แบบรายงาน นวัตกรรม “การจัดการเรียนรู้หลักการเขียนโปรแกรม (Coding) ผ่านเกมส์”

โรงเรยี นเตรยี มอดุ มศึกษาพฒั นการ นนทบุรี สานกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศึกษามธั ยมศึกษา นนทบรุ ี www.Code.org แบบรายงานนวัตกรรม การจดั การเรยี นรหู้ ลกั การเขยี น โปรแกรม (Coding) ผา่ นเกมส์ นายวริ ตั น์ พมิ พา ครู ชานาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

1ก คำนำ นวตั กรรม “การจดั การเรยี นรูห้ ลกั การเขยี นโปรแกรม (Coding) ผา่ นเกมส์” เปน็ นวตั กรรมทีค่ ิดคน้ และพฒั นาขนึ้ เพื่อใช้แก้ปัญหาการจดั การเรยี นการสอน รายวิชา ทักษะเชงิ คำนวณ(Coding) ให้มีประสทิ ธภิ าพ เพิ่มมากข้นึ ซง่ึ จากการจัดการเรยี นการสอน ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2564 ซ่ึง เปน็ ชว่ งท่ีเรยี นออนไลน์ สามารถแก้ปญั หาได้เป็นอยา่ งดี เปน็ ทีน่ า่ พอใจ ขอขอบคุณ ผู้บริหาร และบุคลากร โรงเรยี นเตรยี มอดุ มศึกษาพัฒนาการ นนทบุรี และ ผมู้ สี ว่ นเกยี่ วขอ้ งทุกท่าน ท่ีให้ความรว่ มมอื ในการขบั เคลื่อน นวัตกรรมจน ประสบความสำเร็จ หวงั เป็นอย่างยิง่ ว่า นวัตกรรม “การจัดการเรียนรู้หลกั การเขยี นโปรแกรม (Coding) ผ่านเกมส์” จะเป็นประโยชนผ์ ู้ที่สนใจในการนำไปประยุกต์ใชเ้ พ่อื แกป้ ัญหาการจดั การเรยี นการสอน ของครู ต่อไป ( นายวริ ัตน์ พิมพา ) ครู ชำนาญการพเิ ศษ โรงเรียนเตรยี มอดุ มศึกษาพัฒนาการ นนทบุรี

สารบญั 2ข เรอ่ื ง หนา้ คำนำ ก สารบัญ ข ความสำคัญของนวตั กรรม 1 วตั ถปุ ระสงค์ 1 กลุม่ เปา้ หมาย 1 หลักการ แนวคดิ ทฤษฎี 1 ขั้นตอนการดำเนนิ งาน /การออกแบบหรือพฒั นานวตั กรรม 2 ผลสำเรจ็ ของการสร้างหรือพฒั นานวตั กรรม 4 แนวทางการนำนวตั กรรมไปใช้ 4 การเผยแพร่นวตั กรรม 4 บรรณานุกรม 4 ภาคผนวก 5-25

1 แบบรายงานนวตั กรรม เรอ่ื ง การจัดการเรยี นรู้หลักการเขียนโปรแกรม (Coding) ผา่ นเกมส์ สำนักงานศกึ ษาธกิ ารจังหวัดนนทบุรี 1. ชื่อนวตั กรรม การจัดการเรยี นรู้หลักการเขียนโปรแกรม (Coding) ผ่านเกมส์ ระดับชั้น มัธยมศกึ ษาปท่ี 1 2. ชอ่ื -นามสกุล นายวริ ตั น์ พมิ พา ตำแหนง่ ครู วทิ ยะฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ 3. โรงเรียน เตรยี มอุดมศึกษาพัฒนาการ นนทบรุ ี สังกดั สำนกั งานเขตพน้ื ที่การศกึ ษามธั ยมศึกษา นนทบุรี E-mail address: [email protected] เบอรม์ ือถอื 089-9255018 4. ความสำคญั ของนวัตกรรม ปัจจุบนั การจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด 19 เปน็ การจดั การเรยี นรู้ ออนไลน์ และออนไซต์ควบคกู่ ัน หรือในบางครง้ั ต้องสอนออนไซต์เพียงอยา่ งเดยี ว พบปญั หาในการจดั การ เรยี นรู้ สาเหตุหน่งึ มาจากการปฏิสัมพนั ธร์ ะหวา่ งครผู ู้สอนกบั นกั เรยี น ระหว่างการเรียนการสอนนกั เรียนอาจ ไม่เข้าใจและยังไมม่ ีโอกาสลงมือปฏบิ ัติในขณะนั้น อาจจะเนือ่ งจากยังไมม่ ีเครอ่ื งมือ อุปกรณ์ หรือแม้แต่ไมไ่ ด้ อยู่ในสถานทท่ี ่ีเหมาะสมกับการเรียนรู้ ทำใหน้ กั เรยี นไมส่ ามารถทำกจิ กรรมการเรียนรไู้ ด้ ครผู ู้สอนจึงเห็น ความสำคัญของสือ่ การเรยี นรทู้ ี่สามารถเรียนได้ทุกทที่ กุ เวลา ซึง่ สอ่ื รูปแบบเว็บไซตส์ ามารถนำไปใช้ประโยชน์ ในการจัดการเรียนรใู้ นสถานการณ์นี้ได้ การจดั การเรยี นรู้ Coding เป็นเร่อื งของนามธรรมยากแก่การเขา้ ใจของนักเรียนช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 จึงตอ้ งพยายามหากิจกรรมท่เี ป็นรูปธรรมเพ่ือใหเ้ กิดความเข้าใจท่งี า่ ยขึ้น ครูผู้สอนคน้ พบว่าการเลน่ เกม เชน่ Minecraft เป็นการสอนวาง Logic ของ Redstone ในเกมสร้างระบบใหเ้ ด็กสนใจได้ ครูผสู้ อนจงึ สนใจทีจ่ ะใช้ เกมสเ์ ปน็ สือ่ ในกจิ กรรมการเรียนรู้ ดังนั้น จงึ ได้สนใจพัฒนารปู แบบการจัดการเรียนรูอ้ อนไลน์ผา่ นเกมส์ ซึง่ สามารถทำได้ทกุ ที่ และสามารถใชอ้ ุปกรณเ์ ครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ แทบเลต็ หรือสมาร์ทโฟน ในการฝึกปฏบิ ัติ เพ่อื ใหผ้ ู้เรยี นเกิดการเรียนร้ไู ด้ 5. วัตถปุ ระสงค์ 5.1 เตรยี มความพรอ้ มด้านตรรกะ และทกั ษะการแก้ปญั หา 5.2 สร้างเสรมิ ทกั ษะการเขียนโปรแกรมพื้นฐาน 5.3 จุดประกายความคดิ สรา้ งสรรและสร้างแรงบนั ดาลใจผา่ นเกมส์ 6. กลมุ่ เปา้ หมาย ประชากร/กลมุ่ ตัวอย่าง นกั เรยี นช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 หอ้ งเรียน ITP จำนวน 36 คน 7. หลักการ แนวคดิ ทฤษฎี Coding คือการเขียนโปรแกรมในคอมพิวเตอร์หรอื เครอื่ งมือใดๆ ท่ีสามารถทำงานตามคำสัง่ ได้ หรอื สามารถทำงานตามหลกั ตรรกศาสตรไ์ ด้ สิ่งทเี่ ปน็ ประโยชนข์ องการฝกึ เขียนโปรแกรม Logic คอื การจัดลำดับทางความคดิ กอ่ นหลงั การฝกึ การจัดลำดับทางความคิดไม่จำเปน็ ต้องในคอมพวิ เตอรก์ ไ็ ด้ แต่ต้อง ออกแบบส่อื ให้สามารถเห็นผลลัพธข์ องการตดั สนิ ใจต่าง ๆ ได้ สอนให้รจู้ กั ผิด ผิดแล้วตงั้ คำถามวา่ ทำไม เรียนรู้ จากความผิดพลาดของการเขยี นโปรแกรม เรียนรู้จนไม่รสู้ ึกวา่ Error คอื ศัตรูหรือความผิดพลาดแต่เปน็ การฝึก การลำดบั ทางความคิด Coaching คอื การช้ีแนวทางเพื่อใหค้ นท่มี ีประสบการณ์หรอื โค้ชสามารถสนบั สนุนใหผ้ ู้เรียนบบรรลุ เปา้ หมายทางชวี ิตหรือทางการงานได้ การโค้ชช่ิงทำให้ผถู้ ูกโค้ชสามารถเห็นปญั หาและโอกาสทต่ี ัวเองไมเ่ คยคดิ

2 มาก่อน ซ่งึ เปน็ จุดเร่มิ ต้นของการเปลย่ี นแปลงทีด่ ีขนึ้ เน่ืองมาจากบรบิ ทในปัจจบุ นั ผู้เรียนสามารถเข้าถงึ ความรู้ ตา่ งๆ ผา่ นอุปกรณเ์ ทคโนโลยดี ิจิทัลไดด้ ว้ ยตนเอง ประกอบกับมคี วามรู้ใหม่เกิดขน้ึ อยา่ งรววดเรว็ และต่อเนอื่ ง ประกอบกบั ความหลากหลายของผ้เู รียนในดา้ นวธิ ีคิด วิธีการเรียนรู้ ลกั ษณะนิสยั ระดับความสามารถท่ี แตกตา่ งกัน ทำให้ผู้สอนไม่สามารถนำความรมู้ าถ่ายทอดใหก้ ับผเู้ รียนได้อกี ต่อไป อกี ท้งั ผูเ้ รียนยังตอ้ งได้รบั การ พฒั นาใหม้ ีทกั ษะการคิดข้ันสูง (higher-order thin king) มที กั ษะการเรยี นรู้ และการสร้างสรรค์นวตั กรรม เพอ่ื ให้สามารถประกอบอาชพี และดำรงชวี ิตอยู่ได้อยา่ งมีคณุ ภาพ เปน็ ปัจจัยที่ทำใหผ้ ู้สอนต้องเปล่ียนบทบาท จากการสอนหรือการถา่ ยทอดความรู้มาเป็นโค้ช เป็นโคช้ ของผู้เรียน (teacher as the coach) เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียน พฒั นาตนเองเต็มตามศักยภาพ การโค้ชเปน็ วิธีการพัฒนาผเู้ รียนใหส้ ามารถเรยี นรู้และพัฒนาไดด้ ้วยตนเอง บทบาทการโค้ชมหี ลายประการ เชน่ การสรา้ งความไวว้ างใจ (trust) การสร้างบรรยากาศทเี่ ออ้ื ต่อการเรยี นรู้ การสรา้ งปฏิสัมพันธท์ ดี่ ีกับผเู้ รียน การเสรมิ สร้างกระบวนการทางความคดิ เพ่อื การเตบิ โต (Growth mindset) การกระต้นุ ใหผ้ เู้ รยี นกำหนดเป้าหมายและวธิ ีการเรยี นรูข้ องตนเอง การใชพ้ ลังคำถามกระตุ้นการคิดขั้นสูง การสร้างแรงจงู ใจ การสรา้ งแรงบนั ดาลใจ การสร้างความเชอื่ มั่นในความสามารถของตนเอง การติดตาม ความก้าวหนา้ ทางการเรยี นรู้ การให้คำแนะนำช้ีแนะ การส่งเสรมิ สนับสนนุ การกระต้นุ ให้จดั การตนเอง การ เปิดโอกาสใหป้ ระเมนิ ตนเอง การกระต้นุ ใหป้ รับปรงุ และพฒั นาตนเอง การประเมินเพ่อื พฒั นาการเรียนร้ขู อง ผูเ้ รียน การใหข้ อ้ มูลยอ้ นกลับอยา่ งสรา้ งสรรค์ ทำให้สามารถเหน็ โอกาสหรอื ปัญหาท่ีตัวเองอาจไมเ่ คยคดิ มา ก่อน ทำให้สามารถต้ังเป้าหมายในมุมมองตา่ งๆของชีวติ เชน่ การทำงาน การใช้ชวี ิต งานอดเิ รก ทำให้เหน็ ทศิ ทางในการเดินตามเปา้ หมายไดง้ า่ ยขึ้น www.code.org เปน็ เว็ปไซด์ไมแ่ สวงผลกำไรสัญชาตอิ เมรกิ ัน เปน็ องค์กรระดบั โลกที่มีเป้าหมาย ชัดเจนเพ่ือสนบั สนุนการศึกษาด้าน Computer Science (วทิ ยาการคอมพิวเตอร์) เป็นการใหโ้ อกาสนักเรยี น ทุกคนทว่ั โลกไดเ้ รียน โดยเฉพาะเด็กขาดโอกาสในหลายๆ โรงเรียน และโครงการขององค์กรทห่ี ลายๆ คนนัน้ น่าจะคุ้นช่ือมากทีส่ ุดกค็ อื “Hour of Code” (หนง่ึ ช่ัวโมงกบั การเขียนโปรแกรม) ซึ่งเป็นโครงการทจ่ี ะชว่ ยฝึก ใหท้ ุกคนได้ฝกึ เรยี นเขียนโปรแกรมแบบง่ายๆ ไม่ว่าจะเปน็ เดก็ นักเรียน นกั ศึกษา ผู้ปกครอง และบคุ คลทวั่ ไป เน่ืองจากผู้กอ่ ตั้ง code.org เชื่อวา่ การเรียนรูด้ ้านคอมพิวเตอรน์ ้ันมคี วามสำคญั อย่างย่งิ กบั เดก็ ๆ และควรจะ ใหเ้ ด็กได้ศึกษาเชน่ เดียวกับวชิ าพืน้ ฐานอยา่ งคณิตศาสตร์ หรอื วทิ ยาศาสตร์ จีงได้พยายามหาวิธที ่จี ะทำให้เดก็ ๆ หรอื ผ้ใู หญ)่ มาสนใจการเขยี นโปรแกรมผา่ นทาง code.org ทางองค์กรนั้นได้รับการสนับสนนุ จากหลายภาค สว่ น เชน่ Microsoft, Facebook, Google, Apple, Amazon, Disney เป็นต้น 8. ขนั้ ตอนการดำเนินงาน /การออกแบบหรือพฒั นานวตั กรรม 8.1 ขนั้ วเิ คราะห์ (Analysis) 1. วิเคราะหเ์ น้ือหา Coding กำหนดขอบข่ายให้ครอบคลุมตัวชวี้ ดั 2. เขา้ ศกึ ษาใน www.code.org เพ่ือเรียนรู้ วิเคราะหเ์ นื้อหา จุดประสงค์ในแตล่ ะเรอ่ื ง 3. พิจารณาลำดับการเรยี นรู้ ลกั ษณะของความยากง่ายและรายละเอียดของเน้อื หา 8.2 ขั้นออกแบบ (Design) 1. เลือกหลกั สูตรทเ่ี หมาะสมกับระดับอายุ ความรู้พน้ื ฐานของผ้เู รียน 2. เลือกหลกั สูตร https://studio.code.org/s/course3 และซึง่ เรียงลำดับการเรียนรู้ ลักษณะของ ความยากง่ายของเนือ้ หาไว้เหมาะสมกับระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 1

3 8.3 ขั้นการพัฒนา (Development) สรา้ งเว็บไซต์เว็บไซต์ https://sites.google.com/tpn.ac.th/wiratpimpa วิชาทักษะเชิงคำนวณ (Coding) โดยมีลำดบั ขัน้ ตอนการสร้างดังน้ี 1. เตรียมเน้อื หาเปน็ หน่วยการเรยี นรู้ 2. สร้างลิงก์ไปยงั คอรส์ เรยี นรู้ 3. รวมรวมส่อื วิดโี อการประกอบการเรยี นรู้ 4. สร้างลงิ ก์ไปยังวิดีโอ ทีจ่ ะใช้ประกอบการเรียนรู้ 5. ทำแผนการจัดการเรียนรู้ แยกเปน็ 8 หนว่ ยการเรยี นรู้ ไดแ้ ก่ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 การคิดเชงิ คำนวณ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 การเขยี นโปรแกรมการทำงานแบบลำดับ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 การเขยี นโปรแกรมการทำงานแบบวนซำ้ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4 การเขยี นโปรแกรมการทำงานแบบฟังกช์ ัน หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 5 การเขยี นโปรแกรมการทำงานแบบเงือ่ นไข หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 6 การเขียนโปรแกรมการทำงานแบบลูปซอ้ นลปู หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 7 การเขยี นโปรแกรมการทำงานแบบ While loops หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 8 Challenge 6. สร้างสื่อ PowerPoint ประกอบการเรียนการสอนของแตห่ น่วยการเรยี นรู้ 7. สร้างแบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น 8.4 ขัน้ การนำไปใช้ (Implement) จัดการเรียนรู้ตามแผนแผนการจัดการเรียนรู้รายวชิ า ทกั ษะเชิงคำนวณ (Coding) รหัสวชิ า ว21219 มีขน้ั ตอนดงั น้ี 1. ให้ความรู้ความเขา้ ใจหลกั การคดิ เชิงคำนวณในหน่วยการเรียนร้ทู ่ี 1 2. แนะนำเว็บไซต์ www.cord.org ให้นกั เรยี นเข้าไปลงทะเบียน และขน้ั ตอนในการใชง้ าน 3. แนะนำเวบ็ ไซต์ https://sites.google.com/tpn.ac.th/wiratpimpa เพือ่ ใหน้ ักเรียนเขา้ ไปศกึ ษา ขัน้ ตอนการลงทะเบียนและเปน็ เคร่ืองมือชว่ ยในการเรียนรู้ 4. จัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 2 -7 มขี น้ั ตอนดงั ต่อไปนี้ - กำหนดโจทย์ปญั หาตัวอย่างจากเกมส์ - ครแู ละนกั เรียนทำใบกิจกรรมผ่านด่านโดยใช้ทักษะคดิ เชิงคำนวณทง้ั 4 องค์ประกอบ ร่วมกัน - นกั เรียนเขียนโปรแกรมแบบ block programming ตามข้ันตอนทีว่ างไวใ้ น Flowchart - นกั เรียนศกึ ษาด้วยตนเองตามบทเรียนท่ีครูกำหนด - นักเรียนทำใบกจิ กรรมผ่านด่านโดยใชท้ ักษะคิดเชิงคำนวณทง้ั 4 องค์ประกอบ ตามทค่ี รู มอบหมาย - จัดกจิ กรรมการเรยี นรู้จนถึงหนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 7 5. จัดกจิ กรรมหน่วยการเรียนร้ทู ่ี 8 นักเรียนท้าทายตนเองด้วยการฝกึ ปฏิบตั บิ ทเรยี นต่างๆ จนผา่ น เป้าหมายทก่ี ำหนดไว้ 8.5 ขน้ั การประเมนิ ผล (Evaluation) 1. เก็บคะแนนจากความคืบหน้าในการเรียนรู้และใบกิจกรรมผ่านด่านโดยใชท้ ักษะคดิ เชิงคำนวณ 2. ทดสอบหลังเรียนจากแบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียน แบบอัตนยั จำนวน 20 ขอ้

4 9. ผลสำเรจ็ ของการสรา้ งหรือพฒั นานวัตกรรม 9.1 นักเรยี นมคี วามพงึ พอใจในการจดั กจิ กรรมการเรยี นหลกั การเขียนโปรแกรมผ่านเกมส์ในระดับมากท่ีสุด 9.2 นกั เรียนรอ้ ยละ 83.33 มผี ลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นวชิ าทักษะเชงิ คำนวณ (Coding) ว21219 ในระดบั ดี มาก 9.3 ครูมีแนวทางในการพฒั นาและปรบั ปรงุ การจัดการเรียนร้กู ารเรียนโปรแกรม (coding) สำหรบั นักเรียน ในปีการศึกษาต่อไป 10. แนวทางการนำนวัตกรรมไปใช้ 10.1 สามารถนำรปู แบบการจัดการเรียนรู้หลักการเขยี นโปรแกรมผา่ นเกมสไ์ ปใชไ้ ด้ทงั้ ในลกั ษณะการ จัดการเรยี นรู้ออนไลนแ์ ละในห้องเรียน 10.2 ผู้สอนควรเป็นโค้ชไม่ใช้การสอนแบบสาธิต กระตุ้นให้ผเู้ รยี นกำหนดเป้าหมายและวธิ กี ารเรยี นรูข้ อง ตนเอง 10.3 ใหน้ ักเรียนที่เรยี นรู้ไดเ้ ร็วเป็นผูแ้ นะนำ ช่วยเหลือนักเรยี นที่เรียนรู้ได้ชา้ กวา่ 10.4 เปิดโอกาสให้นกั เรียนแสดงความคดิ เห็นร่วมกัน สรปุ การเรยี นรู้ ในคาบเรยี นก่อนหรือหลงั การ เรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง 10.5 ผู้สอนควรสรา้ งบรรยากาศท่ีเอื้อตอ่ การเรยี นรู้ การสรา้ งปฏิสมั พนั ธ์ท่ดี ีกบั ผูเ้ รยี นและการสร้าง ปฏิสมั พันธท์ ด่ี รี ะหวา่ งผเู้ รียน 11.การเผยแพร่นวัตกรรม https://sites.google.com/tpn.ac.th/wiratpimpa 12. อา้ งอิง การโค้ชเพื่อพฒั นาศกั ยภาพผ้เู รียน. ดร.วิชัย วงษ์ใหญ่ และ ดร.มารุต พฒั ผล. บนั ฑติ วทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ, 2562. คูม่ ือการเรยี นการสอนหลักสูตรการเรยี นโปรแกรมเบอื้ งตน้ . โครงการ Microsoft YouthSpark https://www.youtube.com/c/MuhammadAlicode www.code.org

5 ภาคผนวก ตวั อย่าง แผนการจดั การเรียนรู้

6

7

8

9

10

11

12 ตัวอยา่ ง เว็บไซต์ https://sites.google.com/tpn.ac.th/wiratpimpa

13

14 ตวั อยา่ งสื่อประกอบการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๒ การเขยี นโปรแกรมการทำงานแบบลำดบั

15 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๓ การเขียนโปรแกรมการทำงานแบบวนซ้ำ

16 หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๔ การเขยี นโปรแกรมการทำงานแบบฟังก์ช่นั

17 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๕ การเขยี นโปรแกรมการทำงานแบบเง่ือนไข หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี ๕ การเขยี นโปรแกรมการทำงานแบบลปู ซอ้ นลปู

18 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๕ การเขยี นโปรแกรมการทำงานแบบลปู ขณะที่ (while loops)

19 ตวั อย่าง ภาพการจัดกิจกรรม

20

21 ตัวอยา่ งแบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี น

22 ตัวอย่างแบบประเมินสอื่ การเรยี นรู้

23

24 ผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี น จำนวนนกั เรยี น 36 คน จำนวนนักเรียน 35 30 30 25 20 15 10 5 5 00010 000 0 เกรด 4 เกรด 3.5 เกรด 3 เกรด 2.5 เกรด 2 เกรด 1.5 เกรด 1 เกรด 0 เกรด ร เกรด มส จำนวนนกั เรยี น ผลงานนักเรยี น

25