Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หนังสืออิเล็กทรอนิกส์

หนังสืออิเล็กทรอนิกส์

Published by Wiyada Kmbungkla, 2020-08-28 03:53:11

Description: หนังสืออิเล็กทรอนิกส์

Keywords: E-Book

Search

Read the Text Version

บทที่ 1 หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ความหมายของหนงั สอื อเิ ล็กทรอนิกส์ e-Book คอื อะไร e-Book (electronic + Book = e-Book) ได้กลายมาเป็นส่วนหน่ึงของการปฏิวัตินวัตกรรมที่เร็วมาก (Hottest) บนระบบเครือขา่ ยอินเทอร์เนต็ ทุกวนั น้ี ผู้บริหารการศึกษาในรฐั เทก็ ซัล ได้เห็นความจาเป็นท่ตี ้อง ใช้ e-Book สาหรับรายวิชาที่มีสารสนเทศเปล่ียนแปลงอย่างรวดเรว็ และจะต้องลงทุนสาหรบั e-Book เป็น จานวนมาก ซึ่งทามากกวา่ 6 ปี มาแลว้ e-Book เป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ท่ีไร้กระดาษท่ีปรากฏข้ึนใน Cyberspace จะมีผลกระทบต่อการ ผลิตหนังสือการดาษท่ีมีมาก่อนมากน้อยเพียงใด ย่อมข้ึนอยู่กัลป์เทคโนโลยีที่นามาใช้ทาให้เกิดความ สะดวกสบาย และความคุ้มคา่ ในระยะสนั้ ระยะยาว และวฒั นธรรมการอา่ นจากจอคอมพิวเตอรส์ ามารถทา ให้เปลย่ี นไปด้วย e-Book หมายถึง หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่อยู่ในรูปแบบดิจิตัล ผู้อ่านสามารถอ่านโดยใช้เคร่ือง คอมพวิ เตอร์หรือเครือ่ งอ่าน e-Book (Rocket e-Book Softbook,Microsoft Reader) e-Book มีคุณลกั ษณะ พเิ ศษกวา่ หนังสือกระดาษหลายประการ อาทิ แสดงผลด้วย ภาพ ข้อความ เสียง ภาพเคลอื่ นไหว เป็นต้น ซ่ึง สามารถเปิดอ่านเหมือนหนังสือท่ัวไป และพกพาหนังสาจานวนมากติดตัวไปได้ทุกที่ ทุกเวลา สามารถ Download มาไว้ใน Palm Pilot เปิดออกมาอ่านตามต้องการและยังสามารถเชื่อมโยงกับข้อความต่างๆ ภายในตัวหนงั สือหรือภายนอกเว็บไซต์อืน่ ๆ จากอินเทอร์เน็ต ยิง่ กว่านั้นผู้อา่ นสามารถอ่านพร้อมๆ กนั ได้ โดยไมต่ ้องรอการยืมหรอื คืนเหมอื นหนังสอื กระดาษในห้องสมดุ e-Book ทางานเหมือน Web-brower สามารถดาวน์โหลดมายังคอมพวิ เตอรไ์ ด้ สามารถอ่านในรปู แบบ Offline ได้ หรือพิมพ์ก็ได้ e-Book กาลังปฏิวัติรูปแบบการจัดการและการนาเสนอสารสนเทศ ทีเ่ ปลี่ยนไป จากการนาเสนอเนื้อหาแบบเดิมและพร้อมๆ กับการปฏิวัติ e-Learning รวมทั้งการพัฒนาศักยภาพของ คอมพวิ เตอร์ e-Book จะมุ่งการเรียนรู้ด้วยการเห็น และการปฏิสัมพันธ์ มีการสะท้อนโลกกว้างให้เห็นและทาให้ เกิดการปฏิสมั พันธ์ แม้อยูไ่ กลกันคนละซีกโลก โดยท่กี ารสร้าง e-Book ท่ีใช้ซอฟต์แวร์จัดระบบเปน็ พิเศษ ในแฟ้ม EXE หรือ PDF

2 ขอบเขตของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ไม่จากัดแต่เพยี งการแปลงหนงั สอื รปู แบบกระดาษมาเปน็ หนังสือ รูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ แต่จะหมายรวมถึง ข้อมูล สารสนเทศ บทความต่างๆ ในลักษณะข่าวสาร หนังสือ วารสารอิเล็กทรอนิกส์ รวมท้ังคู่มือการใช้งานช่วยเหลือในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เว็บเพ็จแฟ้มข้อมูลใน CD ROM และ World Wind Web จากความหมายที่กล่าวมาทั้ง 3 ลักษณะ สามารถสรุปได้ว่า หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การนา หนังสือหน่ึงเล่มหรือหลายๆ เล่ม มาออกแบบใหม่ให้อยู่ในรูปของอิเล็กทรอนิกส์โดยปรับปรุงหรือ เปล่ียนแปลงขอ้ มูลเหลา่ นน้ั ให้อยู่รูปของตวั อักษร, ภาพน่ิง , ภาพเคล่ือนไหว,เสยี ง,ลกั ษณะทต่ี อบโต้กันได้ (interactive) และการเชื่อมโยงแบบไฮเปอร์เท็กซ์ สามารถทาบุ๊คมาร์กและหมายเหตุประกอบตามที่ผู้ใช้ ต้องการได้ โดยอาศัยพื้นฐานของเล่มหนงั สอื เปน็ หลกั ลกั ษณะของหนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์มีโครงสร้างเหมือนๆ กับหนังสือเล่มทั่วๆ ไปโดยจะประกอบด้วยหน้าปก หน้า-หลัง, สารบัญ, เน้ือหาภายในเล่ม และดัชนี เน้ือหาภายในเล่มอาจจะแบ่งออกเป็นบทแต่ละบทมี จานวนหน้ามากนอ้ ยแตกตา่ งกนั ไป ในแต่ละหน้าจะประกอบดว้ ยตัวอกั ษร, ภาพน่ิง, ภาพเคล่ือนไหว, เสียง (อาจจะแสดงทันทหี รอื ปรากฏเปน็ ปุ่มไว้ให้กดเรียกก็ได้)หนังสืออิเล็กทรอนิกสต์ ะแตกตา่ งจากหนังสอื เล่ม ในการพลิกหน้า โดยท่ไี ม่ได้มีการพลิกหนา้ จรงิ หากแตเ่ ป็นไปในลกั ษณะของการซ้อนทับกัน (Barker and Singh, 1985 quoted in Barker and Manji. 1991 : 276) ส่ิงท่ีแตกต่างกันระหว่างหนังสืออิเล็กทรอนิกส์กับ หนังสือเล่มอยา่ งเด่นชัด คอื การปฏิสัมพันธ์และความเป็นพลวัต (Barker,1996 : 14) ซึง่ อาจจะแตกต่างกัน ล่างในหนังสืออเิ ลก็ ทรอนิกสแ์ ต่ละเลม่ ทั้งนีข้ นึ้ อย่กู ับจดุ ประสงค์การใช้งาน และการปฏสิ ัมพันธจ์ ากผู้อ่าน หนังสืออิเล็กทรอนิกส์มีลักษณะเหมือนกับหนังสือเล่มดังภาพประกอบ 2 คือ มีหน้าปกเพื่อบอกข้อมูล ตา่ งๆ เกี่ยวกับหนังสือ หากใน 1 หน้า มีข้อมูลเป็นหน้าคู่ ด้านซ้ายมือเป็นหน้าซ้ายด้านขวามือจะเป็นหน้า ขวา กดปุ่มไปหนา้ ก็จะไปยังหน้าตอ่ ไป กดปุม่ ถอยหลงั จะกลับไปหน้าก่อน นอกจากน้ียังสามารถกระโดด ข้ามไปยังหน้าทีผ่ ู้อ่านต้องการได้อกี ด้วย หนา้ สุดท้ายจะเป็นหน้าก่อนออกจากโปรแกรม ถึงแม้ว่าหนงั สือ อเิ ล็กทรอนิกสจ์ ะคล้ายกบั หนังสอื เล่มมากแตข่ ้อจากัดที่มีอยู่มากมายในหนังสอื เล่มไมส่ ามารถส่งอิทธิพล มายังหนงั สอื อิเล็กทรอนกิ ส์แตอ่ ยา่ งใด

3 รูปแบบและการเปรียบเทียบหนังสืออเิ ล็กทรอนกิ ส์ 3 รปู แบบ รูปแบบของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ รูปแบบของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์สามารถแบ่งออกได้เป็น หลายรปู แบบดว้ ยกนั ดงั นี้ 1. รปู แบบของหนังสอื อเิ ลก็ ทรอนิกสแ์ บง่ ตามลกั ษณะการเข้าถงึ ขอ้ มูลและการอ่าน (Collis, 1991 : 365) รปู แบบนี้ จะเป็นการแบง่ ประเภทของหนังสอื อเิ ล็กทรอนิกสไ์ ด้ชดั เจนมาก ทสี่ ุดกวา่ ทกุ ๆ แบบทม่ี ี โดยแบ่งออกเปน็ 1.1 หนังสืออิเล็กทรอนิกส์อ้างอิง (Automated Reference Books) หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ อ้างอิงใช้การเข้าถึงข้อมูลในลักษณะการสุ่ม (Random) ผู้อ่านจะค้นหาคาที่ต้องการทราบและอ่านจนจบ เนื้อหานน้ั จากนน้ั จงึ คน้ หาทตี่ อ้ งการทราบต่อไปหนังสอื อิเล็กทรอนิกส์อา้ งองิ สามารถดภู าพจากฐานขอ้ มลู เอนไซโคลปิเดีย จัดเป็นแหล่งทรัพยากรซึ่งผู้ใช้สามารถค้นหาหรือเลือกอ่านหนังสือท่ีมีอยู่ได้ง่ายมาก ใน อนาคตหนงั สอื อิเลก็ ทรอนิกส์ประเภทน้ีจะมกี ารเปลี่ยนแปลงอยา่ งรวดเร็วมาก ไม่จะเปน็ ด้านคุณภาพหรือ ปริมาณในการบรรจุของฐานข้อมูล และทางท่ีผู้อ่านสามารถค้นหาและใช้ข่าวสาร แต่ท้ังนี้ทั้งนั้นก็ต้อง คงไว้ซ่ึงโมเดลการอ้างองิ อยู่ 1.2 ห นั งสื อ เรี ย น อิ เล็ ก ท ร อ นิ ก ส์ ( Automated Textbook Books) ห นั งสื อ เรี ย น อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์มีลักษณะการเข้าถึงข้อมูลสว่ นใหญ่แบบอา่ นไปตามลาดับ (Sequence) จากนน้ั ก็จะมกี ารอ่าน เนื้อหาเหล่านั้นไปเร่ือยๆ จนจบบท และอาจอ่านบทต่อไปตามลาดับหรือเลือกหัวข้อใหม่ตามความสนใจ ของผู้อ่าน หนงั สือเรยี นอิเลก็ ทรอนกิ สจ์ ะแตกตา่ งจากหนงั สืออา้ งอิง อเิ ล็กทรอนิกส์ตรงท่ผี ู้อ่านจะมีความคาดหวงั ทจี่ ะได้รับความรจู้ ากการอ่านหนงั สือ หนังสืออเิ ล็กทรอนิกส์ รูปแบบนจี้ ะเปน็ ตัวเสริมคานยิ ามของหนังสือเรียนโดยจะขยายความรู้ความเขา้ ใจใหก้ ับผ้เู รียนทางอ้อมโดย ใชส้ ่อื หลากหลายชนิด 2. รูปแบบของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์แบ่งตามช่องทางการสื่อสาร (Barker, 1991 : quoted in Barker, 1992 : 140 – 141) สามารถแบง่ ออกได้เป็น 2 ประเภท คอื 2.1 หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ช่องทางการสื่อสารทางเดียว เป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่ ผอู้ ่านสามารถรบั สารได้เพยี งช่องทางเดียว เช่น ใช้ตาดหู รอื ใช้หูฟังแต่เพียงอย่างใดอย่างหน่ึงเท่าน้ัน ได้แก่ หนังสือเรียนอิเล็กทรอนิกส์ (Text Books), หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ภาพนิ่ง (Picture Books), หนังสือ อเิ ล็กทรอนิกสห์ ลายภาษา ( Talking Books ) เปน็ ต้น

4 2.2 หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ท่ีใช้ช่องทางการสื่อสารหลายทาง เป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ท่ี ผู้อ่านสามารถรับข่าวสารได้หลายช่องทาง เช่น ใช้ตาดู ใช้หูฟัง ใช้มือสัมผัสหน้าจอได้แก่ หนังสือ อิเล็กทรอนิกส์ส่ือประสม ( Multimedia Books ), หนังสืออิเล็กทรอนิกส์รวมส่ือ (Poly Media Books), หนังสืออเิ ลก็ ทรอนกิ สไ์ ฮเปอร์มีเดยี (Hypermedia Books) เปน็ ต้น 3. รูปแบบของหนงั สืออเิ ลก็ ทรอนกิ ส์แบง่ ตามหนา้ ที่ (Barker and Giller,1992d,quoted in Barker,1992 : 140) สามารถแบง่ ออกได้เปน็ 4 รปู แบบ คอื 3.1 หนังสืออิเล็กทรอนิกส์สาหรับเก็บเอกสารสาคัญ (Archival) จะมีท่ีเก็บข้อมูลข่าวสาร ขนาดใหญ่ในรปู แบบของฐานข้อมูล วิธีใช้งานผู้ใช้ขัน้ ปลาย สามารถใชง้ านได้หลากหลายรูปแบบ ตวั อยา่ ง หนังสือประเภทน้ี ได้แก่ สารานุกรมโกรเลียร์ (Grolier Encyclopedia) สารานุกรมมัลติมีเดียคอมพ์ตัน (Compton’s Multimedia Encyclopedia )เป็นต้น 3.2 หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ให้ข่าวสารความรู้ (Information) จะมีลักษณะคาบเกี่ยวกับ หนังสอื อเิ ล็กทรอนกิ สร์ ูปแบบแรก แต่ข่าวสารจะกินความแคบกวา่ แบบแรก และมีลกั ษณะเฉพาะมากกว่า มีความสัมพันธ์กับหัวข้อเร่ืองใดหัวข้อเร่ืองหน่ึงโดยเฉพาะ ตัวอย่างเช่น หนังสือเรียนแพทยศาสตร์ ออกซฟอรด์ บนซดี รี อม หนงั สือรายช่ือเพลงนิมบสั (Nimbus Music Catalogue) เป็นตน้ 3.3 หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เพ่ือการสอน (Instructional) เป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่มี ประสิทธิภาพ และมีประโยชน์มากในการถ่ายทอดความรู้ความชานาญเพ่ือสนับสนุนการเรียนรู้และการ อบรม ผ้เู รียนจะได้รบั ความรู้และทราบความกา้ วหนา้ ในการเรยี นของตนหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ประเภทนี้ บางส่วนจะมีการประเมินและประยุกต์ตามรูปแบบการเรียนรขู้ องแต่ละคน จะมีการนาเสนอให้เหมาะสม กับผู้เรียนแต่ละคน ตัวอย่างได้แก่ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่มีการออกแบบหน้าจอสาหรับคอมพิวเตอร์ พื้นฐานการอบรม (Computer –Based Training) 3.4 หนังสืออิเล็กทรอนิกส์แบบต้ังคาถาม (Interrogational) หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ รูปแบบนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อการทดสอบ, สอบย่อย และประเมินผลกิจกรรมโดยวัดจากความรู้ที่ได้จา การศึกษาหัวข้อที่เกี่ยวข้อง หนังสืออิเล็กทรอนิกส์แบบตั้งคาถามจะประกอบด้วย 3 ลักษณะที่สาคัญคือ ธนาคารต้ังคาถามหรือแบบฝึกหัด, ข้อสอบ, ลักษณะการประเมินผลและระบบผู้เชี่ยวชาญ จะมีการ วิเคราะห์ผลทีไดจ้ าการเรยี น มีการแขง่ ขนั และพิจารณาให้ระดับท่เี หมาะสมกบั ความสามารถของผู้เรียน 4. รูปแบบของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์แบ่งตามชนิดของข้อมูลข่าวสารและเคร่ืองอานวยความ สะดวก (Barker,1991a,quoted in Barker, 1992 : 140-141) สามารถแบง่ ออกได้เปน็ 10 ประเภท คือ

5 4.1 หนังสือเรียนอิเล็กทรอนิกส์ (Text Books) ในระยะแรกจะมีลักษณะเป็นเส้นตรงมี โครงสร้างเป็นตัวอักษร (Text) ต่อมาจะมีลักษณะทีเป็นมัลติมีเดียมากข้ึนโดยใช้คุณสมบัติของ ไฮเปอร์เท็กซ์ในการนาเสนอ 4.2 หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ภาพเคลื่อนไหว (Moving Picture Books) มีโครงสร้างจาก ภาพเคลื่อนไหวสั้นๆ (Animation Clips) หรือภาพวดิ โี อ (Motion Video Segment) หรอื ทง้ั สองอย่างรวมกนั 4.3 หนังสืออิเล็กทรอนิกส์หลายภาษา (Talking Books) จะมีลักษณะเป็นเนื้อหาประกอบ คาบรรยาย เพอื่ ให้ง่ายต่อการรับรู้ของผ้อู า่ น 4.4 หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ภาพน่ิง (Static Picture Books) จะประกอบไปด้วยภาพน่ิง หลายๆ ชนดิ รวมกัน ภาพแต่ละภาพจะมคี ุณภาพท่ีแตกต่างกันไปตามความเหมาะสมของงาน 4.5 หนังสืออิเล็กทรอนิกส์สื่อประสม (Multimedia Books) เป็นการรวมช่องทางการ สื่อสารสองทางหรือมากกว่าน้ันเข้าด้วยกันเพื่อเข้ารหัสข่าวสาร เป็นการรวมตัวอักษร, ภาพนิ่งและ ภาพเคลื่อนไหวมารรวมไว้ด้วยกันตามโครงสร้างแบบเน้นตรง เม่ือผลิตเสร็จสื่อจะออกมาในรูปของส่ือ เดียว ได้แก่ จานแม่เหล็กหรอื ซดี รี อม 4.6 หนังสืออิเล็กทรอนิกส์รวมส่ือ (Poly Media Books) มีลักษณะตรงกันข้ามกับหนังสือ อิเลก็ ทรอนิกส์สื่อประสม โดยใช้การรวมส่ือที่แตกต่างกนั ได้แก่ ซดี ีรอม, จานแม่เหล็ก, กระดาษ, เครอื ขา่ ย คอมพิวเตอรแ์ ละอ่ืนๆ เพอื่ ส่งข้อมูลขา่ วสารไปยังผใู้ ช้ 4.7 หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ไฮเปอร์มีเดีย (Hypermedia Books) จะมีลักษณะคล้ายกับ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์สื่อประสม คอื ใชก้ ารสื่อสารหลายช่องทาง แต่จะมีโครงสร้างเป็นแบบนอนลีเนียร์ โดยมโี ครงสร้างแบบใยแมงมมุ 4.8 หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ผู้เช่ียวชาญ (Intelligent Electronic Books) มีการบรรจุเทคนิค ปัญญาเทียม เช่น ระบบผู้เชี่ยวชาญ (Expert System) และระบบเครือข่ายประสาท (Neural Networks) ซึ่ง สามารถทาให้ผ้เู รยี นเกิดการเรียนรู้และประยกุ ต์ให้เข้ากับพฤติกรรมของผู้เรียนแต่ละคนท่ีมีความแตกต่าง กัน 4.9 หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ทางไกล (Telemedia Electronic Books) ต้องอาศัยการส่ือสาร ทางไกลชว่ ยในการนาเสนอเน้ือหา เช่น การเรยี นการสอนในระบบเทเลคอนเฟอเรนซ์ การส่งข้อความทาง อเี มล์ ตลอดจนเปน็ ทรัพยากรในการสอนทางไกล เช่นในห้องสมดุ ดิจิตอล

6 4.10 หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ไซเบอร์บุ๊ค (Cyberbook Books) ใช้เทคนิคของความจริง เสมือน (Virtual Reality) ในการสร้างสถานการณ์จาลองเพื่อให้ผู้เรียนรู้สึกเหมือนได้เข้าไปอยู่ใน ประสบการณจ์ ริง การเปรยี บเทยี บหนงั สอื อิเล็กทรอนิกส์ 3 รูปแบบ การท่ียกหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ทั้ง 3 ประเภทคือ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ภาพน่ิงหนังสือ อิเล็กทรอนิกส์ภาพเคลื่อนไหวและหนังสืออิเล็กทรอนิกส์มัลติมีเดียมาเปรียบเทียบนั้นเพราะว่าหนังสือ อิเล็กทรอนิกส์ทั้ง 3 ประเภทน้ีจัดเป็นพ้ืนฐานของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ท้ังหมดท่ีมีอยู่หนังสือ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ 2 ชนิดแรกสนบั สนนุ คอมพวิ เตอร์ช่วยการเรียนรู้ (Computer –Assisted Learning) สว่ นชนิด สุดท้ายเป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ท่ีสนับสนุนสิ่งแวดล้อมการเรียนรู้แบบปฏิสัมพันธ์เพ่ือสนับสนุนการ เรยี นแบบค้นพบของคอมพวิ เตอรช์ ว่ ยการเรยี นรู้ 1. หนังสอื อิเลก็ ทรอนิกสภ์ าพนิ่ง (Static Picture Books) หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ภาพน่ิงเป็นการรวบรวมภาพที่เก่ียวข้องกันเอาไว้ด้วยกันตามแต่ จุดประสงค์ใดๆ ก็ตามที่ผู้ผลิตต้องการยกตัวอย่างเช่น ใช้ประกอบการสอน เป็นต้นโมเดลคานิยามของ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ภาพน่ิงมีดังภาพประกอบ 3 อันประกอบด้วย ปกหน้า,กลุ่มภาพน่ิง, และปกหลัง ภาพนิง่ น้อี าจเป็นภาพจากวิดโี อ, ซีดรี อม หรอื จากที่อื่นๆ กไ็ ดข้ อ้ จากัดอย่างหนงึ่ ของหนังสืออิเลก็ ทรอนกิ ส์ ภาพนิ่งคือ ขาดโครงสร้างของบทแต่หากจะให้มีก็สามารถทาได้ไม่ยากโดยเก็บรวบรวมภาพท่ีมีลักษณะ แนวเดียวกัน เช่น หัวข้อเกี่ยวกับสัตว์ซ่ึงเป็นบทท่ีอยู่ตามลาพังไม่ข้ึนกับบทอ่ืนใช้รวบรวมสัตว์พวกแมว, หมา, นก และสัตว์อ่ืนๆ สิ่งสาคัญสาหรับหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ภาพนิ่ง คือ ต้องมีการควบคุททรงเลือกท่ี หลากหลายแทนลูกศรในโมเดลของมันซ่งึ อาจควบคุมหนังสอื อเิ ล็กทรอนิกสท์ ั้งเล่มหรอื เปน็ บางตอนก็ได้ 2. หนังสืออเิ ล็กทรอนิกส์ภาพเคลอื่ นไหว (Moving Picture Book) ห นั งสื อ อิ เล็ ก ท ร อ นิ ก ส์ ภ า พ เค ล่ื อ น ไ ห ว เป็ น ห นั ง สื อ อิ เล็ ก ท ร อ นิ ก ส์ แ บ บ ห นึ่ ง ซ่ึ ง บ ร ร จุ ภาพเคลอื่ นไหวไว้มากว่าหนงั สืออเิ ล็กทรอนิกสภ์ าพนิ่งภาพเคลอ่ื นไหวเหล่านอี้ าจมาจากคอมพิวเตอร์หรือ สือ่ จากสือ่ อื่น เช่น วิดโี อหรือซีดรี อม ภาพจะมีการนาเสนออย่างไรข้นึ อยู่กับอตั ราท่ตี ัง้ ไว้อาจนาเสนออยา่ ง รวดเร็ว, ช้าหรือปกติก็ได้โมเดลคานิยามของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ภาพเคลื่อนไหวมีดังภาพประกอบ 4 ภาพเคล่ือนไหวเป็นการแสดงชุดของภาพที่มีลักษณะคล้ายกันต่อเนื่องกันอยา่ งรวดเร็วโมเดลของหนังสือ อิเลก็ ทรอนิกส์ชนิดน้เี หมือนกับโมเดลของหนังสอื อิเลก็ ทรอนิกส์ภาพน่ิงโดยจะมปี กหนา้ และปกหลัง ตรง กลางจะประกอบดว้ ยโครงสรา้ งของบททีม่ ลี กั ษณะเหมอื นกนั ดงั ภาพประกอบ 1 แต่ละบทจะประกอบด้วย

7 ภาพจานวยมากซ่ึงเรียงลาดับตามหัวข้อหรือเน้ือเร่ืองถ้าต้องการแบ่งเป็นหมวดหมู่หรือย่อยไปกว่าน้ันก็ สามารถกาหนดให้เพิ่มข้ึนได้อีกในโครงสร้างความมีการควบคุมทางเลือกที่หลากหลายของหนังสือ อเิ ลก็ ทรอนกิ สภ์ าพเคลอ่ื นไหวโดยสามารถเล่น , หยดุ ดู , ถอยหลัง , ไปหน้าไดต้ ามทผ่ี อู้ ่านต้องการดว้ ย 3. หนงั สอื อิเล็กทรอนกิ ส์มลั ติมีเดีย (Multi – Media Books) หนงั สืออิเลก็ ทรอนิกสม์ ลั ตมิ ีเดียประกอบดว้ ยตัวอักษรเสียงและภาพรวมกันโครงสรา้ งหน้าของ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์มัลติมีเดียมีดังภาพประกอบ 1 ในส่วนท่ีแรเงาในภาพนาเสนอตัวอักษร เสียง และ ภาพตามท่ีผู้ใช้เลือกภาพของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์มัลติมีเดียอาจเป็นภาพธรรมดาท่ีมีเอ ฟเฟค หรือ ภาพเคล่ือนไหวก็ได้ในหน่ึงหน้าจอจะประกอบไปด้วยหลายๆส่วนดังภาพประกอบ 5 ได้แก่ ตัวอักษร ภาพน่ิง ภาพวิดโี อ กรอบโต้ตอบระหว่างผู้อ่านกับคอมพิวเตอรใ์ นหนา้ น่ีอาจใส่เสียงด้วย โดยอาจใส่ไว้ใน รูปของปุ่มเพื่อให้ผู้เรียนเลือกใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์หลายๆ ประเภท รวมทั้งหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ มัลตมิ ีเดยี จะได้รบั ความสะดวกสลายจากตัวจัดการซ้อนทับ (Overlay Manager) ดังภาพประกอบ 6 หนา้ จอ ทั้งหมดที่ผู้ใชม้ องเหน็ เกิดจากการรวมตัวของแตล่ ะหน้าจอทางตรรกะวิทยา (Logical Screen) ทมี่ ีอย่โู ดยแต่ ละหน้าจอจะมีภาพพื้นฐานเป็นภาพหลัก ตัวซ้อนทับ 1,2 ,3 และ 4 จะปรากฏขึ้นเอง หรือต้องอาศัยการกด ปุ่มช่วยข้ึนอย่กู ับผู้ออกแบบโปรแกรมว่าจะออกแบบไว้อย่างไรตัวจัดการการซ้อนทับมีประโยชน์ต่อการ รวบรวม การควบคุมโครงสร้าง และการที่จะเป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์มัลติมีเดียจะต้องอาศัยพื้นฐาน โมเดลตัวจดั การซ้อนทบั (Overlay Model) ด้วย ข้อดแี ละข้อจากัดของหนังสอื อิเล็กทรอนิกส์ 1. ข้อดีของหนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์ มีข้อดดี งั ต่อไปนี้ 1.1 เป็นสื่อที่รวมเอาจุดเด่นของส่ือแบบต่างๆ มารวมอยู่ในสื่อตัวเดียว คือสามารถแสดง ภาพ แสง เสยี ง ภาพเคล่อื นไหว และการมปี ฏสิ มั พนั ธ์กบั ผู้ใช้ 1.2 ช่วยให้ผู้เรียนเกิดพัฒนาการเรียนรู้และเข้าใจเน้ือหาวิชาได้เร็วขึ้น (สิทธิพรบุญญานุ วตั ร,2540 : 24) 1.3 ครูสามารถใชห้ นังสืออิเล็กทรอนกิ ส์ในการชกั จงู ผู้เรียนในการอา่ น, การเขียน, การฟัง และการ พดู ได้ (Roffey, 1995) 1.4 มีความสามารถในการออนไลน์ผา่ นเครือข่ายและเชือ่ มโยงไปสู่โฮมเพจและเว็บไซต์ ต่างๆอกี ท้ังยังสามารถอา้ งอิงในเชิงวิชาการได้

8 1.5 หากหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ออนไลน์ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตหรืออินทราเน็ตจะทา ให้การกระจายส่ือทาได้อย่างรวดเร็ว และกว้างขว้างกว่าส่ือท่ีอยู่ในรูปสิ่งพิมพ์ (“หนังสือพิมพ์ออนไลน์ นวตั กรรมแหง่ ส่อื อนาคต”,2541 : 60) 1.6 สนับสนุนการเรียนการสอนแบบห้องเรียนเสมือนห้องสมุดเสมือนและห้องสมุด อเิ ล็กทรอนิกส์ 1.7 มลี กั ษณะไม่ตายตวั สามารถแกไ้ ขปรับปรงุ เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาอีกทัง้ ยงั สามารถ เชอื่ มโยงไปสขู่ ้อมูลทเี่ กี่ยวขอ้ งไดโ้ ดยใช้ความสามารถของไฮเปอรเ์ ทก็ ซ์ 1.8 ในการสอนหรืออบรมนอกสถานท่ีการใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์จะช่วยให้เกิดความ คลอ่ งตวั ยง่ิ ขนึ้ เน่อื งจากสื่อสามารถสรา้ งเกบ็ ไว้ในแผ่นซีดไี ด้ไมต่ ้องหอบห้วิ ส่อื ซ่ึงมจี านวนมาก 1.9 การพิมพท์ าได้รวดเร็วกว่าแบบใช้กระดาษสามารถทาสาเนาไดเ้ ท่าทต่ี ้องการประหยัด วสั ดุในการสรา้ งส่ืออกี ทัง้ ยงั ช่วยอนุรกั ษส์ ิง่ แวดล้อมอีกดว้ ย 1.10 มีความทนทาน และสะดวกต่อการเก็บบารุงรักษาลดปัญหาการจัดเก็บเอกสาร ยอ้ นหลังซ่ึงตอ้ งใช้เนอ้ื ทห่ี รอื บรเิ วณกวา้ งกว่าในการจัดเกบ็ สามารถรักษาหนังสือหายากและต้นฉบับเขียน ไมใ่ ห้เส่ือมคณุ ภาพ 1.11 ชว่ ยให้นักวิชาการและนักเขยี นสามารถเผยแพร่ผลงานเขียนได้อยา่ งรวดเรว็ 2. ข้อจากัดของหนังสอื อิเลก็ ทรอนิกส์ ถึงแม้ว่าหนังสืออิเล็กทรอนิกส์จะมีข้อดีที่สนับสนุนด้านการเรียนการสอนมากมายแต่ก็ยังมี ขอ้ จากดั ดว้ ยดงั ต่อไปน้ี 2.1 คนไทยส่วนใหญ่ยังคงชินอยู่กับส่ือท่ีอยู่ในรูปกระดาษมากกว่า (“หนังสือพิมพ์ออนไลน์ นวัตกรรมสอ่ื แหง่ อนาคน “, 2541: 60) อีกท้งั หนงั สืออเิ ล็กทรอนิกส์ยังไม่สมารถใช้งานได้ง่ายเมื่อเทยี บกับ ส่ือสง่ิ พมิ พ์ และความสะดวกในการอ่านก็ยังนอ้ ยกว่ามาก 2.2 หากโปรแกรมสอื่ มีขนาดไฟล์ใหญม่ ากๆ จะทาให้การเปล่ียนหนา้ จอมคี วามลา่ ช้า 2.3 การสร้างหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เพ่ือให้ได้ประสิทธิภาพท่ีดี ผู้สร้างต้องมีความรู้ และความ ชานาญในการใชโ้ ปรแกรมคอมพิวเตอรแ์ ละการสรา้ งสื่อดีพอสมควร 2.4 ผู้ใช้สื่ออาจจะไม่ใช่ผู้สร้างสื่อฉะน้ันการปรับปรุงส่ือจึงทาได้ยากหากผู้สอนไม่มีความรู้ด้าน โปรแกรมคอมพิวเตอร์ 2.5 ใช้เวลาในการออกแบบมากเพราะต้องใช้ทักษะในการออกแบบเป็นอย่างดีเพ่ือให้ได้ส่ือท่ีมี คุณภาพ

9 ประโยชน์ของ E-book 1. ชว่ ยให้สามารถย้อนกลับมาอ่านไดแ้ ละสามารถเลือกอ่านไดต้ ามเวลา-สถานท่ีที่ตนเองสะดวก 2. การตอบสนองท่ีรวดเร็วของคอมพิวเตอร์ที่ให้ท้ังสีสัน ภาพ และเสียง ทาให้เกิดความตื่นเต้น และไมเ่ บื่อหนา่ ย 3. สามารถปรบั เปล่ยี น แกไ้ ข เพิ่มเตมิ ขอ้ มูลไดง้ า่ ย สะดวก และรวดเร็ว ให้ทนั สมัย กบั เหตุการณ์ได้เป็นอยา่ งดี 4. สามารถคน้ หาขอ้ มูลทเี่ ก่ียวขอ้ งกบั เร่ืองท่ีกาลงั ศกึ ษา ความแตกตา่ งของหนงั สืออเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (e-Book) กบั หนงั สือท่ัวไป ความแตกต่างของหนังสือท้ังสองประเภทจะอยู่ที่รูปแบบของการสร้าง การผลิตและการใช้งาน เช่น 1. หนังสือทว่ั ไปใช้กระดาษ หนังสืออเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ไมใ่ ช้กระดาษ (อนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้) 2. หนังสือท่ัวไปมีข้อความและภาพประกอบธรรมดา หนังสืออิเล็กทรอนิกส์สามารถสร้างให้มี ภาพเคล่อื นไหวได้ 3. หนงั สือทวั่ ไปไม่มีเสียงประกอบ หนงั สืออเิ ล็กทรอนกิ ส์สามารถใสเ่ สยี งประกอบได้ 4. หนังส่ือท่ัวไปแก้ไขปรับปรุงได้ยาก หนังสื่ออิเล็กทรอนิกส์สามารถแก้ไขและปรับปรุงข้อมูล (update) ได้งา่ ย 5. หนงั สอื ทวั่ ไปสมบูรณ์ในตัวเอง หนังสืออิเลก็ ทรอนกิ ส์สามารถสรา้ งจดุ เชอื่ มโยง (links) ออกไป เชอื่ มตอ่ กบั ขอ้ มูลภายนอกได้ 6. หนงั สือท่วั ไปต้นทนุ การผลติ สงู หนงั สืออเิ ล็กทรอนิกสต์ น้ ทนุ ในการผลิตหนงั สือตา่ ประหยดั 7. หนังสือท่ัวไปมีขีดจากัดในการจัดพิมพ์ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ไม่มีขีดจากัดในการจัดพิมพ์ สามารถทาสาเนาได้งา่ ยไม่จากัด 8. หนังสือท่วั ไปเปดิ อ่านจากเล่ม หนังสืออิเลก็ ทรอนกิ สต์ อ้ งอ่านผ่านคอมพวิ เตอร์ 9. หนังสือทั่วไปอ่านได้อย่างเดียว หนังสืออิเล็กทรอนิกส์นอกจากอ่านได้แล้วยงั สามารถส่ังพิมพ์ (print) ได้ 10. หนังสือท่ัวไปอ่านได้1 คนต่อหน่ึงเล่ม หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ 1 เล่มสามารถอ่านพร้อมกันได้ จานวนมาก (ออนไลนผ์ า่ นอนิ เทอร์เนต็ )

10 11. หนังสือท่ัวไปพกพาลาบาก (ต้องใช้พื้นที่) หนังสืออิเล็กทรอนิกส์พกพาได้สะดวกคร้ังละ จานวนมากในรปู แบบของไฟล์คอมพวิ เตอร์ ใน handy drive หรือ CD โครงสรา้ งหนงั สอื อเิ ล็กทรอนกิ ส์ (e-Book Construction) ลักษณะโครงสร้างของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์จะมีความคล้ายคลึงกับหนังสือทั่วไปท่ีพิมพ์ด้วย กระดาษ หากจะมคี วามแตกตา่ งทีเ่ หน็ ไดช้ ัดเจนก็คอื กระบวนการผลิต รปู แบบ และวิธกี ารอ่านหนังสือ สรุปโครงสรา้ งท่ัวไปของหนงั สอื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ ประกอบดว้ ย 1. หนา้ ปก (Front Cover) 2. คานา (Introduction) 3. สารบญั (Contents) 4. สาระของหนังสอื แต่ละหนา้ (Pages Contents) 5. อ้างอิง (Reference) 6. ดชั นี (Index) 7. ปกหลัง (Back Cover) หน้าปก หมายถึง ปกด้านหน้าของหนังสือซึ่งจะอยู่ส่วนแรก เป็นตัวบ่งบอกว่าหนังสือเล่มน้ีชื่อ อะไร ใครเปน็ ผ้แู ตง่ คานา หมายถึง คาบอกกล่าวของผู้เขียนเพ่ือสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับข้อมูลและเรื่องราว ต่างๆ ของหนังสือเล่มนั้น สารบัญ หมายถึง ตัวบ่งบอกหัวเร่ืองสาคัญที่อยู่ภายในเล่มว่าประกอบด้วยอะไรบ้างอยู่ที่หน้าใด ของหนังสอื สามารถเช่ือมโยงไปสหู่ นา้ ต่างๆ ภายในเล่มได้ สาระของหนังสือแต่ละหน้า หมายถึง ส่วนประกอบสาคัญในแต่ละหน้า ท่ีปรากฏภายในเล่ม ประกอบด้วย - หนา้ หนังสอื (Page Number) - ข้อความ (Texts) - ภาพประกอบ (Graphics) .jpg, .gif, .bmp, .png, .tiff - เสียง (Sounds) .mp3, .wav, .midi - ภาพเคลอื่ นไหว (Video Clips, flash) .mpeg, .wav, .avi

11 - จุดเชื่อมโยง (Links) อา้ งอิง หมายถงึ แหล่งข้อมูลที่ใช้นามาอ้างองิ อาจเป็นเอกสาร ตารา หรือ เว็บไซต์กไ็ ด้ ดัชนี หมายถึง การระบุคาสาคัญหรือคาหลักต่างๆ ท่ีอยู่ภายในเล่ม โดยเรียงลาดับตัวอักษรให้ สะดวกตอ่ การคน้ หา พรอ้ มระบุเลขหนา้ และจดุ เชอื่ มโยง ปกหลงั หมายถงึ ปกด้านหลงั ของหนงั สอื ซง่ึ จะอยู่สว่ นทา้ ยเลม่ การใช้ Electronic Book เพอ่ื การเรยี นการสอน E-Book จัดว่าเป็นนวัตกรรมทางการศึกษาในรูปแบบใหม่ที่กาลังได้รับความสนใจจาก นัก การศกึ ษาและผู้ที่เก่ียวขอ้ งกับการจัดการศกึ ษา Electronic Book จะครอบคลุมหนังสือท่ัวๆไปที่จัดทาแล้ว สามารถอา่ นได้ดว้ ยเทคโนโลยีสารสนเทศต่างๆ ส่วนใหญจ่ ะใช้คอมพิวเตอร์ในการอ่านมีโปรแกรมในกร อา่ นโดยเฉพาะตาราอิเล็กทรอนิกส์จะเป็น Electronic Book ประเภทหนึ่งท่ีจาเป็นต้องนามาจัดการเก่ียวกับ การเรียนการสอนในสังคมการเรยี นรใู้ นปัจจุบนั ทุกประเทศเห็นความสาคัญในการจัดทา Electronic Book เพื่อประกอบการเรียนการสอนโดย อาศัยเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเป็นตัวช่วยดาเนินการและจัดการให้เกิดระบบการเรียนรู้การจัดการเรียนการ สอนในยุคแรกๆ ใช้ระบบส่ือสารที่มีอยู่ในขณะน้ัน เช่น การจัดการเรียนการสอนทางวิทยุ โทรทัศน์ ดาวเทียม แต่ในปัจจุบันใช้ระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเป็นส่ือที่สาคัญในการดาเนินการ ใช้โปรแกรม คอมพิวเตอร์ในการจัดทา Electronic Book อาจเป็นโปรแกรมทีพ่ ัฒนาเองหรือใช้ภาษา HTML ในการเขียน หรือใช้โปรแกรมสาเร็จรูปอื่นๆ ช่วยเขียนข้ึนกลายเป็นโปรแกรมช่วยสอนในลักษณะต่างๆ โปรแกรมท่ี นิยมใช้ในการนามาจดั การเรียนการสอนในสถาบนั การศึกษาต่างๆในขณะนี้ได้แก่ โปรแกรม Blackboard, Syllas, Education Sphere,Advance Vision, Exam Cybernet, WebCT แ ล ะ MediaSTAQ เป็ น ต้ น มี ก าร พฒั นาโปรแกรมเพอื่ นามาจดั การเก่ียวกับการเรียนการสอนมากมาย บางบริษัทดาเนินการให้บริการทั้งการ ติดตั้งที่สถานท่ีศึกษาและให้บริการในระบบอินเตอร์เน็ต ส่วนในประเทศไทยเริ่มใช้การเรียนการสอน อิเล็กทรอนิกส์ในสถานศึกษา มหาวิทยาลัยเปิดจะได้เปรียบในการใช้การเรียนการสอนอิเล็กทรอนิกส์ เพราะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้เรียนโดยไม่มีข้อจากัดต่างๆ ในเร่ืองของความไม่พร้อมของ ผ้เู รียน ระยะทางของการมาเรียนหรือเวลาทีจ่ ะต้องเรยี น

12 โปรแกรมที่ใช้ในการสรา้ ง multimedia authoring โปรแกรมที่ใช้ในการผลิตงานมัลติมีเดีย มีกี่ประเภท อะไรบ้าง และมีหลักเกณฑ์ในการแบ่ง อย่างไร โปรแกรมทีใ่ ช้ในการผลติ งานมัลตมิ ีเดยี สามารถแบง่ ไดด้ ังนี้ คอื 1. เทคโนโลยีเกี่ยวกับเสียง (Audio Technology) ซึ่งรวมท้ังเสียงพูด และเสียงดนตรีต้ังแต่การ ประมวลผล การแสดงผล การจดั การต่างๆ เช่น การบีบอดั สญั ญาณ การสอื่ สาร การส่งสญั ญาณ 2. เทคโนโลยีเก่ียวกับวีดิโอ (Video Technology) อันได้แก่ การจัดเก็บการประมวลผล การ ปรบั แต่ง การใช้งาน การเรียกหา สืบคน้ การสง่ กระจาย มาตรฐานการบบี อดั สัญญาณ การเขา้ และถอดรหัส การส่งข้อมลู การทางานร่วมกับสือ่ อ่นื ๆ 3. เทคโนโลยีรูปภาพ (Image Technology) เป็นการพัฒนา และประยุกต์ใช้ภาพการจัดการ ฟอร์แมต คลงั ภาพ การคน้ หา การสร้าง และตกแต่งภาพ 4. เทคโนโลยีข้อความ (Text Technology) เก่ียวกบั ข้อความหรือ ตัวอกั ษร ท้ังการใช้ และลักษณะ รปู แบบของ ขอ้ ความแบบตา่ งๆ 5. เทคโนโลยีภาพเคล่ือนไหว และภาพสามมิติ (Animation & 3D Technology) เป็นเทคโนโลยี เก่ียวกับการแสดงผล ด้นภาพเคล่ือนไหว ท้ังแบบ 2 มิติ และ 3 มิติ การสรา้ งภาพเสมือนจริง (VR - Visual Reality) การสรา้ ง ตกแตง่ ประมวลผล การใชง้ าน 6. เทคโนโลยีการพัฒนา (Authoring System Technology) คือ เทคโนโลยีท่ีได้พัฒนาเพ่ือสร้าง เครื่องมือสาหรับ งานพัฒนามัลติมีเดีย ในรูปของซอฟต์แวร์ช่วย ในการนาข้อมูล เน้ือหา(Content) เข้าไป เก็บตามสื่อรปู แบบต่างๆ ที่วางไว้ เพื่อนาเสนอ เชน่ การใชเ้ คร่ืองมือตา่ งๆ หรอื การสรา้ งเครอ่ื งมอื ใหมๆ่ 7. เทคโนโลยีกบั ระบบการศึกษา เป็นการศกึ ษาเพ่ือนาเอา เทคโนโลยีมัลติมเี ดีย มาประยุกต์ใชก้ ับ ระ บ บ ก ารศึ ก ษ า ใน รูป ข อ ง CAI – Computer Aided Instruction, CBT - Computer Based Training ตลอดจนงานประชาสมั พันธ์ โฆษณา สรา้ งภาพยนตร์ 8. เทคโนโลยกี ารผลิต (Publishing Technology) เป็นการนาเอามลั ตมิ ีเดยี มาใชด้ ้านงานพิมพ์ เพ่ือ เพิ่มชีวิตชีวาให้กับงานพิมพ์ มีรปู แบบท่ีโดดเด่น และนาเสนอ หรือพิมพ์ลงส่ือได้หลากรูปแบบ เช่น งาน DTP - Desktop Publishing, CD-ROM Title & Publishing 9. เทคโนโลยีการกระจาย (Broadcasting & Conferencing) ส่งเกี่ยวข้องกับการเผยแพร่ข้อมูล เผยแพร่สัญญาณ เชน่ Conference, Multicasting Backbone เปน็ ต้น

13 10. เทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูล (Storage Technology) เน่ืองด้วยข้อมูลด้านมัลติมีเดีย มักจะมี ขนาดโต ทาให้ต้องเก่ียวข้องกับสื่อบันทึกข้อมูลอย่างหลีกเล่ียงไม่ได้ ท้ังเกี่ยวกับรูปแบบของสื่อ รปู แบบ การบีบอดั ขอ้ มลู รปู แบบการบนั ทกึ ขอ้ มลู 11. เทคโนโลยี WWW & HyperText โดยจะช่วยให้เกิดการเผยแพร่สื่อมัลติมีเดียในรูปแบบที่ นิยมมากท่ีสุด และเร็วท่ีสุด ผ่านระบบ WWW และมีระบบโต้ตอบด้วยเทคโนโลยี HyperText & HyperMedia 12. เทคโนโลยีคลังข้อมูล (Media Archives) ซึ่งเกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูลปริมาณมากๆ และการ เรียกคน้ ภายหลงั เชน่ Photo & Image Server, AVI archives ประโยชน์ของมลั ติมเี ดยี ปัจจบุ นั น้ีส่อื มลั ตมิ ีเดยี ไดเ้ ขา้ มามีบทบาทในชวี ติ ของคนเรามากยง่ิ ขน้ึ โดยมปี ระโยชน์ ดังนี้ 1. มีการประยุกต์ใช้มัลติมีเดียในการสร้างส่ือการเรียนการสอน อันส่งผลให้เกิดระบบห้องสมุด แบบดจิ ิทัล (Digital Library) การเรยี นการสอนทางไกล (Distance Learning) การสรา้ งห้องเรยี นเสมือนจริง (Virtual Classroom) และการเรียนการสอนแบบกระจาย อันสง่ ผลใหเ้ กิดการเรียนรอู้ ยา่ งกวา้ งขวาง 2. ในส่วนของภาคธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า E-Commerce อันจะช่วยให้การ นาเสนอสินค้า มีความน่าสนใจมากกว่าเดิมธุรกิจการพิมพ์ นับเป็นอีกหนึ่งธุรกิจท่ีสัมพันธ์กับเทคโนโลยี มลั ตมิ เี ดีย อันจะสง่ ผลให้หนงั สอื สิ่งพมิ พ์ตา่ งๆ มีความนา่ สนใจมากขนึ้ และปจั จุบันกม็ ี E - Magazine หรือ E - Book ออกมาอยา่ ง 3. ธุรกิจการให้บริการข้อมูลข่าวสาร เมื่อมีการนาเทคโนโลยีมัลติมีเดียมาช่วย จะทาให้ข้อมูล ข่าวสารทเ่ี ผยแพรอ่ อกไป มีความน่าสนใจมากกวา่ เดมิ ธรุ กิจโฆษณา และการตลาด มกี ารใช้มัลติมเี ดียเข้ามา ชว่ ยในการสร้างสอ่ื โฆษณา ซง่ึ จะชว่ ยดึงดูดคนเขา้ มาชม ดว้ ยเทคโนโลยใี หม่ๆ ทีม่ คี วามแปลกใหม่ 4. การแพทย์และสาธารณสุข ปจั จุบันมีการสร้างส่อื เรียนรู้ดา้ นการแพทย์ ช่วยให้ประชาชนทั่วไป มีความสนใจศกึ ษา เพอื่ สร้างความเขา้ ใจที่ถกู ต้องเก่ียวกบั การดแู ล รกั ษาสขุ ภาพตนเอง 5. นนั ทนาการ นับเปน็ บทบาทที่สาคญั มาก ท้ังในรูปของเกมการเรียนรู้ 6. มีการประยุกต์ใช้ Virtual Reality เพอ่ื ให้เกิดประโยชนใ์ นด้านตา่ งๆ มากยง่ิ ขึน้ การเลือกใชส้ ีในหนังสือ E-book กาหนดสที ใ่ี ช้ 1. โทนสีเดียว 2. โทนสีผสม 2 สี 3. โทนสผี สม 3 สี

14 4. Color scheme, theme 5. ดสู ีของสิ่งพิมพ์, logo หัวจดหมาย หรือสอ่ื โฆษณา ประชาสมั พันธ์อนื่ ๆ ท่มี อี ยู่ของบริษัท โปรแกรมท่นี ิยมใช้สร้างส่ือ E – book โปรแกรมท่ีนิยมใชส้ รา้ ง e-Book มอี ยูห่ ลายโปรแกรม แต่ที่นิยมใชก้ ันมากในปจั จบุ ัน ได้แก่ 1. โปรแกรม Flip Album บทเรียน e-book ท่ีสร้างด้วยโปรแกรม FlipAlbum จะมีลักษณะการแสดงผลคล้ายหนังสือจริง ๆ และภายในเล่มยังสามารถบรรจุข้อมูลในลักษณะ Multimedia ได้ด้วย กล่าวคือ สามารถมีได้ท้ังข้อความ (text) รูปภาพ (Image) ภาพเคลื่อนไหว ( Movie) และเสียง (Audio) ซึ่งสามารถเอื้ออานวยให้การจัดทา บทเรียนมีความสมบูรณ์และตอบสนองต่อการเรียนรู้ได้ดีและสร้างยิ่งข้ึน ท้ังยังสามารถเช่ือมโยง (Link) ออกไปสู่แหล่งข้อมูลในภาพอินเตอร์เน็ตได้ด้วย หากครผู ู้สอนมีความรู้ความสามารถในการสร้าง e-book ด้วยโปรแกรมดังกลา่ วก็จะชว่ ยให้สามารถพัฒนาสอื่ การเรยี นร้ไู ด้ดว้ ย ตนเองอยา่ งนา่ สนใจ นาไปใชใ้ นการ เรียนการสอนใหเ้ กดิ ประสิทธภิ าพและประสิทธผิ ลมากยิง่ ขน้ึ หนงั สืออเิ ล็กทรอนกิ สท์ ่ีสรา้ งด้วยโปรแกรม Flip Album น้ัน จะตอ้ งตดิ ตั้งโปรแกรมตวั อ่านกอ่ น คือ Flip Viewer (ติดต้ังเพียงครั้งเดียว) โปรแกรมสร้าง eBook ตระกูล Flip Album มีความน่าสนใจมากทีเดียว เพราะสามารถสร้างผลงานง่ายและรูปร่างหน้าตาใกล้เคียงกับหนังสือหรือ Album 3 มิติจริงๆ สามารถ แทรกเพลง, ภาพ, ภาพเคล่ือนไหว ฯลฯ ตลอดจนพัฒนาเป็นสื่อได้ทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ผ่าน

15 อนิ เทอร์เน็ต หากจะมีข้อจากัดคือไม่สามารถ save เป็นไฟล์ .exe, หรือไฟลท์ ่ีสามารถนาไปเปดิ อย่างอสิ ระ ได้ จาเป็นจะต้องเปดิ ดว้ ยโปรแกรม FlipAlbum หรอื โปรแกรม Flip Viewer ทตี่ ิดตง้ั ไวใ้ นเคร่อื งเทา่ นั้น ตวั อย่างหนงั สอื ทส่ี ร้างดว้ ยโปรแกรม Flip Album

16 2. โปรแกรม Desktop Author ในปัจจุบันการเรียนการสอนสามารถท่ีจะเรียนรู้ได้ด้วยตนเองโดยผ่านทางสื่อต่าง ๆโดยเปล่ียน จากหนังสือหรือเอกสารทั่ว ๆ ไปมาเป็นการเรียนการสอนแบบ E-learning, e-bookหรือใช้ส่ืออื่น ๆ ที่ เกยี่ วขอ้ งเขา้ มาชว่ ยทาใหม้ ีการพัฒนากระบวนการเรียนการสอนให้น่าสนใจมากย่ิงขน้ึ โปรแกรม Desktop Author เปน็ โปรแกรมทีใ่ ชส้ าหรับสร้างสอ่ื ดจิ ิตอล หรือที่เรยี กท่ัวๆ ไปว่า “ E- Book ” เอกสารท่ีได้จาการสร้างด้วยโปรแกรม Desktop Author นี้ จะมีลักษณะรูปร่างเหมือนหนังสือ ท่ัวไป คือมีปกหน้า สารบัญ ข้อความ รูปภาพ และนอกจากนี้ยังสามารถที่จะแทรกภาพเคลื่อนไหว ไฟล์ ภาพยนตร์ ไฟล์ flash และเสยี งบรรยาย ลงไปในหนงั สือได้ โปรแกรม Desktop Author เปน็ โปรแกรมทใ่ี ช้สาหรับการสร้าง e-book โดยมีจดุ เด่นทค่ี วามงา่ ยใน การใช้งาน สามารถสร้าง e-book ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากน้ี e-book ท่ีทาด้วยโปรแกรมน้ียังสามารถเปิดดู ในเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องไหนก็ได้โดยท่ีไม่จาเป็นต้องมีโปรแกรม Desktop Author ในเครื่องที่เปิดอยู่ ได้

17 ขอ้ ดขี องโปรแกรม Desktop Author 1. ไฟลท์ ไี่ ดจ้ ากการ Export มีขนาดเล็ก 2. มลี กั ษณะคล้ายกับหนงั สอื สามารถส่งั พมิ พ์ในแตล่ ะหนา้ หรือทั้งหมด ของหนงั สอื ได้ 3. สามารถเผยแพรผ่ ่านระบบเครือขา่ ยไดง้ ่าย และ Download ผ่านเวบ็ ได้รวดเรว็ หรือสามารถท่ีจะสง่ ไฟล์ผ่านทางจดหมายอิเลก็ ทรอนกิ ส์ ( E-Mail) ได้ ตวั อยา่ งหนังสือทส่ี รา้ งดว้ ยโปรแกรม Desktop Author

บทที่ 2 การตดิ ตง้ั และใช้งานโปรแกรม การตดิ ต้งั โปรแกรม Desktop Author 7.1.5 การตดิ ตั้งโปรแกรม มีขน้ั ตอนดงั น้ี 1. ไปยังตำแหนง่ ท่เี ก็บไฟลต์ ิดตัง้ โปรแกรม Desktop Author จะปรำกฏไฟล์ทใ่ี ชใ้ นกำร ตดิ ต้งั ดังภำพ 2. ติดตง้ั โปรแกรมโดยกำรดบั เบ้ลิ คลิกทไ่ี ฟล์ DTAPRO715setup จำกนัน้ จะปรำกฏหน้ำตำ่ ง ตอ้ นรับกำรติดต้ังโปรแกรม ให้คลิกปุ่ม Next > 3. จำกน้นั จะปรำกฏหน้ำต่ำงลขิ สิทธิโ์ ปรแกรม ให้คลกิ เลอื ก ._ I accept the license agreement เพื่อยอมรบั ลิขสทิ ธิ์ จำกน้นั คลิกปมุ่ Next >

19 4. เมื่อปรำกฏหนำ้ ตำ่ งชอ่ื ผู้ใชง้ ำนใหค้ ลกิ ปุ่ม Next > ผำ่ นไปเลย 5. จำกนนั้ จะปรำกฏหนำ้ ตำ่ งตำแหน่งกำรตดิ ตง้ั ของโปรแกรม โดยโปรแกรมจะถกู ตดิ ต้งั ไวท้ ่ี C:\\Program Files\\DeskTopAuthor\\ ใหค้ ลกิ ปุ่ม Next > ผำ่ นไปอกี คร้ัง 6. จำกน้ันจะปรำกฏหนำ้ ตำ่ งเกย่ี วกบั กำร Update โปรแกรมใหค้ ลิกปมุ่ Next > 7. โปรแกรมจะเรมิ่ ติดตัง้ โดยกำรคดั ลอกไฟล์ตำ่ งๆ ลงในเครือ่ ง ใหร้ อจนกว่ำกำรตดิ ต้ัง จะแล้วเสร็จ 8. จำกนนั้ จะปรำกฏหน้ำจอเสรจ็ สน้ิ กำรตดิ ตงั้ โปรแกรมแสดงวำ่ กำรติดตง้ั โปรแกรม เรียบรอ้ ยแล้ว ใหค้ ลิกปุม่ Finish เพื่อเสรจ็ สิน้ กำรตดิ ตง้ั โปรแกรม

20

บทที่ 3 การใช้งานโปรแกรม Desktop Author หลังจากท่ีได้ทาการติดตงั้ โปรแกรม Desktop Author ซ่งึ เป็น Version 7.1.5 ลงใน คอมพิวเตอรเ์ รียบรอ้ ยแลว้ จะมี Icon ของโปรแกรมอยู่ท่ี Desktop เราสามารถจะเรยี กใช้ได้โดย ดบั เบิลคลิก ที่ Icon หรือจะเรียกใชจ้ าก Window 8 > กดปมุ่ ที่ Keyboard > พมิ พ์ DesktopAuthor > โปรแกรมจะเปดิ หน้าแรกข้ึนมาให้เราดังรูป

22 สว่ นประกอบของโปรแกรม 1. เมนูและทูลบาร์ ( Menu & Toolbar ) เป็นปุ่มใช้งานทวั่ ๆ ไป แต่ละปมุ่ มีหน้าทดี่ งั น้ี ใช้สาหรบั การเปิดงานทม่ี อี ยูแ่ ล้วข้นึ มาดู หรอื แก้ไข ใชส้ าหรบั สร้างงานใหม่ ใช้สาหรบั ดตู ัวอยา่ ง ( Preview ) งานท่ีได้ ทา ใชส้ าหรับบนั ทกึ งานทไ่ี ดจ้ ัดทา ใช้บบี อดั ไฟลง์ านทงั้ หมดท่ที าขน้ึ มาให้ ขน้ึ เป็นไฟลเ์ ดยี วอยใู่ นรูปของ .DNL สาหรับ ใชส้ าหรบั เกบ็ ไฟลท์ งั้ หมดท่ที า การทาเวปไซต์ ขนึ้ มาให้เปน็ ไฟลเ์ ดยี วอย่ใู นรปู ของ .EXE ใช้ในการทา Screen saver ใชส้ าหรบั ป้องกันไฟล์งาน ทงั้ หมดทท่ี าขน้ึ มาเพอื่ นาเสนอ ใชส้ าหรับ upload ไฟลข์ ึ้นเวปไซต์ ในเวปไซต์ไฟลเ์ ดียวโดยมี นามสกลุ .DRM ใชส้ าหรับการแทรกคาถาม คาตอบ และ ใชส้ าหรับใส่ไฟล์ DNL ลง เพิ่ม Object ลงใน e-book ในเวปไซต์ ใช้สาหรบั ตัง้ ค่าต่าง ๆ ของ e-book ใช้ เปดิ ไฟล์ .epub ของ Android ใช้สาหรบั การเลอื กปุ่มเพ่ือแทรกลงในe- ใชส้ าหรบั refresh งาน book ใชส้ าหรับเลอื กรูปแบบต่างๆ เปน็ ตน้ แบบทจี่ ะนามาสร้างเป็น e-book

23 2. แถบเคร่ืองมอื อน่ื ๆ เป็นแถบเครอ่ื งมอื ท่ีใช้สาหรับการจดั การในหนังสอื ทใ่ี ช้บ่อย ๆ แบ่งออกเปน็ 5 ส่วน คอื ส่วนท่ี 1 Page เปน็ เครอื่ งมือท่ใี ชส้ าหรบั การจัดการเก่ียวกบั หนา้ ของหนังสือ เชน่ เพิม่ หนา้ ลบหนา้ เป็นต้น ( Add Page ) สาหรบั เพม่ิ หนา้ เอกสาร ( Delete Page) สาหรบั ลบหนา้ เอกสาร ( Move Page ) สาหรบั ย้ายหนา้ เอกสาร ( Copy Page ) สาหรับคดั ลอกหน้าเอกสาร ( Previous Page ) แสดงเอกสารหนา้ ก่อนหนา้ ( Next Page ) แสดงเอกสารหนา้ ถัดไป (Goto Page) กาหนดเลือกหนา้ เอกสาร (Insert/delete multiple pages) กาหนด สร้าง ลบเอกสาร แบบ multiple pages สว่ นท่ี 2 Insert เปน็ กลุม่ เครื่องมอื ท่ใี ช้งานเกีย่ วกบั การแทรก วัตถตุ า่ ง ๆ เข้ามาไว้ใน หนงั สือ เช่น แทรก กล่องขอ้ ความ แทรกรปู ภาพ เป็นต้น ( Insert Box ) แทรกกลอ่ งสใี หห้ น้าเอกสาร ( Insert Image) แทรกรปู ภาพ ( Insert Text ) แทรกข้อความ ( Insert Editable Text ) สาหรับแก้ไขข้อความ (Insert Editable Image) สาหรบั แกไ้ ขรูปภาพ ( Popup Image ) ใส่ข้อความโดยใช้ Text Block (Insert updateble text) แกไ้ ขข้อความพิเศษ (Insert updateble image) แก้ไขไฟลม์ ลั ติมเี ดยี (Insert multi-page text flow) สร้างเพจหลายอันในหน้าเดยี ว (Insert Multimedia) แทรกไฟลม์ ลั ตมิ ีเดีย

24 สว่ นที่ 3 Edit เป็นกลุ่มเคร่ืองมอื ทใ่ี ช้เกี่ยวกบั การแก้ไขทัง้ หมด เช่น การตัด คดั ลอก หรอื การลบ เปน็ ต้น ( Undo ) ยกเลิกคาสั่งปัจจบุ นั ( Redo) กลบั ไปทางานตามคาสั่งท่ยี กเลิกไป ( Cut ) ตดั วตั ถุ ( Copy ) คดั ลอกวัตถุ ( Paste ) วางวัตถทุ ีค่ ดั ลอกมา ( Delete ) ลบวตั ถทุ ง้ิ (Paste on multiple pages) วางเอกสารหลายหนา้ ส่วนที่ 4 Change เป็นกลุม่ เครื่องมือทใ่ี ช้เก่ียวกับการเปลีย่ นแปลงคา่ ต่าง ๆ เชน่ การ เปลี่ยนจดุ เชอ่ื มโยง การ เปลีย่ นรปู ภาพ เปน็ ต้น ( Change Scale ) ตงั้ ค่าขนาดของวตั ถุ ( Change Link) เปลยี่ นการเช่อื มโยงวตั ถุ ( Change Position ) ย้ายวตั ถุต่าง ๆ บนหน้ากระดาษ ( Change Image ) สาหรบั เปลีย่ นรปู ภาพ ( Change Transparency ) แก้ไขความคมชดั ของรปู ภาพ ( Edit Image ) เรียกใช้ Image Editor สว่ นที่ 5 Colour เป็นกลุม่ เครื่องมือเก่ียวกบั การกาหนดสี และขอบสี เปน็ ต้น ( Border Colour ) กาหนดสีขอบวตั ถุ ( Fill Colour ) กาหนดสีของวัตถุ 1. แถบเครอ่ื งมือท่ใี ช้ในการจัดวางวตั ถุ

25 ( Send to top ) ให้วัตถุอยูบ่ นสุด ( Up one layer ) ให้วัตถอุ ยู่สงู ข้นึ ไปอกี ระดับ หน่งึ ( Down one layer )ใหว้ ัตถอุ ย่ชู ้ันตา่ ลงไป ( Send to buttom )ให้วัตถอุ ยชู่ ้ันล่างสดุ อีกระดบั หน่งึ ( Align left ) ให้วัตถุอยู่ชิดดา้ นซา้ ย ( Align right ) ใหว้ ัตถุอยชู่ ิดด้านขวา ( Align center vertical ) ให้วตั ถอุ ยตู่ รง ( Align top ) ใหว้ ตั ถุอยูช่ ดิ ด้านบน กลางในแนวตงั้ ( Align Buttom ) ให้วตั ถุอย่ชู ิดด้านลา่ ง ( Align center horizontal ) ให้วัตถุอย่ตู รง กลางใน แนวนอน ( Distribute Width ) ให้วัตถอุ ยกู่ ่ึงกลางใน ( Distribute Height ) ใหว้ ัตถุอยู่กึ่งกลางใน แนวนอน แนวตั้ง ลาดบั ข้นั การสรา้ งหนงั สอื เปดิ โปรแกรม Desktop Author ขึน้ มาแลว้ คลกิ เลอื ก New หรือ File > New หรือ จะมหี นา้ ตา่ งใหเ้ รา กาหนดค่า Properties ตา่ ง ๆ ของ E – Book ดงั รปู

26 ความหมายของคา่ ตา่ ง ๆ จาก Book Properties มีดงั น้ี Width : ความกวา้ งของหนังสือ Height : ความสงู ของหนังสอื Border Color : สีเสน้ ขอบของหนงั สือ ในทนี่ ี้เลอื ก No Border คือไม่ใสข่ อบหนงั สอื Paper Colour : เลอื กสขี องแผน่ กระดาษ Mask Colour : เลือกสที ีใ่ ช้ในการทารปู ใหโ้ ปร่งใส Background Colour : สีพื้นหลัง Character Set : เลอื กภาษาทใ่ี ช้ ให้เลอื ก THAI Text default left : ความหา่ งของกลอ่ งข้อความกบั ขอบกระดาษซ้ายมอื Text default top : ความห่างของกลอ่ งขอ้ ความกบั ขอบกระดาษด้านบน Text default height : ความสงู ของกลอ่ งขอ้ ความ Text default width : ความกวา้ งของกลอ่ งขอ้ ความ Start with tooltip auto update : เปิดหนงั สอื พร้อมอัปเดทเครอื่ งมอื Autostart : เปดิ หนังสอื โดยใหเ้ ปดิ หน้าเองอตั โนมตั ิ Start with background windows : เปดิ หนังสอื พรอ้ มฉากหลงั Disable Print Function : จะใหส้ ามารถ print e-book ไดห้ รือไม่ Page Turn : ปรับคา่ การเปลย่ี นหน้ากระดาษ Fly speed : ปรบั ความเรว็ ในการเปล่ียนหนา้ Start Status : เลือกต้ังคา่ ให้มเี มนูหรอื ไมม่ เี มนบู นหนงั สอื DWB Goto : เลือกการใช้ style ของโปรแกรม Default Unicode Value : เลอื กใช้ Unicode พ้ืนฐาน With/Without Password : เลือกการใสห่ รือไม่ใส่ password ให้กบั หนงั สือ Book Password : ใส่ password กรณที ตี่ อ้ งการ Book Backup Files : เลอื กต้งั คา่ ไฟล์ back up ว่าจะใหม้ ีกี่ไฟล์ Disable Send Mail Function : ต้งั ค่าการสง่ E-mail Disable Save As Function :การบนั ทึกไฟล์ Book Transparency : ต้งั ค่าเกย่ี วกับการโปร่งใส ในการทาปกหนงั สอื Book DRM : ตง้ั คา่ การปอ้ งกันต่างๆ Book Email : ตงั้ ค่า E-mail สาหรบั หนังสือ Book Multimedia : ตัง้ ค่ามัลติมีเดยี ( version ของ Windows Media Player )

27 การแบ่งหน้ากระดาษออกเปน็ 2 สว่ น จากตวั อยา่ งเรากาหนดค่าหนงั สืออยทู่ ี่ 960 x 670 ใหน้ าเมาสไ์ ปช้ที ่ี แถบ ไมบ้ รรทดั ด้านบนตรงจดุ กง่ึ กลางของหนงั สือแลว้ คลิก 1 ครง้ั จะได้เส้นแบ่งหน้ากระดาษออกมา ดัง ตัวอย่าง การใส่สันหนังสือแบง่ หนา้ เอกสารออกเป็น 2 สว่ น โดยใช้ Buttons > Dividers จะมี Dialog Box ข้นึ มาให้เลือกรูปแบบของตวั แบง่ หนา้ กระดาษ แล้วกด Use

28 นามาจัดไวก้ ึง่ กลางของหนา้ กระดาษ (เราจะไมแ่ บง่ หนา้ กระดาษ หรอื จะหารปู อ่นื มาเป็นตัวแบง่ แทนกไ็ ด)้ การใสร่ ูปภาพเพื่อทาปก เลอื กทก่ี ลอ่ งเครอื่ งมอื Insert หรอื จะเลอื กที่ Insert > Image ก็ได้ จะปรากฏ Dialog Box ข้นึ มาใหท้ าการเลือกภาพ โดยคลิกภาพท่ตี ้องการ แลว้ คลิก ปุ่ม Open

29 ไดร้ ปู ทต่ี อ้ งการแล้วก็ใสล่ งไปในหนังสือไดเ้ ลย ปรับขนาดและปรับตาแหน่งภาพตามความเหมาะสม การใสต่ ัวอกั ษรลงในตวั หนังสือ เลือกที่กล่องเครอื่ งมือ Insert หรือจะเลือกที่ Insert > Text กไ็ ดจ้ ะ

30 จะปรากฏ Dialog Box ขึ้นมาใหท้ าการเลอื ก ฟอนท์ตวั อกั ษร (1) Thai เลือกลกั ษณะตวั อกั ษร (2) MS san serif และเลอื กสีต่ ัวอกั ษร (3) พิมพ์ตวั หนงั สอื ลงในช่องพมิ พ์(4)แลว้ จดั รูปแบบตามต้องการและกด OK การกาหนดหนา้ หนังสอื ดา้ นซา้ ยมือมองไม่เหน็ เลือกทกี่ ล่องเครื่องมอื Insert Box หรือ เมนู Insert > Box เพื่อเลอื กสี แลว้ คลิกปุ่ม OKจากนน้ั ใหเ้ ลอื กท่กี ลอ่ งเครื่องมือ Insert Box หรือเลอื กทเ่ี มนู Insert > Box

31 จะปรากฏ Dialog Box สีขึ้นมาใหเ้ ราเลอื กสีเดยี วกบั ทเี่ ราไดก้ าหนดไว้ใน Transparent Color แลว้ จดั วางตาแหนง่ Box สี ใหค้ รอบคลุ่มพื้นท่หี น้าหนังสือด้านซา้ ยให้หมด

32 การกาหนดคา่ ให้หน้าปกฝ่ังซ้ายมอื หายไปโดยการเลอื ก Tools > Book Transparency ท่ีหวั ขอ้ Eazy Cover Shape ให้ใสเ่ ครื่องหมายถูกหนา้ With Transparency แลว้ เลือก Select ดงั รปู เพ่อื เลอื กสี แลว้ กดปุม่ OK * ท่ีหวั ขอ้ Eazy Back Cover Shape(ปกหลงั ) ต้องทาการเพมิ่ หนา้ กอ่ นจึงจะสามารถคลกิ เลอื กสไี ด้

33 การเพิม่ /ลบหน้าหนา้ หนังสือ 1 : ใช้ในการเพิ่มหนา้ หนังสอื 2 : ใช้ในการลบหน้าหนงั สอื 3 : ใช้ในการแทรกหน้าหนังสอื 4 : ยอ้ นไปหนา้ ก่อนหนา้ 5 : เปิดไปหนา้ ถดั ไป เซฟไฟล์ต้นฉบบั คลกิ ท่เี มนบู าร์ File >> Save as เลอื กโฟลเดอรป์ ลายทางและกาหนดช่อื แฟม้ งาน คลิกSave - ทาการ Insert Text แลว้ พมิ พ์ข้อมูลทจ่ี ะจัดทาสารบัญ

34 - ใหท้ าการมาร์กบรรทัดท่ีตอ้ งการทาล้ิง และคลกิ ที่ปมุ่ Link ด้านล่าง ดงั ตวั อยา่ ง - ในการสงั่ เปิดลง้ิ ไปยังหนา้ ต่าง ๆ ใหใ้ ชค้ าส่ัง Page แล้วเลอื กหมายเลขหน้าทีจ่ ะใหเ้ ปดิ แลว้ คลกิ OK แลว้ จะปรากฏเสน้ ขีดทับบรรทดั ที่ไดท้ าการลิ้งเรียบรอ้ ยแล้ว

35 - ในการสง่ั ล้ิงไปยงั หน้าต่าง ๆ ให้เช็คสถานะหมายเลขหนา้ ทีด่ ้านลา่ งของโปรแกรมจะบอกเลขหนา้ ที่ กาลงั ทางานอยู่ การสร้างปมุ่ เมนตู ่าง ๆ และการเช่ือมโยงคาสัง่ ตา่ ง ๆ 1. การทาปุ่มเมนตู ่างๆ เพ่อื ใชใ้ นการเช่อื มโยงไปยงั ที่ตา่ งๆ ตามต้องการ โดยการเลือกท่ี แถบเครือ่ งมือ Buttons ซง่ึ มีใหเ้ ลือกหลายฟังก์ชั่น ตวั อยา่ ง การทาปุม่ Close เพือ่ ใช้ในการออกจากการดหู นงั สือ หรอื ปดิ หนงั สือนนั่ เอง เลือกท่ี Buttons > Close จะปรากฏ Dialog Box ขน้ึ มาให้เลอื กรปู แบบ เสรจ็ แลว้ จัดวางตาแหน่งให้เรียบร้อย หรือหากไม่ชอบรูปแบบที่ให้มานน้ั กส็ ามารถ Insert รปู ของเรามาแทนได้

36 2. การสง่ั งานใหป้ ุม่ Close สามารถใช้งานโดยการ คลิกท่ีตวั รูปภาพปุม่ แล้วเลอื กกลอ่ ง เครอื่ งมอื Change หรอื คลกิ ขวาท่รี ปู ภาพปุ่มแล้ว เลือก Change Link จากนนั้ จะปรากฏ Dialog Box ข้นึ มาให้เลือกคา่ ตา่ งๆ ขณะน้เี ราทาปมุ่ Close หรอื ปมุ่ ปิด ให้เลอื กค่าท่ี Close Window หมายเหตุ เราสามารถใส่ปุ่มเพม่ิ เติมเพอ่ื เชอ่ื มโยงไปยังทตี่ ่างๆ ไดห้ ลายอยา่ งเช่น ไปยังหนา้ เอกสารตา่ งๆ ที่ต้องการไปยังเว็บไซด์ หรอื การส่งั ใหพ้ ิมพ์เอกสาร ส่งเมล์ เปน็ ต้น

37 การแทรก File Multimedia 1. ไฟลท์ ี่สามารถแทรกได้ File Multimedia ได้แก่ - Flash .swf - Movie .avi , .mpg - Sound .mid , .mp3 2. การนาไฟล์มลั ตมิ ีเดีย ประกอบดว้ ยภาพ ภาพเคลอ่ื นไหว สแี ละเสียงเรม่ิ ต้น ผ้ใู ช้ตอ้ งเตรียมพื้นท่ไี ว้ 3. การแทรกไฟล์มลั ติมเี ดยี ให้คลิกเมนู Insret > Multimedia หรอื คลกิ ไอคอน 4. คลกิ ป่มุ Select Multimedia เพือ่ เลือกไฟลม์ ลั ตมิ ีเดีย 5. กาหนดคา่ การแสดงผล แลว้ คลกิ OK

38 6. ขยายพ้นื ท่ีแสดงผลและจดั รปู แบบตามตอ้ งการ

39 การสร้าง Popup Image Popup Image คือ การแสดงรูปภาพที่มรี ายละเอยี ดหรอื คณุ ลกั ษณะทม่ี ากไปกวา่ เดิมจากการมองเหน็ ปกติใช้คาสง่ั Insart > Popup image ข้ันตอนการทา Popup image 1. แทรกรปู ภาพลงในหนังสือ ซึ่งกรณนี ี้จะเปน็ รูปภาพท่เี ล็ก 2. คลกิ เมนู Insart > Popup image 3. จะปรากฏหน้าตา่ ง Popup image Dialog

40 4. เลอื กภาพให้ตรงกับภาพเลก็ ทแี่ สดงอยู่ โดยคลกิ ทปี่ มุ่ Select Popup Image แล้วคลิกปมุ่ OK จากนน้ั ใหก้ าหนดพนื้ ท่ีของภาพ โดยกรอบสี่เหลย่ี ม ล้อมรอบภาพ แล้วคลกิ ไอคอน เพือ่ แสดงผลตวั อยา่ ง 1. ทาการเพิม่ หนา้ หนังสอื เปล่าข้ึนมา และ Insert Text ตกแต่งหนา้ กระดาษใหเ้ รียบรอ้ ย 2. เร่ิมตน้ สร้างคาถามโดยไป click ที่ Icon ชื่อ EazyForm บน Icon bar

41 3. หลังจากนนั้ จะปรากฏเมนใู หเ้ ลอื กกดปมุ่ Add Question บน เมนูบาร์ Add form objects

42 4. จะปรากฏหน้าจอสร้างขอ้ สอบ ในสว่ น Answer > Type กาหนดเปน็ RadioBox เพอื่ ทาข้อสอบแบบ ชอ้ ย และกาหนดตัวเลือกคาตอบ ในตัวอย่างกาหนด 4 ตัวเลอื ก 5. ในการสรา้ งขอ้ สอบจะต้องมกี ารกาหนดรูปแบบตัวอกั ษรทีจ่ ะใช้ ในตวั อยา่ งจะยกตวั อย่างการกาหนด เปน็ Style เพ่อื ให้สะดวกในการทางานข้อต่อ ๆ ไป โดยในส่วนของ Select Style Settings ให้คลกิ เลอื ก Edit เพือ่ กาหนดคา่ ต่าง ๆ ดงั รูป กาหนดขอ้ ความในหน้าเฉลย

43 ในส่วนของ Question Font : ใหเ้ ลือกลักษณะตัวอกั ษรท่ตี ้องการ Text Colour : เลอื กสีตวั อกั ษรของคาถาม ในสว่ น Answer Font : ใหเ้ ลอื กลกั ษณะตวั อกั ษรท่ีต้องการ Text Colour : เลือกสตี วั อักษรของคาตอบ Background Colour : พื้นหลงั ของตัวอักษร การกาหนดข้อความในหนา้ เฉลย Caption : กาหนดเปน็ “คาตอบทเ่ี ลือก” Correct Answer Caption : กาหนดเป็น “คาตอบที่ถูกตอ้ ง” Points Caption1 : กาหนดเป็น “คะแนนในข้อน”้ี Points Caption2 : กาหนดเปน็ “คะแนนที่ได”้ ในชอ่ ง Style Name : ใหก้ าหนดชอ่ื ตวั อยา่ งกาหนด เป็น 123 และกด OK เสรจ็ ส้นิ การเซ็ตคา่ ตวั อักษรและ กาหนดค่าในการเฉลย 6. การลงข้อสอบ ในขัน้ แรกในชอ่ ง Select Style Settings ใหเ้ ลอื ก Style ท่เี ราได้กาหนดไวเ้ ม่อื สกั ครู่ขึ้นมากอ่ นแล้ว จึงทาขึ้นตอน อนื่ ๆ ตอ่ ไป Order : เปน็ ค่าท่ีกาหนดในการเรียงลาดบั การเฉลยข้อสอบ QuestionID : เปน็ ค่าตัวแปรที่ใช้ในการสง่ คา่ คะแนนและเฉลย โปรแกรมจะรนั อตั โนมัตสิ ามารถ แก้ไขได้ Caption : แนะนาให้พมิ พ์คาว่า “ขอ้ ท”ี่ จะไปปรากฏในหนา้ เฉลยเปน็ การรายงานข้อท่เี ฉลย Text to display : ใส่คาถามดังตวั อยา่ ง Answer1, Answer2, Answer3, Answer4 : ให้พิมพ์ช้อย ก, ข, ค, ง ลงไปดังตัวอยา่ ง

44 ในชอ่ ง Correct ใหค้ ลิกเลือกข้อทถี่ กู ต้อง และในสว่ นของช่อง Point ใหพ้ มิ พค์ า่ คะแนนทตี่ อ้ งการ เช่น ขอ้ นีถ้ กู ให้ 1 ก็พมิ พเ์ ลข 1 ลงไป เสรจ็ แล้วคลิก OK กจ็ ะไดข้ อ้ สอบข้อที่ 1 ในหนา้ กระดาษแล้วจึงไปจดั ว่างตกแตง่ ตามความตอ้ งการ ในการเพม่ิ ขอ้ ก็ใหค้ ลิกทป่ี ่มุ Add Question และทาตามขนั้ ตอนท่ี 6 7. เม่อื ทาการลงขอ้ สอบเสร็จแลว้ ในหน้าสุดท้ายของข้อสอบ จะมีการกาหนดปุ่มในการสง่ ข้อสอบ ตาม ข้ึนตอนตอ่ ไปนี้ - คลิกที่ปมุ่ Add Submit Button

45 1. คลกิ ปุ่ม Edit เพอ่ื ตั้งคา่ ตัวอักษรบนปุม่ และสีของปุ่มกด 2. ในช่อง Caption ลบขอ้ ความ Button แลว้ ใหก้ าหนดตัวอกั ษรบนปมุ่ ลงไปใหม่ เช่น “สง่ ข้อสอบ” เป็น ตน้ 3. ในสว่ น Submit information - ในชอ่ ง Method ให้เลือกเปน็ No Information - และคลกิ เช็คบอ๊ กในชอ่ ง View Result ไม่ตอ้ งกาหนด Password - Items sent จะมี 2 ตวั เลอื ก 1. All หมายถึง ใหส้ ง่ คา่ ตัวแปรท้ังหมดทม่ี ี 2. Custom หมายถึง ใหผ้ สู้ ร้างกาหนดเองวา่ จะเลอื กคา่ ตวั แปรได้ไปปรากฏในหน้าเฉลย - แล้วคลิก OK เสรจ็ สิน้ การทาปุ่มสง่ ค่าคาตอบ 8. การสรา้ งหนา้ รายงานผลการทาแบบทดสอบ ตามข้นึ ตอนตอ่ ไปน้ี - คลกิ ทปี่ มุ่ Edit Result Page

46 - จะปรากฏฟอร์มรายงานผลดงั น้ี - สามารถตกแต่งพืน้ หลงั ได้ด้วยการ Insert Image เขา้ มาเหมือนหน้าหนังสอื ทวั่ ไป - ดบั เบิ้ลคลกิ ทีต่ ัวอักษรภาษาอังกฤษและเปลยี่ นเปน็ ภาษาไทยเพ่อื ใหเ้ ข้าใจไดง้ า่ ยข้ึนดังรูป

47 - กาหนดค่าเชอื่ มโยงดังน้ี กลับไปทาขอ้ สอบอีกครัง้ : Link Page หนา้ แรกของข้อสอบ ยอ้ นหลับ : กาหนดคา่ Link Result Previous (หมายถึง เฉลยหนา้ กอ่ นหน้าน)้ี ถัดไป : กาหนดคา่ Link Result Next (หมายถงึ เฉลยหน้าถดั ไป) - สรา้ งป่มุ เช่อื มโยงต่าง ๆ ตามความเหมาะสม - ในชอ่ งส่เี หล่ียมทโ่ี ปรแกรมสร้างให้ ชอ่ งที่ 1 คือคา่ แสดงผลเฉลย ให้ดบั เบิ้ลคลกิ ท่ีช่องแลว้ ตั้งค่าตวั หนังสือและสีตัวหนงั สือตาม ต้องการ ช่องท่ี 2 คือคา่ แสดงผลคะแนนทไี่ ด้ ใหด้ ับเบิ้ลคลกิ ท่ชี ่องแล้วตง้ั คา่ ตวั หนงั สอื และสี ตวั หนังสอื ตามต้องการ - เสรจ็ สน้ิ การทารายงานผลการทดสอบ การสร้างปกหลังหนงั สือ - เซฟไฟล์ต้นฉบบั อกี ครง้ั คลิกทีเ่ มนบู าร์ File > Save

48 การ Packageไฟล์ EXE 1. คลกิ ท่เี มนูบาร์ File Package EXE หรือคลกิ ทีร่ ูปบนไอคอนบาร์ 2. ก็จะได้ File.exe จัดเก็บไวใ้ นโฟลเดอร์เดียวกันกับที่เก็บไฟล์งานท้ังหมด


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook