Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้หน่วยที่๒ -แต่เด็กที่ซื่อไว้ pdf

แผนการจัดการเรียนรู้หน่วยที่๒ -แต่เด็กที่ซื่อไว้ pdf

Published by KruMuay, 2021-08-18 14:00:41

Description: แผนการจัดการเรียนรู้หน่วยที่๒ -แต่เด็กที่ซื่อไว้ pdf

Keywords: @krumuay

Search

Read the Text Version

ชนิ้ งานและภาระงาน วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมอื วดั ผลและประเมนิ ผล ๑. แบบฝึกหัด ๒. การตอบคําถาม ๓. การทาํ งานกลุ่ม วิธีการวดั และประเมินผล รายการประเมิน  ดา้ นความรูค้ วามเขา้ ใจ - สํารวจความพรอ้ ม - เนือ้ เรือ่ งกระตา่ ยไม่ตน่ื ตมู - อา่ นออกเสยี งบทเรยี นไดถ้ กู ต้องและชัดเจน - สงั เกต - แผนภมู ิพลง - ตอบคําถามและบอกขอ้ คดิ จากเรอื่ งได้ - ซักถาม - แบบประเมินผลงานรายบคุ คล - ตรวจใบงาน - แบบฝึกหดั - มมี ารยาทในการอ่าน -แบบประเมินผลงานรายบุคคล - การทําแบบฝึกหัด  ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ - การสังเกตพฤติกรรมขณะ รว่ มกจิ กรรม  ดา้ นทักษะกระบวนการคดิ การร่วม - ประเมินการรว่ มสนทนา -แบบประเมนิ ผลงานรายบุคคล สนทนา เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผล ใชก้ ารผา่ นเกณฑ์ร้อยละ ๗o ขึ้นไป

ความคิดเห็นของครพู ี่เลย้ี งกอ่ นใช้แผนการจดั การเรยี นรู้ ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................  เหน็ ควรให้ใชจ้ ัดการเรยี นรู้  ไมเ่ ห็นควรใหใ้ ช้จัดการเรียนรู้ ยงั ตอ้ งแก้ไขเพิม่ เติม ลงช่ือ.....................................................ครพู ่ีเลี้ยง (.....................................................) ……………/……………../………….. บันทึกหลงั การจดั การเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ปญั หา/ อุปสรรค ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ลงช่อื ...............................................................ผสู้ อน ( ....................................................... ) ............../........................./.............. ความคิดเหน็ ของผู้บรหิ ารหรอื ผูท้ ี่ไดร้ บั มอบหมาย ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................………………. ..................................................... (.....................................................) ……………/……………../…………..

เพลง กระตา่ ยไมต่ นื่ ตูม กระต่ายขาวลกู น้อย คอยเฝา้ ประตูไว้ หมาปามันมาใกล้ อย่าได้เปดิ ประตู กระตา่ ยขาวลกู รัก เจา้ พกั อย่ทู ไ่ี หน หมาปา มันไปไกล จงได้เปดิ ประตู

แผนการจดั การเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย(วรรณคดีลาํ นํา) ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๓ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๑ เร่ือง กระตา่ ยไมต่ ื่นตูม เวลา ๕ ชวั่ โมง แผนการเรยี นรู้ที่ ๑o เรอ่ื ง คํําศํัพท์ยากในบทเรยี น เวลา ๑ ชัว่ โมง วนั ทีส่ อน ………………………….. ครผู สู้ อน นางสาวกมลนยั น์ พงศส์ กลุ สาระที่ ๑ การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรแู้ ละความคิดไปใช้ตดั สนิ ใจแก้ปญั หา และสรา้ งวิสัยทศั น์ใน การดาํ เนินชวี ิต และมีนิสยั รักการอ่าน สาระท่ี ๕ วรรณคดแี ละวรรณกรรม มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคดิ เห็นวิจารณว์ รรณคดีและวรรณกรรมไทยอยา่ ง เหน็ คุณค่าและนํามาประยุกต์ใช้ในชีวติ จริง สาระสําคญั คําศัพทใ์ หม่หรือคําศัพทย์ ากในบทเรียน คือ คําศัพทท์ ี่มีความเก่ียวโยงกับเน้ือหาสาระ ในบทเรียนที่ ผูเ้ รียนควรรู้จักและความเข้าใจเก่ียวกับความหมายของศัพท์ การอา่ นออกเสียง คําศพั ท์ตลอดจนการนําคาํ ศัพท์ไป ใชจ้ รงิ ในสถานการณต์ ่างๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ตวัํ ชวี้ ดัํ ท. ๑.๑ ป.๓/๒ อธบิ ายความหมายของคําและข้อความท่อี ่าน จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. นืกั เรียนอา่ นออกเสียื งคาืํ ศัพื ท์ใหม่ในบทเรียนไดถ้ ูกื ตอ้ ง ๒. นืกั เรียนเขยีื นคํืาศืัพทท์ ่กี าํ หนดใหไ้ ด้ถืกู ต้อง ๓. นกัื เรียนนืาํ คืําศืัพท์ใหมใ่ นบทเรียนไปแตง่ เปนประโยคได้ สมรรถนะสาํ คญั ของผูเ้ รยี น ๑. ความสามารถในการสื่อื สาร ๒. ความสามารถในการคดิ ๓. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต

คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ๑. รักความเปน ไทย ๒. ใฝเ รียนรู้ ๓. มีจติ สาธารณะ ๔. มีวนิ ยั ๕. อยืู่อยา่ งพอเพียง สาระการเรยี นรู้ - อา่ นออกเสยีื งคํืาศพืั ทใ์ หม่ในบทเรียน การจดั การเรียนรู้ ช่วั โมงท่ี ๑ ๑. ขนั้ นาํ เขา้ สูบ่ ทเรียน ๑. ครูกล่าวทักทายนกั เรียนและแจง้ ลําดบั ขัน้ ตอนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ และสิ่ง ท่นี กั เรียนตอ้ งเตรยี มในชวั่ โมงน้ีใหน้ กั เรยี นทราบ ๒. ครนู ืาํ นกืั เรียนสนทนาเกี่ยวกับเนอื้ื เรื่องในบทเรียนรว่ มกนั เพ่อื ทบทวนความรู้ จากชัืว่ โมงท่ีผ่านมา ๒. ขั้นสอน ๓. ครูชบู ัตรคืําศืพั ท์ยากในบทเรียนมาตดืิ ไวบ้ นกระดาน แล้วให้นกืั เรียนอ่านออกเ สยืี งคืําศพัื ทจ์ ากบัตร คาืํ ท่ีครูตืดิ ไวพ้ รอ้ มๆ กันทีละคาืํ เช่นคาืํ ว่า ไตรต่ รอง ถลม่ ใคร่ครวญ เปนต้น ๔. นักเรียนอ่านหนังสือเรียนสาระการเรียนรู้พ้ืนฐานภาษา ช้ันประถมปที่ ๓ วรรณคดีลํานํา บทท่ี ๑ เร่ืองกระต่ายไม่ต่ืนตูม คนละ ๒ บรรทัดจากหน้า ๑ - ๔ ต่อกันจน จบ จากน้ันอ่านนิทานเร่ือง กระต่ายแหย่เสือ หน้า ๑๒–๑๗ คนละ ๓ บรรทัด ต่อกันจนจบ เชน่ กัน ๕. ใหน้ ักเรยี นแบง่ กลุ่ม ออกเปน ๒ กลุม่ จากนักเรยี นทัง้ หมดในห้องเรยี น โดยใน แต่ละกลุ่มจะมนี กั เรียนท่ี มรี ะดับผลการเรียน ดี ปานกลาง และอ่อน อยรู่ ่วมกนั ๖. ครูใหน้ ืกั เรียนเขียื นคําืศพัื ท์ โดยมกี ตืิกาในการแข่งขัืนดังืนี้ื

๖.๑ ให้นืกั เรียนแต่ละกลืุ่มสง่ ตัืวแทนออกมาแขง่ ขืันเขยีื นคืําศัืพท์กลมุื่ ละ ๑ คนตอ่ คืํา ศพืั ท์ ๑ คาืํ จะหมุนเวยืี นสลับื กันไป โดยทีท่ กุ คนในกลุ่มื จะได้ออกมาเขีืยนคืาํ ศัืพทค์ รบทุกคน ๖.๒ นัืกเรืียนคอยฟังสืัญญาณจากครู โดยครืูจะบอกคืําศัืพท์นืั้น ๒ ครั้ืง แล้ว ให้นืักเรืียนเขีืยน คาํืศัืพท์ที่ืครูืบอกได้ทืันที กลุ่ืมใดเขืียนได้ถูืกต้องและเสรื็จก่อนกลุ่ืมน้ัน จะเปนผืู้ได้คะแนน ในกรณืที ่ีเขีืยนเสร็จพรอ้ มกันและเขีืยนได้ถืูกตอ้ งจะไดค้ ะแนนท้ัง ๒ กลมืุ่ ๗. เมอื่ แขง่ ขันเกมจบแลว้ ครสู รปุ ผลคะแนนใหน้ กั เรยี นทราบ และช่วยกนั แสดง ความคดิ เห็นเก่ียวกับ ประโยชน์ และขอ้ ดขี อ้ เสียของกจิ กรรม ๘. นักเรียนแตล่ ะคนเลือกคําศัพทย์ ากจากบทเรยี น จํานวน ๑๐ คาํ ไปแต่งประโยค ลงในสมดุ แลว้ สง่ ครู เพอ่ื ตรวจให้คะแนน ๓. ขนั้ สรุป ๙. ครูสงัืเกตพฤตกืิ รรมการร่วมกิจกรรมในชืนั้ เรียนของนักื เรียน และบันทึกลงใน แบบประเมิน ๑o. ครืูและนัืกเรีืยนร่วมกืันสรุืปบทเรืียนและความหมายของคืําศืัพท์ในบท เรีืยนอีืกครั้ืง ในประเด็ืน เกี่ยวกับการนาืํ ไปใช้ในชีวื ิืตประจําวนัื ส่อื / แหล่งเรียนรู้ ๑. บัตรคําศพั ท์ยาก จากบทเรยี นท่ี ๑ จากเรื่องกระต่ายไม่ตืน่ ตมู ๒. หนงั สอื เรยี นรายวิชาพ้ืนฐานภาษาไทย ชุดภาษาเพือ่ ชีวิตวรรณคดลี าํ นํา ช้ันประถมศึกษา ปที่ ๓ ๓. กจิ กรรมเขียนคําศัพท์ ๔. พจนานืกุ รมภาษาไทย ชิน้ งานและภาระงาน ๑. แบบฝกึ หดั ๒. การตอบคาํ ถาม ๓. การทาํ งานกลุ่ม

วิธีการวดั และประเมินผล วธิ กี ารวัดและประเมินผล เคร่ืองมอื วดั ผลและประเมินผล รายการประเมิน  ด้านความรู้ความเข้าใจ - สาํ รวจความพรอ้ ม - บัตรคาํ - อ่านออกเสยืี งคืาํ ศืพั ทใ์ หม่ในบทเรียนไ - สงั เกต - กจิ กรรมเขียนคาํ ศัพท์ ดถ้ ืูกตอ้ ง - ซักถาม - แบบประเมินผลงานรายบคุ คล - ตรวจใบงาน - แบบฝกึ หัด - เขยืี นคําืศัพื ท์ท่ีกําหนดใหไ้ ดถ้ ูืกต้อง -แบบประเมินผลงานรายบคุ คล - นาํืคาืํ ศพัื ทใ์ หมแ่ ต่งประโยคได้ - การทาํ แบบฝึกหัด  ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ - การสังเกตพฤติกรรมขณะร่วม กจิ กรรม  ดา้ นทักษะกระบวนการคิด การ - ประเมนิ การร่วมสนทนา -แบบประเมินผลงานรายบุคคล ร่วมสนทนา เกณฑ์การวัดและประเมินผล ใชก้ ารผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๗o ข้ึนไป

ความคิดเห็นของครพู ี่เลย้ี งกอ่ นใช้แผนการจดั การเรยี นรู้ ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................  เหน็ ควรให้ใชจ้ ัดการเรยี นรู้  ไมเ่ ห็นควรใหใ้ ช้จัดการเรียนรู้ ยงั ตอ้ งแก้ไขเพิม่ เติม ลงช่ือ.....................................................ครพู ่ีเลี้ยง (.....................................................) ……………/……………../………….. บันทึกหลงั การจดั การเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ปญั หา/ อุปสรรค ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ลงช่อื ...............................................................ผสู้ อน ( ....................................................... ) ............../........................./.............. ความคิดเหน็ ของผู้บรหิ ารหรอื ผูท้ ี่ไดร้ บั มอบหมาย ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................………………. ..................................................... (.....................................................) ……………/……………../…………..

แผนการจัดการเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย(วรรณคดลี าํ นาํ ) ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ ๑ เรือ่ ง กระตา่ ยไมต่ ืน่ ตมู เวลา ๕ ชว่ั โมง แผนการเรียนรทู้ ี่ ๑๑ เรือ่ ง สํานวน เวลา ๒ ช่วั โมง วันที่สอน ………………………….. ครผู ู้สอน นางสาวกมลนยั น์ พงศส์ กุล สาระท่ี ๔ หลกั ภาษา มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติืของภาษาและหลัืกภาษาไทย การเปลื่ียนแปลงของ ภาษา และพลังของภาษา ภูมื ิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เปนสมบัตืิของชาติื สาระสาํ คัญ คําสํานวนไทย คอื ถอ้ ยคําท่เี รียบเรียงเปน ข้อความ หรอื คาํ พดู ที่เปน ชน้ั เชิง ไม่ตรงตาม รปู แบบภาษา เปน ถอ้ ยคําหรอื คําพูดทมี่ ลี กั ษณะเฉพาะตัว มคี วามหมายโดยนยั แฝงอยแู่ ละนํามาใช้ ในชวี ติ ประจาํ วันในเชิงให้ ขอ้ คดิ และคตสิ อนใจ ตวั ช้ีวัด ท. ๔.๑ ป.๓/๓ ใช้พจนานกืุ รมคน้ หาความหมายของคาืํ ท. ๔.๑ ป.๓/๖ เลือกใช้ภาษาไทยมา จุดประสงค์ ๑. นืักเรียนเขา้ ใจและบอกความหมายของคํืาสืํานวนไทยได้ ๒. นัืกเรียนยกตืัวอย่างคํืาสืํานวนไทยได้ ๓. นืักเรียนนืาํ คืําสาืํ นวนไทยไปประยุกื ตใ์ ช้ในชวืี ืิตประจําวันื ได้ สมรรถนะสําคญั ของผูเ้ รยี น ๑. ความสามารถในการส่ืือสาร ๒. ความสามารถในการคดิ ๓. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ๑. รกั ความเปน ไทย ๒. ใฝเรียนรู้ ๓. มีจติ สาธารณะ ๔. มวี ินัย

สาระการเรียนรู้ - สํานวน การจดั การเรยี นรู้ ๑.ขนั้ นําเข้าส่บู ทเรียน ๑. ครกู ล่าวทกั ทายและให้นกั เรยี นดแู ผนภมู ิเพลง “สํานวนไทย” อ่านออกเสียงดัง ๆ พร้อมกัน ร้องเปน เพลงตามครู ๑ เท่ยี ว รอ้ งกันเอง ๒ เทยี่ วพร้อมปรบมอื ประกอบจงั หวะให้เกดิ ความสนกุ ก่อนเรยี น ๒. นกั เรยี นรูไ้ หมวา่ เพลงทรี่ ้องมีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร (สํานวนไทย) - นักเรยี นรู้จกั คําสาํ นวนไทยหรอื ไม่ (รู้,ไมร่ ู้) - นกั เรยี นคิดว่า “สาํ นวนไทย” คืออะไร (คอื ................) - นักเรยี นเคยอา่ น เคยฟัง เคยพูดสํานวนไทยหรือไม่ (เคย,ไม่เคย) - นกั เรียนคดิ ว่าสํานวนมีมากไหม (มาก, ไมม่ าก) - นกั เรียนคดิ ว่าสํานวนไทยที่เกี่ยวกบั สัตว์มไี หม (มี, ไม่มี) - ต่อไปนี้เรามาหาสํานวนไทยกนั ดไี หม (ดี) ฯลฯ ๓. ครชู ้แี จงจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรคู้ รั้งนวี้ า่ “วนั น้ีเราจะมาเรียนเรอื่ งสํานวน” ๒. ข้ันสอน ๔. ครูนํืาบัตรคาํื สาํื นวนไทยมาตดืิ ไว้บนกระดาน แลว้ ใหน้ กืั เรืียนอ่านออกเสืียงคืํา สืํานวนไทยทีื่ครืูตืิดไว้ พรอ้ มๆ กันทีละสํืานวน เชน่ คําื สืาํ นวนวา่ กระต่ายขาเดืยี ว กระต่ายหมายจันทร์ เข็ืนครกขน้ึื ภเืู ขา เปน ตน้ ๕. ครแืู จกบัตรคืาํ สืาํ นวนไทยให้นืกั เรียนทุืกคน โดยบืัตรคํืาแต่ละใบจะแยกคํืา สืํานวนไทยออกเปน ๒ ส่วน เพื่อใหน้ ืกั เรียนค้นหาและนืาํ มาต่อกันใหเ้ ปนคาํื สํืานวนไทยท่ี ถูืกต้อง ๖. เมื่อนัืกเรียนจับค่ืูคาํื สาืํ นวนไทยได้ครบถว้ นและถูกื ต้องทั้งหมดแล้วใหน้ ืํามา บันทกึ ลงในสมดุ พร้อมทงื้ั หาความหมายของคาืํ สําื นวนไทยน้ืนั ๗. ครูสรุปองคค์ วามรูเ้ พ่ิมเตืมิ ความหมายและลักื ษณะของคํืาสําื นวนไทย โดยยกตวัื อย่างจากกิจกรรม ดงัืกลา่ วข้างตน้

๓. ข้ันสรุป ๘. ครูสงัืเกตพฤตกิื รรมการรว่ มกิจกรรมในช้ัืนเรียนของนกัื เรียน และบันทึกลงใน แบบประเมนิ ๙. ครูและนืักเรียนรว่ มกันสรุปบทเรียนและความหมายของคืําสํืานวนไทยอีืก ครั้งในประเดื็นเกี่ืยวกัืบ การนาํื ไปใชใ้ นชืวี ิืตประจําวืัน การจดั การเรยี นรู้ ช่ัวโมงที่ ๒ ๑.ข้ันนําเขา้ ส่บู ทเรยี น ๑. ครูกล่าวทักทายนักเรียนและแจ้งลําดับขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และสิ่ง ทีน่ ักเรียนตอ้ งเตรยี มในช่วั โมงนใี้ หน้ กั เรยี นทราบ ๒.ครูนําื นกืั เรียนทบทวนองค์ความรูเ้ ก่ียวกับคืําสํืานวนไทยจากการเรียนในชืว่ั โมง ท่ี ๑ ๒. ข้นั สอน ๓. นกั เรยี นฟงั ครอู ธบิ ายใหค้ วามรูเ้ ก่ียวกบั สํานวนภาษา ซ่ึงมใี จความโดยสรปุ วา่ “สํานวนภาษา หมายถึงถ้อยคําที่เรียบเรียงไว้แล้ว แต่ไม่ถูกหลักไวยากรณ์ แต่ก็ถือว่า เปน ภาษาท่ีถูกต้อง ใช้พูดได้ตามโอกาสท่เี หมาะสม” ๔. นืกั เรียนนําืเสนอผลท่ีคน้ คว้าให้เพอ่ื นฟังหน้าช้ืันเรีืยนอย่างน้อยกลุื่มละ ๑๐ สืํานวน โดยมืีครูืเปนผู้แนะนํา ๕. ครูสงัืเกตพฤติกื รรมการร่วมกิจกรรมในชั้ืนเรียนของนัืกเรียน และบนั ทกึ ลงในแ บบประเมิน ๖. ครูและนัืกเรียนร่วมกันสรุปบทเรียนของคืําสาํืนวนไทยอีืกครั้ืง ในประเดื็นเกื่ียว กืับความหมายและ ๗. นกั เรียนทาํ แบบทดสอบทา้ ยบทเรียน ๓. ขั้นสรปุ ๘. ครูและนักเรยี นร่วมสรปุ ความรเู้ ร่ืองสํานวน ๙. ครูให้นกั เรยี นทาํ แบบฝกึ หัดท่ี ๑ ส่ือ/แหลง่ เรยี นรู้ ๑. เพลงสํานวนไทย ๒. ใบความรู้ ๓. แบบฝกึ หัด

๔ แบบทดสอบท้ายบทเรียน ๕. หนงั สือเรยี นรายวชิ าพื้นฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่ือชีวิตวรรณคดีลํานํา ชนั้ ประถมศึกษา ปที่ ๓ ชนิ้ งาน /ภาระงาน ๑. การตอบคาํ ถามจากเรื่อง ๒. การทาํ แบบฝึกหัด/แบบทดสอบ ๓. สรุปความรู้จากเรื่อง วธิ กี ารวัดและประเมินผล รายการประเมนิ วธิ กี ารวดั และประเมินผล เครือ่ งมอื วัดผลและประเมนิ ผล  ดา้ นความรคู้ วามเขา้ ใจ - สํารวจความพร้อม - แผนภมู ิเพลงสาํ นวน - เขา้ ใจและบอกความหมายของคาืํ - สงั เกต - กิจกรรมจบั คู่สาํ นวน - ซักถาม - กจิ กรรมค้นควา้ หาสาํ นวน สาืํ นวนไทยได้ - ตรวจแบบฝึกหัด /แบบฝกึ ทกั ษะ - แบบฝกึ หดั - ยกตืวั อย่างคาํืสําืนวนไทยได้ -แบบประเมินผลงานรายบคุ คล -นืําคําืสาํืนวนไทยไปประยกืุ ตใ์ ช้ในชืี วตืิ ประจาํ วันื ได้ - การทาํ แบบฝกึ หัด/แบบฝกึ ทกั ษะ  ด้านคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ - การสงั เกตพฤติกรรมขณะร่วม -แบบประเมินผลงานรายบุคคล กิจกรรม  ดา้ นทกั ษะกระบวนการคิด - ประเมินการรว่ มสนทนา -แบบประเมนิ ผลงานรายบุคคล การรว่ มสนทนา เกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผล ใช้การผา่ นเกณฑ์ร้อยละ ๗o ขึน้ ไป

ความคดิ เหน็ ของครพู ี่เล้ยี งกอ่ นใช้แผนการจัดการเรียนรู้ ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................  เหน็ ควรให้ใช้จดั การเรยี นรู้  ไม่เห็นควรใหใ้ ช้จดั การเรียนรู้ ยังตอ้ งแกไ้ ขเพม่ิ เตมิ ลงชื่อ.....................................................ครูพี่เลย้ี ง (.....................................................) ……………/……………../………….. บนั ทกึ หลงั การจัดการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ปัญหา/ อปุ สรรค ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ลงช่ือ...............................................................ผู้สอน ( ....................................................... ) ............../........................./.............. ความคดิ เหน็ ของผู้บรหิ ารหรอื ผ้ทู ีไ่ ด้รับมอบหมาย ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................………………. ..................................................... (.....................................................) ……………/……………../…………..



เพลง สาํ นวนไทย คาํ รอ้ ง ทาํ นอง สําลี รักสทุ ธี สํานวนภาษาไทยนั้น ท่ีสาํ คญั มีอยมู่ ากมาย ใชไ้ ปใหถ้ ูกความหมาย สํานวนไทยไพเราะเพราะดี เชน่ “เอาพมิ เสนไปแลกกบั เกลอื ” และ “พายเรือคนละที” “ปากหวานกน้ เปรี้ยว” พวกนี่ อีกมากมีคําสาํ นวนไทย อ่านให้มีอารมณเ์ หมาะสมเอย ใบความรู้ สํานวน สุภาษติ คําพังเพย สํานวน สภุ าษิต คําพงั เพย เปน ถ้อยคาํ ที่มีคารมคมคาย เปน ถ้อยคําดีงาม ให้ขอ้ คดิ เปนสํานวนท่ใี ชก้ ันติดปากมี ความหมายไมต่ รงถอ้ ยคํา คติสอนใจ มีถ้อยคําคล้อง-จองกนั ความหมายเชงิ เปรยี บเทยี บ แต่เปน ที่เขา้ ใจกนั แพร่หลาย กนิ ใจผ้ฟู งั สนั้ กะทัดรดั ตัวอย่าง ตัวอย่าง ตัวอยา่ ง ถกู ยกเค้า=ถูกขโมย รักดหี ามจัว่ รกั ช่ัวหามเสา ปลาหมอตายเพราะปาก มอื แขง็ =ไมไ่ หวผ้ ้ทู ค่ี วรไหว้ อยบู่ ้านท่านอย่านิง่ ดดู ายปัน้ วัว = พูดพลอ่ ยจนไดร้ ับอันตราย โง่เง่าเต่าต่นุ =โง่ท่ีสุด ปั้นควายให้ลกู ทา่ นเล่น ละเลงขนมเบอ้ื งด้วยปาก สกุ เอาเผากนิ =ทาํ พอเสร็จ ช้า ๆ ได้พร้า 2 เลม่ งาม = ดีแตพ่ ดู

แบบฝกึ หดั ที่ ๑ คาํ ชแี้ จง ใหน้ ักเรียนคน้ คว้าหาความหมายของสาํ นวนสุภาษิต คาํ พังเพยที่เก่ยี วกบั สัตว์ ตอ่ ไปนี้ ๑. เห็นชา้ งขี้ ขี้ตามช้าง หมายถงึ .......................................................................................................................................... .................................................................................. ๒. ยื่นหมยู น่ื แมว หมายถงึ ............................................................................................................................ ............................................................................................... ๓. จับปลาสองมือ หมายถึง............................................................................................................................ .............................................................................................. ๔. ไก่ไดพ้ ลอย หมายถงึ ............................................................................... .......................................................................................................................................... ๕. กระต่ายหมายจันทร์ หมายถงึ ............................................................................................................................ ............................................................................................... ๖. หนอนหนังสือ หมายถงึ ............................................................................................................................ ............................................................................................... ๗. เขียนเสือใหว้ ัวกลัว หมายถึง............................................................................................................................ ............................................................................................... ๘. กระตา่ ยขาเดยี ว หมายถึง............................................................................................................................ ...............................................................................................

๙. หมาเหา่ ไมก่ ัด หมายถึง............................................................................................................................ ............................................................................................... ๑๐. จับงขู า้ งหาง หมายถึง................................................................................................................................. ........................................................................................ ๑๑. ใจดสี เู้ สอื หมายถงึ ................................................................................................................................. .......................................................................................... ๑๒.ชาติเสอื ตอ้ งไว้ลาย หมายถึง............................................................................................................................ ..............................................................................................

แบบทดสอบทา้ ยบทเรียน บทท่ี ๑ กระต่ายไมต่ ่นื ตูม เพ่ือประเมนิ การอา่ นในใจและคิดวเิ คราะหเ์ รือ่ ง คําช้แี จง จงทําเครอื่ งหมาย ทับตวั อักษรหนา้ คาํ ตอบทถี่ กู ตอ้ ง ๑. นักเรยี นคิดวา่ “ลูกกระตา่ ย” ในเร่ือง “กระต่ายไม่ต่นื ตูม” มีลกั ษณะตามข้อใด ก. มสี ตริ อบคอบ ข. ขาดความรอบคอบ ค. มีเหตุมีผล ง. ฉลาด ๒. ในเนอ้ื หาของบทเพลง แม่กระตา่ ยต้องการสอนลูกอย่างไร ก. ให้มีความขยัน หม่ันเพยี ร ข. ใหม้ คี วามอดทน ค. ใหร้ ะมดั ระวงั ตวั ง. ให้มคี วามเออื้ เฟ้อื เผ่อื แผ่ ๓. ลูกกระตา่ ยดาํ กบั ลูกกระตา่ ยขาวเหมือนกระต่ายในนิทาน “กระต่ายตื่นตมู ” ข้อใด ก. ขยัน ซือ่ สตั ย์ ข. ประหยัด อดทน ค. ประมาท ขาดความระวงั ง. ขาดเหตุผล ๔. แมก่ ระตา่ ยเล่านทิ านให้ลูกฟัง เพราะเหตใุ ด ก. เปนกลอบุ ายสอนให้ลูกขยันและมีเหตุผล ข. อยากให้ลูกระวงั ตัว ไมป่ ระมาท ค. อยากสอนความเสียสละใหล้ กู ง. อยากสอนใหล้ กู มีความอดทนอดกลน้ั ๕. แมก่ ระต่าย “สญั ญา” อะไรกบั ลูก ก. จะนาํ ผกั สวยงามมาใหก้ นิ ข. จะสรา้ งบ้านหลงั งามให้ ค. จะเลา่ นทิ านเรอื่ งกระตา่ ยแหย่เสือให้ฟัง ง. จะเล่านิทานเรอื่ งกระตา่ ยตนื่ ตมู ใหฟ้ ัง ๖. ข้อใดมคี วามหมายคลา้ ยกับคําวา่ “โง่” ค. ฉลาด ง. เขลา ก. ปญั ญา ข. ถล่ม ๗. สัตว์ตา่ ง ๆ ที่ว่ิงหนีเสยี งลกู ตาลหล่นนั้นเปน็ เพราะอะไร ก. พิจารณาดีแลว้ คดิ วา่ เปนฟา้ ถลม่ ข. เหน็ ฟ้าถลม่ จงึ กลวั ความตาย ค. เห็นฟา้ ฝา จงึ กลวั ตาย ง. ขาดปัญญาตรติ รอง ๘. สัตว์ในข้อใดมเี หตมุ ีผลดี ก. แม่กระตา่ ย, ราชสหี ์ ข. แมก่ ระตา่ ย, เสอื ค. ราชสหี ์, แรด ง. เสอื , ชา้ ง

๙. กระต่ายนอ้ ยในเร่อื งกระต่ายแหยเ่ สอื รู้สกึ สํานกึ ผิดเมอ่ื ใด ก. โดนผ้งึ ต่อย ข. กนิ ขี้ควาย ค. ถกู เสือไลจ่ ับ ง. ตกลงไปในน้ํา ๑๐.กระตา่ ยจะใช้อวยั วะสว่ นใดส่งสญั ญาณต่าง ๆ ให้เพ่ือนทราบ ก. หู ข. หาง ค. หู ง. หนวด เฉลยแบบทดสอบ ๑. ข ๒. ค ๓. ง ๔. ก ๕. ง ๖. ง ๗. ง ๘. ก ๙. ง ๑๐. ข

แผนการจัดการเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย(วรรณคดลี าํ นํา) ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๓ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๑ เรอื่ ง กระตา่ ยไมต่ ืน่ ตูม เวลา ๕ ชัว่ โมง แผนการเรยี นรู้ที่ ๑๒ เรอ่ื ง การแตง่ เรือ่ งตามจนิ ตนาการ เวลา ๑ ช่วั โมง วนั ท่สี อน ………………………….. ครผู ้สู อน นางสาวกมลนยั น์ พงศ์สกุล สาระท่ี ๒ การเขยี น มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขยีื น เขืยี นสอ่ืื สาร เขีืยนเรียงความ ย่อความ และเขืยี น เรื่องราวในรูปแบบ ต่างๆ เขยีื นรายงานขอ้ มูลสารสนเทศ และรายงานการศืึกษาคน้ ควา้ อยา่ งมี ประสทืิ ธภืิ าพ สาระสําคัญ การเขีืยนเรืื่องตามจิืนตนาการและสร้างสรรค์ เปนการใช้ถ้อยคํืาภาษา เพื่ือถ่ายทอด เร่ืองราว และ ความคิืดสู่ืผู้ือ่านไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ชดัื เจน ตัวชว้ี ัด ท ๒.๑ ป. ๓/๕ เขยี นเรือ่ งตามจินตนาการ ท ๒.๑ ป. ๓/๖ มมี ารยาทในการเขยี นฃ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. นัืกเรียนบอกหลักื และวธืิ ีกื ารเขืียนเรื่องตามจินตนาการ ๒. นืกั เรียนเขืยี นเร่ืองตามจินตนาการได้ ๓. นกั เรียนมมี ารยาทในการเขียน สมรรถนะสาํ คัญของผู้เรยี น ๑. ความสามารถในการส่ืือสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต ๔. ความสามารถในการแก้ปญั หา คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ๑. รักความเปน ไทย ๒. ใฝเรยี นรู้

สาระการเรียนรู้ - การเขียนตามจินตนาการ การจัดการเรียนรู้ ๑.ขน้ั นาํ เข้าสู่บทเรียน ๑.ครูกล่าวทักทายนกั เรยี นและแจ้งลาํ ดบั ขนั้ ตอนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ และสิ่ง ท่ีนกั เรยี นตอ้ งเตรียมในช่ัวโมงนใ้ี ห้นกั เรียนทราบ ๒. ครูนําื นัืกเรียนสนทนาเกี่ยวกับชีวิตและความเปนอยู่ของสัตว์ท่ีนักเรียนชอบและ นํามาเล่าแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเพ่ือนในช้ันเรียน จากนั้นใช้คําถามท้าทายว่า ถ้านักเรียนเห็น เหตกุ ารณ์นา่ ตน่ื เต้น นักเรียนจะเขียนเลา่ เร่อื งอย่างไรจงึ จะนา่ สนใจเพือ่ เช่ือมโยงเขา้ สู่เน้อื หา ๒. ข้นั สอน ๓. ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาถึงเหตุการณ์ประจําวัน เช่น เมื่อเช้า ครู เดินทางมาโรงเรียน ครูพบลูกแมวกับลูกหมากินอาหารชามเดียวกันดูแลกันอย่างดี ซึง่ ขดั แยง้ กับคํากล่าวท่ีวา่ ทะเลาะกันเหมอื นหมากับแมว ๔. ให้นักเรียนช่วยกันสนทนาแสดงความคิดเห็น จากสถานการณ์ตัวอย่าง ดงั นี้ ๏ เม่อื เช้านักเรียนรับประทานอาหารเชา้ กับอะไร ๏ ใครทาํ อาหารให้นกั เรียนรับประทาน ครูถามให้นักเรียนตอบทีละคนจนครบทุกคน ๕. ครูสรุปให้นักเรียนเข้าใจว่าที่นักเรียนอธิบายให้ครูฟังนั้น นักเรียนสามารถ นําไปเขียนเปนลายลักษณ์อักษรได้ เรียกว่า การเขียนบรรยาย โดยอธิบายเพิ่มเติมให้ นักเรียนฟัง ดังน้ี การเขียนเร่ืองตามจินตนาการ คือการเขียนอธิบายหรือบรรยาย โดยใช้ความรู้ ความคิด หรือจินตนาการโดยเรียบเรียงประโยคให้ต่อเนื่องกันโดย การเขียนบรรยาย สามารถเขียนได้ทั้งการบรรยายลักษณะ คน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ หรือเหตุการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจําวันและการบรรยายรูปภาพในการสร้างสรรค์ ความคิดหรือเรือ่ งท่ีแต่งข้ึนตามความคดิ ของตนเอง เปนต้น ๖. แบ่งนักเรียนเปน ๓ กลุ่มตามความเหมาะสม ให้นักเรียนช่วยกันเขียน บรรยายเหตุการณ์ ที่ครูกําหนดข้างต้นโดยไม่ให้ซ้ํากัน เสร็จแล้วให้เลือกผู้แทนกลุ่ม ๑ คนไปอ่านให้เพื่อนและครูฟังแล้วหาที่บกพร่องเพื่อแก้ไขและปรับปรุง แล้วนํา ผลงานติดผนังห้องเรียนไว้เปนตัวอย่างเพื่อให้นักเรียนแลกเปลี่ยนประสบการณ์ผ่าน

ทักษะการใช้ภาษา ฝึกเขียนบรรยายเหตุการณ์ประจําวันโดยผู้ท่ีเขียนได้ดีจะเปนผู้ ได้รบั รางวลั ๓. ข้นั สรปุ ๗. ให้นักเรียนและครูร่วมกันสรุปความรู้ ดังนี้ การเขียนเขียนเรื่องตาม จินตนาการ เปนบรรยายเปนการเขียนเล่าเร่ืองราวท่ีใช้ความคิดสร้างสรรค์ของตนเอง มีการ เรียงลําดบั เหตุการณใ์ หต้ อ่ เนือ่ ง ชัดเจน และใชภ้ าษาอยา่ งถกู ต้องและเหมาะสม ๘. นืักเรียนแตง่ เร่ืองตามจนิ ตนาการลงในสมุดคนละ ๑ เร่ือง ส่ือ/ แหล่งเรียนรู้ ๑. สถานการณ์ตวั อยา่ ง ๒. การเขียนเร่ืองจามจินตนาการ ชิ้นงาน /ภาระงาน ๑. การตอบคาํ ถาม ๒. การการเขียนเรื่องตามจินตนาการ ๓. สรุปความรู้จากเร่ือง วิธกี ารวัดและประเมินผล รายการประเมนิ วธิ กี ารวดั และประเมนิ ผล เครือ่ งมือวัดผลและประเมนิ ผล  ดา้ นความรคู้ วามเข้าใจ - สาํ รวจความพร้อม - สถานการณ์จําลอง - บอกหลักื และวิธื ืีการเขียื นเร่ือง - สงั เกต - กจิ กรรมเขียนบรรยายเหตุการณ์ ตามจินตนาการ - ซกั ถาม - แบบฝกึ หัด - ตรวจแบบฝกึ หดั /แบบฝึกทักษะ -แบบประเมินผลงานรายบคุ คล - เขืยี นเรื่องตามจินตนาการได้ - มมี ารยาทในการเขียน - การทาํ แบบฝึกหดั /แบบฝกึ ทักษะ  ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ - การสังเกตพฤติกรรมขณะร่วม -แบบประเมินผลงานรายบุคคล กจิ กรรม  ดา้ นทักษะกระบวนการคิด - ประเมนิ การร่วมสนทนา -แบบประเมนิ ผลงานรายบุคคล การร่วมสนทนา เกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผล ใช้การผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๗o ขนึ้ ไป

ความคิดเห็นของครพู เ่ี ลยี้ งกอ่ นใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้ ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................  เหน็ ควรใหใ้ ชจ้ ดั การเรียนรู้  ไมเ่ ห็นควรใหใ้ ชจ้ ดั การเรียนรู้ ยังตอ้ งแกไ้ ขเพม่ิ เตมิ ลงชอ่ื .....................................................ครพู เ่ี ลย้ี ง (.....................................................) ……………/……………../………….. บนั ทึกหลงั การจัดการเรียนรู้ ผลการเรยี นรู้ ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ปญั หา/ อปุ สรรค ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแก้ไข ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ...............................................................ผู้สอน ( ....................................................... ) ............../........................./.............. ความคดิ เหน็ ของผู้บรหิ ารหรือผทู้ ไ่ี ดร้ ับมอบหมาย ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................………………. .................................................. (.....................................................) ……………/……………../…………..


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook