Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การอบรมเลี้ยงดูเด็ก-นางสาว ปริศนา วงษ์อุด

การอบรมเลี้ยงดูเด็ก-นางสาว ปริศนา วงษ์อุด

Published by Guset User, 2021-10-17 14:25:59

Description: การอบรมเลี้ยงดูเด็ก-นางสาว ปริศนา วงษ์อุด

Search

Read the Text Version

การอบรมเล้ียงดูเด็ก ปรศิ นา วงษ์อดุ ทา กลุ่มเรยี น 8 เลขท่ี 11 รายงานน้เี ปน็ สว่ นหน่งึ ของการศกึ ษาวิชาการคน้ คว้าและการเขียนรายงานเชงิ วชิ าการ ภาควชิ าการศกึ ษาปฐมวัย คณะเทคโนโลยคี หกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564



ก คำนำ รายงานฉบับน้ีจัดทำขึ้นเพ่ือปฏิบัติการเขยี นรายงานการค้นควา้ ทีถ่ กู ตอ้ งอยา่ งเป็นระบบ อัน เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษารายวิชา 01-210-017 การค้นคว้าและการเขียนรายงานเชิงวิชาการ ซ่ึง จะนำไปใช้ในการทำรายงานค้นคว้าสำหรับรายวิชาอื่นได้อีกต่อไป การที่ผูจ้ ัดทำเลือกทำเรื่อง“การ อบรมเลี้ยงดเู ด็ก” เนื่องด้วยในปัจจุบันเดก็ ถูกเลีย้ งดูมาไม่เหมือนกัน เด็กบางคนถูกเลี้ยงดูมาแบบ ปล่อยปะละเลย เด็กบางคนถกู เลีย้ งดูมาแบบใส่ใจ และผู้จัดทำอยากศึกษาเกีย่ วกับบทบาทของพอ่ แม่ ในปัจจุบัน ดังนั้น จึงมีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องนำเสนอความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง เกี่ยวกับการอบรมเลยี้ งดเู ดก็ รายงานเล่มน้ีกล่าวถึงเน้ือหาเกี่ยวกบั ความหมาย ความสำคัญ ประเภท การอบรมเลี้ยงดู เด็ก เหมาะสำหรับผทู้ ่ีต้องการรับรู้ความเข้าใจเก่ียวกับการอบรมเล้ียงดูเด็ก และทราบแนวทางการ อบรมเลีย้ งดูเดก็ ขอขอบคุณผู้ช่วยศาตราจารย์ ดร. พนิดา สมประจบ ที่กรุณาให้ความรู้และคำแนะนำโดย ตลอด และขอขอบคุณบรรณารกั ษ์และเจ้าท่ีของสำนกั วิทยบรกิ ารและเทคโนโลยีสารสนสนเทศ และ ห้องสมดุ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ ที่ใหค้ วามสะดวกในการคน้ หาขอ้ มูล รวมไปถงึ ท่านเจ้าของ หนังสือ บทความ ที่ผู้เขียนใช้อ้างอิงทุกท่าน หามีข้อบกพร่องประการใด ผู้เขียนข้อน้อมรับไว้เพ่อื ปรบั ปรุงตอ่ ไป ปริศนา วงษ์อดุ ทา 14 ตลุ าคม 2564

ข สารบัญ หน้า ค คำนำ………………………………………………………………………………………………………………………. ก สารบญั ภาพประกอบ………………………………………………………………………………………………… ง บทท่ี 1 บทนำ………………………………………………………………………………………………………………. 1 1.1 ความหมายของการเลี้ยงดูเดก็ …………………………………………………………………… 2 1.2 ความสำคัญของการอบรมเล้ยี งดูเดก็ ………………………………………………………….. 2 1.3 ประเภทของการอบรมเลย้ี งดภู าพ……………………………………………………………… 3 2 รูปแบบการอบรมเลย้ี งดู……………………………………………………………………………………… 5 2.1 รูปแบบการเลย้ี งดูกับการกำกบั ตนเอง……………………………………………………….. 5 2.1.1 รูปแบบการเล้ยี งดแู บบเอาใจใส่…………………………………………………………. 5 2.1.2 รปู แบบการเล้ยี งดูแบบควบคมุ ………………………………………………………….. 5 2.1.3 รูปแบบการเลยี้ งดูแบบตามใจ…………………………………………………………… 6 2.1.4 รปู แบบการเลีย้ งดแู บบทอดทิ้ง………………………………………………………….. 6 2.2 รูปแบบการอบรมณ์เล้ียงดูกบั การปรบั ตวั …………………………………………………… 6 2.3 รูปแบบการอบรมณ์เลี้ยงดูกับพฤตกิ รรม…………………………………………………….. 6 2.4 รปู แบบการอบรมณ์เล้ียงดูกบั อารมณ์………………………………………………………… 7 2.5 รปู แบบการอบรมณ์เลย้ี งดูกบั อตั มโนทศั น์………………………………………………….. 7 3 วธิ ีการอบรมณเ์ ลยี้ งดูเดก็ ……………………………………………………………………………………. 10 3.1 การสร้างความผูกพันรักใคร่……………………………………………………………………… 10 3.1.1 การใหร้ างวัลดา้ นบวก……………………………………………………………………… 10 3.1.2 การควบคมุ สิง่ แวดล้อม…………………………………………………………………….. 10 3.1.3 การตอบสนองกลับ………………………………………………………………………….. 10 3.2 การอบรมณ์เลยี้ งดูเดก็ ทไี่ ม่เหมาะสม………………………………………………………….. 11 3.2.1 การส่ังสอนท่ไี มค่ วรเปน็ การเทศนา…………………………………………………….. 11 3.2.2 การดุดา่ ………………………………………………………………………………………….. 11 3.2.3 การพดู เสียดสี………………………………………………………………………………….. 11 3.2.4 การสญั ญา………………………………………………………………………………………. 11

ค สารบญั (ต่อ) บทท่ี หน้า 3.2.5 การตดิ สินบน………………………………………………………………………………….. 11 3.2.6 การหยอกหรือลอ้ เด็กในทางทไี่ ม่ด…ี …………………………………………………… 12 4 บทบาทของพอ่ แมใ่ นการอบรมณ์เลยี้ งดเู ด็ก………………………………………………………….. 13 4.1 การตอบสนองความต้องการพนื้ ฐานของเดก็ อยา่ งเพยี งพอ…………………………… 13 4.1.1 การสรา้ งสง่ิ แวดล้อมทสี่ ่งเสริมการพัฒนาการของเด็ก…………………………… 13 4.1.2 การยอมรบั ในสทิ ธขิ องความเปน็ คนของเด็ก……………………………………… 13 4.2 หนา้ ท่ีของพ่อแม่ ผปู้ กครอง…………………………………………………………………….. 13 4.2.1 การเลี้ยงดูให้ลูกเจริญเติบโตในสังคม………………………………………………….. 13 4.2.2 การอบรมและการใหก้ ารศึกษา…………………………………………………………. 13 4.2.3 การส่งเสริมความสนใจของลกู …………………………………………………………… 13 4.2.4 การสง่ เสรมิ พฒั นาการดา้ นสตปิ ญั ญา…………………………………………………. 13 4.2.5 การถ่ายทอดวฒั นธรรมทางสังคม……………………………………………………… 13 5 สรุป………………………………………………………………………………………………………………… 15 บรรณานุกรม……………………………………………………………………………………………………………. 17

ง สารบัญภาพประกอบ ภาพที่ หน้า 1. ประเภทของการอบรมเลย้ี งดู…………………………………………………………………………. 4 2. บทความการเล้ยี งด.ู .................................................................................................. 8 3. บทความการเล้ียงดู................................................................................................... 8 4. บทความการเลยี้ งด.ู .................................................................................................. 8 5. บทความการเลย้ี งดู................................................................................................... 9 6. บทความการเลย้ี งดู................................................................................................... 9 7. เลีย้ งลกู 4 สไตล์ เราเปน็ พอ่ แมแ่ บบไหนกัน?........................................................... 12

1 บทที่ 1 บทนำ เด็กเป็นรากฐานที่สำคัญของการพัฒนาประเทศ และเป็นต้นทุนทางสังคมที่มีความสำคัญ มากทส่ี ุดโดยเฉพาะเด็กปฐมวยั ซ่ึงเป็นช่วงวัยท่มี ีการพัฒนาทกุ ดา้ นสูงสดุ การอบรมเล้ียงดู และการ จัดการสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเจริญ เติบโตและการเรียนรู้ด้านต่างๆของเด็ก จะส่งผลให ้เกิด พฒั นาการทเ่ี ปน็ รากฐานของบคุ ลกิ ภาพ อปุ นิสัยและการเติบโตของสมองท่ีมีผลตอ่ สติปัญญา ท่ีดีมา จากการอบรมเล้ยี งดู ครอบครัว มีความสำคัญและมีอิทธิพลตอ่ ชีวิตของทุกคน เป็นสถาบันที่เล็กท่ีสุดและเป็น รากฐานที่สำคัญของสังคม มีบทบาทหน้าที่ในการหล่อหลอมและขัดเกลาความเป็นมนุษย์ให้แก่ สมาชิกของครอบครัวด้วยการอบรมเลี้ยงดู ให้ความรัก ความเอื้ออาทร ความช่วยเหลือเกื้อกูล พร้อมทั้งปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม ค่านิยม และถ่ายทอดวัฒนธรรมของสังคมให้แก่สมาชิกใน ครอบครวั การทำบทบาทหนา้ ท่ีของครอบครัวในการอบรมเลย้ี งดูเด็กใหด้ ี แต่ปัจจุบันครอบครัวไทยมีลักษณะทีห่ ลากหลายซึ่งเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของสังคม ตามกระแสโลกาภิวตั น์ โดยพบว่าครอบครัวมปี ัญหาที่หลากหลาย ได้แก่ ปัญหาสมั พนั ธภาพและการ สื่อสารในครอบครวั เปราะ บาง ต่างคนต่างอยู่มากขึ้น มีความเป็นปัจเจกชนและ พื้นที่ส่วนตัวสงู ข้นึ ปัญหาการใช้ความรุนแรงใน ครอบครัว และปัญหาการหย่าร้าง ซึ่งมีอัตราการ หย่าร้างสูงและมี แนวโน้มเพ่ิมขึน้ จากร้อยละ 1.73 ในปี พ.ศ. 2550 เปน็ ร้อยละ 2.21 ในปีพ.ศ. 2554 ปัญหา ของเด็ก อายุ0-17 ปีท่ีไม่ได้อย่กู บั พ่อแมเ่ พิ่มมากข้ึน จากร้อยละ 19.30 ในปพี .ศ. 2548 เป็นร้อยละ 22.80 ใน ปพี .ศ. 2543 และปญั หาที่สำคัญมากคือปัญหาการทำหนา้ ทขี่ องครอบครวั ขาดประสิทธภิ าพ เนื่องจาก มี การเปลี่ยนแปลงบทบาทหน้าที่ในการอบรมเลี้ยงดูเด็ก การอบรมปลูกฝังจริยธรรม คุณธรรม ค่านยิ ม การหลอ่ หลอมบุคลกิ ภาพและพฤติกรรมทพี่ ึงประสงค์ถกู ละเลย ดงั นัน้ การอบรมเลี้ยงดูเด็ก จึงมีความสำคัญอย่างมาก เพื่อให้เด็กเติบโตไปเป็นอนาคตของชาติที่ดี (ทัศนีย์ นาคุณทรง, 2556 : ออนไลน์)

2 1.1 ความหมายของการเล้ยี งดูเด็ก การเลี้ยงดูเด็ก(Upbringing)การเลี้ยงดูเด็ก หมายถึง การที่บิดา มารดา หรือบุคคลที่ เกี่ยวข้อง ในการเลี้ยงดูเดก็ ปฏิบัติต่อเด็กที่ยังไม่สามารถชว่ ยเหลือตนเองได้ ให้เจริญเติบโต และมี พัฒนาการทั้งด้านร่างกาย อารมณ์-จิตใจ สังคม และสติปัญญา ซึ่งผู้อบรมต้องอบรมด้วยความรัก ความเข้าใจและปรบั วธิ กี ารอบรมเลย้ี งดูเดก็ อย่างเหมาะสม ใหเ้ ขา้ กบั สภาพการเปลยี่ นแปลงของสงั คม เพื่อให้เด็กเติบโตเป็นคนดีสามารถเผชิญกับสภาพการณ์ของสังคม และอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นได้อย่างมี ความสุขวยั เด็กเปน็ วัยที่ต้องการการดูแลเอาใจใส่จากพ่อแม่ และถ้าเด็กได้รบั การอบรมเล้ียงดูด้วยวิธี ทีถ่ ูกต้องเหมาะสม เดก็ ก็จะเตบิ โตอย่างมีคณุ ภาพ มสี ขุ ภาพจติ และบุคลกิ ภาพท่ีดี เด็กแต่ละคนจะมี บุคลิกที่แตกต่างกันไป นิสัยต่างๆของเด็กเกิดจากสิ่งแวดล้อมและการอบรมเลี้ยงดูจากผู้ใหญ่ คุณ พ่อคุณแมท่ ุกคนย่อมหวังใหล้ ูกมีบุคลิกลักษณะที่เป็นที่ชื่นชอบของผู้พบเห็น สามารถเข้ากับเพ่อื นๆ และอาศยั อยใู่ นสงั คมได้อยา่ งมีความสขุ การอบรมเพื่อพัฒนาบุคลิกภาพของลูกนั้น คุณพ่อคุณแม่ ควรมีวิธีปฏิบัติต่อลูกด้วยความ เข้าใจ ควรให้ความรักความอบอุ่นกับลูกอย่างเหมาะสมและสม่ำเสมอทั้งความรู้สึก คำพูดและการ แสดงออกของคุณพ่อคุณแม่ควรมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันจะทำให้ลูกรู้สึกมั่นคง ปลอดภัยและมี อารมณ์ดี ส่วนวิธีที่จะสร้างพืน้ ฐานทางอารมณใ์ ห้ลูกสามารถปรับตัวเข้ากับคนอืน่ ๆ ได้ง่ายก็คอื การ ทำให้ลูกมีความรู้สึกท่ีดีกับทั้งตนเองและตอ่ ผู้อื่น โดยเริ่มที่คุณพ่อคุณแม่ควรยอมรบั ในสิ่งท่ีลูกเปน็ อยา่ พยายามเปรียบเทยี บความแตกต่างระหวา่ งลูกเรากับลูกคนอื่น ใหค้ ำชมเชยในโอกาสท่ีเหมาะสม และไม่ควรตำหนลิ ูกอยา่ งรนุ แรง ควรใช้วธิ อี ธิบายเหตุผลด้วยคำพูดท่ีไพเราะออ่ นโยน เพอ่ื ว่าลูกจะได้ นำไปปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วย การให้ความไว้วางใจให้ลูกทำอะไรตามวัย จะทำให้ลูกมีความเชื่อมั่นใน ตนเอง รวมทง้ั ใหโ้ อกาสลกู ไดต้ ดั สินใจในเรอื่ งที่สมควร โดยมีคุณพอ่ คณุ แมค่ อยช่วยเหลือในส่วนที่ลูก ตอ้ งการใหจ้ ะช่วยและใหค้ ำช่นื ชมเม่อื ลูกทำสำเรจ็ และที่สำคัญคณุ พ่อคณุ แมไ่ ม่ควรเครง่ ครดั กับลูกใน เรื่องการเรียนมากเกินไป การเปิดโอกาสให้ลูกได้ทำกิจกรรมที่ชอบจะทำให้ลูกเกิดความรอบรู้ผ่อน คลายและเป็นเด็กที่มีอารมณร์ ่าเริงแจ่มใส (การอบรมเลย้ี งดู, 2560 : ออนไลน์) 1.2 ความสำคัญของการอบรมเลยี้ งดูเด็ก การอบรมและเลี้ยงดูแก่เด็กปฐมวัยมีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากเด็กวัยน้ีต้องการ การเรียนรูใ้ นสิง่ แวดล้อมรอบๆ ตัว ผ่านประสาทสัมผัสท้ัง 5 ด้าน จากบิดา มารดา คนรอบข้างและ ส่งิ แวดลอ้ ม ซง่ึ จะส่งผลใหเ้ กิดพัฒนาการท่ีเป็นรากฐานของบุคลกิ ภาพ อุปนิสยั และการเจริญเติบโต ทั้งทางรา่ งกายและจิตใจ สมอง สตปิ ญั ญา ความสามารถ เพราะเด็กในช่วงต้งั แต่ปฏิสนธิในครรภ์แม่ จนถึง 4 ปี ระบบประสาทและสมองจะเจริญเตบิ โตในอัตราสูงสุด (ประมาณ 80 % ของผู้ใหญ่) การ

3 อบรมปลูกฝังสร้างเสริมพัฒนาการทกุ ด้านให้แก่เด็กปฐมวัยได้เจริญเติบโตเต็มศักยภาพในชว่ งอายุนี้ จะเป็นรากฐานท่ีดีจะให้เขาเติบโตเป็นเยาวชนและพลเมืองทีด่ ี เฉลียวฉลาด คิดเป็น ทำเป็น และมี ความสุข เดก็ ปฐมวยั จะมชี ีวิตรอดและเตบิ โตได้กด็ ว้ ยการพงึ่ พาพอ่ แม่ และผใู้ หญ่ทชี่ ว่ ยเลย้ี งดู ปกป้อง จากอันตราย หากผู้ใหญ่ให้ความรักเอาใจใส่ใกล้ชิด อบรมเลี้ยงดูโดยเข้าใจเด็กพร้อมจะตอบสนอง ความต้องการพนื้ ฐานทเี่ ปล่ยี นไปตามวัยได้อยา่ งเหมาะสมให้สมดลุ กนั ทั้งด้านรา่ งกาย จิตใจ อารมณ์ สติปัญญา และสังคมแล้ว เด็กจะเติบโตแข็งแรงแจ่มใส มีความมั่นคงทางใจ รู้ภาษา ใฝ่รู้ และใฝ่ดี พรอ้ มท่ีจะพัฒนาตนเองในขนั้ ต่อไป ให้เปน็ คนเก่งและคนดีอยูใ่ นสังคมได้อยา่ งเป็นสขุ และมีประโยชน์ และเด็กเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ อนาคตของประเทศชาติจึงขึ้นอยู่กับคุณภาพของเดก็ เด็กทีม่ คี วามสมบูรณ์ท้ังทางด้านร่างกาย จติ ใจ มีพัฒนาการในทุก ๆ ด้าน ท่ีเหมาะสมกบั วัย ไม่ว่าจะ เปน็ พัฒนาการทางด้านร่างกาย สตปิ ญั ญา อารมณ์ สังคมและจริยธรรม จะเปน็ ผู้ท่ีสามารถดำรงชีวิต อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขและเป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ (การอบรมเลี้ยงดูเด็ก. 2560 : ออนไลน์) 1.3 ประเภทของการอบรมเล้ยี งดูเด็ก ประเภทของการอบรมเลี้ยงดกู ็จะมีลักษณะทีแ่ ตกต่างกันไปการอบรมเลย้ี งดูสามารถ แบง่ ออกได้เป็นหลายประเภทตามลกั ษณะและการปฏบิ ตั ิ ตอ่ เดก็ ในท่ีน้ี การแบ่งประเภทของการ อบรมเลย้ี งดขู องนกั จิตวทิ ยาและผู้ท่ีวิจัยเกี่ยวกบั การอบรมเล้ียงดูทัง้ ในประเทศและต่างประเทศซึ่ งมี ความแตกต่างกนั ออกไป ดงั นี้ 1. ประเภทอบรมเลี้ยงดแู บบประชาธิปไตย (Democracy) หมายถงึ วธิ ีการอบรมเลี้ยงดู ของ พอ่ แม่ทท่ี ําให้เด็กรู้สึกว่าตนได้รบั การปฏบิ ตั ิด้วยความยตุ ธิ รรม ไม่ตามใจหรือเข้มงวด จนเกนิ ไป มี เหตผุ ล ยอมรับความสามารถและความคดิ เหน็ ตลอดจนให้ความรกั ความเอาใจใส่ เป็นกนั เอง และให้ ความร่วมมอื ตามโอกาสที่ เหมาะสม 2. การอบรมเล้ียงดูแบบเอาใจใส่ (Authoritative) เป็นการอบรมเล้ียงดูทีพ่ ่อแม่ ควบคุมสูง ให้เด็กทําตามที่พ่อแม่ตอ้ งการแต่มีการยอมรับในตัวเด็กสงู เช่นกัน มกี ารให้ความรัก ความอบอุ่น และ ให้เหตุผล 3. ประเภทอบรมเล้ียงดแู บบให้ความคมุ้ ครองมากเกินไป (Overprotection) หมายถึงวธิ กี าร อบรมเลี้ยงดูของพ่อแม่ที่ทําให้เด็กรู้สึกว่าตนเองไม่ได้อิสระเท่าท่ีควรไม่ได้ทําตามที่ต้องการหรือ ทํา อะไรด้วยตนเอง ต้องปฏบิ ัตติ ามระเบียบวนิ ยั ที่พ่อแม่กําหนดไว้ ถูกควบคุมและอยู่ในสายตา หรือถูก คมุ้ ครองป้องกันให้ความช่วยเหลอื ตลอดเวลา

4 4. ประเภทอบรมเล้ียงดูแบบใช้อํานาจควบคุม (Authoritarian) เป็นการที่พ่อแม่ใช้อํานาจ ในการอบรมเลี้ยงดูให้เด็กทาํ ตามความต้องการของตน ไม่มีการปรึกษาหารือกบั เดก็ แสดงความ ไม่ พอใจ ยอมรับเดก็ น้อย ไม่ไว้ใจ หา่ งเหิน ให้ความอบอุ่นนอ้ ยและลงโทษในระดบั สงู 5. ประเภทอบรมเลี้ยงดแู บบเขม้ งวดกวดขัน (Autocratic Rearing) หมายถงึ การอบรม เล้ียงดทู ี่เดก็ รู้สึกว่าบิดามารดาก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของตน ยับย้ังการก้าวร้าวทาํ ให้ตนเองรู้สกึ ผดิ เม่ือ แสดงพฤตกิ รรมท่ีไม่เหมาะสม ถูกบงั คับให้ทําตามความต้องการของบิดามารดาและบดิ ามารดา ใช้ คาํ พดู ทที่ ําให้ตนรู้สกึ อับอาย (รุ่งรัตน์ สขุ ะเดช, 2560 : ออนไลน์) ภาพท่ี 1 ประเภทของการอบรมเล้ยี งดู (รุ่งรัตน์ สขุ ะเดช, 2560 : ออนไลน์)

5 บทที่ 2 รปู แบบการอบรมเลย้ี งดู เดก็ จะเติบโตอย่างมคี ณุ ภาพชวี ติ และบคุ ลิกภาพเชน่ ใด จะเป็นคนดีมุ่งทำประโยชนต์ อ่ สังคม หรือเป็นคนด้อยคุณภาพ ส่วนหนงึ่ ยอ่ ขึ้นอย่กู ับสภาพครอบครวั และวิธกี ารอบรมเล้ียงดจู ากบุคคลใน ครอบครวั เปน็ สำคัญ เพราะนอกจากครอบครัวจะถ่ายทอดลักษณะทางพนั ธกุ รรมแล้ว ยังทำหน้าท่ี ดแู ลเด็กต้ังแตแ่ รกเกิดจนเตบิ โตพึง่ ตนเองได้ เป็นแบบอย่างหลอ่ หลอมความรสู้ กึ นกึ คดิ พฤติกรรม ตลอดจนจติ สำนึกของความเป็นมนุษย์ทส่ี มบูรณ์(วรี นชุ วงศค์ งเดช, 2547 : ออนไลน)์ 2.1 รูปแบบการอบรมเล้ยี งดูกับการกำกบั ตนเอง บิดา มารดาที่เลี้ยงดูแบบเอาใจใส่ ชี้แนะ ให้ความรัก ความอบอุ่น ให้ความอิสระ ภายในขอบเขตและต้งั กฎเกณฑ์ทเี่ ป็นเหตุเป็นผลจะช่วยส่งเสริมให้เด็กมี เปา้ หมายทางการเรยี นอย่าง ชัดเจน มีความรสู้ กึ วา่ ตนเองสามารถจดั การกบั เรอ่ื งเรยี นไดแ้ ละมคี วาม สามารถในการใช้กลวิธีต่างๆ ในการกำกับตนเอง เพ่ือบรรลเุ ปา้ หมายทางการเรยี นท่ีตั้งไว้ อันเป็นลกั ษณะสำคัญของบุคคลท่ีมีการ เรียนรแู้ บบกำกบั ตนเอง (วรี นชุ วงศ์คงเดช, 2547 : ออนไลน์) 2.1.1 รปู แบบการเลี้ยงดูแบบเอาใจใส่ รปู แบบการอบรมเล้ียงดแู บบเอาใจใส่ (Authoritative Parenting Style) คือ การ อบรม เลี้ยงดูที่บิดามารดาสนับสนุนให้เด็กมีพัฒนาการ ตามวุฒิภาวะของเด็ก โดยที่บิดามารดาจะ อนุญาต ให้เด็กมีอิสระตามควรแก่วุฒิภาวะ แต่ในขณะ เดียวกันบิดามารดาจะกำหนดขอบเขต พฤตกิ รรม ของเดก็ และกำหนดใหเ้ ดก็ เช่ือฟงั และปฏิบัติตาม แนวทางท่บี ิดามารดากำหนดไว้อย่างมี เหตผุ ล ถงึ แม้ บิดามารดาจะมกี ารเรยี กรอ้ งสงู แต่ในขณะเดียวกัน กใ็ หค้ วามรักความอบอุ่นและใส่ใจ ต่อเด็ก เปิด โอกาสให้เด็กเป็นตัวของตวั เอง รับฟังเหตุผลจากเดก็ และสนับสนุนใหเ้ ด็กมีส่วนรว่ มใน การคิดตัดสินใจ เรื่องต่างๆ ของครอบครัว พยายามใช้เหตุผลกับเด็ก แต่ไม่มีอำนาจในการ ควบคุม พฤติกรรมของเดก็ บดิ ามารดาจะให้ความรัก ความอบอุ่นและตอบสนองความตอ้ งการของเดก็ เสมอ 2.1.2 รปู แบบการอบรมเลี้ยงดูแบบควบคมุ รูปแบบการอบรมเล้ียงดูแบบควบคมุ (Authoritarian Parenting Style) คอื การ อบรม เลี้ยงดูที่บิดามารดามีความเข้มงวดเรียกร้องสูง แต่ ไม่ตอบสนองความต้องการของเด็กโดย สนิ้ เชงิ มกี ารจดั ระบบ การควบคุมและวางกฎเกณฑ์ใหเ้ ดก็ ปฏบิ ัติตามอยา่ ง เขม้ งวด โดยมีการอธบิ าย น้อยมาก หรือไมม่ เี ลย เด็กตอ้ งยอมรับในคำพดู ของบิดามารดาว่าเปน็ สิง่ ท่ี ถูกต้องเหมาะสมเสมอ มี

6 การใช้อำนาจควบคมุ โดย วธิ บี ังคับ และลงโทษเมอื่ เดก็ ไมท่ ำตามความคาดหวงั ของบิดามารดา บิดา มารดามกั ห่างเหนิ และปฏเิ สธ เด็ก 2.1.3 รูปแบบการเล้ียงดแู บบตามใจ รูปแบบการอบรมเลี้ยงดูแบบตามใจ (Permissive Parenting Style) คือ การ อบรมเลี้ยง ดูที่บิดามารดาปล่อยให้เด็กทำสิ่งต่างๆ ตามการ ตัดสินใจของเด็กโดยไม่มีการกำหนด ขอบเขต ใช้การ ลงโทษน้อย ไม่เรียกร้องหรือควบคุมพฤติกรรมเด็ก เด็กสามารถแสดงออกซ่ึง ความรู้สกึ และอารมณ์ ไดอ้ ย่างเปิดเผย บิดามารดาอาจใหค้ ำปรกึ ษาหรอื พยายามใช้เหตผุ ลกบั เดก็ แต่ ไม่มีอำนาจในการ ควบคุมพฤติกรรมของเด็ก บิดามารดาจะให้ความรัก ความอบอุ่นและตอบสนอง ความต้องการของเดก็ เสมอ 2.1.4 รูปแบบการเล้ียงดแู บบทอดทิ้ง รูปแบบการอบรมเลี้ยงดูแบบทอดทิ้ง (Uninvolved Parenting Style) เป็นการ อบรม เล้ยี งดทู ่บี ดิ ามารดาไมใ่ ห้ความสนใจหรอื ตอบสนอง ความต้องการของเดก็ ให้การดูแลเอาใจใส่ ตอ่ เด็ก นอ้ ยมาก บิดามารดากล่มุ นจ้ี ะเพิกเฉยตอ่ เดก็ พอๆ กบั ไม่เรียกร้องหรอื วางมาตรฐานพฤตกิ รรม ใดๆ ให้ เด็กปฏบิ ตั ิ ทั้งน้ีอาจเปน็ เพราะบิดามารดาปฏิเสธ เดก็ แตแ่ รก หรือหมกมุน่ อยู่กบั ปญั หา และ ความ กดดันในชวี ติ ประจำวันจนไมม่ ีเวลาดูแลเอาใจใส่เด็ก 2.2 รูปแบบการอบรมเล้ียงดูกบั การปรบั ตวั การอบรมเล้ียงดแู บบเอาใจ ใส่ มีความสัมพันธ์กับการปรบั ตัวที่ดีของเด็กและ วัยรนุ่ มากท่ีสุด ในขณะท่ีการอบรมเล้ียงดูแบบ ตามใจและแบบทอดท้ิงมีความสัมพันธ์กบั การปรับ ตวั ท่ไี ม่ดี กับเด็กและวัยรุ่นพฤติกรรมส่วนบุคคลของวัยรุ่นไทยในด้านการปรับตัว ด้านครอบครัว ความเฉลียว ฉลาดทางอารมณ์ และการเผชิญปัญหา โดยศึกษากับกลุ่มตัวอย่าง 1,316 คน เป็นนักเรียนช้ัน มัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 654 คน มัธยมศึกษาปที ี่ 6 จำนวน 662 คน จาก 5 ภูมิภาคของประเทศ ไทย ไดแ้ ก่ กรุงเทพมหานคร ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคใต้ และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผลการวิจัย พบว่าวัยรุ่นท่ี ได้รับการอบรมเล้ียงดูแบบเอาใจใส่ มีการปรับตัว ด้านครอบครัวได้ดกี ว่า มีการเผชญิ ปญั หาแบบมุ่ง จดั การปัญหามากกว่า และใชก้ ารเผชญิ ปัญหาแบบ หลกี หนีน้อยกว่าวยั รุ่นท่ีได้รับการ เลย้ี งดูแบบ ควบคุม แบบตามใจ และแบบทอดท้ิง 2.3 รูปแบบการอบรมเลีย้ งดกู ับพฤตกิ รรมทางสังคม การอบรมเล้ยี งดู ของบิดามารดามี 3 แบบ และแตล่ ะแบบมคี วาม สมั พนั ธก์ ับพฤตกิ รรม ทางสังคมของเด็ก เช่น บดิ า มารดาแบบเอาใจใส่ มีลูกทีม่ มี นุษย์สัมพันธด์ ี มี ทักษะทางสงั คม ให้ความ ร่วมมือกับผู้ใหญ่ มีความคิด ริเริ่มสร้างสรรค์ มีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิส์ ูง และ มีความเป็นผูน้ ำขณะทำ

7 กิจกรรมกลุม่ บิดามารดา แบบควบคุม มีลูกที่อารมณ์ไม่ค่อยดี โกรธง่าย ไม่ เป็นมิตร ขาดความคดิ ริเริ่ม ขาดความเป็นผู้นำ และบิดามารดาแบบตามใจ มีลูกที่ก้าวร้าว ไม่เป็น ตัวของตัวเอง และเมือ่ เปรียบเทียบระดับความ สามารถทางสงั คม (Social Competence) พบว่า เด็กที่มีบิดามารดาแบบ เอาใจใส่จะมีความสามารถ ทางสังคมในระดับสูง เดก็ ทม่ี บี ดิ ามารดาแบบ ควบคมุ จะมคี วามสามารถ ทางสังคมระดับปานกลาง และเดก็ ทมี่ ีบดิ ามารดาแบบตามใจจะมคี วาม สามารถทางสงั คมตำ่ และการ เรียน กลายเป็นเด็กทมี่ ีปญั หา พฤตกิ รรม เช่น ตดิ ยาเสพตดิ หรอื ทำผดิ กฎหมาย 2.4 รูปแบบการอบรมเล้ียงดกู บั อารมณ์ การอบรมเลี้ยงดูแบบเอาใจใส่ ส่งผลให้เด็กมีวุฒิภาวะและความมั่นคงทางอารมณ์ มี เหตผุ ล มคี วามหนักแน่น สามารถควบคุมอารมณ์ และปรับตัวได้ดี รวมไปถงึ มีความฉลาดทางอารมณ์ ดีกวา่ เด็กทไ่ี ดร้ ับการอบรมเล้ียงดูแบบอื่นนอกจากรูปแบบการอบรมเล้ียงดูจะสัมพันธ์ กับพัฒนาการ ทางอารมณ์ และความฉลาดทาง อารมณ์แล้ว ยังมีงานวิจัยที่ชี้ให้เห็นว่ารูปแบบการ อบรมเลี้ยงดู สัมพันธ์กับอารมณ์บางประเภท เช่น Wolfradt, Hemple, and Miles (2003) ศึกษาความสัมพันธ์ ระหว่างรูปแบบการอบรมเลย้ี งดูกบั ความวิตกกงั วล และพฤตกิ รรมในการจัดการความ วติ กกังวลของ นกั เรียน ผลการวจิ ัย พบว่า กลุม่ ทีไ่ ดร้ บั การอบรมเลย้ี งดแู บบควบคมุ มคี วามวิตกกงั วลสงู กว่ากลมุ่ ที่ ได้รับการเลย้ี งดแู บบเอาใจใส่ และแบบ ตามใจ Nijhof and Rutger (2007) ศึกษารูปแบบ การอบรม เลย้ี งดกู ับการจัดการกบั ปญั หา และการ แสดงออกเมื่อเปน็ โรคคดิ ถึงบ้านของวยั รุ่น ผลการ วจิ ัยพบว่า นักเรียนที่ได้รับการอบรมเล้ียงดแู บบ เอาใจใส่ และแบบตามใจจะมีประสบการณ์ในการ คิดถึงบ้าน โดยมีอารมณ์คิดถึงบ้านรุนแรงกว่า นักเรียนที่ได้รับการเลี้ยงดูแบบควบคุม และแบบ ทอดทิ้ง ใน ขณะเดยี วกันนักเรยี นเหล่านี้กม็ ักใช้วิธีที่ มปี ระสทิ ธภิ าพในการจัดการกับอารมณ์คดิ ถงึ บ้านได้ ดีกว่า นกั เรยี นท่ไี ดร้ ับการเล้ียงดูแบบควบคมุ และ แบบทอดทิง้ 2.5 รูปแบบการอบรมเลยี้ งดูกบั อัตมโนทศั น์ รูปแบบการอบรม เล้ียงดูสัมพันธก์ ับอตั มโนทัศน์ โดยการอบรมเล้ยี งดู แบบเอาใจใส่มี ความสมั พันธท์ างบวกกบั อัตมโนทศั น์ และการอบรมเลย้ี งดูแบบควบคมุ มีความสัมพนั ธ์ ทางลบกับอัต มโนทศั น์ศึกษาปจั จยั คัดสรร ทม่ี คี วามสมั พันธก์ บั อตั มโนทัศนข์ องวยั รุ่นตอนกลาง ผลการวิจัย พบว่า มีตัวแปร 3 ตัวจาก 6 ตัวแปรที่ สามารถอธิบายความสัมพันธ์ของปัจจัยทีเ่ ก่ียวข้อง กับอัตมโนทัศน์ ของวัยรุน่ ตอนกลาง คอื 1) การ ยอมรับของกลุม่ เพ่อื น 2) รปู ลกั ษณ์ทางกาย 3) ผล สัมฤทธ์ิทางการ

8 เรียน ส่วนอีก 3 ตัวแปรที่ไม่สัมพันธ์ กับอัตมโนทัศน์ของวัยรุ่นตอนกลาง คือ 1) เพศ 2) สถานะ เศรษฐกิจและสงั คม และ 3) รูปแบบ การอบรมเลย้ี งดู โดยเฉพาะในสว่ นของการอบรม เลี้ยงดู ภาพที่ 2 บทความการเลีย้ งดู (บทความการเลย้ี งดู, 2560 : ออนไลน์) ภาพที่ 3 บทความการเล้ยี งดู (บทความการเลย้ี งดู, 2560 : ออนไลน์)

9 ภาพท่ี 4 บทความการเลี้ยงดู (บทความการเลี้ยงดู, 2560 : ออนไลน์) ภาพท่ี 5 บทความการเล้ยี งดู (บทความการเลยี้ งดู, 2560 : ออนไลน์)

10 บทที่ 3 วธิ ีการอบรมเล้ียงดเู ด็ก การอบรม การแนะนำ สั่งสอนและอบรม ฝึกฝน ที่มุ่งให้เด็กประพฤติดี มีระเบียบ วินัย รู้จักควบคุมตนเองมีความรับผิดชอบเป็นต้น ส่วนการเลี้ยงดูหมายถึง การดูแลเพื่อ ตอบสนองความต้องการของเด็ก ท้ังกายและใจ โดยมงุ่ ให้เดก็ มีสุขภาพดี ร่างกายแข็งแรง ทุกระบบ ไม่มีโรค ไม่มีความพิการ อารมณ์แจ่มใส สติปัญญาเฉลียวฉลาด และมี ความสมั พันธ์อนั ดีกับบผอู้ ่ืน เปน็ ต้น (เพ็ญศรี พชิ ยั สนิธ, 2522 : ออนไลน์) 3.1 การสร้างความผูกพันรกั ใคร่ เป็นพื้นฐานสำคัญในการอบรมเลีย้ งดู พ่อ – แม่ ผปู้ กครองจะต้องเริ่มสรา้ งความ ผกู พันรักใคร่ให้เกิดขน้ึ ตั้งแต่เด็กยงั อยู่ในวยั แรกเกิด พอ่ แม่ ผ้ปู กครองได้สมั ผสั ลกู อยา่ ง ออ่ นโยน อมุ้ อยา่ งทะนุถนอม เลย้ี งดเู อาใจใส่ในการทำกจิ กรรมตา่ ง ๆ ให้กบั เด็ก ดแู ลความสุข สบายตา่ ง ๆ พดู คยุ กบั เดก็ ด้วยเสยี งที่นุม่ นวล เปน็ ต้น สิ่งนจี้ ะเป็นพนื้ ฐานท่จี ะช่วยให้การอบรมใน วัยเด็กไดผ้ ลดี อีกท้งั ยังเป็นการสร้างความผกู พนั รักใครใ่ หเ้ กดิ กบั เดก็ อีกด้วย 3.1.1 การใหร้ างวัลดา้ นบวก เป็นวิธที ่ีใช้ได้ผลอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเด็กได้กระทำพฤติกรรมที่พึงปรารถนา จะมีการให้รางวัลหรือส่ิงตอบแทน เช่น ความรัก ความสนใจ คำชมเชย ซึ่งจะทำให้การกระทำ น้ัน ๆ เกดิ ขน้ึ อกี 3.1.2 การควบคุมสง่ิ แวดลอ้ ม พ่อแม่ผู้ปกครองจะต้องจัดสิง่ แวดล้อมที่ทำให้เกิดพฤติกรรมที่พึงประสงค์ เชน่ การจดั ให้เลน่ เกมเพือ่ เดก็ จะได้รู้จักกฎเกณฑ์ และการร้แู พร้ ู้ชนะ การจดั หาหนังสือท่ี มปี ระโยชนอ์ ่านให้เด็กฟังเพอ่ื ให้เกดิ นสิ ัยรักการอ่าน เปน็ ตน้ 3.1.3 การตอบสนองกลับ เป็นการเปิดโอกาสให้เดก็ ได้พูดเพือ่ แสดงความรู้สึกของตนออกมาทั้งทางบวก และทางลบ เม่ือเด็กมีปัญหาพอ่ แม่ผปู้ กครองควรตัดสินใจฟงั เดก็ วา่ กำลงั พูดอะไร เมือ่ เดก็ พดู จบพ่อ

11 แม่ผู้ปกครองจะต้องสะท้อนความรู้สึกที่เด็กได้แสดงออกกลับไป ด้วยคำพูดของพ่อแม่ผู้ปกครอง เอง ซึ่งจะทำใหเ้ ดก็ ร้สู ึกว่าตนเองเป็นทย่ี อมรบั และมีคณุ ค่า อันจะส่งผลใหพ้ อ่ แม่ผู้ปกครองและเด็ก เขา้ ใจไดต้ รงกนั 3.2 การอบรมเลยี้ งดูเดก็ ทีไ่ มเ่ หมาะสม สิ่งแวดล้อมและการอบรมเลี้ยงดูลกู ตลอดจนทัศนคตขิ อง พ่อแมเ่ ป็นส่งิ ทมี่ คี วามสำคัญ ต่อพัฒนาการของลูกมาก ฉะนัน้ การที่เดก็ จะเตบิ โตขนึ้ มีบุคลกิ ภาพเช่นใดนนั้ นอกจากพนั ธุกรรมแล้ว การอบรมเล้ยี งดูเป็นอีกปัจจัยหนงึ่ ที่สำคัญมาก ถ้าเด็ก ถกู เล้ยี งเล้ียงดูมาอย่างถูกตอ้ งเหมาะสม ก็จะ ทำให้เขามีบุคลิกภาพที่ดีมกี ารปรบั ตัวต่อปัญหาต่างๆได้อยา่ งเหมาะสม มีอารมณท์ ี่มั่นคง แต่ในทาง ตรงข้าม ถ้าเด็กถูกเลี้ยงดูอย่างไม่ถูกต้องเหมาะสมก็จะทำให้เด็กมีพัฒนาการ ทางบุคลิกภาพที่ไม่ เหมาะสม ซ่ึงจะเป็นปญั หาต่อการปรับตวั และเปน็ ผลทำให้เกดิ ปญั หาทางสุขภาพจิตได้ง่าย 3.2.1 การส่ังสอนทไ่ี ม่ควรเปน็ การเทศนา เพราะจะทำใหเ้ ดก็ เบ่อื ไมส่ นใจใยดีทจี่ ะฟงั ดังน้ันในการอบรมเลีย้ งดูพอ่ แม่ ผู้ปกครองจะต้องสอนด้วยเหตผุ ลสั้น ๆ อย่างชดั เจนและเข้าใจง่าย 3.2.2 การดุด่า ไมค่ วรนำมาใช้เพราะจะทำให้เดก็ เกิดความร้สู กึ เกลียดพ่อ แม่ ผูป้ กครอง 3.2.3 การพดู เสยี ดสี เหนบ็ แนม หรอื ถากถาง ทีพ่ อ่ แมผ่ ู้ปกครองประสงค์ทำเพอ่ื ประชดหรอื ให้เด็กได้เจ็บ โดยหวังว่าเด็กจะมีพฤติกรรมที่ดีขึ้น แต่ในข้อเท็จจริงแล้วกลับกลายเป็นการทำลายสัมพันธ์ภาพ ระหวา่ งพอ่ แมผ่ ู้ปกครองกับเดก็ 3.2.4 การสญั ญา สมั พนั ธภาพระหวา่ งพอ่ แมผ่ ู้ปกครองและเดก็ ควรอยู่บนพ้นื ฐานของ ความ เชอื่ ถอื เชอื่ ใจซึง่ กันและกันไม่ใชก่ ารสัญญา 3.2.5 การตดิ สนิ บน จะทำให้เดก็ ทำดีเพียงชวั่ ครเู่ ท่านัน้ แต่ในระยะยาวแล้วจะไม่ได้ผล เพราะไมส่ ามารถ ติดตวั เด็กเปน็ นสิ ัยได้

12 3.2.6 การหยอกหรอื หลอกล้อ เดก็ ในทางทไี่ ม่ดี เพื่อหวังผลให้เด็กหยดุ พฤตกิ รรมทก่ี ำลงั ทำอยู่ หรือเพือ่ ความสนกุ สนาน นอกจากจะทำให้ เดก็ เกิดความรสู้ กึ กลวั โดยไรเ้ หตผุ ลแล้ว ยังเป็นการขดั ขวางความอยากรู้อยากเห็นของเดก็ อีกดว้ ย ภาพที่ 6 เล้ียงลกู 4 สไตล์ เราเป็นพอ่ แมแ่ บบไหนกัน? (เล้ียงลูก 4 สไตล์ เราเปน็ พ่อแม่แบบไหนกนั ?, 2563 : ออนไลน์)

13 บทที่ 4 บทบาทของพอ่ แม่ ในการอบรมเลีย้ งดูเดก็ ครอบครัวเป็นสถาบนั แรกทมี่ คี วามสำคญั ตอ่ การพัฒนาเด็กใหเ้ จริญเติบโตทั้งดา้ นรา่ งกาย และจติ ใจ ความสัมพนั ธ์ภายในครอบครวั ระหว่างพอ่ แม่ และลกู มคี วามสำคญั มาก แตล่ ะคนต่างมีบทบาทหนา้ ที่ ตอ้ งปฎิบัติเพอ่ื ใหม้ ีความสขุ ในการดำรงชวี ิตรว่ มกนั พ่อนบั ว่าเป็นบคุ คลสำคัญท่สี ดุ ในการนำ ครอบครัวไปสคู่ วามสขุ และมอี นาคตท่มี น่ั คง สว่ นแม่เปน็ ผใู้ ห้ความรักอย่างไมม่ ีเงอื่ นไขไมว่ า่ ลกู จะดี หรอื ช่วั อย่างไรก็มกั พรอ้ มท่ีจะให้อภยั อยู่เสมอ (อัจฉรา สขุ ารมณ์, 2544 : ออนไลน์) 4.1 การตอบสนองความต้องการพื้นฐานของเด็กอย่างเพียงพอ ซึ่งความตอ้ งการพื้นฐานของเด็ก แต่ละวัยไม่เหมือนกัน เด็กแรกเกิดจะมคี วามต้องการทางร่างกายมาก ดังนั้นพ่อแม่ควรดแู ลเรื่อง อาหารการกิน การนอน การขบั ถ่าย และเมอ่ื เด็กโตข้ึนควรให้ความม่นั คงปลอดภัย ความอบอุ่นและ ความรกั 4.1.1 การสรา้ งสิง่ แวดล้อมทสี่ ง่ เสรมิ การพฒั นาการของเดก็ ซ่งึ ได้แก่ การจัดใหเ้ ด็กไดพ้ บ กบั สงิ่ แวดลอ้ มที่เอ้อื อำนวยตอ่ การพัฒนาของเด็ก การเปน็ ตัวอยา่ งที่ดใี ห้เดก็ เลียนแบบ เป็นตน้ 4.1.2 การยอมรับในสิทธิของความเป็นคนของเด็ก การอบรมเลี้ยงดูเด็กของพ่อแม่ ผู้ปกครองมกั จะมี 2 แบบ 1) แบบอตั ตาธปิ ไตยหมายถงึ การทีพ่ อ่ แม่ผปู้ กครองใชก้ ฎเกณฑ์ตายตัวและทำทุก อย่างตามกฎเกณฑ์เด็กที่ทำผิดมักจะถูกลงโทษอย่างรุนแรงและ 2) แบบประชาธิปไตย คือ การ อบรมเล้ียงดูเดก็ อย่างมีเหตผุ ล ใหเ้ ดก็ มีสทิ ธเิ สรภี าพการยอมรบั ในสทิ ธคิ วามเปน็ คนของเดก็ 4.2 หน้าทข่ี องพอ่ แม่ ผู้ปกครอง ต้องการเหน็ เด็กเจริญเติบโตเปน็ ผู้ใหญ่ทีม่ ีอนาคตรุ่งเรือง มีความสุขและความสำเร็จ ในชีวิต ปัจจัยที่เป็นเหตุที่ทำให้เกิดผลดังกล่าวนั้นมีมากมายหลายประการด้วยกัน หากแต่ องค์ประกอบที่สำคัญยิ่ง คือ ครอบครัว เพราะไม่ว่าจะเชื้อชาติใด วัฒนธรรมหรือศาสนาใด การ เจริญเติบโตของเด็กทัง้ ทางรา่ งกายและจิตใจ ต่างก็มีรากฐานมาจากประสบการณ์ภายในครอบครัว ของตนเองทั้งส้ิน

14 4.2.1 การเลยี้ งดใู ห้ลูกเจริญเติบโตในสงั คม - การตอบสนองทางร่างกาย คือการให้อาหารตามหลักโภชนาการ การนอนหลับพักผ่อน การจัดหาเสื้อหา เครื่องนุ่งห่ม การออกกำลังกาย การฝึกหัด การขับถ่าย และการป้องกันโรคและ อุบตั เิ หตุ - การตอบสนองความต้องการทางจิตวิทยา คือ ความรัก ความอบอุ่น การยอมรับว่าเด็กคอื ส่วนสำคญั ของครอบครัว การเปน็ อสิ ระ เป็นตัวของตวั เอง 4.2.2 การอบรมและการใหก้ ารศกึ ษา การอบรมใหเ้ ดก็ ร้จู ักระเบยี บสังคม ประเพณีและวฒั นธรรม เพือ่ เด็กสามารถปรับตัวใน สังคมไดด้ ีการอบรมมารยาทของสังคม คอื การฝกึ มารยาทในการปฏบิ ัติตนให้เหมาะสมกบั เวลา สถานท่ี และมารยาทในการรับประทานอาหาร 4.2.3 การส่งเสรมิ ความสนใจของลกู จัดหาสื่อ วสั ดอุ ุปกรณ์ทล่ี กู มีความสนใจ เชน่ อุปกรณ์ระบายสี วาดรูป หนงั สอื นิทาน 4.2.4 ส่งเสริมพฒั นาการด้านสตปิ ัญญา - สง่ เสรมิ การคดิ และแกป้ ัญหาต่าง ๆ - ส่งเสรมิ ใหล้ กู มีความมนั่ ใจในตนเอง - สง่ เสรมิ ความคดิ รเิ ริ่มสรา้ งสรรค์ - ส่งเสรมิ ใหล้ ูกมีโอกาสทำในสงิ่ ที่สนใจ - ส่งเสรมิ ความรับผดิ ชอบในการทำงานตา่ ง ๆ - สง่ เสรมิ ให้ลกู รจู้ ักสงั เกต และความสนใจสิ่งต่าง ๆ ทอี่ ยู่รอบตัว - ส่งเสรมิ ทักษะทางดา้ นภาษาเพ่อื ใหม้ ีความพรอ้ มท่ีจะเรยี นรทู้ างภาษาต่อไป 4.2.5 การถา่ ยทอดวัฒนธรรมทางสังคม ส่งเสริมอบรมใหล้ กู เข้าใจในดา้ นวัฒนธรรมของชาติ และประเพณตี ่าง ๆ

15 บทท่ี 5 สรุป ปัจจุบันครอบครัวไทยมีลักษณะที่หลากหลายซึ่งเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของสังคมตาม กระแสโลกาภิวัตน์ โดยพบว่าครอบครัวมีปัญหาที่หลากหลาย ได้แก่ ปัญหาสัมพันธภาพและการ สื่อสารในครอบครัวเปราะ บาง ต่างคนต่างอยู่มากขึ้น มีความเป็นปัจเจกชนและ พื้นที่ส่วนตัวสงู ขน้ึ ปัญหาการใชค้ วามรุนแรงใน ครอบครัว และปัญหาการหย่ารา้ งดงั นัน้ การหล่อหลอมบุคลิกภาพและ พฤตกิ รรมทีพ่ งึ ประสงค์ถกู ละเลย จึงตอ้ งมกี ารอบรมเลยี้ งดู เพอ่ื ใหเ้ ด็กเติบโตไปเป็นคนดี การที่เด็กจะมีพัฒนาการที่ดีทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ ครอบครัวนับเป็นปัจจัยหนึ่ง ท่ีมี ความสําคัญเป็นอย่างยิ่งต่อพัฒนาการของเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิธีการที่บิดามารดาอบรมเล้ียงดู เด็กซ่ึงมอี ิทธิพลต่อแบบแผนพฤติกรรมของเดก็ ในปัจจุบันและศักยภาพของเด็กในอนาคตเพราะเด็ก จะถูกซึมซบั พฤตกิ รรมของผู้ปกครองตั้งแต่ยังเด็ก ผู้ปกครองจึงตอ้ งมกี ารอบรมเลี้ยงดูลูของตนให้ไม่ เลีย้ งแบบปลอ่ ยปะละเลย ไมเ่ ลย้ี งแบบบงั คับ เพราะจะทำใหล้ กู กลายป็นเด็กทีเ่ กบ็ กด ครอบครวั กต็ ้อง มีหน้าที่ดแู ลเด็กเพื่อให้เด็กเติบโตไปเป็นเด็กทีม่ ีคุณภาพเพราะการเล้ียงดูจะบง่ บอกลักษณะนิสยั ว่า เด็กคนนั้น มีลักษณะนิสัยแบบไหน มันก็ขึ้นอยู่กับการเล้ียงดขู องผู้ปกครองและครอบครัว เช่น การ อบรมเลยี้ งดูแบบใหค้ วามรกั ความอบอุ่นแบบประชาธิปไตย เปน็ การอบรมเล้ียงดูลูก ซ่งึ ได้แก่ ความรกั ความเอาใจใส่ ความเขา้ ใจ ตอ้ งใช้เหตุผลกบั ลกู ใหล้ ูก รู้สกึ วา่ ได้รับการปฏิบัติดา้ นความยตุ ิธรรม และไมใ่ ชเ้ พยี งแตใ่ ห้ความรกั อยา่ งเดยี ว ต้องใหค้ วามสำคญั แกล่ กู โดยถอื วา่ ลูกคือส่วนสำคัญต่อครอบครวั พ่อแต้องใหใ้ นสิง่ ทล่ี ูกต้องการจริง ๆ หลักการอบรมเล้ยี งดูแบบนพี้ อ่ แมจ่ ะทำไดค้ อื 1. พอ่ แม่ใหส้ ิทธิแกล่ ูกในฐานะเป็นส่วนหนึง่ ของครอบครวั ให้เขาเปน็ ตัวเองให้มากท่สี ุด จะตอ้ งไมค่ ดิ แทนลูก ฝึกให้เขาทำไดค้ ิดตัวเอง 2. พอ่ แม่มหี นา้ ท่ีใหส้ ่งิ ต่าง ๆ ตรงกบั พฒั นการตามความตอ้ งการเหมาะสม และความสามารถทาง ร่างกาย 3. พอ่ แมค่ วรตอ้ งเอาใจใส่ ต่อควาทคิดเห็นของลกู สนใจกจิ กรรมต่าง ๆ ของลูก ใหค้ ำแนะนำ สงิ่ เสรมิ และเฝ้าดูผลสำเรจ็ ในงานของลูกด้วยความตงั้ ใจและอดทน 4. พ่อแม่ควรมีเวลาใกล้ชดิ ลูก และทำตัวเป็นเพื่อนทดี่ ีของลกู ใหค้ ำแนะนำมากกว่าการออกคำสง่ั ให้ ทำ ควรเลี้ยงลกู แบบประชาธิปไตยไมใ่ ชเ่ ผดจ็ การ เพราะจะชว่ ยใหเ้ ด็กไดเ้ ติบโตอย่างมีอิสระตาม พัฒนาการขัน้ ต่างๆ

16 5. พอ่ แมค่ วรใช้แรงเสรมิ เปน็ ตัวสร้างบคุ ลิกภาพของเดก็ ตามท่ีตอ้ งการจะให้เดก็ เปน็ พ่อแม่จะตอ้ งเปน็ แบบอย่างโดยแสดงพฤตกิ รรมทีเ่ หมาะสมให้ลูกเห็นอย่างเดน่ ชัด 6. พ่อแม่ควรส่งเสริมความเปน็ คนมสี ุขภาพจติ ที่ดีใหแ้ ก่ลูก โดยให้อสิ ระแก่ลกู ควบคไู่ ปกับการมหี นา้ ท่ี และความรบั ผดิ ชอบ ทำใหท้ ั้งสองสงิ่ มคี วามสมดลุ กันขนึ้ ในตัวของลูก 7. พ่อแม่ควรจะใช้วิธกี ารลงโทษให้เหมาะสม ทฤษฏขี องโคเบอรก์ กลา่ วว่า เด็กอายุ 1-7 ปี การทำโทษ ทางกายยังใชไ้ ด้ดี เพราะทำใหเ้ กดิ การเรยี นรู้ การตเี ดก็ ควรตีเพราะส่งั สอนมิใชเ่ พราะโกรธ 8. การฝึกวินัยให้ลูกเป็นส่ิงจำเป็น ควรเร่มิ ทำในเม่ือลูกโตพอท่จี ะเข้าใจเหตุผล การยดั เยียดใหเ้ ดก็ มี ระเบยี บวินัยมากเกินไปในขณะท่ีเด็กยงั ไม่พร้อม จะเกดิ ผลเสยี มากกว่าผลดี เพราะจะทำให้เด็กตอ่ ตา้ น เอาแต่ใจ 9. พ่อแม่ควรสร้างสิ่งแวดล้อมที่กระตุ้นให้ลูกเกิดความอยากรู้อยากเห็นและเกิดความคิดริเร่ิม สร้างสรรค์ 10. พ่อแม่ควรชว่ ยใหล้ กู ได้เรียนรู้ทีจะอยกู่ ับผอู้ ืน่ อย่างมีความสขุ โดยเฉพาะในเด็กวัยเดยี วกนั เพ่ือให้ เดก็ ไดป้ รบั ตัวเข้ากับสงั คม และอย่ใู นสงั คมไดอ้ ยา่ งปกติสขุ ผลของการเล้ยี งลูกแบบประชาธิปไตย เด็กจะมีลักษณะ ดังนี้ - จะเปน็ คนเปดิ เผย เปน็ ตัวของตัวเอง มเี หตผุ ล - มีความรบั ผดิ ชอบ - มอี ารมณ์ขนั ร่าเรงิ แจ่มใส มองโลกในแงด่ ี - เรยี นรอู้ ะไร ๆ ได้อยา่ งรวดเร็ว - สามารถปรับตวั ไดด้ ี และกลา้ แสดงออกอยา่ งมน่ั ใจ - สามารถชว่ ยเหลือตนเองและแกไ้ ขปัญหาเฉพาะหน้าไดด้ ี - มคี วามเชอื่ มัน่ ในตนเองสูง - มีลกั ษณะของการเปน็ ผ้นู ำที่ดี - ให้ความร่วมมอื กบั ผูอ้ ื่นได้ดี มีความม่ันคงทางอารมณ์ - มีความเขา้ ใจตนเองสงู และรู้สกึ ว่าตนเองมีคุณค่า - ร้จู ักใช้เหตุผล เคารพสิทธิของตนเองและผู้อืน่ กล่าวโดยสรุป การอบรมเลี้ยงดู คือ การท่ีบดิ ามารดาปฏบิ ตั ิต่อเด็กท้ังทางวาจา และการกระทาํ โดย การให้ความรกั ความเอาใจใส่ ให้ความช่วยเหลอื คมุ้ ครอง สนองความต้องการ ทั้งทางด้านร่างกายและ จติ ใจ ตลอดจนให้การอบรมกล่อมเกลาพฤติกรรมต่างๆ เพอื่ อให้เดก็ ได้ดาํ รงชีวติ อยู่ในสังคมอย่างมี ความสุข

17 บรรณานุกรม “ การอบรมเลีย้ งดูเด็กปฐมวัย,” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงได้จาก : https://www.gotoknow.org/posts/337450, 2012. [สืบคน้ เม่อื 28 กรกฎาคม 2564]. “การอบรมเล้ยี งดเู ดก็ ปฐมวยั ,” [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ไดจ้ าก : http://6011201727.blogspot.com/2018/03/6-2561-8.html, 2561. [สืบค้น เมื่อ 28 กรกฎาคม 2564]. “ความหมายของการอบรมเลย้ี งดู,” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก : https://maywadeeblog.wordpress.com, 2015. [สืบค้น เมื่อ 28 กรกฎาคม 2564]. “ความหมายและความสำคัญของการอบรมเลีย้ งดเู ด็ก” [ออนไลน]์ . เขา้ ถงึ ไดจ้ าก : http://tazneempkt.blogspot.com/p/blog-page.html, 2557. [สืบคน้ เมอ่ื 28 กรกฎาคม 2564]. “ความสำคัญของการอบรมเลยี้ งดู,” [ออนไลน]์ . เข้าถงึ ได้จาก : https://sites.google.com/site/darigadeer/khwam-sakhay-khxng-kar-xbrm- leiyng-du-luk, 2564. [สบื ค้น เมือ่ 28 กรกฎาคม 2564]. “บทบาทของพอ่ แม่ในการอบรมเลี้ยงดู,” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก : https://www.slideshare.net/maykochan/1-h-65260276, 2016. [สบื คน้ เมื่อ 28 กรกฎาคม 2564]. “บทบาทของพ่อแม่,” [ออนไลน]์ . เขา้ ถงึ ไดจ้ าก : https://suphawadeesite.wordpress.com, 2533. [สบื ค้น เมอ่ื 28 กรกฎาคม 2564]. “รูปแบบการเลยี้ งดู,” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงได้จาก : https://www.parentsone.com/4-parenting-styles-by-diana-baumrind, 2561. [สบื ค้น เมื่อ 28 กรกฎาคม 2564]. “วธิ กี ารอบรมเลย้ี งดู,” [ออนไลน]์ . เข้าถึงไดัจาก : http://panoo-uuu.blogspot.com/2011/05/blog-post.html, 2554. [สืบค้น เมอ่ื 28 กรกฎาคม 2564].

18 “หลกั ในการเล้ียงลูก,” [ออนไลน์]. เข้าถึงไดจ้ าก : http://satitapp.kus.ku.ac.th/guidance/story- 4.html, 2550. [สบื คน้ เมอ่ื 28 กรกฎาคม 2564].


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook