แผนการจดั การเรยี นรู้ กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 6 นางสาวดารณี ขำย่ิงเกดิ คณะครุศาสตร์
ก คาํ นาํ แผนการจัดการเรยี นรรู้ ายวิชาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ว 16101 ระดบั ชัน้ ประถมศกึ ษปีที่ 6 จัดทำข้ึน เพื่อใช้ในการจัดการเรียนการสอนโดยมีการศึกษาและวิเคราะห์หลักสูตรตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560) สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ คำอธิบายรายวิชา โครงสร้างรายวิชา แผนการจัดการเรียนรู้ เพื่อนําไปใช้ในการจัด กจิ กรรมการเรียนรู้ หวงั เป็นอย่างย่งิ วา่ แผนการจัดการเรียนรู้จะเปน็ ประโยชน์ในการพัฒนาคณุ ภาพการเรียนร้สู ง่ ผลใหก้ ารจัด กิจกรรมการเรียนรเู้ ป็นไปอย่างมปี ระสิทธิภาพ และนักเรียนมผี ลสัมฤทธ์ิทางการเรียนสูงขึ้นตอ่ ไป นางสาวรัตนาพร จนั หน่าย ผ้จู ดั ทำ
สารบญั ข เนื้อหา หนา้ คำนำ ก สารบัญ ข 1 1. สาระการเรียนรู้และมาตรฐานการเรียนรู้ 3 2. คำอธิบายราวิชาพ้ืนฐาน 4 3. โครงสร้างรายวิชา 10 4. แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1 19 สารอาหารและประโยชน์ของสารอาหาร 23 ภาคผนวก ภาคผนวก ก ใบกิจกรรม ภาคผนวก ข สือ่ การจัดการเรียนรู้
1 สาระการเรียนรู้และมาตรฐานการเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระที่ 1 วทิ ยาศาสตร์ชวี ภาพ มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งไม่มีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตและ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอดพลังงาน การเปลี่ยนแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายของประชากรปัญหาและผลกระทบ ที่มีต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แนวทางในการอนรุ กั ษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการ แกไ้ ขปัญหาสง่ิ แวดลอ้ มรวมทั้งนาํ ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลําเลียงสารผ่านเซลล์ความสัมพันธ์ ของโครงสร้าง และหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่ทางานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธข์ องโครงสร้าง และหน้าท่ขี องอวัยวะต่าง ๆ ของพชื ทท่ี างานสัมพันธ์กันรวมทั้งนํา ความรไู้ ปใช้ประโยชน์ มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธุกรรม สารพันธกุ รรม การ เปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมที่มีผลต่อสิ่งมีชีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพและ วิวัฒนาการ ของสงิ่ มชี ีวิต รวมท้งั นาํ ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ สาระท่ี 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับ โครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะ ของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี มาตรฐาน ว 2.2 เขา้ ใจธรรมชาตขิ องแรงในชวี ิตประจำวนั ผลของแรงท่ีกระทำตอ่ วัตถุ ลักษณะการเคลอ่ื นท่ีแบบ ตา่ ง ๆ ของวตั ถุ รวมทัง้ นาํ ความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์ มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่าง สสารและพลังงาน พลังงานในชีวิตประจำวัน ธรรมชาติของคลื่น ปรากฏการณ์ท่ีเกี่ยวข้องกับ เสียง แสง และคลน่ื แม่เหลก็ ไฟฟ้า รวมทงั้ นําความรู้ไปใช้ประโยชน์ สาระท่ี 3 วทิ ยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซีดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะที่ส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตและการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยอี วกาศ
2 มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบ และความสมั พันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก และ บนผิวโลก ธรณีพิบัติภยั กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟา้ อากาศและภมู ิอากาศโลกรวมท้ังผลต่อ ส่ิงมชี ีวิตและส่ิงแวดล้อม สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวิตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลง อย่างรวดเร็วใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหา หรือพัฒนา งานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบ เชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสมโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อชีวิต สังคม และส่ิงแวดล้อม มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคํานวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและ เป็น ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้ อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ ร้เู ท่าทนั และมีจริยธรรม สาระที่ 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ - มาตรฐาน ว 2.1 - ว 2.3 สาระท่ี 1 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สาระที่ 3 วิทยาศาสตรช์ วี ภาพ วทิ ยาศาสตร์ วทิ ยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ - มาตรฐาน ว 1.1 - ว 1.3 - มาตรฐาน ว 3.1 - ว 3.3 สาระท่ี 4 เทคโนโลยี - มาตรฐาน ว 4.1 - ว 4.2 แผนภาพสาระมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชวี้ ัดกลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) ท่ีมา : http://academic.obec.go.th/newsdetail.php?id=75
3 คำอธิบายรายวิชา รายวชิ า วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหัสวชิ า ว16101 ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 6 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จำนวน 120 ช่ัวโมง/ปี ศึกษา วิเคราะห์ สารอาหารประโยชน์ของสารอาหารแต่ละประเภทจากอาหารที่ตนเองรับประทานการ เลือกรับประทานอาหารให้ได้สารอาหารครบถ้วนในสัดส่วนที่เหมาะสมกับเพศและวัย รวมทั้งความปลอดภัยต่ อ สุขภาพ แบบจําลอง ระบบย่อยอาหาร หน้าที่ของอวัยวะในระบบย่อยอาหาร การย่อยอาหาร และการดูดซึม สารอาหาร ความสำคัญของระบบย่อยอาหาร การดูแลรักษาอวัยวะในระบบย่อยอาหารให้ทำงานเป็นปกติ การแยก สารผสม โดยการหยิบออก การร่อน การใช้แม่เหล็กดึงดูด การรินออก การกรอง และการตกตะกอน วธิ ีการ แก้ปัญหาในชีวิตประจำวนั เก่ียวกบั การแยกสาร การเกดิ และผลของแรงไฟฟ้า ซึง่ เกดิ จากวัตถุที่ผ่านการขัดถู ส่วนประกอบ หน้าที่ ของวงจรไฟฟ้าแต่ละส่วนอย่างง่าย แผนภาพการต่อวงจรไฟฟ้าอนุกรมและแบบขนาน การต่อหลอดไฟฟ้าแบบอนุกรมและขนานด้วยวิธีการที่เหมาะสม ประโยชน์ ข้อจํากัด การเกิดเงามืด เงามัว แผนภาพรังสีของแสงแสดงการเกิดเงามืดเงามัว แบบจําลองปรากฏการณ์สุริยุปราคา และจันทรุปราคา พัฒนาการ ของเทคโนโลยีอวกาศและการใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน กระบวนการเกิดหินอัคนี หินตะกอน และหินแปร แบบจำลองวัฏจักรหิน การใช้ประโยชน์ของหินและแร่ในชีวิตประจำวัน แบบจําลองการเกิด ซากดึกดำบรรพ์ สภาพแวดลอ้ มในอดีต การเกิดลมบก ลมทะเล และมรสมุ จากแบบจําลอง ผลของมรสุมต่อการเกิดฤดูของประเทศ ไทย ลักษณะและผลกระทบของ น้ำท่วม การกัดเซาะชายฝั่ง ดินถล่ม แผ่นดินไหว สึนามิ ผลกระทบของ ภัยธรรมชาติและธรณีพิบัติภัย แนวทางการเฝ้าระวังและปฏิบตั ิตนใหป้ ลอดภัยจากภยั ธรรมชาติ แบบจําลองอธิบาย การเกิดและผลของปรากฏการณ์เรือนกระจก กิจกรรมที่ก่อให้เกิดแก๊สเรือนกระจก ผลกระทบของปรากฏการ ณ์ เรอื นกระจกลกู เห็บ ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา การทำงาน การคาดการณ์ผลลัพธ์ จากปัญหาอย่างง่าย ออกแบบ และเขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้ซอฟต์แวร์ หรือสื่อ และตรวจหาข้อผิดพลาดและแก้ไขใช้อินเทอร์เน็ตค้นหา ความรู้ รวบรวม ประเมิน นําเสนอข้อมูลและสารสนเทศ โดยใช้ซอฟต์แวร์ที่หลากหลาย เพื่อแก้ปัญหาใน ชีวิตประจำวัน ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เข้าใจสิทธิและหน้าที่ของตน เคารพในสิทธิของผู้อื่น โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการสืบเสาะหาความรู้ การสํารวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล การเปรียบเทยี บข้อมูลจากหลักฐานเชิงประจักษ์ และการอภิปรายเพือ่ ใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจสามารถ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ นําความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์มีจริยธรรม คุณธรรมและคา่ นยิ มท่ีเหมาะสม รหัสตวั ชี้วดั ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5 มาตรฐาน ว 1.2 ป.6/1 มาตรฐาน ว 2.1 ป.6/1 มาตรฐาน ว 2.2 ป.6/1 , ป.6/2 , ป.6/3 , ป.6/4 , ป.6/5 , ป.6/6 , ป.6/7 , ป.6/8 มาตรฐาน ว 2.3 ป.6/1 , ป.6/2 มาตรฐาน ว 3.1 ป.6/1 , ป.6/2 , ป.6/3 , ป.6/4 , ป.6/5 , ป.6/6 , ป.6/7 , ป.6/8 , ป.6/9 มาตรฐาน ว 3.2 ป.6/1, ป.6/2 , ป.6/3, ป.6/4 มาตรฐาน ว 4.2 รวม 30 ตัวชี้วดั
4 โครงสรา้ งเวลาเรยี น รายวิชา วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ระดับช้นั ประถมศึกษาปีที่ 6 รหัสวิชา ว16101 จำนวน 120 ชวั่ โมง/ปี ท่ี หนว่ ยการ มาตรฐาน สาระการเรยี นรู้ แผนการจัดกิจกรรม เวลา นำ้ หนกั เรยี นรู้ ตวั ชว้ี ดั การเรียนรู้ เรียน คะแนน (ชวั่ โมง) 1 สารอาหาร ว 1.2 ป.6/1 ระบุสารอาหารและบอก - สารอาหารและ 1 10 และระบบ ประโยชน์ของสารอาหารแต่ ประโยชน์ของสารอาหาร ยอ่ ยอาหาร ล ะ ป ร ะ เ ภ ท จ า ก อ า ห า ร ที่ ตนเองรบั ประทาน ว 1.2 ป.6/2 บอกแนวทางในการเลือก - แนวทางในการเลือก 3 รับประทานอาหารให้ได้ รับประทานอาหาร สารอาหารครบถ้วนใน สัดส่วนที่เหมาะสมกับเพศ และวัยรวมทั้งความ ปลอดภยั ตอ่ สุขภาพ ว 1.2 ป.6/3 ตระหนักถึงความสำคัญของ - การกินอาหารให้ถูก 3 สารอาหาร โดยการเลือก หลกั โภชนาการ รับประทาน อ าห าร ท ี ่ มี - โภชนบัญญตั ิ 9 ส า ร อ า ห า ร ค ร บ ถ ้ ว น ใ น ประการ สัดส่วนที่เหมาะสมกับเพศ ธงโภชนาการ และวัย รวมทั้งปลอดภัยต่อ สุขภาพ ว 1.2 ป.6/4 สร้างแบบจำลองระบบย่อย - การทดสอบสารอาหาร 4 อาหาร และบรรยายหน้าท่ี ของอวัยวะในระบบย่อย อาหาร รวมทั้งอธิบายการ ย่อยอาหารและการดูดซึม สารอาหาร ว 1.2 ป.6/5 ตระหนักถึงความสำคัญของ - ระบบยอ่ ยอาหาร 3 ระบบย่อยอาหาร โดยการ - ทดสอบทา้ ยหนว่ ยที่ 1 บอกแนวทางในการดูแล รักษาอวัยวะในระบบย่อย อาหารใหท้ ำงานเป็นปกติ
5 ท่ี หนว่ ยการ มาตรฐาน สาระการเรยี นรู้ แผนการจดั กิจกรรม เวลาเรยี น นำ้ หนัก เรยี นรู้ ตวั ชวี้ ดั การเรยี นรู้ (ชั่วโมง) คะแนน 2 การแยกสาร ว 2.1 ป.6/1 อธิบายและเปรียบเทียบ - สารคอื อะไร 15 10 3 แรงไฟฟา้ ว 2.2 ป.6/1 11 5 การแยกสารผสม โดยการ - สมบตั ขิ องของแข็ง หยิบออก การร่อน การใช้ ของเหลว แก๊ส แม่เหล็กดึงดูด การรินออก - การเปล่ียนแปลง การกรองและการตกตะกอน สถานะของสาร โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ - การละลายของสาร รวมทั้งระบุวิธีแก้ปัญหาใน - การเกดิ สารใหม่ ชีวิตประจำวันเกี่ยวกับการ - การแยกสารผสม แยกสาร - การแยกสารเน้ือผสม - การจำแนกประเภท ของสารใน ชีวติ ประจำวนั - สารปรงุ รสอาหาร - สารแต่งสอี าหาร - สารทำความสะอาด สารกำจัดศตั รูพืช - ทดสอบทา้ ยหน่วยที่ 2 อธิบายการเกิดและผลของ - การเกดิ ไฟฟ้าซงึ่ เกดิ แรงไฟฟ้าซึ่งเกิดจากวัตถุท่ี จากวัตถทุ ี่ผ่านการขดั ถู ผ ่ า น ก า ร ข ั ด ถ ู โ ด ย ใ ช้ - ผลของแรงไฟฟา้ ซ่ึง หลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ เกิดจากวตั ถุทผ่ี า่ นการ ขัดถูโดยใชห้ ลกั ฐานเชิง ประจกั ษ์ - ทดลองการเกดิ แรง ไฟฟา้ จากการขดั ถู - ทดสอบท้ายหน่วยท่ี 3
6 ท่ี หนว่ ยการ มาตรฐาน สาระการเรยี นรู้ แผนการจดั กิจกรรม เวลาเรยี น น้ำหนกั เรยี นรู้ ตวั ช้วี ดั การเรยี นรู้ (ชวั่ โมง) คะแนน 4 วงจรไฟฟ้า ว 2.3 ป.6/1 ร ะ บ ุ ส ่ ว น ป ร ะ ก อ บ แ ล ะ - วงจรไฟฟ้าอย่างง่าย 1 10 2 บรรยายหน้าที่ของแต่ละ ประกอบดว้ ยอะไรบา้ ง 2 2 ส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้า 2 2 อย่างง่ายจากหลักฐานเชิง ประจักษ์ ว 2.3 ป.6/2 เขียนแผนภ า พ แ ล ะ ต่ อ - ตัวนำและฉนวนไฟฟา้ วงจรไฟฟา้ อยางงา่ ย – เขียนแผนภาพและ ต่อวงจรไฟฟ้าอยางงา่ ย ว 2.3 ป.6/3 ออกแบบการทดลองและ - การต่อเซลลไ์ ฟฟา้ ทดลองด้วยวิธีทีเ่ หมาะสมใน แบบอนกุ รม การอธิบายวิธีการและผล ของการต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบ อนกุ รม ว 2.3 ป.6/4 ต ร ะ ห น ั ก ถ ึ ง ป ร ะ โ ย ช น์ - ประโยชนข์ องการต่อ ของคว ามรู้ของการต่ อ เซลลไ์ ฟฟา้ แบบอนุกรม เซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรม และการประยกุ ต์ใชใ้ น โดยบอกประโยชน์และการ ชีวิตประจำวัน ประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตประจำวัน ว 2.3 ป.6/5 ออกแบบการทดลองและ - การตอ่ เซลล์ไฟฟ้า ทดลองด้วยวิธีที่เหมาะสม แบบขนาน ในการอธิบายการต่อหลอด - ประโยชน์ของการต่อ ไฟฟ้าแบบอนุกรมและแบบ เซลล์ไฟฟ้าแบบอนกุ รม ขนาน และแบบขนาน ว 2.3 ป.6/6 ตระหนักถึงประโยชน์ของ - แม่เหล็กไฟฟ้าเกิดข้นึ ความรู้ของการต่อหลอด ไดอ้ ย่างไร ไฟฟ้าแบบอนุกรมและแบบ - ประโยชนข์ องการต่อ ขนาน โดยบอกประโยชน์ หลอดไฟฟ้าแบบอนุกรม ข้อจำกัด และการประยกุ ต์ และแบบขนาน ใช้ในชวี ติ ประจำวนั - ทดสอบทา้ ยหน่วยที่ 4
7 ท่ี หน่วยการ มาตรฐาน สาระการเรียนรู้ แผนการจดั กิจกรรม เวลาเรยี น นำ้ หนกั เรยี นรู้ ตวั ชีว้ ดั การเรยี นรู้ (ชัว่ โมง) คะแนน ว 2.3 ป.6/7 อธิบายการเกิดเงามืดเงามัว - การเกดิ เงามืดเงามัว 2 จากหลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ ว 2.3 ป.6/8 การเขียนแผนภาพรังสีของ - เขยี นแผนภาพรังสี 2 แสงแสดงการเกิดเงามืดเงา ของแสงแสดงการเกิด 5 มวั เงามืดเงามวั - ทดสอบทา้ ยหน่วยท่ี 5 4 1 2 5 สรุ ิยปุ ราคา ว 3.1 ป.6/1 สร้างแบบจำลองที่อธิบาย - การเกดิ สุริยปุ ราคา 5 10 จนั ทรปุ ราคา การเกิดและเปรียบเทียบ - การเกิดจันทรุปราคา และเทคโนโลยี ปรากฏการณ์สุริยุปราคา - ปฏทิ ินดวงจันทร์ อวกาศ และจนั ทรุปราคา - การเกดิ ข้างขึน้ ขา้ งแรม - การเกิดฤดูกาล - ฤดขู องเรา ว 3.1 ป.6/2 อ ธ ิ บ า ย พ ั ฒ น า ก า ร ข อ ง - เทคโนโลยอี วกาศ เทคโนโลยีอวกาศ และ - กลอ้ งโทรทศั น์ ยกตวั อย่างการนำเทคโนโลยี - จรวด อวกาศมาใช้ประโยชน์ใน - การพัฒนาเทคโนโลยี ชีวิตประจำวันจากข้อมูลท่ี อวกาศ รวบรวมได้ - ทดสอบท้ายหนว่ ยท่ี 5 6 โลกและการ ว 3.2 ป.6/1 เปรียบเทียบกระบวนการ - วฏั จกั รหิน เปลี่ยนแปลง เกิดหนิ อัคนี หินตะกอน และ หินแปร และอธิบายวัฏจักร หนิ จากแบบจำลอง ว 3.2 ป.6/2 บรรยายและยกตัวอย่างการ - ประโยชน์ของหนิ และ ใช้ประโยชน์ของหินและแร่ แร่ในชวี ติ ประจำวนั ในชีวิตประจำวันจากข้อมูล ท่รี วบรวมได้
8 ที่ หนว่ ยการ มาตรฐาน สาระการเรยี นรู้ แผนการจดั กจิ กรรม เวลาเรียน น้ำหนกั เรยี นรู้ ตวั ชี้วัด การเรยี นรู้ (ชั่วโมง) คะแนน ว 3.2 ป.6/3 สร้างแบบจำลองที่อธิบาย - แบบจำลองการเกิด 2 ว 3.2 ป.6/4 การเกิดซากดึกดำบรรพ์และ ซากดกึ ดำบรรพ์ 2 ว 3.2 ป.6/5 คาดคะเนสภาพแวดล้อมใน 2 ว 3.2 ป.6/6 อดีตของซากดกึ ดำบรรพ์ 2 ว 3.2 ป.6/7 1 เปรียบเทียบการเกิดลมบก - การเกดิ ลมบก ว 3.2 ป.6/8 ลมทะเลและมรสุม รวมท้ัง ลมทะเล และมรสุม 2 อธิบายผลที่มีต่อสิ่งมีชีวิต และสิ่งแวดล้อมจาก แบบจำลอง อธิบายผลขอมรสุมตอการ - การเกดิ ฤดูของ เกิดฤดูของประเทศไทยจาก ประเทศไทย ขอ้ มลู ทรี วบรวมได้ บ ร ร ย า ย ล ั ก ษ ณ ะ แ ล ะ - ดนิ ถล่ม ผ ล ก ร ะ ท บ ข อ ง น ้ ำ ท ่ ว ม - แผน่ ดนิ ไหว การกัดเซาะชายฝั่ง ดินถล่ม - สึนามิ แผ่นดนิ ไหว สนึ ามิ ตระหนักถึงผลกระทบของ - แนวทางในการเฝา้ ภัยธรรมชาติ และธรณีพิบัติ ระวงั และปฏบิ ตั ติ นให้ ภัย โดยนำเสนอแนวทางใน ปลอดภยั จากภยั การเฝ้าระวังและปฏิบัติตน ธรรมชาติ ใ ห ้ ป ล อ ด ภ ั ย จ า ก ภั ย ธรรมชาติและธรณพี ิบัติภัยท่ี อาจเกิดในท้องถ่ิน สร้างแบบจำลองที่อธิบาย - การเกิดปรากฏการณ์ การเกิดปรากฏการณ์เรือน เรอื นกระจก กระจกและผลของ ปรากฏการณ์เรือนกระจก ตอ่ สิง่ มชี วี ติ
9 ท่ี หน่วยการ มาตรฐาน สาระการเรียนรู้ แผนการจดั กิจกรรม เวลาเรียน น้ำหนัก เรยี นรู้ ตวั ชว้ี ัด การเรยี นรู้ (ชว่ั โมง) คะแนน 7 วทิ ยาการ ว 3.2 ป.6/9 ตระหนักถึงผลกระทบของ - แนวทางการปฏบิ ตั ติ น 1 10 คำนวณ ปรากฏการณ์เรือนกระจก เพอ่ื ลดกิจกรรมที่ 40 โดยนำเสนอแนวทางการ ก่อใหเ้ กิดแกส๊ เรอื น 60 ปฏิบัติตนเพื่อลดกิจกรรมท่ี กระจก 60 กอ่ ใหเ้ กิดแก๊สเรอื นกระจก - ทดสอบทา้ ยหนว่ ยท่ี 6 10 - ทดสอบท้ายปี 30 การศกึ ษา 100 ว 4.2 ป.6/1 ใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกศาสตรใ์ นการอธบิ ายและออกแบบ วิธีแก้ปญั หาทพี่ บในชีวิตประจำวนั ว 4.2 ป.6/2 ออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างง่าย เพอื่ แก้ปญั หา ในชีวิตประจำวัน ตรวจหาขอ้ ผดิ พลาดของโปรแกรม และแก้ไข ว 4.2 ป.6/3 ใชอ้ ินเทอร์เน็ตในการค้นหาข้อมูลอยา่ งมีประสิทธภิ าพ ว 4.2 ป.6/4 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทำงานรว่ มกนั อย่างปลอดภยั เขา้ ใจสทิ ธแิ ละหน้าท่ขี องตน เคารพในสทิ ธิของผู้อ่นื แจ้งผเู้ กีย่ วขอ้ งเม่ือพบข้อมลู หรือบุคคลไมเ่ หมาะสม รวม 120 คะแนนระหว่างเรยี น คะแนนสอบกลางปี คะแนนสอบปลายปี รวมคะแนนท้งั ปี
10 แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1 กล่มุ สาระการเรียนรู้ วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหสั วิชา ว 16101 วทิ ยาศาสตร์ ระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา……….. หนว่ ยการเรยี นท่ี 1 สารอาหารและระบบย่อยอาหาร เวลา 14 ช่ัวโมง เรื่อง สารอาหารและประโยชนข์ องสารอาหาร เวลาเรยี น 1 ชั่วโมง สอนวันที่…...….เดือน…………………….…พ.ศ………….. ผ้สู อน นางสาวรัตนาพร จันหนา่ ย มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวติ หน่วยพน้ื ฐานของสงิ่ มชี ีวิต การลำเลยี งสารเข้าและออกจาก เซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสรา้ งและหน้าที่ของระบบต่างๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่ทำงานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ ของโครงสรา้ งและหน้าท่ีของอวัยวะต่างๆ ของพืชท่ที ำงานสัมพันธก์ นั รวมท้ังนำความรไู้ ปใช้ประโยชน์ ตวั ช้ีวัด ว 1.2 ป.6/1 ระบสุ ารอาหารและบอกประโยชน์ของสารอาหารแต่ละประเภทจากอาหารท่ี ตนเองรับประทาน จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ เมื่อจบบทเรียนน้ีแลว้ นกั เรียนสามารถ 1. อธบิ ายความหมายของสารอาหารได้ (K) 2. จำแนกประเภทของสารอาหารและบอกประโยชน์ของสารอาหารได้ (P) 3. ซ่ือสัตยส์ จุ รติ ความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มีความรับผิดชอบ (A) สาระการเรียนรู้ ประเภทและประโยชนข์ องสารอาหาร สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด • อาหารเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตและดำรงอยู่ได้ โดยสารอาหารที่อยู่ใน อาหารมี 6 ประเภท แบ่งออกเป็น 6 ประเภท ได้แก่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน เกลือแร่ และนำ้ • สารอาหารแตล่ ะประเภทมีประโยชนต์ อ่ ร่างกายแตกตา่ งกัน แบ่งออกเปน็ 2 ประเภท สารอาหารทใ่ี ห้พลังานแกร่ า่ งกาย สารอาหารทีไ่ มใ่ ห้พลังงานแก่รา่ งกาย 1. เกลอื แร่ 1. โปรตนี ชว่ ยให้พลงั งานและซ่อมแซมส่วนท่ีสึกหรอ 2. วติ ามิน ชว่ ยใหร้ ่างกายทำงานได้ปกติ 3. นำ้ 2.คารโ์ บไฮเดรต ชว่ ยใหพ้ ลังงานแกร่ ่างกาย 3. ไขมัน ช่วยใหพ้ ลงั งานและความอบอุ่นแกร่ ่างกาย
11 สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น 1.ความสามารถในการส่ือสาร (นกั เรยี นสามารถอธบิ ายความหมายของสารอาหารได้) 2. ความสามารถในการคดิ (นักเรียนสามารถการเรยี นรไู้ ด้) 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต (นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองและสามารถนำความรู้ไปใช้ใน ชีวติ ประจำวนั ได)้ 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี (นกั เรยี นสามารถสืบค้นขอ้ มูลเพ่ิมเตมิ จากเวบ็ ไซต์ Vonder go ได)้ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 1. ทกั ษะการสงั เกต 2. ทักษะการจำแนกประเภท 3. ทกั ษะการลงความเหน็ จากข้อมูล 4. ทักษะการตีความหมายขอ้ มูลและการลงขอ้ สรปุ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ซือ่ สตั ย์สจุ ริต 2. ความมวี นิ ัย 3. ใฝ่เรียนรู้ 4. มคี วามรบั ผิดชอบ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ใช้วธิ กี ารสอนแบบ 1. สบื เสาะหาความรู้ (Inquiry Method) 2. สะเตม็ ศึกษา (STEM) (ขั้นที่ 4 ข้ันขยายความรู้) ข้นั ที่ 1 สร้างความสนใจ (Engagement) (5 นาที) 1. ครูแบ่งนกั เรยี นออกเป็น 5 กลุ่ม โดยคละนกั เรียนเก่ง กลาง ออ่ น 2. ครูตั้งคำถามเพ่ือกระตุน้ ความสนใจของนกั เรยี น และให้นกั เรยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเพื่อหาคำตอบ 1) อาหารจำเป็นต่อรา่ งกายอยา่ งไร (แนวคำตอบ : อาหารจำเป็นต่อรา่ งกาย เม่อื รับประทานอาหารเขา้ ไปจะไดร้ ับสารอาหาร ซึ่งจะชว่ ยให้ รา่ งกายเจรญิ เติบโตและมสี ุขภาพด)ี 3. นักเรียนสังเกตสื่อภาพเมนูอาหารและร่วมกันอภิปรายคำถามตามความคิดเห็นของแต่ละคน โดยครู ตั้งคำถาม ดังนี้ ทีม่ า : https://www.matichonacademy.com/course/
12 1) จากภาพ นกั เรียนสังเกตว่าเปน็ เมนอู าหารใด (แนวคำตอบ : ขา้ วมันไก)่ 2) นักเรียนคดิ ว่าเมนูอาหารในภาพประกอบด้วยอะไรบ้าง (แนวคำตอบ : 1. ขา้ ว 2. เน้อื ไก่ 3. ผกั ชี 4. แตงกวา 5. น้ำซปุ 6. นำ้ จม้ิ ) 3) นักเรียนคิดว่าอาหารแต่ละประเภทมีประโยชนต์ ่อร่างกายอย่างไร (แนวคำตอบ : ตอบตามความคิดของนักเรียน) 4. จากนัน้ ครเู ชอื่ มโยงเข้าสู่บทเรยี นว่า “วันน้ีเราจะมาเรียนรกู้ ันวา่ อาหารแต่ละชนิดให้สารอาหารประเภท ใด และมปี ระโยชนต์ อ่ ร่างกายของเราอยา่ งไร” ขน้ั ท่ี 2 สำรวจและคน้ หา (exploration) ( 20 นาที) 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาใบความรูเ้ รื่อง สารอาหารและประโยชนข์ องสารอาหาร 2. นักเรยี นทำกจิ กรรม “กล่องสมุ่ อาหารแสนสนุก” โดยปฏบิ ตั ิ ดังน้ี 1) นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ส่งตัวแทนออกมารบั อปุ กรณ์ ไดแ้ ก่ - กล่องสุ่มอาหาร - กระดานจำแนก 2) ครอู ธบิ ายวธิ ีปฏิบตั ิกจิ กรรมใหน้ กั เรียนฟัง ให้นักเรยี นรว่ มกันหยิบบตั รภาพอาหารทอี่ ยู่ในกล่องสุ่มอาหารขึ้นมา และนำไปติดกบั กระดาน จำแนก เพอื่ จำแนกประเภทของอาหาร 3. จากน้ันนักเรยี นทำใบกจิ กรรมที่ 1 สารอาหารทีจ่ ำเป็นตอ่ ร่างกาย ขน้ั ท่ี 3 ขั้นอธบิ ายและลงข้อสรุป (Explanation) ( 20 นาที ) 1. ครสู ่มุ ตัวแทนนักเรียนออกมา 1 กลุ่ม เพ่ือนำเสนอการทำกจิ กรรม “กล่องส่มุ อาหารแสนสนุก” 2. ครูและนักเรียนรว่ มกันสรปุ และตอบคำถามจากการทำกิจกรรม 1) สารอาหารหมายถงึ อะไร (แนวคำตอบ : สารทีม่ ีอยใู่ นอาหาร ซ่ึงรา่ งกายสามารถนำไปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวิตประจำวันได)้ 2) สารอาหารแบง่ ออกเป็นกปี่ ระเภท ได้แก่อะไรบ้าง (แนวคำตอบ : 6 ประเภท ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน วติ ามนิ เกลอื แร่ และนำ้ ) 3) สารอาหารท่ีใหพ้ ลงั งานสามารถพบไดท้ ีไ่ หน และมปี ระโยชน์ตอ่ ร่างกายอย่างไร (แนวคำตอบ : โปรตีน พบไดใ้ น : เนอ้ื สัตว์ นม ไข่ และถ่ัวเมล็ดแหง้ ประโยชน์ : ช่วยใหพ้ ลังงานและซอ่ มแซมส่วนท่ีสกึ หรอ คารโ์ บไฮเดรต พบไดใ้ น : ขา้ ว แป้ง มนั และน้ำตาล ประโยชน์ : ช่วยใหพ้ ลงั งานแกร่ า่ งกาย ไขมัน พบไดใ้ น : นำ้ มนั และไขมนั จากพชื และสัตว์ ประโยชน์ : ชว่ ยใหพ้ ลังงานและความอบอนุ่ แก่ร่างกาย)
13 4) สารอาหารที่ไมใ่ หพ้ ลงั งานสามารถพบไดท้ ี่ไหน และมปี ระโยชน์ต่อรา่ งกายอยา่ งไร (แนวคำตอบ : วิตามนิ พบไดใ้ น : พืช ผัก และผลไม้ ประโยชน์ : ช่วยเสรมิ สรา้ งการทำงานของร่างกายให้เปน็ ปกติ ทำให้ ร่างกายเจรญิ เติบโตมสี ขุ ภาพดี เกลือแร่ พบไดใ้ น : พืช ผัก และผลไม้ ประโยชน์ : ชว่ ยเสริมสรา้ งการทำงานของร่างกายให้เปน็ ปกติ ทำให้ รา่ งกายเจริญเตบิ โตมสี ุขภาพดี ตลอดจนเปน็ ส่วนประกอบ หลักของอวยั วะต่าง ๆ นำ้ ประโยชน์ : ชว่ ยลำเลยี งสารต่าง ๆ ไปท่ัวรา่ งกาย นำ้ เปน็ ส่วนประกอบ ประมาณ เปอร์เซน็ ตข์ องน้ำหนักตวั ) 5) เพราะเหตุใด นำ้ จงึ จัดเปน็ สารอาหารท่ีควรได้รบั ในแต่ละวนั (แนวคำตอบ เพราะน้ำมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายประการ เช่น ช่วยในการขับถ่ายของเสีย ช่วยในการลำเลยี งสารในรา่ งกาย ช่วยควบคุมอณุ หภูมิรา่ งกายให้คงท่)ี ขน้ั ท่ี 4 ข้ันขยายความรู้ (Elaboration) (15 นาที) 1. ครแู นะนำนวตั กรรมสอ่ื การเรยี นรเู้ ทคโนโลยี โดยให้นกั เรยี นศึกษาความรู้เพมิ่ เตมิ ผา่ นเวบ็ ไซต์ Vonder Go เรอ่ื ง สารอาหารและประโยชนข์ องสารอาหาร โดยให้นักเรยี นปฏบิ ตั ิดงั นี้ 1.1 นกั เรยี นเข้าสู่เว็บไซต์ URL : Playgo.vonder.io ซึง่ จะปรากฏหน้าเวบ็ ไซตน์ ี้ 1.2 ให้นักเรียนกรอก PIN หรือสแกนคิวอารโ์ คด้ (ซ่ึงจะแตกต่างกนั ไปในแตล่ ะรอบ) เพื่อเขา้ สูเ่ กม 1.3 เริ่มเล่นเกม โดยกดคำวา่ Go ทีด่ า้ นล่างขวามอื
14 2. ครูสงั่ การบ้านใหน้ กั เรยี นสร้างชิ้นงานจากกจิ กรรมสะเต็ม (STEM) เรอื่ ง อาหารเพอื่ สขุ ภาพ สถานการณ์ ถ้าในหนึ่งวันนักเรียนมีเวลารับประทานอาหารน้อย จึงเลือกรับประทานอาหารฟาสต์ฟูดเป็นส่วนใหญ่ ซงึ่ ส่งผลให้เกดิ โรคอ้วนตามมา หากนกั เรยี นตอ้ งการเปล่ียนแปลงการรบั ประทานอาหารเพื่อดูแลสุขภาพ นักเรียนจะ เลือกอาหารประเภทใด โดยนักเรียนต้องจัดอาหารที่มีทั้งอาหารคาว อาหารหวาน มีสารอาหารครบทั้ง 6 ประเภท และไมเ่ กินปรมิ าณแคลอรี่ทคี่ วรได้รบั ต่อวนั คอื ผ้ชู าย 1,700 กโิ ลแคลอรี่ และผหู้ ญิง 1,600 กิโลแคลอร่ี S : วทิ ยาศาสตร์ T : เทคโนโลยี - การจัดกลุม่ อาหารตามความรเู้ ร่ือง - การสืบคน้ ขอ้ มลู เก่ียวกับสารอาหาร สารอาหารและประโยชน์ของ สารอาหาร กจิ กรรม จานอาหารเพื่อสขุ ภาพ E : วิศวกรรม M : คณติ ศาสตร์ - การออกแบบ จานอาหารเพื่อ - การคำนวณปริมาณสารอาหารท่คี วร สขุ ภาพ ไดร้ ับต่อวัน ขน้ั ที่ 5 ประเมนิ ผล (Evaluation) 1. ครปู ระเมนิ ความร้จู ากใบกิจกรรมท่ี 1 เรอื่ ง สารอาหารท่ีจำเป็นตอ่ รา่ งกาย และการตอบคำถาม 2. ครูประเมินทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรด์ ว้ ยแบบประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 3. ครูประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ดว้ ยแบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ หัวข้อการประเมิน วธิ กี ารวดั เครอ่ื งมอื เกณฑ์การประเมนิ 1. ดา้ นความรู้ (K) 1.1 ใบงานที่ 1 เรอื่ ง ผ่านเกณฑ์ในระดบั ประเมินจาก สารอาหารท่ีจำเปน็ ต่อ รอ้ ยละ 60 ขนึ้ ไป 1.1 อธิบายความหมายของ 1.1 การตรวจใบ ร่างกาย สารอาหารได้ กจิ กรรม ผา่ นเกณฑ์ในระดบั 1.2 การตอบคำถาม 2.1 แบบประเมินทักษะ ร้อยละ 60 ข้ึนไป 2. ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) กระบวนการทาง 2.2 จำแนกประเภทของ ประเมนิ จาก วิทยาศาสตร์ ผ่านเกณฑ์ในระดับ 2.1 การสังเกต รอ้ ยละ 60 ขน้ึ ไป สารอาหารและบอกประโยชน์ 3.1 แบบประเมิน ของสารอาหารได้ พฤติกรรมการปฏบิ ัติ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 3. ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พงึ กิจกรรม ประสงค์ (A) ประเมนิ จาก 3.1 ซ่ือสัตยส์ จุ ริต ความมี 3.1 การสงั เกต วนิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ มีความ รบั ผิดชอบ พฤติกรรมด้าน คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
15 สอื่ และแหล่งการเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรยี นวิทยาศาสตร์ประถมศึกษาปีท่ี 6 เลม่ 1 (สสวท.) หนา้ 6 - 19 2. เว็บไซต์ Vonder Go 3. สอ่ื ภาพเมนูอาหาร 4. ใบความรูเ้ ร่อื ง สารอาหารและประโยชนข์ องสารอาหาร 5. ใบกิจกรรมท่ี 1 สารอาหารทจ่ี ำเปน็ ตอ่ รา่ งกาย 6. ใบกจิ กรรมท่ี 2 จานอาหารเพื่อสขุ ภาพ 7. ส่อื กจิ กรรม “กล่องสุ่มอาหารแสนสนุก” - กลอ่ งส่มุ อาหาร - กระดานจำแนก
16 แบบประเมินความรู้ ใบกจิ กรรมที่ 1 สารอาหารท่ีจำเป็นตอ่ รา่ งกาย กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ รายวิชาวิทยาศาสตรพ์ ้ืนฐาน ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 คำช้ีแจง ให้ครผู สู้ อนบนั ทกึ คะแนนจากแบบบันทึกกจิ กรรรมและการตอบคำถามของนกั เรียน รายการประเมนิ คะแนนท่ีได้ ผลการประเมนิ แบบบนั ทกึ การตอบ (15) ลำดบั ชอื่ - นามสกุล กิจกรรม (10) คำถาม (5) รอ้ ยละ ผา่ น ไม่ ผ่าน สรปุ ผลการประเมิน ลงชือ่ ........................................................ผู้ประเมิน ................./................../.................. ผลการประเมิน จำนวน (คน) รอ้ ยละ ผา่ น ไมผ่ า่ น
17 แบบประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ รายวิชาวทิ ยาศาสตร์พ้ืนฐาน ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 6 คำชแี้ จง : ให้ผูส้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นระหวา่ งเรียนและการทำกจิ กรรม แล้วใสเ่ คร่ืองหมาย ✓ ลงใน ท่ตี รงกับคะแนนที่ได้รบั เกณฑ์การใหค้ ะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่ำเสมอ 3 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้งั 2 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบางครง้ั 1 คะแนน รายการประเมิน สรุปผลการประเมนิ การ ท่ี ชอ่ื - นามสกุล การสังเกต การ การลง ตคี วาม คะแนน ผลการประเมนิ จำแนก ความเห็น หมาย (12) ร้อยละ ประเภท จากขอ้ มูล ข้อมูลและ การลง ข้อสรุป 321321321321 ผ่าน ไม่ ผ่าน สรปุ ผลการประเมนิ รอ้ ยละ ลงช่ือ........................................................ผูป้ ระเมนิ ................./................../.................. ผลการประเมนิ จำนวน (คน) ผา่ น ไม่ผ่าน
18 แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ รายวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 6 คำชี้แจง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นระหว่างเรียนและการทำกจิ กรรม แลว้ ใส่เคร่อื งหมาย ✓ ลงใน ที่ตรงกับคะแนนทไ่ี ดร้ บั เกณฑ์การให้คะแนน ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมำ่ เสมอ 3 คะแนน ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง 2 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบางคร้งั 1 คะแนน รายการประเมนิ สรปุ ผลการประเมิน ท่ี ช่อื - นามสกลุ ชื่อสัตย์ ความมี ใฝเ่ รยี นรู้ มคี วาม คะแนน ผลการประเมิน สจุ ริต วินัย รับผดิ ชอบ 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 (12) ร้อยละ ผา่ น ไม่ ผา่ น สรปุ ผลการประเมนิ รอ้ ยละ ลงชอ่ื ........................................................ผปู้ ระเมิน ................./................../.................. ผลการประเมนิ จำนวน (คน) ผา่ น ไมผ่ า่ น
10 บนั ทกึ หลังการสอน กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ช้ันประถมศึกษาปีที่ 6) ดา้ นความรู้ (K) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ด้านทักษะกระบวนการ (P) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ดา้ นคณุ ลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ (A) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหาและอปุ สรรค/ข้อเสนอแนะ/แนวทางการแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื ...........................................................ผสู้ อน ลงชือ่ ...........................................................ผู้ตรวจ (นางสาวรตั นาพร จันหน่าย) (………………………………………….) ขอ้ คดิ เห็น/ข้อเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ ...........................................................ผูต้ รวจ (…………………………………………)
20 ภาคผนวก ก
21 ใบกจิ กรรมที่ 1 สารอาหารท่จี ำเป็นต่อรา่ งกาย ชื่อ - สกลุ …………………………………………………………………………..ช้นั ………………เลขท่ี………………. วนั ท่ี……………เดอื น……………………………….พ.ศ………………… คำชแ้ี จง : ให้นักเรียนจำแนกสว่ นประกอบของอาหารที่กำหนดให้ และใสเ่ ครื่อง ✓ ในช่องสารอาหารที่พบใน สว่ นประกอบ พรอ้ มทง้ั บอกประโยชน์ของสารอาหารน้นั สารอาหาร ชอ่ื อาหาร สว่ นประกอบ โปร ีตน ประโยชน์ท่ไี ด้รับ คา ์รโบไฮเดรต ไขมัน วิตา ิมน เก ืลอแ ่ร ้นำ คำชี้แจง : ใหน้ กั เรียนตอบคำถามต่อไปน้ี 1. สารอาหาร หมายถงึ …….………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 2. สารอาหารที่ให้พลังงาน ได้แก่ ………………………………………………………………………………………………………………….. 3. สารอาหารท่ไี มใ่ ห้พลงั งาน ได้แก่ ………………………………………………………………………………………………………………. 4. กจิ กรรมนีส้ ามารถสรปุ ได้ว่า……………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………...………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
22 เฉลยใบกิจกรรมที่ 1 สารอาหารทีจ่ ำเป็นตอ่ ร่างกาย ช่อื - สกุล…………………………………………………………………………..ชั้น………………เลขท่ี………………. วนั ท่ี……………เดือน……………………………….พ.ศ………………… คำชีแ้ จง : ใหน้ กั เรียนจำแนกส่วนประกอบของอาหารทกี่ ำหนดให้ และใส่เครื่อง ✓ ในชอ่ งสารอาหารท่ีพบใน สว่ นประกอบ พรอ้ มท้งั บอกประโยชนข์ องสารอาหารน้ัน สารอาหาร ประโยชนท์ ี่ไดร้ บั ช่ืออาหาร สว่ นประกอบ โปร ีตน คา ์รโบไฮเดรต ไขมัน วิตา ิมน เก ืลอแ ่ร ้นำ ขา้ วกระเพรา 1. ข้าว นำ้ ตาล ✓ ช่วยซ่อมแซมส่วนที่ หมูสบั ไข่ดาว 2. เนือ้ หมู 3. กะเพรา พริก ✓ สกึ หรอ และให้ 4. น้ำมันพืช 5. นำ้ ปลา ✓✓ พลังงานแกร่ ่างกาย ✓ ช่วยใหร้ ่างกาย ✓ ✓ เจรญิ เติบโต คำชี้แจง : ใหน้ ักเรียนตอบคำถามต่อไปน้ี 1. สารอาหาร หมายถึง……สารที่มอี ยใู่ นอาหาร ซ่ึงร่างกายสามารถนำไปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ติ ประจำวันได้………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 2. สารอาหารทใี่ ห้พลงั งาน ได้แก่ ……โปรตีน.…คารโ์ บไฮเดรต…..และไขมัน…………………………………………………….….. 3. สารอาหารทีไ่ ม่ให้พลงั งาน ได้แก่ ………วิตามิน…...เกลือแร่…..และน้ำ……………………………………………………………. 4. กิจกรรมนสี้ ามารถสรปุ ไดว้ ่า…...สารอาหารชว่ ยใหร้ า่ งกายเจริญเติบโตและดำรงอยไู่ ด้ โดยสารอาหารแบง่ เป็น 6 ประเภท ไดแ้ ก่ โปรตนี คาร์โบไฮเดรต และไขมนั เป็นสารทใ่ี หพ้ ลงั งานแก่รา่ งกาย และวติ ามิน เกลือแร่ และน้ำ เป็นสารที่ไมใ่ ห้พลงั งานแก่ร่างกาย………………………………………………………………………………………………….…
23 ภาคผนวก ข
24 สอื่ ประกอบการทำกิจกรรรม 1. สือ่ กจิ กรรม “กลอ่ งสุ่มอาหารแสนสนุก” - กลอ่ งอาหาร - กระดานจำแนก กระดานจำแนก ไขมนั โปรตนี คารโ์ บไฮเดรต วติ ามนิ เกลอื แร่ น้ำ
25 2. ใบความรู้ เรอ่ื ง สารอาหารและประโยชน์ของสารอาหาร ใบความรู้ สารอาหารและประโยชน์ของสารอาหาร สารอาหาร หมายถึง ➢ สารที่มอี ยใู่ นอาหาร ซึง่ เปน็ สารทร่ี ่างกายสามารถนำไปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวติ ประจำวนั ได้ ➢ สารอาหารแบ่งออกเปน็ 6 ประเภท ไดแ้ ก่ คาร์โบไฮเดรต โปรตนี ไขมัน ซึ่งเป็นสารทใี่ ห้ พลังงานแกร่ ่างกาย และวิตามิน เกลอื แร่ และน้ำ เปน็ สารอาหารทไี่ มใ่ หพ้ ลงั งาน ลำดับ ประเภทของ สารอาหาร พบมากใน ประโยชน์ สารอาหาร โปรตีน 1 เนื้อสตั ว์ ไข่ นม เสรมิ สรา้ งและ และถัว่ เมล็ดแห้ง ซอ่ มแซมสว่ นท่สี กึ หรอ สารอาหารทใ่ี ห้ คาร์โบไฮเดรต ขา้ ว แปง้ มนั ให้พลงั งานแก่รา่ งกาย 2 พลงั งานแก่ร่างกาย ไขมนั และนำ้ ตาล และชว่ ยควบคมุ การ 3 วิตามิน ทำงานของร่างกายให้ เกลอื แร่ ไขมนั และน้ำมนั เป็นปกติ 4 น้ำ จากพืชและสัตว์ ให้ความอบอุ่นแก่ ร่างกายและช่วย 5 สารอาหารทไ่ี ม่ให้ พชื ผัก และ ควบคมุ การทำงานของ พลังงานแกร่ า่ งกาย ผลไม้ รา่ งกายให้เปน็ ปกติ ช่วยเสรมิ สรา้ งการ พชื ผัก และ ทำงานของรา่ งกายให้ ผลไม้ เปน็ ปกตแิ ละทำให้ ร่างกายเจริญเตบิ โตดี นำ้ เปน็ ส่วนประกอบหลัก ของอวยั วะต่าง ๆ ใน 6 การเสริมสร้างการ ทำงานของรา่ งกาย ช่วยลำเลียงสารตา่ งๆ ไปท่วั รา่ งกาย
26 ➢ ใบความรู้ที่ 2 จานอาหารเพ่ือสุขภาพ สถานการณ์ ถ้าในหนึ่งวันนักเรียนมีเวลารับประทานอาหารน้อย จึงเลือกรับประทานอาหารฟาสต์ฟูดเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งส่งผลให้เกิดโรคอ้วนตามมา หากนักเรียนต้องการเปลี่ยนแปลงการรับประทานอาหารเพื่อดูแลสุขภาพ นักเรียนจะ เลือกอาหารประเภทใด โดยนักเรียนต้องจัดอาหารที่มีทั้งอาหารคาว อาหารหวาน มีสารอาหารครบทั้ง 6 ประเภท และไมเ่ กินปรมิ าณแคลอรท่ี ีค่ วรได้รบั ต่อวัน คอื ผู้ชาย 1,700 กิโลแคลอรี่ และผูห้ ญงิ 1,600 กิโลแคลอรี่ ขน้ั ตอนการดำเนนิ กจิ กรรม 1. นกั เรียนศกึ ษาสถานการณท์ ี่ครกู ำหนดให้ และพิจารณาอยา่ งละเอียดว่าครูกำหนดเงื่อนไขใดบ้าง 2. นักเรียนออกแบบชิ้นงาน “จานอาหารเพอ่ื สุขภาพ” ลงในกระดาษ A4 พร้อมทั้งระบุปริมาณแคลอร่ี ของอาหารแตล่ ะชนดิ และคำนวณหาปรมิ าณแคลอรีท่ ้ังหมด 3. นักเรียนสรา้ งชิน้ งาน “จานอาหารเพื่อสขุ ภาพ” ตามท่ีได้ออกแบบไว้ ความรู้เพิม่ เติม ของหวาน น้ำ รายการอาหาร รายการอาหาร ปริมาณแคลอร่ี ปริมาณแคลอรี่ นำ้ อดั ลม 160 เคก้ กล้วยหอม 203 กาแฟเยน็ 115 ชาไข่มุก 300 ขนมปงั ลูกเกด 71 ชาดำเยน็ 110 ชาเขียว 319 แพนเค้ก 4 นวิ้ 60 334 โกโก้ 319 โดนัทธรรมดา 198 ชานมเยน็ 425 ชาเย็น เคก้ ผลไม้ 165 เคก้ ช็อกโกแลต 235 ว้นุ กะทิ 100 ขนมชั้น 276 สังขยา 177 ฝอยทอง 431 บัวลอย 200 ไอศกรมี โคน 130
ของคาว 27 รายการอาหาร ปรมิ าณ ปริมาณแคลอร่ี ขา้ วสวย 1 จาน 350 1 ชดุ 440 ขา้ วเหนียวหมทู อด 2 ไม้ 150 หมูปิ้ง 1 คู่ 180 1 ฟอง 235 แซนวิชทูนา่ 1 ฟอง 125 ไขเ่ จยี ว 1 ถ้วย 400 ไขด่ าว 1 ชาม 236 1 จาน 120 ข้าวต้มทรงเครอื่ ง 1 จาน 130 โจก๊ หมู 1 จาน 165 สม้ ตำ 1 ชาม 50 ลาบหมู 1 จาน 596 หมูน้ำตก 1 จาน 695 ต้มยำกุง้ 1 จาน 438 1 จาน 537 ขา้ วมันไก่ตม้ 1 จาน 500 ข้าวมนั ไก่ทอด 1 จาน 620 1 จาน 525 ข้าวขาหมู 1 จาน 610 ขา้ วหมแู ดง 1 จาน 483 ขา้ วไขเ่ จยี วหมูสบั 1 จาน 497 ข้าวคะนา้ หมูกรอบ 1 จาน 397 ขา้ วหมกู ระเทียม 1 จาน 577 ขา้ วคลกุ กะปิ 1 ชาม 352 แกงเขยี วหวาน 1 ชาม 215 ขนมจีนนำ้ ยา 1 จาน 150 ราดหน้า ผดั ขีเ้ มา เยน็ ตาโฟ กว๋ ยเตี๋ยว ยำรวมมิตรทะเล
28 5. ส่ือการเรียนรู้เว็บไซต์ Vonder Go
29
Search
Read the Text Version
- 1 - 32
Pages: