ค่มู ือการดาเนนิ การเก่ยี วกับการเสนอ ร่างกฎหมาย ญตั ติ และกระทถู้ าม สานกั การประชุม สานกั งานเลขาธกิ ารสภาผู้แทนราษฎร
ค่มู อื การดาเนนิ การเก่ียวกับการเสนอ รา่ งกฎหมาย ญัตติ และกระทถู้ าม สานกั การประชมุ สานกั งานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
คำนำ ประเทศไทยมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยมีรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดที่ใช้เป็นหลักในการปกครองประเทศ รูปแบบของการบริหาร การปกครองประเทศเป็นระบบรัฐสภา ประกอบด้วย สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา เพ่ือทาหน้าท่ี ด้านนิติบัญญัติ คือ อานาจในการตรากฎหมาย การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน การให้ ความเห็นชอบ เป็นต้น ซึ่งการดาเนินงานของฝ่ายนิติบัญญัติน้ันต้องอยู่ภายใต้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ แหง่ ราชอาณาจักรไทย ข้อบังคับการประชมุ สภา กฎหมาย และระเบียบปฏิบตั ติ ่าง ๆ สานักการประชุมในฐานะหน่วยงานสนับสนุนการดาเนินการเกี่ยวกับงานเลขานุการ และงานด้านวิชาการในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรและการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ได้ตระหนักถึง ภารกิจหลักของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจึงได้มีการจัดทา “คู่มือการดาเนินการเกี่ยวกับการเสนอ ร่างกฎหมาย ญัตติ และกระทู้ถาม” โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือใช้เป็นคู่มือเบื้องต้นและอานวยความสะดวก ในการปฏิบตั ิงานของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อดาเนินการตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนญู ในระหว่างที่ ยังไม่มีข้อบังคับการประชุมสภา ทั้งนี้ ได้มีการรวบรวมเน้ือหาสาระโดยสังเขป อันได้แก่ หลักเกณฑ์ กระบวนการขั้นตอนต่าง ๆ และรูปแบบของร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ร่างพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญ ร่างพระราชบัญญัติ ญัตติ และกระทู้ถาม ตามกรอบของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และธรรมเนียมประเพณีทเี่ คยปฏิบตั ิ คณะผู้จัดทาหวังเป็นอย่างย่ิงว่าคู่มือเล่มน้ีจะเป็นประโยชน์ต่อสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎร และผู้มีหน้าท่ีเก่ียวข้องกบั วงงานในด้านนิติบญั ญตั ขิ องรัฐสภาทุกฝา่ ย ตลอดจนผ้ทู สี่ นใจทัว่ ไป สำนกั กำรประชุม สำนักงำนเลขำธกิ ำรสภำผู้แทนรำษฎร กุมภำพันธ์ ๒๕๖๒
สารบัญ หนา้ ๑ การแก้ไขเพิ่มเตมิ รฐั ธรรมนูญ ๔ รปู แบบการเสนอรา่ งรฐั ธรรมนูญแก้ไขเพ่ิมเตมิ ๑๑ รา่ งพระราชบัญญัติประกอบรฐั ธรรมนญู รูปแบบการเสนอรา่ งพระราชบญั ญัติประกอบรฐั ธรรมนูญ ๑๔ - กรณเี สนอกฎหมายใหม่/ปรบั ปรุงกฎหมายเดิม/ยกเลกิ กฎหมายเดมิ ๑๙ - กรณแี กไ้ ขเพิ่มเติมกฎหมายเดมิ ๒๔ ร่างพระราชบัญญัติ รูปแบบการเสนอร่างพระราชบญั ญตั ิ ๒๗ - กรณเี สนอกฎหมายใหม/่ ปรับปรุงกฎหมายเดมิ /ยกเลิกกฎหมายเดิม ๓๒ - กรณีแกไ้ ขเพมิ่ เติมกฎหมายเดมิ ๓๗ การเสนอขอใหย้ กรา่ งพระราชบัญญัติซงึ่ ถกู ยบั ย้ังไว้ ๓๘ ตามมาตรา ๑๓๗ (๒) และมาตรา ๑๓๗ (๓) ของรฐั ธรรมนูญ ๔๑ รูปแบบการเสนอขอให้ยกร่างพระราชบัญญตั ิซง่ึ ถกู ยบั ย้งั ไว้ ๔๔ ตามมาตรา ๑๓๗ (๒) ของรัฐธรรมนูญขึน้ พจิ ารณาใหม่ ๔๗ - กรณีเปน็ รา่ งพระราชบัญญัติเกีย่ วด้วยการเงิน - กรณีไม่เปน็ รา่ งพระราชบัญญตั เิ ก่ยี วดว้ ยการเงิน รปู แบบการเสนอขอให้ยกร่างพระราชบัญญัตซิ งึ่ ถกู ยบั ย้งั ไว้ ตามมาตรา ๑๓๗ (๓) ของรัฐธรรมนญู ขึน้ พิจารณาใหม่ - กรณเี ป็นร่างพระราชบญั ญตั เิ ก่ียวดว้ ยการเงนิ - กรณีไมเ่ ป็นร่างพระราชบัญญตั ิเกี่ยวดว้ ยการเงิน
๒ ญัตติ หน้า รปู แบบการเสนอญตั ติ ๕๐ - การเสนอญตั ติ - การเสนอญตั ติขอใหต้ ัง้ คณะกรรมาธกิ ารวสิ ามญั พจิ ารณา ๕๓ - การเสนอญัตตขิ อให้คณะกรรมาธกิ ารสามญั พจิ ารณา ๕๕ - การเสนอญตั ตดิ ว่ น ๕๘ - การเสนอญตั ติดว่ นขอใหต้ ง้ั คณะกรรมาธกิ ารวสิ ามญั พจิ ารณา ๖๑ - การเสนอญตั ติดว่ นขอใหค้ ณะกรรมาธิการสามญั พจิ ารณา ๖๓ รูปแบบการขอถอนญัตติ ๖๖ ๖๙ การเปดิ อภิปรายทัว่ ไป ๗๐ รูปแบบการเสนอญตั ติขอเปดิ อภปิ รายทว่ั ไป ๗๒ - การเสนอญตั ติขอเปดิ อภปิ รายท่วั ไปเพ่ือลงมติไมไ่ วว้ างใจรฐั มนตรี ๗๔ เปน็ รายบคุ คล (กรณีตามมาตรา ๑๕๑ ของรัฐธรรมนญู ) ๗๖ - การเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทวั่ ไปเพื่อลงมตไิ ม่ไวว้ างใจรัฐมนตรที ้ังคณะ (กรณีตามมาตรา ๑๕๑ ของรัฐธรรมนญู ) - การเสนอญัตตขิ อเปดิ อภปิ รายท่วั ไปเพ่อื ซักถามข้อเทจ็ จรงิ หรอื เสนอแนะ ปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (กรณีตามมาตรา ๑๕๒ ของรัฐธรรมนญู ) การตัง้ กระทู้ถาม ๗๘ รูปแบบการตง้ั กระทู้ถาม - การตัง้ กระทู้ถามสด (สาหรบั สสสส แบบแบ่งเขตเลือกต้ัง ๘๑ - การตงั้ กระทถู้ ามสด (สาหรบั สสสส บัญชีรายชอ่ื ๘๒ - การตง้ั กระทูถ้ ามท่ัวไป (สาหรบั สสสส แบบแบ่งเขตเลอื กตง้ั ๘๓ - การตั้งกระทถู้ ามทั่วไป (สาหรบั สสสส บญั ชีรายชอ่ื ๘๔ หนงั สือนัดประชุมและระเบียบวาระการประชมุ ๘๕ - การสบื ค้นระเบียบวาระการประชมุ สภา ๘๖ ผ่านระบบสบื ค้นบนคอมพิวเตอร์พกพาแบบหนา้ จอสมั ผสั (ipad
การแกไ้ ขเพิม่ เตมิ รัฐธรรมนญู ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๒๕๕ และมาตรา ๒๕๖ กาหนดให้การแก้ไข เพ่ิมเติมรัฐธรรมนูญท่ีเป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข หรือเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐจะกระทามิได้ และกาหนดให้กระทาได้ตามหลักเกณฑ์ และวิธีการ ดงั ต่อไปน้ี ญัตตขิ อแก้ไขเพม่ิ เตมิ รฐั ธรรมนูญ ๑. การเสนอญตั ตขิ อแกไ้ ขเพิม่ เติมรัฐธรรมนญู จะเสนอไดโ้ ดย ๑.๑ คณะรฐั มนตรี ๑.๒ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจานวนไม่น้อยกว่า ๑ ใน ๕ ของจานวนสมาชิกท้ังหมด เทา่ ทีม่ ีอยูข่ องสภาผูแ้ ทนราษฎร ๑.๓ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาจานวนไม่น้อยกว่า ๑ ใน ๕ ของจานวน สมาชกิ ท้ังหมดเทา่ ทม่ี ีอย่ขู องท้งั สองสภา ๑.๔ ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกต้ังจานวนไม่น้อยกว่า ๕๐,๐๐๐ คน ตามกฎหมายว่าด้วย การเข้าชื่อเสนอกฎหมาย ๒. ญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญต้องเสนอเป็นร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพ่ิมเติมต่อรัฐสภา แบ่งเป็นมาตราและต้องมบี ันทกึ ประกอบ คอื ๒.๑ หลักการแหง่ รา่ งรัฐธรรมนญู แก้ไขเพิ่มเติม ใหก้ าหนดโดยชดั แจ้ง ๒.๒ เหตุผลในการเสนอร่างรัฐธรรมนญู แกไ้ ขเพ่ิมเติม ๒.๓ บันทกึ วเิ คราะหส์ รุปสาระสาคญั ของร่างรัฐธรรมนญู แก้ไขเพ่มิ เติม ๓. การพจิ ารณาร่างรัฐธรรมนญู แกไ้ ขเพมิ่ เติม ให้กระทาเปน็ สามวาระ ๓.๑ ในวาระที่หน่ึง พิจารณาและลงมติว่าจะรับหลักการหรือไม่รับหลักการแห่ง ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ในกรณีท่ีที่ประชุมรัฐสภามีมติให้พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม หลายฉบับรวมกัน รัฐสภาจะลงมติรับหลักการหรือไม่รับหลักการแห่งร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพ่ิมเติม แต่ละฉบับหรือท้ังหมดรวมกันก็ได้ และเมื่อที่ประชุมรัฐสภาได้มีมติรับหลักการแล้ว ให้ลงมติว่าจะใช้ ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพ่ิมเติมฉบับใดเป็นหลักในการพิจารณาในวาระท่ีสอง การออกเสียงลงคะแนน ในวาระทห่ี น่ึง ขั้นรับหลกั การ ให้ใช้วธิ ีเรยี กชื่อและลงคะแนนโดยเปิดเผย และต้องมีคะแนนเสยี งเห็นชอบด้วย ใน ก า ร แ ก้ ไข เพ่ิ ม เติ ม นั้ น ไม่ น้ อ ย ก ว่ า ก่ึ ง ห น่ึ ง ข อ ง จ า น ว น ส ม า ชิ ก ท้ั ง ห ม ด เท่ า ท่ี มี อ ยู่ ข อ ง ท้ั ง ส อ ง ส ภ า ซง่ึ ในจานวนนี้ต้องมีสมาชิกวุฒิสภาเห็นชอบด้วยไม่น้อยกว่า ๑ ใน ๓ ของจานวนสมาชิกท้ังหมดเท่าที่มีอยู่ ของวุฒิสภา เมื่อมีมติรับหลักการแล้ว ที่ประชุมรัฐสภาจะต้ังคณะกรรมาธิการขึ้นคณะหน่ึงจาก สมาชิกรัฐสภา กรรมาธิการที่ต้ังจากผู้ท่ีเป็นสมาชิกของแต่ละสภาจะต้องมีจานวนตามหรือใกล้เคียงกับ อัตราส่วนของจานวนสมาชกิ ของแต่ละสภา และกรรมาธิการทต่ี ั้งจากผู้ที่เป็นสมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎรตอ้ ง มีจานวนตามหรือใกล้เคียงกับอัตราส่วนของจานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของแต่ละพรรคการเมืองท่ีมี อยู่ในสภาผู้แทนราษฎร เพ่ือพิจารณาในวาระท่ีสอง เม่ือคณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว ให้ประธานรฐั สภา บรรจุเข้าระเบยี บวาระการประชมุ รฐั สภา
๒ สมาชิกรัฐสภาผู้ใดเห็นควรแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพ่ิมเติมก็ให้เสนอ คาแปรญัตติล่วงหน้าเป็นหนังสือต่อประธานคณะกรรมาธิการและมีสมาชิกรับรองไม่น้อยกว่า ๑๐ คน การแปรญัตติเพ่ิมมาตราขึ้นใหม่ หรือตัดทอน หรือแก้ไขมาตราเดิมต้องไม่ขัดกับหลักการแห่งร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพ่ิมเติม เว้นแต่การแก้ไขเพิ่มเติมมาตราที่เก่ียวเน่ืองกับหลักการน้ัน การย่ืนคาแปรญัตติ ต้องยื่นภายในกาหนดเวลาตามมติของที่ประชุมรัฐสภา โดยปกติจะกาหนดให้ยื่นคาแปรญัตติ ภายใน ๑๕ วันนับแต่วันถัดจากวันท่ีรัฐสภารับหลักการแห่งร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพ่ิ มเติม เว้นแต่ รัฐสภาจะไดก้ าหนดเวลาแปรญตั ตสิ าหรบั ร่างรัฐธรรมนญู แก้ไขเพม่ิ เติมนน้ั ไว้เป็นอย่างอน่ื ๓.๒ ในวาระท่ีสอง เป็นการพิจารณาในรายละเอียดขั้นกรรมาธิการและการพิจารณา ในทีป่ ระชุมรัฐสภา เมื่อคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างรฐั ธรรมนญู แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ เสร็จแลว้ จะเสนอต่อรัฐสภา เพื่อพิจารณาเรยี งตามลาดับมาตราในที่ประชุมรัฐสภา การออกเสียงลงคะแนนในวาระท่ีสอง ข้ันพิจารณา เรียงลาดับมาตราในที่ประชุมรัฐสภา ให้ถือเอาเสียงข้างมากเป็นประมาณ ในกรณีที่เป็นร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติมท่ีประชาชนเป็นผู้เสนอ ต้องเปิดโอกาสให้ผู้แทนของประชาชนที่เข้าช่ือกันได้แสดง ความคิดเห็นด้วย เมื่อการพิจารณาวาระที่สอง เสร็จสิ้นแล้วให้รอไว้ ๑๕ วัน เม่ือพ้นกาหนดน้ีแล้ว ใหร้ ฐั สภาพจิ ารณาในวาระที่สาม ตอ่ ไป ๓.๓ ในวาระที่สาม เป็นการลงมติให้ความเห็นชอบหรอื ไม่เห็นชอบด้วยในการที่จะให้ออก ใช้เป็นรฐั ธรรมนูญ โดยไมม่ ีการอภิปราย การออกเสียงลงคะแนนในวาระที่สาม ขั้นสุดท้าย ใหใ้ ช้วธิ ีเรยี กชื่อ และลงคะแนนโดยเปิดเผย และต้องมีคะแนนเสียงเห็นชอบด้วยในการที่จะให้ออกใช้เป็นรัฐธรรมนูญ มากกว่าก่ึงหนึ่งของจานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าท่ีมีอยู่ของท้ังสองสภา ซึ่งในจานวนน้ีต้องมีสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรจากพรรคการเมืองที่สมาชิกมิได้ดารงตาแหน่งรัฐมนตรี ประธานสภาผู้แทนราษฎรหรือ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เห็นชอบด้วยไม่น้อยกวา่ ร้อยละยี่สิบของทุกพรรคการเมอื งดังกล่าวรวมกัน และมีสมาชิกวฒุ ิสภาเหน็ ชอบดว้ ยไมน่ อ้ ยกวา่ ๑ ใน ๓ ของจานวนสมาชกิ ทง้ั หมดเทา่ ทีม่ อี ยู่ของวฒุ ิสภา ๔. เมื่อรัฐสภามีมติในวาระท่ีสามเห็นชอบด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมน้ันแล้ว ให้รอไว้ ๑๕ วัน แล้วให้ดาเนินการส่งร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพ่ิมเติมเพื่อให้นายกรัฐมนตรีนาขึ้นทูลเกล้า ทูลกระหม่อมถวายเพื่อพระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธย และประกาศในราชกิจจานุเบกษา ใช้บังคับเป็น กฎหมาย ๕. ในกรณีร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมหมวด ๑ บททั่วไป หมวด ๒ พระมหากษัตริย์ หรือหมวด ๑๕ การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ หรือเรื่องท่ีเกี่ยวกับคุณสมบัติหรือ ลักษณะต้องห้ามของผ้ดู ารงตาแหน่งตา่ ง ๆ ตามรัฐธรรมนูญ หรือเร่ืองทีเ่ กี่ยวกับหนา้ ที่หรอื อานาจของศาล หรือองค์กรอิสระ หรือเรื่องท่ีทาให้ศาลหรือองค์กรอิสระไม่อาจปฏิบัติตามหน้าท่ีหรืออานาจได้ ก่อนดาเนินการตามข้อ ๔ ให้ดาเนินการส่งร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมท่ีผ่านการพิจารณาในวาระท่ีสาม ไปให้ผมู้ ีหนา้ ทแ่ี ละอานาจจัดใหม้ กี ารออกเสยี งประชามติ ตามกฎหมายว่าดว้ ยการออกเสยี งประชามติ ในกรณี ที่ ผลการออกเสี ยงป ระชามติ เห็ น ชอบ ด้ วยกั บ ร่ างรั ฐธรรมนู ญ แก้ ไขเพ่ิ มเติ ม ให้รอไว้ ๑๕ วันนับแต่ได้รับผลการออกเสียงประชามติ เม่ือพ้นกาหนดนี้แล้วให้ดาเนินการส่งร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่ มเติ ม เพื่ อ ให้ น าย กรั ฐม น ต รี น าข้ึน ทู ล เกล้ า ทู ล กร ะห ม่อม ถว าย เพ่ื อพ ร ะมห าก ษั ต ริ ย์ ท รงล ง พระปรมาภิไธย และประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาใชบ้ ังคบั เป็นกฎหมายต่อไป
๓ ๖. ก่อนนายกรัฐมนตรีนาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพ่ิมเติมข้ึนทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย เพื่อพระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือสมาชิกวุฒิสภา หรือสมาชิก ทั้งสองสภารวมกัน จานวนไม่น้อยกว่า ๑ ใน ๑๐ ของสมาชิกทั้งหมดเท่าท่ีมีอยู่ของแต่ละสภา หรือของ ทั้งสองสภารวมกัน แล้วแต่กรณี มีสิทธิเข้าช่ือกันเสนอความเห็นต่อประธานแห่งสภาท่ีตนเป็นสมาชิกหรือ ประธานรัฐสภา แล้วแต่กรณี เพื่อส่งความเห็นไปศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพ่ิมเติม ขัดตอ่ มาตรา ๒๕๕ หรือมลี กั ษณะตามมาตรา ๒๕๖ (๘) ของรัฐธรรมนญู
๔ (รปู แบบ) การเสนอร่างรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย แก้ไขเพ่มิ เติม (ฉบบั ที่ ..) พุทธศักราช …. (โดยสมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร เปน็ ผเู้ สนอ) …………………………… …………………………… วนั ที่ ….. เดือน ……………….. พ.ศ. …. เรื่อง ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย แกไ้ ขเพ่มิ เตมิ (ฉบบั ท่ี ..) พทุ ธศกั ราช …. กราบเรียน ประธานรัฐสภา ส่งิ ทส่ี ง่ มาด้วย รา่ งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยดังกล่าวขา้ งต้น ข้าพเจ้าและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้มีรายช่ือแนบท้ายน้ี ขอเสนอร่างรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช …. พร้อมด้วยบันทึกหลักการและเหตุผล และบันทึกวิเคราะห์สรุปสาระสาคัญของร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช .... มาเพ่ือขอไดโ้ ปรดนาเสนอที่ประชมุ ร่วมกนั ของรัฐสภาเพื่อพิจารณาตามรัฐธรรมนูญตอ่ ไป ขอแสดงความนับถืออย่างยิ่ง ๑. ผเู้ สนอ (…………………..………………..) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรค ……………….. หมายเลขประจาตวั สมาชกิ ………………..
๕ ผู้เสนอ ร่างรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย แก้ไขเพิม่ เติม (ฉบบั ที่ ..) พทุ ธศักราช …. ๒. ๓. (…………………..…………….) (…………………..…………….) สมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎร พรรค………… สมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตวั สมาชิก……… หมายเลขประจาตวั สมาชกิ ……… ๔. ๕. (…………………..…………….) (…………………..…………….) สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร พรรค……….. สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร พรรค……….. หมายเลขประจาตัวสมาชกิ …..… หมายเลขประจาตวั สมาชิก……… ๖. ๗. (…………………..…………….) (…………………..…………….) สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร พรรค………….. สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตัวสมาชกิ ……… หมายเลขประจาตวั สมาชกิ …… ๘. ๙. (…………………..…………….) (…………………..…………….) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรค………….. สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตัวสมาชกิ ……… หมายเลขประจาตวั สมาชกิ …… ……………………………………………………… ………………………………………………….… ……………………………………………………… ………………………………………………....... ……………………………………………………… ………………………………………………….… ……………………………………………………… …………………………………………………… ๑๐๐. (…………………..…………….) สมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎร พรรค ……………… หมายเลขประจาตัวสมาชิก...…… หมายเหตุ จานวน ส.ส. ไม่น้อยกว่า ๑ ใน ๕ ของจานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร ที่เสนอร่างรัฐธรรมนูญ คานวณจากจานวน ส.ส. ๕๐๐ คน ดังนั้น จานวน ส.ส. ๑ ใน ๕ จึงเท่ากับ ๑๐๐ คน
๖ (รูปแบบ) การเสนอรา่ งรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพ่มิ เติม (ฉบบั ท่ี ..) พทุ ธศักราช …. (โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชกิ วฒุ สิ ภา เป็นผเู้ สนอ) …………………………… …………………………… วนั ที่ …….. เดือน ……………. พ.ศ. …. เรอ่ื ง รา่ งรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย แก้ไขเพ่มิ เติม (ฉบับท่ี ..) พทุ ธศักราช …. กราบเรยี น ประธานรัฐสภา สิง่ ท่สี ง่ มาด้วย ร่างรฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทยดังกล่าวขา้ งต้น ข้าพเจ้ากับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา ผู้มีรายช่ือแนบท้ายนี้ ขอเสนอ ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับท่ี ..) พุทธศักราช …. พร้อมด้วยบันทึก หลักการและเหตุผล และบันทึกวิเคราะห์สรุปสาระสาคัญของร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช .... มาเพื่อขอได้โปรดนาเสนอท่ีประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาตามรัฐธรรมนูญตอ่ ไป ขอแสดงความนับถืออยา่ งยง่ิ ๑. ผู้เสนอ (………….…………..…………….) สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร พรรค ………………… หมายเลขประจาตวั สมาชกิ ..………… ๒. ผู้เสนอ (……..…………..…………….) สมาชิกวฒุ ิสภา หมายเลขประจาตวั สมาชิก..…………
๗ ผู้เสนอ ร่างรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย แกไ้ ขเพ่มิ เตมิ (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช …. ๓. ๔. (…………………..…………….) (…………………..…………….) สมาชิกวุฒสิ ภา หมายเลขประจาตัวสมาชิก……… สมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตัวสมาชกิ ……… ๕. ๖. (…………………..…………….) (…………………..…………….) สมาชกิ วฒุ สิ ภา หมายเลขประจาตวั สมาชกิ …..… สมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎร พรรค……….. หมายเลขประจาตัวสมาชกิ ……… ๗. ๘. (…………………..…………….) (…………………..…………….) สมาชิกวฒุ ิสภา หมายเลขประจาตัวสมาชกิ …..… สมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎร พรรค……….. หมายเลขประจาตัวสมาชกิ ……… ๙. ๑๐. (…………………..…………….) (…………………..…………….) สมาชิกวฒุ สิ ภา หมายเลขประจาตัวสมาชิก…..… สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร พรรค……….. หมายเลขประจาตวั สมาชิก……… ……………………………………………………… ………………………………………………….… ……………………………………………………… ………………………………………………....... ……………………………………………………… ………………………………………………….… ……………………………………………………… …………………………………………………… ๑๔๐. (…………………..…………….) สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร พรรค ………… หมายเลขประจาตัวสมาชกิ .……… หมายเหตุ จานวน ส.ส. และ ส.ว. ไม่น้อยกว่า ๑ ใน ๕ ของจานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าท่ีมีอยู่ของท้ังสองสภาท่ีเสนอ ร่างรฐั ธรรมนูญ คานวณจากจานวน ส.ส. ๕๐๐ คน และจานวน ส.ว. ๒๐๐ คน ดงั นั้น จานวน ส.ส. และ ส.ว. ๑ ใน ๕ จึง เทา่ กับ ๑๔๐ คน ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนญู มาตรา ๒๖๙ ในวาระเร่มิ แรกกาหนดให้วุฒิสภามีจานวน ๒๕๐ คน มีวาระ ในการดารงตาแหน่ง ๕ ปีนับแต่วันที่มีพระบรมราชโองการแต่งต้ัง ดังน้ัน จานวน ส.ส.และ ส.ว. ไม่น้อยกวา่ ๑ ใน ๕ จึง เท่ากับ ๑๕๐ คน
๘ บนั ทึกหลักการและเหตผุ ล ประกอบร่างรัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับท่ี ..) พทุ ธศกั ราช …. หลักการ ………………………………………………………………………………………………………………….…………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ………………………………………………………………………………………………………….............................................. เหตุผล ……………………………………………………………………………………………………………………………... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………. หมายเหตุ การแก้ไขเพ่ิมเติมหรือการยกเลิกมาตราใดของรัฐธรรมนูญ ให้ระบุมาตราที่ต้องการแก้ไขเพิ่มเติม หรอื ยกเลกิ ไวใ้ นหลกั การหรือจะระบไุ วใ้ นเหตผุ ลดว้ ยกไ็ ด้ (ขอ้ บังคบั การประชมุ รัฐสภา พ.ศ. .... )
๙ รา่ ง รฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบบั ท่ี ..) พุทธศกั ราช …. ………………………………… …………………………………. …………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………..……………… โดยที่เป็นการสมควรแกไ้ ขเพ่มิ เตมิ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย …………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… มาตรา ๑ รัฐธรรมนูญนี้เรียกว่า “รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบบั ที่ ..) พุทธศกั ราช ….” มาตรา ๒ รฐั ธรรมนูญนใ้ี หใ้ ช้บงั คับ …………………..……………………………………………………. มาตรา ๓ …………..………………………………………..………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………. มาตรา ๔ ………………………..……………………………………………………………..……………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….… มาตรา ๕ ………………………..……………………………………………………………..……………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………….………… มาตรา ๖ ………………………..……………………………………………………………..……………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….……… (สาระหรือเนอื้ หาทีก่ าหนดใช้บงั คบั ใหเ้ รียงลาดับมาตราจนจบรา่ ง) …………………………… …………………………………..
๑๐ บันทึกวเิ คราะหส์ รุปสาระสาคัญ ของรา่ งรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพ่ิมเตมิ (ฉบับที่ ..) พทุ ธศกั ราช .... ๑. .................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................... .................................................................................. ..................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................... ๒. .................................................................................................................................................... ....................................................................................................... ................................................................ ............................................................................................................................. .......................................... .................................................................................................................................................... ................... ๓. .................................................................................................................................................... ....................................................................................................... ................................................................ ............................................................................................................................. .......................................... .................................................................................................................................................... ................... ๔. .................................................................................................................................................... ....................................................................................................... ................................................................ ............................................................................................................................. .......................................... .................................................................................................................................................... ................... ๕. .................................................................................................................................................... ....................................................................................................... ................................................................ ............................................................................................................................. .......................................... .................................................................................................................................................... ................... ๖. .................................................................................................................................................... ....................................................................................................... ................................................................ ............................................................................................................................. .......................................... .................................................................................................................................................... ...................
๑๑ รา่ งพระราชบญั ญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๑๓๐ กาหนดให้มีพระราชบัญญัติประกอบ รฐั ธรรมนญู ดังตอ่ ไปน้ี (๑) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าดว้ ยการเลือกต้ังสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร (๒) พระราชบัญญตั ิประกอบรัฐธรรมนญู วา่ ด้วยการไดม้ าซ่ึงสมาชกิ วุฒิสภา (๓) พระราชบัญญตั ิประกอบรัฐธรรมนูญว่าดว้ ยคณะกรรมการการเลือกตงั้ (๔) พระราชบัญญัติประกอบรฐั ธรรมนูญว่าดว้ ยพรรคการเมือง (๕) พระราชบญั ญัตปิ ระกอบรัฐธรรมนญู วา่ ด้วยผตู้ รวจการแผน่ ดนิ (๖) พระราชบญั ญตั ิประกอบรัฐธรรมนญู วา่ ด้วยการปอ้ งกันและปราบปรามการทจุ รติ (๗) พระราชบัญญตั ปิ ระกอบรฐั ธรรมนูญว่าดว้ ยการตรวจเงนิ แผ่นดิน (๘) พระราชบญั ญตั ปิ ระกอบรฐั ธรรมนูญวา่ ด้วยวธิ พี จิ ารณาของศาลรฐั ธรรมนูญ (๙) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดารงตาแหน่ง ทางการเมือง (๑๐) พระราชบัญญัติประกอบรฐั ธรรมนูญวา่ ด้วยคณะกรรมการสทิ ธมิ นุษยชนแหง่ ชาติ การเสนอรา่ งพระราชบัญญตั ปิ ระกอบรฐั ธรรมนูญ จะเสนอได้โดย (๑) คณะรฐั มนตรี โดยขอ้ เสนอแนะของศาลฎีกา ศาลรฐั ธรรมนูญ หรือองคก์ รอสิ ระที่เก่ียวข้อง (๒) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจานวนไม่น้อยกว่า ๑ ใน ๑๐ ของจานวนสมาชิกท้ังหมด เท่าท่มี อี ยู่ของสภาผแู้ ทนราษฎร การเสนอรา่ งพระราชบญั ญตั ปิ ระกอบรัฐธรรมนูญโดยสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร จะต้องดาเนินการดงั นี้ ๑. รา่ งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนญู แบ่งเป็นมาตราและต้องมีบันทึกประกอบ คือ ๑.๑ หลกั การแห่งรา่ งพระราชบญั ญตั ปิ ระกอบรฐั ธรรมนูญ ให้กาหนดโดยชดั แจ้ง ๑.๒ เหตผุ ลในการเสนอรา่ งพระราชบญั ญัตปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู ๑.๓ บันทกึ วิเคราะห์สรุปสาระสาคญั ของรา่ งพระราชบัญญตั ปิ ระกอบรัฐธรรมนูญ ในกรณีท่ีมีการรับฟังความคิดเห็นและวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากร่าง พระราชบัญญตั ปิ ระกอบรัฐธรรมนูญ ให้เสนอมาพร้อมบนั ทึกประกอบดว้ ย ๒. การพจิ ารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนญู การพิจารณาให้กระทาเป็นสามวาระ ให้รัฐสภาพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน ๑๘๐ วัน หากพิจารณาไม่แล้วเสร็จภายในกาหนดเวลาดังกล่าว ให้ถือว่ารัฐสภาให้ความเห็นชอบตามร่างที่เสนอ ตามมาตรา ๑๓๑ ของรฐั ธรรมนูญ ๒.๑ ในวาระที่หน่ึง พิจารณาและลงมติว่าจะรับหลักการหรือไม่รับหลักการแห่ง ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ในกรณีที่ท่ีประชุมรัฐสภามีมติให้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญท่ีมีหลักการทานองเดียวกันหลายฉบับรวมกัน รัฐสภาจะลงมติรับหลักการหรือ ไม่รับหลักการแห่งร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญแต่ละฉบับหรือทั้งหมดรวมกันก็ได้ และ เม่ือรัฐสภาได้มีมติรับหลักการแล้ว ให้ลงมติว่าจะให้ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฉบับใด เป็นหลักในการพิจารณาในวาระท่ีสอง การออกเสียงลงคะแนนในวาระท่ีหนึ่ง ให้ถือเสียงข้างมากของรัฐสภา ในกรณีท่ีรัฐสภาลงมติในวาระที่หน่ึงไม่รับหลักการแห่งร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ถือว่า
๑๒ ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญน้ันเป็นอันตกไป เม่ือรัฐสภาพิจารณาและมีมติรับหลักการ ในวาระทห่ี นึ่งแลว้ จะมีการตัง้ คณะกรรมาธกิ ารเพือ่ พจิ ารณารา่ งพระราชบัญญัตปิ ระกอบรัฐธรรมนญู ดงั นี้ ๑) คณะกรรมาธิการเต็มสภา โดยถือว่าสมาชิกทุกคนทาหน้าท่ีเป็นกรรมาธิการ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญน้ัน และประธานของท่ีประชุมจะทาหน้าที่ประธาน คณะกรรมาธิการ จึงไม่มีข้ันตอนการย่ืนคาขอแปรญัตติ เพราะเมื่อสมาชิกทุกคนเป็นกรรมาธิการ ย่อมมีสิทธิเสน อขอแก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราช บัญ ญั ติ ประกอบรัฐธรรมนู ญ นั้ น ใน ที่ประชุมได้ใน ฐาน ะ ทีเ่ ปน็ กรรมาธกิ าร ๒) คณะกรรมาธิการวิสามัญ การตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ จะต้องมีสัดส่วนบุคคลที่คณะรัฐมนตรีเสนอชื่อจานวน ไม่เกนิ ๑ ใน ๖ ของจานวนกรรมาธกิ ารทง้ั หมด จานวนนอกจากนั้นให้ที่ประชุมเลือกจากรายช่ือที่สมาชิก รัฐสภาเสนอ ซึ่งกรรมาธิการที่ตั้งจากผู้ท่ีเป็นสมาชิกของแต่ละสภาจะต้องมีจานวนตามหรือใกล้เคียง กับอตั ราส่วนของจานวนสมาชิกของแต่ละสภา ประกอบด้วย - สมาชกิ วฒุ ิสภา - สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต้องมีจานวนตามหรือใกล้เคียงกับอัตราส่วน ของจานวนสมาชกิ สภาผู้แทนราษฎรของแตล่ ะพรรคการเมืองที่มีอยู่ในสภาผูแ้ ทนราษฎร ถ้าร่างพระราชบญั ญัตปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู นั้นมสี าระสาคญั ทเี่ ก่ียวกับเดก็ เยาวชน สตรี ผ้สู ูงอายุ หรอื คนพิการหรือทุพพลภาพ จะประกอบด้วยบุคคลประเภทดังกล่าวหรอื ผู้แทนองค์กรเอกชนที่ ทางานเก่ียวกับบุคคลประเภทน้ันโดยตรง เป็นกรรมาธิการวิสามัญด้วยไม่น้อยกว่า ๑ ใน ๓ ของจานวน กรรมาธกิ ารวิสามญั ท้งั หมด กรณีพิจารณาโดยคณะกรรมาธิการวิสามัญ สมาชิกรัฐสภาผู้ใดเห็นควรแก้ไขเพิ่มเติม ร่างพ ระ ราช บั ญ ญั ติ ป ระ ก อ บ รัฐ ธ รรม นู ญ ก็ ให้ เส น อ ค าแ ป ร ญั ต ติ ล่ ว งห น้ าเป็ น ห นั งสื อ ต่ อ ป ร ะธ าน คณะกรรมาธิการ การแปรญัตติเพ่ิมมาตราข้ึนใหม่หรือตัดทอน หรือแก้ไขมาตราเดิม ต้องไม่ขัดกับหลักการ แห่งร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญน้ัน การยื่นคาแปรญัตติต้องย่ืนภายในกาหนดเวลาตามมติ ของที่ประชุมรัฐสภา โดยปกติจะกาหนดให้ยื่นคาแปรญัตติภายใน ๗ วันนับแต่วันถัดจากวันท่ีรัฐสภา รับหลักการแห่งร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนั้น เว้นแต่ รัฐสภาจะได้กาหนดเวลาแปรญัตติ สาหรบั รา่ งพระราชบญั ญัติประกอบรัฐธรรมนูญไวเ้ ป็นอย่างอน่ื ก็จะเป็นไปตามมตขิ องท่ีประชุม ๒.๒ ในวาระท่ีสอง เป็นการพิจารณาในรายละเอียดข้ันกรรมาธิการและการพิจารณา ในท่ีประชุมรัฐสภา เมื่อคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญเสร็จแล้ว จะเสนอต่อรัฐสภาเพื่อพิจารณาเรียงตามลาดับมาตราในที่ประชุมรัฐสภา การออกเสียงลงคะแนน ในวาระท่สี องให้ถือเสยี งข้างมากของรฐั สภา เช่นเดยี วกับการพิจารณาในวาระท่หี น่งึ ๒.๓ ในวาระท่ีสาม เป็นการลงมติให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญ โดยไม่มีการอภิปราย การออกเสียงลงคะแนนในวาระท่ีสาม ต้องมีคะแนนเสียง เห็นชอบมากกว่าก่ึงหนึ่งของจานวนสมาชิกท้ังหมดเท่าที่มีอยู่ของรัฐสภา หากคะแนนเสียงเห็นชอบ ไม่มากกว่ากึ่งหน่ึงของจานวนสมาชิกท้ังหมดเท่าท่ีมีอยู่ของรัฐสภา ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ นั้นเป็นอันตกไป
๑๓ ๓. ให้ประธานรัฐสภาสง่ รา่ งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญท่ีรัฐสภาให้ความเห็นชอบแล้ว ไปยงั ศาลฎีกา ศาลรัฐธรรมนูญ หรือองค์กรอิสระที่เก่ียวข้อง ภายใน ๑๕ วนั นับแต่วันที่รัฐสภาให้ความเห็นชอบ เพ่อื ใหค้ วามเห็น - หากศาลฎีกา ศาลรัฐธรรมนญู หรือองค์กรอสิ ระท่ีเก่ยี วขอ้ ง ไม่มีข้อทักท้วง ภายใน ๑๐ วนั นบั แตว่ นั ทีไ่ ดร้ ับ ใหด้ าเนินการตามมาตรา ๘๑ ของรฐั ธรรมนญู ต่อไป - ในกรณีที่ศาลฎีกา ศาลรัฐธรรมนูญ หรือองค์กรอิสระที่เก่ียวข้อง เสนอความเห็น ต่อรัฐสภาว่าร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญท่ีรัฐสภาให้ความเห็นชอบนั้นมีข้อความขัดหรือแย้ง ต่อรัฐธรรมนูญ หรือทาให้ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ให้ประธานรัฐสภา บรรจุเข้าระเบียบวาระการประชุมรัฐสภา เพ่ือพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน ๓๐ วันนับแต่วันท่ีได้รับ ความเห็นดังกล่าว ทั้งน้ี รัฐสภามีอานาจแก้ไขเพ่ิมเติมตามข้อเสนอของศาลฎีกา ศาลรัฐธรรมนูญ หรือ องค์กรอิสระที่เกี่ยวข้อง ตามท่ีเห็นสมควรได้ และเมื่อดาเนินการเสร็จแล้วให้ดาเนินการตามมาตรา ๘๑ ของรัฐธรรมนูญต่อไป ๔. ก่อนนายกรฐั มนตรนี าร่างพระราชบญั ญตั ิประกอบรัฐธรรมนญู ขึ้นทูลเกลา้ ทลู กระหม่อม ถวายเพื่อพระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือสมาชิก ของทั้งสองสภารวมกัน จานวนไม่น้อยกว่า ๑ ใน ๑๐ ของจานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา เห็นว่าร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าวมีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ หรือตราข้ึน โดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ มีสิทธิเข้าช่อื กนั เสนอความเห็นตอ่ ประธานแหง่ สภาท่ีตนเป็น สมาชกิ หรอื ประธานรัฐสภา แลว้ แตก่ รณี เพือ่ ส่งความเห็นไปให้ศาลรัฐธรรมนญู วนิ ิจฉยั
๑๔ (รูปแบบ) การเสนอรา่ งพระราชบญั ญัตปิ ระกอบรัฐธรรมนูญ (กรณเี สนอกฎหมายใหม/่ ปรบั ปรุงกฎหมายเดิม/ยกเลกิ กฎหมายเดมิ ) ………………………………….. ………………………………….. วนั ท่ี ........ เดอื น ................ พ.ศ. …. เรื่อง ร่างพระราชบญั ญตั ปิ ระกอบรัฐธรรมนูญว่าดว้ ย…………………………………………………………… พ.ศ. …. กราบเรียน ประธานรัฐสภา สง่ิ ที่ส่งมาด้วย ร่างพระราชบญั ญตั ปิ ระกอบรฐั ธรรมนูญฯ และเอกสารประกอบในเรื่องนี้ ขา้ พเจ้ากบั คณะ ขอเสนอร่างพระราชบญั ญัตปิ ระกอบรฐั ธรรมนูญว่าด้วย.............. พ.ศ. …. พร้อมด้วยบันทึกหลักการและเหตุผล และบันทึกวิเคราะห์สรุปสาระสาคัญของร่างพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนญู ประกอบกับเอกสารการดาเนินการตามมาตรา ๗๗ วรรคสอง ของรฐั ธรรมนูญ (ถ้ามี) มาเพื่อได้โปรดนาเสนอทีป่ ระชมุ ร่วมกันของรัฐสภาพจิ ารณาตามรฐั ธรรมนญู ต่อไป ขอแสดงความนับถืออย่างยิ่ง ๑. ผเู้ สนอ (……………………...…………….) สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร พรรค ………………… หมายเลขประจาตวั สมาชิก..…………
๑๕ ผู้เสนอ ร่างพระราชบญั ญตั ปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู วา่ ดว้ ย.................................... พ.ศ. …. ๒. ๓. (…………………..…………….) (…………………..…………….) สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร พรรค………… สมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตัวสมาชิก……… หมายเลขประจาตวั สมาชิก……… ๔. ๕. (…………………..…………….) (…………………..…………….) สมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎร พรรค……….. สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร พรรค……….. หมายเลขประจาตัวสมาชิก…..… หมายเลขประจาตวั สมาชิก……… ๖. ๗. (…………………..…………….) (…………………..…………….) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรค………….. สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตวั สมาชกิ ……… หมายเลขประจาตวั สมาชิก…… ๘. ๙. (…………………..…………….) (…………………..…………….) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรค………….. สมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตัวสมาชกิ ……… หมายเลขประจาตวั สมาชกิ …… ……………………………………………………… ………………………………………………….… ……………………………………………………… ………………………………………………....... ……………………………………………………… ………………………………………………….… ……………………………………………………… …………………………………………………… ๕๐. (…………………..…………….) สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร พรรค ………… หมายเลขประจาตวั สมาชิก...…… หมายเหตุ จานวน ส.ส. ไมน่ ้อยกว่า ๑ ใน ๑๐ ของจานวนสมาชิกทั้งหมดเทา่ ท่ีมีอยูข่ องสภาผแู้ ทนราษฎร ที่เสนอร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ คานวณจากจานวน ส.ส. ๕๐๐ คน ดังน้ัน จานวน ส.ส. ๑ ใน ๑๐ จงึ เทา่ กบั ๕๐ คน
๑๖ บันทึกหลกั การและเหตุผล ประกอบร่างพระราชบัญญัตปิ ระกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย……………………………… พ.ศ. …. หลักการ ให้มีกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย.........../หรือปรับปรุงกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ วา่ ด้วย......../หรอื ยกเลิกกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญวา่ ดว้ ย...... เหตุผล โดยท่ี (เนอื่ งจาก)…………………………………………………………..………………………………….…… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….….. สมควร…………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………..………………………………………………………………………………............................... เพ่อื ……………………………………………………………………….………………………………………………………………..…… ……………………………………………………………………………………………………………….…………………………………… ………………………………จึงจาเป็นต้องตราพระราชบญั ญัติประกอบรฐั ธรรมนญู น้ี
๑๗ รา่ ง พระราชบญั ญตั ิประกอบรฐั ธรรมนญู ว่าดว้ ย…………………………………….. พ.ศ. …. ……………………………………… ……………………………………… ……………………………………… ..………………………………………………………………………………………………………………………..… …………………………………………………………………………………………………………………………………..…………...... โดยท่ีเป็นการสมควรให้มีกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย…………/ปรับปรุงกฎหมาย ประกอบรัฐธรรมนญู ว่าด้วย..……/ยกเลกิ กฎหมายประกอบรัฐธรรมนญู ว่าดว้ ย..…………………………………..… พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญน้ีมีบทบัญญัติบางประการเก่ียวกับการจากัดสิทธิ และเสรภี าพของบุคคล ซ่ึงมาตรา ๒๖ …… ประกอบกับมาตรา ..... ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทาได้โดยอาศัยอานาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย (เฉพาะกรณีที่มีการจากัดสิทธิและ เสรภี าพของบุคคล) เหตุผลและความจาเป็นในการจากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญนี้ เพื่อ.............(อธิบายเหตุผลและความจาเป็นในการจากัดสิทธิและเสรีภาพ)........ ซ่ึงการตราพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้สอดคล้องกับเงื่อนไขท่ีบัญญัติไว้ในมาตรา ๒๖ ของรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทยแล้ว ………………………………………………………………………….……………………………..………………… ………………………………………………………………………………………………….………………………………………….…….. มาตรา ๑ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติประกอบ รฐั ธรรมนญู วา่ ดว้ ย………………………….พ.ศ. ….” มาตรา ๒ พระราชบญั ญัติประกอบรัฐธรรมนญู นี้ให้ใช้บงั คบั …………………….……….……….. มาตรา ๓ …………..………………………………………..………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………. มาตรา ๔ ………………………..……………………………………………………………..……………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….……… มาตรา ๕ ………………………..……………………………………………………………..……………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………..……… (สาระหรือเนือ้ หาท่ีกาหนดใชบ้ งั คับ ให้เรียงลาดบั มาตราจนจบร่าง) …………………………… …………………………………..
๑๘ บนั ทึกวเิ คราะห์สรปุ สาระสาคัญ ของร่างพระราชบญั ญัติประกอบรฐั ธรรมนูญว่าดว้ ย................................ พ.ศ. .... ๑. .................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................... .................................................................................................................................................................... ... ............................................................................................................................. .......................................... ๒. .................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................... ............................................................................................................................. .......................................... ๓. .................................................................................................................................................... ....................................................................................................... ................................................................ ............................................................................................................................. .......................................... .................................................................................................................................................... ................... ๔. .................................................................................................................................................... ....................................................................................................... ................................................................ ............................................................................................................................. .......................................... .................................................................................................................................................... ................... ๕. .................................................................................................................................................... ....................................................................................................... ................................................................ ............................................................................................................................. .......................................... .................................................................................................................................................... ................... ๖. .................................................................................................................................................... ....................................................................................................... ................................................................ ............................................................................................................................. .......................................... .................................................................................................................................................... ...................
๑๙ (รูปแบบ) การเสนอรา่ งพระราชบญั ญตั ิประกอบรฐั ธรรมนญู (กรณีแก้ไขเพม่ิ เตมิ กฎหมายเดมิ ) ………………………………. ………………………………. วันท่ี …….. เดอื น ................ พ.ศ. …. เร่ือง ร่างพระราชบัญญัตปิ ระกอบรัฐธรรมนูญวา่ ด้วย…….………………………………………(ฉบบั ที่ ..) พ.ศ. …. กราบเรยี น ประธานรฐั สภา สิ่งทสี่ ่งมาด้วย รา่ งพระราชบญั ญตั ิประกอบรัฐธรรมนญู ฯ และเอกสารประกอบในเร่อื งน้ี ข้าพเจ้ากบั คณะ ขอเสนอรา่ งพระราชบัญญัตปิ ระกอบรัฐธรรมนญู วา่ ด้วย.............(ฉบบั ที่ ..) พ.ศ. …. พร้อมดว้ ยบันทึกหลักการและเหตุผล และบันทกึ วิเคราะห์สรุปสาระสาคญั ของรา่ งพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญ ประกอบกับเอกสารการดาเนนิ การตามมาตรา ๗๗ วรรคสอง ของรัฐธรรมนญู (ถ้ามี) มาเพื่อไดโ้ ปรดนาเสนอท่ีประชุมร่วมกันของรัฐสภาพจิ ารณาตามรฐั ธรรมนญู ต่อไป ขอแสดงความนับถอื อยา่ งยิ่ง ๑. ผเู้ สนอ (…………………..…….………….) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรค ………………… หมายเลขประจาตัวสมาชกิ ..…………
๒๐ ผเู้ สนอ ร่างพระราชบัญญตั ิประกอบรฐั ธรรมนญู ว่าดว้ ย........................................... (ฉบับท่ี ..) พ.ศ. …. ๒. ๓. (…………………..…………….) (…………………..…………….) สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร พรรค………… สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตัวสมาชิก……… หมายเลขประจาตัวสมาชิก……… ๔. ๕. (…………………..…………….) (…………………..…………….) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรค……….. สมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎร พรรค……….. หมายเลขประจาตัวสมาชกิ …..… หมายเลขประจาตัวสมาชิก……… ๖. ๗. (…………………..…………….) (…………………..…………….) สมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎร พรรค………….. สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตวั สมาชิก……… หมายเลขประจาตวั สมาชกิ …… ๘. ๙. (…………………..…………….) (…………………..…………….) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรค………….. สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตัวสมาชกิ ……… หมายเลขประจาตัวสมาชกิ …… ……………………………………………………… ………………………………………………….… ……………………………………………………… ………………………………………………....... ……………………………………………………… ………………………………………………….… ……………………………………………………… …………………………………………………… ๕๐. (…………………..…………….) สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร พรรค ………… หมายเลขประจาตัวสมาชิก...…… หมายเหตุ จานวน ส.ส. ไม่น้อยกว่า ๑ ใน ๑๐ ของจานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าท่ีมีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร ท่ีเสนอร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ คานวณจากจานวน ส.ส. ๕๐๐ คน ดังน้ัน จานวน ส.ส. ๑ ใน ๑๐ จึงเทา่ กบั ๕๐ คน
๒๑ บันทึกหลกั การและเหตุผล ประกอบรา่ งพระราชบัญญัตปิ ระกอบรฐั ธรรมนูญว่าด้วย……………………………………………….(ฉบบั ท่ี ..) พ.ศ. …. หลกั การ แกไ้ ขเพิม่ เติมกฎหมายประกอบรฐั ธรรมนูญว่าดว้ ย…………..................... พ.ศ. .... ดงั ตอ่ ไปนี้ ๑. (ระบปุ ระเด็นและมาตราท่ีตอ้ งการแก้ไข) ........................................................................ ๒. .......................................................................................................................... ............... ๓. ......................................................................................................................................... เหตผุ ล โดยที่ (เนื่องจาก)…………………………………………………………..………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………….…….. สมควร…………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………..……………………………………………………………………………….................................... เพอ่ื ……………………………………………………………………….……………………………………………………………….…… ……………………………………………………………………………………………………………….……………………………….… ………………………………จึงจาเปน็ ตอ้ งตราพระราชบญั ญัติประกอบรัฐธรรมนญู นี้
๒๒ ร่าง พระราชบญั ญัติประกอบรฐั ธรรมนญู วา่ ด้วย………………………………………………….. (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ……………………………………… ……………………………………… ……………………………………… ..…………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. โดยทีเ่ ป็นการสมควรแก้ไขเพ่มิ เติมกฎหมายประกอบรัฐธรรมนญู วา่ ด้วย………………............ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้มีบทบัญญัติบางประการเก่ียว กับการจากัดสิทธิ และเสรีภาพของบุคคล ซ่ึงมาตรา ๒๖ …… ประกอบกับมาตรา ..... ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทาได้โดยอาศัยอานาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย (เฉพาะกรณีที่มีการจากัดสิทธิและ เสรีภาพของบุคคล) เหตุผลและความจาเป็นในการจากัดสิทธิและเสรีภาพของบุ คคลตามพระราชบัญ ญั ติ ประกอบรัฐธรรมนูญนี้ เพ่ือ.............(อธิบายเหตุผลและความจาเป็นในการจากัดสิทธิและเสรีภาพ)........ ซ่ึงการตราพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญน้ีสอดคล้องกับเงื่อนไขท่ีบัญญัติไว้ในมาตรา ๒๖ ของรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทยแล้ว ………………………………………………………………………….……………………………..………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………..……………….. มาตรา ๑ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญน้ีเรียกว่า “พระราชบัญญัติประกอบ รฐั ธรรมนูญวา่ ดว้ ย…………………………. (ฉบบั ท่ี ..) พ.ศ. ….” มาตรา ๒ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญน้ีให้ใช้บังคบั ……………………….………………. มาตรา ๓ …………..………………………………………..………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………. มาตรา ๔ ………………………..……………………………………………………………..……………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….…… มาตรา ๕ ………………………..……………………………………………………………..……………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………..……………… (สาระหรือเน้อื หาท่ีกาหนดใช้บงั คับ ใหเ้ รยี งลาดบั มาตราจนจบร่าง) …………………………… …………………………………..
๒๓ บันทึกวิเคราะหส์ รปุ สาระสาคัญ ของรา่ งพระราชบัญญัติประกอบรฐั ธรรมนญู วา่ ด้วย....................................................... (ฉบบั ที่ ..) พ.ศ. .... ๑. .................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................... ....................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................... ๒. .................................................................................................................................................... ...................................................................................................... ................................................................. ............................................................................................................................. .......................................... ................................................................................................................................................... .................... ๓. .................................................................................................................................................... ....................................................................................................... ................................................................ ............................................................................................................................. .......................................... .................................................................................................................................................... ................... ๔. .................................................................................................................................................... ....................................................................................................... ................................................................ ............................................................................................................................. .......................................... .................................................................................................................................................... ................... ๕. .................................................................................................................................................... ....................................................................................................... ................................................................ ............................................................................................................................. .......................................... .................................................................................................................................................... ................... ๖. .................................................................................................................................................... ....................................................................................................... ................................................................ ............................................................................................................................. .......................................... .................................................................................................................................................... ...................
๒๔ รา่ งพระราชบญั ญัติ การเสนอร่างพระราชบญั ญัติ จะเสนอได้โดย (๑) คณะรัฐมนตรี (๒) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (๓) ผมู้ ีสิทธเิ ลอื กตง้ั จานวนไมน่ อ้ ยกว่า ๑๐,๐๐๐ คน การเสนอร่างพระราชบัญญัตโิ ดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎรจะเสนอร่างพระราชบญั ญัติ จะต้องดาเนนิ การดังนี้ ๑. มีสมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎรจานวนไม่นอ้ ยกวา่ ๒๐ คน รว่ มกนั เสนอ โดยไมต่ ้องมผี รู้ บั รอง ๒. รา่ งพระราชบัญญัตติ ้องแบง่ เปน็ มาตราและต้องมบี ันทึกประกอบ คือ ๒.๑ หลกั การแหง่ ร่างพระราชบญั ญัติ ใหก้ าหนดโดยชดั แจ้ง ๒.๒ เหตุผลในการเสนอรา่ งพระราชบัญญัติ ๒.๓ บันทึกวเิ คราะหส์ รปุ สาระสาคัญของร่างพระราชบญั ญัติ ใน ก ร ณี ที่ มี ก า ร รั บ ฟั ง ค ว า ม คิ ด เห็ น แ ล ะ วิ เค ร า ะ ห์ ผ ล ก ร ะ ท บ ที่ อ า จ เกิ ด ข้ึ น จ า ก รา่ งพระราชบญั ญัติ ให้เสนอมาพร้อมบนั ทกึ ประกอบดว้ ย ๓. เมอื่ ประธานสภาผแู้ ทนราษฎรได้พจิ ารณาตรวจสอบแล้ว ๓.๑ หากประธานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาว่า ไม่เป็นร่างพระราชบัญญัติเก่ียวด้วย การเงินจะมคี าสงั่ ใหบ้ รรจุระเบียบวาระการประชุมเพ่ือใหส้ ภาผแู้ ทนราษฎรพิจารณาต่อไป ๓.๒ หากประธานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาว่า เป็นร่างพระราชบัญญัติเก่ียวด้วยการเงินจะแจ้ง ให้สมาชกิ ผู้เสนอร่างพระราชบญั ญตั ิทราบ ซ่งึ ผูเ้ สนอสามารถดาเนินการได้ดงั นี้ ๓.๒.๑ ไม่คัดค้านความเห็นของประธานสภาผู้แทนราษฎร ภายใน ๗ วันนับแต่วัน ส่งคาแจ้งถือว่าไม่มีกรณีเป็นที่สงสัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรจะส่งร่างพระราชบัญญัติไปยัง นายกรฐั มนตรีเพื่อพจิ ารณาให้คารับรอง ๓.๒.๒ คัดค้านความเห็นของประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยผู้เสนอทาหนังสือ คัดค้านความเห็นที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาภายใน ๗ วันนับแต่วันส่งคาแจ้ง ประธานสภา ผู้แทนราษฎรจะจัดให้มีการประชุมร่วมกันของประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานคณะกรรมาธิการ สามัญของสภาผู้แทนราษฎรทุกคณะเพื่อวินิจฉัยภายใน ๑๕ วันนับแต่วันที่มีกรณีเป็นที่สงสัยว่าเป็น ร่างพระราชบัญญัติเก่ียวด้วยการเงินหรือไม่ และหากท่ีประชุมร่วมกันของประธานสภาผู้แทนราษฎรและ ประธานคณะกรรมาธิการสามัญของสภาผแู้ ทนราษฎรทุกคณะวินจิ ฉยั วา่ - เป็นร่างพระราชบัญญัติเก่ียวด้วยการเงิน ประธานสภาผู้แทนราษฎร จะแจ้งผู้เสนอร่างพระราชบัญญัติทราบภายใน ๗ วนั นับแต่วันวินิจฉัย และส่งร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ไปยงั นายกรัฐมนตรเี พ่อื พจิ ารณาให้คารับรอง - ไม่เป็นร่างพระราชบัญญัติเก่ียวด้วยการเงิน ประธานสภาผู้แทนราษฎร จะบรรจุระเบียบวาระการประชมุ เพื่อให้สภาผ้แู ทนราษฎรพิจารณาต่อไป
๒๕ ๔. ในการพิจารณา เมอ่ื สภาผ้แู ทนราษฎรพิจารณาและมีมตริ ับหลักการในวาระที่หน่ึงแล้ว จะมีการต้งั คณะกรรมาธิการเพื่อพจิ ารณารา่ งพระราชบัญญัติ ดังน้ี ๔.๑ คณะกรรมาธิการเต็มสภา โดยถือว่าสมาชิกทุกคนทาหน้าท่ีเป็นกรรมาธิการ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติน้ัน และประธานของท่ีประชุมจะทาหน้าท่ีประธานคณะกรรมาธิการ จึงไม่มี ข้ันตอนการยื่นคาขอแปรญัตติ เพราะเม่ือสมาชิกทุกคนเป็นกรรมาธิการย่อมมีสิทธิเสนอขอแก้ไขเพ่ิมเติม รา่ งพระราชบญั ญัตนิ ัน้ ในทีป่ ระชุมได้ในฐานะทเี่ ปน็ กรรมาธิการ ๔.๒ คณะกรรมาธิการวิสามัญ ต้ังจากบุคคลที่คณะรัฐมนตรีเสนอชื่อ มีจานวนไม่เกิน ๑ ใน ๔ ของจานวนกรรมาธิการท้ังหมด จานวนนอกจากน้ันให้ท่ีประชุมตั้งจากรายช่ือท่ีสมาชิกเสนอ โดยคานึงถงึ สัดส่วนสมาชกิ ของแตล่ ะพรรคการเมืองทีม่ ีอยใู่ นสภาผู้แทนราษฎร ถา้ รา่ งพระราชบญั ญตั นิ ั้นมี สาระสาคัญท่ีเก่ียวกับเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ หรือคนพิการหรือทุพพลภาพ จะประกอบด้วยบุคคล ประเภทดังกล่าวหรือผู้แทนองค์กรเอกชนที่ทางานเก่ียวกับบุคคลประเภทนั้นโดยตรง มีจานวนไม่น้อยกว่า ๑ ใน ๓ ของจานวนกรรมาธิการทั้งหมด และให้ตั้งจากบุคคลที่คณะรัฐมนตรีเสนอช่ือไม่เกิน ๑ ใน ๖ ของ จานวนกรรมาธิการทงั้ หมด จานวนนอกจากน้นั ใหท้ ี่ประชุมตัง้ จากรายชื่อทสี่ มาชกิ เสนอ ๔.๓ สง่ ให้คณะกรรมาธิการสามญั ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งพจิ ารณา กรณีพิจารณาโดยคณะกรรมาธิการวิสามัญหรือคณะกรรมาธิการสามัญ สมาชิก สภาผแู้ ทนราษฎรผู้ใดเห็นควรแกไ้ ขเพิ่มเตมิ รา่ งพระราชบญั ญัติ ก็ให้เสนอคาแปรญัตตลิ ่วงหน้าเป็นหนังสือ ต่อประธานคณะกรรมาธิการและมีสมาชิกรับรอง ๕ คน การแปรญัตติเพ่ิมมาตราข้ึนใหม่ หรือตัดทอน หรือแก้ไขมาตราเดิม ต้องไม่ขัดกับหลักการแห่งร่างพระราชบัญญัติน้ัน การย่ืนคาแปรญัตติต้องยื่นภายใน กาหนดเวลาตามมติของท่ีประชุมสภา โดยปกติจะกาหนดให้ย่ืนภายใน ๗ วันนับแต่วันถัดจากวันที่ สภาผู้แทนราษฎรรับหลักการแห่งร่างพระราชบัญญัติน้ัน เว้นแต่สภาผู้แทนราษฎรจะได้กาหนดเวลา แปรญตั ติสาหรบั รา่ งพระราชบัญญตั ิไว้เปน็ อย่างอ่นื กจ็ ะเปน็ ไปตามมติของที่ประชมุ ในการพิจารณาวาระที่สอง เป็นการพิจารณาในรายละเอียดข้ันกรรมาธิการ เมื่อ คณะกรรมาธิการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติเสร็จแล้ว จะเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาเรียง ตามลาดับมาตราในท่ปี ระชมุ สภาผแู้ ทนราษฎร ในวาระท่ีสาม เป็นการลงมติให้ความเห็นชอบหรือไม่ให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ โดยไม่มีการอภิปราย หากท่ีประชุมไม่เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติน้ันก็เป็นอันตกไป หากท่ีประชุมมีมติ เหน็ ชอบสภาผูแ้ ทนราษฎรจะส่งร่างพระราชบญั ญตั นิ ั้นใหว้ ุฒิสภาพิจารณาต่อไป ๕. การพิจารณาร่างพระราชบญั ญตั ิของวุฒิสภา การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติของวฒุ ิสภาจะพิจารณาเป็น ๓ วาระ เชน่ เดียวกับการ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติของสภาผู้แทนราษฎร ทั้งน้ี วุฒิสภาต้องพิจารณาร่างพระราชบัญญัติที่ สภาผู้แทนราษฎรเสนอมาน้ันใหเ้ สร็จภายใน ๖๐ วัน แต่ถ้าเป็นร่างพระราชบญั ญัติเกย่ี วด้วยการเงินจะตอ้ ง พิจารณาให้เสร็จภายใน ๓๐ วัน ทั้งนี้ เว้นแต่วุฒิสภาจะได้ลงมติให้ขยายเวลาออกไปเป็นกรณีพิเศษ ซ่ึง ต้องไม่เกิน ๓๐ วัน กาหนดวันดังกล่าวให้หมายถึงวันในสมัยประชุม และให้เร่ิมนับแต่วันที่ ร่างพระราชบัญญัติมาถึงวุฒิสภา ถ้าวุฒิสภาพิจารณาร่างพระราชบัญญัติไม่เสร็จภายในกาหนดเวลา ดงั กล่าว ให้ถอื ว่าวฒุ ิสภาใหค้ วามเห็นชอบในรา่ งพระราชบัญญตั นิ นั้ ในกรณีที่วุฒิสภาลงมติในวาระท่ี ๓ เห็นชอบด้วยกับสภาผู้แทนราษฎร โดยไม่มีการ แก้ไขก็ถือว่าร่างพระราชบัญญัติน้ันได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาแล้ว แต่ถ้าวุฒิสภาลงมติในวาระท่ี ๑ หรือวาระท่ี ๓ ไม่เห็นชอบด้วยกับสภาผู้แทนราษฎรให้ยับย้ังร่างพระราชบัญญัตินั้นไว้ก่อน และส่ง ร่างพระราชบัญญัตินั้นคืนไปยังสภาผู้แทนราษฎร สภาผู้แทนราษฎรจะยกข้ึนพิจารณาใหม่ได้ต่อเม่ือเวลา
๒๖ ๑๘๐ วันได้ล่วงพ้นไป นับแต่วันท่ีวุฒิสภาส่งร่างพระราชบัญญัตินั้นคืนไปยังสภาผู้แทนราษฎร เว้นแต่ใน กรณที ี่ร่างพระราชบญั ญตั ิที่ตอ้ งยับยั้งไว้เปน็ ร่างพระราชบญั ญัตเิ ก่ียวด้วยการเงนิ สภาผู้แทนราษฎรอาจยก รา่ งพระราชบญั ญัตินัน้ ข้ึนพิจารณาใหม่ได้ต่อเมื่อเวลา ๑๐ วันได้ล่วงพน้ ไป ในการพิจารณาใหม่นัน้ ถ้าสภา ผ้แู ทนราษฎรลงมติยืนยันร่างที่สภาผู้แทนราษฎรได้ให้ความเห็นชอบด้วยคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหน่ึงของ จานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ให้ถือว่าร่างพระราชบัญญัตินั้นได้รับความ เห็นชอบจากรัฐสภา ในกรณีวุฒิสภามีการแก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราชบัญญัติท่ีสภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบ วุฒิสภาจะส่งร่างพระราชบัญญัติตามท่ีแก้ไขเพิ่มเติมน้ันไปยังสภาผู้แทนราษฎร ถ้าสภาผู้แทนราษฎร เหน็ ชอบด้วยกบั การแกไ้ ขเพมิ่ เตมิ ใหถ้ อื ว่าร่างพระราชบัญญัตินัน้ ไดร้ ับความเหน็ ชอบจากรัฐสภา แต่ถา้ เป็น กรณีอ่ืน ให้แต่ละสภาตั้งบุคคลซึ่งเป็นหรือมิได้เป็นสมาชิกแห่งสภาน้ัน ๆ มีจานวนเท่ากันตามที่ สภาผู้แทนราษฎรกาหนด ประกอบเป็นคณะกรรมาธิการร่วมกันเพ่ือพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินั้น และ ใหค้ ณะกรรมาธกิ ารร่วมกันรายงานและเสนอร่างพระราชบัญญัติที่คณะกรรมาธิการรว่ มกันได้พจิ ารณาแล้ว ต่อสภาท้ังสอง ถ้าสภาทั้งสองต่างเห็นชอบด้วยกับร่างพระราชบัญญัติที่คณะกรรมาธิการร่วมกันได้ พิจารณาแล้ว แสดงว่าร่างพระราชบัญญัติน้ันได้รับความเห็นชอบของรัฐสภา ให้นายกรัฐมนตรีนาข้ึน ทลู เกลา้ ทลู กระหม่อมถวายพระมหากษัตริย์ เพ่ือทรงลงพระปรมาภิไธย และประกาศในราชกิจจานุเบกษา ตอ่ ไป แต่ถา้ สภาใดสภาหนง่ึ ไมเ่ หน็ ชอบดว้ ยกบั ร่างพระราชบญั ญตั ทิ ี่คณะกรรมาธิการร่วมกนั พิจารณาเสร็จ แลว้ กใ็ ห้ยบั ยงั้ รา่ งพระราชบัญญัติน้ันไวก้ อ่ น สภาผู้แทนราษฎรจะยกข้ึนพิจารณาใหม่ได้ต่อเม่ือเวลา ๑๘๐ วันได้ล่วงพ้นไปนับแต่ วันท่ีสภาใดสภาหนึ่งไม่เห็นชอบด้วยไม่ว่าอีกสภาหน่ึงจะได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัตินั้นแล้วหรือไม่ ถ้าร่างพระราชบัญญัติที่ต้องยับย้ังไว้ เป็นร่างพระราชบัญญัติเกี่ยวด้วยการเงิน สภาผู้แทนราษฎรอาจยก ร่างพระราชบัญญัติน้ันขึ้นพิจารณาใหม่ได้ต่อเม่ือเวลา ๑๐ วันได้ล่วงพ้นไป ถ้าสภาผู้แทนราษฎรลงมติ ยืนยันร่างที่สภาผู้แทนราษฎรได้ให้ความเห็นชอบ หรอื ร่างท่ีคณะกรรมาธิการรว่ มกันพิจารณาดว้ ยคะแนน เสียงมากกว่ากึ่งหน่ึง ของจานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าท่ีมีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ให้ถือว่าร่าง พระราชบัญญัติน้ันได้รับความเห็นชอบของรัฐสภา ให้นายกรัฐมนตรีนาข้ึนทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย พระมหากษัตริย์ เพ่อื ทรงลงพระปรมาภิไธย และประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
๒๗ (รปู แบบ) การเสนอร่างพระราชบัญญัติ (กรณีเสนอกฎหมายใหม่ /ปรบั ปรุงกฎหมายเดมิ /ยกเลกิ กฎหมายเดิม) ………………………………….. ………………………………….. วันที่ …….. เดอื น ................ พ.ศ. …. เรื่อง รา่ งพระราชบัญญตั ิ……………………………………………………………………………..…………………….พ.ศ. …. กราบเรยี น ประธานสภาผแู้ ทนราษฎร สงิ่ ที่ส่งมาด้วย รา่ งพระราชบัญญตั ิฯ และเอกสารประกอบในเรื่องน้ี ข้าพเจ้ากับคณะ ขอเสนอร่างพระราชบัญญัติ……..………………………………………………….. พ.ศ. …. พรอ้ มด้วยบันทกึ หลักการและเหตผุ ล และบนั ทึกวเิ คราะหส์ รุปสาระสาคัญของร่างพระราชบัญญัติ ประกอบกับเอกสารการดาเนินการตามมาตรา ๗๗ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญ (ถ้ามี) มาเพื่อได้โปรด นาเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาและหากสภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบแล้วก็ขอได้โปรดนาเสนอ วุฒิสภาพิจารณาตามรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทยตอ่ ไป ขอแสดงความนบั ถอื อยา่ งย่งิ ๑. ผเู้ สนอ (…………………..…………….) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรค………….. หมายเลขประจาตัวสมาชกิ ……….. ๒. ผเู้ สนอ ๓. ผูเ้ สนอ (………………………………..…….) ผู้เสนอ (………………………….………..….) สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร พรรค………… สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตัวสมาชกิ ……… หมายเลขประจาตัวสมาชิก……… ๔. ๕. ผู้เสนอ (…………………………………..……) (……………………………………….) สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร พรรค……….. สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร พรรค……….. หมายเลขประจาตวั สมาชกิ …..… หมายเลขประจาตวั สมาชกิ ………
๒๘ ผเู้ สนอ ร่างพระราชบญั ญัติ………………………………………………………………………………………... พ.ศ. …. ๖. ๗. (…………………………………..…………….) (………………………………..…………….) สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร พรรค………….. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตัวสมาชิก……… หมายเลขประจาตวั สมาชิก…… ๘. ๙. (…………………………………..…………….) (………………………………..…………….) สมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎร พรรค………….. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตัวสมาชิก……… หมายเลขประจาตัวสมาชิก…… ๑๐. ๑๑. (…………………………………..…………….) (………………………………..…………….) สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร พรรค………….. สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตัวสมาชกิ ……… หมายเลขประจาตัวสมาชิก…… ๑๒. ๑๓. (…………………………………..…………….) (………………………………..…………….) สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร พรรค………….. สมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตวั สมาชกิ ……… หมายเลขประจาตัวสมาชิก…… ๑๔. ๑๕. (…………………………………..…………….) (………………………………..…………….) สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร พรรค………….. สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตวั สมาชกิ ……… หมายเลขประจาตัวสมาชกิ …… ๑๖. ๑๗. (…………………………………..…………….) (………………………………..…………….) สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร พรรค………….. สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตัวสมาชิก……… หมายเลขประจาตัวสมาชิก…… ๑๘. ๑๙. (…………………………………..…………….) (………………………………..…………….) สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร พรรค………….. สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตัวสมาชิก……… หมายเลขประจาตวั สมาชิก…… ๒๐. (……………………..…………..…………….) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรค………….. หมายเลขประจาตวั สมาชกิ ………
๒๙ บันทึกหลกั การและเหตุผล ประกอบรา่ งพระราชบัญญัติ………………………………..…………………………… พ.ศ. …. หลกั การ ใหม้ ีกฎหมายวา่ ด้วย/หรือปรับปรงุ กฎหมายว่าดว้ ย/หรือยกเลิกกฎหมายวา่ ดว้ ย…………….… ……………………………………………………………………………………..…………………………………………………………….. เหตุผล โดยที่ (เน่ืองจาก)………………………………………..…..……………………………………….……………… …………………………………………………………………………………………………………………………………..……….………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………..…….………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………..….………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….…..…. สมควร……………………………………………………………………………………………………….……..………………………..… …………….…………………………………………………………………………......……………………………………………………… เพอ่ื ………..………………………………………………………………………………………….…………………….…………………… …………………………………………..……………จงึ จาเป็นต้องตราพระราชบัญญตั นิ ี้
๓๐ ร่าง พระราชบัญญัติ ………………………………………………………………… พ.ศ. …. ……………………………………… ……………………………………… ……………………………………… ..…………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………. โดยท่ีเป็นการสมควรให้มีกฎหมายว่าด้วย / ปรับปรุงกฎหมายว่าด้วย / ยกเลิกกฎหมาย วา่ ดว้ ย.................................................……………………………………………………………………………………………… พระราชบัญญัติน้ีมีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึง่ มาตรา ๒๖ ………… ประกอบกับมาตรา ........ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย บัญญัติให้กระทา ไดโ้ ดยอาศยั อานาจตามบทบัญญตั ิแหง่ กฎหมาย (เฉพาะกรณที ่ีมกี ารจากดั สิทธแิ ละเสรีภาพของบุคคล) เหตุผลและความจาเป็นในการจากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลตามพระราชบัญญัติน้ี เพ่ือ (อธบิ ายเหตผุ ลและความจาเปน็ ในการจากดั สทิ ธิและเสรภี าพ) ซึ่งการตราพระราชบัญญั ตินี้สอดคล้องกับเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๖ ของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจกั รไทยแล้ว ………………………………………………………………………………………………………..…………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………... มาตรา ๑ พระราชบญั ญัตินเ้ี รียกวา่ “พระราชบัญญัติ………………………………….พ.ศ. ….” มาตรา ๒ พระราชบญั ญตั ินี้ใหใ้ ชบ้ งั คับ……………………………………………………………………. มาตรา ๓ …………..………………………………………..………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………. มาตรา ๔ ………………………..……………………………………………………………..……………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………. มาตรา ๕ ………………………..……………………………………………………………..……………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………. (สาระหรอื เนื้อหาที่กาหนดใช้บงั คบั ให้เรยี งลาดับมาตราจนจบร่าง) …………………………… …………………………………..
๓๑ บันทกึ วิเคราะหส์ รปุ สาระสาคัญ ของรา่ งพระราชบัญญัติ……………………………………………………………………… พ.ศ. …. ๑. .................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................. ..................... ............................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................. .......................................... ๒. .................................................................................................................................................... ........................................................................................................ ............................................................... ............................................................................................................................. .......................................... ..................................................................................................................................................... .................. ๓. .................................................................................................................................................... ........................................................................................................ ............................................................... ............................................................................................................................. .......................................... ..................................................................................................................................................... .................. ๔. .................................................................................................................................................... ........................................................................................................ ............................................................... ............................................................................................................................. .......................................... ..................................................................................................................................................... .................. ๕. .................................................................................................................................................... ........................................................................................................ ............................................................... ............................................................................................................................. .......................................... ..................................................................................................................................................... .................. ๖. .................................................................................................................................................... ........................................................................................................ ............................................................... ............................................................................................................................. .......................................... ..................................................................................................................................................... ..................
๓๒ (รปู แบบ) การเสนอรา่ งพระราชบญั ญัติ (กรณแี ก้ไขเพ่ิมเติมกฎหมายเดิม) ………………………………. ...……………………………. วนั ที่ ........ เดอื น ................ พ.ศ. …. เรื่อง รา่ งพระราชบญั ญตั ิ………………………………………………………………………………(ฉบบั ท่ี ..) พ.ศ. …. กราบเรียน ประธานสภาผ้แู ทนราษฎร ส่งิ ทส่ี ง่ มาดว้ ย ร่างพระราชบญั ญตั ิฯ และเอกสารประกอบในเรื่องน้ี ข้าพเจ้ากับคณะขอเสนอร่างพระราชบัญญัติ……………………..………(ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. พร้อมด้วยบันทึกหลักการและเหตุผล และบันทึกวิเคราะห์สรุปสาระสาคัญของร่างพระราชบัญญัติ ประกอบกับเอกสารการดาเนินการตามมาตรา ๗๗ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญ (ถ้ามี) มาเพื่อได้โปรด นาเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาและหากสภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบแล้วก็ขอได้โปรดนาเสนอ วุฒสิ ภาพจิ ารณาตามรฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทยตอ่ ไป ขอแสดงความนบั ถอื อย่างยง่ิ ๑. ผู้เสนอ (…………………..…………….) สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร พรรค………….. หมายเลขประจาตัวสมาชิก……….. ๒. ผเู้ สนอ ๓. ผเู้ สนอ (………………………………..…….) (………………………….………..….) สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร พรรค………… สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตัวสมาชกิ ……… หมายเลขประจาตัวสมาชิก……… ๔. ผูเ้ สนอ ๕. ผู้เสนอ (…………………………………..……) (……………………………………….) สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร พรรค……….. สมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎร พรรค……….. หมายเลขประจาตวั สมาชกิ …..… หมายเลขประจาตวั สมาชิก………
๓๓ ผ้เู สนอ รา่ งพระราชบัญญตั ิ…………………………………………………………………………………(ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ๖. ๗. (…………………………………..…………….) (………………………………..…………….) สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร พรรค………….. สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตวั สมาชกิ ……… หมายเลขประจาตัวสมาชกิ …… ๘. ๙. (…………………………………..…………….) (………………………………..…………….) สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร พรรค………….. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตัวสมาชิก……… หมายเลขประจาตวั สมาชกิ …… ๑๐. ๑๑. (…………………………………..…………….) (………………………………..…………….) สมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎร พรรค………….. สมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตัวสมาชิก……… หมายเลขประจาตวั สมาชกิ …… ๑๒. ๑๓. (…………………………………..…………….) (………………………………..…………….) สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร พรรค………….. สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตวั สมาชิก……… หมายเลขประจาตัวสมาชกิ …… ๑๔. ๑๕. (…………………………………..…………….) (………………………………..…………….) สมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎร พรรค………….. สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตัวสมาชกิ ……… หมายเลขประจาตวั สมาชกิ …… ๑๖. ๑๗. (…………………………………..…………….) (………………………………..…………….) สมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎร พรรค………….. สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตัวสมาชิก……… หมายเลขประจาตวั สมาชิก…… ๑๘. ๑๙. (…………………………………..…………….) (………………………………..…………….) สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร พรรค………….. สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตวั สมาชกิ ……… หมายเลขประจาตวั สมาชกิ …… ๒๐. (……………………..…………..…………….) สมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎร พรรค………….. หมายเลขประจาตวั สมาชิก………
๓๔ บันทึกหลกั การและเหตผุ ล ประกอบร่างพระราชบัญญัติ………………………………..…………………………… (ฉบับท่ี ..) พ.ศ. …. หลักการ แก้ไขเพิ่มเตมิ พระราชบญั ญัติ…………………………………………………… พ.ศ. .... ดังต่อไปน้ี ๑. (ระบปุ ระเด็นและมาตราท่ตี อ้ งการแก้ไข) ........................................................................ ๒. ......................................................................................................................................... ๓. .......................................................................................................................... ............... เหตุผล โดยท่ี (เนือ่ งจาก)………………………………………..…..……………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….…. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….…. สมควร……………………………………………………………………………………………………….……..………………………… …………….…………………………………………………………………………......……………………………………………………. เพื่อ………..……………………………………………………………………………………………………………….…………………… …………………………………………..……………จงึ จาเปน็ ตอ้ งตราพระราชบญั ญัตินี้
๓๕ รา่ ง พระราชบญั ญตั ิ ………………………………………………………………… (ฉบับท่ี ..) พ.ศ. …. ……………………………………… ……………………………………… ……………………………………… ..…………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………. โดยทเ่ี ปน็ การสมควรแกไ้ ขเพม่ิ เติมพระราชบัญญตั ิ...........................................………………… ............................................................................................................................................................ ........... พระราชบัญญัตินี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซง่ึ มาตรา ๒๖ ………… ประกอบกับมาตรา ........ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย บัญญัติให้กระทา ไดโ้ ดยอาศัยอานาจตามบทบญั ญตั แิ หง่ กฎหมาย (เฉพาะกรณีท่ีมีการจากดั สิทธแิ ละเสรภี าพของบุคคล) เหตุผลและความจาเป็นในการจากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลตามพระราชบัญญัตินี้ เพอื่ (อธบิ ายเหตุผลและความจาเป็นในการจากัดสทิ ธแิ ละเสรภี าพ) ซึ่งการตราพระราชบัญญัตินี้สอดคล้องกับเง่ือนไขที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๖ ของรัฐธรรมนูญ แหง่ ราชอาณาจักรไทยแล้ว ………………………………………………………………………………………………………..…………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. มาตรา ๑ พระราชบญั ญัตินเ้ี รยี กวา่ “พระราชบัญญัติ…………….……(ฉบับที่ ..) พ.ศ. ….” มาตรา ๒ พระราชบญั ญัตินใี้ หใ้ ช้บังคับ………………………………………………………………. มาตรา ๓ …………..………………………………………..………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………. มาตรา ๔ ………………………..……………………………………………………………..……………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………. มาตรา ๕ ………………………..……………………………………………………………..……………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………. (สาระหรอื เนอ้ื หาท่ีกาหนดใชบ้ งั คับ ใหเ้ รยี งลาดับมาตราจนจบร่าง) …………………………… …………………………………..
๓๖ บันทึกวิเคราะหส์ รุปสาระสาคัญ ของร่างพระราชบญั ญตั ิ……………………………………………………………………… (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ๑. .................................................................................................................................................... ...................................................................................................... ................................................................. ............................................................................................................................. .......................................... ................................................................................................................................................... .................... ๒. .................................................................................................................................................... ....................................................................................................... ................................................................ ............................................................................................................................. .......................................... .................................................................................................................................................... ................... ๓. .................................................................................................................................................... ....................................................................................................... ................................................................ ............................................................................................................................. .......................................... .................................................................................................................................................... ................... ๔. .................................................................................................................................................... ....................................................................................................... ................................................................ ............................................................................................................................. .......................................... .................................................................................................................................................... ................... ๕. .................................................................................................................................................... ....................................................................................................... ................................................................ ............................................................................................................................. .......................................... .................................................................................................................................................... ................... ๖. .................................................................................................................................................... ....................................................................................................... ................................................................ ............................................................................................................................. .......................................... .................................................................................................................................................... ...................
๓๗ การเสนอขอให้ยกร่างพระราชบญั ญัตซิ ง่ึ ถกู ยบั ย้ังไว้ ตามมาตรา ๑๓๗ (๒) และมาตรา ๑๓๗ (๓) ของรัฐธรรมนูญ ร่างพระราชบัญญตั ิท่ีถูกยับย้ังไว้ตามรัฐธรรมนญู มี ๒ กรณี คอื ๑. กรณีทีว่ ฒุ ิสภายับย้ังร่างพระราชบญั ญัตติ ามมาตรา ๑๓๗ (๒) ของรัฐธรรมนญู คือ กรณี ท่ีวฒุ ิสภาไมเ่ ห็นชอบด้วยกบั ร่างพระราชบญั ญัติท่สี ภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบแล้ว ๒. กรณีที่สภาใดสภาหนง่ึ ไม่เห็นชอบด้วยกับร่างพระราชบัญญัติที่คณะกรรมาธกิ ารร่วมกัน พิจารณาเสร็จแล้วตามมาตรา ๑๓๗ (๓) ของรัฐธรรมนูญ สภาผู้แทนราษฎรจะต้องยืนยันร่างท่ี สภาผแู้ ทนราษฎรไดใ้ หค้ วามเหน็ ชอบหรือร่างของคณะกรรมาธิการร่วมกนั กรณีท่ีร่างพระราชบัญญัติท่ียับย้ังไว้น้ันไม่เป็นร่างพระราชบัญญัติเกี่ยวด้วยการเงิน สภาผู้แทนราษฎรจะยกขนึ้ พิจารณาใหม่ได้ต่อเมื่อเวลาได้ล่วงพ้น ๑๘๐ วัน แต่หากร่างพระราชบัญญัตินั้น เป็นร่างพระราชบัญญัติเก่ียวด้วยการเงินสภาผู้แทนราษฎรจะยกข้ึนพิจารณาใหม่ได้ต่อเมื่อเวลาได้ล่วงพ้น ๑๐ วัน ในการพิจารณารา่ งพระราชบัญญัติท่ียับยั้งน้ัน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะต้องเสนอญัตติ โดยมีผู้รับรองไม่น้อยกว่าย่ีสิบคน ให้ยกร่างพระราชบัญญัติท่ีต้องยับยั้งไว้น้ันขึ้นเพ่ือให้สภาพิจารณาลงมติ ยนื ยัน หมายเหตุ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๗๑ กาหนดให้ในวาระเร่ิมแรกภายในอายุของวุฒิสภาตามมาตรา ๒๖๙ การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติท่ีวุฒิสภาหรือสภาผู้แทนราษฎรยับย้ังไว้ตามมาตรา ๑๓๗ (๒) หรือ (๓) ให้กระทาโดยทีป่ ระชมุ รว่ มกันของรฐั สภา ถ้ารา่ งพระราชบญั ญัตนิ ้ันเก่ยี วกับ (๑) การแก้ไขเพิ่มเติมโทษหรือองค์ประกอบความผิดต่อตาแหน่งหน้าที่ราชการหรือต่อตาแหน่งหน้าที่ใน การยุติธรรม หรอื ความผิดของพนักงานในองค์การหรอื หนว่ ยงานของรฐั เฉพาะเมื่อการแก้ไขเพิ่มเติมนั้นมี ผลให้ผู้กระทาความผิดพน้ จากความผิดหรือไมต่ อ้ งรบั โทษ (๒) ร่างพระราชบัญญัติท่ีวุฒิสภามีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจานวนสมาชิกวุฒิสภา ท้ังหมดเท่าท่ีมีอยู่วา่ มีผลกระทบตอ่ การดาเนนิ กระบวนการยุติธรรมอยา่ งร้ายแรง
๓๘ (รปู แบบ) การเสนอขอให้ยกรา่ งพระราชบัญญตั ิ ซึ่งถูกยบั ยั้งไว้ ตามมาตรา ๑๓๗ (๒) ของรฐั ธรรมนูญขน้ึ พจิ ารณาใหม่ (กรณีเป็นรา่ งพระราชบัญญัตเิ กย่ี วดว้ ยการเงิน) ………………………………… ………………………………… วันท่ี ........ เดือน ................ พ.ศ. …. เรอื่ ง ขอใหย้ กร่างพระราชบัญญัติซ่ึงถูกยบั ยงั้ ไว้ ตามมาตรา ๑๓๗ (๒) ของรฐั ธรรมนญู ขน้ึ พิจารณาใหม่ กราบเรยี น ประธานสภาผูแ้ ทนราษฎร สิง่ ทีส่ ง่ มาด้วย ร่างพระราชบัญญัติ………………………พ.ศ. .... ทสี่ ภาผู้แทนราษฎรได้ให้ความเหน็ ชอบแล้ว ตามท่ีวุฒิสภาได้ลงมติไม่เห็นชอบด้วยกับร่างพระราชบัญญัติ..................………….. พ.ศ. …. ที่สภาผู้แทนราษฎรได้ให้ความเห็นชอบแล้ว จึงถือว่าร่างพระราชบัญญัติฉบับน้ีถูกยับย้ังไว้ ตามมาตรา ๑๓๗ (๒) ของรัฐธรรมนูญ และเนื่องจากร่างพระราชบัญญัติฉบับน้ีเป็นร่างพระราชบัญญัติเกี่ยวด้วย การเงิน ประกอบกับได้พ้นกาหนดเวลา ๑๐ วันนับแต่วันท่ีวุฒิสภาส่งร่างพระราชบัญญัตินั้นคืนไปยัง สภาผู้แทนราษฎร จึงขอให้สภาผู้แทนราษฎรยกร่างพระราชบัญญัติ……………………………………… พ.ศ. …. ข้ึนพิจารณา เพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรลงมติยืนยันร่างท่ีสภาผู้แทนราษฎรได้ให้ความเห็นชอบแล้ว ตามมาตรา ๑๓๘ ของรฐั ธรรมนูญ จงึ กราบเรยี นมาเพื่อโปรดนาเสนอใหส้ ภาผู้แทนราษฎรพจิ ารณาตามข้อบังคบั การประชุม สภาผแู้ ทนราษฎร พ.ศ. …. ข้อ ….. ต่อไป ขอแสดงความนับถอื อยา่ งยิง่ ผ้เู สนอ (..……..……………..…………….) สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร พรรค………….. หมายเลขประจาตัวสมาชกิ ………
๓๙ ผู้รบั รอง ญตั ติเสนอให้ยกร่างพระราชบัญญตั ิ………………………..…… พ.ศ. …. ซึง่ ถูกยับยง้ั ไวข้ นึ้ พจิ ารณาใหม่ ๑. ๒. (…………………………………..…………….) (………………………………..…………….) สมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎร พรรค………….. สมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตัวสมาชิก……… หมายเลขประจาตวั สมาชกิ …… ๓. ๔. (…………………………………..…………….) (………………………………..…………….) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรค………….. สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร พรรค……..…. หมายเลขประจาตวั สมาชกิ ……… หมายเลขประจาตวั สมาชิก…… ๕. ๖. (…………………………………..…………….) (………………………………..…………….) สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร พรรค………….. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตวั สมาชกิ ……… หมายเลขประจาตวั สมาชิก…… ๗. ๘. (…………………………………..…………….) (………………………………..…………….) สมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎร พรรค………….. สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตัวสมาชิก……… หมายเลขประจาตัวสมาชิก…… ๙. ๑๐. (…………………………………..…………….) (………………………………..…………….) สมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎร พรรค………….. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตัวสมาชิก……… หมายเลขประจาตัวสมาชิก…… ๑๑. ๑๒. (…………………………………..…………….) (………………………………..…………….) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรค………….. สมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตวั สมาชกิ ……… หมายเลขประจาตัวสมาชิก…… ๑๓. ๑๔. (…………………………………..…………….) (………………………………..…………….) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรค………….. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตวั สมาชิก……… หมายเลขประจาตัวสมาชิก…… ๑๕. ๑๖. (…………………………………..…………….) (………………………………..…………….) สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร พรรค………….. สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตัวสมาชิก……… หมายเลขประจาตวั สมาชิก……
๔๐ ผู้รับรอง ญัตตเิ สนอใหย้ กร่างพระราชบัญญัติ……………………………. พ.ศ. …. ซ่งึ ถูกยับย้ังไว้ขึ้นพิจารณาใหม่ ๑๗. ๑๘. (…………………………………..…………….) (………………………………..…………….) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรค………….. สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตวั สมาชิก……… หมายเลขประจาตวั สมาชกิ …… ๑๙. ๒๐. (…………………………………..…………….) (………………………………..…………….) สมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎร พรรค………….. สมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตัวสมาชกิ ……… หมายเลขประจาตัวสมาชกิ ……
๔๑ (รูปแบบ) การเสนอขอใหย้ กร่างพระราชบญั ญตั ิ ซ่งึ ถกู ยบั ยงั้ ไว้ ตามมาตรา ๑๓๗ (๒) ของรัฐธรรมนูญข้ึนพจิ ารณาใหม่ (กรณีไมเ่ ปน็ ร่างพระราชบัญญตั เิ ก่ียวดว้ ยการเงนิ ) …………………………………. …………………………………. วันท่ี ……..เดอื น ................ พ.ศ. …. เรือ่ ง ขอใหย้ กร่างพระราชบัญญตั ิซ่ึงถกู ยบั ย้ังไว้ตามมาตรา ๑๓๗ (๒) ของรฐั ธรรมนญู ข้นึ พจิ ารณาใหม่ กราบเรยี น ประธานสภาผ้แู ทนราษฎร สงิ่ ที่ส่งมาด้วย ร่างพระราชบัญญตั ิ………………………พ.ศ. .... ท่ีสภาผู้แทนราษฎรได้ให้ความเห็นชอบแลว้ ตามทีว่ ุฒสิ ภาไดล้ งมตไิ มเ่ หน็ ชอบด้วยกบั รา่ งพระราชบัญญัติ..................…………..…...………. .......................................................................พ.ศ. …. ท่ีสภาผแู้ ทนราษฎรไดใ้ หค้ วามเห็นชอบแล้ว จึงถอื ว่า ร่างพระราชบัญญัติฉบับน้ีถูกยับย้ังไว้ ตามมาตรา ๑๓๗ (๒) ของรัฐธรรมนูญ และเนื่องจากร่างพระราชบัญญัติ ฉบับนี้ไม่เป็นร่างพระราชบัญญัติเก่ียวด้วยการเงิน ประกอบกับได้พ้นกาหนดเวลา ๑๘๐ วันนับแต่วันท่ี วุฒิสภาส่งร่างพระราชบัญญัติน้ันคืนไปยังสภาผู้แทนราษฎร จึงขอให้สภาผู้แทนราษฎรยกร่างพระราชบัญญัติ ……………………………………………………………………………………………………..พ.ศ. …. ข้ึนพิจารณา เพ่ือให้สภาผู้แทนราษฎร ลงมตยิ ืนยนั รา่ งที่สภาผแู้ ทนราษฎรไดใ้ หค้ วามเหน็ ชอบแลว้ ตามมาตรา ๑๓๘ ของรฐั ธรรมนูญ จึงกราบเรียนมาเพอ่ื โปรดนาเสนอใหส้ ภาผู้แทนราษฎรพจิ ารณาตามข้อบงั คบั การประชุม สภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. .... ข้อ ..... ต่อไป ขอแสดงความนับถอื อยา่ งยิ่ง ผเู้ สนอ (……………………..…………….) สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร พรรค………….. หมายเลขประจาตวั สมาชิก………
๔๒ ผรู้ บั รอง ญตั ตเิ สนอใหย้ กรา่ งพระราชบญั ญัติ...........................พ.ศ. …. ซ่งึ ถูกยับยั้งไวข้ ึ้นพิจารณาใหม่ ๑. ๒. (…………………………………..…………….) (………………………………..…………….) สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร พรรค………….. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตัวสมาชกิ ……… หมายเลขประจาตวั สมาชกิ …… ๓. ๔. (…………………………………..…………….) (………………………………..…………….) สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร พรรค………….. สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตัวสมาชิก……… หมายเลขประจาตวั สมาชิก…… ๕. ๖. (…………………………………..…………….) (………………………………..…………….) สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร พรรค………….. สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตวั สมาชิก……… หมายเลขประจาตัวสมาชกิ …… ๗. ๘. (…………………………………..…………….) (………………………………..…………….) สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร พรรค………….. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตัวสมาชิก……… หมายเลขประจาตวั สมาชิก…… ๙. ๑๐. (…………………………………..…………….) (………………………………..…………….) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรค………….. สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตัวสมาชิก……… หมายเลขประจาตวั สมาชกิ …… ๑๑. ๑๒. (…………………………………..…………….) (………………………………..…………….) สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร พรรค………….. สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตวั สมาชิก……… หมายเลขประจาตวั สมาชกิ …… ๑๓. ๑๔. (…………………………………..…………….) (………………………………..…………….) สมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎร พรรค………….. สมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตัวสมาชิก……… หมายเลขประจาตัวสมาชกิ …… ๑๕. ๑๖. (…………………………………..…………….) (………………………………..…………….) สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร พรรค………….. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตวั สมาชกิ ……… หมายเลขประจาตวั สมาชิก……
๔๓ ผูร้ บั รอง ญัตตเิ สนอให้ยกรา่ งพระราชบญั ญัติ...........................พ.ศ. …. ซ่งึ ถกู ยบั ยง้ั ไว้ขึ้นพจิ ารณาใหม่ ๑๗. ๑๘. (…………………………………..…………….) (………………………………..…………….) สมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎร พรรค………….. สมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตวั สมาชกิ ……… หมายเลขประจาตัวสมาชกิ …… ๑๙. ๒๐. (…………………………………..…………….) (………………………………..…………….) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรค………….. สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตัวสมาชิก……… หมายเลขประจาตัวสมาชิก……
๔๔ (รปู แบบ) การเสนอขอใหย้ กร่างพระราชบัญญตั ิ ซ่งึ ถกู ยบั ยัง้ ไว้ ตามมาตรา ๑๓๗ (๓) ของรฐั ธรรมนญู ขึน้ พิจารณาใหม่ (กรณเี ปน็ ร่างพระราชบัญญัติเก่ียวดว้ ยการเงิน) ……………………………………. ……………………………………. วันที่……….เดอื น………..พ.ศ. …. เรอื่ ง ขอให้ยกร่างพระราชบญั ญตั ิซึ่งถกู ยบั ย้งั ไว้ ตามมาตรา ๑๓๗ (๓) ของรฐั ธรรมนญู ขึ้นพิจารณาใหม่ กราบเรียน ประธานสภาผแู้ ทนราษฎร สงิ่ ที่สง่ มาด้วย รา่ งพระราชบญั ญตั ิ………………….…….. พ.ศ. …. ท่สี ภาผแู้ ทนราษฎรได้ให้ความเห็นชอบแล้ว / ร่างพระราชบญั ญตั ิ………………………. พ.ศ. …. ที่คณะกรรมาธิการรว่ มกนั ได้พิจารณาแลว้ ตามทีส่ ภาผ้แู ทนราษฎร/วฒุ ิสภาได้ลงมติไม่เห็นชอบดว้ ยกับร่างพระราชบญั ญัติ................. พ.ศ. …. ท่ีคณะกรรมาธิการร่วมกันได้พิจารณาแล้ว จึงถือว่าร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ถูกยับยั้งไว้ ตามมาตรา ๑๓๗ (๓) ของรัฐธรรมนูญ และเนื่องจากร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้เป็นร่างพระราชบัญญัติ เกี่ยวด้วยการเงิน ประกอบกับได้พ้นกาหนดเวลา ๑๐ วนั นบั แต่วนั ทสี่ ภาผแู้ ทนราษฎร/วุฒิสภาไมเ่ ห็นชอบ กับร่างพระราชบัญญัติที่คณะกรรมาธิการร่วมกันได้พิจารณาเสร็จแล้ว จึงขอให้สภาผู้แทนราษฎรยก ร่างพระราชบัญญัติ..............................................………………………………....พ.ศ. …. ขึ้นพิจารณา เพื่อให้ สภาผู้แทนราษฎรลงมตยิ ืนยันร่างทสี่ ภาผู้แทนราษฎรได้ใหค้ วามเห็นชอบแล้ว/ร่างคณะกรรมาธกิ ารรว่ มกัน ได้พจิ ารณาแลว้ ตามมาตรา ๑๓๘ ของรฐั ธรรมนูญ จงึ กราบเรยี นมาเพอ่ื โปรดนาเสนอใหส้ ภาผ้แู ทนราษฎรพจิ ารณาตามข้อบังคบั การประชมุ สภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. …. ข้อ ….. ตอ่ ไป ขอแสดงความนบั ถืออยา่ งยิง่ ผูเ้ สนอ (…….………………..…………….) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรค………….. หมายเลขประจาตัวสมาชกิ ………
๔๕ ผรู้ บั รอง ญัตติเสนอให้ยกรา่ งพระราชบญั ญัติ……………………….…….พ.ศ. …. ซ่งึ ถกู ยับยั้งไวข้ ึ้นพิจารณาใหม่ ๑. ๒. (…………………………………..…………….) (………………………………..…………….) สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร พรรค………….. สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตัวสมาชิก……… หมายเลขประจาตัวสมาชิก…… ๓. ๔. (…………………………………..…………….) (………………………………..…………….) สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร พรรค………….. สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตวั สมาชกิ ……… หมายเลขประจาตัวสมาชกิ …… ๕. ๖. (…………………………………..…………….) (………………………………..…………….) สมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎร พรรค………….. สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตวั สมาชกิ ……… หมายเลขประจาตวั สมาชกิ …… ๗. ๘. (…………………………………..…………….) (………………………………..…………….) สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร พรรค………….. สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตัวสมาชิก……… หมายเลขประจาตัวสมาชิก…… ๙. ๑๐. (…………………………………..…………….) (………………………………..…………….) สมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎร พรรค………….. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตวั สมาชกิ ……… หมายเลขประจาตวั สมาชกิ …… ๑๑. ๑๒. (…………………………………..…………….) (………………………………..…………….) สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร พรรค………….. สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตวั สมาชิก……… หมายเลขประจาตวั สมาชิก…… ๑๓. ๑๔. (…………………………………..…………….) (………………………………..…………….) สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร พรรค………….. สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตัวสมาชิก……… หมายเลขประจาตัวสมาชกิ …… ๑๕. ๑๖. (…………………………………..…………….) (………………………………..…………….) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรค………….. สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร พรรค………. หมายเลขประจาตัวสมาชิก……… หมายเลขประจาตัวสมาชิก……
Search