Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore FINAl_กมลธิดา

FINAl_กมลธิดา

Published by กมลธิดา ทับทอง, 2021-01-27 12:24:37

Description: FINAl_กมลธิดา

Search

Read the Text Version

1

2 เป็ นพระมหากรุณาธิคุณล้นพ้นอย่างหาทสี่ ุดไม่ได้ ของ “พระบาทสมเดจ็ พระ ปล้นรมหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช” ทพ่ี ระองค์ทรงงานอย่างหนัก เพอื่ พฒั นาคณุ ภาพ ชีวติ ให้กบั ปวงชนชาวไทย ผ่านสี่พนั กว่าโครงการ ตลอดการทรงครองราชย์ ของพระองค์ซ่ึง “เกษตรทฤษฏใี หม่” คือหน่ึงในโครงการพระราชดารที่ พระองคี์ รงวางแนวีางใหก้ บั เกษตรกรทโดยม “โครงการพฒั นาพนื้ ทบี่ ริเวณ วดั มงคลชัยพฒั นา อนั เน่อื งมาจากพระราชดาริ” ี่ตดกบั “วดั มงคลชัย พฒั นา” เป็นศูนยส์ าธตเกษตรีฤษฎใหม่ทแห่งแรกของประเีศไีย ต่อมาีางวดั ไดซ้ ้ือี่ดนเพ่มแลว้ จดั สร้างศูนยส์ าธต “โคก หนอง นา โมเดล” สืบสานศาสตร์พระราชาทเพอ่ื เป็นแนวีางในการจดั การบรหารีรัพยากรที้งั

3 ดนทน้าทลมทแดดทรวมถึงพชื พนั ธุต์ ่างๆทใหไ้ ดอ้ ยา่ งมประสีธภาพทซ่ึงกวา่ จะ สาเร็จลุลว่ งทกต็ อ้ งอาศยั ความร่วมแรงร่วมใจจากหลายภาคส่วน และเพือ่ ใหี้ า่ นผอู้ า่ นไดเ้ ห็นภาพเกษตรีฤษฎใหมท่ “โคก หนอง นา โมเดล” ไดอ้ ยา่ งชดั เจนทเวร์คลอยดน์ วส์จึงไดเ้ ดนีางไปชมโครงการดงั กล่าวที่วดั มงคลชยั พฒั นาทตาบลหว้ ยบงทอาเภอเฉลมพระเกยรตทจงั หวดั สระบุร พร้อมกบั นมสั การสมั ภาษณ์ “พระวสิ ิฐคณาภรณ์” เจา้ อาวาสท, “พระมหาสาย ชล ฐานุตตฺ โร” รองเจา้ อาวาสท รวมถึงสนีนากบั “อาจารย์เฉลมิ ชัย ไวยชิตา” ฆราวาสี่เขา้ มาช่วยดาเนนงานในดา้ นต่างๆทีาใหเ้ ห็นภาพี่ชดั เจนและลุ่มลึก วา่ “โคก หนอง นา โมเดล” นอกจากเป็นแนวีางการจดั การีรัพยากรไดอ้ ยา่ ง มประสีธภาพแลว้ ทยงั แฝงปรัชญาทหลกั คดในการจดั สรรชวตทเพ่ือใหเ้ กดความ สมดุลทและความสุขี่ถ่องแีไ้ ดอ้ ยา่ งยงั่ ยนื อกดว้ ย ทททททททททททททททททททททท

4 ก่อนจะเป็ น “โคก หนอง นา โมเดล” เมื่อตน้ เดือนตุลาคมี่ผา่ นมาทีมงานเวร์คพอยีน์ วส์ไดเ้ ดนีางไปยงั วดั มงคล ชยั พฒั นาทถึงสถานี่ดงั กล่าวในช่วงเชา้ ทโดยม “อาจารย์เฉลมิ ชัย ไวยชิตา” ให้ การตอ้ นรับและบอกเลา่ ขอ้ มลู ต่างๆทในเบ้ืองตน้ ก่อนี่ “พระวสิ ิฐคณาภรณ์” เจา้ อาวาสทจะนาีมงานไปชมแปลงสาธต “โคก หนอง นาโมเดล” บีเน้ือี่ท12 ไร่ทแมว้ นั น้นั แสงแดดจะแผดจา้ ทแตด่ ว้ ยตน้ ไม้ นอ้ ยใหญ่ในโครงการทประกอบกบั ลมเอื่อยๆที่พดั โชยตลอดเวลาทกก็ อ่ ใหเ้ กด ความร่มร่ืนเละร่มเยน็ ทโดยมเพงมุงจากหลายหลงั ที่สร้างอยา่ งเรยบง่ายทเป็นจุด ใหี้ มงานไดพ้ กั ด่ืมด่าบรรยากาศทกอ่ นี่จะกราบนมสั การถามีา่ นเจา้ อาวาสท ถึงความเป็นมาของวดั แห่งน้ หลวงพอ่ เล่าวา่ ทเดมีี่น่ช่ือ “วดั มงคล” เม่ือปทพ.ศ.ท2531 ในหลวงทรัชกาลี่ท9 ีรงมพระราชกระแสใหก้ รรมการมูลนธชยั พฒั นาทพจารณาจดั ซ้ือี่ดนี่ตดกบั วดั ทเพือ่ จดั สร้างศนู ยส์ าธตเกษตรีฤษฎใหม่แห่งแรกของประเีศไียทและ พระองคี์ รงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯทพระราชีานนามใหว้ ดั วา่ “วดั มงคลชัย พฒั นา”

5 ส่วน “โคก หนอง นา โมเดล” ี่ีางวดั ไดด้ าเนนการเพอื่ สืบสานศาสตร์ พระราชาทหลวงพอ่ เลา่ วา่ ทไดเ้ ร่มตน้ เมื่อปทพ.ศ.ท2555 โดยวดั ไดซ้ ้ือี่ดนท10 ไร่ท และเจา้ ของี่ดนไดถ้ วายเพม่ อกท2 ไร่ทรวมเป็นท12 ไร่ทม ดร.นิวฒั น์ ศัลยกาธร หรือ อาจารย์ยกั ษ์ รัฐมนตรช่วยวา่ การกระีรวงเกษตรและสหกรณท์ ในปัจจุบนั ท เป็นรับผดชอบดูแลการจดั ีาแผนผงั ของโครงการทหลงั จากน้นั พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร อดตผบู้ ญั ชาการีหารสูงสุดทกไ็ ดส้ ่งีหารพฒั นาจาก จงั หวดั ฉะเชงเีราทมาีาการขุดหนองน้าขนาดใหญ่ให้

6 หลวงพอ่ กล่าวตอ่ ไปวา่ ทนอกการจดั ีาศนู ยส์ าธตแลว้ ทอกส่งี่สาคญั กค็ ือทการ ีาความเขา้ ใจกบั ชาวบา้ นทเพื่อใหพ้ วกเขานาแนวีางน้ไปปฏบตั ในพ้ืนี่ของ ตน “อาตมาบอกกบั ชาวบา้ นวา่ ทขอความร่วมมอื ไดไ้ หมทใหใ้ ชป้ ๋ ุยอนีรยท์ อยา่ ใช้ ป๋ ุยเคมทเพราะถา้ เราใชป้ ๋ ุยหมกั ี่ีาเองทร่างกายกจ็ ะปลอดภยั จากโรคภยั ตา่ งๆท โยมกเ็ ขา้ ใจ” ส่งี่วดั มงคลชยั พฒั นาดาเนนการทไดส้ ะีอ้ นใหเ้ ห็นวา่ ทศาสนสถานแห่งน้ไม่ เพยงเป็นี่พ่งึ พงีางจตใจทแตย่ งั ีาหนา้ ี่เป็นแหล่งเรยนรู้ดา้ นการเกษตรทเป็น แหล่งพ่ึงพาีางการประกอบอาชพใหก้ บั ชาวบา้ นทเพอ่ื ใหพ้ วกเขาสามารถพ่งึ ตวั เองไดใ้ นี่สุดทและมคุณภาพชวตี่ดไดอ้ ยา่ งยงั่ ยนื โดยหลวงพอ่ ไดก้ ล่าววา่ ท“ีุกโครงการของในหลวงทรัชกาลี่ท9 เป็นไปตาม หลกั คาสอนของพระพีุ ธเจา้ ทอยา่ งการีาเกษตรีฤษฎใหม่ทกส็ อดคลอ้ งกบั หลกั ธรรมในพระพีุ ธศาสนาี่ช่ือท“ทฏิ ฐธัมมกิ ตั ถประโยชน์” ทฏิ ฐธัมมกิ ตั ถประโยชน์ หมายถึงทประโยชนใ์ นปัจจุบนั ท4 อยา่ งทไดแ้ ก่ ท1. อุฏฐานสัมปทา คือทการถึงพร้อมดว้ ยความหมนั่ ท2. อารักขสัมปทา คือทการถึงพร้อมดว้ ยการรักษาโภคีรัพยท์ 3. กลั ป์ ยาณมติ ต ตา คือทการมกลั ยาณมตรี่ดทและท4. สมชีวติ า หมายถึงทการอยอู่ ยา่ งพอเพยงท นน่ั เอง

7 การขดุ หนองนา้ หลงั จาก “พระวสิ ิฐคณาภรณ์” เจา้ อาวาสวดั มงคลชยั พฒั นาทไดบ้ อกเล่าถึง ความเป็นมาของวดั และโครงการดงั กล่าวทลาดบั ต่อมาเพ่ือใหเ้ ขา้ ใจการีา การเกษตรแนวีางน้ไดอ้ ยา่ งแจ่มแจง้ “พระมหาสายชล ฐานุตฺตโร” รองเจา้ อาวาสทซ่ึงเป็นพระวียากรอบรม “โคก หนอง นา โมเดล” ใหก้ บั หน่วยงาน ต่างๆที้งั ภาครัฐและเอกชนทกไ็ ดน้ าีมงานไปชมหนองน้าขนาดใหญ่ภายใน โครงการทกอ่ นอธบายหลกั เกษตรีฤษฎใหม่ทและวธปฏบตั ทต้งั แต่การขุดหนองท ีาโคกทร่วมถึงเรื่องของผืนนาทอยา่ งเป็นข้นั เป็นตอนวา่

8 “หลกั ีฤษฎใหม่ทพระองคี์ รงพระราชีานสูตรใหว้ า่ ท30 30 30 และท10 (ี่ดนเพาะปลกู ท, แหล่งน้าท, นาทและี่อยอู่ าศยั )ทซ่ึงในการีาการเกษตรตาม แนวีาง ‘โคก หนอง นา โมเดล’ จะเร่มตน้ ดว้ ยการขดุ หนองน้าก่อนทตามหลกั ใหส้ ูตรไวว้ า่ ท30 % ของพ้นื ี่ทแต่ถา้ เป็นพ้นื ี่ลุ่มทกล็ ดขนาดลงมาไดท้ หรือถา้ เป็นพ้ืนี่ดอนทกส็ ามารถเพม่ ขนาดไดเ้ ช่นกนั ทโดยใหพ้ จารณาจากสภาพภมู ประเีศเป็ นหลกั “การขุดหนองทในหลวงทรัชกาลี่ท9 ีรงใหห้ ลกั การคานวณวา่ ทโดยเฉล่ยแลว้ น้าในหนองจะระเหยวนั ละท1 เซนตเมตรทดงั น้นั ท1 ปทน้าจะระเหยประมาณท3.6 เมตรทเราจึงควรขดุ สระเผื่อไวท้ ใหม้ ความลึกท4-8 เมตรทเพ่ือใหม้ น้าพอเพยง สาหรับการีาการเกษตรตลอดี้งั ป”

9 การทาโคก การขุดหนองน้าทไมเ่ พยงเป็นประโยชนใ์ นการกกั เกบ็ น้าเีา่ น้นั ทแตย่ งั เก่ยวโยง กบั การีา “โคก” อกดว้ ยทเพราะดนี่ไดน้ ้นั ทจะนาไปถมเป็นพ้นื ี่ในส่วนี่อยู่ อาศยั ทและการเพาะปลกู ทตลอดจนเล้ยงสตั วต์ ่างๆที้งั ทววั ทควายทหมูทเป็ดทและไก่ท ฯลฯ โดยพระอาจารยอ์ ธบายวา่ ท“โคกทไม่ไดห้ มายถึงส่วนี่เป็นเนนเีา่ น้นั ทแตย่ งั รวมถึงคนั นาทซ่ึงคนั นาตามแนวีางเกษตรีฤษฎใหม่ทจะใหญก่ วา่ คนั นาีวั่ ไปท เพื่อใชเ้ ป็นพ้ืนี่ในการปลูกพืชตา่ งๆทดว้ ย” ในการปลูกพชื ทในหลวงทรัชกาลี่ท9 ีรงใหห้ ลกั “ไม้ 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง” ไมท้ 3 อยา่ งทไดแ้ ก่ 1. ไมใ้ ชส้ อย คือทไมโ้ ตเร็วทสาหรับใชใ้ นครัวเรือนท เช่นทสะเดาท, ไผท่ 2. ไมก้ นไดท้ เช่นทมะมว่ งทผกั กนใบตา่ งๆทและท3. ไมเ้ ศรษฐกจท ไดแ้ ก่ทไมี้ ่ปลกู เพอื่ จาหน่ายทเช่นทไมส้ กั ทเป็นตน้ ส่วนประโยชนท์ 4 อยา่ งทคือท1. ไมใ้ ชส้ อยทนามาสร้างบา้ นทีาเลา้ เป็ดทเลา้ ไกท่ ฟื นท 2. ไมก้ นไดท้ นามาเป็นอาหารและยาสมุนไพรท3. ไมเ้ ศรษฐกจทนาไปจาหน่าย เพอื่ สร้างรายไดท้ และท4. ช่วยอนุรักษด์ นและน้าทซ่ึงการปลกู พชื ี่หลากหลายท จะสร้างระบบนเวศี่สมดุลใหก้ บั พ้ืนี่ การขุดหนองน้นั ทพระอาจารยบ์ อกวา่ จะขดุ เป็นสระน้าขนาดใหญท่ 1 แห่งทหรือ หลายแห่งกไ็ ดท้ โดยม “คลองไส้ไก่” เป็นเสน้ ีางน้าขนาดเลก็ ทเช่ือมต่อแหล่งน้า ี้งั หมดในพ้ืนี่เขา้ ดว้ ยกนั

10 และเพ่ือใหเ้ ห็นภาพไดอ้ ยา่ งชดั เจนทจึงไดม้ การเปรยบเปรยหนองน้าวา่ ท “หลุม ขนมครก” ซ่ึงถา้ ในีอ้ งถ่นน้นั ๆทมการีาเกษตรีฤษฎใหมท่ 100 ครัวเรือนทก็ จะมหนองน้าทหรือหลุมขนมครกอยา่ งนอ้ ยท100 หลุมที่นอกจากเป็นแหลง่ กกั เกบ็ น้าแลว้ ทยงั ช่วยบรรเีาปัญหาน้าี่วมไดอ้ กดว้ ย การทานา และแนวทางการเพาะปลูก ตามหลกั ทฤษฎใี หม่ ส่วนในเร่ืองการีานาทและการปลูกพชื ในพ้นื ี่ทเพื่อบรโภคและนาผลผลตไป ขายสร้างรายไดใ้ หก้ บั เกษตรกรน้นั ทพระอาจารยไ์ ดก้ ลา่ ววา่ ท“พ้นื ี่ีานาท30 % ี่ใชใ้ นการปลกู ขา้ วทหลงั จากเกบ็ เก่ยวทเราควรพกั ดนเพื่อใหเ้ กดการสะสมแร่ ธาตุทดว้ ยการปลกู พืชตระกลู ถว่ั ทหรือปลูกพืชหมุนเวยนสลบั สบั เปล่ยนกนั ไป

11 ในการเร่มตน้ ีาการเกษตรตามหลกั “โคก หนอง นา โมเดล” พระอาจารย์ กลา่ ววา่ ทส่งแรกี่เกษตรกรจะตอ้ งปรับทกค็ ือแนวคดของตนทจากี่เคยปลูกพชื เชงเด่ยวทมาเป็นการเกษตรแบบผสมผสานทและไมพ่ ่ึงพาสารเคม “เพราะถา้ ไมป่ รับเปล่ยนความคดและพฤตกรรมทจะไม่สามารถีาหลกั สูตร ศาสตร์พระราชาไดเ้ ลยทโดยเราจะไม่ปลูกพืชประเภีเดยวท(พชื เชงเด่ยว)ทแตเ่ รา จะพจารณาจากฤดูกาลทเช่นฤดูน้าเยอะทเรากอ็ าจปลูกขา้ วเยอะทเมื่อถึงฤดูแลง้ ทก็ เปล่ยนไปปลูกพืชประเภีอื่นที่ใชน้ ้านอ้ ยกวา่ “ขอ้ เสยของการปลกู พชื เชงเด่ยวกค็ ือทหากปใดประสบภยั ธรรมชาตทหรือภยั แลง้ ทกม็ โอกาสเส่ยงสูงี่จะไดผ้ ลผลตนอ้ ยทหรือผลผลตเสยหายเป็นจานวนมากท แตถ่ า้ เราปลูกพืชผสมผสานที่มความหลากหลายทถึงแมป้ น้นั ราคาขา้ วตกต่าท แตเ่ รากย็ งั ไดผ้ ลผลตจากพชื นดอ่ืนๆทมาีดแีน “ดงั น้นั ทการีาเกษตรตามหลกั ีฤษฎใหม่ทจึงเป็นการกระจายความเส่ยงทเมื่อ หลายปี่ผา่ นมาทเกษตรกรเจอปัญหาแมลงศตั รูพชื รบกวนทหรือเกดภยั น้าี่วมท ีาใหผ้ ลผลตเสยหายเป็นจานวนมากทแตป่ รากฏวา่ เกษตรกรี่ีาเกษตรีฤษฏ ใหม่ทรอดีุกรายทเพราะวา่ เมื่อนาโดยน้าีว่ มทขา้ วตายทแต่ไมผ้ ลยงั อยทู่ พชื ี่อยู่ บนโคกกย็ งั พอมอยทู่ ีาใหเ้ ขาสามารถฟ้ื นตวั ไดไ้ วกวา่ เกษตรกรี่ปลกู พืช เชงเด่ยว” “บวร” การรวมพลงั จากทุกภาคส่วน

12 ส่วนในอนาคตทมความเป็นไดม้ ากนอ้ ยเพยงใดที่เกษตรกรไียจะนาแนว พระราชดารทเกษตรีฤษฎใหม่ทไปใชก้ นั อยา่ งแพร่หลายน้นั ทพระอาจารยไ์ ด้ แสดงความคดเห็นดงั น้ “การี่จะใหี้ ฤษฎใหมเ่ เพร่หลายไปสู่เกษตรกรีวั่ ประเีศน้นั ทตอ้ งไดร้ ับ ความร่วมมือจากหลายๆทฝ่ายทซ่ึงทในหลวงทรัชกาลี่ท9 ีรงพระราชีานแนวคด ี่เรยกวา่ “บวร” หมายถึงทบา้ นทวดั ทและราชการทหรือี่เรยกวา่ ระบบท3 ประสานที่ตอ้ งช่วยกนั “ในช่วงน้มการต่ืนตวั ในเร่ืองเกษตรกรรมทคนรุ่นใหม่หนั กลบั มาีาการเกษตร มากข้ึนทดงั น้นั หากีุกภาคส่วนร่วมมือกนั ทช่วยกนั ผลกั ทช่วยกนั ดนั ทนาีฤษฎ ใหมไ่ ปเผยแพร่ทอาตมากค็ ดวา่ ทการีาการเกษตรแนวีางน้ทจะขยบั ขยายไปได้ อยา่ งกวา้ งไกลทขอเจรญพร”

13 ปลูกป่ าในใจคน ในวนั ี่ีมงานเวร์คพอยีน์ วส์ไปยงั “วดั มงคลชัยพฒั นา” เพื่อชมโครงการ “โคก หนอง นา โมเดล” ไดม้ พธี่เป็นมหามงคลยง่ ทโดยเป็นวนั ี่คณะสงฆ์ จงั หวดั สระบุรทร่วมกบั จงั หวดั สระบุรทจดั พธสวดพระพีุ ธมนตท์ ถวายเป็นพระ ราชกศุ ลทพระบาีสมเด็จพระปรมนีรมหาภมู พลอดุลยเดชทและเจรญพระ พุีธมนตท์ เจรญจตภาวนาถวายพระพรชยั มงคลแด่ทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั มหา วชราลงกรณทบดนีรเีพวรางกรู ทและสมเด็จพระนางเจา้ สรกต์ท พระบรมราชนนาถทในรัชกาลี่ท9 โดยม “พระธรรมปิ ฎก” เจา้ คณะจงั หวดั สระบุรทเป็นประธานฝ่ายสงฆท์ และ “นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์” ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั สระบุรทเป็นประธานในพธท (ฝ่ายฆราวาส)ทมขา้ ราชการทหน่วยงานทฝ่ายปกครองทีหารทตารวจทองคก์ ร ปกครองส่วนีอ้ งถ่นทรวมถึงประชาชนทเขา้ ร่วมพธเป็นจานวนมาก อกี้งั วนั ดงั กล่าวยงั ตรงกบั วนั ี่ในหลวงทรัชกาลี่ท9 ีรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯทพระราชีานนามท“วดั มงคลชยั พฒั นา” เมื่อวนั ี่ท3 ตุลาคมทพ.ศ.ท2534 และหลงั จาก “พระมหาสายชล ฐานุตตฺ โร” รองเจา้ อาวาสทบอกเล่าถึงการีา เกษตรีฤษฎใหม่ “โคก หนอง นา โมเดล” อยา่ งละเอยด “อาจารย์เฉลมิ ชัย ไวยชิตา” กไ็ ดน้ าีมงานไปชม “โครงการพฒั นาพนื้ ทบี่ ริเวณวดั มงคลชัย พฒั นา อนั เนื่องมาจากพระราชดาริ” ซ่ึงเป็นศนู ยส์ าธตเกษตรีฤษฎใหม่ทแห่ง แรกของประเีศไียที่อยตู่ ดกบั วดั มงคลชยั พฒั นา

14 ระหวา่ งี่เดนชมโครงการทอาจารยก์ เ็ ลา่ วา่ ทตนเป็นจตอาสาี่เขา้ ช่วยงานของ ีางวดั ทดว้ ยการนาความรู้ดา้ นดจีลั ทมาใชใ้ นการเผยแพร่โครงการตา่ งๆทเช่นท จดั ีาเวบ็ ไซตท์ จดั แผนผงั โคกทหนองทนาทโมเดลทออกมาในรูปแบบท3 มตทเป็น ตน้ โดยในการีางานเพอ่ื สงั คมน้นั ทอาจารยบ์ อกวา่ ทตนไดน้ อ้ มนาพระราชดารัส ของในหลวงทรัชกาลี่ท9 ี่วา่ ท“…ควรจะปลูกตน้ ไมล้ งในใจคนเสยก่อนทแลว้ คนเหล่าน้นั กจ็ ะพากนั ปลูกตน้ ไมล้ งบนแผน่ ดนทและรักษาตน้ ไมด้ ว้ ย ตนเอง…” มาเป็นแนวีางในการีางาน ซ่ึงพระราชดารัสข้างต้น สามารถนาไปประยกุ ต์ใช้ในการทางานด้านอน่ื ๆ ได้ อย่างหลากหลาย รวมถงึ การเผยแพร่เกษตรทฤษฎใี หม่ “โคก หนอง นา โมเดล” ทพี่ ระองค์ไม่เพยี งทรงปลูกต้นไม้ ปลูกป่ าในใจคน แต่จากการทรงงาน อย่างหนัก เพอ่ื ความอยู่ดกี นิ ดขี องพสกนกิ ร พระองค์จงึ ยงั ทรงสถติ อยู่ในใจ ของปวงชนชาวไทยเสมอมา…และตลอดไป

15 การพง่ึ ตนเอง แบ่งปัน และยงั่ ยนื ร่วมกบั ทฤษฏบี นั ได 9 ข้นั สู่ความพอเพยี ง 1. เศรษฐกจิ พอเพยี งข้นั พนื้ ฐาน ดว้ ยการขดุ หนองทีทาโคกทปลกู ป่ าท3 อยา่ งท ประโยชนท์ 4 อยา่ งทีทาการเกษตรแบบกสกรรมธรรมชาต 2. เศรษฐกจิ พอเพยี งข้นั ก้าวหน้า ดว้ ยการสร้างสงั คมทีทาบุญทีทาีานก่อนการ ขาย 3. เศรษฐกจิ พอเพยี งข้นั ยงั่ ยนื ดว้ ยการมเครือขา่ ยี่มาจากศรัีธาร่วมท5 ภาคท ไดแ้ กท่ รัฐ, วชาการ, ประชาชน, เอกชน, ประชาสงั คมและส่ือ

16 “โคก หนอง นา โมเดล” ศาสตร์พระราชาทดา้ นการจดั การดนทน้าทป่ าทตามแนวีางพระราชดารและ ปรัชญาเศรษฐกจพอเพยงทเป็น หลกั คดในการีางานทการจดั การออกแบบพ้นื ี่ เพ่ือีาการเกษตรอยา่ งยง่ั ยืนทโดยเนน้ ี่แหลง่ น้าเพ่อื ใชใ้ นการเกษตร มการ จดั การเพ่อื ใหเ้ กดสมดุลของระบบนเวศทตลอดจนใชพ้ ้นื ี่ใหเ้ กดประสีธภาพ สูงสุด เป็นการออกแบบพ้นื ี่เพ่อื การจดั การน้าตามภูมสงั คมท:ทความแตกตา่ งของแต่ ละพ้นื ี่ที้งั ีางดา้ นภมู ศาสตร์ ส่งแวดลอ้ มทชวภาพทวถชวตทประเพณท ขนบธรรมเนยมและวฒั นธรรมทโดยยดึ หลกั การสร้างทmicro climate หรือการ สร้างระบบนเวศยอ่ ยๆทในพ้ืนี่ส่วนบุคคลทพ้ืนี่ชุมชนทพ้ืนี่สาธารณะทตาม ความตอ้ งการของบุคคลและชุมชนในพ้ืนี่ ดว้ ยการร่วมมือลงแรงทลงแขกทลง ขนั ทกลายเป็นความมนั่ คงของชุมชนทเป็นสงั คมในอนาคต

17 “โคกหนองนาโมเดล” เป็นท“หลุมขนมครกเกบ็ กกั น้า” เหมาะสาหรับสภาพ พ้ืนี่ลุม่ ทพ้นื ี่ี่จะออกแบบ จะเนน้ การเก็บน้าเพื่อใชส้ อยจากน้าฝนี่ตกใน พ้ืนี่เป็นหลกั ทและถา้ มน้าจากระบบชลประีานหรือแหล่งน้า ตามธรรมชาตท (แมน่ ้าลาคลอง)ทเป็นส่วนเสรมทจะย่งีาใหพ้ ้นื ี่มหลกั ประกนั ดา้ นน้าใชท้ ส่วน พ้ืนี่ี่ไม่มส่วนเสรม ดงั กล่าวการวางแผนเพอื่ บรหารการใชน้ ้าอยา่ งยงั่ ยนื จึง เป็นส่งี่ตอ้ งคานึงถึงทโดยทโคกหนองนาโมเดลทจะแบง่ พ้นื ี่ ออกเป็นท3 ส่วน คือทโคกทหนองทและทนา โคก เกดจากการนาดนี่ขุดเพ่อื ีาบ่อน้าหรือหนองน้ามาีาเป็นเนนสูงจนเป็นโคกท บนโคกใหป้ ลกู ป่ าท3 อยา่ ง ประโยชนท์ 4 อยา่ งทโดยรากไมี้ ่ปลูกจะสานกนั หลายระดบั ีทาหนา้ ี่เกบ็ กกั น้าไวใ้ นดนทควรปลูกแฝกร่วมดว้ ยเพอื่ ช่วย เกบ็ น้าและป้ องกนั การพงั ีลายของดนทรากไมต้ ่างๆจะช่วย ซบั น้าไวแ้ บบท “หลุมขนมครกใตด้ น” เม่ือตน้ ไมเ้ จรญเตบโต ป่ ามความสมบูรณ์ทป่ าบนโคกจะ ช่วยเกบ็ น้าไวใ้ ตด้ น มากหรือนอ้ ยข้ึนอยกู่ บั ชนดของดนทต่าแหน่งของโคกควร อยีู่ างีศตะวนั ตกเพือ่ ช่วยบงั แสงอาีตยย์ ามบา่ ยทบรเวณ พ้นื ี่ของโคกจะใช้ ประโยชนเ์ ป็นที่อยอู่ าศยั ทปลกู ผกั ทเล้ยง สตั วแ์ ละกจกรรมอื่นๆทของเกษตรกร

18 หนอง เกดจากการขดุ บอ่ กกั เกบ็ น้าเพ่ือใชใ้ นการเพาะปลูกทเล้ยงสตั วน์ ้าหรือปลูกพืชท น้าเพือ่ ใชบ้ รโภคทส่วนดน ี่ขุดหนองน้านาไปใชี้ าโคกไดท้ ตาแหน่งของ หนองน้าควร อยีู่ างีศี่ลมร้อนผา่ นเพ่ือใหล้ มเยน็ ลงกอ่ นพดั เขา้ สู่บา้ น หนองน้าควรขุดใหข้ อบและพ้นื หนองน้ามความคดโคง้ เป็นร่องเป็นแนวทม ความลึกหลายระดบั และใหแ้ ดดส่องถึง เพื่อใหป้ ลาวางไขไ่ ดด้ ทมการขดุ ท “คลองไสไ้ ก”่ เพ่อื ช่วย กระจายน้าใหี้ ว่ั พน้ื ี่ทเพ่มความชุ่มช้ืนในดนส่งผลด ตอ่ การปลกู พืชทสร้างท“ฝายชะลอน้า”และ”หลุมขนมครก” เพื่อรับน้าและ ชะลอน้าี่ไหลมาทดกั ตะกอนใหไ้ หลลง หนองน้านอ้ ยลงทชะลอการสูญเสยแร่ ธาตุและเป็นการ เพ่มแหลง่ กกั เกบ็ น้าในพ้ืนี่ทปรมาณน้าี่เกบ็ ในหนองตอ้ ง คานวณใหเ้ พยงพอต่อการใชง้ านในพ้ืนี่และมน้าเหลือใช้ ในหนา้ แลง้ หรือฝน ี้งช่วงทบรเวณพ้นื ี่ของหนองจะใช้ ประโยชนเ์ ป็นทแกม้ ลงเกบ็ น้าในหนา้ ฝน และแหล่งน้าสาหรับ อุปโภคบรโภคในหนา้ แลง้ นา ควรยกหวั คนั นาใหส้ ูงอยา่ งนอ้ ยท1 เมตรทเพือ่ เพม่ พ้ืนี่เกบ็ น้าไวใ้ นนาใหเ้ ี่ากบั ความสูงของคนั นาและป้ันคนั นา กวา้ งๆทเพ่ือปลูกไมผ้ ลทไมส้ มุนไพรและ พชื ผกั สวนครัวี่สามารถเกบ็ กนและขายสร้างรายไดใ้ นีุกๆทวนั ทจึงถกู เรยก เป็น “หวั คนั นาีองคา” และควรปลูกแฝกเพอ่ื ป้ องกนั การพงั ีลายของคนั นาท คนั นาถูกใชเ้ ป็นเคร่ืองมือปรับระดบั น้าเขา้ นา ตามความสูงของตน้ ขา้ วทและยงั สามารถใชน้ ้าเพ่ือควบคุมวชั พืชและแมลงตามภูมปัญญาีอ้ งถ่นทโดยปรมาณ

19 น้าฝน ส่วนหน่ึงจะซึมลงดนเกบ็ เป็นน้าใตด้ นช่วยสร้างความชุ่มช้ืนใหแ้ ก่ ระบบนเวศในดนต่อไปทบรเวณพ้นื ี่ของนาจะใช้ ประโยชนเ์ ป็นที่ปลกู ขา้ วท เล้ยงปลาสาหรับกาจดั ศตั รูของขา้ วและเป็นอาหารทและปลูกพชื หมุนเวยนอื่นๆท ของ เกษตรกร ป่ า ๓ อย่าง ประโยชน์ ๔ อย่าง เป็นแนวีางการอนุรักษแ์ ละฟ้ื นฟีู รัพยากรป่ าไมี้ ่เก้ือกลู ต่อความตอ้ งการ ดา้ นเศรษฐกจและสงั คมทสามารถปลูกได้ ีุกส่วนของพ้ืนี่ ๑. ประโยชน์พออยู่ท-การปลกู ไมเ้ น้ือแขง็ อายยุ นื เพ่ือใชส้ ร้างี่พกั อาศยั และ เครื่องเรือนรวมี้งั ยงั สามารถรักษาไวเ้ ป็น ีรัพยส์ นในอนาคตไดท้ ไมใ้ นกลุ่มน้ ไดแ้ กท่ ตะเคยนีองทยางนาทแดงทสกั ทพะยงู ทฯลฯ ๒.ประโยชน์พอกนิ ท-การปลูกตน้ ไมี้ ่ใชเ้ ป็นอาหารหรือใชเ้ ป็นสมุนไพรไดท้ เช่นทแคทมะรุมทสะตอทผกั หวานทกลว้ ยทฯลฯ ๓. ประโยชน์พอใช้ท–การปลูกพืชโตเร็วเพ่อื นามาใชป้ ระโยชนใ์ น ชวตประจาวนั ทเช่นทเผาถา่ นทีาหตั ถกรรมทป้ องกนั ลม ไมใ้ นกลุม่ น้ไดแ้ ก่ทไผท่ กระถนเีพทหวายทมะคาดควายทฯลฯ ๔. ประโยชน์พอร่มเยน็ ท– การปลกู ป่ าเพือ่ ประโยชนี์ ้งั สามอยา่ งจะนาไปสู่ ความร่มเยน็ และระบบนเวศนี์ ่อุดม สมบรู ณม์ ากข้ึน การปลกู ป่ าท7 ระดบั เป็น แนวีางการปลกู พืชอยา่ งผสมผสานเพอ่ื ใหเ้ กดความหลากหลายีางชวภาพ รวมถึงประโยชนส์ ูงสุดจากการใช้ พ้นื ี่และแสงอาีตย์

20 ๑. ไมส้ ูงท–ทไมล้ าตน้ สูงใหญ่และอายยุ นื ทเช่นทยางนาทตะเคยนทพะยงู ทเป็นตน้ ๒.ทไมก้ ลาท–ททไมล้ าตน้ ไม่สูงนกั ทไมผ้ ลทเช่นทมะม่วงทขนุนทมงั คุดทกระีอ้ นทไผท่ ทททท เป็ นตน้ ๓.ทไมเ้ ต้ยท– ตน้ ไมี้ รงพุ่มทเช่นทมะนาวทมะกรูดทมะละกอทมะเขือพวงทกลว้ ยทเป็นตน้ ๔.ทไมี้ รงพุ่มท– พืชผกั สวนครัวทเช่นทพรกทมะเขอื ทกระเพราทผกั หวานบา้ นทตะไคร้ท เหรยงทเป็ นตน้ ๕.ทไมเ้ ล้ือยเกาะเก่ยวท–ทพืชจาพวกทพรกไีทตาลึงทมะระทถว่ั ฝักยาวทบวบทรางจดื เป็ นตน้ 6. ไมห้ ัวใตด้ นท–ทพชื จาพวกทขงทขา่ ทมนั ทบุกทเป็ นตน้ 7. ไมน้ ้า– พชื จาพวกทผกั กะเฉดทผกั บุง้ บา้ นทบวั ทกระจบั ทสาหร่ายน้าทเป็นตน้

21

22 โครงการ โคก หนอง นา โมเดล เป็ นโครงการแก้ปัญหาภัยแล้งและสามารถหาวธิ ีเกบ็ นา้ ได้ดี ดฉิ ัน นางสาวกมลธิดา ทบั ทอง ผ้จู ดั ทารายงาน ถ้าผดิ พลาดตรงไหนขอโทษไว้ด้วยนะค่ะ ขอจบการนาเสนอเพยี งแค่นี้

23


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook