8C _3096135.html คน้ เมื่อวนั ท่ี 7 สงิ หาคม 2564 มมป.ดนตรีคลาสสิค. แหล่งข้อมลู : https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0% B8%B5%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%AA%E0%B8%B4% E0%B8%81 ค้นเมื่อวนั ท่ี 10 สงิ หาคม 2564 The wellness enterprise. (2017). Dr. Masaru Emoto and Water Consciousness. แหลง่ ขอ้ มลู :https://thewellnessenterprise.com/emoto/ ค้นเมื่อวนั ท่ี 10 สิงหาคม 2564 Sanomaru. (2018). การหายใจระดบั เซลล์ (Cellular Respiration) : แบบใช้ออกซเิ จน. แหลง่ ขอ้ มลู : https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/66599/-blo-scibio-sci- คน้ เมอื่ วนั ท่ี 10 สงิ หาคม 2564 'LookKeaw. (2009). ความหมายของ แนวเพลงตา่ งๆ. แหลง่ ขอ้ มูล: http://lookkeaw- defrance.blogspot.com/2009/07/blog-post_03.htmlคน้ เมื่อวันท่ี 10 สิงหาคม 2564

ภาคผนวก รูปภาพแสดงการทดลองใหเ้ สยี งเพลงแกเ่ มลด็ ถ่วั รูปภาพแสดงเมล็ดถ่วั ท่ใี สส่ าลี และโพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ รูปภาพแสดงการวดั การหายใจของเมลด็ ถ่วั รูปภาพแสดงการทดลองวดั อตั ราการหายใจของ หลงั จากเติมสผี สมอาหารลงในปลายปิเปต เมล็ดถ่วั จบั เวลาและบนั ทกึ ผล


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook